LOVE HIGH STORY – interlude – CinderelTAR | ซินเดอเรต้าร์ [Valentine’s Special]กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ณ คฤหาสกลางป่าใหญ่
“ซินเดอเรต้าร์!!!!!! มานี่เดี๋ยวนี้เลย!”
ชายหนุ่มร่างเล็กสะดุ้งเล็กๆ ก่อนวางตะหลิวและอุปกรณ์ทำครัวทุกอย่างแล้ววิ่งหน้าตั้งออกจากครัวไปตามเสียงเรียกของพ่อเลี้ยงที่เขาเรียกว่า “คุณเต็ม” ตะโกนโหวกเหวกมาจากห้องนอนบนชั้น 3... ในใจก็นึกสงสัยว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นเจ้าของคฤหาสตามพินัยกรรมที่ท่านพ่อทำไว้ก่อนสิ้นลม แต่ทำไมถึงต้องมาถูกพ่อเลี้ยงกดขี่ใช้แรงงานเยี่ยงทาสเช่นนี้... แต่คิดยังไงก็ไม่เคยได้คำตอบ เพราะว่าคิดได้สักพักก็โดนเรียกใช้งานไม่ขาดปาก เลยไม่มีเวลาคิดจริงๆ จังๆ สักที
“ไอ้ซินเดอเรต้าร์!!!!”
“มาแล้วๆๆๆๆๆๆ... เรียกทำไมเนี่ย คนกำลังทำข้าวเช้า... เดี๋ยวทำให้กินช้าแม่งก็บ่นอีกอะ”
“ไม่ต้องพูดมาก! แกไม่มีสิทธิ์บ่น!”
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์วะคุณเต็ม นี่มันบ้านผมเหอะ”
“ใช่สิ นี่มันบ้านของแก แต่อย่าลืมนะว่าข้าเป็นผู้ดูแลคฤหาสและทรัพย์สมบัติทุกชิ้นของแกตามคำสั่งเสียของพ่อแก!”
“...”
“หึหึ”
“เอาเหอะ ผมแต่งงานเมื่อไร มรดกก็จะเป็นของผมอย่างสมบูรณ์... คอยดูนะ วันนั้นคุณเต็มจะโดนไม่ใช่น้อย”
“หึ! แกคิดเหรอว่าชาตินี้แกจะได้แต่งงาน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ... ฝันไปเถอะ!! เพราะข้าจะใช้งานแกให้แกทำงานตั้งแต่เช้ามืดยันรุ่งสางทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน... แกไม่มีทางได้มีเวลาไปหาคนมาแต่งงานด้วยแน่ๆ และสุดท้าย ข้าก็จะฮุบสมบัติทุกชิ้นของแก... ส่วนแก ก็ต้องกลายเป็นทาสรับใช้ข้าและลูกๆ ไปตลอดชีวิต ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ท่าจะบ้า ใครจะไปยอมวะ”
“ไม่ต้องมาต่อปากต่อคำ... น้ำแช่เท้าของข้าอยู่ไหน บอกแล้วใช่ไหมว่าข้าต้องแช่เท้าด้วยน้ำแร่จากฝรั่งเศสทุกวันในตอนเช้าหลังตื่นนอน แต่สายป่านนี้แล้วทำไมถึงยังไม่เตรียมน้ำไว้ให้ข้าอีกห๊ะ ไอ้ซินฯ ต้าร์!”
“โอยยยยยย ทำคนเดียวหลายอย่างเลยเหอะ ทั้งซักผ้า ตากผ้า กวาดคฤหาส ถูคฤหาส ทำกับข้าว ตัดหญ้า ให้อาหารนก ซ่อมหลังคา วิดน้ำ แบกน้ำ... จะเอาเวลาไหนไปฝรั่งเศสเพื่อซื้อน้ำแร่มาให้แช่เท้าวะครับ ห๊ะ?”
“ยังจะเถียงอีก!! แก!! แกมันร้ายมาก! อ๊ากกกกกกกกกกก!!!” พ่อเลี้ยงโวยวายอย่างบ้าคลั่งอยู่บนเตียงหลุยส์ขนาด 18 ฟุตซึ่งเคยเป็นเตียงของซินเดอเรต้าร์ก่อนที่เขาจะโดนระเห็จให้ไปนอนที่ห้องใต้หลังคา
ในตอนนั้นเอง “แบงก์” และ “ว่าน” ลูกชายทั้งสองของคุณเต็มก็เดินผ่านมาได้ยินเสียงโวยวายของพ่อตัวเองพอดี เลยพากันสาวเท้าไปยังห้องต้นเสียงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“พ่อ เป็นไร... นี่ ไอ้ซินเดอเรต้าร์ แกทำอะไรพ่อข้า!” แบงก์หันไปถามพ่อของตัวเองก่อนจะหันไปตีหน้ายักษ์ใส่ร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างเตียง
“โอยยยยย ไม่ได้ทำอะไรเลยเหอะ” ร่างเล็กเอ่ยเสียงเซ็ง
“จริงเหรอพ่อ” เมื่อวานเห็นร่างเล็กปฏิเสธก็เลยหันไปถามคุณเต็มผู้เป็นพ่อ
“แกไม่ต้องมาโกหก!! แกมันร้ายมา ไอ้ซินฯ ต้าร์!!! ไปเลยนะ ไปทำงานบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ ไป!!!” คุณเต็มโหวกเหวก ชี้นิ้วไล่ร่างเล็ก
“เออ... สรุปว่าน้ำแร่แช่เท้านี่เอาไงเนี่ย?”
“ไม่องไม่เอามันแล้ว!!! ไปทำอาหารเช้ามาเสิร์ฟเดี๋ยวนี้เลยนะ ไป!!”
“เออ ไปก็ได้ ไล่จังเลยเว้ย... แต่ขอถามก่อนว่าจะกินอะไร ผักหรือเนื้อ”
“อืมมมมมม... เอาผัก”
“จะเอาผักอะไร”
“อืมมมมมม... ดอกกะหล่ำ”
“จะลวกกินกับน้ำพริกหรือจะให้ผัด”
“อืมมมมมม... เอาผัดดีกว่า ใส่กระเทียมเยอะๆ ด้วยนะ”
“กระเทียมสดหรือกระเทียมเจียว”
“เอาสด”
“หั่นแว่นหรือสับ”
“เอาหั่นแว่.... โอ้ย!! นี่จะถามอะไรเยอะแยะเนี่ย!! ไปทำๆ มาเหอะน่า!!! ไป!!!! อ๊ากกกกกก!!!”
“ใจเย็นนะพ่อ... เอ้า ไอ้ซินฯ ต้าร์ ยังจะยืนทำตัวเปี๊ยกอยู่ได้ ไปสิ ไปทำอาหารมาเสิร์ฟพ่อข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!” แบงก์หันมาพูดชักสีหน้าใส่ร่างเล็ก... เมื่อเห็นเช่นนั้นร่างเล็กก็เลยขี้เกียจพูดอะไรต่อ เดินออกมาเงียบๆ แล้วกลับเข้าครัวไป
“มันกวนตีนอะไรพ่อแต่เช้า” ว่านหันไปถามพ่อเต็มหลังจากที่ร่างเล็กเดินพ้นประตูไปสักพัก
“หึ! มันร้ายมาก! มันแผนสูงนัก!... พวกเราต้องหาทางกีดกันมันสุดชีวิตเลยนะลูกแบงก์ลูกว่าน... ไอ้ซินฯ ต้าร์มันคิดจะหาคู่แต่งงานเพื่อจะให้ครบเงื่อนไขมรดก... และถ้าถึงวันนั้น มันขู่พ่อไว้ว่าพวกเราจะโดนมันเอาคืน! พวกเราทั้งสามหน่อจะไม่มีที่ซุกหัวนอนเอาได้นะลูก”
“โห มันร้ายจริงๆ ด้วยนะพ่อ... งั้นเราต้องวางแผนไม่ให้มันได้แต่งงาน” แบงก์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย
“ว่าแต่... มันจะแต่งกับใครเหรอ” ว่านนึกสงสัย
“อืมมม พ่อก็ไม่รู้นะ แต่พ่อก็สั่งงานมันให้ทำตั้งแต่เช้ามืดยันรุ่งสางแล้วนะลูก มันคงไม่มีเวลาไปแอบนัดบอดที่ไหนหรอก”
“อย่าได้ประมาทมันเลยนะพ่อ... ไอ้ซินฯ ต้าร์เนี่ยมันทำงานบ้านไวมากเลยนะ ถ้ามันเอาจริงก็คงพอมีเวลาแอบไปหาคู่ได้แหละ”
“แล้วเมืองนี้มันเหลือใครที่ยังไม่แต่งงานบ้าง”
“ก็มีแค่มันกับเราสองคนนี่แหละ...” ว่านเอ่ยขึ้นก่อนจะรู้สึกจุกกลางอก... พูดเองก็เจ็บเอง ชีวิตมันอาภัพ ไร้คู่กันทั้งพี่ทั้งน้อง
“...” แบงก์เองก็จุกจนพูดไม่ออกเช่นกัน
“...”
“...”
“...”
“ยังมีอีกคนนึงที่ยังไม่แต่งงาน...” อยู่ๆ พ่อเต็มก็โผลงแทรกขึ้นมา ทำเอาลูกทั้งสองงงเป็นไก่ตาแตก
“...ใครเหรอพ่อ”
“เมืองนี้ยังมีคนอื่นนอกจากผม ว่าน แล้วก็ไอ้ซินฯ ต้าร์อีกเหรอที่ยังไม่ได้แต่งงานเนี่ย ห๊ะ?”
“มีสิลูก... และคนๆ นั้นก็คือ เจ้าชายไงลูก”
“เออใช่ เจ้าชายรูปงามที่อยู่ในปราสาทกลางเมืองใช่ไหมพ่อ” ว่านทำหน้าอ๋อ นึกขึ้นได้
“ใช่แล้วละ... หึหึหึ”
“หัวเราะไรเหรอพ่อ” แบงก์งงที่อยู่ๆ พ่อก็หัวเราะมีเลศนัย
“โชคเข้าข้างเราแล้วละลูก... พอดีว่าทางพระราชวังกำลังจะจัดงานเลี้ยงเพื่อหาคู่ให้กับเจ้าชายรูปงาม... และบ้านเราก็ได้รับการ์ดเชิญด้วยนะ”
“จริงดิ!!! แบบนี้ก็แปลว่า ผม แบงก์ และไอ้ซินฯ ต้าร์ คนใดคนหนึ่งมีสิทธิ์ได้แต่งงานกับเจ้าชายใช่ไหม!”
“ใช่แล้วละลูกว่าน แต่ไม่ต้องห่วงนะ เพราะพ่อคิดแผนไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้ไอ้ซินฯ ต้าร์ได้ไปงานนี้... เพื่อลูกๆ ทั้งสองจะได้มีโอกาสเต็มๆ ยังไงละ”
“ถ้าผมหรือแบงก์ได้แต่งงานกับเจ้าชาย ก็แปลว่าเราก็จะได้ย้ายเข้าไปอยู่ในพระราชวังละสิ”
“ถูกต้องแล้วละลูก เราจะมีเงินให้ผลาญกันไม่มีวันหมดเลยละลูก ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
.
.
.
และแล้วก็ถึงวันงานเลี้ยงหาคู่ให้เจ้าชาย...
.
.
“ไอ้ซินฯ ต้าร์! วันนี้นอกจากแกจะต้องทำงานบ้านตามปกติแล้วเนี่ย แกยังต้องปีนเพดานไปกวาดหยากไย่ให้หมด ไล่แมงมุมออกจากคฤหาสอย่าให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว...” พ่อเลี้ยงตื่นมาก็สั่งงานเพิ่มโดยทันที เป็นแผนที่จะทำให้ซินเดอเรต้าร์อดไปงานเลี้ยงหาคู่ให้เจ้าชายเพราะทำงานไม่เสร็จ
“อือ”
“พอเสร็จแล้วแกก็ต้องเช็ดกระจก ประตูและหน้าต่างทุกใบในคฤหาสนี้ให้เสร็จ... อ้อ แล้วอย่าลืมไปเอาเสื้อผ้าข้ามาซักด้วยละ พอดีข้าบังเอิญทำซอสมะเขือหกใส่หมดเลยอะ รวมถึงที่แกเพิ่งรีดมาให้ใหม่ด้วย... ว้า แย่จัง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
“โห แบบนี้มันจงใจแกล้งกันชัดๆ คิดจะกีดกันผมไม่ให้ไปงานเลี้ยงของเจ้าชายใช่ไหมละ”
“อะไร? เปล่าสักหน่อย มันเป็นอุบัติเหตุนะ... ว่าแต่ แกรู้ด้วยเหรอว่าวันนี้มีงานเลี้ยงในวัง ห๊ะ?” พ่อเลี้ยงตกใจเล็กน้อยที่ซนเดอเรต้าร์รู้เรื่องานเลี้ยง ทั้งๆ ที่เขาและลูกๆ พยายามปิดไม่ให้รู้กันสุดชีวิต
“รู้สิ เขาพูดกันให้ทั่วตลาด... ผมไปซื้อของก็ได้ยินเขาพูดกัน... หึ คิดจะปิดไม่ให้ผมรู้ละสิ”
“รู้แล้วก็แล้วไป... แกจะไปก็ไปสิ ถ้าทำงานบ้านเสร็จทันเวลานะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
ว่าแล้วซินเดอเรต้าร์ก็รีบไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานบ้านให้เสร็จเพื่อจะได้ไปงานเลี้ยง แต่ก็มีพ่อเลี้ยงและลูกทั้งสองคอยเป็นอุปสรรคกลั่นแกล้งอยู่ตลอด ทั้งเล่นแป้งกันในห้องนอนจนพื้นและเฟอร์นิเจอร์เปรอะแป้งไปหมด ซินเดอเรต้าร์เลยต้องมาปัดกวาดเช็ดถูยกใหญ่... แถมยังโดนแอบเหยาะน้ำปลาใส่ในถังน้ำถูพื้นอีก ไอ้ที่ถูๆ ไปแล้วก็เลยต้องถูกซ้ำเพื่อลบกลิ่นน้ำปลา... แต่สุดท้ายซินเดอเรต้าร์ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงได้ และได้รับอนุญาตจากพ่อเลี้ยงให้ไปร่วมงานเลี้ยงได้โดยที่ดูยังไงก็รู้ว่าไม่เต็มใจและไม่พอใจเลยสักนิด... ว่าแล้วซินเดอเรต้าร์ก็เดินลัลลากลับขึ้นห้องใต้หลังคาเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าไปงานเลี้ยง... แต่ในขณะที่เขากำลังแต่งตัวอยู่นั่นเอง...
*กริ๊ก*เสียงกลอนประตูดังขึ้น ซินเดอเรต้าร์เลยเดินไปดูด้วยความสังหรณ์ใจ และก็พบว่า... ประตูห้องถูกล็อคจากข้างนอก!!!
“เฮ้ยยยยยยยย ไอ้คุณเต็ม!!! เล่นแบบนี้มันไม่แฟร์นะเว้ยยยยยยยย เฮ้ยยยยยยย ปล่อยนะ!!!!!”
ซินเดอเรต้าร์ตะโกนโวยวายพลางทุยประตู ตึง ตึง ตึง ตึง... แต่ตะโกนจนเจ็บคอก็แล้ว ทุบประตูจนปวดมือก็แล้ว แต่ก็ไม่มีใครเปิดประตูให้ จึงได้แต่นั่งอยู่ในห้องด้วยความเจ็บใจที่ได้ยินเสียงรถม้าของพ่อเลี้ยงวิ่งออกจากคฤหาสไปโดยที่ตัวเขาเองกลับถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ นี้ทั้งๆ ที่เขาเองก็มีสิทธิที่จะไปงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน
.
.
.
ร่างเล็กโดนขังอยู่ในห้องจนเผลอหลับ ตื่นมาอีกทีก็พบว่าฟ้ามืดสนิทแล้ว... เมื่อมองไปนอกหน้าต่างไปทางประราชวังกลางเมืองก็เห็นไฟงานเลี้ยงหลากสีสวยงามที่สว่างไสว เห็นได้จากที่ไกลอย่างชัดเจน
“เฮ้อออออ... แม่งเอ้ย!!”
ร่างเล็กสบถก่อนจะชกหมอนระบายอารมณ์โดยนึกเป็นหน้าของพ่อเลี้ยง แบงก์ และว่าน... ทันใดนั้นเอง...
.
.
“ทำไรละนั่น”.
.
“เฮ้ย!!!”
ซินเดอเรต้าร์อุทานเมื่ออยู่ๆ ก็มีคนมาพูดกระซิบอยู่ข้างหู ทำเอาสะดุ้งจังเบ้อเร่อ... เมื่อหันไปทางต้นเสียงก็เห็นชายร่างสูงในชุดสีขาวล้วน เหนือหัวมีวงแหวนเรืองแสงลอยอยู่ราวกับเป็นเทวดา... แต่ไม่ยักกะมีปีก
“ตกใจอะไรขนาดนั้น ขวัญเอ้ยขวัญมา จุ๊กกรู๊วววววว”
“ไอ้บ้า! มาจุ๊กกรู๊วววว อะไรละ... แล้วแกเป็นใครเนี่ย?”
“ข้าเป็นเทวดา”
“เทวดา???... แล้ว... เข้าห้องมาได้ไง?”
“ก็... เห็นมันมีกุญแจเสียบคาอยู่ข้างนอกก็เลยไขเข้ามา”
“เฮ้ยยยยย เห็นกุญแจเสียบอยู่แล้วคิดว่าจะเดินเข้าห้องคนอื่นได้โดยพลการแบบนี้เหรอเฮ้ย... ยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ”
“แล้วไงอะ? นี่ท่านโดนขังอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“เออวะ... ใช่ๆๆๆๆ โดนขังอยู่”
“ก็เห็นจากบนสวรรค์ว่าท่านกำลังเดือดร้อน โดนพ่อเลี้ยงกลั่นแกล้ง ก็เลยลงมาช่วยให้ได้มีคู่แต่งงานไง”
“อ้อ...”
“เชื่อไหมเนี่ยว่าข้าเป็นเทวดา”
“...” ซินเดอเรต้าร์ทำหน้างง นี่ตกลงมันอำหรือมันพูดจริงวะเนี่ย
“เอ้าๆๆๆ ไม่เป็นไร ไม่เชื่อก็ค่อยดู” เทวดากล่าวแล้วก็ไม่รอช้า ยกกระเป๋าเดินทางล้อลากที่นำมาด้วยขึ้นบนเตียงแล้วเปิดออก
เผยให้เป็นชุดเสื้อผ้าหลากสีหลายสไตล์นับสิบๆ ชุด
“ทำไรเนี่ย”
“ก็ช่วยท่านไง ต้องไปงานเลี้ยงไม่ใช่เหรอ มาๆ เลือกชุดก่อน” ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาหยิบชุดต่างๆ มาทาบตัวซินเดอเรต้าร์
“ฮึ่ยยยยยย เดี๋ยวก่อนดิ... นี่มันใช่เหรอ? เป็นเทวดาก็ต้องเสกให้ผมได้เลยสิ แล้วไอ้กระเป๋าเดินทางนี่ลากขึ้นมายังไงเนี่ย”
“ความแนวของเทวดาแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน... เลือกๆ ไปเหอะน่า เดี๋ยวไปไม่ทันงานเลี้ยงหรอก”
“โอยยยยย เยอะขนาดนี้เห็นก็ขี้เกียจเลือกแล้ว... คุณเทวดาก็เลือกมาเลยแล้วกัน” ว่าแล้วก็กอดอกแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ปล่อยให้เทวดาหาชุดให้
ต่อจากนั้นไม่นาน ซินเดอเรต้าร์ก็แต่งตัวเสร็จโดยเทวดาเลือกให้ใส่ชุดแมวที่มีถุงมือและรองเท้ารูปอุ้งเท้าแมวสุดและมีหน้ากากแมวสุดน่ารัก...
“น่ารักมากเลยนะซินเดอเรต้าร์ น่ารักจริงๆ น่ากอดสุดๆ... แบบนี้เจ้าชายเห็นแล้วต้องอดใจไม่ไหวแน่ๆ เลย ข้ามั่นใจ”
เมื่อฟังจบ ซินเดอเรต้าร์ก็ยืนเหงื่อตกที่หลงผิดไปเชื่อไอ้เทวดาจนตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ยังไม่ทันได้บ่นก็โดนลากลงจากห้องแล้วขึ้นรถของเทวดาก่อนจะออกรถมุ่งหน้าไปยังพระราชวัง
รถของเทวดาแล่นไปตามเส้นทางที่เป็นป่าทั้งสองข้างทาง โดยที่เทวดาเป็นคนขับ ส่วนซินเดอเรต้าร์ก็นั่งอยู่เบาะหลัง...
ซินเดอเรต้าร์นั่งมองวิวข้างทางไปเรื่อยจนรู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง และเมื่อเงยหน้าขึ้นดูกระจกส่องหลัง ก็เห็นเทวดาสารถีแบบมองเขาอยู่เรื่อยๆ... และสายตาที่มองมาก็ดูหื่นขึ้นเรื่อยๆ
*เอี๊ยดดดดด*รถแล่นไปได้สักครึ่งทาง อยู่ๆ เทวดาก็เบรกรถแล้วเบี่ยงเข้าจอดใกล้ๆ กับพงไม้ริมทาง... แล้วกดปุ่มล็อคประตูทั้งสี่ของรถก่อนจะหันไปส่งสายตาหื่นให้กับซินเดอเรต้าร์ที่อยู่เบาะหลัง
“เฮ้ยๆๆๆๆๆ อะไรเนี่ยคุณเทวดา หยุดรถทำไมเนี่ย”
“อะไรกัน งานเลี้ยงเขาเลิกตั้งเที่ยงคืน ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่ม ยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ... ข้าว่า... เรามาหาอะไรทำกันก่อนดีไหม หืมมมม” เทวดาพูดเสียงหื่นแล้วค่อยๆ ปีนจากที่นั่งคนขับไปหาซินเดอเรต้าร์ทีเบาะหลัง
“เฮ้ยๆๆๆๆ อย่านะ อย่าเข้ามานะ!!!”
“ชู่วววววว อย่าเสียงดังสิ... มามะ ขอกอดหน่อยนะ น่ารักเหลือเกิน เทวดาอดใจไม่ไหวแล้วววววววว”
“อ๊ากกกกกก อย่านะ! ปล่อยยยยยยยย!!!”
.
.
.
เวลาเกือบตี 1 หลังงานเลี้ยงเลิก...
รถม้าของคุณเต็มกำลังพาสามพ่อลูกกลับคฤหาส... ทั้งสามคนกำลังเบิกบานและมีความสุขเพราะทั้งแบงก์และว่านได้แต่งงานกับเจ้าชายกันแบบแพ็คคู่สุดคุ้ม... คุณเต็มเลยดีใจหน้าบาน อารมณ์ดีกลับบ้านอย่างสมหวัง... และในระหว่างทางนั้นเอง...
“เอ๊ะ นั่นรถใครมาจอดอยู่ในที่มืดๆ แบบนี้เนี่ย” แบงก์ตาดีเห็นรถทรงแปลกตาจอดอยู่ข้างทางอยู่คันหนึ่ง
“ไม่รู้สิ อย่าไปสนใจเลยลูก มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะไปเยาะเย้ยไอ้ซินเดอเรต้าร์มันยังไงดี ป่านนี้คงนอนเกรียนแตกอยู่บนห้อง ไปไหนไม่ได้เพราะโดนขังแน่ๆ เลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“ก็ไม่อยากสนใจเท่าไรหรอกนะพ่อ ก็แค่รถทรงแปลกๆ คันนึงเท่านั้นเอง แต่ที่น่าสนใจคือผมเห็นว่าเมื่อกี๊รถมันโยก แล้วตอนนี้ก็โยกแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนะ”
“ไหนๆๆๆๆ... ฮึ่ยยยย ใช่จริงๆ ด้วย...งั้นพ่อว่าเรารีบไปกันดีกว่า แถวนี้มันบัดสี!!!”
ว่าแล้วคุณเต็มก็ส่งเสียงบอกให้สารถีรถม้าเร่งความเร็วมุ่งหน้ากลับคฤหาสโดยไม่สนใจรถที่จอดอยู่ข้างทาง... ซึ่งจริงๆ แล้วหากเขาหยุดดูสักนิด จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าคนที่ล่อนจ้อนเปลือยเปล่าอยู่ในรถนั้น คนหนึ่งคือซินเดอเรต้าร์ที่กำลังรับศึกหนักเพราะโดนเทวดาลากขึ้นสวรรค์ชั้น 7...
เทวดาชื่ออะไร? ไม่มีใครรู้ รู้แค่ว่าตาตี่และมีสร้อยที่มีจี้รูปตัว T ห้อยอยู่ที่คอ...
อ้อ อีกอย่างคือรถคันที่ว่าเป็นรถยี่ห้อ BMW สีดำแหละ...
จบ! (ตอนพิเศษ)---------------------------------------------------------------------------
FlapJack Corner:
สุขสันต์วันแห่งความรักนะครับ ขอให้ทุกคนเจอความรักที่ดี ความรักที่สดใส
ใครมีรักอยู่แล้วก็ขอให้รักษาประคับประคองรักให้ยืนยาว
ส่วนใครยังโสดก็ขอให้ได้ขอให้โดนสมใจนึกนะครับ
ปล. ตอนปกติตอนต่อไป (คาดว่า) จะเป็นตอนจบของเรื่องนี้แล้วนะครับ