††Fantasy ♥ Novel†† ดวงใจจ้าวมังกร
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ††Fantasy ♥ Novel†† ดวงใจจ้าวมังกร  (อ่าน 332577 ครั้ง)

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
สนุกมากค่ะ

จะรอติดตามเรื่องต่อๆไปนะค่ะ

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
จบแบบมีความสุขที่สุดเลย :mc4:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
แฮปปี้เอนดิ้ง  :mc4: ขอบคุณค่า

รอตอนพิเศษน้า ใครก็ได้  :L1:

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
 :-[

จะรอตอนพิเศษค่า สู้ๆๆ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
บทสรุปของดราโก้และนำ้ฟ้าจบลงแล้ว แต่ชอบทั้งคำพูดของน้ำและดราโก
กินใจอะคะ จบบริบูรณืคะ แฮปปี้ทั้งสอง
แต่อยากอ่านตอนพิเศษ ไงรอนะคะ ถ้ามีอะ คนเขียนคงไม่ใจร้ายเนอะ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ทำเอาน้ำตาซึมเลยค่ะ...ดราโกอบอุ่นมาก(ถึงมาดจะไม่ให้ก็เถอะนะ)
ห่วงเรื่องทายาทสืบทอดเหมือนกันนะคะ...พี่น้องสามคนมีคนรักเป็นผู้ชายหมด แล้วใครจะสืบบัลลังก์ต่อล่ะ เจราลกับครีอุสไม่น่าห่วงเพราะไม่ใช่มนุษย์ แต่น้ำฟ้าเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาถึงจะสืบสายเลือดจากราชวงศ์และมีพลังพิเศษบ้าง อายุขัยน้ำฟ้าก็น้อยกว่าดราโกมากอยู่ดี ถ้าต้องตายจากันอีกคนจะถึงขั้นตรอมใจมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
บทสรุปของดราโก้และนำ้ฟ้าจบลงแล้ว แต่ชอบทั้งคำพูดของน้ำและดราโก
กินใจอะคะ จบบริบูรณืคะ แฮปปี้ทั้งสอง
แต่อยากอ่านตอนพิเศษ ไงรอนะคะ ถ้ามีอะ คนเขียนคงไม่ใจร้ายเนอะ
มีแน่คะ่ ไม่ใจร้ายหรอกค่ะ แต่ขอเวลาคิดก่อนนะคะ ~


ทำเอาน้ำตาซึมเลยค่ะ...ดราโกอบอุ่นมาก(ถึงมาดจะไม่ให้ก็เถอะนะ)
ห่วงเรื่องทายาทสืบทอดเหมือนกันนะคะ...พี่น้องสามคนมีคนรักเป็นผู้ชายหมด แล้วใครจะสืบบัลลังก์ต่อล่ะ เจราลกับครีอุสไม่น่าห่วงเพราะไม่ใช่มนุษย์ แต่น้ำฟ้าเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาถึงจะสืบสายเลือดจากราชวงศ์และมีพลังพิเศษบ้าง อายุขัยน้ำฟ้าก็น้อยกว่าดราโกมากอยู่ดี ถ้าต้องตายจากันอีกคนจะถึงขั้นตรอมใจมั้ยเนี่ย

เรื่องลูกไม่ต้องห่วงค่ะ สามพี่น้องสุดแสนจะเจ้าชู้ขนาดนั้น ยังไงก็ต้องมีไข่ทิ้งไว้หลงเหลือบ้าง เคยคิดตอนพิเศษเรื่องทายาทเหมือนกันค่ะ แต่จะไปแจ็คพ็อตลงที่ใคร อันนี้เดี๋ยวดูอีกทีค่ะ  แต่ที่แน่ ๆ วางตัวแม่เด็กไว้ละ  ^ ^

ส่วนเรื่องอายุของน้ำฟ้า ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป แล้วถ้าน้ำฟ้าจะตาย น้ำฟ้าก็คงสั่งเสีย ปล่อยให้ดราโกเป็นอิสระ ไม่ยึดติดกับตัวเองแน่ แต่สำหรับดราโกถึงน้ำฟ้าจะตายไปแล้วก็คงจะรักเดียวใจเดียวอยู่ดี  (ถ้าเขียนถึงคงได้เขียนไปน้ำตาไหลพรากไปแน่ -- เพราะงั้นตัดไปนะคะ เอาให้คิดเอาเองแล้วกัน)~


ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จบเเล้ววว T^T

สั้นจริงงะ

มีเรื่องใหม่บอกนะคะ อิอิ

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จบแล้ว ซาบซึ้งมากๆเลยค่ะ  :o12:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :o8:

จบซะแล้ว

แต่น่าจะหักมุมแบบว่าน้ำฟ้าท้องได้เนอะ

คงจะน่ารักน่าดูเชียว

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
 :กอด1: หนูน้ำน่ารัก อิๆ

ออฟไลน์ นาวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

ตอนพิเศษตามสัญญา จากคู่ที่หลายคนรีเควส ~

ขอบคุณสำหรับนักอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้นะคะ หลังจากนี้จะหนีไปเขียนอะไรใส ๆ แทนละ (ฮ่าๆ)
 ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร จะหยิบแนวผี ๆ (แต่น่ารัก) มารื้อเขียนเป็นเรื่องยาวมาลงให้อ่านกันในนี้นะคะ (ของเก่า(ตัด)จบไว้แค่ที่ 80 หน้าเอสี่)

แล้วเจอกันค่ะ 





---------------------------------------------------------

ตอนพิเศษ 
(เดเนียล – ครีอุส)


   สองเดือนกว่าแล้วที่เดเนียลเทียวไปเทียวมาที่ปราสาทมังกร เพื่อได้มาพบหน้าคนสนิทของน้องชาย แม้เจ้าตัวจะไม่ได้มีทีท่าว่าสนใจเขาเลยสักนิด

   “เฮ้อ!”

   เสียงถอนหายใจยาวของมังกรหนุ่มทำให้คนที่เดินผ่านลอบยิ้ม ดาร์เรนเดินเข้ามาตบบ่าคนที่ยืนเหม่อเบา ๆ จนเดเนียลสะดุ้ง

   “ท่านพี่!”

   “ไง ทำหน้าอมทุกข์เชียว อกหักหรือไง?”

   ดาร์เรนกระเซ้าน้องชายอย่างนึกขำ  ตัวเขาเองเลือกปักหลักที่ปราสาทมังกรไม่ยอมกลับปราสาทของตน และไม่กลับไปตำหนักเทพ แม้ว่าเจราลจะให้คนส่งจดหมายมาเร่งเร้าอยู่เรื่อย ๆ ก็ตาม

   “ยังไม่หักสักหน่อยขอรับ!”

   เดเนียลกระแทกเสียงตอบอย่างหงุดหงิด เพราะนึกอิจฉาพี่ชายที่ได้รับความรักและความเอาใจใส่จากครีอุสมากกว่าตนเอง

   “หึ ๆ แล้วเจ้ามั่นใจหรือไงว่า พอครบสามเดือนแล้ว ครีอุสจะไม่ปฏิเสธเจ้าอีก เขาแค่สัญญาว่าจะรับฟังคำบอกรักของเจ้า แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะยอมรับรักจากเจ้านี่นะ”

   ดาร์เรนเปรยแหย่ ทำเอาคนฟังสะดุ้งแล้วหันขวับไปมองคนพูดอย่างหงุดหงิด

   “ท่านพี่ทราบเรื่องนี้ได้ยังไง!”

   “ก็ฟังครีอุสเล่า … เจ้าก็รู้เขาออกจะ ‘ชื่นชม’ และไว้ใจข้ามาก มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

   ดาร์เรนเน้นเสียงบางคำเป็นพิเศษจนคนฟังนึกหมั่นไส้ 

   “ฮึ! ถ้าชื่นชมกันนัก ท่านพี่ก็จีบครีอุสเสียเลยสิ อยากรู้นักว่าเขาจะเล่นตัวเหมือนที่ทำกับข้าไหม!”

   เดเนียลโพล่งประชดอย่างพลั้งปาก แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นพี่ชายถอนหายใจ แล้วทำตาเป็นสัญญาณให้เขามองไปทางด้านหลัง

   “คะ… ครีอุส”

   ครีอุสมองเดเนียลด้วยสายตาเย็นชาในแบบที่ทำให้มังกรหนุ่มกลืนน้ำลาย เพราะแม้จะเคยถูกเย็นชาใส่หลายหน แต่ก็ไม่เคยมีครั้งใดเหมือนหนนี้

   “ท่านดาร์เรนขอรับ ท่านน้ำฟ้ากำลังตามหาท่านอยู่ขอรับ เห็นบอกว่าอยากจะให้ช่วยสอนวิธีการอ่านภาษามังกรให้หน่อย”

   ครีอุสเมินเดเนียลแล้วหันไปบอกกับดาร์เรน  มังกรหนุ่มแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงพยักหน้ารับรู้

   “ได้สิ ข้าว่างอยู่พอดี”

   “ถ้าเช่นนั้นก็เชิญขอรับ”

   ครีอุสบอกแล้วเดินนำไป โดยไม่เหลือบแลมองเดเนียลแม้แต่หางตา ร่างสูงกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจึงตัดสินใจวิ่งไปตัดหน้าทั้งคู่ ก่อนจะจับหมับที่แขนของพี่เลี้ยงน้องชายตน

   “ท่านพี่ไปเองก็แล้วกัน ข้ามีธุระต้องพูดคุยกับครีอุสสักหน่อย!”

   ครีอุสเม้มปากแล้วจึงสะบัดแขนออก

   “ขอโทษ แต่ข้ามีงานต้องทำ”

   “ช่างงานนั่นเหอะ ถึงไม่มีเจ้า ดราโกก็ทำงานได้เองอยู่ดี!”

   เดเนียลตวาดแล้วคว้าแขนครีอุสมาบีบแน่น ทว่าคำพูดของเขากลับจุดไฟโทสะให้อีกฝ่ายเพิ่มมากขึ้นไปอีก

   “ท่านเดเนียล! ท่านจะก้าวก่ายข้ามากไปแล้วนะ ข้ากับท่านไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องไปกันมากกว่า นายกับบ่าว และที่สำคัญนายของข้าคือท่านดราโก ถึงจะเป็นท่านเองก็เถอะ ไม่มีสิทธิ์มาสั่งให้ข้าทำโน่นทำนี่ตามอำเภอใจของท่านหรอกนะ!”

   เดเนียลชะงักกึก  เขาค่อย ๆ คลายมือของตนออก ครีอุสดึงแขนของตนกลับ และสะบัดหน้าเดินจากไป โดยไม่ได้ใส่ใจใบหน้าเศร้า ๆ ของมังกรหนุ่มแม้แต่น้อย

   “ใจเย็น ๆ เดเนียล … เจ้าเองก็รู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือว่า เขาเป็นคนเช่นไร เจ้าใช้ไม้แข็งก็รังแต่จะเจ็บปวดทั้งเจ้าและเขา”

   ดาร์เรนตบบ่าปลอบน้องชายแล้วเดินตามครีอุสที่ล่วงหน้าไปก่อน เดเนียลถอนหายใจกับตัวเอง แล้วจึงเดินจากไปเงียบ ๆ เพื่อตรงกลับปราสาทของตน

   

   หลังจากวันนั้นเดเนียลก็หายหน้าหายตาไปเกือบสองอาทิตย์ ทำเอาคนที่เย็นชาไม่ใส่ใจ เริ่มหงุดหงิดร้อนรนขึ้นมาบ้าง แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าปกติสุขดีอยู่ก็ตาม

   “เฮ้อ… แย่จริง ๆ”

   ดาร์เรนเปรยเบา ๆ ขณะที่เดินเข้ามาในห้องทำงาน ดราโกกำลังตรวจเอกสารโดยมีครีอุสเป็นผู้ช่วยตามปกติ ส่วนน้ำฟ้าก็กำลังเรียนภาษามังกร และภาษาสากลที่ใช้ในโลกนี้อย่างตั้งอกตั้งใจ

   “มีอะไรหรือครับคุณดาร์เรน?”

   น้ำฟ้าถามพี่ชายของคนรักอย่างสงสัยเมื่อเห็นอีกฝ่ายมานั่งใกล้ ๆ เขา แล้วถอนหายใจหนัก ๆ

   “ก็เดเนียลน่ะสิ”

   ดาร์เรนแสร้งเน้นชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความลำบากใจอย่างหนัก จนอีกสองคนในห้องหันมามอง

   “ท่านพี่เดเนียลเป็นอะไรไปหรือขอรับท่านพี่ดาร์เรน”

   ดราโกถามอย่างสงสัย เพราะเริ่มผิดสังเกตที่อีกฝ่ายหายหน้าไปนาน แต่พอถามครีอุสก็ได้รับใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาแทนคำตอบ ซึ่งเขาก็พอจะเดาได้ลาง ๆ ว่าทั้งคู่คงมีปากเสียงกันหนักพอควร เพราะไม่งั้นป่านนี้เดเนียลต้องโผล่หน้ามาง้อแล้ว

   “แย่…กินเหล้ายังกับน้ำ เมาจนไม่ได้สติ ลูคัสบ่นกับข้าว่า พอสร่างก็ดื่มต่อ เมาแล้วก็โวยวายอาละวาด ทำเอาวุ่นวายทั้งปราสาท เป็นอย่างนี้มาจะเกือบสองอาทิตย์แล้ว”

   ครีอุสชะงักกึก แต่ก็แสร้งทำเป็นสนใจเอกสารต่อ ทำให้ทุกคนในห้องหันไปมองเจ้าตัว แล้วลอบถอนหายใจไปตาม ๆ กัน

   “ลูคัสบอกว่า เมื่อก่อนถึงเดเนียลจะเมายังไงแต่ก็ไม่เคยหงุดหงิดขี้โมโหขนาดนี้ …เขาสันนิษฐานว่า เพราะร่างกายเดเนียล อดกลั้นมานาน ก็เลยกลายเป็นแบบนั้นนั่นล่ะ”

   “อดกลั้นมานาน?”

   น้ำฟ้าทวนคำด้วยสีหน้าไร้เดียงสา ทำให้ดาร์เรนอมยิ้ม ส่วนดราโกหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วเดินมากระซิบบอกข้าง ๆ หูเด็กหนุ่มคนรัก จนเจ้าตัวหน้าแดงก่ำ

   “แล้วทำไมไม่ให้ลูคัสหาหญิงสาวส่งไปให้ท่านเดเนียลเล่าขอรับ จะได้หมด ๆ เรื่องไป”

   ครีอุสเอ่ยขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้ดาร์เรนต้องยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเปรยตอบ

   “แล้วใครว่าไม่ส่งเข้าไปล่ะ… ลูคัสบอกว่าเขาคัดเอาแต่ละนาง งามหยาดเยิ้มตามรสนิยมของเดเนียล ส่งเข้าไปตั้งหลายราย”

   ดาร์เรนบอกแล้วจึงเว้นวรรคเพื่อรอดูท่าทางของครีอุส เขาเห็นแววตาเย็นชาสั่นไหววูบหนึ่ง ดาร์เรนจึงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงเล่าต่อ

   “…แต่เดเนียลกลับไล่พวกนางออกไป แล้วโวยวายว่า เขาจะไม่มีวันผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับคนสำคัญ และจะทำให้คนนั้นยอมเชื่อให้ได้ว่า ถ้อยคำบอกรักที่ออกจากปากเขา ไม่ใช่แค่ลมปากเป่า แต่กลั่นมาจากใจของเขาจริง ๆ”

   ครีอุสเงียบกริบ หลุบตาหลบน้อย ๆ แล้วแสร้งทำเป็นให้ความสำคัญกับเอกสารตรงหน้าต่อ แม้ว่าขณะนี้ใจจะเหม่อลอยไปถึงใครบางคนแล้วก็ตาม

   “ครีอุส…ถึงน้องชายของข้าจะเคยเจ้าชู้ขนาดไหน แต่ความรู้สึกที่เขามีให้เจ้ามันเป็นของจริงนะ”

   ดาร์เรนบอก แล้วยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมสบตาเขา

   “อืม….ครีอุส เจ้าช่วยแยกงานเร่งด่วนออกมาให้ข้าที ข้าว่าจะลุยทำให้เรียบร้อยภายในสามวันนี้ แล้วจะขอพักร้อนสักอาทิตย์หนึ่ง ตั้งใจว่าจะชวนน้ำฟ้าไปเที่ยวเล่นรอบอาณาจักรสักหน่อย”

   น้ำฟ้าเงยหน้ามองคนรัก นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความดีใจ ดราโกโอบร่างเล็กมาใกล้แล้วหอมแก้มซ้ายขวานั่นอย่างเอ็นดู

   “และหลังจากงานเสร็จ ข้าจะให้วันหยุดเจ้าหนึ่งอาทิตย์ อยากไปไหนหรือจะอยู่เหย้าเฝ้าปราสาทก็แล้วแต่เจ้าแล้วกัน”

   ครีอุสนิ่งอึ้ง เขาสบตากับดราโกแล้วหลุบตาหลบ ก่อนจะพยักหน้าแผ่วเบา

   “ขอรับ”

   ดาร์เรนมองน้องชายคนสุดท้องอย่างชื่นชม เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับครีอุสมาก จนเรียกได้ว่าเหมือนญาติพี่น้องคนหนึ่ง และดราโกคงจะรู้แล้วว่าครีอุสเองนั้นก็เริ่มมีใจให้กับเดเนียลแล้วเช่นกัน จึงได้ให้การสนับสนุนเช่นนี้

    

   หลังจากนั้นสามวัน ครีอุสก็ยังคงอยู่ที่ปราสาทมังกรเช่นเดิม ทว่าในใจกลับกระวนกระวายมากขึ้นเมื่อวันแห่งคำสัญญาใกล้มาถึง ดาร์เรนเฝ้ามองชายหนุ่มอยู่เงียบ ๆ แต่ก็ไม่คิดจะไปเซ้าซี้ให้ครีอุสลำบากใจแต่อย่างใด เพราะเขารู้นิสัยอีกฝ่ายดี คนอย่างครีอุสยิ่งรุกเข้าหาก็จะยิ่งถอยออกห่าง แต่จะใจอ่อนและหวั่นไหวง่าย หากได้เห็นความตั้งใจจริงของฝ่ายตรงข้ามที่มีต่อตน

   “นี่ท่านยอมแพ้แล้วหรือ ไหนบอกว่ารักข้าจริงอย่างไรล่ะ…”

   ครีอุสพึมพำ เมื่อยังคงไม่เห็นแม้แต่เงาของเดเนียล และขณะที่กำลังลังเลว่าจะเป็นฝ่ายไปพบมังกรหนุ่มแทนดีไหม เขาก็เห็นลูคัสมาพบกับดาร์เรนที่สวนหน้าปราสาท คนสนิทของเดเนียลมีสีหน้ากังวลเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับดาร์เรนที่เงียบขรึมไป

   “ลูคัส! เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นรึ ….หรือว่าท่านเดเนียลเป็นอะไรไป!”

   ครีอุสรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาถามด้วยความเป็นห่วงอย่างลืมตัว ลูคัสหันกลับไปมองอีกฝ่าย แล้วถอนหายใจเบา ๆ

   “ท่านเดเนียลล้มป่วยน่ะ เล่นไม่กินไม่นอน ดื่มแต่เหล้าตลอด ร่างกายเลยทนไม่ไหว”

   ครีอุสยืนตัวชาวาบ ใบหน้าซีดเผือด แล้วถามเสียงสั่น

   “เป็นอะไรมากไหม…”

   ลูคัสมองคนถามนิ่ง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเดเนียลหลงรักครีอุส แต่เขาคิดว่าเพราะโดนครีอุสปฏิเสธ นายเหนือหัวของเขาจึงมีสภาพเช่นนั้น แต่ดูจากสีหน้าของครีอุสแล้ว แสดงว่าเจ้านายของเขาก็ยังคงมีหวังอยู่มากทีเดียว …คิดได้ดังนั้น เจ้าตัวเลยแสร้งตีสีหน้าสลดให้มากขึ้น แล้วอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่กล้าบอก

   “คือ…อย่าให้ข้าพูดเลย…ทางที่ดี เจ้าควรไปเห็นด้วยตาของเจ้าเองนะครีอุส …หากมีอะไรค้างคาใจ จะได้ล่ำลากันให้ได้เรียบร้อย”

    ครีอุสหน้าซีดจนเกือบจะไร้สีเลือด มือไม้สั่นเทาไปหมด โดยไม่ต้องหยุดคิดให้เสียเวลา เขาหันมาขอตัวกับดาร์เรน แล้วรีบกลายร่างเป็นมังกรบินไปหาเดเนียลที่ปราสาททันที

   “เจ้านี่ร้ายกว่าที่ข้าคิดอีกนะลูคัส ติดตามเดเนียลเสียนาน จนเจ้าเล่ห์ไม่แพ้เจ้านายของเจ้าแล้วนะ”

   ดาร์เรนเอ่ยกระเซ้ากับคนที่ยืนอยู่ ซึ่งลูคัสก็ยิ้มน้อย ๆ พลางโค้งให้

   “เพื่อความสุขของผู้เป็นนาย คนเป็นบ่าวรับใช้อย่างข้าก็ยินดีทำทุกอย่างอยู่แล้วขอรับ”

   คนฟังหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “แล้วนี่ถ้าครีอุสรู้เข้าจะไม่อาละวาดแย่รึ … งานนี้ข้าไม่เกี่ยวด้วยนะ”

   “หึ ๆ ถึงยังไงท่านเดเนียลก็ป่วยหนักจริง ๆ นี่ขอรับ … โรคตรอมใจเพราะรักนี่ เขาว่าอาการหนักไม่แพ้พวกโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ เลยนะขอรับ”

   ลูคัสบอกยิ้ม ๆ ซึ่งคนฟังก็ยิ้มตอบ

    “นั่นสิ… ก็หวังว่ายารักษาที่กำลังจะไป จะช่วยให้เขาหายป่วยได้โดยเร็ววันนี้ล่ะนะ”

   ทั้งคู่หัวเราะเบา ๆ จากที่ลูคัสตั้งใจจะมาบอกเพียงแค่ว่า เดเนียลล้มป่วย และทรุดหนักลง เพราะเจ้าตัวไม่ยอมให้ความร่วมมือกับหมอ ไม่ยอมกินยา แถมยังไม่เลิกเหล้าอีก  เขาจึงมาขอคำปรึกษาจากดาร์เรน แต่ไม่นึกว่าครีอุสจะอยู่ด้วย ดังนั้นอาการป่วยของเดเนียลจะดีขึ้นหรือเลวลง ก็คงต้องขึ้นอยู่ที่ว่าครีอุสจะ ‘ให้การรักษา’ กับเจ้านายของเขาอย่างไรนั่นล่ะ

   

   ครีอุสเดินจ้ำพรวดเข้าไปในปราสาทโดยไม่สนใจใคร และก็ไม่มีใครคิดห้ามปรามเขา เพราะต่างรู้จักและคุ้นเคยหน้าคนสนิทของราชามังกรผู้นี้ดี

   “ท่านเดเนียล เป็นยังไงบ้าง!”

   ครีอุสเปิดประตูห้องส่วนตัวของเจ้าชายองค์รองแห่งอาณาจักรมังกร แล้วก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วห้อง เดเนียลดูใบหน้าซูบตอบลงไปมาก หนวดเคราขึ้นเป็นไรเขียวครึ้ม  สภาพผิดแผกจากเดเนียลคนเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือ

   “บ้าจริง!”

   ครีอุสสบถเบา ๆ เพราะไม่คิดว่าเดเนียลจะเป็นถึงเพียงนี้เพราะเขาเป็นต้นเหตุ

   “ท่านเดเนียล หยุดดื่มได้แล้ว!”

   ครีอุสกระชากจอกเหล้าในมือของอีกฝ่ายออกไป เดเนียลหันขวับมามอง แล้วตวาดใส่ด้วยแววตาร้าวราน

   “ไปให้พ้น! เจ้าจะมาเยาะเย้ยข้าถึงเพียงไหนกันครีอุส! ถ้าไม่มีใจนักก็กลับไปเสีย เลิกทำให้ข้าเจ็บปวดสักทีเถอะ!”

   ครีอุสนิ่งอึ้ง พลางขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมากุมทั้งสองข้าง

   “ท่านเดเนียล … ตั้งสติดี ๆ สิ ท่านเป็นอะไรไป ข้าเคยเยาะเย้ยถากถางท่านตอนไหนกัน?”

   ครีอุสถามอย่างใจเย็น ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มเยาะหยันด้วยสีหน้าเจ็บปวด

   “หึ! เจ้ามาหาข้าทุกวัน มาบอกว่ารังเกียจข้า ไม่มีวันมอบใจให้ข้าไม่ใช่รึ … ครีอุส เจ้าช่างใจร้ายนัก ทั้งที่ข้ารักมั่นในตัวเจ้า ยอมทำทุกอย่างก็เพื่อเจ้า”

   ครีอุสเงียบกริบ เขาไม่คิดว่าการที่เขาเย็นชาใส่อีกฝ่าย จะทำให้เจ้าตัวเมามายหนัก จนเก็บไปเห็นเป็นภาพหลอนถึงตัวเขาที่ร้ายกาจ มาพูดทำร้ายจิตใจเจ้าตัวถึงเพียงนี้ …นี่เขาโหดร้ายกับเดเนียลเกินไปอย่างนั้นหรือ…ไม่สิ เขาสมควรจะต้องโมโห ที่ถูกว่าแบบนั้นต่างหาก!

   “ท่านเดเนียล เสียทีที่ข้าเคยนึกหลงเชื่อว่าท่านรู้สึกดีกับตัวข้าด้วยความจริงใจ …แต่นี่แค่ภาพลวงตากับตัวจริงท่านกลับแยกไม่ออก ถ้าเช่นนั้นก็เชิญท่านจมอยู่กับตัวข้าที่ใจร้ายคนนั้นไปเถอะ!”

   ครีอุสปล่อยมือของเดเนียลทิ้งอย่างหงุดหงิด แล้วเตรียมจะออกจากห้องเดินจากไป ทว่าคนที่นั่งอึ้งแทบจะสร่างเมา เพราะคำพูด ใบหน้า และแววตาเช่นนั้น มันคือครีอุสที่เขาหลงรักมาตลอดตัวจริงแน่นอน 

    เดเนียลรีบลุกพรวดขึ้นหมายจะวิ่งตาม แต่เพราะร่างกายที่อ่อนเพลียด้วยพิษไข้และพิษสุรา ทำให้เจ้าตัวต้องทรุดฮวบล้มพับลงไป จนคนที่กำลังเดินจากไปชะงักฝีเท้า และหันกลับมามองอย่างตกใจ

   “ท่านเดเนียล!”

   “ครีอุส … อย่าจากข้าไปเลยนะ …ข้าขอโทษ หากข้าจะพูดเรื่องที่ทำให้เจ้าโกรธ … แต่ขอร้อง อย่าเกลียดข้าเลย …ข้ารักเจ้าจริง ๆ นะครีอุส”

   ครีอุสมองคนที่พร่ำบอกคำรักเขาอย่างสมเพชและเวทนา ก่อนจะตรงมาประคองร่างของเดเนียลขึ้นไปนอนบนเตียงใหญ่กลางห้อง

   “ถ้าอย่างนั้นท่านต้องฟังที่ข้าบอกทุกเรื่อง เข้าใจไหม?”

   เดเนียลยิ้มออกมาได้ แล้วรีบพยักหน้า

   “ฟังสิ… ข้าจะยอมฟังทุกอย่างเลย”

   “ก่อนอื่น ท่านต้องเลิกดื่มเหล้าเด็ดขาด …บ้าจริง ๆ รู้ว่าตัวป่วยแต่ดันดื่มเหล้า ท่านอยากตาย ก่อนจะได้รับฟังคำตอบจากข้าอย่างนั้นรึ!”

   ครีอุสประชดอย่างหมั่นไส้ แต่คนฟังใจเต้นตึกตัก อย่างคาดหวัง

   “นี่เจ้ายังไม่ลืมสัญญาของพวกเราอย่างนั้นหรือ…”

   “ข้าไม่ใช่คนขี้หลงขี้ลืมนี่ ถึงจะได้จำไม่ได้!”

   ครีอุสกระแทกเสียงใส่ ยังคงหงุดหงิดไม่หาย ทว่าเขาก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยตอบเขาเสียงแผ่ว

    “ดีจริง…ข้าดีใจจริง ๆ นะครีอุส”

   คนฟังเงียบกริบ แล้วทำเสียงฮึในลำคอ ก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างหนาของคนบนเตียง

   “นอนพักได้แล้ว…นี่ทานอะไรหรือยัง …ยาล่ะ ….ให้ตายเถอะคนรับใช้ท่านหายไปไหนกันทั้งวังฮึ เจ้านายล้มป่วยขนาดนี้แท้ ๆ!”

   ครีอุสหันซ้ายหันขวาไม่เจอใคร ก็โวยวายออกมาอย่างหงุดหงิด ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงอมยิ้มน้อย ๆ อย่างดีใจที่เห็นอีกฝ่ายเป็นห่วงเป็นใยเขาแบบนี้

   “ข้าไล่พวกเขาไปเองล่ะ ก็ข้าไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้น …นอกจากเจ้า”

   ครีอุสชะงัก หน้าแดงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ก็แสร้งทำเป็นเบือนหน้าหนี แล้วบ่นเบา ๆ

   “อยากเห็นหน้างั้นรึ ใครกัน ที่ออกปากไล่ข้าเมื่อครู่น่ะ”

   “ก็เมื่อครู่ข้านึกว่าเจ้าเป็นภาพลวงตาที่มาเยาะเย้ยข้าอีกน่ะสิ … แต่พอรู้ว่าเป็นตัวจริง ข้าก็ดีใจมากเลยรู้ไหม”

   เดเนียลรีบประจบ ก่อนจะไอคอกแคกตามมา แล้วฝืนยิ้ม ทำให้ครีอุสเป็นห่วงหนักขึ้นไปอีก

   “ข้าจะไปตามหมอ!”

   “ไม่เป็นไร อยู่กับข้าเถอะ ไม่ต้องไปตามหรอก...แค่ก ๆ”

   พอเห็นอาการกึ่งไอกึ่งหอบของมังกรหนุ่มก็ทำให้ครีอุสยิ่งเป็นกังวลหนัก แต่พอเขาจะลุกก็เห็นร่างบนเตียงทำท่าจะลุกตาม จึงทำให้เขาถอนหายใจแล้วจับมือของเดเนียลขึ้นมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน

   “ข้าสัญญานะ ข้าจะกลับมาอยู่ข้าง ๆ ท่าน …ท่านเชื่อคำพูดของข้าไหม?”

   เดเนียลเงียบกริบ ก่อนจะพยักหน้าค่อย ๆ

   “อืม… ข้าเชื่อเจ้า …รีบ ๆ กลับมานะ”

   ครีอุสยิ้มตอบ พลางชะโงกหน้าไปจูบที่หน้าผากของอีกฝ่ายแผ่วเบา แล้วลุกเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เจ้าของห้องนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ก่อนจะหัวเราะออกมาดัง ๆ อย่างดีใจ แล้วตามมาด้วยอาการไอคอกแคกจนตัวหอบโยน แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้เห็นบนใบหน้านั่นอยู่ดี

   

--- TBC ---

ตัดมาให้ค้างเล่น เอ๊ย แปะให้อ่านแค่นี้ก่อน ส่วนครึ่งหลัง เห็นตอนนี้เล้ากำลังรณรงค์งดเรต .....ดังนั้นกำลังคิดว่าจะมาลงแบบตัดฉากทิ้งดีไหม --. เพื่อความปลอดภัย (แต่เรทที่เขียนออกจะแนวฮา ๆ สักนิดหน่อย ตามประสาคาแรกเตอร์ของคู่นี้)

ถ้ายังไง ไว้เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไปเกลาส่วนที่เหลือก่อนงิ  :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2011 13:31:38 โดย Xenon »

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
มารอส่วนที่เหลือน้า

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อยากอ่านครึ่งหลัง :z1:

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
กรี๊ดดดด รอคู่นี้อยู่เลย แต่คู่พี่ใหญ่ก็อยากอ่านด้วยน๊าาา คึคึ รอๆๆครึ่งหลัง

ออฟไลน์ pupuzaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มารอครึ่งหลังค่ะ

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
มาต่อแล้วจ้า อ่านเรียบร้อย เกลาเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว (ถ้าผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ)~

..................................
..
..



   ครีอุสออกมาตามหาหมอก็พบกับลูคัส ชายหนุ่มถามหาหมออย่างรีบร้อน จนลูคัสลอบยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วแสร้งทำเป็นตกใจหนัก

   “ท่านเดเนียลอาการกำเริบอย่างนั้นรึ!”

   ครีอุสสะดุ้ง แล้วรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ

   “ปะ...เปล่า เขาแค่ตัวร้อน แล้วก็ไอนิดหน่อย ...”

   “อ้อ... ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่ว ตอนข้าเจอเมื่อเช้า ข้าเห็นเขาแย่มาก ๆ จนต้องรีบไปปรึกษาท่านดาร์เรนทีเดียว”

   ลูคัสทำท่าโล่งใจ จนครีอุสไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโกหกเรื่องที่เดเนียลอาการหนักกับตน

   “ข้าว่าเจ้าไปดูแลเขาเถิดนะครีอุส ข้าจะเรียกหมอตามเข้าไปเอง ให้เจ้าคอยช่วยพยาบาล เขาอาจจะดีวันดีคืนขึ้นก็ได้”

   ลูคัสตบบ่าชายหนุ่มข้าง ๆ แล้วเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ครีอุสยืนหน้าแดงนิด ๆ แล้วจึงเดินก้มหน้างุด ๆ ตรงกลับไปยังห้องพักของเดเนียล เพื่อคอยดูแลมังกรหนุ่มตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างไม่คิดโต้แย้งอันใด เพราะมันก็ต้องกับความต้องการในใจของเขาอยู่แล้ว

   

   อาการของเจ้าชายองค์รองแห่งอาณาจักรมังกรเริ่มดีวันดีคืน ส่วนครีอุสก็ถูกเจ้าของปราสาทรั้งตัวไว้ ไม่ยอมให้กลับ แถมยังฝากลูคัสให้ไปบอกกับดราโกว่า ยินดีแลกเปลี่ยนคนสนิทให้ไปเป็นผู้ช่วยงาน หรือหาคนสนิทให้น้องชายใหม่ได้ทุกเมื่อ ถ้าอีกฝ่ายต้องการ

   ทว่าคนที่ถูกพูดถึง กลับโวยวายทันทีเมื่อได้ทราบเรื่อง

   “ไม่มีทาง ข้าไม่มีวันทิ้งหน้าที่ของข้าเด็ดขาด!”

   เดเนียลลอบถอนหายใจ ครีอุสก็ยังคงใจแข็งเหมือนเดิม แต่เขาเองก็ไม่อยากที่จะต้องห่างจากชายหนุ่มมากไปกว่านี้

   “เจ้าจำได้ไหมครีอุส ว่าถ้าข้าอดทนเรื่องนั้นได้ครบสามเดือน แล้วเจ้าจะยอมทำตามที่ข้าขอหนึ่งอย่าง...”

   ครีอุสชะงักกึก แล้วมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง เดเนียลจ้องตอบพลางยิ้มน้อย ๆ แล้วเปรยเรียบ ๆ

   “ถ้าข้าอยากจะขอให้เจ้ามาอยู่เคียงข้างข้าแทนดราโกล่ะ เจ้าจะทำได้ไหม?”

   “ท่านเดเนียล!”

   ครีอุสโพล่งชื่ออีกฝ่ายด้วยความโมโห ไม่คิดเลยว่าเดเนียลจะหยิบยกสัญญาเรื่องนั้นมาบังคับเขาแบบนี้

   “หึ ๆ ข้าก็แค่ลองถามดู ...ข้ารู้ดีหรอกน่า ว่าข้าไม่มีทางสำคัญกับเจ้ามากกว่างาน มากกว่าดราโก...”

   เดเนียลยักไหล่ แต่มีสีหน้าหมองลง แล้วจึงเปรยต่อ

   “จริง ๆ แล้ว ข้าก็ไม่ได้คิดขออะไรจากเจ้าหรอก แค่ให้เจ้ายอมรับความจริงใจของข้าก็พอแล้ว...”

   ครีอุสเงียบกริบ เดเนียลถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงหันหลังให้คนตรงหน้าตน

   “เจ้ากลับไปปราสาทของดราโกเสียเถอะ ข้าอาการดีขึ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครช่วยดูแลแล้วล่ะ”

   เดเนียลบอกแล้วก็เดินหนีไป ทำให้คนมองตามเงียบกริบ เจ้าตัวถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงกลายร่างเป็นมังกรเผือก บินกลับสู่ปราสาทของราชามังกร ทำให้คนที่เดินจากไปแล้ว ต้องเหลียวกลับมามองด้วยแววตาเศร้า ๆ

   

   ตกดึกคืนนั้น เดเนียลนั่งเหม่อจิบไวน์ในห้องพักไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ดื่มหนักจริงจังนัก เพราะเคยให้สัญญากับครีอุสเอาไว้แล้วว่า จะไม่ดื่มจนล้มป่วยไปแบบเดิมอีก

   สายลมไหววูบที่ระเบียงหน้าต่าง ทำให้มังกรหนุ่มหันกลับไปมอง แล้วก็ต้องตกตะลึงตาค้าง เมื่อเห็นร่างโปร่งบางของใครบางคนที่คุ้นตาในชุดขาว กำลังยืนยิ้มให้เขาอยู่

   “ครีอุส...”

   “ข้าไปขอลาพักร้อนกับท่านดราโกมา...เอ่อ  ตอนนี้ข้าก็ว่างสักพัก ...ข้าเลยคิดว่า จะมาขอท่านอาศัยอยู่ที่ปราสาทนี้ด้วย...ท่านจะขัดข้องไหม?”

   ครีอุสบอกอึกอัก หน้าแดงนิด ๆ ทว่ากลับทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก พอรู้ตัวเดเนียลก็เดินตรงไปหาร่างโปร่งแล้วกอดหมับอย่างหวงแหน

   “ไม่เลย...ข้ายินดี ...ถ้าเจ้าต้องการ จะอยู่ที่นี่ตลอดไปก็ยังได้”

   ครีอุสกอดตอบ ซบหน้ากับอกกว้าง เลิกคิดที่จะต่อต้านหรือเล่นแง่งอนต่อไป สามเดือนที่ผ่านมา เดเนียลแสดงให้เห็นความจริงใจในแบบของเจ้าตัว มากเกินพอกว่าที่เขาคิดว่า คนที่เคยเจ้าชู้และเสเพลอย่างมังกรหนุ่มจะทำได้ถึงขนาดนั้น

   “นี่...ท่านไม่คิดจะทวงคำสัญญาของท่านบ้างเลยหรือ”

   “หือ? คำสัญญา?”

   เดเนียลถามคนในอ้อมกอดอย่างสงสัย ครีอุสก้มหน้านิ่งก่อนจะบอกออกไปตามตรง

   “ก็คำสัญญาที่ว่า ถ้าท่านยอมทนเรื่องนั้นได้สามเดือน จะขอให้ข้าทำอะไรก็ได้ยังไงล่ะ?”

   เดเนียลชะงัก แล้วจึงมองคนในอ้อมกอดอย่างค้นหาว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนกันแน่

   “เรื่องที่ข้าอยากให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้าตลอดไปแทนดราโก เจ้าก็ไม่เต็มใจนี่”

   ครีอุสนิ่งเงียบ แล้วพยักหน้ายอมรับเบา ๆ

   “ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่อยากทำเรื่องที่บังคับใจเจ้า ... ข้ารักเจ้าจริง ๆ นะครีอุส”

   ครีอุสลอบถอนหายใจแล้วจูบเบา ๆ ที่คางของอีกฝ่าย ทำให้เดเนียลยืนตัวแข็ง อย่างพยายามควบคุมตัวเองเต็มที่

   “ข้ารู้...และเชื่อในคำรักของท่าน ...แต่ท่านก็ควรรู้ว่า ข้าถูกกำหนดหน้าที่ตั้งแต่ข้าเกิด ว่าให้รับใช้ท่านดราโก ข้าไม่อาจทิ้งหน้าที่ของตัวเองได้ ...”

   ครีอุสเว้นวรรคคำพูด แล้วนิ่งสักพักก่อนเอ่ยต่อเสียงแผ่ว

   “ถ้าท่านไม่ใช่เจ้าชายก็คงดี ข้าคงขอให้ท่านย้ายมาอยู่กับข้า แล้วคอยช่วยท่านดราโกดูแลบ้านเมืองด้วยกัน”

   เดเนียลนิ่งเงียบ แล้วดันร่างของคนในอ้อมกอดออกไป ทำให้ครีอุสชะงัก แล้วก้มหน้าหลบ เพราะคิดว่าตนเผลอพูดในสิ่งที่ไม่เหมาะสมออกไป ทำให้เดเนียลไม่พอใจ

   “ขอโทษ...ข้าเสียมารยาทกับท่านไปสินะ ยังไงท่านก็เป็นถึงเจ้าชาย...”

   “ไม่ใช่ ๆ เจ้าเข้าใจผิดแล้วครีอุส!”

   เดเนียลรีบบอกด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย

   “ข้าแค่ดีใจมาก คิดว่าหูฝาดไป เลยอยากมองหน้าเจ้าให้ชัด ๆ แล้วถามอีกครั้งว่านั่นเจ้าพูดจริงไหมต่างหาก”

   ครีอุสสบตากับคนพูดด้วยความแปลกใจ และพอได้ยินประโยคถัดมาเขาก็หน้าแดงนิด ๆ ด้วยความอาย

   “ข้าน่ะอยากอยู่ใกล้เจ้าตลอดเวลา ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่ปราสาทหลังนี้ ต่อให้ต้องปลูกเพิงไม้อยู่กลางป่า ข้าก็ยินดีและพอใจเป็นที่สุด”

   “...แต่ข้าคงไม่ไปนอนกลางดินกินกลางทรายกับท่านหรอกนะ”

   ครีอุสแกล้งบอกยิ้ม ๆ ทำให้เดเนียลยิ้มตาม

   “ถ้าอย่างนั้น เจ้าคงต้องสละเตียงของเจ้าครึ่งหนึ่งให้ข้าเสียแล้วล่ะ ครีอุส”

   “เฮ้อ...ทำยังไงได้ ข้าดันเผลอไปมีใจให้กับคนอย่างท่านแล้วนี่”

   ครีอุสแสร้งเปรยบ่น แต่คนฟังกลับหูผึ่ง แล้วรีบย้ำถามอย่างร้อนรนทันที

   “อะไรนะ! เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไร ช่วยพูดให้ข้าฟังใหม่ทีซิ!”

   “ไม่ได้ยินก็แล้วไป...”

   มังกรหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่ก็ต้องหลุดอุทานเบา ๆ เมื่อร่างของเขาถูกเดเนียลช้อนขึ้นแล้วอุ้มตรงไปยังเตียงกว้างของตน

   “ถ้าไม่บอก ...ข้าจะถามเจ้าด้วยวิธีการของข้าล่ะนะ”

   ครีอุสหน้าแดงนิด ๆ แต่ก็ยังทำเป็นเชิดหน้าใส่ แล้วตอบไปเบา ๆ

   “แล้วแต่ท่านสิ ...ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าท่านจะทำให้ข้ายอมพูดให้ฟังอีกครั้งได้ไหม”

   “หึ ๆ ได้เลยที่รัก ...ข้าจะตั้งใจทำให้สุดฝีมือทีเดียว”

   เดเนียลกระซิบแล้วค่อย ๆ วางร่างโปร่งลงบนเตียง ก่อนจะทาบทับกายของตนลงบนกายอีกฝ่าย วนเวียนจุมพิตไปทั่วร่างนั้นคล้ายคนหิวกระหาย ครีอุสครางเสียงแผ่ว ทุกครั้งที่ความร้อนจากริมฝีปากนาบไปทั่วผิวกายของตน

   “ท่านเดเนียล...ท่านจะแกล้งให้ข้าขาดใจหรือไง...บ้าจริง...”

   ครีอุสครางอย่างหงุดหงิดเมื่ออีกฝ่ายมัวแต่เล้าโลมเขาแค่ภายนอก ไม่ยอมทำในขั้นตอนต่อไปสักที

   “หึ ๆ ...ใครจะรู้เล่าว่าเจ้าจะใจร้อนถึงเพียงนี้ ...รอก่อนสิครีอุส ...ข้าอยากสัมผัสเจ้าให้ทั่วเสียก่อน ให้รู้ว่าเจ้ามีจุดอ่อนที่ใดตามร่างกายบ้าง...ข้าจะได้มอบความสุขให้เจ้าได้อย่างที่เจ้าต้องการอย่างไรเล่า”

   เดเนียลกระซิบบอกออกไปตามตรง แล้วลงมือเล้าโลมต่อ จนร่างข้างใต้บิดไปมาด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะนึกขัดใจจนกระทั่งผลักร่างหนาบนกายไปข้าง ๆ แล้วขึ้นเป็นฝ่ายนั่งคร่อมเจ้าตัวเสียเอง พร้อมกับจูบปลุกเร้าอารมณ์ทั่วร่างของอีกฝ่าย จนเดเนียลต้องครางเบา ๆ

   “อา...ครีอุส เจ้าวิเศษจริง ๆ”

   “ท่านเดเนียล ...ข้าต้องการท่าน...อืม...อา...”

   ครีอุสครางตอบ เมื่อมือของอีกฝ่ายที่ลูบ ๆ คลำ ๆ ไปทั่วเรือนร่าง เลื่อนลงมานวดเฟ้นขยำที่บั้นท้ายของเขาหนัก ๆ   

   “ได้สิที่รัก...ข้าจะลงมือแล้วนะ”

   เดเนียลกระซิบตอบ แล้วจับร่างบนกายเขาพลิกไปนอนราบกับเตียงอีกครั้ง ก่อนจะลงมือปลุกเร้าอารมณ์ให้ร่างโปร่งจนพุ่งถึงขีดสุด แล้วจึงค่อย ๆ จ่อแก่นกายแข็งขึงเข้าไปยังช่องแคบคับแน่นของอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ

   “อ๊า...ท่านเดเนียล! ท่านเดเนียล!”

   ครีอุสกรีดร้องกับประสบการณ์ครั้งแรกของการเป็นฝ่ายรับ เหงื่อผุดขึ้นทั่วใบหน้าคมคาย ใบหน้าแสดงถึงความเจ็บปวด แต่ก็แฝงไปด้วยความสุขสมกับสัมผัสแปลกใหม่ที่พึ่งได้รับ

   “ครีอุส...ครีอุสของข้า...เจ้าเป็นของข้าคนเดียว ....เป็นของข้าเท่านั้น”

   เดเนียลพึมพำ พร้อมกับขยับร่างกายเข้าออกช้า ๆ เพื่อให้ร่างโปร่งปรับสภาพ และเมื่อครีอุสเริ่มขยับตอบรับเขาก็เพิ่มความเร็วและความแรงในการร่วมรักเข้าไปอีก

   “ท่านเดเนียล! เร็วอีก...เร็วเข้า...ข้าต้องการท่าน!”

   ครีอุสออกคำสั่งอย่างลืมตัวลืมตน ซึ่งคนฟังเองก็ยินยอมร่วมมืออย่างว่าง่าย จนกระทั่งร่างโปร่งทนไม่ไหว กรีดร้องออกมาเต็มเสียง หลั่งความปรารถนาที่คั่งค้างเอาไว้ออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าท้องของร่างหนา ซึ่งยังคงไม่ยอมปลดปล่อยออกมาง่าย ๆ เหมือนอีกฝ่าย

   “ครีอุส...ข้ารักเจ้า...ข้ารักเจ้า...”

   เดเนียลครางแผ่วเบา พร้อมกับขยับร่างเข้าออกอย่างไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย แถมยังปลุกอารมณ์ให้คนที่ปลดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่ง กลับมามีอารมณ์ร่วมอีกครั้ง

   “ท่านเดเนียล...ข้าก็รักท่านนะ...เพราะฉะนั้น...ท่านห้ามหักหลัง...ความรักของข้าเด็ดขาด...”

   ครีอุสบอกตอบเสียงกระเส่า  คำว่ารักที่ออกจากปากของอีกฝ่ายครั้งแรก ทำให้เดเนียลยิ่งรู้สึกยินดี จนเผลอแสดงออกผ่านการกระทำ จนอีกฝ่ายต้องร้องครางเสียงหลง

   “ครีอุส...ข้าดีใจจริง ๆ... ขอแค่มีเจ้า...ข้าจะไม่มีวันมองใครอีกเด็ดขาด”

   เดเนียลตอบกลับเสียงแหบพร่า พร้อมกับขยับเร่งกายไปอีก จนร่างโปร่งแทบจะทนไม่ไหว และจำต้องปลดปล่อยออกมาอีกครั้งในเวลาถัดมาไม่นานนัก

   “พะ...พอ...อื้ม”

   คนที่ปลดปล่อยออกมาติด ๆ กันพยายามจะขอพัก ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมเปิดโอกาส นอกจากจะปิดปากนั้นไม่ให้พูด เบื้องล่างเจ้าตัวก็ยังขยับเร่งเร้า เพราะใกล้จะถึงฝั่งฝันของตนแล้วเช่นกัน

   “อา....ครีอุส...”

   เสียงครางทุ้มต่ำ พร้อมกับความสุขสมที่หลั่งไหลเนืองนองล้นออกมาจากช่องทางคับแคบ โดยที่ผู้ปลดปล่อยยังคงแช่ความเป็นชายเอาไว้ในนั้นไม่ยอมถอนออก แต่กลับเวียนจูบซับเหงื่อของร่างในอ้อมกอดอย่างรักใคร่

   “ท่านเดเนียล...อือ...ข้าเหนื่อยนะ...”

   ครีอุสครางประท้วง เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเลิกราแค่นี้แน่

   “เจ้าเหนื่อยแต่ข้ายังนี่ ...แต่เพิ่งรู้นะ ว่าเจ้าบอบบางกว่าที่คิด ...แค่นี้ก็ขยับแทบไม่ไหว หึ ๆ”

   เดเนียลกระเซ้า ทำให้คนที่กำลังเหนื่อยชะงัก แล้วจ้องคนพูดตาวาววับ

   “อย่ามาดูถูกข้านะ ...ระวังเถอะ ถ้าข้าเอาจริง ท่านอาจจะต้องเป็นฝ่ายขอหยุดพักแทนก็ได้!”

   เดเนียลลอบยิ้ม แล้วจึงเอ่ยกระเซ้ากลับด้วยใบหน้าขบขัน

   “จริงเร้อ ไหนเจ้าลองทำอย่างที่เจ้าขู่ข้าหน่อยซิ... ข้าอยากรู้นัก ว่าจะมีคนทำให้ข้าเป็นฝ่ายร้องขอให้พอได้ไหม”

   ครีอุสทำเสียงฮึในลำคอแล้วพลิกร่างของอีกฝ่ายไปข้างใต้ โดยที่บางส่วนของร่างกายของทั้งคู่ยังคงแนบชิดกันอยู่


   “อา...ครีอุส ...เจ้าช่างวิเศษเหลือเกิน... ไม่เคยมีใครทำให้ข้าร้อนรุ่มได้เท่าเจ้ามาก่อนเลย...”

   “อ๊ะ...ท่านเดเนียล...อย่าขยับแรงนักสิ...อื้อ...ดีจัง...โอว...”

   ครีอุสที่นั่งอยู่บนร่างแกร่ง ขยับสะโพกตนเองขึ้นลงอย่างเป็นฝ่ายนำเกมในตอนแรก แต่ก็ต้องถูกร่างข้างใต้ควบคุมจังหวะของเขาอีกครั้ง จนร่างโปร่งสั่นสะท้านไปด้วยความสุขสม และลุ่มหลงต่อลีลาเชี่ยวชาญที่มังกรหนุ่มมอบให้อย่างลืมตัวลืมตน

   “ครีอุส...ครีอุสของข้า”

   “อ๊า...ท่านเดเนียล~”

   เสียงครางทุ้มต่ำสลับกับเสียงครางแผ่วหวานรัญจวนใจดังขึ้นตลอดทั้งคืนนั้น จวบจนใกล้รุ่งสาง เสียงต่าง ๆ ในห้องจึงค่อยแผ่วลง และเงียบสงบในที่สุด อันเป็นเวลาที่แสงตะวันฉายทั่วแผ่นฟ้าพอดี

   

   สามวันสามคืนที่เดเนียลไม่ยอมออกมาจากห้อง แถมไม่ยอมปล่อยให้ครีอุสห่างจากตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเวลากิน เวลาเข้าห้องน้ำ รวมไปถึงเวลานอน จนคนมาเยี่ยมยังนึกขำ

   “ถ้าดราโกเห็นเจ้าทรมานพี่เลี้ยงของเขาแบบนี้ มีหวังออกคำสั่งเรียกครีอุสกลับปราสาทแน่”

   ดาร์เรนเอ่ยกระเซ้า เมื่อเห็นน้องชายจับคนรักนั่งตักไม่ยอมปล่อย แม้ครีอุสจะทั้งทึ้งทั้งหยิกแขนของชายหนุ่มสักเพียงใดก็ตาม

   “หึ ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ข้าก็จะตามครีอุสไปอยู่ดี ข้าไม่ยอมให้เขาห่างสายตาข้าหรอก ยิ่งรู้ว่าจริง ๆ แล้ว ยอดรักของข้าทั้งร้อนแรง ทั้งเซ็กซี่ขนาดนี้ มีหรือข้าจะกล้าปล่อยให้พ้นสายตาได้อีก”

   เดเนียลบอกกับพี่ชายตรง ๆ อย่างไม่คิดจะปิดบังอ้อมค้อม ทำเอาครีอุสหน้าแดงวาบ ก่อนจะถองศอกไปที่ท้องของอีกฝ่ายค่อนข้างแรง จนมังกรหนุ่มหลุดอุทานแล้วปล่อยมือที่กอดคนรักทันทีด้วยความจุก

   “หน้าด้านที่สุด ...ท่านนี่มัน!”

   เพราะถูกพูดเรื่องน่าอายต่อหน้าคนที่ตนเคารพอย่างดาร์เรนทำให้ครีอุสรู้สึกหงุดหงิดและโมโหคนรักยิ่งนัก โดยเฉพาะพอได้เห็นรอยยิ้มขำ ๆ ของดาร์เรน ก็ทำให้เขายิ่งอับอายหนักเข้าไปอีก

   “ข้าจะกลับปราสาทมังกร!”

   ครีอุสโพล่งใส่แล้วเดินลงส้นหนัก ๆ จากไปอย่างหงุดหงิด ทำเอาเดเนียลหน้าเหวอ รีบลนลานวิ่งตามคนรักไปติด ๆ จนดาร์เรนเห็นแล้วต้องถอนหายใจเบา ๆ

   “น่าอิจฉาจังน้า... อืม... แกล้งให้เจราลมาง้อแบบนี้บ้างดีกว่า คงน่าดูชมพิลึก หึ ๆ”

   เจ้าชายองค์โตแห่งอาณาจักรมังกร พึมพำเบา ๆ กับตัวเอง พร้อมลอบยิ้มน้อย ๆ  ด้วยความเจ้าเล่ห์เมื่อหวนคิดถึงคนรักของตนบ้าง  แต่พอเสียงทะเลาะที่ดังแว่วเข้ามานอกห้องค่อย ๆ เบาลง ก็ทำให้เขาอมยิ้มน้อย ๆ  และเมื่อเขามองออกไป ก็เห็นเดเนียลกับครีอุสยืนแลกจุมพิตกันอย่างเร่าร้อน โดยไม่เกรงสายตาใคร เห็นดังนั้นมังกรหนุ่มจึงตัดสินใจเดินออกจากห้อง ผ่านทั้งคู่แล้วเอ่ยลา เพื่อให้น้องชายได้กลับไปใช้ห้องนอนของเจ้าตัวต่ออย่างสบายอารมณ์โดยไร้คนขัดคอนั่นเอง



   --- END ---
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2011 22:13:50 โดย Xenon »

e_new

  • บุคคลทั่วไป
รอค๊า ^^
คู่นี้มีครบรส 55+
-----------------------
นิวเพิ่งเม้นไปเอง
ได้มาอ่านอีกแล้ว ^^
ครีอุสร้อนแรงจริงๆ แดเนียลก็ไม่แพ้กันเนาะ
งดเรทแรงๆไปซะแล้ว -^- อด 55+
ปล.อยากเห็นคู่ ดาร์เรน♥เจราล ^^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2011 22:33:20 โดย e_new »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
คู่ของครีอุสกับเดเนียล มีทั้งเศร้า รัก ปากแข็ง และก็ยอม แต่ยอมรับอย่าง ครบรสความรัก
แต่อยากบอกคนเขียนว่าขอละโมบขอตอนว่าท่านดาร์เรนกับท่านเจราลคบกันอย่างไรอะ
จะว่าเลดี้ละโมบไหมนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
+1

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
จะมีให้อ่านอีกคู่ไหมเนี่ย อยากอ่านน้า

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
แหม สำหรับคู่ท่านดาร์เรน รับรองลงให้อ่านแน่ค่าา แต่ขอเวลาคิดสักหน่อยนะคะ ว่าจะเขียนให้ออกแนวไหนดี ที่แน่ ๆ คุณพี่นี่ เคะราชินีชัวร์!

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อยากอ่านตอนเจราลกะดาเรนพบกันจัง ท่าจะมันส์ ในเมื่อพี่ใหญเราเจ้าเล่ขนาดนี้

นึกว่าจะแต่งให่เผ่าพันธ์มังกรทำคนทุกเพศท้องได้ซะอีกนะเนี่ย5555ตัดปัญหาเรื่องทายาท

สนุกมากจ้า จะรอเรื่องต่อไปน๊า

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ดาร์เรน สุดยอด ชอบอ่า เคะราชินี ฮี่ๆๆ

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ครีอุสก็ตกหลุมที่เดเนียบขุดดักง่าย ๆ เลยแฮะ
ร้อนแรงกันจังเลย...มีแววว่าทายาทสืบบัลลังก์จะมาจากเดเนียลนะ :m20:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

ตอนพิเศษ  ดวงใจจ้าวมังกร
(เจราล – ดาร์เรน)



   ...ดาร์เรนรับจดหมายจากทหารเทพนายหนึ่งที่ส่งมอบมาให้เขา มังกรหนุ่มเปิดอ่านผ่านตาคร่าว ๆ แล้ว โยนมันทิ้งไว้ข้าง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

   “ไปบอกเขาว่าข้าไม่กลับ ถ้าเขาไม่มารับข้ากลับด้วยตัวเอง”

   ดาร์เรนบอกเรียบ ๆ ด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้ายอันใด ทำเอาคนฟังกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบากใจ

   “แต่ท่านดาร์เรนขอรับ ท่านเจราลเป็นถึงแม่ทัพของกองทัพเทพของเรา การจะออกไปไหนมาไหนอย่างอิสระในต่างดินแดน เห็นทีว่าจะไม่เหมาะสมนะขอรับ..”

   อีกฝ่ายแก้ตัวให้อย่างลำบากใจ ดาร์เรนยิ้มเยาะ แล้วยักไหล่นิด ๆ

   “อย่ามาแก้ตัวให้เจ้านายของเจ้าเลยเวนอล เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าคนอย่างเขา หากต้องการไปไหนมาไหน เขาเคยสนใจเรื่องกฎด้วยหรือ”

    คนฟังชะงัก แล้วปาดเหงื่ออย่างจนคำพูด

   “เอ่อ...ท่านไม่คิดจะกลับไปพร้อมข้าแน่หรือขอรับ”

   “แน่สิ...เพราะตอนนี้ข้ากำลังเพลิดเพลินกับเด็กน้อยน่ารักของ...ข้าอยู่ จนไม่อยากกลับไปเห็นหน้าบึ้ง ๆ ของเจ้านายเจ้าน่ะสิ”

   ดาร์เรนจงใจละคำว่า ‘น้องชาย’ เพื่อให้คนฟังเกิดความสับสน เขาแน่ใจว่าเจราลต้องหาวิธีบางอย่าง ที่จะได้เห็นสีหน้าและคำพูดของเขาผ่านเวนอลแน่ ก็ไอ้เจ้าเครื่องประดับทับทิมสีแดงสด ที่มันขัดกับรสนิยมของนายกองผู้จริงจังที่ติดอยู่บนเครื่องแบบของอีกฝ่ายนั่น ดูปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเจ้าตัวไม่เต็มใจประดับมันด้วยตนเองชัด ๆ

   เวนอลรับคำแผ่วเบา ไม่ต้องเดาให้ยาก ป่านนี้เจราลคงโมโหอาละวาดอยู่ในตำหนักแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่เวลานี้เขามาอยู่แถวนี้แทน มิเช่นนั้นอาจจะโดนลากไปเป็นเพื่อนซ้อมรบ เพื่อระบายอารมณ์ขุ่นเคืองของอีกฝ่ายก็เป็นได้…เห็นทีคงต้องแกล้งกลับดินแดนเทพให้ช้าออกไปหน่อยเสียดีกว่า

   

    ดาร์เรนมองตามไล่หลังนายกองแห่งกองทัพเทพไปอย่างนึกขำ  ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนรักอยากจะให้เขาเป็นฝ่ายง้องอน ห่วงใย เอาอกเอาใจตนบ้าง ...ก็นะ เขาก็อยากทำอยู่หรอก แต่ไม่รู้ทำไม พอเห็นใบหน้าคมเข้มนั่นต้องโมโหเพราะเขา ดาร์เรนก็อดที่จะคิดว่ามันช่างน่ารักมาก ๆ ขึ้นมาไม่ได้

   … ง้อหรือ? ตั้งแต่เกิดมา ดาร์เรนไม่เคยง้อใคร ก็มีแต่เจราลคนเดียวนี่ล่ะ ที่เขายอมลงให้ และถ้าไม่ใช่เพราะรักล่ะก็ เขาไม่มีวันยอมทำเรื่องเช่นนั้นเป็นแน่...

   มังกรหนุ่มยิ้มกับตัวเอง หวนนึกถึงอดีตที่พวกเขาพบกันครั้งแรก...ในตอนนั้น ดาร์เรนรู้สึกขึ้นมาเลยว่า เขาจะต้องครอบครองชายผู้นี้ และทำให้ชายผู้นี้เป็นของเขาคนเดียวให้ได้  เขาเดาว่าเจราลเองก็คงคิดไม่แตกต่างกันนัก... ครั้งแรกของพวกเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่ต้องเสียเวลาเอื้อนเอ่ยบอกรักแม้แต่น้อย...

   

   ...เมื่อวันที่ดราโกรับตำแหน่งราชามังกร  เจราลเป็นตัวแทนเผ่าเทพ นำของขวัญมามอบให้กับราชามังกรคนใหม่ พวกเขาสบตากันแวบเดียว แล้วพองานเลิก เขาก็แสร้งทำเป็นไปเดินเตร็ดเตร่ชมสวมอยู่ด้านล่าง เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะต้องผ่านเส้นทางนั้น และพอเจราลเห็นเขา ดาร์เรนก็แสร้งทำเป็นสบตาอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม และเดินหลบไปยังส่วนลับตาของสวนในปราสาท  ซึ่งเห็นดังนั้นเจราลก็บอกให้ลูกน้องกลับไปก่อน และเดินตามมังกรหนุ่มไปทันที

   “เจ้าชาย...ได้โปรดหยุดรอข้าก่อน”

   ดาร์เรนลอบยิ้มแล้วจึงหันไปทำเป็นตกใจเมื่อได้เห็นจอมทัพเทพ

   “ท่านเจราล...มีอะไรหรือขอรับ หรือว่าหลงทาง?”

   มังกรหนุ่มบอกพลางแย้มยิ้มหวานอย่างจงใจยั่ว เจราลกลืนน้ำลายลงคอ แล้วก้าวเท้าเข้าหา ก่อนจะประกบจูบร่างโปร่งบางยั่วยวนตรงหน้าด้วยจุมพิตอันดูดดื่มร้อนแรง โดยผู้ถูกจูบแม้จะตกใจตอนแรก แต่ก็ร่วมมือตามมาเป็นอย่างดี

   “หึ ๆ ข้าเพิ่งรู้นะว่า พวกเผ่าเทพ เป็นพวกใจร้อนเช่นนี้ ...”

   “...เป็นของข้าได้ไหม...เจ้าชาย”

   คำขอที่เหมือนจะเหมือนคำสั่งเสียมากกว่า เมื่อผู้ขอลงมือรุกราน อย่างรวดเร็วด้วยไฟปรารถนาที่รุกโชนจนเจ้าตัวเองยังตกใจ ที่ไม่สามารถควบคุมตัวตนได้ถึงเพียงนี้

   “ท่านเจราล...อะ...เดี๋ยว ...บ้าจริง ...นี่ท่านจะทำทั้งอย่างนี้...หรือไง”

   ดาร์เรนใช้มือเกี่ยวโน้มคอของอีกฝ่ายเป็นที่พึ่ง เพราะขาข้างหนึ่งถูกยกด้วยมือใหญ่แข็งแรง หลังจากที่ถูกปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่สวมใส่จนร่างกายเปลือยเปล่า

   “อ๊า...ท่านเจราล...ข้าเจ็บนะ...ท่านรุนแรงกับข้า...เกินไปแล้ว”

   ดาร์เรนกรีดร้องพลางหอบเสียงกระเส่า เพราะอีกฝ่ายไม่คิดเล้าโลมให้เขารู้สึกดีเสียก่อน กลับรีบเร่งจาบจ้วงล่วงเกินเขาอย่างเร่าร้อนและรุนแรง

   “อา...เจ้าชาย ...ท่านวิเศษจริง ๆ ...ท่านตอดรัดข้าเสียแน่นไปหมด....อา...”

   จอมทัพเทพบอกพลางเร่งขยับเอวเข้าอีก เพราะสถานที่อันไม่ค่อยเหมาะสม ทั้งคู่จึงไม่อาจใช้เวลาเป็นส่วนตัวกันได้เนิ่นนาน เจราลรีบเอามือปิดปากมังกรหนุ่มที่หลุดครางเสียงหวานดังลั่นด้วยความลืมตัว และเมื่อได้ยินเสียงผู้คนเดินผ่านมาใกล้ ๆ  จนกระทั่งห่างออกไป เจราลจึงปล่อยมือที่ปิดปากของดาร์เรนให้เป็นอิสระ ก่อนจะอุ้มร่างโปร่งขึ้นเอว แล้วดันแผ่นหลังของร่างนั้นไปติดกับผนังของปราสาท พลางขยับกายถี่รัวรุนแรง จนดาร์เรนต้องหวีดเสียงร้อง จากนั้นสักพักทั้งคู่จึงต่างปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

   และเมื่อช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านพ้นไป ดาร์เรนก็แสร้งทำเป็นตีสีหน้าเย็นชา พอสวมเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็เตรียมที่จะเดินจากไป ทว่ากลับถูกเจราลฉุดข้อมือเอาไว้เสียก่อน

   “เจ้าชาย ... โกรธข้าหรือ...ข้านึกว่าเราต่างพึงพอใจทั้งคู่เสียอีกนะ”

   ดาร์เรนสบตากับอีกฝ่าย แล้วแสร้งทำเป็นแค่นยิ้มน้อย ๆ

   “หึ...ใช่ ข้ามัน ‘ง่าย’ แบบนี้เสมอ อย่างที่ท่านเข้าใจนั่นล่ะ ...ไม่ต้องคิดมาก ท่านก็แค่คน ๆ หนึ่งที่ผ่านมาในชีวิตข้า และข้าก็ไม่คิดจะผูกมัดอะไรท่านด้วย...ผู้ชายแบบท่านน่ะ หาได้ทั่วไปในอาณาจักรมังกรนี้ล่ะนะ”

   เจราลหน้าร้อนวาบ เขาดึงร่างบางมาใกล้ แล้วผลักร่างนั้นไปกับผนังปราสาท พร้อมกับตะคอกเสียงห้วน

   “ข้าไม่ยอมให้เจ้าไปมีคนอื่นอีกเด็ดขาด!”

   “ท่านมีสิทธิ์อะไร?”

   ดาร์เรนเงยหน้ายอกย้อน แล้วก็ต้องชะงักเมื่อใบหน้านั้นโน้มลงมาบดเบียดริมฝีปากกับเขาอย่างรุนแรง ก่อนจะถอนออกแล้วเอ่ยเสียงเข้ม

   “สิทธิ์ที่เจ้าเป็นของข้ายังไงล่ะ ...นับจากนี้ไป เจ้าคือคนของข้า เป็นสมบัติของข้า!”

   “แล้วถ้าข้าไม่ยอมล่ะ?”

   ดาร์เรนโต้กลับไป ทั้งที่ในใจนึกขำ ไม่คิดเลยว่าจอมทัพเทพผู้เกรียงไกร จะเป็นคนอารมณ์ร้อน แถมขี้หึง ขี้หวงขนาดนี้

   “ข้าจะทำให้เจ้ายอมเอง!”

   เจราลกระซิบด้วยสีหน้าและแววตาดุดัน ก่อนจะโอบร่างโปร่งเข้ามาแนบชิด และสร้างประตูมิติขึ้นตรงหน้า

   “ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าไปพบเจอกับใครอีก! เจ้าเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น!”

   ดาร์เรนมองประตูมิติอย่างค่อนข้างตกใจ ใครจะไปคิดว่าเขาแค่ปั่นหัวนิด ๆ คนตรงหน้าก็คลุ้มคลั่งเสียขนาดนี้ ...นี่ถ้าเขาเกิดหักหลัง และทิ้งเจราลจริง ๆ คงไม่แคล้วโดนอีกฝ่ายฆ่าทิ้งหรอกหรือ…

   มังกรหนุ่มหลุดขำเบา ๆ แล้วแสร้งทำเป็นตีหน้าเฉย เมื่ออีกฝ่ายหันมามองอย่างสงสัย เจราลขมวดคิ้วนิด ๆ แล้วพาร่างของเจ้าชายองค์โตแห่งอาณาจักรมังกร หายเข้าไปด้วยกัน โดยไม่ทันสังเกตเวทที่ดาร์เรนเสกให้เป็นผีเสื้อบินออกไปจากมือ และมันก็บินไปเรื่อย ๆ จนมาเกาะอยู่ที่บ่าของชายผิวเข้มผู้หนึ่ง นัยน์ตาสีทองส่องประกายสงสัย เพราะจำกลิ่นอายเวทมนตร์ได้ดีว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ และพอเขาสัมผัสผีเสื้อตนนั้น มันก็สลายไป และมีเสียงของดาร์เรนดังขึ้นแผ่วเบา

   “ฟีลา ข้าจะไม่อยู่สักพัก ถ้าจำเป็นต้องการพบตัว ก็ให้ไปตามหาข้าที่ตำหนักเทพของท่านเจราลนะ”

   องค์รักษ์หรือพี่เลี้ยงประจำตัวดาร์เรน ถอนหายใจ  เรื่องคราวนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่อีกฝ่ายคุ้นเคยเหมือนเดิม แต่เท่าที่เขาสังเกต ดูท่าดาร์เรนจะให้ความสนใจจอมทัพเทพผู้นั้นตลอดพิธีมอบตำแหน่งราชาของดราโก ...แถมยังดูจริงจังจนเขาประหลาดใจ แม้สีหน้าภายนอกจะยังคงเรียบเฉยอ่านยากเหมือนเคยก็ตาม

   ...แต่ก็นะ ไม่ว่าจะจริงจัง หรือล้อเล่น... สำหรับเขาแล้ว ก็ค่อนข้างน่าสงสารจอมทัพเทพผู้นั้นอยู่ดี ที่ดันมาตกบ่วงเสน่ห์ของนายเหนือหัวตัวแสบของเขาได้ ...

   

   ดาร์เรนไม่รู้ว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องนอนของเจราลมากี่วันกี่คืนแล้ว  แม้ไม่ได้ถูกล่ามก็ตาม แต่ก็ออกไปจากห้องนั้นไม่ได้ ทุกสิ่งที่เขาต้องการจะถูกหามากองตรงหน้า ยกเว้นเพียงสิ่งเดียว ...อิสระ

   น่าแปลก...ดาร์เรนไม่ได้นึกโกรธอะไรเจราลแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาชื่นชอบชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่สุด   ไม่ต้องทำอะไร คิดอะไรให้ปวดหัว พอค่ำคืนก็มีเจราลคอยปรนเปรอมอบความสุขให้ตลอด  แต่ก็นั่นล่ะ ท่าทีที่เขาแสดงออกไปกลับเป็นอีกอย่าง จนบางทีเจราลก็ทนไม่ไหวในความเย็นชาที่เขาแสร้งทำ ...บางครั้งเขาแกล้งนอนนิ่งเป็นตุ๊กตา ขณะที่อีกฝ่ายร่วมรักด้วย และมันก็ส่งผลให้จอมทัพเทพ หงุดหงิด งุ่นง่าน ลงมืออาละวาด ทำลายข้าวของในห้อง ...ยกเว้นเขา...ที่แม้อีกฝ่ายจะโมโหเพียงใด แต่ก็ยังคงทะนุถนอม และไม่เคยตบตีทำร้ายเขาสักครั้ง นั่นยิ่งทำให้เขาชื่นชอบในตัวของเจราลยิ่งขึ้นไปอีก

   “ดาร์เรน ...เจ้ารักข้าบ้างไหม?”

   เจราลมักจะถามประโยคนี้ทุกครั้งหลังพวกเขาร่วมรักกันเสร็จ แล้วเขาก็จะนิ่งเฉยแทนคำตอบเสมอ

   “ข้ารักเจ้ามากนะดาร์เรน ...ยิ่งกอดก็ยิ่งรัก ...”

   ดาร์เรนลอบยิ้ม เขามั่นใจในเสน่ห์ตัวเองเป็นอย่างดีในเรื่องนี้ หลายคนไม่ว่าชายหรือหญิงที่เขาเคยทอดทิ้งมา ทุกคนมักจะลุ่มหลงในตัวเขา ไม่ว่าเขาจะสั่งให้ทำอะไร ก็ไม่เคยมีใครขัด ...กับคนอย่างเจราลก็เช่นกัน คนที่เป็นผู้นำคนอื่นมาตลอดอย่างอีกฝ่าย หากเขาเข้าหาและยินยอมมอบกายมอบใจให้ง่ายเกินไป ก็คงจะหมดรักเขาได้ง่าย ๆ เช่นกัน

   “ดาร์เรน...ข้าจะปล่อยเจ้ากลับบ้านของเจ้าดีไหม?”

   ประโยคถัดมา ทำเอาคนกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ สะดุ้งโหยง และหันขวับกลับมามองคนพูดด้วยความตกใจ

   “...ดีใจสินะ...เจ้าเองอยากจะจากที่นี่ไปตลอดเวลาอยู่แล้วนี่...”

   เจราลบอกด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ และตีความสีหน้าตกใจของอีกฝ่ายเป็นอย่างอื่น

   “ท่าน...จะส่งข้ากลับบ้าน จริงหรือ?”

   ดาร์เรนถามเสียงแผ่วด้วยความสับสน ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่อีกฝ่ายยังพร่ำบอกว่ารักเขาอยู่เลยแท้ ๆ

   “ข้ารักเจ้า...แต่หากบังคับให้เจ้าอยู่กับข้าแบบนี้ ...ข้าคงได้แค่เพียงความเกลียดชังกลับคืนมา ...ข้าอยากเห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของเจ้าที่มีให้ข้าอีกสักครั้ง เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน...ยิ้มให้ข้าอีกครั้งได้ไหม ...แล้วข้าจะปล่อยให้เจ้ากลับบ้านของเจ้า”

   ดาร์เรนเงียบกริบ เขาก้มหน้านิ่ง แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ยิ้มหวานอย่างที่ไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อน จนเจราลตกตะลึง แล้วจึงมีใบหน้าเศร้าสร้อยตามมา

   “...เจ้าคงอยากกลับบ้านมากสินะ ...ไม่ต้องห่วง ข้ารักษาสัญญาเสมอ ...พรุ่งนี้ ข้าจะส่งเจ้ากลับบ้านเอง”

   คำพูดของจอมทัพเทพ ทำให้อะไรบางอย่างในตัวของมังกรหนุ่มขาดผึง เขาคิดว่าพอเขายิ้ม...ยิ้มอย่างที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก จะทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจแล้วรีบรั้งเขาไว้ แต่ดันได้ผลตรงกันข้ามเสียนี่

   “ไม่...จำ...เป็น”

   ดาร์เรนเค้นเสียงออกมาทีละคำ

   “อะไรนะ?”

   เจราลถามเพราะได้ยินไม่ค่อยชัดนัก ดาร์เรนกัดฟันกรอด แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความโกรธเต็มที่

   “ข้าบอกว่าไม่จำเป็นยังไงเล่า!   งี่เง่าชะมัด คิดว่าข้าอยากอยู่กับเจ้านักหรือไง! คิดว่าข้าชอบเจ้าขนาดต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าตกหลุมรักข้ารึ!  คนอย่างข้าน่ะ แค่กระดิกนิ้ว ก็มีคนอยากเข้าหาทั้งนั้น ไม่เห็นต้องง้อเทพงี่เง่าอย่างเจ้าสักนิด! โธ่โว้ย!”

   จอมทัพเทพนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นตัวตนที่แท้จริงของชายตรงหน้า ส่วนดาร์เรนนั้นโกรธจนลืมทุกสิ่งไปหมด  มังกรหนุ่มหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ลวก ๆ   และทั้ง ๆ ที่อยู่ในเขตแดนที่เจราลสร้างขึ้นแท้ ๆ แต่อีกฝ่ายกลับสามารถสร้างประตูมิติกลับสู่แดนมังกรได้อย่างง่ายดาย แสดงให้เห็นว่า หากเจ้าตัวคิดจะหนีกลับ ก็ย่อมทำได้ตั้งแต่วันแรกที่ถูกพามาแล้ว

    “ไปตายซะ คนเฮงซวย!”

   เสียงของดาร์เรนดังขึ้นทิ้งท้าย ก่อนที่ประตูมิติจะหายไป ทำเอาเจราลต้องนั่งอึ้งชั่วครู่ ก่อนจะรวบรวมสติคิดทบทวนในสิ่งที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น เสียจนทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าห้องตกใจ

   “ดาร์เรน...เจ้านี่มัน...ฮ่า ๆ ...ทำไงดีล่ะเนี่ย... ข้ายิ่งรักยิ่งหลงเจ้ายิ่งขึ้นไปอีกแล้วนะ!”

   เจราลพึมพำ ใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม นั่งนิ่งคิดบางอย่างพักใหญ่ แล้วจึงตัดสินใจสร้างประตูมิติขึ้น โดยมีจุดหมายคือสถานที่เดียวกันกับที่ร่างโปร่งล่วงหน้าไปเมื่อครู่

   

   ทันทีที่ดาร์เรนกลับมาปราสาทของตนเอง มังกรหนุ่มก็เดินดุ่ม ๆ เข้าห้องพัก โดยไม่สนใจสีหน้าตกตะลึง และแปลกใจของข้ารับใช้ เมื่อเห็นเจ้าของปราสาทที่หายตัวไปเสียนานกลับมาอีกครั้ง และก็ยิ่งเป็นที่ตกตะลึงซ้ำสอง เมื่อเสียงดังโครมครามคล้ายคนอาละวาดดังขึ้นมาจากในห้องนอนของอีกฝ่าย ทำเอาคนรับใช้พากันลังเล และหนึ่งในนั้นก็รีบวิ่งไปตามฟีลาอย่างรวดเร็ว

   “ท่านดาร์เรน ข้าขออนุญาตเข้าไปนะขอรับ....”

   ทันทีที่เปิดประตู แจกันใบหนึ่งก็ลอยผ่านหน้าเขาไปกระทบกับฝาผนังใกล้ ๆ เฉียดหน้าฟีลาไปเพียงไม่กี่นิ้ว โชคดีที่มันทำมาจากทองเหลือง จึงไม่แตกกระจายจนอาจจะสร้างแผลให้กับคนที่อยู่แถวนั้น

   “โมโหอะไรหรือขอรับท่านดาร์เรน เล่าให้ข้าฟังได้ไหม”

   ฟีลาที่เข้ามาในห้องคนเดียวเอ่ยถาม ส่วนข้ารับใช้คนอื่นเผ่นแนบออกห่างจากห้องไปกันหมดแล้ว เมื่อเห็นฤทธิ์อาละวาดของเจ้าของปราสาทผู้นี้

   “ไม่ได้โมโห! ข้าปกติดีทุกอย่าง!”

   ดาร์เรนบอกหอบ ๆ ยังคงไม่หายหงุดหงิด จนอีกคนต้องลอบถอนหายใจ แต่เพราะเติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง เขาจึงรู้นิสัยของดาร์เรนดี ฟีลาเลือกหามุมสงบและปลอดภัย ยืนมองดาร์เรนอาละวาด และเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รามือ แล้วหันมาทางพี่เลี้ยงคนสนิท

   “ฟีลา! เจ้าคิดว่าข้าเป็นยังไง คิดว่าข้าไร้เสน่ห์ขนาดนั้นเลยรึ!”

   ดาร์เรนหันมาถามชายหนุ่มผิวคล้ำตรงหน้า ฟีลายิ้มน้อย ๆ แล้วตอบออกไปตามตรง

   “ท่านเป็นคนมีเสน่ห์ แถมยังเจ้าเล่ห์มากด้วย ...”

   ดาร์เรนค้อนขวับให้อย่างลืมตัว เวลาอยู่กับฟีลา เขาไม่ต้องปั้นหน้าเป็นเจ้าชายผู้แสนดี เหมือนดังเช่นอยู่ต่อหน้าคนอื่น

   “แล้วทำไม ทั้งที่อีกฝ่ายบอกว่ารักข้า แต่กลับผลักไสให้ข้าไปห่างเขา เพราะกลัวข้าเกลียดเขาล่ะ ...ถ้ารักก็ต้องอยากให้อยู่เคียงข้างกัน เป็นของกันและกันตลอดไปไม่ใช่รึ!”

   ดาร์เรนบอกอย่างเอาแต่ใจ ทำให้คนฟังต้องสั่นศีรษะอย่างเอือมระอา ...เขารู้ อีกฝ่ายไม่เคยมีความรักจริง ๆ มาก่อน เพราะรูปร่างและเสน่ห์เกินห้ามใจยามได้อยู่ใกล้ชิด คนที่เข้าหาดาร์เรนเพราะสิ่งนั้นล้วนมีมากมาย จึงทำให้มังกรหนุ่มคุ้นเคยกับชีวิตเช่นนี้ จนพอเจอคนที่ถูกใจตนจริง ๆ และอีกฝ่ายมอบรักแท้ให้ ดาร์เรนจึงไม่เข้าใจและโมโหจนอาละวาดอย่างที่เห็น

   ...เผลอ ๆ ที่อารมณ์เสียขนาดนี้ อาจเป็นเพราะมังกรหนุ่มตกหลุมรักอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวแล้วก็เป็นได้...

   และขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่ กลางห้องก็ปรากฏรอยแยกของประตูมิติ ก่อนที่จะมีชายหนุ่มผมทอง ใบหน้าหล่อเหลาเดินออกมาจากรอยแยกนั่น แต่แล้วเจ้าตัวก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยเพราะการอาละวาดของดาร์เรน และพี่เลี้ยงคนสนิทที่อยู่ในห้องนอนสองต่อสองยามวิกาล เขาก็ขมวดคิ้วยุ่งอย่างไม่สบอารมณ์นัก

   “อะไร...ผละจากข้ามาได้ครู่เดียว หาคนใหม่ได้อีกแล้วหรือ!”

   เพราะความหึงจนลืมตัว ทำให้เจราลเอ่ยค่อนขอดอีกฝ่าย แต่นั่นทำให้ดาร์เรนชะงัก ซ่อนยิ้มแล้วจึงเดินเข้าไปคลอเคลียกับฟีลาอย่างจงใจ

   “ใช่! ข้าบอกท่านแล้วไง ว่าท่านก็แค่คน ๆ หนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของข้าเท่านั้น”

   เจราลกัดฟันกรอด ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วเขาก็เงียบไป แล้วมีสีหน้าหมองลง

   “ข้าหลงคิดว่าเจ้าเองก็มีใจกับข้าบ้างแท้ ๆ ...ข้าคงคิดผิดไปสินะ”

   สีหน้าแบบนั้นทำให้คนมองหัวใจกระตุกวูบ แต่ก็แสร้งตีสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจ ส่วนฟีลานั้นมองทั้งคู่สลับไปมา แล้วลอบถอนหายใจแผ่วเบากับตนเอง

   “ขอโทษที่รบกวนยามดึก เชิญพวกเจ้าตามสบาย...จากนี้ไปข้าจะไม่มาให้เจ้าเห็นหน้าอีกแล้ว”

   เจราลเอ่ยลา แล้วเดินหายไปในทางแยกมิติ จนดาร์เรนนิ่งอึ้ง พอประตูมิติปิดลง เขาก็หันขวับมาทางพี่เลี้ยงคนสนิทอย่างหงุดหงิด

   “หมอนั่นทำแบบนี้กับข้าได้ยังไง! เจ้าเห็นไหม เขากล้าทิ้งข้าน่ะ!”

   “ท่านทำตัวเองต่างหากท่านดาร์เรน ...ทั้งที่ดีใจที่เขามาง้อ แต่ทำไมต้องแกล้งให้เขาเข้าใจผิดแบบนี้ด้วย”

   ฟีลาบอกตามตรง โดยไม่เกรงว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้านาย และเพราะเขาเป็นคนแบบนี้ ดาร์เรนถึงมอบความสนิทและไว้เนื้อเชื่อใจกับชายหนุ่มได้อย่างหมดใจ

   “ข้า...ไม่ได้ดีใจ”

   มังกรหนุ่มบอกเสียงแผ่วแล้วหลบตาทำเอาคนที่ยืนตรงหน้ายิ้มน้อย ๆ

   “ท่านอาจโกหกใครต่อใคร โดยที่เขาจับผิดท่านไม่ได้ ท่านดาร์เรน ...แต่ไม่ใช่ข้า ท่านก็รู้ดี”

   ดาร์เรนเงียบกริบ เขาก้มหน้านิ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

   “เจราลเกลียดข้าแล้วสินะ... ข้าจะทำเช่นไรถึงจะทำให้เขาหายเกลียดข้าล่ะ”

    ฟีลามองนายเหนือหัวของเขาอย่างสงสาร เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเจราลยังรักอีกฝ่ายอยู่ แต่คงเพราะน้อยใจเลยทำให้พูดแบบนั้นออกมา อีกอย่างดาร์เรนเองนั่นล่ะที่บีบให้อีกฝ่ายต้องทำเช่นนี้

   “ท่านต้องง้อเขา เพราะนี่เป็นความผิดของท่าน”

   ดาร์เรนสะดุ้ง มองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

   “ง้อ? เจ้าจะให้คนอย่างข้านี่นะง้อคนอื่น ฝันไปเถอะ!”

   ฟีลาอมยิ้ม นึกอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องดื้อรั้นไม่ยอมฟังง่าย ๆ  เขายักไหล่นิด ๆ แล้วจึงเปรยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

   “ถ้าเช่นนั้นท่านก็ต้องเสียเขาไป ...ข้าได้ข่าวมาว่า ท่านเจราลก็เนื้อหอมไม่ใช่ย่อย ขนาดจอมเทพเองยังร่ำ ๆ ว่าจะให้เขาเป็นราชบุตรเขยของตนเชียวนะ ...เล่าลือกันว่าธิดาองค์เล็กของจอมเทพก็งดงามไม่เป็นสองรองใคร  ข้าว่านางคงช่วยบรรเทาแผลใจของท่านเจราลได้ไม่ยากนักหรอก”

   ดาร์เรนเงียบกริบ ...เขาไม่เคยเห็นธิดาของจอมเทพก็จริง แต่ก็ได้ยินคำล่ำลือไม่แตกต่างจากที่ฟีลาได้ยินมานัก เมื่อก่อนแม้จะได้ยินเสียงซุบซิบนินทาเรื่องนี้จากนางกำนัลของเจราล เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะรู้ดีว่าเจราลลุ่มหลงในตัวเขาเพียงใด แต่มาตอนนี้เขาเองก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่า อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจจากเขาไปหาผู้หญิงคนนั้นหรือไม่

   “ฮ้าวว ...ข้าง่วงแล้ว ส่วนข้าวของในห้องนี้ ข้าจะให้นางกำนัลมาเก็บตอนเช้านะขอรับ ข้าขอตัวล่ะ”

   ฟีลาแกล้งบอก ปล่อยให้ผู้เป็นนายจมอยู่ในห้วงคิด และเขาก็ต้องอมยิ้ม เมื่อลอบมองจากรอยแง้มประตูห้อง เห็นดาร์เรนสร้างรอยแยกมิติขึ้น ก่อนจะเดินหายเข้าไปในรอยแยกนั้น

   

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด