ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช  (อ่าน 249964 ครั้ง)

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ถ้าไม่ใช่ผีๆในบ้านแกล้งตุลแล้วอะไรแดงๆแวบผ่าน
หรือว่าจะเป็น....ลมพัดแรงแล้วกางเกงในปลิว o22

ฮ่าๆๆ ผีที่ไหนมาเนี่ย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เย้ยยยย ผีตนนั้นคือใครอ่ะ

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
สาวชุดแดง เธอเป็นใคร?  o21

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ลงยาว ๆ ฉลอง x-mas จ้า (ความจริงตั้งใจเขียนตอนเดียวแต่มันยาวเลยหั่นแบ่งเป็นสองตอนน่ะค่ะ)    :L2:



ม่านราตรี
บทที่ 27




   แสงแดดจากยามเช้าทำให้ตุลารู้สึกดีขึ้นมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์สยองขวัญเมื่อตอนเช้ามืดมาหมาด ๆ

   “ภาพหลอนงั้นหรือ...แต่เหมือนจริงเป็นบ้า”

   ตุลาพึมพำ ชำเลืองมองไปที่ระเบียงห้องอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “อยากให้แดดออกเปรี้ยง ๆ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงชะมัด”

   ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ เพราะวันนี้ทั้งวันไม่รู้ว่าเขาจะต้องเจอบททดสอบโหด ๆ อะไรบ้าง นึกแล้วก็อยากโทรไปชวนพิชยะให้มาอยู่เป็นเพื่อน แต่อีกใจก็สงสาร เพราะอีกฝ่ายก็เป็นพวกกลัวผีขึ้นสมองไม่แพ้เขา แถมยังเป็นเป้าหมายของการแกล้งจากบรรดาพวกสาว ๆ ในคฤหาสน์แห่งนี้อีก

   “คุณพาทิศ?”

   ตุลาลงมาที่ห้องครัวก็ไม่พบร่างของพาทิศ เขาถอนหายใจเบา ๆ เมื่อพบโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนข้อความบางอย่างวางไว้ใต้จานข้าวต้มของเขา

   ‘ลำบากหน่อยนะ แต่ฉันจะคอยเอาใจช่วย’

   “เอาใจช่วยอย่างนั้นหรือ ตัวเองก็เตรียมแกล้งเค้าแท้ ๆ”

   ตุลาบ่นเบา ๆ อย่างระอา เขานั่งกินข้าวต้มไปมองรอบ ๆ ไปอย่างหวาดระแวง แม้พาทิศจะบอกไว้ก่อนหน้านั้นว่าช่วงเวลาในตอนอาหารเช้า จะไม่มีใครมารบกวนเขาก็ตาม

   “ปัง!”

   เสียงประตูห้องหนึ่งจากชั้นสองปิดดังโครม ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือก จากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงบเหมือนก่อนหน้านั้น ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบกินอาหารเช้าให้เสร็จโดยไว

   “นี่นะ ยังไม่หลอก...เชื่อไม่ได้เลย คนเจ้าเล่ห์”

   ตุลากินเสร็จก็วิ่งขึ้นไปหยิบโน้ตบุคพร้อมสายไฟลงมา และตัดสินใจยึดพื้นที่ห้องรับแขกชั้นล่างเป็นฐานทัพรับมือสมาชิกคนอื่นในคฤหาสน์ เขาเลือกมุมห้องที่ด้านหลังติดกำแพงไม่มีหน้าต่าง ด้านหน้าโล่งกว้างมองเห็นรอบด้าน เพราะถ้าเกิดมีเสียงตึงตังจากชั้นสองหรือรอบ ๆ อย่างมากเขาก็เปิดประตูวิ่งหนีออกนอกบ้านไปเลยก็แค่นั้น

    

   เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ยิ่งสร้างความตึงเครียดให้คนที่กำลังโดนทดสอบมากไปอีก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนไหน

   ตุลาตัดสินใจปิดโน้ตบุคของตน เพราะยังไงวันนี้เขาก็รวบรวมสมาธิไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่นานนักความเงียบสงัดก็เข้ามาเยือนภายในห้อง แถมเขายังรู้สึกหิวข้าวกลางวันอีก เพราะกินข้าวต้มไปตั้งแต่เช้าเพียงแค่นั้น

   “เฮ้อ...คุณพาทิศคงไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้แน่เลย”

   ชายหนุ่มบ่น เพราะตำแหน่งที่เขานั่งก็มองเห็นครัวได้สบาย และตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเขาก็ไม่เห็นใครเดินผ่านสายตาไปเลยสักคน

   “อ๊ะ...มีนี่นา”

   ตุลาอุทานยิ้ม ๆ เมื่อเปิดตู้เย็นหาของมาทำกิน ก็พบกับแซนวิชแฮมชีสที่เขาชอบหลายชิ้นแช่เย็นอยู่ในนั้น

    “ใจดีไม่เปลี่ยนเลยแฮะ ...นึกว่าจะต้องกินไข่ดาว หรือไม่ก็มาม่าเสียแล้ว”

   ตุลาพึมพำขณะที่หยิบแซนวิชพร้อมขวดน้ำเปล่าออกมาจากตู้เย็น เขาวิ่งเหยาะ ๆ กลับไปที่มั่นของตนเอง เพราะตำแหน่งในห้องครัวมันวังเวงเกินไป โดยเฉพาะหน้าต่างตรงที่ล้างจานที่ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรวูบผ่านไปผ่านมาตอนเขากินอาหารอยู่หรือเปล่า

   ทว่าระหว่างที่กำลังกินแซนวิชอย่างเอร็ดอร่อย ตุลาก็แทบจะสำลักแซนวิชตาย เมื่อเสียงกรีดร้องแหลมยาวอย่างเจ็บปวดทรมานของหญิงสาว  ดังขึ้นมาจากห้องใดห้องหนึ่งบนชั้นสอง

   “แคก ๆ จงใจร้องหรือเปล่าเนี่ย!”

   ตุลาบ่นอุบหลังจากดื่มน้ำลงไป ทว่าเสียงนั้นกลับเปลี่ยนเป็นร้องไห้สะอื้นเบา ๆ ฟังแล้วชวนให้ขนลุกซู่อย่างน่าหวาดหวั่น

   “แกล้งกันหนักจริง ๆ คราวนี้”

   ชายหนุ่มหยิบหมอนอิงบนโซฟามากอดพร้อมกับนั่งตัวสั่น มองซ้ายมองขวาด้วยความกลัว

   “ฮือ ๆ แค้นเหลือเกิน...แค้น...”

   เสียงสะอื้นและน้ำเสียงที่ฟังไม่คุ้นเคยนัก ทำให้ตุลากลืนน้ำลายลงคอ พยายามนั่งคิดว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของใคร

   “ฮือ ๆ ...ต้องฆ่า...ฆ่าให้หมด...ไม่ว่าใคร...”

   ประโยคถัดมาทำให้ตุลากอดหมอนอิงแน่น อยากจะร้องไห้แล้วบอกว่าให้ทุกคนเลิกทดสอบความกล้าเสีย แต่ก็นั่นล่ะ เขาก็ยังคงรอดูว่านอกจากเสียงและคำพูดชวนสยองนั่น จะมีอะไรตามมาไหม ยังไงตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงตรง แม้ท้องฟ้าจะช่างแสนเป็นใจ พากันมืดครึ้มให้ชวนหวาดหวั่นตั้งแต่เวลาก่อนเที่ยงก็ตาม

   “เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว”

   ตุลาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเสียงร้องไห้นั้นเงียบไป แต่แล้วเขาก็ช็อกจนหัวใจแทบตกไปถึงตาตุ่ม เมื่อจู่ ๆ ราตรีก็ปรากฏกายขึ้นมาเบื้องหน้าเขา

   “ตุล เห็นรุ้งบ้างไหม เขาออกมาหลอกเธอหรือยังน่ะ”

   “เอ๋? ไม่เห็นนี่ครับ ...อ๊ะ หรือว่าเมื่อครู่นั่นเป็นเสียงของคุณรุ้ง?”

   ราตรีขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วจึงย้อนกลับไป

   “เสียง? ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย ทั้งที่เวลานี้เป็นคิวของรุ้งที่จะต้องแปลงร่างเป็นอสูรกายคำรามลั่นบ้าน ข่มขวัญเธอแท้ ๆ ฉันเลยปรึกษากับปิ่นแล้วโผล่มาถามเธอนั่นล่ะ...เพราะมันผิดปกติเกินไป รุ้งไม่ใช่คนไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองแบบนี้”

   ตุลาขนลุกซู่ หน้าซีดเผือดจนราตรีสังเกตเห็น   

   “เกิดอะไรขึ้นหรือตุล?”

   “เมื่อครู่ผมได้ยิน เสียงผู้หญิงกรีดร้องบนชั้นสอง จากนั้นก็มีเสียงร้องไห้ แล้วบอกว่าแค้นบ้าง จะฆ่าบ้าง ผมยังคิดอยู่เลยว่านั่นเป็นเสียงหนึ่งในพวกคุณหรือเปล่า เพราะมันไม่ค่อยคุ้นเอาเสียเลย”

   ราตรีชะงัก แล้วถามกลับเสียงแผ่ว

   “ตุลได้ยินจริง ๆ หรือ ...ถ้าตุลได้ยินทำไมพวกฉันไม่ได้ยินล่ะ...หรือว่า”

   ราตรีกอดอกแน่น สีหน้าดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะตัดสินใจตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น

   “รุ้ง! พาทิศ! คุณกริช! คุณอธิป! ปิ่น! มีใครได้ยินฉันบ้างไหม!”

   เงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ แต่นั่นจึงทำให้ราตรีมีสีหน้ากังวลหนักขึ้นไปอีก

   “ผิดปกติจริง ๆ ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ ทำไมฉันถึงสัมผัสจิตของทุกคนไม่ได้เลยนะ”

   ตุลามองผีสาวด้วยความหวาดหวั่น ถ้านี่เป็นการแกล้งก็ดูเหมือนว่าผีสาวจะตีบทแตกได้ชนิดนักแสดงอายทีเดียว

   “ตุล...ฉันจะลองไปตรวจสอบบนชั้นสองก่อนนะ ถ้าสิบนาทีแล้วฉันไม่ลงมา ก็ให้เธอไปหาปิ่นที่บ่อน้ำ ...แต่ถ้าโชคร้ายเกิดไม่เจอใคร...”

   ราตรีหยุดเว้นวรรคเล็กน้อย แล้วใช้มือจับบ่าของชายหนุ่มเบา ๆ พลางจ้องมองเขาด้วยแววตาห่วงใย

   “ถ้าเธอไม่เจอใครจริง ๆ ก็ให้รีบหนีออกจากคฤหาสน์นี้ทันทีรู้ไหม”

   “แล้วพวกคุณราตรีล่ะครับ!?”

   ตุลาถามกลับด้วยความเป็นห่วง แต่ผีสาวนั้นยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน แล้วจึงหันกลับไปมองที่ชั้นสองด้วยแววตาแข็งกร้าว

   “ไม่ต้องห่วงพวกฉัน ถ้ามันเกิดอะไรนอกเหนือความคาดหมายจริง ๆ ทุกคนก็คงคิดเหมือนฉัน คือทำยังไงก็ได้ ขอแค่ให้เธอปลอดภัยก็พอ!”

   จากนั้นราตรีก็หายวับไปจากเบื้องหน้าของตุลา ชายหนุ่มเม้มปากพลางกำมือแน่นอย่างรอคอย เวลาแต่ละนาทีช่างยาวนาน เขาน้ำตาซึมน้อย ๆ เมื่อหวนคิดถึงไปในทางร้าย ๆ จนกระทั่งเข็มนาฬิกาผ่านไปสิบนาที

   “คุณราตรีครับ....”

   เงียบกริบไร้เสียงตอบ ตุลาจึงลองเร่งเสียงตะโกนดังขึ้นไปอีก

   “คุณราตรีครับ!”

   ทั่วคฤหาสน์ยังคงเงียบกริบ ตุลามองบนชั้นสองด้วยความเป็นห่วง เขานึกถึงคำพูดของราตรีก่อนหน้านั้น แล้วจึงตัดสินใจออกไปที่สวน เพื่อตามหาคนอื่น ๆ ที่ยังคงเหลืออยู่

   

   ตุลาเดินออกมาที่สวนแล้วตรงไปที่บ่อน้ำซึ่งปิ่นสุดาอาศัยอยู่ ทว่าเขาก็ต้องพบกับความตกตะลึง เมื่อไม่เห็นร่างของเงือกสาว ในบ่อเหลือแต่ความว่างเปล่า ทั้งที่ตอนกลางวันนั้นปิ่นสุดาจะไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้แท้ ๆ

   “ไม่จริง…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

   ชายหนุ่มพึมพำแล้วเดินสำรวจรอบ ๆ บริเวณนั้นอย่างหวั่นวิตก

   “คุณปิ่น! คุณรุ้ง! คุณราตรี!”

   ตุลาเดินไปพลางตะโกนเรียกหาทุกคนไปพลาง แต่ก็ยังคงไร้เสียงตอบรับ

   “คุณพาทิศ! อาครับ! คุณอธิป! ทุกคนอยู่ไหนกันครับ!”

   ตุลาเริ่มใจเสียเมื่อแม้แต่หมอผีอย่างอธิปก็ยังติดต่อไม่ได้ จะว่าทุกคนแกล้งพร้อมใจกันเงียบ ก็ดูเป็นการแกล้งที่รุนแรงเกินไปสักหน่อย

   “ทุกคน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ ทุกคนยังปลอดภัยอยู่ไหม ตอบผมทีสิครับ!”

   ตุลาตะโกนต่อเรื่อย ๆ จนเริ่มเจ็บคอ บรรยากาศรอบคฤหาสน์ที่ไร้ทุกคนกลับดูทะมึนน่ากลัวยิ่งกว่าวันแรกที่เขามาเยือนเสียอีก

   “ไหนบอกว่าถ้าผมต้องการความช่วยเหลือก็จะมาช่วยยังไงล่ะครับ...คุณพาทิศ...คุณไปอยู่ที่ไหนกัน”

   ตุลาพึมพำถึงคนรัก แล้วใช้แขนปาดน้ำตาที่มันทำท่าเหมือนจะไหลออกมา พลางเดินตรงไปที่ด้านหน้าคฤหาสน์ เขามองไปยังประตูรั้ว และหวนคิดถึงคำพูดของราตรีอีกครั้ง มือทั้งสองกำหมัดแน่น ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับแล้วมุ่งเข้าไปด้านในแทนที่จะหนีออกไปข้างนอกอย่างที่วิญญาณสาวแนะนำ

    “ไม่ยอมหรอก ...ยังไงก็จะไม่ยอมทิ้งทุกคนไปเด็ดขาด”

   ตุลาพึมพำพร้อมกับกัดริมฝีปากแรง ๆ เพื่อข่มความกลัว เขาตรงขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อไปที่ห้องของอธิป แต่พอเปิดเข้ามาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ เพราะในห้องเต็มไปด้วยของประดับที่ชวนให้ขนลุกแทบทั้งนั้น

    “พอจะมีอะไรให้หยิบยืมใช้ได้ไหมนะ”

   ถึงยังไงอธิปก็เป็นหมอผีที่มีวิชาอาคมและเครื่องรางของขลังอยู่มากพอสมควร การที่จะหาญกล้าต่อกรกับสิ่งลี้ลับที่ลักพาตัวทุกคนไป เขาก็คงต้องใช้อะไรบางอย่างจากในห้องนี้ติดตัวไปด้วย ถึงจะพอช่วยทุกคนได้ไหวนั่นล่ะ

   “เอ...ไม่เห็นเจออะไรเลย ทำไมนะ?”

   ตุลาพึมพำอย่างแปลกใจ ทั้งที่ยามปกติเวลาเข้ามาในห้องนี้ อธิปก็มักจะมีของมาโชว์ให้เขาแปลกใจ และเป็นข้อมูลในการเขียนนิยายเสมอแท้ ๆ

   “สงสัยคงต้องใช้นั่นแทนแล้วมั้ง”

   ชายหนุ่มนึกถึงของบางอย่างที่พิชยะเคยเอามาฝากเขาเพราะรู้สึกถึงความเฮี้ยนของคฤหาสน์หลังนี้ แต่เขาก็รับมันมาขำ ๆ แถมยังเก็บซุกไว้หลังหนังสือบนหัวเตียงอีกต่างหาก

   

   พอออกมาจากห้องอธิป ตุลาก็ตรงกลับเข้าไปยังห้องตัวเองอีกครั้ง ทว่าระหว่างที่เขากำลังหยิบหนังสือออกมาจากหัวเตียงเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหลมสูงก้องกังวานดังไปทั่วคฤหาสน์

    “โธ่โว้ย!”

   ตุลาสบถกับตัวเองที่ดันเผลอมือไม้อ่อนทั้งที่ยังไม่ทราบชะตากรรมของคนอื่น ๆ เขาหยิบของบนหัวนอนใส่กระเป๋ากางเกงหมับแล้ววิ่งออกไปจากห้อง ตัดสินใจเดินตรงไปยังห้องของจอมเดชที่เขายังไม่ได้เข้าไปสำรวจ

   ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา ตุลาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อห้องที่เคยโล่งโปร่งกลับมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมไปทั่วห้อง อากาศภายในนั้นเย็นจัด จนชายหนุ่มต้องเผลอกอดอกด้วยความหนาว แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลัง แต่พอจะหันกลับไป ก็ต้องถูกมือใหญ่ที่มีผ้าขนหนูนุ่มโปะปิดหน้าของตน ตุลาดิ้นรนพยายามแกะมือนั้นออก ทว่าสติของเขากลับค่อย ๆ ลางเลือนลงทีละนิดอย่างน่าประหลาด จากนั้นร่างของชายหนุ่มก็พลันอ่อนแรงและสลบลงไปในอ้อมแขนลึกลับนั่นเอง




.... TBC ....

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ม่านราตรี
บทที่ 28



   เสียงพูดคุยที่ดังแว่วเข้ามาในหู ทำให้ตุลาต้องปรือตาขึ้นอย่างอ่อนล้า รู้สึกมึนหัวไปหมดน่ากลัวผ้าผืนนั้นที่ปิดหน้าเขาจะมีอะไรบางอย่างปะปนอยู่เป็นแน่

   “อ๊ะ ตุลฟื้นแล้ว”

   เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้นจากมุมหนึ่ง ตุลาสะบัดศีรษะไปมา ภาพที่นัยน์ตาเห็นเบลออยู่สักพัก แล้วจึงกลับแจ่มใสขึ้นเรื่อย ๆ

   “ที่ไหน...”

   ความรู้สึกเย็นเยือกทำให้ตุลาต้องห่อไหล่ อิฐทึม ๆ มืด ๆ บนพื้นที่เขานอนอยู่นั่นก็ชวนให้คุ้นตา คล้ายจะเคยเห็นมาก่อน

   “ไง ....เจ้าหนู หลับไปนานเลยนะ นึกว่าจะไม่ฟื้นเสียอีก... ถ้าเป็นอย่างนั้นการแก้แค้นของฉันมันก็ไม่สนุกน่ะสิ!”

   เสียงสูงเย็นชาไม่คุ้นเคยดังตามมา ตุลาหันไปมองยังต้นเสียง แล้วก็ต้องพบกับความตกตะลึงเมื่อเห็นร่างโปร่งใสในชุดแดง ยืนเท้าแขนอยู่บนเก้าอี้ไม้สักตัวใหญ่ที่พาทิศนั่งอยู่ แถมผีดิบหนุ่มยังถูกจับมัดติดอยู่กับเก้าอี้นั้นอีกต่างหาก ถัดออกไป พวกสมาชิกคนอื่นที่หายตัวไปก็ถูกจัดมัดด้วยเชือกนั่งบนเก้าอี้เรียงกันไปทีละคน และแต่ละคนก็ต่างสลบไสลคอพับคออ่อนไม่มีใครได้สติ นอกจากคนรักของเขาคนเดียว

    “คุณพาทิศ นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ...”

   ผีดิบหนุ่มมีสีหน้าเจ็บปวด เขาหลบตาอีกฝ่าย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงปวดร้าว

    “ขอโทษนะตุล...เพราะฉันแท้ ๆ ทุกคนก็เลยโชคร้ายแบบนี้”

   ตุลามองอีกฝ่ายอย่างงุนงง แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อผีสาวชุดแดง ลอยช้า ๆ มาอยู่ด้านข้างของพาทิศ แล้วใช้นิ้วชี้ผลักศีรษะผีดิบหนุ่มค่อนข้างแรง

    “ใช่! เพราะนายนั่นล่ะ ที่บังอาจทรยศต่อความรักของฉัน ...ทำให้ฉันตายไม่พอ แต่ตัวเองดันหนีมามีความสุขคนเดียวแบบนี้!”

    ตุลานิ่งอึ้ง มองทั้งคู่อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

   “หรือว่าคุณ...ก็คือคนรักเก่า...ของคุณพาทิศ”

   ชายหนุ่มพึมพำด้วยน้ำเสียงขาดหายเป็นห้วง ๆ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังคงอยู่ แถมยังกลายเป็นวิญญาณอาฆาต และกลับมาแก้แค้นผีดิบหนุ่มอีก

    “หึ...ใช่ ฉันก็คือผู้หญิงโง่ที่หลงรักหมอนี่...และก็ต้องโชคร้ายตายเพราะเขานั่นล่ะ!”

   ผีสาวตวาดลั่น ตุลาเห็นพาทิศก้มหน้านิ่งหลบตาแล้วก็รู้สึกสงสารอีกฝ่ายจับใจ จนต้องเถียงสู้กลับไป

   “ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย ถ้าคุณเป็นคนรักเขาจริง คุณก็ต้องเข้าใจเขาสิ!”

      ใบหน้าสวยหวานแต่ขาวซีดเผือดจนน่ากลัวหันขวับกลับมาที่ชายหนุ่ม แล้วจึงลอยวูบเข้ามาประชิดร่างของตุลา จนเขาแทบช็อก

   “เธอมันจะรู้อะไรเจ้าหนู! ลองเธอต้องมาตายเพราะเขาบ้างสิ เธอจะได้รู้ว่าฉันน่ะรู้สึกยังไง!”

   ตุลาตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวต่ออารมณ์เกรี้ยวกราดของผีสาว แต่แล้วร่างในชุดแดงก็ปรับอารมณ์ลงแล้วแสยะยิ้มน้อย ๆ ตามมา

   “แต่ก็ดีไปอย่างที่เขาอยู่ในสถานที่แวดล้อมแบบนี้...แถมยังมีเพื่อนฝูงที่มีพลังวิญญาณเยอะแยะเต็มไปหมด”

   “ชบา! ฉันบอกเธอแล้วไงว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง ไม่ได้เกี่ยวกับตุล และทุกคนในม่านราตรีนี่!”

   พาทิศโพล่งขัดขึ้นมา ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อพลังวิญญาณกดดันแรงกล้าของหญิงสาวพุ่งตรงใส่เขาพร้อมกับเสียงตวาดลั่น

   “หุบปาก!”

   พาทิศกัดฟันกรอด ผีสาวเห็นดังนั้นจึงแสยะยิ้มน้อย ๆ แล้วหันมาทางตุลาอีกครั้ง

   “อยากช่วยคนรักของเธอไหมล่ะเจ้าหนู...แค่เธอยอมเสียสละร่างเนื้อของเธอให้ฉันสิงสู่ ฉันก็พร้อมจะปล่อยเขาให้เป็นอิสระทันที...อ้อ แต่เฉพาะเขานะ คนอื่น ๆ นั่นไม่เกี่ยว”

   ตุลาตาเบิกกว้างด้วยความตกใจต่อข้อเสนอนั่น พาทิศพยายามตะโกนห้าม แต่ก็ถูกผีสาวหันกลับไปใช้พลังรัดเชือกที่มัดร่างนั้นให้แน่นขึ้นอีก จนตุลาต้องรีบร้องห้ามเมื่อเห็นใบหน้าเจ็บปวดของคนรัก

   “อย่านะครับ! อย่าทำเขา!”

    ชบาหยุดมือที่กำลังทรมานผีดิบหนุ่มแล้วค่อย ๆ บิดคอหันกลับมามอง จนทำให้ตุลาขนลุกซู่

   “อยากให้หยุด ก็ทำตามข้อตกลงฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยเขาไปตามสัญญา”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ เขามองพาทิศที่นั่งคอตกคล้ายหมดเรี่ยวแรง แล้วไล่มองไปยังคนอื่น ๆ ที่มีสภาพแทบไม่แตกต่างกันนัก

   “ถ้าผมยอมสละร่างให้คุณ...นอกจากปล่อยคุณพาทิศแล้ว คุณก็ต้องปล่อยคนอื่น ๆ ไปด้วย”

   เสียงหัวเราะแหลมสูงดังขึ้นทันทีที่ตุลาพูดจบ ร่างในชุดแดงบิดกายหันมาตามศีรษะที่หันไปก่อนหน้านั้น ก่อนที่เจ้าของร่างจะยิ้มเย้ยหยันอีกฝ่าย

   “ได้คืบจะเอาศอกนะ ...”

   ชบาทิ้งช่วงเว้นไว้ให้ตุลาพอจะมีหวัง ทว่าประโยคถัดมาก็ทำให้ชายหนุ่มแทบจะเข่าอ่อนเมื่อได้ยิน

    “แต่ฉันขอปฏิเสธ... ทั้งมนุษย์ และภูตผีพวกนี้มีพลังวิญญาณมาก หากฉันกินพลังวิญญาณพวกมัน ฉันก็จะมีพลังเพิ่มขึ้น และจากนั้นฉันก็จะครอบครองผืนดินอันน่าอยู่นี้แทนในฐานะเจ้าของที่ถูกกฎหมาย โดยอาศัยร่างของเธอยังไงล่ะ!  ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

   เสียงหัวเราะแหลมสูงก้องกังวานไปทั่วบริเวณห้องใต้ดิน ตุลามองวิญญาณตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไล่มองสมาชิกทุกคนในคฤหาสน์ม่านราตรีทีละคน และมาหยุดที่พาทิศ ซึ่งพยายามเงยหน้าบอกพึมพำให้เขาหนีไปจากที่นี่อย่างยากลำบาก

   “ผมไม่เชื่อหรอก...”

   ตุลาบอกเสียงแผ่ว จนชบานึกแปลกใจ

   “ไม่เชื่ออะไรรึเจ้าหนู?”

   “ผมไม่มีทางเชื่อว่าคุณเคยเป็นคนรักของคุณพาทิศน่ะสิ!”

   ตุลาบอกเสียงกร้าวด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความโกรธ จนคนมองชะงักแล้วตวาดกลับไปบ้าง

   “ฉันเป็นคนรักของเขา! ถามเขาสิ ว่าเขาเคยรักฉันมาก่อนไหม!”

   “โกหก! ...ถ้าคุณเคยรักเขาจริง คุณก็ต้องเข้าใจเขาสิ ไม่ใช่มาแค้นเคืองและทำร้ายเขาแบบนี้ คนอย่างคุณน่ะ ผมไม่มีทางยกเขาให้หรอก!”

   ชบานิ่งอึ้งเช่นเดียวกับพาทิศที่มองชายหนุ่มด้วยความตกตะลึง แล้วจึงตามมาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ด้วยความพอใจ

   “ทุกคนที่นี่เป็นเพื่อน เป็นครอบครัว ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็จะไม่ยอมให้คุณทำร้ายใครได้แน่!”

   ร่างโปร่งในชุดแดงเม้มปากแน่น ตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ นัยน์ตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม แล้วจึงตวาดใส่ลั่น

   “ดีงั้นก็ตายให้สมใจเสียเถอะ!”

   ขาดคำร่างนั้นก็ลอยพุ่งเข้าหา ทว่ากลับต้องชะงักกึก ตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อตุลาล้วงขวดใสในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วเปิดจุกออกพร้อมกับสาดไปยังร่างเบื้องหน้า

   “กรี๊ด!”

   ร่างนั้นกรีดร้องด้วยความตกใจ ตั้งแต่ฝาจุกถูกเปิดออก เจ้าหล่อนหายตัวแวบไปอยู่หลังพาทิศก่อนที่น้ำมนต์ในขวดนั้นจะสาดมาโดนร่างวิญญาณของตนหวุดหวิด

   “อะไรกันพาทิศ  ไหนบอกเล่น ๆ ไงล่ะ น้ำมนต์นั่นของจริงนะยะ  ถ้าฉันโดนเข้ามีหวังได้ไปเกิดใหม่แน่!”

   ผีสาวโวยวายลั่นอย่างขวัญผวา ทว่าคำพูดของเธอทำให้พาทิศหน้าเจื่อน เจ้าตัวรีบจุ๊ปากให้อีกฝ่ายเงียบ โดยใกล้กันก็มีเสียงกลืนน้ำลายลงคอ ดังจากร่างของใครบางคนที่ถูกจับและสลบอยู่ และนั่นทำให้ตุลาเริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆ บางอย่างขึ้นมาได้

   “ไม่จริง...หรือว่านี่ยังอยู่ในเกมทดสอบความกล้านั่น?”

   “เอ่อ...คือ ฉันอธิบายได้นะตุล แบบว่า...”

   พาทิศที่ดูมีเรี่ยวมีแรงผิดจากเดิมค้างคำพูดไว้ดื้อ ๆ เพราะเห็นแววตาเสียใจระคนโมโหจากคนรักของตนที่จ้องมองมาและไล่มองกวาดไปยังแต่ละคนในห้องนั้น

   “ผมกลัวแทบตาย ...กลัวว่าทุกคนจะเป็นอันตรายแท้ ๆ”

   น้ำเสียงและแววตาตัดพ้อนั่น ทำให้ร่างที่แกล้งสลบแต่ละคนเงยหน้าและลืมตาขึ้นมามองกันไปมาเลิ่กลั่ก

   “ฉันบอกแล้วว่ามันไม่เวิร์กไง...ตุลโกรธจริง ๆ ด้วยเห็นไหม”

   รุ้งพรายที่เลิกแกล้งสลบหันไปบ่นกับวิญญาณเพื่อนสาว แต่นั่นทำให้ราตรีหันมาเขม่นใส่หล่อน

   “แล้วก่อนหน้านั้นใครกันที่หัวเราะคิกคักที่หลอกเขาได้ แถมยังปลื้มอกปลื้มใจที่ตุลห่วงตัวเองซะไม่มีน่ะ!”

   พอราตรีพูดจบปิ่นสุดาที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบเอ่ยเสริมตามมาทันที

   “นั่นสิคะ...เป็นอย่างที่คุณราตรีบอกนั่นล่ะ”

   “ไม่เข้าข้างแล้วก็อย่าซ้ำเติมสิยะปิ่น!”

   รุ้งพรายรีบแก้ตัวเสียงแหลมใส่ เพราะตุลานั้นหันขวับมามองเธอเขม็ง เห็นดังนั้นอธิปก็ต้องถอนหายใจเบา ๆ เขาปลดเชือกที่มัดตัวเองออกง่าย ๆ เพราะมันแกล้งผูกไว้หลอก ๆ นั่นเอง

    “คนต้นคิดล่ะว่าไง เงียบเชียวนะ”

   หมอผีหนุ่มหันไปทางอีกคนที่นั่งข้าง ๆ เขา กริชเหลือบมองคนรัก แล้วจึงยักไหล่น้อย ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

   “ไม่ดีหรอกหรือ หลานฉันยอมทำทุกอย่างทั้งที่กลัวแทบตายก็เพื่อทุกคนในที่นี้ เพราะอย่างนั้นต่อให้เขาจะดูไม่เท่ หรือดูตลกยังไง แต่เพื่อทุกคนแล้วเขาก็สามารถเป็นคนกล้าได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นกันใช่ไหมล่ะ”

   คำพูดของกริชทำให้คนที่กำลังโมโหเริ่มรู้สึกซาบซึ้งแทน โดยมองข้ามสิ่งที่อธิปบอกไปเสียแล้วว่า คนที่คิดแผนการครั้งนี้ขึ้นมาเป็นใคร

    “อาครับ...”

   ตุลาพึมพำเรียกอาของเขา กริชแก้เชือกออกแล้วลุกเดินไปหาหลานชาย ก่อนจะลูบศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

   “อย่าลืมความรู้สึกนี้ล่ะตุล ต่อให้ต้องพบกับอุปสรรคขนาดไหน  แต่ถ้าตุลนึกถึงคนที่ตุลรัก ตุลก็จะมีความกล้าที่จะฝ่าฟันมันเอง”

   ตุลารับฟังด้วยความตื้นตันที่อานั้นคิดเพื่อเขาเช่นนี้ เจ้าตัวพยักหน้าน้อย ๆ แล้วตอบรับกลับไป

   “ครับอา”

   ภาพอันน่าซาบซึ้งของอาหลานทำให้หลายคนในห้องมองด้วยความรู้สึกทะแม่ง โดยเฉพาะรุ้งพรายนั้นถึงกับบ่นอุบออกมาทีเดียว

   “ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมเราต้องโดนตุลโกรธ แต่เขากลับได้รับความชื่นชมจากตุลแทนล่ะ!”

   “ฉันบอกพวกเธอแล้ว ว่าต่อให้ความแตก ยังไงคนต้นคิดอย่างนายกริชก็ไม่มีวันโดนโกรธหรอก”

    อธิปเปรยขัดด้วยน้ำเสียงเอือมระอา จนทำให้คนฟังชะงัก แล้วหันไปค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปโอบบ่าหลานชายชวนเดินออกไปจากห้องนั้น

   “ปล่อยพวกนั้นไปเหอะ ตุลคงเหนื่อยแล้วใช่ไหม พวกเราเตรียมงานเลี้ยงปลอบขวัญเอาไว้ให้ตุลแล้ว รับรองว่าตุลต้องชอบแน่ เพราะมันมีของโปรดตุลทั้งนั้น”

   “เอ๋...เดี๋ยวครับ...แล้วผีผู้หญิงคนนั้น”

   ผีสาวในชุดแดงพอได้ยินตุลาพูด เธอก็ชี้หน้าตัวเองอย่างแปลกใจ

   “ฉัน?  อ๊ะ! นี่เธอจำฉันไม่ได้จริง ๆ  รึ  เราก็เจอกันออกบ่อยไม่ใช่หรือไง”

   คำตอบนั้นทำให้ตุลาขมวดคิ้วอย่างงุนงง แล้วย้อนถามกลับไป

   “เอ๋? เคยเจอหรือครับ”

   “เธอปรากฏกายในร่างนี้ เด็กนี่ไม่มีทางจำได้หรอก ลองกลับร่างเดิมของเธอดูสิชบา”

   อธิปเปรยขัดเสียงเนือย ๆ ซึ่งผีสาวในชุดแดงพอได้ยินเธอก็ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

   “ค่ะนาย”

   ผีสาวที่ชื่อชบาตอบ จากนั้นจึงปรากฏกลุ่มควันล้อมรอบร่างของเธอ ทว่าพอกลุ่มควันจางลง ตุลาก็ต้องเบิกตากว้าง อ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็น

   “ไงเจ้าหนู จำฉันได้หรือยัง เราเจอกันบ่อยใช่ไหมล่ะ นอกจากฉันก็มีพี่ชายฉันอีกสองคนยังไงล่ะ  เอ๋? เจ้าหนู ....เจ้านายคะ เด็กนี่เป็นลมอีกแล้วล่ะ!”

   หัวกะโหลกลอยได้ขยับปากพูดเป็นชุด แต่คนอื่น ๆ นี่สิ กลับถอนหายใจแทบจะพร้อมกัน เพราะคนที่แม้จะเห็นวิญญาณหรือเจอสถานการณ์เลวร้ายแต่ก็ยังไม่เป็นอะไร  ทว่าแค่พอเห็นหัวกะโหลกคนลอยได้ กลับเป็นลมไปแบบนี้ มันก็ชวนให้น่าสมเพชอยู่มิใช่น้อย

    “อธิป...”

   กริชหันไปมองคนรักด้วยแววตาคมกริบเอาเรื่อง ทำให้หมอผีหนุ่มสะดุ้งโหยง แต่พอกริชค้อนให้อย่างงอน ๆ แล้วบอกให้พาทิศอุ้มร่างตุลาไปไว้ที่บนห้องนอนของเจ้าตัว อธิปก็รีบโวยวายตามหลังไปทันที

   “เฮ้ย! ความผิดฉันหรือไงนายกริช! เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเดินหนีแบบนั้นสิ กลับมาพูดกันดี ๆ เลยนะ!”

   หัวกะโหลกหญิงสาวมองตามเจ้านายของเธอไปอย่างนึกสงสาร แล้วจึงหันมาหาคนอื่น ๆ ที่แก้มัดตัวเองกันหมดแล้ว

   “อย่างนี้พวกเราก็ยังเริ่มงานเลี้ยงไม่ได้ล่ะสิเนี่ย”

   “ก็คงงั้น ...จริงสิชบา เธอไปชวนพี่ชายเธออีกสองคนมาแนะนำตัวกับตุลตอนเขาฟื้นสิ เขาจะได้คุ้นเคยกับพวกเธอยังไงล่ะ”

    รุ้งพรายรีบบอกอย่างนึกสนุก แต่ราตรีนั้นตีไหล่เพื่อนสาวดังเผียะอย่างหมั่นไส้

   “รู้น่าว่าจะหลอกให้ตุลกลัวอีก คิดจะทำให้คุณกริชโกรธหรือไง ฉันน่ะไม่ขอมีเรื่องกับคนนั้นหรอกนะ คนอะไรไม่รู้โหดชะมัดกับหลานรักแท้ ๆ ยังแกล้งซะสมจริงขนาดนี้ ขืนไปทำให้โกรธจริง ๆ  จะถูกเอาคืนแบบไหนก็ไม่รู้”

   ราตรีบ่นเบา ๆ แต่ปิ่นสุดาและชบาที่รับบทร้ายครั้งนี้ ต่างก็พยักหน้ารับเห็นด้วยเต็มที่

   “แหม...ก็แค่อยากแนะนำสมาชิกในบ้านให้รู้จักกันถ้วนหน้าแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดจะแกล้งเสียหน่อย”

    รุ้งพรายบอกอ้อมแอ้ม แล้วรีบเดินเผ่นออกจากห้อง ก่อนที่จะถูกรุมต่อว่าอะไรอีก

   “ว่าแต่ไม่รู้คุณตุลจะโกรธคุณพาทิศมากไหม เล่นเอาเรื่องอ่อนไหวแบบนั้นมาหลอกกันแบบนี้ด้วยสินะคะ”

   ปิ่นสุดาพึมพำอย่างเป็นห่วงทั้งคู่ ทำให้ราตรีกับชบาหันมาสบตากัน แล้วต่างฝ่ายต่างก็สั่นศีรษะไปมา

   “ช่วยไม่ได้ พาทิศเองก็รู้อยู่แล้วล่ะว่า ถ้าเล่นเรื่องพวกนี้ก็ต้องเสี่ยงกับการโดนโกรธเป็นธรรมดา แต่ยังไงหมอนั่นน่ะเก่งเรื่องง้อคนอยู่แล้ว แถมทั้งคู่ก็เป็นคนรักกันแบบนั้น ฉันว่านะแทนที่เธอจะห่วงว่าเขาจะโกรธกัน สู้ห่วงว่าจะง้อกันจนเกินงาม แล้วตุลจะลุกไม่ไหวในวันพรุ่งนี้แทนมากกว่า”

   ราตรีบอกตรง ๆ จนปิ่นสุดาหน้าแดงวาบ ส่วนชบานั้นหัวเราะอย่างขบขันจนหัวกะโหลกของเธอสั่นคลอน

   “ฮ่า ๆ นั่นสินะ แถมเผลอ ๆ จะไม่ใช่คู่เดียวอีก คุณกริชกับนายก็เหมือนกันทะเลาะกันทีไร ก็จบด้วยการง้อบนเตียงทุกที ฉันกับพี่ ๆ น่ะเลยได้ดูของดีเพลิน ๆ กันทุกวัน”

   ปิ่นสุดาหันไปมองผีกะโหลกสาวด้วยความอิจฉา เพราะไม่ว่าจะเป็นห้องของตุลาหรือห้องของอธิป ทั้งสองห้องก็มักมีเขตแดนกางขวางกั้นการแอบดูของเธอและเพื่อน ๆ เสมอ

   “หึ ๆ งั้นคืนนี้ฉันจะผนึกเธอกับพี่ของเธอไว้ในลังเก็บของในห้องเอง ชบา จะได้มีเวลาพักผ่อนยังไงล่ะ”

   เสียงเยียบเย็นจากทางเข้าออกห้องใต้ดินทำให้ทั้งสามสะดุ้งเฮือก โดยเฉพาะหัวกะโหลกผีสาวที่ค่อย ๆ หันกลับมาหา

   “มาได้ยังไงคะเจ้านาย ไม่ได้ตามไปง้อคุณกริชหรือคะ”

   “ก็ตามไปอยู่นั่นล่ะ แต่ดันนึกได้ว่าลืมลูกน้องปากมากไว้ที่ห้องใต้ดิน ขืนปล่อยให้อยู่นานกว่านี้มีหวังความลับฉันโดนล้วงออกมาหมดพอดี!”

   อธิปประชด แล้วจับหัวกะโหลกของชบาหิ้วติดมือกลับขึ้นไปชั้นบน โดยมีเสียงขอโทษของผีสาวดังไปตลอดทาง ส่วนราตรีกับปิ่นสุดานั้นหันมาสบตากันปริบ ๆ แล้วต่างฝ่ายต่างก็ทำเสียงถอนหายใจออกมาเบา ๆ

   “ไปเฝ้าตุลดีกว่าแฮะ”

   “อืม...นั่นสิคะ”

   ปิ่นสุดาพึมพำตอบรับ และทั้งคู่จึงออกจากห้องใต้ดินตรงไปยังห้องของตุลาที่ตอนนี้มีสมาชิกคนอื่น ๆ ยืนเฝ้าให้กำลังใจ และบางรายก็ช่วยปฐมพยาบาลให้ชายหนุ่มฟื้น จนห้องกว้าง ๆ ของอีกฝ่ายกลับดูคับแคบไปถนัดตาเลยทีเดียว







... TBC ...

ยังเหลืออีกตอนเป็นบทสรุปปิดท้ายค่ะ ^ ^ หลังจากนั้น ก็จะหยุดพักนิดนึงแล้วจะเริ่มเขียนตอนพิเศษให้อ่านกันค่ะ

สุขสันต์วัน x-mas กันนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2011 23:29:14 โดย Xenon »

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
มาตอนแรกทำเอาเราตกใจเลย นึกว่าเจอคนรักของพาทิศจริงๆ
มาแบบหลอนเลย  o22  กำลังกลัวเลยว่า จะมาทำอะไรตุลาหรือเปล่า
แต่คำพูดของตุลานี้จริงใจ+โดนใจเรามากๆ สุดยอดไปเลยตุลา
ฮ่ะๆ ผลสุดท้าย ตุลาก็สลบไปจนได้ (สลบเพราะเห็นหัวลอย เป็นเราเราก็ช๊อคเหมือนกันนะ)
+เป็ดกิ๊บก๊าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2011 23:17:16 โดย 111223 »

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
พอดีกำลังเบลอ  ๆ นี่โพสไปต้องไล่อ่านทวนคำผิด ดังนั้นใครอ่านตอนโพสทันทีอาจจะเจอประโยคแปลก ๆ บ้างก็ต้องขออภัยนะคะ ตอนนี้กำลังไล่ทวนอ่านค่ะ ถ้ายังมีหลงเหลืออยู่ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ตอนรีไรท์จะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
แหม่เล่นทดสอบแบบเนี่ย มันก็แรงต่อความรู้สึกนะ
เป็นเราก็คงโกรธพาทิศน่าดู
เฮ้อ เอาใจช่วยให้ตุลหายโกรธล่ะกัน :oo1:

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
งืดดด แอบคิดว่าเรื่องจริง ลุ้นแทบแย่

ว่าแต่จะง้อกันแบบไหนนะ อิอิอิอิ


ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
แผนอากริชแรงมาก แอบตกใจเลยนึกว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับตุลแล้วนะเนี่ย :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
แผนที่แกล้งเเรงมาคะอากริช 555

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ตกใจหมดเลยนึกว่าจริง o22

ค่อยยังชั่ว ลงเอยด้วยดี  :กอด1:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ถ้าไม่โดนจับได้ ตุลจะถูกหลอกไปจนถึงขั้นไหนนะ   :really2:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า  Merry Christmas นะคะ

ออฟไลน์ tumtok

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-4
มารอดูว่าพาทิศจะใช่วิธีไหนง้อตุล :oo1: :oo1:

catwander

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ค่อยได้โจ๊ะพรึมๆ กันเลยแฮะ 2 คู่นี้

ออฟไลน์ DarknLight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
อากริช
คิดบทซะสมจริงเลยนะครับ
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จะยกให้ใครดีล่ะครับงานนี้ ฮ่าๆๆ
พาทิศ ดีไหมครับ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
แม๊ ตะละคน เหอะๆ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
จะง้อกันท่าไหนละเนี่ย(เอ๊ะ หรือว่ามีหลายท่า เอิ๊กๆ)

wichaiP

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ บอกเลยว่าไม่เวิรค์นะ เล่นกับความรู้สึกน่ะ แต่ว่ามาฮา ตอนเจอผีหัวกะโหลกแทนนะเนี่ย

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
บททดสอบแบบนี้ ระวังตุลตายจริงๆหรอก  :serius2:

อากริชทำเนียน ที่แท้ก็ตัวต้นคิด  :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ตุลก็คือตุล จะกล้าแค่ไหนแต่ถ้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้วล่ะก็คงเป็นลมไปได้ง่ายๆเหมือนกัน ฮ่าๆ
พาทิศง้อตุลดีๆล่ะ รายนั้นขาห่วงแบบจริงจังเลยนะเนี้ย


เมอร์รี่คริสต์มาสนะคะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ง่าา โล่งอก นึกว่าตุลย์จะเป็นอะไรมากซะอีกนะเนี่ย
ดีนะได้น้ำมนต์มาช่วย แผนเลยแตกยับเยิน ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


ม่านราตรี
บทสรุป

   

   ตุลาปรือตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน ชายหนุ่มนั้นตกใจในทีแรกที่ถูกรุมล้อมรอบเตียงแบบนี้ ทว่าพอเห็นสีหน้าแสดงความเป็นห่วงของแต่ละคน เขาจึงยิ้มน้อย ๆ ออกมาได้

   “ค่อยยังชั่ว ฟื้นสักที อุตสาห์ชนะเกมทดสอบความกล้าได้แท้ ๆ แต่ดันมาตกม้าตายตอนจบเป็นลมเพราะเห็นหัวกะโหลกพูดได้ลอยได้นี่ มันไม่ค่อยเข้าท่าเลยนะตุล”

   รุ้งพรายบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อกริชตวัดสายตาคมกริบมายังหล่อน

   “เอ๋ ...ผมชนะเกมหรือครับ...แต่ผม...”

   ตุลาจำได้เพียงว่าเขาหยิบน้ำมนต์ออกมาสู้ทำให้จับผิดทุกคนได้ หรือนั่นก็ถือว่าชนะแล้ว

   “ความจริงน่ะ แค่ตุลไม่หนีไปตั้งแต่ไม่เจอปิ่น และกลับเข้ามาตามมาหาพวกเรา นั่นก็เท่ากับตุลผ่านด่านทดสอบความกล้าในครั้งนี้แล้วล่ะ แต่อันที่เจอในช่วงกลางคืนนั่นมันของแถมที่พวกหนุ่ม ๆ เค้าคิดกันเองต่างหาก”

   ราตรีบอกตามมาแล้วยิ้มหวาน ทำให้ชายหนุ่มทั้งสามเหลือบมองเธอตาปริบ ๆ เพราะวิญญาณสาวเล่นตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่คิดอยู่รับผิดชอบในแผนการครั้งนี้ร่วมกันกับพวกเขาเลยสักนิด

    “ใช่ ๆ พวกเราไม่เกี่ยวสักหน่อย เราแค่จำใจหลอกตามแผนเท่านั้น ทั้งที่สงสารตุลจะตาย”

   รุ้งพรายรีบเสริม ส่วนปิ่นสุดาก็พยักหน้าหงึก ๆ แต่นั่นกลับทำให้ตุลาขมวดคิ้วยุ่งเล็กน้อย

   “จำใจหรือครับ แต่เมื่อตอนตีห้านั่น แต่ละคนแกล้งไม่รู้ไม่ชี้กันเนียนมากเลยนะครับ”

   “เอ๋? ตอนตีห้า ...นั่นไม่ใช่ตุลแกล้งว่าเห็นผีเองหรอกรึ”

   ราตรีมีสีหน้าแปลกใจ แต่นั่นกลับทำให้ตุลาหน้าซีดเผือด ทว่าเพียงครู่เดียววิญญาณหญิงสาวก็หัวเราะคิก เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่พากันอมยิ้มตามมา

   “หลอกเล่นน่ะ ...ก็พวกฉันเป็นภูตผี ก็ต้องหลอกเก่งเป็นธรรมดายังไงล่ะ”

   ตุลาบ่นอุบอิบกับตัวเองอย่างนึกงอน จากนั้นทุกคนจึงเฉลยแผนการที่ผ่านมาให้ฟัง โดยเริ่มจากการให้ชบาซึ่งเป็นหนึ่งในบริวารของอธิป แกล้งปรากฏกายให้ตุลาเห็น แล้วจึงวางแผนหลอกแบบไม่เห็นตัวเป็นระยะ ส่วนปิ่นสุดาที่หายตัวไปก็เพราะเธอไปซ่อนที่บึงน้ำนอกคฤหาสน์ตั้งแต่ก่อนเช้าแล้ว

   “สรุปผมก็โดนทุกคนหลอกตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ดีล่ะนะครับ ...แถมยังล้อเล่นกันแรง ๆ แบบนั้นอีก”

   ตุลามองคนรักแล้วค้อนนิด ๆ ให้อย่างนึกงอน จนทำให้พาทิศสั่นศีรษะไปมา แล้วยกมือยอมแพ้

   “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจหลอกกันแบบนั้นหรอก ...แต่ก็ดีใจมากเลยที่ตุลยอมทำเพื่อฉันและเข้าใจฉันขนาดนั้นน่ะ”

   คำพูดอ้อน ๆ ของผีดิบหนุ่มทำให้คนฟังใจเต้นแรง พร้อมกับหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย จนคนอื่น ๆ มองสบตากันปริบ ๆ

   “แล้วจะเอายังไงกับงานเลี้ยง  จะลงไปฉลอง หรือจะแยกย้าย...ปรับความเข้าใจ”

   อธิปเว้นวรรคก่อนจะส่งสายตาแฝงความนัยที่ทำให้คนมองตอบต้องอมยิ้ม จากนั้นผีดิบหนุ่มจึงหันไปถามคนรักของเขาบ้าง

   “ตุลหิวไหม...ถ้ายังไม่หิว ฉันมีของหวานให้กินบนห้องนี้แทน สนไหม”

   ตุลาหน้าแดงก่ำ ส่วนสาว ๆ ก็พากันแอบซุบซิบแล้วหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ทว่ากริชกลับมองผีดิบหนุ่มอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ได้เอ่ยขัดอะไรออกไปเพราะรู้ว่าหลานชายนั้นรักอีกฝ่ายมาก และพาทิศเองก็ให้ความสำคัญกับหลานของเขามากเช่นกัน 

   “ผะ...ผมว่า ไปทานพร้อมกันทุกคนจะดีกว่านะครับ”

   ตุลาเลี่ยงตอบทำให้คนฟังแต่ละคนทำท่าถอนหายใจไล่เลี่ยกัน ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตามมาถ้วนหน้า

   “งั้นก็ได้ ไปฉลองกันก่อน ...แต่ถ้าเสร็จแล้ว ต้องมากินของหวานกันสองต่อสองในห้องนี้นะ”

   พาทิศกระซิบ ทำเอาตุลาหน้าแดงหนัก แล้วรีบก้มหน้าเดินงุด ๆ ลงไปชั้นล่าง ท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ดังไล่หลังของเขาไปติด ๆ



    เมื่องานเลี้ยงฉลองจบลง พาทิศกับตุลาก็เลี่ยงขึ้นไปนั่งปรับความเข้าใจกันต่อบนห้อง เพราะผีดิบหนุ่มนั้นสังเกตได้ว่า ตุลายังคงไม่ค่อยพอใจนักกับแผนลองใจที่พวกเขาร่วมมือกันหลอก ซึ่งก็ยืนยันได้เป็นอย่างดีเมื่อหลังจากขึ้นมาบนห้องสักพัก ตุลาก็เริ่มตั้งคำถามขึ้นทันที

   “ทำไมต้องคิดแผนแบบนั้นขึ้นมาด้วยล่ะครับ…”

    ผีดิบหนุ่มยิ้มน้อย ๆ โอบร่างของคนรักมานั่งด้วยกันบนเตียง แล้วจึงเริ่มเล่าให้ฟัง

      “...ก็ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนที่พวกเราปรึกษาเรื่องการทดสอบความกล้ากันนั่นล่ะ ก็มีการเสนออะไรหลายอย่าง แล้วก็มีการแซวกันไปแซวกันมา จนมีบางคนบอกว่า ถ้าเจอของน่ากลัวแบบนี้ยังไงก็ขอแผ่นแนบหนีเอาตัวรอดไว้ก่อนดีกว่า แล้วพวกฉันบางคนก็สะดุดคิดขึ้นมาว่า ถ้าเกิดมีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวกว่าพวกเราปรากฏขึ้นมาล่ะ แล้วชีวิตของพวกเรากำลังอยู่ในความเป็นความตาย ตุลจะหนีหรือจะทิ้งพวกเรากัน...”

   พาทิศเล่ามาเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดเว้นวรรค สังเกตสีหน้าที่ซีดเล็กน้อยของอีกฝ่าย แล้วจึงพูดต่อ

     “หึ ๆ เป็นความคิดที่แย่ดีไหม แต่พวกเราบางคนที่เคยเจอกับการหักหลังของมนุษย์มาก่อนที่จะได้เจอกับคุณจอมเดช ก็ยังมีความหวาดระแวงอยู่ลึก ๆ ในใจของพวกเรา และก็อยากทดสอบว่าคนที่เราชอบมากที่สุดในปัจจุบันเขาจะทรยศเราไหม”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วเอ่ยขัดขึ้นเสียงแผ่ว

   “งั้นถ้าผมเกิดหนีไปแทนล่ะ ทุกคนจะผิดหวังและโกรธผมมากไหม...”

   พาทิศมองหน้าคนรักแล้วแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน ก่อนจะย้อนถามกลับไปแทน

   “ รู้ไหมว่าทำไมแผนการลองใจครั้งนี้ถึงเกิดขึ้นได้”

   ตุลาส่ายหน้าแทนคำตอบ ทำให้คนมองอมยิ้ม แล้วเอ่ยต่อ

   “ก็เพราะคุณกริชบอกว่า ต่อให้ต้องเจอกับอันตรายร้ายแรงขนาดไหน ตุลก็จะไม่มีวันทิ้งทุกคนที่นี่ไปน่ะสิ”

    “อากริช...”

   ตุลาพึมพำถึงอาของเขาอย่างตื้นตันใจ พาทิศลูบศีรษะของคนรักเบา ๆ แล้วจึงเล่าต่อ

    “อาของเธอเชื่อมั่นในตัวเธอ และพยายามแสดงให้พวกเราเห็นว่า พวกเราเลือกคนไม่ผิด ...ตอนที่ตุลเลือกกลับมาช่วยพวกเรา เชื่อไหมรุ้งกับราตรีถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว นี่ถ้าปิ่นอยู่ด้วยรายนั้นคงปล่อยโฮให้แผนเสียไปแล้ว”

   ตุลายิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุข ดีใจที่ไม่ทำให้ทุกคนที่เขารักผิดหวัง

   “แล้วอย่าแอบไปบอกพวกเธอล่ะ”

   พาทิศบอกตามมา ทำให้ตุลาหลุดขำเบา ๆ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

   “แล้วทำไมต้องทำให้ผมสลบแล้วเล่นละครลวงโลกนั่นต่อล่ะครับ”

   ผีดิบหนุ่มคลอนศีรษะไปมาอย่างเอือมระอาเมื่อนึกถึงตอนที่วางแผน แล้วจึงบอกคนรักต่อด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ

   “ก็มันเป็นไคลแมกซ์ของแผนน่ะสิ”

    “ไคลแมกซ์?”

   ตุลาทวนคำอย่างแปลกใจ พาทิศยักไหล่ค่อย ๆ แล้วจึงเล่าต่อ

     “ใช่... อาเธอบอกว่าอุตสาห์วางแผนทั้งทีจะให้จบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ก็เสียของแย่ ยังไงล่ะ”

   ตุลาเงียบกริบ ความประทับใจต่อผู้เป็นอาเริ่มลดลงไปกว่าครึ่งทีเดียว เห็นสีหน้าแบบนั้นพาทิศเลยหัวเราะด้วยความขบขัน พลางจับศีรษะของอีกฝ่ายโยกเบา ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “นี่ถ้าเธอไม่หยิบน้ำมนต์ออกมา ชบาก็แค่จะจับคอเธอแต่ไม่ได้บีบ จากนั้นก็จะเฉลยแผนการ แล้วพวกเราทุกคนก็จะลุกมาโอบล้อมยินดีตอนที่เธอกำลังงง ๆ   แต่แผนดันมาเปลี่ยนนิดหน่อยตอนเธอกล้าสู้นี่ล่ะ ทำเอาฉันอึ้งไปเลยทีเดียว เธอนี่เก่งเอาเรื่องกว่าที่ฉันคิดอีกนะ”

    ตุลาเกาแก้มเขิน ๆ เมื่อได้รับคำชม แต่แล้วก็นึกถึงผีสาวอีกตนขึ้นมาได้

   “...แย่จังเกือบจะทำร้ายคุณชบาไปเสียแล้ว ถ้าทำให้เธอต้องไปเกิดโดยไม่เต็มใจล่ะก็....”

   พาทิศพอเห็นสีหน้าของคนรักหมองลงหลังพูดจบ ก็รีบบอกปลอบตามมาทันที

     “ไม่เป็นไรหรอกหล่อนก็โวยวายไปอย่างนั้นล่ะ ต่อให้โดนน้ำมนต์จริง ๆ วิญญาณตายโหงอย่างหล่อนก็ไปเกิดง่าย ๆ ไม่ได้หรอกนะ  ที่สำคัญหล่อนและพี่ ๆ ก็ดูเหมือนจะติดใจคุณอธิปพอสมควร ขนาดคุณอธิปจะปลดปล่อยวิญญาณให้ไปสู่สุคติเพราะจะเลิกเป็นหมอผี พวกนั้นยังไม่ยอมกันเลย แถมยังจะขอติดตามไปจนกว่าคุณอธิปจะตายทีเดียว”

   ตุลาหัวเราะเจื่อน ๆ หวนคิดถึงหัวกะโหลกสามหัวในห้องของหมอผีหนุ่มแล้วก็ต้องกอดอกห่อไหล่ด้วยความกลัว จนทำให้พาทิศอมยิ้มนิด ๆ อย่างเอ็นดู

   “ฉันน่ะดีใจมากรู้ไหม ตอนที่เห็นตุลโกรธเพื่อฉัน แถมยังบอกว่าจะไม่ยอมส่งฉันให้ใครอีก ฉันงี้ปลื้มจนลืมตัวยิ้มออกมาเลยทีเดียว”

   ตุลาหน้าแดงวาบ เมื่อหวนคิดถึงคำพูดของตัวเองยามนั้น เขาพยายามหลบสายตาที่บ่งบอกถึงความรักของอีกฝ่ายอย่างเขินอาย จนทำให้พาทิศอดที่จะรวบร่างบางนั้นมากอดมาจูบเสียไม่ได้

   “ขอโทษนะที่ทำร้ายความรู้สึกของตุลแบบนี้”

   ผีดิบหนุ่มกระซิบบอกอย่างจริงจังหลังจากที่หากำไรไปจากคนรักเสียชุ่มปอด

    “ช่วยไม่ได้นี่ครับ...แค่ให้ทุกคนรู้ว่าผมชอบและไม่คิดทอดทิ้งทุกคนที่นี่ ผมก็พอใจแล้วครับ”

   คำตอบจริงใจที่ไร้สิ่งใดเคลือบแฝง ทำให้พาทิศต้องโน้มใบหน้าลงจูบแก้มซ้ายแก้มขวาของคนรักอีกครั้ง ก่อนจะประคองเอนร่างนั้นให้ล้มลงไปบนเตียงนอนนุ่มด้วยกัน

   “เด็กดี อย่างนี้ต้องให้รางวัลเสียแล้ว”

   ตุลาหน้าแดงระเรื่อ รู้ทันทีว่ารางวัลของอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

    “เอ่อ ไม่ดีมั้งครับ เพิ่งทานมาอิ่ม ๆ”

   ชายหนุ่มพยายามเลี่ยงปฏิเสธ ความจริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจที่จะมีสัมพันธ์กับพาทิศหรอก เพียงแต่จะให้ตอบรับโต้ง ๆ เลยเขาก็ค่อนข้างกระดากปากและอายอยู่มากทีเดียว

   “อิ่มหรือ... งั้นก็ต้องออกกำลังกายให้อาหารย่อยสินะ”

   ทว่าพาทิศยังคงดึงเข้าเรื่องเดิมจนได้ ทำให้ร่างในอ้อมกอดหน้าแดงก่ำ แล้วโวยวายเบา ๆ ด้วยความเขินอาย

   “แล้วทำไมต้องวกมาเรื่องนี้ประจำเลยล่ะครับ!”

   “ใครใช้ให้ตุลน่ารักเองนี่”

   พาทิศกระซิบ แล้วไม่ยอมรอให้ตุลาปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยง เขาค่อย ๆ เล้าโลม จนสติของชายหนุ่มเริ่มเตลิดเปิดเปิงไปทีละน้อย

   “ดะ เดี๋ยว...คุณพาทิศ”

   “หือ อะไรหรือ”

   พาทิศเงยหน้าจากแผ่นอกขาวเนียนขึ้นมามองสบตาคนรักอย่างแปลกใจ

   “เอ่อ...อย่าทำรุนแรงนักนะครับ”

   ตุลาบอกด้วยใบหน้าแดงจัด ทำให้คนมองต้องชะโงกหน้าไปจูบปากนุ่มนั้นเบา ๆ อย่างเอ็นดู

   “โอเค รับรองจะอ่อนโยนด้วยนะ”

   ผีดิบหนุ่มรับปาก แล้วมือไม้และริมฝีปากจึงเริ่มซุกซนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนรักต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนจะชะงักมือของตน เมื่อได้ยินเสียงห้ามปรามอีกครั้ง

   “อะไรหรือตุล”

   “เอ่อ...อย่าลืมสร้างเขตแดนด้วยนะครับ ...คือผมกลัวคนแอบดู”

   พาทิศหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางชะโงกหน้าไปหอมแก้มคนรักอีกข้างละฟอด

   “โอเค ๆ เกือบลืมแล้วนะเนี่ย ขอบใจนะ”

   ทว่าก่อนที่เขตแดนของผีดิบหนุ่มจะสมบูรณ์ ตุลาได้ยินเสียงแว่ว ๆ บ่นของใครบางคนดังขึ้น เขาหน้าแดงก่ำ พลางนึกในใจว่าคิดถูกแล้วล่ะนะที่ขอให้พาทิศทำแบบนี้  จากนั้นเมื่อเขตแดนเสร็จเรียบร้อย ตุลาจึงค่อย ๆ หลับตาพริ้ม รอรับจุมพิตอ่อนโยนของคนรักที่มอบให้ตนอย่างมีความสุข อีกครั้ง





…The End…





จบแล้วค่ะ อาจจะดูห้วนไปนิด แต่ก็อยากให้ปิดฉากอยู่หวานๆ  แบบนี้ล่ะนะคะ



แล้วเจอกันในตอนพิเศษเร็ว ๆ นี้ค่า ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน

อาจจะไม่ได้ตอบคอมเมนต์หรือพูดคุยด้วยแต่ก็อ่านคอมเมนต์ทุกท่านนะคะ ถ้าคนไหนมีคำถามสงสัยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องก็จะทยอยตอบให้ทีละรายค่ะ แต่ไม่ว่าเป็นคอมเมนต์แบบไหน ก็ทำให้ปัดรู้สึกดีใจมาก จนถึงกับว่าพอมีคอมเมนต์เพิ่มก็ต้องคลิกมาอ่านแล้วยิ้มเป็นประจำทีเดียว

สำหรับเรื่องหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะเขียนแนวไหน แต่ช่วงนี้ติดใจเขียนแนวใส ๆ เสียแล้วสิคะ ^ ^” คงเพราะมันเขียนง่ายกว่าล่ะมั้ง ยังไงถ้าคิดพล็อตได้แล้วจะมาลงให้อ่านกันอีกทีนะคะ

ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ
 :pig4:




bellity

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้ว 55+ อยากเป็นผีไปแอบดูเค้าบ้างอ่ะว่าจะหวานกันขนาดไหน ><

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
สนุกดีค่ะ นายเอกใสซื่อดี  :o8:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ตุลน่ารักอ่ะ ฮ่าๆ ตอนนี้มันแอบไม่มีคุณอานี่สินะ
เห็นด้วยกับตุล ทำไมต้องวกมาแบบนี้ทุกทีเลย  :-[ :-[ :-[ :-[

เมอร์รี่คริสต์มาสนะคะ

รอเรื่องต่อไป ^^ :L2:

wichaiP

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว ไม่เสียที ที่วันนี้นอนดึก ได้อ่านเรื่องนี้จนถึงตอนจบด้วย ขอบอกแอบชอบตั้งแต่เรื่อง ยมทูตนั่นแล้ว เสียดายที่ไม่ได้เป็นนิยายวาย แต่ก็น่ารักดี เรื่องนี้ชอบที่ให้ตัวละครทุกตัวมีบทบาท พระเอกกับนายเอก รักกันไม่มาก แต่ผมกับชอบที่ตุลคิดถึงแต่กริช และต้องการเดินตามรอยอาตน บวกกับภาพสถานที่ที่คนเขียนมีความสามารถการบรรยายได้ดีมากๆ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
ทำไมมาตัดฉับแบบนี้  :-[

เราชอบแนวใสๆแบบนี้แหละ น่ารักดี เขียนอีกๆ เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อๆไปนะคะ รอตอนพิเศษด้วย อิอิ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จบซะแล้ว  ทุกอย่างลงตัว
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะครับ
ผมอ่านแล้วยิ้มไปทั้งเรื่อง ขอบคุณมากๆครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด