INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: INDY in love เกรียนนัก..แต่ก็รักละวะ! 2/4/59 ::Special Idylle:: Final P.289  (อ่าน 2424229 ครั้ง)

the_pupae

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้จะเม้นต์อะไร  บอกได้แค่ว่า..ช๊อบ ชอบตอนนี้มากกกกก :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ nomo9

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
555 หวานได้ใจ แอบสะใจอ่ะ ที่โกจัดการให้กรีนเนี่ย
เปิดเข้าตกใจอ่ะ กระทู้วิ่งไวปานลมกรด 
ปล.อยากไปเวียนเทียนบ้างอ่ะ ทำงานตลอดเลย
ปล.2 เกรียนคนแต่ง เกรียนคนอ่านขอบคุณน้า แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย ^_^

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หวานซะ คู่นี้ลุ้นไม่หนักเท่าคู่เกรย์ทัศน์ ตามลุ้นต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
โก๋แก่ สื่อรัก ไม่แน่นะ ถ้าวันนั้นที่โกไม่แกล้ง กัดนิ้ว กรีน ตอนป้อนโก๋แก่ สองคนนี้ อาจจะไม่มีซัมติงกันก็ได้ แต่ น่ารักอ่ะ กรีน ดูแล โกดีๆนะ จะได้ มีคนดูแลต้มโมกตรงระเบียงกับเจ้าของต้นไม้ ไปนานๆ :กอด1: :L2: :n1: 

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักสุดๆ จบสวยค่า ตกลง พี่กรีนเป็นสามี ? สินะ 5555

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
ขอบคุณนะคะ
จากใจ

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :m3:กรีนกะโก  ชอบๆๆๆๆๆๆๆ 
รอทัศน์กกะเกรย์ มาต่อไวไวน๊า :mc2:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น่ารักมากมาย

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :o8:

พี่กรีนน่ารักอ่าาา

โกก็น่ารักกกก

มีตอนพิเศษเรื่อยๆนะ

ออฟไลน์ mayuree

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-4
น้องโกมีความคิดที่น่ารักผิดคาดแฮะ
แต่ที่มากว่าคือ พี่กรีน ...พี่กินอะไรเข้าไปถึงไปคบคีย์เนี่ย เฮ้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
ชอบๆๆ อ่านเเล้วเขิน(?) o13

LiuXin

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านตอนพิเศษของคู่กรีนอีกจัง
ชอบกรีนโหดๆ อิอิ
 :pig4:

ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
คู่นี้น่ารักมาก อยากให้มีตอนพิเศษอีกจัง  :impress2:

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
ในที่สุดพี่กรีนก็ขอโกเป็นแฟน
น่ารักมากมาย
ลุ้นคู่นี้ด้วย
ชอบทั้งสองคู่เลยค่ะ

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
คู่นี้เข้าใจกันเร็วเนอะ มาจบด้วยอะไรที่หวานๆๆๆ

ออฟไลน์ noosao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
“..ถ้าวันนึงเราไม่ได้ยืนด้วยกันตรงนี้แล้ว ..ถึงแม้วันนึงที่เราเลิกกันไป ก็ไม่มีใครเอาช่วงเวลานี้.. ตอนนี้..  ไปจากเราได้ มันจะคงอยู่ ..ไหลเวียนในความทรงจำเสมอนั่นแหละ”

ชอบประโยคจริง มันตรงใจ

วันนี้เบื่อ เหงา เศร้า มาอ่านแล้ว รู้สึกดีขึ้นเยอะ

ออฟไลน์ maxiez2p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ต่อไปก็กลับมาเกรย์ทัศซินะ
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
สเปเชี่ยลหนนี้ จัดตามคำขอ และแทนคำขอบคุณครับ

บอกก่อนเรื่องที่หนึ่ง : เรื่องนี้ sensitive หน่อย ไม่ได้เป็นการเกี่ยวข้องหรือจงใจกระทำการใดๆให้เป็นที่เสื่อมเสียของสถาบันหรือคณะใดๆนะครับ จริงๆไม่มีอะไรหรอก แต่ผมต้องบอกไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้มันมีสถานที่จริงอยู่ เท่านั้นแหละครับ เดี๋ยวจะเคืองกันถ้าผมเขียนออกไปไม่ดี

บอกก่อนเรื่องที่สอง : ผมต้องมาเขียนรับน้องขึ้นดอยในฐานะที่ไอ้เกรย์มันเป็นปีหนึ่ง
การขึ้นดอยแต่ละครั้ง แต่ละปี จะมีความรู้สึกไม่เหมือนกันเลยครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มช. คงรู้ดี
ปีหนึ่งอารมณ์นึง ปีสองก็อีกอารมณ์ ปีสามก็ต่างไป ปีสี่นี่เดินลง
ซึ่งผม ณ จุดนี้ มันไม่ใช่ปีหนึ่งแล้ว ฮ่าๆ
จึงกล่าวกันก่อนว่า ขึ้นดอยเที่ยวนี้จะไม่ใช่การนำการรับน้องขึ้นดอยรุ่นล่าสุด ที่เพิ่งผ่านไปมาเขียน
แต่ผมจะเขียนภาพรวมเอาแล้วกันนะครับ ภาพรวมของปีหนึ่งที่ผมจำได้แบบเลือนราง ฮ่าๆ
เอาละ พร้อมแล้ว เราก็มามโนตอนเราเป็นเฟรชชี่กันเต๊อะ!!

INDY special : ยามเมื่อ..เกรียนขึ้นดอย !

ผมนั่งมองนาฬิกา..ติ๊กต็อก ติ๊กต็อก
ติ๊กต็อก และติ๊กต็อก
และต็อก และติ๊ก..

ตีสอง..
มึงนัดกูตีสอง มึงจะให้กูนอนตอนไหน ..กูนอนตอนไหน
นอนตอนไหนวะ !

“น้องๆคณะมนุษยศาสตร์ครับ พรุ่งนี้พี่สต๊าฟจะไปรับที่หอแต่ละหอ ขอเรามาพร้อมกันตอนตีสองนะครับ”
เสียงพี่สต๊าฟแว่วมา
“พี่ปล่อยกลับหอกันแล้ว รีบนอนเอาแรงนะคะ พรุ่งนี้เรามีภารกิจ พิชิตดอย!! เย้เย้”

จริงอยู่ครับ ว่าหลังจากการรับน้องรถไฟที่ผ่านมา (กติกา : ห้ามขอสเปเชี่ยลรับน้องรถไฟ !!)
ผมก็เฝ้ารอการรับน้องขึ้นดอยมาตลอด..
แต่ตีสอง..
นั่นมันเวลาเข้านอนกูเว้ย!
ผมแทบลงไปดิ้นกระแด่วๆ
ผมไม่ได้นอนที่สโมฯ(สโมสรนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์)เพราะพื้นที่อันจำกัด
จึงออกจากห้องเชียร์ กลับมาถึงหอประมาณสี่ทุ่ม พร้อมปัญหาชีวิต
กูจะนอนยังไงให้ตื่นตีสอง T_________T
.
.
“ทำไม ทำหน้าเป็นไข่ดาวบูดอย่างนั้นวะเกรย์”
เป็นยังไงวะ หน้าไข่ดาวบูด ผมไม่รู้ แต่ผมก็เงยมองไอ้แอร์

“กูจะไปนอนคณะนะ”
ไอ้แอร์ว่าต่อ “มึงกับไอ้นนก็นอนซะได้แล้ว”

“กินเหล้ากันมั๊ยมึง”
อยู่ดีๆผมก็พูดขึ้น
ไอ้แอร์แทบสำลักเมื่อผมชวน

“มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ขึ้นดอยนะเว้ย”
ไอ้แอร์ส่ายหน้า

“จะได้คึกๆไง”
ผมบอกมัน

“คึกหรือแฮงค์ไอ้เกรย์ ไม่กินเว้ย”

“อย่ามาทำตอแหลใส่กู เดี๋ยวพวกมึงก็เอาเหล้าเอาเบียร์ไปกินกันบนดอย แม่ม” <<วิจารณญาณ
ผมด่ามัน
สันดานวิดวะ แม่ง กูรู้!
แล้วไอ้แอร์ก็หัวเราะก๊ากยอมรับ

“เออ กูไปละ มึงดูๆไอ้นนด้วย มันไม่ค่อยแข็งแรงอยู่”

“เออ แม่ม เป็นห่วงเหลือเกิน ไอ้นนเนี่ย มึงมีซัมติงกันรึเปล่าวะ”
ผมเหล่ตา ถามเอาฮา แต่ไอ้แอร์อมยิ้ม แล้วเดินออกประตูไป

สรุปมึงมีซัมติงกันจริงเรอะ เล่าให้กูฟังมั่งดิ!

ซักพักหนึ่งไอ้นนก็เดินเข้าประตูมา แก้มขวาแดงแปร๊ดเหมือนโดนใครหอมมาซักฟอดใหญ่ๆ

แน่ะ.. เมทกู มึงเป็นโรคเม็ดเลือดแดงมากเกินที่แก้มก็ไม่บอก จะได้พาไปโรง’บาล
[กติกาการอ่าน : ห้ามขอสเปเชี่ยลแอร์-นน แต่อนุญาตให้ทำผิดกติกาได้]

“เกรย์ ผมนอนละนะครับ ราตรีสวัสดิ์”
เฮ้ย นอนแล้วเรอะ!!
แล้วมันก็นอนแก้มแดง อมยิ้ม ฝันดีไป

เมทแม่ง ! ทิ้งกูเฉยเลยอะ
กูไม่ได้แก้มแดงมั่งก็แล้วไป

ไฟยังเปิดสว่างโร่ และเวลาเลยสามทุ่มมานิดหน่อย
ไอ้นนหลับได้ทุกสถานการณ์ ทุกที่ ทุกเวลา -*-  แต่ผมทำไม่ได้ แงๆ กูจะทำยังไงดี

ลองก็ได้วะ..

ผมจึงลองปิดไฟมืด โดดขึ้นเตียง ห่มผ้าห่ม
ผมจะนับแกะ!

15 นาทีผ่านไป ผมนับแกะได้ 2 ตัว หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย
ผมจึงเปลี่ยนใหม่..

15 นาทีต่อมาผมก็นับฮิปโปโปเตมัส ได้ตั้ง 10 ตัว
แล้วผมก็เปลี่ยนเรื่อยๆ นับไข่เต่าบ้าง นับหนอนใบชาบ้าง
จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว เมื่อถึงขั้นต้องนับจระเข้อเมซอน

ผมลุกขึ้นมาเปิดไฟ และหาหนังดู..
แน่นอน ติด Supernatural อยู่ มีอาการตีนกระตุกอยากถีบแซมมาก จึงเปิดซีรีย์เรื่องนี้
ได้ผลเลย.. ผมกลัวผี ตาค้าง จากที่ไม่หลับอยู่แล้ว ครานี้กรูไม่ยอมปิดไฟเลย

เที่ยงคืนผ่านไป กรูจะลองนอนซักสองชั่วโมงมั๊ย? ผมถามตัวเอง
ได้ข่าวพรุ่งนี้ต้องวิ่ง ต้องเดิน ล้มลุกคลุกคลานทั้งวัน
ผมจึงกลับไปนับไก่ป่า..
ไม่หลับครับ.. ทำไมมันช่างยากเย็น

แล้วผมก็เริ่มง่วง.. เมื่อเวลา.. ไม่ใช่ตีสองครับ ผมง่วงตอนตีหนึ่งห้าสิบ -*-
ฮ่วยยย ผมนอนซักสิบนาทีจะมีประโยชน์อะไรม๊ายยยยยยยยยยย!!

เอาน่า รับน้องขึ้นดอยทั้งที เขาไม่หลับไม่นอนกันหรอก ผมปลอบใจตัวเอง
จากนั้นจึงเปลี่ยนชุด เป็นชุดขึ้นดอย
เสื้อขึ้นดอยของคณะผมสีขาว มีแถบม่วงและกางเกงสะดอสีเดียวกัน อันเป็นสีประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผมใส่แล้ว คิดว่าตัวเองเหมือนอาแปะขายโอเลี้ยงมากกว่า จึงปลอบใจตัวเองอีกครั้ง..
..ว่ายังไงซะ กรูนี่แหละคืออาแปะที่หล่อที่สุดในสามโลกแล้ว

ไอ้นนเองก็ตื่นขึ้นมาแล้วด้วย
ไหน แก้มมึงยังแดงอยู่รึเปล่า ??
มันเองก็อาบน้ำแต่งตัวครับ ชุดขึ้นดอยของมันเป็นเสื้อสีขาวทับเสื้อยืดสีเหลืองๆภายใน

“มึง ไหวรึเปล่า เห็นว่าไม่ค่อยสบาย”
ผมถามไอ้นน
“ดีแล้วครับเกรย์ ลงไปข้างล่างกันเถอะ”

ผมกับมันจึงแยกย้ายกันไปคณะ

ผมตั้งแถวรวมกับบรรดาเพื่อนๆและพี่ต๊าฟคอยกำกับทางเพื่อไปรับผู้หญิงที่หอพักของพวกเธอ
ใช้เวลานานโขอยู่.. กว่าที่เราปีหนึ่งทั้งหมดจำนวนครึ่งพันของคณะมนุษยศาสตร์จะทั้งเดินทั้งวิ่งจากหอมาจนถึงตึกคณะ
ท่าทางทุกคนไม่ต่างกันครับ มาแบบมึนๆงงๆ แต่แฝงความตื่นเต้นอยู่ในที
ก็คุณคิดว่าชีวิตนึงจะรับน้องขึ้นดอยในฐานะปีหนึ่งซักกี่ครั้งกันล่ะ

อาหารเช้าเรากินกันที่คณะ เป็นข้าวต้มร้อนๆ หอมกรุ่น เหมาะเป็นมื้อเช้า แต่ผมก็กินได้แค่นิดหน่อย เพราะปกติไม่กินมื้อเช้าอยู่แล้ว แต่มื้อสำคัญแบบนี้ ทุกคนต้องกินนะครับคนอ่านทั้งหลาย แหะๆ

เราตั้งแถวเคลื่อนขบวนมาพักบริเวณใกล้ๆโรงอาหารคณะหลังกินอาหารอิ่มหนำกันแล้ว
เพื่อเตรียมไปสมทบกับคณะอื่นๆที่วงเวียนหน้าศาลาธรรม ศาลารวมใจของลูกช้าง มช.

จากมืดสนิท..
เป็นรุ่งอรุณ..
..และเป็นแดดสว่างสดใสเมื่อเรามานั่งรอและหลับรอพร้อมเต้นรอบ้างที่หน้าศาลาธรรม
นักศึกษาหลากหลายคณะละลานตาไปหมด พวกที่ตื่นๆ ว่างๆ ก็ดูชุดขึ้นดอยของคณะโน้นคณะนี้
ชมบ้าง ติบ้าง ไอ้นั่นสวยดี ไอ้นี่ไม่ได้เรื่อง กางเกงน่าจะยาวกว่านี้ เสื้อสั้นจัง ..ก็ว่ากันไป
..แต่ผมจำได้ว่านอกจากชุดคณะตัวเอง หรือชุดอาแปะของผมแล้ว
ตอนนั้นผมชอบชุดสีเขียวของคณะแพทย์ เห็นคณะแพทย์แล้วผมก็คิดถึงน้องชาย
เจ้ากรอยากเป็นหมอ
ส่วนใครมาให้โอวาท มาเปิดงาน มาพูดอะไรบ้างนั้น ยอมรับว่าผมไม่ได้ยินเลย ..เพราะตรูหลับอยู่กลางแดด -*-
ได้ไงไม่รู้ แต่ผมหลับจริงๆครับ เมื่อซักแปดโมงนั่นแหละผมจึงตื่นมาเตรียมบูมคณะ

..แม้จะแบบมึนๆงงๆง่วงๆ แต่ร่างกายผมยังฟิต ไม่เพลียง่ายๆ
เราทำการบูมคณะมนุษยศาสตร์ ว่ากันตามจริง ไม่ได้พร้อมเพรียงกันหรอก
นักศึกษาตั้งหลายร้อย ก็บูมกันเหมือนเล่นเวฟแหละครับ
แต่ในนาทีที่ได้บูม ..มันก็เหมือนเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกันก่อนก้าวขึ้นดอยสุเทพละ..

คณะไอ้ทัศน์ เอ้ย ผมไปพูดถึงมันทำไมวะ อาจเพราะผมเพิ่งจะไปเป็นพยาบาลดูแลมันที่หอมาก็เป็นได้
เอาละ ผมหมายถึงคณะโรคจิต คณะเถื่อน เอ้ย ไม่ใช่  วิศวะนั่นแหละครับ วิศวะถูกแล้ว
พวกเขาทำหน้าแบกเสลี่ยงนำขบวนคณะอื่นๆ ขึ้นดอย
ผมพนันเอาเหรียญห้าสิบสตางค์เป็นเดิมพัน  ว่าเดี๋ยวไอ้พวกนี้ก็ไปถึงที่หนึ่ง ก่อนชาวบ้านเขาอีกเช่นเคยแหละ
แต่ผมแอบเชียร์ให้คณะเกษตรถึงก่อนมั่งด้วย เคืองวิศวะ ไอ้ทัศน์ใจร้าย แหะๆ แบบว่า ..เชื้อผี แค้นฝังเกียร์ครับ ฮ่าๆ

..เวลาสายเราก็เคลื่อนขบวนออกไปตามลำดับ
คณะมนุษยศาสตร์มักจะอยู่ลำดับต้นๆในการเริ่มออกเดิน และก็เช่นกันที่จะ..เป็นคณะลำดับท้ายๆที่เดินขึ้นไปถึง

เราเกรียนๆชิวๆว่ากันไปตามทาง เดินสิบก้าว พักสิบนาที เย้ย !  ไม่ใช่ครับ ผมก็โอเวอร์ไป
ผมหมายความว่า ..เราไม่สนใจหรอกว่าจะถึงเป็นลำดับที่เท่าไหร่ ให้กูไปถึงเท่านั้นแหละ
คณะไหนอยากแซง แซงไป  แล้วเราก็ถูกแซงไปเรื่อยๆ หลายคณะซะด้วย
คณะมนุษย์ทำยังไงรู้มั๊ยครับเวลาโดนแซง..
.
.
เรายิ้มเมื่อพวกเขาวิ่งผ่าน ส่วนเราก็เดินช้าๆต่อไปและโบกมือให้ครับ ฮ่า ฮ่า

พวกเราเดินไปตามถนนคอนกรีตที่ตัดขึ้นดอยสุเทพ.. ผมเดินไปก็แอบสงสัยไป มนุษย์ช่างขึ้นมาทำหนอ สูงขนาดนี้
พวกเขาทำกันยังไง? สร้างตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
จำได้คร่าวๆว่าเคยอ่านหนังสือจากเล่มไหนสักเล่ม ว่าไว้ว่า..
ถนนขึ้นดอยสุเทพนี้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2477..
โห..ร้อยกว่าปีมาแล้วนะ
….
…….
………..
พอประวัติศาสตร์มา ตาเกรียนคนอ่านจะปิดเชียวนะ โนว ห้ามหลับ ลุกมาเกรียนเดี๋ยวนี้ !!


ผมจินตนาการถึงตอนที่ทางขึ้นดอยสุเทพยังไม่เป็นทางสะดวกสบาย
คนมันจะต้องมีศรัทธาแค่ไหน.. มีเรี่ยวแรงเท่าใด.. ถึงจะป่ายปีนขึ้นไปไหว้พระบรมธาตุดอยสุเทพได้..

คนที่ริเริ่มให้มีการสร้างถนนขึ้นก็คือ ครูบาศรีวิชัยครับ ผมเองก็ไม่รู้จักหรอก ไม่เคยคุยกัน
แต่ได้ยินว่าท่านผู้นี้เป็นนักบุญแห่งล้านนา เป็นที่เคารพนับถือของชาวภาคเหนือ
เมื่อกี้เราก็เพิ่งผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่อยู่บริเวณเชิงดอยกันมา
ท่านผู้นี้แหละครับ ริเริ่มความคิด..
โดยมีเจ้าแก้วนวรัฐเจ้านครเชียงใหม่ในสมัยนั้น ผู้ที่ผมไม่รู้จักและไม่เคยคุยด้วยอีกท่านนึง เป็นผู้ลงจอบให้เป็นคนแรก

..ถนนนี้คงเป็นความภาคภูมิใจของชาวล้านนาเลยละผมว่า
ครั้งนั้นที่สร้างถนน อุปกรณ์ คงมีแค่พวกจอบ พวกเสียม
คนในภาคเหนือกี่คนต่อกี่คน ชาวพุทธสักเท่าไหร่มาร่วมมือ..ร่วมแรง..และร่วมใจกันสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ
ซึ่งแล้วเสร็จในเวลาห้าเดือนเศษเท่านั้น ทั้งที่เป็นระยะทางขึ้นเขาชันสิบกว่ากิโลเมตร..

ผมยิ้มซึ้งใจ..
ทำไมถึงมีพระธาตุบนดอยสูง.. ถ้าคุณถามผมนะ ผมคงบอกไม่ได้และไม่รู้จริงๆหรอก
ผมคงพูดได้แค่คำเดียว ..ศรัทธาครับ


แต่ละคณะ แต่ละคนที่ย่ำเท้าก้าวไป บ้างก็ตะโกนโหวกเหวก.. คุย.. ร้องเพลงส่อเสียดเสียงดังลั่น.. แสดงสปิริต
แต่ผมตะขิดตะขวงใจอยู่นิดหนึ่ง
..ทำไมเราไม่เงียบบ้างวะ

เราเดินขึ้นดอย ไปนมัสการพระบรมธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองข้างบนนั้น ทำไมเราถึงมากันแบบโวยวาย
ให้ฝูงนกมันบินหายเข้าป่าไปหมดละ..
ผมได้เห็นนกนานาชนิด กระรอกป่า และสัตว์เล็กสัตว์น้อย แค่เวลาเราหยุดพักกันเงียบๆเท่านั้น

แต่ก็นั่นแหละครับ ..คนหลายชีวิตมาเดินร่วมทางกัน มันต้องมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นธรรมดา
ไม่งั้นเราก็เดินกันแบบหงอยๆ ขาดรสชาติชีวิตกันพอดี อีกอย่างการพุดคุย ร้องรำทำเพลง สร้างมิตรภาพได้มากมาย
เพียงแต่ผมคิดว่ามันต้องมีขอบเขตบ้างเท่านั้นเอง..

ผมก็นักดื่มคนนึง.. แต่ในวัดหรือระหว่างทางไปศาสนสถานเช่นนี้.. ผมไม่พกติดมาด้วยหรอกครับ
บางครั้งเสียงโหวกเหวกโวยวายรบกวนป่า หรือเศษขยะ แก้ว ขวดน้ำ แม้แต่ขวดเหล้าเบียร์ที่อยู่รายทาง
ทำให้ผมต้องถามตัวเองว่า พวกมึงขึ้นมาทำอะไรกันเนี่ย..

เอาละ ว่ากันไปพอเป็นพิธี ..ก็เก็บไปคิดกันดูแล้วกันนะครับ

เราได้พักกินข้าวเที่ยงกันที่จุดหอดูดาว มีข้าวมีน้ำมีขนมให้เรารับประทานกัน
พวกผมก็เดินกินกันเป็นกลุ่ม
ผมพยายามมองหาไอ้ทัศน์ เอ้ย ไม่ใช่ครับ
พยายามมองหาไอ้แอร์กับไอ้นน แต่ก็ไม่เห็น เพราะคนเยอะเกินไป ตาลายจริงๆ

พักกันพอหายเหนื่อย แล้วชาวเราก็เดินต่อ
เราเบื่อแล้ว จึงเปลี่ยนจากยิ้มและโบกมือ เป็นปรบมือดังๆให้คณะพยาบาลที่เพิ่งแซงเราไป
คณะนั้น คณะนี้..ก็แซงเราต่อไป แต่อย่าได้แคร์
เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก รักมนุษยศาสตร์ครับ  แว๊กก

เพื่อนผู้หญิงที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงก็มีเป็นลมบ้าง แต่พักไม่นานนัก สต๊าฟก็พามาส่งร่วมแถวกันเหมือนเดิม
ระยะทางกว่าจะถึงนั้นยาวราว 14 กิโลเมตร..

ผมซึ้งในสปิริตทุกครั้งที่เห็นเพื่อนที่ขาเข้าเฝือก แต่เดินขึ้นมาด้วย บ้างก็นั่งวีลแชร์ มีเพื่อนๆคนอื่นคอยช่วยเหลือข้างกาย


นี่แหละครับการเดินทาง.. บางทีมันก็ไม่ได้สำคัญที่จุดหมายปลายทางเพียงอย่างเดียว
มันแทบสำคัญยิ่งกว่า..ว่ารายทางเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง ได้รับอะไรบ้าง ..และได้ให้อะไรบ้าง


.

.

เรามาถึงห้วยรับเสด็จในที่สุด เป็นจุดสุดท้าย ให้ทำกาย ทำใจ ให้พร้อมวิ่งขึ้นโค้งสปิริต
โค้งวัดใจ โค้งสุดท้ายก่อนขึ้นไปถึงดอยสุเทพ..

พวกเราบูมคณะมนุษยศาสตร์อีกครั้ง และจับมือกันไว้มั่น สุดลมหายใจลึกๆ..
Then…we run!
แล้วเราก็วิ่งขึ้น..
มันชันมาก.. เหนื่อยมาก..
แต่ผมพยายามที่สุดที่จะไม่ปล่อยมือเพื่อนข้างตัว ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน
ขณะวิ่ง..มือเพื่อนบางคนหลุดจากการเกาะกุมของผมไป
ผมชะงักฝีเท้า ..ไอ้แว่น เพื่อนปรัชญามันเป็นหอบหืดอยู่
ผมกลับหลังไปคว้ามือมันมา พร้อมด้วยเพื่อนอีกคนที่หน้าขาวซีดใกล้เป็นลม
ผมเองก็ซีด และล้าเต็มที แต่พวกเขาคือเพื่อนของผม

มีรุ่นพี่ปีสอง ปีสามคอยแจกแอมโมเนียอยู่ข้างๆ ผมรีบโบกไม้โบกมือ เอาให้ไอ้แว่นกับไอ้เป้คนละอัน
รุ่นพี่ให้ผมมาด้วยอันหนึ่ง สำลีเสียบไม้ชุบแอมโมเนียน่ะครับ กลิ่นเหมือนฉี่อูฐตามที่หลายคนว่ามา
ผมก็ยืนยันไม่ได้หรอกนะว่าเหมือนหรือไม่ เพราะผมก็ยังไม่เคยดมฉี่อูฐเลยซักที อูฐตัวเป็นๆยังไม่เคยเห็นเลยครับ

..เราหย่อนฝีเท้า เมื่อถึงจุดพัก รอขึ้นไปไหว้พระบรมธาตุ
พักแล้ว ก็มาล้อมวงเล่ากันหน่อย..

พระธาตุนี้แต่เดิมเป็นเจดีย์ที่อยู่ของท่านฤาษีชื่อสุเทวะครับ ก็หมายถึงสุเทพนั่นแหละ
แต่ตัววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหารเนี่ยถูกสร้างเป็นวัดทีหลัง
โดยพญากือนาเป็นผู้สร้างพร้อมบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในนานโขแล้ว
แต่ก็สร้างหลังพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่นะ แน่นอนว่าผมก็ไม่เคยคุยด้วยทั้งสองพญานั่นแหละครับ
แต่ก็ขอบคุณสำหรับศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้..


ครู่ต่อมา
..ผมและเพื่อนๆก็เดินขึ้นบันไดนาคที่จำนวนขั้นทำให้เราท้อใจ ต้องหยุดกันเป็นพักๆ
เอาละ..พยายามไปเถิด จะเกิดผล
ผลสุดท้ายคือ    เรามาถึงแล้วครับ.. พระบรมธาตุดอยสุเทพ..
กี่รอยเท้ามาแล้วนะ..ที่มายืนตรงนี้ ปีแล้วปีเล่า..
การรับน้องขึ้นดอยเป็นประเพณีที่เริ่มมาพร้อมๆกับพ.ศ.2507 ปีที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เลยทีเดียว..

พวกเรานั่งถือดอกไม้ธูปเทียนรอ ฟังพระท่านเทศนาภาษาเมืองไปพลางๆ
อู้ไป๋ ก่ม่วนอ๊กม่วนใจ๋แต๊
ผมพลอยยิ้มไปด้วย

พอคณะก่อนหน้าลงมาจากองค์พระธาตุ แล้วพวกผมก็ขึ้นไปนมัสการต่อ
พระเจดีย์ทองอร่ามเรืองจริงๆครับ ..ผมมองอย่างชื่นชม

เราเดินวนองค์พระธาตุสามรอบ ผมก็นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
มีแม่ พ่อ พี่กรีน น้องกร และไอ้ทัศน์(รายนี้มาได้ไงวะ ยังงงๆอยู่) แว๊บเข้ามาในหัวบ้างเป็นบางครั้ง แหะๆ
อยู่ที่ไหนผมก็อดคิดถึงครอบครัวไม่ได้หรอกครับ มันไม่ใช่แค่ในหัวใจ มันอยู่ในเส้นเลือดที่ไหลผ่านทั่วทั้งร่างกาย..

เสร็จแล้วผมจึงลงมาจากองค์พระธาตุอีกทางหนึ่ง แล้วเดินไปยืนมองขุนเขาเชียงใหม่ ที่จุดชมวิว

ผมอมยิ้ม.. สวยจัง..เราขึ้นมาสูงขนาดนี้เลยหรือนี่..

ขาลง  ..เราก็ลงบันไดกันไป ปีหนึ่งแยกย้ายไปแต่ละสาขาวิชา
ผมถูกดึงเข้าไปรวมอยู่ในวง สีหน้าของรุ่นพี่ที่บูมให้นั้นเหน็ดเหนื่อย ทว่าภูมิใจที่มีรุ่นน้องปรัชญาอีกรุ่นหนึ่งแล้ว..

เรารวมพลลงมาจากดอยสุเทพด้วยรถโดยสารสี่ล้อแดงในเวลาเย็นย่ำ..
สรุปคือผมใช้เวลาสำหรับขึ้นดอยหนึ่งวันเต็มๆ หนึ่งวันที่ชีวิตนี้..ผมจะไม่เสียดายเลย

ทุกวันนี้.. ผมมองขึ้นไปบนพระธาตุดอยสุเทพครั้งใด.. ผมก็อดอมยิ้มไม่ได้
ที่..สองขาและหนึ่งใจของผมและเพื่อนๆนี่แหละ..เคยเดินขึ้นไปนมัสการแล้ว..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ขอโทษด้วยนะครับ ที่ Special ขึ้นดอยนี้มาเลทไปหน่อย ลูกจ๊างเชือกใหม่ขึ้นไปตั้งแต่วันที่เก้านู่น
แล้วก็ยินดีต้อนรับเกรียนใหม่ทุกท่าน วันหยุดก็อ่านหนังสือเคลียร์การบ้านกันนะครับ จะได้เกรียนอย่างสบายใจ
..สุดท้ายขอบคุณเกรียนคนอ่านเหมือนเดิมครับ ฟังเทศน์ ฟังธรรมเข้าพรรษานี้ อย่าเผลอฟังพระท่านผิดจาก..
ขอให้เจริญๆนะโยมเป็น ขอให้เกรียนๆนะโยม ละ
แฮ่ !! บ๊ะบายครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2011 22:30:36 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ porpeppe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เยี่ยม มมม~!!
 o13
ชอบ ว่ะ อ่าน แล้ว ยิ้ม ค้างงง
ไม่ เกรียน จิง ทำ ไม่ ได้...55555

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
จะวันพระ วันโกน วันธรรมดา
เราก็จะไม่หยุดเกรียน
 :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






WhatLoveIs

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วอยากไปดอยด้วยสักครั้งเลยค่ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
น่าเสียดายที่เกรียนคนเขียนไม่มีโอกาสได้คุยกับท่านครูบาศรีวิชัย :z2:

hardened-boy

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13
"เปิดเข้ามา วันนี้ รอบที่ร้อย"
"แอบอมยิ้ม น้อยน้อย ให้คนเขียน"
"ขยันอัพ อย่างนี้ มีแต่เกรียน"
"เสร็จแล้วก็ รีบไปเขียน ตอนต่อไป"

เร็วๆๆๆๆๆๆๆ อยากอ่านต่อแล้วง่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2011 22:06:04 โดย hardened-boy »

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
อ่านแล้วอยากไปเป็น นศ. มช จังเลย ก้อเคยคิดที่จะไป แต่พ่อแม่ให้ไป มันไกล เศร้า เซ็ง  แต่อยากไปมว๊ากกก :sad4: :sad4:

แต่ก้อนะ ปีหนึ่งมันนานมามากแล้วเหมือนกัน แต่ความรู้สึกลึกๆมันเหมือนเราเเพิ่งเข้าปีหนึ่งเมื่อวานเอง กร๊ากก  :m13: :m13:

ถูกของเกรียนคนเขียน รับน้องปีหนึ่งมันจะมีสักกี่ครั้งกันเนอะ นึกแล้วก้อสนุก ฮ่าๆ :m4: :m4:

ปล.มาต่อให้ไว ติดเรื่องนี้งอมแงม เปงกำลังใจในการสอบ แว๊บมาอ่านประจำ :m12: :m12:
ปล2.มาต่อ แอร์ นน เหอะนะ คู่นี้มันชักยังไงๆ ไปสปาร์คกันตอนไหนอ่า :m26: :m26:
ปล.อยากอ่านกรีนโกด้วย เกรียนขออ่านขอเยอะไปมั้ยอ่ะ แต่ถ้าจัดให้ได้ จะรักมากกว่านี้อีก ยิ้มมมมมมม :haun5: :haun5:

Chubby

  • บุคคลทั่วไป
 :pig4:
[กติกาการอ่าน : ห้ามขอสเปเชี่ยลแอร์-นน แต่อนุญาตให้ทำผิดกติกาได้]
ขออนุญาตทำผิดกติกาจ้า : ขอแอร์-นน จ๊ะ

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
เป็นนิยายที่อ่านแล้วอยากตามไปเกรียนที่เชียงใหม่บ้าง
ถ้ามาตอนแอดเลือกมช.ไปแล้วนะเนี่ย
ตอนแรกที่อ่านเรื่องนี้
หันไปบอกเพื่อนว่า กุจะซิ่วไม่เรียนปรัชญาแล้วนะ
สนุกมากกกกกกก
เกรียนมากด้วย
เป้นหนึ่งแรงเกรียนๆให้คนเขียนจ้า o13

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
อ้างถึง
จริงอยู่ครับ ว่าหลังจากการรับน้องรถไฟที่ผ่านมา (กติกา : ห้ามขอสเปเชี่ยลรับน้องรถไฟ !!)
แล้วววววว รับน้องรถไฟรับน้องรถไฟ
อ้างถึง
[กติกาการอ่าน : ห้ามขอสเปเชี่ยลแอร์-นน แต่อนุญาตให้ทำผิดกติกาได้]
ล่อตาล่อใจขนาดนี้เกรียนจะใจร้ายก็ให้มันรู้กันไป
อ่านเกรียนเค้าเล่า ไหงได้ความรู้เฉยเลย

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
เคยเดินขึ้นดอยเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็นลูกช้างค่ะ อยู่สถาบันฝั่งตรงข้าม
แต่อาศัยความเนียน(และเกรียนนิดๆ) เดินขึ้นไปกะเค้าได้หน้าตาเฉย   :laugh:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :impress3:

อ่านแล้วอยากเรียนม.ช.เลย


จะเอ็นให้ติดๆๆๆ  อีก2ปี มีเวลาเตรียมตัว 555

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
เกรียนเกรย์มีสาระมากในตอนนี้ และน่ารักที่ยังอุตส่าห์คิดถึงไอทัศน์ตอนเดินวนองค์พระธาตุสามรอบ
ก๊ากก นึกถึงครอบครัวเสมอ แสดงว่าไอทัศน์กลายไปเป็นคนในครอบครัวแล้วอะเดะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด