สืบเสน่หา (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สืบเสน่หา (จบ)  (อ่าน 169194 ครั้ง)

ออฟไลน์ jaymaza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #60 เมื่อ11-07-2011 03:30:26 »

เอาใจช่วยค่ะ

สนุกอ่ะ

,,, :]

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #61 เมื่อ11-07-2011 10:11:09 »

จิ้นตามเป็นฉากๆ น่ากลัวเว่อร์ๆ  o22
เหมือนตัวเองก็โรคจิตนิดๆ กลัวผีโคตรๆ แต่ชอบดู ชอบอ่านอะไรแนวนี้จัง :laugh:
เชียร์เจมส์สู้ๆด้วย แต่กลัวปวินต์จะเข้าไปยุ่งนะเนี่ย เหมือนจะแอบดื้อนิดๆอ่ะ :z3:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #62 เมื่อ11-07-2011 12:40:53 »

คุณหมอ(ผี)รูปหล่อสู้ๆ คุณตำรวจก็อย่าทะเร่อทะร่ามาซะล่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #63 เมื่อ11-07-2011 16:30:00 »

 o13 o13

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 4/1 (10/7/11)
«ตอบ #64 เมื่อ11-07-2011 18:06:45 »

หวังว่าคุณตำรวจจะไม่โผล่ไปให้เจมส์ลำบากนะ

สู้ๆนะเจมส์

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #65 เมื่อ11-07-2011 18:56:27 »

(ตอนที่ 4/2 จบตอนที่ 4)


“พ่อจะลองใช้อาคมสลายวิญญาณ” เขาเอ่ยขึ้นในที่สุด หลังจากนิ่งเงียบไปนาน ร่างเล็กของเด็กน้อยที่นั่งมองอยู่ใกล้ ๆ ผุดลุกขึ้นมองมาอย่างวิตก และรีบคัดค้านในทันที

“มันอันตรายเกินไปนะฮะ พ่อก็รู้ ว่ามันจ้องจะซ้ำพวกเราอยู่แล้ว ถ้าเราอ่อนแรงลง ที่สำคัญ เวทย์อันนั้น ถ้าใช้แล้วพ่อจะเหนื่อยจนแทบขยับไม่ได้ ขนาดแค่มันเดินเข้ามาฆ่าพ่อง่าย ๆ ยังหลบได้ไม่พ้นด้วยซ้ำเลยนะฮะ…แล้วพวกเรา ก็ไม่มีใครมีกายเนื้อพอจะช่วยพ่อได้เลยสักคน”

เจมส์พยักหน้ารับ “ใช่ พ่อรู้ แต่ว่าเราจะให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเราด้วยไม่ได้”

“ผมเข้าใจฮะพ่อ แต่ว่า…”

“ตาเจ้าที่ของเจ้ายังไหวรึเปล่า พ่อว่าเจ้าไปช่วยท่านอีกแรงดีกว่านะ ตราบใดที่พวกเจ้าช่วยกันกางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไว้ ถึงพ่อจะสู้ไม่ได้ไปสักพัก เราก็น่าจะยังต้านทานพวกมันไหวไม่ใช่เหรอ ส่วนเรื่องอื่น…คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ถ้ามันจะถึงวาระนั้น…ถึงเจ้าจะพยายามยื้อไว้สักแค่ไหน มันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดีนั่นแหละ”

เด็กชายมองมาอย่างลังเล คำพูดของเจมส์มีเหตุผลอยู่ แต่มันก็เสี่ยงจนเกินไป อีกฝ่ายต้องการให้พวกเขาหมดแรงแล้วค่อยซ้ำ ดังนั้นต้องมีแผนสองรองรับอยู่เป็นแน่

“เราตามคุณตำรวจมาช่วยดีไหมฮะ ถึงพวกผมจะกันภูตผีวิญญาณได้ แต่พวกเราทำอะไรมนุษย์ที่ไม่กลัวเราไม่ได้นะฮะ” เคนพยายามเสนอ

“อย่าดีกว่านะ พ่อไม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนไปกับเราด้วย” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

“แต่ว่า…” เสียงเล็ก ๆ เริ่มอ่อยลง เด็กน้อยรู้ดีว่าถ้าลองไปขอร้อง มีหรือปวินต์จะปฏิเสธ แต่พ่อคงไม่ยอมแน่ เพราะยึดถืออีกฝ่ายเป็นคนสำคัญจนไม่อยากให้โดนหางเลขไปด้วย ขนาดเรื่องที่ซ่อนของนั้น คุณตำรวจคาดคั้นเท่าไหร่ พ่อก็ไม่ยอมบอกนี่นะ แววตาของเจมส์นั้นบ่งบอกชัด เมื่อได้ตัดสินใจไปแล้ว ยากยิ่งที่จะยอมเปลี่ยนแปลง เด็กน้อยรู้เรื่องนี้ดี

“พวกผู้ใหญ่นี่เข้าใจยากจริง” เจ้าเคนบ่นพึมพำด้วยท่าทางซึม ๆ “ถ้าพ่อเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไงล่ะ”

เจมส์ยิ้มให้พลางลูบผมนุ่มของเขาเบา ๆ แล้วบอกว่า “พ่อไม่ได้อ่อนแอขนาดต้องให้ลูกเป็นห่วงหรอกนะ จะยังไง พ่อก็ต้องปกป้องทุกคน และวิญญาณที่อยู่แถวนี้ให้ได้ ลูกรู้ใช่ไหม ถ้าปล่อยมันนานออกไป พวกพี่ ๆ เพื่อนผีของลูก หรือกระทั่งเจนนี่เอง ก็อาจจะโดนลูกหลงนี้ไปด้วย พวกเราน่ะ ก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน ถ้าปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นโดยไม่ทำอะไร พ่อต้องเสียใจทีหลังมากแน่ ๆ แล้วที่สำคัญ พ่อก็ยังมีลูกกับตาเจ้าที่คอยช่วยตอนลำบากอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าพวกเราช่วยกัน ยังไงมันก็ต้องผ่านพ้นไปได้สบายอยู่แล้ว ใช่ไหมเจ้าเคน”

เคนเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะส่งยิ้มไปให้ “ถ้างั้นเรามาพยายามด้วยกันนะฮะ ผมจะไปช่วยคุณตากั้นอาณาเขตไว้อีกแรง จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำอะไรพ่อ ตอนที่เสียพลังงานไปมากแน่ ๆ ฮะ รับรองได้เลย”

“ขอบใจมากเจ้าเคน ฝากด้วยนะ”

ร่างเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะหายตัวไป

ชายหนุ่มมองเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า ที่เมื่อครู่ยังมีเด็กน้อยยืนอยู่ ก่อนถอนใจยาว วิกฤติกำลังเข้ามาเหมือนที่ลางสังหรณ์บอกไว้จริง ๆ แต่อย่างน้อยเขาก็คิดถูก…ที่ไม่ให้ปวินต์มาอยู่ด้วยในคืนนี้

ปวินต์…อย่างน้อยคุณก็จะปลอดภัย…ไว้ถ้าพรุ่งนี้…แล้วเขายังมีชีวิตอยู่ จะต้องให้เลี้ยงข้าวมื้อใหญ่ให้สมอยากเลยทีเดียว ใบหน้าแกร่งอมยิ้มกับตัวเอง แทบจะจินตนาการเห็นอีกฝ่ายโวยวายยามเขากินมากเกินไป ด้วยใบหน้าบึ้งตึงแก้เขินอันแสนน่ารัก

เพียงแค่คิดถึง ก็กลับรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่าอย่างน่ามหัศจรรย์นัก

…ใช่ เพื่อให้มีวันพรุ่งนี้ต่อไป เขาจะต้องทำให้ได้เท่านั้น!



    ในอีกด้าน ปวินต์จงใจเลิกงานเร็วกว่าทุกครั้ง เขารู้สึกไม่ผิดแน่ ว่าวันนี้เจมส์ผิดปกติไปจนน่าสงสัย

    หรือเพราะคดีเมื่อคืนก่อน ที่มีคนบุกรุกเข้ามาในบ้าน จะทำให้เจมส์คิดจะลงมือทำอะไรตามลำพังในคืนนี้?

    ก็เพราะไม่ยอมบอกเขานั่นแหละ ว่าเรื่องจริง ๆ มันเป็นมายังไง มัวแต่อมพะนำไว้อยู่ได้ ชายหนุ่มคิดต่อไปอย่างหงุดหงิด เขาเป็นตำรวจแท้ ๆ ในสายตาของเจมส์ ยังพึ่งพาไม่ได้เลยหรือไง

ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโหนัก หลอกเขาดีนักใช่ไหม คืนนี้ล่ะ เขาจะไปแอบซุ่มดู ว่าเจมส์วางแผนจะทำอะไร เผื่อจะได้รวบจับพวกที่มาก่อกวน และลากตัวบงการที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้เสียที เรื่องจะได้จบ ๆ โดยไม่มีใครต้องตายอีก

    ร่างผอมบางมองปืนพกที่ถอดวางไว้บนโต๊ะ แล้วตัดสินใจหยิบขึ้นมาเหน็บเอวไว้ ถ้ามีใครมาบุกบ้านเจมส์อีกในคืนนี้ อย่างน้อยมีเจ้านี่ ก็คงอุ่นใจได้อีกหน่อย ถึงเขาจะดูบอบบาง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีศิลปะป้องกันตัว ตำรวจทุกคนต้องผ่านการฝึกพวกนี้มาแล้ว และเขาเองก็ทำได้ดีด้วย

    แล้วนายจะเห็นเอง ว่าตำรวจไทย ไม่ได้ไร้น้ำยาอย่างที่คิด!



    “พี่วินต์จะไปไหนเหรอคะ” ปรางทิพย์ทักขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังแต่งตัวใหม่ที่หน้ากระจก และหยิบแจ็คเก็ตหนังตัวโปรดขึ้นสวมใส่ เพื่อใช้ในการบังปืนพกซึ่งคาดเหน็บไว้ที่เอว

การพกปืนไปด้วยทำให้เด็กสาวรู้ว่า ชายหนุ่มกำลังจะออกปฏิบัติการนอกเครื่องแบบที่ดูท่าจะสำคัญเอาการ

    ชายหนุ่มหันกลับมามองน้องสาวพลางยิ้มน้อย ๆ “พี่จะไปทำงานน่ะ ฝากดูแลแม่ด้วยนะ”

    คนฟังไม่ประหลาดใจนัก แม้ว่าเวลาใกล้ค่ำควรจะเป็นเวลาที่คนในครอบครัวควรอยู่กันพร้อมหน้า แต่ครอบครัวของตำรวจย่อมรู้ดี ว่าไม่อาจรั้งคนในหน้าที่เอาไว้ได้

    ดวงตากลมโตมองมาอย่างเข้าใจ โดยไม่มีตัดพ้อ เธอยิ้มให้พี่ชายพลางพูดขึ้นว่า “ได้ค่ะพี่ ปรางจะดูแลแม่ให้เอง ยังไงพี่ต้องทำงานอย่างระวังด้วยนะคะ”

    มือแข็งแรงแตะบ่าน้องสาวเบา ๆ ก่อนแย้มยิ้ม “ไม่ต้องห่วง เสร็จงานแล้วพี่จะรีบกลับ”

    “ค่ะ” เธอรับคำ ก่อนจะเดินออกไปช่วยมารดาเตรียมอาหาร แม้คืนนี้ ผู้เป็นพี่คงไม่ได้อยู่ลิ้มชิมมัน

ปวินต์มองร่างบอบบางเดินจากไปพลางถอนใจยาว รู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะเลิกอาชีพที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้

มันเป็นความภาคภูมิใจ ที่เขาได้สืบทอดปณิธานอันหนักแน่นและดีงามจากบิดาผู้ล่วงลับ ที่อย่างไรเขาก็อยากจะรักษามันเอาไว้



กว่าจะมาถึงปากซอยบ้านของเจมส์ เวลาก็เป็นช่วงใกล้ค่ำ ความมืดเริ่มปกคลุมไปทั่ว ทางเดินคับแคบกับเสาไฟฟ้าเก่าที่ตั้งอยู่เป็นระยะ ฉายแสงสว่างน้อยนิด รอบด้านสองฝั่งมีบ้านอยู่ห่าง ๆ กัน แต่ส่วนใหญ่กลับเป็นพื้นที่รกร้างปล่อยทิ้งขว้าง

อาจเพราะพื้นที่บางส่วนตัดกับวัดและป่าช้า และเป็นที่ของวัดอยู่ด้วย จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าจับจองใช้งาน ร่างผอมเพรียวเดินเข้าไปเพียงลำพัง อาศัยแสงไฟอ่อน ๆ จากเสาไฟ ที่ก็ไม่ได้สว่างสักเท่าใดช่วยนำทาง สายลมเย็นเยือกพัดวูบผ่านไป กลับทำให้รู้สึกขนลุกซู่ บรรยากาศรอบตัวคล้ายขมุกขมัวแบบแปลก ๆ อึดอัดและกดทับ จนรู้สึกแทบยากจะหายใจ

ปวินต์เคยไปบ้านเจมส์อยู่หลายครั้ง และในจำนวนนั้น ก็มีเดินในตอนกลางคืนอยู่ด้วย แต่ไม่มีครั้งไหน ที่ทำให้เขารู้สึกแย่ได้เท่าครั้งนี้

เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ?

เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างปุบปับ และยังรู้สึก…เป็นห่วงเจมส์ขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลด้วย

ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าไวกว่าเดิม ไม่นานก็ถึงบ้านอันคุ้นตานั้น หากในวันนี้ ภาพที่เห็นกลับแปรเปลี่ยนไป ร่างเงาบางอย่างโปร่งใสเจือจางวนเวียนไปมารอบบ้าน คล้ายปกคลุมห่อหุ้มไว้แทบจะมิด กลิ่นอายน่ารังเกียจสร้างความรู้สึกอยากหนีไปให้ไกล ถึงเขาจะมองไม่เห็น แต่ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ยังคงพยายามจะแทรกตัวเข้าไปในบ้านอยู่ตลอด หากเหมือนถูกอำนาจลี้ลับบางอย่างช่วยผลักดันไว้ กระแสของมันม้วนตัวกราดเกรี้ยว ลองพังเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่กลัวเกรง

ทว่าจู่ ๆ กระแสรอบตัวก็เปลี่ยนไป ความปั่นป่วนพลุ่งพล่านก่อตัวรุนแรงราวพายุ ก่อนจะกวาดพัดวูบเดียวจนจางหาย

แล้วบ้านทั้งหลังก็กลับคืนสู่สภาพเดิม…เป็นบ้านที่สงบเงียบ ร่มเย็นเหมือนทุกครั้ง

คนมองกระพริบตาปริบ ๆ อย่างประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ตัดสินใจเข้าไปด้านใน

ไฟยังเปิดอยู่ ในบ้านมีคน พึ่งหัวค่ำ เจมส์คงยังไม่หลับ แต่น่าแปลกนักที่มันกลับเงียบเสียจนใจหาย ไม่มีเสียงคนในบ้านทำกิจกรรมอันใด กระทั่งทำอาหาร หรือว่าเจมส์จะหลับอยู่? แต่ไหนว่าติดธุระ ไม่ว่างไง?

โกหกเขาแน่ ๆ เลย!

ร่างสูงก้าวฉับ ๆ เดินขึ้นบ้าน ตัวบ้านยกใต้ถุนสูง ทำให้ต้องขึ้นบันไดเสียก่อน ชายหนุ่มก้าวอย่างระมัดระวังไปยังส่วนนอกชานที่ทำด้วยไม้ แล้วตรงขึ้นบ้านอย่างแปลกใจ

ห้องที่ไฟเปิดอยู่คือห้องพระ ปวินต์จำได้ดีเพราะเคยเดินผ่าน แม้จะไม่เคยเข้าไปเพราะรู้สึกเจ้าของห้องหวงแหนห้องนี้มากจนไม่ค่อยจะพาแขกเข้าไปสักเท่าไหร่ คล้ายกันไว้เป็นอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัวโดยเฉพาะ

ทว่าพอแง้มประตูเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงงัน

เจมส์อยู่ในห้องนั้นจริง ๆ แต่กลับอยู่ในสภาพที่สลบไสลไม่ได้สติอยู่กลางห้องเพียงลำพัง ปวินต์รีบตรงเข้าไปพลางเขย่าตัวเรียก ใบหน้าคมสันนั้นขาวซีดเหงื่อโทรมตัว ดวงตาปรือมองขึ้นอย่างยากเย็นยามถูกเขย่า ก่อนจะหลับลงอีก ครั้งอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะขยับแม้แต่น้อยนิด

“เจมส์ นายเป็นอะไรไป!”

คิ้วเข้มขมวดมุ่น ริมฝีปากยังพึมพำเสียงแผ่วเบาจนปวินต์ต้องขยับเข้าไปจนชิด เพื่อให้ได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการจะบอกอะไร

“หนี…วินต์… รีบ…หนีไป….”

“หนี? ทำไมกันล่ะ?” คนถามชักเริ่มงง แต่ชายหนุ่มในอ้อมแขน กลับสลบไปอีกรอบเสียแล้ว

รอบตัวที่เงียบสงัด ไม่มีใครเลย ทำให้ปวินต์รู้สึกกลัวขึ้นมา เกิดอะไรขึ้นกับเจมส์กันแน่ แล้วทำไมต้องบอกให้เขารีบหนีไป?

ลมยังคงพัดเสียงอู้ บานหน้าต่างปิดเปิดไปมารุนแรง บรรยากาศในห้องเย็นเยือกขึ้นมาแบบปุบปับอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่คล้ายจะกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วแท้ ๆ ปวินต์กระชับร่างคนในอ้อมกอดไว้แน่น พลางส่ายศีรษะแรง ๆ ภูตผีปีศาจมีจริงที่ไหน คงแค่จะมีพายุมานั่นแหละ

เจมส์ที่ยังไม่ได้สติตัวใหญ่และหนักพอดู ชายหนุ่มมองมาอย่างลังเลเล็กน้อย ก่อนค่อย ๆ พยุงแกมลากเขาทำท่าจะออกจากห้องพระ กลับไปยังห้องนอน ให้ได้นอนอย่างสบายขึ้น

หากยังไม่ทันเหยียบย่างออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องห้ามเสียดังลั่น

“อย่าออกไปนะฮะ คุณตำรวจ!”

ปวินต์ชะงักแล้วมองไปรอบ ๆ อย่างแปลกใจ เขาคิดว่าเจมส์อยู่คนเดียวเสียอีก แล้วนั่นมันเสียงใครกัน

หวนนึกถึงเมื่อตอนกลางวัน ที่เจมส์ไปแจ้งความกับเขา เจมส์ยังบอกว่า มีลูกชายอยู่ด้วย

เอ…หรือจะเป็นลูกชายของเจมส์?

    “นั่นใครน่ะ” เขาตัดสินใจถามขึ้น

    “เชื่อผมเถอะฮะ อย่าออกนอกห้องพระตอนนี้เด็ดขาด… พ่อยิ่งอาการไม่ดี เดี๋ยวจะไม่มีใครช่วยคุณนะฮะ”

    “นายเป็นลูกของเจมส์? แล้วทำไมรู้ว่าฉันเป็นตำรวจด้วย?”

“เชื่อผมเถอะฮะ ผมไม่มีวันทำร้ายพ่อเด็ดขาด…รวมถึงคนที่พ่อรัก…อย่างคุณด้วย”

    เสียงนั้นยังคงหาที่มาไม่ได้ และในห้องนั้นก็ไม่มีใครเลย ปวินต์รู้สึกไม่มั่นใจนัก ว่าจะเชื่อเสียงนั้นดีหรือไม่ แต่น้ำเสียงที่ดูร้อนรนและเป็นห่วง ทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำตาม

ยิ่งคำพูดประโยคหลัง เขากลับแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แม้ว่าจริง ๆ แล้วหัวใจเจ้ากรรม กลับเริ่มเต้นแรงโดยไม่บอกกล่าว

    เจมส์…รักเขางั้นเหรอ?

    คงหมายถึงรักอย่างเพื่อนล่ะมั้ง?

    ร่างที่อยู่ในอ้อมแขนครางแผ่ว คนประคองชะงัก รีบหันกลับมามอง ก่อนตัดสินใจพยุงคนไม่ได้สติ กลับมานอนที่กลางห้องอีกครั้ง พื้นห้องที่ปูพรมไว้ไม่แข็งนัก เขาจึงหาผ้าแถว ๆ นั้นมาหนุนศีรษะเจมส์ไว้แทน

    จนแล้วจนเล่า เจ้าของเสียงนั่นก็ไม่ปรากฏตัวออกมา และหลังจากนั้น ไม่ว่าเขาจะถามอะไรออกไป ก็ไร้ซึ่งคำตอบ พายุเบื้องนอกก็ยังโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องฟ้าคำรามน่ากลัวนัก ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน้าฝนเสียหน่อย ตอนเขาเข้ามา ก็ไม่ได้มีเค้าว่าฝนจะตกเลยแม้แต่น้อยนิด

    สภาพภายนอกเหมือนอะไรบางอย่างที่กำลังตึงเครียด แม้มองไม่เห็น ดีแล้วที่เขาไม่ได้ออกไป อะไรบางอย่างรบกวนจิตใต้สำนึกเขาจนรู้สึกกลัวอย่างไม่มีเหตุผล ได้แต่พนมมือไหว้พระภายในห้อง สวดภาวนาขอให้องค์พระช่วยคุ้มครองในใจ     

    เวลาต้องอยู่ลำพังมันน่าอึดอัดนัก ชายหนุ่มเหม่อมองหน้าคมที่ยังคงซีดขาว อย่างน้อยเขาก็ใจชื้นขึ้น เมื่อรู้สึกได้ว่าลมหายใจแผ่วเบาในตอนแรก เริ่มกลับมาสม่ำเสมอเป็นปกติแล้ว ในยามนี้เจมส์ดูคล้ายคนอ่อนเพลียมาก ๆ ที่ผล็อยหลับไปเพียงเท่านั้น

    “นายเป็นอะไรกันแน่ แล้วเสียงนั่น…เป็นใครกัน เจ้าบ้าเจมส์นี่…มีอะไรก็เก็บเป็นความลับอยู่ได้!” ปวินต์มองคนไม่ได้สติอย่างหมั่นไส้ ถ้าปกติดีเขาคงซัดหน้ากวน ๆ นี้สักที ข้อหาทำให้เขาว้าวุ่นใจจนเกินเหตุ แต่ในยามนี้…จะทำอะไรก็คงไม่ได้ ในเมื่อเจ้าบ้านี่ยังคงนอนนิ่ง

ปวินต์มองคนที่ยังหมดสติไปนิ่งนาน เกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้…รู้เพียงตอนนี้ คงได้แต่รอคอยจนกว่าเจมส์จะฟื้น ถึงจะได้รู้เรื่องมากกว่านี้

ทำไมเจมส์ถึงได้บอกให้เขาหนีไปนะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ตำรวจหนุ่มได้แต่ลอบถอนใจยาว อย่างไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้


จบตอน

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #66 เมื่อ11-07-2011 20:10:27 »

หลอนเว่ย  ดันมาอ่านตอนกลางคืนอีก

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #67 เมื่อ11-07-2011 20:13:51 »

ตื่นเต้นนนนน

เจมส์ฟื้นเร็วๆซิๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #68 เมื่อ11-07-2011 20:21:45 »

ง่า ลุ้นๆๆๆๆ  :z3:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #69 เมื่อ11-07-2011 20:28:22 »

เอาใจช่วยเจมส์ให้รอดนะ แอบคิดด้วยแหละมนต์ขาวต้องชนะมนต์ดำ
คุณตำรวจ ที่เจ้าเคนบอกน่ะอย่าคิดเฉไฉ รักคือรักแบบคนรัก ไม่ได้รักแบบเพื่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
« ตอบ #69 เมื่อ: 11-07-2011 20:28:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #70 เมื่อ11-07-2011 20:34:59 »

ชอบมากเลยเรื่องแบบนี้
สงสัยเพราะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยและเจออยู่บ่อยๆ
ตอนนี้คงได้แต่เอาใจช่วยเจมส์
ดีใจที่คุณตำรวจเชื่อที่น้องเคนเตือน ไม่งั้นไม่อยากจะคิดว่าจะเป็นยังไง
ชอบน้องเคนมากเลย น้องน่ารัก ขี้อ้อนมากซะด้วย
 :กอด1: :L2: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-07-2011 20:57:03 โดย @StaR@ »

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #71 เมื่อ11-07-2011 20:51:04 »

 :z3:

ต่อด่วนนน

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #72 เมื่อ11-07-2011 22:52:49 »

เพิ่งได้เข้ามาอ่านครั้งแรกค่ะ สนุกมากๆๆ ติดตามอยู่นะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ jaymaza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #73 เมื่อ11-07-2011 23:28:24 »

โอ้ยยยยยยยยยย

ลุ้นๆๆ ตื่นเต้นๆๆๆๆ

รีบๆมาต่อนะคะ

,,, :]

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #74 เมื่อ12-07-2011 15:02:52 »

สยองจริง เรื่องนี้ อิอิ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #75 เมื่อ12-07-2011 15:51:16 »

ลุุ้้นๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา จบตอนที่ 4 (11/7/11)
«ตอบ #76 เมื่อ12-07-2011 15:52:40 »

 :z3: :z3:

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #77 เมื่อ12-07-2011 17:22:05 »

สืบเสน่หา

ตอนที่ 5


(ตอนที่ 5/1)


เสียงทุบโต๊ะดังปังอย่างขัดใจทำให้คนที่ยืนหลบอยู่ด้านข้างทำตัวแทบลีบ ชวรัตน์หันมากวาดตามองคนของเขาด้วยแววตาที่ขุ่นมัว การเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว แต่เขายังจัดการเสี้ยนหนามไม่สำเร็จเสียที ขนาดส่งหมอคง คนที่ดูน่าจะใช้การได้ไปจัดการแล้ว แต่สุดท้ายยังคงเหลวกลับมา

    หมอคงก้าวเข้ามาในห้องตามการเรียกหา พอชวรัตน์เห็นคนที่กำลังทำให้อารมณ์เสีย เขาก็โวยใส่ใหญ่ทันที

    “ไหนคุณคุยไว้เสียมากมายไง ว่าจัดการได้สบายมาก กะอีแค่ผีเจ้าที่แรงเข้าหน่อย ก็ไม่มีปัญญาแล้วงั้นรึ”

    “พวกมันร้ายใช้ได้จริง ๆ ขนาดเจ้านายมันสู้ไม่ได้แล้ว ก็ยังต้านผมไว้ได้ถึงขนาดนี้ แถมยังมีตำรวจนั่นเข้ามาอีก” หมอคงพูดเรียบ ๆ

“แต่ผมจ้างคุณมาแพงนะ” อีกฝ่ายยังไม่ยินยอม

    ดวงตาคมมองมาวูบหนึ่ง เล่นเอาคนกำลังโวยชะงัก หากยังไม่ทันพูดอะไร ก็เห็นใบหน้านิ่ง ๆ นั้นแสยะยิ้ม

    “นั่นมันแค่ทักทาย ถ้าเจ้าตำรวจนั่นไม่เข้ามาแทรก แค่ส่งคนของคุณเข้าไปในบ้านสักคน ก็ปิดปากเจ้าหมอผีนั่นได้แล้ว จะจัดการมัน ไม่ใช่เรื่องยากเลย” หมอคงตอบง่าย ๆ มิได้สะทกสะท้านกับการโวยวายของอีกฝ่ายนัก

    “ทักทายงั้นเรอะ แค่เจอตำรวจคนเดียวก็หัวหดแล้วหรือไง ผมน่ะมีเส้นสายจากในกรม กะอีแค่จัดการตำรวจคนเดียว ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย”

    “แล้วทำไมคุณไม่จัดการล่ะครับ” หมอคงย้อนเข้าให้ คนพูดชะงักก่อนจ้องกลับ

“ฉันไม่อยากยุ่งยากเกินจำเป็น ยิ่งฆ่าเยอะ ก็ยิ่งต้องกลบเกลื่อนเยอะ ที่ฉันต้องการมีแค่เฮโรอีนที่เจ้านั่นเอาไป…กับปิดปากทุกคน ไม่ให้พูดเรื่องนี้ได้อีก…ตลอดกาลก็พอ!”

    คนมองมายิ้มน้อย ๆ “แต่ผมคิดว่า เจ้าหมอผีนั่น คงไม่ยอมบอกที่ซ่อนของง่าย ๆ นักหรอก การจะฆ่ามันน่ะ ไม่ยาก แต่การจะให้มันยอมเปิดปากนี่สิ”

    “ทำไมถึงคิดแบบนั้น” ชวรัตน์ถามขึ้นในทันที

    “ที่ผมหยั่งเชิงมันไป ก็เพื่อพิสูจน์สิ่งนี้ กับคนประเภทที่ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อเพื่อนและเพื่อคนที่ไม่รู้จักได้ จะไม่มีวันเปิดปากง่าย ๆ ถึงจะโดนทรมานปางตายก็ตาม คุณคงจำได้ ว่าผมจัดการชิดชัยขนาดไหน จนตายมันยังไม่ยอมปริปากเลยด้วยซ้ำ” หมอคงพูดต่อไป จากพฤติกรรมนั้นพอจะคาดเดาได้ชัด การที่อีกฝ่ายยอมใช้เวทย์ที่สิ้นเปลืองพลังเป็นอย่างมากตามการท้าทายนั้น แม้จะรู้ดีว่าเสี่ยงถึงชีวิต นั่นเป็นเพราะเจ้านั่น ต้องการปกต้องคนสำคัญไว้นั่นเอง

    ชวรัตน์นิ่งคิดไปเป็นครู่ คำพูดของหมอคงนั้นถูกต้อง ตอนทำพิธีสาปแช่งส่งคุณไสยไปจัดการชิดชัย ขนาดทรมานจนแสนสาหัส เจ้านั่นยังไม่ยอมบอก ว่าซ่อนของไว้ที่ไหน ขนาดใกล้จะตาย ชิดชัยยังตัดสินใจเขียนจดหมายขู่ แทนที่จะยอมจำนน นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเพื่อนคนนี้มากมายนัก ลงเชื่อใจขนาดยอมฝากชีวิตของลูกเมียไว้ นั่นย่อมไม่ธรรมดาแล้ว

    “แล้วคุณจะจัดการยังไง” เสียงที่พยายามทำให้สงบลงของชวรัตน์ถามกลับ

    “เราต้องกุมจุดอ่อนของมันไว้ แล้วค่อยใช้บีบให้มันยอมบอกที่ซ่อนของให้ได้” หมอคงตอบช้าชัด “และจากนั้น…จะปิดปากพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว!”

    “คุณรู้จุดอ่อนของมันแล้วงั้นรึ”

    คนถูกถามยิ้มน้อย ๆ อย่างเยือกเย็นจนน่ากลัว “ตอนที่มันกำลังลังเล ว่าจะจัดการพวกที่ผมส่งไปทั้งหมดในคราวเดียวดีหรือไม่…ในตอนนั้น…มีคน ๆ หนึ่งเข้ามาพอดี และมัน…ทำให้เจ้าหมอนั่น ยอมเสี่ยงลงมือแทบจะในทันที โดยไม่คิดหน้าคิดหลังอีก…แถมยังทุ่มสุดตัว ชนิดที่ไม่ห่วงกระทั่งชีวิตตัวเองเลยด้วยซ้ำ!”

    “ใครกัน” คนฟังชักเริ่มอยากรู้

    “ตำรวจคนนั้นของคุณไงครับ…ผู้กองปวินต์!”



    ยามเช้ามาเยือนจนได้ แสงที่แยงตาทำให้เจมส์หรี่ตาน้อย ๆ ก่อนลืมขึ้นอย่างช้า ๆ ร่างกายยังรู้สึกหนัก ๆ ล้า ๆ ไม่หาย ผลข้างเคียงของการใช้อาคมนั้นช่างทำให้เสียพลังงานมากเอาการจริง ๆ แต่ตอนนี้ก็เช้าแล้ว เขายังคงอยู่ในห้องพระเหมือนเดิม ท้องฟ้าที่เห็นจากหน้าต่างเปิดอ้า ยังดูแจ่มใส ไม่มีข้าวของถูกรื้อค้นหรือเสียหาย ทุกอย่างยังคงปกติ แสดงว่าเมื่อคืนเจ้าตัวแสบของเขากับท่านเจ้าที่คงจัดการได้เรียบร้อยดีสินะ

    สมองยังมึน ๆ ก่อนจะจำได้ว่าเรื่องราวมันไม่ได้มีแค่นั้น….ก่อนที่เขาจะสลบไป…ใครบางคน เข้ามาในห้องนี้

    ดวงตาคมหลับลงอีกครั้งอย่างใช้ความคิด…ใช่แล้ว เมื่อคืน เขากำลังจะร่ายเวทย์นั้น และกำลังคิดว่าจะค่อย ๆ จัดการทีละน้อยเพื่อออมกำลังกันไว้ก่อนดีหรือไม่

    แต่จู่ ๆ กายละเอียดที่มีโสตประสาทเป็นเยี่ยมกว่า กลับสัมผัสได้ ถึงการมาของใครบางคน

    รวมถึงกลุ่มวิญญาณร้าย ที่เริ่มมารุมล้อมร่างนั้น แม้ว่าเจ้าตัวจะมองไม่เห็น

    และเขาก็สัมผัสมันได้ชัดเจนในที่สุด ว่าคนที่มานั้นคือปวินต์!

    หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ เขาแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าทำอะไรไปบ้าง แต่การใช้พลังทั้งหมดลงไปในคราวเดียว กินแรงมากกว่าที่คิด ในที่สุดแล้วเขาก็หมดสติไป ความรู้สึกสุดท้ายที่หลงเหลือ คือมีคนโผล่เข้ามาในห้อง แล้วกอดเขาไว้ พลางร้องเรียกอย่างตกใจซ้ำแล้วซ้ำอีก

    ต้องใช่ปวินต์แน่ ๆ!

    แล้วตอนนี้ล่ะ?

    ชายหนุ่มขยับตัวจะลุกขึ้นแทบจะในทันทีที่ตั้งสติได้ ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกว่าบนหน้าขา มีอะไรนอนทับอยู่อีกแล้ว!

    พอมองให้ชัด ๆ เจมส์ก็แทบสะดุ้ง เมื่อพบว่าคนที่เขากำลังห่วงแสนห่วง กลับมานอนหลับอยู่ตรงนั้นเสียได้ แถมยังหลับสนิทอย่างสบายเสียจนน่าอิจฉา

    เขาแทบไม่กล้ากระดิกกระเดี้ยมากไปกว่านั้น ใบหน้าที่เอนอิงจนใกล้ชิด สัมผัสอุ่น ๆ ที่มีลมหายใจสม่ำเสมอแผ่วเบา กลับทำให้เขา…ใจเต้นแรง

    ชายหนุ่มกุมหน้าอกไว้ แอบกลัวว่าเสียงหัวใจที่เต้นดังของตัวเอง จะปลุกคนกำลังหลับให้ตื่นเสียได้

    หากเสียงหัวเราะคิกที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้เขาเผลอสะดุ้งสุดตัว

    “เฮ้ย เจ้าตัวแสบนี่ ตกใจหมดเลย!” เขาเผลอดุเจ้าของเสียงนั้นกลับไป ด้วยรู้ว่าเป็นใคร แต่เสียงที่เผลออุทานนั้น ก็ดังจนคนกำลังหลับเริ่มขยับตัว

    ชายหนุ่มอุดปากตัวเองโดยอัตโนมัติ ทว่ามันไม่ทันแล้ว

    คนกำลังหลับกลับขยับตัวเสียก่อน

    เสียงโวยวายนั้นทำให้ปวินต์ตื่นขึ้นจนได้ เป็นเพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน แถมจู่ ๆ ก็มีเสียงหนวกหู คนพึ่งตื่นเลยยังตื่นไม่เต็มตานัก เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างง่วงงุน หากมือที่เท้าลงไป กลับเจอกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แทนที่จะเป็นพื้นพรมอันนุ่มนิ่ม

    สัมผัสหยุ่นมือแปลก ๆ ทำให้คนยังไม่ตื่นดีชะงัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองให้ชัด ทว่าอีกฝ่ายที่กำลังมองลงมา กลับประสานสายตากันพอดิบพอดี

เสียงหัวเราะคิกดังมาอีกครั้ง อย่างไม่อาจข่มกลั้นได้ “พ่อฮะ ระวังจะโดนคุณตำรวจหม่ำนะ”

ตำรวจหนุ่มสะดุ้งกับคำพูดนั้น แม้จะยังไม่เห็นตัวคนพูดเลยตั้งแต่เมื่อคืนก่อน เพราะพอรู้สึกตัวตื่นเต็มตา มองจากที่เห็นเลยเหมือนกับกำลังคร่อมตัวเจมส์เอาไว้ซะนี่

พอรู้สึกตัว เขาก็รีบขยับตัวผละออกมาแทบจะในทันที ด้วยใบหน้าที่แดงฉาน

“คุณ…เอ่อ…มาตั้งแต่ตอนไหนน่ะครับ” เจมส์พยายามถามขึ้นเพื่อกลบบรรยากาศสีชมพูที่ขนาดตัวเขาเองยังทำอะไรไม่ค่อยจะถูกนั้น

ร่างผอมบางผุดลุกขึ้น แทบไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายตรง ๆ ก่อนพูดตะกุกตะกัก “กะ…ก็มาตั้งแต่เมื่อวานน่ะสิ นายน่ะ สลบไม่รู้เรื่องจนฉันต้องมานั่งเฝ้าอยู่นี่ไง จะออกไปก็ออกไม่ได้ ใครก็ไม่รู้ห้ามไว้…แถมรอบบ้านก็หยั่งกับเกิดสงคราม …อ้อ เสียงเมื่อกี้นั่นแหละ”

ว่าแล้วก็จ้องกลับมาอย่างโมโหนิด ๆ เมื่อรู้สึกว่าโดนปั่นหัวโดยทั้งพ่อทั้งลูกชอบกล

“’ลูกชาย’ ของนายสินะ ซ่อนอยู่ตรงไหนกัน บอกให้ออกมาซะที!”

ชายหนุ่มพยายามจะลุกขึ้น แต่ยังรู้สึกมึนหัวจนคล้ายบ้านจะหมุน ไร้เรี่ยวแรงจนต้องนอนลงซ้ำ พลังงานจากความตกใจ มีเพียงไม่นานจริง ๆ เสียด้วย เขายังคงขยับตัวลำบาก และปวดไปทั้งตัวจนแทบไม่อยากจะลุก

“อึก…” เสียงครางเบา ๆ กับใบหน้าที่ยังคงซีด ทำให้คนกำลังโวยวาย เลิกโวยไปโดยอัตโนมัติ เขารีบนั่งลงใกล้ ๆ พลางช่วยจับพยุงอีกฝ่ายให้นอนลง

“นายยังไม่หายเลยนี่ แล้วเป็นอะไรกันแน่ บอกให้ฉันรู้ทั้งหมดได้แล้วนะเจมส์” เสียงพูดแกมเป็นห่วงยังลงท้ายด้วยคำสั่งอย่างดุ ๆ เช่นเคย

คนโดนดุยิ้มแหย ๆ พลางพูดตอบขึ้นว่า “กลัวแล้วครับ ขอผมพักอีกสักหน่อย…สักครึ่งวันก็ได้ ผมสัญญาว่าจะเล่าให้คุณฟัง…เกือบทั้งหมดเลยเอ้า”

“ยังจะกั๊กไว้อีกนะ” คนฟังยังไม่พอใจนัก ก่อนระบายลมหายใจยาว “เอาเถอะ บอกอีกหน่อยก็ยังดีกว่าไม่บอกอะไรเลย นอนพักอีกสักหน่อยก่อนแล้วกัน หายแล้วค่อยคุยกันอีกที ว่าแต่ว่าตอนนี้ ออกไปได้แล้วใช่ไหมเนี่ย”

คนป่วยพยักหน้ารับ “ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับ ผมคิดว่างั้นนะ” เขาพูดต่ออย่างไม่มั่นใจนัก แต่แสงแดดยามเช้า จะชะล้างอาถรรพ์ออกไปได้ดี ช่วงนี้คงไม่มีอะไรอีก แม้เขาจะไม่แน่ใจเลย ว่าค่ำนี้…พวกมันจะมากันอีกไหม

    แผ่นหลังบอบบางที่กำลังจะเดินออกไป ทำให้คนมองอดรู้สึกเหงาไม่ได้ อาจจะเพราะอยู่คนเดียวมาเนิ่นนาน แม้จะมีบรรดาผี ๆ ค่อยอยู่เป็นเพื่อน แต่สัมผัสที่ได้รับ ย่อมไม่อบอุ่นและรู้สึกดี…เหมือนมนุษย์ที่ยังคงมีกายเนื้อให้อุ่นใจเป็นแน่

    โดยเฉพาะในยามป่วย…ที่จิตใจนั้นเปราะบางเป็นพิเศษเช่นตอนนี้

    เจมส์พยายามไล่ความคิดที่จะอ้อนอีกฝ่ายนั้นออกไป ปวินต์ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย แค่มาช่วยไว้เมื่อคืน ก็ดีมากแล้วแท้ ๆ น้ำเสียงของเขาที่พูดขึ้น จึงพยายามทำให้ดูปกติราวกับว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว

“คุณจะต้องไปทำงานสินะครับ ขอโทษที่เมื่อคืน ทำให้ต้องมาลำบากด้วย”

“ฉันจะโทรลางานวันนี้ ปล่อยนายไว้คนเดียวได้ยังไงกัน อ้อ ถึงลูกชายนายจะอยู่ด้วย ฟังจากเสียงก็ดูจะเด็กเกินไป คงช่วยอะไรไม่ได้มาก อย่าลืมล่ะ หายแล้วนายต้องเล่าให้หมดเปลือกด้วย มีลูกแล้วแบบนี้ ยังจะเอาเมียไปซ่อนไว้ไหน แล้วยังจะมาจีบ…”

“เมีย? จีบ…?” เจมส์ถามอย่างสงสัย เขากำลังจะหลับตาลงอีกรอบแล้ว ถ้าไม่สะดุดกับคำพูดอีกฝ่ายเสียก่อน

ปวินต์ชะงัก เมื่อรู้สึกว่าจะเผลอพูดอะไรมากเกินไปแล้ว เขาเป็นอะไรไปเนี่ย? ตำรวจหนุ่มเริ่มกลบเกลื่อนต่อในทันที

“เอ้อ ไม่มีอะไร ไว้หายก่อนค่อยคุยแล้วกัน” ว่าแล้วเขาก็มองชายหนุ่มตรง ๆ ก่อนจะย้ำขึ้นว่า

“เพื่อนช่วยเพื่อนเป็นเรื่องที่สมควรต้องทำอยู่แล้ว ห้ามคิดว่าฉันลำบากเพราะนายเด็ดขาด เข้าใจไหม”

คนฟังยิ้มรับเซียว ๆ ก่อนจะพึมพำขึ้นว่า “ขอบคุณครับ…ขอผมนอน…อีกสักพักแล้วกัน” พูดได้แค่นั้นก็หลับไปอีก ร่างกายที่สูญเสียพลังงานไปมาก กำลังต้องการการปรับตัว และการนอน เป็นการชดเชยที่ดีที่สุดสำหรับการนี้

ปวินต์มองคนกำลังหลับก่อนถอนใจยาว พอเรื่องยุ่ง ๆ หมดไป ก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา เจมส์หลับไปแล้ว และท่าทางคงไม่เป็นไรมากแล้วด้วย

ชายหนุ่มจึงเดินสำรวจบ้านของเจมส์อีกครั้ง เขาเคยเข้ามาแค่ห้องรับแขกที่อยู่ไม่ไกลออกไปจากห้องพระ บ้านหลังนี้มีห้องอยู่ไม่มากนัก แถมเหมือนจะไม่มีใครอยู่เลย ไม่ว่าจะเดินดูตามห้องทุกห้อง ก็ยังไม่มีใครอีก

เจมส์อยู่คนเดียว? แต่เขาก็ได้ยินเสียงเด็กจริง ๆ อยู่ดี

เอาเถอะ เลิกคิดมากได้แล้ว ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง เมื่อเผลอคิดไปว่านั่นอาจจะเป็นเสียงของ…

ผีมีจริงที่ไหน เขาอาจจะตกใจจนเบลอหูเพี้ยนไปเองก็ได้

    ปวินต์รีบปฏิเสธความคิดนั้น ก่อนลงมือสำรวจครัวเพื่อเตรียมอาหารให้กับตัวเองและคนป่วย

   

    ห้องครัวของที่นี่ดูโบราณนัก เข้ากับสภาพบ้านกึ่งทรงไทยโบราณ ที่ยังคงมีนอกชานไว้รับแขก แถมยังยกใต้ถุนสูงนั่นจริง ๆ ผนังครัวออกแบบโปร่งเป็นไม้ขัดกันเป็นตาราง ฝาผนังห้อยเครื่องครัวพวกหม้อกระทะ แขวนไว้เป็นระเบียบที่อีกด้าน แต่แม้จะดูโบราณอย่างไร ครัวนี้ก็ยังดีตรงมีตู้เย็นอยู่ด้วย

    ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเปิดประตูตู้เย็นก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากที่กวาดสายตาสำรวจดูข้าวของที่แช่ไว้ภายใน เขาก็เริ่มอมยิ้ม ดีจริงที่ในตู้เย็นมีของสดเหลืออยู่ ทำอาหารอ่อน ๆ พวกข้าวต้มดีกว่า ถ้าเจมส์ตื่นมาอีกทีจะได้…

    หน้าที่เผลอยิ้มจนหุบไม่ลงของตัวเองทำให้ชายหนุ่มชะงัก เมื่อเผลอคิดถึงใบหน้าดีใจของใครบางคนเข้า ถ้าได้ชิมอาหารมื้อนี้

เขาไม่เห็นจะต้องดีใจเลยนี่ ที่จะได้ทำอาหารให้เจ้าบ้าที่ทำให้เขาแทบไม่ได้หลับได้นอนเมื่อคืนกิน

    แต่ก็นะ…ถือว่าใช้หนี้ค่ากาแฟวันก่อนก็แล้วกัน!

    ปวินต์บอกกับตัวเอง ก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ แล้วลงมือทำอาหารอย่างมีความสุข


(TBC)

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #78 เมื่อ12-07-2011 17:34:35 »

แหม คุณตำรวจ ทำตัวน่ารักนะเนี่ย ชอบเค้าเข้าแล้วล่ะสิ อิอิ  :impress2:
รอติดตามอยู่ค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #79 เมื่อ12-07-2011 17:45:06 »

หายใจโล่งไปอึกหนึ่ง แต่ลูกต่อๆไปละจะขนาดใหน  ลุ้นสุดตัว  สนุกแบบหยองๆ  กุมารเคนกอดทีได้ป่าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
« ตอบ #79 เมื่อ: 12-07-2011 17:45:06 »





ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #80 เมื่อ12-07-2011 17:58:38 »

มาติดตามอ่านด้วยคนครับ ไม่ค่อยได้อ่านนายเอกที่เป็นตำรวจ

แถมคนทรงเจ้าเป็นลูกครึ่งอีก มีกุมารทอง มีผีไทย

สนุกครับ +1

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #81 เมื่อ12-07-2011 18:06:06 »

อิอิ ลุ้นกันต่อไป

@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #82 เมื่อ12-07-2011 18:25:28 »

ครั้งนี้ก็โดนไปไม่ใช่น้อยแล้ว
ไม่อยากจะคิดถึงครั้งต่อไปเลย
คุณตำรวจดูแลตัวเองด้วยน่ะ
คิดว่าคงโดนอีกฝ่ายจับตาและเล่นไม่ซื่อแน่นอน
 :กอด1: :L2: :pig4:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #83 เมื่อ12-07-2011 18:45:13 »

เจมส์ได้นอนพักเต็มที่ ตอนตื่นมายังจะได้กินข้าวต้มที่คงจะแสนอร่อยกว่าข้าวต้มใดๆอีก
แบบนี้เรี่ยวแรงและพลังที่เสียไปจากการต่อสู้ คงคืนมาได้เร็วๆเนอะ
สังหรณ์ใจว่าไอ้หมอผีคงจะหาทางเล่นงานคุณตำรวจ
เพราะคงจะรู้แล้วว่าเป็นจุดอ่อนของเจมส์

raphaello

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #84 เมื่อ12-07-2011 18:58:31 »

งึมม พ่ออย่าปล่อยว่าที่แม่เจ้าจุกออกจากบ้าน้า

เดี๋ยวไม่ได้กลับ หมอคงรอจับอยู่


วินแม่บ้านนนน

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #85 เมื่อ12-07-2011 18:58:50 »

คุณตำรวจน่ารัก :-[
ทำตัวน่ารักแบบนี้เจมส์จะไปไหนรอด :laugh3:

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #86 เมื่อ12-07-2011 20:03:39 »

คุณตำรวจน่ารักจัง แถมใจดีด้วย
ตอนต่อไปต้องหวานๆๆๆแน่เลยยย
รึจะเจอพวกก่อกวนเนี้ย?

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #87 เมื่อ12-07-2011 20:23:00 »

เพิ่งมีโอกาสอ่านครับ
สนุกจนไม่อยากละเลยครับ
ชอบ!!!!!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2011 16:56:53 โดย ordkrub »

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #88 เมื่อ12-07-2011 20:27:33 »

รอลุ้นต่อค่ะ

 :really2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 5/1 (12/7/11)
«ตอบ #89 เมื่อ12-07-2011 21:36:09 »

สั้นไปเปล่าหว่า  เหมือนยังอ่านไม่จุใจเลย   ตอนนี้เริ่มน่ารักทั้งคู่เลย  อิ อิ
หมอผีเอาไว้ทีหลังก่อนเน้อ  ให้ได้หายใจหายคอกันก่อนเถอะนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด