The Space [ช่องว่าง] จบแล้วค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Space [ช่องว่าง] จบแล้วค่ะ  (อ่าน 119943 ครั้ง)

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ช่องว่าง ตอนที่ 20 Part II
«ตอบ #240 เมื่อ17-06-2011 12:11:10 »



ผมเดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งด้วยความรู้สึกหนึบๆ ขาผมมันไม่ค่อยจะมีแรงเลยแฮะตั้งแต่ณัฐมาค้างด้วย หรือจะบอกตามตรงว่าตั้งแต่เซ็กส์ครั้งแรกของผมกับณัฐเมื่อคืนทำเอาผมเดินเป๋ไปทีเดียว พอย่างเท้าเข้ามาในร้านผมก็เห็นจูนโบกไม้โบกมืออยู่ไหวๆ ผมต้องบังคับตัวเองให้เดินตรงทางเพราะไม่งั้นโดนแซวแน่นอน
“แหม.... กว่าจะนัดมากินข้าวได้สักทีนะยะพ่ออาร์ทฯขายดี” ผมยิ้มให้หญิงสาวที่สะบัดผมสั้นระดับบ่าเป็นลอนสวยงามให้อย่างแสนงอน แล้วเดินไปนั่งข้างๆเธอ
“จูนก็รู้ว่าเรางานยุ่ง” ผมยิ้มให้เธอ จูนสวยขึ้นมาก จากที่ตอนเรียนไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไรนัก แต่พอทำงานเธอก็ดูจัดจ้านขึ้นเยอะ
“แล้วไอ้ทัชละเม้ง” ผมหันไปถามคนที่นั่งเงียบไม่พูดจา ไอ้ทัชเป็นคนมาชวนผมแท้ๆ แต่ดันยังมาไม่ถึงอีก
“กำลังมา” ครับ...สั้นและง่ายฉบับเม้ง ผมเลยหันไปสนใจเมนูอาหารกับจูนสองคน เม้งสั่งแค่ของที่ตัวเองชอบอย่างเดียวแล้วก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมกับจูนสั่งอาหารกันอย่างเมามัน พอพวกผมสั่งอาหารเสร็จไอ้ทัชก็มาพอดีครับ

“ไม่มาตอนกินเสร็จเลยละยะ” จูนประชดเสียงเขียว ไอ้ทัชสะดุ้งไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มแหยๆ
“โทษทีเว้ย รถติดว่ะ”
“กูไม่เชื่อ” เม้งพูดขัด ไอ้ทัชหันหน้าขวับไปปิดปากเม้งทันที เท่านั้นแหละครับ ด้วยท่าทางน่าสงสัยของไอ้ทัชนั่นเองทำให้จูนรีบเค้นหาความจริงทันที
“ทำไม แกโกหกใช่มั้ยทัช ทำไมมาช้ายะ บอกมาซะดีๆ!” จูนถามไอ้ทัชแต่มันก็ไม่ยอมตอบ จูนเลยหันมาเอาความจริงกับผมแทน
“เฮ้ย เราไม่รู้อะไรนะ” ผมไม่รู้จริงๆครับแม้ว่าผมจะทำงานที่เดียวกับไอ้ทัชก็เถอะ
“อะไรกัน ทำงานที่เดียวกันแต่ไม่รู้อะไรเลย”
“มึงก็บอกจูนไปสิว่ามึงไปติดสาวมา”
“เฮ้ย แกไปติดสาวที่ไหนฮะทัช ไม่บอกไม่เล่าให้เพื่อนฝูงฟังเลยนะยะ!” จูนแหวเสียงดัง ผมฟังคำพูดจากเม้งแล้วก็ขำ งานนี้เม้งทำให้ทัชงานเข้าจริงๆครับ

“เฮ้อ สุดท้ายแล้วเราต่างก็ต้องมีคนรักสินะ” จูนถอนหายใจแล้วจิ้มปลาหมึกผัดกระเทียมเข้าปาก ท่าทางจูนเหมือนคนที่ปลงตกในชีวิตไม่มีผิด
“จูนก็หาสักคนสิ แฟนน่ะ”
“ชั้นก็อยากจะหานะ แต่ไอ้คนที่เราชอบ เขาก็ไม่ชอบเรา เศร้าชะมัด ใครจะไปโชคดีเหมือนเธอละยะฟี่ ชั้นรู้น้า~” ผมขนลุกซู่เลยครับ น้ำเสียงจูนทำเอาผมกลืนข้าวไม่ลงเลย
“รู้อะไรเหรอจูน” ผมยังแกล้งทำเสียงนิ่งๆอยู่ครับ แต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่าทั้งไอ้ทัชและไอ้เม้งเริ่มหันมาสนใจที่จูนเกริ่นแล้ว
“ก็เรื่องหนุ่มณัฐนั่นไงละจ๊า” ผมกัดริมฝีปากอย่างขัดใจ ฝีมือเชอรี่แน่เลย ยัยตัวแสบ...
“ใครวะณัฐ?” ไอ้ทัชถามอย่างสงสัย เม้งเองก็มองผมเหมือนต้องการคำตอบ
“ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก” ผมตอบไปแค่นั้นจูนก็ตบโต๊ะดังปัง แขกโต๊ะอื่นเลยหันมามองกันเป็นตาเดียว
“ไม่น่าสนใจได้ไงยะ เธอทำให้ความฝันชั้นเป็นจริงแล้วไม่เล่าให้ฟังได้ยังไง ไหนบอกมาเลยนะว่าไปคบไปชอบพอไปรู้จักกันตอนไหน” สีหน้าจูนคาดคั้นเหมือนกำลังสอบปากคำผู้ต้องหาเลยครับ นี่ผมทำให้ความฝันของสาวจูนเป็นจริงไปซะแล้วเหรอเนี่ย ไอ้นิสัยจิ้นวายนี่มันไม่มีทางหมดไปจากสมองเธอเลยใช่ไหม?
“ก็ดี” ผมพยายามสงวนวาจา เพราะผมไม่รู้ว่าเพื่อนผู้ชายอีกสองคนในกลุ่มเขาจะคิดยังไง จูนน่ะผมไม่ห่วง เพราะเธอเป็นคนที่ใจกว้างมากแล้วก็ชอบเรื่องแบบนี้ที่สุด ผมห่วงก็แต่ทัชกับเม้งว่าจะรับได้หรือเปล่า
“มึงเล่ามาให้ละเอียดๆเลยนะ กูอยากรู้มาก หน็อย...เจอกันทุกวันไม่คิดจะเล่า ยังเห็นกูเป็นเพื่อนมั้ยเนี่ย” ไอ้ทัชพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ผมอึ้งไปนิดหนึ่ง ไม่นึกว่ามันจะคิดอะไรละเอียดอ่อนแบบนี้ด้วย ผมถอนหายใจแล้วก็ตัดสินใจเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนที่ผมเจอณัฐ ตอนที่ทำงานด้วยกัน ตอนที่ไม่เจอกันไปพักหนึ่ง แล้วก็กลับมาเจอกันอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจคบกัน ผมเล่าทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่ณัฐเคยมีลูกแล้ว ระหว่างที่ผมเล่าจูนก็ตั้งใจฟังจนไม่ยอมแตะข้าวในจาน สายตาเธอดูเป็นประกายสุขล้นเสียจนผมสงสัยว่านี่มันเรื่องของผมหรือเรื่องของจูนกันแน่
“โห...แม่งโคตรอมตะ” ทัชพูดแบบทึ่งๆหลังจากที่ได้ฟังว่าผมรู้จักและแอบชอบณัฐมานานแค่ไหนกว่าจะได้คบกัน
“แน่ละย่ะ ถ้าเป็นนายละ รอได้ไหม ตั้งสี่ปีเลยนะกว่าต่างคนจะโสด แล้วถึงได้มาคบกัน”
“เราน่ะโสดอยู่แล้วจูน ณัฐต่างหากที่ไม่โสด” ผมอธิบายต่อ
“แสดงว่ามึงก็รอจนเขาเลิกกับแฟนเลยเหรอวะ ถ้าเป็นกูจะไปราวีให้มันเลิกไวๆ ฮ่าฮ่า” ไอ้ทัชเสนอความเห็นอย่างชั่วร้าย ใจหนึ่งผมรู้สึกรังเกียจนิดๆที่มีคนอย่างมันเป็นเพื่อน แต่ผมก็ดีใจที่เพื่อนเข้าใจผม
“อ้าวเม้ง ทำไมนั่งเงียบละ” พอจูนทักขึ้นมาผมก็เลยนึกได้ว่าเพื่อนผมอีกคนนั่งเงียบแล้วก็ไม่ไถ่ถามอะไรเลยมาพักใหญ่ แม้ว่าแต่เดิมเม้งจะไม่ค่อยพูด แต่ตอนนี้เม้งไม้พูดเลยสักคำ
“ปวดขี้เหรอมึง” ไอ้ทัชกระเซ้าแต่เม้งก็ไม่นำพา เม้งยังคงกินข้าวไปเงียบๆจนพวกผมเองก็จนใจจะถาม
“สงสัยเม้งจะหิว ชั้นว่าเราก็มากินกันต่อเถอะ มัวแต่เมาท์” จูนตัดบทแล้วก็ลงมือกินต่อ ผมกับทัชก็เลยได้แต่ตามน้ำไปทั้งที่ใจยังสงสัยเรื่องเม้งอยู่


“ชั้นเอารถมา แกละทัช” พวกเรากำลังเตรียมตัวจะกลับบ้านกันครับ ฟาดฟันมื้อเย็นกันจนอิ่มแปร้แล้วก็ทยอยกันกลับ จูนกับทัชแล้วก็เม้งมีรถกันทุกคน ต่างคนต่างก็ขับรถกลับเอง มีแต่ผมคนเดียวที่ไม่มีรถ
“เอามาเหมือนกัน ทำไมมึงไม่ซื้อรถฮะฟี่” ทัชหันมาถามผมแล้วผมก็ส่ายหัว
“กูไม่ชอบขับรถ จะซื้อก็ต้องไปเรียนขับรถอีก วุ่นวาย แท็กซี่ก็มี”
“เดี๋ยวเราไปส่งเอง” เม้งพูดขึ้นมานิ่งๆ พวกผมหันไปมองที่เม้งแล้วจูนก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกออก
“เออ ใช่สิ บ้านเม้งกับบ้านเธอไปทางเดียวกันนี่ฟี่ กลับกับเม้งเลยก็ดีเหมือนกัน” ผมเองก็เห็นด้วย ดีเหมือนกันจะได้ประหยัดค่ารถ เอ่อ...ผมไม่ได้งกนะครับ

“เปิดเพลงได้มั้ยเม้ง” ผมหันไปถามคนขับที่พยักหน้าให้ผมโดยไม่พูดอะไรตามเคย ผมชอบนั่งรถเม้งชะมัด เพราะมันเป็นรถยุโรปที่คันกว้างขวางและแอร์เย็นเจี๊ยบ ผมเลือกหาคลื่นวิทยุที่ผมชอบฟังแล้วก็เพิ่มเสียงอีกระดับ เพลงที่ดีเจเปิดเป็นเพลงที่ผมชอบพอดีผมเลยฮัมเพลงตาม
-เธอรู้ไหม ทำไมฉันจึงรักเขา เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเธอเองก็ห่างเกิน...- ฟังเพลงนี้ทีไรผมนึกถึงพี่ตังค์ทุกที... ไอ้พวกทำตัวเองแล้วยังมาโทษคนอื่น...
“ฟี่ เรามีเรื่องอยากจะบอก” ระหว่างที่ผมกำลังฮัมเพลงเพลินๆเม้งก็พูดขัดจังหวะ ผมหันไปมองเม้ง เขามีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย?
“อะไรเหรอเม้ง?”

TRrrr… TRrrr…

ยังไม่ทันจะได้คุยกับเม้ง โทรศัพท์ผมก็ดังพอดี ผมหยิบมาดูก็เห็นว่าเป็นณัฐโทรเข้ามา
“ขอรับโทรศัพท์แป๊บนะเม้ง ฮัลโหล” ผมกระซิบกับเม้งแล้วก็กดรับโทรศัพท์ แค่ได้ยินเสียงเขามาตามสายผมก็เผลอยิ้มเสียแล้ว
/กลับหรือยังครับฟี่/
“กำลังกลับเนี่ย แล้วตัวเองเลิกงานแล้วเหรอ”
/อืม กำลังนั่งรถกลับเหมือนกัน/ ผมคุยไปก็ยิ้มไป นี่แหละครับ คนกำลังมีความรัก... แค่ได้ยินเสียง แค่ได้คุยก็มีความสุข
แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังลิ้มรสชาติของความสุขนั้นก็มีบางสิ่งที่ทำให้ผมต้องแปลกใจขึ้นมา..
“ฟี่ เรามีเรื่องจะบอก” เม้งพูดเสียงดัง เข้ม และชัดเจน  ผิดจากเสียงปรกติที่แทบจะไม่ได้ยิน ผมหันไปมองเพื่อนอย่างแปลกใจทั้งที่ยังคุยโทรศัพท์คาอยู่
“มีอะไรเหรอเม้ง” ผมถามกลับแล้วเม้งก็เลี้ยวรถเข้าข้างทาง เม้งนิ่ง ผมก็นิ่ง เสียงณัฐถามมาตามสายด้วยความแปลกใจ
/มีอะไรเหรอฟี่ เกิดอะไรขึ้น/ เสียงณัฐถามผม แต่ผมก็ไม่ได้ตอบกลับ ผมกำลังอัศจรรย์กับปฏิกิริยาใหม่ของเม้งครับ

เพื่อนร่วมรุ่นของผมที่เรียน เล่น และเที่ยวด้วยกันมากว่าสี่ปีหันมามองผมช้าๆ นัยตาของเม้งดูลึกล้ำสื่อความหมาย มีบางอย่างบอกผมว่าให้อุดหู หรือหาเรื่องคุยเรื่องอื่นไปซะ

บางอย่างบอกผมว่าผมไม่สมควรจะได้ยินสิ่งที่เม้งกำลังจะพูดต่อไปนี้...

“เราชอบฟี่นะ...”
/อะไรนะ!!/ เสียงในรถมันเงียบครับ...ไม่แปลกถ้าคนในโทรศัพท์จะได้ยินไปด้วย เสียงณัฐฟังดูห้วนและเดือดดาล ผมเองตอนนี้ใบ้รับประทานไปแล้วครับ สติสตังลอยหายไปกับเสียงเพลงในรถจนหมด เม้งยื่นมือมาจับมือผมไว้
“ตั้งแต่เมื่อไรเม้ง...ที่รู้สึกกับเราแบบนี้...” ผมเค้นเสียงอย่างยากลำบาก สมองก็คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรดี
“เราก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามันชัดเจนขึ้นก็วันนี้...”
“แต่เรามีแฟนแล้วนะเม้ง เรามีคนที่คบอยู่แล้ว”
“เรารู้ แต่เราก็มัวแต่เก็บงำจนมันสายเกินไป...จนเราเสียฟี่ไป...”
“....” ผมนิ่งไปเลย และคนในโทรศัพท์ก็นิ่งไปเหมือนกัน ผมได้ยินแต่เสียงหายใจเบาๆของณัฐ ผมลดมือลงแต่ยังไม่ได้กดวางโทรศัพท์
“ถ้าหากฟี่บอกว่าฟี่แอบชอบผู้ชายคนนั้นมาหลายปีกว่าจะได้คบกัน แล้วเราละฟี่ เราก็ชอบฟี่มานานไม่แพ้กัน ฟี่จะให้โอกาสเราได้หรือเปล่า?” เม้งพูดเสียงดังและจริงจังเหมือนกับว่าจะให้ณัฐได้ยินด้วย ตอนนี้ผมนึกภาพออกเลยว่าณัฐคงต้องกำลังกัดฟันกรอดแน่นอน
“ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นนะเม้ง จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก” ผมไม่รู้จะพูดยังไง ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มือของเม้งบีบมือผมแน่นขึ้น เพื่อนรักของผมมีสีหน้าบรรยายไม่ถูก มันก้ำกึ่งระหว่างความเจ็บปวดและริษยา
“เราอิจฉาไอ้หมอนั่นจริง ที่ได้รับความรักจากฟี่ ทั้งที่มันไม่ได้ทำอะไรให้ควรค่าเลยแม้แต่น้อย”
“เม้ง อย่าพูดแบบนั้นนะ เม้งไม่รู้อะไรด้วยซ้ำ” ผมโกรธครับ ผมไม่ได้โกรธที่เม้งว่าณัฐ ผมไม่ได้หน้ามืดตามัวถึงขนาดว่าให้ใครแตะณัฐไม่ได้ แต่ผมโกรธที่เม้งพูดออกมาทั้งที่ไม่รู้อะไรสักนิด
“ใช่สิ...เราไม่รู้ เพราะถ้าเรารู้เราคงบอกฟี่ไปนานแล้วว่าเรารู้สึกยังไง ไม่ปล่อยมาจนป่านนี้หรอก เราคงทำให้ฟี่เป็นของเราไปนานแล้ว” เม้งพูดจบแล้วก็ดึงผมไปใกล้เขาพร้อมกับโน้มตัวเขามาใกล้ผม
“เม้ง! จะทำอะไรเนี่ย!”
/ฟี่ ท๊อฟฟี่ มันทำอะไร เป็นอะ-/ โทรศัพท์ของผมถูกเม้งดึงไปแล้วกดปิดเครื่อง เม้งยื่นหน้ามาใกล้ผมจนผมมองเห็นทุกส่วนบนใบหน้าเขา ทั้งผิวขาวที่มีรอยกระจางๆบนแก้ม ไฝสีน้ำตาลเม็ดเล็กตรงหางตา และปากบางสีสด
“อึก!” ผมพยายามดันเขาออก เม้งกดจูบผมรุนแรง ฟันของเขากระแทกเข้ากับริมฝีปากของผม ผมหลับตาปี๋และพยายามหลบหลีก ในหัวผมมีแต่ภาพของเพื่อนเม้งผู้แสนเยือกเย็น เขาคนนี้ไม่ใช่เม้งที่ผมรู้จักอีกต่อไป
“ฟี่...เราขอโทษ...” เม้งคงรู้สึกได้ถึงน้ำตาของผมและเสียงสะอื้น เขาผละออกแล้วรีบเช็ดน้ำตาให้ผมแต่ผมก็ส่ายหน้าหนี ผมยกหลังมือมาปาดน้ำตาออกลวกๆ ยังไงผมก็เป็นผู้ชายนะ เสียน้ำตาง่ายแบบนี้แล้วน่าอายเป็นบ้า
“เม้งจะไปส่งเราไหม ถ้าไม่ไปเราก็จะเรียกแท็กซี่ต่อไปเอง”
“ทำไมฟี่พูดแบบนั้นล่ะ เราต้องไปส่งฟี่สิ”
“งั้นก็ไปสิ” ผมเบือนหน้าไปมองนอกหน้าต่าง ผมไม่รู้ว่าเม้งทำหน้ายังไง แต่สักพักเขาก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไป เราสองคนนั่งกันไปเงียบๆจนถึงหน้าปากซอยผม ผมเห็นแต่ไกลว่าคนที่ผมคุ้นเคยยืนรออยู่ ผมแทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างรถไปหาณัฐตอนนี้เลย แต่ผมก็ต้องรอจนเม้งจอดรถสนิทก่อน ณัฐขมวดคิ้วหน้าเครียด พอเขาเห็นผมก็เดินปรี่เข้ามาหาพร้อมกับที่ผมรีบเดินเข้าไปหาเขา ณัฐโอบกอดผมไว้แน่นอย่างหวงแหนแล้วตวัดสายตาไปมองคนที่เดินตามหลังผมมา
“ทำอะไรฟี่” ณัฐถามเม้งเสียงเข้ม
“ทำเรื่องที่อยากทำ” เม้งเองก็ตอบไปแบบนิ่งไม่แพ้กัน ผมพยายามกอดณัฐไว้แน่น เหตุผลหนึ่งคือผมต้องรั้งเขาไว้ไม่เข้าไปทำอะไรเม้ง และอีกเหตุผลคือตอนนี้ผมอยากกอดเขามากที่สุด
“แล้วมันสมควรที่จะทำไหม ฟี่เขามีเจ้าของแล้วโว้ย!” ณัฐพูดเสียงเดือด
“ฟี่เป็นคน จะมีเจ้าของได้ยังไง” ทั้งสองคนจ้องกันแบบไม่ลดละสายตาเหมือนว่าจะฆ่ากันให้ได้ แต่ณัฐก็เลิกจ้องหน้าเม้งแล้วมาประคองแก้มผมเพื่อสำรวจความเสียหายแทน
“มึง!” พอเห็นคราบน้ำตาและรอยช้ำที่ริมฝีปากของผมณัฐก็คำรามเสียงต่ำ ผมกอดเอวณัฐไว้แน่นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าผมจะโกรธที่เม้งทำแบบนั้นกับผม แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้ณัฐใช้กำลังกับเม้ง เพราะเม้งก็เป็นเพื่อนรักของผมเช่นกัน
“เม้ง กลับไปก่อนเถอะ...” ผมหันไปพูดกับเม้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เรื่องนี้ผมจะต้องจัดการเอง
“ฟี่...” เม้งทำสีหน้าเจ็บปวดสุดๆ แต่ผมก็ต้องทำให้ได้...
“เราขอบใจนะที่เม้งรู้สึกดีกับเรา แต่ตอนนี้เรามีคนที่รักแล้ว เราต้องขอโทษด้วยจริงๆที่ตอบรับความรู้สึกเม้งไม่ได้” ผมมองเม้งที่เม้มปากแน่น ณัฐกอดเอวผมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าผมจะหายไป
“โอเค เรายอมรับการตัดสินใจของฟี่ แต่เราขอฝากคำถามไว้กับฟี่เรื่องหนึ่ง ว่าถ้าฟี่ยังไม่ได้คบกับผู้ชายคนนี้ ฟี่จะคบกับเราไหม”
“ไม่” ผมตอบได้แบบไม่ต้องคิด ผมยิ้มแล้วก็ตอบเม้งไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ เม้งเพียงแต่ถอนหายใจแล้วถอยหลังกลับ แต่ก่อนที่เม้งจะเดินกลับไปที่รถ เขาหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง
“เรายังเป็นเพื่อนกันใช่ไหมฟี่”
“อืม” ผมจะยื่นมือไปให้เช็คแฮนด์กับเม้ง แต่ไอ้แสบด้านหลังมันก็ดึงมือผมกลับจนผมต้องหันไปปรามด้วยสายตา
“เดี๋ยวเถอะณัฐ” พอเห็นผมทำตาขวางเขาก็จ๋อยไป แล้วผมก็ได้สัมผัสมือกับเม้ง ผมรู้สึกได้ว่าเม้งจับมือผมอย่างอ่อนโยนที่สุด เขาบีบมือผมเบาๆแล้วยิ้มเศร้า
“ถ้าเลิกกันเมื่อไรบอกเม้งนะ”
“!?!” ผมเหวอ และณัฐก็อ้าปากค้าง เม้งเดินยิ้มกลับไปที่รถแบบโคตรเท่เหมือนพระเอกในหนังฝรั่งไม่ผิดเพี้ยน...


เราสองคนกลับมาถึงบ้านผมเรียบร้อยแล้วครับ ผมกำลังทำกับข้าวให้ณัฐอยู่ในครัวแล้วเขาก็เดินมากอดเอวผมจากด้านหลัง
“ฟี่...”
“หืม?”
“ฟี่คิดแบบนั้นจริงๆเหรอ”
“คิดอะไรครับ?”
“ที่ว่า...ต่อให้ไม่ได้คบกับณัฐ...ก็คงจะไม่คบกับไอ้หมอนั่นหรอก...”
“จริงสิ” ผมตอบไปยิ้มๆ นี่ณัฐเขาเก็บไปคิดด้วยเหรอเนี่ย...
“ทำไมล่ะ ก็ถ้าฟี่ไม่ได้คบใคร ทำไมไม่ลองคบเขาดู” ผมรู้นะครับ ถึงณัฐจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็รู้ว่าใจจริงเขาไม่ได้ต้องการอย่างที่พูดหรอก ผมวางมีดหั่นผักลงบนเขียงแล้วหันไปมองหน้าณัฐ
“ไม่ได้หรอกณัฐ ฟี่ไม่ได้เป็นคนที่โลเล และความรู้สึกของฟี่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปง่ายดายขนาดนั้น ฟี่ไม่มีทางหวั่นไหวแค่เพราะมีคนมาชอบหรอกนะ ความรู้สึกของฟี่ที่มีให้ณัฐมันสะสมมานานแค่ไหน แล้วจะให้ฟี่เปลี่ยนใจไปแค่เพียงเพราะว่ามีคนมาชอบฟี่เหรอ” ผมตอบไปตามความจริง ณัฐเองพอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มได้สักที เขากอดเอวผมไว้แล้วซุกหน้าลงหอมที่ซอกคอผม
“ฟี่...แต่ฟี่ก็อย่าลืมนะ ว่าความรู้สึกที่ไอ้หมอนั่นมีให้ฟี่มันก็เก็บมานานแล้วเหมือนกัน” ผมพยักหน้ารับรู้ที่ณัฐพูด
“แต่ณัฐก็ต้องอย่าลืมสิ ว่าเราไม่สามารถตอบรับความรักให้กับคนทุกคนได้หรอกนะ หัวใจคนเรามีแค่ดวงเดียว เมื่อรักใครก็จะรักแค่คนเดียว...” ผมพูดไม่จบก็นึกได้...ผมพูดคำต้องห้ามออกไปเสียแล้ว...ผมกะว่าจะไม่พูดถึงไอ้เรื่องรักๆนี่ แต่ก็หลุดปากจนได้
“รักได้แค่คนเดียวเหรอ?” ณัฐทวนคำพูดผม ผมเงยหน้าสบตาเขาโดยไม่พูดอะไร ผมอยากจะรู้เหลือเกินว่าเขาจะรับรู้ได้ไหม ว่าผมรู้สึกยังไง...ว่าผมคิดกับเขายังไง...ว่าเขาจะรู้ไหมว่าความรู้สึกของผมมันมากมายเกินกว่าคำว่าชอบ...
“ณัฐก็เหมือนกัน...เวลาณัฐรักใคร ณัฐก็ ‘รัก’ ได้แค่คนเดียว” ผมรู้ว่าณัฐแค่พูดออกมาแบบไม่ได้เจาะจงว่าบอกกับผม เขาอาจจะแค่พูดอธิบายหรือบอกนิสัยของเขาเฉยๆ แต่ด้วยสายตาของเขาที่มองผมกลับ และกระแสะความอบอุ่นในคำว่า ‘รัก’ ของเขา มันกลับทำให้ผมน้ำตารื้นขึ้นมาทันที

ผมรู้แล้วว่าความหอมหวานของการรอคอยมันเป็นแบบนี้นี่เอง...
บางทีสิ่งที่เรารอคอยมันก็มาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว แล้วมันก็มามากกว่าที่เราคาดคิดไว้เสียอีก...
ผมมีคนให้รักอีกคนแล้วครับ...แล้วเขาก็รักผมด้วย...พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งผมสักนิด... แม้จะมีคนต้องเจ็บปวด แต่ความรักมันก็เป็นแบบนี้เสมอไม่ใช่เหรอ? ความรักสำหรับผมบางทีมันก็เหมือนใบไม้ครับ วันหนึ่งต้องมีการร่วงหล่น แต่เมื่อฤดูกาลผ่านไป มันก็จะผลิดอกได้อีกครั้งเอง...

----------------------------- To Be Continue -----------------------------

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
เง้อ เจ็บใจ สงสารเม้ง
ฮาา เพราะเราอคติกับณัฐมากไปมั้ง
เลยไม่รู้สึกดีใจเท่าไร ที่ฟี่กับณัฐรักกัน
อ๊ากก

bellity

  • บุคคลทั่วไป
อืม เบลล์เองอ่านมาก็แบบนะ จากมุมมองภายนอก อาจไม่เห็นด้วยเท่าไหร่กับการที่ฟี่และณัฐรักกันทั้งจากหลายๆ อย่าง หลายๆ เรื่องที่เป็นองค์ประกอบ คงเพราะเรื่องแบบนี้มันอ่อนไหวเกินไปละมั้ง

แต่ก็อย่างว่า ชีวิตใครชีวิตมันเราไม่มีสิทธิไปตัดสินชีวิตคนอื่น เพราะคนที่รู้สึกนะไม่ใช่ตัวเรา แต่เป็นนัฐกันพี่ตังหาก จะทุกข์ จะสุขก็เป็นเรื่องของเค้าสองคน ได้แต่มองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ต่อไป  :sad11: :sad11:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
สงสารเม้ง!!!!!!
แต่....อะนะ  รักมันออกแบบไม่ได้

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
หวังว่าจะผลิแบบนี้ตลอดไปนะฟี่
อย่าเพิ่งรีบร่วงลงมาละกัน :เฮ้อ:

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
รักได้แค่คนเดียวจริงๆค่ะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ก็สงสารเม้งนะ เม้งเอ๊ย...อยากบอกเม้งว่า บางครั้งช้าๆก็ไม่ได้พร้าเล่มงามเสมอไป
ขอเอาใจช่วยให้ณัฐกับฟี่รักกันมากๆ รักกันไปนานๆตลอดไปนะจ๊ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เวลาไม่คอยใคร
คู่แล้วไม่แคล้วกัน

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
โถๆๆๆ  เม้งน่าสงสารจัดหาคู่ให้ซักคนสิคะ
ณัฐรักกับฟี่ก็ดีแล้ว ดูๆไปก็สมกันเน๊อะ งี่เง่าดี รักกันก็ไม่พูดตรงๆ :laugh:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
คุณบีไปไหนแว้วววว :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
เม้งมารักเราก็ได้นะ ฮ่าๆๆ

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
หายไปไหนแล้วอ่า

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป


ขอโทษจริงๆค่ะ T T
ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เที่ยงๆจะเอามาลงให้นะคะ
   :sad4:


บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ช่องว่างหมายเลข 21
«ตอบ #253 เมื่อ28-06-2011 12:12:58 »



“อื้อ! ณัฐ อย่าสิ เดี๋ยวก่อน” ผมพยายามดันเจ้าคนที่เริ่มนัวเนียผมมาตั้งแต่เข้ารั้วบ้านให้ออกไปห่าง แต่เขากลับกอดรัดผมแน่นกว่าเดิมเสียอีก
“ฟี่...” ณัฐเรียกผมด้วยเสียงทุ้มต่ำข้างหู ผมขาอ่อนยวบเมื่อเขางับที่ติ่งหูของผมเบาๆ ผมล็อกประตูบ้านอย่างเร็วก่อนที่ผมจะไม่มีแรงยืนมากไปกว่านี้
“ณัฐ...อะไรเนี่ย ใจเย็นๆสิ” ผมยกแขนเกาะที่บ่าของณัฐไว้ ปากผมก็ร้องห้ามแต่ว่าใจของผมคล้อยตามเขาไปครึ่งทางเสียแล้ว ก็ทั้งสัมผัสของณัฐและกลิ่นกายของเขาทำให้อารมณ์ของผมเตลิดได้เสมอเลย ยิ่งตอนนี้ณัฐรุกเร้าผมรุนแรงแบบนี้ผมก็ยิ่งชอบ...

“ฟี่เป็นของณัฐนะ...” หืม? หมายความว่ายังไง ทำไมเขาต้องทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ด้วยละ
”ณัฐเป็นอะไร ณัฐคิดมากเรื่องเม้งเหรอ” ผมลูบหัวเขาเบาๆ เราสองคนยังยืนพิงกันอยู่ตรงประตูบ้านเลยครับ ณัฐเอาหน้าซุกซอกคอผมและดันผมติดประตูบ้านไว้แน่น
“มันไม่เห็นจะจริงเลยนี่ฟี่...”
“อะไรไม่จริงครับ หืม?”
“ก็ที่เขาบอกว่าความรักมันจะต้องไม่ใช่การหึงหวง แต่มันไม่เห็นจะจริงเลย ก็ฟี่ดูสิ ณัฐหวงฟี่ขนาดนี้... ณัฐไม่อยากให้ใครมาใกล้ฟี่สักนิด ไม่อยากให้ใครมาพูดคุยกับฟี่ ไม่อยากให้ใครมามองฟี่ ณัฐหวงฟี่จนแทบบ้า”
ผมประหลาดใจกับเรื่องที่ณัฐเพิ่งพูดออกมาแบบสุดๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะรู้สึกแบบนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าณัฐหึงหวงผมขนาดนี้ มันเทียบไม่ได้กับท่าทีภายนอกที่เขาแสดงออกมาเลย ผมไม่สมควรจะดีใจใช่ไหมที่ณัฐเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมดีใจสุดๆ ผมดีใจที่เขาหวงผมโคตรๆ

“ณัฐ...น่ารักจัง..” ผมไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำนี้ จะให้ผมบอกเขาว่าอย่าห่วงหรือหวงผมเลยมันก็ไม่ใช่ เพราะเราไม่อาจไปบังคับความรู้สึกใครได้นี่นะ ผมประคองแก้มของณัฐให้เขาหันมองผม แก้มของณัฐนิ่มและเด้งดึ๋ง(จริงๆนะครับ!)น่าจุ๊บเป็นที่สุด ผมหอมแก้มเขาเบาๆ เสียงณัฐร้อง ‘อื๊อ’ ในลำคอแบบที่เขาชอบทำเวลาจะอ้อนผม ผมกดจมูกหอมแก้มอีกข้างของณัฐแบบ ‘ลึกๆ’ กลิ่นหอมของผิวณัฐเป็นอะไรที่ผมคลั่งไคล้มาก
“อะไรอะฟี่...”
“ก็ณัฐน่ารักนี่”
“ณัฐงี่เง่าจะตาย” ณัฐพูดแล้วทำปากยื่น โฮกกกกก จะทำตัวน่ารักไปไหน ผมเลยจัดการจุ๊บที่ริมฝีปากยื่นๆนั่นเสียหนึ่งที เวลาณัฐทำตัวน่ารักแบบนี้ผมละใจอ่อนตลอดเลย
“ณัฐงี่เง่าก็เพราะความรู้สึกที่มีให้ฟี่นี่นา”
“ห้ามเบื่อณัฐนะ ถ้าณัฐงี่เง่ามากๆ งอแงมากๆ หวงฟี่มากๆก็ห้ามรำคาญณัฐนะ” ผมพยักหน้ารับ สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องที่น่ารำคาญสักนิด ผมคิดว่ามุมที่ณัฐงี่เง่าและงอแง มันคือด้านที่ผมได้รับอภิสิทธิ์ให้ได้เห็นเพียงคนเดียว มันเป็นสิทธิพิเศษของคนเป็นแฟนนี่นา...
“โอ๊ะ!” ผมเผลออุทานเมื่อณัฐออกแรงอุ้มผมพาดบ่าแล้วตรงไปที่โซฟา เขาวางผมลงอย่างเบามือและตามลงมานั่งกอดผมเอาไว้ ณัฐนัวเนียคลอเคลียผมไม่ยอมห่างเลยสักนิด
“ฟี่ตัวหอมจังนะ” ผมย่นคอเมื่อถูกริมฝีปากนุ่มจูบไปตามลำคอและหัวไหล่ นี่อย่าบอกนะว่าณัฐอยากจะออกกำลังกายก่อนกินข้าว!!!


Special: Nath’s scene

สวัสดีครับ ผมณัฐครับ
ใช่ครับ....ณัฐคนเดียวกับที่แฟนๆของฟี่บางคนคิดว่าผมไม่เหมาะสมกับฟี่เท่าไรนัก...

แต่ผมไม่โกรธหรอกครับ เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด การที่ผมจะเป็นที่ยอมรับได้ ก็คงต้องใช้เวลาฉันนั้น ผมรู้ตัวว่าผมอาจจะมีอดีตที่ไม่น่าพิสมัย และอนาคตของผมก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ผมไม่มีความเหมาะสมกับฟี่เลยสักนิด ฟี่มีทั้งหน้าที่การงาน มีบ้านของตัวเอง มีความสามารถซึ่งจะนำไปสู่อนาคตที่สดใส

ผมมีแค่ความรัก... ความรักที่มันกินไม่ได้ ความรักที่คงไม่ทำให้ฟี่มีความสุขไปได้ตลอด แต่ว่าผมก็รักเขาเข้าไปแล้ว ผมรักฟี่ ท๊อฟฟี่คนที่เมื่อผมเห็นครั้งแรกก็ไม่อาจละสายตาไปได้ มันไม่ใช่ความรู้สึกสเน่หาเหมือนเวลาที่ผู้ชายปิ๊งผู้หญิง ถึงแม้ว่าฟี่จะผิวใสหน้าตาน่ารักก็เถอะนะ ผมรู้สึกถูกชะตากับเขาอย่างบอกไม่ถูก ตอนนั้นผมคิดแต่เพียงว่าผมอยากทำให้คนยิ้มน้อยคนนี้เป็นคนที่ยิ้มได้มากๆ แค่นั้นเอง

และผมก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าจากความรู้สึกที่ผมแค่อยากทำให้เขายิ้ม มันกลายมาเป็น ‘ผมอยากเห็’

ตอนที่ผมลาออกจากที่ทำงานนั้น ผมก็กังวลเหมือนกันว่าคงจะไม่ได้เจอกันอีก แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หลังจากนั้นไม่นานฟี่ก็ออกจากงานเหมือนกัน ผมไปถามพวกพี่แก๊บ เขาก็บอกว่าฟี่ต้องไปฝึกงานและทำโปรเจคท์จบ นานๆครั้งที่เราจะได้เจอกันโดยบังเอิญที่ร้านหนังสือ แค่นั้นผมก็ลิงโลดเหลือเกินแล้ว

วันนั้นที่ผมบังเอิญเจอฟี่ในเฟซบุ๊คก็เหมือนกัน ผมขอเป็นเพื่อนไปโดยไม่ลังเล พอได้คุย ได้แช็ท ผมก็รู้สึกเหมือนคืนวันเก่าๆคืนมาอีกครั้ง ผมอยากเจอฟี่มากขึ้นเรื่อยๆ อยากเห็นตัวจริง อยากพูดคุย อยากสัมผัส อยากฟังเสียงหัวเราะของฟี่ รู้ตัวอีกทีผมก็ถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว และยิ่งเมื่อได้รับรู้ความรู้สึกของฟี่ ผมก็ปฏิเสธไม่ออก ผมจึงบอกกับตัวเองว่าแทนที่ผมจะผลักไสให้ฟี่ไปกับคนอื่นที่ดีกว่าผม สู้ผมทำตัวให้ดีพอจะเคียงข้างฟี่ดีกว่าไหม?

ผมไม่อยากปล่อยฟี่ไป ผมไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นเด็ดขาด

เพราะอย่างนั้นผมจึงหึงหวงเหลือเกิน ผมแทบคลั่งกับริมฝีปากของฟี่ที่ช้ำเพราะฝีมือไอ้เวรนั่น ผมอยากจะซัดกับมันให้รู้เรื่องไปเลย แต่ฟี่ก็ขอร้องผมและผมก็เห็นแก่ฟี่ ยังไงมันก็เป็นเพื่อนรักของฟี่ แต่ปากของไอ้หมอนั่นมันก็ไม่น่ายกโทษให้ เพราะก่อนจะไปมันยังมีหน้ามาแช่งให้ผมเลิกกับฟี่อีกต่างหาก

ผมคงไม่สามารถหักห้ามความรู้สึกหึงหวงไปได้หรอกครับ ผมเชื่อใจฟี่ที่สุด แต่ผมไม่เชื่อใจคนอื่น เพราะว่าฟี่เป็นคนที่น่ารัก พูดจาเพราะ แถมใจดีกับคนอื่น จึงไม่แปลกถ้าจะมีใครต่อใครมาหลงรักเขา ฟี่ไม่มีทางไปยุ่งกับคนอื่นอยู่แล้ว แต่ไอ้คนอื่นที่มาชอบฟี่นี่สิ

ผมกลัวว่าสักวันหนึ่ง ถ้ามีคนที่ดีกว่าผมมาชอบฟี่ คนที่ให้ฟี่ได้ทุกอย่าง แล้วฟี่จะยังเลือกผมอยู่ไหม เพราะงั้นผมถึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ฟี่เบื่อผม ผมรู้ว่าฟี่ชอบเวลาที่ผมเปลือยท่อนบน ผมก็จะใส่เสื้อติดตัวไว้ตลอดแม้ว่าผมจะเป็นคนที่ชอบถอดเสื้อก็ตาม เพราะผมกลัวว่าถ้าฟี่เห็นบ่อยๆแล้วฟี่จะเบื่อผม หรือแม้กระทั่งคำว่า ‘รัก’ ที่ผมไม่อยากพูดออกมา เพราะผมกลัวว่าถ้าฟี่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงแล้ว เขาก็จะหมดความสนใจในตัวผม...

ผมเอาแต่คิดเรื่องของฟี่อยู่ตลอด คิด คิด คิด คิดอยากจะให้ฟี่มีความสุข คิดอยากจะให้ฟี่รักผมนานๆ คิดอยากจะให้ฟี่ยิ้มได้ อยากให้ฟี่กินข้าวเยอะๆ

ผมขอโทษนะครับที่ผมรักฟี่มากมายขนาดนี้...
และเพราะผมรักฟี่มาก ผมถึงไม่เคยเบื่อที่จะนัวเนียฟี่ หอมฟี่ ฟัดฟี่ และ...

“ณัฐ อย่าสิ ไม่เอา กินข้าวกันก่อนนะ” ผมทำเมินกับเสียงประท้วงของคนที่โดนผมกดไว้กับโซฟา ก็กลิ่นหอมเสียขนาดนี้ ผมหักห้ามใจไม่อยู่หรอกครับ พอได้ฟัดทีนึง มันก็ลามไปเรื่อย จนตอนนี้ผมถอดเสื้อเชิ้ตของฟี่ได้สำเร็จแล้ว
“อะ..อ๊ะ!” เสียงใสของฟี่ร้องเบาๆเมื่อถูกผมงับเข้าที่ยอดอกสีอ่อน ผมรู้ว่าฟี่ชอบให้ผมกัดแรงๆตามตัว แต่มันจะทำให้ผิวขาวเนียนของฟี่เป็นรอยช้ำเขียวเต็มไปหมด พอผมถอดเสื้อของฟี่ออกจนหมดไอ้รอยช้ำพวกนั้นก็ปรากฎเด่นชัดแก่สายตาผม ผมเองไม่อยากจะกัดฟี่เลยสักนิด แต่พอถึงเวลาจริงที่อารมณ์ของผมกระเจิดกระเจิง ผมก็คอยจะกัดเนื้อตัวของฟี่เพราะความหมั่นเขี้ยวเป็นประจำ
“ฮื้อ!” ผมมองร่างบางบิดกายเร่าเมื่อถูกผมลากลิ้นยาวไปตามสีข้างสลับกับการใช้ฟันขบเม้ม รอยแดงเกิดขึ้นตามเส้นทางที่ผมใช้ปากสัมผัสผิวกายของฟี่ ผมเลื่อนตัวขึ้นไปสบตากับคนด้านล่างและก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นสภาพของเขา
“หน้าแดงทำไมครับ หืม?” ผมถามด้วยเสียงยั่วเย้าข้างใบหูนุ่มนิ่ม นั่นยิ่งทำให้หน้าขาวแดงซ่านขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกได้จากการที่ทาบทับตัวฟี่แบบนี้ว่าหัวใจของฟี่กำลังเต้นระรัวมากขึ้น ยิ่งผมเห็นไอ้ตัวเล็กของผมสั่นมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งอยากแกล้งมากเท่านั้น
“ณัฐอะ...กินข้าว...” ผมกลั้นยิ้มเมื่อเห็นฟี่ยังยืนยันคำเดิม ทั้งที่เห็นอะไรต่อมิอะไร ทำอะไรต่อมิอะไรมาจนหมดแล้วฟี่ก็ยังอาย หากเป็นผู้หญิงบางคนผมจะคิดว่ามันเป็นมารยาของพวกเธอเสียด้วยซ้ำ แต่พอเป็นฟี่ ผมกลับคิดว่ามันน่ารักเหลือเกิน...

เปล่านะครับ ผมไมได้หลงฟี่จนหน้ามืดตามัว
ก็ฟี่น่ารักจริงๆนี่นา...
เพราะว่าฟี่น่ารัก ผมจึง ‘รัก’ ฟี่ไม่เคยพอสักที

----------------------------- To Be Continue -----------------------------


ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
รักฟี่มาก  ก็พยายามเข้า
เขียนตอนนี้ออกมาแล้ว อยากเอาใจช่วยณัฐให้รักกับฟี่นานๆ เลย

แล้วก็ทำให้คิดได้ว่า รักไม่ได้ขึ้นกับความเหมาะสม แต่พยายามจนเหมาะสม
ณัฐเท่มาก 

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
น่ารักจังเลย อิอิ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
งงเล็กน้อย ก็ฟี่เพิ่งไปทานข้าวกับเพื่อนๆมาไม่ใช่เหรอ ไงจะกินข้าวกันอีกล่ะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
^
^
รีบนอ่านผิดตอนรึป่าวคะ?  ตอนใหม่อยู่รีล่างๆนา  :laugh:


ส่วนคู่นี้ก็หวานกันจิ๊งงงงงงงงงงงง  :z1:

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
ถ้าคิดจะพยายามทำตัวให้ดี ให้เหมาะสม
ก็พยายามให้มากๆ ละกัน ชดเชยในสิ่งที่ตัวเองเคยทำให้ฟี่เสียใจ
คนรักฟี่ ไม่ได้มีแค่ณัฐแค่คนเดียวนี่เนอะ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
กรี๊ดดดด  กะตอนล่าสุด ถอยกลับไปดูหัวเรื่องแทบไม่ทัน
นึกว่าอ่านผิดเรื่อง ไอ้เราก็เคยเจอแต่อารมณ์หม่นหมองของฟี่
มาเจอณัฐสารภาพ อร๊ายยยย :-[ แกคิกอย่างงี้แต่แรกทำไมไม่บอก
ปล่อยให้ฟี่นอยด์ คิดเองเออเองอยู่หลายปี ดีนะว่าฟี่เป็นผู้ชาย
ถ้าเป็นผู้หญิง คงเหนียงยาน + ตีนกา กว่าอิณัฐจะหวานได้ :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
โฮกกกกกกกก หวานโฮกกกกกกกกกกกกก

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป

อุ๊ยตายแล้ว ทำให้คนอ่านกิ๊บกิ้วได้แล้วววววววววววววววววว

รอตอนต่อไปนะคะ
o18
   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2011 18:19:37 โดย บีบีจัง »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
กว่าจะมารักกันได้ก็ว่ายากแล้ว
จะรักกันได้ตลอดรอดฝั่งไหมเนี่ย

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ขออนุญาตข้าม แหะๆ หดหู่สุดใจ

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ชอบตอนณัฐเล่า ค่อยรู้สึกว่าน่ารักหน่อยคู่นี้ ไม่งั้นมีแต่ความหมองหม่นของฟี่ หุๆ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ตอนนี้ อ่านแล้วซาบซ่าน !!!!!!
5555+

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ณัฐ การบอกรักบ่อยๆ พร้อมด้วยการแสดงออกในทางอื่น ให้รู้ว่าเรารักเขาน่ะ
รู้ไหมว่า คนที่ได้รับน่ะเค้าปลื้มนะ เหมือนต้นไม้แหละ
ปลูกแล้วก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยดิ ถึงจะงอกงามอยู่ตลอดเวลา

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 o18

ติดตามจนถึงตอนปัจจุบัน
นิยายเรื่องนี้ อึมครึมได้ทั้งเรื่องจิงๆ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ

อยากให้สองคนนี้ปรับเข้าหากันด้วยดี

รู้ว่าอนาคตมีมาม่าแน่นอน  แต่อยากหนักนะ บีบี
ติดตามนิยายของบีบีบทุกเรื่อง ส่วนใหญ่มันต้อง โรแมนติกปนหื่นไม่ใช่หรอ   :laugh:

ออฟไลน์ J_Dargon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตามมารักฟี่ด้วยคน o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด