จอมใจนักเลง
Part 8
แหวนรับสะใภ้?..50%.
.
.
.
.
และแล้ว..หน้าตาใสกิ๊กหล่อสัดๆ..ของภรรเมียผมก็ชะแร่มแก้มแดงเดินอกผายไหล่ตรง
เข้ามาในห้องด้วยใบหน้าสุดคาดเดา ดูยังไงหัวใจก็กระชุมกระชวยสุดๆ สำหรับผม
“จอมเข้ามาลูก...มานั่งใกล้ๆ แม่นี่”
นายแม่ร้องเรียกลูกสะใภ้ แถมตบโซฟาตัวเดี่ยวอยู่ติดตัวยาวที่คุณนายกับนายท่านนั่งอยู่..ให้ลูกสะใภ้หย่อนตูดอีกตะหาก...
อวยกันออกนอกหน้าซะขนาดนี้
ส่วนไอ้ผมอ้าปากพะงาบๆ จะร้องห้ามเพื่อให้มานั่งข้างผมก็ใช่เวลา ขืนทำเช่นนั้น...นอกจากจะไม่ได้
รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากคุณนายแล้ว..ยังจะมีของแถมอันไม่พึ่งประสงค์มอบให้ลูกบังเกิดเกล้ายอดชายนายบอมย์อีกอ่ะสิ
เลยได้แต่นั่งหน้าบูดมองค้อนสายตาล้อเลียนกลั้นขำของนายท่านที่มองมาอีก....เอ่อ...เอาเข้าไปรวมหัวกันแกล้งลูกชายตนเอง
คงสนุกพิลึกครอบครัว สวัสดิวงศ์สว่าง....สามัคคีกันดีจริงงงงง....
“ขอบคุณครับ คุณป้า” ไอ้เด็กหล่อหน้าใส..ขอบคุณแม่ผมก่อนจะหย่อนตูดลงนั่ง
หางตาไม่เหลือบมองผมสักแอ๊ะ...เอ๊ะ!..ยังไงเนี่ยะ..สารมีนั่งอยู่ตรงนี้...เหลียวแลหน่อยสิคร๊าบบบๆๆๆ...
“เรียกแม่สิลูก...ไหนๆ ตอนนี้จอมเป็นคนในครอบครัวเราแล้ว ต่อไปนี้ห้ามเรียกคุณลุงคุณป้าอีก
นะจ๊ะรู้ไหม..ลูกต้องเรียกพ่อกับแม่..เข้าใจไหมจ๊ะ?” นายแม่ออกคำสั่งแกมบังคับ ให้ลูกสะใภ้เรียกสรรพนามใหม่ทันที
ทำให้หัวคิ้วเข้มเรียวยาวขมวดมุ่นก่อนจะเอ่ยปากออกมาว่า
“ตกลงคุณป้า...เอ้ย!...คุณแม่กับคุณพ่อยินยอมยกพี่บอมย์ให้เป็นเมียผมแล้วใช่ไหมครับ?”
อุ้ยตาย!..ดูภรรเมียผมสิครับ...ยังพระเอกไม่เลิกจะเป็นสารมีผมให้ได้ว่างั้น นายท่านกลั้นขำจนหูแดง
แต่ก็ไม่ยอมหลุดฟอร์ม ส่วนนายแม่ก็น่าแดงกับคำถามตรงๆ พาซื่อของลูกสะใภ้ที่ยังอยากได้ตำแหน่งลูกเขย
โดยไม่รู้ตัวอีกตะหาก
“อึม....แม่กับพ่อยินดีและเต็มใจที่จะรับจอมเข้ามาเป็นลูกของเราอีกคน ขอเวลาแม่
แป๊ปหนึ่งนะจ๊ะ ไม่เกินห้านาที...แม่จะรีบมา” พูดจบนายแม่ก็ผลุงลุกขึ้นสะบัดบ๊อบค้อนผมอีกดอกเต็มๆ ก่อนจะเดิน
ออกห้องหายไปไม่พูดไม่จา ไม่รู้ไปทำอะไร เป็นหน้าที่ผมกับนายท่านต้องรับบทเป็นผู้ดำเนินรายการชั่วคราวต่อไป
โดยผมตีหน้ามึนอารมณ์ดีนำร่องพูดขึ้นก่อน
“จอมกับพี่ต้องกราบขอบคุณพ่อกับแม่พร้อมกันอีกครั้งนะครับ ที่ท่านสองคนยอมรับเรา ยินยอม
ให้อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาโดยไม่ขัดขวาง..พี่ดีใจที่สุดเลยครับ” พูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานสุดซึ้งไปให้...เล่นเอาไอ้หนูพระเอก
ของผมเลือดวิ่งขึ้นหน้าจนชัดเจน ผมหน้าด้านหม้อต่อหน้าพ่อซะไม่มีอาย....เห่อ..เห่อ..เรื่องไรต้องอายมีโอกาสรีบทำแต้ม...
เผื่อจะหักล้างความผิดให้มันเบาบางลงไปได้บ้าง...ไอ้เด็กจอมซื่อจนน่ารักก้มหัวยักหน้าให้หงึกๆ น่ารักโคดยิ่งเขินยิ่งอาย
ยิ่งน่ารักชิบหาย....แม่งน่าจะอยู่สองคนพ่อจะฟัดให้แก้มแดงๆ ช้ำคาปากเลยคอยดู....ฮึ่มๆๆ..นึกแล้วหมั่นเขี้ยวโว้ยกู…
“หึ..เชื่อแกแล้วจริงๆ...ได้ทุกเวลาสถานที่เลยนะแก..พ่อเห็นมาเยอะใช่น้อยนะ...มาเจอแก
คงต้องยกนิ้วเรื่องด้านให้เป็นหนึ่งในใต้หล้าแล้วมั้ง...” นายท่านเล่นตีแสกหน้าภาษายุทธภพ..เรียกหน้าอมยิ้มกลั้นขำ
ของไอ้เด็กจอมหยิ่งขึ้นมาทันที ส่วนผมนะหรือ...อย่าได้แคร์ส่งยิ้มสายตาวิบวับไปให้อีกระลอก เมื่อเห็นเจ้าหนูมันกลั้นขำ
กับคำพูดเหน็บแหนมของนายท่านที่ว่าแดกผมเข้าให้
“มาแล้วจ๊ะ...โทษทีที่แม่ให้รอนาน....” เสียงนำร่องมาก่อนตัว..พูดจบตัวก็ถึงโซฟายาว
ก่อนหย่อนก้นแหมะลงนั่งด้วยมาดนางพญา หันไปยิ้มหวานกับลูกสะใภ้ซะงั้น เจ้าหนูจอมโอหังก็ยิ้มให้ท่านไป
แบบเกรงใจสุดๆ
“เอาหละ...เจ้าบอมย์นั่งพับเพียบข้างล่างให้เรียบร้อย...” ที่กับลูกชายดันออกคำสั่งซะนี่
ไอ้ผมก็ต้องทำตาม รีบย้ายก้นลงไปนั่งบนพรมพับเพียบยังกะผ้าพับไว้ ขืนไม่ทำเดี๋ยวไม่ได้รับแรงสนับสนุน
ถอนสปอนเซอร์ขึ้นมากลางคันได้ยุ่งกันหละทีนี้
“จอมด้วยนะลูก...ลงไปนั่งคู่กับพี่เขาสิจ๊ะ” ดูดู๋..กับลูกสะใภ้พูดซะเพราะเชียว..ลำเอียงโคดอ่า..
แต่เจ้าหนูมันก็ว่านอนสอนง่าย ลงมานั่งติดกับผมหัวเข่าชิดกันนั่งพับเพียบเหมือนผมอะแหละ....จากนั้นผู้ดำเนินรายการตัวจริง
ก็สั่งการต่อ
“กราบขอขมาผู้ใหญ่พร้อมกันอีกครั้งสิจ๊ะลูก..” สิ้นเสียงบอกบทแบบประกาศิต ผมกับภรรยาเด็ก
ก็พากันพนมมือ ก้มกราบพ่อกับแม่พร้อมกันอีกครั้ง แล้วเงยหน้าขึ้นรับคำสั่งต่อไปว่าจะให้ทำอะไรต่อ
“เอ้านี่!..เจ้าบอมย์..รับนี่ไปสวมให้น้องมัน” ผมรับกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มจากมือนายแม่
ก่อนจะบรรจงเปิดฝาออก ข้างในเป็นแหวนทองคำขาวสลักนามสกุล ‘สวัสดิวงศ์สว่าง’ บ้านผมไว้ ซึ่งพ่อกับแม่
ทำไว้ให้ลูกทุกคน พี่ชายผมสองคน กับพี่สาวก็รับไปคนละวงมอบให้กับคนรัก นี่แม่ให้ผมสวมให้สะใภ้เด็กรับขวัญเลยนะนี่
ผมค่อยหยิบแหวนขึ้นมาดูขนาดนิ้วแล้ว คงไม่น่าจะผิดไซร้ถ้าจะสวมนิ้วนางข้างซ้ายของจอมมันอะนะ
เลยแบมือซ้ายยื่นไปขอมือภรรเมียให้ส่งมือวางในมือผม ไอ้เด็กมาดพระเอกมันหน้าแดงหูแดงเถือก..
ได้แต่อายก้มหน้างุดแต่ก็จำยอมส่งมือ..ซึ่งมีนิ้วมือเรียวยาวขาวนวลวางบนมือผมแต่โดยดี...ผมอมยิ้มกับความน่ารัก
ขี้อายสุดๆ ของมัน ก่อนจะค่อยๆ บรรจงสวมแหวนนามสกุลของตระกูลผมลงไปที่นิ้วนางข้างซ้าย คิดไว้ไม่ผิด
สวมได้พอดีแป๊ะเหมือนเรื่องโกหกเลยแหะ..อะไรมันจะบังเอิญปานนั้น...แอบมารู้ทีหลังนายแม่สั่งทำไว้ตั้งยี่สิบวง
ทั้งที่ลูกมีแค่สี่คน..บอกสั่งเผื่อไซร้เอาไว้...เก็บให้หลานก็ยังได้...เอาสิ...มองการณ์ไกลแค่ไหน...วิสัยทัศน์ช่างเจิดจรัส
จริงๆนายแม่ผม
“กะนิ้วได้แป๊ะ!...ดีจังที่สายตายังใช้ได้...ฮ่ะ..ฮ่ะ..ฮ่าๆๆ” ว่าแล้วหัวเราะอารมณ์ดีได้อีกคุณนาย..
ส่วนนายท่านอมยิ้มขำกับพฤติกรรมของศรีภรรยาคู่บารมีซะงั้น
“ขอมือหน่อย..” เจ้าหนูจู่ๆ พูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย..โดยไม่มองหน้าผม...ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกง
หยิบกระเป๋าสตางค์เปิดซิบหยิบแหวนทองคำขาวผิวเกลี้ยงออกมาเหมือนกัน...มีอักษรสลักเป็นภาษาญี่ปุ่นไว้ตรงตัวเรือนด้วย
ผมดีใจฉีกยิ้มจนจะถึงหูแล้ว นี่ภรรเมียของผมมีแหวนใส่ให้ผมอีกนะนั่น
รีบยื่นมือไปรออย่างไม่ต้องร้องขอเป็นครั้งที่สอง..เด็กน้อยจอมแสบก็ฉ่วยมือผมไปสวมแหวนแบบรวดเร็ว
ชั่วพริบตา ไม่มีบรรจง ไม่พิถีพิถันเร็วมาก ความไวเท่าแสง..และมันดันสวมเข้ามาไม่พ้นข้อนิ้วแรกเสียด้วยซ้ำสำหรับ
นิ้วนางข้างซ้ายของผม..ไอ้หนูมันตีมึนสวมค้างไว้แค่นั้น เล่นเอานายท่านกับนายแม่กุมท้องหัวเราะขำกันหน้าดำหน้าแดง
ส่วนตัวแสบก็ก้มหน้าหูแดงหน้าแดงไปหมด...ไม่ยอมเงยมาสบตาใครสักกะคน
ผมอะเหรอ...ปากอ้าตาค้างไปแล้วครับท่าน....จะถอดออกก็ใช่ที่ จะใส่เข้าไปก็ไม่ได้ มันจะได้ยังไง
แหวนเล็กกว่านิ้วผมอีก แต่ถ้าใส่นิ้วก้อยคงพอได้...ผมไม่ยอมหรอกต้องให้คนใส่เป็นคนเปลี่ยนให้สิ....โหมดอ้อนได้โลว์
ก็เริ่มทำงานทันที
“จอมครับ...จอมจะไม่ลืมตาเงยหน้ามาดูนิ้วพี่ก่อนเหรอครับ..มันใส่นิ้วนี้ไม่ได้อ่า...เปลี่ยนเป็น
นิ้วก้อยแทนได้ป่ะ?” ผมบอกไปทันที
“อือ..” แค่นั้นสัญญาณตอบรับ..สั้นๆ ง่ายๆแสดงว่าอนุญาต
“แต่จอมต้องย้ายให้พี่สิครับ...จะให้พี่ถอดเองใส่เองได้ไง” ผมยังเล่นต่อ
“ชิ!..ก็ได้..” ทำแบบเสียไม่ได้ก่อนจะเปลี่ยนมาย้ายแหวนออกจากนิ้วผมสวมลงนิ้วก้อยข้างซ้าย
ซึ่งมันสวมได้เหมือนที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด
“ตรงแหวนเขียนไว้ว่าไงอ่าครับ...ภาษาญี่ปุ่นพี่ไม่เข้าใจความหมาย” ผมบอกให้มันแปลความหมายบนแหวน
ให้ฟังหน่อย ซึ่งนายแม่กับนายท่านก็ตั้งใจฟังด้วยเหมือนกัน ความจริงแล้วสองท่านอ่านพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องกว่าอะไร
แต่คงต้องการให้เจ้าหนูเป็นคนเฉลยให้ผมรู้ด้วยตัวเองมากกว่า
“คูมิคาโตะ” เจ้าหนูบอกผมนิ่งๆ
“อ่อ...นามสกุลของจอมนิ..ใช่ป่ะ?.” ผมถามไป ทั้งที่รู้และมั่นใจอยู่แล้วว่าเป็นนามสกุลเจ้าหนูมัน
“อึม” ยังง่ายๆ สั้นๆ ไม่มีสบตา...นายแม่คงเห็นอาการเขินจนหน้าย้อมสีแดงของสะใภ้ปานนั้น
ขืนยังไม่เริ่มทำอะไรต่อความดันคงพุ่งทะลุจุดเดือดแน่ๆ เลยพูดขึ้นมาว่า
“เอาหละ...ถือได้ว่าเป็นอันเสร็จสมบูรณ์...คุณอวยพรให้ลูกๆก่อนสิค่ะ” ก่อนจะหันไปสะกิด
ให้นายท่านนำร่องอวยพรให้ก่อนคนแรก
“อะแฮ่ม!..ต่อไปนี้พ่อก็ขอให้ชีวิตรักของลูกสองคนมีความสุขความเจริญ...ขอให้รักและดูแลกัน
ตลอดไปจนตายจาก..เจ้าบอมย์ดูแลน้องให้ดี...จำไว้นะบอมย์เบย์” การเอ่ยชื่อผมซะเต็มยศ แสดงว่านายท่านจริงจัง
ในคำสั่งนั่นมาก ผมเลยต้องรีบรับปากไปทันที
“ครับ...ผมสัญญาจะดูแลน้องจนกว่าตายกันไปข้างหนึ่งเลยหละครับพ่อแม่..สบายใจได้”
ท่านยกยิ้มให้ผม ที่รับปากหนักแน่น ส่วนเจ้าหนูยังก้มหน้างุดอายม้วนต้วนหูแดงแก้มแดงไม่สร่างซา
“ส่วนแม่..ยินดีต้อนรับสะใภ้เล็กเข้ามาเป็น ‘สวัสดิวงศ์สว่าง’ อย่างเต็มใจและต่อนี้ไปขอให้จอมรับรู้ไว้เลยลูก
ว่าจอมคือสะใภ้เล็กที่ภาคภูมิใจของครอบครัวเรา” พูดจบ เจ้าเด็กขี้อายมันเงยหน้าขึ้นมาอ้าปากค้าง จ้องตอบนายแม่
กับนายท่านแบบอึ้งตะลึงสุดๆ...เหมือนจะมีคำถาม แล้วมันก็ทนไม่ได้ถามออกมาทันที
“คะ..คือ..คือ..ไม่ใช่รับผมในฐานะลูกเขยหรือครับ...ตกลงผมเป็น..” มันเว้นช่วงไว้
เหมือนไม่กล้าพูดซะงั้น ผมก้มหน้ากลั้นขำสุดๆ แต่นายแม่ก็เติมคำพูดในช่องว่างนั้นแทนทันที
“เข้าใจถูกต้องแล้วลูก...พวกเรารับจอมเป็นสะใภ้ของตระกูลเรา...ส่วนจอมจะไปทำอะไรยังไงกับพี่บอมย์
เพื่อยืนยันตำแหน่งผัวเมียนั่น..พ่อกับแม่ไม่ขอยุ่งเกี่ยว...ลูกไปตกลงกันเอาเองก็แล้วกัน...สำหรับพ่อแม่ลูกคือสะใภ้เล็ก
ของบ้านเรา” จบข่าว..นี่นายแม่ช่วยผมไม่จบ มีวางระเบิดเวลาทิ้งท้ายอีกตะหาก...แถมพูดจบหันมายกคิ้วให้ผมอีก...
ตาย..ตายแม่กู..มีใครเปรี้ยวกว่านี้อีกไหมหวะ?..ร้ายจริงๆ คุณนาย...เอาเถอะ...งานนี้ค่อยเคลียร์บทบาทให้ชัดเจนอีกที..
เต็มที่ยอมรับผิดไปตรงๆ ก็แล้วกัน...ไหนๆ ก็ตกร่องปล่องชิ้นจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงมันต้องผ่านไปได้แน่นอน...
หึ..ใช่เรื่องยาก..อย่างมากก็สังเวยยอมเป็นกระสอบทรายเจ็บตัวสักหน่อยน่าจะหายโกรธได้ละมั้ง..คิดได้ดังนั้น
ก็แอบลอบถอนหายใจกับทางออก
ส่วนสองท่านนั้นเมื่อเสร็จเรื่องก็รีบชิ่งขอตัวไปพักผ่อน ก่อนไปไม่ลืมย้ำเรื่องงานเลี้ยงตอนเย็น
กับเราสองคนว่าต้องไปร่วมงานให้ได้ ห้ามใครเบี้ยวเป็นอันขาด...ยังทิ้งให้ผมผจญกรรมอยู่กับภรรเมียโดยลำพัง
นายท่านมียักคิ้วให้ผมอีกตะหาก...หึ..ให้มันได้ยังงี้สิ...พ่อกับแม่ผม...คงลองเชิงว่าผมจะหาทางเอาตัวรอด
ปลอดภัยจากเมียนักเลงของผมได้ยังไงละมั้ง...ก่อนผมจะหันมาสบเข้ากับตาขวางดุนิ่ง ฉายแววโหดออกมาให้เห็น
รังสีพิฆาตปล่อยมาจนล้นทะลัก...แล้วเมียเด็กจอมนักเลงก็ลุกพรวดก้าวเดินดุ่มๆ หนีขึ้นกะไดไปบนห้องทันที งานเข้า
อย่างแรง...ผมต้องรีบตามไปเคลียร์..ขืนไม่ง้อไม่เคลียร์งานนี้ได้งอนยาว...เอาหวะ...ตายเป็นตายผ่านสมรภูมิรบมามากมาย....
นับประสาอะไรกับฝ่าส้นตีนดงหมัดของเมียนักเลงโตคนเดียว..ผมจะผ่านมันไม่ได้...ยอมเจ็บตัวแต่ได้เมียสุดหล่อมานอนกก..
คำนวนผลได้ผลเสียคุ้มเกินคุ้ม...อย่างงี้มันน่าลงทุน..ว่าแล้วก็ตัดสินใจเผ่นแผล่วตามตูดเมียหมาดๆ ไปติดๆ..
“จอมคร๊าบบบบๆๆๆ...รอพี่ด้วยยยย!!!...”
ไว้มาต่อให้พรุ่งนี้นะค่ะ 50% ที่เหลือ
ส่วนใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านเรื่อง 'เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้' ของพี่วี
พี่เค้าส่งตอนพิเศษนอกรอบ มาให้อ่านกันอีกตอนแล้วนะค่ะ
Luk.