| สะใภ้เถื่อน ™|By Chocolate Love ~ ตอนพิเศษ P.145 นิรันดร์ (05/05/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: | สะใภ้เถื่อน ™|By Chocolate Love ~ ตอนพิเศษ P.145 นิรันดร์ (05/05/59)  (อ่าน 1806974 ครั้ง)

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
รอๆๆ จนกว่าจะมา แล้วก็รอต่อไป

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ nan53

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084



บทที่ 53



คือรักแท้







ศิขรินทร์กอบกุมมือขาวบางของคนที่นอนหลับตานิ่งบนเตียงผู้ป่วยขึ้นมาแนบหน้าอย่างแผ่วเบา พร้อมทั้งบีบกระชับส่งความรักและกำลังใจจากมือหนาสู่มือบาง ดวงตาคมเข้มทอดมองใบหน้าซีดเซียวของนายช่างใหญ่แล้วได้แต่นึกสงสาร อยากเป็นไปได้ อยากจะรับความเจ็บครั้งนี้ได้แต่เพียงผู้เดียว นึกย้อนไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้แล้วได้แต่นึกแค้นเคือง เพราะต่อให้อยากทำให้ทรมานมากไปกว่านี้ก็คงจะทำอย่างที่ใจนึกไม่ได้ เพราะเฒ่าเจ้าเล่ห์ศัตรูหมายเลขหนึ่งได้หมดลมหายใจไปจากโลกนี้แล้ว ข่าวการสูญเสียของนักธุรกิจใหญ่วัยกลางคนจากภาคใต้ถูกข่าวการลอบยิงของภัสดากลบหายไปในหน้าหนังสือพิมพ์ จนแทบไม่มีใครพูดถึง แต่สื่อทุกแขนงกลับจ้องขุดคุ้ยหาข่าวสองตระกูลดังของเมืองไทยเพราะใครหลายๆคน ต่างรู้ถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของทายาทอินทราทิพย์และทายาทพิชัยภักดี แต่อำนาจเงินก็ทำให้ทุกอย่างราบเรียบเหมือนคลื่นที่ซัดเข้ามากระทบชายหาด ไม่มีใครอยากต่อกรกับสองตระกูลดังของเมืองไทย แม้จะไม่ใช่มาเฟียแต่ทั้งสองตระกูลก็มีทั้งเงินและอำนาจที่สามารถเล่นงานศัตรูให้ราบเป็นหน้ากองภายในพริบตาได้เช่นกัน



เมื่อหัวเรือใหญ่อย่างเสี่ยจักรได้สิ้นลมหายใจไป ตำรวจก็เข้ายึดทรัพย์สินต่างๆที่อยู่ภายใต้การครอบครองของเสี่ยใหญ่ เพราะธุรกิจผิดกฎหมายที่อีกฝ่ายทำไว้นั่นเอง ทำเอาวงการตำรวจภาคใต้สะเทือนไปไม่น้อยอยู่เหมือนกัน เหล่าผู้บังคับบัญชายศสูงต่างถูกโยกย้ายหรือถูกสอบกันเป็นแถวๆ ไม่เว้นไว้แม้แต่นายเดียว และแน่นอนว่าการสูญสิ้นของตระกูลดังแห่งภาคใต้ ทำให้ตระกูลอินทราทิพย์มีอำนาจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม สถานบันเทิงเล็กใหญ่ต่างอยู่ภายใต้การควบคุมของศิขรินทร์ ชายหนุ่มรูปงามเจ้าของฉายา “อินทรีย์เงิน” ผู้เกรียงไกร



ห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังหนึ่งในธุรกิจของตระกูลอินทราทิพย์ในตอนนี้ มีศิขรินทร์นั่งนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย และแน่นอนว่าคนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงคือนายช่างใหญ่ ผู้กุมหัวใจของนกอินทรีย์ผู้เกรียงไกร นายช่างใหญ่ภัสดา แห่งตระกูลพิชัยภักดีนั่นเอง



“นอนนานไปแล้วนะครับ”   ริมฝีปากหนาเอ่ยเสียงแผ่ว ใจนึกอยากให้เปลือกตาบางเปิดขึ้นมาสบตาหวานซึ้งอย่างที่เคยทำ แม้หมอจะบอกว่าคนบนเตียงพ้นขีดอันตราย แต่ถ้าหากนายช่างใหญ่ไม่ลุกขึ้นมาส่งยิ้มหรือเสียงหัวเราะให้ได้ยิน ศิขรินทร์ก็ไม่มีทางวางใจเด็ดขาด



ร่างโปร่งบางในชุดผู้ป่วยนอนนิ่งไม่ไหวติง ดวงหน้าอ่อนหวานล้อมกรอบด้วยเส้นผมดกดำเงางาม คิ้วเรียวโก่งดังคันศรสวยงามอย่างไม่ต้องตกแต่ง ริมฝีปากบางอวบอิ่ม แม้จะแห้งผากไปบ้างเล็กน้อยแต่ก็ยังมองดูน่ารักน่าใคร่สำหรับศิขรินทร์อยู่เสมอ ผิวกายที่เคยขาวอมชมพู แต่เมื่อมานอนนิ่งๆบนเตียงผู้ป่วยเช่นนี้ยิ่งทำให้นายช่างใหญ่แลดูน่าทะนุถนอมยิ่งขึ้นไปอีก แม้คนเก่งเขาจะเอ่ยปากอยู่เสมอว่าตนเองนั้นเข้มแข็ง ไม่ต้องการบอดี้การ์ดหรือคนตามอารักขา แต่เมื่อศิขรินทร์เอ่ยขอด้วยน้ำเสียงห่วงใยอีกฝ่ายก็ตกปากรับคำ นายช่างใหญ่ที่เคยดื้อรั้นเอาแต่ใจ แต่เมื่อได้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมห้องกับศิขรินทร์ อะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยคิดจะได้เห็นก็ได้เห็นอย่างไม่น่าเชื่อ คงไม่มีใครเคยคิดว่าเจ้าของอู่ใหญ่เวลาไมได้ดั่งใจจะชอบกระทืบเท้า แต่ถ้าหนักข้อกว่านั้นก็จะลงไม้ลงมือกับประธานบริษัทใหญ่ เบื้องหน้าเวลาอยู่กับลูกน้องนายช่างใหญ่อาจมองดูน่าเกรงขาม เป็นเฮียที่เหล่าลูกหมาเคารพบูชา แต่สำหรับศิขรินทร์แล้วภัสดาคือเมีย คือดวงใจ คือลมหายใจ คือทุกสิ่งทุกอย่าง



นิ้วเรียวยาวของศิขรินทร์ลูบไล้ลงบนผิวแก้มขาวนวลอย่างรักใคร่ ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มเล็กน้อยเมื่อโน้มตัวลงไปสูดกลิ่นกายหอมหวานของคนป่วยเข้าปอดเต็มรัก หากำลังใจให้ตัวเองเสร็จแล้วก็ผละออกมาอย่างช้าๆแต่ไม่ห่างไปไหนไกล แม้ภาระหน้าที่อันมากล้นจะกองอยู่เบื้องหน้าแต่ศิขรินทร์ก็ขอทิ้งแผ่นกระดาษมูลค่าหลายพันล้านไว้เบื้องหลัง เพราะอะไรมันจะสำคัญไปกว่าเมีย วินัยและคุณช่อ จึงต้องทำหน้าที่แทนท่านประธานไปก่อน แต่ถ้าเรื่องไหนสำคัญๆ คุณศิระจะเข้ามาจัดการเอง เพราะผู้สูงวัยเข้าใจบุตรชายเป็นอย่างดีว่ารักและหวงเมียขนาดไหน



เสียงประตูห้องเปิดเข้ามา ศิขรินทร์หันไปมองก็พบว่าเป็นบิดามารดาของตนและของภัสดานั่นเอง ร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วโน้มร่างลงไปหาคนที่นอนนิ่งไม่ไหวติง กดริมฝีปากหนาของตนเองจุมพิตลงบนหน้าผากเนียนอย่างรักใคร่ แล้วเปิดทางให้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วย ส่วนตนเองนั้นอ้อมมาอยู่อีกฝั่งของเตียงไม่ยอมห่างคนเจ็บไปไหนไกล



“สวัสดีครับ”   แม้จะแปลกใจว่าทำไมถึงมาพร้อมกัน แต่ศิขรินทร์ก็ไม่เอ่ยถาม เอ่ยทักทายบิดามารดาของตนและของภัสดาอย่างยินดี



“ทานอะไรหรือยังล่ะพ่อดารา”  ร่างสูงอมยิ้มขำเมื่อได้ยินเจ้าสัวภาสเรียกตนว่าดารา คงไม่พ้นมาจากฉายา ดาราฮอลลีวูดที่คนบ้านพิชัยภักดีตั้งให้แน่นอน



“เรียบร้อยแล้วครับ”  ศิขรินทร์เอ่ยเสียงนุ่ม พร้อมกับสบตากับมารดาเมื่อเห็นดวงตาของผู้สูงวัยฉายแววเหมือนกวักมือเรียกให้เข้าไปหา ร่างสูงเอ่ยขอตัวแล้วเดินตามมารดาออกไปข้างนอกทันที แต่ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะรังแกแก้มขาวนวลของคนป่วยไปหนึ่งฟอด ท่ามกลางสายตาล้อเลียนของเหล่าผู้อาวุโสที่มองมาอย่างหยอกล้อแกมเอ็นดู



“อะไรครับแม่”  หลังจากออกมาจากห้องศิขรินทร์ก็เอ่ยถามมารดาทันที



“เมียแกมันไม่ธรรมดาแล้วถูกไหม” คุณหญิงวิจิตรตราเอ่ย



“ไม่ธรรมดาอย่างไงครับ พีทก็เหมือนเดิมทุกอย่างไงครับ”



“อย่ามาทำไขสือนะยะ แหม! มาให้หยิกสักทีซิ ทำไมไม่บอกว่าไอ้บ้านนอกเป็นลูกเต้าเหล่าใคร พากันปิดบังทั้งพ่อทั้งลูก” คุณหญิงวิจิตตราเอ่ยรอดไรฟันอย่างสะกดกลั้นที่ถูกสามีและบุตรชายปิดบังเรื่องชาติตระกูลของภัสดา ลูกสะใภ้จอมเถื่อน ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เถื่อนธรรมดา แต่กลายเป็นไอ้บ้านนอกจอมเถื่อนลูกมหาเศรษฐี รวยติดอันดับของเมืองไทย



“พีท เขาอยากพิชิตใจแม่สามีเองครับ เขาอยากทำให้แม่ยอมรับในตัวเขา”   ศิขรินทร์เอ่ยยิ้มๆ นึกถึงใบหน้าอันมุ่งมั่นตอนที่ภัสดาเอ่ยในครั้งนั้นแล้วอดยิ้มไมได้ นายช่างใหญ่กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนตัวเขา แถมยังเอ่ยวาจามุ่งมั่นเด็ดขาดว่าจะเอาชนะใจแม่สามีให้ได้ ไม่ว่าวิธีใดก็จะทำ และนี่คือเหตุผลที่ตนและบิดาไม่เอ่ยถึงชาติตระกูลของภัสดาให้มารดารู้นั่นเอง



“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะนะ เมียแกก็ทำเกินไป” 



“ผมไม่ได้เข้าข้างพีทนะครับ แต่ผมแค่คิดว่าที่พีททำเขาก็คงมีเหตุผลของเขา เขาอยากให้คุณแม่รักเขานั่นแหละครับ”



“แสบจริงๆเลยนะลูกสะใภ้จอมเถื่อนของฉัน”  คุณหญิงวิจิตตราเอ่ยเบาๆกับตัวเอง นึกย้อนไปถึงวีรกรรมต่างๆนานาที่อีกฝ่ายได้สร้างไว้แล้วก็อมยิ้ม จะมีใครบ้างที่กล้าเข้ามาต่อกรกับคุณหญิงวิจิตตราผู้มากด้วยเรื่องการสรรหาลูกสะใภ้ให้กับบุตรชาย ขนาดลูกท่านหลานเธอทั้งหลายที่เคยยื่นมือเข้ามาสมัครยังยอมแพ้ แต่ภัสดากลับมุ่งมั่นฟันฝ่า มุ่งเอาชนะใจแม่สามีอย่างเอาเป็นเอาตาย กัดนิดจิกหน่อยก็ไม่เคยว่า ยิ้มรับแล้วก็ส่งวาจาเผ็ดร้อนกลับมา ถ้าไม่แสบสันถึงพริกถึงขิงขนาดนี้ คิดว่าจะเอาชนะใจของคุณหญิงวิจิตตราได้เหรอ



“แล้วคุณแม่ยอมรับเมียผมหรือยังครับ”



“ต๊ายยย! เรื่องมาซะขนาดนี้แล้วนะยะ คนรู้กันทั้งประเทศ ต่อให้ไอ้บ้านนอกมันมีแม่เป็นคนขายผัก พ่อขับสามล้อฉันก็รับเป็นลูกสะใภ้อยู่ดีนั่นแหละ ฉันไม่ใจจืดใจดำขนาดนั้นหรอกนะยะ”  คุณหญิงวิจิตรตราเอ่ยเสียงสะบัดพร้อมทั้งมองลูกชายตาคว่ำ



“แล้วป๊ากับแม่ของพีทว่ายังไงบ้างครับ เรื่องสินสอด”



“ก็ยังไม่ได้พูดอะไรหรอกนะ เจ้าสัวกับคุณนายเอาแต่ขอโทษที่ลูกชายมาทำให้บ้านเราวุ่นวาย แต่แม่ก็ขอโทษกลับไปเหมือนกัน ที่เคยเอ่ยวาจาดูถูกเมียแก เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกว่าเข้าใจและบอกว่าอยากให้เท่าไรเขาไม่ว่า แล้วแต่ทางเรา”



“ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ว่าเท่าไรครับ”



“อยู่ก่อนแต่งอย่างนี้มันผิดประเพณีนะยะ” 



“ไม่เป็นไรครับ ถึงจะเข้าหอกันมาแล้วก็เถอะ แต่ยังไม่มีพิธีอย่างเป็นทางการเลยนะครับ”



“สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย พรุ่งนี้ก็เอาโอนบริษัทแกเป็นชื่อไอ้บ้านนอกก็แล้วกัน เดี๋ยวเขาจะหาว่าอินทราทิพย์ไม่มีปัญญาหาเงินไปแต่งเมียให้ลูกชาย” เอ่ยเสร็จก็เปิดประตูเข้าไป ปล่อยให้บุตรชายยืนนิ่งงันอยู่ที่เดิม



ฝ่ายศิขรินทร์เมื่อหายจากอาการตื่นตะลึงก็เผยเสียงหัวเราะออกมาปลื้มใจ เมื่อนึกได้ก็กดโทรศัพท์หาวินัยให้จัดการเรื่องที่คุณหญิงวิจิตตราต้องการทันที สั่งงานผ่านโทรศัพท์เครื่องบางเสร็จเรียบร้อยก็เปิดประตูเข้ามา แต่สิ่งแรกที่กระทบสายตา คือร่างของนายช่างใหญ่ที่นั่งเอนหลังอยู่บนเตียงที่ถูกปรับระดับไว้เรียบร้อยแล้ว กำลังจะเอ่ยเรียกคนที่หัวใจคำนึงหา แต่เมื่อเห็นแม่ผัวลูกสะใภ้เขาสนทนากัน จึงได้แต่เดินเข้ามาฟังอยู่ข้างเตียงอย่างเงียบๆ



“คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณแม่ ไม่ต้องร้องไห้ก็ได้ครับ ผมยังแรงดีไม่มีตก ไม่ยอมทิ้งผัวไปไหนเด็ดขาด” คนป่วยที่เพิ่งฟื้นเอ่ยเสียงแหบแห้งกับคุณหญิงวิจิตตราที่ยืนอยู่ข้างเตียง



“ร้องไห้อะไรกันยะ ฝุ่นเข้าตาฉันเฉยๆหรอก ใช่ไหมคะคุณพี่” ผู้สูงวัยเอ่ยเสียงสะบัด พร้อมกับถามสามีอย่างคนหาพวก คุณศิระเอ่ยรับ แม้จะอยากหัวเราะออกมาก็ตาม



“ห้องก็ดูสะอาดดีนะครับไม่น่ามีฝุ่นเลย โอ๊ย!”  เสียงโอ๊ยจากคนป่วยทำเอาใครหลายๆคนตื่นตะลึง แต่คนที่เข้าหาภัสดาได้เร็วที่สุดคือคุณหญิงวิจิตตราที่ยืนอยู่ด้านข้าง ฝ่ามือบางของผู้สูงวัยยื่นเข้าไปจับลำแขนเรียวเสลาของคนป่วยอย่างห่วงใย



“เพิ่งตื่นขึ้นมานายจะขยับทำไม เห็นไหมปวดแผลเลย ตาศิ เรียกพยาบาลมาดูเมียแกหน่อยซิ”  ศิขรินทร์เอ่ยรับ แล้วตัดสินใจเดินไปเรียกพยาบาลด้วยตัวเอง ปล่อยให้แม่ผัวลูกสะใภ้เขาได้คุยกัน



“คุณแม่ห่วงผมเหรอครับ ปลื้มใจที่สุด สงสัยกลับไปผมต้องไปรำลิเกอ้อมบ้านซะแล้ว”



“ฉันกลัวลูกฉันเป็นหม้ายเมียตายท่านั้นแหละ เชอะ!”



“เมียตาย ก็หาเมียให้มันใหม่ไงครับ”



“มันขายไม่ออกแล้วล่ะตอนนี้ ว่าแต่นายเถอะ ตื่นขึ้นมาก็พูดมาก นอนลงไปน่ะดีแล้ว”



เจ้าสัวภาสหันไปมองภรรยาแล้วส่งยิ้มให้กัน รวมไปถึงคุณศิระที่หันมายิ้มให้ทั้งสองอย่างยินดี เมื่อได้ยินเสียงสนทนาพาทีของแม่ผัวลูกสะใภ้ แม้จะมีจิกกัดกันบ้างแต่ก็คืบหน้าไปมากกว่าเดิม



“พยาบาลมาแล้วครับ”  ศิขรินทร์เปิดประตูเข้ามา พยาบาลวัยกลางคนตรวจเช็คอาการตามหน้าทีแล้วบอกว่าคุณหมอจะเขามาตรวจในอีกไม่ช้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ขอตัวออกไป



“ป๊าครับ แม่ครับ พีทอยู่ก่อนแต่งจะเป็นอะไรไหม”   คนป่วยเอ่ยเสียงแหบ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบุรุษพยาบาลหน้าหล่อที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ฟังเสียงนายช่างใหญ่คุยกับคนโน้นทีคนนี้ที



“แกจะมาถามอะไรตอนนี้เจ้าพีท เป็นผัวเป็นเมียกันแล้วจะแต่งทำไม”



“อ้าว! ป๊าไม่ได้พีทแต่งเหรอ”



“แต่งทำไม เดี๋ยวป๊าแถมปลาร้าให้อีกสิบไห เอาไปไว้ต้มกิน”   ภัสดาหน้าหงิก แต่เพราะฝ่ามือหนาที่คอยลูบหลังมือบางไปมาอย่างรักใคร่ จงยอมคลายความบึ้งตึงลง แม้จะเล็กน้อยก็ตาม



“ดีเหมือนกันค่ะ ดิฉันชอบกินส้มตำอยู่พอดี” คุณหญิงวิจิตตราเอ่ย ทำเอาคนป่วยถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมา แต่เมื่อสะเทือนแผลก็ต้องรีบกลั้นลมหายใจทันที



“เรื่องสินสอด ผมว่าคุยกันด้านนอกดีกว่า ปล่อยให้ผัวเมียเขาอยู่ด้วยกันเถอะนะ”  คุณศิระเอ่ย แล้วออกเดินนำหน้าไปด้านอกทันที



“ตื่นมาก็พูดมากเลยนะครับนายช่าง อย่างนี้เมื่อไรจะหาย”   ศิขรินทร์เอ่ยเสียงนุ่ม ร่างสูงโน้มตัวลงไปหาคนบนเตียง กดริมฝีปากลงบนพวงแก้มใสสูดกลิ่นหอมนวลเข้าปอดเต็มรัก



“คิดถึงมึงจังเลยเผือก” ภัสดาไม่สนเสียงนุ่มทุ้มที่ดังอยู่ข้างใบหู ที่เจ้าของอู่ใหญ่ต้องการตอนนี้ก็คืออ้อมแขนอันอับอุ่นและปลอดภัยของศิขรินทร์ วินาทีแห่งความเป็นความตายทำให้รู้ว่าตนรักคนร่างสูงมากขนาดไหน



“คิดถึงพีทเหมือนกันครับ...ที่รัก”   



ภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงสำนึกไม่จางหาย ร่างโปร่งบางที่โผมาจากกลางเวทีหมายมั่นจะกระโดดลงจากเวทีเพื่อมายืนเคียงข้างกัน แต่ก็ถูกวิถีกระสุนพรุ่งเข้าใส่เสียก่อน วินาทีนั้นเหมือนมีมือปริศนาพุ่งเข้าเข้าใส่ร่างของตนแล้วกระชากลมหายใจออกไปจากร่างกาย ร่างโปร่งบางของนายช่างใหญ่ทรุดตัวลงมาสู่อ้อมแขนของศิขรินทร์เหมือนนกปีกหัก ไร้สิ้นเรี่ยวแรง มีเพียงแค่หยาดเลือดสีแดงที่ไหลซึมมออกมาจากบาดแผล เปาะเปื้อนเสื้อเชิ้ตสีอ่อน ช่างเป็นภาพที่บีบคั้นหัวใจของศิขรินทร์เสียเหลือเกิน วินาทีนั้นเหมือนหัวใจกรีดร้องแต่สุดท้ายก็กลั่นกรองออกมาเป็นหยาดน้ำตาที่รินไหลลงมาจากดวงตาคู่สวย ต่อให้ผ่านไปกี่สิบปีศิขรินทร์ก็ไม่มีทางลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างแน่นอน



“โอ๋ๆ เผือก พี่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องร้องนะ”  คนป่วยเอ่ยเสียงทะเล้นแล้วลูบแผ่นหลังแกร่งของร่างสูงอย่างปลอบโยน ทำเอาศิขรินทร์ถึงกับหลุดยิ้มในความขี้เล่นของคนบนเตียง



“ต่อไปนี้พี่พีท ต้องเพิ่มบอดี้การ์ดอีกสิบคนนะครับ”   



“ห๊ะ! ล้อเล่นใช่ไหมเผือก อย่านะมึง แค่นี้เขาก็คิดว่ากูเป็นเจ้าพ่ออยู่แล้ว” 



“ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อ แต่เป็นเมียเจ้าพ่อไงครับ”  ร่างสูงเอ่ยเสียงหวาน แล้วทรุดตัวนั่งซ้อนหลังคนร่างบาง มือหนาค่อยๆโอบกระชับเอวบางอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวสะเทือนแผลแล้วคนตัวหอมจะเจ็บขึ้นมา เหมือนจัดท่าจัดทางให้ตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ก้มหน้าซุกซอกคอหอมกรุ่มของภัสดาทันที



“แล้วไอ้คนทำมันเป็นยังไงบ้างตอนนี้”



“กลับบ้านเก่าไปแล้วครับ”   ศิขรินทร์เอ่ยเสียงเรียบ เมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้ภัสดาต้องมานอนหยอดน้ำเกลืออยู่โรงพยาบาล



“มือมึงเปื้อนเลือดเพราะกู ต่อไปมึงไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ให้กฎหมายเขาจัดการเอง”



“ผมไม่รับปากนะพีท ว่าจะมีครั้งหน้าอีกไหม แต่ผมบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าใครมันกล้าแตะเมียไอ้ศิจนเสียเลือดอีกล่ะก็ มันต้องชดใช้ด้วยชีวิต แล้วเรื่องกฎหมายพีทลืมไปได้เลยเพราะผมไม่ค่อยศรัทธาในวงการนี้เท่าไร”



“มึงกล้าหือกับกูเหรอเผือก”  ภัสดาเหลียวหน้าไปถามคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ส่งผลให้แก้มนวลเนียนถูกสันจมูกโด่งกดลงมาสูดกลิ่นหอมเข้าอย่างจัง เสียเปรียบทั้งทางตรงและทางอ้อม



“เรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆครับที่ผมยอมไม่ได้ เรื่องอื่นผมยอมพีทหมดเลย”



ภัสดาได้ยินดังนั้นแล้วส่ายศีรษะไปมาเล็กน้อย ศิขรินทร์ยังคงดื้อรั้นอยู่วันยันค่ำ ต่อให้บอกจนปากฉีกถึงหูอีกฝ่ายคงทำเพียงแค่รับฟังแต่ไม่ยอมปฏิบัติตามอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นภัสดากลับรู้สึกอุ่นไปถึงหัวใจในความรักความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้กันเสมอมา แต่กาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปเท่าไร แต่ผู้ชายคนนี้ก็ทำให้ได้รู้ว่าเวลาไม่อาจทำให้ความรักที่มีให้กันนั้นจืดจางลงไปแม้แต่นิดเดียว หนำซ้ำกับเพิ่มมากขึ้นทุกคน ชีวิตคู่ที่ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆนานาทำให้เข้าในซึ่งกันและกันมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าลิขิตเบื้องบนจะเป็นเช่นไรแต่ก็ขอขอบคุณที่ทำให้ตนมาเจอกับศิขรินทร์



“ใครว่าคนหล่อดื้อไม่เป็นเนอะเผือกเนอะ” 



“ดื้อแล้วรักไหมครับ?”



“รักสุดๆเลยว่ะ”    คำตอบของนายช่างใหญ่ทำเอาศิขรินทร์อดให้รางวัลเป็นจุมพิตหวานๆไม่ได้ แต่ก็ทำได้เพียงชั่วแวบเดียว เพราะกลัวผู้สูงวัยทั้งสี่เปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นภาพอันชวนตื่นตะลึงเข้า



“รักเหมือนกันนะครับ”



*********************************




คุณหมอให้ภัสดานอนพักรักษาบาดแผลอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าบาดแผลจะทุเลาลง จากนั้นค่อยกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ห้องนอนของภัสดาจึงเป็นห้องทำงานของศิขรินทร์ไปในตัว สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่านายช่างใหญ่ได้รับรู้มาว่าประธานหน้าหล่อไม่ยอมไปทำงาน ให้ลูกน้องตาดำๆอย่างวินัยและคุณช่อทำงานกันงกๆ ส่วนตัวเองมานั่งเฝ้าเมียสบายอกสบายใจ อำนาจมืดของภัสดาจึงกลับมาอีกครั้ง ร่างโปร่งบางสั่งการเสียงเฉียบขาดให้ศิขรินทร์กลับไปทำงาน ดื้อรั้นอยู่ไม่นานน ร่างสูงจึงยื่นข้อต่อรองว่าจะกลับไปทำ แต่จะเอามาทำข้างเตียงของนายช่างใหญ่แทน ภัสดาจึงยอมแต่โดยดี เลยกลายเป็นว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาเยี่ยมภัสดา จะเห็นศิขรินทร์นั่งทำงานที่โซฟารับแขกข้างเตียงของผู้ป่วย ไม่ย้ายหนีหรือลุกไปไหน



“ตายยากจริงๆเว้ยเพื่อนกู”  หลักเขตเอ่ยถามคนบนเตียง แต่แม้จะพูดไปอย่างนั้นแต่ใจจึงเป็นห่วงน้องน้อยของตนเองจนต้องทิ้งงานในไร่มาเยี่ยมเพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งน้องนอกไส้ทันที



“ปากเหรอที่พูดน่ะเขต เดี๋ยวหยิกเนื้อขาดเลย” คีตาหันไปปรามเพื่อนตัวเองแล้วเข้ามาถามไถ่อาการของเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าอันซีดเซียว เพราะยังคงตกใจและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



“ช่างมันเถอะคีย์ ว่าแต่กินอะไรมาหรือยังทำไมมาหน้าซีดอย่างนี้ เดี๋ยวก็มาป่วยแข่งกับพีทหรอก ลุกไปเยี่ยมไม่ไหวหรอกนะ เจ็บแผล”   



“คีย์ไม่เป็นอะไรหรอกน่า ห่วงแต่พีทนั่นแหละ ทำคีย์หัวใจเกือบวาย”



“จะวายเพราะไอ้พีทหรือเพราะใครกันแน่วะคีย์”  ดีไซเนอร์หน้าหวานทุบแผ่นหลังแข็งของหลักเขตทันทีเมื่อไอ้ยินถ้อยคำที่เอ่ยแซว กำลังจะหันไปหาเพื่อนร่วมทีมอย่างภัสดาก็โดนหักหลังเสียก่อน เพราะนายช่างใหญ่แปรพรรคไปอยู่กับหลักเขตเสียแล้ว



“แล้วไอ้ศิมันจะทำงานรู้เรื่องเหรอ เราคุยกันเสียงดังขนาดนี้”  หลักเขตเอ่ยถามเพื่อนสนิท พร้อมทั้งเหลือบสายตาไปมองคนหน้าหล่อที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ใกล้ๆ



“กูอ่านรู้เรื่อง”  แต่กลับเป็นศิขรินทร์ที่ให้คำตอบหลักเขต อดีตนายทหารเรือผู้เกรียงไกรหยักไหล่อย่างไม่สนใจแล้วเปลี่ยนเป้าหมายจากภัสดามาเป็นศิขรินทร์แทน



“เขตจะไปรบกวนคุณศิหรือเปล่าพีท” 



“ไม่หรอก พวกมันคุยกันรู้เรื่อง ไม่กัดกันเองหรอก คีย์ไม่ต้องห่วง”  ภัสดาเอ่ยเสียงเบากับคีตา พร้อมทั้งมองสองหนุ่มสองมุมแล้วอมยิ้มเล็กน้อย หลักเขตเอนหลังพิงพนักโซฟาชวนประธานหน้าหล่อคุยอย่างไม่สนใจว่าศิขรินทร์จะอ่านเอกสารหรือจะเปิดแฟ้มสักกี่แฟ้ม จนสุดท้ายความอดทนของท่านประธานก็หมดลง ปิดแฟ้มเอกสารแล้วางไว้บนโต๊ะ หันไปคุยกับหลักเขตอย่างจริงจัง
ติยะและอริสราตามมาทีหลัง แต่ก็หอบหิ้วของเยี่ยมมาเต็มสองมือ คนป่วยยิ้มแป้นทักทายเพื่อนสนิทเสียงใส จนท่านประธานหน้าหล่อที่นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆอดที่จะกระแอมขัดจังหวะไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าคนป่วยจะไม่สนใจเสียงเล็กเสียงน้อยเท่าไร ตั้งหน้าส่งเสียงทักทายเพื่อนสนิทต่อไป เหล่าเพื่อนสนิทของภัสดาต่างขุดเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้คนป่วยที่นั่งเอนหลังอยู่บนเตียงนั้นเบื่อหน่าย พอเวลาทานยาหลักเขตก็รับหน้าที่ ถึงเวลาทานข้าวคีตาก็เป็นคนป้อนข้าวป้อนน้ำให้คนป่วย แต่ตอนเข้าห้องน้ำเป็นหน้าที่ของศิขรินทร์ที่อุ้มคนป่วยมาส่งถึงด้านใน แถมยังไม่ยอมเปิดประตูออกไป ยืนเฝ้าคนป่วยด้วยใบหน้านิ่งๆ แม้จะโดนกำปั้นน้อยแต่พิษสงร้ายกาจทุบลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม จึงไม่แปลกเท่าไรที่พอเปิดประตูออกมาจะโดนเหล่าเพื่อนสนิทเอ่ยปากล้อกันอย่างสนุกสนาน เพราะนานๆทีจะเห็นคุณภัสดา พิชัยภักดี หน้าแดงแก้มร้อนสักที




ห้องทั้งห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้งเมื่อกองทัพของคนมาเยี่ยมไข้ต่างทยอยกันออกไป ศิขรินทร์วางปากกาด้ามสวยลงบนแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกเบื้องหน้า ปลายเท้าก้าวเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยแล้วยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างโปร่งบางของนายช่างใหญ่ เพราะเหมือนว่าคนป่วยที่แสดงท่าทางว่าไม่ป่วยจะหมดฤทธิ์เดชลงไปแล้ว เสียงเคาะประตูเรียกสายตาคมกร้าวให้หันไปมองทันที และเพียงไม่นานผู้ที่อยู่เบื้องหลังของบานประตูก็ก้าวเท้าออกมา วินัยและช่อฟ้าเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เลขาสาวใหญ่มือหนึ่งของศิขรินทร์ถือกระเช้าผลไม้พร้อมของเยี่ยมไข้มาเต็มสองมือ ในขณะที่วินัยและบอดี้การ์ดคนอื่นหอบแฟ้มมาหอบใหญ่ ศิขรินทร์จัดผ้าห่มให้คนป่วยอีกเล็กน้อยแล้วผละมาหาผู้มาใหม่ ริมฝีปากยกยิ้มต้อนรับลูกน้องคนสนิททั้งสองคนแล้วเดินนำออกไปยังระเบียงนอกห้อง เพราะเกรงว่าเสียงพูดคุยจะไปรบกวนการนิทราของนายช่างใหญ่เข้า





[/b]

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084



“อีกไม่กี่วันพีทก็คงได้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน ฉันคงไม่ค่อยได้เข้าบริษัทเท่าไร เอกสารอันไหนสำคัญๆก็เอามาให้เซ็นที่บ้าน ส่วนนัดต่างๆก็เลื่อนไปก่อนนะคุณช่อ ใครไม่พอใจก็ยกเลิกไปเลย ใครรอได้ก็รอ ใครไม่รอก็ช่างมัน”



ช่อฟ้าและวินัยพยักหน้ารับคำ อยู่คุยกันอีกเล็กน้อยทั้งสองคนก็ขอตัวออไปเพราะยังมีเรื่องต้องไปจัดการอีกมากมาย ศิขรินทร์เอ่ยขอบคุณเสียงนุ่มในความทุ่มเทของทั้งสองคน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยวินัยและช่อฟ้าก็ขอตัวออกไปทันที ร่างสูงโปร่งจึงเดินกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง ทรุดกายนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย ยกมือเกลี่ยไรผมที่ตกลงมาระหน้าผากให้นายช่างใหญ่อย่างรักใคร่ เสียงลมหายใจที่ดังเป็นจังหวะเดียวกันยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้คนบนเตียงหลับลึกเพียงใด



“หายเร็วๆนะครับที่รัก”



*************************************************************




เช้าวันใหม่ของบ้านพิชัยภักดีเริ่มต้นด้วยยินดีเมื่อได้มีโอกาสต้อนรับขบวนขันหมากของบ้านอินทราทิพย์ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า รอบๆบริเวณบ้านถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ รอยยิ้มของแขกที่มาร่วมงานก็ยิ่งทำให้บรรยายแลดูอบอุ่นยิ่งขึ้นไปอีก แขกผู้มีเกียรติที่ถูกรับเชิญมาก็มีตั้งแต่เหล่าเพื่อนสนิทของภัสดา รวมไปถึงช่างฟิตทุกแผนก ที่แห่กันมาอย่างคับคลั่ง เสียงพูดคุยเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ และต้นเสียงหัวเราะก็มาจาก เหล่าลูกหมาสมุนซ้ายขวาของภัสดาที่มีทั้ง ตั้ม ดล แป๊ะยิ้ม ทั้งสามแต่งกายมาร่วมงานด้วยชุดเสื้อผ้าหลากสีสัน ทำเอาดอกไม้ในงานจืดสนิทไปทันที



“สีเสื้อของพวกมึงมันแสบตาจริงๆว่ะ”  หลักเขตเอ่ยกับสามหนุ่มสามมุมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะสนิทสนมกันเป็นอย่างดี



“แสบตาเพราะสีเสื้อหรือว่าแสบตากับความหวานของเฮียพีทกับลูกพี่ศิกันแน่ครับ” ไอ้แป๊ะเอ่ยเสียงเบา แม้จะรู้ว่าภัสดาไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ แต่เจ้าที่แรงก็ยังคงแรงอยู่วันยันค่ำ จึงไม่อยากเสี่ยงเท่าไรนักกับการที่ต้องมาโดนฝ่ามือหนักของเฮียพีทประทับลงบนแผ่นหลังหรือศีรษะเข้าอย่างจัง



“กูก็คิดอย่างมึงนั่นแหละแป๊ะ”   หลักเขตเอ่ยยิ้มๆ แล้วเหลือบมองเข้าไปด้านใน เห็นคีตาวิ่งวุ่นกลับไปกลับกลับมา ตนจึงเลือกที่จะปลีกตัวออกมาอยู่หน้างาน รอรับขบวนขันหมากของท่านประธานหน้าหล่อดีกว่า



“แน่ใจนะว่ามึงกับกูจะเป็นประตูเงิน”   ติยะ ถามหลักเขตอย่างไม่แน่ใจ เพราะเคยไปร่วมงานแต่งที่ใด ก็มักจะเป็นผู้หญิงที่มาทำหน้าที่นี้ แต่งานนี้มาแปลก เพราะเหล่าช่างฟิตและเพื่อนสนิทของฝ่ายนายช่างใหญ่ต่างจับจองประตูเงิน ประตูทอง ประตูประแจ ประตูเหล็ก สารพัดประตู กว่าเจ้าบ่าวจะได้เข้าไปด้านในก็คงเหนื่อยน่าดู



“ยิ่งกว่าแน่ใจ หึหึ”    หลักเขตตอบเสียงเรียบ แต่เสียงโห่ร้องของขบวนขันหมากที่ดังมาจากหน้าบ้านก็เรียกความสนใจของแขกฝ่ายภัสดาได้เป็นอย่างดี ประตูมงคลตามแบบฉบับเด็กช่างกางกั้นเส้นทางของเจ้าบ่าวอย่างรู้หน้าที่ ถ้าไม่เอาคืนเฮียพีทวันนี้ ชาตินี้ก็คงหมดโอกาสแล้ว



ขบวนขันหมากของฝ่ายศิขรินทร์ต่างถือต้นไม้มงคลกันมาเต็มขบวน ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวมาร่วมงานกันอย่างคับคลั่ง เพื่อนเจ้าบ่าวอย่างกรุง วรยศ เดินหน้าหล่อเคียงข้างเจ้าบ่าวที่ตอนนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว เพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับแยกจากกัน โดยให้ภัสดามานอนที่บ้าน ส่วนศิขรินทร์นั้นความจริงต้องนอนที่บ้านของตัวเอง แต่ในเมื่อเมียกลับมานอนบ้าน ตนจึงเลือกที่จะขับรถมาจอดที่หน้าบ้านพิชัยภักดี ถือคติไม่ได้เห็นหน้า ขอแค่ได้เห็นหลังคาก็ยังดี หัวใจมันเลยลอยเข้าไปในบ้านของนายช่างใหญ่ทันที แต่ไม่ว่าจะชะเง้อคอมองหาสักเท่าไรก็ไม่เห็นดวงหน้าหวานที่หัวใจคำนึงหาสักที



“ใจเย็นๆหน่อยไอ้ศิ เดี๋ยวก็ได้เจอคุณพีทแล้ว”  กรุงเอ่ยปลอบเพื่อนสนิท เพราะรู้ว่าอาการดังกล่าวของศิขรินทร์มันมีที่มาจากอะไร



ศิขรินทร์ปรายตามองหน้าเพื่อนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาเพราะความไม่ได้ดั่งใจ นึกโกรธมารดาอยู่นิดๆที่จัดพิธีในครั้งนี้ขึ้นมา เพราะนอกจากจะทำให้ตนและภัสดาต้องนอนแยกกันแล้ว ยังทำให้หัวใจทุรนทุรายเพราะไม่ได้กอดเมียเป็นอาทิตย์ ยิ่งนึกยิ่งหงุดหงิด แต่เมื่อเดินมามาถึงโถงหน้าบ้านก็เห็นใบหน้าหล่อเข้มของหลักเขตและติยะ แต่เมื่อมองต่ำลงมาก็คลายความสงสัยทันทีว่า ไอ้สองตัวเพื่อนซี้ของภัสดามายืนหน้าหล่อตรงนี้ทำไม




“ตรงนี้เขาเรียกว่าประตูเงิน พันปีครับท่าน ถ้าเจ้าบ่าวไม่เด็ดจริงก็เข้าไปไม่ได้หรอกครับ”   หลักเขตเอ่ยกับคุณศิระ บิดาของศิขรินทร์ คุณหญิงวิจิตตราจึงยื่นซองสีแดงให้ติยะและหลักเขตคนละสองซอง



“ผมไม่รับหรอกครับ เพราะมันธรรมดาเกินไป”     หลักเขตเอ่ยยิ้มๆ ศิขรินทร์หยักไหล่เล็กน้อยแล้วก้าวออกมายืนอยู่ด้านหน้า



“มึงต้องการอะไร”   ร่างสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ



“แล้วมึงมาทำอะไรล่ะวันนี้”  หลักเขตตอบกลับไปเสียงเรียบเช่นกัน



“มาแต่งเมีย” 



“อะไรนะ กูไม่ได้ยิน”



“มาแต่งเมียโว๊ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!” แขกฝ่ายเหลื่อทั้งสองฝ่ายต่างโห่ร้องออกมาอย่างชอบใจเมื่อได้ยินคำประกาศลั่นของศิขรินทร์



“ไหนล่ะปัจจัย”  ศิขรินทร์ดึงซองสีแดงให้ติยะและหลักเขตคนละห้าซอง ส่งยิ้มขอบคุณให้ทั้งสองแล้วเดินผ่านประตูเงินไปอย่างสวยงาม แต่กว่าจะผ่านประตูของเหล่าช่างฟิตก็ทำเอาคุณศิระ และคุณหญิงวิจิตตราแทบจะหมดตัว เพราะแต่ละประตูนั้นถ้าไม่ทุ่มจริงก็ผ่านไม่ได้ แต่ประตูมงคลลำดับสุดท้ายนี่ซิที่ศิขรินทร์หนักใจ เพราะแค่เห็นหน้าของสมุนซ้ายขวาของภัสดาก็รู้ว่าต้องโดนหนักอย่างแน่นอน



“ประตูนี้ชื่อว่า ประตูประแจเบอร์สิบสอง”   นั่นประไร แค่ชื่อประตูก็ยังเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี



“ลูกพี่ศิครับ หมดเนื้อหมดตัวหรือยังครับ”  ตั้ม เอ่ยถามศิขรินทร์ด้วยน้ำเสียงหยอกเหย้า



“หมดเงินน่ะหมดได้ แต่ถ้าหมดใจรักนายช่างใหญ่ไม่มีทางแน่นอน”



“ฮิ้ววววววววววววววววววว” 



“ลูกพี่มาหวานซะขนาดนี้ผมก็ไปไม่เป็นเลย แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลูกพี่ให้ฉายาที่เฮียตั้งให้ตะโกนบอกรักเข้าไปดังๆเลยนะครับ ถ้าไม่ดังจนหลังคาบ้านสะเทือนผมไม่ให้เข้าไปจริงๆนะครับ”



“เอาจริงเหรอตั้ม”   ไม่ใช่ไม่กล้า แต่เพราะฉายาที่ภัสดาตั้งให้ตนนั้นมีน้อยคนนักที่จะได้รับรู้



“เล่นๆก็ได้ครับ ประตูอยู่ทางนั้นครับ กลับได้เลย” 



“แกกลัวอะไรล่ะตาศิ มาถึงขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวเมียแกรอเก้อนะ” คุณหญิงวิจิตตราเอ่ยเสียงเร้าบุตรชาย เช่นเดียวกับคุณศิระที่ส่งยิ้มเอาใจช่วยบุตรชายอย่างเต็มที่



ศิขรินทร์สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วมองเข้าไปในตัวบ้าน เห็นร่างของภัสดาที่แอบมาหลบฟังอยู่ตรงประตูบ้านแล้วอมยิ้มหวานเล็กน้อย เป็นไงเป็นกัน เพื่อเมียสักวัน ทำไมจะทำไม่ได้



“เผือกรักพีทนะครับ!!!!!!! ได้ยินไหมครับ ว่าเผือกรักพีท!!!!!!!!!”



“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว ~”



   ศิขรินทร์เดินตามหลังบิดาและมารดาเข้ามาในตัวบ้าน กำลังผละไปเดินหาเมียแต่ก็ถูกฝ่ามือหยาบๆของเพื่อนสนิทกระชากเอาไว้ก่อนแต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยทัดทาน ร่างขาวบางของคนที่ใจเพรียกหาก็เข้ามาอยู่กรอบสายตา นายช่างใหญ่อยู่ในชุดสูทสูทสากลสีขาวล้วน ถ้าตาไม่ฝาดไปจริงๆเหมือนจะเห็นปีกสีขาวปลอดกระพรือพรึบพรับอยู่ที่ด้านหลังของอีกฝ่าย ดวงหน้าหวานใสขึ้นสีแดงระเรื่อ ทรงผมยาวประบ่าถูกจัดทรงไว้เป็นอย่างดี กระเป๋าเสื้อสูทมีดอกไม้ช่อเล็กๆปักเอาไว้ ยิ่งมองมากเท่าไรยิ่งไม่อยากถอนสายตามากเท่านั้น



   “เก็บอาการหน่อยไอ้ศิ”



   “ก็กูคิดถึงเมียกู”  คำตอบของเพื่อนสนิททำเอากรุง วรยศ ถึงกับส่ายหัว  ศิขรินทร์คงลาตำแหน่งคาสโนว่าหน้าหล่ออย่างเป็นทางการและถาวร เพราะมองดูศิขรินร์คงจะรุ่งเรืองเรื่องเกรงใจเมียอย่างแน่นอน



   “อะแฮ่ม! เริ่มพิธีเลยก็แล้วกัน”  คุณศิระกระแกมเรียกสติบุตรชาย แล้วหันไปส่งยิ้มให้เจ้าสัวภาสและภรรยา



   “ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อจะมาขอหนูพีทให้เจ้าศิ สินสอดก็จัดมาให้อย่างสมน้ำสมเนื้อ เช็คเงินสดร้อยล้านนี่เป็นเงินของเจ้าศิ ส่วนเครื่องเพชรชุดนี้เป็นของคุณหญิง แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่ผมยกมาไม่ได้นั่นก็คือ บริษัทอินทราทิพย์กรุ๊ป ที่ในอีกไม่ช้าจะกลายเป็นชื่อของหนูพีท”  เหล่าแขกผู้มีเกีรยติทั้งหลายต่างส่งเสียงฮือฮาเมื่อได้ยินมูลค่าอันมหาศาลของสินสอดที่ฝ่ายเจ้าบ่าวหน้าหล่อนำมา



“มันมากไปหรือเปล่าคะ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ” คุณหญิงมาศเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ



“ไม่มากไปหรอกค่ะ เพื่อให้สมเกียรติสมศักดิ์ศรีของพิชัยภักดี แค่นี้ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ” คุณหญิงวิจิตตรเอ่ยเสียงหวาน พรางมองหน้าของลูกสะใภ้จอมเถื่อน



“ถ้าป๊ากับคุณแม่จะกรุณา ยกพีทให้ผมด้วยเถอะนะครับ” 



“มาถามป๊าก็ไมได้หรอกนะ โน่น ต้างถามไอ้พีทโน่น มามันตกลงหรือเปล่า”



“ว่าไงครับที่รัก”



“อะไรว่าไง”  นายช่างใหญ่เอ่ยยิ้มๆ แม้จะเขินอายสายตาของศิขรินทร์ก็ตาม



“จะแต่งงงานกับเผือกไหมครับนายช่างใหญ่”



“สวมแหวนซิ มัวรออะไรล่ะ”  ศิขรินทร์ยิ้นหวาน คว้าฝ่ามือบางขึ้นมากอบกุมแล้วบรรจงสวมแหวนเพชรเม็ดงามลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภัสดาอย่างช้าๆ



เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เมื่อเจ้าบ่าวยกฝ่ามือบางของเจ้าสาวขึ้นมาจุมพิต เรียกร้อยยิ้มจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ต่อมาภัสดาก็ทำเช่นเดียวกันกับศิขรินทร์อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อสวมแหวนให้กันและกันเสร็จเรียบร้อย ยังไม่ทันที่ผู้ใหญ่จะเอ่ยอะไรออกมา ศิขรินทร์ก็คว้าร่างโปร่งของภัสดาเข้ามาแล้วประทับริมฝีปากลงบนกรีบปากบางทันที บดเบียดเคล้าคลึงจนพอใจจึงยอมผละออกมา ทั้งที่ใจจริงนั้นไม่อยากปล่อยคนร่างขาวให้ห่างกายเลยแม้แต่วินาทีเดียว



“อะไรกัน ยังไม่มีใครบอกให้เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวเลยนะ”  เจ้าสัวภาสเอ่ยแซวบุตรเขยด้วยน้ำเสียงหยอกเหย้า



“ถ้าอย่างนั้นก็ส่งตัวเข้าหอเลยดีกว่า”



“ดีครับ!”



“เผือก~ เก็บอาการบ้างก็ดีนะ เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย!”   ภัสดากดเล็บมือลงบนต้นขาแข็งของศิขรินทร์อย่างช้าๆ ใบหน้าขาวเนียนยิ้มสวยแล้วเอ่ยรอดไรฟันให้ได้ยินกันเพียงสองคน



“แต่คืนนี้ก็ไม่รอดอยู่ดีนะครับ”






**************************************************



สองกายประสานเป็นหนึ่งเดียว ทุกท่วงท่าลีลารักที่ขับขานร่วมกันการันตีจากเสียงครวญครางไม่ได้ศัพท์จากร่างข้างใต้ที่บิดเกร็งไปมาอย่างเสียวซ่าน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นมาเป็นระยะๆ กลิ่นคาวของรสรักคอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างดีเยี่ยม แต่ลาดไหล่แข็งแรงของคนด้านบนกลับอาบไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาจากกิจกรรมที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ เตียงขนาดคิงไซส์รองรับสองร่างที่รวมกันเป็นหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงหอบกระเส่า เสียงร้องหวีดแหลม เสียงสะอื้นปานขาดใจ ดังปะปนกับเสียงของหน้าขาแข็งแรงกระทบก้อนเนื้อกลมนุ่มหยุ่น เรียวลิ้นร้ายกาจกรีดแผ่นหลังแข็งแกร่งดุจหินผาครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหลัง รอยแดงจากแผ่นหลังกว้างไม่ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ารอยแดงจากการดูดชิมผิวเนื้อของคนข้างใต้ รอยสีกุหลาบกระจายตัวไปทั่วเรือนร่างบอบบาง หลักฐานของความรักที่ทักทอร่วมกัน ฝ่ามือประสานกัน ตาประสานตา กายประสานกาย ใจประสานใจ แลกลมหายใจกรุ่นร้อนซึ่งกันและครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า ดูดชิมความหอมหวานของโพรงน้ำผึ้งกลางป่าใหญ่อย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย แม้พายุแห่งรสรักพัดผ่านไป แต่ก็พร้อมที่จะเริ่มใหม่ได้ในทันที



“ไหวไหมครับ อาบน้ำก่อนไหม”  ศิขรินทร์เอ่ยคนที่นอนปรือตาอยู่ด้านล่าง นิ้วเรียวแข็งปาดเหงื่อที่พุดขึ้นมาตามไรผมของภัสดาให้อย่างอ่อนโยน ดวงตาคมเข้มทอประกายหวานเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายส่งยิ้มหวานมาให้เช่นกัน



“กูน่ะไหวอยู่แล้ว ว่าแต่มึงน่ะไหวไหม”    คนร่างขาวเอ่ยเสียงกระเส่าพร้อมทั้งลูบไล้แผงอกแข็งของศิขรินทร์อย่างยั่วยวน



“พูดอย่างนี้ ระวังจะโดนทั้งคืนนะครับ”



“ไม่กลัว กลัวไม่โดน” นายช่างใหญ่หยักคิ้วลิ่วล้อ แลดูน่ารักน่าใคร่ไปเสียหมด



“ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมมาเจอคุณ ขอบคุณใครสักคนที่ทำให้ผมขับรถไปชนท้ายรถของคุณ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ขอบคุณที่ไม่เคยทิ้งกันไปไหน ขอบคุณที่รักและเชื่อใจ ผมสัญญาด้วยชีวิตว่าจะรักคุณคนเดียว ภัสดาของผม”
ร่างสูงยกร่างโปร่งบางขึ้นมาแนบอก ให้แผงอกแข็งของตนเองซับน้ำตาแห่งความดีใจของภัสดา และต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่มีอะไรจะมาพรากภัสดาไปจากศิขรินทร์เด็ดขาด






แม้แต่ความตายก็มิอาจขวางกั้น








หนึ่งกาย สองลมหายใจ
หนึ่งหัวใจ สองแรงรัก
หนึ่งเดียว ที่ได้ประจักษ์
คือหนึ่งรักของภัสดาและศิขรินทร์








The End



๐ เดินทางกันมายาวนานเหลือเกินสำหรับนิยายเรื่อง "สะใภ้เถื่อน" อยากจะขอบคุณทุกๆกำลังใจ ทุกๆคอมเม้นท์ที่พิมเข้ามา ขอคุณคอมเม้นที่สม่ำเสมอ ไม่หายไปไหน อยากจะบอกเหลือเกินว่าคุณเป็นกำลังใจที่สำคัญที่ทำให้นิยายเรื่องนี้เดินมาถึงจุดนี้ได้ 

๐ ส่วนเรื่องเปิดจอง นิยายเรื่องนี้ เดี๋ยวจะเข้ามาแจ้งอีกทีนะคะ เพราะตอนนี้สำนักพิมพ์ยังไม่ระบุวันที่แน่นอน แต่ "สะใภ้เถื่อนได้คิวมาแล้ว

๐ ถ้าใครกลัวพลาดข่าวสารก็เข้าไปได้ที่ >>>https://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084 เพจของนักเขียนเอกค่ะ อัพเดทตลอด

ตอนพิเศษที่จะมีอยู่ในเล่ม มีทั้งหมดอยู่ 3 คู่นะคะ มี 1. ศิ-พีท 2.กรุง-คีตา 3. หลักเขต+?(เจอกันในเล่ม) แต่จะมีตอนพิเศษที่จะอัพในเล้าด้วย (น้ำจิ้มๆ)

๐ อุดหนุนนักเขียนตาดำๆ คนนี้ด้วยนะคะ  :mew1:

๐ ส่วนนิยายโปรเจคใหม่ก็คือ "ทัณฑ์แค้น แสนรัก"  ที่จะมาอัพลงเล้าในลำดับต่อไป อย่าลืมติดตามกันนะค >M<

๐ สุดท้ายจริงๆ อยากบอกว่ารักคนอ่านทู๊กคนเลยยยยยยยยยย จุ๊บบบบบๆ



รักและขอบคุณ

By Chocolate Love ~

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :hao6:  จิ้มๆ อ่านไปยิ้มไป ขอบคุณครับ จะรอวันประกาศรายระเอียดหนังสือครับ  :pig4:

ออฟไลน์ kogomon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
 :o8: :-[ :o8: :-[


จบแว้วววววว ยินดีด้วย ตามอ่านมานานจนหยดสุดท้ายกันเลยทีเดียว


 o13

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
จบแล้ววววววว(จุดพลุฉลอง :mc4: )

หวานมาก

เผือกนายแน่มาก

นายช่างใหญ่ก็ยังไว้ลายเหมือนเดิม (เถื่อนได้คงเส้นคงวา)

ฟินสุดๆ บอกไม่ถูก

ดีนะที่ยังไม่นอน ไม่งั้นคงอ่านช้าไปอีกวัน

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แบ่งปันขอรับ

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
หวานเว่อร์ค่าาาาาา อิจฉามั่กๆ  :mew3:

Violet Rose

  • บุคคลทั่วไป
จองหนังสือด้วย อิอิ
รอเรื่องนี้นานมากเลย 55555
เอาตอนพิเศษมาลงเร็วๆ นะ อยากอ่านมากกกกกกกกกกกกกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เค้าแต่งงานกันแล้ว   :m3: จบได้สมบูรณ์มากเลยจ้า แล้วจะรอไปอุดหนุนนะ  :z2:

ออฟไลน์ envylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หวานน้ำตาลเรียกพี่เลยอ่า >< จะเป็นเบาหวานตายมั้ยเนี่ย ฟิน สุดๆ รออ่านตอนพิเศษนะคะ หุหุ หลักเขตจะคู่ใครเนี่ย อยากรู้อ่า

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
จบแล้ว.   หวานซะ :-[ :-[ :-[

ขอบคุณผู้แต่งมากๆที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่าน ขอบคุณค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sugarrock

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
วีดวิ้วสุดๆ ขอบคุณมากคะ
 o13

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เขาแต่งงานกันแล้วววว ฮิ้ววว~

- คับคลั่ง แก้เป็น คับคั่ง -

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
วากกกฟินมากกกก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีมาให้อ่านนะคับจะติดตามผลงานไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ nan53

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Happy Ending!!! จุดพลุฉลอง :mc4: :mc4:
เตรียมเก็บตังค์ค่าหนังสือ อิอิ :mew1:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
จบแล้วอ่ะ  ยังไม่อยากให้จบเลย

เป็นขบวนขันหมากที่หวานมากที่สุดในสามโลก  อิอิ

เผือกรักพีทคร๊าบบบ  555

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
เพิ่งมาตามอ่านเรื่องนี้ได้ไม่นาน ก็จบซะแล้ว  :mew6: เสียดายที่สมัครเป็นสมาชิกเล้าช้าไปหน่อย
แต่ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ ชอบที่เผือกรักนายช่างใหญ่มาก ๆ พีทของเราก็เก่งกล้าไปหมด
ขอบคุณตอนจบที่สมบูรณ์ และหวานหยดย้อย
หนังสือไม่รู้ราคาเท่าไหร่ เดี๋ยวจะไปตามดูในเพจนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับนิยายดี ๆ เรื่องนี้ :pig4: :L1:


ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เย้ๆเรื่องราวก็ดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว
รักนิยายเรื่องนี้มาก สนุก ตลกฮามาก แล้วก็มีหวานด้วย
สุดท้ายแล้วเผือกก็ได้แต่งงานกับพีทแล้ว  :katai2-1:
มาอัพตอนพิเศษไวๆเด้อ :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
อ่าาา... จบซะแล้ว  :m15: :m15: :m15:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกๆนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:

อย่าลืมตอนพิเศษใส่ไข่เยอะๆนะคะ  :pigha2: :pigha2:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
จบแล้ว นายช่างใหญ่น่ารัก  :mew1:

ขอบคุณผู้แต่งสำหรับนิยายสนุกๆ นะคะ :L2:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ฟินมากกกกก
น่ารักจัง
เผือกกับพีท
หลงคู่นี้จิงๆนะ
ขอให้มีความสุขนะ เจ้าพ่อและเมียเจ้าพ่อ
555+
ขอบคุณนะคะคนแต่ง พาฟินมากเลย
รอติดตามเรื่องต่อๆไปค่า

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ไม่อยากให้จบเลย สนุกมากๆ

ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายสนุกๆ

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่านนะจ๊ะ

สนุกมากๆเลย

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
จบแล้วหวานมากมายค่ะ

ปล อยากทราบว่ากรุงและคีตาจะมีเรื่องของตนเองป่าวคะ หรือมีแค่เป็นตอนพิเศษคะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
จบแล้วววววววววววว
หวานมากคุณศิกับนายช่าง  อายมดกันบ้างเถอะ

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
จบซะแล้วนายช่างใหญ่ของเรา
แต่ทำไมตอนนี้ตัวอักษรหนา เอ หรือทุกครั้งก็หนา :hao4:

ออฟไลน์ Oilsaoo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
จบเเล้วว
หวานมาก
รักนายช่างกับเผือกมากเลยย
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะค่ะ สนุกมากเลยย >,<

ออฟไลน์ PazZ

  • '' ใจเรา ความคิดของเรา ...ใครจะไปรู้ดีกว่าตัวเรา ''
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-6
ขอบคุณมากค่ะ อิอิ ชอบเรื่องมากกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด