ตอนที่ 51
ผมพาตัวเองเข้ามาในห้องแล้วดันประตูปิดลง ยังรู้สึกว่ามีร่างใครบางคนกอดกระชับอยู่ไม่ห่าง... ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมต้องโวยวายบ่นร้อนแล้ว แต่วันนี้อารมณ์ดีก็เลยไม่อยากจะบ่น ปล่อยให้มันกอดอยู่อย่างนั้น...
จะว่าไปแล้วเราสองคนก็ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว แค่วันกว่าๆ เท่านั้น แต่ผมก็ ไม่อาจปฏิเสธว่า ก็ “คิดถึง” มันอยู่บ้างหรอกนะ เอ่อ....ก็ไม่มากอะไรนัก แต่ก็ดีใจที่ได้เจอ ไม่รู้สิถึงจะคิดว่าบางทีก็ดูเวอร์ไปหน่อย แต่ถ้าลองมีใครแสดงความคิดถึงคุณผ่านทั้งคำพูดและการกระทำแล้วล่ะก็ เป็นใครก็ต้องดีใจจนใจอ่อนไปบ้างแหละ....
แม้จะไม่ค่อยคุ้นชินกับมันที่เป็นแบบนี้ แต่ก็รู้สึกดีไปอีกแบบที่พักหลังมานี่ผมกับไอ้ตุลย์ได้มีช่วงเวลามุ้งมิ้งใส่กันบ้าง ก็คนเพิ่งเริ่มคบกันนี่มันก็ต้องหวานมั่งอะไรมั่ง จะให้ผมหวานผ่าซาก ด่ากราดเหมือนอย่างเมื่อก่อนตลอดได้ยังไง ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เลวนัก.... เอ่อ...ว่าแต่นี่ผมพล่ามอะไรอยู่กันเนี่ย.....
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะสวีตหวาน พอผมควักมันออกเห็นหน้าจอก็ต้องอุทานขึ้นในใจทันทีว่า
ฉิบหายละ!!!
“แป๊บนึงนะ” ผมบอกแล้วผละออกจากอ้อมกอดอุ่นรับโทรศัพท์จากพ่อไก่โต้ง
“ฮัลโหล....”
“ไอ้ปอนด์!!!!” ผมนึกว่ามันจะด่า... แต่ไม่ใช่หรอก มันแค่ส่งเสียงเรียกด้วยน้ำเสียงที่จินตนาการได้ว่าถ้าเจอหน้า มันจะต้องพูดไป แยกเขี้ยวไป และคงมีควันออกหูโขมงแน่ๆ เลย
“เฮ้ย โทษทีว่ะมึง กูติดธุระตอนนี้พอดี เอาไว้วันหลังค่อยคุยกันนะ...” ผมรีบรัวคำขอโทษ ตามด้วยกดวางสายไม่ให้มันโวยวายไปมากกว่านี้ ขืนฟังต่อก็ไม่พ้นโดนด่าเละแน่อยู่แล้ว
“ใครโทรมา” ถัดจากไก่ก็ยังมีกระต่ายที่ส่งคำถามมา พร้อมตัวมันที่เดินเข้ายืนเคียง
“เพื่อน...” ผมตอบสั้น ๆ แบบไม่อยากให้มันถามต่อ ไม่ลืมที่จะปิดเครื่องหนีไปด้วยเลย ไม่งั้นคืนนี้ คงไม่ได้หลับได้นอนกันพอดี....
“หน้าอย่างนี้มีเพื่อนด้วยเหรอ?” กวนตีนอีกแล้วไหมล่ะ?
“อะไร อย่ามาหาเรื่อง หน้าอย่างกู ทำไมจะไม่มีคนคบวะ...” ผมหันไปหา เพื่อต่อปากต่อคำตามปกติ
“ไม่ได้บอกว่าไม่มีคนคบ กลัวแต่เค้าจะคิดอยากเป็นมากว่าเพื่อนต่างหาก” มันพูดด้วยน้ำเสียงเล่นๆ ทำให้ผมพ่นลมหายใจขำๆ
“บ้าเอ๊ย... ใครเค้าจะไปคิดอย่างนั้น...คิดมากไปละ” ผมบอกมันพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกได้ว่า มันหวงผมขนาดหนักไปแล้ว....
คนบ้ายิ้มตอบ มันเคลื่อนกายเข้ามาใกล้แล้วคว้าร่างผมเข้าไปหา วางมือใหญ่ๆ อยู่บนสะโพกลีบๆ ของผม ขณะที่โน้มใบหน้าคมเข้มนั้นลงมาอยู่ตรงข้างแก้ม....
“ต้องคิดสิ กูยังคิดเลย” คำตอบเป็นเพียงเสียงกระซิบแผ่วๆ ที่ฟังดูนุ่มนวลชวนฝัน...
“คิดอะไร....”
เวลานั้นผมได้คำตอบเป็นเพียงรอยยิ้มที่มุมปาก และค่อนข้างตกใจที่แรงควายนั่นผลักพาไปยังทิศทางที่มันต้องการทันทีทันควันโดยไม่มีบอกกล่าว ริมฝีปากหนักเคลื่อนเข้ามาประกบ ขบเม้มอย่างโหยหิว ราวกับไม่ได้พานพบเรื่องตื่นเต้นร่วมกันมานานแสนนาน... ผมหลับหูหลับตารับจูบอย่างงงงวยแต่ไม่ได้ขัดขวางความต้องการของมันที่มันค่อยๆตะล่อมหลอกล่อจนกลายเป็นความต้องการของผมไปด้วยในที่สุด....
ช่วงเวลาไม่ช้าไม่นานหลังจากนั้น ผมก็หอบระทวยรวยรินอยู่บนเตียง
“ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน.... ไม่อยากเป็นได้แค่นั้น.... อยากเป็นมากกว่า” จู่ๆ มันก็บอกออกมา หลังจากไล่ต้อนผมจนเตียง และสมองเบลอจนลืมคำถามของตัวเองไปแล้วด้วยซ้ำ....
“อาหารล่ะสิ.... อะไรที่มากกว่า” ผมเอ่ยแซว เมื่อนึกได้ว่าบทรักอันเร่าร้อนของมัน เหมือนพญากระต่ายเล็มหญ้า เอ๊ย ขนมปังอ่อนๆ
“ใกล้เคียง... คนเราขาดอาหารนานๆไม่ได้....” มันตอบพร้อมหัวเราะ “แต่เชื่อหรือเปล่านับวันมึงจะเป็นมากกว่านั้น... มากกว่าอาหาร”
“อะไรวะที่มากกว่าอาหาร....”
“อากาศ.... ขาดแค่นาทีเดียวก็แทบตายละ....สำหรับกูมึงเป็นอากาศ....”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนปากหวาน....
แต่ตั้งแต่รู้จักไอ้ตุลย์ ผมว่าตัวเองปากหวาน.....ไม่ได้ครึ่งของมันเลย....
หลังจากตุลย์ขับรถยนต์กลับบ้านที่กทม.ไปตั้งแต่วันศุกร์ ผมก็เริ่มฉลาดว่าถึงมันจะขับมอเตอร์ไซค์แล้วอันตรายเพราะมือเจ็บ แต่มันก็ยังขับรถยนต์ไปเรียนเองได้ ไม่จำเป็นต้องซ้อนท้ายผมเลยสักนิด ผมก็เลยบอกให้มันขับรถยนต์ไปเรียนเองได้แล้วตั้งแต่วันจันทร์... ปัญหาที่ตามมาคือเรื่องที่จอดรถหน้าหอผมที่ค่อนข้างคับแคบ มันก็เลยต้องกลับไปอยู่บ้านมันชั่วคราวเพื่อความสะดวก...
แต่อย่างมันหรอจะยอมไปคนเดียว... มันก็มีหลอกล่อผมไปค้างอยู่บ้างเหมือนกัน ผมก็ยอมให้มันหลอกบ้าง เพราะบ้านมันมีแอร์แล้วก็กว้างดี ทำให้ผมรับรู้ชีวิตส่วนตัวของพ่อกระต่ายเพิ่มขึ้นอีกนิดว่า เห็นพ่อคุณหน้าเคร่งเครียด จริงจัง ตั้งใจเรียนขนาดนี้ ที่ไหนได้ ไอ้ตุลย์เป็นเด็กติดเกมนะครับเนี่ย บ้านมันมีทั้งเพลย์เสตชั่น (เวอร์ไหนผมไม่ได้ถาม เพราะไม่ได้สนใจ) เอ็กบ็อก psp ทีแรกผมก็แซวนิดหน่อย ไปๆ มา ๆ มันให้ยืม psp มาเล่น ทำให้ผมติดเกมไปด้วยอีกคน ชั่วไหมล่ะมัน...
“เด็กดีชิบ ค้นจนทั่วคอม ไม่มีหนังโป๊สักคลิป” ผมเอ่ยแซว เมื่อแอบมาเล่นคอมมันระหว่างมันนั่งเล่นเกมกับเครื่องเพลย์
“เก็บไว้ทำไมล่ะ ดูในเว็บเอาก็ได้นี่...” มันตอบเรียบๆ โดยไม่หันมามอง มือก็เล่นเกมอย่างเมามัน
“ฮะ... นึกว่าจะตอบว่าไม่ดูซะอีก....”
“นั่นสิจะดูทำไม เล่นเองก็ได้นี่” ทะลึ่งละ “ว่าแต่ถามทำไม อยากดูเหรอ”
“ก็ถามไปงั้นแหละ ถึงมีกูก็ไม่ดูหรอก อย่างมึงคงไม่โหลดจีวีมาดูแน่อยู่แล้ว หนังเอวีกูจะดูทำไม...”
“จีวีคืออะไร ผู้ชายเอากะผู้ชายเหรอ?”
“อือ....”
“ถ้างั้นกูมีคลิปนึงนะ ดูป่ะล่ะ....”
“เฮ้ยพูดเป็นเล่น.... อย่างมึงเนี่ยนะจะมีของแบบนั้น”
“จริง..... แต่ไม่มีในคอมนะ กูไร้ท์เก็บไว้อยู่... เดี๋ยวเอาให้ดู” แล้วมันก็ลุกขึ้นเดินไปชั้นบน ทิ้งเกมที่เล่นค้างไว้อย่างนั้น
มันกลับมาพร้อมซองซีดีแผ่นหนึ่งยื่นให้ตรงหน้า
“อ่ะนี่.... เด็ดสุด ได้ดูแล้วมึงจะอึ้ง...” ยังไม่ทันดูก็อึ้งแล้วเนี่ย อย่างไอ้บ้าเนี่ยนะจะมีหนังแบบนั้น
“เปิดเลยได้ป่าว...”
“ได้...” ไอ้ตุลย์ยิ้มรับ ผมพยายามนึกอยู่ว่ามันต้องคิดจะแกล้งอะไรอยู่แน่ อาจจะไม่ใช่คลิปอย่างว่าจริงๆ มันอาจจะแค่อยากเห็นปฏิกิริยาตอนเงิบสุดๆ ของผมหรือเปล่า....
“งั้นยังไม่ดูดีกว่า เดี๋ยวกูกลับไปดูที่ห้อง... พอดีเดี๋ยวกูจะเข้าไปร้านหน่อย”
“แล้วแต่ ...”
“แน่ใจนะว่าไม่มีไวรัส”
“ไม่มีหรอกน่า .... อ้อ เอาไปแล้วอย่าให้หายนะมีแผ่นเดียว กูหวงมากเลยด้วย... แล้วก็ที่สำคัญเลย...ห้ามให้คนอื่นดูด้วย...เข้าใจป่าว”
“เออ รู้แล้วน่า... ใครจะบ้าชวนคนอื่นมาดูหนังโป๊ด้วยกันเล่า”
“กูไง ชวนกูได้ กูไม่ว่าหรอก....” เรื่องสิ ... ขืนชวน ก็ฆ่าตัวตายชัดๆ...
“งั้นกูไปก่อนแล้วกัน”
“เออ.... แล้วอย่าลืมนะ ว่าพรุ่งนี้มีนัดดูหนังกัน”
“เออ รู้แล้วน่า....”
กลับมาถึงห้อง.... สิ่งที่ผมต้องรีบทำเลยคือเปิดไอ้ซีดีปริศนานั่นว่า เป็นซีดีสอนเต้นแอโรบิคหรือแผ่นโดราเอม่อนตอนจบกันแน่ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ครับ .... ไม่ใช่สองอย่างนั้นแต่มันคือคลิปวีดีโอที่มีแต่เสียงไม่มีภาพ แต่ถึงจะไม่มีภาพ (หรือจะเรียกว่ามีแต่เป็นภาพความมืด) แต่ก็เป็นเสียงที่ไม่ต้องใช้เวลาคิดก็จำได้ทันทีว่าเสียงใคร....
“กูไม่ไหวแล้วนะ...”
“รสชาติเป็นไงมั่งวะ”
“เลี่ยน เค็ม แหวะ”
“แล้วกินทำไม”
“แฟนเซอร์วิสไง”
“พอแล้วเนอะ นอนเถอะว่ะ”
“อะไร แค่เนี้ยเหรอ กูยังไม่อยากพอเลย”
“ต่างคนก็ต่างอยากรุกนี่นา ตกลงกันไม่ได้ก็อย่าทำเลย”
“แต่กูอยากต่อนี่นา” โอ๊ยยยยย ผมอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ซะเหลือเกิน ตอนคลิปมันเล่นมายันตอนสำคัญ
“อย่าทำกูเลยตุลย์” เฮ้ยๆ นั่นเสียงผมเหรอน่ะ... ทำไมมันน่าสงสารขนาดนั้น...
“ไม่ได้ ก็มึงอยากยั่วยวนกูก่อน” คำตอบนี่แม่งไม่สงสารกันเลย!!!
“กูยั่วมึงตอนไหน”
“ทุกตอน!”
“หยุดเถอะว่ะ กูเจ็บนะ”
“แต่กูอยาก”
“ฟิตโคตรอ่ะมึง”
“ร้องดิ กูอยากได้ยิน”
ว้ากกกกกกกกกกกก.... ไม่ไหวแล้วว้อย...
ผมรีบกดปิดคลิปนั่นทันทีก่อนก่อนที่หน้าจะระเบิดตายเสียก่อน....
นึกอยู่แล้วเชียวว่าน้ำหน้าอย่างไอ้ตุลย์เนี่ยนะจะมีคลิปจีวี ไม่ใช่ซะหน่อย นี่มันคลิปตอนผมกะมันเอากันครั้งแรกนี่หว่า แล้วมันไปอัดเก็บไว้ตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย โอ๊ย มันน่าโมโหไหมล่ะ
ผมรีบเก็บซีดีนั่นลงซอง ใจหนึ่งก็อยากจะเอาไปโยนทิ้ง แต่ถ้าทิ้งไอ้บ้านั่นจะโกรธหรือเปล่าก็ไม่รู้ เล่นบอกว่ามีแผ่นเดียวแล้วหวงมาก แต่จะเก็บไว้ได้ยังไงของน่าอายพรรค์นั้น ยังไงก็ต้องทิ้ง แต่คงต้องบอกมันซะหน่อยก่อนกันพลาดล่ะนะ
วันต่อมาจึงผมยัดซีดีลงในเสื้อแจ๊กเกตที่ใส่ไปเรียน เพราะตอนบ่ายมีนัดจะไปดูหนังกับเชี่ยตุลย์ กะว่าเจอหน้าจะโยนซีดีแสกหน้า ข้อหาที่มีของผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง...
แต่ก็ผิดแผนตลอด .... วันนี้อาจารย์ดันสั่งรายงาน ผมนั่งฟังเพื่อนในกลุ่มแบ่งเนื้อหารายวิชาไปเหล่โทรศัพท์ไป
และระหว่างนั้นเอง ไอ้ตุลย์ก็โทรมาตามดังคาด...
“โทษทีนะ กูอาจจะไปช้า พอดีงานเข้านิดหน่อย แบ่งเนื้อหารายงานกะเพื่อนอยู่”
“เหรอ? ไม่เป็นไร รีบมาละกัน กูจองตั๋วหนังไว้ตอนบ่ายโมงสิบ....”
มันวางสายไป และผมมองนาฬิกาบนมือถือ
12.25 น. อีกครึ่งชั่วโมงน่าจะทัน.....นะ.....
ขณะนี้เวลา......12.40 น.
เหนื่อยอีกละ.... โอ๊ย...ทำไมต้องกระชั้นขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย!!!
ผมหอบเสื้อแจ๊กเกตที่ต้องถอดเพราะร้อนมากวิ่งลงจากตึกคณะไปยังรถของตัวเอง....
และมันโคตรจะเลวร้ายเลยที่รถคู่ใจก็เหมือนแกล้ง ดันมาสตาร์ทไม่ติดเอาตอนนี้...
เพลีย... และคงรอต่อไปไม่ได้ ผมตัดใจเดินไปหน้าคณะกะจะโบกวินสักคัน แต่ก็ไม่มี กำลังคิดว่าจะเอายังไงดี ก็บังเอิญมีมือหนึ่งยื่นมาดึงเสื้อที่ถือไปเสียก่อน
“เฮ้ย...” ผมอุทานก่อนจะหันไปเห็นหน้าโจทก์เก่า...
“โต้ง...”
“รอใคร...” เสียงมันเรียบปนบึ้งตึง
“วิน...พอดีรถกูเสีย....” ผมบอก
“มาด้วยกันสิ เดี๋ยวกูไปส่ง....”
เหมือนพ่อพระมาโปรดเลยครับตอนนี้ ผมเดินตามมันไปยังซีวิซสีขาวคุ้นตานั่นอย่างว่าง่าย... โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าวันนี้มันดูหน้าเครียดกว่าทุกวัน...
ผมรอให้มันออกรถ มันก็ยังไม่ยอมขยับสักที
“มึงทิ้งกู...” มันพูดออกมาลอยๆ ทำให้ผมสะดุ้งแล้วหันไปมอง เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า...ตัวเองทำอะไรไว้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา... แต่ที่จริงนอกจากให้มันออกค่าอาหารก็ไม่มีอะไรนะ เพราะผมถามจิ๊บแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น จิ๊บก็บอกว่าพอโต้งโทรหาผมและรู้ว่าผมหนีกลับไปก่อน มันก็จัดการเคลียร์ค่าอาหารและแยกย้ายกันกลับ จนผมต้องขอโทษขอโพยจิ๊บอยู่ตั้งนานสองนาน
“กูขอโทษ....กูติดธุระจริงๆนะ”
“มึงไม่ต้องมาโกหกหรอกน่า กูรู้หรอก มึงตั้งใจชิ่ง มึงตั้งใจจะปล่อยให้กูอยู่กะเค้าตามลำพังใช่ไหม?”
“เฮ้ย เปล่านะเว่ย...”
“มึงแม่งโคตรใจร้ายเลย”
“โธ่เอ๊ย อย่ามางอนเรื่องไร้สาระน่า จิ๊บเค้าตัวแค่นั้นน่ะ จะไปทำอะไรมึงได้ ถ้ามึงไม่โอ ก็ตอบปฏิเสธไปก็จบแล้ว”
“ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่มึง... มึงทิ้งกูไว้กับเค้า... มึง....”
“เออ!! แล้วไงอ่ะ กูก็ขอโทษแล้วไง จะเอาอะไรอีกอ่ะ...”
“มึงไม่เข้าใจ มึงไม่เคยแคร์ความรู้สึกกู มึงไม่รู้เลยว่ากู เฟลขนาดไหน”
“อะไรของมึงเนี่ย... ฟงเฟลอะไรวะ กูงงไปหมดละ นี่กูหวังดีนะเว้ย...เพราะ จิ๊บเค้าก็ดี... เก่งดี...ไม่ผูกมัดด้วย มึงยังไม่ลองมึงไม่....”
“หุบปากเลย!!!” มันตะคอกมาเสียงดังพร้อมฝ่ามือที่ฟาดกับพวงมาลัยรถ จนผมตกใจสะดุ้งโหยง “ ไม่ต้องพล่ามอะไรละ กูบอกแล้วไงกูเกลียดกะเทย ได้ยินไหม”
เฮ้ย!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย.... ไอ้โต้งโหมดโหด มันกินรังแตนมาจากไหนวะ ผมล่ะงง
ยกมือถือขึ้นมาดู 12.50 น. ตายห่าละ!!!
“เออ ได้ยินแล้ว... ระวังไว้เหอะ เค้าว่าเกลียดอะไร ก็ได้อย่างนั้นแหละ” ผมตอบอย่างรำคาญหน่อยๆ
“จริงเหรอ? ถ้าเกลียดอะไรแล้วได้อย่างนั้นจริงๆ กูจะเลิกกะเทยตั้งแต่ตอนนี้ แล้วหันมาเกลียดมึงแทน”
ฮะ!!! ว่าไงนะ ผมทำหน้าเหวอจัด...
เดี๋ยว.... นี่คงไม่ใช่..... ไม่มีทางหรอกน่า
“เฮ้ย พูดบ้าอะไรเนี่ย ตลกฝืดแบบนี้ ไม่ขำนะ” ผมทำเป็นหัวเราะแล้วจะฝืดฝืนเต็มที
“กูก็ไม่ขำ.... แล้วกูก็ไม่อยากอ้อมค้อมแล้วด้วย... เพราะยิ่งกูไม่พูดมากเท่าไร มันก็ยิ่งทรมานมากเท่านั้น กู...”
“โทษนะเว้ยโต้ง กูขอโทษ ต่อไปกูจะไม่เซ้าซี้เรื่องจิ๊บอีก แต่ตอนนี้กูรีบจริงๆ ถ้ามึงไม่มีอารมณ์ไปส่งกู กูไปเองก็ได้... ขอตัวนะ” ผมรีบบอกแล้วเอื้อมมือเปิดประตูรถ ยอมรับก็ได้ว่าจะหนี แต่....
“กูชอบมึงนะเว้ยปอนด์......ถ้าเกลียดอะไรแล้วได้อย่างนั้นจริง ต่อไปกูจะเกลียดมึงให้มากๆ แล้วตอนนั้นกูจะได้มึงมาหรือเปล่าวะ”
อยากหนี.....แต่ไม่ทันแล้วสินะ......
ผมวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงหน้าโรงหนัง ตอน 13.27 น.
“กูโทษนะ” รีบพนมมือขอโทษอย่างสำนึกผิดที่มาช้าขนาดนี้
“รอจนไส้กิ่วล่ะเนี่ย.. ป่ะหาไรกินกัน” ไอ้ตุลย์บ่นนิดหน่อยแต่ก็พาเดินลงบันไดเลื่อน
“อ้าว... แล้วไม่ดูหนังเหรอ ถึงจะช้าหน่อยแต่ไปดูตอนนี้ก็คงเล่นไปแค่นิดเดียวแหละมั้ง” ผมถามแล้วยื่นมือไปดึงเสื้อมัน มันไม่ตอบแต่ลงบันไดเลื่อนเฉย แล้วก็พาเดินเข้าร้านเอ็มเคซะอย่างนั้น....
“รออะไรล่ะ สั่งสิครับ” เสียงไอ้ตุลย์บอกเมื่อเรานั่งที่โต๊ะและบริกรยืนรอ มันหันไปสั่งของกินกับบริกร พลอยทำให้ผมต้องสั่งตามไปด้วยอีกสองสามอย่าง ยังรู้สึกกังวลที่มาช้ากลัวมันจะโกรธ
“เลิกทำหน้างั้นได้แล้วน่า อะนี่...” มันส่งเสียงแล้วยื่นตั๋วหนังมาให้ ผมก้มลงดู
ตั๋วหนังบอกเวลา 14.40 น.
“มึงซื้อใหม่เมื่อกี้เหรอ?”
“เปล่า ก็ตั๋วเก่านั่นแหละ”
“อ้าว... แล้วไหนบอกหนังฉายบ่ายโมงไง”
“เอ้า... ถ้าบอกหนังฉายบ่ายสองมึงก็มาช้าอ่ะดิ”
“งั้นก็โกหกเพราะอยากจะแกล้งกูอ่ะดิ”
“หึหึ” ไม่ตอบแต่หัวเราะเฉยเลย ไอ้บ้านี่ ปล่อยให้รู้สึกผิดอยู่ตั้งนาน
“กูเกลียดมึง....ที่สุดเลย”
“เอาเลย..... เกลียดอะไรขอให้ได้อย่างนั้น....” มันตอบกลับมาแล้วหัวเราะ
คำพูดนั้นทำให้ผมชะงัก....เพราะทำให้ผมอดนึกถึงคำตอบที่ผมให้ไว้กับโต้งเมื่อกี้ไม่ได้.....
“ถ้าเกลียดอะไรแล้วได้อย่างนั้นจริง ต่อไปกูจะเกลียดมึงให้มากๆ แล้วตอนนั้นกูจะได้มึงมาหรือเปล่าวะ”
“ก็คงไม่อยู่ดี เพราะกูเองก็มีคนที่เกลียดมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว....”
------
กลับมาละ หายไปหลายวันเลย คิดถึงกันไหม?
เนื้อเรื่องเริ่มเดินไปอีกนิด ดีใจ 555
ช่วงหลังๆนี่ตุลย จะซอฟท์ และใจดีขึ้นเยอะ ไม่แน่ใจว่าจะถูกใจแฟนคลับป่าว เพราะคิดว่าน่าจะชอบที่ตุลย์ เอาแต่ใจมากกว่า แต่นินะ
เวลาตุลย์อารมณ์ดีจะใจดี ปากหวาน แต่ก็เฉพาะกับคนที่รักเท่านั้นแหละ 555+
ส่วนปอนด์ เจ้าชู้กะล่อนเป็นนิสัยที่ แก้ไม่ได้ 55+ แต่ ปอนด์ พยายามจะเคลียร์คนรอบด้านออกเพราะไม่อยากมีปัญหากะตุลย์นะ ก็ต้องชื่นชมเหมือนกัน ...
ขอบคุณ
inpurplethief j123 Zitraphat และ ท่านอื่นๆ ถ้านิ ไม่ทันเห็นกระทู้หรือข้อความ...ทุกคนด้วยนะคะ
ที่ช่วยแนะนำ นิยายเรื่องนี้ และเรื่องอื่นๆ ที่นิเขียน ขอบคุณมากๆ ค่ะ
เรื่องนี้...เกิดก่อนพี่โต้งก่าฐาช่ายมะ
แล้วเหมือนว่า พี่โต้งจาชอบปอร์นด้วยช่ายมะ ช่ายมะ
ถ้าจำไม่ผิด
555
มีปัญหามาใหม่อีกแล้วเน้อ อิอิ
ใช่แล้วค่ะ เรื่องของตุลย์กะปอนด์จะเกิดก่อนพี่โต้งน้องฐา เมื่อก่อนพี่โต้งชอบปอนด์ มากแต่โดนตุลย์ คปด. 555 +
ส่วนที่บอกว่าเกลียดกะเทย ก็เพราะ ปอนด์ นี่แหละเป็นต้นเหตุด้วยส่วนหนึ่ง
น่ารักละมุนละไมอีกละคู่นี้ แต่ตาบ้าพี่โต้งตามมาเป็นตัวร้าย!
ปกติตอนนางเป็นพระเอกนางยังร้ายเลย แล่วเรื่องนี้
อ่อ พี่คนเขียนน่าจะใส่ชื่อผิดนะครับ ตรงที่บอกว่า "ผมกะควิลเข้ามาเป็นคู่แรก" พี่คงหมายถึงเคลียร์ หนุ่มน้อยชืาอเหมือนยี่ห้อยาสระผมคนนั้นเนอะ
ขอบคุณงับ สับสน งงเรื่องชื่อควิล/เคลียร์ แก้ให้ละนะ
ส่วนพี่โต้ง เรื่องนี้เป็นตัวโกงค่ะ ร้ายแน่นอน มีแถมเอ โผล่ มานิดๆด้วย 555
ว้ายยย น่ารักค่าา
ตอนไหนจะปีนึงน้าา
เราว่าแค่ครึ่งปี เค้าก็รู้กันทั้งบางแล้วม้างงง
กลัวใจครอบครัวตุลล์จัง
คิดว่ารู้ เฉพาะ เพื่อนสนิทอ่ะนะ 555+
ครอบครัวตุลย์ ไม่มีดราม่าค่ะ ไม่ต้องกลัว