LOVE HIGH STORY – 28 – We’ve Got a Plan | แผนสุดล้ำเวลาประมาณแปดโมงครึ่งที่มหาวิทยาลัย...
.
.
คู่หูที-โจเดินไปที่โต๊ะหินอ่อนริมสระน้ำในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นที่ประจำของพวกเขาเวลานัดหมายหรือที่รวมพลก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน แต่วันนี้ไม่เห็นเพื่อนสนิทร่างเล็กเช่นเคย เมื่อมองดูนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว...
“ไอ้ต้าร์มันไปไหนของมันวะ” ทีเอ่ยขึ้นมาลอยๆ เมื่อไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทอีกคน
“มันมาพร้อมพี่โบ๊ท ไม่น่าจะสายนะ มันอาจจะไปที่ห้องเรียนแล้วก็ได้” ถึงจะตอบแบบนั้น แต่โจก็ยังสอดสายตามองหาเพื่อนร่างเล็ก
“เออ งั้นเราไปที่ห้องเรียนเลยแล้วกัน... หรือถ้ามันมาที่โต๊ะแล้วไม่เห็นใครอยู่ เดี๋ยวมันก็คงไปที่ห้องเลยอะแหละ”
“อือ”
“... ไอ้โจ”
“อะไร”
“มึงจำแผนของเราได้ใช่ไหม”
“โอ้ยยยยย กูจำได้แม่นยิ่งกว่าเบอร์โทรศัพท์น้องกวางอีก”
“ไหนลองทวนสิ เพื่อความชัวร์”
“วุ้วววว... ก็... ให้ช่วยกันพูดสะกิดไอ้เปี๊ยกให้มันเริ่มรู้ตัว จากที่มันไม่คิดก็พูดให้คิด... แล้วก็ทำแบบนี้กับพี่โบ๊ทด้วย”
“ถ้ามันยังไม่ได้ผล...”
“...ก็ให้ยุไอ้ต้าร์ให้จีบใครสักคน แล้วคอยดูปฏิกริยาของพี่โบ๊ท”
“แล้วถ้าพี่โบ๊ทมีอาการหึง...”
“...ก็แสดงว่าพี่โบ๊ทมันคิดไม่ซื่อกับไอ้ต้าร์”
“แต่ถ้าพี่โบ๊ทแม่งนิ่ง...”
“...ก็ลองยุให้พี่โบ๊ทหาแฟนเพื่อลบข้อครหาว่ากินตำแหน่งสามีของไอ้เปี๊ยก”
“แล้วถ้าพี่โบ๊ทไม่คิดจะหา...”
“...ก็ไปยุคนอื่นให้มาจีบพี่โบ๊ทซะเลย”
“เพื่อ...”
“...ดูอาการของไอ้เปี๊ยก”
“ถ้าไอ้ต้าร์มันมีอาการหึง...”
“...ก็เท่ากับแผนเราสำเร็จไปแล้วกว่า 50%”
“แต่ถ้าไอ้ต้าร์เสือกนิ่ง...”
“...มึงกับกูก็ต้องเลิกยัดเยียดความเป็นแฟนให้กับผู้ชายทั้งสองนั้นอย่างเด็ดขาด”
“เยี่ยม!!”
“อืมมมมมม... เดี๋ยวนะมึง...”
“อะไรวะ”
“คิดไปคิดมา กูว่าแผนของเราแม่งซับซ้อนไปวะ กว่าจะรู้เรื่องแม่งก็ใช้เวลาอยู่นะมึง แล้วอีกอย่าง ถ้าทั้งสองคนแม่งปากแข็ง แผนนี้เห็นผลยากวะ”
“แล้วมึงจะเอายังไง”
“กูว่า... เล่นกันแมนๆ เลยดีกว่า”
“แมนๆ?”
“เออ มอมเหล้าแม่งเลย จากนั้นค่อยหลอกถาม”
“โอ้ยยย ถุ๊ย!! นี่นะเหรอที่ว่า [แมนๆ] ของมึง มอมเหล้าเนี่ยนะสาดดด”
“หรือมึงมีวิธีที่ง่ายและเร็วกว่านี้... หือ?”
“...ไม่มี”
“เออ งั้นก็ตามนี้แหละ”
“เริ่มแผนวันไหน”
“วันนี้เลย เอาไหม”
“จัดไป... หึหึหึ”
ทบทวนแผนกันเสร็จก็พากันเดินมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน แต่เพียงไม่นาน ไอ้การ “เดินไปห้องเรียน” ก็ต้องเปลี่ยนเป็น “วิ่งไปห้องเรียน” กันแทนเพราะ...
“ไอ้โจ”
“อะไรอีกมึง”
“กูเคยบอกมึงรึยังว่ากูเพิ่งจะรู้ว่ามึงเองก็มีสมองเหมือนกันนะเนี่ย”
“อืม... ขอบใจ”
“หึหึหึ”
“เอ๊ะ... มึงหลอกด่ากูเหรอ!!”
“เออดิ ฟาย!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ว่าแล้วก็วิ่งหัวเราะร่านำหน้าเพื่อนสนิทไปโดยทันที
“มึงหนีกูไม่พ้นหรอกไอ้ที!!!”
.
.
.
สองคู่หูวิ่งไล่กวดกันไปจนถึงหน้าห้องเรียนซึ่งก็ได้เวลาที่จะต้องหย่าศึกกันด้วยว่าเกรงใจนักศึกษาคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในห้อง โจชี้หน้าคาดโทษเพื่อนสนิทที่ยิ้มกวนตีนได้อย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ แล้วเดินนำเข้าห้องไป
เมื่อไปถึงก็เห็นว่าเพื่อนสนิทของพวกเขามานั่งรออยู่ที่เดิมอยู่ก่อนแล้ว แต่สิ่งที่แปลกออกไปคราวนี้ก็คือว่าต้าร์ไม่ได้นั่งอยู่เพียงลำพัง หากแต่ข้างกายมีรุ่นพี่ร่างสูงหน้าตาคุ้นเคยมานั่งอยู่ด้วย... ภาพตรงหน้าของทีและโจตอนนี้เป็นภาพของเพื่อนสนิทและรุ่นพี่ของพวกเขานั่งชิดกัน... สุมหัวเล่นอะไรสักอย่างที่ดูแล้วคาดว่าน่าจะเป็นเกมจุดที่สองคนนี้มักจะใช้ดวลฝีมือกันฆ่าเวลาอยู่เสมอ และก็คงจะเป็นเกมที่โบ๊ทไม่เคยชนะต้าร์ได้เลยสักครั้งเดียว คราวนี้ก็เป็นไอ้เปี๊ยกนั่นแหละที่นั่งหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ส่วนสีหน้าก็มีแสดงความกวนประสาทออกมาอย่างไม่ต้องเกรงใจคู่แข่งเลยแม้แต่น้อย... ไอ้ทีก็ข่มมันเข้าไปนะไอ้เปี๊ยก
“มึงๆๆ” โจสะกิดทีที่เดินมาข้างกัน
“เออ กูเห็นละ” ทีตอบโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากเพื่อนและรุ่นพี่ของพวกเขา
“หึ! ต่อให้ไม่ต้องเป็นมึงหรือกูก็ต้องรู้สึกละวะ ว่าสองคนนี้แม่ง... แฟนกันชัดๆ”
“ทางพฤตินัยอะใช่เว้ย แต่แม่งยังไม่ยอมรับกันเฉยๆ หรอก”
“เดี๋ยวเจอกรอกเหล้าเข้าไป ดูสิยังจะปากแข็งอยู่ไหม หึหึหึ”
“หึหึหึ”
“วะ ฮ่ะๆๆๆๆ”
“วะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เอ่อ... หัวเราะกันแบบนี้เลยเหรอ... ไหนว่าเกรงใจคนอื่นๆ ในห้องไงละ ห๊ะ??
.
.
ทีและโจเดินอารมณ์ดีไปทักโบ๊ทและต้าร์อย่างเนียนๆ แต่ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ต้าร์ ทีก็อดไม่ได้ที่จะขอแซวเพื่อนสักดอกเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้กับแผนการสุดล้ำ(?)ของพวกเขา
“แหม่ๆๆ วันนี้มีคนมานั่งคุมแบบนี้ ท่าทางสาวคนนั้นจะไม่กล้าเดินเข้ามาถามอะไรมึงแน่เลยไอ้ต้าร์” พูดไปแบบนี้เรียกความสนใจจากทั้งร่างเล็กและร่างสูงได้เป็นอย่างดี เงยหน้าจากกระดาษเกมจุดขึ้นมามองด้วยความสงสัยในคำพูดของที
“คนไหนวะ”
“ห่า พูดอย่างกับว่ามึงมีหลายคนนะสาดดดด”
“... อ้อออออ คนที่ขาวๆ ที่ชอบเดินมาถามเรื่องกราฟ demand-supply นะเหรอ”
“เอ้อออออ คนนั้นแหละ” โจเสริมพลางชะเง้อมองไปทางหน้าห้อง
“แล้วเกี่ยวอะไรวะ ทุกทีกูก็ไม่ได้นั่งคนเดียวสักหน่อย ก็นั่งกับหมาอย่างมึงกับไอ้โจตลอด วันนี้ก็แค่เพิ่มลิงมานั่งด้วยอีกตัวจะเป็นไรไปวะ... โอ้ย! โอ้ย! โอ้ย! เชี่ย!! โอ้ย!” ปากดีไม่ดูตำแหน่งของตัวเอง โดนขนาบทั้งซ้ายและขวาแบบนี้เลยโดนโบกไปซะสามดอก แถมหันไป [เชี่ย] ใส่ไอ้คุณโบ๊ททั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ เลยโดนไปอีกดอกเป็นของแถมแบบไม่ต้องขอ
“มึงนี่นะ ไม่เคยรู้ห่าอะไรกับเขาหรอก มึงต้องดูที่แววตาเว้ย แววตานะ มึงเคยสังเกตไหม เขาสนใจมึงชัวร์ๆ ไม่งั้นไม่เดินมาหาเรื่องถามมึงทุกคาบหรอกสาดดดด”
“แววตาเชี่ยไร ไอ้สลัด!”
“ไหน คนไหน” โบ๊ทเอ่ยถามขึ้นพลางกวาดตามองไปทั่วห้อง นั่งหลังห้องแบบนี้เลยมองสะดวกหน่อย
“คนนั้นอะพี่... ที่ขาวๆ หน้าหมวยๆ ผมยาวกลางหลังคนนั้นอะพี่” โจพูดพลางชี้นิ้วนำสายตาร่างสูงตรงไปยังผู้หญิงผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่นั่งอยู่แถวสองหน้าห้อง
“เหอะ... ไม่เห็นน่ารักเลย” ถึงโบ๊ทพูดหน้าตาย แต่ไอ้แววตาขุ่นๆ แบบนี้แหละที่โจและทีอยากเห็น หึหึหึ
“อะโด่ อิจฉาอะเด้” ต้าร์อดหมั่นไส้กับท่าทางของร่างสูงข้างๆ ไม่ได้ ทำเป็นว่าคนอื่นไม่น่ารัก นิสัย!!
“ใครจะไปอิจฉาเอ็งวะเปี๊ยก แค่มีคนมาสนใจนิดๆ หน่อยๆ ก็ทำเป็นยืดนะ” อืมมมมม อันนี้ไม่มีอะไรจะไปขัดหรือไปเถียงอะนะ เพราะว่าไอ้เจ้าโบ๊ทเองก็มีคนมาสนใจอยู่จำนวนหนึ่งเลยพูดได้
“ไม่ได้ยืดสักหน่อย ก็แค่เห็นว่าเขาก็น่ารักดี แต่บางคนแม่งตาถั่วไปว่าเขาว่าไม่น่ารัก” ณ จุดนี้ ถ้ามีป๊อปคอร์นขาย ทีและโจคงได้ซื้อมานั่งดูกันเพลินๆ แล้วละ ดูคู่นี้เขาเถียงกันเนี่ย
“ก็พอใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้น่ารักอะไรขนาดนั้นสักหน่อยนิ” ร่างสูงพูดหน้าตายพลางยักไหล่
“ชิ... ไอ้ที มึงไปขอเบอร์เขามาให้กูหน่อย กูจะจีบคนไม่ค่อยน่ารักสักหน่อย”
“ห๊ะ?” ทีนั่งทำหน้างงกับความคิดของต้าร์ หันไปมองหน้าโจก็พบว่ามีสีหน้าไม่ต่างกันเท่าไร
“อุ๊บส์... ฮ่าๆๆๆๆๆ อย่างเอ็งเนี่ยนะจะไปจีบสาว”
“แล้วทำไมจะจีบไม่ได้ละ!”
“เหอะเหอะ... ถามจริง ล่าสุดที่เอ็งมีแฟนเนี่ย เมื่อไรวะ” ถามแบบนี้ใจร้ายมากนะไอ้โบ๊ท!! (กระทบคนเขียนเต็มๆ)
“ฮึ่ยยยยย!! ถึงผมจะโสดมานาน แต่ครั้งล่าสุดที่ผมมีแฟนก็คบกันสองปีกว่านะเฟ้ย ไม่ใช่สองวันเหมือนใครบางคนแถวนี้”
“ไอ้เปี๊ยก!!” โดนจี้ใจดำเข้าไปเต็มๆ ทำเอาร่างสูงหุบยิ้มเยาะแทบไม่ทัน
และแล้วศึกคารมครั้งนี้ก็ต้องหยุดกลางคันเมื่ออาจารย์เดินเข้าห้องมา... ร่างสูงและร่างเล็กจ้องกันตาแทบจะลุกเป็นไฟก่อนจะคว้าปากกาแล้วก้มหน้าก้มตาลงไปดวลกันต่อด้วยเกมจุดบนแผ่นกระดาษ ทั้งคู่ดูเอาจริงเอาจังมากกว่าทุกที เล่นเกมเร็วทั้งรุกและรับ รุกไล่ ดักทาง และฟาดฟันกันด้วยปากกาแดงและปากกาน้ำเงิน
.
.
สิบโมงครึ่ง ได้เวลาพักครึ่งของทีต้าร์โจและได้เวลาเข้าเรียนของโบ๊ท... ทั้งสี่หนุ่มเดินออกจากห้องเรียนเพื่อไปหาซื้อขนมและเข้าห้องน้ำ ร่างเล็กเดินอารมณ์ดีนำเพื่อนๆ ไปยังร้านสะดวกซื้อในมหาวิทยาลัย ทีและโจก็เดินยิ้มกรุ่มกริ่มไปตลอดทาง ส่วนร่างสูงก้เดินตามด้วยสีหน้าขุ่น... ขุ่นเพราะว่าแพ้เกมจุดอีกตามเคย แถมคราวนี้โดนไอ้เปี๊ยกถล่มซะราบคาบ... น่าจะเป็นเพียงสิ่งเดียวบนโลกนี้ที่ไม่เคยชนะมันเลยสินะ พับผ่าสิ!!
“เอาน่าพี่โบ๊ท แค่เกมปัญญาอ่อน ปล่อยให้ไอ้เปี๊ยกมันชนะไปเหอะ” โจเดินไปเกาะไหล่รุ่นพี่หน้าบูดพลางปลอบใจ
“มึงว่าเกมจุดเป็นเกมปัญญาอ่อนเหรอ!!” ไอ้เปี๊ยกได้ยินก็หันควับมาโวยวายใส่ในทันที บังอาจมาว่าเกมที่เขาภูมิใจในความสามารถของตัวเองแบบขั้นเทพ สำหรับต้าร์แล้วมันคือเกมแห่งซักดิ์ศรีลูกผู้ชายเลยนะ
“ใช่แล้วละพี่โบ๊ท อย่าไปใส่ใจอะไรเลย เอาไว้พี่แพ้วินนิ่งไอ้เปี๊ยกค่อยว่ากัน” ทีเสริมขึ้นมาโดยที่ไม่ได้สนใจท่าทางของเพื่อนร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย
“วินนิ่งกูก็ไม่แพ้หรอกเว้ย!!” อืมมม โวยวายเข้าไปนะต้าร์
“อย่าเพิ่งไปเซ็งให้เสียอารมณ์เลยพี่... เอางี้พี่ วันนี้ไปกินเหล้ากันดีกว่า” นั่นไง ไอ้ทีเริ่มดึงเข้าแผนจนได้ ถ้าลากโบ๊ทไปได้ ไอ้ต้าร์ก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไปกินเหล้าวะมึง” ต้าร์นึกสงสัยขึ้นมาก็เลยถามด้วยสีหน้างงๆ
“ก็... แดกเหล้าแล้วอารมณ์ดีไง สาดดด ไม่รู้เรื่องเลยนะมึง” โจก็แถไปได้นะนั่น
“เออ เหล้าทำให้คึกครึ้นไง” ทีเสริม ช่วยกันแถจนสีข้างจะถลอกอยู่แล้ว
“แล้วอย่าลืมว่าวันนี้บริกบาร์วงดนตรีสดเจ๋งสาดนะพี่”
“อืมมมม” โบ๊ทคิดตามแล้วพยักหน้า
“เออใช่ วงนั้น อ๊ากกกกก สัปดาห์ที่แล้วกูพลาด!!” เออ ใช่เอ็งอะพลาด แถมยังเกือบพลาดท่าเสียตัวอีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ
“มึงก็อยากไปใช่ไหมละ ต้าร์” ถึงจะหันหน้าไปพูดกับต้าร์ แต่หางตาของโจก็ยังคงคอยสังเกตปฏิกริยาของโบ๊ทอยู่ตลอด... ไอ้เจ้าต้าร์ก็พยักหน้าตอบ แต่...
“วันนี้ไปไม่ได้วะ” ตึง!!! ร่างสูงพูดออกมาเสียงเรียบ ทำเอารุ่นน้องอีกสามคนหุบยิ้มไปตามๆ กัน
“ทำไมอะ!” ร่างเล็กถามเสียงสูง
“วันนี้เอ็งลืมแล้วเหรอว่าจะไปไหนกัน หืมมม”
“อ้อออออ เกือบลืมแล้วไหมละ” เอ่อ ต้าร์ แบบนี้มันไม่เรียกว่าเกือบแล้วละนะ
“ไปไหนวะ” ทีสงสัย
“พอดีคุณโบ๊ทต้องไปซื้อของขวัญให้พี่ชายนะ”
“ซื้อวันหลังไม่ได้เหรอพี่”
“ไม่ได้วะ วันเกิดเฮียพี่วันพฤหัสนี้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ก็เรียนบ่าย เลิกเย็น ก็เลยว่าจะไปเดินดูวันนี้เลย”
“ว้า
เสียแผนหมด” โจบ่นเสียงแผ่ว แอบเสียดายที่ไม่สามารถมอมไอ้เปี๊ยกวันนี้ได้
“ห๊ะ? อะไรนะ”
“อ้อ เปล่าพี่ ไม่มีอะไร แฮะๆ” โจปฏิเสธรัว เมื่อหันไปมองหน้าทีก็เห็นมันตีหน้ายักษ์ใส่... เกือบหลุดแล้วไหมละ
“เอาไว้ไปกันวันพรุ่งนี้ดิ พี่จะได้กลับบ้านคืนนั้นเลย เพราะยังไงวันพฤหัสก็ต้องอยู่บ้านอยู่ดี เผื่อว่าจะกินข้าวกับครอบครัวฉลองวันเกิดเฮียพอดี” สิ่งที่โบ๊ทพูดออกมานั้น ทำเอาทีและโจยิ้มออกอีกครั้ง... เอิ่ม หมายถึงยิ้มมุมปากอะนะ
“พรุ่งนี้ก็ได้พี่ หึหึหึ”
ส่วนร่างเล็กก็พยักหน้าไปตามน้ำ เอาไงเอากัน จะไปพรุ่งนี้ก็โอเค... อืมว่าแต่ คุณโบ๊ทจะกลับไปนอนที่บ้านเหรอ... คิดไปคิดมาต้าร์ก็หุบยิ้มลง... นึกๆ แล้วก็ใจหายที่คุณโบ๊ทจะกลับไปนอนที่บ้าน ไม่กลับคอนโดฯ... นี่เขาจะต้องจ่ายเงินค่าแท๊กซี่กลับคอนโดฯ เหรอเนี่ย!!! คิดแล้วก็โวยวายอยู่ในใจ... ม่ายยยยยยยยยยย!!!
โทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นไอ้เต็มเพื่อนสนิทของเขานั่นเองที่โทรมา โบ๊ทรับโทรศัพท์ คุยอยู่สามสี่ประโยคแล้ววางสายก่อนจะบอกลารุ่นน้องทั้งสาม...
“เดี๋ยวเลิกแล้วจะโทรมา ห้ามเถลไถล” ก่อนจะไปยังไม่วายหันมากำชับกับรุ่นน้องร่างเล็กคนสนิทที่ฟังแล้วก็เบ้ปากหรี่ตามองเขาแทนคำตอบใดๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าเข้าเรียนสายแล้วก็คงจะได้วกกลับมาเตะก้นเล็กๆ นั้นสักสองสามปาบชัวร์ๆ
.
.
.
ที่ร้านสะดวกซื้อ สามหนุ่มเดินเลือกของอยู่สักพักก็ได้น้ำมาคนละขวด... ต้าร์ได้ชาเขียวรสน้ำผึ่งผสมมะนาว ทีได้น้ำอัดลมรสรูทเบียร์ ส่วนโจได้นม UHT... เมื่อจ่ายตังค์ครบก็ได้เวลาเดินกลับห้องไปเรียนต่ออีกครึ่งคาบ
ระหว่างทางกลับห้องนั้นเอง โจที่กำลังคึกคะนองในแผนการของตัวเองนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตอดเล็กตอดน้อยเป็นการดูเชิงเพื่อนร่างเล็ก นี่ถ้าแผนสำเร็จแล้วทำให้ไอ้เปี๊ยกปากแข็งนี่ยอมรับได้ละก็ จะเป็นครั้งแรกในรอบสามปีเลยละที่ไอ้เปี๊ยกยอมพูดเรื่องความรู้สึกของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง เพราะปกติมันมักจะปิดปากเงียบ
“นี่ ไอ้ต้าร์”
“หืม” ต้าร์ตอบพลางยกขวดน้ำขึ้นดื่ม
“มึงกับพี่โบ๊ทไปถึงขั้นไหนกันแล้ววะ”
“พรวดดดดดดดดด... แค่ก แค่ก แค่ก!!” เจอคำถามที่ไม่ค่ดคิดแบบนั้นเข้าไป ทำเอาร่างเล็กสำลักชาเขียวจนจมูกแดง
“ฮ่าๆๆๆๆ กูถามตรงไปเหรอวะ สำรัก เอ้ย สำลักเลยนะสาดดด”
“ไอ้สลัด มึงถามเชี่ยไรเนี่ย”
“อ้าว เมื่อกี๊มึงไม่ได้ยินเหรอว่ากูถามว่าอะไร... งั้นเดี๋ยวกูตะโกนถามมึงใหม่นะ เอาให้คนแถวนี้เขาได้ยินกันให้หมดเลยดีไหม”
“เฮ้ย ไม่ต้องๆๆๆๆๆ กูได้ยินแล้ว เชี่ย!”
“ดี งั้นก็ตอบกูมา”
“เฮ้ออออออ... พวกมึงฟังกูดีๆ นะว่ากูกับไอ้ลิงภูเขานั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้มีอะไรกัน... ชัดไหม”
“เหรอวะ... มึงเชื่อมันปะไอ้ที” โจตีหน้าตายไม่ตื่นเต้นกับคำตอบแล้วหันไปขอความเห็นคู่หู
“เชื่อก็ควายแล้ว”
“เอ้า อะไรของพวกมึงเนี่ย”
“ต้าร์... พวกกูเป็นเพื่อนมึงมาตั้งแต่ม.หนึ่ง ทำไมพวกกูจะไม่รู้จักเพื่อนกูวะ มึงยอมรับมาเหอะ พวกกูไม่ว่าอะไรหรอก”
“พวกมึงแม่งประสาทไปกันใหญ่แล้ว ต่อให้มึงจะว่ากูหรือไม่ว่ากูคำตอบก็ไม่เปลี่ยนเว้ย... แม่ง ช่วงนี้เจอคำถามแบบนี้บ่อยจังวะ”
“อ้าว มีคนถามมึงเหมือนกันเหรอวะ”
“อืม”
“เห็นไหม ใครๆ ก็คิดว่ามึงกับพี่โบ๊ทเป็นแฟนกันทั้งั้นแหละ... ว่าแต่ว่า ใครวะที่ถามมึง” ทีและโจทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มที ต้าร์ทำหน้าหน่ายกับท่าทางของเพื่อนสนิททั้งสอง
“พวกมึงอยากรู้มากปะ”
“มาก” ทีตอบแบบไม่ต้องคิด
“งั้นพวกมึงเอาหูมา” ว่าแล้วทีและโจก็ทำตามอย่างว่าง่าย ยื่นหูเข้าไปหาต้าร์อย่างไม่รีรอ
.
.
“เสือก!!!” ...เต็มๆ เลยไหมละที-โจ ฮ่าๆๆๆๆๆ... เอ้า แล้วมัวแต่ยืนเอ๋อกันอยู่นั่นอะ ไอ้เปี๊ยกชิ่งนำกลับห้องไปแล้ว!!!
.
.
.
กีต้าร์เดินกลับห้องเรียนโดยที่มีคำถามคาใจอยู่ตลอดเวลา... เขากับไอ้คุณโบ๊ทเนี่ยนะที่เหมือนคนเป็นแฟนกัน... ฮึ่ยยย ไม่ใช่หรอก ไร้สาระนะ!!
ถึงจะบอกตัวเองไปแบบนั้น แต่ไอ้คำถามกวนใจนั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวไม่เลิกราไปตลอดคาบ พาลทำให้เกิดคำถามอื่นๆ ขึ้นมาอีกเป็นขบวน เช่น ทำยังไงถึงเรียกได้ว่าเป็นแฟนกัน... ผู้ชายกับผู้ชายเนี่ยนะ... ถ้าไอ้คุณโบ๊ทรู้ว่าคนอื่นคิดแบบนั้นแล้วจะทำยังไง จะปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดเลยไหมนะ... แล้วถ้าเป็นโต้งละ ไอ้คุณโบ๊ทจะว่ายังไง...
ท่าทางเหม่อลอยของต้าร์ทำให้ทีและโจพอใจอยู่ไม่น้อย ท่าทางคำถามสะกิดใจจะได้ผลเว้ยเฮ้ย หึหึหึ... แต่ไอ้ท่าทางเหม่อลอยนั้นก็ต้องหายไปเมื่อมีข้อความ sms ของร่างสูงมากวนประสาท สุดท้ายเลยกลายเป็นว่านั่งยิ้มมุมปากบ้าง คิ้วขมวดบ้าง หัวเราะในลำคอบ้าง นั่งเป็นบ้าง่วนอยู่กับโทรศัพท์มือถือนั่นแหละ...
.
.
เมื่อเลิกเรียน ต้าร์ยังต้องรอร่างสูงอีกชั่วโมงครึ่ง ตามปกติต้องรอร่างสูงเลิกเรียนจึงจะได้กินข้าวกลางวัน เลยไปหาซื้อลูกชิ้นมานั่งกินรองท้องกันที่โต๊ะหินอ่อนริมสระน้ำกลางมหาวิทยาลัย... เมื่อรองท้องกันเสร็จก็ได้เวลาพักผ่อนตามอัธยาศัย... คู่หูทีโจก็หยิบเอาการ์ตูนเล่มโปรดขึ้นมานั่งอ่าน ส่วนต้าร์ก็นั่งเล่นเกมและฟังเพลงไป... เหมือนจะสบายอารมณ์จนกระทั่ง...
“ไอ้ต้าร์ มึงยังไม่ตอบกูเลยนะ”
“ตอบไร เชี่ยโจ”
“เรื่องมึงกับพี่โบ๊ท”
“เอ้า ไอ้สลัด กูก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน” พูดพลางหันไปทางทีด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ แต่ก็โดนเมินซะงั้น ต้าร์เลยเปลี่ยนสายตาเป็นสายตาคาดโทษแทน
“มึงแน่ใจเหรอต้าร์ คิดก่อนตอบได้นะ”
“กูคิดแล้ว”
“พวกกูไม่ว่าอะไรจริงๆ นะเว้ย ถ้ามึงจะเป็นแฟนพี่โบ๊ทอะ”
“ตลกละ”
“ตลกห่าไร กูจริงจังนะเนี่ย สาดดด”
“จริงจังบ้านมึงดิ กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่มีอะไรในกอไผ่ โอเค๊?”
“งั้นมึงต้องสาบานกับกูต่อหน้าสระเป็ด”
“ห๊ะ?”
“สาบานสิว่ามึงไม่ได้โกหก ถ้าโกหกหรือปิดบังพวกกู ขอให้มึงเป็นโสดไปตลอดชีวิต เอาแบบ อกหัก-รักคุด-ตุ๊ดเมิน เลยนะ”
“...เฮ้อออออออ มึง” ต้าร์ถอนหายใจให้ความคิดของเพื่อนสนิทก่อนจะชิ่งใส่หูฟังแล้วปิดโสตประสาทรับรู้เรื่องภายนอก... แต่ในใจก็ยังไม่สงบลงง่ายๆ หรอกนะ
ร่างเล็กกดปุ่ม play เพื่อฟังเพลงจากไอพอด เพลงแรกที่สุ่มเปิดมานั้นเป็นเพลงของวงอินดี้น้องใหม่ที่กำลังดังในหมู่คนฟังอินดี้ เพลงนั้นชื่อว่า
“โปรดติดตามตอนต่อไป”.
.
.
-------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
ที่โต๊ะหินอ่อนทีกับโจนั่งเถียงกันเรื่องพระเอกของการ์ตูนเรื่องโปรดของตัวเอง... ทีเชียร์ลูฟี่จากวันพีซ... ส่วนโจเชียร์นารุโตะจากนินจาคาถาฯ... ต่างคนต่างดึงเอาพลังต่างๆ ของตัวละครที่ตนชอบมาทับถมอีกฝ่ายเพื่อให้เห็นว่าใครเก่งกว่าใคร แต่เถียงกันยังไงก็ไม่จบสักที ก็เลยต้องหาคนช่วยตัดสินที่เป็นกลาง...
มองซ้ายมองขวาไม่เจอใครนอกจากไอ้เปี๊ยกที่นั่งเล่นเกมใน iPod Touch อยู่อย่างสบายอารมณ์... สำหรับทีและโจแล้ว นี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่มีใครแล้วนอกจาก... ไอ้เปี๊ยกนี่แหละ
ที: ไอ้ต้าร์
กีต้าร์: หืม?
ที: มึงช่วยตัดสินให้พวกกูหน่อยดิ ว่าลูฟี่กับนารุโตะใครเก่งกว่า
โจ: กูว่านารุโตะเจ๋งกว่าอยู่แล้ว
ที: มึงอย่า ไอ้โจ อย่ามาไซโคกรรมการกลางแบบนี้นะมึง สาดดด
กีต้าร์: (//นั่งมองปริบๆ)
โจ: โธ่ ดูยังไงก็เห็นอะมึงว่านารุโตะเจ๋งกว่า ใช้วิชาแยกเงาพันร่างแล้วซัดลูฟี่มึงด้วยกระสุนวงจักร รับรองลูฟี่มึงหายไปจากโลกนี้ซี้แหง
ที: โห อ่อนๆ เลยอะนารุโตะมึง ลูฟี่กูมีฮาคิ เดี๋ยวใส่เกียร์สี่ซัดนารุโตะมึงตัวแตกไม่ทันได้แยกร่างเลย สาดดดดด
กีต้าร์: เฮ้ออออ (//มองเพื่อนทั้งสองคนแล้วถอนหายใจให้กับความปัญญาอ่อนของเพื่อนๆ)
โจ: ต้าร์มึงดูท่านารุโตะซะก่อน (//ยื่นหนังสือการ์ตูนให้ต้าร์)
ที: เออ ดูลูฟี่ของกูด้วย จะได้เห็นๆ กันไปเลย (//ยื่นหนังสือการ์ตูนให้ต้าร์)
กีต้าร์: ไหนๆ (//รับมาทั้งสองเล่มแล้วพิจารณา)... อืม อืมมม
ที: ว่าไงมึง ใครเก่งกว่า
กีต้าร์: พวกมึงไม่ต้องเถียงกัน... คนที่แกร่งที่สุดคือ “กู”
ที + โจ: ห๊ะ?
กีต้าร์: มึงดูนะ... (//โยนหนังสือการ์ตูนลงพื้นทั้งสองเล่มแล้วขึ้นไปยืนเหยียบ... เท้าซ้ายเหยียบวันพีซ... เท้าขวาเหยียบนารุโตะ)
ที + โจ: เชี่ย!!
กีต้าร์: เห็นมะ ลูฟีกับนารุโตะของพวกมึงพ่ายแพ้ต่อกูราบคาบ สรุป... กู เก่ง ที่ สุด... ฮ่าๆๆๆ
ที: ฮืมมมมมมม
โจ: กรอดดดดดด...
กีต้าร์: (//ยิ้มแป้น)
ที: มึงเก่งสุดใช่ไหม... งั้นหลบตีนกูให้ได้ละกันนะไอ้เชี่ยต้าร์!
กีต้าร์: เฮือก!! (//หุบยิ้มแล้วออกตัววิ่งใส่เกียร์แมวทันที)
โจ: มึงอย่าหนีนะไอ้ต้าร์!!
ที: เฮ้ยยย จับมันไว้!!!
-------------------------------------------------
FlapJack's Corner:
ผ่านปีใหม่มาสองวันกันแล้ว เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าจะยังคงปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรงกันดีเช่นเดิมกันทุกคนนะครับ
สำหรับตอนนี้ก็เปิดปีใหม่กันด้วยแผนการสุดล้ำ(?)ของคู่หูรักยมกันเลยละกัน แต่ผลจะเป็นอะไรยังไงก็ต้องคอยติดตามกันเนอะ รับรองได้เลยว่าเซอร์ไพรซ์อีกหลายตลบ ฮ่าๆๆๆๆ
@KURATA ใช่แล้วครับ หวานน้อยๆ แต่พองาม หวานมากเดี๋ยวน้ำตาลขึ้น
@pim_onelove แต่ต้าร์มันยืนยันนะว่าหมายถึงต่อสกุลจริ๊งจริง
@RGB.__ "ตอนพิเศษคริสมาสต์ บรรยากาศดี" >>> เสียดายที่ลงไม่ทันวันคริสต์มาสอะ
@ooopimmyooo ตอนนี้แผนออกมาแล้วนะ ล้ำสุดๆ
@JingJing ผมต้องขอยอมรับว่าเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า "ซึน" ไม่นานมานี้เองครับ
@- คราส - ไม่ใช่ T Torsakul ต่างหากละ เชื่อเขาหน่อยเหอะนะ
@yunjae55 "ฝากบอกโต้ง ทำใจเถอะ แล้วมาซบอกเค้ามา" >>> ถ้าอกแบนเหมือนโบ๊ท โต้งคงยอมไปอะครับ
@wijii แหม่ๆ หวานเบาๆ น่า
@malula ก็เพราะว่าเป็นแบบนี้แค่เวลาอยู่ด้วกันสองต่อสองนะสิ แล้วใครมันจะไปรู้ละ
@princegolf ก็เกือบได้ไปต่อกันในสน.แล้วละ
@TifaReira สำหรับปีนี้ในเนื้อเรื่องมันยังไม่ถึงวันคริสต์มาสอะนะ เลยไม่ได้เขียนครับ
@sakurai นั่นสิ ไม่รู้ต้าร์มันจะเป็นยังไงถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ
@imonkey mc เชื่อเขาหน่อยสิว่า T Torsakul จริงๆ นะ
@iforgive ใช่แล้วครับ ชื่อจริงของคุณโบ๊ทคือ ต่อสกุล ครับ
@greensnake โห กล้าฝากความหวังไว้กับไอ้เจ้ารัก-ยมเชียวเหรอ กล้ามากนะนั่น
@a_tapha หน้าใหม่นี่นา มาๆ กอดตอนรับที
@yeyong เขาเป็นเพื่อนพี่น้องกันจริ๊งจริง ไม่เชื่อถามต้าร์ดูสิ
@noomasoi3 ขอให้ความสุขมากๆ เช่นกันนะครับ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและกำลังใจนะครับ
@Theznux นี่ก็หน้าใหม่นิ มาๆ กอดต้อนรับ ห้ามขัดขืน
ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรปีใหม่นะครับ ขอให้พรนั้นกลับไปหาทุกคนคืนเป็นเท่าทวีคูณนะครับ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ เจอกันตอนหน้าครับ
ปล. กำลังพยายามไล่กด + ให้ทุกคนอยู่นะครับ พอดีเนทเน่ามาก อาจช้านิดหน่อยนะ