ตอนที่ 41 ความหลัง.....
“ขอบใจนะที่มาส่ง” ควิลบอกเมื่อผมพามาส่งยังที่พักของเขา เป็นห้องเช่าแบบรายวันตรงข้ามชายหาด
“พรุ่งนี้เราคงจะกลับบ้านแล้วล่ะ”
“ทำไมเร็วจัง...”
“ไม่ได้คิดจะมาเที่ยวแต่แรกละ แค่อยากมาหา แต่ถ้ารู้แต่แรกว่าจะมาทำให้ปอนด์ต้องมีปัญหา ไม่มาซะดีกว่าอีก...” ไหงกลายเป็นควิลที่รู้สึกผิดอย่างนั้นล่ะ
“ไม่ใช่เพราะควิลหรอก” ผมรีบเถียง...เพราะถ้าจะมีใครสักคนที่ผิดมันก็ผมนี่แหละ....
“ยังไงก็... รีบกลับไปง้อดีกว่านะจะได้สบายใจ”
ง้อทำไม ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ผมคิดอยู่ในใจ... แต่สิ่งที่ตอบไปคือ....
“ขอบใจ”
“อื้อ... ลาก่อนนะ...” ควิลบอกแล้วยิ้มบางๆให้
ลาก่อน....
ผมยกมือโบกค้างมองควิลหมุนตัวเปิดประตูเข้าห้องไป.....
ส่วนตัวเองถอยกลับมาที่รถ ภาพความทรงจำเก่าๆ ไหลกลับมาเป็นฉากๆ
…………………..
………………………………
……………………………………………
อาการของควิลไม่ได้สาหัสมาก แต่สำหรับเราถือว่า แย่เอาการ เพราะหลังจากนั้นควิลก็ไม่สามารถเล่นดนตรีได้อีกนานโข แต่คงเพราะควิลไม่อยากทำให้ผมไม่สบายใจ เขาเลยไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลยสักนิด แต่หลังจากเย็บแผลแล้วควิลก็ต้องนอนให้น้ำเกลืออยู่สองวันเพราะเสียเลือดมากไม่ต่างจากตุลย์ที่ผมรู้มาว่ามาเข้าโรงพยาบาลเดียวกัน
“ปอนด์ว่าตุลย์เค้าจะเป็นไรมากไหม?”
“ไม่รู้ดิ แต่เท่าที่เห็นก็แค่หัวแตกนะ”
“อื้อ ถ้าปลอดภัยก็ดีสิ”
“งั้น เดี๋ยวเราไปสืบข่าวให้ละกัน...”
“จะไปจริงเหรอ? งั้นซื้อของฝากไปเยี่ยมเค้าด้วยละกัน...”
“เอาไว้ควิลหายดีแล้วเป็นคนเอาของไปให้มันเองไม่ดีกว่าเหรอ?”
“ถ้าเราหายช้าล่ะ? ตุลย์ออกจากโรงพยาบาลไปก่อนละมันจะเรียกของเยี่ยมได้ไง ปอนด์นั่นแหละเอาไปให้แทนคำขอบคุณ ถ้าไม่มีเค้าเราสองคนอาจจะโดนแทงไส้ไหลดับอนาถคาหาดบางแสนก็ได้ใครจะรู้....”
ครับ...เถียงไม่ออก ได้แต่จำใจเลือกของเยี่ยม ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่แบรนด์กระเช้า....ธรรมดานี่แหละ
แต่ที่มากกว่านั้นก็คือผมดันใส่ใบส่วนลดค่าอาหารของร้านริมทางลงไปด้วย...
สาเหตุก็เพราะว่า ผมละอายใจต่อควิล... เพราะผมเป็นแฟนที่ไม่เอาไหน ดูแลแฟนตัวเองได้ไม่ดีพอ ถ้าวันนั้นไม่มีตุลย์เข้ามาช่วย ผมก็ไม่รู้จริงๆว่ามันจะแย่ยิ่งกว่านี้อีกไหม... มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมบู๊เก่ง หรือแมนได้ครึ่งนึงของตุลย์ มันคงจะดีกว่าถ้าควิลได้ไปคบกับคนแบบนั้นแทนที่จะเป็นผม .... และผมอดคิดไม่ได้ว่า ควิลเองก็คงอยากเป็นคนถือของเยี่ยมมา.. เป็นคนกล่าวคำขอบคุณด้วยตัวเอง ถ้าเขาไม่เกรงใจว่ามันจะทำให้ผมคิดมาก หรือหึงแบบไม่เข้าท่าอย่างที่ผ่านมาอีก...
บางที... ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ถ้าตุลย์มันเกิดหันมาชอบควิลแม้แต่นิดเดียว ผมอาจจะยอมปล่อยมือควิลไปแต่โดยดีก็ได้
แต่ผมมารู้ทีกลังว่าผมคิดผิด เพาะตอนที่ผมถือของฝากไปเยี่ยมมันนั้นเองผมดันไปได้ยินมันคุยกับเพื่อนมันในห้องพิเศษโรงพยาบาลซะก่อน...
“เจ็บมากป่ะมึง..”
“แค่นี้ไกลหัวใจว่ะ แต่ที่จริงถ้ามันไม่เล่นทีเผลอคงไม่เจ็บตัวโดยใช่เหตุแบบนี้”
“พวกมันมีกันกี่คน มึงมีตัวคนเดียว อยากเปรี้ยวนักก็สมควร”
“ห่าเอ๊ย ก็ตอนนั้นมันฉุกละหุก กูจะมีเวลาโทรเรียกใครมาล่ะ ถ้ากูไม่เข้าไปช่วยเกิดไอ้สองคนนั้นมันตายหาดขึ้นมาแล้วนสพ.ลงข่าว คู่เกย์รักกันดูดดื่มจนจิ๊กโก๋หมั่นไส้กระซวกตายคาหาด... อายเค้าตาย แม่งดันใส่เสื้อคณะเราด้วย”
“มึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นวะ”
“ถ้าไม่เป็นมันจะเอาตัวเข้าปกป้องกันขนาดนั้นเหรอมึง แทนที่จะเข้าไปช่วย สัด กระโดดเข้าไปรับมีดแทน กูไม่เคยเห็นใครโง่ขนาดนี้เลย... แต่แม่ง... ถ้ารู้ว่าจะเจ็บตัวขนาดนี้ไม่เข้าไปเสือกก็ดีหรอก”
หดหู่... ไม่รู้เลยว่าแค่เป็นเกย์กะใส่เสื้อคณะไปเที่ยวหาดที่มันจะบัดซบขนาดนี้ ...
อย่าว่าแต่แค่กล่าวคำขอบคุณ แค่โผล่หน้าไปให้มันเห็นก็ยังไม่กล้า... จะหาว่าตุ๊ดก็ตามใจเหอะ ผมทำได้แค่ค่อยๆ งับประตูห้องพิเศษนั่นปิดลงตามเดิม เคาะประตูสองสามทีแล้ววางของเยี่ยมไว้หน้าห้อง พอเดินไปหลบอยู่ตรงมุมลับตาของชั้นนั้น เพื่อนของมันก็เปิดประตูออกมาเอากระเช้านั้นไป โดยไม่พบว่าใครเป็นเจ้าของกระเช้า
กว่าจะรู้ตัวว่าผมลืมเอาบัตรส่วนลดนั้นกลับมาด้วยก็สายไปแล้ว...
บางที การที่เรื่องมันวุ่นวายมากมายขนาดนี้... อาจจะเป็นเพราะผมในวันนั้นก็ได้....
ไม่กี่วันต่อมาควิลก็ออกจากโรงพยาบาลได้ ที่จริงผมอยากอยู่ดูแลควิล... แต่ควิลบอกผมว่าไม่เป็นไรให้ผมไปร้องเพลงเถอะ แรกๆ ควิลก็มาอยู่ด้วย แต่ผมสงสารเขาที่ต้องมาคอยเฝ้าที่ร้านจนดึกเลยขอร้องให้ควิลอยู่ที่ห้องเพื่อพักผ่อน
ในขณะที่ผมต้องไปร้องเพลงที่ริมทางทุกวัน กลับไปถึงห้องควิลก็หลับแล้ว การไปร้องเพลงคนเดียวทำให้มีแฟนคลับมากขึ้น และยิ่งต้องตามใจแฟนมากขึ้น แรกๆ ควิลก็เหมือนจะเข้าใจ และผมก็คิดว่าเขาเข้าใจ แต่ผมลืมนึกไปว่าควิลรักผมมากว่าที่ผมคิด ถ้าให้ผมจะเซอวิสแฟนเพลงแค่ไหน เขาก็ไม่เคยโวยวาย พูดว่าน้อยใจ ไม่เคยแสดงที่ท่าว่าโกรธหรือไม่พอใจเลยสักนิด เขาปล่อยให้ผมอยู่กับสิ่งที่ชอบและสุดท้าย... เขาเดินจากไปโดยไม่มีแม้คำลา....นอกจากจดหมายเพียงฉบับเดียว....
หลังจากที่ผมไม่มีควิล ผมก็เลิกไปร้องเพลงที่ริมทาง...ตอนนั้น เป็นช่วงที่เสเพลที่สุดในชีวิต
อยากดื่มก็ดื่ม อยากเที่ยวก็เที่ยว อยากนอนกับใคร... ก็มั่วได้หมด
ทั้งจุ๊บจิ๊บ.... เพื่อนในเอก ใครต่อใครที่เจอตามผับ.... ทั้งโต้งที่แค่เกือบได้กัน
กว่าจะกลับมาเหมือนเก่า ก็หลังจากที่เจอเคลียร์แล้ว... เขาทำให้ผมนึกถึงควิล แม้จะไม่ใช่คนตัวเล็ก... แต่หุ่นที่ผอมบาง เล่นดนตรีเก่ง นิสัยบางอย่างช่างเหมือนกัน... ติดอยู่แค่มีไอ้โต้งคอยกันซีน ติดที่ผมยังกลัวกับการเริ่มต้น จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากผมแค่ทำใจได้และกลับไปร้องเพลงได้ตามเดิม...
วันแรกที่ผมกลับร้องเพลงที่ร้านก็เจอคนที่ไม่ควรเจอ....
ไอ้ตุลย์มาเป็นลูกค้าที่ร้านตามที่ผมเคยหวัง...แต่มันกลับมาในวันที่ผมไม่มีควิลแล้ว
“เอ้อ... เหลือแค่เราแล้วที่พี่ยังไม่ได้ถาม” อยู่ดีๆ พี่ต้องก็โพล่งขึ้นมาในห้องน้ำ ระหว่างที่เราสองคนทำธุระกันอยู่
“อะไรพี่”
“พอดีมีลูกค้าใหม่เค้ามาถามว่า ใครเป็นคนเอาบัตรส่วนลดไปให้เค้าน่ะ”
“เอ่อ... ลูกค้าใหม่พี่นี่มันใครอ่ะ?” ผมแกล้งเนียนทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าพี่เค้าหมายถึงไอ้ตุลย์แน่แท้...
“เค้าชื่อตุลย์ เรียนอยู่วิศวะปีเดียวกับปอนด์เลย รู้จักป่ะ?”
“อ๋อ ครับ ก็...รู้จักแหละ แล้วไงเหรอ?”
“ปอนด์เป็นคนให้ป่ะ?”
“จะบ้าเหรอพี่ ผมเนี่ยนะ ผมจะเอาไปให้มันทำไม” เถียงสิครับ สุดใจขาดดิ้น...
“ไม่รู้สิ พี่ไล่ถามทั้งร้านละ ไม่เห็นใครยอมรับ พี่เห็นเราชอบผู้ชายก็เลยลองถามดูเฉยๆ”
“ครับ ชอบผู้ชายก็ไม่เถียงอ่ะ แต่ชอบแบบน่ารักๆ อ่ะไม่ใช่สูงเป็นเปรต ตัวใหญ่อย่างกะยักษ์แบบนี้”
“ใครจะไปรู้ เผื่อเปลี่ยนแนว...”
“ไม่อ่ะ... ไม่อยากเจ็บตูดโดยใช่เหตุ”
“เฮ้ยไม่แน่นะ เห็นตัวโตๆ นี่อาจจะสาวแตกก็ได้”
“ไม่มีทาง... คนแบบนั้นน่ะ ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าชายของสาวๆ ก็เป็นได้แค่เทพบุตรก็ของพวกเกย์รับเท่านั้นแหละ” ผมพูดอย่างมั่นใจ ตั้งแต่เห็นบทบู๊คราวนั้น ผมคิดมาเสมอมาว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะแมนได้เท่ามัน....
“แก้ตัวให้ขนาดนี้... หรือปอนด์จะเปลี่ยนใจเป็นเกย์รับตามหาเทพบุตรล่ะเนี่ย?” พี่ต้องแกล้งล้อ
“ไม่ใช่ละพี่” ผมรีบปฏิเสธหัวชนฝา
“ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้นา” พี่ต้องเย้าต่อ
“จริง....ละพี่อ่ะอยากลองป่ะ?” ผมถามทำสายตากรุ้มกริ่ม ทั้งที่รู้ว่าพี่ต้องแกเป็นชายแท้ที่มีเมียโคตรดุ
“เหอะ.... ไม่อยากโดนเมียฆ่าตาย ปอนด์ก็รู้ หึหึ”
ผมหัวเราะตาม ที่จริงก็ไม่อะไรมากแค่แซวไปอย่างนั้นเอง รู้ว่าพี่ต้องทั้งรักทั้งกลัวเมียแกมากขนาดไหน
วันแรกที่กลับมา ถึงจะพอทำใจเรื่องควิลได้แล้วแต่ผมก็ยังคิดถึงเขา เพลงที่ผมเลือกร้องในวันนั้น คือเพลง “รักเธอทั้งหมดของหัวใจ” จำได้ลางๆ ว่าตุลย์ฟังผมร้องเพลงไม่จบด้วยซ้ำ แค่กลางเพลงมันก็ลุกหนีไปก่อน จนไม่น่าเชื่อว่าผ่านมานานแล้วแต่ตุลย์ยังจำได้ มันเคยเอ่ยลอยๆ ว่าวันแรกที่มันเจอผม ผมร้องเพลงนี้ ทั้งๆ ที่ความจริง ผมเจอมันก่อนหน้านั้นตั้งนาน...
ตกดึกแล้วผมเข้าห้องน้ำอีกครั้ง แล้วจู่ๆก็มีคนเดินเข้ามาฉี่อยู่ที่โถข้างๆ กัน ไม่คิดอะไรก็แค่หันไปมองข้างล่าง แล้วตกใจขนาด... เลยต้องรีบเงยหน้าขึ้นดูหนังหน้าเจ้าของแล้วลมแทบจับ....
เหยด.... ไอ้ตุลย์นี่หว่า...
ทำอะไรไม่ถูกได้แต่จ้องหน้ามันตาค้าง
“มองอะไร....” มันถามกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนห้าว แบบนักเลง
“เปล่า” ผมรีบตอบด้วยความกลัว มองหน้ามันนานๆ เดี๋ยวจะหาว่าหาเรื่องเลยหรุบตาลงต่ำก็พอดีไปป๊ะหน้าล่าง (อีกรอบ)โดยไม่ตั้งใจ
“ก็เห็นมองอยู่ชัดๆ ยังบอกไม่ได้มองอีก” เสียงดุเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ ทำให้ผมผินหน้าไปทางอื่น ก็แค่บังเอิญไม่ได้ตั้งใจมองซะหน่อย
เสียงรูดซิบทำให้รู้ว่ามันเสร็จธุระของมันแล้ว ฟังเสียงฝีเท้าตบพื้นห่างออกไปค่อยคลายใจว่ารอดแล้ว... แต่เรื่องมันยังไม่จบครับ...
“อ้าว...เดฟ มึงมาฉี่เหรอ?” ผมหันไปมองมันยืนอยู่หน้าห้องน้ำพอดี
“เออ”
“ระวังนะมึง”
“ระวังอะไรวะ”
“มีเกย์โรคจิตอยู่ข้างในแน่ะ” มันบอกแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำไป
เดฟเดินเข้ามาในห้องน้ำกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วไม่ก็เจอใครนอกจากผมเพียงคนเดียว
เอ่อ... เดี๋ยวนะ.... เกย์โรคจิตที่มันว่านี่ ...... หมายถึงผมใช่มั้ย?
TBC.