ตอนที่ 28"กูมีเรื่องปิดบังมึง กูไม่รู้ว่าควรจะบอกรึเปล่า แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเริ่มพูดยังไง"
ผมพูดขึ้นหลังจากชวนกันกลับขึ้นมาบนห้อง ใช้คีย์การ์ดสำรองของอีกคนเปิดเข้ามา เมื่อคืนผมคิดมากจนหลับตาไม่ลง ผมจ่อจมอยู่กับความหลอกลวงของตัวเองจนไม่กล้ายอมรับความรู้สึกของโซ่ ผมอยากจริงใจให้ได้อย่างโซ่ อยากอยู่ใกล้ๆ อย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่ต้องแกล้งทำเป็นลืมว่ามีความลับอยู่แค่ใต้จมูกนี่เอง
"ที่คิดมากเพราะรู้สึกผิดต่อกูงั้นเหรอ? "
"ละอายใจมากกว่า พอเห็นมึงถือแฟ้มที่สืบมานั่นในมือ กูก็รู้ตัวว่ากูไม่ซื่อตรงกับมึงเลย"
"พูดเรื่องอะไรกันน่ะวิน?"
"เมื่อวาน..กูตกใจเสียงปืน กลัวมากจนตัวสั่น จนเป็นลมไป...เพราะกูนึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินเสียงมันใกล้ๆ เมื่อก่อน"
"แต่ก่อนมึงก็เคยยิงปืนในสนามฝึกนี่นา"
"ใช่... ที่กูจะบอกก็คือ กูไม่ใช่วินคนนั้น"
"มึงเคยบอกแล้ว"
"ไม่ใช่ กูหมายถึงคนละคนกันจริงๆ ตัวจริงกูน่ะตายไปแล้วตอนที่โดน...
โอ้ยยยยยย!!! "
ผมกุมหัว เจ็บร้าวไปทั้งกะโหลก เห็นมือตัวเองลั่นไกไปที่เป้ากระดาษ เสียงดังกึกก้อง แล้วก็เห็นตัวเองกุมท้องที่เลือดซึมออกมานอนอยู่ในสถานทีอีกแห่งนึง แสงจ้าวาบเข้ามาจนปวดหัวตุบ
"วิน! เป็นอะไรไป ปวดหัวเหรอ"
ผมลืมตาอย่างยากลำบาก เงยหน้าจะตอบโซ่ แต่ก็มองเห็นสิ่งที่น่าตกใจ
"เจ้าเด็กอายุยืน อย่าสร้างเรื่องยุ่งยากให้เราสิ"
ยมทูตที่ผมเคยเจอกำลังยืนอยู่ติดกับตัวโซ่ เขม้นมองมาที่ผม แต่โซ่ดูจะมองไม่เห็น ไม่รู้สึกเลย เงาดำๆ ผุดขึ้นรอบห้องทุกทิศทุกทาง พลันกลายเป็นผู้คนในอยู่ในชุดสุภาพสีดำสนิททั้งตัวนับสิบคน เหมือนกลุ่มคนที่มาร่วมพิธีศพไม่มีผิด ผมหันล่อกแล่กมองสิ่งเร้นลับทั้งหลายเหล่านั้นอย่างพรั่นพรึง ทุกคนไม่มีเส้นผมหรือคิ้ว แม้แต่ผู้หญิงที่ใส่ชุดลูกไม้สีดำ กระโปรงยาวกรอมเท้า หัวโล้น ผิวซีดเผือดและนัยน์ตาไม่มีแววเหมือนกันหมด
"เจ้าจะบอกว่าพวกมนุษย์เหล่านี้ว่าเจ้าฟื้นคืนจากความตายไม่ได้ พวกกิเลสหนาทั้งหลายที่ไม่อยากตาย จะรุมทึ้งเอาความจริงจากเจ้าเป็นเรื่องใหญ่ พวกที่มีพอจะมีสัมผัสก็จะพยายามติดต่อเราแล้วเรียกร้องขอในสิ่งที่ขัดต่อวัฏจักร ไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักพอ"
ยมทูตทุกตนขยับปากพูดพร้อมๆ กัน โทนเสียงเรียบไม่มีสูงต่ำ บางตนหันมองหน้าเหมือนคุยกัน แต่คำพูดก็ยังพร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียวเหมือนท่องบทสวด
"เจ้าเป็นเช่นคนตายแล้วเกิดใหม่ ดังนั้นก็จงลืมเรื่องอดีตชาติเช่นพวกเกิดใหม่ทั้งหลาย"
"ไม่..ไม่เอานะ ได้โปรด ผมไม่อยากลืม"
"เจ้ากำลังลืมไปอยู่ทุกวันอยู่แล้วดวงวิญญานเอ๋ย แต่ท่าว่าช้าไป จะไม่ทันการ..."
"วิน มึงเป็นอะไร มองหน้ากูสิ"
ผมต้องรีบบอก
"วินตาย..." ผมพูดอยู่ต่อไป แต่ไม่ได้ยินเสียงตัวเองที่บอกโซ่ว่าวินตัวจริงนั้นตายไปแล้ว เหมือนเสียงของผมหายไปเฉยๆ โซ่มีสีหน้าปนกันทั้งตระหนกและงุนงง ผมวิ่งไปหยิบแฟ้มมาจะเปิดให้โซ่ได้อ่านหน้าสุดท้าย เรื่องนาวิน พาริตา อีกคนที่ตายไป แต่พอเปิดดูหน้าแรกก็เห็นแต่เพียงกระดาษเปล่า ผมพลิกหน้ากระดาษอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกหน้าล้วนว่างเปล่าไม่มีรูปหรือข้อความใดๆ ผมมองเหล่ายมทูตที่ค่อยๆ สลายเป็นเงาสีดำจางหายไปกับผนังห้องทีละตน ผมพูดว่าอย่า ได้โปรด ขอร้องกับผู้ที่ให้ผมมาอยู่ในร่างนี้ แต่ไม่มีเสียงใดเปล่งออกไป ท่านยมทูตหลับตาและก้มหน้าลงช้าๆ แล้วสติของผมก็ดับวูบลง
ผมรู้สึกถึงแรงบีบเบาๆ ที่มือซ้าย ผมเงยหน้าเห็นน้องสาวตัวดีนอนฟุบหน้าอยู่ข้างเตียง มองไปรอบๆ แล้วเห็นบรรยากาศชวนป่วยของโรงพยาบาล ผมดึงมือออก พิณเงยหน้าแล้วเรียกชื่อผมอย่างดีใจ ผมสับสนงุนงงไปหมด รู้สึกแปลกๆ เหมือนกำลังฝันอยู่ ฝันถึงใครสักคน
"หิวน้ำ"
พิณไปเทน้ำแล้วใส่หลอดมาป้อนให้ ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วรับแก้วมาดื่มเอง น้องสาวขี้วีนเอาแต่เรียกผมว่าพี่วินไม่ก็พี่วินคะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว พิณไปปลุกคนที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมาที่เตียงผม... ไอ้โซ่นี่นา
"วิน เป็นยังไงบ้าง"
"กูเป็นอะไร? "
"มึงปวดหัวแล้วก็หมดสติไป"
"งั้นกูกลับได้แล้วใช่มั้ย? "
"ไม่อยู่ให้หมอเช็คให้ละเอียดหน่อยเหรอวิน"
ผมดึงผ้าห่มออก โดดลงจากเตียง อาการมึนๆ ทำให้เสียการทรงตัว ไอ้โซ่เข้ามากอดเอวแล้วจับแขนให้ไม่ล้ม พาเดินไปที่ห้องน้ำ พิณจัดเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ผมรู้สึกพิลึกๆ เหมือนอะไรมันผิดที่ผิดทางยังไงไม่รู้ วิธีที่สองคนดูแลผมดีเป็นพิเศษก็รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องปรกติ...ทั้งที่มันผิดปรกติ ผมมองกระจกแล้วแต่งตัว แต่รู้สึกไม่มั่นใจตัวเอง ผมปัดปลายผมออกจากตา คิดอะไรไม่ออก ทำไมมันว่างเปล่า ทำไมมันรู้สึกไม่เจ็บ ไม่ทุกข์ ไร้ตัวตน มีแต่ความคิดถึงใครสักคนจนหนักอึ้ง ผมเดินออกมาอย่างกระสับกระส่าย จมอยู่กับการวิเคราะห์ตัวเองจนตอนที่ลงมาข้างล่างแล้ว พิณต้องเปิดประตูรถให้เข้าไปนั่ง
"ฝากดูแลพี่วินหน่อยนะคะ"
"อื้ม ไม่ต้องเป็นห่วง"
โซ่เข้ามานั่งที่นั่งคนขับ ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเคยนั่งข้างกันแบบนี้ แต่ตอนนั้นเป็นรถผม ...หรือว่าผมคิดถึงยัยหนูนั่น
"รถกูล่ะ"
"อะไรนะ? "
"รถกูเป็นไงบ้าง"
"ก็พังตอนรถชนไง"
"รถชน?? "
ใช่... ผมนอนกับนุกแฟนของโซ่แล้วใช้ให้ไอ้ปาล์มไปส่งข่าวบอกมัน ผมไม่คิดว่าไอ้โซ่จะโมโหมากขนาดนั้น แต่ทำไมผมถึงทำอะไรแบบนั้นล่ะ ทำไมต้องกลั่นแกล้งทรมานเพื่อนตัวเองด้วย ผมสะบัดหัวแรงๆ วันนั้นผมขับรถเร็วฉิวอย่างสบายใจเฉิบ ขณะที่ไอ้โซ่โวยวายอยู่ข้างๆ ผมตอบคำถามมันแค่นานๆ ครั้ง และเป็นคำตอบแบบส่งๆ รอคอยให้มันตะคอกจนเหนื่อยไปเอง
"กูจำได้แล้ว มึงไปหากูที่ห้อง กูยังจะออกไปข้างนอกอีก แล้วมึงก็ตามขึ้นรถมาแล้วทำให้รถเสียหลัก"
"ความจำมึงกลับมาแล้วเหรอ? "
"ก็ไม่ได้ลืมนี่ พอพูดถึงก็นึกออกทันทีเลย"
"ก็มึงความจำเสื่อม..."
".......กูจำได้ มึงโซ่ไง เพื่อนสมัยเด็ก กูยังจำเรื่องที่มึงฟ้องพี่คินได้ทุกเรื่องเลย"
"มึงจำได้แค่ไหน"
"ก็ ไม่รู้ดิ ถามมาดิว่าเรื่องไหนกูนึกออกบ้าง"
"มึงจำได้มั้ยว่าเคยเอาบุหรี่จี้กู ตอนกูไล่มึงออกจากห้อง"
"จำได้"
"มึงจำได้มั้ยว่าทำอะไรน้องแก้ว"
"กูเมา แล้วก็รำคาญมันตื้อ ก็เลย...ทำอะไรเกินขอบเขต"
"แล้วเรื่องหลังจากรถชนล่ะ จำอะไรได้บ้าง" โซ่เขยิบเข้ามาใกล้ นี่มึงจะจับมือกูทำไมน่ะ?
"หลังจากรถชนอะไร กูก็ตื่นมานี่ไง นี่มึงทำกูงงไปหมดแล้วนะ"
"นั่นมันเหตุการณ์ผ่านมาจะเดือนนึงแล้วนะ... นี่มึงจำเรื่องที่คบกับกูได้มั้ยเนี่ย?"
"ห๊ะ??? "
"มึงไปอยู่กับกูแล้วเราก็คบกัน เป็นแฟน"
"จะบ้าไปแล้วรึไง! กูกับมึงเนี่ยนะ อย่ามาหลอกอำอะไรไร้สาระ"
".....วิน...จำตอนที่เรานั่งกันบนโซฟาได้มั้ย ที่มึงร้องเพลง..."
"กูไม่ร้องเพลง"
"จำตอนที่เรานั่งกินข้าวด้วยกันได้มั้ย"
"ไม่!!! "
"มึงเคยบอก ว่าจะไม่มีวันกลับเป็นคนเดิม"
"กูไม่รู้เรื่อง กลับกันได้ยัง กูรู้สึกไม่ค่อยดี"
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย ทั้งผม ทั้งทุกคนเพี้ยนไปหมดแล้ว ผมรู้สึกแน่นหน้าอก ทำไมความรู้สึกอึดอัดลวงๆ นี่มันไม่หายไปซะที ผมนั่งกระสับกระส่ายตลอดทาง มองไอ้โซ่ก็ทำหน้าเคร่งเครียด มันไม่เคยใส่ใจกับคำพูดผมนี่นา ไม่ว่าผมจะทำอะไรมันก็มีภูมิต้านทานมากกว่าคนอื่น ไม่รู้สึกรู้สา
"ทำไมมาทางห้องมึงเนี่ย? "
"มึงอยู่กับกูสักพักแล้ว ตอนที่จำอะไรไม่ได้ ข้าวของก็อยู่ที่นี่เกือบหมด"
"มึงพูดจริงๆ เหรอ? กูความจำเสื่อมจริงๆ เหรอ? "
"ใช่"
"มิน่า ถึงรู้สึกเหมือนอะไรมันขาดไป"
"ไม่ต่างอะไรกับทางนี้หรอก"
"ว่าไงนะ? "
"ไม่มีอะไร ก็นอนห้องเล็กกูไปก่อนแล้วกัน กูรับปากแล้วยังไงกูก็ต้องดูแลมึง"
ผมเดินเข้าไปในห้อง มองข้าวของทุกอย่างอย่างคาใจ ผมเคยเห็นมันมาก่อนจนชินตาแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกคุ้นเคยและสบายใจเท่านี้มาก่อน แม้แต่กับที่บ้านก็ตาม ผมมาอยู่กับโซ่มันเป็นเดือนได้ไงนะ ผมเดินเข้าห้องนอนเล็กที่มายึดเป็นเจ้าของโดยพละการ ข้าวของทุกอย่างจัดวางอย่างเรียบร้อยสะอาดตา ผมนอนปุ่ลงบนเตียง หัวสมองว่างเปล่า ไม่รู้สิ เหมือนตัวเองไม่มีแรงขับเคลื่อน ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่คิดร้ายกับใคร ไม่อยากได้ใครมาครอบครอง มันผิดวิสัยจนเหมือนไม่ใช่ตัวเอง มีแค่ความรู้สึกปวดใจที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไป ทำไมถึงคิดถึงขนาดนี้นะ ผมนอนคิดด้วยความว้าวุ่นใจ ก็พอดีกับสายตาที่เหลือบไปมองเห็นสร้อยข้อมือบนโต๊ะ
"ใครให้นี่มาอ่ะ? "
ผมเดินไปถามโซ่ในครัว มันกำลังเอาของในตู้เย็นทิ้งลงถังขยะ ของสดทั้งนั้นเลยแฮะ ใครมาทำอาหารที่นี่เนี่ย
"ไอ้เก้าล่ะมั้ง" มันตอบเรียบๆ
"พี่ชายแก้วน่ะนะ? ทำไมมันต้องมาให้ของกูด้วยวะ"
"มึงขอโทษแก้วไปตอนอาทิตย์ที่แล้ว น้องเค้าก็ยอมยกโทษให้แล้ว ส่วนไอ้เก้า กูไม่รู้เรื่องระหว่างพวกมึงสองคน"
"...ยืมรถหน่อยสิ"
"มึงขับรถได้แล้วเหรอ? "
"ก็ขับได้นี่ มีอะไรแปลก? "
"มึงบอกทางมา กูไปส่งให้เอง"
ผมกับโซ่นั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงห้องของเก้าและน้องแก้ว โซ่ถึงพูดอะไรแปลกๆ อีก
"มึงจำเรื่องที่เป็นแฟนกูไม่ได้ แต่จำเรื่องของไอ้เก้าได้งั้นเหรอ? "
"กูจะไปเป็นแฟนกับมึงได้ยังไงโซ่ นึกภาพไม่ออก"
"แล้วนึกภาพตอนไปเดทกับเก้าได้รึไง? "
"กูแค่จะไปถามว่ามันซื้อไอ้นี่ให้กูทำไม กูเคยทำเรื่องแย่ๆ กับมันตั้งเยอะ เป็นอริกันด้วยซ้ำ"
"แล้วกูล่ะ"
"อะไร? "
"กูโดนหนักกว่ามันตั้งเยอะวิน เรายังกลายเป็นแฟนกันได้ ทำไมถึงได้ลืมไปง่ายๆ ล่ะ ทำไมมึงถึงผิดคำพูด มึงพูดเองว่าจะไม่มีทางกลายเป็นไอ้วินคนเดิม"
"มึงพูดบ้าอะไรกูไม่รู้เรื่อง"
"กูเคยเกลียดมึงวิน แล้วกูก็รักมึงจนแทบบ้าตาย จะให้กูกลับไปเกลียดมึงเหมือนเดิมได้ยังไง"
"รัก...เนี่ยนะ รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าพูดอะไรออกมา มึงมันบ้าไปแล้ว"
"ช่างเถอะ กูจะไม่ยุ่งกับมึงแล้ว อยากไปไหนก็ไป"
ผมลงจากรถมาอย่างลังเลใจ ทำไมแค่มาคุยกับไอ้เก้าถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่นัก โซ่มันไม่ได้มีท่าทีว่าล้อเล่นเลย แล้วทำไมผมต้องแคร์ว่ามันทำหน้าเจ็บปวด ทำไมผมต้องรู้สึกหนักอึ้งและจุกในอก ช่วงเวลาที่หายไปของผม เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเต็มไปหมด แม้แต่ตอนนี้ที่รู้สึกตัวตื่นมาแล้ว ก็ยังคล้ายเดินเตร่อยู่ในความฝันของคนอื่น บางครั้งผมก็รู้สึกว่าขัดแย้งในตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าอดีตเคยทำอะไรร้ายๆ ไว้กับโซ่และคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องทำให้คนอื่นเจ็บปวดด้วย เหมือนไม่ใช่สิ่งที่ผมทำเป็นปรกติเลย ทำไมผมถึงเป็นคนที่เลวร้ายแบบนั้น ผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นผมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด
ไอ้สำนึกผิดชอบชั่วดีนี่มันมาจากไหนกัน
ออด...
ผมกดกริ่งหน้าห้องสองพี่น้อง
ออด..ออดดดด....
"วิน? "
"ไอ้ริว ทำไมมึงมาอยู่ห้องเก้าวะ? "
"เก้ามันไม่สบาย ความผิดกู เลยต้องเฝ้าไข้"
"...กูมีเรื่องจะคุยกับเก้าหน่อย"
"ไม่ได้ มันเพิ่งหลับไปตะกี้เอง เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงค่อยมาใหม่ละกัน"
".....งั้นมันตื่นเมื่อไหร่ บอกให้หน่อยว่ากูมีเรื่องอยากถาม"
"เดี๋ยววิน"
"อะไร"
"กูรู้ว่าเก้าชอบมึง แต่ในเมื่อมึงรักไอ้โซ่ไปแล้ว กูขอไอ้เก้านะ"
ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เก้าน่ะเหรอชอบผม แล้วแม้แต่ไอ้ริวก็ยังบอกว่าผมกับโซ่รักกัน?
"กูเนี่ยนะรักมัน?
"กูเคยมองอะไรพลาดมั้ยล่ะ? "
"ไม่เคย... แต่มึงมันไว้ใจไม่ได้"
"เออๆ กูไม่ต้องการความเชื่อใจจากมึงหรอก อีกอย่าง กูเองก็ยังสงสัยหลายๆ เรื่องของมึงอยู่นะ บ๊ายบายไอ้ปีศาจ"
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
งงกันหรือเปล่า? นี่ยังเป็นหนูวินอยู่
คือแต่เดิมวินจะค่อยๆ ลืมเรื่องร่างเก่า แล้วสามารถจำอดีตของวินเจ้าของร่างได้ทีละนิด
แต่เพราะสืบจนได้รูปได้ข้อมูลมาแล้วจำได้หมดทุกอย่าง ทั้งยังจะบอกความจริงโซ่อีก จึงโดนลบความทรงจำ...
ส่วนวินตัวจริง ไม่กลับมาแล้ว
ขออภัยในความพิลึกกึกกือ
*edit - จะขยายความในตอนหน้านะคะ อยากอธิบายยาวๆ เดี๋ยวกลายสปอยล์ไป...