| สะใภ้เถื่อน ™|By Chocolate Love ~ ตอนพิเศษ P.145 นิรันดร์ (05/05/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: | สะใภ้เถื่อน ™|By Chocolate Love ~ ตอนพิเศษ P.145 นิรันดร์ (05/05/59)  (อ่าน 1804877 ครั้ง)

ออฟไลน์ มะมะมะหมิว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เขามาเต้นรอค่าาา,,,,  :z2: :z2:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
พีทหายไข้เร็วๆนะคะ
เห้นไหมไม่เชื่อที่หลักเขตเตือนเป็นไข้เลย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ ขนมสัมปันนี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
หนูพีท อายุเท่าไหร่แล้ว

ยังกลัวเข็มอยู่อีก

รักทุกฤดู

  • บุคคลทั่วไป
รอ ฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด........ o18 o18

ออฟไลน์ ขนมสัมปันนี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ Non_stop

  • Until we meet again
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ขนมสัมปันนี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
เข้ามารอทุกวัน :L3: หายไปเลยไม่สบายหรือปล่าวแฟนๆเป็นห่วงนะ :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รออยู่น้าาาาา
สนุกมากๆๆๆๆเลย
ชอบพีต กับศิ จังเลย
น่ารักทั้งคู่

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ ขนมสัมปันนี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
เข้ามารอทุกวันจะครั่งอยู่ :a5:แล้ว

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
หายไปเลยเป็นไรรึเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ Oilsaoo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
เจ้าหญิงกับเจ้าชายยย
น่ารักกันจริงๆ

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

รักทุกฤดู

  • บุคคลทั่วไป
หายใจเข้า ก็เฮ้อออออ เธอออ   :sad4:หายใจออกก็ เฮ้อออ  เธออออ :sad4:

เมื่อไหร่จะมาซักทีนะ  รอๆๆๆๆ  ฉันรอเธออยู่ :call: :call:

ออฟไลน์ ขนมสัมปันนี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ทำมัยพี่ถึงทำกับผมอย่างนี้ :o12:ได้โปรดมาต่อซะทีเถอะ :dont2: :dont2: :dont2:จะคลั่งอยู่แล้วววววววววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






autumnale

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่พีทมากๆค่ะ รอๆๆ

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
กรี๊ดดด  ศิจ๋า  จะน่าร๊าไปหน๊ายยย  :กอด1:  มีแฟนแบบเน้รักตายเลย
เย้ย  ตั้งแต่ปีใหม่แล้วหรอเนี่ย  ทามายนู๋ไม่เหง  :o12:
อ่า  ยังไงก็รอตอนต่อไปอยู่นะคะ  :bye2:

Pr_promise

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่านแล้วชอบมากเลยค่ะ  ขอเป็นFC พี่พีตกับพี่ศิ นะคะ 

 :L2: :L2: :L2: :L2:

มาต่อเร็วๆๆน้าค้าาาาา

choco_cake

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ขนมสัมปันนี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
มีหนึ่งเม้นบอกว่า คนแต่งบรรยายภัสดาเป็น "ผู้หญิง" เกินไป

นักอ่านท่านอื่นๆมีความเห็นว่าอย่างไร

แต่สำหรับคนเขียน ก็คิดมากไปแล้ว มันติดอยู่ในใจตลอด   :a5:

ทำอย่างไรก็ไม่หาย เฮ้ออออออ 

** กำลังปั่นอยู่ค่ะ งานเยอะ เลยไม่ได้เข้ามา ขอโทษจริงๆ  :o12: :o12:

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084




บทที่  28 ปะถะ.... ครั้งแรก




เสียงโลหะกระทบกันดังกังวานอื้ออึงไปทั่วบริเวณลานซ่อมรถในอู่ใหญ่ Body car ที่มีภัสดา พิชัยภักดีเป็นผู้กุมบังเหียนใหญ่ ช่างฟิตแต่ละฝ่ายก้มหน้าทำงานในส่วนของตัวเองอย่างขะมักเขม้นไม่ต่างไปจากเจ้าของอู่ที่กำลังสนใจเครื่องยนต์เจ้าปัญหาที่วางอยู่ด้านหน้า ดวงตาเรียวสวยเพ่งมองอะไหล่ทุกชิ้นที่วางอยู่ด้านหน้าอย่างพิจารณา มือบางจับโน่น จับนี่ไปมาเพื่อตรวจเช็คหาความผิดปกติของมัน หน้าผากมนสวยมีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นมาประปราย จนบางครั้งเจ้าของเรือนกายสุงโปร่งต้องยกมือขึ้นมาเช็ดหยาดเหงื่อที่ไหลมาหลวมกันอยู่บริเวณหนังตาบาง ส่งผลให้ดวงหน้าสวยหวานเปราะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำมันที่ติดกับฝ่ามือ แต่เจ้าตัวก็หาได้สนใจไม่ ยังคงก้มหน้าทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนกระทั่งมีเสียงคนเรียกว่า ‘เฮีย’ ดังแว่วๆเข้ามา ภัสดาก็หยุดชะงักและหันกลับไปมองทันที



“เฮียยยย!”     ตั้ม ช่างฟิตที่ชำนาญด้านเครื่องรถจักรยานยนต์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาอย่างเร่งรีบ ภัสดามองดูลูกน้องตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมาด้วยความอ่อนอกอ่อน สำหรับคนอื่นชายหนุ่มไม่รู้ว่าคิดอย่างไร แต่สำหรับตนเองนั้น ไอ้ลูกหมาเหล่านี้มันก็ปัญญาอ่อนอย่างคงเส้นคงวา อย่างไม่ขาดตกบกพร่องจริงๆ



“ถ้าธุระไม่สำคัญ  กูจะสั่งตัดเงินมึงสองงวด”   สิ้นเสียงกังวานใสของบุคคลที่ตั้มเคารพรัก ทำเอาความเหนื่อยที่วิ่งมากจากสำนักงานใหญ่ด้านบน พัดปลิวออกไปจากร่างกายอย่างรวดเร็ว อะไรก็ไม่ปวดใจเท่ากับการที่ลูกพี่ใหญ่อย่างภัสดาตัดเงินเดือน



“สำคัญแน่นอน ผมเอาหัวเป็นประกัน”     ภัสดาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันไปจับผ้าเช็ดมือที่วางอยู่ใกล้ๆมาเช็ดทำความสะอาดฝ่ามือและลำแขนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันเครื่อง สายตาเหลือบไปเห็นเงาสะท้อนใบหน้าของตัวเองที่เปื้อนไม่ต่างไปจากมือและแขนเท่าไร แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจที่จะทำความสะอาดแต่อย่างใด เพราะหน้าที่เช็ดคราบน้ำมันเครื่องบนใบหน้าของเขานั้นมันเป็นของศิขรินทร์ อินทราทิพย์ไปเสียแล้ว



“ว่ามา” 



“เมื่อกี้คุณนายจันทร์ โทรมาบอกให้เฮียเข้าไปหาที่ร้านเพชรครับ”    สิ้นเสียงของลูกน้องคนสนิททำเอาอารมณ์ในการซ่อมของร่างบางหมดลงทันที  คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์  เรื่องมันใหญ่จริงๆ



“โทรมานานหรือยัง”     ตั้มไม่ตอบ แต่ยกโทรศัพท์ที่ถือติดมือมาจากสำนักงานด้านบนส่งให้ผู้เป็นนาย แล้วรีบวิ่งหลบฝ่าเท้าของภัสดาที่กำลังจะยกขึ้นมาทาบทับสะโพกของเขาด้วยความเอ็นดู?



“ครับคุณนายจันทร์”   น้ำเสียงแววหวานถูกกลอกลงไปทักทายผู้เป็นมารดาอย่างรักใคร่แกมหยอกล้อ และเมื่อได้ยินปลายสายส่งเสียงแว๊ดกลับมาริมฝีปากเรียวสวยก็เหยียดยิ้มออกมาอย่างาพออกพอใจที่ได้ยียวนมารดาของตนเอง ท่อนขาเรียวสวยก้าวเดินไปหยุดนั่งบริเวณม้าหินอ่อนที่ตั้งอยู่ข้างๆ



“เจ้าพีต ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะ อย่างที่ตั้มมันบอก เข้ามาหาแม่ที่ร้านเพชร เดี๋ยวนี้ เวลานี้ โอเค๊!”   ดวงตาสีสวยกลอกไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจในความเอาแต่ใจของมารดา ลองคุณนายออกปากประสงค์สิ่งใดแล้ว สิ่งนั้นต้องเป็นไปตามอย่างที่ใจหมาย โดยไม่สนว่าลูกและผัวจะลำบากใจมากเพียงไหน
“ไม่โอเคครับ  พีตทำงานอยู่นะแม่”     



“แม่รู้ แต่แม่ไม่สน แม่อยากเห็นหน้าลูกชายหัวเพชรหัวแหวนของแม่เดี๋ยวนี้”   



“แม่คร้าบบบบบบบบบบบบ!  งั้นเอางี้...บอกธุระของแม่มาก่อน ถ้าสำคัญพีตจะเข้าไปหา”    มือบางยกขึ้นกุมขมับตัวเองอย่างคิดหนัก จริงอยู่ว่าห้างสรรพสินค้าที่ร้านเพชรของคุณนายจันทร์ตั้งอยู่นั้นคือธุระกิจในเครือของบ้าน พิชัยภักดี เหมือนกัน แต่มันคงจะไม่งามนักที่ผู้บริหารใหญ่อย่างภัสดาจะใส่ชุดช่างฟิตบุกห้างกลางวันแสกๆอย่างนี้



“สำคัญซิ  แม่อยากให้แกมาช่วยเลือกสร้อยให้แม่หน่อย แม่ไม่รู้ว่าจะใส่เส้นไหนออกงานดี มันเยอะไปหมด เป็นไงล่ะธุระของแม่สำคัญใช่ไหม”



“แม่!!!!!!!!”     ถ้าทำได้ ภัสดาอยากจะออกไปตะโกนคำว่า “โว้ย” กลางถนนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย มีอย่างที่ไหนโทรมาสั่งให้เขาเลิกงานไปช่วยเลือกสร้อยเพชรที่จะใส่ออกไปงาน ก็มีแต่คนนี้คนเดียวเท่านั้นที่ภัสดา ต่อกรค่อนข้างลำบาก เพราะวิทยายุทธ์มันเท่าเทียมกันนั่นเอง



“อะไรเจ้าพีต ตะโกนทำไม รีบมาเร็วๆเข้า เดี๋ยวจะไม่ทัน”   



“คุณนายจันทร์ที่เคารพรักครับ  ณ เวลานี้คือเวลาที่คุณลูกอย่างกระผมทำงาน เพราะฉะนั้นกระผมจะไม่ทิ้งงานไปเลือกสร้อยให้คุณนายเป็นอันขาด!”



“ทำไมแกถึงใจร้ายต่อผู้สูงอายุอย่างนี้”    ถ้าหากโทรศัพท์สามารถเห็นหน้าของผู้สนทนาได้ ป่านนี้คุณหญิงจันทมาสคงได้เห็นใบหน้าสวยหวานบุตรชายบูดบึ้งไปมาเพราะตามอารมณ์ผู้สูงอายุไม่ทัน



“โอเคแม่ๆ โอเค...งานเริ่มกี่โมง” 



“ก็ประมาณสองทุ่มกว่าๆ ...ทำไมเหรอ หรือว่าพีตจะไปกับแม่ โอ้ววววว” 



“ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด เดี๋ยวเลิกงานเสร็จพีตจะเข้าไป แต่ถ้าแม่รอไม่ไหว ก็กลับบ้านไปแต่งตัวได้เลยนะ”



“ไหวซี! แม่จะอยู่รอแกที่ร้านแล้วกัน รีบๆมา คนสวยแถมรวยมากรออยู่ โฮะๆ”    สิ้นเสียงหัวเราะบาดอกบาดใจ สัญญาณการสื่อสารก็ตัดไป  ทิ้งไว้ให้คนปลายสายอย่างภัสดาต้องนั่งกุมขมับแต่เพียงผู้เดียว



“แม่นะแม่!”   


.
.
.



“ว่าไงคนเก่ง วันนี้เหนื่อยไหม”   น้ำเสียงทุ้มกังวานอันเป็นเอกลักษณ์ของศิขรินทร์ดังขึ้นเหนือศีรษะของภัสดาที่กำลังก้มหน้าคัดเลือกอะไหล่อย่างตั้งอกตั้งใจ   ใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นมองนาฬิกาเรือใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังห้องทันที



‘17.30’      เลยเวลาเลิกงานสากลมาแล้ว 30 นาที กฎระเบียบของอู่นี้ยังคงเคร่งครัดอยู่เหมือนเดิม นั่นก็คือ เวลา 16.00 พนักงานทุกคนจะต้องทยอยออกไป ที่เขียนกฎระเบียบอย่างนี้ไม่ใช่เพราะไล่ แต่เป็นเพราะต้องการให้พนักงานทุกคนได้กลับไปพักผ่อนนอนหลับ แล้วเอาแรงมาต่อสู้กับงานในวันต่อๆไป ไม่มีโอที เพราะโบนัสของแต่ละคนก็มากเกินพออยู่แล้ว คงจะมีแต่อู่นี้อู่เดียวที่จ่ายเงินเดือนลูกน้องเกือบครึ่งแสน



“มากกกกกกกกก”      เหนื่อยทั้งกายเพราะรถที่ตนซ่อมนั้นมันพังแทบจะทั้งคนเหนื่อยใจเพราะคุณหญิงจันทร์โทรมากดดันทุกๆยี่สิบนาทีและพูดประโยคเดิมๆว่า



‘มาช่วยแม่เลือกสร้อยด้วยนะพีต’   คนสวยเซ็ง ( ยอมรับความจริงไปแล้ว) เพราะแฟนตอกย้ำอยู่ทุกวี่ทุกวันว่าหน้าตาอย่างนี้ไปประกวดนางสาวไทยได้เลย



“งั้นเดี๋ยวจะทำให้นายเหนื่อยนะครับ”    ศิขรินทร์จรดริมฝีปากหยักลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของภัสดาอย่างรักใคร่และปลอบโยน เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆต้อนรับเรียวปากร้อนชื้นของร่างสูงที่ค่อยจูบผะแผ่วไล่ลงมา ภัสดาเหยียดริมฝีปากยิ้มกว้างเมื่อสัมผัสได้ว่าริมฝีปากสีสวยของศิขรินทร์ไปหยุดจูบอยู่ตรงบริเวณใบหู



“มันจั๊กจี้ หยุดเลยไอ้ศิ”   เปิดปากเอ่ยวาจาห้ามปรามแต่ลำแขนขาวกกลับตวัดลัดลำคอของคนรักไว้แน่น  จนสุดท้ายศิขรินทร์ก็ตัดสินใจตวัดร่างบางเข้ามาแนบอกแล้วอุ้มไปนั่งยังโต๊ะม้าหินอ่อนด้านข้าง โดยไม่สนใจว่าคราบน้ำมันเครื่องจากชุดของช่างฟิตจะติดเสื้อสูทราคาแพงของตนเอง



ลานซ่อมรถเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วยังเสียงดังครึกโครมเนื่องจากกิจกรรมต่างๆของคนในอู่ แต่บัดนี้กลับเงียบเชียบไร้วี่แววของความวุ่นวาย คงเหลือไว้แต่เพียงกลิ่นไอของความคิดถึงที่คนสองคนกำลังแสดงออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ความรู้สึกซึ่งกันและกัน  กลางลานมีโคมไฟใหญ่ที่ห้อยมาจากด้านบนส่องแสงสว่างไสวไปทั่วบริเวณ  วันทั้งวันต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานที่ตัวเองรัก  และเวลานี้คือเวลาที่จะต้องเติมเต็มพลังให้กับตัวเองเสียบ้าง




“เดี๋ยวชุดเปื้อน”   



“ไม่เป็นไรครับ ....เปื้อนก็ซักได้”    ไอ้คำว่าซักได้ในความหมายของศิขรินทร์นั่นก็คือซื้อใหม่ ตัดใหม่นั่นเอง   ภัสดานอนนิ่งเมื่ออีกฝ่ายค่อยใช้ผ้าเช็ดหน้ากลิ่นหอมเช็ดคราบน้ำมันที่เปรอะเปื้อนไปตามจุดต่างๆบนใบหน้า ก็บอกแล้วไงว่าหน้าที่เช็ดหน้าให้นายช่างใหญ่น่ะมันของไอ้ศิแต่เพียงผู้เดียว



“ง่วง.........”   อ้อมกอดอบอุ่นที่โอบกอดกายบางเอาไว้นั้นให้ความรู้สึกปลอดภัยและน่าพักพิงยิ่งนัก  ภัสดาเผยตัวตนด้านที่เปราะบางของตนเองต่อศิขรินทร์ทันที ยามเมื่อทำงานเจ้าตัวจะต้องเป็นผู้นำให้กับลูกน้อง เป็นประธานใหญ่ที่กุมอำนาจและทรัพย์สินมหาศาล แต่เมื่ออยู่กับศิขรินทร์แล้วภัสดากลับกลายเป็นผู้ตามที่บางครั้งก็ต้องการการปกป้อ ดูแลเอาใจใส่และทะนุถนอมเช่นกัน



“กลับไปนอนที่ห้องนะครับ”   



“เดี๋ยวแวะไปที่ห้างก่อน คุณนายจันทร์จะให้ไปช่วยเลือกเพชร”    ภัสดาค่อยๆผละออกมาจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น ทั้งที่ใจจริงอยากทิ้งตัวลงนอนแล้วให้คนตัวใหญ่อุ้มกลับไปนอนที่ห้อง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะทำอย่างที่ใจหมายไม่ได้เสียแล้ว   



“จะไหวเหรอพีต ดูคุณเพลียมากเลยนะ”   ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆปัดไรผมที่ตกลงมาบดบังหน้าผากมนสวยให้อย่างทะนุถนอม และไม่ลืมที่จะวางทาบทับเพื่อวัดหาอาการไข้ของอีกฝ่าย 



“ไหวซี เดี๋ยวมึงไปรอที่ห้องเลยนะ ช่วยคุณนายเลือกสร้อยเสร็จ จะรีบกลับ”     



“อย่าบอกนะว่าจะขับรถไปเอง”   



“ก็ใช่   กูขับรถไปเองก็ได้”



“ไม่ตกลงครับ ถ้าพีตจะไปห้างเดี๋ยวผมจะขับไปส่ง ถ้าไม่เอาตามนี้ก็ไม่ต้องไปครับ”  นับวันดีกรีเผด็จการของมันยิ่งทวีคูณติดลบไปเรื่อยๆ  แต่ภัสดาผู้นี้ก็หาได้ยอมแพ้ไม่ ในเมื่อมันเผด็จการมา  เขาก็เอาแต่ใจและบวกความดื้อเข้าไปอีกสิบเท่า เอาให้มันสูสีกันไปเลย



“ไรวะ ไอ้เราก็อุตส่าห์เป็นห่วงกลัวว่าจะขับรถย้อนกลับไปกลับมา แต่กลับได้ความเผด็จการตอบแทนกลับมาซะงั้น”   



“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง แต่ผมน่ะห่วงคุณมากกว่า เหนื่อยๆเพลียๆอย่างนี้ ขืนปล่อยให้ไปขับรถ มีหวังขับลงข้างทางพอดี”



“ดูถูก!!! นี่ใคร นี่นักแข่งรถนะ มือหนึ่งครับมือหนึ่ง”



“แล้วไม่เคยได้ยินข่าวเหรอครับว่า มือหนึ่งขับลงคลองเพราะความประมาท”   สงสัยปล่อยให้มันไปอยู่กับไอ้หลักเขตมากเกินไป เลยได้วิทยายุทธ์ด้านเถียงมาแบบสิบเต็มสิบ  ต่อไปนี้สงสัยต้องปรามๆมันไว้เสียแล้ว ไม่รู้ว่าตอนพวกมันออกไปตีกอล์ฟกัน ไอ้เวรพี่เขตมันเอาอะไรใส่หัวสมองของไอ้เผือกเน่าบ้าง



“ไม่เคยได้ยิน  มึงมั่วแล้ว เผือกเน่าเอ๊ย”   สำหรับความรู้สึกต่อคำว่า ‘เผือกเน่า’ มันช่างน่ารัก น่าเอ็นดูเสียจริงๆ และต้องเป็นคนๆเดียงเท่านั้นที่สามารถพูดคำนี้ได้ เพราะถ้าไม่ใช่ ภัสดา พิชัยภักดี สาบานได้ ถ้าใครมาเรียกอย่างนี้ต่อหน้าต่อตา คงได้มีฟาดฟันฝีไม้ลายมือกันบ้าง



“มั่วไม่มั่วก็เอาตามที่บอกนะครับ....เก็บของเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”   ร่างโปร่งบางที่อยู่ในอ้อมกอดพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย  ศิขรินทร์มองการกระทำของคนรักด้วยสายตาที่รักใคร่ นับวันนายช่างผู้ยิ่งใหญ่ประจำอู่แห่งนี้ยิ่งทำตัวน่ารัก น่าฟัดมากขึ้นไปทุกที จะกล่าวหาว่าอินทรีเงินผูเกรียงไกรอย่างศิขรินทร์ติดแฟนก็ได้  เขายินดีน้อมรับคำกล่าวหาทุกประการ



“จะเดินเอง หรือว่าจะให้อุ้มไปครับ”   



“คิดเอาเองเด้!”     ความหวังที่จะเห็นนายช่างใหญ่เอ่ยวาจาอ่อนหวานมันดูเลือนรางลงไปทุกที แต่ศิขรินทร์ก็ไม่ได้เดือดร้อนที่จะฟังมากนัก เพราะที่คนสวยเป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีมากเกินพออยู่แล้ว



“งั้นอุ้มนะครับ”  สิ้นเสียงของร่างสูง  ลำแขนแข็งแรงก็ตวัดโปร่งบางขึ้นมาแนบอกด้วยท่าทางที่มั่นคง ดวงตาคมเข้มจ้องมองใบหน้าเนียนใสด้วยแววตาที่หลงใหล ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ความรักความห่วงใยต่อคนๆนี้ก็มิได้ลดน้อยลงไปเลย



ร่างสูงค่อยๆวางร่างโปร่งบางของคนรักลงบนเบาะข้างคนขับอย่างทะนุถนอม ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติไม่มีการขัดเขิน ถ้าหากจะเขินก็คงเป็นคนที่โดนอุ้มที่ไม่จะอย่างไรก็ไม่เคยที่จะหยุดอายสายตาและการกระทำของอินทรีเงินได้เลย



“หนักไหม?”     ศิขรินทร์ก้มหน้ามองคนรักด้วยสายตาหยอกล้อ ทำไมจะไมรู้ว่าที่ภัสดาถามน่ะมันหมายถึงเรื่องอะไร




“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า คุณไม่อ้วนหรอก ผมอุ้มคุณได้สบายๆอยู่แล้ว”    ช่วงนี้ช่างฟิตผู้ยิ่งใหญ่อารมณ์ขึ้นๆลงเพราะกังวลกับเรื่องของน้ำหนักตัว เพราะฉะนั้นช่วงนี้ตู้เย็นในห้องของเขาจึงเต็มไปด้วยผักและผลไม้นานาชนิด ช่วงแรกๆ คนสวยก็ปฏิบัติทำตามกฎของตัวเองอย่างเคร่งครัด ไม่กินของมัน ไม่กินน้ำตาล  และมักจะทำสลัดผักและซื้อส้มตำชนิดต่างๆมาเป็นอาหารมื้อเย็น แต่ทำไปได้สองอาทิตย์สลัดผักและส้มตำก็หายไป เปลี่ยนมาเป็นเกาเหลาแทน ศิขรินทร์อยากจะบอกที่รักเขาเหลือเกินว่า ถ้าหุ่นบางๆอย่างภัสดาอ้วน แล้วอย่างเขาล่ะเรียกว่าอะไร แต่ก็ไม่อยากแย้ง ขืนแย้งหรือออกความคิดเห็นออกไป เรื่องคงยาวกว่าเดิม



“หรือว่าจะซื้อกาแฟกินดีว่ะ”   ร่างบางบ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบา แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นหูทิพย์ระดับตำนายอย่างศิขรินทร์ไปได้



“อย่าเชียวนะพีต  ถ้าคุณทำคงรู้นะว่าจะโดนอะไร”     กาแฟลดน้ำหนักตามรายการโทรทัศน์กำลังคุกคามความคิดของภัสดา และมันก็ไม่ใช่เรื่องเลยซักนิด กาแฟดื่มมากๆไม่ดีต่อสุขภาพ ยิ่งเป็นกาแฟลดน้ำหนักแล้วใหญ่ ไม่รู้ว่าในนั้นจะผสมอะไรลงไปบ้าง



“แล้วจะโดนอะไรล่ะ”   คนร่างบางเอ่ยเสียงกระฟัดกระเฟียดอย่างไม่พอใจ ภัสดานั่งหน้างอกอดอกตัวเองแน่น แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของศิขรินทร์อยู่ดี



“ก็จะเป็นเมียผมเร็วกว่าเดิมไงครับ”



“ไอ้ศิ!!!! มึงหุบปากไปเลย”    นั่นไงล่ะ พอพูดความจริงแล้วทำเป็นรับไม่ได้ แล้วเมื่อกี้ใครถามว่าจะโดนอะไร พอตอบออกไปกลับมาขึ้นเสียงใส่เสียอย่างนั้น คนหล่อเซ็ง



“ก็ผมพูดความจริง คุณจะโวยวายทำไม”     ศิขรินทร์เอ่ยวาจาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแกมหยอกล้อคนด้านข้างที่หน้างอสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่หน้าจนแดงเถือก



“ก็.....................โว๊ยยยยยยยยยยยย!!!!”



“คุณจะลองก็ได้นะ ผมพร้อมทุกเมื่อ” 



ผลั๊วะ!!!!!!!     โดนเต็มๆ โดนไปที่แขนเต็มๆ หมัดล้วนๆ ที่คนมักจะบอกว่าคนสวยมักใจร้าย ศิขรินทร์ขอการันตีว่าเป็นเรื่องจริง!!



รถยนต์คันหรูของศิขรินทร์ค่อยตีวงเลี้ยวเข้าจอดยังที่จอดรถของผู้บริหารระดับสูงของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้  ร่างสูงหันไปมองผู้บริหารตัวจริงที่นอนหลับแน่นิ่งอยู่ข้างๆแล้วส่ายหน้าไปมา กิจการของครอบครัวพิชัยภักดีนั้นมีมากมายนับแทบไม่ถ้วน จึงไม่แปลกที่คนรักของเขาจะทำงานตัวเป็นเกลียวจนหาเวลาพักผ่อนแทบไม่มี  แล้วอย่างนี้ยังจะหาเวลาไปลดความอ้วนอีก เชื่อเขาเลยจริงๆ



“ถึงแล้วครับ”     ริมฝีปากหนาประทับจูบลงบนหน้าผากเนียนสวยของคนนอนหลับอย่างรักใคร่ แล้วค่อยๆลากผ่านผิวเนื้อลงมายังเปลือกตาบางที่ห่อหุ้มดวงตากลมสวยของร่างบางเอาไว้ เพียงไม่นานเจ้าหญิงที่นอนนิทราอยู่ข้างๆก็ตื่นจากฝันอันแสนหวานมาเผชิญกลับโลกของความเป็นจริง



“อื้อ.............”     ภัสดาบิดกายไปมาเพื่อขับไล่ความเหมื่อยล้า เมื่อปรับสายตาได้รับแสงตามปกติ ดวงหน้าเรียวก็ขมวดคิ้วเพราะกลิ่นน้ำมันเครื่องมันลอยเตะจมูกไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะปกติร่างบางจะต้องเปลี่ยนชุดก่อนกลับบ้านทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เพลียและง่วงเกินไป ความขี้เกียจก็เข้าครอบงำ เลยไม่ได้เอาชุดช่างฟิตที่เปรอะน้ำมันเครื่องออก



“ไหวไหมนั่น?”      ร่างสูงยื่นความน้ำเปล่าทีเปิดฝาแล้วให้กับคนรัก  ภัสดารับไปดื่มอยู่อึกสองอึกแล้วก็ส่งคืน กระพริบตาอยู่ปริบสองปริบร่างกายก็ตื่นตัวพร้อมที่จะออกไปเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายที่ว่า คุณนายจันทร์เรียกว่าเพื่อให้มาเลือกสร้อยใส่ออกงาน ยิ่งคิดยิ่งปวดใจ ในความน่ารัก น่าฟัดของมารดาที่จ้องกลั่นแกล้งเขาอยู่เป็นประจำ  เดือนหนึ่งจะต้องมีคำสั่งเหนือเมฆลงมาให้เขาได้ปวดหัวเล่น



“ไหวดิ......ศิ  กลับห้องไปก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ”



“แล้วคุณจะกลับอย่างไร”    ศิขรินทร์ขมวดคิ้วตีหน้ายุ่งทันที 



“เดี๋ยวให้เลขาที่สำนักงานไปส่ง”   



“รบกวนเขาเปล่าๆ เดี๋ยวผมรอคุณก็ได้”   ใครบอกว่าศิขรินทร์เอาแต่ใจไมเป็น มาดูเสียเถอะว่าไอ้จอมเผด็จการเวลาง่องๆแง่งๆน่ะมันเป็นอย่างไร 



“ไอ้ศิ พูดให้มันรู้เรื่องหน่อย ไม่รู้ว่าจะได้กลับตอนไหน เหนื่อยเปล่าๆ กลับไปอาบน้ำรอที่ห้องเลย เถียงเหรอ!”   เอาซิ ได้เวลาที่ภัสดาจะต้องสวมหัวโขนทำตัวเข้มซักที



“....................................”     งอน ............ประธานใหญ่ ทำหน้านิ่งงอนแฟนไปแล้ว



“ไม่พอใจก็พูดออกมาเลย  ที่ให้กลับห้องไปก่อนก็เพราะเป็นห่วง  หัวสมองมันจะประมวลแต่ภาพมึงนั่งอยู่ในรถแคบๆ แล้วกูก็จะทำอะไรไม่ได้ มันพะวง มึงรู้จักไหม”    ปล่อยไปไม่มีกั๊ก เพราะตั้งแต่เรียนรู้กับคำว่าแฟน ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกันทุกวัน ทำให้ภัสดาได้รับรู้ว่า ถ้าหากทะเลาะหรือผิดใจกันแล้วไม่พูด ปัญหาจะลุกลามยิ่งขึ้นไปอีก และสุดท้ายมันจะลงท้ายกับคำว่า เลิกรา  ซึ่งเขาไม่ทางยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่นอน



“จริงหรือเปล่า”  ศิขรินทร์หันไปถามคนรักด้วยใบหน้าที่ดีใจแกมแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่คนสวยบอกความในใจได้ยาวมากมายขนาดนี้ ใครไม่ดีใจก็บ้าแล้ว!



“ไม่จริงหรอก กูโกหกมึง เรื่องเมื่อกี้กูตอแหลมึงงงงงงงงงงงงงงงง”       โอ๊ยยย!! แฟนใครว่ะน่ารักชิบหาย



“เข้าใจแล้วครับ งั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณทิ่ลิฟต์แล้วกัน”   เหนื่อยที่จะห้ามไปแล้ว ภัสดาส่ายหน้าไปมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงพยักหน้ารับอยู่ดี  ศิขรินทร์มันก็หวง ก็ห่วงไปอย่างนี้ เป็นไปตามแบบฉบับของเขานั่นแหละครับ




.
.
.
.
.
.



“ว่าไงจ้ะพ่อลูกชาย กลัวจะโผล่หน้ามาให้แม่ได้ชื่นใจ”   คุณหญิงจันทร์เอ่ยปากทักลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  ทำเอาภัสดาถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับขนาดใบหน้าของมารดาที่ยิ่งยิ้มก็ยิ่งบาน!



“ก็ไม่ว่าไงครับ  คิดถึงแม่จัง”   



“ปากหวานกลบเกลื่อนความผิด  แล้วนี่ทำไมไม่เปลี่ยนชุดก่อนเข้ามา ต๊ายยยยย ยามปล่อยให้เข้ามาได้ไงเนี่ย”     ผู้สูงวัยไล่สายตามองการแต่งกายของบุตรชายด้วยสายตาที่รับไม่ได้



“ก็ยามจำหน้าผู้บริหารได้นี่ครับแม่”     กว่าจะเดินมาถึงร้านเพชร ภัสดา พิชัยภักดีก็แทบพรุน เพราะสายตาทุกประเภทได้สาดส่องมายังเขาแทบทั้งหมด แต่มีหรือที่เขาจะสนใจ เชิดหน้าด้วยความภูมิใจต่อไป   มันจะมีใครกล้าใส่ชุดช่างฟิตเลอะน้ำมันเครื่องมาเดินห้างอย่างนี้ ไม่มีแล้ว!



“จะเปลี่ยนชุดไหม เดี๋ยวแม่ให้เลขาเอามาให้”   



“ไม่เป็นไรครับ ไหนแม่บอกว่าแปปเดียว ระวังเลือกไปเลือกมาไปงานไม่ทันนะ”



“โฮะๆ ระดับคุณนายจันทร์ซะอย่าง ทันอยู่แล้วย่ะ”     ก็อย่างที่มารดาเขาบอกว่า ต่อให้เวลาเหลือน้อยเพียงใด คุณนายจันทร์ก็พร้อมออกงานทุกสถานการณ์ เพราะมารดาของเขานั้นไม่เน้นเรื่องผมซักเท่าไร จะเน้นไปทางเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากมากกว่า



สองแม่ลูกนั่งคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งช่วยกันเรียกสร้อยคอ ชี้นั่นดูนี่หัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน เรียกสายตาชื่นชนจากพนักงานให้ร้านได้เป็นอย่างดี สำหรับพนักงานคนอื่นๆแล้ว ภัสดา คือผู้นำที่น่าเกรงขามและน่าชื่นชม ทั้งการใช้ชีวิต การวางตัว และการทำงาน ไม่ถือตัว ไม่เจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นกันเองกับพนักงานระดับล่าง เพียงแค่นี้ทุกคนก็พร้อมใจรักและเถิดทูนนายช่างใหญ่อย่างไม่คลางแคลงใจเลยซักนิด



“ตกลงเอาเส้นนี้ ชุดแม่สีฟ้าน้ำทะเลใช่ไหม เอาเส้นนี้แหละครับ เหมาะสมสุดๆ”   



“โอเค  แม่เชื่อแก  เดี๋ยวแม่ขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ  แกอย่าเพิ่งกลับล่ะ”  ว่าแล้วคุณนายจันทร์ก็เดินถือสร้อยเพชรออกไป โดยมีเลขาคนสนิทถือชุดราตรีราคาแพงตามหลังไปติดๆ



ภัสดาเมื่อได้โอกาส ก็ล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือกดเบอร์โทรออกหาคนปลายสายที่ดำรงตำแหน่ง ‘คนรัก’  ทันที



“เผือก มึงถึงหรือยัง”    ฝ่ายศิขรินทร์ที่ได้ยินน้ำเสียงของคนรักก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ  ถ้าภัสดาพูดประโยคเมื่อกี้เป็น.....



“ศิ  คุณถึงห้องหรือยัง”   โลกคงแกต ไม่งั้นก็หิมะคงตกที่ภาคอีสานแน่ๆ!! แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว



“ถึงแล้วครับ  ซื้อบะหมี่เกี๊ยวขึ้นมาด้วย คุณรีบกลับมานะ เดี๋ยวมันจะไม่อร่อย” 



“อืมๆ จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวรอให้แม่ใส่ชุดใส่สร้อยออกมาให้ดูก่อน   เผือกเน่าอย่าเพิ่งร้องห่มร้องไห้คิดถึงกูนะ ฮ่าๆ”       ความน่ารักของภัสดา ระดับเลเวล 100+ !!!!



“เดี๋ยวกลับมาจะฟัดให้หายคิดถึงเลย”    ร่างสูงเดินมาเอนกายล้มตัวนอนยังโซฟาหน้าโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น มืออีกข้างกอดหมอนหนุนเล่น หัวสมองจินตนาการใบหน้าของคนรักว่ายามนี้จะมีสีหน้าอย่างไร



“ไม่ให้ฟัด !”    ร่างบางกล่าวจุดยืนของตัวเองอย่างแน่วแน่ เรื่องอะไรจะต้องเสียแก้มให้ไอ้เผือกเน่ามันฟัดฟรี (เอ๊ะ!)



“ก็คอยดูกันต่อไปว่าได้ฟัดหรือไม่ได้ฟัด หึหึ”   ภัสดากำลังจะโต้อีกฝ่ายกลับไป  แต่มีลูกค้าที่เป็นคุณนายไฮโซคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านด้วยใบหน้าอันมาดมั่น ร่างบางจึงบอกวางสายแล้วเดินออกไปรับลูกค้าด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม



“สวัสดีครับ ... สนใจสร้อยแบบไหนครับ”      แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาคือสายตาอันดูถูกเหยียดหยามที่มองสแกนร่างกายเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง 



หึหึ  เพราะชุดช่างฟิตนี่เอง  ............



“ทำไมร้านนี้ถึงเอา พนักงานระดับต่ำมาต้อนรับลูกค้า หรือว่าหาดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว”    แค่คำว่า ต่ำ ก็เจ็บจี๊ดเข้าไปถึงไขกระดูกสัน
หลังแล้ว ยังมีประโยคที่ว่าร้ายร้านของเขาอีก อย่างนี้ถ้าไม่สวนกลับก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว 



“อ้าววววววววว!  แล้วคุณยายเอ๊ย! คุณป้าสนทนากับคนต่ำๆได้ด้วยเหรอครับ  น่าแปลกใจจริงๆหรือว่า...”



“หรือว่าอะไรยะ!”    คุณนายหัวสูงตะหวาดแว้ดออกมาอย่างไม่พอใจ เรียกเสียงหัวเราะจากภัสดาได้เป็นอย่างดี พนักงานคนอื่นๆไม่มีใครเข้ามายุ่งเพราะต่างฝ่างต่างไม่ธรรมดากันทั้งคู่  คนแรกก็เจ้านายใหญ่กุมชะตาชีวิต อีกคนก็ลูกค้ารายใหญ่คนสำคัญของร้าน



“หรือว่าคุณยายก็ต่ำเหมือนกัน ....................โอ้ไม่นะ! ผมไม่ได้ตั้งใจเลยนะครับ คุณนายหัวตั้ง”     



“ผู้จัดการร้านอยู่ไหน เรียกมาพบฉันเดี๋ยวนี้เลย เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น คนอะไร กิริยามารยาทต่ำสิ้นดี”     



“ผู้จัดการไม่อยู่หรอกครับ เหลือแต่ผมนี่แหละ มีอะไรก็คุยเลยครับ เคลียร์ได้ แต่เคลมไม่ได้นะครับ”    ภัสดากลั้นหัวเราะเต็มที่ ถึงแม้มันจะทำได้ยากเย็นก็เถอะ นึกทึ่งในระบบความคิดของคุณนายหัวตั้งคนนี้ ที่สรรหาคำด่าได้เจ็บแสบไปถึงทรวงในเลยจริงๆ



“ไอ้ไพร่! มันจะมากเกินไปแล้วนะ”   คำว่ไพร่คำโตๆ พุ่งใส่ศีรษะของร่างบางเข้าจังๆ ถ้ามีเอฟเฟคตามมาด้วยป่านนี้เลือดคงพุ่งออกจากตัวหมดแล้ว



“ไม่มากเกินไปหรอกครับ  หรือว่าคุณยายต้องการมากกว่านี้ เดี๋ยวผมจัดให้”   



“ฉันหมดความอดทนแล้วนะ เธอเป็นใครถึงอาจหาญมาเรียกฉันว่ายายห๊ะ ไอ้ไพร่ชั้นต่ำ”



“ก็เป็น......................”    ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยจบประโยคเสียงของมารดาก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน



“พีต!!!!!! เกิดอะไรขึ้น” 



“คุณจันทร์มาก็ดี สั่งสอนไอ้ไพร่ชั้นต่ำคนนี้ทีซิ ฉันไม่อยากรังแกคนที่ไม่มีทางสู้”   



“ค่ะๆ เดี๋ยวฉันเคลียร์ให้เอง ว่าแต่วันนี้คุณหญิงวิจิตราตรา อยากได้สร้อยแบบไหนค่ะเลือกเลยค่ะ”    ภัสดามองมารดาที่เดินเข้าไปเกลี่ยกล่อมคู่อริของตนอย่างใจเย็น  หัวสมองประมวลชื่อของอีกฝ่ายกลับไปกลับมา





คุณหญิงวิจิตรตรา
คุณหญิงวิจิตรตรา
คุณหญิงวิจิตรตรา








แม่ของไอ้ศินี่หว่า!!!!!!!!!!!!!!!






๐ ไม่เจอะกันนานคิดถถึงจังเล้ยยยยยยยยยยยยยย
๐ ขอโทษที่หายไปนาน งานมันเยอะจริงๆ อย่าโกรธคนแต่งเลยนะคะ 
๐ ทำให้รอนานไปหน่อย แต่ก็มานะคะ ไม่ได้ทำให้รอเก้อ
๐ รักคนอ่านทุกคน ขอบคุณมากๆสำหรับทุกคอมเม้นที่เป็นเสมือนแรงผลักดัน




รักและขอบคุณ
By Chocolate love ~




 


ออฟไลน์ zaferianight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดถึงมากๆๆๆๆ หายไปนานเลยยยย

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :a5:เจอตอเลยวุ๊ยยยย

piride

  • บุคคลทั่วไป
 :jul3: :jul3:
กร๊ากกก เอาแล้วไงหล่ะแค่เจอกันตอนแรกก็มีเรื่องแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด