นอนไม่หลับ

อ่านหนังสือสอบก็ไม่รู้เรื่อง

เล่นเกมส์ก็ตีแป๊ก

... สงสัยเพราะผมค้างคาใจเรื่องคอมเม้นแน่ๆเลยอ่ะ

ขอโทษที่ใช้นิสัยชั่วๆส่วนตัว พูดใส่อารมแย่ๆไปแบบนั้นนะครับ พอดีผมเป็นประจำเดือน -_-
(เย๊.. หนูยังเป็นผู้หญิงอยู่!!!)
ผมสับสนตัวเองมากขึ้นไปทุกวันแล้วแหละว่าตัวเองมันตัวอะไรกันแน่

...
ถ้าใครสงสัย ก็กระซิบมาถามผมสิ แล้วผมจะเล่าเรื่องที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับผมให้ฟัง

เอาล่ะ ก่อนอ่าน ผมขอ ... ขอโทษ ขอขมา พร้อมดอกไม้ธุปเทียนมา ณ ที่นี้เลยนะครับ
อย่างที่ชี้แจงไว้เบื้องต้นแล้วว่ามันเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น แต่พอผมตอบออกไป บอกตรงๆอ่ะ โคตรรู้สึกผิดเลย
นี่แหละน้า นิสัยด้านไม่ดีของผมล่ะ (แล้วแกมีอะไรที่เป็นด้านดีกะเขามั่งวะ

)
ขอโทษเน้อ... อย่าโกรธ อย่าเกลียดผมเลยนะ
ผมสัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงไอติมเจลาโตนี (ขอโปรดผมเอง)
อ่ะ ง้อกันเรียบร้อย มาอ่านต่อเลยแล้วกัน ถ้าไม่ได้อัพ ผมคงสอบไม่เป็ฯสุขแน่ๆ!!
++++++++++
ผัวเซียน...เมียเจี้ยว (อ่าว!!?!)รู้สึกว่า..กว่าจะผ่านบันไดมาแต่ละขั้นช่างลำบากแสนเข็ญ คนที่ลำบากก็คงจะหนีไม่พ้นคนที่แบก.. และคนที่แบกจะเป็นใคร
ไปไม่ได้นอกจากคนเป็นสามีนั่นเอง
ทุลักทุเลกันซักเล็กน้อยกว่าจะเปิดประตูห้องนอนเข้าไปได้ แล้วไหนจะข้าวของในห้องที่ยังวางเรี่ยราดเป็นผลสืบเนื่องมา
จากพายุเมื่อวันก่อน เจ้าของห้องโมโหจนซัดข้างของในห้องเสียกระจุยกระจาย กว่าจะพาร่างเมียรักไปถึงเตียงได้ก็เหงื่อ
ไหลไคลย้อยก่อนจะได้ออกแรกต่อรอบที่... นี่มันรอบที่เท่าไหร่แล้วนะ ตั้งแต่ขึ้นบันไดมาเนี่ย -_-
พาวางร่างที่อุ้มแตงกันขึ้นมาได้ ไม่รู้เรี่ยวแรงท่านเจี้ยวเมียรักมันผลุดมาจากไหนผลักท่านเซียนนอนราบลงบนเตียงที่หัน
หัวไปทางปลายเท้าเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะขึ้นคร่อมกดร่างแล้วขย่มเสียเอง
ท่านเซียนดูจะพอใจอยู่ไม่น้อยเลยเชียว เมียรักที่ทำตัวน่ารักขึ้นทุกวินาทีจริงๆ..
คิดได้ดังนั้นท่านเซียนก็เริ่มหน้าบูดเบี้ยวเหยเก.. เพราะท่านเจี้ยวแกเล่นพิเรนทร์อีกแล้ว..
"เจี้ยว... เจี้ยว มึง.."
อ่าว!! ไม่หวานใส่กันแล้วหรอ? เจอท่านี้เข้าไปท่านเซียนถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีนี้..
ขาท่านเซียนถูกจับแยกออกเร็วพลันจนเจ้าตัวแทบจะตั้งตัวกันไม่ได้
..
..
!!!!!!!!
"เห่ย... จะทำไรกูอ่ะ! เดี๋ยว!! เจี้ยว ไอ้เจี้ยว!!!"
กำลังจะส่งเสียงห้าม แต่...... ไม่ทันแล้ว
ท่านเจี้ยวที่จับขาอ่อนท่านเซียนแยกออกแล้วจัดการเบียดแก้วตาดวงใจเข้าช่องลับที่ไม่เคยถูกเปิดใช้มาก่อน.. แถมไม่มี
การเบิกทางใดๆทั้งสิ้นอีกด้วย ....
.. นี่คงเป็นการเอาคืน เพราะระหว่างทางท่านเซียนทำๆหยุดๆ ปล่อยคนเป็นเมียค้างกี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง ในเมื่อยอมตกต้องเป็น
ของอีกฝ่ายง่ายๆแล้ว ทำไมยังทำร้ายกันด้วยวิธีแย่ๆแบบนั้นอีก ท่านเจี้ยวที่คิดว่าจะตลบคืน แล้วยัดเยียดความเป็นสามีให้
ในภายหลัง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมาหมดความอดทนได้เร็วขนาดนี้ เจ้าตัวกะว่าจะยอมให้คนรักไปซักนานๆจนกว่า
อีกฝ่ายจะพอใจ ...แต่ในเมื่อทำร้ายกันแบบนี้ ...............เห็นทีต้องทำให้เห็นบ้างซะแล้วว่าใครมันเหนือใครกันแน่!
"โอ้ยยย ..เชี่ย เจ็บ ออกก่อน ออกก่อนสิวะ"
อยากจะทำตัวเป็ฯสุภาพบุรุษให้กับไอ้คนที่ร้องโอดครวญอยู่ตรงหน้านี้อยู่หรอก ให้มันสมกับที่หลายๆรอบในเมื่อวันวาน
และบทรักสุดร้าวรานที่หน้าบ้าน ..รู้มั๊ยว่าตูดกูถลอก!! ถึงช่องลับนั่นจะกระสันจนลืมแสบในทันที แล้วหลังจากนั้นล่ะ?
แคร์ความรู้สึกกันมั่งซี่!!! กว่าจะหายแสบมันใช้เวลารักษาหลายวันนะ!!
ดี... เดี๋ยวพ่อจะเล่นให้เดินไม่ได้ไปสามวันเลยคอยดู!
ว่าแล้วก็จัดการเบียดกระทุ้งให้ลึกเข้าไปอีก ..ถึงแม้ขนาดจะแพ้ไอ้คนเป็นสามี (?) แต่อย่างน้อยๆก็ใหญ่กว่าคนทั่วๆไปล่ะวะ
แน่นอนว่าไอ้ร่างข้างใต้ก็เริ่มร้องโอดครวญดังขึ้นไปอีก จน..ได้ยินเสียงสะอื้นไห้
แสงไฟในบ้านไม่ได้เปิดเลยแม้แต่ดวงเดียว แต่แสงไฟสีส้มที่ลอดเข้ามาก็พอจะให้เห็นอยู่บ้างว่าคนตรงหน้าตอนนี้มีสภาพ
อย่างไร..
น้ำตาที่ปริ่มอยู่ที่หางตาคนถูกข่มเหง ส่ายหน้าไปมาปากก็ร้องห้ามไม่ได้หยุด ท่านเจี้ยวถึงกับนิ่งไปเลย..
"กูเจ็บ... ฮึก.. ฮึก"
ถึงแม้ว่าไอ้คนตรงหน้านี่จะแมนแค่ไหน... แต่มันเองก็ชอบพุดอยู่บ่อยๆจนติดปาก 'ผู้ชายอย่างกู..เจ็บได้ ร้องไห้เป็น'
ซึ่งผิดกับตัวท่านเจี้ยวไปถนัด.. ท่านเจี้ยวไม่ค่อยจะร้องไห้ .. ไม่ค่อยแสดงท่าทีโมโห ตรงข้ามกับท่านเซียนโดยสิ้น
เชิงในเรื่องของพื้นฐานทางด้านอารมณ์ และทุกครั้งที่มีปัญหากัน ทั้งคู่ก็ผลัดกันเป็นน้ำเย็นชโลมใจที่ร้อนลุ่มของอีก
ฝ่ายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง .. เรียกได้ว่าเข้ากันได้ดีจนคู่รักในรั้วมหาลัยหลายๆคู่ยังแอบอิจฉาในความเป็นเพื่อน
ของสองคนนี้
"...."
พูดไม่ออกเลยทีนี้.. ท่านเซียนพอเห็นคนเป็นเมียหยุดลงกลางคัน ก็ค่อยๆลดเสียงปราม แต่ก็ยังไม่สิ้นเสียงสะอื้นไห้อยู่ดี
ท่านเจี้ยวรู้จักวิธีสนองคนรักทั้งสองแบบ.. แม้ตัวจะเป็นสายรุกก็ตามที แต่ก็มักจะเรียนรู้วิธีทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจจากบรรดา
ตัวรับที่เค้าเคยไปม่ออยู่บ่อยๆ และก็ทำให้คู่นอนพึงพอใจได้ทุกคนจนพวกนั้นต้องมาขอใช้บริการท่านเจี้ยวบ่อยๆ
ใจหายวาบเลยทีนี้.... หัวขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก
ถึงท่านเจี้ยวจะเป็นคนยิ้มง่าย ดูไม่โกรธไม่เคืองใคร แต่บทจะโมโหทีก็น่ากลัวเสียจริงๆ... ดูอย่างตอนไปอาละวาดที่ร้าน
ไอ้เตี้ยสิ.. นั่นคงแค่เบาๆอยู่ ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม ก็แอบแฝงไปด้วยความทะเยอทะยานอยากเอาชนะอยู่ดี
.. คนที่เริ่มต้นเดิมพันช่วงชิงซิงกันเอง ก็คือเขาคนนี้ไม่ใช่หรือ? ..
แต่ไอ้คนตรงหน้านี้ .. ถึงจะขี้โมโห ชอบใช้ความรุนแรงในบางครั้ง อย่างน้อยคนๆนี้ ที่เคยแข่งกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่ง
ก็ทะนุถนอมเขาดีตั้งแต่ครั้งแรกไม่ใช่หรอ?
"เซียน"
ท่านเจี้ยวส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าห้วนๆ ท่านเซียนปรือตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสน้อยๆมองคนเรียกที่กำลังขยับเลื่อนหน้าเข้ามา
ใกล้ๆ ก่อนจะหลับตาหลับสัมผัสเบาหวิวที่ทาบลงบนหน้าผาก
พร้อมเสียงกระซิบ..
"...กูขอโทษ"..
..
..
'แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว'ท่านเจี้ยวส่งยิ้มบางๆให้ "สามีในนาม" พลางลูบกระหม่อมเบาๆอย่างเอ็นดู
"เจ็บมากหรอ.. ขอโทษ"
..
คนตรงหน้าพูดอะไรไม่ออกได้แต่พยักหน้าน้อยๆ คิ้วก็ยังคงขมวดเป็นปมอยู่เช่นเดิม ถ้าจะเอาออก แน่นอนว่ามันต้องทรมาน
กว่าเดิมแน่ๆ จะเสือกกระสนรั้นสวนเข้าไปอีกก็กลัวคนตรงหน้าจะร้องไห้เอาอีก ก็คงทำได้แค่คาราคาซังไว้แบบนั้นก่อน
มือก็ยังลูบใบหน้าอยู่แบบนั้น ..หน้าท่านเซียนนี่หล่อคมจริงๆ แม้ตอนนี้จะถูกสับเปลี่ยนตำแหน่งกันแล้ว ในสายตาท่าน
เจี้ยว ท่านเซียนก็ยังคง ...... อยู่ในฐานะเดิมในตอนแรก
.. ถ้าไม่รัก ก็คงจะไม่ยอมขนาดนี้หรอกนะ
ที่ทำแบบนี้เพราะอยากแก้เผ็ดอีกฝ่ายเท่านั้นแแหละ จงใจว่าจะสนองแบบที่ท่านเซียนทำก่อนขึ้นมาถึงห้อง โดยการให้ค้าง
บ้าง จะได้รู้สึกว่าท่านเจี้ยวรู้สึกอย่างไร
..
..
แต่ตอนนี้.... ไม่ล่ะ
..
ไม่อยากทำอะไรให้คนตรงหน้านี้ แสดงความเจ็บปวด ..ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ช่าง
..
"เซียนครับ.."
มือไม่หนาไปกว่ากันเกลี่ยแก้มลากผ่านไปยังสันคางคนตรงหน้าเบาๆ สายตาท่านเจี้ยวยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าคนรัก
..
"ให้เราเป็นของกันและกันเถอะนะ""..."
ท่านเจี้ยวก้มลงแนบริมฝีปากเบาๆ ไม่มีการสอดพันใดๆ และไร้ซึ้งการบดเม้ม ก่อนจะละริมฝีปาก เข้าไปกระซิบกรอกเสียง
ลงข้างๆหู
..
"..ยอมแค่กับกูได้มั้ย".. เหมือนที่เขายอม
.. ยอมทั้งใจ .. ยอมทั้งกาย ทั้งที่ไม่เคยคิดจะยกมันให้ใคร
..
ท่านเซียนหายใจหอบพร่ามองใบหน้าคนที่เพิ่งจะบุกรุกอย่างร้ายกาจอีกครั้ง.. ความเจ็บปวดก็เริ่มบรรเทาลงไปบ้างแล้ว
แต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี ปวดแสบ.. ไม่ได้มีความรู้สึกดีกับสัมผัสนี้เท่าไรนัก
"..."
ท่านเซียนไม่ได้ตอบอะไร แต่สีหน้าก็ยังแสดงให้เห็นชัดว่ายังเจ็บปวดอยู่.. ท่านเจี้ยวก้มลงจูบที่เปลือกตาท่านเซียน ก่อน
จะเลื่อนริมฝีปากพรมจูบไปทั่วใบหน้า แล้วพูดกับคนตรงหน้าอีกครั้ง
..
..
..
"...โกรธเมียเซียนรึเปล่าครับ
ผัวเจี้ยว"
.. ให้ตายสิ ท่านเจี้ยวพูดแบบนี้ขึ้นมาเอง ทั้งๆที่สรรพนานเช่นนี้มีแต่ท่านเซียนที่ตุไปเองแท้ๆ .. ทำเอาคนถูกเรียกว่า
ผัวเจี้ยวแทบจะยิ้มออกมาทั้งๆที่คิ้วยังพันกันอยู่ .. ตลกพิลึกดีแท้
ท่านเจี้ยวมองแล้วเม้มปากยิ้มกับสีหน้าตลกแต่ชวนมองแล้วก้มลงหอมแก้มอย่างอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้
..
คนเป็นสามีค่อยๆคลายคิ้วที่ขมวดผูกเป็นผมอยู่ทีละน้อย ค่อยๆยกมือขึ้นโอบคอเมียแล้วกดให้โน้มหน้าลงมาใกล้อีก
.. มอบรสจูบส่งผ่านคำว่ารักกันอีกครั้ง
..
พร้อมกับกระซิบลมหายใจเป็นประโยคกรอกลงสู่โสตประสาทการได้ยิน.. ให้รับรู้ไปทั้งหัวใจของคนฟัง
..
"....งั้นแค่กับมึงเหมือนกัน ผัวเซียน"ท่านเจี้ยวเผลอหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนจะเหล่หางตามองท่านเซียน.. หว่า..... หน้างี้แดงซ่านเชียว
.. เห๊อออ มุมน่ารักก็แอบมีให้เห็นเหมือนกันนะ ..
"ครับ ครับ~ เมียเจี้ยว"
รับคำอย่างติดตลกเช่นเคย เอาล่ะ.. ไม่รู้ฐานะมันสลับกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่อย่างน้อย...
คนสองคนนี้ ก็คงได้ร่วมรักกันอย่างเป็นสุขซักที ..เกือบพลาดอีกแล้วมั๊ยล่ะ เพราะความอย่างเอาชนะหรืออารมณ์
พาลของท่านเจี้ยวแท้ๆ.. เกือบทำให้บทรักต้องร้าวแล้วเชียว..
++++
มีต่อด้านล่าง....กรุณารอซักครู่