(ต่อครับ)
ตอนที่ 4เมื่อไหร่นางสาวเมเรจะกลับอเมริกาหนอ บอกว่ากลับมาบ้านเดือนนึงแล้วนี่มันกี่วันกี่คืนเข้าไปแล้วเนี่ย ต้องรับโทรศัพท์เช้า กลางวัน เย็น เพื่อรายงานว่าชินของชั้นอยู่ที่ไหนทำอะไร
ย้อนถามว่า ทำไมไม่โทรไปหาเองจะเจอกับการเพิ่มระดับเดซิเบลแบบปัจจุบันทันด่วนว่า ถ้าโทรไปแล้วชินของชั้นรับสายชั้นจะโทรหาแกมั้ยยยยยยยยยยยย
เออจริงของเค้า แต่กูปวดหัวว้อยยยยยยยยยยย
แถมคุณพี่ชายเขาเป็นอะไรของเค้าก็ไม่รู้
หลายวันมานี้ไม่รู้องค์อะไรมาประทับ ถึงได้ตามเช็คตามจิกได้ระดับเกรดเอพอกัน
อิสระภาพของเด็กมอปลายที่ชื่อยูอยู่ที่ไหนกัน
ไปยื่นเรื่องที่ศาลปกครองได้มั้ยเนี่ย TT^TT
หนุ่มยูในชุดนักเรียนขายาว ลายฟ้าขาว กับเสื้อเชิร์ตแขนสั้น และกระเป๋าเป้หลังพร้อมถุงผ้าใบยาวใส่ดาบไม้ก้าวลงจากรถไฟฟ้า แล้วเดินต่อมาที่มหาวิทยาลัยของพี่ชาย หนุ่มนักเรียนมัธยมแวะร้านเครป แล้วเดินแทะมาเรื่อย หมดพอดีก็แถวๆสนามรักบี้ โยนทิ้งถังขยะ หาที่ล้างมือ แล้วเดินต่อไปที่คณะของพี่ชาย
ดวงตามองไปข้างหน้า หลังตรง
พี่น้องเขาฟอร์มเดียวกัน
ไม่สนใจสายตา ไม่สนใจท่าทางชี้มือ เสียงพูดใดๆ
จนกระทั่งมีโทรศัพท์เข้า ยูมองหน้าจอแล้วเดินเข้าไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้หินอ่อนหน้าสำนักอธิการบดี จะใครก็คนนั้นแหละ ชินของชั้นอยู่กับแกหรือเปล่า....
พอกดวางสายก็เห็นชายหนุ่มอีกคนยืนส่งยิ้มอยู่ข้างหน้า
“มาหาใครครับ”
ยูยืนนิ่ง ท่าทางเตรียมพร้อมระมัดระวัง ถึงจะรู้วิชาต่อสู้ แต่ไม่รู้ว่าคนนี้มาดีมาร้ายยังไง อาจมีอาวุธก็ได้
คนแปลกหน้าอยู่ดีๆเข้ามาทัก ต้องไม่ประมาท
“หาพี่ชาย เขาอยู่คณะวิทย์ครับ”
“อ้อ...” หนุ่มคนนั้นหันไปมองที่อาคารเรียนด้านใน “เดินไกลเหมือนกันนะเนี่ย”
“ไม่หรอกครับ มาบ่อย ผมไม่รีบด้วย เห็นเขาว่าต้องทำแล็บ”
“ไม่รีบงั้น....ไปทานอะไรเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้มั้ย” ยูหันมามองคนแปลกหน้า “พี่ต้องมาคุยกับท่านอธิการ ตามมาด้วยคณาจารณ์อีกเซ็ทใหญ่ ตั้งแต่เช้ายันบ่าย ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากกาแฟ”
“ไม่ได้...เป็นอาจารย์หรือครับ”
“เปล่าๆ” รีนาโต้รีบยกมือ “พี่ชื่อรีนาโต้ เรียกพี่รีก็ได้ พอดีมหาลัยจะสั่งรถตู้น่ะ พี่เอาใบเสนอราคามาให้ดู”
“โรงอาหารอยู่ทางนั้น มีห้องอาหารติดแอร์อยู่ใต้ดิน” ยูชี้บอก แต่ขาไม่ขยับ
“ไม่ไปทานด้วยกันหรือครับ”
“ไม่ครับผมกินขนมแล้ว แล้วเดี๋ยวเจอพี่ เขาก็ต้องพามากินอีกรอบอยู่ดี”
“เครปอันเดียวไม่อิ่มหรอกน่า”
ประโยคที่แสดงให้เห็นถึงการถูกจับตามองทำให้ยูหรี่ตาลง
แต่พี่รีโปรยยิ้มสุดหล่อคงที่ไม่มีตกหล่นเหมือนเดิม ยูยิ้มฉีกมุมปากไม่เปิดฟันให้แล้วพูดนิ่งๆ
“ไปกินข้าวคนเดียวไม่เป็น ไม่ลองถามหายามแถวนี้ดูล่ะพี่ เผื่อเขาสงสารผู้ใหญ่ขี้เหงาไปกินข้าวเป็นเพื่อน”
ยูกระชับกระเป๋าเป้หลังเดินตรงไปที่คณะวิทย์ ส่งแมสเซจบอกว่ามาถึงแล้วลงมาด่วนเพราะกำลังอารมณ์ไม่ดี
พี่ชายได้รับแมสเซจน้องก็รีบลงมา...ในอีก 10 นาทีให้หลัง
มาถึงตอนนี้ไอ้คนที่บอกว่าอารมณ์ไม่ดีก็กลับเสียงหูฟังไอพอด ทำแบบฝึกหัดสบายใจไปแล้ว
พี่น้องมาอยู่คู่กัน ถึงคนในคณะวิทย์จะเห็นบ่อยๆ แต่ทุกครั้งก็ยังให้ความรู้สึกละลานตาอยู่ดี
ชินแค่เดินมาที่โต๊ะที่น้องชายนั่งอยู่ แล้วหยุดยืน
“อีกนานมั้ย” คุณน้องชายเคาะโต๊ะไม่เงยหน้าขึ้นมอง
“สักชั่วโมงนึง” คุณพี่ชายยืนมองคนที่กำลังเคาะโต๊ะ
“งั้นผมกลับบ้านแล้ว”
“เพราะอารมณ์ไม่ดีที่ว่าน่ะเหรอ”
“เปล่า เวลาเปลี่ยนอารมณ์เปลี่ยน ก็ผมวัยรุ่นอ่ะ ตอนนี้ชักเบื่ออยากกลับบ้านแล้ว”
พี่ชายยกมือ “ขออีก 10 นาที ไปเก็บของก่อน”
“ก็ไหนบอกว่ายังทำงานไม่เสร็จ”
“ก็ยูบอกว่าเบื่อ”
น้องชายพยักหน้า “กลับไปทำงานเหอะ ผมไปเดินศูนย์หนังสือก่อน เสร็จแล้วเรียกมาละกัน”
เดินอยู่ในศูนย์หนังสือ ก็พบกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง เมื่อยืนอยู่ใกล้ยิ่งชัดเจนว่ามีดวงตาสีเขียว
“อ้าว ยังไม่เจอพี่ชายเหรอ” พี่รีถามยิ้มๆ
“เจอแล้ว แต่เขายังทำงานไม่เสร็จ”
“เรื่องปกติของการเรียนมหาลัย เดี๋ยวยูเข้ามหาลัยก็เป็นแบบนี้แหละ”
อาจเพราะอาจารย์ที่เดินผ่านมา พูดจาทักทายกับพี่รี ด้วยท่าทางคุ้นเคย เหมือนกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยอีกหลายคน ที่ทำให้ยูลดการระวังตัวลง
แต่ยังไงนี่ก็คนแปลกหน้าละนะ’
ยูเดินเลี่ยงจากแผงนิตยสารมาที่หนังสือนอกเวลา แต่พี่รีก็เหอะคุยไปก็คอยมองไปว่าหนุ่มน้อยเดินไปทางไหน พอร่ำลาเสร็จก็ทำเป็นเดินดูนั่นนี่ ทำเนียนมายืนใกล้อีกครั้ง
“ยูอยากเรียนคณะไหนล่ะ”
หนุ่มหน้าใสหันมามองแล้ว ทำเป็นมองหาคนอื่นทางด้านหลังพี่รี
พี่รีก็เอี้ยวตัวมาบังสายตา “ว่าไงครับ”
ยูเอียงคอวางหนังสือกลับเข้าชั้นแล้วเดินออกมาจากศูนย์หนังสือ
ก็คิดว่าเดินเร็ว ก้าวยาวๆ แล้วอีกคนก็เห็นเดินดูนั่นนี่ แล้วทำไมทุกครั้งที่หันไประยะห่างมันถึงได้เท่าเดิมนะ ยูเดินกลับออกมาถึงด้านนอกมองหาคนที่ส่งแมสเซจมาบอกว่า ออกมาจากตึกคณะแล้ว
แล้วทำไมไม่มาสักทีนะ
“น้องยู~~~” สาวๆส่งเสียงทักทายอ่อนหวานเกินพิกัด
ยูหันไปส่งยิ้มรับแบบไม่เปิดปาก สาวๆก็เข้ามาห้อมล้อมพูดคุย บ้างถามเรื่องยู เป็นอย่างไรไม่เจอกันนาน
นานตรงไหน ได้ข่าวว่ากูมามหาลัยพี่ชายอาทิตย์ละ 3 วันเข้าไปแล้ว
บ้างก็ถามไถ่เรื่องพี่ชาย
“ชินไม่แข่งเทควันโด้แล้วจริงๆเหรอ”
“ครับ” ยูตอบสั้นๆ ตายังคงมองหาคนที่มีใบหน้าเหมือนรูปปั้น
“เสียดายจริง เห็นเขาว่าเกิดอุบัติเหตุเหรอ”
ยูไม่ตอบ มองหาพี่ชายแต่สายตากลับไปสะดุดที่คนตาสีเขียวที่ยังคงยืนรักษาระยะห่าง ไม่ปิดบังท่าทีว่ากำลังมองมาด้วยความสนใจ
ใช่สะดุดที่ดวงตาคู่นั้นแหละ ที่มันดูวาวๆ แปลกๆ จนไม่กล้ามองซ้ำต้องหันไปทางอื่น หันมาอีกทีเขาก็มายืนอยู่ข้างหน้าแล้ว
“ปะ พี่เสร็จธุระแล้ว”
“คะ อะไรกัน” เสียงถามไถ่เซ็งแซ่
“อ่อ พี่ชื่อรีนาโต้ เรียกพี่รีนะ พี่นัดกับน้องยูไว้น่ะ ขอโทษนะครับ” พี่รีคว้าข้อมือของยูเดินพามาที่ร้านไอศกรีม
“พอแล้วหล่ะ เขาไม่ตามมาแล้ว”
ยูบอกเมื่อเข้ามาในร้าน
พี่รีกลับดึงข้อมือเชิงบังคับให้นั่งลง ทั้งเดินไปสั่งไอศกรีมถ้วยเล็กกลับมาวางให้
“ทานซะก่อน”
มีโทรศัพท์เรียกเข้า ยูกดรับสายพูดทันที “ผมอยู่ร้านไอติม กับพี่รี อือ อือ”
“พี่ชายตามแล้วหรือ”
“ฮะ เขามาถึงตรงข้างหน้าศูนย์หนังสือแล้วหาผมไม่เจอเลยโทรตาม”
พี่รีจ้องมองยูนิ่งๆ เป็นแววตาที่ทำให้ยูต้องคว้าช้อนตักไอศกรีมใส่ปาก
....เมื่อครู่ที่ตัดสินใจเดินเข้าไปเสือกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ก็เพราะสีหน้าของเด็กหนุ่มที่ดูเจื่อนไปในทันทีที่สาวๆ กลุ่มนั้นพูดเรื่องอุบัติเหตุของชิน
ชินคือใคร คือหนุ่มอีกคนท่าทางเย็นชา ที่อยู่กับยูหรือเปล่า
จะใครก็ตาม
แต่สีหน้าของยู คนที่อยู่ข้างหน้านี่แหละที่มันทำให้พี่รีไม่อยากอยู่เฉย
เดือดร้อนอะไรกับเขาวะเนี่ย นายรีนาโต้
เออ จะเรื่องอะไรก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่า คนหล่ออย่างรีนาโต้ไม่สบายใจที่เห็นหนุ่มน่ารักทำหน้าจ๋อยละกัน
“รสนี้อร่อยมั้ย”
“ช็อคชิพก็งี้แหละ”
เออ..ตอบอะไรแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
พี่รียิ้มกว้าง ทำให้ยูพลอยต้องก้มหน้าซ่อนยิ้มไปด้วย
“พี่ไม่กินล่ะ”
“ไม่หรอก”
“กลัวคอเรสเตอรอลขึ้น น้ำตาลปรี๊ดทำสถิติใหม่ละดิ”
“โห ชั้นนี้ออกกำลังกายประจำ ควบคุมอาหารไม่มีกลัวอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว”
“ก็ที่ทำอย่างนั้นเพราะกลัวคอเรสเตอรอล กับน้ำตาลไม่ใช่หรือไง”
“เออใช่” พี่รีทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกออกได้เนียนขึ้นเทพ
ยูตอบแทนด้วยรอยยิ้มกว้าง แต่หุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นคนเดินผ่านกระจกหน้าร้าน อ้อมไปผลักเปิดประตู
“พี่ชินมาแล้ว” เด็กหนุ่มลดเสียงลง พี่รีก็ทำท่าพยักหน้า พลอยนั่งหลังตรงวางมือบนตักตามไปด้วย
ชินเดินตรงเข้ามายืนข้างโต๊ะ ใช้เพียง เศษ 1 ส่วน 10 ของหางตามองพี่รี
“ทำไมมากินอะไรกับคนแปลกหน้า”
พี่รีถึงกับกลืนน้ำลาย ขณะที่ยูรีบบอก
“ผมรู้จักกับพี่รี”
“เสร็จหรือยัง จะได้กลับบ้าน”
ยูอ้าปากแล้วหุบลงพยักหน้า หันมาหาพี่รี ที่ลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณที่เลี้ยงไอติมฮะ”
“ไม่เป็นไร ไว้เจอกันนะ”
ชินหันมามอง รอยยิ้มดุที่มุมปากบวกกับการมองจากหางตาเพียงแค่ 1 ใน 20 เหมือนบอกว่า ไม่มีทางได้เจอ
จนเดินออกมานอกร้านกลับไปเอารถที่จอดไว้ พี่รียังเดินตามมา
ชินหยุดเดินหันขวับกลับไปหา
“มีอะไร” ห้วนมาก ดุมาก
“พี่จะไปเอารถทางนี้พอดี ก็เดินไปด้วยกันไง” พี่รีทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่เริ่มรู้สึกถึงอาหารหวงในระดับผิดปกติ
แต่คนอย่างนายรีนาโต้ ไม่ขอใช้ทักษะในการคาดเดาถ้าทิศทางการคาดเดานั้นมันเดินหน้าไปทางลบ
คนตัวโตตาสีเขียวเดินไปอีกด้านของยู ยัดกระดาษแผ่นเล็กใส่ฝ่ามือ
ยูรีบซุกลงกระเป๋ากางเกงก่อนที่ชินที่เดินหลังตรงอีกด้านจะทันเห็น
เดินมาถึงรถบีเอ็มของชินก่อน ยูก็หันไปสวัสดีพี่รี แล้วเข้ามาในรถ
กลายเป็นพี่รียืนส่ง 2 หนุ่มเสียได้
รถมาจนเกือบถึงบ้านของยูอยู่แล้ว พี่ชายถึงได้ถาม
“รู้จักไอ้พี่รีนี่ได้ยังไง”
“เขามาขายรถที่สำนักอธิการมหาลัยพี่น่ะแหละ”
พี่ชายทำเสียงขึ้นจมูก นึกคุ้นหน้าไอ้คนตาสีเขียวคนนี้ขึ้นมา
“ทำไมพี่ถึงชอบทำท่าแบบนี้ทุกทีเลยนะ” ยูทำบ่นเล่นๆ แต่ชินไม่เล่นด้วย
“ยู พูดอะไร”
“ก็...” ยูเหลือบตามองมีขาวซีดที่จับพวงมาลัยรถแน่น “ผมก็แค่คุยกันธรรมดา ค่อนไปทางห่างเหินแล้วด้วยซ้ำ”
“ยูไม่ควรคุยกับมัน”
ยูจ้องมองพี่ชายเหมือนอยากพูด แต่ที่ทำก็คือการมองออกไปนอกรถ ความหงุดหงิดของจริงเริ่มมาเยือน จากประวัติการเป็นพี่น้องอันยาวนาน ทั้งคู่แทบไม่เคยทะเลาะกันเพราะชินมักตามใจน้อง ส่วนน้องก็หยวนๆตามพี่ไป
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ที่ในช่วงหลายวันมานี้ ต่างคนต่างกลายเป็นคนอารมณ์สั้นขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
“ยังไงมันก็เป็นคนแปลกหน้า สุ่มสี่สุ่มห้าไปคุยกับมัน แล้วยังไปนั่งกินไอศกรีมกับมันอีก เกิดมันเอาอะไรใส่ในไอศกรีมขึ้นมา หรือป้ายยา”
“พี่ชิน!”
“ยู แค่เจอมัน คุยกับมันไม่กี่นาทียูพูดกับพี่แบบนี้แล้วเหรอ”
“ก็พี่ชินคิดไปถึงไหนเนี่ย ในมหาลัยพี่นะ คนให้คึ่ก ถึงผมจะนั่งโต๊ะเดียวกับเขา แต่มันมีอะไรส่วนตัวที่ไหน”
ยูใส่เป็นชุดด้วยความหงุดหงิด
เอาเฉพาะแค่ความหงุดหงิดของวันนี้นะ
อาการนี้แรกสุดเลยที่มันมา ก็เพราะพี่รีที่มาทำพูดนั่นนี่เหมือนสนิทกันมาแต่ชาติปางไหน แล้วมันก็หายไปตอนนั่งฟังเพลงรอพี่ชาย แล้วตอนนี้มันก็มาอีกครั้ง ทั้งมีความแรงมากกว่ารอบแรกด้วยซ้ำ
=*=* จบตอนที่ 4 =*=*
ฉลองการตกไปหน้า 3 แม่เจ้า !!!!


ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์