สืบเสน่หา (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สืบเสน่หา (จบ)  (อ่าน 169054 ครั้ง)

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
สืบเสน่หา (จบ)
« เมื่อ03-07-2011 22:33:49 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2012 00:02:48 โดย ppm »

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
ขอแจ้งล่วงหน้านะคะ ว่าเรื่องนี้ใสจริงไม่มีหื่นค่ะ เนื่องจากช่วงนั้น ppm พยายามจะเขียนนิยายใสให้รอดเพื่อลองส่งสำนักพิมพ์ แต่พอดีส่งไม่ผ่าน เลยเอามาให้ลองอ่านกัน อ่านแล้วรบกวนช่วยติชมกันหน่อยนะคะ จะเอาไปปรับปรุงน่ะค่ะ เผื่อคราวหน้าจะส่งผ่านกับเขาบ้าง T^T ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ppm เป็นพวกไม่มั่นใจ เวลาเขียนนิยายใสไร้เรท - -"

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนจบแล้ว แต่คงจะค่อย ๆ ทยอยลง เพราะพักนี้ไม่เหลือสต็อกนิยายเท่าไหร่แล้วค่ะ จะปั่นเพิ่มก็ไม่ค่อยจะมีเวลาซะด้วย ขออภัยสำหรับบางเรื่องที่ดองอยู่นะคะ

และท้ายที่สุด เรื่องนี้ไม่ใช่แนวเรื่องเล่า ขออภัยสำหรับผู้ที่ต้องการอ่านแนวนั้น แต่ถ้าอยากลองเปลี่ยนแนวอ่านก็ยินดีค่ะ ^^

นิยายที่ลงไปแล้วในบอร์ดนี้ เผื่อสนใจอยากอ่านเพิ่ม: Special Triple (จบ), Absolution cafe (จบ), หรรษาฆาตกรรม (TBC)
เรื่องสั้น (จบแล้วทุกเรื่อง): ทายาทมรณะ, Full moon night, Give me your hand, เรื่องอย่างว่าของเซี่ยเอ๋อร์, เรื่องสั้นนัท-เนยซีรี่ส์


==================================


สืบเสน่หา

ตอนที่ 1



แสงแฟลชวูบวาบยามร่างสูงแข็งแรงขยับเปลี่ยนท่าเป็นจังหวะพร้อมเสียงลั่นชัตเตอร์ถี่ มือมั่นคงขยับปรับเปลี่ยนมุมกล้องซูมไปยังแผ่นอกกว้างที่มีกล้ามเนื้อสวยราบเรียบ เสื้อเชิ้ตขาวตัวบางที่สวมใส่เปิดผ่ากลางไม่ได้ติดกระดุม เริ่มแนบเนื้อเนียนอันเปียกปอนดูเซ็กซี่ ร่างกำยำเอนกายพิงขอบอ่าง ใช้นิ้วแกร่งเสยผมสีน้ำตาลทองเปียกชุ่มตลบไปด้านหลัง ขับเน้นหน้าผากคมสันให้โดดเด่น โดยเฉพาะยามมองจากด้านข้างเช่นในมุมนี้

เสียงชมเบา ๆ จากช่างกล้อง โดยมีผู้ช่วยคอยจัดฉากอยู่ด้านข้างดูมืออาชีพนัก แสงไฟกับตัวกันสะท้อนปรับมุมให้พอเหมาะ ก่อนเสียงชัตเตอร์จะตามมาอีกเป็นระยะ แล้วสั่งให้เปลี่ยนเป็นอิริยาบถถัดไป

ผู้ช่วยด้านหลังรับสัญญาณจากช่างกล้อง แล้วค่อย ๆ หมุนปล่อยน้ำจากฝักบัวให้ไหลลงมาระใบหน้าตัวนายแบบ ดวงตาพริ้มหลับยามสายน้ำพุ่งเข้าหา ยิ่งสะกดตรึงสายตาคนมองนัก ร่างกายที่เป็นลูกครึ่งไทยฝรั่ง ทำให้ดูสูงใหญ่และแข็งแรง มีเสน่ห์จนกระทั่งผู้ช่วยหลายคนตรงนั้นที่ยังว่างงาน เผลอจ้องมองจนยากจะละสายตาได้

ภาพทั้งหมดยังอยู่ในสายตาของใครอีกคน ชายหนุ่มในชุดสุภาพ ที่ยืนมองอยู่นานแล้ว โดยแทบไม่ขยับเขยื่อนไปไหน ดวงตานิ่งสนิทนั้นมองมาและรอคอยจนกระทั่งงานนั้นได้เสร็จสิ้นลง โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ

พอถ่ายเสร็จสั่งปิดกล้อง ผู้ช่วยด้านข้างจึงรีบส่งผ้าขนหนูให้ เพราะร่างแกร่งนั้นตัวเปียกปอนอยู่ ชายหนุ่มรับมันมาซับเรือนผม มือถอดเสื้อตัวเปียกออกโดยไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีใครมองสักเท่าใด ก่อนใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมร่างไว้แล้วเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุด

ขณะหยิบชุดใหม่มาผลัดเปลี่ยนจนเรียบร้อย เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ชายหนุ่มที่กำลังแต่งตัวจึงขานรับ

“เข้ามาได้ครับ”

ประตูเปิดออก คนคุ้นตาเดินเข้ามา ชายหนุ่มจึงแต่งตัวต่อโดยไม่ได้พูดอันใด ผู้มาใหม่เป็นชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานตัวผอมสูง แต่งกายดีด้วยชุดทำงานราคาแพงสมกับเป็นนักออกแบบเสื้อผ้ามืออาชีพ คนผู้นี้คือประจักษ์ จันทร์ทรงกลด ซึ่งเป็นผู้ดูแลงานทั้งหมดนี้ รวมถึงเป็นเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ชายหนุ่มใส่ถ่ายแบบอยู่ด้วย

“ค่าตัวของคุณวันนี้ครับคุณเจมส์ ขอบคุณมากนะครับ” ประจักษ์ส่งซองให้ ซึ่งชายหนุ่มก็รับมันมาอย่างคุ้นเคย

อีกฝ่ายเห็นดังนั้นจึงโค้งให้ด้วยท่าทางที่นอบน้อมเอาใจ

“ขอบคุณนะครับ ไว้วันหลังเราจะขอใช้บริการอีก”

“ได้เลยครับ ถ้านายแบบมีปัญหา ก็เรียกผมได้” เจมส์ยิ้มหวานพลางรับคำอย่างง่าย ๆ หากคล้ายมีบางอย่าง คอยกางกั้นตัวชายหนุ่มไว้ จนทำให้ทุกครั้งที่มาติดต่อ จะรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้านั้นยากจะตีสนิท แม้ว่าจะรู้จักกันมานานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นประจักษ์ก็ยังพยายามต่อไป ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้งก็ตามที

“คุณน่าจะทำงานนี้เป็นอาชีพนะครับ รูปร่างก็ออกจะดี หน้าตาก็ใช้ได้เลย ถ้าสนใจเข้ามาเป็นนายแบบให้เสื้อผ้าผมล่ะก็ ผมยินดีเชียวล่ะ” เขาหยอดลูกชมเหมือนทุกครั้ง และหวังว่าอีกฝ่ายจะตอบรับคำชวนในสักวัน ให้มากกว่าการมา ‘แก้ขัด’ ยามนายแบบนางแบบของเขาไม่ว่าง

คนฟังยิ้มรับอย่างสุภาพเหมือนเช่นเคย ก่อนจะตอบว่า “ขอโทษนะครับ แต่ผมมีงานประจำที่สำคัญอยู่แล้ว ถ้าแค่ชั่วครั้งชั่วคราวช่วยงานตอนคุณมีปัญหาล่ะก็ ผมจะยินดีมากกว่าครับ จะอย่างไรเมื่อก่อนคุณก็เคยช่วยเหลือผมมายามลำบาก”

“คุณเจมส์นี่น้า” คนฟังส่ายหน้าอย่างเอ็นดู แม้ว่าบุคลิกของอีกฝ่ายจะเข้าถึงยาก ทั้ง ๆ ที่เห็นยิ้มแย้มแจ่มใสดีเช่นนี้ แต่ประจักษ์เองก็รู้ ถึงน้ำใจของเจมส์ ที่ยอมมาช่วยงานเขา ทุกครั้งที่ขอร้อง ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้อีกครั้งจนได้

“เอาเถอะ งานประจำของคุณก็คงทำเงินได้ดีอยู่สินะ ผมไม่รบกวนแล้วกัน ถ้าทำงานพวกนายแบบ คุณอาจจะไม่มีเวลาส่วนตัว จะยังไง ผมก็ช่วยปิดบังชื่อจริงและที่อยู่ให้คุณอยู่แล้ว รับรองว่าคงไม่มีใครไปรบกวนคุณตามเงื่อนไขแน่ ๆ”

“ขอบคุณครับที่เข้าใจ” เจมส์ก้มศีรษะให้อย่างนุ่มนวล

หากท่าทางของประจักษ์กลับดูซีเรียสกว่าเดิม เมื่อพูดต่อไปอย่างนึกขึ้นได้

“จริงสิ เมื่อกี้มีคนติดต่อมาขอพบคุณ คุณพอมีเวลาอีกเล็กน้อยไหมครับ ท่าทางเขาจะร้อนใจมากอยู่”

“มีคนอยากพบผม?” นายแบบหนุ่มขมวดคิ้วสีน้ำตาลเข้มอย่างสงสัย ประจักษ์พยักหน้ารับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนจะแอบกระซิบ “ถึงผมจะเก็บเรื่องของคุณเป็นความลับ แต่ไม่รู้ว่าเขาทราบข้อมูลของคุณมาจากไหน แถมยังบอกผมว่าเป็นตำรวจด้วย คุณมีปัญหาอะไรรึเปล่า จะให้ผมช่วยไหมครับ?”

เจมส์ส่ายหน้าน้อย ๆ ใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คงไม่มีอะไรหรอกครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแต่งตัวเสร็จแล้วผมจะไปพบเขาเอง” เขาตอบง่าย ๆ ประจักษ์เห็นดังนั้นจึงยิ้มให้ ก่อนจะขอตัวออกมา เพื่อให้อีกฝ่ายแต่งตัวต่อโดยไม่รบกวนอีก

   

ครึ่งชั่วโมงถัดมา ในห้องล็อบบี้ของโรงแรมที่ใช้เช่าเป็นสถานที่ถ่ายแบบชั่วคราวนั้น ร่างสูงของเจมส์ ที่ตอนนี้อยู่ในชุดทำงานรับกับรูปร่าง ดูดีราวนายแบบมืออาชีพ ก้าวยาว ๆ เข้ามาหาคนที่นั่งรออยู่

ดวงตาคมของเขามองมาอย่างแปลกใจ ร่างนั้นนั่งตรงแน่วอย่างเคร่งครัด รูปร่างผอมบางได้สัดส่วน มีกล้ามเนื้อพอประมาณไม่ขัดตา ใบหน้าจัดว่าหวานแม้เป็นชายด้วยดวงตาใสกระจ่างรับรูปหน้า หากคิ้วเข้มดูเคร่งเครียดนั้นกลบบรรยากาศเป็นมิตรไปอยู่หลายส่วน จากภายนอกอายุคงไม่ห่างกับเขามากนัก คงจะประมาณ 20 ต้น ๆ เพียงเท่านั้น

เจมส์พอจะดูคนเป็นอยู่บ้าง จากประสบการณ์พบปะผู้คนอันยาวนานของเขา คนผู้นี้ลักษณะบอกได้ชัดว่าเป็นคนตรงที่ติดจะรั้นเอาการ แต่จุดเด่นยังคงเป็นความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาที่น่าชื่นชม

หากตอนนี้จะอย่างไรก็เป็นคนแปลกหน้า และยังเป็นคนเข้ามาก่อนเสียด้วย แม้ในตอนนี้ จะเริ่มสนใจมากขึ้นแล้ว ชายหนุ่มจึงถามขึ้นเบา ๆ คล้ายพูดกับตัวเอง

“รู้ไหมว่าเขาเป็นใครน่ะ?”

เสียงตอบกลับมาเป็นเสียงเด็ก แม้ว่าบริเวณนั้น จะไม่มีเด็กอยู่เลย “เขายืนมองพ่อทำงานอยู่นานแล้วฮะ ท่าทางแปลก ๆ เสียด้วย บางทีก็ทำตาน่ากลัว ยังไงก็ระวังหน่อยนะฮะ”

เสียงนั้นเตือนอย่างหวังดี จากคำตอบบอกได้ชัด ว่าจับตามองคนที่พูดถึงมานานแล้วเช่นกัน

“อืม” คนฟังรับคำง่าย ๆ ก่อนยิ้มน้อย ๆ “แต่ก็ดูน่าสนใจไม่เลวนะ เห็นบอกว่าเป็นตำรวจด้วย ลองไปคุยก่อนแล้วกัน” พูดจบเขาก็เข้าไปใกล้อีกฝ่ายที่นั่งรออยู่พอดี

“สวัสดีครับ คุณต้องการจะพบผม?” เขาเริ่มต้นก่อนด้วยความสุภาพ

ร่างสูงติดจะผอมเพรียวขยับลุกขึ้นแทบจะในทันที ไม่ได้มีอาการตื่นเต้นหรือตกใจ ยามได้ใกล้ชิดอีกฝ่ายนัก ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเสน่ห์อันเหลือเฟือยามแต่งชุดสุดเท่เช่นนี้ มักจะดึงสมาธิคนที่พูดคุยด้วยจนบางครั้งถึงกับลืมไปด้วยซ้ำว่ากำลังจะพูดอะไร ดวงตาสีดำสนิทสบตาสีเทาอ่อนนั้นอย่างไม่รู้สึกอันใด ก่อนเปิดประเด็นขึ้นว่า

“ผมเป็นตำรวจ” ชายหนุ่มโชว์ตราตำรวจก่อนเข้าเรื่องด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม

“คุณเจมส์ ผมขอคุยเรื่องคดีบางอย่างหน่อยได้ไหมครับ”

คนมองมายักไหล่น้อย ๆ เขากับตำรวจใช่ว่าจะไม่ถูกกันมากมายนัก แต่จู่ ๆ มีตำรวจมาหา เป็นใครก็ไม่สามารถพูดคุยได้อย่างสนิทใจอยู่ แถมยิ่งเป็นคนที่ดูซีเรียสเสียจนอยากจะลองแหย่ดูเช่นนี้

“คดีอะไรกันครับ หวังว่าผมคงไม่ได้ถูกข้อหาว่าไปแอบฆาตกรรมใครเข้าล่ะ” ชายหนุ่มถามต่อไปพลางยิ้มหวาน

“ก็ไม่แน่หรอกนะครับ” ตำรวจหนุ่มพูดต่อไป ไม่ได้ใส่ใจออร่าเปี่ยมเสน่ห์ที่ส่งมาอย่างต่อเนื่องนั้นเท่าไหร่ ทำให้อีกฝ่ายเริ่มสนใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะท่าทางที่ดูไว้ตัวจนน่าแกล้งนั่น ยิ่งไปกระตุ้นนิสัยที่ไม่ดีของเขาจนอดใจไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นตำรวจ อาชีพคู่ปรับที่เขาไม่เคยจะญาติดีด้วยได้เลยสักที

“เวลาเที่ยงคืนเมื่อวานนี้ คุณอยู่ที่ไหนครับ” แม้จะไม่ได้สวมเครื่องแบบ แต่ท่าทางที่ดูเคร่งครัดเอาการเอางานในหน้าที่อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เจมส์ค่อนข้างแน่ใจ ว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจจริง ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้เขาอยากจะสนทนาด้วยแบบผู้คนปกติอยู่ดี เพราะนาน ๆ ทีจะเจอคนน่าสนใจแบบนี้สักคน

“เฮ้อ” ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งด้านข้างหน้าตาเฉย ใกล้อย่างจงใจจนตำรวจหนุ่มต้องเป็นฝ่ายเขยิบหนีรักษาระยะห่างแทนที่

“ผมถามคุณอยู่นะครับ” เสียงเข้มดูซีเรียสกว่าเก่า น้ำเสียงที่ดูห่างเหินทำให้คนฟังแอบรู้สึกถูกชะตาจนอยากแกล้งมากขึ้นโดยอัตโนมัติ

ใบหน้าแกร่งมีรอยยิ้ม “ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย คุณตำรวจ คุณรู้ชื่อผมฝ่ายเดียว ออกจะไม่ยุติธรรมเกินไปไหม”

“เมื่อกี้ผมก็โชว์ตราตำรวจแล้ว ในนั้นก็มี ชื่อ นามสกุล อยู่ คุณอ่านไม่ออกงั้นรึ” เสียงอีกฝ่ายตอบกลับอย่างไม่พอใจ ท่าทางที่ยั่วขึ้น ทำให้เจมส์เริ่มนึกสนุก ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อพูดต่อว่า

“ผมอ่านทันที่ไหน คุณโชว์แว้บ ๆ แล้วเก็บ ตราปลอมรึเปล่ายังไม่รู้เลย”

ดวงตาสีเข้มมีประกายวาบ “คุณหาว่าผมเป็นตำรวจปลอมงั้นรึ”

เจมส์เอนตัวลงกับโซฟารับแขกของทางโรงแรม ก่อนยกมือทั้งสองขึ้นช้า ๆ “ผมเปล่านะครับ อย่าทำท่าเหมือนจะชักปืนขึ้นขู่งั้นสิ คุณมานอกเครื่องแบบไม่ใช่หรือ”

ชายหนุ่มชะงัก สูดลมหายใจเข้าอย่างพยายามระงับอารมณ์ “ผมร้อยตำรวจเอกปวินต์ ธนารักษ์ มาขอสอบสวนแบบกึ่งทางการ หรือว่าคุณต้องการให้ผมไปเปลี่ยนชุดตำรวจก่อน ถึงจะยอมให้สอบสวนได้?”

“ชุดตำรวจคงเซ็กซี่ดี ถ้าคุณใส่นะครับ ผมชอบตรงมันตึงเปรี๊ยะนี่ล่ะ ทั้งอกทั้งสะโพกทั้งก้น น่าลูบมากเลย” เขาพูดหน้าตาเฉย

คนนั่งด้านข้างขนลุกซู่ รีบผุดลุกขึ้นทันที “ระวังโดนข้อหา ‘ลวนลามเจ้าพนักงาน’ เพิ่มนะครับ” เตือนแล้วก็เปลี่ยนไปนั่งที่โซฟาอีกด้านอย่างไว้ตัว

เจมส์มองมาพลางหัวเราะเมื่อเห็นอีกฝ่ายยั่วขึ้น เป็นแบบที่เขาชอบจริง ๆ เสียด้วยสิ

“ผมกลัวแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ ถึงเวลางานชิ้นต่อไปของผมแล้วนี่สิ คุณจะไปสอบสวนผมต่อที่บ้านไหม”

“เลิกนอกเรื่องได้แล้วครับ กรุณานั่งดี ๆ แล้วจะได้ถามให้จบ ๆ ไป ไม่รบกวนการทำงานของคุณ” ตำรวจหนุ่มตัดบท

“คุณตำรวจดุจริงน้า ผมล่ะกลัวจัง” แม้จะพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงกลับตรงกันข้ามจนน่าหงุดหงิด

“เวลาเที่ยงคืนเมื่อวานนี้ คุณอยู่ที่ไหนครับ” คำถามย้ำเข้มกว่าเก่าอย่างเห็นได้ชัด จนเจมส์ลอบอมยิ้ม

“อยู่บ้านสิครับ แต่คงไม่มีพยานเป็นคนเป็น ๆ ถ้าเป็นผีได้ไหมครับ” คนตอบเล่นลิ้นอีก

“ผีเป็นพยานไม่ได้” ปวินต์ตอบเสียงชัดเจน ไม่รู้ทำไม ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเขาเป็นคนควบคุมตัวเองได้ดี แต่กลับจะตบะแตกเพราะคนที่พึ่งเจอหน้าวันนี้เสียได้

“ที่สำคัญ ผมไม่เชื่อหรอก ว่าผีมีจริง” ชายหนุ่มย้ำต่อด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

“ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคุณตำรวจ เฮ้อ เอาเถอะ เดี๋ยวอีกหน่อยคุณก็รู้เอง เอาเป็นว่าคืนนั้น ผมนอนอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีพยานที่มีชีวิตยืนยันก็แล้วกัน”

เจมส์เว้นระยะเล็กน้อย ดวงตาคมยังคงมองมายังคู่สนทนา “ว่าแต่ผมถูกสงสัยว่าไปฆ่าใครเข้าหรือไงครับ”

ปวินต์ไม่หลบตาที่ดูทรงอำนาจนั้น และนั่นทำให้เจมส์รู้สึกสนใจตำรวจผู้นี้มากขึ้นไปอีก

เสียงราบเรียบของตำรวจหนุ่มกล่าวต่อไป

“มีคนถูกฆ่าในโรงแรมย่านวิภาวดีแห่งหนึ่ง และพบตุ๊กตาตัวนี้…อยู่บนเตียงพร้อมกับศพด้วย” มือเรียวยาววางภาพ ๆ หนึ่งบนโต๊ะตัวเล็กเบื้องหน้า ภายในภาพนั้น เป็นตุ๊กตาเปื้อนเลือด อยู่ในมือขาวซีดเกร็งแน่น ตุ๊กตานั้นทำด้วยขี้ผึ้ง สลักลายลงยันต์ดูขลัง ส่วนอีกภาพ เป็นตุ๊กตาเดี่ยว ๆ ที่ถูกแกะออกมา ทำให้เห็นด้านหน้าของลำตัวตุ๊กตาที่เปื้อนเลือด ซึ่งมีรอยถูกทิ่มด้วยของแหลมจนพรุนไปหมด

คนมองส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อเห็นภาพนั้น แววตาคมเศร้าสลดลงพลางถอนหายใจยาว โดยไม่พูดอะไรอีก ปวินต์เห็นดังนั้นจึงมองอีกฝ่าย แล้วพูดต่อไป

“นอกจากลายนิ้วมือของผู้ตายแล้ว ตุ๊กตาตัวนี้ มีลายนิ้วมือของคุณอยู่ด้วย”

เจมส์เลิกคิ้ว ก่อนตอบว่า “ใช่…ของนั่นเป็นของผมเอง คงเป็นลูกค้าของผมสักคน ที่ผมให้ของไว้ หรือว่าคุณสงสัยผม เพราะเจ้าตุ๊กตานั่น ผมอาจจะมีประวัติอาชญากรรมนิดหน่อย แต่ไม่เคยฆ่าคนนะครับ”

“ผมก็ไม่ได้กล่าวหาว่าคุณฆ่าคน แม้ว่าจะเจอลายนิ้วมือคุณในแฟ้มประวัติ แต่คุณก็โดนจับ เพราะคดีหลอกต้มตุ๋นคนเป็นส่วนใหญ่”

เสียงระบายลมหายใจออกอย่างไม่พอใจนัก “เพราะงี้ไง ผมถึงไม่ชอบตำรวจเท่าไหร่ มาเจอหน้าก็ยัดข้อหากัน ผมไม่ได้หลอกลวงแท้ ๆ”

ว่าพลางผุดลุกขึ้น โดยไม่ใส่ใจอีกฝ่ายนัก “ผมต้องไปแล้ว ถ้าผมไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรก็แล้วไป สงสัยอะไร เชิญไปหาผมที่บ้านแล้วกัน ที่อยู่คุณคงรู้แล้วล่ะสิ” ประโยคหลังแอบดักคอไว้จนอีกฝ่ายอึ้งไปเป็นครู่

จนร่างสูงนั้นเดินออกไป ตำรวจหนุ่มจึงตั้งสติได้

“เดี๋ยว…เดี๋ยวก่อนสิ ผมยังถามไม่จบ” เขาพยายามจะเรียกไว้ แต่อีกฝ่ายกลับเดินออกไปแล้ว โดยไม่หันมามองอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2012 00:03:13 โดย ppm »

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
บ้านไม้ทรงโบราณหลังน้อยนั้นอยู่ในตรอกลึกที่มีทางเข้าค่อนข้างคับแคบ ทางเดินที่ดูรกร้างบวกกับต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมจนครึ้มสร้างบรรยากาศเย็นเยือกแบบแปลก ๆ จนทำให้คนมาเยือนเริ่มรู้สึกไม่อยากเข้าไปนัก แต่ด้วยหน้าที่แล้ว จะอย่างไรเขาก็ต้องไป

ริมฝีปากบางขบกันเล็กน้อย แอบนึกขัดใจ ที่อีกฝ่ายไม่ได้ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย ทำให้เรื่องมันยืดเยื้อ จนสุดท้ายเขาเอง ก็ต้องมาง้ออีกฝ่ายจนถึงบ้าน

แต่จะอย่างไร เขาก็ต้องเค้นความจริงให้ได้ เพื่อให้รูปคดีที่ทำอยู่ ไม่แปลกไปมากกว่านี้

คนหลายคนในโรงพัก ต่างลงความเห็นว่าผู้ตายนั้นโดนคุณไสย…เรื่องพรรค์นั้นจะเป็นจริงได้อย่างไร ถึงอีกฝ่ายจะตั้งตัวเป็นพ่อมดหมอผี พ่อปู่บ้าบออะไรสักอย่าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่โกหกหลอกลวงเสียหน่อย ต้องมีทริกอะไรสักอย่าง ที่ใช้ฆาตกรรมแน่ ๆ

ศพที่พบในโรงแรมนั้นนอนตายอยู่บนเตียงเพียงลำพัง ทั้งห้องก็ยังล็อคอยู่ ข้างศพบนเตียงนั้นมีรอยคราบเลือด สันนิษฐานว่าเพราะผู้ตายอาเจียนออกมา และในกองเลือดนั้น…กลับมีตะปูตัวเขื่องสนิมจับ มาปะปนอยู่หลายตัวอย่างน่าแปลกประหลาดนัก

และจากการชันสูตร ก็พบว่าในกระเพาะอาหารของผู้ตาย มีร่องรอยถูกของมีคมขูดขีดจากภายใน แม้จะไม่พบตะปูอีกก็ตาม

ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นฆาตกรรม ต้องเป็นยาพิษแน่ ๆ เพราะมีข้อความที่ผู้ตายพยายามเขียนบอกไว้ก่อนตายวางอยู่ด้วย แต่เพราะห้องที่ปิดล็อค และจากคำให้การพยาน ที่ว่าผู้ตายอยู่เพียงลำพังมาตลอด และไม่มีใครเข้ามาหาเลย แต่กลับพบเป็นศพในวันรุ่งขึ้น เรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนั้น เขาก็ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หลักฐานที่น่าสนใจ ก็คือในมือของผู้ตายกำตุ๊กตาตัวนั้นไว้แนบแน่น

และข้อความที่เขียนไว้ก่อนตาย ที่คล้ายเป็นจดหมายขู่ ส่งถึงใครบางคน ว่าหากปองร้ายลูกเมีย ครอบครัวเขา จะส่งเฮโรอีนหนักถึง 20 กิโลกรัม ไปให้ตำรวจ พร้อมกับหลักฐาน!

ผู้ตายเป็นคนที่มักติดต่อกับพวกค้ายาเสพติด และสายวงในก็มีข่าวมาว่าคน ๆ นี้ กำลังพยายามจะเลิก แต่แน่นอน วงการพวกนี้ เข้าแล้วย่อมยากจะออกไปอย่างมีชีวิตได้

ไหนจะยังเฮโรอีนอีกตั้ง 20 กิโลกรัม ที่สูญหายไปพร้อมกับชีวิต ที่ตายจากไปนี้

ถึงเจมส์จะไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ไม่แน่นัก คน ๆ นี้อาจจะรู้เบาะแสเรื่องนี้ก็เป็นได้

และนั่นก็เป็นสาเหตุ ที่ทำให้เขาต้องบากหน้ามาหาจอมกวนประสาทนี่ในวันนี้…อีกครั้งจนได้!



และตอนนี้ก็เป็นการมาของเขารอบที่สองแล้ว หลังจากมารอบแรก แล้วพบว่าบ้านปิด การมารอบที่สอง กลับยิ่งน่าหนักใจกว่าเดิม เมื่อพบกับคนเฝ้าที่ดูจะไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ คอยรับหน้าแทนที่

“กรุณารอก่อนนะครับ พ่อปู่กำลังเตรียมการทำพิธีเข้าทรงอยู่” เสียงปรามเบา ๆ หากจริงจังจากร่างสูงทะมึนกำยำดูน่ากลัวของผู้ช่วยคนสนิท ทำให้ชายหนุ่มชะงัก เขารู้ดีว่าไม่ได้มีหมายค้น และไม่มีอะไรจะมาบีบบังคับให้เจ้าบ้านยอมทำตามได้ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้แต่ตัดสินใจที่จะนั่งรอ

ชาวบ้านทยอยกันมาทีละคนสองคน เพียงไม่นานก็เต็มนอกชานบ้านหลังน้อย โต๊ะหมู่บูชาถูกยกออกมาวางด้านริมชายคาใกล้ตัวบ้าน พร้อมกับมีผ้าปูรองนั่งให้กับ ‘พ่อปู่’ ผู้กำลังทำพิธี ซึ่งจัดโซนนี้ยกพื้นสูงกว่าพื้นที่ด้านล่างนอกชานทั้งหมด

ปวินต์เองเลยเข้าไปนั่งดูอยู่ห่าง ๆ ตรงบริเวณที่ชาวบ้านมานั่งคอยขอพบพ่อปู่ตามบัตรคิวที่ถูกแจกให้ พิธีการที่ดูหลอกลวงนั้นดำเนินต่อไป ท่ามกลางการมองอย่างเหยียด ๆ เขาไม่เชื่อเรื่องผีสาง และไม่เชื่อยิ่งกว่า ว่ามีการสาปแช่งคนให้ถึงตายได้

มันจะต้องมีอะไรมากกว่านั้น

ภาพพ่อปู่ที่นั่งเข้าทรง ดูเหมือนพวกจัดฉากทำละครแนวหมอผีเกรดต่ำ ทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจ

พวกทำนาบนหลังคน หลอกลวงชาวบ้านไปวัน ๆ สินะ

เขานึกอยากจะจับอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน แต่รู้ดีว่าถึงจับไป ก็ไม่ได้โดนข้อหาอะไรหนักนัก และที่สำคัญ จะทำให้เขาไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจากเจมส์อีก

ดังนั้นเขาจึงได้แต่ดูต่อไป โดยไม่ก่อเรื่องจะดีที่สุด

ร่างสูงคุ้นตาของเจมส์ อยู่ในชุดสีขาวปลอด ลำคอห้อยประคำสีดำเส้นยาว ท่าทางที่ดูสำรวมกว่าที่เคย ทำให้ภาพลักษณ์ดูแปลกตาออกไป ทั้งยังดูเคร่งขรึมทรงอำนาจอยู่ในที ร่างที่โดดเด่นกว่าชาวบ้านที่แวดล้อม เป็นจุดสนใจได้โดยง่าย โดยเฉพาะลักษณะลูกครึ่งอันหล่อเหลา ที่กลับเสริมให้ดูขลังกว่าเก่าเสียด้วยซ้ำ

“เจ้า…ถูกคนทำคุณไสยอยู่ตอนนี้” นิ้วยาวชี้มายังลูกค้าเบื้องหน้า นัยน์ตาสีเทาดูมีอำนาจ จ้องมองมาจนอีกฝายสะดุ้งเฮือก

“จะ…จริงหรือคะพ่อปู่” เสียงสั่นสะท้านของหญิงสาววัยกลางคนถามขึ้น เธอคนนั้นแต่งตัวราวตู้เพชรเคลื่อนที่ แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มพิกัด แม้ว่าวัยจะค่อนไปเกินกลางคนแล้ว แต่ใบหน้ากลับดูเด็กจากการไปทำเบบี้เฟสแบบยกเครื่องทั้งหน้าอย่างเห็นได้ชัด

“จริงหรือไม่จริงก็ลองดูสิ เอาไข่นี่ไปถือไว้ กำไว้ให้แน่น ๆ ล่ะ” เขาส่งไข่ใบหนึ่งให้ มือของเธอจึงยื่นไปรับ อย่างสั่นเล็กน้อยตามคำสั่ง ดวงตาคมเห็นดังนั้นจึงค่อยพริ้มหลับลง แล้วบริกรรมคาถาด้วยภาษาแปลก ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแฝงกลิ่นอายเย็นเยียบอันลึกลับ จนกระทั่งคนฟังยังรู้สึกหนาวเหน็บไปด้วย

“เอ้า ลองตอกดูสิ” เขาสั่งหลังสวดจบ คนสนิทขยับวางชามใบหนึ่งลงเบื้องหน้า หญิงผู้นั้นลังเลนิดหน่อย ก่อนตัดสินใจทำตาม

พอไข่ถูกตอกให้แตกออก ภายในกลับเป็นน้ำสีแดงข้น และตะปูที่ขึ้นสนิม!

เสียงกรีดร้องอย่างตกใจ ทำให้คนมองแทบสะดุ้ง มือแข็งแรงยึดไหล่บางที่สั่นสะท้านไว้ พลางบอกว่า “ไม่ต้องตกใจ ข้าจะช่วยเอง”

“ค่ะ…พ่อปู่ ช่วยด้วยนะคะ” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา

“เอ้า..เอาน้ำมนต์นี้ไป ใช้กินและอาบ สามวันก็จะดีขึ้น”

“อย่าลืมค่าบูชาครูด้วยครับ” คนสนิทยื่นพานมาให้ เธอชะงักก่อนพยักหน้ารับ แล้วหยิบเงินฟ่อนใหญ่วางลงไป ก่อนจะรับขวดน้ำมนต์ที่ว่า แล้วขอตัวจากมา

“หลอกลวงชัด ๆ” เสียงพึมพำแผ่วเบาอย่างไม่พอใจนัก ดังมาจากด้านหลัง แม้จะเบา แต่พ่อปู่ก็ได้ยินชัด ใบหน้าแกร่งมีรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนทำเป็นไม่สนใจ แล้วรับแขกคนต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นานเป็นชั่วโมง กว่าแขกจะทยอยกลับไปจนหมด ร่างสูงจึงลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดเป็นแบบสบาย ๆ แล้วเดินมาหาชายหนุ่มผู้นั่งรออยู่อย่างอดทนนั้น

“ขอโทษที่ให้รอนะครับ มาหาผมถึงบ้านเนี่ย คิดถึงผมงั้นเหรอ คุณตำรวจ”

เสียงที่ถามติดจะหยอกกลาย ๆ เล่นเอาอีกฝ่ายแทบของขึ้น

“ใครจะไปคิดถึงคุณกัน ผมมาเรื่องคดีต่างหาก” ปวินต์ตอบกลับแทบจะในทันที

เจ้าบ้านถอนหายใจ ก่อนหันไปสั่งคนสนิทให้เก็บของ แล้วสั่งให้กลับบ้านไป ส่วนตัวเองนั้นเดินนำทางแขกของเขาไปยังห้องรับแขกในตัวบ้าน

ปวินต์มองแผ่นหลังของอีกฝ่าย ยามเดินตามไปอย่างครุ่นคิด วันก่อนคนผู้นี้ อยู่ในชุดแบรนด์ดัง ก็ดูหล่อเหลามาดดีราวนายแบบ ตอนเย็นวันนี้ที่อยู่ในชุดขาวราวนักพรตก็คล้ายจะดูขลังน่าเชื่อถือ หลอกผู้คนได้ง่ายดาย สมกับที่ตั้งตัวเป็นพ่อปู่ผู้เรืองอาคมหาตัวจับยาก แต่พออยู่ในชุดลำลองสบาย ๆ เหมือนในตอนนี้ กลับให้อิมเมจที่แตกต่างออกไปอีก ท่าทางของเขาดูเป็นกันเองและง่าย ๆ กว่าสองแบบแรกราวฟ้ากับดิน

“เอ้า ว่ามาสิครับ กลางคืนผมมีธุระอีก ไม่ว่างคุยนาน” เจมส์พูดขึ้นลอย ๆ

“ธุระอะไรจะเยอะนัก นอกจากเป็นนายแบบชั่วคราว รับจ้างอิสระ หมอผี แล้วคุณยังทำอะไรอีก เฝ้ายามกะดึกงั้นเรอะ” ปวินต์ถามอย่างสงสัย เขามาตั้งแต่กลางวันแล้ว และได้คำตอบจากเพื่อนบ้านว่าอีกฝ่าย ไปซ่อมท่อประปาให้คนในหมู่บ้านใกล้ ๆ พอรอจนกลับมา ก็เห็นเจมส์อยู่ในชุดหมีเก่านิด ๆ แต่ก็ยังดูมาดดีเหมือนช่างผู้ชำนาญการได้เหมือนกัน

คนเราเปลี่ยนแปลงตามเสื้อผ้าได้ขนาดนี้เชียวหรือนี่ ขนาดตำรวจหนุ่มเองก็ไม่เข้าใจ

“อ้าวคุณตำรวจ ผมก็ต้องกินต้องอยู่นะครับ แล้วนี่มันก็อาชีพสุจริต ไม่ได้ไปปล้นชิงใครเขา ผมทำได้หลายอย่าง นั่นมันก็พรสวรรค์ดีไม่ใช่หรือไง”

“ไม่นึกว่านายแบบรับจ้างอย่างคุณ จะไปเป็นช่างซ่อมประปาด้วย”

คนฟังอมยิ้ม “อะไรที่ได้เงิน ผมก็ทำทั้งนั้นแหละ ส่วนอาชีพหลักของผม ก็เป็นพ่อปู่นี่ไงล่ะ”

“งานเยอะแยะไม่ทำ แต่กลับทำอาชีพที่มันหลอกลวงประชาชน” เสียงอีกฝ่ายขัดขึ้นอย่างรังเกียจ

“ในเมื่อประชาชนล้วนเชื่อผม มากกว่าเชื่อคุณตำรวจด้วยซ้ำ ผมผิดตรงไหน ที่จะช่วยให้พวกเขาสบายใจน่ะ”

“แต่คุณก็หลอกเงินเขามา” ตำรวจหนุ่มแย้ง

“เขายินดีจ่ายเองนี่” เจมส์ตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก “แต่ผมว่า คุณคงไม่ได้มาเพื่อชวนผมทะเลาะหรอกใช่ไหมครับ เข้าเรื่องดีกว่ามั้ง”

ปวินต์ชะงัก เขาเผลอไปอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม พอเจอหน้าอีกฝ่ายทีไร ต้องเผลอชวนทะเลาะด้วยทุกที มันไม่ใช่เรื่องในหน้าที่ของเขาเสียหน่อย คงเพราะภาพลักษณ์ที่แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาของอีกฝ่าย ทำให้เขารู้สึกไม่เชื่อใจนัก ดีไม่ดี นอกจากบรรดาอาชีพทั้งหมดที่เห็นนั่น เจมส์คนนี้อาจทำงานค้ายาด้วยก็เป็นได้ และนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องสืบให้รู้แน่ชัด

ร่างสูงเพรียวทรุดตัวลงนั่งที่โซฟารับแขก ซึ่งจัดไว้อย่างกะทัดรัดในมุมหนึ่งของตัวบ้าน ก่อนจะเริ่มต้นซักถามโดยหน้าที่ตำรวจทันที

“โอเค ผมขอถามต่อจากเมื่อวานแล้วกัน”

“ยังไม่จบอีกหรอกรึ หรือคุณหาไม่เจอ ว่าผู้ตายเป็นใคร”

“พวกเราทราบดีอยู่แล้ว” ปวินต์ขัดขึ้น อย่างไม่พอใจนัก

“ทราบดีก็ดีแล้วนี่ครับ ทำไมต้องมาถามผมอีก ใช่ ผมเป็นคนปลุกเสกตุ๊กตารับเคราะห์นั่น แต่ผมไม่ได้ฆ่าเขา คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ หลักฐานแค่นี้คิดจะมาจับผม มันไม่เกินไปหน่อยเหรอคุณตำรวจ” ชายหนุ่มเริ่มเหน็บแนม

“ผมยังไม่ได้บอกว่าจะจับคุณเลยนะครับ คุณเจมส์” ปวินต์ค้านขึ้น

มือแข็งแรงหยิบแก้วน้ำของตนยกขึ้นดื่ม มันเป็นน้ำที่คนสนิทเสิร์ฟไว้ให้ก่อนจะออกไปตอนหัวค่ำ บ้านในตอนนี้จึงมีแค่เขา กับตำรวจหนุ่ม สองคนเท่านั้น เขาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะระบายลมหายใจยาวออกมา

“เฮ้อ…ถ้างั้นคุณอยากรู้อะไรอีก อ้อ แต่วิธีการปลุกเสกตุ๊กตานั่น เป็นความลับนะครับ โดยจรรยาบรรณของหมอผี เราจะไม่เปิดเผยเคล็ดลับวิธีการปลุกเสกให้คนนอกรู้หรอก” เขาว่ายิ้ม ๆ

“ใครจะไปอยากรู้เรื่องพรรค์นั้นกัน เลิกโยกโย้ได้แล้ว ผมอยากทราบว่า คุณรู้จักกับคุณชิดชัย ผู้ตาย ได้ยังไง”

ชายหนุ่มหาวหวอด ก่อนตอบง่าย ๆ “ก็แค่ลูกค้าคนหนึ่งของผม จำเป็นต้องจำด้วยเหรอครับ ว่าเป็นใครมาจากไหน ลูกค้าของผมส่วนใหญ่ มาขอให้ปลุกเสกของให้ แล้วก็ไป ขนาดประวัติผมยังไม่จดไว้ด้วยซ้ำ ถ้าเขาพอใจแล้วบอกต่อ คนอื่นก็ทยอยมากันเอง อาชีพอย่างผมน่ะ ไม่ต้องทำประวัติสมาชิก หรือโฆษณาชวนเชื่อให้มากความหรอก”

ดวงตาคมของตำรวจหนุ่มยังคงมองมาแกมคาดคั้น “แต่ผมรู้สึกว่า คุณรู้มากกว่านั้น แต่ไม่ยอมบอกผม”

ร่างสูงที่เอนกายพิงพนักโซฟาผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรง ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ด้วยท่าทีเหมือนจะคุกคามหน่อย ๆ “คุณคิดว่าผมรู้อะไรงั้นหรือครับ คุณตำรวจ”

ปวินต์ชะงัก เผลอเขยิบถอยหลังโดยไม่รู้ตัว “ใครจะไปรู้ล่ะ แต่ว่า…ผมจะต้องสืบรู้ให้ได้ ว่าคุณเกี่ยวข้องกับเขายังไง”

“งั้นหรือครับ เชิญตามสบายแล้วกัน วันนี้ผมเหนื่อยแล้ว ต้องการพักผ่อน” คำพูดประโยคหลังเริ่มเป็นการไล่ ก่อนชายหนุ่มจะยิ้มหวาน เปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วจนคนมองแทบตั้งตัวไม่ติด

“อ้อ แต่ถ้าคุณตำรวจอยากดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันสองต่อสองกับผม ก็ยินดีนะครับ”

ดวงตาที่คล้ายอยากจะกลืนกินทำให้อีกฝ่ายชักร้อน ๆ หนาว ๆ โดยไม่รู้ตัว ผู้กองหนุ่มผุดลุกขึ้นจากชุดรับแขกอย่างรวดเร็ว

“งั้นไว้วันหลังผมจะมาถามคุณใหม่ วันนี้ขอตัวก่อนแล้วกัน”

“เชิญครับ ผมไม่ส่งนะ” เขาพูดง่าย ๆ

คนฟังแอบค้อนด้วยความขัดใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจลากลับ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก

ลับร่างของผู้กองหนุ่ม เจมส์ที่นั่งอยู่ก็หัวเราะออกมา “คุณนี่น่าสนใจไม่เลวนะ คุณตำรวจ แต่อย่าหวังเลย ว่าจะได้อะไรจากผมง่าย ๆ จริงไหม เจ้าจุก”

“ผมเปลี่ยนชื่อเป็นเคน ธีระเดชแล้วนะพ่อ” เสียงใสของเด็กน้อยแย้งขึ้นใกล้ ๆ แทบจะในทันที แม้ว่าข้างตัวของเจมส์นั้นจะเป็นเพียงเก้าอี้ที่ว่างเปล่า

“งั้นเรอะ ชักจะติดละครมากไปแล้วนะนั่น”

“น่าพ่อ คนมันหล่อเหมือน ๆ กัน จะชื่อซ้ำกันบ้างไม่เห็นจะเป็นไร” เสียงเล็ก ๆ ตอบกลับทันที อย่างมั่นอกมั่นใจเสียเต็มเปี่ยมจนคนฟังเริ่มหมั่นไส้

“เออ ๆ เคนก็เคน ช่วงนี้คงไม่ปลอดภัยนัก ฝากดูแลรอบ ๆ บ้านให้ดี ๆ ด้วยล่ะ แล้วอย่าไปกวนใจท่านเจ้าที่ให้มากนักด้วย ถ้าท่านรำคาญแล้วเราจะลำบาก”

“ผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ เสียหน่อย ถึงตัวจะเด็ก แต่ก็อยู่มาตั้งหลายร้อยปีแล้วนา พ่อนั่นแหละ เด็กกว่าผมเสียอีก”

“ได้ทีล่ะใส่ใหญ่เชียวนะพ่อเคน ธีระเดช ทำหน้าที่ให้สมกับอยู่มานานด้วยแล้วกัน”   

“ถ้าพ่อซื้อของเล่นให้ใหม่ รับรองจะทำงานดีกว่านี้สิบเท่าเลย” ร่างเล็กว่าต่อไป แล้วหันมายิ้มหวาน เขาปรากฏตัวขึ้นจาง ๆ บนเก้าอี้ด้านข้าง ซึ่งมีแต่เจมส์เท่านั้นที่มองเห็น ร่างนั้นเป็นเด็กน้อยน่ารัก ใบหน้ากลมมน และมีดวงตาโตสดใสน่าเอ็นดูโดยเฉพาะยามแย้มยิ้ม วัยจากที่เห็นคงไม่เกินสิบขวบเท่านั้น อยู่ในชุดเกล้าจุกเหมือนเด็กไทยสมัยโบราณเสียด้วย แม้ว่าคำพูดคำจาจะออกเป็นสมัยใหม่เสียจนเกินหน้าตาอยู่มาก

เพราะอยู่มานานหลายยุคหลายสมัย เลยทำให้เป็นผีกุมารทองที่ปรับตัวได้ดีอยู่ และนั่นทำให้เจมส์ ชอบเด็กคนนี้มากกว่าผีทุกตนที่เคยคบหาด้วย

“พวกที่อยากจะได้แต่ของเล่น มันก็เด็กนั่นแหละ ทำเป็นพูดดีไป”

“ฮึ เด็กก็ได้ อย่าลืมซื้อให้แล้วกัน” เด็กน้อยย้ำอีก ก่อนจะหายตัวไปเสียอย่างนั้น

ชายหนุ่มได้แต่มองเก้าอี้ที่ว่างเปล่านั้น พลางส่ายศีรษะเบา ๆ อย่างระอา สงสัยเขาคงต้องซื้อของเล่นชุดใหญ่ให้เจ้าจุก…ไม่สิ เจ้าเคน อีกแล้วสินะ เพราะจากลางสังหรณ์ ศัตรูที่น่ากลัวกำลังจะเข้ามาแน่ ๆ ความรู้สึกแนวนี้ของเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง

    เจมส์ถอนหายใจอีกครั้ง พลางมองไปที่นอกหน้าต่าง แสงจันทร์กำลังสาดส่อง เวลานี้เป็นยามดี สำหรับการทำพิธีเสียด้วย และที่แน่ ๆ พิธีเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นคุณไสยมนต์ดำอันน่ารังเกียจ

แสงจันทร์สาดส่อง คล้ายแหล่งเสริมพลังชั้นดีให้กับพวกแก่อาคมยิ่งนัก เขาไม่รู้ ว่าทำไมคนพวกนั้น ถึงได้เลือกเดินทางเช่นนี้ แต่อย่างน้อย เขาคนหนึ่งที่จะไม่หลงผิด

คำเตือนจากบิดาผู้ล่วงลับ ยังคงจำได้ดี…ไสยมืด ไม่เคยทำให้ใครได้ดี

แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่ก็เป็นพ่อของเขา เป็นคนที่เขาทั้งรักทั้งเชื่อฟัง และเคารพนับถือตลอดมา

ถึงเขาจะไม่ใช่หมอผีที่เคร่งนัก แถมยังชอบหลอกชาวบ้านบ้างในบางครั้ง แต่การที่เขาเห็นภูตผีปีศาจได้ และสามารถใช้อาคมได้ ยังเป็นเรื่องจริง แต่เขาก็ไม่คิดจะใช้มัน เพื่อผลประโยชน์ของใคร นอกจากใช้เพื่อความพอใจ และสบายใจของเขาเท่านั้น


จบตอน

(TBC)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2011 22:54:55 โดย ppm »

ออฟไลน์ aiwjun

  • aiwjun
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ้าย ย ยย ...ออกแนวน่ากลัวอ่ะ  แต่ก็น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งเช่นกันค่ะ ...^____^

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
น่าติดตามแต่แอบกลัวนะคะเนี่ย

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
น่าติดตามมากค่ะ แต่อ่านตอนนี้แอบขนลุกเหมือนกัน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

catwander

  • บุคคลทั่วไป
หนูกลัวปี๋

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ตอนแรกนึกว่าจะสืบคดีธรรมดาๆ ที่ไหนได้ มีคนเล่นของด้วยวุ้ย o22
ติดตามตอนต่อไปค่า :L2:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
 :a5: ออกแนวลึกลับ น่ากลัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Vidh

  • บุคคลทั่วไป
น่าสนใจ o13

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
สุดยอดดดด พี่ท่านเยี่ยมไปเลยย เสน่ห์แพรวพราวมาก พรสวรรค์เยอะจริงเชียว
ไม่รอดแน่... นายเอกเรา ห้าๆๆ มีหวังโดนปั่นจนหัวหมุนแน่
สนุกจังเลยยยยยยย ^^

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ชื่อเรื่องน่าสนใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
มาติดตามเรื่องใหม่จ๋า

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เปิดเรื่องมาน่าสนใจดีค่ะ แนวนี้มะค่อยมี อิๆ

บุคลิกพระเอกและนายเอกน่าสนใจดีจ้า รอตอนต่อไปค่ะ  :z2:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
อ่านแล้วน่าติดตามดี
แล้วนายเอกจะโดนทำของใส่ป่าวเนี่ย :z1:
รอตอนต่อไปจ้า

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจนะ เพราะมีเรื่องมนต์ดำเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แต่ทำไมดิฉันกลับรู้สึกว่าคุณหมอผี เหมาะจะเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน
มากกว่าคุณนายร้อยท่านนั้นนะ เพราะดูสุขุมเยือกเย็นกว่าน่ะ
รึว่าคุณหมอผี ส่งคลื่นอะไรออกไปกวน"จิต"คุณตำรวจให้หวั่นไหว จนนิ่งอยู่ไม่ได้

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
สืบเสน่หา

ตอนที่ 2


จันทร์กระจ่างในคืนเดือนเพ็ญนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหาได้ยากยิ่งในแต่ละเดือน ท้องฟ้าที่ไร้เมฆหมอกบดบัง ยิ่งขับเน้นแสงขาวนวลตาให้สว่างโดดเด่น กระทั่งแมลงเกาะยอดไม้ ก็ยังสามารถเห็นได้ชัดราวกลางวันด้วยซ้ำ แสงจันทร์ที่ซึมซับพลังงานได้เต็มเปี่ยม ย่อมเป็นคืนที่เหมาะสมกับการก่อการต่าง ๆ ได้ดีเป็นพิเศษ ดังเช่นที่เจมส์สันนิษฐานไว้ไม่มีผิดเพี้ยน

ป่าช้ายามกลางคืนอันเงียบสงบในวันนี้ จึงหาได้สงบเหมือนวันอื่นไม่ เมื่อมีร่างผอมสูงวัยกลางคนของใครบางคน เข้าไปรบกวนความสงบของผู้วายชนม์ในค่ำคืนนี้ คนผู้นั้นอยู่ในชุดม่อฮ่อมสีน้ำเงินเข้ม สะพายย่ามสีขาวถักทอจากผ้าดิบ ท่าทางดูเคร่งครัดสมถะรัดกุม เสียงฝีเท้าหนักแน่นย่างก้าวทีละก้าวอย่างมั่นคงนัก ไม่ใส่ใจการรบกวนที่ไร้ซึ่งเสียงและภาพลักษณ์ที่ไม่อาจมองได้ด้วยตาเนื้อ แต่สามารถสัมผัสได้ด้วยญาณพิเศษ ที่มารบกวนตลอดสองข้างทางนั้นราวกับยึดถืออีกฝ่ายเป็นเพียงอากาศธาตุ

พวกผีชั้นต่ำที่มาปรากฏเพียงเรียกร้องขอส่วนบุญ จะอย่างไรก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจนักสำหรับเขาอยู่แล้ว ดวงตาคมดุดุจเหยี่ยวมองไปเบื้องหน้า แสงจันทร์คล้ายช่วยส่องนำทาง จนไม่ต้องพึ่งพาไฟสังเคราะห์ใด ๆ อีก

ร่างนั้นมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเจดีย์ขนาดย่อม ซึ่งมีการฝังเถ้ากระดูกไว้ภายใน ก่อนปูผ้าลงกับพื้น แล้วเริ่มนั่งลงล้วงข้าวของจากในย่ามออกมาวางทีละอย่างสองอย่าง เริ่มต้นจากกระถางธูปเก่าแก่ และธูปเทียนบูชา มือมั่นคงเริ่มจุดไฟติดธูปเทียนแล้วปักไว้ในกระถางใบเล็กนั้น แล้วพริ้มตาลงสวดมนต์เนิบช้า รวบรวมสติและสมาธิให้เป็นหนึ่งเดียว

เสียงสวดมนต์แผ่วเบาดำเนินไปนานนับชั่วโมง ก่อนจะล้วงเอาค้อนอันเล็กออกมา แล้วลงมือทุบช่องใส่กระดูกที่ปิดผนึกด้านหน้าไว้ด้วยปูนบาง ๆ ให้แตกออก การเคาะเพียงไม่กี่ครั้ง ทำให้ปูนที่พึ่งฉาบไว้ไม่นานกะเทาะออกไปได้ไม่ยากนัก จากการสืบเสาะเจ้าของเถ้ากระดูกนี้ เป็นผีตายโหงที่ชาวบ้านละแวกนี้ต่างว่ากันว่าเฮี้ยนมากเสียด้วย และนั่นแหละ คือสิ่งที่เขาต้องการ

นิ้วมั่นคงหยิบก้อนหินกลมขนาดเล็กขึ้นมาหมุนคลึง พลางบริกรรมคาถาอย่างตั้งใจ แล้วค่อย ๆ วางไว้ที่เบื้องหน้าช่องทางนั้นอยู่สองก้อน คล้ายตำแหน่งสะกดตรึงไม่ให้เจ้าของสถานที่ต่อต้านได้

สายลมเย็นพัดวูบกราดเกรี้ยวจนใบไม้ไหวเอน หากยังไม่สามารถทำอันใดร่างที่นั่งปักหลักตรงนั้นได้ เพียงเป่ามนต์รวดเดียวก็บังเกิดเสียงกรีดร้องแหวกอากาศดังโหยหวน หากร้องเพียงวูบเดียวก็เงียบไป แสงจันทร์สาดส่องต้องก้อนหิน สะท้อนแสงเรืองเติมพลังจนเต็มเปี่ยมด้วยมนต์ขลัง อำนาจลี้ลับอ่อนแรง ล้วนไม่กล้าตอแยด้วยอีกอย่างเห็นได้ชัด

ใบหน้าแกร่งยิ้มเย็นอย่างพึงใจ แล้วค่อยล้วงมือเข้าไปในช่องนั้น ภายในเป็นถุงผ้าสลักลวดลายคล้ายยันต์ถุงใหญ่ มือนั้นแก้ปมทีละน้อย ยังคงท่องมนต์เข้าข่มไปด้วยพร้อมกันเพื่อกันการต่อต้านที่อาจเกิดขึ้นได้ ปมหลุดออกในที่สุด เผยให้เห็นผงเถ้ากระดูกสีเทาและเศษซากกระดูกบางส่วน ที่ไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าไป

มือนั้นหยิบแก่นกระดูกชิ้นหนึ่งออกมาวางไว้บนผ้าขาวที่ปูรองรอไว้ ก่อนจะผูกปมแล้วจัดการใส่ถุงนั้นกลับเข้าไปในช่องอีกครั้ง ปิดช่องว่างนั้นซ้ำด้วยผ้ายันต์ปักหมุดตะปูตอกตรึงทุกด้าน ไม่ให้สิ่งใดในนั้นออกมาแผลงฤทธิ์ได้อีก

มีดหมออาคมวาววับกรีดลงบนท่อนแขน ปล่อยให้หยาดโลหิตสีสด หยดลงบนแก่นกระดูกชิ้นสำคัญในผืนผ้า สีแดงนั้นแทรกซึมลงไปในท่อนกระดูกอย่างช้า ๆ ท่ามกลางการร่ายอาคมตอกย้ำ

“เจ้านายของเจ้าคือข้า…จงเชื่อฟังคำสั่งข้าแต่เพียงผู้เดียว” เสียงหนักแน่นประกาศก้อง กลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากแก่นกระดูกเปื้อนเลือด ก่อเป็นรูปร่างอยู่เบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า

ร่างโปร่งใสนั้นค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น เป็นชายร่างใหญ่ ที่ศีรษะซีกหนึ่งสูญหายไป มันสมองสด ๆ ยังคงล้นทะลัก ดวงตาที่ไร้แวว จ้องมองกลับมาอย่างนอบน้อม ก่อนจะค่อย ๆ ทรุดตัวคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง

ใบหน้าแกร่งมีรอยยิ้มจาง ๆ เขารู้ดีว่าทำสำเร็จแล้ว เจ้าของกระดูกที่ตายโหงเช่นนี้ มักจะมีวิญญาณที่กล้าแข็ง เหมาะแก่การนำมาใช้งานเป็นวิญญาณรับใช้ 

“ดีมาก ตั้งแต่นี้ไป จงติดตามข้างกายข้า” เขาออกคำสั่ง ร่างนั้นผงกศีรษะรับ ก่อนสลายจางหายไป

ชายผู้นั้นผุดลุกขึ้น งานวันนี้ของเขาสำเร็จลงด้วยดี มือมั่นคงเก็บของ แล้วหันกายเดินออกมาจากป่าช้า โดยรู้สึกได้แน่ชัดว่า วิญญาณดวงนั้นยังคงตามเขามา สิงสถิตอยู่ในแก่นกระดูกนั้น และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง เมื่อเขาต้องการได้ตลอดเวลา

ยามนี้ไม่ธรรมดาแล้ว เขาต้องการแขนขาที่สามารถรับใช้อย่างซื่อสัตย์และว่องไวเพียงพอ

เจ้าหมอผีชั้นต่ำนั่น มันท้าทายเขา ด้วยการแทรกแซงตอนกำลังทำคุณไสย

ถึงมันจะช่วยไว้ได้ไม่สำเร็จ เขาสามารถสังหารเป้าหมายลงได้ แต่มันก็ทำให้เขา…ไม่พอใจนัก

อีกไม่นานแล้ว ถ้านายจ้างค้นหามันเจอ ทีนี้ล่ะ ศึกใหญ่ที่จะต้องปะทะกัน คงยากหลีกเลี่ยง

และเมื่อถึงตอนนั้น…เขาจะต้องพร้อมรบ…กว่าที่เป็นอยู่!



“ยังหาไม่เจออีกเรอะ” เสียงตวาดอย่างขัดใจของเจ้านาย เล่นเอาลูกน้องคนสนิทที่ยืนรออยู่สองสามคนแทบหัวหด

“พวกเราค้นหมดแล้วนะครับ ทั้งที่บ้านของเจ้านั่น ที่ทำงาน และทุกที่ที่น่าจะสามารถเก็บซ่อนได้ แต่ก็หาไม่เจอเลย”

“มันซ่อนไว้ไหนกันนะ ผงขาวเยอะขนาดนั้น ไม่ใช่ของเล็ก ๆ เลย” ชวรัตน์ กุลเกียรติ เจ้านายวัยกลางคนร่างท้วมที่ยังกระฉับกระเฉง ยังคงเดินงุ่นง่านอย่างขัดใจอยู่ภายในบ้านพักสุดหรู เขาพยายามมามากแล้ว ในการค้นหาของสำคัญที่หายไป เฮโรอีนล็อตใหญ่ ที่ถูกเจ้าบ้านั่นขโมยไป แล้วซุกซ่อนไว้

ชวรัตน์เป็นนักการเมืองที่กำลังจะมีอำนาจถ้าชนะการเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ แต่เบื้องหลังของเขา กลับมือไม่สะอาดนัก เขาคบค้าพวกค้ายาและเป็นสายหลักแอบกระจายยาที่ได้มาอย่างแนบเนียน โดยไม่มีใครล่วงรู้ ด้วยอำนาจเงินตราและเส้นสาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด

ชิดชัยเป็นอดีตเลขาคนสนิทของเขา ที่รู้เรื่องของเขามากกว่าใคร แต่พอเมียเจ้านั่น ท้องลูกคนแรกและคลอดออกมา เจ้านั่นกลับคิดกลับตัวกลับใจเสียนี่ คนในโลกมืด ลองเหยียบเข้ามาสักครั้ง ย่อมยากจะถอนตัว ไหนจะเพราะชิดชัยอยู่กับเขามานาน จนรู้เรื่องมากเกินไปแล้ว

เขาจึงตัดสินใจจะฆ่าปิดปากซะ แต่ชิดชัยก็รู้ทันจึงขโมยเฮโรอีนของเขาหลบหนีไป และคิดใช้มันเป็นหลักประกันของชีวิต ถึงจะหลบหนีไปได้ แต่สิ่งที่เหลือไว้ ยังคงมากพอจะทำคุณไสย ศาสตร์ฆ่าคนอันใหม่ ที่เขาค้นพบว่ามันสะดวกง่ายดาย ไร้ซึ่งหลักฐานมากกว่าศาสตร์ใดทั้งนั้น

การฆ่าโดยไม่ต้องลงมือเอง เพียงมีเงิน…และคนที่ใช้การได้เท่านั้น

แต่แม้ชิดชัยจะถูกทำคุณไสยจนตายไปแล้ว เขากลับหาเฮโรอีนพวกนั้นไม่เจอ ขนาดค้นบ้าน ค้นทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ก็ยังไม่พบ



ดวงตาแกร่งกร้านโลกเริ่มเกรี้ยวกราดหนักกว่าเก่า “แล้วเจอแค่จดหมายเตือนนั่นงั้นเหรอ”

“ครับ พวกเราเลยไม่กล้าทำอะไร จดหมายก่อนตายของชิดชัย เขียนไว้ชัดเจนเหมือนเตือนพวกเราว่าถ้าฆ่าหรือทำร้ายลูกเมียเขา หลักฐานทั้งหมดและเฮโรอีนที่เก็บซ่อนไว้ จะถูกส่งไปกรมตำรวจในทันที”

และเพราะจดหมายนี้ ชิดชัยเขียนไว้ลวก ๆ ก่อนตาย มันเลยทำให้ตำรวจซึ่งไปถึงที่เกิดเหตุก่อน ล่วงรู้ถึงข้อความขู่นี้ด้วย แม้ว่าจะไม่ได้ระบุชัด ว่าชิดชัยต้องการข่มขู่ใคร แต่มีหรือ ตำรวจจะไม่รู้ ตอนนี้ขาดเพียงหลักฐานและเฮโรอีนของกลางนี่เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาคงเข้าซังเตไปเรียบร้อยแล้ว

“บ้าที่สุด! มีแต่คนไม่ได้เรื่อง” ชวรัตน์ตวาดใส่อย่างหงุดหงิดกว่าเก่า เขาไม่กล้าเสี่ยงกับสิ่งนี้ หลักฐานอื่นยังพอว่า ยังใช้อำนาจที่มีกลบเกลื่อนไปได้ แต่เฮโรอีนมูลค่ามหาศาลนั้นเล่า ทำให้เขาขาดทั้งรายได้ และเป็นหลักฐานชั้นดีที่มัดตัวแน่นจนเกินไป ทั้งยังกระทบต่อชื่อเสียงที่เขากำลังมุ่งมั่นจะได้รับการไว้วางใจจากการเลือกตั้ง ฐานอำนาจใหม่ ที่กำลังจะได้มาในอีกไม่กี่เดือนแล้วแท้ ๆ

“ต้องหาให้เจอให้ได้ แล้วฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด หมอคงล่ะ ไปไหนแล้ว”

ประตูเปิดออกราวล่วงรู้ เมื่อร่างสูงผิวคล้ำของหมอคงก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ร่างสูงใหญ่ แต่เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพนัก การมาปรากฏตัวแต่ละครั้ง เล่นเอาหลายคนถึงกับหนาวเหน็บไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่ชวรัตน์ ผู้เป็นคนว่าจ้าง แต่เขาก็ถือคติว่าเงินมางานไป ดังนั้นไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเกรงกลัว ตราบใดที่เขายังสามารถจ่ายไหวอยู่ เขาก็ยังเป็นเจ้านายอยู่เหนืออีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน

“จัดการไปถึงไหนแล้ว” ชวรัตน์เข้าเรื่องทันควันด้วยความร้อนใจ หากสบตาแกร่งของหมอคง ก็ทำให้เขาชะงักงันไม่กล้าต่อว่าต่อขานได้อีก

หมอคงมองกลับมา ด้วยแววตาที่เยือกเย็น พึมพำตอบด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ  “ผมพร้อมเสมออยู่แล้ว ขึ้นกับลูกน้องของคุณ ว่าจะหา ‘เจ้านั่น’ เจอเมื่อไหร่”    เขาพูดพลางเหลือบมองคนสนิทของอีกฝ่าย คนถูกจ้องสะดุ้งเฮือก ก่อนละล่ำละลักตอบกลับว่า

“คะ…ครับ พวกเรามีสายอยู่ในกรมตำรวจ และรู้มาว่าตุ๊กตาตัวที่พบข้างศพนั้น มีลายนิ้วมือของคนทำแฝงอยู่ และตำรวจนั่น…ก็กำลังสืบพบแล้วด้วย”

“ดี…ผมจะได้ไม่ต้องเหนื่อยแรงหาเอง หามันเจอเมื่อไหร่ ผมจะจัดการเอง คุณไม่ต้องห่วง” เขาพูดต่ออย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม

ชวรัตน์รู้ซึ้งเป็นอย่างดีถึงประสิทธิภาพของอีกฝ่าย เขายังจำได้ถึงตอนที่หมอคงเคยใช้คุณไสยจู่โจมบีบบังคับ ให้ชิดชัยยอมสารภาพถึงที่ซ่อนของสิ่งนั้น

‘มีคนใช้ไสยขาวบางอย่างช่วยมันไว้…ตุ๊กตาตัวตายตัวแทน กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ แต่ของพรรค์นั้น ไม่ครณามือผมหรอก!’

คำพูดของหมอคงในตอนนั้นถูกพิสูจน์ได้ ด้วยการตายอย่างน่าสยดสยองของชิดชัย โดยที่หมอคง ไม่ได้แตะต้องตัวเป้าหมาย…แม้เพียงน้อยนิด เพียงใช้วิธีการบางอย่างก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ในการเข้าใกล้เหยื่อ แต่หมอคงไม่ยอมเปิดเผย ว่าทำเช่นไร เพราะสิ่งนั้นเป็นความลับโดยอาชีพ ที่ไม่เปิดเผยให้คนภายนอกได้รับรู้

แต่จากคำบอกเล่าของหมอคง ก็ทำให้เขาได้รับรู้เรื่องหนึ่ง ที่สำคัญอย่างยิ่ง

มีคนใช้อาคมช่วยชิดชัยอยู่ และคน ๆ นั้น น่าจะเป็นคนที่ช่วยเหลือ เรื่องอื่น ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะที่ซ่อน…ของเฮโรอีนที่หายไป และทำให้เขาตามหาไม่เจอ แม้ว่าจะแอบค้นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่บ้านญาติใกล้ชิดจนหมดสิ้นแล้ว

ผู้ทำคดีคือร้อยตำรวจเอกปวินต์ ธนารักษ์ ตำรวจหนุ่มไฟแรง และเพราะแบบนั้น…ปวินต์ จะพาเขาไปหาหมอผีคนนั้น

ถ้าหามันเจอเมื่อไหร่ จุดจบของทุกคนที่รู้เรื่อง ก็จะตามมา อย่างเงียบเชียบและไร้ซึ่งร่องรอย

เขาจะกลบหลักฐานให้เกลี้ยง ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหญ่มาถึง

และเมื่อนั้น อำนาจของเขาก็จะมั่นคงกว่าเดิม

ขอเพียงหาเฮโรอีนที่หายไปเจอ และจัดการตัวขวางหูขวางตาให้หมดเท่านั้น ทุกอย่างก็จะสำเร็จ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2011 22:43:17 โดย ppm »

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
ร่างสูงโปร่งของปวินต์ในชุดลำลองดูแปลกตากว่าทุกครั้ง นั่งอยู่ที่โต๊ะในครัวพร้อมจ้องเขม็งมายังแผ่นหลังกว้างของใครอีกคน คนถูกจ้องลอบอมยิ้ม ก่อนทำเนียนหันกลับไปสนใจท่อน้ำที่ต่อกับตัวซิงค์ตรงหน้าแทนที่

กลับเป็นตำรวจหนุ่มที่อดรนทนไม่ไหวผุดลุกขึ้น ตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่าง หากท้ายที่สุด ก็ตัดสินใจนั่งลงอีก เป็นรอบที่สาม จนคนหันหลังให้เผลอหลุดหัวเราะ

“ขำอะไรกัน” เสียงสะบัดหงุดหงิดเล็กน้อยถามขึ้น

“ผมเห็นคุณเดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งอยู่นั่นแหละ อยากคุยกับผมก็บอกกันดี ๆ ก็ได้ครับ ผมทำใกล้จะเสร็จแล้ว”

คนฟังอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะมองมาเขม็งกว่าเก่า “นายมาทำอะไรที่บ้านฉัน”

เจมส์ยักไหล่น้อย ๆ ก่อนถามว่า “คุณตำรวจไม่เห็นเหรอครับ ว่าผมกำลังซ่อมท่อน้ำที่มันรั่วอยู่”

“เห็นน่ะเห็น แต่นายมาที่นี่ได้ไง” คนถามยังไม่ยินยอมโดยง่าย

ร่างสูงของชายหนุ่มหันกลับมายิ้มหวาน “ก็คุณแม่ยายน่ะสิครับ เปิดประตูเชิญชวนผมเข้ามา”

คิ้วเรียวขมวดมุ่นแทบจะในทันที “ใครแม่ยายนาย!”

“อ้าว ก็แม่คุณไงครับ โทรศัพท์ตามผมมา”

“แม่นะแม่…” ปวินต์ที่กำลังหงุดหงิดบ่นพึมพำ เขารู้ดีว่าท่อน้ำมันรั่ว และบอกกับมารดาแล้ว ว่าจะซ่อมให้วันนี้ แต่เพราะเมื่อวานอ่านข้อมูลคดีจนดึกไปหน่อย และเพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันหยุด เลยไม่รีบตื่น ที่ไหนได้ พอลืมตาตื่นเดินเข้าครัวมา กลับเจอเจ้าตัวปัญหาวันก่อน ซ่อมท่อน้ำในบ้านของเขาอยู่เสียอย่างนั้น

“ผมเป็นมือดีในย่านนี้นะครับ เวลาท่อน้ำมีปัญหา ใคร ๆ เขาก็โทรเรียกผมทั้งนั้นแหละ” เจมส์พูดง่าย ๆ ท่าทางวันนี้ดูทะมัดทแมงสมเป็นช่างอีกแล้ว ชุดหมีคล้ายวันก่อน กับถุงมือหนา แม้มันจะเก่าอยู่บ้าง แต่พอคนใส่เป็นเจมส์ มันกลับทำให้ดูดีเสียจนน่าหมั่นไส้

“พี่วินต์…คุณช่างเขาหิวน้ำไหม ปรางเอาน้ำมาเสิร์ฟนะคะ” ปรางทิพย์ สาวน้อยร่างเล็กนัยน์ตาหวาน ใบหน้าคล้ายคลึงคนด้านข้างอยู่บ้าง โผล่เข้ามาอย่างกระตือรือร้น ในมือมีถาดแก้วใบย่อม ใส่แก้วน้ำเย็นเจี๊ยบน่าดื่มไว้พร้อมสรรพ จากที่เห็นเธอคงอายุราว ๆ 15 ปีเท่านั้น เป็นวัยใสที่กำลังน่ารักน่าเอ็นดูจนคนมองยังเผลอยิ้มให้

ตำรวจหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจนัก เพราะส่งยิ้มเจ้าชู้ให้น้องสาวของเขา น้ำเสียงตอบกลับจึงห้วนสั้น

“เขาไม่หิวหรอก เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว อย่าทำอะไรให้มันยุ่งยากเลยน่า” เสียงเย็นชาเอ่ยไล่กลาย ๆ เล่นเอาสาวเจ้าเง้างอด เพราะเธอกะจะแอบมาดูช่างสุดหล่อ ที่เขาร่ำลือกัน ลูกครึ่งฝรั่งเสียด้วย มาดแมนไม่เบาจริง ๆ

เจมส์หันมามองปวินต์พลางแสร้งพึมพำบ่น “เจ้าบ้านช่างแล้งน้ำใจจัง สู้สาวน้อยที่น่ารักคนนี้ก็ไม่ได้”

ร่างเล็กที่มีผมยาวตรงประไหล่อมยิ้ม ก่อนหันมาค้อนให้พี่ชาย

“โธ่ พี่วินต์ล่ะก็ ปรางอุตส่าห์ยุให้แม่โทรตามเขาแทบตาย กว่าแม่จะยอม” เธอว่าเสียงกระซิบ แล้วยิ้มหวานให้เจมส์อีกครั้ง “น้ำเย็น ๆ ค่ะ ทานก่อนกลับก็ได้นะคะ”

เจมส์ยิ้มให้สาวน้อย มือแข็งแรงเก็บอุปกรณ์ลงกล่องอย่างเรียบร้อยแล้วรับแก้วน้ำมา เพียงแค่ได้กลิ่นน้ำนั้น เขาก็มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดต่ออย่างยิ้มแย้ม

“ขอบคุณครับ น้ำเย็นหอมกลิ่นมะลิ น่าดื่มมากจริง ๆ ทำเองเหรอครับเนี่ย”

“คุณแม่ทำค่ะ ท่านปลูกมะลิไว้หลายต้น ออกดอกดกเยอะเชียว เอามาลอยในน้ำ ไม่มียาฆ่าแมลง หอมสะอาดปลอดภัยค่ะ ไม่ต้องห่วง” เด็กสาวตอบต่ออย่างคล่องแคล่ว มนุษยสัมพันธ์ดีจนไม่น่าจะเป็นพี่น้องกับคนด้านข้างที่ยังคงนั่งหน้ามุ่ยอยู่เลย

มือแกร่งยกขึ้นจิบก่อนชมซ้ำ “หอมมากจริง ๆ ไม่รู้เจ้าบ้าน จะหอมได้ขนาดนี้ด้วยหรือเปล่า”

ตาคมค้อนขวับก่อนหลุบต่ำ พึมพำเสียงเข้ม “เสร็จแล้วใช่ไหมครับ ดื่มแล้วก็รีบ ๆ กลับไปได้แล้ว”

“ยังไม่ได้ให้ค่าจ้าง ก็จะไล่ให้กลับแล้ว ถ้าทำฟรีแบบนี้ ผมจะมาคิดแบบทบดอกทีหลังนะครับ คุณจะจ่ายไหวเหรอ”

เสียงใสหัวเราะคิก ก่อนบอกว่า “แม่ฝากเงินมาให้แล้วค่ะ ไว้วันหลังจะขอใช้บริการอีกนะคะ คุณพี่สุดหล่อ”

“เจมส์ครับ ไว้ผมจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ ที่จริงแล้วผมน่ะ เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายคุณหนูเอง เรียกพี่เจมส์ก็ได้ ฝากเงินนี่คืนคุณแม่เถอะนะ พี่ไม่คิดเงินเพื่อนหรอก” เขาเอาเงินยัดคืนใส่มือเด็กสาว

คนรับทำตาโตอย่างประหลาดใจ “จริงเหรอพี่วินต์ ทำไมไม่บอกปรางบ้างล่ะ หวงไว้คนเดียวล่ะสิ” ประโยคหลังเริ่มมีบ่นกระเง้ากระงอด

“พี่เจมส์คะ ไหน ๆ พี่ก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่วินต์ เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะคะ” เสียงหวานออดอ้อน หากเจมส์ได้แต่ยิ้มแล้วปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ขอโทษนะครับ วันนี้พี่มีงานช่วงเย็นถึงค่ำน่ะ ไว้วันหลังจะมาตามคำเชิญแล้วกัน ถึงตอนนั้น…” ว่าพลางเหลือบมองปวินต์ ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ “คิดว่าคงได้รับเชิญอีกนะครับ”

สาวน้อยยิ้มให้อย่างจริงใจ “แน่นอนค่ะ แวะมาได้ตลอดเวลาเลยนะคะ บ้านเรายินดีต้อนรับ อีกอย่างนะคะ พี่วินต์น่ะ ทำอาหารอร่อยที่สุดเลยด้วย”

“จริงเหรอครับ งั้นผมไม่พลาดแน่ ไว้คราวหน้าแล้วกัน…ถ้าอย่างนั้นผมลาเลยนะครับ” ว่าพลางขยับจะออกไป

ปวินต์มองร่างสูงนั้น ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “เดี๋ยวสิ ฉันจะไปกับนายด้วย”

ชายหนุ่มหันมามองอย่างงง ๆ หากปวินต์กลับกระซิบเครียด “ฉันมีเรื่องต้องสอบปากคำนายอีก แต่ไปข้างนอกนะ ไม่อยากเอางานมาทำที่บ้าน”

คนฟังพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วยิ้มหวาน “ดีสิครับ งั้นเราไปหาอะไรทานกัน แล้วดูหนังด้วยกันสักเรื่องดีไหม”

“ไหนนายว่าต้องทำงานไง” ร่างเพรียวขัดขึ้น

“ผมยอมหยุดงานได้นะ ถ้าคุณจะไปเดทกับผมวันนี้”

ปวินต์มองอีกฝ่ายแล้วชักเริ่มหมั่นไส้ ที่ขยันแจกขนมจีบเสียเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็เป็นผู้ชายแท้ ๆ

“ฉันไม่อยากให้พวกแม่ยกของนายรอเก้อ เอ้า รีบ ๆ ไปเถอะ” ว่าพลางหันมาหาน้องสาว ที่ทำท่าอยากไปด้วยใจจะขาด “พี่จะออกไปข้างนอกสักพัก ฝากดูบ้านกับแม่ด้วยล่ะ”

“ว้า คิดว่าจะชวนเราไปด้วย” เธอบ่นพึมพำ ก่อนรับคำ “ค่ะ รับทราบแล้วค่ะ จะดูแลอย่างดีเลย ถ้ามีของฝาก” ประโยคท้ายเริ่มมีหลิ่วตาให้อย่างเจ้าเล่ห์

ชายหนุ่มมองมาพลางถอนหายใจยาว ก่อนบอกว่า “แล้วจะซื้อขนมมาให้ อยู่บ้านดี ๆ ล่ะ”

เจมส์มองปวินต์แล้วลอบยิ้ม อิมเมจใหม่มาดพี่ชายที่เข้มงวดกับน้องสาวหน่อย ๆ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ ไม่รู้ทำไม เขาถึงได้สนใจคน ๆ นี้ซะจริง

แต่ยังไงเขาก็ประมาทไม่ได้อยู่ดี เขารู้…ว่าปวินต์ พยายามเข้าใกล้เขา ด้วยสาเหตุอะไร

ของสิ่งนั้น เขารับปากไว้แล้ว ว่าจะเก็บรักษาไว้ให้ มันเป็นหลักประกันของชีวิตครอบครัวเพื่อนคนสำคัญที่ล่วงลับ ดังนั้น…จะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้

จนกว่าจะสามารถจับคนพวกนั้นสำเร็จโทษให้หมดได้สำเร็จ…โดยเฉพาะเจ้าหมอผีคนนั้น ที่สามารถทำลายตุ๊กตารับเคราะห์ของเขาได้ จนชิดชัยต้องตาย โดยที่เขาช่วยเหลือไว้ไม่ทัน

ไสยดำไม่เคยทำให้ใครได้ดี…แต่ถ้าศัตรูใช้มันก่อน…เขาจะทำยังไงดี

ถ้าเป็นพ่อล่ะก็ คงบอกได้สินะครับ…แต่ในตอนนี้ พ่อก็ไม่อยู่ให้คำตอบเขาได้เสียแล้ว



ดวงตาของเจมส์เศร้าลงเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาแย้มยิ้มอย่างว่องไว เมื่อสบตาคู่งามที่เริ่มจ้องมองมาอย่างสงสัย

“นายเป็นอะไรไปล่ะนั่น”

ใบหน้าแกร่งยิ้มน้อย ๆ ทำทีไม่รู้ไม่ชี้ตอบกลับ ในตอนนี้ทั้งสองอยู่ในร้านกาแฟเล็ก ๆ เนื่องจากปวินต์ปฏิเสธที่จะทานข้าว เขาบอกว่าต้องการคุยเพียงครู่เดียวเท่านั้น

“ผมกำลังคิดว่า ไปเดทกันในชุดนี้ จะทำให้คุณดูแย่ไปกับผมด้วยหรือเปล่า หรือจะให้ผมกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนดีครับ บ้านผมก็อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง” เพราะชุดในตอนนี้เป็นชุดช่าง ที่ไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ แม้ว่ามันไม่ขัดตานัก เมื่อคนสวมใส่คือเจมส์ แต่คำพูดของเขา ก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล เพราะสายตาคนในร้านหลายคู่ ยังคงมองมาพลางซุบซิบนินทาอยู่บ้าง

“แค่คุยธุระกัน จะชุดอะไรไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ที่สำคัญฉันไม่ได้คบคนที่เสื้อผ้าเสียหน่อย” ตำรวจหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แสดงว่าคุณยอมรับผมเป็นเพื่อนแล้วสินะ” เจมส์ถามต่ออย่างกระตือรือร้น

“ฉันจะรับนายเป็นเพื่อน ก็ต่อเมื่อนายไม่ปิดบังบางอย่างกับฉัน เพื่อนน่ะ ควรจะเปิดใจพูดต่อกันไม่ใช่รึ” ปวินต์ได้ทีย้อนเข้าให้

“ถึงจะเป็นเพื่อน บางครั้งก็ต้องมีบางอย่างที่พูดไม่ได้เหมือนกันนะครับ และเพื่อนที่ดี…ก็ควรจะรอคอยได้ จนกว่าอีกฝ่าย จะยอมพูดออกมาเอง” เจมส์พูดขึ้นบ้าง คนฟังชะงักกับคำพูดนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นพูดถูก

ร่างผอมบางนิ่งไปเป็นครู่ ก่อนพูดขึ้นว่า “แต่ในฐานะที่เป็นตำรวจ ฉันคงจะรอนานอย่างที่นายพูดไม่ได้ หลายคนกำลังเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้ และฉัน…ก็อยากจะช่วยพวกเขา”

เจมส์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนพลางพึมพำ

“คุณเป็นคนดี แต่ผมคงพูดอะไรได้ไม่มากจริง ๆ” เขาพูดพลางมองอีกฝ่ายอย่างจริงจังกว่าเดิม “…มีอย่างหนึ่ง ที่ผมอยากจะเตือนคุณ คดีที่คุณทำตอนนี้ คนที่อยู่เบื้องหลัง ร้ายกาจกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ ถ้าไม่อยากเอาตัวเองและครอบครัวมาเสี่ยงด้วย ปล่อยให้ผมจัดการเองจะดีกว่า อย่ารู้อะไรมากไปกว่านี้เลยครับ”

“เรื่องพวกนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ นายต่างหาก ที่ไม่ควรจะเข้ามายุ่ง ฉันอยากให้รู้ไว้ ว่าฉันและครอบครัว ไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัว ครอบครัวตำรวจ ย่อมเข้าใจเรื่องเสี่ยงอันตรายและยอมรับมันได้ดี พ่อของฉันเองก็เป็นตำรวจ ท่านตาย…ในหน้าที่ และพวกเรา ก็ภูมิใจในความเสียสละของท่าน…เสมอมา”

“ถึงอย่างนั้น…ผมก็บอกคุณไม่ได้อยู่ดี ขอโทษนะครับ ผมคงต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว อ้อ ผมขอเลี้ยงกาแฟคุณนะ เพื่อคำขอบคุณ สำหรับมิตรภาพเล็ก ๆ ที่คุณหยิบยื่นให้ผม”

ใบหน้าคมสันที่แย้มยิ้มน้อย ๆ ทำให้คนมองแอบใจเต้น ชายหนุ่มพยายามข่มใจให้เป็นปกติ ก่อนจะพูดขึ้นโดยไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่ายว่า “ไว้คราวหน้า ฉันจะเลี้ยงข้าวนายขอบคุณบ้างแล้วกัน”

“สงสัยผมต้องล้างท้องรอแล้ว ถ้าจะเลี้ยง ขอเป็นกับข้าวฝีมือคุณนะครับ น้องสาวคุณออกจะชมขนาดนั้น คุณคงทำอร่อยมากแน่ ๆ”

“มากไปแล้วนายน่ะ จะรีบไปทำงานไม่ใช่รึ รีบ ๆ ไปเลยไป”

“ครับผม จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ กลับดี ๆ นะครับคุณวินต์”

“……ใครให้เรียกว่าวินต์เนี่ย” คนกำลังจะไปท้วงขึ้นทั้งที่ใบหน้าแอบแดงเรื่อ

“ผมเรียกตามน้องสาวคุณไง ดีออก เผื่อเราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าลืมเรียกผมว่า ‘เจมส์’ เฉย ๆ ด้วยนะครับ”

คนฟังไม่ยอมอยู่ฟังต่อแล้ว ร่างบางก้าวยาว ๆ ออกจากร้านไป โดยไม่กล้าหันมามองอีก ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนอมยิ้มน้อย ๆ อย่างขบขันแทน



เจมส์ออกมาจากร้านหลังจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ในตอนนั้นเอง ชายร่างสูงในชุดธรรมดาหากท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด

“พบเป้าหมายแล้วครับท่าน กำลังจะสะกดรอยตามไป”

เสียงตามสายถามย้ำ “แน่ใจนะ ว่าใช่”

“แน่ครับ ภาพของเขาเหมือนในแฟ้มข้อมูลของกรมตำรวจ ที่เป็นเจ้าของลายนิ้วมือ ในตุ๊กตาตัวนั้น ผมตามผู้กองปวินต์มาและพบว่าเขามาพร้อมกับคน ๆ นี้ ดังนั้นไม่ผิดแน่ครับ” สายที่ทำงานในกรมตำรวจเช่นเดียวกันกับปวินต์ยืนยัน

“ดี ถ้างั้นตามไป หาที่อยู่ของมันมาให้ได้ล่ะ”

“ครับท่าน”



“พ่อฮะ มีคนสะกดรอยตามเรามา” เสียงใสพูดขึ้นเบา ๆ ใกล้ ๆ หู เจมส์ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงกระซิบ เขายังคงเดินต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะสอบถามกลับ ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดกว่าเดิม

“มันมากี่คน”

“คนเดียวฮะ ท่าทางคงตามเรามาจากร้านกาแฟเมื่อครู่”

“งั้นแสดงว่ามาเพราะคุณตำรวจน่ะสิ ว่าแล้ว ว่าในกรมต้องมีสายของพวกมันอยู่ด้วยแน่ พวกมันคงหวังสืบหาพวกเรา จากทางการสืบสวนของปวินต์แน่ ๆ” ชายหนุ่มพึมพำ โดยยังคงไม่หันกลับไปมอง

“พ่อฮะ แล้วเราจะเอาไงดี” เสียงเล็ก ๆ เริ่มปรึกษา

ใบหน้าแกร่งมีรอยยิ้มเย็น “มันอยากตาม ก็ให้มันตามมาสิ บ้านของเรา ก็ไม่ได้ต้อนรับแขกประเภทนี้มานานแล้วไม่ใช่เหรอ”

ร่างเล็กที่เกาะอยู่ใกล้ ๆ อมยิ้ม แม้ว่าคนสะกดรอยตามมา จะมองไม่เห็น “พ่อพูดเองนะฮะ แสดงว่า…ยอมให้เล่นด้วยได้ใช่ไหมฮะ”

“พอหอมปากหอมคอแล้วกัน พ่อรู้ดีว่าถึงเราจะซ่อนตัว ก็คงจะซ่อนได้ไม่นานอยู่แล้ว ประกาศสงครามไปเลยอาจจะดีกว่า ยังไงพ่อเองก็ไม่อยากลากคนดี ๆ อย่างคุณตำรวจ มาเดือดร้อนกับเราด้วย ศึกล้างตากับเจ้าหมอผีนั่น ยังไงก็จะต้องเกิดในไม่ช้านี้อยู่แล้ว”

“คุณตำรวจเป็นคนดีนะฮะ ผมก็ชอบเขาเหมือนกัน”

คนฟังอมยิ้ม “แน่ล่ะสิ แต่เราจัดการกันเองคงจะดีกว่า คนธรรมดาน่ะ จัดการเจ้าหมอผีนั่นไม่ได้แน่ ดีไม่ดี เกิดโดนทำคุณไสยไปด้วย จะยิ่งลำบาก

“ถ้างั้นเราคงต้องล่อให้มันสนใจแต่พวกเราแทน” ร่างเล็กเอ่ยต่อ

“ใช่ คิดถูกแล้วล่ะเจ้าเคน ไม่แน่นัก…คืนนี้ คงมีแขกมาเยี่ยมบ้านเราหลายคน คงจะมาค้นหาของนั่นแน่ ๆ ยังไงก็จัดงานต้อนรับ อย่าเอิกเกริกนัก พ่อขี้เกียจเก็บของตอนเช้า”

เสียงตอบรับหัวเราะคิก “ก็ได้ฮะ เอาแค่พอหอมปากหอมคอแล้วกัน ผมจะชวนเพื่อน ๆ แถวบ้านมาสนุกด้วย พ่อคงโอเคนะฮะ”

“พักนี้ใช้ภาษาวัยรุ่นจริงนะ เอ้า เอาไงก็ได้ อย่าทำหนวกหูจนนอนไม่ได้ก็พอ”

เขาว่าพลางตรงเข้าบ้าน ก่อนจะสั่งคนสนิทที่รอเปิดสำนักอยู่ ให้เร่งจัดคิวเร็วกว่าเดิม โดยอ้างว่ามีพิธีกรรมตอนดึก ๆ ต้องจัดการ ซึ่งคนดูแลนั้นก็ไม่ได้แปลกใจนัก เพราะเขามักทำเช่นนี้อยู่บ่อย ๆ สำหรับเวลามีกรณียากจัดการเป็นพิเศษ อาชีพเช่นนี้ มักจะมีงานที่ต้องทำยามค่ำคืนในป่าช้าเป็นประจำอยู่แล้ว

“เสร็จแล้วก็รีบกลับไปเลยล่ะ ปิดประตูให้เรียบร้อยด้วย” ชายหนุ่มสั่งก่อนจะเริ่มงานช่วงเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


จบตอน

TBC

ออฟไลน์ Aon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก

อยากอ่านต่อคร่าตัวเอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
แม้จะไปชอบอ่านเรื่องผีๆเท่าไร เพราะกลัวพลังจิ้นของตัวเองเหลือเกิน
แต่เนื้อเรื่องน่าติดตาม จะรออ่านต่อไปนะค๊าาาา เพราะติดใจงานของคุณppm ทุกเรื่องๆเลย o13

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

wongwikkarn

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อไวไวน้า

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
ถ้าพวกคนร้ายจัดการเจมส์ไม่ได้
มันจะต้องลากคุณตำรวจมาเป็นตัวล่อแน่ๆ
หนุกจริงๆเลย รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ pummy09

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #25 เมื่อ06-07-2011 14:59:12 »

นานๆๆ จะได้อ่านแนวนี้ซักทีค่ะ
น่าสนุกมาก

แอบลุ้นไปด้วย ว่าจะจัดเตรียมการต้อนรับยังไง^^

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #26 เมื่อ06-07-2011 16:05:45 »

อิอิ
เรื่องแนวสืบสวนปนสยองขวัญนิดๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #27 เมื่อ06-07-2011 16:36:40 »

มาร่วมจับผู้ร้ายด้วยคน อิ อิ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #28 เมื่อ06-07-2011 18:28:56 »

กำลังลุ้นเลย มาต่อด่วน อิๆ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 2 (5/7/11)
«ตอบ #29 เมื่อ06-07-2011 19:56:55 »

เริ่มจะเข้าสู่ความเข้มข้นขึ้นไปตามลำดับแล้วล่ะ ทั้งเรื่องรบและเรื่องรัก
ชวนให้ติดตามเป็นยิ่งนัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด