อะไรที่ยิ่งกว่านั้นหลังจากวันที่บอกเพื่อนไปว่าคบกับเป้แล้ว ท่านเซียนก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา แค่ท่านเจี้ยวถามว่าคิดว่าเด็กเป้
จะนิสัยดีรึเปล่า จะคบได้นานมั๊ย ..อะไรล่ะ ก็แค่ประโยคถามไถ่เพื่อนฝูงทั่วๆไปแบบหาต้องการความคิดเห็น
ท่านเจี้ยวที่เห็นหน้าท่านเซียนก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาแปลกๆ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ท่านเซียนสมควรที่จะดีใจไม่ใช่หรอ?
ที่ตัวเองเป็นฝ่ายชนะแล้วก็เลิกแย่งเหยื่อกันให้ยุ่งยากวุ่นวาย..
ท่านเจี้ยวจำได้ดี วันที่ตื่นลืมตาขึ้นมาความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือความเจ็บปวดประทุเข้าที่ด้านหลังแต่ปากก็อมยิ้ม
อยู่บ้าง ไม่ใช่รอยยิ้มเยือกเย็นอะไรหรอก .. มันเป็นรอยยิ้มที่รู้สึกดีกับมันอยู่ไม่น้อย สิ่งที่ไม่เคยได้สัมผัส และไอ้
สิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรี มันหดหายไปเล็กน้อยหลังจากได้รับสัมผัสที่นุ่นนวลอ่อนโยนแต่เผ็ดร้อนแสนระทึกใจจาก
คนที่ตัวเองเผลอพลั้งปากเรียกว่า "ผัว" ถึงแม้จะแค่อารมณ์มันพาไปก็เถอะ
ทีนี้ค่อยยิ้มแก้มปริตอนเห็นช้อตโน๊ตที่วางอยู่บนหัวเตียง ..
..ถึงเมียรัก
กูชนะมึงแล้ว.. มาเป็นเมียกูเถอะ ฮ่าๆรอยยิ้มพลันจากหาย .. นัยน์ตากรอกกลิ้งสั่นระริก ..อะไรเนี่ย ชนะแล้ว.. ชนะแล้วงั้นหรอ?
อืม.. ใช่ไอ้เซียน มึงชนะกูแล้วจริงๆ
ท่านเจี้ยวเม้มปากแน่นก่อนจะเลื่อนมือที่สั่นเทาวางกระดาษไว้ที่เดิมแล้วยกขาชันขึ้นกอดเข่า
.. ชนะแล้ว
นี่หมายความว่า เราแพ้ ... งั้นหรอ
.. มันมีแค่นี้หรอ? สิ่งที่ได้รับกลับมา .. แค่แพ้ อย่างนั้นหรอ?
ใบหน้าท่านเจี้ยวไม่ได้อาบไปด้วยน้ำตา แค่กระพริบตาช้าๆมองร่องรอยบทรักรอบกาย ..ไม่ใช่บทรักสิ นี่เรียกว่าบท
ทดสอบการแข่งขันเสียมากกว่า ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆอยู่ในห้องคนเดียว
"...ฮะฮะ แพ้ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่"
กระชับวงแขนที่กอดหน้าขาตัวเองให้เข้าไปอีกก่อนจะซุกหน้าลงบนหัวเข่าหลับตานอนไปทั้งอย่างนั้น พลางคิดไปด้วย
ว่าควรจะไปสู้หน้าผู้ชนะอย่างไรดี จะทนกับคำถากถางที่อาจจะเกิดตามมานั่นได้รึเปล่า และจะถูกหัวเราะเยาะไปนาน
ซักกี่สัปดาห์.. มันน่าอาย คงกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของท่านเซียนไปแล้วล่ะมั๊งป่านนี้........
พอตกเย็น อยากจะไปกินเหล้าย้อมใจให้กับความพ่ายแพ้ คิดว่าไอ้เซียนคงไปฉลองที่ไหนซักที่กับเด็กในสังกัดแล้วคง
เอาท่านเจี้ยวไปเล่าอย่างสนุกปาก เผลอๆอาจจะได้เงินเดิมพัน....แต่ก็คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกมั้ง
เดินไปเดินมาก็มาโผล่ที่บาร์ไอ้เตี้ย ร้านนี้มันเหมือนของตายจริงๆ หวังว่าไอ้เซียนคงจะไม่ได้อยู่ด้านในหรอกนะ...
แต่ถ้าเจอก็ดีเหมือนกัน เพราะมือมันดันถือกระดาษใบนั้นมาด้วย กะว่าจะกินเหล้าไปคุยกับกระดาษไป จะได้อ่านย้ำๆ
ว่าตัวเองแพ้ยังไง และควรจะจำใส่กะลาหัวว่าไม่ควรไปอวดดีว่าตัวเองเก่งนักเก่งหนากับใครหน้าไหนอีก
แต่แล้ว ..
เคร้งงง!!!!
เสียงชนแก้วดังมาจากในร้าน .. คิดในใจว่านั่นอาจจะเป็นเสียงฉลองของท่านเซียนก็ได้ ชั่งใจอยู่นานว่าจะเข้าไป
เผชิญหน้าด้วยสีหน้าแบบไหน คงต้องยิ้มไว้ก่อนเหมือนทุกทีล่ะมั้ง พอเดินเข้าไปในร้าน บทสนาก็ลอยมาเข้าหู
อย่างไม่ได้ตั้งใจ
"เออๆ มึงเล่าให้กูฟังหน่อยดิ๊ว่าใครได้ใคร" นั่นคงเป็นเสียงของคู่สนทนาคู่ใดคู่หนึ่งในร้าน ..
"กูนี่แหละได้มัน.."
เสียงนั้นทำให้สายตาท่านเจี้ยวหันกลับไปมองที่มาของเสียง เห็นแผ่นหลังไหล่กว้างและทรงผมที่คุ้นเคยนั่งอยู่ตรงบาร์
ท่านเจี้ยวเดินเข้าไปใกล้ๆ .. หน้าแทบชา ทันทีที่ได้ยิน
"มันโคตรฟิตเลย ถึงมันจะฟันไปทั่วแต่ก็ไม่เคยถูกใครฟัน งั้นก็แปลว่ากูนี่แหละผัวคนแรก"
คนพูดหยุดหายใจแล้วก้มลง ก่อนจะพูดต่อ
"มึงเชื่อปะ มันอ่ะโคตรเอ็กซ์ตอนร้องเรียกกูผัวขา กูงี้แทบแตก ฮ่าๆ"
.....จริงๆด้วย ท่านเจี้ยวนิ่งคิดทบทวนว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันเกิดขึ้นจริง ..แต่ก็ดี เขาเตรียมใจยอมรับมันไว้รออยู่แล้ว
"โหย นี่ถ้าไม่ได้แผนมึงกูคงไม่... มองไรวะไอ้เตี้ย"
แผน... แผนงั้นหรอ ทั้งหมดเป็นเพราะแผน.. ถูกวางหมากไว้เรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรอ
ก่อนที่ท่านเซียนจะหันหน้ามา ท่านเจี้ยวมองค้างที่อะไรซักอย่าง .. พลางคิดไปว่า ใช่แล้ว ก็คงทำเพื่ออยากเอาชนะ
เหมือนเรานั่นแหละที่พยายามทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองชนะเหมือนกัน ถ้าวันนั้นไม่หวังจะฟันท่านเซียน คงไม่แบก
จากที่ร้านไปจนถึงคอนโดหรอก .. แต่พอถึงมันก็เหนื่อยอ่อนแรง กะจะพักซักงีบก่อนจะลุกมาต่อเกมส์
แต่กลายเป็นท่านเซียนที่ขึ้นคร่อมเสียเอง .. ก่อนจะถูกแตะจุดไวต่อสัมผัส แวบแรกที่คิดขึ้นมาได้.. คือใบหน้า
ไม่พอใจตอนท่านเจี้ยวไปถ่ายรูปกับเป้ นึกได้ถึงตอนที่ถูกชิมข้าวต้ม ..นึกอะไรดีๆระหว่างเรา จนเผลอยอม..
ให้มันได้อย่างนี้สิเจี้ยว... เพราะตัวเราเองคงจะ
ชอบคนๆนี้อยู่บ้าง ถึงได้ไม่มีอาการขัดขืน
ที่ทำท่าทีว่าหึงหวง นั่นคงจะเป็นแผนอีกเหมือนกันล่ะมั๊ง... แพ้.. แพ้จนหมดรูป
"อืม .. มึงชนะแล้ว"
..ดีใจด้วยนะไอ้เซียน
..
มึงชนะแล้ว มึงชนะกูทุกทาง
จนแทบไม่เหลืออะไรไว้ปลอบตัวเองนอกจากคำว่าแพ้
...ไม่เหลืออะไรจริงๆ กูแพ้ทุกทาง
แพ้แม้กระทั่งหัวใจตัวเองที่เผลอไปชอบคนชนะอย่างมึงกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน ท่านเจี้ยวที่คบกับเด็กเป้เป็นที่เรียบร้อยกำลังจะออกไปกินข้าวด้วยกัน นี่คงเป็นช่วง
เวลาแรกของการเรียกว่าเดท .. สินะ
อย่างน้อยหัวใจตัวเองที่ไม่เหลือ จะได้มีไออุ่นจากหัวใจคนอื่นพอให้มีแรงยืนอยู่บ้าง
ท่านเจี้ยวเห็นท่านเซียนนั่งเกากีตาร์อยู่หน้าตึกหน้าหงอๆ เลยกะเข้าไปทัก ...ตามประสาเพื่อน
"ไงมึง"
ยิ้มให้แบบเดิม .. แต่ไม่รู้ว่าท่านเซียนจะรู้สึกมั๊ยว่าร้อยิ้มนี้ของท่านเจี้ยวโคตรจะฝืน
ท่านเซียนช้อนตามองหน่อยนึงก่อนจะก้มลงเกากีตาร์ต่อ.. ก่อนจะร้องออกมาเป็นเพลง
"..มองดวงจันทร์บนฟ้าน้ำตาก็ไหลขึ้นมา
เห็นภาพเธออยู่บนนภา..
คงไม่มีทางจะได้ถึงมา
ก็เรามันไม่มีวาสนา..."
ถ้าเกิดมีใครมานั่งร้องเพลงให้ใครอีกคนที่มายืนถามไถ่.. ถ้าเกิดทำกับคนที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย คงจะคิดว่าการ
กระทำนี้ช่างงี่เง่าและโง่เขลา แต่ท่านเจี้ยวถึงกับยืนนิ่ง ..
"ดวงจันทร์จันทร์เจ้าเอ๋ยฉันควรจะทำเช่นไร..
ฝากเจ้าช่วยกระซิบถึงคนที่อยู่แสนไกล
ก็ในเมื่อความจริงฉันไม่มีวันได้ครอบครอง
แต่ฟังฉันหน่อยได้ไหมโอ้ดวงจันทร์ฉันขอวอน.."
ท่านเจี้ยวเม้มปากสะกดกลั่นอะไรบางอย่างที่ร้อนผ่าว ฝืนตัวเองสุดฤทธิ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยี่สิบปีที่ผ่านมา
เหมือนเวลาผ่านไปเร็วทันทีถ้าเทียบกับช่วงเวลานี้ .. กว่าจะผ่านไปแต่ละวินาที มันช่าง.. ทรมาน
คนร้องเงยหน้าขึ้นสบตาอย่างมีความหมาย ก่อนจะร้องท่อนต่อไป
"..ทำได้เพียงอิจฉาคนที่ได้นอนกอดเธอ
คงจะมีพร้อมทั้งเงินทองและเลิศเลอ.."
ท่านเซียนหลับตาหลุดลงต่ำกลืนเสียงที่หายเข้าไปในลำคอ ก่อนจะร้องในท่อนต่อไป
"..ยิ้มทั้งน้ำตาที่เห็นเธอมีความสุข
เหมือนฝันในยามนิทราอย่าได้มีใครมาปลุก
ได้รักเธอในความฝันก็พอ
ถึงแม้ว่าฉันต้องปวดร้าวอีกซักเท่าไรก็ยอม.."
ท่านเจี้ยวกำมือแน่นเหมือนปากที่เม้มอยู่ .. ต้องการอะไรอีกเซียน มึงจะเอาอะไรจากกูไปอีก..
"แม้เนินนานแต่จะไม่เปลี่ยนไป
นั่งมองดวงจันทร์ไม่ไปไหน.."
"พี่เจี้ยวครับ"
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง เสียงเป้นั่นเอง.. จังหวะกีตาร์ขาดตอนไป เหมือนจะได้ยินเสียงเส้นเอ็นขาดผึงมาจากกีตาร์..
เพลงที่กำลังจะเข้าท่อนฮุกถึงกับต้องหยุดกลางคัน..
"พี่เจี้ยวรอผมนานมั๊ย เอ่อพี่เซียน ขอโทษทีที่ผมเข้าใจผิดนะครับ วันนี้ขอตัวเพื่อนพี่ซักวันแล้วกัน"
ท่านเจี้ยวก้มหน้าไม่ไหวติง ไม่อยากจะหันไปเห็นสายตาที่ท่านเซียนมองตอบกับใคร..แม้คนนั้นจะเป็นแฟนของท่าน
เจี้ยวเองก็เถอะ
"ไปเถอะพี่เจี้ยว เป้หิวแล้วครับ"
ช่างออดอ้อน.. เป้เกี่ยวแขนเข้ารอบวงแขนท่านเจี้ยวก่อนจะพาเดินออกจากจุดเดิม ..
..
แม้ท่อนเพลงที่ขาดหายเพราะเหตุใดก็ตาม
.. แต่ทำไมเสียงท่อนฮุก ยังดังขึ้นเรื่อยๆ .. ในหัวใจ
อยากให้โลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดถึงเธอทุกวัน
วอนให้สายลมช่วยพัดพาไป พัดเอาความคิดถึงฉันลอยลมไป
อยากให้โลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดถึงเธอทุกวัน
วอนให้สายลมช่วยพัดพาไป พัดเอาความคิดถึงฉันลอยลมไป.......................... - ขอบคุณ -
บทเพลงที่ตรึงใจ [ถ้าหากโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์]
ศิลปิน - ILLSLICK
+++++++++++++++++++++
เห๊ย!!! ไม่เศร้ากันเลยจริงดิ?
ขำกันซะกระจาย
โอเค งั้นเศร้ากันต่อไป - -
อย่ามาหาว่าเราใจร้ายแล้วกัน!!

หักโหมบ้าไรเล่า คนจะไปกินหมูกระทะ

กะจะไม่อัพนะเนี่ย เห็นคนอ่านบอกมาอยากอ่านต่อ+คอมเม้นเยอะ เราเลยคึกอัพให้ท่าน
ได้อ่านกัน ถ้าคอมเม้นเยอะ จะมาอัพอีกตอนแล้วกัน^^
zhiki = ชิกิ