::Epilogue::‘ขอบฟ้าที่เรานั่งมองคราวนั้นยังมีความหมาย ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย..’.
.
เสียงเพลงดังมาจากเครื่องเล่นแผ่วเบา
ผมเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เหล่ตามองไอ้คนที่นอนกวัดไกวตัวเองอยู่ในเปลอย่างหงุดหงิดใจ
‘..ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป แค่ได้คิดถึง-’จึ๊ก!
เสียงเพลงหยุดลงแค่นั้น
ผมเองล่ะครับที่เดินไปปิด ทำเอาอารมณ์คนฟังสะดุดหยุดกึกลงฉับพลัน
“อะไรของมึง?”
คนฟังเงยมองผมสีหน้างอง้ำ
“กูก็เหมือนคนอื่นทั่วโลกนั่นแหละ”
ผมชี้แจง เอกสารกวัดไกวอยู่ในมือ
“ที่รู้ดีว่ามึงรู้สึกยังไงกับมัน”
ผมมองหน้าเพื่อนรัก มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตอบกลับมา
“พูดเรื่องอะไรของมึง”
เรื่องอะไร เรื่องอะไรเหรอ.. ไอ้หนุ่มช่างถามมาได้!
“ทำไมมึงไม่ไปหาไอ้โจ แทนที่จะมานอนฟังเพลงรำพึงรำพันอยู่อย่างนี้”
ผมว๊าก
ไอ้หนุ่มยกตูดขึ้นจากแปล
“กูไม่มีความจำเป็นอะไรต้องไปหามัน ที่กูมาอยู่ตรงนี้เพราะกูอยู่โครงการเดียวกับมึงนะ เรามาปรึกษางานกัน”
ใช่ครับ.. ก็เพราะแบบนั้นไง..
“หนุ่ม.. อาทิตย์เราสอบเสร็จแล้วนะ”
มันเลิกคิ้ว
“แล้วไง?”
ผมเอามือแตะไหล่มัน..
“ต่อจากนั้นเราต้องไปเยอรมันกันไง..”
“เออ.. แล้วไง”
มันถามไม่ใส่ใจ ปัดมือผมออก แล้วเดินไปศึกษาเอกสารในส่วนของมันบ้าง
ผมถอนหายใจ
เรื่องบางเรื่อง คนข้างๆก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกครับ..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“Hardware Technology Development : Project management to coordinate the efforts of various disciplines and oversee moderately complex projects from concept through long-term support of in-service systems….”
เกรย์แย่งเอกสารจากมือผมไปนั่งอ่าน
เราเอนหลังพิงกันริมอ่างแก้ว..
“แปลว่า เราต้องการจอมยุทธ์ผู้มีฝีมือไร้เทียมทานเพื่อชิงจ้าวยุทธภพ โค่นจอมโจรแห่งหุบเขาคนโฉด ปกป้องวัดเส้าหลินจากจอมมารบู สั่งสอนใจแอนท์ให้รู้จักความมีเมตตา และสืบคดีฆาตรกรรมในห้องปิดตายร่วมกับโคนัน ใช่มะ?”
ไอ้เกรียนถาม
ผมหัวเราะร่วน แต่แล้วเราก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน..
ผมหันหน้ากลับมา โอบมันไว้ในอ้อมอก..
“ทัศน์...”
เกรย์เรียกอู้อี้ในวงแขน
“อืม”
ผมครางรับ
“อย่าลืมกูนะ..”
มันกอดแขนผมไว้อีกทีหนึ่ง
ผมกระชับอ้อมอกแน่นขึ้นแทนคำตอบว่า.. ไม่มีวันเสียล่ะ
..ใครจะลืมเมียตัวเองลงวะ..แถมเป็นเมียเกรียนที่ไม่อาจหาได้อีกแล้วทั้งโลกนี้และโลกหน้า..
เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่เราทุกคนคร่ำเคร่งกับการสอบ
ผมกับไอ้หนุ่มติวกันหามรุ่งหามค่ำ เราเรียนสาขาเดียวกันครับ ทำโปรเจกต์ร่วมกัน และเดือนหน้านี้ เราก็จะไปร่วมโครงการกับบริษัทที่เยอรมนี..
“กูอยากให้เราอ้างอิงถึงสิ่งที่มีคนคิดมาก่อนแต่ล้มเหลวไป และชี้แจงสาเหตุว่าทำไม”
ผมแจกแจง
“และบอกเขาว่าทำไมเราถึงจะทำให้สำเร็จได้!”
ไอ้หนุ่มโยนปากกา
“น้ำ..”
มือขาววางแก้วน้ำไว้ตรงหน้าไอ้หนุ่ม และอีกแก้วหนึ่งสำหรับผม
ผมเงยขึ้นมอง..
..มันมองตอบ
“ทำงานต่อเถอะ มีสมาธินะ”
รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้า..
รอยยิ้มที่เห็นแล้วผมไม่มีทางจะย่อท้อ
..เกรย์เป็นคนที่สวยงามที่สุดเสมอสำหรับผม..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
การสอบดำเนินผ่านไปพร้อมกับฤดูหนาวที่ห่างหาย ใบไม้ร่วงลงจากต้นความร้อนเพิ่มระดับขึ้น
ผมยืนรอไอ้หนุ่มหน้าห้องสอบ เงยหน้ามองท้องฟ้า.. ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ..
เสียงฝีเท้าก้าวออกมาจากห้องสอบ เดินมายืนข้างผม
ไอ้หนุ่ม.. มันเอนพิงพนังมองไปอีกที ใบหน้าเฉยเมย..
ภายใต้ใบหน้าเย็นชา เราสองคนอาจกำลังคิดถึงสิ่งเดียวกัน
..ใครสักคนที่เรารัก
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“ว่าที่วิศวกร พี่ทัศน์สุดหล่อจะไปเยอรมันวันไหนเหรอครับเกรย์”
ผมได้ยินเสียงน้องนนเอ่ยถาม ขณะเดินมาหยุดหน้าร้าน ‘เฮ้ย ไอ้เห่ย’
เมียรักของผมชะงักจากการเขียนหนังสือ ยังไม่รับรู้ว่าผมมาถึงแล้ว
“อาทิตย์หน้า”
มันตอบน้องนน
เด็กเนิร์ดชงกาแฟไปวางให้ลูกค้าเสร็จแล้วก็เดินมานั่งตรงข้าม
“เกรย์คงจะคิดถึงพี่ทัศน์แย่เลยนะครับ”
….
……..
…………ไม่ใช่เกรย์คนเดียวหรอกครับ ผมก็คงคิดถึงมัน..แทบขาดใจ..
“อืม..”
ไอ้เกรียนครางรับ กลับไปก้มหน้าเขียนหนังสือต่อ
“บางที พี่ทัศน์อาจจะไม่ไป เพื่ออยู่กับเกรย์ก็ได้นะครับ”
“นน”
ไอ้เกรียนเงยหน้าขึ้น
“การที่มีความรัก ไม่หมายความว่าต้องทิ้งความฝันหรอกนะ..”
“ตอนที่กูเขียนหนังสือไม่ได้ ทัศน์ไม่เคยคิดว่าธุระไม่ใช่ มันให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือกูตลอด ทั้งๆที่เราคนละสายงานกัน”
เกรย์จับปากกาแน่น
“ทัศน์อยากเป็นวิศวกร ถ้ามีอะไรที่มันทำแล้วเพิ่มความรู้ความสามารถ ทำให้มันทำความฝันของมันให้เป็นจริงได้ กูจะสนับสนุนมัน..”
“แต่คงนานนะครับ กว่าเกรย์กับพี่ทัศน์จะได้เจอกันอีก”
น้องนนเอามือแตะไหล่เพื่อนเบาๆ
เกรย์ยิ้ม
“ความรัก..มีค่าเพียงพอให้คนเราอดทนและรอคอยเพื่อมัน..”
ผมเต็มตื้น..
ต่อจากนี้..ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีวันว้าเหว่ในหัวใจอีกต่อไปแล้ว
ผมกระแอมเบาๆ แล้วเดินเข้าไปในร้าน
ใบหน้ายังแสดงความซาบซึ้งใจ
“เกรย์..”
“ขี้ไม่ออกเหรอมึง ทำหน้าพิกล”
มันทัก
บุ้งงงง!
ความรู้สึกลึกซึ้งเมื่อครู่นี้เหือดหายไปในทันที
“งานเลี้ยงส่งกูล่ะ จัดเลย จัดๆๆๆ”
ผมทวง
ไอ้เกรียนลุกขึ้นเท้าเอว ทำหน้าเบี้ยว แบมืออกยื่นมาข้างหน้า
“งบ!”
ให้ตายเถอะ!
เห็นอนาคตเลยกู เห็นอนาคต!
มันคงรู้ว่าผมคิดอะไร จึงยักไหล่ชี้แจง
“เอ้า มึงไม่รู้เหรอว่านักเขียนไส้แห้ง?”
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
“เอ้า ชนนนนนนนนนนนนนนนนน!”
ในค่ำคืนที่เสียงดรตรีคลอเคล้า สมาชิกที่เหลือในร้านเหล่มองเราสองคนอย่างเอือมๆ
แต่เราหาสนใจไม่!
“เอ้า ชนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!”
เสียงแก้วกระทบกันดังเกร้ง
คนสองคนกระดกแก้วเบียร์เข้าปาก นั่งหันหน้าเข้าหากัน.. บนพื้น -*-
ใช่ครับ - - ผมกับเกรย์
“พวกมันช่างมีวิธีร่ำลาที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาเอาซะเลยนะพี่”
เสียงใครวะ ไอ้โกมั้ง มันกำลังพูดกับพี่กรีน พูดถึงใครก็ไม่รู้ช่างเถอะ
เอ้า เกรย์ ชน!
“ท๊าดดดดดดด”
เสียงไอ้เกรียนเริ่มยานคาง…
“ว่างายยยยยยยยยย”
เสียงกูก็ไม่แพ้กันนี่หว่า
“กูร๊ากกม..เอิ่ก”
มันเรอก่อนครับมันเรอ
“ร๊ากกมึง…อืม”
ผมกอดหัวมันไว้.. หอมไปฟอดหนึ่ง
“กูก็ร๊ากกกกมึง”
“ทัศน์ๆ เอ้า ชนนนน!”
เกร้ง!
“มันเมาแล้วทั้งคู่นี่หว่า”
เสียงใครสักคนพูดขึ้น

<< น่าจะเป็นหน้าตาของคณะพรรคที่เหลือ
“มาๆ มึงเต้นกาบบบกูหน่อยยย”
ไอ้เกรียนเมาแล้วพร้อมจะลุกขึ้นเต้นตามแบบฉบับมัน
ยืนโอนเอนโอนเอน ส่งมือมาให้ผมจับ ไอ้ผมเมาๆมึนๆ เมียส่งมือมาให้ก็จับสิครับ
มันโน้มตัวลงมา ดวงตาที่กึ่มๆของเราทั้งคู่จ้องกัน ริมฝีปากใกล้แนบชิด..
แต่ไอ้เกรียนหามีปัญญาดึงผมขึ้นไปไม่ มันมาเซลงมากองอยู่บนตักผมซะงั้น! โธ่!
“อารายวะ มึงดึงกูโลงงงมา งึ่ม”
มันพึมพำ
ผมหัวเราะร่วน โอบประคองมันลุกขึ้น แล้วเต้นยักย้ายกันในท่าที่เราคิดว่าเหมือนซุปเปอร์จูเนียร์ผสมกับดงบังชิงกิและผสมร็อคสะเดิดอีกทีหนึ่ง
“เฮ๊ย หนุ่มมม ขอเพลงหน่อยยเว้ยยยย เอิก”
ผมตะโกนหาเพื่อนที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกัน
สายตามึนๆงงๆมองเห็นไอ้หนุ่มส่ายหน้าบางๆ แล้วเดินขึ้นไปหน้าเคาเตอร์ เวทีจำเป็นของเราในค่ำคืนนี้
“พี่ อืม โจ ไปเล่นกีต้าร์ให้พี่หนุ่มเขาหน่อยยยย ผมจาเต้นกาบทัศน์ งืมมม”
เกรย์คว้าแขนไอ้โจแล้วผลักไสไป
ปกติมันเป็นคนเล่นดนตรีเองน่ะครับ แต่คาดว่าตอนนี้คงเล่นไม่ไหวแล้ว
ไอ้โจทำหน้าไม่ถูกอยู่อึดใจหนึ่ง
“ช่วยที จาเต้นกาบบเมีย”
ผมช่วยเสริม
ไอ้โจจึงค่อยๆเดินไปหยิบกีต้าร์และเสียบสายไฟ
“จะร้องเพลงอะไรละ”
มันหันไปถามไอ้หนุ่ม โอบกีต้าร์ไว้ด้วยแขนทั้งสอง
ไอ้หนุ่มมองตา..
มันมองกัน..ไม่รู้เมื่อไหร่จะเล่น..
‘..ตอบใจตัวเองมานาน แอบรอคอยเธอก็รู้
อยากให้เธอลองตรองดู ในความทรงจำเก็บไว้
..ต่างคนมีทางต้องเดิน อาจมีเวลาต้องไกล..
..หนึ่งคนยังคงคอยใจ ยังคงคอยไปอย่างนั้น..
อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า.. แต่ยังมีใจถึงกัน..
จะโยงใยความสัมพันธ์..จนมาพบกันใกล้ตา
ต่อเติมแรงใจเมื่อท้อ..แบ่งปันในยามทุกข์ตรม..ไม่หวั่น
ต่างคนเติมใจให้กัน..เติมใจซึ่งกัน..จนเต็ม..’. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผม เกรย์ ไอ้หนุ่ม ไอ้โจ ไอ้โก พี่กรีน ไอ้แอร์ น้องนน ไอ้ทิว น้องกร และคนที่เหลือในหมู่บ้าน ล้อเล่นครับล้อเล่น
พวกเราสิบคนยืนออกันอยู่ที่สุวรรณภูมิ เดินทางแค่สองคนครับที่เหลืออีกแปดน่ะถ่อมาส่ง
เรามาเดินมาถึงทางเข้าสำหรับผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศ
“ต้องแยกกันแล้วสินะ”
พี่กรีนยิ้มบางๆให้ผมกับไอ้หนุ่ม
“เอ้าๆ ใครอยากพูดอะไรกับสองคนนี้ เร็วๆเข้าเร็วๆ”
น้องนนยกมือดุ๊กดิก
“ขอให้พี่ทัศน์กับพี่หนุ่มเดินทางปลอดภัยนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จด้วย”
ไอ้แอร์ยิ้ม เอามือยีหัวแฟน
“ผมก็เหมือนกันนะครับ พี่ทัศน์พี่หนุ่ม”
“แล้วรีบกลับมาเจอกันนะเว้ย”
ไอ้โกเข้ามาตบไหล่เราสองคน
“โชคดีครับพี่ทัศน์ พี่หนุ่ม”
ไอ้ทิวพูดบ้าง
น้องกรยืนอยู่ข้างยิ้มให้เรา
“โชคดีเช่นกันครับ..”
แล้วก็จบด้วยความเงียบ..
สายตาทุกคนมองไปยังคนสองคนที่ไม่อ้าปาก
เกรย์กับไอ้โจ..
“ขอบคุณมาก ขอบคุณโจกับเกรย์สำหรับคำอวยพร”
ผมยิ้มและพูดกวนตีน
ไอ้เกรียนแสยะเขี้ยว
“เออ อย่าลืมว่ามึงต้องทำมาหากินเลี้ยงกู”
เหยดดด!
ไอ้โจหัวเราะเบาๆ
“ไปเถอะน่ะ”
ผมมองตาเกรย์.. มันหันหน้าไปทางอื่น..
ผมรู้ครับ ทำไมจะไม่รู้.. ว่ามันทั้งรักและปรารถนาดีกับผม
มันคงคิดถึง..เกินกว่าจะมองภาพผมหันหลังเดินจากไป..
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ..ผมยังอยากจะสวมกอดมันอีกสักครั้ง ก่อนจะเข้าสู่ห้องผู้โดยสาร
..พอๆกับที่ผมเองก็ไม่อยากทรมานใจมัน
ผมกับไอ้หนุ่มแสดงบัตรโดยสารหันหลังเดินเข้าไปเพื่อตรวจกระเป๋า..
“เข้าไปไม่ได้นะคะ เฉพาะผู้โดยสารนะคะ!”
ผมได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่สาวดังขึ้น จึงหันกลับมา พอดีกับที่..
..ผมมองไม่เห็นอะไรเพราะเรือนผมนุ่มยุ่งๆที่ยาวขึ้นมากในปีที่ผ่านมาบดบังไว้ ก้อนอะไรสักอย่างที่นิ่มๆเข้าสู่อ้อมอกผม
ผมโอบกอดไว้โดยอัตโนมัติ..
..ก็ก้อนนิ่มๆคือร่างของไอ้เกรียนนี่ครับ..
“เข้าไม่ได้นะคะ ช่วยออกไปด้วยค่ะ”
เราต่างทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของพนักงาน
เกรย์ผละออกมาจับไหล่ผมไว้แน่น
“กลับมาหากูด้วยนะมึง อย่าคิดจะหนีกูเชียว กูพูดเยอรมันเป็น กูจะไปตามมึงจนเจอ และจะแต่งงานกับมึง และ..”
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา ผมกดปากลงไปจูบภรรยาอย่างบรรจง..อ่อนโยน..จริงใจ..
..Innocent and tenderly true..เสียงสะอื้นไห้แผ่วเบาทำให้ผมผละออก กดหัวเกรย์มาแนบอก
..ให้น้ำตาทุกหยาดหยดซึมซับลงในหัวใจ..
ครับ.. ความรักมันมีค่าเพียงให้เราอดทนและรอคอย..
ผมจะกลับมา..พร้อมกับความฝันที่เป็นจริง..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
หนังสือกำลังจัดหน้านะครับ แว้บเอาบทส่งท้ายครึ่งแรกมาส่งเด้อ
ขอได้รับความขอบคุณจาก..เกรียนน้อย