INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289  (อ่าน 2423545 ครั้ง)

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เก(ร)ย์ ลืมสามีที่น่ารักได้ไงเนี่ย
มันน่าตีก้นซะจริงๆ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
"เกรย์ อย่าเกรียน"

ขอยืมคำคุณพ่อมาใช้หน่อยนะ  :pigha2:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ Forever_Love

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
สองเก้ายี่เสียบ!!  555 คิดได้ไงอ่ะ
เล่นเอาอึ้งตามทัศน์เลย :laugh:

ออฟไลน์ creator

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เจอกันแล้วเหวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

มะแหมๆ ทำเป็นจำไม่ได้ ว่าเคยทำอะไรยังไงกันมาก่อน
เกรย์ใจร้ายจังว่ะ  :laugh:

รอตอนต่อไปจ่ะ  :กอด1:

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
ผมเริ่มชอบคำว่า "เกรียน" แล้วล่ะครับ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าจริงๆแล้ว ไอ้เกรย์มันไม่ได้เกรียนหรอก..มันบ๊อง!555

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
เกรียน เอ๊ย เกรย์ ได้ข่าวว่าเกรย์เรียนมนุษย์ ปรัชญา
แล้วไฉนถึงได้แต่งตัวเซอร์(?)จ๊ะ ถ้าไม่เรียกว่าเกรียนแล้วจะต้องเรียกว่าอะไรวะเนี่ย? :laugh:
ในที่สวดก็ได้เจอกัน โฮะๆๆ อย่าหนีเล๊ยไอ้เกรียน ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอกกก  :m14:
ยี่เสียบ!!! เลิศ ยังคิดได้เนอะ  o17

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
ต้องขอบคุณผู้แนะนำเรื่องนี้
ตามมาอ่านแล้วก็พบว่าสนุกมาก
เป็นกำลังใจให้นะคะ

หลงรักน้องเกรย์แล้วสิ

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
เกรียน !


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
 :m20: เกรียนสาดดดดดดดดด

ออฟไลน์ J_Dargon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อืม..เกรียน

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
เกรียนมาก o13

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เกรย์นอกจากเกรียนแล้วยังฮาด้วย

 :m20: :m20:

timeless

  • บุคคลทั่วไป
อย่าเรียนปรัชญาเลยไปเล่นหนังตลงรับรองรุ่ง

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยครับ

ขอบคุณที่มาต่อนะครับ

จะติดตามต่อไปนะ สู้ๆนะครับ

ออฟไลน์ sweetyYY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-9
มาจิ้มไว้ เดี๋ยวตามอ่าน><

nam-nueng

  • บุคคลทั่วไป
ฮามากกกกก สมแล้วที่เรียนปรัชญานะน้องนะ

ออฟไลน์ mickeynut

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-3
อัยย๊ะ !!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
เกรียนทั้งคู่ สมน้ำสมเนื้อกันดีจริง

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
แอบสงสัย ดี เอ เอ็น เค อี นี่คือไรหว่า
มันจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

miniz

  • บุคคลทั่วไป
แม่เจ้า เกรียนมาก  :laugh: :laugh: :laugh:

รอต่อค้าบบ  :กอด1:

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
อ่า ขอสามตอนเลยได้ไหมคนแต่ง คนอ่านติดเรื่องนี้มากๆ

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
เกรียนว่ะ
5555+

แแต่ก๊น่ารักนะ รอลุ้นต่อไปๆๆ ^^ :z2:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22

Chapter 10 : Quits..

ผมกำลังเดินกลับมาหอหลังจากเรียนเสร็จวันแรกของวันครับ
มันก็ ว่าไงละ ดี..มั้ง เว้นผมจะโดนด่าเรื่องการแต่งตัวอ่ะนะ
แต่เนี่ยแหละชุดผม มียีนส์เก่า เสื้อคลุมสก็อตเราก็พอใจ หล่อสุดในจักรวาลแล้ว แฮ่~

เอ้า เฮ้ยๆ นั่นที่กำลังลงจากรถ ไอ้แอร์เมทผมนี่หว่า
แม่งเอ้ย เรียนวันแรกก็มีสาว(ละมั้ง) มาส่งเชียวมึง
ต้องไปแซวมันหน่อยแล้ว
.
.
“รุ่นพี่กู มึงก็ ..ห่า”
มันอธิบายผสมด่า เมื่อผมไปแซวถึงตัว

“คืนนี้กูคงกลับดึกๆ มึงซื้อข้าวไข่เจียวเผื่อกูไว้ซักกล่องนะเว้ยเกรย์”
มันบอก และผมพยักหน้า พวกวิศวะรับน้องหนักเห็นๆ
แล้วสายตาไอ้แอร์ก็ประหลาดใจ
ผมกำลังจะถามมันว่า มีอะไร ก็พอดีกับได้ยินเสียงจากข้างหลัง

“เพื่อนมึงเหรอแอร์?”
เสียงนั่นถามเพื่อนผม และเสียงมันคุ้นอย่างประหลาด
มัน เอิ่ม.. ประหลาดเกิน
ไม่น่ะ ผมคงคิดมากไป

“อ๋อ นี่เกรย์ มันเป็นเมทผมเองพี่”
ไอ้แอร์ตอบคำถาม

“เกรย์รึ..”
เสียงนิ่งๆนั่นน่ากลัวพิกลๆ ว่ามั๊ย!?
ไอ้แอร์พยักหน้า และพยักเพยิดไปด้านหลังผม
“นั่นพี่ทัศน์ รุ่นพี่คณะกูเอง”

.
.
….
…..
“ห๊ะ..”
คิ้วผมยกสูง กลืนน้ำลายอย่างไม่ตั้งใจ
แต่คนชื่อทัศน์มีเยอะแยะในโลกใบนี้ ผมพนันได้

ผมยิ้มเลิ่กลั่กให้ไอ้แอร์ ทำใจว่าวาระสุดท้ายของชีวิตอาจมาถึงแล้ว
และค่อยๆหันหลังกลับไปมอง ..รุ่นพี่คณะมัน

……
……..

“ไม่หรอก ประสาทตาคงลวงกูแล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
ผมพูดกับอากาศ แล้วหันกลับมามองหน้าตาประหลาดใจพิลึกกึกกือของไอ้แอร์

แล้วผมก็สูดหายใจอย่างจริงจัง หันกลับหลังอีกที
“พระเจ้าไม่ใจร้ายกับกูขนาดนั้นมั้ง..”
ผมพึมพำ รู้สึกว่าหยดเหงื่อเม็ดเป้งผุดมาตามใบหน้า ผมพยายามอย่างยิ่งไม่ให้ขาสั่น

พี่ทัศน์ของไอ้แอร์ คือไอ้ทัศน์..
ทัศน์เหี้ยนั่นแหละ ทัศน์เจ้าเก่าเจ้าเดิม
มันยิ้มมุมปาก แววตาเชือดเฉือนดีแท้
ชิ.. นึกว่าน่ากลัวเหรอมึง
แต่ผมก็กลืนน้ำลาย ปั้นยิ้มหวานให้มันบนใบหน้าที่จริงๆแล้วสยดสยอง

ในที่สุด เมื่อตัดสินใจว่าจะไม่ใช้ชีวิตที่เหลือยืนรากงอกอยู่ตรงนี้ ผมก็บอกมันอย่างโค่ดของความจริงใจ
“เออ แต่กูไม่ยินดีเลยที่ได้รู้จัก”

อยู่ทำไมละ ผมก็วิ่งป่าราบเลยสิ ไม่อยากคาดว่าถ้าโดนไล่ทัน มันจะทำอะไรกับผม
เชือดคอบูชายัญสังเวยฟ้าฝนเลยรึเปล่าวะ

“ไอ้ มึง มึงหยุด!”
เสียงแม่งตะโกนไล่หลังมา
ไอ้ห่านี่ มึงก็ได้ยินแล้วว่ากูชื่อเกรย์ สนใจเรียกชื่อกูมั่งมั๊ยวะ มึงมึงยิกยิกอยู่ได้ มันเป็นคำหยาบ ไม่ดีนะมึงรู้มั๊ย
แต่ผมไม่สนใจกลับไปสอนมารยาท(ที่ตัวเองไม่เคยมี)ให้มันในตอนนี้

ให้ตายเถอะ มันเป็นรุ่นพี่ไอ้แอร์ ผมยิ่งได้ข่าวมาว่าไอพวกนี้แม่งเถื่อน อ๊ากกก ไม่เอา

“หยุดเว้ย!”
แล้วมือแกร่งก็กระชากคอเสื้อผมกลับหลัง
ผมได้แต่ดิ้นให้หลุด
โนวโนว ผมไม่อยากเจอมันเลย

“หนีเก่งนะมึงอ่ะ”
ผมไม่ชอบเสียงเข้มๆนั่นเลย

“ไอ้ตอนไล่ไม่ไป ทีกูบอกให้หยุดล่ะวิ่งจัง”
แขนใหญ่รัดรอบเอวผมไว้ เสียววูบเลยกู ฮือ..

ผมพยายามไม่รับฟังถ้อยคำเหล่านั้น ได้แต่สวดภาวนากับพระเจ้า ขอให้เอาไอ้เหี้ยนี่กลับสวนเอเดนที
ผมกลัวมันบอกกับเมทผม ว่า.. ว่าอะไรก็ตามที่มันคิดว่าผมเป็น
แล้วทีนี้ผมคงต้องทนสายตายี๊ๆจากไอ้แอร์ตลอดปีแหง
.
.

“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่รู้จักคุณ ปล่อยเว้ยครับ”
ผมตีหน้าตายเต็มที่ คิดอย่างอื่นไม่ออก เอามุขไม่รู้จักนี่แหละวะง่ายดี

มันพ่นลมหายใจ เลิกคิ้วมองผม เหมือนจะถามว่า มุขนี้มึงคิดรึยัง?
มันจ้องผมอยู่อย่างนั้น ผมจะบอกมันดีมั๊ยว่าผมคิดแล้วนะ คิดสดเลยด้วย -_-
แต่ปากผมก็ปิดสนิทอย่างทำอะไรไม่ถูก คำสวดเมื่อกี้คงไม่ถึงพระเจ้า

เอาละ ผมหลับตาปี๋ทำใจ แล้วลืมตามองอย่างหวาดๆ
“สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก”

ก็พระเจ้าอาจไม่เข้าใจภาษาคนธรรมดาๆ ผมเลยว่าจะใช้ภาษาคณิตศาสตร์
.
.
ลืมตาอีกที เห็นหน้าตาไม่อยากเชื่อของมัน แววตาแม่งดูงวยงง
โป๊ะเชะ!! ภาษาคณิตศาสตร์แม่งได้ผลว่ะ พระเจ้าอาจได้ยินแล้ว ผมใส่ต่อทันที

“สองสี่แปด สองห้าสิบ สองหกสิบสอง”
มือที่รัดแน่นเริ่มคลายออก โหแม่ง รู้งี้ผมตั้งใจเรียนคณิตตั้งแต่อนุบาลก็ดี เผื่อจะได้แถมสมการให้มัน

“สองเจ็ดสิบสี่ สองแปดสิบหก สองเก้ายี่เสียบ!!”
ผมรัวสูตรคูณ และสลัดหลุดจากมัน แล้วออกวิ่งสุดตีนอีกครั้ง ฮ่า ฮ่า
ได้ยินแค่เสียงมันตะโกนไล่หลังมา
“สองเก้ามันแค่สิบแปดโว้ยไอ้เกรียน!?”

กูไม่ได้เกรียนเว้ย  !
ฮึ่ย แต่ผมไม่สนใจหรอก
ผมตกเลข จะสิบแปดหรือยี่สิบก็ช่างมันเถอะ ผมเผ่นก่อนละ!
มหา’ลัยออกกว้างชิบหาย ไว้ผมจะใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ เราอาจไม่ต้องเจอกันอีกเลยตลอดไป..
………

เย็นนี้เป็นอีกเย็นหนึ่งที่ฝนตกหนักถึงหนักมาก
ไอ้นนนั่งใส่แว่นหนาเตอะอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะตามปกติของมัน
ส่วนผมนอนคว่ำ ตาดูหนังอยู่บนเตียง ขาและแขนข้างหนึ่งห้อยลงมาที่พื้น

“มาละเว้ย ดีไอ้คุณนน แล้วเกรย์ มึงนอนท่าอะไรของมึงวะน่ะ”
เสียงเปิดประตูเข้ามา

“ท่าเฉพาะตัวกูเอง”
ผมตอบโดยไม่หันไปมอง จำได้ว่าเป็นเสียงไอ้แอร์

ผมจะไม่มองมัน ผมจะทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันจ้องอยู่

“ข้าวมึงอยู่บนโต๊ะมึงอ่ะ”
ผมบอก ตาไม่ละจากหนัง

“เป็นยังไงบ้างครับแอร์วันนี้”
เสียงไอ้นนถาม
ผมพยายามกลั้นขำและดูหนังไป
ให้กี่วันผมก็ไม่เคยชินกับความสุภาพของไอ้นนเลยซักที

“ทรมานโคตรเลยครับไอ้คุณนน”
ไอ้แอร์ตอบแบบแอบเลียนวิธีพูดเอาฮา
“แม่ง วิ่งซ้อมขึ้นดอยกลางฝนอ่ะเหี้ย”
นั่น ประโยคหลังต่างหากถึงเป็นคำพูดจากสันดานไอ้แอร์โดยแท้
และดูเหมือนจะเป็นงั้นจริงๆ เพราะไอ้แอร์ทั้งหอบเหนื่อย และเปียกโชก

มช. มีประเพณีรับน้องที่โด่งดังที่สุด นั่นก็คือรับน้องขึ้นดอยครับ ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง
แต่ได้ยินว่าถ้าคณะวิศวะไม่ขึ้นถึงคณะแรก พวกมันถือเป็นหายนะ
ส่วนคณะของผมชิวชิว จะถึงไม่ถึงก็ว่ากันไปตามทาง นั่น เกรียนได้อีก คณะกู -*-

“สู้ๆครับแอร์”
ไอ้นนว่า
และไอ้แอร์กลอกตาไปมากับคำพูดไพเราะที่มันไม่เคยชิน

==’

“มึงเป็นใบ้เหรอวะเกรย์วันนี้”
ไอ้แอร์เปลี่ยนเป้าหมาย หันมาจิกผมขณะโซ๊ยข้าวกิน

“มึงแดกข้าวไป”
ผมตัดบทมัน

“กูแค่จะถามว่ามึงกะพี่ท-”
“กูบอกให้ แดก-ข้าว-ไป”
ผมย้ำชัดๆ ไม่อยากได้ยินคำว่าพี่ทัศน์ ไม่อยากตอบคำถาม และไม่อยากยอมรับว่าอยากรู้..ว่าไอ้ทัศน์มันบอกอะไรเรื่องผมกับไอ้แอร์รึเปล่า เฮ้อ.. ทำไมโชคร้ายแบบนี้นะ

“กูไปอาบน้ำดีกว่า มีหวังหวัดแดกแหง วิ่งอยู่เป็นชั่วโมง”
ไอ้แอร์บ่น
“พี่ให้วิ่งนี่ พี่วิ่งด้วยไหมครับแอร์”
ไอ้นนถาม

“เฮ่อ คุณมึงคิดได้ไง ไม่หรอกครับคุณนน เออ แต่ก็มีพี่ไม่กี่คนวิ่งนำให้ ใจดีชิบ”
ผมรู้สึกได้จากด้านหลังว่าไอ้แอร์มองผม
หนึ่งในนั้นเป็นพี่ทัศน์เหี้ยนั่นอีกละสิ

แม่ง นี่ผมเป็นคนเดียวในกาแลคซี่ทางช้างเผือกนี้รึไงที่เห็นไอ้ทัศน์ในแบบที่มันเป็นจริงๆ
ทัศน์เหี้ยๆไง!
.
.

วันที่สองของที่นี่ก็ไม่ได้แย่ ผมเรียนรู้ที่จะ(พยายาม)แต่งชุดนักศึกษาด้วยความเกรงใจอาจารย์
แต่เมื่อมองไปมองมา รู้สึกว่าอาจารย์ก็ค่อนข้างเกรียน จึงกะว่าพรุ่งนี้จะกลับไปใส่ยีนส์เช่นเดิม
ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะครับ ผมแค่รู้สึกว่าพวกเขามีความสามารถในการสอน นั่นผมไม่สงสัยอยู่แล้ว แต่พวกเขาใส่ใจในตัวลูกศิษย์มากกว่าที่ผมเคยคาดเอาไว้ว่าจะได้รับในสถาบันอุดมศึกษา ผมแค่หมายความว่า ‘จารย์ดูมีสไตล์ ฮา

“มันต้องมีวิชาโทด้วยนี่หว่า ลงอะไรดีวะ”
เพื่อนผมบ่น ผมยักไหล่ “ไว้ค่อยคิด”
.
.

ตกค่ำ ไอ้แอร์กลับมาหอหลังไอ้นนกับผมเช่นเดิม และในสภาพเปียกโชกเช่นเมื่อวาน

“มึงแน่ใจนะ ว่าพรุ่งนี้มึงจะไม่เป็นไข้จับสั่น?”
ผมมองมัน ที่ทำหน้าเหยๆ

“วันนี้พวกกูแค่ยืนดู”
ไอ้แอร์ว่า
“อ่าว แล้วใครวิ่ง”
ไอ้แอร์มองผม ยักไหล่ “รุ่นพี่โชว์อึด”
ผมไม่อยากถามหรอกว่าพี่คนไหนมั่ง พวกนี้แม่งเกรียน ผีเข้าผีออก ผมไม่อยากยุ่งด้วย
แต่จากสายตาไอ้แอร์ที่มีเพียงความอยากรู้อยากเห็น ผมจึงออกจะแน่ใจว่าไอ้ทัศน์คงยังไม่มีโอกาสใส่ร้ายป้ายสีตีไข่ใส่นมผสมชาเขียวเรื่องผม
และแล้ว..ผมก็คิดได้อย่างหนึ่ง
ในโชคร้ายยังมีโชคดี งี้ก็เท่ากับตอนนี้ผมมีสายละสิ.. หึหึ

“แอร์” ผมเริ่ม
“พรุ่งนี้พวกมึงยังวิ่งกันอยู่มั๊ย”

“ก็วิ่ง”
ไอ้แอร์ตอบเรื่อยๆขณะหม่ำข้าว

“รุ่นพี่ด้วยปะ”
“อืม”

ผมว่าผมรู้แล้วละ ว่าผมจะไปเอาเสื้อผ้าที่รักได้ตอนไหน ฮ่า ฮ่า
.
.
ตกเย็นของอีกวัน ผมออกลุยในฐานะทอม ครูซอีกครั้ง
คราวนี้จะต้องเยี่ยมยอด ไอ้ทัศน์มันจะไม่มีทางโผล่มาขัดจังหวะภารกิจลับสุดยอดของผม เพราะมันดูน้องวิ่งอยู่ วะฮะฮ่า
ผมมาถึงชั้นห้าที่หมายปอง และปีนออกไปอย่างไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ก้าวที่หนึ่ง.. วันนี้มันค่อนข้างลื่นนะ ฝนตกเล็กน้อย
แต่ก็เอาวะ ผมมาถึงนี่แล้วหนิ..
ก้าวที่สอง.. ในห้องมันมืดและเงียบ ทางสะดวก
ฮึบ..
ผมเหนี่ยวตัว กระโดดตุ๊บเข้ามาในระเบียงมัน มือเอื้อมไปดึงเสื้อกางเกงออกจากไม้แขวน

เอ่อ.. ผมตาฝาดใช่มั๊ยที่เหมือนเห็นเงาอะไรแว๊บๆในห้อง
ขนลุกเลยกู สงสัยดู Supernatural มากไป
แล้วผมก็ได้เสื้อผ้ามาไว้ในอ้อมอกพร้อมๆกับที่มองเข้าไปในห้องผ่านประตูกระจก
ร่างสูงๆ หน้าซีดเซียว เดินมาดูอย่างแปลกใจ แล้วก็อ้าปากค้าง

“เฮ้ยย”
“อ๊ากก”
ทั้งผมและคนในห้องตะโกนออกมาพร้อมกัน
มือใหญ่เปิดประตูกระจกมองผมอย่างไม่อยากเชื่อ

ไม่ใช่ผีนี่หว่า --  มันคือไอ้ทัศน์ครับ
แต่เป็นไอ้ทัศน์เวอร์ชั่นหน้าซีด และท่าทางเหมือนเพิ่งตื่น

“โอ้ย”
แต่  ไม่ว่าไอ้ทัศน์เวอร์ชั่นไหนก็ทำผมเจ็บตัวได้ทั้งนั้นแหละ
มันคว้าไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง หน้าตาทั้งโกรธ ทั้งอะไรซักอย่าง ที่ผมมองไม่ออก เป็นห่วง? เสียวไส้? ผมไม่รู้

“มึงมาทำบ้าอะไรตรงนี้เนี่ย!”
เสียงแหบๆนั่นฟังแปร่งๆพิกล
 
“เอาชุดดิไอ้เหี้ย..”
ผมตอกกลับ

มันพ่นลมหายใจอย่างโกรธจัด
“ด้วยการปีนระเบียงชั้นห้าเนี่ยนะ”

“ถ้ากูเคาะประตูดีๆ แล้วมึงจะเชื้อเชิญให้เข้าห้องรึไงวะ”
ผมแว๊ดใส่แม่ง
มันปล่อยไหล่ แต่ดึงแขนผมเข้าไปในห้อง

“มึงปีนระเบียงมากี่หนแล้ว”
มันถามผม แม้เสียงแม่งจะแหบโหยพิลึก แต่หน้าตายังเอาเรื่อง
“มึงหมายถึงแค่นี่หรือที่อื่นด้วยอะ”
โป๊กก!!
โอ้ย ไอ้เหี้ย กูถามซื่อๆ แม่งเขกกะโหลกกูทำไมเนี่ยยย

“มึงปีนอะไรมาเท่าไหร่เนี่ยไอ้ลิง” มันถอนใจ “เอาแค่ที่นี่ บอกมา”

ผมนับในใจ..
หนึ่ง-ครั้งนี้ สอง-ครั้งที่แล้ว สาม-ครั้งแรกตอนแม่ไอ้ทัศน์มา
แล้วผมก็ตอบมัน ด้วยใบหน้าที่คิดว่าบริสุทธิ์ใจใสซื่อไร้เดียงสาที่สุดของผมแล้ว
“สอง..”

มันบีบแขนผมแน่น จนผมรู้ว่ามันนึกถึงวันที่เจอถุงวางอยู่หน้าห้อง
“กี่-ครั้ง?”
คำถามเดิม แต่เสียงเน้นหนักกว่าเดิม
แม่ง..
ผมหลบสายตา บอกเบาๆอย่างยอมจำนน
“สามก็ดะ”

“สาม!”
แล้วเสียงราวกับระเบิดลงนั่นก็ดังมา “ฝนก็ตก ลื่นก็ลื่น มึงช่วยบอกกูทีว่ามีอะไรในสมองกลวงๆของมึงบ้างมั๊ย แค่กๆ”

นั่น..
แล้วผมก็รู้ว่าทำไมวันนี้ผิดแผน ทำไมมันไม่ไปซ้อมน้องวิ่ง

ไอ้ทัศน์ป่วย o_O

“มึงป่วย” แล้วผมก็พูดไปตามที่ใจคิด
“กูเปล่า” มันปฏิเสธทันทีเหมือนเป็นระบบตอบกลับอัตโนมัติ
“มึงป่วย” ก็ผมเห็นอยู่โต้งๆนี่หว่า
“กู-เปล่า” มันเน้นเสียง โมโหราวกับการที่ผมกล่าวหาว่ามันป่วยเป็นความผิดอาชญากรรมต้องฟ้องคดีเอาในศาล
“มึง-ป่วย”ผมเน้นเสียงมั่ง จิ้มนิ้วไปที่อกแม่งให้มันรู้ตัว
“บอกว่าเปล่าไง” โหย นี่มึงไม่สนพยานหลักฐานบนใบหน้าซีดเซียวของมึงเลยรึ?
“มึงป่-”
“พอได้แล้ว” มันขัดเหนื่อยๆ ท่าทางแม่งมึนหัวจัด

“แค่กๆ ได้ชุดแล้ว ก็ไปซะ”
มันว่าและทรุดนั่งลงบนเตียง
“เออ แล้วก็ออกทางประตูนะมึง”
มันย้ำอีกที ก่อนล้มตัวลงนอน

ผมยักไหล่ ประมาณชัวร์อยู่แล้ว
ผมยัดเสื้อผ้าใส่เป้ที่สะพายอยู่ แล้วเดินไปอย่างยุ่งยากใจ ท่าทางมันป่วยหนักไม่ใช่เล่น
ไม่ทันเดินได้กี่ก้าว เท้าผมก็เตะโดนขวดเหล้าขวดเบียร์สองสามขวดที่กลิ้งอยู่ข้างๆเตียง

“เฮ้ย อย่าบอกนะ มึงวิ่งกลางฝนเสร็จแล้วยังแด๊กเหล้าอีก !?”
ผมหันไปมองมัน
แม่งลืมตาขึ้น ดูแปลกใจ “แล้วมันทำไม?”
โห ถามมาได้ มึงถึงไข้แดกอย่างนี้ไง
ผมหมั่นไส้นัก เลยตอกแม่งกลับอย่างอดรนทนไม่ได้
“มึงช่วยบอกกูทีว่ามีอะไรในสมองกลวงๆของมึงบ้างมั๊ย?”
.
.
แล้วมันก็มองผมแบบอยากเตะ และยกมือขึ้นมาชี้หน้าเป็นการคาดโทษ แต่ผมหัวเราะก๊าก

“เจียมสังขารหน่อยเหอะมึง”
ผมเตือน

“รีบออกไป กูยังเตะมึงได้อยู่ จะลองมั๊ย แค่กๆ”
แม่ง.. ไอ้นี่

 “มึง..กินยารึยังวะ”
ผมตัดสินใจถามมันไป

“ไปได้แล้ว”
มันพึมพำบอก   

เฮ่อ ผมได้แต่กลอกตาไปมา
พอจะรู้คำตอบละ ว่ามันกินยามั๊ย ก็ขนาดตัวเองป่วย มันยังไม่ยอมรับเลย -*-
ผมมองไปรอบๆห้อง พยายามหาหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นว่ามันกินอาหารแล้วในวันนี้ แต่ถ้วยชามยังถูกคว่ำเป็นระเบียบอยู่บนชั้นอย่างไม่เคยถูกแตะต้องมานาน

“มึงแดกข้าวรึยัง”
ผมถามไปอีก
มันเพียงพูดอะไรในลำคออู้อี้ โบกไม้โบกมือไปทางประตู

โอเค! ผมไม่สนก็ได้ เรื่องของมัน
ผมเปิดประตู กดล็อค และเดินตรงไปที่ลิฟต์
ถึงข้างล่าง เดินผ่านร้านขนมร้านเดิมนั่น..

อย่า อย่า อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมมีความทรงจำที่แสนดีอะไรกับไอ้ทัศน์
แต่อย่างน้อย.. ถ้าไม่ได้มัน ผมอาจจะหิวโซ
และถ้าไม่ใช่ห้องมัน ผมอาจจบด้วยการนอนที่ไหนซักที่ ที่ไม่ได้รอดปลอดภัยมาถึงวันนี้ก็ได้
เฮ่อ..
แต่ผมก็ส่ายหน้า ไม่ใช่ว่ามันจะเต็มใจช่วยผมซักหน่อย ผมหน้าด้านขออยู่ของผมเอง
แล้วมันก็เย่อหยิ่ง ถือดี ชอบทำร้ายขนาดนั้น แม่ง

แต่มันก็เคยช่วยมึงนะเว้ย.. เสียงในใจผมย้ำอยู่นั่นแหละ

เฮ่ย !! ผมหันหลังกลับเข้าไปในหอ แวะซื้อโจ๊กคนอร์กับยาไทลินอลขึ้นไป
หนี้แค้น บุญคุณ อะไรก็ช่างเถอะ จะได้หายๆกันไปซักที ก็แค่นั้นแหละ!
ผมขึ้นกลับมาถึงห้องมันแล้วจับลูกบิดหมุน..
เวร.. กูล็อคประตูห้องแล้วนี่หว่า
ให้ตายเหอะ เอาไงดีละ

ก๊อก ก๊อก ..
ผมลองเคาะประตู.. เงียบฉี่

“มึง..”
ก๊อก ก๊อก
เอ้า คราวนี้ทั้งเคาะทั้งเรียกเลย
มันก็ยังเงียบ ตายคาห้องไปแล้วมั้งน่ะ

“มึงเว้ยยยย!”
ปัง ปัง
ผมทุบประตู เรียกดังขึ้น แล้วเสียงอู้อี้ก็ดังผ่านประตูออกมา
“ไป”
.
.
แม่ง !
กูอุตส่าห์นึกว่าตาย เดี๋ยวจะเอาโจ๊กคนอร์ไปฟาดหน้าแม่งเลย ผมเดินไปที่ระเบียงทางเดิน ไม่สนว่ามันจะเป็นหนที่สี่

“เฮ้ย แค่กๆ อย่าแม้แต่จะคิด”
เหมือนมันรู้สันดานผม เลยโผล่หัวมาจากเตียง ชี้มือผ่านประตูมาห้าม

ผมยักไหล่ไม่สนใจ พาดขาก้าวไปข้างหนึ่ง
“อย่า!”
ไอ้ทัศน์ลุกมาเปิดประตูกระจก

“หยุด ถ้าปีนมา มึงเจอตีนแน่”
มันขู่ทั้งที่หน้าซีดเซียว

ผมจะล้มมันได้ก็วันนี้ละมั้ง แต่ผมไม่อยากไปแล้ว
ผมก็แค่อยากจะตอบแทนที่มันช่วย ถึงแม้จะเพราะมันจำใจก็เหอะ

แต่ผมก็ไม่อยากจะเข้าใกล้คนที่พร้อมจะไล่และมองผมอย่างดูถูกตลอดเวลาหรอกน่ะ..

ผมมองมันนิ่ง  มันก็ยืนตาเขียวมองผม
แต่แล้วเมื่อเห็นผมกำซองโจ๊กคนอร์กับไทลินอล  มันก็เลิกคิ้ว
ผมไม่สนใจสายตาแห่งคำถามนั่น ก้าวขากลับเข้าไปตามทางเดิน
เม้มปาก เดินเร็วๆผ่านห้องมันไป
.
.


“กูบอกแล้วว่าไม่ต้อง”
มันเปิดประตูออกมา พูดเสียงแหบๆ
ผมไม่หันกลับไปมอง พอที ผมเกลียดไอ้เหี้ยนี่จะตายแล้ว
ผมกดลิฟต์อย่างหงุดหงิด ก่นด่าสลับกับสาปแช่งไอ้ทัศน์ในใจ

“เฮ่ย”
ผมสะดุ้งเมื่อจู่มือใหญ่ๆมาคว้าต้นแขน ผมหันไปเจอหน้าซีดๆอย่างผีของไอ้ทัศน์
แววตามันยังขุ่นเขียวเหมือนเดิม

“ปล่อยกู”
ผมเริ่มดิ้นและหลุดอย่างง่ายดาย
ท่ามันจะหมดแรงจริงเฮ้ย !

“มาทำงอนอีก ก็กูบอกแล้วว่าไม่ต้อง”
มันมองโจ๊กกับยาในมือผม

“งอนเหี้ย’ไร กูซื้อมากินเอง”
ผมเถียงหน้าตาย

งอนบ้าไรเล่า กูเกลียดมึงต่างหาก ..

มันสะบัดหัวน้อยๆ ตาหลุบต่ำลงพื้นแบบคนมึนหัว แล้วโบกไม้โบกมือประมาณ จะยังไงก็ตามใจมึงเถอะ แล้วก็หันหลังเดินเซๆกลับเข้าห้องไป

ลิฟต์มาแล้ว แต่จิตใจฝ่ายทรยศเจ้าของ ก็เป็นฝ่ายชนะ ผมทิ้งประตูลิฟต์เปิดค้างอยู่ตรงนั้น แล้วเดินเก้ๆกังๆตามมันไป
มันทิ้งตัวนอนบนเตียง ผมปิดประตูตามหลัง
สายตามองหาว่ามีกระติกน้ำร้อนหรือไม่ และก็มี ผมเอาน้ำจากขวดใส่ลงไปและเสียบปลั๊ก
ผมนั่งบนโซฟารอน้ำเดือด ไอ้ทัศน์นอนหลับตานิ่ง
ผมลองเดินไป เอาหลังมืออังหน้าผากดู
เฮ้ย กุคงไม่ต้องถึงกับเช็ดตัวให้มันหรอกนะ! ผมอ้าปากค้างเมื่อตัวแม่งร้อนจี๋

น้ำร้อนเดือดแล้ว ผมจึงจัดการเทโจ๊กใส่ถ้วย แล้วกดน้ำร้อนใส่ นั่งคนๆอยู่สองสามนาที
“มึง..”
ผมเรียกมันเบาๆ

แม่งได้แต่ครางรับ แต่ไม่ลืมตา

“มึง ลุกๆ”
ผมเอามือแตะๆมันเบาๆ มันลืมตาขึ้น

“เลิกเรียกกูว่ามึงได้แล้ว”
มันบอก

ผมเลิกคิ้วและตั้งข้อสังเกต “มึงยังแทนตัวเองว่า กู เลยนะ”

“กู”มันเอามือชี้ที่ตัวเอง “เป็นรุ่นพี่มึง”

ผมยักไหล่ พยายามพูดกับรุ่นพี่ให้ฟังดูไพเราะ
“เออ ไอ้รุ่นพี่  มึง ลุกขึ้นมาแดกซะ”

หน้าตาซีดเซียวพร้อมฆ่าผมอีกครั้ง แต่แม่งก็ส่ายหัวอย่างอ่อนใจแบบขี้เกียจเถียงกับผม และค่อยๆยันตัวลุกขึ้น
ผมส่งชามให้มัน แล้วแกะยามาสองเม็ดวางไว้ใกล้แก้วน้ำ
ผมนั่งบนเก้าอี้ข้างโต๊ะ ใกล้ๆเตียงมัน นั่งเคาะโต๊ะไปเรื่อยๆ
แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กๆเหลืองๆวางอยู่บนโต๊ะ..
ลายมือคุ้นเคยมาก ลายมือผมเอง..
โห นี่ผมนึกว่ากระดาษแผ่นนี้จะไปจบลงที่ถังขยะซะอีก

เรานั่งอยู่ในความเงียบที่ชวนอึดอัด
เพราะผมไม่มีอะไรจะคุยกับมัน มันเองก็คงเหมือนกันกับผม
ผมสงสัยว่าวันนี้คงโชคดีแล้วที่มันป่วย ไม่งั้นบัญชีแค้นของมันคงทำให้ผมโดนฆ่าหมกระเบียงไปละ

“งั้น.. กูไปละ”
ผมเกาหัวอย่างไม่รู้จะเอาไง
อ้าว ก็มันได้กินแล้วไง ยาก็วางอยู่นั่น น้ำอยู่นั่น แดกเสร็จมันก็คงนอน ผมจะอยู่ทำไม

ผมลุกขึ้นเดินไปที่ประตู

“เดี๋ยว..”
เสียงดังขึ้นข้างหลังผม

“ไม่ต้องขอบใจหรอกน่ะ”
ผมหันไปบอกมัน แต่มันเลิกคิ้วเหมือนไม่ได้คิดจะขอบใจ มันวางถ้วยโจ๊กบนโต๊ะ
“ล้างด้วยสิ”
.
.
ไอ้ ไอ้..
 “ไอ้เหี้ยนิ มึงแดกเอง มึงก็ล้างเองเซ่”

ผมปิดประตูปัง โมโหมัน เป็นคุณชายมาจากไหนวะ ฮึ่ย กูหมั่นไส้
แต่ผมไม่ได้ล็อคประตูห้องครับ คือ โอเค ผมรู้ว่ามันตัวร้อนมาก น่าจะมีใครซักคนอยู่กับมัน เผื่อมันจะตายห่า
แต่มีข้อแม้ ว่าคนคนนั้น  ต้องไม่ใช่ผม โอเค๊!?

ผมตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มากดหาแอร์ คนคนเดียวที่ผมรู้ ว่ารู้จักกับมัน รอสายเรียกไม่นาน ก็ได้ยินแอร์พูดมาตามสาย
“ว่าไง เกรย์”

“เออแอร์ คือ-”
ผมกะจะรีบพูดรีบวาง แต่ก็ต้องหยุดพูดกะทันหัน
คือ..
นั่นสิ คืออะไรล่ะ

ผมจะบอกไอ้แอร์ว่าไงเนี่ย?
 ใช่ ง่ายๆ.. พี่น่าจะรหัสของมันป่วย
แต่ที่ยากคือ หนึ่ง ผมรู้ได้ไง สอง แล้วผมมาทำเหี้ย’ไรที่นี่
ก็ใช่ เอาเสื้อผ้า แล้วคำถามต่อมา เสื้อผ้าผมมาทำห่าอะไรอยู่ห้องพี่มัน..

“คือ กูจะบอกมึงว่า กลับดึก”
ผมเปลี่ยนคำ แล้วก็กดวาง ไม่ทันให้มันถามอะไรต่อ
ผมถอนหายใจเหยียดยาว ชัดเลย บอกไอ้แอร์ไม่ได้ เหลือแค่.. กูเอง TT..

เมื่อยอมรับชะตาชีวิตตัวเองแล้ว ผมก็ลงไปชั้นล่าง
ไปทำไม? ก็จะไปหาวิธีลดไข้น่ะสิ เพราะให้ตายผมก็ทำใจเช็ดตัวให้มันไม่ได้หรอก
แล้วสายตาดูถูกของมันก็ไม่เชิญชวนให้ทำงั้นเลยซักนิด พับผ่าดิ
.
.
ผมกลับมาพร้อมแผ่นเจลคูลฟีเวอร์และยาแก้ไอ
มาถึงจับลูกบิดหมุน ประตูเปิดออกอย่างที่ควรจะเป็น มันไม่ได้ลุกขึ้นมาล็อคแฮะ
ลองมันล็อคดิ กุจะกลับหอให้ดู แม่ง -*-

ไอ้ทัศน์นอนหลับ กลายสภาพเป็นทัศน์น้อยเวอร์ชั่นหมดฤทธิ์บนเตียง
ผมยิ้มสมใจ มันป่วยก็ดีอย่างเงี้ย ผมเกิดความรู้สึก ‘กูเหนือ’ ขึ้นมาทันที ฮ่าๆ
ผมวางแผ่นเจลแหมะลงบนหัวมัน

“อือ..”
มันปรือตาขึ้นมามอง
ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“อะไรวะ”
มันเอามือจับหน้าผาก
“นอนนิ่งๆไปเถอะน่ะ แค่ลดไข้”
ผมบอกพลางวางยาแก้ไอบนโต๊ะ
แล้วก็หันกลับไปเจอแววตาที่มองมาอย่างแปลกใจ

“ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ”
ไม่ใช่มันพูดครับ
ผมเนี่ยแหละพูดเอง

ผมมีประสบการณ์ตรงจากไอ้ทัศน์มากพอที่จะรู้ว่าคำถามไหนเป็นคำถามฮิตที่สุดที่มันใช้กับผม

มันทำหน้าแปลกใจ แล้วยกมุมปากขึ้นนิดหนึ่ง ดูคล้ายรอยยิ้มจริงใจมากสุดเท่าที่ผมเคยได้จากมันแล้ว
“นั่นไม่ใช่ที่กูจะพูด”

ผมเลิกคิ้ว แล้วเถียงมันอย่างผู้รู้ “นั่นแหละที่มึงจะพูด นอนซะ”
มันพึมพำอะไรซักอย่าง จับใจความได้ว่า ห้ามเรียกมึง กูเป็นรุ่นพี่ หรืออะไรเนี่ยแหละ
แต่ผมไม่สนใจฟัง แล้วดวงตาขุ่นๆนั่นก็ปิดลง ลมหายใจสม่ำเสมออย่างคนเข้าสู่ภวังค์
ผมยืนมองนิ่งอยู่แป๊ปหนึ่ง แล้วเก็บถ้วยโจ๊กไปล้าง
..เอาล่ะนะ ถือว่าหายกันหมดแล้วเหอะ ผมเหนื่อยจะแย่ ผมไปละนะ..
ผมดึงผ้าห่มคลุมร่างมันถึงอก ปิดไฟ แล้วก็หันหลังเดินออกไป
หมดเรื่องกันซักที
…………………………………………………………….

หมดเรื่องกันซักที..           [มั้ง]   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2015 16:12:07 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
 :m20: :laugh:
นี่ไม่เรียกเกรียนแล้วน้องเกรย์มันข้ามฝั่งไปต๊องแล้ว
 :m20: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2011 20:10:08 โดย nara555 »

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ที่ผ่านมาหายกัน แต่ต่อไปคือเริ่มต้นสินะเกรย์  :z1:

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
เอิ่ม เกรียน!
5555
แหมๆมีการ(แอบ)ดูเเลด้วย :z1:

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด