ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช  (อ่าน 249968 ครั้ง)

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
กลับมาต่อแล้วค่า ขออภัยที่หายไปนานกว่าที่คิด .... พอดีงานเข้า ^ ^"

แถมพอกลับมาเขียนต่อ คิดไปคิดมา จะต่อหรือให้จบไปเลยดีฟะ

นั่งนึก ๆ คิด ๆ อยู่นาน จนได้ตัวธีมของภาคนี้ขึ้นมา  เอาตอนที่ 20 มาลงลองเชิงก่อนแล้วกันค่ะ  ตัวละครหลักก็คงเดิมไม่ค่อยเยอะมากมายสำหรับเรื่องนี้ล่ะนะคะ
..
..
..

ป.ล. ทีแรกว่าจะต่อตอน 1 ภาค 2 แต่คิดไปคิดมา เขียนให้เป็นตอนที่ 20 แทนดีกว่า ยังไงเนื้อหามันก็ต่อเนื่องอยู่ดี





ม่านราตรี
บทที่ 20


    ...ตุลาเป็นเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรีโดยไม่คาดฝันมาได้เป็นเวลาสามเดือนแล้ว  และแม้จะมีสมาชิกในบ้านอยู่มากมายหลายคน แต่นอกจากเขาและอธิป ทั้งหมดไม่เป็นพวกปีศาจก็เป็นวิญญาณทั้งนั้น แถมมนุษย์ด้วยกันอย่างอธิปก็ดันมีอาชีพหลักเป็นหมอผีเสียอีก

   ตามปกติตุลามักจะใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับสมาชิกในคฤหาสน์ แม้จะมีเรื่องให้ชวนผวาในบางครั้ง แต่เขาก็เริ่มเคยชินและมีภูมิต้านทานขึ้นมาทีละนิด แต่ทว่าเขากลับรู้สึกระทึกขวัญสั่นประสาทแทบจะทุกครั้ง ยามมีแขกภายนอกมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน โดยเฉพาะเมื่อแขกผู้นั้นเป็นคนสนิทและคุ้นเคยกับเขาเป็นพิเศษ

    และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ขนาดเขาย้ำนักย้ำหนา ว่าให้สมาชิกในคฤหาสน์ช่วยกันระวัง เพราะกลุ่มเพื่อนของเขาจะแวะมา แต่ตุลาก็ยังพบเจอกับเหตุการณ์วุ่น ๆ เข้าให้อีก จนเขาชักไม่ค่อยแน่ใจนักว่า นี่เป็นเรื่องบังเอิญ หรือพวกสมาชิกในบ้านจงใจกลั่นแกล้งกันแน่

   “ผมจะไม่พูดอะไรอีกแล้วนะครับ ... เอาเป็นว่า ถ้าไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวนความสงบที่นี่นัก คราวหน้าผมจะนัดพวกนั้นนอกบ้านแล้วกัน”

   ตุลาบอกต่อหน้าเหล่าภูตผีปีศาจ ที่มารวมพลกันในตอนค่ำ หลังจากเหตุการณ์ที่เพื่อนเขามาเยี่ยมบ้านและกลับออกไปด้วยอาการขวัญหนีดีฝ่อเสียยิ่งกว่าครั้งแรกที่มา เพราะเสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่ดังลั่นจากสวนด้านนอก แม้ตุลาจะพยายามแก้ตัวว่ามันเป็นเสียงจากทีวีของเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ด้วยเพราะคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยวอย่างม่านราตรี ทำให้เพื่อนของเขายากที่จะเชื่อลงได้

   “ฉะ...ฉันขอโทษนะคะ ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะร้องออกไป... แต่เพราะตกใจที่แมลงสาบที่รุ้งไล่จับ มันบินตรงมาหาฉัน ...ก็เลย...”

   ปิ่นสุดาบอกเสียงสั่นเครือเจือสะอื้น เพราะวันนี้เธอก็ยังแอบขึ้นมานั่งเล่นบนปากบ่อเช่นเคย แถมคำสารภาพของปิ่นสุดาก็ทำให้รุ้งพรายสะดุ้งเฮือกตามไป เพราะเจ้าหล่อนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเพื่อนของตุลามา แต่ก็ยังออกมาวิ่งเล่นในสวน โดยไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะเจอเช่นเดียวกัน

   “เฮ้อ...ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”

   ตุลาไม่อยากจะต่อว่าทั้งคู่ เพราะความจริงพวกหล่อนก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ทุกวันด้วยความเคยชินมานานหลายสิบปีแล้ว เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ และมาก่อกวนชีวิตประจำวันอันสงบของทุกคน

   “ไม่ต้องร้องไห้หรอกครับคุณปิ่น คราวหน้าผมจะบอกให้พวกนั้นนัดเจอกันข้างนอก ...ซึ่งผมว่าพวกนั้นก็คงยินดีและเต็มใจมากเลยด้วย”

   ตุลาเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่เขาเชื่อมั่นว่าเพื่อนของเขาแต่ละคน คงคิดเช่นเดียวกับเขา โดยเฉพาะพิชยะเพื่อนสนิทผู้ซึ่งไม่ถูกโรคกับภูตผีปีศาจเหมือนกับเขาคนนั้น

    “น่าเสียดายนะ ฉันอุตสาห์เริ่มติดใจนายเก่งเพื่อนของเธอเข้าให้แล้วแท้ ๆ  ตลกดี ขี้กลัวไม่แพ้เธอเลย”

   ราตรีบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำให้คนฟังหันไปยิ้มแห้ง ๆ ให้ แล้วนึกสงสารเพื่อนสนิทขึ้นมาจับใจ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด เมื่อสาว ๆ เริ่มสนทนากันถึงเพื่อนของเขาอย่างสนุกสนาน

   “เอ่อ...คุณพาทิศล่ะครับ”

   ตุลาถามสาว ๆ เพราะเห็นว่าพาทิศยังไม่มารวมตัวกับคนอื่น ๆ สักที  ทั้งที่ยามปกติพอตกหัวค่ำแบบนี้ ชายหนุ่มมักจะปรากฏกายให้เขาเห็นแทบเป็นคนแรก ๆ ด้วยซ้ำ

   “เอ...จริง ๆ ด้วยแฮะ”

   รุ้งพรายเพิ่งสังเกตได้ตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนจะชะงักเมื่อปิ่นสุดาสะกิดเธอแล้วเอ่ยขึ้น

   “เพราะวันนี้เป็นจันทร์เต็มดวงหรือเปล่าคะ?”

   “อ๊ะ  อ๋อ! จริงด้วย พระจันทร์เต็มดวงนี่นะวันนี้”

   รุ้งพรายตอบกลับอย่างนึกได้ ทำให้ตุลาที่ฟังอยู่เริ่มงุนงง ก่อนจะนึกย้อนไปถึงเมื่อก่อน ที่ก็มีบางวันที่เขาไม่ค่อยเจอกับพาทิศ แต่เพราะได้เจอหน้ากันบ่อยเสียยิ่งกว่าหายหน้าห่างกัน จึงทำให้เขาไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เท่าใดนัก

   “มีอะไรกับพระจันทร์เต็มดวงหรือครับ?”

   ตุลาถามสองสาว รุ้งพรายกับปิ่นสุดาสะดุ้งโหยง พลางจ้องมองหน้ากันอย่างลังเลว่าจะเล่าให้ชายหนุ่มฟังดีไหม

   “เอ่อ...ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นความลับ ผมไม่ถามก็ได้ครับ”

   ตุลาบอกอย่างเกรงใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งคู่

   “พาทิศเค้ามักจะไปหาคู่รักของเขาในคืนวันนี้น่ะ”

   คำตอบที่ได้ยินทำให้ตุลาชะงักกึก ก่อนจะรู้สึกตัวชาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   “คู่รัก...”

   “อืม... ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ เคยถามครั้งหนึ่งแล้วก็ได้คำตอบมาแบบนี้ล่ะ”

   ราตรีบอกเรียบ ๆ  ส่วนสองสาวก็มีสีหน้าลำบากใจไม่แพ้กัน

   “ฉันก็พอจะรู้บ้าง...แต่อย่าให้เล่าเลยนะ ถ้าตุลอยากรู้ก็ไปถามเขาเอาเองเถอะ”

   รุ้งพรายตัดบท ทำให้ตุลายิ่งประหลาดใจมาก เพราะปกติแมวสาวจะชอบเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ของคนอื่นให้เขาฟังเสมอโดยไม่คิดจะปิดบังหรือเกรงใจว่ามันจะละเมิดเรื่องส่วนตัวของคนอื่น

   “เอ่อ...ผมก็แค่สงสัย ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับขึ้นห้องก่อนนะครับ”

   ตุลาบอกกับบรรดาสาว ๆ แล้วปลีกตัวเดินกลับห้องพักของตน  ซึ่งพอลับหลังชายหนุ่ม ทั้งสามสาวก็ถอนหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน

   “ก็นะ เรื่องส่วนตัวแบบนั้น จะให้เล่าไปก็ลำบากใจเหมือนกัน”

   “นั่นสิคะ ขนาดเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี แต่คุณพาทิศก็ยังไม่เคยลืมเธอคนนั้นเลยนี่นะคะ”

   ปิ่นสุดาเอ่ยตอบ ทำให้ราตรีหวนนึกถึงจอมเดชขึ้นมาบ้าง   

   “เวลาแค่ไม่กี่สิบปีสำหรับพวกเรา มันแทบไม่แตกต่างอะไรกับไม่กี่เดือนของมนุษย์นั่นล่ะนะ...”

    “มันก็ใช่...แต่ก็ไม่ควรจะผูกมัดตัวเองติดอยู่กับอดีตแบบนั้นนี่นา ความทรงจำน่ะเก็บไว้ได้ แต่เราก็ต้องก้าวเดินไปสู่อนาคตพร้อมกับมันด้วย”

   รุ้งพรายบอกอย่างพอจะคาดเดาได้ว่าเพื่อนสาวกำลังคิดถึงเจ้าของคฤหาสน์คนเก่าผู้นั้นอยู่

   “อืม...นั่นสิ”

   ราตรีตอบพลางแย้มยิ้มอ่อนโยนส่งให้ รุ้งพรายยิ้มตอบ แล้วจึงพึมพำขึ้นมา

   “หวังว่าหมอนั่นคงกล้าเล่าเรื่องเธอคนนั้นให้ตุลฟัง เหมือนกับที่เคยกล้าเล่าให้พวกเราฟังล่ะนะ”

   “ฉันเชื่อนะคะ ว่าถ้าเป็นคุณตุลจะต้องไม่กลัวเขา และจะต้องเข้าใจในตัวเขาแน่”

   ปิ่นสุดาบอกกับปีศาจแมวสาวอย่างเชื่อมั่น ซึ่งรุ้งพรายก็ยิ้มน้อย ๆ ตอบเพื่อนของหล่อน แล้วจึงเงยหน้ามองไปยังตำแหน่งที่ตั้งห้องนอนของตุลา

   “นั่นสินะ เพราะเป็นเด็กคนนั้นที่พวกเราทุกคนรัก เขาจะต้องเข้าใจและยอมรับในอดีตของพาทิศได้แน่นอน”

   

   ตุลาหลังจากที่ปลีกตัวออกมาก็ยังคงนั่งนิ่งเงียบอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในตอนแรกเขาตั้งใจจะเขียนนิยายต่อ แต่กลับไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อถึงเนื้อเรื่องได้เลย เรื่องที่พาทิศมีคู่รักหวนกลับมารบกวนเขาอยู่ตลอด ตุลารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จริงอยู่ที่พาทิศนั้นชอบมาหยอกล้อแกล้งเขาในลักษณะที่ชวนให้เข้าใจผิด แต่ก็ไม่เคยทำมากกว่ากอดและจูบ แถมบางครั้งพอเขาเผลอเคลิ้มไปกับอีกฝ่าย พาทิศก็หยุดการกระทำไปเฉย ๆ เช่นนั้น  จนเขาเองยังแปลกใจ แต่พอมารู้ความจริงแบบนี้ ก็ทำให้พอเข้าใจการกระทำเช่นนั้นบ้าง... พาทิศคงแค่แหย่เล่นไม่ได้คิดจริงจังกับเขา ความจริงเขาควรจะโล่งอกแท้ ๆ แต่ยิ่งคิดกลับยิ่งรู้สึกโมโห และปวดใจขึ้นมาอย่างประหลาด

    ชายหนุ่มปิดโน้ตบุคที่เปิดทิ้งค้างเอาไว้เป็นเวลานาน และตั้งใจจะนอนหลับ แต่ด้วยความเป็นคนนอนดึกเป็นประจำ จึงทำให้เขาไม่เกิดความง่วง และนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปลำพังเช่นนั้น จนกระทั่งเริ่มเบื่อ จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นในสวน เพื่อหาเพื่อนคุยกับตน

   “หือ... ไปไหนกันหมด?”

   ตุลารู้สึกแปลกใจ เพราะปกติมักจะเห็นพวกสาว ๆ ไปรวมกันอยู่ที่ซุ้มดอกราตรี  แต่วันนี้กลับเงียบไร้ผู้คน ทำให้สวนที่ดูน่ากลัวอยู่แล้วยิ่งวังเวงหนัก

   “อะไรของมันกันนะวันนี้!”

   คนที่หงุดหงิดอยู่แล้ว บ่นอุบพาล ๆ กับตัวเอง เมื่อคิดว่ายังไงก็คงไม่มีเพื่อนคุยแน่ เขาจึงตัดสินใจกลับขึ้นห้องพักของตน ทว่าก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาเบื้องหน้าเขา

   “คุณพาทิศ...”

   “พวกรุ้งไปตามฉันมา บอกว่าเธออยากพบฉัน”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ ทำให้ตุลาชะงัก หน้าแดงนิด ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะไปมา

   “ไม่ใช่สักหน่อยครับ ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคุณไม่อยู่บ้านก็แค่นั้นเอง...”

   ตุลาบอกพร้อมก้มหน้าหลบ ไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าขึ้นมาดื้อ ๆ

   “อย่างนั้นหรือ...ถ้าอย่างนั้นฉันกลับห้องใต้ดินล่ะนะ”

   พาทิศแกล้งทำเป็นพึมพำรับคำ แล้วขอปลีกตัวจากไป นั่นทำให้ตุลาสะดุ้ง รีบเร่งฝีเท้าเดินไปคว้าแขนร่างสูงไว้ทันที

   “เดี๋ยวก่อนครับ!”

   “หือ? มีอะไรอย่างนั้นหรือ”

   พาทิศแสร้งถามด้วยสีหน้าสงสัย ตุลาอึกอัก หน้าแดงนิด ๆ ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป

   “คุณ...ไปหาคู่รักของคุณมา...จริงหรือครับ”

   พาทิศจ้องมองชายหนุ่มนิ่ง ไม่ได้ตอบคำถามนั้น จนคนรอฟังใจเสีย

   “ขะ...ขอโทษครับ ที่ก้าวก่าย ...ผมกลับห้องล่ะครับ”

   ตุลารีบบอก แล้ววิ่งจากไปด้วยความรู้สึกสับสน เจ้าตัวรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ดวงตาทั้งสอง แล้วจึงใช้หลังมือปาดน้ำใส ๆ ที่กำลังไหลรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ก่อนจะอุทานด้วยความตกใจ เมื่อร่างของตนโดนอ้อมแขนแกร่งรวบเอาไว้จากเบื้องหลัง ไม่ให้หนีไปไหน

   “คุณพาทิศ...ปล่อยเถอะครับ”

   ตุลาบอกเสียงสั่นพร่า กับท่ากอดที่ดูหมิ่นเหม่นั่น แถมพอหวนคิดว่าเจ้าตัวมีคนรักแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกปวดใจแปลบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

   “ไม่ปล่อย...จนกว่าตุลจะบอกฉันว่า ร้องไห้ทำไม”

   ร่างสูงที่พลิกกายอีกฝ่ายให้มาเผชิญหน้า ถามอย่างอ่อนโยน พร้อมกับใช้นิ้วกรีดซับน้ำตาของชายหนุ่มผู้เยาว์วัยแผ่วเบา

   “ผม...”

   ตุลาเงยหน้าสบตากับอีกฝ่ายพลางหลุบตาหลบอย่างช้า ๆ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองร้องไห้ทำไม รู้แต่ว่าหงุดหงิด ไม่พอใจ แล้วลึก ๆ รู้สึกเสียใจ ที่คนตรงหน้ามีคนรักอยู่แล้ว

   “เฮ้อ...ช่วยไม่ได้ ทั้งที่อยากฟังจากปากของตุลมากกว่าล่ะนะ”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ แล้วชะโงกหน้าไปจูบที่เปลือกตาของชายหนุ่มค่อย ๆ

   “กลับขึ้นห้องเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง”

   ตุลาพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วจึงยอมให้อีกฝ่ายจูงมือเดินนำไปเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงห้อง พาทิศก็จับร่างโปร่งให้นั่งบนเตียง จากนั้นเขาจึงเดินไปลากเก้าอี้มานั่งเป็นเพื่อนข้าง ๆ

   “ตุลอยากฟังเรื่องของฉันไหม…เรื่องคู่รักที่ตุลอยากรู้ยังไงล่ะ”

   ตุลาเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย แล้วจึงพยักหน้าตอบรับ

   “อืม...พวกรุ้งก็บอกฉันเหมือนกัน ว่าให้ลองเล่าให้ตุลฟังดู แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้าให้เลือกฉันไม่อยากให้ตุลรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ”

   ตุลาชะงักพลางกำมือตัวเองแน่น เพราะเผลอคิดไปว่าตนเองไม่มีความหมายสำหรับอีกฝ่าย และที่พาทิศทำดีด้วยก็เพียงแค่ต้องการแกล้งเขาเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร  จึงไม่อยากให้เขาได้รับรู้เรื่องนี้

   “หึ ๆ  ดูเหมือนจะเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า”

   พาทิศที่สังเกตปฏิกิริยานั้นหัวเราะในลำคอ แล้วเอื้อมไปจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาจูบเบา ๆ จนตุลาตกใจ

   “เอาล่ะ...เล่าก็เล่า ...”

   ผีดิบหนุ่มพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าขรึมลงเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตของตนให้คนบนเตียงฟังทั้งหมด

   “ฉันเคยมีคู่รัก... คน ๆ เดียวกันกับที่เธออยากรู้จักนั่นล่ะ”

   “...เคยมี?”

   ตุลาทวนคำอย่างประหลาดใจ ซึ่งพาทิศก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเล่าต่อ

   “ใช่ เคยมี...แต่เธอตายไปแล้ว...ตายไปเมื่อหลายสิบปี ก่อนที่ฉันจะมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ”

   ตุลาชะงักกึก แล้วเบือนหน้าหลบสายตาไปทางอื่น นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาทันที เพราะแทนที่จะสงสารอีกฝ่าย แต่วูบหนึ่งแล้วเขากลับรู้สึกยินดีขึ้นมาประหลาด เมื่อทราบว่าคู่รักของพาทิศคนนั้นได้ตายไปแล้ว

   พาทิศที่พอจะคาดเดาจากสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายได้ ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่นั้น ยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่นึกโกรธ เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน แล้วจึงเล่าต่อ

   “เมื่อก่อน ฉันเคยเกลียดมนุษย์ เพราะในยามที่ฉันมีชีวิตอยู่ ฉันต้องเจอแต่กับเรื่องร้าย ๆ เพราะคนรอบข้างมาตลอด...ฉันเกลียด ฉันเคียดแค้น เฝ้ากร่นด่าชะตากรรมจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง ...แม้กระทั่งตายไปแล้ว โชคชะตาก็ยังเล่นตลกและโหดร้ายกับฉันไม่เปลี่ยน ...ฉันกลายเป็นผีดิบ จากนั้นก็ใช้ชีวิตอันอมตะของตน ลงโทษคนที่ทำให้ฉันทุกข์ ให้พวกมันพบกับความทุกข์และทรมานยิ่งกว่าฉันได้รับ”

   พาทิศเสียงแผ่วลง หวนคิดถึงความหลังอันยาวนาน นัยน์ตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาชั่วขณะ ทำให้ตุลาเสียวสันหลังวาบ ทว่าเพียงแค่ครู่เดียวมันก็กลับมาเป็นปกติ   

    “...กลัวฉันไหม?”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แต่พอเห็นแววตาของอีกฝ่ายดูหมองลง เขาก็รีบโพล่งตอบออกไปดังลั่น

   “ไม่ครับ!”

   พาทิศชะงัก ก่อนจะจ้องมองแววตาคู่นั้นอย่างค้นคว้าหาความจริง

   “ผะ...ผม ยอมรับว่าพอฟังแล้วอาจจะกลัว เพราะไม่เคยรู้จักคุณในอดีตมาก่อน...แต่ถ้าเป็นคุณที่อยู่ตรงนี้ ผมไม่มีทางกลัวแน่นอน...อ้อ ถ้าไม่พยายามทำโน่นนี่หลุดบ่อย ๆ ล่ะนะครับ”

   ตุลาเอ่ยตอบออกไปตามตรง ทำให้คนฟังหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วจึงแย้มยิ้มอ่อนโยนชวนมองให้

   “ขอบคุณนะตุล...”

   พาทิศพึมพำ แล้วจึงเล่าเรื่องราวในอดีตของตนต่อ

   “ฉันใช้ชีวิตในฐานะผีดิบมานานจนแทบจะลืมความเป็นมนุษย์ ...และตอนนั้นเองฉันก็ได้เจอกับเธอคนนั้น”

   พาทิศหวนย้อนคิดถึงใบหน้าอ่อนหวาน ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ผู้คนที่พบเห็นสบายใจเสมอ ของอดีตคนรัก

   “เธอคนนั้นเป็นคนสอนให้ฉันได้รู้ว่า มนุษย์ใช่ว่าจะมีแต่ด้านเลวร้ายเสมอไป มนุษย์ที่มีจิตใจดี และมีเมตตา พร้อมจะให้อภัยกับคนที่ทำผิดก็มีอยู่มากมาย ...แต่ก็เพราะฉัน ถึงทำให้คนดี ๆ อย่างเธอต้องมาตายลงไปก่อนวัยอันควร....คืนนั้นที่เธอจากฉันไป ก็เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแบบนี้ล่ะนะ...”

   ผีดิบหนุ่มมีสีหน้าเศร้าหมองลงจนตุลารู้สึกปวดใจ เขาเอื้อมมือไปกุมมือทั้งสองของพาทิศ แล้วสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง

   “พอเถอะครับ...ถ้าไม่อยากเล่าก็อย่าเล่าต่อไปอีกเลย”

    พาทิศสบตาตอบ ก็เห็นแต่แววตาห่วงใยระคนสงสารของอีกฝ่ายจ้องตอบกลับมา เขายิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้าไปหอมแก้มของคนปลอบ จนตุลาสะดุ้งรีบปล่อยมือ แล้วถอยออกมาหน้าแดงระเรื่อ

   “ขอบใจนะตุล... ก็นั่นล่ะ ฉันคงยังเล่ารายละเอียดหลัก ๆ ให้เธอฟังไม่ได้  แต่ฉันบอกได้แค่ว่า เพราะอยู่ใกล้ฉัน เธอคนนั้นถึงต้องโชคร้ายจนต้องตายไปในที่สุด... รู้แบบนี้แล้ว ตุลกลัวฉันไหม...เพราะไม่แน่นะ ฉันอาจจะทำให้เหตุการณ์ร้าย ๆ นั่น ย้อนกลับมาหาตุลเหมือนเธอคนนั้นก็เป็นได้”

   ตุลายอมรับว่าพออีกฝ่ายพูดแบบนั้นด้วยแววตาจริงจัง เขาเองก็รู้สึกกลัวเช่นกัน แต่เมื่อหวนคิดถึงหนึ่งปีที่อยู่ร่วมกันมา เขาก็เม้มปากนิด ๆ แล้วลุกขึ้นก่อนจะโผไปโอบกอดรอบคอพาทิศแล้วพึมพำตอบ

   “ผมไม่กลัว ...สิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือ ไม่มีคุณและทุกคนอยู่ร่วมกันที่คฤหาสน์หลังนี้ มีแต่ผมที่อยู่คนเดียว ...ถ้าเป็นแบบนั้น สู้ให้เจอเรื่องร้าย ๆ เสียยังดีกว่า”

   พาทิศนิ่งชะงักด้วยความตกตะลึงต่อคำสารภาพของอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ แล้วลืมตาขึ้น พร้อมกับดันร่างโปร่งออกมาสบตาด้วย

   “แย่จริงตุล...เธอกำลังทำให้ฉันคิดจริงจังกับเธอแล้วนะ ...รู้ไหมว่า ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อให้อาของเธอ หรือใครในบ้านนี้จะห้าม ...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่...”

   ตุลาใจเต้นตึกตักต่อแววตาที่แฝงไปด้วยอำนาจประหลาดคู่นั้น และกว่าจะรู้สึกตัวอีกที แผ่นหลังของเขาก็กระทบกับเตียงนอน โดยมีร่างสูงคร่อมอยู่ด้านบน

   “คุณพาทิศ...”

   ตุลาพึมพำครางเรียกชื่ออีกฝ่าย ในขณะที่ร่างสูงไล่จูบซุกไซ้ไปทั่วใบหน้าและลำคอของตน ก่อนที่พาทิศจะชะงัก แล้วยิ้มมุมปากน้อย ๆ พลางดันกายลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ ทำให้คนที่นอนอ่อนระทวยปรือตาขึ้นมามองอย่างแปลกใจ

   “ขืนทำมากกว่านี้ ฉันอาจโดนกันท่าจากตุลก็ได้ ...ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงเศร้าแย่”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ อย่างนึกขัน เมื่อจับสัมผัสบางอย่างจากนอกห้อง ก่อนจะแกล้งรั้งตัวตุลาขึ้นมานั่ง แล้วกัดงับไปแรง ๆ ตรงซอกคอของอีกฝ่าย

   “โอ๊ย!”

   ตุลาร้องเสียงดังด้วยความเจ็บ ทว่าหลังจากที่เขาหลุดปากร้องออกไป ด้านนอกระเบียงก็มีสามสาวเปิดพรวดเข้ามา ส่วนประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับกริชและอธิปที่ก้าวเข้ามาในห้องเช่นเดียวกัน

   “แย่จัง แบบนี้ก็คงต้องเปิดตัวกับทุกคนแล้วสินะตุล...ว่างั้นไหม”

   พาทิศบอกกับตุลาพลางแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาตุลานิ่งอึ้ง หน้าซีดสลับแดง เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของทุกคนที่มองมายังพวกตน

   “ตุล...อาถามตรง ๆ นะ ชอบหมอนี่แบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า!”

   กริชถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ขณะที่อธิปพยายามกลั้นหัวเราะ เขากับกริชแอบฟังทั้งคู่คุยกันอยู่นาน ...แน่นอนด้วยความสามารถเฉพาะตัวของวิญญาณอย่างกริช และด้วยอาคมที่เขามีก็ทำให้พวกเขามองเข้าไปในห้องได้สบาย ๆ ซึ่งเขาเองก็พอจะมองออกถึงท่าทางของตุลาและพาทิศในช่วงระยะสามเดือนที่ผ่านมา กริชเองก็เช่นกัน เขาเองก็พอจะรู้ว่าหลานชายนั้นเริ่มมีใจให้อีกฝ่าย ถึงไม่ออกไปขัดขวางแต่แรก และทนรอจนกระทั่งพาทิศรู้สึกตัวว่ามีคนแอบมองนั่นล่ะ

   ส่วนสามสาว หลังจากที่ไปบอกให้พาทิศเล่าเรื่องราวในอดีตให้ตุลาฟัง พวกหล่อนก็ตัดสินใจแอบมองอยู่ห่าง ๆ แต่ว่าหลังจากที่เห็นทั้งคู่กอดกันในสวน ก็ทำให้พวกเธอเริ่มอยากรู้อยากเห็น และตามมาแอบมองอยู่นอกห้อง ซึ่งถึงแม้จะได้เห็นพฤติกรรมชวนน่าสงสัยของทั้งคู่ แต่พวกเธอก็ยังตัดสินใจแอบดูเงียบ ๆ ด้วยความลุ้นระทึก แม้กระทั่งตอนที่พาทิศจับตุลากดลงไปบนเตียงก็ตาม พวกเธอก็ไม่คิดจะออกไปขัดขวาง แถมยังรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาดอีกด้วย

   “อาครับ...คือผม”

   ตุลาตอบกึกกักด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วจึงหันมองคนโน้นคนนี้ที่มองมาที่เขาเป็นตาเดียว ก่อนจะชะงักเมื่อพาทิศจับบ่าของเขาบีบเบา ๆ

   “ตอบไปตามความรู้สึกของตุลเถอะ...ฉันเองก็อยากรู้ และถึงจะปฏิเสธกัน ฉันก็ไม่โกรธหรอกนะ”

   พาทิศพูดดักเอาไว้ ทำให้คนที่คิดจะแก้ตัวสะดุ้ง แล้วจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ หวนคิดถึงความรู้สึกของตนที่ผ่านมา ก่อนจะหันมายิ้มให้กับผู้เป็นอา

   “ผมชอบเขาครับ”

   ตุลาตอบออกไปตามตรง ทำให้แม้แต่พาทิศเองยังแอบนิ่งอึ้ง ก่อนแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนตามมา

   ทางด้านกริชเองพอได้ฟังก็เงียบไปชั่วครู่ เขาสบตาหลานชายก็เห็นแต่ความจริงใจในแววตาคู่นั้น วิญญาณหนุ่มทำท่าถอนหายใจ แล้วจึงหันไปทางอธิปก็เห็นเพื่อนสนิทกำลังกลั้นหัวเราะ กริชสบถอุบอิบด่าเพื่อนเบา ๆ แล้วจึงหันไปทางพาทิศที่มองเขาตอบเช่นกัน

   “ถ้านายจริงจัง ฉันก็จะไม่ขัดขวาง ...แต่ถ้าคิดกับตุลแค่เล่น ๆ ฉันก็ขอร้องว่าอย่าให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับหลานชายฉันอีก”

   พาทิศเงียบกริบ ไม่คิดว่ากริชจะยอมง่าย ๆ เช่นนี้  เขามองไปยังตุลาที่สบตาเขาด้วยความเป็นกังวล  พาทิศหลับตาลงช้า ๆ หวนคิดถึงกำแพงบาง ๆ ที่ตนเคยสร้างกั้นระหว่างอีกฝ่าย ที่แม้จะถูกใจเพียงไหน แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปมากกว่าการสัมผัสเล็กน้อย ...เพราะเขากลัวว่า หากรักเข้าไปเต็มหัวใจจริง ๆ แล้ว  อีกฝ่ายอาจจะต้องประสบกับชะตากรรมอันเลวร้าย เหมือนกับอดีตคนรักของเขาก็เป็นได้  ทว่าด้วยคำพูดของตุลาเมื่อก่อนหน้า ก็ช่วยปัดเป่าถึงความกังวลนั้นให้เขาจนหมดสิ้น

   “ผมชอบตุลครับ...ก่อนหน้านั้นยอมรับว่าแค่ถูกใจ จึงอยากแกล้งดู ...แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั่นมันมากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะครับ”

   กริชเงียบไปพักใหญ่ แล้วจึงมีสีหน้าเหมือนปลงตก เขาลูบศีรษะผู้เป็นหลานชายเบา ๆ แล้วจึงหายตัวไป ทำให้ตุลาตกใจเป็นอย่างมาก แต่พอได้ยินที่อธิปบอกก็ทำให้เขารู้สึกโล่งอกและเบาใจขึ้นมา

   “ใจเย็น ๆ หมอนั่นก็แค่หายตัวไปทำใจในแบบของเขา ...แต่ไม่ต้องห่วงนะ หมอนั่นยอมรับในการตัดสินใจของเธอในทุกเรื่อง เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเธอยิ่งกว่าใครไงล่ะ”

   อธิปอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง แล้วขอตัวกลับห้องบ้าง ส่วนสามสาวที่นิ่งเงียบอยู่นานก็รุมล็อกตัวผีดิบหนุ่ม แล้วยิงคำถามรัวจนพาทิศหูชา

    “อะไรกัน! ไปชอบกันตอนไหนทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย เล่ามาให้หมดเลยนะ!”

   รุ้งพรายถามเสียงสูงปรี๊ดอย่างโมโห ที่เธอนั้นตกข่าวใหญ่แบบนี้ได้ ยิ่งดูจากท่าทางของกริชและอธิปก็ทำให้รู้ว่า สองคนนั้นก็รู้ตื้นลึกหนาบางมาพอสมควรยิ่งกว่าเธอเสียอีก

   “นั่นสิ! แย่จัง เพื่อนกันแท้ ๆ ทำไมไม่ปรึกษากันบ้างเลย เรารึจะได้ช่วยวางผงวางแผนดูต้นทางคุณกริชให้บ้าง!”

   ราตรีบ่นอุบ แต่คำบ่นของเธอทำให้ตุลาหันไปมองตาปริบ ๆ ส่วนปิ่นสุดานั้นน้ำตาคลอ แล้วบอกกับพาทิศด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น

   “นั่นสิคะ ...พวกเราอุตสาห์ไว้ใจคุณแท้ ๆ ...แต่ไม่คิดว่าจะชุบมือเปิบไปแบบนี้ ...ว่าแต่คุณตุลเป็นรับใช่ไหมคะ ...อย่าให้เป็นรุกนะคะ... ไม่งั้นฉันไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ...”

   รุ้งพรายกับตุลาหันมามองเงือกสาวตาปริบ ๆ ส่วนพาทิศนิ่งอึ้งไปในทีแรก ก่อนจะหัวเราะตามมา แล้วรับปากปิ่นสุดาว่าจะไม่ยอมให้ตุลารุกเขาเด็ดขาด

   “บางทีฉันก็ไม่เข้าใจ เรื่องความชอบของปิ่นเลยนะ”

   รุ้งพรายพึมพำ ซึ่งตุลาก็พยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่ และเมื่อตอบคำถามของสามสาวอยู่พักใหญ่ ทั้งหมดจึงเริ่มแยกย้ายกันไป เพราะได้ยินเสียงนาฬิกาตีดังเที่ยงคืน อันเป็นเวลาสมควรพักผ่อนของตุลาแล้ว

    “ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะ”

   พาทิศชะโงกหน้าไปหอมแก้มชายหนุ่ม  ตุลาหน้าแดงนิด ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินกลับไปนอน หวนคิดถึงเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้า พลางอมยิ้มน้อย ๆ

    อยู่เป็นโสดมายี่สิบกว่าปี ในที่สุดเขาก็มีคนรักเหมือนคนอื่นบ้างแล้ว ...ถึงคนรักคนนี้จะเป็นผู้ชาย แถมไม่ใช่คนก็ตาม แต่สำหรับตุลา ก็ถือว่า พาทิศเป็นคนที่เขาอยากอยู่เคียงข้างไปด้วยกันเรื่อย ๆ ตลอดไปล่ะนะ


   
   
---TBC---

   








------------

ตอบคำถาม:
อ่านนิยายจบ มาเห็นคอมเม้นต์ข้างล่าง นี่พี่ปัดเหรอเนี่ย
ที่แต่งเรื่อง เรื่องป่วนๆของก๊วนยมทูตในเด็กดีรึเปล่าค่ะ
แอบติดตามเรื่องนั้นมาเนิ่นนาน ^^
อ่านเรื่องนี้ของพี่ปัดแล้วคิดว่าหนุ่มๆน้อยไปนิดนึงอ่ะค่ะ แต่ก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม  :3123:

คนเขียนคนเดียวกันค่ะ ^ ^ เรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันเขียนคนละแนวค่ะ หนุ่ม ๆเลยน้อยไปหน่อย อีกอย่างไม่อยากใช้ตัวละครเปลืองด้วย แหะ ๆ อยากเขียนตัวละครน้อย ๆ แต่ให้คนอ่านรู้สึกผูกพันกับทุกตัวมากกว่าน่ะค่ะ ^ ^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2011 21:49:56 โดย Xenon »

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ในที่สุดก็กลับมาอัพ
...................................


อดหงุดหงิดตุลไม่ได้ ทำไมเป็นคนว่าง่ายขนาดนี้เนี่ย
อยากให้งอนให้พาทิศง้อจริง ๆ แต่เพราะแบบนี้แหละถึงได้น่ารัก น่าแกล้ง XD

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2011 20:28:29 โดย SuSaya »

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
 :mc3: :mc3: :mc3:

เย้ๆๆๆ  กลับมาอัพแล้ว

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
กรี๊ดดดด กลับมาแว้ววว นึกว่าจะไม่มาต่อแว้ว โฮววว โล่งอก :เฮ้อ:

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
มาอ่านตอนใหม่ น่าติดตามเหมือนเดิมค่ะ

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
ในที่สุดก็มาต่อแล้วดีใจมาก :กอด1:
ตุลาน่ารักมาก :-[

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เหมือนมีลางสังหรณ์ เมื่อวานยังนึกถึงเรื่องนี้อยู่เลยว่าหายไปนาน สงสัยไม่ได้อ่านต่อแล้ว
วันนี้เปิดมาดจอเลย ดีใจๆ

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
 :mc4: กลับมาแล้ว ดีใจจังเลย   อย่างงี้ต้อง + 

bellity

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: :L2: :L2: :L2:ตุลาน่ารักมาก
กลับมาแล้ว นึกว่าจะไม่มาต่อแล้ว

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ว๊าย เพิ่งรู้ว่าคนเขียนคนเดียวกับเรื่องป่วนๆฯนะคะนี่
เรื่องนั้นเค้าก็ชอบมากเลย  ฮาเร็มย่อมๆเลยอ่ะค่ะ :laugh:

เรื่องนี้ก็ชอบเหมือนเดิมค่ะ  :o8:
มาต่อเร็วๆนะคะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ว้าวๆ ในที่สุดก็รู้ใจกันแล้ว :mc4:

ต่อไปก็ ... :z1:

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
รู้สึกว่าจะแสดงความเป็นเจ้าของออกมาชัดเจนเรื่อยๆแล้วววววววววววว อิอิอ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ตุลากลับมาแล้ววววว  ดีใจจัง สรุปว่าคบกับพาทิศแล้วใช่ไหมมมมม วิ้วววววว  :mc4:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ นะคะ ที่กลับมาต่อเรื่องนี้  :pig4:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
 :mc4: :mc4: เย้ กลับมาต่อแล้ว
คู่นี้เค้าลงเอยกันแล้ว ตุลน่ารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
 :mc4: :L2: :กอด1:
ยินต้อนรับการกลับมานะจ๊ะ

กร๊ากกกกก สาวๆในคฤหาสเป็นสาววายซะงั้น :jul3:

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเรื่องนี้ อ่านไปอมยิ้มไป ตุลก็น่ารัก พาทิศก็เจ้าเล่ห์ดี มาต่อตอนต่อไปไวๆนะ อยากรู้ว่าจะหวานกันขนาดไหน แล้วคู่กริชกับอธิปจะมีการสารภาพรักตามคู่แรกหรือเปล่า อิอิลุ้นๆ

ออฟไลน์ Kra-Jieb

  • ชีวิตที่เลือกเอง !!!!!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ดีใจจังกลับมาต่อให้แล้ว  แอบกลัวว่าจะไม่มาต่อ...ขอบคุณนะคะ :กอด1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
โอ้.........แล้วแบบนี้ภาพต่อไปจะมีคู่ของคุณอาตุลมัง่ใหมเนี่ย อยากเห็นๆ อิอิ

ออฟไลน์ tumtok

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-4
น่ารักๆดีอ่ะ :-[
รอตอนต่อไปคับ :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
หวานๆ น่ารักจัง

แอบสงสารอากริช  คงรู้สึกเหมือนลูกสาว? กำลังจะออกเรือน  :oni1:

wichaiP

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว มิน่าทำไมรู้สึกเหมือนเคยอ่านงานลักษณะนี่มาก่อน เจ้าของเรื่องในเวปเด็กดีที่เคยอ่านนี่เอง
เรื่องนี้น่ารัก สนุกดีครับ ชอบมาก ขอบคุณที่เขียนให้อ่านครับ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ดีใจมาต่อแล้ว ตอนแรกจำชื่อเรื่องไม่ได้ว่าเคยอ่านแล้ว 555

น้องตุลน่ารักเหมือนเดิม ^^

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
   **มาต่อแล้วค่า ขอบคุณมากค่า ที่ยังคงติดตามกันอยู่  :pig4: 

ช่วงนี้มีหวาน ๆ กันไปก่อนนะคะ  หวังว่าคงไม่เบื่อกันน้า~  :o8:



ม่านราตรี
บทที่ 21


    ... หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างพาทิศและตุลากลายเป็นที่ยอมรับของสมาชิกในคฤหาสน์ม่านราตรีกันถ้วนหน้า ผีดิบหนุ่มก็เริ่มออกอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของให้บางคนหมั่นไส้ โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าคุณอาผู้หวงหลานชายผู้นั้น

   “หนอย... หมอนั่น มันจงใจอี๋อ๋อกับตุลต่อหน้าฉันชัด ๆ เห็นยอมเข้าหน่อยทำได้ใจ เดี๋ยวคอยดูเหอะจะจับแยกเข้าให้!”

   อธิปมองเพื่อนสนิทอย่างงัวเงีย เพราะอีกฝ่ายพอมาถึงก็ปลุกให้เขาตื่นแล้วยืนบ่นให้เขาฟังเป็นชุดเสียอย่างนั้น

   “เฮ้อ! ปลุกฉันมาตั้งแต่เช้า เพื่อจะมาบ่นเรื่องไร้สาระให้ฟังนี่นะ”

   กริชปรายสายตามองคนบ่นอย่างหมั่นไส้ แล้วจึงกระแทกเสียงใส่

   “เช้าบ้านนายน่ะสิ! สายโด่งขนาดนี้แล้ว!”

   อธิปเลิกคิ้ว แล้วคลำหานาฬิกาข้อมือของตนบนหัวเตียงมาเพ่งดู

   “เออว่ะ ... สายแล้วนี่นา นึกว่ายังเช้าอยู่เสียอีก”

    กริชทำเสียงฮึในลำคอ ก่อนจะสะดุดสายตาเข้าให้กับนาฬิกาที่อีกฝ่ายหยิบมาดู ตัวเรือนเหล็กนั้นเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ส่วนสายหนังก็เปื่อยแถมถลอกจนเห็นได้ชัด

   “เก่าจะตายยังจะเก็บไว้อีกหรือนั่น”

   อธิปเงยหน้ามองคนพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ถือสา

   “ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่เอาไว้ดูเวลา ยังเดินได้ก็ใช้มันต่อไปนั่นล่ะ”

   กริชฟังแล้วก็เงียบคิด ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงของอธิปเอ่ยขึ้นต่อมา

   “แล้วก็เรื่องเจ้าหนูตุลนั่นน่ะ  ฉันว่านายอย่าทำตัวเป็นพ่อตาหวงลูกสาวหน่อยเลย หลานชายนายโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนา แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกัน เรื่องท้องก่อนแต่งอะไรนั่นก็ไม่ต้องเป็นห่วง สบายจะตาย”

   กริชหันขวับมาทางเพื่อนสนิท พลางจ้องอีกฝ่ายตาขวาง เพราะดันสะดุดในเนื้อความที่หนุ่มใหญ่พูดออกมาตรง ๆ นั่น

   “ง่า...ยังไงพวกเขาก็เป็นแฟนกันแล้วนี่ นายคิดหรือว่าเขาจะคบกันแบบเด็ก ๆ ประเภท กอดจูบกันเฉย ๆ น่ะ ...ไม่เอาน่ากริช นายคงไม่ให้หลานนายรักษาพรหมจรรย์จนถึงวันสิ้นอายุขัยของเขาใช่ไหม?”

   อธิปรีบอธิบายตามมาเมื่อเห็นแววตาดุ ๆ ของเพื่อน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้คนฟังไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่

   “ฉันรู้ดีน่าเรื่องนั้น! แต่ที่ไม่สบอารมณ์เพราะหมอนั่นตั้งใจอี๋อ๋อกับตุลต่อหน้าฉันต่างหาก!”

   กริชโพล่งใส่ แต่อธิปกลับหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

   “หึงล่ะสิ ที่เจ้าหนูนั่นไปอ้อนคนอื่นนอกจากตัวเอง?”   

   วิญญาณหนุ่มที่ถูกพูดแทงใจดำชะงักกึก แล้วทำเป็นค้อนประชด ก่อนจะนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ จนคนพูดต้องถอนหายใจ

   “กริช...ไม่ดีหรอกหรือ มีคนคอยดูแลเจ้าหนูตุลให้ นายจะได้หมดห่วง แล้วละภพภูมินี้ไปได้สักที”

   อธิปปลอบ แต่ทำให้คนฟังชะงัก แล้วหันหน้าไปมองคนพูดด้วยใบหน้าหมองลง

   “นายอยากให้ฉันไปจากที่นี่ไว ๆ จะได้ไม่ต้องอยู่กวนนายแบบนี้ใช่ไหมล่ะ”

   กริชประชดใส่ด้วยความน้อยใจ เพราะการที่หลานชายซึ่งตัวเองดูแลมา มีคนอื่นที่สำคัญกว่าเขา ก็ทำให้วิญญาณหนุ่มรู้สึกเหงาขึ้นมานิด ๆ แล้ว แถมพอโดนเพื่อนพูดเหมือนรีบไล่ให้ไปเกิดไว ๆ ก็ทำให้เขายิ่งเกิดความน้อยใจมากขึ้นไปอีก

   “เฮ้อ! นายนี่...ไม่เปลี่ยนเลยนะ ขี้งอนไม่เข้าเรื่อง”

   อธิปเปรยบ่นแล้วโอบบ่าร่างโปร่งแสงของเพื่อนมาหาตัวเบา ๆ และเพราะอาถรรพ์ที่ดินแรงกล้า อีกทั้งความที่ชายหนุ่มมีพลังวิญญาณในฐานะหมอผี ร่างของกริชจึงเอนตามแรงดึงนั้นอย่างง่ายดาย

   “ปล่อยฉัน!”

   กริชบอกอีกฝ่ายเสียงดุ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจแล้วคำเปรยแผ่วเบาของเพื่อนสนิท

   “รู้ไหมนายกริช ...ตั้งแต่เกิดจนแก่ป่านนี้ ฉันมีเรื่องเดียวที่รู้สึกเสียใจ และอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขเสมอ...ถ้าในวันนั้นฉันไม่ตอบรับคำขอร้องของนาย ...บางทีนายอาจจะยอมมีชีวิตอยู่ต่อไป ได้กลายเป็นนักเขียนโด่งดัง มีความสุขมากยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้”

   กริชนิ่งอึ้ง เขาเงียบไปพักใหญ่ ๆ แล้วจึงซบหน้าลงกับบ่าของอีกฝ่าย

   “ถ้านายไม่ช่วยฉันในวันนั้น ก็จะไม่มีตุลในวันนี้ แล้วฉันก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นหลานชายที่ฉันรักเติบโต มีเพื่อนฝูง มีคนที่รักและหวังดีต่อเขา ... อย่าโทษตัวเองเลยอธิป นายก็แค่ทำตามคำขอที่เอาแต่ใจของฉันก็แค่นั้น ...และถ้าวันนั้นนายไม่ตอบรับคำขอของฉัน ...ฉันก็จะทำอย่างที่เคยบอกไว้ ...ฉันทนดูหลานตายต่อหน้าต่อตา ทั้งที่รู้ว่ามีทางช่วยเหลือเขาไม่ได้หรอกนะอธิป ...หรือต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้  ฉันก็จะบังคับนายให้ทำเรื่องซ้ำ ๆ แบบเดิมอยู่ดีนั่นล่ะ”

    อธิปถอนหายใจเบา ๆ เขากอดร่างนั้นอยู่พักใหญ่จนกริชเริ่มรู้สึกตัว แล้วดันร่างของตนออกมาแรง ๆ ก่อนจะมีสีหน้าแดงระเรื่อให้เห็นบนใบหน้าเผือดขาวนั่น

   “ถึงฉันจะยอมให้ตุลคบกับผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่า ฉันจะมีรสนิยมแบบนั้นนะ!”

   อธิปที่นิ่งอึ้งด้วยความตกใจในตอนแรกที่ถูกอีกฝ่ายผลัก ขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะหวนคิดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายบอก แล้วจึงนึกขึ้นมาได้ว่ากริชนั้นหมายถึงอะไรกันแน่

   “หึ ๆ นายกริชนะนายกริช... คิดอะไรได้น่าขนลุกพิลึก ที่ฉันกอดก็เพราะสงสารคนขี้เหงาหรอกนะ ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่นายคิดสักนิดเดียว”

   อธิปบอกอย่างนึกขำ แต่คนฟังนี่สิทำหน้าบึ้งใส่ แล้วโพล่งกลับเสียงดังลั่น

   “ใครขี้เหงา! อย่ามาใส่ความกันนะ!”   

   “เอ ...ใครกันนะ พอโดนหลานทิ้งไปหาแฟนก็มาบ่น ๆ ให้ชาวบ้านฟัง แถมพอคนเขาอยากให้ไปสู่สุคติ ก็ยังมางอน น้อยอกน้อยใจใส่อีก ...แบบนี้ไม่เรียกขี้เหงาแล้วจะเรียกอะไร”

   “อธิป!”

   กริชเรียกชื่อเพื่อนด้วยความโมโหแกมอาย วิญญาณหนุ่มพุ่งเข้ามาหมายจะชกปากเสีย ๆ ของเพื่อนให้หายโกรธ แต่ก็ดันโดนคนไวกว่ารวบตัวเอาไว้ได้เสียก่อน

   “จุ๊ ๆ เป็นวิญญาณ คิดจะเล่นงานหมอผี เร็วไปร้อยปีนะจ๊ะ”

   อธิปแกล้งแหย่ ทำให้กริชทั้งโมโหทั้งเสียหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอาคมของอีกฝ่ายทำให้เขาขยับตัวลำบาก

   “อธิป...ฉันเจ็บ...ปล่อยเถอะนะ...”

    และระหว่างที่หมอผีหนุ่มกำลังได้ใจ กริชก็เงยหน้าช้อนตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ้อนวอน ชนิดที่ทำให้คนมองกลืนน้ำลายลงคอ ใจเต้นแรงอย่างประหลาด เผลอลืมตัวจนเปิดช่องว่างให้กับคนที่คอยโอกาสอยู่แล้วโหม่งศีรษะซัดปลายคางเจ้าตัวเต็มที่

   “โอ๊ย! เล่นปลายคางนี่กะจะให้สลบเลยหรือไงวะ!”

   อธิปที่ลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าด้วยความมึนงงโวยวาย กริชยืนมองภาพนั้นด้วยความสะใจ

   “สมน้ำหน้า ใครใช้ให้แกล้งกันก่อนเล่า เชอะ!”

   กริชบอก ก่อนจะหายตัววับหนีกลับห้องไป เพราะกลัวอีกฝ่ายจะบ้าจี้เอาคืนเขาบ้าง ทิ้งให้อธิปนั่งสะบัดศีรษะอย่างมึนงงครู่ใหญ่ พร้อมกับสบถด่าตัวเองที่ดันไปเผลอใจเต้นเข้าให้กับใบหน้าหวาน ๆ อ้อน ๆ ของเพื่อนสนิท จนต้องโดนเล่นงานแบบนี้

   “เดี๋ยวเหอะ เล่นยั่วแบบนี้บ่อย ๆ พ่อจับกดเข้าให้จริง ๆ แล้วอย่ามาร้องโวยวายแล้วกัน!”

   อธิปพึมพำด้วยความเจ็บใจ พร้อมกับคาดโทษชนิดที่หากกริชได้ยินคงจะโวยวายใส่แล้วหาทางเล่นงานคนพูดเข้าให้แน่



   ตุลารู้สึกเขิน ๆ ต่อสายตาที่แสดงความอยากรู้อยากเห็นอย่างจริงจังของสาว ๆ ที่จ้องมาในยามที่เขาพูดคุยกับพาทิศ ที่บริเวณซุ้มราตรี และแทนที่ผีดิบหนุ่มจะรู้สึกอายเหมือนกัน แต่กลับแกล้งทำเป็นแตะโน่นจับนี่ตามตัวเขา ให้สาว ๆ คอยซุบซิบหัวเราะคิกคักนินทากันใกล้ ๆ แทนเสียอีก

    “คุณพาทิศครับ...คือว่า...มือ...”

   ตุลาบอกหน้าแดงระเรื่อเมื่ออีกฝ่ายขยับมานั่งใกล้แถมยังโอบเอวเขาเข้าให้อย่างถือสิทธิ์

   “ทำไม...ไม่ชอบหรือ?”

   พาทิศแกล้งถาม ทำเอาชายหนุ่มหน้าแดงก่ำ แล้วก้มหน้าก้มตาตอบอุบอิบ

   “ไม่ใช่ไม่ชอบ...แต่...คือผมอายน่ะครับ”

   คำตอบตรงไปตรงมาสมกับเป็นเจ้าตัว ทำให้พาทิศอมยิ้มแล้วเลิกแกล้งอีกฝ่าย เขาปล่อยมือออก พลางลูบศีรษะของตุลาเบา ๆ ก่อนจะชะโงกหน้าไปกระซิบใกล้ ๆ

   “งั้นไว้กอดตอนไม่มีคนอยู่แล้วกันนะ”

   “แหม! คนอื่นนั่งหัวโด่อยู่ทั้งคน ทำตัวหวานกันไม่เกรงใจเลยนะยะ”

   รุ้งพรายที่ได้ยินเสียงกระซิบนั่นถนัดหู กระแทกเสียงใส่อย่างหมั่นไส้ เพราะพอทั้งคู่ประกาศเป็นแฟนกัน พาทิศก็ตามประกบตุลาไม่ค่อยห่างเสียยิ่งกว่าเดิม ทำเอาเหมือนเธอรู้สึกโดนแย่งของเล่นสุดโปรดไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้น

   “ช่วยไม่ได้นี่นา อุตสาห์ปล่อยให้พวกเธอมะรุมมะตุ้มเขามาเป็นปี ๆ ตอนนี้ก็ขอคืนบ้างล่ะ”

   พาทิศหันไปตอบปีศาจแมวสาวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ รุ้งพรายจึงค้อนขวับเข้าให้ อาการงอน ๆ นั้น ทำให้แม้แต่ตุลายังอดอมยิ้มไม่ได้

   “ก็คิดอยู่บ้างว่าตุลคงหาแฟนสาวได้ยาก แต่ไม่คิดเลยนะจะมาได้แฟนแถวนี้ แถมยังเป็นพาทิศอีก”

   ราตรีเอ่ยขึ้นบ้างอย่างไม่ได้คิดหมั่นไส้อะไรทั้งคู่ กลับกันเธอนั้นยินดีที่ได้เห็นคนที่เธอชอบทั้งสองคนลงเอยกันเอง มากกว่าที่จะไปลงเอยกับคนอื่นที่เป็นสมาชิกนอกคฤหาสน์หลังนี้    

   ทางด้านตุลามองวิญญาณสาวตาปริบ ๆ รู้สึกทะแม่งในคำพูดต้นประโยคของอีกฝ่าย แต่พอถูกพาทิศหอมแก้มเข้าให้ เขาก็สะดุ้งโหยงหน้าแดง แล้วรีบขยับตัวหนีห่างด้วยความอาย ส่วนรุ้งพรายพอเห็นก็ค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้อีกครั้ง ด้านราตรีนั้นหัวเราะคิกคัก ส่วนปิ่นสุดาที่นั่งอยู่บนปากบ่อน้ำก็แอบอมยิ้ม แล้วก็พลันนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

   “แล้วแบบนี้ตอนกลางคืนคุณตุลจะนอนที่ไหนคะเนี่ย?”

    คนอื่น ๆ หันมามองเงือกสาวอย่างสงสัย ปิ่นสุดาสะดุ้งหน้าแดงวาบ แล้วบอกออกไปอย่างเอียงอาย

   “ก็เป็นคู่รักกัน มันก็ต้องมีเรื่องพวกนั้นไม่ใช่หรือคะ...ถ้าแยกกันนอนจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะคะ”

   ปิ่นสุดาพูดไปหน้าแดงไป แต่คนฟังอย่างตุลายิ่งหน้าแดงหนักเข้าไปอีก สำหรับราตรีนั้นพอได้ยินเธอก็หลุดหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ ส่วนรุ้งพรายอ้าปากค้างในทีแรก ก่อนจะบ่นอุบอิบไม่อยากเชื่อ ว่าเพื่อนสาวจะคิดเล็กคิดน้อยไปถึงขนาดนั้นได้ ทั้งที่เป็นคนเรียบร้อยแท้ ๆ

   และสำหรับพาทิศเขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อเห็นสีหน้าเขินอายของหนุ่มน้อยข้างกาย เขาแกล้งกระแอมเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้นตามมา

   “ตุลไม่ต้องย้ายห้องหรอก ...แต่ถ้าอยากให้ฉันกอดเมื่อไหร่ ก็เรียกแล้วกัน แล้วฉันจะรีบไปหาทันที”

   “คุณพาทิศ!”

   ตุลาตวาดคนรักด้วยใบหน้าแดงก่ำ พลางมองซ้ายมองขวาก็เห็นสายตาของสาว ๆ มองมายังเขาด้วยความสนอกสนใจ นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มยิ่งอายหนัก แล้ววิ่งหนีขึ้นห้องไปในทันที

   “โถ ๆ งอนเข้าให้แล้วสินะ ไปปลอบด้วยล่ะพาทิศ เดี๋ยวก็ไม่ยอมคุยกับพวกเราหรอก”

   ราตรีหันไปบอกเพื่อนชายของเธอ พาทิศหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ส่วนรุ้งพรายคลอนหัวไปมา และปิ่นสุดาหน้าแดงระเรื่อเมื่อเผลอจินตนาการอะไร ๆ ของหล่อนไปตามลำพัง

      

    เมื่อกลับขึ้นมาถึงห้อง ตุลาก็ต้องพบว่าเขาลืมโน้ตบุคไว้ด้านล่าง แต่จะให้ลงไปเอาตอนนี้ก็เห็นทีจะลำบาก เพราะเขาคงต้องโดนหัวเราะเยาะให้อีกแน่

   “ฮึ! คนขี้แกล้ง”

   ตุลาพึมพำต่อว่าคนที่ยังคงชอบแหย่ชอบแกล้งเขาเสมอ ถึงแม้ว่าเวลานี้พวกเขาจะคบกันแล้วก็ตาม

   “ใจร้ายจัง คนอุตสาห์เอาของขึ้นมาส่งให้แท้ ๆ”

   เสียงทุ้มที่ดังอยู่ตรงประตูทำให้คนที่ยืนบ่นสะดุ้งโหยง แล้วหันขวับไปมองอย่างตกใจ

   “คุณพาทิศ มาได้ยังไงกัน!”

   เพราะตัวเองวิ่งขึ้นมา และเพิ่งปิดห้องไปหยก ๆ แต่ไม่ทันไรอีกฝ่ายก็ตามมาทันเสียแล้ว ทำให้ตุลารู้สึกประหลาดใจพอดู แต่พอเห็นรอยยิ้มเอ็นดูของอีกฝ่ายที่มีให้ตน เขาก็ต้องชะงักแล้วนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนเหมือนตนเอง เรื่องพวกนี้มันก็คงไม่น่าจะแปลกใจอะไร

   “ดีใจจังนะ ที่ตุลไม่คิดว่าฉันเป็นพวกตัวประหลาด ผิดแผกจากตัวเองตลอดเวลาแบบนั้น”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ แล้วจึงเดินเข้ามาในห้อง วางโน้ตบุคลงบนโต๊ะทำงาน แล้วตรงเข้าสวมกอดคนรัก ที่บัดนี้หน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แต่ก็ยังคงบอกตอบอีกฝ่ายออกไปแผ่วเบา

   “ผมอาจจะเป็นคนขี้กลัว จนบางครั้งเหมือนเสียมารยาทกับคุณไปบ้าง ...แต่ผมไม่เคยรังเกียจคุณเลยสักครั้งนะครับ”

   พาทิศหัวเราะในลำคอ แล้วจึงกระชับอ้อมกอดของตนให้แน่นขึ้นไปอีก

   “อืม...ฉันรู้ดี เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้ชอบตุลมากขึ้น ๆ ทุกวันยังไงล่ะ”

   ตุลาหน้าแดงก่ำกับคำหวานบอกรักนั่น ทว่าระหว่างที่เขากำลังเงยหน้าหลับตาพริ้มรอรับจูบของอีกฝ่าย กริชก็ปรากฏกายขึ้นมาต่อหน้าทั้งคู่พอดี

   “ตุล อามีเรื่องอยากปรึกษาสักนิด...”

   กริชเอ่ยค้างไว้แค่นั้น ตุลาเองก็ตกใจ ส่วนพาทิศนั้นสะดุ้งเล็กน้อย แต่สักพักก็อมยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาตามมา ทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะหน้าหงิก แล้วโพล่งถามเสียงห้วน

   “นายจะทำอะไรหลานฉัน หา!”

   “แหม...ก็ทำเรื่องที่คู่รักเขาทำกันน่ะสิครับ เรื่องธรรมดาออกเนอะตุล”

   พาทิศแกล้งตอบกวน ๆ เพราะรู้ดีว่ากริชไม่ค่อยเต็มใจให้เขาคบกับหลานชายนัก ส่วนตุลาหน้าแดงด้วยความเขินพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ

   “หนอย...”

   กริชกัดฟันกรอดเพราะเถียงสู้ไม่ได้ เนื่องจากคำพูดของพาทิศก็ไม่ได้ผิดอะไรกับความเป็นจริงที่ทั้งคู่เป็นอยู่

   “เอ่อ...อาครับ เมื่อครู่อาจะพูดอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”

   ตุลารีบขัดจังหวะก่อนที่กริชจะอารมณ์เสียไปมากกว่านั้น

   “ฮึ่ม...ฝากไว้ก่อนเถอะ”

   กริชพึมพำกับตัวเอง แล้วจึงหันไปตอบคำถามของตุลา

   “คือ...ถ้าอาจำไม่ผิด อีกสองวันจะเป็นวันเกิดของอธิปเขา...อาเองก็รบกวนเขาไว้มาก ก็เลยอยากตอบแทนอะไรสักหน่อย ตุลว่าเราจะจัดงานเลี้ยง หรือแค่ซื้อของขวัญให้หมอนั่นดีล่ะ”

   พาทิศกับตุลาฟังแล้วก็หันมาสบตาพลางอมยิ้มน้อย ๆ ให้กัน เพราะต่างรู้ดีว่ากริชนั้นสนิทกับอธิปดีเพียงไร แม้จะโต้เถียงและทะเลาะกันบ่อยครั้งให้เห็น แต่สำหรับสายตาของคนนอก หมอผีหนุ่มก็ถือว่าเป็นเพื่อนคนสำคัญสำหรับกริชคนหนึ่งเลยทีเดียว

   “ยิ้มอะไรกัน! อาทำเพราะแค่อยากตอบแทนที่เขาช่วยเหลือตุลมาโดยตลอดเท่านั้นหรอกนะ!”

   คนปากไม่ตรงกับใจรีบแก้ตัว ทำให้คนฟังกลั้นยิ้มแล้วรีบอ้อนประจบทันที

   “อย่าโมโหสิครับอา ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย เอาแบบนี้ไหมครับ ผมว่าไหน ๆ แล้ว เราจัดเป็นงานเลี้ยงกันเลยดีกว่านะครับ คนช่วยเตรียมก็ตั้งเยอะขนาดนี้”

   พาทิศหันไปมองคนรักยิ้ม ๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นบ้าง

   “นั่นสิครับ ผมรับหน้าที่งานครัวให้เอง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีการเซอร์ไพรส์ เพราะปกติคุณอธิปก็มักจะขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง หรือถ้าไม่อยากให้เขารู้ตัวก่อน คุณกริชก็ชวนเขาคุย หรือไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดก็ได้นี่ครับ”

   กริชฟังแล้วก็นิ่งคิดตามอย่างเห็นดีด้วย โดยเฉพาะถ้าชวนอ่านหนังสือ มีหวังอธิปได้หลับคาหนังสือแน่นอน

   “ก็ดี...ถ้าอย่างนั้นฝากทั้งสองคนช่วยเตรียมการให้หน่อยแล้วกัน  ส่วนเรื่องของขวัญ อาวานตุลช่วยออกไปซื้อให้หน่อยได้ไหม”

   “ได้แน่นอนครับอา ไปวันนี้เลยก็ได้นะครับ”

   ตุลารีบบอก ทำให้กริชอมยิ้มแล้วลูบศีรษะหลานชายอย่างเอ็นดู ก่อนจะชะงักแล้วหันไปทางพาทิศ พร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

    “ถึงนายจะเป็นคนรักของหลานฉันก็ตาม ...แต่ไอ้เรื่องทำประเจิดประเจ้อกันกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ยังไงฉันก็รับไม่ได้อยู่ดี!”

   ตุลาหน้าแดงวาบที่กริชหันวกกลับมาสนทนาเรื่องเดิมเข้าให้อีกรอบ ทางด้านพาทิศนั้นชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พลางตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

   “ถ้าอย่างนั้น ตอนกลางคืนก็ไม่เป็นไรสินะครับ”

   กริชนิ่งอึ้ง กัดฟันกรอด เหลียวมองหลานชายที่สบตาเขาอย่างกังวล แล้วจึงโพล่งตอบไปอย่างหงุดหงิด

   “เออ!!”

   พาทิศหลุดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายเบา ๆ ตามมา

   “ขอโทษนะครับที่ทำให้อารมณ์เสีย แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะไม่ทำเรื่องที่บังคับฝืนใจตุลเด็ดขาด ...ผมชอบเขาจริง ๆ และจะรอจนกว่าเขาจะพร้อมเป็นของผมทั้งใจและกายครับ”

   กริชจ้องมองคนรักของหลานชาย ใบหน้าหงุดหงิดคลายบึ้งตึงลงไปมาก แล้วจึงพยักหน้ารับรู้

   “...ยังไงก็ฝากหลานฉันด้วยแล้วกัน ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้อีกนานไหม”

   “อาครับ!”

   ตุลาแทรกขัดอย่างตกใจ แต่พอกริชหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มก็นิ่งเงียบไป

   “เราไม่อาจคาดเดาอนาคตข้างหน้าได้  แต่ถ้าสามารถเลือกได้ อาก็อยากเฝ้ามองตุลอยู่แบบนี้ไปตลอดล่ะนะ”

   “ผมก็อยากให้อาอยู่ข้าง ๆ ผมตลอดไป...ถึงแม้จะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว ...แต่ผมก็ยังอยากให้เป็นแบบนั้น...”

   ตุลาตอบเสียงแผ่ว ทำให้กริชรวบร่างของหลานชายมากอดอย่างรักใคร่ แล้วจึงจูบที่หน้าผากของอีกฝ่ายเบา ๆ

   “อาก็เหมือนกัน...”

   กริชยิ้มให้ตุลาแล้วจึงดันร่างหลานชายส่งต่อให้พาทิศ ก่อนจะแสร้งโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   “ยังไงอาก็ยังไม่รีบไปในวันสองวันนี้หรอก ยังมีภาระให้ต้องจัดการอีกหลายอย่างนี่นะ!”

   ตุลาชะงักแล้วอมยิ้ม เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภาระที่อีกฝ่ายบอกนั้นหมายถึงอะไร

   “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอาบอกให้แล้วกันว่าจะให้ตุลซื้ออะไรให้หมอนั่น”

   กริชเอ่ยต่อ แล้วให้ตุลาเปิดโน้ตบุคออกมาเซิร์ซหาของที่เขาอยากให้อีกฝ่ายซื้อ และเนื่องจากอยากได้สินค้าในสภาพดีที่สุด เขาจึงตัดสินใจไม่สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ แต่ให้ตุลาไปเลือกในห้างและห่อของขวัญให้แทน เพราะมั่นใจว่าหลานชายของตนจะต้องเลือกชิ้นที่ดีที่สุดมาให้อย่างแน่นอน


       

   
--- TBC ---

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
พาทิศกับตุลาหวานมาก :-[

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
คู่ตุลพาทิศหวานมากกกกกกกกก
ส่วนกริชอธิป ก็กำลังจะเริ่มหวาน   อิอิ

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
มีลุ้นอีกคู่แล้วสิ >_<

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
อิอิอิ ชอบจังเรื่องนี้อ่านแล้วสามารถทำให้อมยิ้มอย่างมีความสุขได้ บทของตัวละครทุกตัวไม่มีใครด้อยไปกว่าใครเลย น่ารักกันหมด ชอบมาก เป็นกำลังใจให้คนแต่งเสมอ

ออฟไลน์ tumtok

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-4
คริคริ  กลางวันไม่ได้งั้นกลางคืนได้ซิ :oo1:
 :o8:มีเพิ่มมากอีกคู่....น่ารักอ่ะ :o8:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
หวานทั้งอาและหลาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด