ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช  (อ่าน 248981 ครั้ง)

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อากริชนี่ ไปทำสัญญาไรซักอย่างกะปีศาจเพื่อยกชีวิตตัวเองแลกกับชีวิตหรือสุขภาพที่แข็งแรงของตุลรึป่าว (เดาไปเรื่อย) ดูอากริชรักตุลม้ากมาก

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
สนุกค่ะ แหวกแนวดี
แต่ก็หลอนนิดๆๆๆอ่ะน่ะ
สู้ๆๆๆๆ จะรอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
เปิดผ่านไป ผ่านมาอยู่นาน กว่าจะทำใจอ่านได้
สุดท้ายอ่านตอนแรกไม่จบ แบบว่าหลอนก่อนนอน
มาแอบอ่านเอาที่ทำงาน เสี่ยงดี แต่คนอยู่เย๊อะ 5555
สนุกจังค่ะ แต่ว่าพระเอกนี่ อากริชหรอคะ แบบว่า อา-หลาน อ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
อิจฉาตุลนิดหน่อยมีเพื่อนเป็นผี :laugh:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ม่านราตรี
 บทที่ 7



    เช้าวันใหม่อันแสนคึกคักกว่าปกติของคฤหาสน์ม่านราตรีเวียนมาถึง ตุลาได้โทรไปบอกคุณนายแม้นศรีผู้ให้เช่าถึงเรื่องที่เขาจะขออนุญาตปรับปรุงบ้าน  ซึ่งเจ้าหล่อนพอรู้ว่าตุลาจะลงมือปรับปรุงคฤหาสน์ของเธอให้ โดยเสนอออกเงินเองทั้งหมด เธอก็มีน้ำเสียงยินดีเป็นอย่างยิ่ง แถมยังบอกให้ตุลาปรับปรุงไปได้ตามสบายเลยอีกด้วย ไม่ผิดกับที่พวกพาทิศเคยบอกไว้แม้แต่น้อย

    และจากนั้น ตุลาก็ต้องทึ่งอีกครั้ง เมื่ออำนาจเงินที่เขาสั่งจ่ายออกไป มันได้บันดาลความสะดวก เรียบร้อยในชั่วเวลาไม่นานให้กับเขาอย่างน่าอัศจรรย์

   เพียงแค่ครึ่งวัน สวนของคฤหาสน์ก็ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนสวย แตกต่างจากสวนรกครึ้มดูน่ากลัวของเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง สำหรับปิ่นสุดานั้น เงือกสาวได้ย้ายไปอยู่ในบึงใหญ่ชั่วคราว โดยมีรุ้งพรายตามไปอยู่เป็นเพื่อน โดยทั้งคู่ตั้งใจว่า ถ้าสวนและบ่อน้ำทำความสะอาดเสร็จ จึงค่อยกลับมาอยู่ใหม่อีกครั้ง



    ส่วนเรื่องการทาสีบ้านทั้งหลังที่ค่อนข้างเป็นเรื่องยุ่งยากและเป็นงานใหญ่ ตุลาได้จ้างช่างรับเหมาให้มาจัดการทาสีให้เขา ด้วยสีมีคุณภาพและเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะแพ้กลิ่นสีและทินเนอร์ เขาจึงไปกางเต็นท์อยู่นอกบ้านแทน อาหารการกินก็อาศัยซื้ออาหารสำเร็จรูปมากินประทังชีวิตไปก่อน หรือไม่ก็โทรสั่งพวกพิซซ่ามากินแทน

    ครั้นพอตกกลางคืนก็มีพวกพาทิศ ราตรี ปิ่นสุดา และ รุ้งพราย คอยแวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยไม่ให้ชายหนุ่มได้เหงา  แต่นั่นกลับทำให้พวกช่างทาสี รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ เมื่อเจ้าของบ้านที่ควรมีแค่คนเดียว แต่บางครั้งพวกเขาก็เห็นเหมือนมีคนอื่นเดินไปมา หรือแม้แต่กระทั่งลอยวูบวาบผ่านไปในสวน  แต่เมื่อตุลายืนยันหนักแน่นว่าไม่มีใครนอกจากเขา ก็ทำให้พวกนายช่างข่มความกลัวแล้วรีบทำงานอย่างขยันขันแข็ง เพื่อให้งานเสร็จโดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

   และแล้ว คฤหาสน์ม่านราตรี ก็กลับกลายมาเป็นคฤหาสน์หลังใหม่ที่สวยงาม ไม่แตกต่างจากที่ตุลาเคยได้ดูในรูปซึ่งแม้นศรีนำมาให้เขาดูก่อนเซ็นสัญญาแม้แต่น้อย

   

   “ว้าว! เหมือนเมื่อสมัยก่อน ตอนที่นายท่านยังอยู่เลยเนอะ!”

   รุ้งพรายวิ่งไปมาทั่วสวนอย่างชื่นชม  นับจากที่ได้ออกมาชมผลงานหลังพระอาทิตย์ตกดิน และบรรดาช่างทาสีทั้งหมดกลับไปเรียบร้อย สวนสวยเปิดไฟสว่างทั้งหมด โดยมีตุลาคอยเดินเก็บภาพความประทับใจของคฤหาสน์หลังนี้ ผ่านกล้องวิดีโอที่เขาลงทุนซื้อ

   “เอ้า! มัวแต่ถ่ายวิดีโออยู่ได้ มานี่เร็ว ๆ เข้า นายต้องเป็นเจ้าภาพ เปิดงานเลี้ยงฉลองปรับปรุงคฤหาสน์หลังใหม่นะ ”

   รุ้งพรายตะโกน ทำให้ตุลาวางมือ แล้วเดินมายังโต๊ะยาวที่ทุกคนช่วยกันยกมาจัด มีทั้งเครื่องดื่ม และอาหาร ที่เตรียมไว้สำหรับตุลา  ปลาสด ๆ สำหรับปิ่นสุดา และนมชามใหญ่ของปีศาจแมวสาว ส่วนพาทิศและราตรีนั้นไม่ได้กินดื่มอะไร แต่ทั้งคู่ช่วยกันเทเครื่องดื่ม และคอยหยิบตักอาหารให้กับตุลา จนชายหนุ่มนึกเกรงใจ

    “ดีจังนะครับ ตอนแรกยังหนักใจอยู่เลยว่าต้องมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ ๆ แบบนี้คนเดียวตั้งเกือบปี แล้วผมจะทำยังไงดี”

   ตุลาบอกออกไปตามตรงด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ จนคนมองแต่ละคนอดนึกสงสารและเห็นใจอีกฝ่ายไม่ได้

   “แล้วทำไมต้องมาเช่าบ้านอยู่ลำพังแบบนี้คนเดียวด้วยล่ะ เขียนนิยายน่ะ เขียนที่ไหนก็ได้นี่”

   รุ้งพรายถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้ ตุลานิ่งเงียบ แต่พอจะบอกความจริง ร่างโปร่งใสของกริชก็ปรากฏกายขึ้นข้าง ๆ ชายหนุ่ม พลางตอบคำถามนั้นแทนหลานชาย

   “ก็ฉันเห็นว่าบ้านหลังนี้ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ และอีกอย่างก็มีวัตถุดิบให้ตุลได้ศึกษาแบบตรง ๆ ก็เลยสั่งเสียให้เขาเช่าบ้านหลังนี้ไว้ยังไงล่ะ ความจริงก็ได้คุย ๆ กับคุณจอมเดชไว้บ้างแล้ว  แต่เพราะติดอยู่ตรงที่อยากให้ตุลเรียนให้จบก่อน ก็เลยให้รอเวลาเกือบสิบปีถึงค่อยให้เปิดพินัยกรรมล่ะนะ”

   คนอื่นฟังแล้วก็ทำตาปริบ ๆ เพราะคนที่จะคิดการณ์ไกลก่อนตัวเองตายแบบนี้นั้น ถือว่าหาได้ยาก เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ต้องรู้วันตายตัวเองล่วงหน้าล่ะ ถึงจะวางแผนเตรียมพร้อมได้ออกมาราว ๆ นี้

   “อากริชครับ ...แล้วทำไมอาถึงกลายมาเป็นวิญญาณคุ้มครองผมได้ล่ะครับ ...อาควรจะได้ไปเกิดแล้วนี่ครับ”

   ตุลาลองตัดสินใจถามอีกครั้ง แต่เขาก็เผื่อใจไว้ครึ่ง ๆ ว่าอาจจะไม่ได้รับคำตอบเหมือนเดิม แต่คราวนี้ กริชกลับยิ้มให้เขาน้อย ๆ แล้วจึงตอบคำถามของหลานชายออกไป

   “เพราะอาอยากอยู่ดูแลตุลมากกว่าน่ะสิ บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงอยู่ กลัวหลานจะอาการกำเริบป่วยหนักเหมือนตอนเด็ก ๆ ขึ้นมาน่ะ”

   กริชบอกแล้วลูบศีรษะของหลานชายของตน ความอ่อนโยนและรอยยิ้มของกริช ทำเอาตุลาพึมพำอย่างสำนึกผิด

   “เป็นเพราะผมที่รั้งอาเอาไว้ใช่ไหมครับ...ผมขอโทษนะครับ...ทั้งที่อาน่าจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีกว่าแท้ ๆ”

   วิญญาณหนุ่มยิ้มเศร้า ๆ เมื่อได้ยินคำพูดหลาน

   “มันก็ไม่แน่หรอกนะตุล ว่าถ้าอาไปที่นั่นแล้วจะดีกว่าเดิม ...”

    กริชเปรยเบา ๆ เขาเงียบไปสักพัก แล้วจึงเอ่ยต่อ

    “ช่างเรื่องนั้นเถอนะ เอาเป็นว่า อาสมัครใจจะอยู่แบบนี้ และก็พอใจมากด้วย ที่ตัวอาสามารถปกป้องและคุ้มครองดูแลหลานได้ตลอดไป”

   “อาครับ...”

   ตุลามองหน้าอาของตนอย่างซาบซึ้งระคนเศร้าใจ แล้วก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายชวนเขาเปลี่ยนเรื่องคุย

   “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พวกเขาจะเสียใจนะ ที่อุตสาห์จัดงานเลี้ยงเพื่อตุล แต่ตุลกลับมานั่งเศร้าแบบนี้แทนน่ะ”

      พอได้ยินกริชพูดเช่นนั้น ตุลาจึงค่อย ๆ พยักหน้ารับรู้ พลางปรับสีหน้าเป็นแย้มยิ้มให้ทุกคนอย่างจริงใจ สมาชิกในคฤหาสน์ม่านราตรีที่เห็นต่างก็ยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนไม่แพ้กัน

   และในคืนนั้น ตุลาจึงย้ายที่นอนจากเต็นท์กลับไปบนห้องของตัวเองอย่างเคย เขาเปิดบานกระจกบานใหญ่ และผ้าม่านเพื่อรับลมเย็นจากนอกสวน  โดยปิดแค่เพียงบานประตู้มุ้งลวดเพื่อกันยุงเข้ามากัด แทนที่จะเปิดแอร์นอนเหมือนในคืนแรก   

    ทางด้านพวกรุ้งพราย ปิ่นสุดาและพาทิศ ต่างไปนั่งพัก พูดคุยกับราตรี ที่ซุ้มไม้ซึ่งปรับปรุงใหม่ อันเป็นที่พักเดิมของวิญญาณสาว  บางเวลาพวกเขาและเธอ ก็จะเงยหน้าขึ้นไปเฝ้ามอง ยังระเบียงห้องเจ้าของบ้านคนใหม่ พร้อมกับแย้มรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุข จนกระทั่งรุ่งเช้าเวียนมาถึง ต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกันกลับที่พำนักของตนต่อไป



   ยามเช้าของตุลานั้นถูกปลุกด้วยกลิ่นอาหารหอม ๆ จากชั้นล่าง ชายหนุ่มบิดขี้เกียจเล็กน้อย เดินงัวเงียแทบไม่มองทางเข้าห้องน้ำไป  ก่อนเปิดน้ำก๊อกแล้ววักน้ำใสล้างหน้า แล้วควานมือจับสะเปะสะปะ เพื่อหาโฟมล้างหน้าที่วางอยู่แถวนั้น โดยไม่ได้เงยหน้ามอง

   “เอ้า ... นี่จ้ะ”

   เสียงหวาน ๆ และโฟมที่ส่งมาให้ถึงมือทำให้ตุลางึมงำขอบคุณตอบรับ ก่อนจะสะดุ้งเฮือก แล้วถอยหลังกรูดไปติดผนังห้อง มองไปก็เห็นราตรี กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ อ่างล้างหน้าของเขา

   “คะ...คุณราตรี ...มะ...มาได้ยังไงครับ”

   ราตรีมองชายหนุ่มยิ้ม ๆ แล้วบอกออกไปตามตรง

   “ก็ฉันเห็นว่าเช้าแล้ว ก็เลยมาปลุกเธอน่ะ พอดีเห็นเธอตื่นแล้วก็เลยตามเข้ามาเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้างยังไงล่ะ”

   ตุลาหน้าซีดสลับแดง ดีใจที่อีกฝ่ายเอาใจใส่เขาขนาดนี้ แต่ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผี  ก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี

   “ง่า ...ผมช่วยเหลือตัวเองได้ครับ โดยเฉพาะเรื่องในห้องน้ำ”

   “จริงหรือ? แล้วเกิดเป็นลมล้มไปล่ะ จะทำยังไง ใครจะช่วยเธอล่ะ ให้ฉันเฝ้าดีไหม?”

   ดูเหมือนราตรีนั้นจะไม่ถือสาเรื่องที่ตุลาเป็นกังวล แถมเธอยังยกเหตุผลที่ทำให้ชายหนุ่มแทบกุมขมับ

   “โธ่! คุณราตรีครับ ผมไม่ได้ร่างกายอ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะครับ ...ง่า แต่ถ้าไม่ไหวยังไงจะเรียกให้คุณมาช่วยทันทีเลยครับ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ขอผมทำธุระส่วนตัวก่อนนะครับ”

   ผีสาวนิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

   “ก็ได้ ถ้ามีอะไรต้องรีบเรียกเลยนะ ฉันจะรออยู่แถว ๆ นี้ล่ะจ้ะ”

   บอกแล้วเจ้าหล่อนก็ลอยทะลุประตูห้องน้ำออกไปรอนอกห้อง ตุลารู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจอยู่มาก แต่ลึก ๆ เขาก็ดีใจที่มีคนมาห่วงใย เอาใจใส่คอยประคบประหงมเขา เหมือนสมัยตอนยังเป็นเด็ก ๆ ไม่มีผิด

   “ถ้าไม่อยากให้เธอเฝ้า งั้นอาจะคอยเฝ้าให้แทนดีไหม?”

   เสียงกระซิบอันคุ้นเคย ทำเอาตุลาต้องสะดุ้งเฮือกรอบสอง ร่างโปร่งใสของกริช ปรากฏกายให้เห็น แล้วยิ้มน้อย ๆ ให้กับหลานชาย

   “ง่า...อากริชครับ ...ดีใจหรอกนะครับ แต่จะรบกวนอาเปล่า ๆ”

   ตุลาบอกปฏิเสธแล้วพยายามยกเหตุผล เพราะต่อให้อีกฝ่ายเป็นอาของเขา แถมยังเคยอาบน้ำอาบท่าให้ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ตาม แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อน แถมอาในตอนนี้ก็ดูอายุพอ ๆ กับเขา มันก็ทำให้ตุลารู้สึกกระดากอายอยู่บ้างพอสมควร

   “เฮ้อ! ทีเมื่อก่อนนี้ อ้อนอยากจะอาบน้ำกับอาตลอด พอโตเข้าหน่อย ก็ขับไล่ไสส่งอาเสียแล้ว”

   กริชทำเป็นแสร้งถอนหายใจ จนคนมองทำอะไรไม่ถูก และมีสีหน้าลำบากใจจนเห็นได้ชัด

   “หึ ๆ อาล้อเล่นน่ะ ...แต่ถ้าอยากให้อาอาบน้ำเป็นเพื่อน ก็เรียกได้ตลอดเวลานะ”

   บอกจบกริชก็หายตัวไป ทิ้งให้ตุลายืนนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกตามมา แล้วรีบล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน เขายิ้มเจื่อน ๆ ให้กับราตรีที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเขา บนโต๊ะมีรุ้งพรายในร่างแมวมานั่งจ้องทางเขาอีกราย

   “อาบน้ำหรือตุล ฉันอาบด้วยได้ไหม...”

   “ไม่สะดวกหรอกครับ ขออาบคนเดียวดีกว่า!”

   ตุลารีบค้านแล้วหยิบเสื้อผ้าและผ้าขนหนูผลุบหายเข้าห้องน้ำไปโดยไว พร้อมกับล็อกประตูห้องเรียบร้อย กันปีศาจแมวสาวตามเข้ามา ทางด้านรุ้งพรายนั้นขมวดคิ้วยุ่ง แล้วบ่นอุบอิบกับตัวเองเบา ๆ

   “อะไรของเขากัน ขอเข้าอาบน้ำด้วยแค่นี้ ทำเป็นอาย ตัวเองเด็กกว่าเค้าตั้งหลายสิบปีแท้ ๆ”

   “ก็นั่นสินะ”

   ราตรีตอบรับอย่างเห็นด้วย เธอเองก็นึกขำเวลาเห็นสีหน้าและท่าทีลำบากใจของตุลาเช่นกัน จะว่าไปแล้วตอนเล็ก ๆ เด็กคนนั้นก็ค่อนข้างขี้อาย แต่ก็ยิ้มแย้มและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย และก็น่าแปลกที่ตุลาจะจำเรื่องที่เคยมาที่นี่ไม่ได้เลย คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ก็คงมีแต่กริชเท่านั้น แต่เธอก็พอจะมองออกว่าวิญญาณหนุ่มคนนั้น ดูมีความลับเก็บงำไม่คิดจะบอกใครกับเขาบ้างอยู่เหมือนกัน

   “เสร็จแล้วครับ”

   ตุลาที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาบอกเบา ๆ เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นเสื้อยืดลำลองสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีเทา ใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มแย้มทักทายทั้งสองสาวที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานเขา ซึ่งทั้งคู่ก็ยิ้มตอบรับ

   “ไปกินข้าวกันเหอะ วันนี้ฉันได้กลิ่นหอมฉุยจากในครัวแต่เช้า  ถ้าให้เดา ต้องเป็นข้าวต้มเครื่องแน่”

   ตุลาเบิกตานิด ๆ อย่างดีใจ ความจริงเขาชอบอาหารเช้าแบบย่อยง่าย และแม่ของเขาก็มักจะชอบทำโจ๊ก หรือข้าวต้มให้กินในตอนเช้าประจำเสมอ

   “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยครับ”

   ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มตาหยี จนคนมองอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

   “งั้นก็ลงไปกันเลย”

   รุ้งพรายบอกแล้วกระโดดลงจากโต๊ะ เดินส่ายหางนำหน้าชายหนุ่มไปก่อน ตุลานั้นเดินไปพร้อมกับราตรีที่ลอยช้า ๆ เคียงข้างชายหนุ่ม

   “ไง ตุล ฉันว่ากำลังจะขึ้นไปปลุกเธอที่ห้องนอนพอดี แต่รู้สึกว่าจะมีคนรับทำหน้าที่แทนเรียบร้อยแล้วสินะ”

   พาทิศที่เห็นตุลาเดินมาพร้อมกับพวกรุ้งพรายเอ่ยทัก ตุลานั้นแย้มยิ้มให้ แล้วกล่าวทักทายกลับ

   “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพาทิศ”

   “อรุณสวัสดิ์ เช้านี้มีข้าวต้มเครื่อง ทานได้ไหม?”

   ซอมบี้หนุ่มถามอีกฝ่าย ขณะที่ช่วยยกเก้าอี้ให้เจ้าตัวนั่ง ทางด้านตุลาหันไปยิ้มให้ แล้วเอ่ยตอบ

   “ของโปรดเลยล่ะครับ ...ขอบคุณมากนะครับ”

   “ดีแล้วที่ชอบ คราวหน้าก็จดเมนูที่ชอบ แล้วก็ไม่ชอบ มาให้ฉันแล้วกัน ส่วนอันไหนถ้ากินแล้วแพ้ ก็จดไว้ด้วยนะ ฉันจะได้เลี่ยงทำ”

   พาทิศบอกกับชายหนุ่ม ซึ่งคำพูดที่ไร้ผลประโยชน์แอบแฝงเคลือบแคลง ทำให้ตุลารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจที่อีกฝ่ายมีให้เขายิ่งนัก

   “ขอบคุณนะครับ ...ความจริงคุณไม่ต้องลำบากทำอาหารให้ผมแบบนี้ทุกมื้อก็ได้ เวลากลางวันเป็นเวลาพักผ่อนของคุณไม่ใช่หรือครับ”

   พาทิศชะงักมือที่ตักข้าวต้มครู่หนึ่ง ก่อนจะตักมันใส่ชามให้ตุลาต่อ เขายกชามมาวางตรงหน้าอีกฝ่าย ส่วนตัวเขาก็ไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

   “ฉันน่ะ ทำเพราะชอบและอยากทำ แต่ถ้าเธอเห็นว่ามันน่ารำคาญ หรือรุกรานความเป็นส่วนตัวของเธอเมื่อไหร่ เธอก็บอกฉันได้ทุกเมื่อนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

   คำพูดของพาทิศทำให้ตุลาสะดุ้งแล้วรีบแย้งกลับทันที

   “ผมไม่เคยคิดเลยนะครับว่าน่ารำคาญ มีแต่จะขอบคุณเสียมากกว่าที่ช่วยดูแลให้กันขนาดนี้ ...แม้แต่เสื้อผ้าของผม คุณก็ยังเอาไปซักให้เลยไม่ใช่หรือครับ”

   ตุลาบอกกับอีกฝ่ายด้วยความขอบคุณและซาบซึ้งจากใจจริง พาทิศยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน ชวนให้ใบหน้านั้นดูหล่อเหลาสะกดสายตามากขึ้น ทำเอาตุลาตกตะลึงก่อนจะเผลอหน้าแดงนิด ๆ ด้วยความลืมตัว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงแหลม ๆ ขัดขึ้น

   “ฉันก็ช่วยด้วยนะ ไม่ใช่พาทิศคนเดียวสักหน่อย”

   รุ้งพรายโพล่งขึ้นบ้าง แล้วเชิดหน้ารั้น ๆ มองตุลา ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็เผลอลูบศีรษะแมวสาวจนเจ้าหล่อนลืมตัวทำตาพริ้มอย่างเป็นสุข แล้วพอนึกได้ ก็รีบสะบัดหน้าแล้วขู่ฟ่อใส่เข้าให้

   “อย่ามาทำกับฉันเหมือนแมวทั่วไปนะยะ!”

   รุ้งพรายบอกอย่างงอน ๆ แล้วนอนหันหลังให้กับตุลา แต่ก็ยังใช้หางแกว่งไปมาตีพื้นเล่น จนชายหนุ่มนึกขำ ก่อนจะหันมาทางพาทิศที่ยิ้มมองเขาอยู่ก่อนหน้าแล้ว

    “รู้ไหมตุล พวกเราก็เปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกันแล้ว ...สำหรับฉัน เธอช่วยคืนความสุขให้กับคฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้ ฉันเองก็อยากจะตอบแทนเธอ ในสิ่งที่ฉันพอจะทำได้ มันก็แค่นั้นล่ะ”

   “คุณพาทิศ”

   ตุลาพึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายด้วยความตื้นตันใจ

   “ฉันก็ด้วยนะ ถ้ามีสิ่งไหนที่ฉันสามารถช่วยเหลือเธอได้ ฉันก็ยินดีช่วยเต็มที่”

   ราตรีบอกขึ้นบ้างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน ที่ทำให้ตุลาต้องยิ้มตาม

   “ฉันก็ช่วยได้นะ ทำได้หลายเรื่องด้วย!”

   รุ้งพรายรีบหันมาบอกบ้าง จนคนอื่นพากันอมยิ้ม ส่วนตุลาก็ต้องรีบรับคำ เพราะปีศาจแมวสาวทำท่าจะงอนขึ้นมาอีกครั้ง



    จากนั้นพอทานข้าวเช้าเสร็จ ตุลาก็เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน โดยนำโน้ตบุคไปพิมพ์นิยายที่ซุ้มดอกราตรีในสวนหลังบ้านแทน พร้อมกับฟังปิ่นสุดาร้องเพลงคลอกล่อมเบา ๆ  เนื่องจากเงือกสาวได้รับการขอร้องจากชายหนุ่ม หลังจากได้ฟังมาจากรุ้งพรายว่า ปิ่นสุดานั้นร้องเพลงได้ไพเราะมาก ๆ จนเขาอยากฟังเสียงเธอร้องเพลงบ้าง ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยสักนิด

   บรรยากาศอันอบอุ่นของคฤหาสน์ม่านราตรี  ผิดจากวันที่เขามาเยือนยังสถานที่นี่ใหม่ ๆ ลิบลับ วันแรกนั้นหากไม่ติดสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เป็นอา เขาคงแทบจะเผ่นหนีไปเสียแล้ว

   ตุลานั่งคิดถึงเรื่องที่อยากจะเขียนมากมาย จากนั้นเขาจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเริ่มพิมพ์ข้อความลงไปในโน้ตบุคของตน

   ‘....เบื้องหน้าของผมนั้นคือคฤหาสน์สีขาวทรงยุโรปประยุกต์ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนดอกราตรีที่ปลูกแน่นขนัด ผมหันไปถามคุณป้าผู้ให้เช่าว่าเธอพาผมมาถูกที่หรือไม่ แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มหวานแทนคำตอบ ...ผมถอนหายใจเบา ๆ มาถึงตรงนี้ก็คงจะถอยลำบาก ค่าเช่าล่วงหน้าก็จ่ายไปแล้วสามเดือน อย่างน้อยก็คงต้องอยู่ให้ครบจนถึงเวลาที่จ่ายเงินไปล่ะนะ...’

   ชายหนุ่มวางมือ เมื่อเขาพิมพ์ไปเรื่อย ๆ จนบทนำของเขาเสร็จเรียบร้อย

   “เอาล่ะ! วันนี้พอแค่นี้”

   “น่าสนใจจัง ขออ่านได้ไหมตุล?”

   รุ้งพรายกระโดดมาใกล้ ๆ โน้ตบุค พลางยื่นหน้ามาใกล้ แต่ตุลารีบยกโน้ตบุคหลบทันที

   “ไม่ได้! ทุกคนห้ามอ่านนะ!”

   “ทำไมล่ะ เธอจะเขียนนิยายไม่ใช่หรือ ความเห็นของคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญมากไม่ใช่หรือไง”   

   ราตรีถามขึ้นมาบ้าง ตุลากลืนน้ำลายลงคอ เมื่อคนอื่นเพ่งมองมายังเขาคล้ายจะรอคำตอบ

   “ผมอายนี่นา...”

   พอตุลาพูดจบ เสียงหัวเราะของรุ้งพรายก็ดังแหลมขึ้น ประสานกับเสียงหัวเราะแผ่วเบาของราตรี แม้แต่ปิ่นสุดาที่ฟังอยู่ ยังอดหัวเราะคิกคักเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูชายหนุ่มไม่ได้

   “แปลกตรงไหนเล่า...ถ้าลงเน็ตให้คนอื่นที่เราไม่รู้จักอ่าน ก็พอไหวหรอก แต่ถ้าคนรู้จักยิ่งสนิทเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่อยากให้อ่านมากขึ้นนี่นา”

   ตุลาบอกอย่างเริ่มนึกงอนขึ้นมาบ้าง เพราะสาว ๆ รุมหัวเราะเขา ไม่มีใครเข้าใจความอายของเขาสักนิด

   “น่า ๆ อย่างอนสิ ก็เข้าใจนะ แต่ถ้าจะเขียนเรื่องที่นี่หรือเรื่องเกี่ยวกับพวกเรา ฉันว่าพวกฉันน่ะจะแนะนำนายได้ตรงประเด็นมากกว่า”

   ตุลาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำพูดของรุ้งพราย เขานิ่งคิดสักนิด ก่อนจะยอมปล่อยโน้ตบุคของตนให้ปีศาจแมวสาวใช้ ซึ่งตุลาก็ต้องทึ่งซ้ำสองเมื่อเห็นแมวเล่นโน้ตบุคต่อหน้าต่อตาตนแบบนี้

   “มองอะไร เห็นแบบนี้ฉันก็ไฮเทคพอนะยะ ฉันแอบไปเล่นคอมของเด็กแถวนี้บ่อย ๆ นั่นล่ะ ก็แหมตอนกลางคืนฉันเป็นหญิงสาวแสนสวยออกขนาดนั้น หนุ่ม ๆ บ้านไหนก็ยินดีเปิดรับฉันเข้าบ้านทั้งนั้นล่ะ”

   รุ้งพรายเชิดอวด แต่เสียงปิ่นก็ดังขึ้นแทรกมาเบา ๆ

   “ไม่ใช่เพราะไปใช้มนต์สะกดให้เขายอมทำตามหรอกหรือรุ้ง”

   ปีศาจแมวสาวสะดุ้ง ก่อนจะหันขวับไปยังเพื่อนสาว แล้วดุเบา ๆ

   “ใครว่าล่ะ ก่อนหน้าจะถูกสะกด ก็กระดี๊กระด๊า เชิญชวนฉันกันทั้งนั้น!”

   “นี่รุ้ง ถ้าไม่อ่านก็ถอยไป ฉันจะได้อ่านเอง”

   ราตรีบอกอย่างเริ่มรำคาญ เมื่อเพื่อนสาวของเธอไม่ยอมอ่านนิยายของชายหนุ่มให้เสร็จสักที

   “อ๊ะ อ่านก็อ่าน ...ไหน ๆ ก็ไหน ๆ อ่านออกเสียงแล้วกัน”

   ราตรีกับปิ่นสุดาพยักหน้าเห็นด้วย เพราะพวกเธอจะได้ไม่ต้องต่อคิวอ่านต่อในตอนหลัง แต่ตุลานี่สิหน้าซีดสลับแดง เพราะยิ่งอับอายหนัก เมื่อถูกคนรู้จักอ่านนิยาย แถมอ่านออกเสียงให้ได้ยินแบบนี้ เขารอลุ้นจนกระทั่งรุ้งพรายอ่านจบบทนำที่เขียนทิ้งไว้ ทั้งสามนิ่งเงียบ แล้วค่อย ๆ หันมามองชายหนุ่ม

   “ดีนี่ เริ่มแบบนี้ก็โอเค สมจริงดี!”

   รุ้งพรายชม ซึ่งราตรีก็เสริมตามมา

   “นั่นสินะ ประสบการณ์นี่ช่วยในงานเขียนได้จริง ๆ นั่นล่ะ”

   “ฉันอยากอ่านตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ เขียนไว ๆ นะคะ คุณตุล”

   ปิ่นสุดาบอกพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาตุลาโล่งอก และเริ่มมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

   “ครับ! ผมจะพยายาม”

   จากนั้นชายหนุ่มจึงหยิบโน้ตบุคกลับเข้าบ้าน เพราะเขาถือหลักไม่รีบร้อนแต่ง แต่อยากแต่งในช่วงอารมณ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้นิยายของตนออกมาดีที่สุดเช่นเดียวกัน

   



--- TBC ---

หลายคนก็เดาพระเอกกันไป จะให้บอกเลยโต้ง ๆ ก็กระไรอยู --"  เพราะบางคนชอบลุ้นเอง ...

ที่พระเอกเดายากเพราะเรื่องนี้ตอนแรกเขียนเลย ตั้งใจจะเขียนสไตล์ "ฮา่เร็ม"  คือ มีตัวเอก(ตุลา) เป็นศูนย์กลาง และตัวละครอื่น ๆ ก็จะมีความชอบในตัวละครนี้ และทุกตัวละครก็มีสิทธ์จับคู่กับ "ตุลา" ได้พอ ๆ กัน  (แต่ในที่นี้ผู้ชายน้อยไปนิด ตัวเลือกก็เลยเหลือแ่ค่ 2 และก็จะเหลือ 1 ตามมา เมื่อมีหนุ่มโผล่มาอีก 1 หน่อ และดึงอีกหนุ่มไป(มั้ง) )

ยังไงก็ต้องขออภัยสำหรับคนชอบอะไรวาบหวิว กริ๊วกร๊าว ระหว่าง พระเอก-นายเอก  เรื่องนี้ "มี" ก็จริง แต่น้อย ๆ ทยอย สวีทค่าาา

ป.ล. เดากันได้ยัง สำหรับตอนนี้ หุๆ ... (เดาได้ยากอยู่แต่ละรายหาโอกาสทำคะแนนทั้งนั้น)



ตอนหน้า(8) ฮา ๆ ค่ะ เพื่อนนายตุลมาเยี่ยมบ้านโดยที่ไม่บอกล่วงหน้า  .... ไว้ตอนกลางคืนจะย่องมาแปะต่อนะคะ  ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2012 20:57:14 โดย Xenon »

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

จะมี 1 หนุ่มมาดึง 1 หนุ่ม ไป  <---  แวกกกกก  ดึงอากริชไปอะพอเป็นไปได้ แต่ถ้าดึงพาทิศไปเนี่ย คงต้องรอตัวละครออกมาเพิ่มอีก

ตอนนี้เดาไปก่อนว่าพาทิศเป็นพระเอก และถ้าหากเป็นจริง พาทิศรีบไปเข้าคอร์สซ่อมแซมร่างกายด่วนเลยน้า
ถ้าไม่อยากให้นายเอกเค้าเป็นลมบ่อยๆ เด้อ

 :pig4: คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
แหมตอนจัดงานเลี้ยง น่าจะเชิญ...เจ้แม้น...มากินฟรีด้วยนะ

ถ้า...พาทิศเป็นพระเอก ฉากสวีทหวานจะกลายเป็นหวีดสยองแทนไม๊

แบบประมาณ จุ๊บทีลูกตากระเด้งดึ๋งๆ 

นายเอกต้อง ontop อ่ะสิ ลูกตาจะได้ไม่หลุด เอิ๊ก เอิ๊ก

catwander

  • บุคคลทั่วไป
ผีกับคนเหรอ ออกแนวสยอง ถ้ามีอีก 1 หนุ่ม คงต้องเป็นหมอผี ซะละมั้ง

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
“ฉันอยากอ่านตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ เขียนไว ๆ นะคะ คุณตุล”

เหมือนกานน~~

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ แต่น่ารักค่ะ ตัวละครทุกตัวน่ารักมาก :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aum_15597

  • สายน้ำไม่หวนกลับ วันเวลาไม่หวนคืน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
อยากกินข้าวต้มมมมมม :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
ขอเดาว่าเป็นพาทิศ แน่นอน ฟันธง :3123:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ว้าวว้าวนิยายของตุลเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ติดตามต่อจ้า

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
ตอนที่แล้วคิดว่าเป็นตุลา - อากริช ซ๊ะอีก
มาตอนนี้ตุลน้อย เขิลพาทิศซ๊ะงั้น อารมณ์เปลี่ยนทันทีเลย
จะสวีทกันที ต้องคิดหน่อยแล้ว ตาจะหลุดเมื่อไหร่ :jul3:

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
อ่านตอนนี้จบ ก็อยากอ่านตอนหน้าแล้วชิ
สู้ๆนะคร๊าบบบบบบบบบ

raphaello

  • บุคคลทั่วไป
เลือกไม่ถูกรอเฉลยครับ^ ^

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านจนทันแล้วค่ะ รวดเดียวเจ็ดตอน
ตอนแรกๆแอบหลอนๆเหมือนกันนะคะ
แต่ตอนล่าสุดนี่ น่ารักดี แอบเชียร์อากริชค่ะ รู้สึกอากริชน่ารักและน่าจะมีเรื่องอะไรซับซ้อนให้ลุ้นอยู่
รอตอนหน้านะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ใครๆก็อยากอาบน้ำกับตุลาเนาะ อิอิ
ตอนนี้น่ารักจัง เป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆด้วย  :-[

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ลงให้อ่านกันก่อนค่า เผื่อพรุ่งนี้ยุ่งจนลืมอัพ~


ม่านราตรี
 บทที่ 8



    ในวันถัดมา ตุลาก็ต้องพบกับความยุ่งยากที่แวะมาเยือนในชีวิตอีกรอบ เมื่อจู่ ๆ แก๊งเพื่อนสนิท นำขบวนโดยพิชยะ หรือเจ้าเก่ง เพื่อนซี้ตัวกวนของเขา โผล่มาเยี่ยม  แถมพาทิศยังออกไปต้อนรับและเชื้อเชิญพวกนั้นเข้ามาพัก โดยไม่คิดกลัวใครจะรู้ว่าตัวเองเป็นซอมบี้เลยด้วยซ้ำ

   “ต๊าย! ไอ้ตุล ทำไมแกไม่รีบบอกพวกฉัน ว่ามีพ่อบ้านหล่อลากดินแบบนี้คอยรับใช้วะ!”

   แหม่มหรือนางสาวมนฤดี สาวน้อยผูกผมม้าผู้ร่าเริงแจ่มใส รีบหันไปถามตุลาที่ลงมาจากชั้นสอง และยังคงนั่งอึ้ง ๆ ด้วยความมึนงงกับเพื่อนที่ห้องรับแขก ส่วนพิชยะนั้นรีบเอ่ยแซวเพื่อนสาวกลับไปทันที

   “แล้วถ้าตุลมันบอกก่อนหน้านี้ แล้วแกจะทำยังไงวะแหม่ม”

   มนฤดียิ้มหวานหยดย้อยพลางเอ่ยขอบคุณคนที่เอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟ แล้วขอตัวกลับไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารกลางวันต่อ หญิงสาวหันมาทางเพื่อนชายที่ตั้งคำถาม แล้วตอบออกไปอย่างหนักแน่นจริงจัง

“ฉันจะได้ขอมาเช่าบ้านกับตุลมันด้วยอีกคนยังไงล่ะ!”

   “แชร์ค่าเช่าเดือนละสามหมื่น ถ้าจ่ายได้ก็เชิญตามสบาย”

   ตุลาจิบน้ำเย็นแล้วแสร้งบอกไปเรียบ ๆ เรียกอาการค้อนขวับ จากเพื่อนสาวได้ทันที

   “เชอะ! อีตางก! ใครจะมีปัญญาจ่ายยะเดือนละสามหมื่น”

   คนฟังถอนหายใจ แล้วหันไปอีกสองคนที่นั่งยิ้ม ๆ ไม่พูดไม่จามากมายเหมือนพิชยะและมนฤดี

   “แล้วคิดยังไงถึงได้ยกขบวนมาเยี่ยมกันแบบนี้  ใครต้นคิดล่ะนั่น นายหรือ เอก?”

   ชายหนุ่มมาดเข้มรูปร่างสูงใหญ่เป็นนักกีฬายิ้มน้อย ๆ แล้วสั่นศีรษะ ก่อนจะย้อนถาม

   “ไม่ใช่ฉันหรอก นายลองเดาดูสิ”

   ตุลานิ่งคิด มองอานนท์ แล้วหันไปมองปณาลีที่นั่งใกล้ ๆ  ก่อนจะไล่มองพิชยะ และมนฤดี ที่ยกยิ้มกวน ๆ ให้เขา

   “อืม...ไอ้เก่ง?”

   “บู่! ผิด! ไม่ต้องทายแล้ว หนูน้ำของเราต่างหากที่เป็นคนเสนอความคิด!”

   พิชยะโพล่งบอกร่าเริง แต่คนถูกกล่าวถึงยิ้มอาย ๆ แล้วพยักหน้าน้อย ๆ รับ

   “ก็เราเป็นห่วงนายนี่ เห็นนายไม่เคยอยู่คนเดียวมาก่อน ก็เลยชวนคนอื่นมา เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง”

   หญิงสาวผมสั้นประบ่าหน้าตาน่ารักบอกกับตุลา ทางด้านชายหนุ่มยิ้มนิด ๆ แล้วขอบคุณเบา ๆ กับความมีน้ำใจและห่วงใยจากเพื่อนสาวของเขาผู้นี้

   “แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องช่วยอะไรแล้วนี่ น่าแปลกนะ ตอนถามทางเข้ามา พวกชาวบ้านบอกว่าบ้านเช่านายเป็นคฤหาสน์ผีสิง ไอ้พวกฉันก็เสียวสันหลังวาบ คิดว่านายโดนผีหลอกตายคาบ้านไปละ แต่พอมาดูจริง ๆ นี่มันคฤหาสน์ไฮโซชัด ๆ หรูหราจะตาย”

   อานนท์เปรยขึ้น ขณะที่มองสำรวจไปทั่วบ้านอย่างนึกทึ่ง ไม่คิดว่าเพื่อนจะมีเงินเช่าคฤหาสน์หรูหราขนาดนี้เพื่ออยู่อาศัยได้

   “ถ้ามาก่อนหน้านั้นอีกสักสามสี่วัน ก็คงได้เห็นแบบที่ชาวบ้านบอกนั่นล่ะ”

   ตุลาบอกเบา ๆ เมื่อหวนคิดถึงสภาพบ้านที่เขาได้เห็นในครั้งแรก

   “หือ? แล้วไหงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?”  มนฤดีถามขึ้นบ้าง

   “ก็ฉันสละทรัพย์สมบัติส่วนตัวปรับปรุงน่ะสิ...ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็ต้องอยู่อีกเกือบปี ยังไงก็ต้องตอบแทนกันบ้าง”

   ตุลาเปรยแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคนอื่น ๆ มองเขาอย่างสงสัย

   “ง่า...ฉันหมายถึง ตอบแทนบ้านหลังนี้ที่ให้ฉันอยู่อาศัยไง”

   “แปลก ๆ นะนาย ...ว่าแต่คุณพาทิศนี่เป็นใคร ทำไมถึงมาเป็นพ่อบ้านนายได้ล่ะ นายจ้างเขามาหรือ ค่าตัวแพงมากไหม?”

   มนฤดีกลับมาซักไซ้ในเรื่องของพ่อบ้านหนุ่มที่เธอให้ความสนใจอีกรอบ ตุลายิ้มเจื่อน ๆ แล้วพยายามคิดเรื่องแก้ตัวสด ๆ ขึ้นมาเพื่อหวังกลบเกลื่อน

   “คือ...คุณพาทิศ เขาเป็นคนรู้จักของเพื่อนคุณอาอีกที แบบอากริชฝากฝังไว้ก่อนตายน่ะ ว่าถ้าฉันเช่าบ้านหลังนี้เมื่อไหร่ ก็ให้มาคอยดูแลฉันด้วย”

   คำตอบของตุลาทำให้เพื่อน ๆ ร้องอ๋อ  ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็นึกแปลกใจกับพินัยกรรมล่วงหน้าที่ผู้เป็นอาของเพื่อนเขียนทิ้งไว้อยู่บ้าง แต่เพราะรู้ว่าตุลานั้นรักและเคารพอาของตัวเองมาก จึงไม่มีใครโต้แย้งหรือติติงอะไรถึงพินัยกรรมแปลก ๆ ฉบับนั้น เพราะเกรงว่าตุลาจะไม่พอใจนั่นเอง

   “นี่ ๆ ตุล ขอพวกเราเดินสำรวจบ้านหน่อยได้ไหม บอกตามตรงว่ะ ไม่เคยเข้าบ้านหรู ๆ แบบนี้มาก่อน อยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง...นะ”

   พิชยะหันไปขอร้องเพื่อน ตุลาทำตาปริบ ๆ ครั้นจะไม่อนุญาตก็กลัวโดนว่าใจแคบ เลยต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วอนุญาตให้อย่างเสียไม่ได้

   “ก็ได้...แต่อย่าทำเสียงดังนักนะ เดี๋ยวจะรบกวนพวกเขาเข้า...”

   คนอื่นชะงัก พร้อม ๆ กับตุลาที่เผลอหลุดปาก ต่างคนมองชายหนุ่มนิ่งด้วยสายตาตั้งคำถาม ตุลานิ่งคิด แล้วจึงแสร้งยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับบอกไปหน้าตาเฉย

   “ก็พวกวิญญาณเฮี้ยนที่ชาวบ้านบอกยังไงล่ะ”

   พิชยะที่กลัวผีไม่แพ้กับตุลาสะดุ้งเฮือก แล้วเหลือบมองซ้ายมองขวาอย่างลืมตัว

   “มะ...มีจริงหรือวะ”

   “บ้าน่ะเก่ง ไปเชื่อตุลมัน คนขี้กลัวอย่างมัน ถ้ามีผีจริง ๆ ป่านนี้เผ่นไปแล้ว ไม่อยู่มาได้เกือบอาทิตย์แบบนี้หรอก!”

   มนฤดีบอกขัดคอขึ้นอย่างหมั่นไส้ ทำเอาตุลากลืนน้ำลายลงคอ กับคำพูดแสนจะแทงใจดำของเพื่อนสาว เพราะถ้าพวกพาทิศไม่ใช่ผีใจดีแล้วล่ะก็ เขาก็คงเผ่นไม่ยั้งไปตั้งแต่วันแรก ๆ อยู่เหมือนกันนั่นล่ะ

    และในที่สุด เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนใจ ตุลาจึงจำต้องเดินนำเป็นไกด์พาทุกคนทัวร์ภายในคฤหาสน์ม่านราตรีอย่างจำใจทีละห้อง

   

   ตอนนี้ตุลาย้ายมาอยู่ห้องใหม่ ซึ่งเป็นห้องเก่าของจอมเดช เพราะเวลาออกมาที่ระเบียง จะสามารถเห็นสวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่อยู่ของเงือกสาวและซุ้มดอกราตรีที่วิญญาณสาวอาศัยอยู่ได้ถนัดชัดเจนกว่าห้องที่เขาอยู่ในครั้งแรก

   “โห! ห้องมึงหรูว่ะตุล กว้างก็กว้าง แถมมีระเบียงอีก มองไปเห็นวิวในสวนด้วย... อ๊ะ! เฮ้ย! เงือกนี่นา!”

   เสียงพิชยะเอะอะโวยวาย ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือก ส่วนคนอื่นพากันวิ่งกรูออกไปทางระเบียงอย่างสนใจ

   “ไหน? เงือกที่ไหน ไม่เห็นมีใครเลย ตาฝาดไปเปล่า”

   มนฤดีถามเพื่อนของเธอ คนอื่น ๆ ก็พยายามมองแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากสนามหญ้าและต้นไม้ รวมไปถึงบ่อน้ำแค่นั้น

   “มีสิ! มีจริง ๆ นะ ผู้หญิงสาวผมยาว ๆ มีหางเป็นปลา มานั่งอยู่ริมบ่อตรงนั้น!”

   พิชยะโวยวายเมื่อเพื่อนคนอื่นพยายามหาว่าเขาตาฝาด

   “หือ? เงือกหรือ ตอนฉันวิดบ่อเปลี่ยนน้ำใหม่ ยังไม่เจอเลยนะ สงสัยจะเพิ่งย้ายมาอยู่มั้ง”

   ตุลาทำหน้าตาแบบไม่รู้สึกรู้สา ยิ่งตอกย้ำให้คนอื่นเข้าใจว่าพิชยะน่าจะตาฝาดไปเองมากกว่า

   “เพราะนายกลัว และคิดว่ามีผี ก็เลยตาฝาดไปน่ะสิ!”

   มนฤดีบ่นใส่ ซึ่งพิชยะก็รีบสวนกลับทันที

   “นั่นมันผี ถ้าฉันตาฝาดก็ควรเห็นผี แต่ที่ฉันเห็นมันนางเงือกต่างหาก! เงือกตัวเป็น ๆ จริง ๆ นะ!”

   “อย่าเถียงกันเลยน่า เอาเป็นว่าเดี๋ยวลงไปดูในบ่อพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า จะได้รู้ว่ามีจริงหรือตาฝาด”

   อานนท์สรุป ซึ่งก็ทำให้ทุกคนเห็นด้วย ยกเว้นตุลา

   “ง่า...เหลวไหลน่า แค่นี้ก็ต้องลงไปดูด้วยหรือไง ฉันว่าเราไปสำรวจห้องอื่นแทนดีกว่านะ”

   “แต่เราว่าไปดูเลยก็ดีนะตุล จะได้ไม่คาใจทั้งสองฝ่าย จริงไหมเก่ง”

   ปณาลีบอกกับเพื่อนของเธอ ซึ่งพิชยะก็รีบพยักหน้ารับ

   “นั่นสิ! ไปดูให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่า อยากรู้เหมือนกันว่าตาจะฝาดบ้าอะไรเป็นรูปเป็นร่างขนาดนั้น ยังติดตาอยู่เลยเนี่ย!”

   จากนั้นเพื่อนทั้งสี่ก็เคลื่อนขบวนลงจากตึกออกไปยังสวนหลังบ้าน โดยมีตุลาตามไปอย่างกังวล จะขอให้พาทิศช่วยแก้สถานการณ์ ซอมบี้หนุ่มก็ไม่รู้หายไปไหน มีแค่เพียงอาหารกลางวันที่ถูกจัดเตรียมค้างไว้ในครัวเท่านั้น

   

   “นี่ล่ะ ๆ บ่อนั้นไง ที่มีเงือก!”

   พิชยะบอกแล้วชี้ให้เพื่อนดู แต่ตัวเขาเองกลับไม่กล้าเข้าไปเสียอย่างนั้น

   “มา! ฉันไปดูเอง น้ำใสแจ๋วเห็นก้นบ่อขนาดนี้ มองดูก็รู้ว่ามีอะไรบ้าง...”

   มนฤดีบอกแล้วก็เงียบชะงักไป ปฏิกิริยาของเพื่อนสาว ทำให้ตุลาตกใจและรีบแก้ตัวยกใหญ่

   “เอ่อ... คือนั่นน่ะ ...เธอเป็นเพื่อนฉันเอง ...ไม่ใช่ภูตผีปีศาจอะไรไม่ดีทีไหนหรอกนะ!”

   มนฤดีหันมามองตุลาอย่างงง ๆ ก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนเข้าไปดูที่บ่อน้ำกับเธอ

   “นี่ไง เงือกที่นายเห็นน่ะเก่ง”

   ปลาช่อนอเมซอนตัวใหญ่พอ ๆ กับเด็ก ว่ายวนไปมาในบ่อลึก ผิวน้ำบนบ่อมีใบบัวเล็ก ๆ บังร่มเงาให้ร่างใต้น้ำ มันว่ายไปมา เลาะกอบัว ทำให้คนมองยิ้มน้อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน

   “แต่ฉันว่าฉันเห็น...”

   “มองผ่าน ๆ ก็นึกว่าเงือกได้เหมือนกันล่ะนะ ตัวใหญ่ไม่ใช่ย่อยเลยนี่ตุล อยู่มานานแล้ว หรือนายซื้อมาลงบ่อไว้น่ะ”

   อานนท์หันไปถามเพื่อน ด้านตุลาซึ่งกำลังมึนงงชะงักเล็กน้อย แล้วรีบตอบตามน้ำไป

   “ง่า ...มันอยู่มานานแล้วน่ะ ก่อนฉันจะมาเช่า บางทีเวลากระโดดเล่นน้ำ ก็ทำให้มองผ่าน ๆ นึกว่าคน  เด็ก ๆ แถวนี้ก็เลยชอบเอาไปลือกัน”

   “ตาฝาดหรือวะ...แต่ที่ฉันเห็นนั่นผู้หญิงชัด ๆ เลยนะ”

   พิชยะยังคงบ่นอุบ มนฤดีกับปณาลีเลยช่วยปลอบเพื่อน แล้วชวนไปนั่งเล่นที่ซุ้มราตรีแทน ตุลาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังคงมองเจ้าปลาช่อนอเมซอนอย่างแปลกใจ แต่ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสาวเรียก

   “ยืนเหม่ออะไรอยู่ได้ตุล เห็นปลาช่อนเป็นเงือกกับเก่งเข้าอีกคนหรือไง!”

   ตุลารีบหันไปยิ้มแห้ง ๆ แล้วตามเพื่อนไปนั่งที่ซุ้ม ระหว่างนั่งพวกเขาก็คุยกันเรื่อย ๆ ถึงการงาน และเรื่องเรียนของแต่ละคนในช่วงนี้

   “พวกนายสองคนเรียนต่อคณะเดียวกันสินะ”

   ตุลาถามอานนท์กับปณาลี ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้ารับ

   “น้ำน่ะฉันไม่แปลกใจหรอก แต่นายน่ะสิเอก ไหนบอกไม่อยากต่อบริหารแล้วไง”

   มนฤดีถามต่อ แต่คนถูกถามสะดุ้ง แล้วเหลือบมองไปทางอื่น ส่วนปณาลีนั้นหน้าแดงนิด ๆ แล้วก้มหน้าน้อย ๆ ทำให้เพื่อนทุกคนชะงัก แล้วหันมาสนใจกับปฏิกิริยาของคนทั้งคู่แทน

   “ต๊าย! อย่าบอกนะว่าคบกันแล้ว!  กรี๊ด! น้ำทำยังงี้ได้ไง มีแฟนตัดหน้าเราแบบนี้อ่ะ!”

   มนฤดีแกล้งทำโวยวายใส่ ยิ่งทำให้ปณาลีและอานนท์เขินหนักยิ่งขึ้น ส่วนพิชยะที่คันปากยิบ ๆ ก็รีบแทรกขัดขึ้นทันที

   “ขืนรอให้เธอหาแฟนได้ก่อน มีหวังหนูน้ำเหี่ยวแห้งก่อนพอดีน่ะสิแหม่ม”

   “ปากเสียนะไอ้เก่ง เดี๋ยวเจอเตะหรอก!”

   มนฤดีหันมาบอกด้วยน้ำเสียงห้วนห้าว เสียจนเพื่อนชายต้องทำคอพับคอย่นแล้วรีบยกมือยอมแพ้ สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นที่เหลือ

   “ก็คิด ๆ อยู่เหมือนกันล่ะนะ ว่าอาจจะเป็นแบบนี้สักวัน ยังไงก็ขอให้มีความสุขนะทั้งสองคน”

   ตุลาอวยพรให้เพื่อน ซึ่งอานนท์กับปณาลีก็หันมายิ้มให้กับชายหนุ่ม

   “ที่เป็นแบบนี้ก็ต้องขอบคุณนายด้วยล่ะนะตุล”

   อานนท์ว่า แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกแฟนสาวตีแขนเข้าให้เบา ๆ แล้วทำหน้าห้ามให้เขาพูด

   “ฮ่า ๆ น้ำเขาเขินน่ะ ไม่เห็นเป็นไรเลย เรื่องมันผ่านมาแล้วก็เล่า ๆ ไปเหอะ คนบื้อ ๆ มันจะได้รู้ตัวบ้าง จะได้ไม่เผลอไปทำให้สาวไหนอกหักเข้าให้อีก”

   อานนท์บอกอย่างไม่ถือสา ปณาลีหน้าแดงหนักแล้วค้อนขวับให้แฟนของเธออย่างงอน ๆ จนทำให้อานนท์ต้องรีบง้อ  ส่วนคนอื่นนอกจากตุลาพอได้ยินเช่นนั้นก็พอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้ออก มีแต่ตุลาที่ยังคงมีสีหน้าสงสัยแล้วถามคนอื่น

   “เอ่อ..ทำไมหรือ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วยหรือไง?”

   ทุกคนมองหน้ากันตาปริบ ๆ แล้วจึงถอนหายใจออกมาไล่เลี่ยกันจนตุลายิ่งงงไปใหญ่

   “ตุลเป็นแบบนี้ต่อไปก็ดีแล้วล่ะ น่ารักดีออก”

   ปณาลีบอกแล้วยิ้มให้ ซึ่งอานนท์ก็หัวเราะเบา ๆ คนอื่น ๆ ก็ต่างอมยิ้มน้อย ๆ จนตุลาชักจะไม่สบอารมณ์

   “อีกละ ชอบทำเป็นรู้กันเองเฉพาะกลุ่ม แล้วทิ้งให้ฉันไม่รู้อยู่คนเดียวประจำ!”

   “โอ๋ ๆ  อย่างอนสิคะ น้องตุล มามะ เดี๋ยวพี่เก่งปลอบให้”

   พิชยะแกล้งจีบปากจีบคอล้อเลียน แล้วทำท่าปล้ำกอดตุลา จนคนถูกกอดต้องตะโกนห้าม ส่วนคนอื่น ๆ พากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน

   “โธ่โว้ย! บอกว่าอย่าไง! ปล่อยนะโว้ย ไอ้เก่ง!”

   ตุลาบ่นโวยวาย พิชยะหัวเราะร่าเริงไม่ยอมฟัง ยังคงแกล้งกอดเพื่อนของตนอยู่อย่างนั้น ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสเย็นวาบที่ข้อเท้าของตน เขาเหลือบลงมองไปดู แล้วก็ต้องร้องจ๊าก พลางกระโดดหนีออกไปจากซุ้ม พร้อมแหกปากโวยวายยกใหญ่

   “มือ! มีมือจับข้อเท้าฉัน!”

   ตุลาใจหายวาบ แล้วรีบทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนทันที

   “มือบ้าอะไรวะ คราวเงือกก็ทีนึงละ”

   “อีกละ ๆ มึงนี่นะเก่ง จะแกล้งกันไปถึงไหนวะ หรือเห็นว่าตุลกลัวผี เลยแกล้งทำเป็นเจอผีหลอกให้ตุลมันกลัว ฮึ!”

   อานนท์เสริมขึ้นมาบ้าง แต่พอเห็นใบหน้าซีดเผือดของเพื่อน ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้แกล้งแหย่เล่นแน่

   “เข้าไปนั่งพักในบ้านสงบสติอารมณ์ก่อนไป นึกว่าตุลมันจะกลัวผีขึ้นสมองคนเดียวเสียอีก มึงนี่ก็ไม่แพ้กันเลยว่ะเก่ง”

   ชายหนุ่มรูปร่างนักกีฬาบ่น แล้วชวนเพื่อนเข้าไปพักในบ้าน เพราะบรรยากาศร่มรื่นของสวนครึ้มแห่งนี้ จะว่าไป ถ้าไม่ใช่ช่วงกลางวัน มันก็ดูวังเวงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

   

   พอทั้งหมดเข้ามาในคฤหาสน์ พาทิศก็ปรากฏกายมาดักรอทุกคนพร้อมรอยยิ้ม

   “ยินดีต้อนรับกลับนะครับนายน้อย อาหารเตรียมไว้เสร็จแล้ว เชิญทุกคนที่โต๊ะได้เลยนะครับ ผมขอตัวสักครู่ก่อน”

   พาทิศบอกแล้วหันไปลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับคนที่ตีหน้ายุ่ง เพราะเวลาเดือดร้อน อีกฝ่ายก็ดันหายตัวไม่ยอมอยู่ช่วยเขาแก้ไขสถานการณ์ ทั้งที่เป็นคนนำเจ้าเพื่อนรักพวกนี้เข้ามาโดยไม่บอกเขาล่วงหน้าแท้ ๆ

   จากนั้นทั้งหมดก็พากันมายังโต๊ะอาหาร บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่สลายไปเกือบจะหมดสิ้นเพราะสีสันและกลิ่นหอมเย้ายวนบนโต๊ะเหล่านั้น

   “อร่อยชะมัดเลยว่ะตุล น่าอิจฉาจริง ๆ ที่มีของอร่อยแบบนี้ให้กินทุกวัน”

   พิชยะที่อารมณ์ดีขึ้นเพราะของกิน บอกกับเพื่อนสนิท คนอื่น ๆ เองก็เห็นด้วยกับชายหนุ่ม แล้วต่างกินอาหารในมื้อนั้นกันจนหมดเกลี้ยง

   “เดี๋ยวพวกฉันช่วยล้างเอง หนุ่ม ๆ ไปนั่งคุยกันไป!”

   สองสาวไล่หนุ่ม ๆ ที่ยืนเกะกะในครัว  เพราะตุลาบอกว่าพาทิศนั้นร่างกายไม่แข็งแรงนัก ส่วนใหญ่พอถึงช่วงกลางวันพ่อบ้านหนุ่มก็จะเข้านอน และเริ่มจัดการงานบ้านทั้งหมดในตอนเย็น  เพื่อน ๆ ของเขาเลยขันอาสาจัดการเรื่องเก็บกวาดล้างชามเป็นการตอบแทนอาหารมื้ออร่อยดังกล่าว

   “บ้านเช่ามึงน่าอยู่ดีหรอกนะตุล แต่ถ้าให้อยู่คนเดียวกูคงไม่ไหวว่ะ”

   อานนท์บอกกับเพื่อนของเขา  ซึ่งเวลาหนุ่ม ๆ อยู่คุยกันเองก็มักจะส่งภาษามึงมาพาโวยเช่นนี้เสมอ แต่ถ้ามีมนฤดีหรือปณาลีอยู่ด้วย พวกเขาก็จะพูดคุยกันธรรมดา เพราะมักจะโดนปณาลีเขม่นอยู่บ่อย ๆ ส่วนมนฤดีนั้นเธอเคยชินกับคำพูดสนทนาเช่นนี้เสียแล้ว มิหนำซ้ำยังเผลอพูดเองกับพวกหนุ่ม ๆ ด้วยซ้ำ

   “นั่นสิวะ บ้านหลังใหญ่แบบนี้ ยังไงก็ต้องมี ‘ไอ้นั่น’ อยู่แน่ ทางที่ดี มึงแขวนพระติดตัวไว้ดีกว่าว่ะตุล เพื่อนขอเตือนด้วยความเป็นห่วงนะโว้ย!”

    พิชยะรีบพยักหน้าเสริมเห็นด้วยตามมาอย่างรวดเร็ว

   “มึงก็ขี้กลัวเกินไปว่ะเก่ง และอีกอย่างถึงจะมีไอ้นั่นจริง ๆ แต่ถ้าเค้ามาดีไม่มาร้าย กูก็ไม่ว่าอะไรหรอก”

   ตุลาบอกกับเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าจริงจัง จนคนมองต้องนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาไล่เลี่ยกัน

   “ก็แล้วแต่มึงล่ะนะ ...อืม จะว่าไปก็จริง ๆ นั่นล่ะ ต่อให้เป็นผี ถ้ามาดี ก็ยังดีกว่าคนที่คิดร้ายเสียอีก”

   อานนท์เปรยขึ้น จากนั้นทั้งสองสาวก็ตามมาสมทบ พวกเขาคุยกันสักพัก พิชยะก็ชักชวนเพื่อนฝูงขอตัวกลับ เพราะบ้านแต่ละคนก็อยู่ไกลจากที่พักของตุลาพอสมควร

   “น่าเสียดายจัง ว่าจะลาคุณพาทิศสักหน่อย งั้นฝากตุลบอกด้วยนะว่าฉันชอบเค้ามาก เอ๊ย! ขอบคุณเขามากสำหรับอาหารมื้อกลางวัน”

   มนฤดีบอกกับเพื่อนชายของเธอด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มชวนฝัน ซึ่งตุลาก็หัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้ารับ

   “อือ รู้แล้ว ไว้จะบอกให้”

   “งั้นก็โชคดีนะตุล นิยายคืบหน้ายังไงก็ส่งมาให้อ่านกันบ้างนะ”

   “ได้สิ แล้วจะส่งไปให้ช่วยอ่าน ช่วยวิจารณ์แล้วกัน”

   ตุลาบอกกับปณาลีพร้อมรอยยิ้ม และพอทั้งหมดเตรียมจะกลับ พิชยะก็เกิดปวดปัสสาวะขึ้น จึงบอกให้คนอื่น ๆ รอเขาก่อน

   “เดี๋ยวไปฉี่แป๊บว่ะ รอหน่อยนะสาว ๆ”

   “เออ ๆ ไปเถอะย่ะ!”

   มนฤดีบอกอย่างรำคาญใจ พิชยะหัวเราะแห้ง ๆ แล้ววิ่งตรงไปยังห้องน้ำชั้นล่าง เขายืนทำธุระแล้วกดน้ำเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำอย่างสบายตัว

   “อี๋! ล้างมือด้วยสิยะ น่าเกลียดเชียว!”

   เสียงใส ๆ บ่นขึ้น ทำเอาพิชยะสะดุ้งเฮือก หน้าซีด มองซ้ายมองขวา  ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อได้ยินเสียงน้ำจ๋อมแจ๋มดังเบา ๆ หลังประตูกระจกฝ้าที่กั้นระหว่างอ่างอาบน้ำกับห้องน้ำเอาไว้  พิชยะค่อย ๆ เดินไปเปิดบานประตูนั้นช้า ๆ แล้วก็ต้องตกตะลึงตาเหลือกกว้าง เมื่อเห็นแมวดำสองหางกำลังนอนแช่น้ำเล่นในอ่างนั้น แถมยังขู่ฟ่อใส่เขาอีก

   “ทะลึ่ง! มาแอบดูสุภาพสตรีอาบน้ำได้ไง ปิดเดี๋ยวนี้นะยะ!”

   ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก รีบปิดบานประตูกระจกฝ้านั่นอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังที่เพื่อน ๆ รออยู่

   “เสร็จแล้วหรือวะเก่ง...หือ? เป็นอะไรไป ไหงหน้าซีดเผือดแบบนั้น”

   อานนท์ทักเพื่อนอย่างเป็นห่วง พิชยะไม่ตอบคำถามนั่น แต่กลับหันไปหาตุลาแทน

   “ตุล...บ้านมึงเลี้ยงแมวดำด้วยใช่ไหม ...แมวที่มีหางสองหางน่ะ?”

   ตุลาชะงัก พอจะคาดเดาได้ว่าเพื่อนไปเจอกับอะไรมา เขาแสร้งยิ้มหวานอ่อนโยน แล้วบอกกับอีกฝ่าย

   “ไม่มีนี่ ตาฝาดเห็นอะไรเข้าอีกล่ะ ...อ้อ แต่เคยได้ยินชาวบ้านเล่าว่า เจ้าของคนเก่าเขาเลี้ยงแมวไว้ แต่ก็ตายไปหลังจากเจ้าของที่นี่ตายไม่นานแล้วล่ะนะ”

   พิชยะยิ่งหน้าซีดเผือดขึ้นไปอีก เขาหันไปหาเพื่อนคนอื่นแล้วรีบบอก

   “กะ...กลับกันเถอะว่ะ ขืนอยู่อีก มีหวังได้เจออะไรแปลก ๆ อีกแหง...”

   “เฮ่ย! เดี๋ยวเก่ง อย่าบอกนะว่าเมื่อกี๊เจอแมวอะไรที่ว่าเข้า”

   มนฤดีถามอย่างตกใจ ซึ่งเพื่อนชายของเธอก็รีบพยักหน้ารับหงึก ๆ ทั้งที่หน้าซีดเผือด ทำเอาคนอื่น ๆ เสียวสันหลังวาบตามกัน

   “งั้น...มือนั่นที่ซุ้มก็อาจจะ...”

   อานนท์เอ่ยค้างไว้แค่นั้น แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงพร้อมกับคนอื่น เมื่อได้ยินเสียงแมวร้องแง๊วดังลั่น แล้วก็เงียบไป ตุลาหน้าซีดตามเพื่อน แต่ก็แสร้งฝืนยิ้มแย้มส่งให้คนอื่น

   “ก็นะ...บางครั้งก็มีอะไรแบบนี้บ้าง แต่ก็ดีไม่ใช่หรือ ได้บรรยากาศเขียนนิยายดีออก”

   คนอื่นยิ้มไม่ออก โดยเฉพาะพิชยะ เขาอยากรีบกลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้ จึงดึงแขนอานนท์ยิก ๆ ตลอดเวลา

   “ง่า...งั้นพวกเรากลับล่ะตุล ...ถ้าอยากย้ายบ้านเมื่อไหร่ก็โทรมาตามได้ทุกเมื่อนะ”

   มนฤดีบอกพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ จากนั้น ทุกคนก็รีบขอตัวกลับบ้าน โดยมีพิชยะเดินนำลิ่ว ๆ ออกไปเป็นคนแรก ทางด้านตุลามองตามไล่หลังเพื่อนไปด้วยความสงสาร ก่อนจะหันกลับมามองในคฤหาสน์แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาตั้งใจว่า จะไปไล่ถามทีละราย ถึงพฤติกรรมที่พวกเจ้าตัวทำในวันนี้ โดยเฉพาะรายหลังสุดที่เข้าข่ายหลอกเพื่อนเขาให้ขนหัวลุกไปตาม ๆ กันนั่น…





--- TBC ---

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
พระเอกให้เดาคงเป็นพาทิศนะ

@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
ไม่อยากจะบอกคนแต่งว่าเราติดเรื่องเข้่าให้แล้ว
เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีแต่น่ารักมากจริงๆ สาวๆเยอะดีด้วย
อีกอย่างอ่านแล้วให้ความรู้สึกว่าอยู่กันเป็นครอบครัวดีจัง
สงสัยอากริชอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นพระเอกหรือจะเป็นพี่ทิศ
แถมดูเหมือนว่าอากริชความลับเยอะจัง ทำให้อยากรู้มากๆ
เพื่อนๆตุลมาแล้วเจอดีกันซะด้วยโดยเฉพาะเก่ง

ปล.ถ้าของจริงน่ารักเหมือนในเรื่องจะดีมาก ส่วนใหญ่ที่เจอไม่ค่อยน่ารักเลย ยกเว้นท่านเจ้าที่และน้องกุมาร อันนี้เท่าที่เคยเจอน่ะ
 :กอด1: :L2: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2011 21:40:53 โดย @StaR@ »

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ว่าที่พระเอกอีกหนึ่ง ยังไม่เผยโฉมแน่เลย แต่อยากให้พระเอกเป็นคนจัง

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
ยังไม่ไ้ด้เม้นของตอนที่7 เลย มาอัพตอนที่8 ซะแล้ว
พิชญะน่าสงสารอ่า โดนอยู่คนเดียวเลย :m20:

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
ได้อ่านสองตอนรวดเลยย อิอิ ติดเรื่องนี้ซะแล้ว

อยากให้อากริชเป็นพระเอกกกกกก >//<

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
สนกดีค่ะ
อ่านไปตลกไป
มาอัพตอนต่อไปเร็วๆๆๆน้า
คอยอยู่จ้า สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อ่านะ วีรกรรมแต่ละคน อุๆ

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
ชอบพิชชะ อะ โดนหลอกแบบน่ารักจากผีๆ :pig4:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
อ่านแล้วเพลืนดี
รู้สึกได้ถึงบรรยากาศของตัวคฤหาสน์ม่านราตรีได้อยากชัดเจน
อีกทั้งสมาชิกทุกตัว(คน) ที่อาศัยอยู่ด้วย

ชอบมาก สนุกดี

รักคนเขียน

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
เหอ เหอ น่าจะให้เก่งย้ายมาอยู่กับตุล ซะเลยนะ ร่วมด้วยช่วยกันหลอน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด