สิ่งย้ำจุดยืนวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันในปีนี้ที่ท่านเซียนลุกกระวีกระวาดแต่งตัว เพิ่งขึ้นปีสามแท้ๆ แต่ทำไมยังต้องมาตื่นแต่เช้าอาบน้ำ
แต่งตัวไปมหาลัย ทั่งที่ควรจะเอาเวลาไปนอนก๊งเหล้า เมากาม แล้วมาปั่นโปรเจ็กเอาอีกทีตอนใกล้ๆส่ง
นั่นถือแผนที่ท่านเซียนและท่านเจี้ยวเคยวาดฝันมาด้วยกัน.. ดีเนอะ เจริญล่ะเยาวชน
กระโดดคร่อม KSR แล้วบิดออกไปด้วยความหวัง ..
แต่ก็ต้องจอดรถแล้วยูเทิร์นกลับมา
.. เพื่อ .. ?
...
ลืมล็อกบ้าน

อืม เอาเข้าไป .. ยิ่งรีบยิ่งรั่ว ท่านเซียนกระโดดคร่อมมอเตอร์ไซด์อีกครั้ง ก่อนจะทยานบิดส่งจนลอดผ่านรั่วมหาลัย
แล้วตรงดิ่งมุ่งไปที่ตึกคณะ
โชคดี ท่านเซียนเห็นเป็นร่างคนคนหนึ่งนั่งรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิม.. เจี้ยวมารอหรอเนี่ย?
ปกติถ้าเห็นใครมาก่อนก็คงไม่ใช่เรื่องน่าดีใจ
แต่ตอนนี้ท่านเซียนใจเต้นระรัว เผลอยิ้มออกมาจนเห็นฟันและเขี้ยวที่โผล่พ้นริมฝีปากบนเล็กน้อย ก่อนจะบิดส่งตัว
ด้วยความเร็วเข้าไปอีก ..
แต่มันยังเร็วไม่พอ ..
ยังไม่ทันจะจอดรถหน้าตึกคณะ ร่างผู้ชายสมสวนล้ำเส้นคำว่าผอมบางอย่างเฉียดฉิวเดินเข้าไปปิดตาคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
...
มอเตอร์ไซด์ที่แล่นมาด้วยความเร็ว เบรกจนล้อหลังแทบดริฟท์เกือบคว่ำ .. ทอดสายตามองการกระทำของคนทั้งสอง
ต่อไป
คนที่ถูกปิดตาหัวเราะชอบใจ... อยากจะรู้จริงๆว่าในช้อยส์ที่ทายว่าเป็นใคร จะมีชื่อตัวเองอยู่บ้างหรือเปล่า..
...
ท่านเซียนหลับตาลง กำมือที่สั่นเทารอบแรกของวัน มันบั่นทอนแรงใจที่เพิ่งฮึดสู้ได้เมื่อวานลดลงไปนิด ..
ก็เค้าเป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีแบบนั้นบ้าง ..
ผ่อนลมหายใจออกช้าๆทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น สู้.. สู้สิเซียน แค่นี้เอง ..
+++++++++++++
"เอาเป็นว่า ลองกลับไปเช็ค...."
เสียงอาจารย์ที่ยืนสั่งงานอยู่หน้าห้องกำลังพูดทิ้งทวนไว้ให้เหล่านิสิตกลับไปเช็คระบบงานที่จะนำมาเขียนเป็นโปรเจ็ก
แล้วเตรียมส่งในท้ายเทอม .. วันนี้ก็ยังนั่งข้างๆกันอยู่ แต่ดูท่านเจี้ยวสนใจกับการเลคเชอร์เป็นพิเศษจนท่านเซียนไม่
กล้าจะชวนคุย ได้แต่ลอบมองเสี้ยวหน้าที่กำลังตั้งอกตั้งใจฟังอาจารย์แล้วก้มจดยิกๆ..
"งั้นจารย์เลิกคลาสแค่นี้ล่ะ โชคดีไม่ติดเอฟนะทุกคน"
พูดแค่นั้นก่อนที่นิสิตในห้องจะลุกฮือบิดขี้เกียจ บ้างก็เก็บข้าวของโยนลงกระเป๋าอย่างไม่ใยดีโดยไม่รออาจารย์ที่กำลัง
เก็บปิดแล็บท็อปกับจอโปรเจ็กเตอร์ให้ออกไปเสียก่อน
"ไอ้เจี้ยว"
ตัดสินใจเรียก
"ห๊ะ"
คนตอบไม่ได้หันหน้ามา ตั้งหน้าตั้งตาเก็บของใส่กระเป๋าพลางพับโน็ตบุ๊คปิดลงแล้วยัดเข้ากระเป๋าตาม
"วันนี้ไปกินเตี๋ยวกันปะ กูอยากไปแดกอ่ะ แต่ไม่กล้าไปคนเดียว"
ท่านเจี้ยวที่เก็บของเสร็จแล้วเลิกคิ้วหันหน้ามามอง
"ก็.................. ปกติกูก็ไปกับมึงตลอด มึงสั่งให้กูตลอดด้วย กูสั่งไม่เป็น ฮ่าๆ"
เอ่ยปากชวนเหมือนทุกๆครั้ง แต่ความคาดหวังแตกต่างกันลิบลับ
"อ่า .. โทษว่ะมึง วันนี้วันเกิดเป้ กูเลยจะไปซื้อของขวัญ มึงไปช่วยกูเลือกดิ เดี๋ยวเลือกเสร็จแล้วกูพาไปกิน"
ท่านเซียนนิ่งไป .. แต่ก็รีบรับคำ
"เออๆ ไปๆ"
..ก็ยังดี
อย่างน้อยก็ได้ใช้เวลาร่วมกันเหมือนเดิม
ถึงจะอยู่ด้วยกันเพียงเพราะเหตุผลที่จะทำให้ตัวเองเจ็บก็ยอม
..แค่อยู่ใกล้ๆ ได้อยู่ใกล้ๆเพิ่มขึ้นอีกนิด อาจจะมีโอกาสในการพูด
คำสารภาพมากขึ้นก็ได้
++++++++++++
"สีไรดีวะ"
"ดำ"
"เหี้ย ของขวัญวันเกิดนะเว่ยไม่ใช่ของชำร่วยงานศพ"
..เออ ตายๆไปซะได้ก็ดี =_= ท่านเซียนที่กำลังสวดท่องบทอะไรซักอย่างงึมงำในใจอยู่คนเดียว มองกล่องผ้าปัก
ดิ้นทองหลากสี นี่รสนิยมมึงแย่ขนาดนี้เลยหรอเจี้ยว...... อ่อ เข้าใจแล้ว ตั้งแต่ไดอารี่ก็น่าจะเข้าใจอะไรขึ้นมา
บ้างแล้ว
"แต่สีดำมันสวยดีนะ"
ท่านเซียนที่ยังยืนยันคำเดิมชี้ไปที่กล่องสีดำปักดิ้นทองแซมสีแดงและม่วง แสงสะท้อนของสีทองส่องประกาย
ให้สีดำดูเป็ฯสีที่น่าค้นหาไปในทันใด ติดแค่ว่า
"กูจะให้เป็นของขวัญวันเกิดนะไอ้เซียน ไว้มึงตายก่อนแล้วเดี๋ยวกูซื้อเผาส่งไปให้อีกที"
ท่านเซียนแทบจะทึ้งหัวท่านเจี้ยว
อา.... สถานการณ์เริ่มกลับเป็นปกติแล้วใช่มั๊ย ท่านเซียนใจชื้นขึ้นมานิดนึง แต่แทบจะบั่นทอนทันทีที่ได้ยินเสียง
โทรศัพท์ดังขึ้น
"ฮัลโหลครับเปเป้"
คำสรรพนามแทนตัว .. ที่มีไว้ใช้เฉพาะคนพิเศษใช่มั๊ย ท่านเซียนเกือบทนฟังไม่ได้ เลยทำทีเดินไปดูของที่มุมอื่น
แต่หูเจ้ากรรมก็ยังได้ยิน
"ครับ ..................... คิดถึงเหมือนกันน่าไอ้ตัวเล็ก"
ถึงกับสะอึก ..
"อยู่กับพี่เซียนไง ................... บ้าน่า ไม่มีอะไรซักหน่อย เพื่อนพี่นะเว่ยอย่าหึงมั่วสิ ฮ่าๆๆ"
ชาหมดแล้วมือทั้งสองข้าง ... ทำไมน้ำลายมันขมแบบนี้ กว่าจะกลืนลงคอถึงกับต้องกลั้นใจ
".. ยังไงเพื่อนก็คือเพื่อนอยู่วันยันค่ำแหละเป้ เริ่มต้นจากเพื่อนมันจะสานต่อไปเป็นอะไรได้ล่ะ ..อย่าคิดมากสิ".... อะไรเข้าตาน่ะ ทำไมมันแสบตาอย่างนี้ ท่านเซียนเหลือบมองเพดานร้านพยายามไม่ให้อะไรไหลร่วง กัดฟันฝืน
แต่แล้วน้ำตาพลันร่วงเผาะทันทีที่ได้ยิน ..
"ครับ .. รักคร้าบ เจี้ยวรักเป้คร้าบ เจอกันตอนเย็น"
... จากที่ชาแค่มือ มันเริ่มชาทั้งตัว
เสียงนั้นสะท้อนดังก้องไปทั้งหัวใจ......
ชัดเจนขึ้นมาแล้ว.. "เหี้ย เดี๋ยวไอ้เซียน มึงไม่ไปแดกกะ... อ่าว อยู่ๆก็ไปซะงั้น"
ว่าตัวเองควรจะยืนที่ตรงไหน..
อะไรคือจุดยืนของตัวเอง
... ใช่ เราคงต้องยืนย่ำอยู่กับที่อยู่แบบนี้แหละ
ยืนย่ำลงไปซ้ำๆ ..
"เพื่อย้ำจุดยืนของตัวเอง+++++
ใครรออยู่ มั่งเนี่ย จะอ่านกันมั๊ยอีกเอ็นซีข้ามคืนเนี่ย -_-
คาดว่าอีก 2-3 ตอนจะเจอเอ็นซีล่ะ

อยากอ่านกันปะเอ่ยย?
จะอ่านตอนต่อไป ก็ รหัสเดิมเลย zhiki ท้ายคอมเม้น อิอิ

ให้คนที่รอ ><