ตอนที่ 3 : ยังจำได้ไหม...ผัดไทกับไอสครีม
“เต้ๆ วันนี้ว่างป่าว” เสียงปลายสายโทรศัพท์ผมถามขึ้น
“ว่างคับ” แอบงงอ่ะ ว่ามันโทรมาถามเพื่อ ก็มันนั่งอยู่โต๊ะอีกฝั่ง ผมก็นั่งอยู่โต๊ะอีกฝั่งของโรงอาหาร มองหน้ากันอยู่เนี่ย ทำไมมันไม่เดินมาถามวะ จะเสียตังค์ค่าโทรเพื่อ...
“งั้น จองตัวนะวันนี้” เสียงร่าเริงเกินเหตุแฮะ...
แล้วผู้ชายที่ดีก็ต้องเล่นตัวใช่มะคับ เมื่อมีผู้ชายอีกคนมาพูดแบบนี้ หุหุหุ
“จะทำไมอ่ะ”
“เออน่า ไม่พาเข้าโรงแรมหรอก” แม่งงง ผิดหวัง 5555
“ไม่ outdoor นะคับ” 555 ผมก็เลยเล่นต่อๆ ไม่ได้คิดอารายนา แกล้งด้วยความบริสุทธิ์จายยยยยย
“เดี๋ยวนี้ต่อปากต่อคำนะเรา เดี๋ยวโดนแน่” แล้วไอ้พี่เซนมันก็ส่งสายตาเหยี่ยวข้ามฝั่งมาให้ผม เหอๆ... สยองงงง รีบวางก่อนดีกว่า
“ไอ้บ้า แค่นี้นะๆ”
“ฮ่าๆ จะวางแล้วทำไมต้องหน้าแดงวะแฟนกู” ก็เขิลสิวะถามได้
“วางและๆ” แล้วผมก็รีบกดวางสายแล้วหันหน้าเข้าไปคุยกับเพื่อนๆก่อนที่พวกมันจะสงสัยอะไรกันมากกว่านี้
แล้วเพื่อนคนหนึ่งอันแสนรู้หูดีข้างๆ ผมก็ถามขึ้นกลางวง
“คุยกับผุ้ชายหรอวะ” ...เวร ถามตรงๆ เลยหรอเนี่ย
“ป่ ป่าวเว้ย” เนียนไว้ไอ้เต้ เนียนไว้
“แล้วไมมึงพูดว่าไอ้บ้าอ่ะ” แหมเมิง อย่าเพิ่งมาเป็นเจ้าหนูจะไมตอนนี้ได้ป่ะ อยู่กันเกือบสิบคน อายยยยเว้ยยย
“ฟังคนคุยโทรศัพท์เสียมารยาทนะมึงเนี่ย” ไอ้เต้แถ
“ก็มึงรับโทรศัพท์แล้วหน้าแดง หูแดงขนาดนี้ พวกกูก็เลยสนใจ ฮ่าๆ”
ง่ะ... เถียงไม่ออก
“เออๆ จะชายจะหญิงก็ช่างมึงเหอะ มีเหลือเผื่อกูบ้างละกัน” อ่าเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มตัดบทสนทนาช่วยชีวิตผมเอาไว้...หรือเปล่าหว่า
พอตกเย็น ไอ้เซน ไอ้ต้า ไอ้พี่โอต ก็เดินเรียงหน้ากระดานมาด้วยกัน ตรงมาหาผมที่นั่งรออยู่โต๊ะแถวลานจอดรถหน้าโรงเรียน
โดยปกติ พวกพี่ๆเขาและผมก็จะมานั่งเฮฮากันตรงนี้ก่อนกลับกันสักครึ่งชั่วโมงอ่ะคับ
“เฮ้ย วันนี้กลับเลยป่ะเต้ เดี๋ยวกูจะกลับเลย” พี่ชายผมถามน้องมันภาษาพ่อขุน
“ก็...” ผมหันไปถามไอ้ที่รักด้วยสายตา
“วันนี้น้องมึงยังไม่กลับว่ะ” ไอ้พี่เซนมันเลยตอบแทนผมไป หุหุ รู้ใจจัง ไอ้หล่อเอ้ยยย
“ไอ้เซน พี่น้องเขาคุยกันมึงเสีอกไรด้วยวะ 55” ไอ้พี่โอตมันว่าไอ้ที่รักผมคับ
“ก็กูน้องเขยมันไง” แล้วไอ้บ้าสามตัวก็หัวเราะกันใหญ่ ผมก็แทบแทรกแผ่นดินหนีละคับ เพราะมิสที่สนิทกันเขานั่งอยู่ด้วย เขาก็เลยหัวเราะไปด้วย (เขารู้แล้วนะ เขาสนิทกับพวกไอ้พี่ๆ)
“มิสอ่ะ” ไอ้เต้รู้ว่าพึ่งไอ้พวกนี้ไมได้แน่ๆ ก็ยังหวังว่ามิสจะอยู่ฝ่ายผมสักคน
“อะไรจ๊ะ”
“เชื่อไอ้พวกนี้มัน” ไอ้เต้หน้าเริ่มงอนิดๆและ มิสนะมิส
“แล้วเรามีอะไรจะบอกมิสบ้างล่ะ มิสจะได้ไม่ฟังความข้างเดียว” แล้วทั้งหมดก็หัวเราะกันต่อสนุกสนาน
(คือกลุ่มไอ้พี่เซนเนี่ยจะสนิทกับมิส... คนนี้มากๆ เพราะเขาเป็นมิสสอนเคมี แล้วก็เป็นที่ปรึกษาห้องพวกมัน ด้วยแล้วก็ยังเป็นคนดูแลม.6 และพวกม.ปลายสายวิทย์ก็จะได้ไปค่ายวิทย์ที่ต่างจังหวัดกันทุกปี ทำให้เด็กสายวิทย์กับมิส มาซเซอ สายวิทย์จะสนิทกันมากๆ นี่แหละข้อดีของโรงเรียนผมคับ)
หลังจากเผาจนไอ้เต้เกรียมแล้วราวๆ 5 โมง ไอ้พี่เซนก็เลยพาผมไปก่อนที่จะกลายเป็นขี้เถ้าซะ
ส่วนไอ้พวกพี่ๆ ก็ยังคุยกันต่อสนุกสนาน เพราะใกล้จะปิดเทอมแล้ว เขาเลยอยากอยู่ด้วยกันนานๆ
“ไปถนนพระอาทิตย์คับ” ไอ้พี่เซนมันบอกแท็กซี่ แล้วพี่แท็กก็แล่นไม่ฉิว (เพราะรถติด) พาเรามุ่งหน้าสู่จุดหมาย
“นึกว่าจะไปไหน” ผมพูดกับไอ้ที่รัก ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่าจะมีไรพิเศษซะอีก
“อ้าว ไม่อยากไปหรอ” ไอ้พี่เซนมันทำสีหน้าหมาหงอย น่าสงสารเชียวนะค้าบบบบ
“ป่าวคับๆ” แล้วผมก็หันไปยิ้มให้ไอ้ที่รักมัน
“อ่านหนังสือสอบถึงไหนแล้วอ่ะ” ไอ้พี่เซนถามผม
“ก็เรื่อยๆ เซนอ่ะ”
“ก็จบแล้วอ่ะ” โห...หูผมฝาดป่าวหว่า
“เซนเนี่ยนะ” ไม่แน่ใจคับ อย่างไอ้ที่รักผมเนี่ยนะ อ่านหนงัสือจบก่อนสอบตั้งหนึ่งอาทิตย์
“อืม มันไม่ค่อยมีอะไรแล้วไง เค้าเตรียมเอนท์กันแล้ว”
“แล้วเซนอ่ะรอบนี้เอาให้ติดล่ะ”
แล้วมันก็ทำหน้าหมาหงอยหนัก
“เต้ อย่างเซนอ่ะนะ จะติด โง่เป็นควายแบบเนี่ย”
“ยังไม่ทันสอบเลยนะ ท้อละหรอ”
“เซนรู้ตัวนะ ไม่ต้องพูดให้มีความหวังหรอก คะแนนรอบที่แล้วก็รู้อยู่แล้ว”
“เอาน่า เรียนไหนเต้ก็รักเหมือนเดิมแหละ”.........อ้วกกกกกกกกกกกกกกก ผมกล้าพูดแบบนั้นได้ไงหว่า รักมันบังตาจริงๆ 5555
ไอ้ที่รักเอามือผมไปกุมไว้ พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่แทนคำว่าขอบคุณและแสนอบอุ่น เราสองคนเงียบกันจนถึงจุดหมาย ความเงียบคุยกันไปจนเราเดินมาถึงริมแม่น้ำ
“ต่อไปเราคงไม่ได้มาที่นี่ด้วยกันหลังเลิกเรียนแล้วดิ” ไอ้บ้า จะพูดไมวะ เดี๋ยวร้องไห้กันพอดี
“เซนจะไม่พาเต้มาแล้วหรอ”
“เฮ้ยป่าวๆ ไมคิดงั้นวะ อยากมาเมื่อไหร่บอกดิ เซนจะพามาเอง อย่ามากับคนอื่นแล้วกัน”
มันเอามือมาลูบหัวผมเล่น เรามองแม่น้ำข้างหน้า ที่ไหลไปเรื่อยๆ ... ไม่เคยหยุดนิ่งสนิท
“เออเต้ วันก่อนอ่ะ แม่เต้ถามเซนอ่ะ ว่าปิดเทอมจะไปเที่ยวต่างจังหวัดมั้ย” อ่ะ แม่ไม่ปล่อยผมไปต่างจังหวัดหรอกคับปกติอ่ะ ผมไม่เคยได้ไปต่างจังหวัดกับเพื่อนๆเลย แต่ถ้าถามงี้ก็แสดงว่ามีหวังอ่ะดิ อิอิอิ
“แล้วเซนว่าไงอ่ะ”
“ก็บอกว่ายังไม่ได้คุยกับเพื่อนๆ อ่ะแต่กะจะไปเสม็ด”
“หรอ”
“แม่บอกว่าจะพาเต้ไปด้วยก็ได้นะ” อะไรนะ ...ไปได้ด้วยหรอ หุหุหุ
“จริงอ่ะ อำป่ะวะ” ไม่น่าเชื่อแฮะ “บ้าเดะ จริงๆ ถามไอ้ต้าก็ได้ มันก็นั่งอยู่ตอนแม่เต้บอก”
“จริงดิ” ...แล้วไอ้เต้ก็หน้าบานนนน จะได้ไปเสม็ดวู้วๆๆๆ
“คงไปหลังสอบเอนท์เสร็จแหละ” ไอ้ที่รักผมมันก็ว่าต่อ
“หรอ ยังไม่เคยไปเลยอ่ะ”
“ก็สวยดีนะ คนน่ารักเยอะดี เฮ้อนึกแล้วอยากไปพรุ่งนี้เลย”
ชิ งอน...
.
.
.
“อ้าวเงียบเลย ฮ่าๆๆ งอนหรอเรา” ช่ายดิ พูดงี้ไม่ไปก็ได้วะ
“ไม่มองใครหรอกคับ มีเมียไปคุมอ่ะ” แล้วมันก็ขำใหญ่ๆ แค้นนนน ใครเมียเมิงงงงง เซ็ง เถียงสู้ไม่ได้ ไปดีกว่า
ไอ้เต้ก็เดินลิ่วๆนำหน้าไป
“เต้ๆ จะไปไหนอ่ะ” พอไอ้พี่เซนมันเดินตามมาทันมันก็ถามผม
“ไม่รู้อ่ะคับ” อ่า เดินจนหายงอนละคับ รมณ์ดีและ
“หิวข้าวยัง”
ไอ้พี่เซนพูดพลางคว้ากระเป๋านักเรียนจากมือผมไปถือให้ แอบดีใจนะเนี่ย เวลาผ่านไปมันก็ยังแย่งกระเป๋าไปถือ เพื่อนผมมันเคยคุยๆกันว่า ตอนจีบๆก็ถือกระเป๋า ถือของให้ พอได้กันคราวนี้ มึงอ่ะ ถือของกูด้วย ...เหอๆ ไอ้เต้ก็ฝังจายยยย กลัวจะโดนแบบนั้น เง้ออออ
“ยังอ่ะ”
“งั้นไปกินสเวนเซนกัน” ...อีกและ
“ไม่เบื่อหรอ” ผมถามไป เพราะมาทีไรก็ไม่พ้นร้านนี้
“ไม่หรอก อยากกินๆ” ไอ้พี่เซนทำท่ากระตือรือร้นเป็นพิเศษ แปลกๆแหะ ปกติไม่เห็นจะชอบกิน ไปทีไรก็กินนิดๆหน่อยๆ
“อืมๆ งั้นเดินทะลุซอยนั้นละกันคับ ไวดี” แล้วเราก็ใช้สองเท้าพามาสู่ร้านสเวนเซนร้านเดิม
“วันนี้กินเอิร์ธเควกอีกป่ะ”
เหอๆ รู้อีก แต่วันนี้ไม่เอาอ่า “เอาเฮอริเคนก็พอๆ เดี๋ยวอิ่มเกิน”
“เต้อ่ะนะ อิ่มเป็นด้วย ฮ่าๆ” ช่ายสิ คนนะเว้ยยย
“กินเหอะๆ เลี้ยงๆ” ไม่ต้องมาทำป๋าเลย ได้เลี้ยงอยู่แล้วล่ะ อิอิอิ
แล้วสรุปเฮอริเคนหนึ่งถ้วยก็มาวางที่โต๊ะในที่สุด
“ไหนบอกอยากกินไง ไม่เห็นจะกินเลย” หลังจากบลูเบอรี่หมดไปหนึ่งลูก ผมก็เงยหน้ามาถามไอ้ที่รัก ที่เห้นมันนั่งมองตาเยิ้ม กว่าจะตักได้แต่ละคำ
“ป้อนหน่อยดิ” ...คนเต็มร้านเลยคับ ไอ้เต้อายยยย
ว่าแล้วก็ตักมอคคาใส่ปากไอ้พี่เซนมันอย่างรวดเร็ว
“อีกคำดิ จะกินเชอเบทอ่ะ” ...ได้คำแรกจะเอาคำสองไอ้นี่หนิ
ของดีมีหนเดียวคร้าบบบบบ ไม่มีรอบสองๆ
...แล้วต่างคนก็ต่างกิน ไอติมถ้วยเดียวกัน...
พอของหวานเสร็จก้มาต่อด้วยของคาว
“ผัดไทป่ะ” ...อีกแล้ววววไอ้พี่เซน ไม่ครีเอทเลยเฮ้อแฟนผม
“อีกละหรอ” ไอ้เต้ถามด้วยสีหน้าแอบเซ็ง
“ไม่อยากกินหรอ เซนอยากกินอ่า” แปลกแฮะ... ปกติต้องตามใจผมหนิหว่า หรือว่าเค้าเริ่มเบื่อกูแล้วนี่ เฮ้ยยยย คิดมากกกกก
ว่าแล้วไอ้เซนมันก็ไม่ปล่อยให้ผมคิดต่อ เดินไปสั่งผัดไทเรียบร้อย
“เอาผัดไทสองคับ ไม่ผักหนึ่ง” อ่ะยังจำได้ว่าเรากินแบบไม่ใส่ผัก... โชคดีที่คนไม่เยอะคับเค้าเลยผัดแบบไม่ใส่ผักให้ผมใหม่ เพราะปกติเค้าผัดรวมกับผักไปแล้ว
“อยากกินน้ำไรอ่ะ” ไอ้ที่รักหันมาถามผม
“น้ำเปล่าอ่ะคับ” แล้วที่รักผมมันก็พยักหน้าหงึกๆ (คุ้นๆแฮะ ติดมาจากใครหว่า ไอ้พยักหน้าหงึกๆ)
น้ำเปล่าหนึ่งขวด ผัดไทสองกล่อง เราสองคน ริมถนนเล็กๆ สายหนึ่ง
...
..
.
“ไม่น่าใส่น้ำตาลเยอะเลยอ่า หวานอ่ะ” ผมนิสัยเสียอ่ะคับ ชอบปรุงโดยไม่ชิมก่อน
“อ่ะลองชิมของเซนดิว่าโอเคป่าว” พูดเสร็จ กล่องผัดไทในมือไอ้พี่เซนก็มายื่นมาข้างหน้าผม
“อร่อยดีอ่ะ โหย รู้งี้ให้ปรุงให้ก็ดี”
“งั้นเอากล่องนี้ไปกินนะ” อ่ะ แล้วมันก็สับเปลี่ยนองค์ชาย ดึงกล่องผมไปกินแทน
“เฮ้ยๆ เอาคืนไปเหอะๆ เต้กินอันนั้นเอง ใส่เองก็ต้องกินเองดิ”
“กินไปเถอะคับ ที่รัก” แล้วไอ้พี่เซนมันก็กินผัดไทหวานจ๋อยที่ผมบรรจงสาดน้ำตาลใส่ไปสามช้อนกล่องนั้นอย่างเหมือนเอร็ดอร่อย
ส่วนผมก็ก้มหน้าก้มตากินกล่องที่มันปรุงไว้ซะอร่อยนี่แบบไม่เงยหน้า ไม่ใช่เพราะมันอร่อยจนไม่สนใจใครนา แต่ว่า...มันซึ้งว่ะ
อิ่มแล้วเนี่ย รู้ป่ะคับ
รู้สึกน้ำตาแอบคลอนิดๆ
“เผ็ดหรอเต้” ป่าวเว้ยยยย กูซึ้งมึงอ่ะ พอได้ละ เลิกทำเป็นรักมากได้ละเว้ยยยย ไอ้บ้า......
“ขอน้ำหน่อยดิคับ” แล้วเซนมันก็หยิบขวดน้ำข้างๆตัวมันยื่นให้ผม
วันนี้ผัดไทกับไอสครีมอร่อยจังเลยคับ
*****************************************************************************
ช่วงนี้กระผมเที่ยวกระจายเลยค้าบ เลยเขียนช้าแหะๆ ไม่ว่ากันนา พ่อแม่พี่น้องที่ร้ากทั้งหลาย คิดถึงงงงงง
ฝากประกาศ มีงานเทศกาลละคร 3 อาทิดต้นเดือน พ.ย. ที่ถนนพระอาทิตย์นะคับ ว่างๆไปเจอกาน ผมไปวนเวียนแถวๆนั้นแหละ งานสนุกค้าบ