INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289  (อ่าน 2424224 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheKissesHII

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากได้หนังสือ ยังจะทันอยู่ป่าวน้าาาา TT

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 o13 o13 o13 o13 o13 นี่คือสิ่งที่อยากบอกคนเขียนค่ะ!! มันเยี่ยมมากๆสำหรับเรา
ซึ้งใจมากเจงๆๆ สนุกมากๆๆๆๆ มีทุกรสทุกอารมณ์เลยบอกตรง :hao6: :laugh:
ไม่รู้จะบอกไง..บอกได้แค่ว่า ชอบมากกกกกกกกกกกก  :-[ :-[ :-[
ขอบคุณเกรียนน้อยเคอะ!! :L2: :L2: :3123: :3123: :L1: :L1:
 :pig4: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
สวัสดีครับเกรียนคนอ่าน จำกันได้อยู่ไหมนี่
สืบเนื่องจากเกรียนคนเขียนได้กลับสู่อ้อมอกม.ช.เพื่อรับปริญญา งานนี้จึงเขียนตอนพิเศษมาฝาก
คิดถึงทุกคนเสมอครับ



::INDY Special:: หนุ่มรับปริญญาต้องมา!

“บ่ฮับ?”
เสียงอู้กำเมืองอันทรงพลังดังกังวาน แม้ว่าคนพูดจะอยู่คนละมุมบ้านกับผม

“เป๋นหยังบ่ฮับ??”
เธอควงตะหลิวเดินมาจากในครัวทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่จนผมทำหน้าไม่ถูก ต้องกัดปากเบาๆ พยายามหาคำอธิบาย

“ก็หนูบ่ได้อยากฮับนี่คั๊บ มันอิ๊ด... ฮับไป๋ยะหยัง เดี๋ยวเปิ้นก่ส่งมาฮื้อ”

“สมเด็จพระเทพท่านอุตส่าห์เสด็จมาพระราชทานฮื้อตั๋ว แล้วแม่ก่อยากถ่ายฮูปโตย ต้องฮับ!!”
.
.
และนั่นก็คือคำประกาศิตที่ทำให้ผมต้องมานั่งแงะกล่องชุดครุยอยู่นี่


นายณัฐพล หวงมณี
28 ม.1ซ.2 ถ.เชียงใหม่-ฝาง
ต.ริมใต้ อ.แม่ริม
จังหวัดเชียงใหม่ 50180



หน้ากล่องที่ส่งมาจ่าไว้เช่นนั้น..


“หมวก ชุดครุย แถบคณะวิศวะสีเลือดหมู เออ ถูก.. ครบ..”
ผมพึมพำบอกตัวเองขณะเช็คของพร้อมกับใบส่งที่ทางร้านแนบมาให้

“ของคร๊บก่ลูก”
แม่ที่ดูไม่ค่อยลุ้น ไม่ค่อยตื่นเต้นและไม่ได้ตามจิกเรื่องชุดมาตลอดอาทิตย์ถามขึ้นข้างกาย

ผมยิ้มขำๆ ตอบเย้าๆ
“บ่คร๊บคั๊บ”
“อ่าว” แม่เลิกคิ้ว หน้าตาตื่น
“ขาดหยัง ขาดหยัง เบอร์โทรร้านมันเบอร์หยัง เดี๋ยวแม่โทรถาม อ่อ บ่ต้อง แม่ว่าเฮาไปตี๊ร้านเลยดีว่า ไป”
เมื่อแม่เอาจริงเอาจังจนทำท่าจะฉวยมือผมลุกขึ้น ผมจึงต้องยื้อไว้และเอ่ย
“บ่ต้องแม่ ก่ตี๊ขาดน่ะ มันขาดความต้องก๋ารของลูกไงจ้ะ”
“ตั๋วนี่” แม่ยิ้มเขิน ตีแขนผมเบาๆ ถอนใจนั่งลงข้างๆ ใหม่
“นี่ตั๋วต้องซ้อมกี่วันก่อนฮับลูก”

ผมหาใบกำหนดการตาม Facebook แล้วตอบ
“ต้องซ้อมสามวันครั๊บ 19-21 แล้วก่ฮับแต๊ 22 แต่จ้วง 17-18 หนูก่ต้องเข้ามอไปรายงานตั๋วจ้ะแม่”

แม่พยักหน้า
“บอกโจแล้วแม่นก่ลูก?”
ผมเงยหน้าขึ้นจากกำหนดการในทันใด
“บอกหยัง..”
“อ้าว ก่บอกว่าตั๋วจะปิ๊กเข้ามอ ว่าตั๋วฮับปริญญาโตย”
“ยังครั๊บ”
ผมหลบสายตาไปทางอื่นขณะแม่เลิกคิ้ว
“แล้วเป๋นหยังบ่บอก แล้วนี่โจยะก๋ารตี๊ไหน”
“ตี๊เดิมมั้งครั๊บ บ่แน่ใจ๋”ผมตอบตามตรง
“เอ๋า” แม่ทำท่างงหนัก  ผมจึงต้องหันมาสบตา
“บ่ได้คุยกั๋นครั๊บแม่ เมินแล้ว..”

ใช่ครับ..
ผมไม่ได้บอกมันว่าจะรับปริญญา
ผมไม่รู้ด้วยว่ามันทำงานที่เดิมรึเปล่า
นานแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน
ก็คงนานพอๆกับเวลาที่ผมเรียนจบออกจากมหาวิทยาลัยมา

แม่มองผมอย่างพิจารณา
“แล้วตี๊ตั๋วเปลี่ยนเบอร์ใหม่ ตั๋วบอกโจก่?”

ผมส่ายหน้า.. ก้มลงอีกครั้ง ทำทีเป็นอ่านกำหนดการ
แม่ถอนใจ
“เป๋นหยังล่ะลูก เพื่อนดีๆของเฮานี่เฮาต้องไปมาหาสู้เน้อลูกเน้อ บ่ใจ๊ทำเป๋นลืมกั๋น เพื่อนแต๊บ่ได้เซาะกันง่าย”
แม่พร่ำสอน
“ต๋อนที่ตั๋วสึกแล้วไป๋ตี๊นึ่งของตั๋ว โจก่มาตามเซาะตั๋ว มาตี๊บ้าน เปิ้นห่วงตั๋ว โจคึดเติงหาตั๋วเน้อ”

“ไอ้โจมาหาผม?”
ผมเงยหน้ามองแม่.. แม่ก็มองผม แล้วพูดเน้นๆ
“ตึงวัน”

หลังจากร่างเจ้าเนื้อ ใบหน้าใจดีเดินจากไปทำกับข้าวผมก็ยังได้ยินเสียงแม่บ่นกับตะหลิว
“มาตึงวัน ตลอดเวลาตี๊ตั๋วบ่อยู่ ก่อนตี๊จะโทรบอกแม่ว่าฮู้แล้วว่าตั๋วไป๋ตี๊ไหน ฮื้อแม่บ่ต้องห่วง”

.

.


ตั้งแต่เจอกันอีกครั้งที่แม่ละ..จนกระทั่งกลับมาเรียน ผมกับโจก็ไม่เคยพูดย้อนกลับไปเรื่องอดีตอีกเลย
ผมไม่เคยถาม จึงไม่เคยรู้ ว่ามันตามหาผม แม้ผมจะไม่อยากคิดว่าเราไปเจอกันที่นั่นด้วยความบังเอิญ..

.

.

ผมออกมาเดินเล่นในลานบ้าน
ลมพัดแผ่วๆ ต้นไม้ใบหญ้าในบ้านไหวเอน
และคำพูดผู้เป็นมารดาก็กำลังทำให้ปณิธานที่ผมตั้งเอาไว้สั่นไหว..

แม้ไม่อยากคิด แต่ใจผมก็ประหวัดกลับไปถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกัน
ปีสี่ของมัน ปีสามของผม.. พร้อมโกกับทัศน์ มีน้องเกรย์และผองเพื่อนมาเอี่ยวเป็นพักๆ
นับเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่มีความสุข
ผมกับโจเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน..แทบจะเหมือนตอนมัธยมปลาย ก่อนที่เราจะรักกันในรูปแบบอื่น
และจบลงด้วยความผิดของผม..


ครับ..เรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
แต่เมื่อฉันได้เห็นแววตาครั้งใด.. ผมก็รู้เสมอว่าเรารู้สึกต่อกันยังไง


ตั้งแต่เรียนจบ ผมจึงตัดสินใจให้ความสัมพันธ์ของเราจบลงไปด้วย
แม้ก่อนหน้านั้นเราจะได้เจอกันบ่อยๆ ที่ร้านกาแฟของแม่เกรย์และเคยไปเยี่ยมน้องไอดิลด้วยกัน
แต่ผมไม่อยากให้ความรู้สึกเดิมทำให้หวั่นไหวมากเกินไปจนเผลอตัว
ผมย้ายหอ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ แม้จะยังคงเมมเบอร์มันเอาไว้ในซิมใหม่ แต่ก็ไม่เคยกดโทรหา


.

.

“นุ่ม วันพู้กก่ต้องไปรายงานตั๋วแล้วนี่ลูก ฮื้อไค๋ไปโตย”
แม่ถามในวันรุ่งขึ้น
“ฮื้อป้อไป๋ส่ง แล้วก่เข้ามอคนเดียวก่ะ ต้องมีไค๋ไปโตยเล่าแม่”
“แล้วเป๋นหยังบ่บอกโจ ตั๋วฮับโตยรุ่นน้อง บ่มีเพื่อนไป บ่กั๋วก๋า?”
“กั๋วหยังเล่าแม่”
ผมรีบเดินหนี

ตั้งแต่ลางานมารับปริญญาอาทิตย์นี้ ผมเจอแม่ไล่ต้อนเรื่องไอ้โจทุกวัน
แม่เองคงรู้ดีว่าผมจะประหม่าเมื่อต้องเข้ามออีกครั้ง จึงพยายามให้ชวนโจไปด้วย

ผมถอนใจ ค่อยๆ ล้วงมือถือเครื่องจิ๋วออกมาจากกระเป๋ากางเกง
นั่งมองเฉยๆ พักใหญ่  ก่อนจะลงมือกดเปิดสลับกับปิดหน้าจออยู่อย่างนั้น
เมื่อเปิดอีกครั้ง ชื่อ Jo ก็โชว์อยู่บนหน้าแรกอย่างที่เป็นมาราวค่อนวัน พร้อมฟังชั่น โทรเสียง โทรวิดิโอและส่งข้อความ

นิ้วโป้งผมจะกดแหล่มิกดแหล่บนสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์...
ก่อนผมถอนหายใจอีกรอบ กลับไปที่หน้าจอหลักและวางโทรศัพท์ลง

สองปีมานี้ ผมเรียนรู้อยู่สองอย่าง หนึ่งคือ.. ความคิดถึงมันทรมานแค่ไหน
และสอง.. ผมมีความอดทนมากขนาดไหน

.

.

เนื่องจากมันเป็นวันอาทิตย์ สถานศึกษาแห่งนี้จึงเงียบกว่าปกติ และเช่นกันที่จะวุ่นวายน้อยกว่าปกติ
พ่อแวะส่งผมที่หน้ามอ ก่อนจะไปทำงานต่อ
ดอกไม้บานชูช่อ บัณฑิตกับครอบครัวและผองเพื่อนถ่ายรูปรับปริญญากันอยู่หลายจุด
ผมยิ้มบางๆ มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกหลัง ก่อนที่ผมจะเห็นป้าย
‘Tourists Parking’
และมีกำกับภาษาจีนด้านล่าง

ห๊ะ??
ผมเลิกคิ้ว หันซ้ายแลขวา
มีรถม่วง(ซึ่งเป็นสีเขียว) บริการนักท่องเที่ยวด้วย ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ
หรือผมเข้าใจผิดไปวะ บอกผมที
นี่ ม.ช. กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มรูปแบบไปแล้วรึนี่?

‘ที่ศึกษามหาวิทยาลัยในเมืองงามของนามเชียงใหม่..’
ผมประหวัดนึกถึงท่อนแรกของเพลงดาว ม.ช. ซึ่งบอก Function หลักของคำว่า ‘มหาวิทยาลัย’
‘สถานศึกษา’ ครับผม ‘ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว’

ผมไม่ได้แอนตี้การที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใน ม.ช. นะ ไม่เลย ผมเองก็ชอบเข้าไปในมหา’ลัยอื่นๆ เช่นกัน
แต่มันต้องเป็นการ ‘เข้าไปแบบเข้าใจ’ ว่าที่นี่คือสถานศึกษา ซึ่งมีไว้สำหรับศึกษาหาความรู้
นักท่องเที่ยวต้องรู้ตัวว่าเขาเข้าไปทำสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยมชม’ ไม่ใช่ ‘ท่องเที่ยว’
แล้วมหาวิทยาลัยเองก็มีหน้าที่ปกป้องสิทธิของนักศึกษา เพราะการส่งเสริมการท่องเที่ยวในมหาวิทยาลัยอย่างออกหน้าออกตาน่าจะไม่ช่วยส่งเสริมด้านการศึกษา แต่ออกจะเป็นการรบกวนการใช้ชีวิตของนักศึกษาในพื้นที่มหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ แถมยังสร้างมลพิษเพิ่มอีกด้วย

ถ้าอยากส่งเสริมการท่องเที่ยว ร่วมงานกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเลยครับ ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวเลย แล้วส่งเสริมการศึกษาด้วยการนำนักศึกษาสาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรมหรือสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้องไปร่วมด้วย ผมว่าเข้าท่ากว่านะ


ผมยืนออกนอกเรื่องอยู่นาน ก่อนจะตระหนักได้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่
ผมพยายามปลงๆ ว่าอะไรอะไรมันก็เป็นไปตามวิวัฒนาการ อย่าไปยึดติดมันมาก ชีวิตจะเครียด
ก่อนจะขึ้นรถม่วง (ตัวจริง) เพื่อโดยสารไปยังอาคารเรียนรวม สถานที่รายงานตัวบัณฑิต

.

.

ผมเลือกมาวันอาทิตย์ เพราะหวังว่าว่าบัณฑิตจะมารายงานตัวกันวันเสาร์เป็นส่วนใหญ่ไปแล้ว
ผมแต่งกายด้วยชุดสุภาพ เสื้อเชิ้ตกางเกงสแลค แลดูไม่ค่อยต่างกับนักศึกษาเท่าไหร่
อากาศยังคงเย็นๆ ผมจึงติดเสื้อคลุมพาดแขนมาด้วย

ผมเดินไปตามจุดรายงานตัวต่างๆ หลายขั้นตอน ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จพิธี
ผมได้รับเข็มวิทยฐานะ สูจิบัตรและบัตรเชิญผู้ปกครอง พร้อมของที่ระลึกเป็นนาฬิกาไม้มาไว้ในครอบครอง

..ตอนนี้ผมจะไปไหนดี?

.

.

‘ตั้งแต่ครั้งที่เราจากกันแสนไกล เหตุและผลมากมายไม่เคยสำคัญ
เท่ากับความรู้สึกที่ใจของฉันนั้นเก็บให้เธอ..’


เพลงนี้กลับมาคลออยู่ในหัวของผมอีกครั้ง ท่ามกลางต้นไม้และอ่างน้ำใหญ่เบื้องหน้า
ก็เหมือนทุกคราวที่ผมกลับมาที่นี่.. ยืนตรงนี้..
ผมเรียนรู้เสมอ..ว่าความคิดถึงมันทรมานขนาดไหน
แต่กระนั้น..มันก็เป็นสิ่งที่งดงามที่สุดที่ผมรู้สึก..

ผมก้มมองสายน้ำ ยิ้มบางๆ เมื่อคิดถึงวันวานที่อบอุ่นท่ามกลางผองเพื่อน ผู้ซึ่งรับปริญญากันไปก่อนแล้ว ทั้งโจและโก ส่วนทัศน์ ตอนนั้นมันอยู่เยอรมนีและไม่ได้กลับมารับ ตอนนี้มันทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และกำลังพยายามทำเรื่องย้ายมาเชียงใหม่ให้ได้ ผมคุยกับมันบ่อยๆ ทาง Facebook

ผมมารับปริญญาคราวนี้ตามความต้องการแม่
เพื่อนๆ ผมต่างแยกย้ายกันไปทำงานและมีชีวิตของตนเอง มีเรื่องที่ต้องจัดการ..
ในปีนี้ ผมจึงไม่หวังจะได้เจอใคร..

ผมถอนใจ ยิ้มกับอ่างแก้วอีกครั้ง
ก่อนจะหันหลังมาเพื่อจะต้องตกใจกับบุคคลที่ปรากฏกายตรงหน้า

.

.

“เกรย์?”

“ชุดครุยพี่ล่ะ?”

.

.
ร่างในกางเกงยีนส์เก่า เสื้อคลุมลายสก็อต เอ่ยขึ้นราวกับสานต่อบทสนทนาจนผมงง

“ห๊ะ?”

“ชุดครุยพี่อยู่ไหน?”
เกรย์ถามย้ำกับสีหน้างงงวยของผม

“อ่ะ..เอ่อ อยู่ในเป้”
ผมพยักเพยิดไปยังไหล่ขวาของตัวเอง น้องเกรย์พยักหน้า แล้วเดินมาปลดเป้ผมลงจากบ่าไปอย่างหน้าตาเฉย
เมียไอ้ทัศน์ ซึ่งตอนนี้อยู่ปีสี่แล้ว มีลักษณะเกือบเหมือนเดิม
ที่ไม่เหมือนก็คงเป็นเพราะมันผอมลงและผมยาวขึ้นจนเซอร์หนักกว่าเก่า
แต่คาดว่าอัตราความเกรียนคงเท่าเดิม

“เอ่อ..”
ผมพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์และคำพูด
เกรย์มันโผล่มาจากไหน รู้ได้ไงว่าผมอยู่ตรงนี้ นี่มันสิงอยู่ตามต้นไม้ที่อ่างแก้วรึไงวะ?

“ทัศน์ให้ผมมาศึกษางานกับพี่หนุ่มน่ะครับว่าเขารับปริญญากันยังไง ปีตัวเองจะได้ทำตัวถูก”
ห๊ะ??

เกรย์นั่งขัดสมาธิบนผืนหญ้า พูดพลาง คุ้ยชุดครุยของผมออกมาจากเป้พลางและจัดให้มันเข้าที่
ผมมองน้องเกรย์พลางนึกถึงไอ้ทัศน์

ไอ้ทัศน์เป็นเพื่อนที่ดีกับผมเสมอมา เราเพิ่งคุยกันและผมก็บอกมันไปตามตรงว่าผมจะรับปริญญา เพราะแม่อยากจะได้เห็น มันคงรู้ว่าผมจะประหม่า จึงให้น้องเกรย์มาอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้
ผมนึกยิ้มซึ้งใจ..

ก็ไอ้ทัศน์ไม่ใช่หรือที่เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจที่ส่งให้ผมอยู่เป็นผู้เป็นคนมาจนถึงวันนี้


“เกรย์สบายดีเหรอ?”
ผมนั่งลงข้างๆ

“ดีพี่”
ใบหน้าเกรียนที่เงยขึ้นมายิ้มตอบเบาๆ

“ไอดิลโตขึ้นมากรึยัง”
ผมถามค่อยๆ
รู้สึกผิดเล็กน้อยที่หายหัวไปเป็นปี
แต่ตอนนั้นไอ้ทัศน์ก็กลับจากเยอรมนีแล้ว เกรย์ก็มีเพื่อนซี๊ปึ๊กช่วยเลี้ยงลูกอีกตั้งสองคน ไหนจะไอ้โกกับพี่กรีน
คงไม่เป็นไรมั้ง..

“กำลังน่าฟัดเลยครับ  ฝากแม่ไว้”
เกรย์พูดขณะพยายามรีดชุดครุยผมให้เรียบด้วยมือ
“ทัศน์ยังอยู่กรุงเทพฯ จะพยายามขึ้นมาทันทีที่เคลียร์งานได้นะพี่ คงวันพี่ซ้อมวันสุดท้ายหรืออาจจะวันรับจริงทีเดียว”
“โอ๊ย ที่จริงไม่เป็นไรเลย” ผมส่ายหน้า
“พี่ไม่ได้ซีเรียส ทัศน์มันเป็นเพื่อนที่ดีกับพี่อยู่แล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่หนุ่มรับปริญญา ทัศน์มันก็อยากมา”

.

.

“เอาล่ะ ยืนขึ้นครับพี่”
น้องเกรย์สั่งในที่สุด แล้วผมก็ทำตาม
เจ้าตัวหยิบชุดครุยมาสวมให้ผม จัดแถบสีเลือดหมูให้เข้าที่ จัดด้านหลัง ผูกแถบกับครุย ทำได้ไปหมด จนผมงง

“นี่.. เกรย์ทำเป็นด้วยเหรอ”
ก็มันยังเรียนไม่จบเลยนี่หว่า

“อ้อ พี่จ.. เอิ่ม..ไอ้ทัศน์สอนผมไว้แล้วครับ”
“อ่อ”
ผมพยักหน้าบางๆ ก่อนจะนึกได้ว่า
“แต่ไอ้ทัศน์ไม่ได้รับปริญญานะ”

น้องเกรย์ย้ายมาสำรวจด้านหน้า ทำเป็นหูทวนลม
“หล่อแล้วพี่”

ผมมองร่างเตี้ยกว่าตรงหน้า
ไม่คิดเลย..
ว่าคนที่สวมชุดครุยให้ผมคนแรกจะเป็นน้องเกรย์
ผมนึกขำในใจ พลางสำรวจดูตัวเอง

“เออ ใส่แบบนี้ใช่ไหม พี่ถอดได้แล้วสิ”
ผมพยักหน้า แต่เจ้าเกรียนเลิกคิ้ว
“ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย เดี๋ยวก่อนสิ พี่ใส่หมวกเลย เอาพู่ไว้ด้านซ้ายนะ”

“อ่อ..”
ผมพยักหน้าอีกที พลางพยายามล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงมาถ่ายรูป

“พี่ ไม่ต้องๆ ขยับมากเดี๋ยวตะขอครุยหลุด ผมมีกล้อง”
เกรย์เบรก แล้วผมก็พยายามมองหากล้อง
มันมาตัวเปล่าชัดๆ..

เกรย์ หันไปมองอีกทาง จนผมต้องมองตามดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นไป

…..

เป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูก
ผมเคยคิดถึงเหตุการณ์นี้เหมือนกัน
เคยจินตนาการว่าจะรู้สึกอย่างไร
เคยจินตนาการว่าจะทำหน้าอย่างไร
เคยจินตนาการว่าจะพูดอะไร..
แล้วผมก็ลืมที่เคยคิดไว้ทั้งหมดไปแล้วด้วย..


..เราพบกันอีกครั้งจนได้..


ร่างสูงโปร่งสะพายกล้องก้าวช้าๆ ตรงมาหา
ใบหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
รูปร่างไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
เพียงแต่ผมที่ดูยาวและเป็นทรงมากกว่าที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย
..เมื่อปีก่อน


‘โจ’ เดินมาหยุดยืนตรงหน้าผม
แววตาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม..นิ่งสนิท..ลึกซึ้ง..และบอกความรู้สึก
แต่กระนั้นก็พยายามทำตัวสบายๆ ในขณะที่ผมกำลังตัวแข็ง

“ไง บัณฑิตใหม่”
มันทักทายยิ้มๆ เสมือนเราเพิ่งเจอกันมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหรืออะไรเทือกๆ นั้น

ผมอ้าปากสลับกับเม้ม พยายามจะพูด จะถาม ผมควรจะถามอะไรสักอย่างใช่ไหม
เช่นว่า มันมาได้ยังไง มาทำอะไรที่นี่..
แต่เหมือนมันจะรู้จากแววตาของผมจึงชิงอธิบายเสียก่อน
“อ่อ.. คือไอ้ทัศน์มันขอช่วยกู ให้มาถ่ายรูปน้องเกรย์ ที่กำลัง เออ.. ศึกษาดูงานเรื่องการรับปริญญา”

ห๊ะ?

มันต้องศึกษาดูงานกันด้วยเหรอวะ??


“เอาล่ะเกรย์ การจะรับปริญญาก็ต้องเริ่มที่ติดตามข่าวสารนะ ลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ต ปริ้นท์เอกสารตามที่สำนักทะเบียนแจ้ง แล้วก็ เออ.. มารายงานตัว อย่างที่พี่หนุ่มเขาทำในวันนี้”
โจกระแอมแล้วค่อยๆ เอิ่ม.. แนะนำเกรย์
เกรียนน้อยในหมู่ไม้ใหญ่พยักหน้า กางสมุดโน้ตเล่มเล็กและจดเร็วๆ
เฮ๊ย!! ขนาดนั้น

“ก็ตามธรรมเนียมปฏิบัตินะ บัณฑิตสวมชุดครุยก็ต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก คราวนี้พี่จะมาเป็นตากล้องให้เกรย์รู้ไว้เฉยๆ คราวเกรย์รับจริง ก็ให้ไอ้ทัศน์มาถ่ายแล้วกัน”

ผมมองไอ้โจสลับกับน้องเกรย์แล้วกรอกตาไปมา

“พี่หนุ่ม รบกวนเวลาหน่อยนะครับ ขอให้พี่เป็นนายแบบให้ผมดูหน่อยว่าบัณฑิตเขาถ่ายรูปกันยังไง”
น้องเกรย์พูดกับผมยิ้มๆ จนผมต้องเสมองไปทางอื่น

กูอยากรู้จริงๆ นี่มันเป็นความคิดของใคร?


โจยกกล้องขึ้น เปิดฝาปิดเลนส์ และมองผม
สายข้อมือสีดำ คาดตัวอักษร J&N สีเงินสะท้อนวิบวับในแสงแดดอ่อนๆ ยามสายบนข้อมือขวาที่ประคองกล้อง
“ยืนสบายๆ นะ ไม่ต้องเกร็ง กูจะถ่ายรูปให้..”

ผมกลืนน้ำลาย
มึงไม่ต้องบ่งบอกเจตนารมณ์ชัดเจนขนาดนั้นก็ได้นี่หว่า..


เราต่างมองกัน
หนึ่งปีที่ผ่านมาหายไปในกระแสแห่งกาลเวลา
เหมือนนี่แค่เป็นวันรุ่งขึ้น หลังจากเราแยกกันที่ห้องเกรย์หลังเยี่ยมน้องไอดิลวันนั้น..


ร่างสูงโปร่ง ยืน นั่งและบางครั้งก็นอน ถ่ายรูปผมทั้งจากซ้าย ขวา หน้า หลัง ก่อนที่น้องเกรย์จะแย่งกล้องไป
“พี่ไปยืนด้วยกันสิ ผมจะถ่ายให้”

“ไม่เป็นไร”
“ไม่ต้อง”

สองเสียงปฏิเสธพร้อมกัน
แต่เกรียนน้อยพ่นลมหายใจ
“มันไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอกครับและก็ไม่น่าจะท้องด้วย ผมขอรูปเดียว จะกดชัตเตอร์แค่ครั้งเดียวด้วย..”

น้องเกรย์ทำตามที่บอก คือกดชัตเตอร์ครั้งเดียว..
หลังจากผมและไอ้โจยืนเคียงกันอยู่ริมอ่างแก้ว ใต้ต้นมะพร้าวที่ผมมักมานั่งทอดอารมณ์บ่อยๆ

.

.

เราย้ายจากอ่างแก้ว ไปศาลาธรรม ไปหน้ามอและกลับไปที่คณะ จนผมหอบๆ
เราสามคนจึงมานั่งพัก ก่อนที่น้องเกรย์จะขันอาสาไปหาของกินมาให้

“ผมไปซื้อของกินนะพี่”
ร่างเล็กลุกขึ้น ปัดเศษหญ้าออกจากกางเกง ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อคิดว่าจะต้องอยู่จะไอ้โจลำพัง

“ไม่เป็นไรเกรย์ เดี๋ยวพี่ไปซื้อเอง”
โจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้าวยาวๆไปทางมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง
น้องเกรย์หันมามองผมก่อนจะนั่งลงตามเดิม ผมยิ้มบางๆ แล้วก้มลงมองหญ้า

โจแค่มาถ่ายรูปจริงๆ
มันไม่ได้เข้ามาใกล้ผมระยะประชิด
น้องเกรย์เป็นคนดูแลจัดเสื้อผ้า
น้องเกรย์เป็นคนพาผมซ้อนมอเตอร์ไซค์
น้องเกรย์เป็นคนยื่นน้ำให้ผมดื่ม

ใจนึงผมก็โล่งใจ ที่มัน ‘รักษาระยะห่าง’
ส่วนอีกใจ..

.

.

ใช้เวลาพอประมาณกว่าไอ้โจจะกลับมา เนื่องจากรถค่อนข้างติด
เราทานข้าวกันที่คณะของผม ส่วนใหญ่เกรย์เป็นคนคุย
“พี่หนุ่ม เดี๋ยวกลับยังไงครับ”
“ตอนเย็นพ่อพี่แวะรับ”
“ตอนเย็นรถคงติดครับ เดี๋ยวให้..”
เกรย์หยุดพูด หันไปมองหน้าไอ้โจ แต่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเพียงมองกลับนิ่งๆ
เกรย์จึงพูดต่อ
“เดี๋ยวให้ผมแว้นไปส่งนะ”
ผมเลิกคิ้ว
“ที่แม่ริมเนี่ยนะ”
เกรย์พยักหน้า
“ไม่มีปัญหาครับวันนี้ว่างทั้งวัน”
“แต่..”
ผมตั้งท่าจะพูด ทว่าเกรย์ขัดขึ้น
“พี่อย่าคิดมากเลย กลับไปพักแล้วรีบๆนอนดีกว่าคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าต้องมาคณะแล้วไปซ้อมที่หอประชุมต่ออีกนะ”

ผมมองดวงหน้าขาวที่ชื้นเหงื่อน้อยๆ
ไอ้ทัศน์มันได้ใครมาวะเนี่ย ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ เพื่อนก็ไม่ใช่ แต่มาดูแลผมในวันนี้
“ขอบใจ”
ผมพยักหน้า

.

.
“งั้น.. ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวเย็นแล้วรถจะติดมากไป”
เกรย์ชวนเมื่อกินเสร็จ ผมตั้งท่าจะเก็บกล่องข้าว และชุดครุยที่กองอยู่ข้างตัว
“ไม่เป็นไร มาเถอะครับพี่ เดี๋ยวพี่โจเก็บเอง”

“เอ่อ.. มะ..ไม่เป็นไร กินด้วยกัน เก็บด้วยกัน อีกอย่างชุดพี่..”
ผมตะกุกตะกัก

“รีบกลับบ้านเถอะ ทั้งซ้อมทั้งรับเหนื่อยมาก ไปพักซะ เดี๋ยวกูเก็บเอง พรุ่งเช้าเจอกันที่นี่ กูเอาชุดมาให้ มึงไม่ต้องขนไปขนมา”

ผมยืนนิ่งไปเป็นนาทีก่อนที่น้องเกรย์จะกระตุกแขนเสื้อ
“ไปครับพี่”

.

.

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ พ่อมาส่งตามเคย และขับต่อไปทำงาน
ผมเดินเข้ามอมาทางประตูวิศวะ นักศึกษาส่งเสียงจอแจตามประสา
โรคประหม่าผมยังแก้ไม่หาย เพราะปกติคุนเคยกับความเงียบ ไม่ว่าจะเป็นช่วงพักผ่อนหรือตอนทำงาน
ผมจึงหวังลึกๆ ว่าคนที่นัดไว้จะมารออยู่แล้ว..

แล้วก็จริงด้วย โจกับน้องเกรย์รออยู่ที่ม้านั่งเดิมที่เรานั่งกันเมื่อวาน
ผมพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้ม

แต่ไม่ได้มีแค่โจกับน้องเกรย์..

“ยินดีด้วย บัณฑิตใหม่”
.
.
“ไอ้โก!”
ผมยิ้มดีใจ ตรงเข้าไปสวมกอดเพื่อน ไอ้โกกอดตอบผมหนักๆ
จนเมื่อปล่อยกอดผมจึงเห็นคนข้างกายไอ้โก

“สวัสดีครับพี่กรีน”
ผมยกมือไหว้ พี่กรีนพยักหน้ารับ
“ยินดีด้วย”
“ขอบคุณครับ”

น้องเกรย์ถือชุดครุยรออยู่แล้ว จึงเข้ามาแต่งตัวให้ผม
“บัณฑิตหล่อแล้ว เชิญท่านๆ วิศวะ ถ่ายรูปกับป้ายคณะร่วมกันโลดครับผม”
น้องเกรย์ผายมือล้อๆ

“เดี๋ยวๆ รอด้วยครับๆๆๆๆ”
เสียงโหวกเหวกมาแต่ไกล
“แอร์”
ผมอุทาน เมื่อเจอน้องรหัสไอ้ทัศน์ผู้ยังคงความเข้มเสมอต้นเสมอปลาย
ไอ้แอร์น้องรหัสไอ้ทัศน์ เมทเกรย์ พร้อมกับน้องนนเมทที่พ่วงตำแหน่งแฟนก็มาด้วย
“ยินดีด้วยครับพี่หนุ่ม ผมถ่ายรูปด้วยครับ”
ไอ้แอร์ยกมือไหว้ผมแล้วรีบวางกระเป๋า
“ยินดีด้วยเหมือนกันครับ”
ผมพยักหน้ารับเมื่อน้องนนเอ่ย

สายนะมึง สติ สติ”
เกรย์จิ้มนาฬิกาข้อมือไอ้แอร์
“โทษจริงๆ มึง น่นน๊นหกล้มน่ะ กูเลยเอาแซมบัคนวดให้อยู่พักนึง”
“แอร์ครับ อย่าเรียกผมน่นน๊นต่อหน้าคนอื่นดิ๊”
น้องนนยกมือขึ้นขยับแว่นเขินๆ พวงแก้มซับสีระเรื่อ เราที่เหลือเลยฮากันไป

“เดี๋ยวผมกับนนเฝ้าของให้ ท่านๆ วิศวะไปถ่ายรูปกันเถอะครับ เดี๋ยวสายคนจะเยอะ”
น้องเกรย์เชิญอีกรอบ ไอ้โจจึงเดินนำเราไปที่ป้ายคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ผมถ่ายเดี่ยวไปแล้วเมื่อวาน

ผมไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี
ผมคิดว่าจะไม่มีใครสำหรับผม
แล้วตอนนี้…ทุกคนอยู่ที่นี่เพื่อผม..

.

.
 
“เดี๋ยวมึงไปซ้อมกับคณะใช่ไหม กูกับพี่กรีนต้องไปทำงานก่อน ไว้กูจะแว้บมาใหม่นะเว้ย”
ไอ้โกตบไหล่เมื่อเราถ่ายรูปคู่และรูปหมู่จนครบถ้วน
“ขอบใจมากนะ”
ผมเอ่ยอย่างจริงใจ

“ผมก็ขอตัวไปเรียนกันก่อนครับพี่หนุ่ม”
น้องนนว่า กระตุกแขนเสื้อทำนองให้แอร์ไปส่ง ผมรับไหว้น้องๆ

“ออกจากห้องที่พี่ซ้อม พี่ก็กลับมาที่นี่นะครับ แล้วค่อยไปกินข้าวกัน”
เกรย์บอก ก่อนกระชับเป้ บ่งบอกว่าจะแยกจากไปเรียนเช่นกัน

.

.

“เกรย์ เดี๋ยว”
ไอ้โจเรียกไว้ หน้านิ่งเหมือนเดิม แต่น้องเกรย์พ่นลมหาย ยกมือเท้าเอวน้อยๆ ท่าทางคล้ายแม่ของผมเป็นที่ยิ่ง
“พี่ ผมรีบไปเรียน พี่เอาให้กินเองเถอะ มันไม่เป็นไรหรอกน่า อยู่กันสองคนก็คงไม่หวั่นไหวมากกว่าเดิมเท่าไหร่มั้ง”
หนุ่มเกรียนว๊ากหนุ่มหล่อก่อนจะหันหลังจากไป แล้วยกมือขวาขึ้นสะบัดแบบเท่ๆ ประมาณ ‘Take it easy’ แบบที่ผมเคยเห็นในหนังฝรั่ง

ผมหันกลับมามองไอ้โจที่ทำหน้าเหมือนอยากเตะน้องเกรย์ แต่แล้วก็คงเปลี่ยนใจ เพราะน้องเกรย์น่าจะเป็นเมียเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกนี้และโลกหน้าแล้ว มันจึงมองผมนิดหนึ่งก่อนเลื่อนนมและขนมในถุงเซเว่นมาฝั่งตรงข้ามตัว
“กินซะ”

“เอ่อ.." ผมยืนเก้ๆกังๆ "กูไม่ค่อยหิว”
“กินเถอะ เดี๋ยวมึงต้องซ้อมเดิน ต้องซ้อมยื่นมือรับแล้วรับอีกจนมึงหิวเลยล่ะ”

ผมกลืนน้ำลาย ค่อยๆ นั่งลง
มันหยิบกล้องมาเปิดเช็ครูปภาพและก้มหน้าตลอดการกินของผม

ผมกินเสร็จแล้วก็เก็บใส่ถุง มองหาถังขยะ

“ไปเถอะ เดี๋ยวกูเก็บเอง สายแล้ว”
มันพูดทั้งที่หน้ายังมองกล้องเช็คภาพ

“งั้น..งั้นกูไปซ้อมก่อนนะ”
ผมพูดกับโต๊ะ
โต๊ะพยักหน้า เอ๊ย ไอ้โจพยักหน้า
“เดี๋ยวเจอกัน”

 ..เดี๋ยวเจอกัน..
เป็นวลีที่อบอุ่นได้มากอย่างน่าประหลาดใจ

ผมก้าวยาวๆ ไปทางห้องที่คณะฯนัดไว้ แต่อดใจไม่ไหวต้องเหลียวหลังกลับไปมองอีกครั้ง โจนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม แต่เก้าอี้ไม่ใช่ตัวเดิม มันย้ายไปนั่งฝั่งที่หันหน้าเข้าคณะ ที่ที่ผมกำลังเดินเข้าไป มันก้มหน้าเช็คภาพถ่ายในกล้อง ก่อนจะเงยมามองผม

ผมหลบสายตาแล้วหันกลับไป ก้าวเร็วๆ เข้าไปที่คณะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2015 15:59:22 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
‘..เหล็กที่แข็งหลอมรวมให้ละลาย
ร่วมใจร่วมกายด้วยแรงเชียร์
เหล็กที่แกร่งทั้งหลาย
หล่อหลอมรวมเป็นเกียร์
กอดคอเชียร์ด้วยใจ..’


รุ่นน้องร้องเพลงต้อนรับ.. เมื่อบัณฑิตทยอยเดินเข้าไป
ผมรู้สึกโล่งใจ..ที่ในที่สุดก็มาถึงวันนี้จนได้..

คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของคณะแจ้งกำหนดการและซักซ้อมพิธีการให้บัณฑิตตลอดทั้งเช้า
ผมต้องขอบคุณนมกับขนมของไอ้โจที่ทำให้ไม่หน้ามืดไปเสียก่อน
น่าจะเชื่อแม่กินข้าวเช้ามาด้วย - -


เมื่อเสร็จพิธีการที่ห้องประชุมคณะ
ผมก็ค่อยๆ เดินไปยังโต๊ะที่เรานัดกันไว้ โชคดีที่ออกมาได้เป็นคนแรกๆ 
ไม่เห็นใครอยู่ที่โต๊ะแฮะ แต่ข้าวของยังวางอยู่

อ้าว อยู่นั่นเอง..
โจกับน้องเกรย์ยืนคุยกันอยู่ที่ข้างต้นไม้
ผมเดินไปหาเงียบๆ..

“เหมือนบัณฑิตทยอยออกกันมาแล้วพี่”
เกรย์บอกไอ้โจ
“เออ เกรย์ไปรอที่โต๊ะเลยก็ได้ พี่ซื้อข้าวไว้ละ ออกไปกินข้างนอกคนแน่นมาก ผู้ปกครองเริ่มมากันเยอะแล้ว เดี๋ยวบ่ายหนุ่มมันต้องรีบไปเข้าหอประชุม คาบบ่ายเกรย์ว่างอยู่ใช่ไหม ไปส่งด้วย”
“รู้แล้วพี่”เกรย์กรอกตาไปมา
“ทำไมพี่ไม่ไปส่งเองซะเลย กำกับขนาดนี้”
..
….

ไอ้โจเงียบไป
“พี่ไม่อยากให้มันอึดอัด เราไปแหละดีแล้ว”
“บางที พี่หนุ่มอาจจะไม่..”
“การที่เขาตัดสินใจว่าจะไม่ติดต่อพี่อีกก็แปลว่าเขาอยากเลือกแบบนี้ แล้วพี่ก็เคารพการตัดสินใจด้วย”

เกรย์ถอนหายใจ ยกมือกอดอก
“งั้นพี่มาทำไม ไม่งดเจอกันตลอดชีวิตซะเลยล่ะ”
สีหน้าโจไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
“พี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาดร็อปเรียน ถึงแม้เขาจะบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจของเขา แต่พี่ก็เป็นแรงผลักหลักที่ส่งเขาไปสู่การตัดสินใจนั้น เขาถึงต้องมารับปริญญาพร้อมรุ่นน้องในปีนี้ พี่อยากอยู่ข้างๆเขา เป็นกำลังใจให้เขา ไม่อยากให้เขาประหม่า”
ไอ้โจถอนหายใจ
“เสร็จจากนี้ ถ้าเขาเลือกเหมือนเดิม พี่ก็จะปล่อยเขาไป”
น้องเกรย์ทำตาโต ตบมือเปาะแปะ
“ใจหล่อมากพี่” ก่อนที่จะเสริมท้าย “หลังจากที่เลวมาตลอดน่ะนะ”
“ไอ้นี่” ไอ้โจทำท่าง้างตีนใส่เกรย์ หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันมาเจอผม

สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มนั้นชะงักไป..
ผมเองก็พยายามทำหน้าให้เหมือนไม่ได้ยินอะไร
แต่คงไม่ช่วยมากนัก..
เมื่อดวงตาสีดำสนิทมองนิ่งค้างจนผมต้องหลบสายตา


“เอ่อ..”
น้องเกรย์เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“เหนื่อยไหมครับพี่ มานั่งทานข้าวเถอะครับ”
เราสามคนนั่งทานข้าวกันเงียบๆ ก่อนที่น้องเกรย์จะแว้นพาผมไปส่งที่หอประชุมและไอ้โจแว้นตามมาทีหลัง
..ตลอดสามวันของการซ้อม น้องเกรย์เป็นคนหลักไปรับไปส่งและหาข้าวให้กิน
ส่วนไอ้โจจะโผล่มาเฉพาะเวลาถ่ายรูป บางครั้งกินข้าวมันก็ไม่ยอมมาด้วยนะ
แต่คราวใดที่ผมมองไปรอบๆ ตัว ก็จะเห็นมันอยู่มุมใดมุมหนึ่งเสมอ..
ให้ตายเถอะ..

เวลาเลยเที่ยง ของวันซ้อมใหญ่ผมเดินออกมาจากหอประชุมพร้อมบัณฑิตภาคเช้าคนอื่นๆ
“พ่อ แม่..!”
ผมอุทาน เมื่อมาเจอเกรย์ยังจุดนัดพบหน้าลานน้ำพุ
“ไหนว่าจะมาวันจริงไงครับ”
“ก่โจโทรไปว่าวันพู้กคนจะแน่น ก่ฮื้อแม่กับพ่อมาถ่ายฮูปโตยตั๋วในมอวันนี้ แล้ววันพู้กก่จะได้ถ่ายแค่หน้าหอประชุมแล้วปิ๊กบ้าน เพราะตั๋วคงหมดแรงพอดี”
แม่เข้ามาลูบหัวผม

ผมหันไปมองหน้าไอ้ตัวการ แต่ขานั้นก็มองแต่กล้อง มึงกะจะให้กล้องท้องรึไงวะ..?

.

.

22 มกราคม วันรับปริญญา ผมตื่นแต่เช้ามืด ออกจากบ้านพร้อมพ่อและแม่มาที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผมบอกทั้งสองคนให้ไปพักผ่อนหาอะไรทานรอก่อน ใกล้เวลาผมออกมาค่อยไปเจอกันที่เดิม
ผมเดินเข้าไปรอตั้งแถวในหอประชุม
โจกับน้องเกรย์นั่งอยู่ด้วยกันหน้าลานน้ำพุที่เดิม
อารมณ์เหมือนสองคนนี้ตามหลอนมาก
ผมแอบขำและรู้สึกขอบคุณไปพร้อมๆ กัน

ผมนั่งรอในหอประชุมอย่างง่วงๆ แต่พอใกล้ถึงชื่อตัวเองตาก็สว่างทันที..

“ข้าพระพุทธเจ้า…คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ขอพระราชทานพระราชวโรกาสกราบทูลเบิกรายนามผู้สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นลำดับดังนี้ ได้แก่..”
เสียงคณบดีก้องสะท้อนไปทั้งหอประชุม
จนกระทั่ง..
ณัฐพล หวงมณี

ผมถวายบังคม ก้าวเท้า ยื่นมือรับพระราชทานปริญญาบัตร ถอยเท้ากลับและถวายบังคมอีกครั้ง แนบปริญญาบัตรกับอกและเดินลงจากเวที
 
จนกระทั่งถึงที่นั่ง..
ปริญญาบัตรอยู่ในมือผมแล้ว ผมเปิดออกดู..

ตรารูปช้างชูคบเพลิงพร้อมพุทธศาสนสุภาษิตประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ‘อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา’ ซึ่งแปลว่า ‘บัณฑิตย่อมฝึกตน’ ประทับอยู่บนปริญญาบัตร ซึ่งมีใจความว่า
ตัวผม.. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
มีศักดิ์ สิทธิและเกียรติแห่งปริญญานี้ทุกประการ..
ผมอมยิ้ม..
ถึงแม้ในมือผมจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘กระดาษแผ่นเดียว’
แต่ผมว่าในสมองและหัวใจของผม ..มันไม่น่าจะมีแค่นั้นหรอกครับ
ลูกพระวิษณุคนนี้จะพยายามครองตนให้เป็นคนดีและสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อส่วนรวมต่อไป..

บัณฑิตภาคเช้าทยอยออกจากหอประชุม ปริญญาบัตรแนบอก พู่ที่หมวกเปลี่ยนมาอยู่ด้านขวา
ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย..
ผมเดินยิ้มออกมา สายตามองเห็นพ่อกับแม่ ใบหน้าอวบ ผ่องใสมีน้ำตาคลอ อ้าแขนรับผม
ผมเข้าไปกอด.. มอบปริญญาบัตรให้สมใจ
หลังจากนั้นจึงมองเห็นผู้มาใหม่อีกหนึ่งคน

“ทัศน์!”
ผมอุทาน เพื่อนรักคว้าผมไปกอดไว้พลางหัวเราะ
“เพื่อนกู โตเป็นหนุ่มแล้ว ฮ่าๆ”
“สัส”
ผมก่นด่ามัน
เราผละจากกันยิ้มๆ
ไอ้ทัศน์กำยำ หล่อเหลาขึ้นกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็นั่นแหละนะ ไม่มีใครหล่อเท่าไอ้โจ (เฮ๊ย!)

“เอาล่ะครับ บัณฑิตของเราพร้อม ช่างภาพพร้อม ชักภาพครับผมชักภาพ”
น้องเกรย์โฆษกประจำงานเชิญชวนทุกคนอีกครั้ง..

.

.

“พี่หนุ่มครับ ปีนี้เราบูมกันที่ไร่ฟอร์ด ถ้าเสร็จแล้ว ไปกันเถอะครับ”
ไอ้แอร์เอ่ยชวน
ผมมองไปที่ไร่ฟอร์ดฝั่งตรงข้ามหอประชุม ที่เริ่มจะมีฝุ่นตลบ แล้วพยักหน้าบางๆ
เราทั้งกลุ่มเดินข้ามถนนตรงเข้าไป..

ทันทีที่มาถึงผมก็จามแล้วจามอีก
“นุ่ม โอเคก่ลูก”
มารดาลูบหัว ผมยิ้มเหยๆ
ไม่เอาน่า.. จะมาเป็นอะไรตอนนี้วะ?

“ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปหรอก”
ไอ้โจเอ่ยขึ้นหนักๆ

“ได้ยังไงเล่า”
พี่กรีนว่า “หนุ่มต้องไปให้รู่นน้องบูมก่อนนะ”

ผมพยักหน้าให้พี่กรีน แต่เอามือทาบไว้ที่อก รู้สึกหอบมาก

“หนุ่มเป็นภูมิแพ้ครับพี่กรีน เดี๋ยวมันจะจามจนหอบแดกเลย”
ไอ้โจชี้แจง
ผมหันมองทุกคน

“แต่..”
พี่กรีน ผู้เคร่งครัดทำหน้าไม่พอใจ

“พี่กรีน..พวกเรา..มาเถอะครับ”
ไอ้โจมองเพื่อนพี่น้องวิศวฯ
มันขยับมายืนตรงหน้าผม ผายมือทั้งสองข้างออก ไอ้ทัศน์พยักหน้ารับ
โก พี่กรีน ไอ้แอร์ เดินมาประสานมือ ล้อมผมเป็นวงกลม ผมพยายามเอี้ยวมองแต่ละคน
อะไรวะ..?

ทั้งห้าคนมองหน้าผม ส่งรอยยิ้มและก้มหน้าลง..
   
“มาเถิดมา.. ผองเราวิศวกรรม มาช่วยกันค้ำชูธงเลือดหมูเด่น
ตั้งใจ..ให้เหมือนดังเช่น เราเกิดมาเป็นผู้สร้าง..ทั้งดวงมาลย์
ร่วมรักสมัครสมาน ตั้งปฏิญาณจะสร้างตราบสิ้นวิญญู..


เสียงหนักแน่นทั้งห้าดังประสาน แค่ห้าคนแต่มันช่างดังกังวานนัก
มันมาจากความ'รู้จัก'จริงๆ จากความรักและห่วงใยอย่างจริงใจ

ผมกลืนน้ำลาย..
พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

..วิศวกรต้องรักสามัคคี เลือดหมูเรานี้ทุกคนยังข้นอยู่
พี่น้องปรองดองร่วมหมู่ เราจะเคียงคู่อยู่ร่วม.. ร่วมชีวา
ตราบฟ้า..ดินสลาย..ให้โลกลือชาว่าเอ็นจิเนียร์ มช.’'


ผมก้มหน้าลง น้ำตาหยดแหมะๆ ถูกมือคู่ไหนก็ไม่รู้ดึงไปกอด มือคู่ไหนก็ไม่รู้ตบหลังตบไหล่เบาๆ
ผมเงยหน้ามองโจที่ยังส่งยิ้มให้ แม้จะอยู่ห่างมากกว่าคนอื่นๆ 
มันไม่ได้เข้ามาละเลงกอดผมอย่างสี่คนที่เหลือ แต่จับกล้องและถ่ายรูปเอาไว้ให้..
ข้อมือขวายังคล้องไว้ด้วยสายข้อมือที่มีอักษรย่อของเราสองคน..

.

.

‘ขอบฟ้าที่เรานั่งมองคราวนั้นยังมีความหมาย..
..ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย’


เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากภาระกิจรับปริญญา ผมกลับเข้ามาในมออีกครั้ง..
ตั้งใจจะเก็บความทรงจำต่างๆเอาไว้ ก่อนที่จะกลับสู่ชีวิตทำงานปกติ

แมกไม้ที่อ่างแก้วยังคงสวยงาม น้ำขอบอ่างก็ยังเน่าตราบเท่าที่ไม่ได้รับการดูแลมากอย่างที่ควรจะเป็น
ผมทรุดลงนั่งใต้ต้นมะพร้าวที่นั่งอยู่ประจำ..
หลับตา..ซึมซับเรื่องราวดีๆ ตลอดสามสี่วันที่ผ่านมา
มือเรียวค่อยๆ ล้วงสายข้อมือที่ไอ้โจแขวนคืนไว้ให้ที่เรือนปากับโมออกมากำไว้หลวมๆ..

..ผมไม่รู้ว่าเราอยู่ในสถานะอะไร
แต่มันเป็นบุคคลที่มีความหมายสำหรับผมเสมอ..

ในที่สุด..ผมก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับพ่นลมหายใจออก
มองสายน้ำอย่างสั่งลาก่อนค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้น
และหันหลังไปเพื่อพบกับ..



ผมรีบเอาสายข้อมือยัดใส่ลงกระเป๋า ภาวนาขอให้คนที่มีของแบบเดียวกันบนข้อมือไม่ได้สังเกตเห็น

“เอ่อ..”
ผมพยายามหาคำพูด
“มึง เอ่อ.. มา เออ มีอะไรรึเปล่า?”

ร่างสูงโปร่งก้าวยาวๆ เข้ามาใกล้จนผมหวั่นใจต้องถอยหลังหนี

“เฮ้ เดี๋ยวก็ตกน้ำหรอก”
มือแกร่งคว้าเอวผมไว้ก่อนจะได้ลงไปพิสูจน์ว่าตกลงข้างใต้อ่างแก้วมีปราสาทจริงหรือไม่


“เออ..ขอบใจ”
ผมเอ่ยตะกุกตะกัก ขยับหนีไปจนพิงต้นมะพร้าว

โจพยักหน้าเบาๆ เอ่ยเสียงหนักๆ
“กูมีอะไรจะบอก”
 
ขายาวก้าวเข้ามาประชิดตัว..

หลายวันที่ผ่านมา ผมชินกับการมองเห็นมัน อุ่นใจที่มีมัน แต่ไม่คุ้นกับระยะประชิดเช่นนี้เลย
ใจผมเต้นแรงจนรู้สึกเหมือนจะหอบ

“อะไร..”
ผมถามทั้งที่ก้ม สายตาอยู่แค่ระดับหน้าอกของร่างเบื้องหน้า
โจค่อยๆโน้มใบหน้าลงมา ขยับเข้ามาใกล้ ..จนผมได้ยินเสียงลมหายใจ

ปณิธานที่ยึดมั่นมาตลอดหนึ่งปีพร้อมใจกันกระโดดลงสู่อ่างน้ำสีคล้ำเบื้องล่าง
ผมเผยอปาก หลับตาอย่างยอมจำนน
จมูกเคลียจมูกเบาๆ ก่อนที่ริมฝีปากตรงหน้าจะย้ายมาอยู่ที่ริมหู

“ยินดีด้วย”

เสียงเข้มกระซิบบอกเช่นนั้น.. ก่อนจะยัดบางอย่างหนักๆลงในมือผม


หลายอึดใจ กว่าผมจะลืมตาที่รู้สึกหนักกว่าปกติขึ้นได้
ระยะประชิดที่ว่าหายไปแล้ว เรายืนห่างกันเป็นเมตร ในมือผมมีอัลบั้มรูปสีน้ำตาล

ผมค่อยๆ เปิดมันออกดู..
เป็นภาพของผมในสถานที่ต่างๆ กับเพื่อนพ้องน้องพี่และครอบครัว ตลอดช่วงที่มารับปริญญา
ทุกรูปดูดีไม่มีที่ติและเป็นฝีมือคนตรงหน้า.. ยกเว้นรูปสุดท้าย..

“ขอบใจ”
ผมไม่รู้จะเอ่ยอะไรนอกจากคำนี้

.

.

หลังจากอัดรูปครอบครัวติดไว้กลางบ้านอย่างที่แม่ต้องการ
ในห้องนอนผมก็มีรูปขนาด 4x6    ใส่กรอบไม้ไว้อีกหนึ่งอัน
รูปผู้ชายสองคนริมอ่างแก้ว ที่หลังรูปถูกเขียนด้วยลายมือว่า ‘โชคดี’


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

แก้ไขสรรพนามตาม #8379 บอกครับ ผมก็ลืมๆ แล้วเหมือนกัน ขอบคุณที่ช่วยดูช่วยแจ้งนะ  :mew1:

ขอได้รับความขอบคุณจาก เกรียน(มิใช่)น้อย  :katai4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2015 16:02:14 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
กรี๊ดดด ไม่คิดว่าจะมาต่อนะเนี่ย
ขอบคุณค่าาาา
 :mew1:

ออฟไลน์ arnis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วยนะค่ะ ทั้งคนเขียนและหนุ่ม. คิดถึง มอชอ และช่วงรับปริญญา ดอกไม้สวยเป็นพิเศษเลย

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ windel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กรี๊ดมากค่ะ โอยยยยย น้ำตาจะไหล  :hao5:

รับปริญญาพี่ชายครั้งหน้าหน้า(อีกสองปี)สงสัยต้องไปศึกษาดูงานล่วงหน้าเหมือนเกรย์ซะละ(ฮาาา)

อีรถเขียวนักท่องเที่ยวแก้ปัญหานักท่องเที่ยวเบียดเบียนรถม่วง(จริง)ของนักศึกษาและประชากรนักท่องเที่ยวที่เยอะขึ้นนั่นเราเองแอบมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเบาๆ =..= //ด้วยประสบการณ์โดนคนจีนข้ามถนนตัดหน้ารถและขับมอไซค์กลางถนน
อ่า ไม่พูดถึงดีกว่าฮ่ะ เดี๋ยว ย๊าวยาวววว

เรื่องของโจกะหนุ่มก็ยังคงแอบคลุมเครืออึดอัดโรแมนติกและน่าคิดถึงอยู่เสมอจริงๆแหละน่ออออ //โอยน้ำตาจิไหล
ดีใจที่เกรียนแว๊บเอามาฝากนะฮ่ะ

ปล.เค้าแอบชอบปกสีเลือดหมูนิดหน่อย(ฮา) สีมันสวยไง!สีสวย!

ออฟไลน์ windel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
(อีกนิด)
ยินดีกับเกรียนคนเขียนนะคะ + อ้ายหนุ่มโตยเน้อ (แฮ่)
 :L2: :L2:

 :o8:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อ้ากคิดถึงมากมาย
ไม่นึกว่าจะมาต่อนะเนี่ย ขอบคุณหลายๆ
ปล.ละมุนมากมาย โจหนุ่ม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jungjiyoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
โจหนุ่มคือน้ำตาตัลหลอดดดดดด เป็นคู่ที่บีบบบบบบสุดๆชนิดอยากเอาหัวโหม่งต้นบะป๊าว่อ่างแก้วต๋ายจั๊กแด่กๆ (คืออีต้นนี้ชะนีก็เคยไปทำมิวสิค ทำไปทำมาลูกมะพร้าวหล่นข่าาาาา เกือบสิ้นชื่อ )กลับมาอีกทีเจอลานชมอ่างแก้วกะรถทัวร์นี่ อึ้งไปเลยครัช  คืออะหยังของสู ป้อวววคิง รู้สึกไม่แน่ใจว่าแมร่มแก้แค้นแทนหมีแพนด้าที่กุเคยไปมุงดูจนไม่มีอารมณ์ผสมพันธุ์เหรอ และวิธีจัดการคือจับนั่งรถจูราสสิคพาร์ควนเหรอ #ไค่หุย  จริงๆยากอ่านคู่นี้มาก รู้สึกว่าหนุ่มยังไม่แข็งแรงจริงๆ ในขณะที่โจรู้แล้วว่าใจอยู่กับใคร "แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ"จริงๆ  อยากให้ลงเอยกัน อย่างน้อยได้ใกล้กันกว่านี้ เพราะในชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้ มันเจ็บนะที่ยังัฝันว่ารักกัน แล้วต้องตื่นมาเจอความจริงว่า มันไม่มีอีกแล้ว มันผ่านไปนานแล้ว  ชีวิตจริงมันเศร้าจนเกินแก้แล้ว เลยอยากมอง     เห็นบ้างว่ามันจะมีสักวันไหมที่หาย้จ็บ ที่จะได้ความรักคืนมา เฮ้ออออ เมนต์วกวนสับสนมาก ขอโทษด้วย เพราะมันอินจรืงๆ อินจนมันตีความรู้สึกทุกอย่างที่เราพยามบอกตัวเองว่ากุโอเค กุไม่เป็นไร แบบนี้มันดีแล้ว กระเจิงออกมา รักเรื่องนี้จริงๆนะคะ ขอบคุณที่พาทุกคนกลับมาอีกครั้ง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
น้ำตาจะไหล  :hao5: ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆ

ความทรงจำยังเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ เมื่อไหร่โจหนุ่มจะแฮปปี้เหมือนทัศน์กะเกรย์บ้างนะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
โอ้ย คิดถึงมากกกก น้ำตาจะไหล :hao5:
ยังไงก็ยังป็นคนสำคัญที่สุดของกันและกัน ยังห่วงแต่ถึงจะไม่ได้หา ก็ยังรักกว่าใครถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน อบอุ่นแบบหน่วงนิดนึง
คิดถึงเกรียนสุดๆ กลับมารีปริ้นกับทำไอดิลหน่อยเร็ววว

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ยินดีกับคนเขียนด้วยค่ะ :L2: :L2:

โจหนุ่ม อยากให้มีความสุข :กอด1: ทุบกำแพงทิ้งเถอะ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :pig4: อ่านจบแล้วสองวันเต็มๆ ชอบความเกรียนของน้องเกรย์มาก พูดทีมีอะไรให้คิดบวกเงิบตลอด ขอบคุณคนเขียนค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2015 19:00:01 โดย boonpa »

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ยินดีกับบัณฑิตด้วยจ้า...
โจหนุ่มมาเมื่อไหร่ก็หน่วงใจเมื่อนั้น
"โชคดี"คืออะไร โจปล่อยหนุ่มไปแล้ว???
วิ่งกลับไปอ่านไอดิลแป๊บ มีสองคนนี้โผล่มาหรือเปล่า

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ
เกรย์ยังเป็นนายเอกในดวงใจเหมือนเดิม
(น่าจะมากกว่าเดิม มว้าฟกกกกก)

ตอนพิเศษวันนี้รักโจมากที่สุด 555
 :hao7:
แค่มีรูปคู่กับคำว่า 'โชคดี' ก็โอแล้ว
บวกและเป็ดรัวๆ

คิดถึงเพลงนี้...
เครดิต [ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น] Mummy Daddy
https://www.youtube.com/watch?v=NadYvYrRRjI
https://www.youtube.com/v/NadYvYrRRjI
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2015 18:24:41 โดย puppyluv »

ออฟไลน์ Chrysan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ่ยยย คู่นี้จะทำน้ำตาเราไหลพรากไปถึงไหน

ขอความสุขจงคืนแก่ J&N

กาโมทีซ่านา.........  :mew6:

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
มันบีบหัวใจยิ่งนัก
เวลานี้เราอาจจะยังไม่ใช่ แต่ในอนาคตเราคือคู่กันนะโจหนุ่ม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ care_me

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
แกคือมันดี คือฉันดีใจ ฉันชอบคู่นี้ ฉันเชียร์ :sad4:

อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงตอนตัวเองรับปริญญา เหนื่อยสุดทีนจ้า แต่ก็สนุก ซาบซึ้ง ภูมิใจ เป็นอะไรที่หลากหลายความรู้สึกมาก
คือยิ้มจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยิ้มหรือแสยะยิ้ม 555

คิดถึงบรรยากาศเหล่านี้  :L2:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เป็นคู่ที่น่าจะมีเรื่องราวต่อไป 

คิดถึงเกรียนคนเขียนนะจ๊ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ krouy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
คิดถึงง พวกพ้องชาวเกรียนนนน ยินดีด้วยนะบัณฑิตใหม่ ความรักของนายสองคนคงเป็นแบบ ไม่ได้คบแต่จะเดินเคียงข้างตลอดไปสินะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอ่อ ไอ้มุข 'ศึกษาดูงานเรื่องการรับปริญญา'นี่ใครคิดอ่ะ เกรียนได้อีก 55
ดีใจที่มีตอนพิเศษของโจกับหนุ่มนะ ขอบคุณเกรียนคนเขียนจ๊ะ(ยังเกรียนได้อีกเนอะ 55)

ออฟไลน์ ohuii

  • Why I cannot upload profile picture?
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-4
ดราม่าได้ตลอด โจ-หนุ่ม ตอนพิเศษยังทำน้ำตารื่น
น้องเกรย์ช่วยเขาได้หมด แต่ทีตัวเองไม่ค่อยจะรอด
คิดถึงมว๊าก

ออฟไลน์ minyjae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 สนุกมากกกกกกก :impress2:
รักความเกรียนของทั้งคู่ ฟิน o18

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ยินดีกับบัณฑิตด้วยเน้อ

 :L2:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ทำไมคู่นี้มันทำให้อึนๆตลอดเลย

ออฟไลน์ YouandMe

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ยินดีกับบัณฑิตจ้า  :L2:

แต่โจกับหนุ่มนี่คืออะไร  :m31:

ถึงจะมีเกรียนน้อยโผล่มาป่วน...แต่...ลงท้ายแบบนี้หมายความว่ายังไงเนี่ยยยยยยย  :serius2:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
กรีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส  :katai1:
สรุปว่าสองคนนี้จะไม่ได้คู่กันเหรอ
ไอ้เราก็นึกว่าจะกลับมาคู่กัน แต่พอเจอคำว่าโชคดี มันเหมือนกับบอกลาอะไรอย่างนี้เลย
ในไอดิลก็ไม่ได้โผล่มาซะด้วยซิ

อร๊ายยยยยยยยย  :z3: คนเขียนกลับมาเปิดความช้ำใจกับคู่นี้เป็นรอบที่สอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด