| สะใภ้เถื่อน ™|By Chocolate Love ~ ตอนพิเศษ P.145 นิรันดร์ (05/05/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: | สะใภ้เถื่อน ™|By Chocolate Love ~ ตอนพิเศษ P.145 นิรันดร์ (05/05/59)  (อ่าน 1805974 ครั้ง)

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
คนแต่งขอโทษ 

ติดภารกินน เอ๊ย! ภารกิจ

ต้องไปงานบวช (ไอ้)พี่อาร์ม พี่ชายลูกพี่ลูกน้องอ่ะค่ะ

เสิร์ฟกลับข้าวหัวหมุน ขอโทษนะค๊าาาาา

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
สนุกมาก โชคดีที่เปิดมาเจอแล้วได้อ่านเรื่องนี้  ^^

winamp

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลย นายเอกน่ารักอ่ะแบบหวานนิดเปรี้ยวหน่อยน่ารักมาก พระเอกก็น่ารัก ><"  o13 :กอด1:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
หวานแหว  น่ารักมากๆค่ะ o13

kdragon

  • บุคคลทั่วไป
แหม่ น่ารักกันจริงๆ รอต่อนะคะ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
บทที่ 19 





นอนไม่หลับ





ศิขรินท์เก็บเอกสารใส่กระเป๋าและเคลียร์โต๊ะทำงานให้น่ามองขึ้นมาอีกครั้ง เพราะใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนชายหนุ่มคงจะกลับเป็นคนสุดท้ายของบริษัท แต่เดี๋ยวนี้ตารางเวลาและตารางชีวิตของเขาต้องปรับใหม่ทั้งหมดเพื่อจะได้ใช้เวลาหลังเลิกงานอยู่กับภัสดาได้อย่างเต็มที่ ถ้าเข็มนาฬิกาไม่ชี้เลขสิบสองซึ่งก็คือเวลาของวันใหม่ศิขรินทร์ก็ยังคงไม่ได้ฤกษ์ออกมาจากห้องทำงาน  แต่เดี๋ยวนี้ทำอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้วเพราะมีใครอีกคนที่รอเขาไปรับหลังเลิกงานเช่นกัน



วันนี้คนเอวบางบอกเขาไว้ว่าถ้าเซ็นอนุมัติวงเงินซื้ออะไหล่รถยนต์เสร็จเรียบร้อยจะแวะเข้ามาหาที่บริษัท อินทรีหนุ่มอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ภัสดาจะมาเยือนที่ทำงานของเขา แต่ความดีใจก็สูญสลายหายไปเมื่อเจ้าตัวโทรมายกเลิกเพราะเพื่อนสนิท แวะมาหาที่บริษัทแล้วชวนวไปทานอาหารเที่ยงด้วยกัน และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ประธานบริษัท อินทราทิพย์กรุ๊ปที่ว่าขรึมแล้วยิ่งขึ้นไปอีก จนคุณช่อฟ้าเลขาคนสนิทแทบจะรับมือไม่ไหวกับอารมณ์อันปรวนแปรของผู้บริหารหนุ่ม และเมื่อถึงเวลาทานอาหารกลางวัน ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของศิขรินทร์จะมีข้อความส่งเข้ามาเมื่อเจ้าตัวเปิดอ่านก็ยิ้มออกอารมณ์ขุ่นมัวที่สั่งสมมาเกือบครึ่งค่อนวันก็ดูจะจางหายไปทันที ช่อฟ้าไม่รู้ว่าใครคือเจ้าของข้อความที่ส่งมาหาศิขรินทร์ แต่เธอก็ต้องขอบใจบุคคลนี้เป็นอย่างมากที่ทำให้ท่านประธานของหล่อนกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง



“พรรคนี้ดูคุณยิ้มบ่อยจังเลยนะคะ” 



ช่อฟ้าเอ่ยทักศิขรินทร์ที่กำลังเก็บเอกสารเข้ากระเป๋าอย่างใจเย็น หล่อนเอาแฟ้มสรุปยอดเงินบ่อนคาสิโนที่มาเก๋ามาให้เจ้านายหนุ่มแล้วเอ่ยทักอย่างสงสัย ถ้าไม่นับเรื่องเมื่อตอนเที่ยงก็ดูเหมือนว่าช่วงระยะเวลาเดือนสองเดือนมานี่เจ้านายของเธอดูจะอารมณ์เย็นและยิ้มง่ายมากกว่าเมื่อก่อน



“หน้าผมมันฟ้องขนาดนั้นเลยเหรอ”      ชายหนุ่มเอ่ยตอบกลับมาแต่มือยังสาละวนเก็บเอกสารงานสำคัญๆลงเซฟในห้องและอีกส่วนหนึ่งเอากลับไปอ่านที่คอนโด    ดวงตาคมเข้มเหลือบมองนาฬิกาเรือนแพงที่ถูกอยู่ในข้อมือด้านขวา ขณะนี้ใกล้เวลาเลิกงานของอู่ภัสดาแล้ว วันนี้เจ้าของอู่หน้าหวานมีนัดทานดินเนอร์กับบิดาและมารดาของตนเอง เพราะฉะนั้นศิขรินทร์จึงต้องรีบไปรับเร็วกว่าปกติ



“ใช่ซิคะ แต่อย่านับเรื่องตอนเช้าที่ผ่านมานะคะ”      ศิขรินทร์ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างแปลกใจ ตอนเช้าเขาทำอะไรไว้อย่างนั้นหรือ ไม่มีนะ ก็นั่งทำงานอย่างปกติ



“เมื่อเช้าคุณดูอารมณ์ไม่ดีแล้วก็เงียบขรึมลง ลูกน้องฝ่ายต่างๆเลยพากันกลัวหัวหดไปยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ”     



“ขอโทษที...........   คุณช่อผมอยากให้คุณช่วยดูนายภาคภูมิหัวฝ่ายการเงินให้หน่อยนะ  ดูเหมือนว่าเงินเขาจะเพิ่มมากกว่าปกติมาสองสามเดือนแล้ว”       



อินทรีเงินพูดเสียงนิ่งแล้วเดินไหล่ตรงออกจากห้องไป   ภาคภูมิคือหัวฝ่ายการเงินที่ทำงานกับ อินทราทิพย์กรุ๊ปมาสี่เดือนแล้ว  ศิขรินทร์รับชายหนุ่มคนนี้เข้ามาทำงานด้วยตัวเองเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายดูขยันและเอาการเอางาน ฉลาดอยู่ไม่ใช่น้อย  เดือนแรกภาคภูมิตั้งใจทำงานออกมาอย่างดีเยี่ยมจนทุกคนในแผนกออกปากชื่นชมเพียงเวลาไม่นานเขาก็เลื่อนให้ชายหนุ่มขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก แต่ความดีก็ไม่สามารถบังความชั่วเอาไว้มิด ฝ่ายตรวจสอบพบว่ายอดเงินในบัญชีของภาคภูมิเริ่มสูงขึ้นเกินหัวหน้าแผนกคนอื่น แต่ก็ยังไม่แน่ใจ จนเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาหลักฐานชิ้นสำคัญก็โผล่ออกมาเพื่อบัญชีเงินฝากของภาคภูมิมีเงินปริศนาเข้ามาเป็นจำนวนห้าล้าน  ศิขรินทร์รับฟังเรื่องนี้จากฝ่ายตรวจสอบด้วยท่าทีที่นิ่งขรึม  อดสะท้อนไม่ได้ว่า เปลือกนอกที่แสนดีหุ้มเบื้องหลังที่คดโกงและเลวร้ายเอาไว้  สุดท้ายคนมันเคยเลวอย่างไรมันก็คงเลวทรามอย่างนั้นต่อไป 



“ไม่น่าอยากรวยทางรัดเลยภาคภูมิ”    ช่อฟ้ารำพึงอย่างสงสารและเวทนาในความโลภของหัวฝ่ายการเงิน ศิขรินทร์ออกปากอย่างนี้แล้วก็คงต้องการให้เขาจัดการคนโกงคนนี้ขั้นเด็ดขาด เพราะถ้าหากบทลงโทษของหล่อนไม่ถูกใจประธานหนุ่ม เจ้าตัวจะลงมือด้วยตัวเอง และเมื่อถึงเวลานั้นใครก็ขวางทางความพินาศที่ศิขรินทร์หยิบยื่นให้กับภาคภูมิไว้ไม่ได้




เย็นวันนี้ชายหนุ่มไม่ต้องลงรถไปรับภัสดาข้างในอู่ เพราะทันทีที่ร่างสูงขับรถถึงหน้าบริษัทก็เห็นร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ยืนคุยกับลุงยามหน้าอู่อยู่แล้ว  ศิขรินทร์ตบไฟเลี้ยวเข้าจอดหน้าอู่แล้วเปิดประตูรถลงเอาขนมและเครื่องดื่มชูกำลังส่งให้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่นั่งทำงานอยู่ข้างใน เมื่อรับฟังคำขอบคุณที่แกมไปด้วยความเกรงใจเสร็จแล้ว ศิขรินทร์ก็แตะไหล่บางให้ออกเดินไปยังรถที่จอดรออยู่แล้ว   วันนี้อินทรีหนุ่มขับ Koenigsegg CCX (อ่านว่า โคนนิกเซก) Super car สัญชาติสวีเดน คันหรูใช้ขับไปทำงานและไปรับไปส่งภัสดา คราแรกที่ภัสดาเห็นรถของศิขรินทร์นั้นนอกจากจะไม่ชื่นชมในความหรูและความสวยของโคนนิกเซกแล้ว ยังบ่นและแขวะเขาเรื่องใช้เงินสิ้นเปลืองไปกับรถอีกต่างหาก    และเมื่อคนเอวบางซักไซ้ไล่เรียงเรื่องรถว่าเขามีไว้ครอบครองทั้งหมดกี่คัน ร่างสูงก็อิดออดที่จะตอบคำถามเพราะถ้าบอกไปว่ามีโรงรถแยกไว้ที่บ้านของตัวเอง และในนั้นมีรถสปอร์ตราคาแพงอยู่หลายสิบคันคงจะโดนบ่นหูชาไปมากกว่านี้เป็นแน่ๆ



“เห็นรถมึงแล้วมันอดหมั่นไส้ไม่ได้”       ร่างบางเหลือบมองประตูรถที่เปิดทำมุม 90องศาแล้วหลุดปากอออกมาอย่างอดไม่ได้ จะมีซักกี่คนที่ซื้อรถมาเพื่อสะสม และจะมีซักกี่คนที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนรถในแต่วันไม่ซ้ำแบบกัน  สองวันที่แล้วเฟอรารี่เอ็นโซ่ เมื่อวานนี้ออดี้ วันนี้โคนนิกเซก วันต่อๆไปก็คงจะเป็นพรอช ดูคาติ  ยิ่งมองหน้าคนขับที่พยามยามส่งยิ้มประจบมาให้ก็ยิ่งหมั่นไส้เข้าไปใหญ่ มันหล่อแถมมันยังรวยแบบฉุดไม่อยู่อีกต่างหาก



จริงอยู่ฐานะของภัสดานั้นเทียบเท่ากับศิขรินทร์ แต่เพราะสมัยยังเป็นเด็กร่างบางถูกปลูกฝังให้รู้คุณค่าของเงินและความยากลำบากที่จะได้มา เมื่อสมัย ม.ต้น เจ้าสัวภาสเคยงดให้เงินค่าขนมกับลูกชายเพราะต้องการที่จะดัดนิสัยใช้เงินโดยไม่รู้ประโยชน์โดยการให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปขายปลาทูกับคุณยายที่เป็นเจ้าของตลาดใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาครให้หมดทุกเข่งภายในหนึ่งวัน  หลังจากนั้นมาคุณหนูพีตของบ้านก็กลายเป็นคนใหม่ แทบจะเปลี่ยนหมดก็ว่าได้ ประหยัด รู้ค่าของเงิน และขยัน ขึ้นมาเท่าตัว



“พีตไม่ชอบเหรอ มันนุ่มดีนะ”    ภัสดาไม่เถียงว่าเบาะมันนุ่มแถมสีสันยังจี๊ดแสบตาได้อีก แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นช่างซ่อมรถและอยู่กับวงการเครื่องยนต์มานานทำเอาภัสดาอดที่จะสงสารเครื่องยนต์ของมันไม่ได้  เครื่องยนต์ของรถสปอร์ตออกแบบมาเพื่อขับในทางเลียบตรงเส้นยาวด้วยความเร็วสูงระริ่ว แต่นี่มันเมืองไทย และนี่ก็คือกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัญหาข้อเด่นของเมืองหลวงคงหนีไม่พ้นเรื่องการจราจรติดขัด ถ้าจอดโคนนิเซกสามสิบล้านอย่างนี้ซักสิบนาทีติดต่อกันหลายครั้ง รับรองได้ว่าเครื่องยนต์มันคงรวนและพังในที่สุดแน่นอน



“ก็นุ่มดี แต่มันไม่คุ้มกันนะ ถ้ามึงเอารถมาขับติดไฟแดงมันพัง แต่ถ้ามึงไม่เสียดายก็ไม่เป็นไร ก็คนมันรวยนี่นะ ยี่สิบสามสิบล้านเสียไปขนหน้าแข้งก็คงไม่สะเทือน”   



ภัสดาเอนกายพิงเบาะได้ไม่นานก็มีริมฝีปากหนาของคนที่นั่งข้างๆทาบทับติดลงมาด้วย คราแรกร่างบางแกล้งเม้นริมฝีปากแน่นไม่ให้ลิ้นเรียวยาวของศิขรินทร์ได้หลุดรอดเข้มา แต่เมื่อโดนเล็มขอบปากอยู่นานสองนานลมหายใจเริ่มสะดุดร่างบางจึงเปิดปากออกอย่างช้าๆเพื่อกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด แต่สิ่งที่แทรกมากับอากาศเข้ามในปากของภัสดาด้วยนั่นก็คือลิ้นร้อนของศิขรินทร์  โพรงปากชื้นเปิดรับเรียวลิ้นศิขรินทร์อย่างจนใจเมื่อปรับสภาพร่างกายและหัวใจเข้าที่ได้เรียบร้อย ภัสดาก็ผลิกลิ้นตัวเองไล่ต้อนลิ้นของอีกฝ่ายทันที สงครามของการแลกลิ้นดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด  ศิขรินทร์ไล่กวาดต้อนลิ้นของภัสดาอย่างไม่ยอมแพ้ และร่างบางเองก็ฉกลิ้นสู้ไม่ถอยเหมือนกัน   ร่างสูงดูดกินน้ำหวานในโพรงปากของภัสดาอย่างไม่รู้จักเบื่อ จนในที่สุดคนเอวบางก็เริ่มสำลักลมหายใจและตีไหล่เขาให้ผละออกมา



ทรวงอกบางสะท้อนขึ้นลงอย่างเหน็ดเหนื่อยเหมือนกับว่าตัวเองได้ไปลงแข่งวิ่งมาราธอนเสียอย่างนั้น ริมฝีปากบางบวมเต่งเพราะจุมพิตร้ายกาจของศิขรินทร์ ใบหน้าเรียวยาที่เมื่อสิบนาทีที่แล้วขาวนวลเนียนอย่างคนสุขภาพดี แต่บัดนี้เจือสีแดงเข้มอย่างกับเลือดในกายของเจ้าตัวสูบฉีดมารวมกันอยู่ที่ใบหน้าหมดเสียอย่างนั้น   ภัสดารับรู้ถึงริมฝีปากร้ายของศิขรินทร์ที่ไล่เรื่อยลงไปยังซอกคอหอมกรุ่นของตัวเองแล้วดูดเม้นตีตราเป็นจ้าของสองสามรอย ภัสดาจนใจที่จะห้ามเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังระงับอารมณ์ดิบของตัวเองอย่างเต็มที่ ปล่อยให้ทำรอยที่คอไป ยังดีกว่ามาเสียตัวในรถอีก 



“ไอ้ศิ  ปล่อยเลย เดี๋ยวก็ห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่”     ภัสดากระซิบเสียงแผ่วข้างใบหูของศิขรินทร์   ร่างบางก้มมองกลุ่มผมสีน้ำตาลของศิขรินทร์ที่ตอนนี้กำลังซุกซบหน้าอกของเขาอย่างต้องการปรับอามรมณ์ต้องการของตัวเองให้เป็นปกติ  มือเรียวบางสางเส้นผมนุ่มลื่นของศิขรินทร์ไปมาอย่างแผ่วเบา กลิ่นแชมพูอันคุ้นเคยโชยออกมาเป็นระยะๆ  เวลาหลังเลิกงานอันแสนมีค่าสำหรับศิขรินทร์และภัสดา กำลังดำเนินไปอย่างช้าๆ



“ตัวคุณหอมจัง”     



จมูกโด่งเป็นสันสูดกลิ่นกายหอมกรุ่นประจำตัวของภัสดาเข้าปอดเต็มที่แล้ว ศิขรินทร์ก็ผละออกมาอย่างยากลำบาก  จุมพิตที่หน้าผากมนสวยของคนเอวบางเป็นการปิดท้าย  ร่างสูงก็สตาร์ทรถแล้วขับออไปทันที  ระหว่างทางภัสดาเอ่ยปากชวนศิขรินทร์ตลอดทาง  ถ้าหากตอนไหนเงียบแสดงว่าตอนนั้นเขากำลังอายหรือไม่ก็เขินเพราะคนขับหน้าหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆ มักจะฉวยมือไปจุมพิตหรือไม่ก็แกล้งกัดนิ้วมือเรียวยาวเล่น



“ปากหวาน สูบพลังชีวิตกูเสร็จมึงก็พูดอย่างนี้ทุกที”     



ภัสดายกหลังมือขึ้นมาปิดริมฝีปากของตัวเองอย่างเขินอาย ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ไม่เคยหยุดเขินศิขรินทร์เลยซักที หนำซ้ำความอายยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนแปลกใจตัวเองเหมือนกัน คบกันมาเกือบจะสองเดือน จูบซุกไซ้ก็เกือบทุกวันแต่ก็ไม่เคยที่จะหยุดเขินอายอีกฝ่ายได้เลย   ดวงตากลมโตเสมองไปนอกหน้าต่างรถยนต์เพื่อหลบซ่อนใบหน้านวลที่มีเลือดสูบฉีดขึ้นมากองอยู่ข้างบนแทบจะหมด



“เมื่อกี้ก็ได้ชิมไปแล้ว  ตกลงหวานไหมครับ”     



“แหวะ ขมปี๋  เฮ้ย!  พอๆ อย่ามาเนียน ขับรถไป”     ภัสดาแทบจะหยุดคนขับเจ้าเล่ห์ไว้ไม่อยู่ เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเข้ามาคว้าหยุดรถแล้วคว้าตัวเขาเข้าไปจูบ



“อยากไปสวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ของพีตจังเลย จะได้แนะนำไปว่าผมน่ะเป็นลูกเขยของพวกท่าน”   



คนขับรำพึงรำพันถึงเรื่องดินเนอร์มื้อเย็นระหว่างเขากับบิดาและมารดา ภัสดาต้องเอ่ยปากห้ามปรามไอ้คนเอาแต่ใจเสียยกใหญ่เพราะ ศิขรินทร์ตั้งท่าจะไปกับเขาให้ได้ ห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง แกล้งงอนก็ไม่ได้ผล จนสุดท้ายภัสดาต้องรับปากไว้ว่าจะพาไปแนะนำให้รู้จัก นั่นแหละ อินทริเงินผู้เอาแต่ก็ใจก็เลิกดื้อด้าน และกลับมาเป็นนกน้อยน่ารักเหมือนเดิม



“แนะนำให้รู้จักธรรมดาน่ะได้ แต่ไอ้ที่บอกว่าเป็นลูกเขยนี่มันก็เกินไปนะศิ พวกท่านได้ช็อคตายพอดี”     



“ตกใจเพราะพวกท่านเห็นว่า ลูกชายได้สามีที่ดีมาก เชื่อฟังภรรยาทุกอย่าง หาเงินมาก็ให้ภรรยาเก็บทุกบาททุกสตางค์ ปรนนิบัติพัดวี  ไปรับไปส่งไม่ให้ขาด”    ใครบอกว่าคนหล่อมันหลงตัวเองไม่เป็น นี่ไง!  ที่ศิขรินทร์กำลังทำอยู่นี่ไงที่เขาเรียกว่าหลงตัวเอง ชนิดที่ว่าหาทางออกไม่เจอเลยล่ะ



“หึหึ ไอ้คนหลงตัวเอง”   ภัสดาอดใจไม่ไหวในความทะเล้นน่ารักของอีกฝ่าย จึงเอนกายไปข้างๆแล้วหอมแก้มสากของคนขับรถหน้าหล่อไปเต็มๆซักทีสองที และปิดท้ายก็ได้เอนศีรษะซบไหล่แข็งแรงของศิขรินทร์อย่างต้องการพักผ่อน



“อยากให้คนแถวนี้หลงมากกว่า ทานเสร็จตอนไหน เดี๋ยวจะไปรับกลับ”     คนขับหน้าหล่อหันมาหอมหน้าผากเนียนของคนรักอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปสนใจถนนหนทางต่อ ถ้าไม่ติดว่ากำลังขับรถ ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายต้องรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัว ป่านนี้ศิขรินทร์คงจอดข้างทางแล้วจัดการดึงคนเอวบางาเข้ามาจูบเสียให้หายมั่นเขี้ยว ใครบอกว่าช่างเถื่อนแล้วอ้อนไม่เป็น ศิขนทร์เถียงขาดใจ เพราะทุกวันนี้ภัสดาก็ขยันอ้อนเขาบ่อยเสียเหลือเกิน



“ไม่ต้องหรอก  วันนี้จะค้างที่บ้านน่ะ ไม่ได้กลับไปเหยียบหลายเดือน ป๊ากับแม่บ่นใหญ่เลย”  เปลือกตาบางปิดลงอย่างต้องการพักสายตาแต่ถึงกับหลับ วันนี้ไม่ได้ทำงานใช้แรงทั้งวัน เรี่ยวแรงจึงเหลืออยู่มากพอสมควร




“จะค้างที่บ้านเหรอ  ไปด้วยได้ไหม”     



“ตลกแล้วศิ เดี๋ยวป๊ากับแม่ก็ตกใจพอดี  ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพาปู้จายขึ้นบ้าน ฮ่าๆ”   



“ท่านก็จะได้รู้ไง ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”      เรียวแขนแข็งแรงวาดขึ้นโอบไหล่บางของภัสดาเข้ามาในอ้อมอกแล้วกอดกระชับถ่ายเทความอบอุ่นให้กับอีกฝ่ายอย่างห่วงใย



“ศิ  กูไม่รู้ว่าป๊ากับแม่จะรับได้ไหม เขาหวังกับกูไว้มาก กูกลัวว่าถ้าทำตัวอย่างนี้แล้วพวกเขาจะเสียใจ”     



ปัญหาใหญ่ที่เป็นตะกอนก่อกวนใจของภัสดาอยู่ตลอดเวลา ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนจะดีใจที่เห็นลูกชายตัวเองมีคนรักเป็นผู้ชาย มันไม่มีหรอก นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงที่ว่าผู้หญิงเกิดมาคู่กับผู้ชาย มีเพศสัมพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเองให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลานตราบนานเท่านาน แล้วผู้ชายกับผู้ชายล่ะ จะมีบุตรได้ไหม ให้กำเนิดสิ่งมีชิวิตอย่างเพศหญิงได้ไหม ตำตอบมันแน่นอนคงตัวอยู่แล้วว่าไม่ได้ แล้วอย่างนี้ความรักของเขากับศิขรินทร์จะเดินไปด้วยกันซักที่ก้าว จะเดินเคียงกันไปได้อีกนานเท่าไร เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อถึงทีสุด มันก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี



“พ่อกับแม่ของผมก็หวังที่จะได้เห็นผมมีครอบครัวสมบูรณ์แบบเหมือนกันนะพีต   แต่ผมกลับคิดว่า ทุกการกระทำมันต้องมีเหตุผลของตัวเอง”    น้ำเสียงจริงจัง และมั่นคงของศิขรินทร์เรียกกำลังใจให้ภัสดาได้มากพอสมควร  จะมัวมากลัวอยู่ทำไมในเมื่อ คนที่นั่งข้างๆเขาอยู่นี่ไม่เคยนึกกลัวอะไรเลย ไม่กลัวแม้กระทั่งเรื่องที่ครอบครัวจะล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ ศิขรินทร์เข้มแข็งเพื่อใหภัสดาได้พักพิงและเอนกายอยู่เสมอ



“สาเหตุคือผมรักคุณ เหตุผลก็คือ......เรารักกัน มือคู่นี้จะไม่ปล่อยมือของพีตเป็นอันขาด ผมสัญญา” 



.
.
.
.
.
.



ร่างบางยืนมองโคนนิกเซกคันหรูที่ค่อยๆหายลับไปกลับตา ในตอนแรกเขากะว่าจะขับดูคาติคันเก่งปาดซ้ายปาดขวามาด้วยตัวเองเพราะอย่างไรก็ต้องกลับไปนอนที่บ้านอยู่แล้ว แต่ศิขรินทร์ก็ไม่ยอมท่าเดียว อ้างว่ารถมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วอันตรายไม่มีอะไรมาห่อหุ้มร่างกาย เพราะฉะนั้นอินทรีเงินจอมสั่งก็เลยไม่อนุญาตให้เขาเอาลูกรักขึ้นมาวิ่งบนถนน และมันนั่นแหละที่จะมาส่งด้วยตัวเอง ห้ามก็ไม่ได้ เพราะมันจะจับจูบท่าเดียว เพราะฉะนั้นภัสดาจึงต้องทำตัวลอยตามน้ำมาก่อน กลับไปค่อยไปเล่นงานมัน หึหึ หัว



“ใครๆก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย” 



 จะผิดไหมถ้าเจ้าของร้านตัวจริงเสียงจริงเดินร้องเพลงอารมณ์ดีเข้ามาในร้ายโดยไม่สนสายตาสนอกสนใจของผู้คนรอบข้างมองมายังตนเอง ภัสดาในชุดเสื้อยืดสวมทับด้วยสูทนุ่งกางเกงยีนต์เรียกสายตาของผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี  ทุกคนคงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าผู้ชายหน้าหวานแต่งตัวทะมัดทะแมงอย่างนี้มาทำอะไรในห้องอาหารจีนสุดหรูระดับห้าดาว



“เจ้าสัวกับคุณนายรอยู่แล้วค่ะ”    พนักงานต้อนรับเดินเข้ามาแจ้งด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม ภัสดายิ้มตอบเล็กน้อยแล้วเรียกหาผู้จัดการสาขาทันที



“ข้างหน้าร้านเงียบไปหรือเปล่าคุณผู้จัดการ ผมเกือบเดินผ่านนะเนี่ยถ้าไม่ติดว่าเงยหน้าเห็นป้ายหน้าร้านพอดี  ไม่ได้มาตรวจเดือนเดียว เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ อืม...... ถ้าจะเปลี่ยนผู้จัดการใหม่ก็ได้เหมือนกันซิ” 



ใบหน้าหวานยิ้มแย้มหาได้แสดงออกมาว่าโกรธไม่ บุคลิกนี้ของภัสดาต่างหากล่ะที่น่ากลัวกว่าตอนทำน้าโกรธเสียอีก    ดวงตากลมโตมองหน้าของผู้จัดการสาขาอย่างคาดคั้น  ความจริงหน้าร้านจะต้องมีพนักงานต้อนรับคอยรับคอยส่งลูกค้า แต่มาครั้งนี้ไม่มีใครยืนอยู่เลยซักคน หยุดรอดูอยู่นานสองนานก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนเดินออกมาปฏิบัติหน้าที่นี้ จนเมื่อแน่ใจดีแล้ว ร่างบางก็เดินร้องเพลงเข้ามาแล้วเรียกหาผู้จัดการสาขาทันที ดีนะที่วันนี้สูบอะไรหวานๆมาจากไอ้ประธานหน้าหล่อเยอะพอสมควร ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คงได้มีคนโดนไล่ออกแบบทันทีซักห้าถึงหกคน



“อะไรกันเจ้าพีต มาถึงก็เข้มเชียวนะ”  เจ้าสัวภาสเดินออกมาตามเสียงพนักงานที่ซุบซิบกันอยู่ด้านหลังว่า ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังกล่าวเตือนผู้จัดการประจำสาขานี้ ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม



“ป๊าสวัสดีครับ  ไม่มีอะไรหรอกครับก็แค่จะเปลี่ยนผู้จัดการร้านใหม่ ตามนโยบายขัดใจคนหล่อ คนหล่อก็ไล่ออก! น่ะครับ แล้วแม่ล่ะครับ”       ภัสดาเดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นพ่ออย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้สนเลยซักนิดว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นเช่นไร 




“อยู่ข้างในน่ะ กำลังคุยกับกุ๊กอยู่ ป๊าว่าเรามานั่งทานกันข้างนอกดีกว่า  เปลี่ยนบรรยากาศ ในห้องมันทึบเกินไป”      สองพ่อลูกโอบเอวกันเดินไปหาโต๊ะนั่ง โดยที่มีผู้จัดการสาขาสาวใหญ่เดินตามมาติดๆ จนภัสดาโบกมือไม่ให้ตาม นั่นแหละขบวนของผู้จัดการและพนักงานคนอื่นๆจึงถอยกลับมาและปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองต่อ



“ลูกชายคนเก่งของแม่  ช่วงนี้หายหน้าหายตาเลยนะ”    คุณนายจันทมาศเดินเข้ามาแตะไหล่บางของลูกชายแล้วก้มลงหอมศีรษะของภัสดาอย่างรักใคร่  ร่างบางเองก็ไม่ได้น้อยหน้า ลุกขึ้นกอดมารดาเต็มรัก แล้วหอมแก้มซ้ายขวาอยู่นานสองนาน เมื่อพอใจแล้วจึงเลื่อนเก้าอี้ข้างบิดาให้คุณนายมาศนั่งข้างสามี



“ปำกับแม่พูดเหมือนกันเลย  คิดถึงพีตอ่ะดิ ไม่มีใครให้บ่นที่บ้านแล้วเหงาใช่ไหมล่ะ”   


 
“จ้า พ่อคนเก่ง  ถ้าแม่กับป๊าไม่คิดถึงพีต แล้วจะคิดถึงใคร .......ไหนมาให้แม่หอมแก้มซักทีซิ”    ภัสดาจจึงรีบยื่นใบหน้าไปหามารดาทันที หอมกันไปหอมกันมา จนเจ้าสัวภาสที่นั่งอยู่ข้างๆ อดที่จะกระแอมเบาๆไม่ได้



“หวงล่ะซิ  ป๊าหวงแม่เหรอ นี่ลูกนะป๊า”



“เออนั่นลูก  แต่นี่เมียป๊านะโว๊ย  หอมกันอยู่ได้  เชอะ” 



“อยากให้แม่หอมอ่ะดิ  แม่ไม่หอมหรอก แก้มป๊าเหม็น  แก้มพีตหอมกว่า ใช่ไหมครับคุณนายมาศ” 



“หอมทั้งสองคนนั่นแหละ  หยุดเลยไม่ต้องมาเถียงกัน”   



“แม่รู้ได้ไงว่าแก้มป๊าหอม  แม่ยังไมได้ดมเลย ใช่ไหมป๊า”    ลูกชายคนดีหยักคิ้วหลิ่วตากับบิดาสองคนอย่างรู้ทัน นี่ซิหนาที่เขาว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลค้น ลูกล่อลูกชนแยอะแยะแพรวพราวเสียจนนางตามแทบไม่ทัน     ไม่ต้องรอให้ลูกชายต้องทวงถามซ้ำรอบสอง นางยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มสากๆของสามีที่รอท่านานอยู่สองสามฟอด  ด้านเจ้าสัวก็กลัวภรรยาจะน้อยใจ ก็เลยหอมกลับเท่าเทียมกับที่ภรรยาหอมมาเช่นกัน ภัสดามองภาพตรงหน้าอย่างชื่นชมไม่ว่าเวลาจะผ่านเลยมากี่ปี ทั้งสองคนก็ยังรักกันไม่เปลี่ยนแปลง ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกัน ไม่เคยที่จะแยกจากกันไปไหน



“โห   ตกลงมาฮันนี่มูนกันใช่ไหมเนี่ย แล้วเรียกพีตมาดูทำไมครับ”       ลูกชายเอ่ยปากแซวถึงความหวานไม่ซ่างซาของบิดาและมารดา



“แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยเจ้าพีต  บอกมาว่าเดือนสองเดือนที่หายไป แกไปทำอะไรมา”     



เจ้าสัวภาสหรี่ตาจับผิดลูกชายตัวเองอย่างเต็มที่  เดือนทีผ่านมานี้แทบจะไม่ได้เห็นหน้าเพราะลูกชายตัวดีบอกว่ายุ่งอยู่กับงานแล้วขี้เกียจขับรถกลับบ้าน ข้ออ้างข้อนี้ไสไม่ขึ้นเพราะหากเป็นเมื่อก่อนไม่ว่างานจะยุ่งหรือจะหนักแค่ไหนลูกชายจะกลับบ้านมานอนเกือบจะทุกวัน ซื้อคอนโดไว้ตอนที่เมาแล้วขับกลับไม่ไหว



“ก็ทำงานซิครับ ทำงานจริงๆ ไม่เชื่อป๊าก็โทรไปถามพวกไอ้ตั้ม ไอ้ดล ไอ้แป๊ะ ก็ได้”   



เจ้าสัวภาสรู้จักกับลูกน้องคนสนิทของภัสดาเป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่จะบอกให้โทรไปถามหาข้อมูลจากพวกมัน แต่ก็คงจะล้มเหลวแน่นอน เพราะภัสดากำชับไว้อย่างแน่นหนาแล้วว่า ห้ามบอกเรื่องที่ศิขรินทร์ไปมาหาสู่ภัสดากับเจ้าสัวเป็นอันขาด ใครขัดคำสั่งขัดส้วมหนึ่งปีหักเงินเดือนหกเดือน



“เข้าข้างลูกพี่มันอย่างนั้น ถามไปคงได้เรื่อง ป๊าก็ไม่ได้ว่าที่แกไม่ได้เข้าบ้าน แต่ก็.................สงสารคนแก่แถวๆนี้หน่อย เขาอยากเห็นหน้าลูกชายทุกคน”     เจ้าสัวภาสกล่าวพาดพิงไปถึงภรรยาที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ



“หรือคุณไม่คิดถึงลูก  เห็นบ่นหาทุกวัน พอพีตมันมาก็บ่นหาว่าขี้เกียจอยู่แต่บ้าน แต่ลูกไม่อยู่ก็บ่นว่าเอาแต่ทำงานแล้วลืมพ่อลืมแม่”ฃ



“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และเสียนาฬิกาจนเกินไป ทานข้าวเถอะครับ  เดี๋ยวป๊ากับแม่ค่อยไปจีบกันที่บ้านต่อ” 



แล้วทั้งสามคนก็ลงมือทานกันอย่างเอร็ดอร่อย เมนูแล้วเมนูเล่าถูกนำมาเสิร์ฟถึงโต๊ะด้วยมือของกุ๊กเอง อีกทั้งยังมีผู้จัดการสาขาที่คอยยืนรับคำสั่งอยู่ข้างๆ ทำเอาแขกในร้านสงสัยไม่น้อยว่า ทำไมโต๊ะของภัสดานั้นถึงมีกุ๊กมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง เมื่อผู้จัดการสาขาชี้แจงกับแขกไปว่าบุคคลทั้งสามเป็นใครก็ตกใจแกมดีใจที่นานๆครั้งจะได้เห็นครอบครัวพิชัยภักดีที่ร่ำรวยติดอันดับของประเทศอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา




หลังทานอาหารเสร็จ ภัสดาก็เรียกผู้จัดการสาขามาตักเตือนเล็กน้อยแต่ไม่ไล่ออกเพราะยังถือว่าผิดไม่มาก แล้วหลังจากนั้นศิขรินทร์ก็โทรมาถามตลอดแวลาว่าอยู่ไหน ทำอะไร  เมื่อไร เยอะแยะมากมายจนร่างบางต้องบอกว่าจะโทรไปสรุปครั้งเดียว นั่นแหละเสียงโทรศัพท์ถึงได้หายไป



เมื่อกลับมาถึงบ้าน คนแรกที่วิ่งมากอดแข้งกอดขาเขาก็คือไอ้มะขาม หรือไอ้ขามของคนในบ้านนี้นั่นเอง ไอ้ขามมันมีรูปร่างเตี้ย ผิวคล้ำค่อนข้างไปทางดำเพราะมันเป็นลูกน้ำเค็ม อัธยาศัยดี รักเจ้านาย จึงไม่แปลกอะไรที่เวลาภัสดาไปไหนก็มักจะซื้อของมาฝากไอ้ขามอยู่เป็นประจำ



“ลูกพี่คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”    เสียงมาก่อนตัว นี่แหละเอกลักษณ์ที่คนอื่นไม่อยากจะเลียนแบบมันเท่าไร



“ศะ ศิษย์  พะ  พี่  ชาตินี้คิดว่าจะไม่ได้พบเจ้าหน้า ศะ  ศิษย์  พะ พี่  แล้ว ฮืออออ”    เรื่องแอคติ้งโอเวอร์มันก็ไม่เป็นสองรองใคร



“ศิษย์น้องไสหัวแถกตูด ไปไกลๆตีนศิษย์พี่เถอะ ก่อนที่ตีนศิษย์พี่จะลั่น”    ไม่ต้องพูดซ้ให้เสียเวลา เพราะทันทีที่ภัสดาเอ่ยจบ มะขามก็กระโดดหนีภัสดาให้พ้นรัศมีฝ่าเท้าของภัสดาทันที


“แหะๆ  กลับมาคราวนี้ก็ยังโหดเหมือนเดิมเลยนะพี่ใหญ่”   



“กูก็โหดกับมึงคนเดียวนั่นแหละไอ้น้องเล็ก  เอ๊า!  หูฉลามน้ำแดง เป็ดปากกิ่ง ปลานิ่งบ๊วย ต้มยำกุ้ง  เอาไปแบ่งกันกินนะ”   ภัสดายื่นกล่องโฟมบรรจุอาหารให้ลูกน้องคนสนิทแล้วเดินเพลียๆขึ้นห้องไปทันที  บิดามารดานั้นล่วงหน้าเข้าห้องไปนานแล้ว เพราะจากภัตคานมาถึงบ้านนั้นไกลพอสมควร  ผู้สูงวัยจึงแยกไปพักผ่อนก่อน







ร่างบางก้าวเข้าห้องนอนตัวเองอย่างโหวงๆ บรรยากาศก็เหมือนเดิมแต่ทำไมถึงรู้สึกว่าเหงายิ่งขึ้นกว่าเดิม  หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้ซึมซับใครบางคนเข้ามาในหัวใจอย่างเต็มที่แล้ว  ภัสดาเดินไปล้มตัวลงนอนเพื่อพักสายตา หากเป็นที่คอนโดห้องของศิขรินทร์ป่านนี้เขาคงกำลังได้รับการเอาใจอย่างไม่ขาดสายแน่ๆ  เหลือบมองนาฬิกาแขวนที่ผนัง ทำไมเข็มวินาทีมันช่างเดินช้าอย่างนี้นะ ทำไมเวลาตอนอยู่กับศิขรินทร์เวลาทุกวินาทึถึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ร่างบางถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกายให้อารมณ์ผ่องใส   ร่างบางนอนตะแคงกอดหมอนใบใหญ่แน่น หลับตาลงทีไรภาพของไอ้ป๋องหน้าหื่นก็ล่องลอยอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะเอาสเปรย์ฆ่าแมลงฉีดไล่มันเท่าไร ก็ไม่หายไปอยู่ดี ขีดจำกัดความอดทนก็หมดลง!!!!



“ป๋อง มารับหน่อย หนอนไม่หลับ”






.
.
.
.
.




๐ อย่าว่าแต่พีต เลย คนเขียนก็นอนไม่หลับ
๐ ตื่นเต้น พรุ่งนี้จะได้เปิดเทอมแล้ว ปิดไป 3 วันเอ๊งง T^T
๐ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะ ฮ่าๆ






รักและขอบคุณ
By Chocolate Love ~






*********************************

รถพระเอก  >>The Koenigsegg CCX 

 

e_new

  • บุคคลทั่วไป
รถสวยมากๆๆ~~!!
อย่าว่าแต่คนเขียนเลย
คนอ่านก็นอนไม่หลับ - -
ทั้งๆที่พรุ่งนี้ทำงาน เหอๆ  +1 จ่ะ
-------------------
คำผิดส่ง PM ให้น่ะ
ได้รับแล้วบอกด้วยน่ะจ่ะ
-----------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2011 19:51:13 โดย e_new »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
รถสวยมากๆๆ~~!!
อย่าว่าแต่คนเขียนเลย
คนอ่านก็นอนไม่หลับ - -
ทั้งๆที่พรุ่งนี้ทำงาน เหอๆ  +1 จ่ะ


+1 ตอบแทนเช่นกานนนนนนนนนนนนนน ไปนอนนะคะจะได้ตื่นไปทำงานได้ไง ฝันดีค่ะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
อ๊ากกกกกกกกก ว่าแล้วเชียวว่าคนที่นอนไม่หลับต้องเปนพีตแน่ๆ คิคิคิ

สนุกมากๆเลยค่ะ ชอบบมากกกกกกก เป็นกำลังใจให้ต่อไป สู้ๆๆ

เปิดเทอมแล้วก้อย่าหายหน้าหายตาไปน๊า ฮ่าๆๆ

รอ รอ รออตอนต่อไปค๊า ^^

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
นายเอกช่างฟิตของเราเวลาอ้อนพระเอกเนี่ยน่ารักมากๆๆๆๆ เลยน้า จะให้หลงไปถึงไหนกันจ๊า  :o8:

หุหุหุ มีตามป๋องให้มารับด้วย คนนี้ก็คงไปไหนไม่รอดเหมือนกัน  :o8:

ออฟไลน์ cho_co_late

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หวานนนนนนน  :o8: หวานมดขึ้นจอแล้ว
ป๊ากับแม่พีตก็หวาน แต่หวานไม่เท่าคู่ลูก
ตอนจบตัดได้ทำร้ายคนอ่านมากค่ะ  :z3:
แต่ก็จะรอต่อไป  o17
สู้ๆนะคะคนแต่ง ม๊วฟฟฟ :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ว้ายยยยยยย  :laugh: ให้พระเอกมารับ จะมีอะไรให้ลุ้นมั้ย  :z1:

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
เปนเอามากทั้งคู่ :L1:

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
ป๋องปาดมาให้อย่างว่อง :man1:

ช่างฟิตคนนี้จะขาดใจแว้ว :m20:


ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
อั้ยยะ  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ศิคงรีบมารับอย่างไวเลยสินั้น  o13

ออฟไลน์ wisky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-18
เดี๋ยวนี้พีตกลายเป็นคนติดหมอนข้าง(ส่วนตัว)ซะแล้วน่ารักมากมายอ่ะคู่นี้>w<

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
ห้องมันกว้าง เตียงไม่นุ่ม หมอนมันแข็ง เลยนอนไม่หลับล่ะสิ ภัสดา
งั้นกลับไปนอนกับคนตัวโตๆ กอดกันๆ ดีกว่าเนอะ :t3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2011 08:14:15 โดย myapril »

chantana

  • บุคคลทั่วไป
+1  ให้จ้า

น่ารักท้ังคู่เลย  ติดหมอนข้าง (มีชิวิต) ทั้งคู่เลยนะ   :give2:

รอ  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zaszaq

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
แล้วก็ต้องกลับไปนอนที่เดิม  :m20: :m20:

สนุกมากค่ะ  o13

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
  :o8: :-[
อยากอ่านต่ออะ

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :impress2:กิ๊วๆๆๆๆๆ  รักเค้าแล้วแน่เลยพีตตตตตตตตตตตตตต

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
งานนี้มีเฮอ่ะ...ผู้ชายมารับกลางดึก
ข่าวจะรั่วก็เพราะอย่างนี้แหละ แต่เจ้าสัวกับคุณนายก็ดีนะ เพราะถ้าจะสืบจริง ๆ คงไม่มีอะไรเล็ดรอดสายตาหรอก
หวานกันจริงหวานกันจัง อยากให้ทั้งสองครอบครัวเข้าใจและไฟเขียวให้เร็ว ๆ จังเลย

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
ป๋องมารับหน่อย เค้าก้อนอนไม่หลับ   :o8: :-[ :m20: :laugh:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

kdragon

  • บุคคลทั่วไป
อั๊ยย๊ะ!!!! ถ้าจะหวานขนาดนี้  :o8: :-[

เดี๋ยวป๋องหื่นคงรีบตาลีตาเหลือกมารับตามบัญชาเเหง่ๆ  :laugh:

อยากอ่านต่อแล้ววววว มาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ว้าวๆๆ พูดแบบนี้คุณศิมิรีบบึ่งรถลืมตายมาหาเลยเหรอคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด