ตอนที่ 3
ครืดดดดดดด
อะไรมันสั่นรบกวนการนอนของท่านทรายสุดหล่อวะเนี่ย ผมงัวเงียเงิบงาบลุกขึ้นจากเตียงในสภาพล่อนจ้อน ก็ตัวเปียกนี่หว่าก็ต้องแก้ผ้านอนเป็นเรื่องปกติ (ที่ไม่ปกติคือไม่ใช่ห้องตัวเอง) ผมมองหามารรังควานการนอน อ้อออ ไอ้เจ้าบีบีสีดำสนิทนี่เอง ไอ้น้ำแข็งเดินได้นี่มันติดแชทเหมือนกันเวะ แล้วใครโทรมาวะเนี่ย
‘Pundow’
ปันด๋าว ? ปั๋นด๋าว ? ปั้นด๋าว ? หรือว่า ปั้นดาววะ ตัดสินใจยากจริง (เซนส์เรื่องชื่อนายเอกเราต่ำมากค่ะทุกคน) รับแล้วกันไหนๆก็โทรมาสบพบชะตากับหนุ่มหล่อคมเข้มนามผืนทรายซะแล้ว อิยะฮะฮ่า
“ทรายครับ” การรับโทรศัพท์แสนเคยชินของผม ลืมไปเวะว่าไม่ใช่โทรศัพท์ตู
“เอะ เอ่ออ พี่ปลายไม่อยู่หรอคะ” ป๊าดดด เสียงหวานบาดจายยแบบนี้ทรายช้อบบบบชอบบบบ
“ไอ้ … เอ่อ ปลายไปเรียนครับ ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรฝากข้อความไว้ได้มั้ย” จัดไปหนึ่งดอกเก๊กเสียงหล่อเต็มที่ ไม่รักไม่หลงให้มันรู้กันไปเซ่
“เอ่อไม่เป็นไรค่ะๆ บอกแค่ปั้นดาวโทรมาก็พอค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” และแล้วคนสวยเสียงเพราะชื่อพริ้งก็วางสายไปในบัดดล เฮ้ยได้ไงอ่ะ ยังไม่ได้จีบเลย เสียชื่อคาสโนว่าทรายหมดไม่ยอมอ่ะ ไม่ยอมมมมม แงงงงง
ผมดิ้นประท้วงไปมาอยู่บนเตียงกว้างๆจนยับยู่ยี่หนักกว่าเก่าที่ยับอยู่แล้ว จนสุดท้ายก็นอนคว่ำหน้ากับเตียงปล่อยให้แอร์ปล่อยลมเย็นๆพัดตูดเปลือยๆขาวๆของผมไป ขนตูดลุกเลยตู เสื้อผ้าเปียกๆก็ยังกองอยู่บนพื้น ยืมเสื้อไอ้งี่เง่าใส่ก่อนแล้วกันหนาวว้อยแอร์แม่งจะทำงานคุ้มค่าไปไหน เมืองไทยนะจ๊ะ ไม่ใช่ซาอุดิอาระเบียที่จะได้มีหิมะ (ซาอุบ้านนายเอกเรามีหิมะนะคะ) ผมนำพาร่างหล่อๆมีกล้ามที่แขนเล็กน้อยที่พยายามแทบตายอยากได้ซิกแพคก็ไม่ขึ้นซักทีมีแต่กล้ามที่แขนนี่แหละ รื้อตู้มันดีกว่า อืม… เสื้อเชิ้ตขาวมันใส่เรียนชัวร์ อันนี้ก็เสื้อยืดไม่เอาอ่ะสีดำเรียบๆไม่ชอบ งมไปก็งมมา งมมาก็งมไป ป๊าดดด เจอแล้ว !
ผมคว้าเสื้อกล้ามสีดำที่ถ้าเจ้าของใส่คงแนบเนื้อด้วยส่วนสูงและขนาดตัวของมัน แต่พออยู่บนตัวผมมันก็หลวมหน่อยๆ คอเสื้อก็ต่ำลงมาเกือบเห็นดัชมิลค์ ไม่ไรหล่อโชว์ได้ไม่เผียดดด กางเกงแน่นอนว่าใส่ของมันไม่ได้ซักตัว แม่งเอวใหญ่ใส่แล้วร่วงโชว์ทรายน้อยให้หนาวเล่นซะทุกตัวเลยว่ะ เอานี่แม่งบ็อกเซอร์ ! สีขาวดำนี่แหละ ไอ้บ้านี่แม่งชอบสีโทนนี้ชัวร์
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยผมก็ย้ายตัวเองไปนั่งจับเจ่าอยู่หน้าทีวีเครื่องยักษ์ด้านนอก กดไปร้อยล้านช่องมันก็เบื่ออ้ะ มือก็เจ็บ หัวก็โน จมูกก็ปวด นี่กูไปรบกับใครมาแว๊ ! ขนาดไปเกณฑ์ทหารยังไม่ผ่านเลยนะเฮ้ย เอ๋ ? นั่นมันเปียโนไฟฟ้าที่แอบๆเห็นเมื่อเช้านี่หว่าไปลองเล่นซะหน่อยโชว์ฝีมือที่เด็จแม่อุตส่าดันทุรังส่งไปเรียน
ผมเสียบปลั๊กเรียบร้อยลองจิ้มๆไปมาให้มันเป็นสิ่ง ตึ่ง ตึง ตึง ตึ้ง !! แหม่ะไม่เพราะเอาใหม่ ตึ้ง ตึง ตึง ตึ่ง โอเคใช้ได้
“ขอเชิญทุกท่านพบกับคอนเสิร์ตนักเปียโนชื่อดังผืนทราย นักเปียโนอันดับหนึ่งของโลกนี้และโลกหน้า ณ บัดเน้ !!!” สรรเสริญเยินยอตัวเองเรียบร้อยมือผมก็เริ่มบรรเลงเพลงดังระดับโลกที่ทุกคนรู้จักกันดี เป็นเพลงที่ฝึกมาตลอดสามปีที่เล่นเปียโนมา และยังเป็นเพลงที่ทำให้แม่ผมแทบร้องไห้จนเลิกส่งผมไปเรียนเปียโนปีที่สี่
“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเมียว ลูกแมวเมี้ยวว หนูมาลีมีลูกแมวเมี้ยว เมียว เมียว เมี้ยว เมียวเมียว … กินมันแกว กินมันแกว กินแล้วตดใส่แมว แมวเป็นลม แมวเป็นลม เอายาดมยักตูดแม๊ว ! เมียว เมี้ยว เมียว เมียว”
“ห่วยแตก” เสียงนิ่งๆของคนที่ไม่อยากคุ้นเคยที่ต้องมาเคยคุ้นทำเอาคิ้วผมเริ่มกระตุกอยากเอาตีนกระแทกปากคนตะหงิดๆ
“อะไรมึง มาเงียบๆ รู้จักปะมารยาทอ่ะ มารยาท” จัดไปดอกนึง ทรายนำ 1-0 ครับ !
“นั่นควรจะถามกลับนะว่ารู้จักเปล่ามารยาท ทำมาใช้คำนี้ตัวเองยังไม่มีเลย ห้องก็ไม่ใช่ห้องตัวเองยังถือวิสาสะมายุ่งกับของคนอื่น” จึ้ก ! 2-1 ไอ้น้ำแข็งนำ ! แต่เพื่อชัยชนะอย่าหมายใจไปหน่อยเลยเอ็ง ข้านี่แหละยอดคนพิชิตเอเวอร์เรสต์ (เริ่มไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเข้าไปทุกทีนายเอกเรา)
“เป็นเด็กเป็นเล็กมาสอนผู้ใหญ่ได้ไง นิสัยแย่ว่ะ” ผมทำหน้าดุใส่มัน เป็นไงล่ะเจอทรายเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ อึ้ง อึ้งแดกอ่ะดิมึง
“ผู้ใหญ่ติงต๊อง”
“ไอ้ ….. $#$%%$@#%$^ !!!!”
“เสื้อกับกางเกงเอาคืนมาด้วยของตัวเองไม่มีใส่หรือไงมาเอาของคนอื่น” ไอ้น้ำแข็งมันเดินเข้ามาจะดึงเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์มันออก เฮ้ย มันไม่มีอะไรจะใส่แล้วนะโว้ยยยยยย
“ปล่อยกู !! ปล่อยว้อยยยยยยยยยยยยยย เสื้อมันเปียกกก ไม่มีให้ใส่แล้วววว”
“ไม่ต้องกลับไปทั้งเปียกๆนั่นแหละ”
มันยังจะกระชากเสื้อมันคืน ผมก็ง้างขายันเต็มที่ มันก็ไม่สะทกสะท้านแม่งแดกหญ้าแทนข้าวหรือไงแรงอย่างกับควาย
“ม่ายยย ปล่อยยยยยยยย”
“เออไม่ปล่อยไง”
“ไม่ใช่ๆ กูบอกให้ปล่อยยยยยยยยยยยยยยยยย”
จนแล้วจนรอดแรงเทวดาหรือจะสู้พลังควายถึกเสื้อกับบ็อกเซอร์ผมก็โดนฉุดกระชากลากถูออกไป เหลือแต่ตัวผมขาวๆล่อนจ้อนโชว์น้องทรายน้อย มันก็อึ้ง ผมก็อึ้ง ปฏิกิริยาอัตโนมัติคือต่างคนต่างหันขวับหันหลังชนกัน
“ทำไมไม่ใส่กางเกงใน ชอบโชว์หรือไง”
“เก๊าะ กูบอกว่ามันเปียกกก มึงจะดึงทำไมเล่า กูไม่ได้เป็นเอดส์นะใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกันแล้วมึงจะติดอ่ะ”
“เฮ้อ ตามีตำหนิซะแล้ว” มันถอนหายใจอีกละ หนอยมีตำหนิ ออกจะใหญ่ได้คุณภาพคับแก้วขนาดนี้
“ไอ้สัสของกูได้มารตรฐานโว้ยมาเคลียให้รู้เรื่องเลยนะ” ผมคว้าแขนมันให้หันมา มันตาโตตกใจทันที อะไรวะ
เฮ้ย ! ลืมไปไม่มีอะไรปิดอยู่ เราสองคนหันหลังกลับไปยืนหันหลังชนกันอีกครั้ง เกิดความเงียบขึ้นสักพักก่อนมันจะกระแอมไอทำลายความเงียบ
“อะไรวะเนี่ยเป็นบ้าหรือไงชอบโชว์หรอวะ”
“ไม่ได้ชอบโชว์เว่ยแค่อยากให้มึงรู้ว่าของกูอ่ะได้คุณภาพรับประกันจากสาวๆเกินครึ่งที่เคยใช้บริการ” ไอ้น้ำแข็งเดินได้เงียบไปอึดใจใหญ่ๆก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วตอบกลับผมเนือยๆ
“เล็กกว่ากูเยอะ อย่าทำมาอวดเลยไอ้เตี้ย ใส่เสื้อผ้าเปียกๆมึงแล้วรีบกลับห้องไปเลยกูจะนอน แล้วไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าอีกนะ” มันเดินไปในห้องคว้าผ้าเปียกๆของผมมาใส่ให้เรียบร้อย ผมก็ดิ้นๆมันก็แรงควายชิบหาย จับยัดจนเสร็จ ไอ้นี่แม่งเชี่ยวชาญด้านการถอดหรือไงวะ
“มึงจะทำอะไรปล่อยกู กูเข้าห้องไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยย” ผมโดนมันดันออกจากห้องเป็นรอบที่สามของวัน !
“เรื่องของมึงกูรังเกียจมึงชิบหายไปไกลๆจากชีวิตกูเลยนะไอ้เตี้ย”
“กูทำไรผิด ปล่อยกูนะ กูไม่ใช่หมาที่มึงจะมาไล่ไปไหนก็ได้นะเว้ยยย”
“มึงมันยิ่งกว่าหมาอีกไอ้สัส”
“กูทำไรผิดดดดดด กูแค่เข้าห้องไม่ด้ายยยยยยยยยยยย” ผมกอดแขนมันสุดชีวิตยกขาเกี่ยวตัวมันแน่นแต่มันก็เหวี่ยงผมออกจากห้องมันอีกครั้ง
“มึงมันโรคจิตชอบโชว์ กูกลัว แค่นั้นชัดยัง”
ปัง !
แล้วประตูมันก็ปิดลงอีกครั้ง ท่ามกลางว่าอึ้งของชีวิตผม เกิดมา 24 จะ 25 พึ่งเคยโดนกล่าหาว่าเป็นโรคจิต อะอะ ไอ้สาสสสสส ผมโชว์นิ้วกลางใส่ประตูห้องมัน แล้วพาร่างเปียกๆของตัวเองไปกดลิฟต์ จิ้มแม่งสามร้อยล้านที
แต่คนตัวเปียกเค้าว่าให้ระวังเรื่องไฟฟ้า แต่ผมดันลืมไปซะสนิท ความรู้สึกแปล๊บที่คิดว่าไฟช็อตแน่ๆแล่นไปทั่วร่าง ก่อนมันจะเริ่มกระตุก
“ไอ้เตี้ยมึงลืม เฮ้ย !” สิ่งสุดท้ายที่ผมรับรู้คือแรงถีบจนตัวปลิวจากตีนไอ้น้ำแข็งเดินได้