^
^
^
โย่ว ปั๊ปปี้ ก่อนไปเจอกันที่ลิงกินผัก ไปเอาลมเหนือกลับมาด่้วน หายไปจากหน้าแรกได้ไงเนี่ย ส่วนอีพี่เหยี่ยวเด็กแถวนี้บอกว่าไม่สนใจ
ตอนที่ 10ต้อนตื่นเช้าจะไปโรงเรียน ออกมายืนงงมองบ้านข้างๆ เพราะคิดว่าแก๊งค์เพื่อนเมาของพี่อ๋อมกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเสียอีก
เออ..ดีเนอะ กินเหล้ากันเงียบๆ อย่างนี้ค่อยน่าคบหากันหน่อย
แต่ละคนเปิดประตูบ้านออกมาทักทาย
พี่โอหนุ่มมนุษยสัมพันธ์ดีร้องทักมาก่อน
“ไงน้องต้อนไปโรงเรียนแล้วหรือ”
“ฮะ” หนุ่มหน้าใสยิ้มกว้าง
“ใกล้สอบแล้วสินะ สู้ๆ”
ต้อนชู 2 นิ้วมองเลยพี่โอไปที่คนที่เดินตามออกมา คนรูปหล่อคนนั้นยังใส่กางเกงนอนขายาวอยู่เลย
“ไม่ไปเรียนเหรอ” ต้อนถาม
“ยังหรอก ตื่นเพราะไอ้พวกนี้มันโวยวายกันแต่เช้า”
“สัดเหอะ” พี่ทูหนุ่มตาคมร้องด่าก่อนปรากฎตัว
“พี่ทู”
“ไงน้องต้อน” ทูยิ้มกว้าง หยิบรองเท้าออกมานั่งใส่ที่เก้าอี้หินอ่อนในโรงรถ
ต้อนมองต่อไปที่คนสูงโปร่งไหล่กว้างท่าทางเหมือนนักเลงคุมบ่อน ผิดที่พอคลี่ยิ้มกว้างกลับกลายเป็นคนที่ดูใจเย็นกว่าพี่โอเสียอีก
“นี่เฟี๊ยต”
พี่อ๋อมแนะนำสมาชิกใหม่
ต้อนยกมือไหว้ “สวัสดีฮะพี่ ผมชื่อต้อนเด็กข้างบ้าน ไปเรียนแล้วนะฮะ”
“เหรอ พี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรฮะผมไปมอไซค์ได้ ไปละฮะ”
ต้อนลาอีกครั้งวิ่งตื๋อไปทันที
“นั่น มอ 6 จริงๆเหรอ” เฟี๊ยตถาม ขณะที่เข็นรถมอเตอร์ไซค์ออกมา
“มอ 6 รด.ปี 3 นั่นแหละ” โอหันมาเพิ่มเติมคุณสมบัติ
ส่วนทูหันมาหาอ๋อมด้วยความเป็นห่วง
“ไหวมั้ย”
“เฮ่ย จิ๊บๆ เดี๋ยวเจอกันที่มหาลัย”
แต่ทูยังคงจ้องหน้า จ้อง และจ้องจนอ๋อมต้องโบกมือไล่
“ไปกลับบ้าน ไอ้เฟี๊ยตพาเพื่อนกูไปส่งถึงบ้านนะโว้ย”
“กูลงปากซอยสถานีรถไฟฟ้า” โอบอก
ซ้อนสามจนถึงหน้าปากซอยโอก็ลงจากรถ แต่เฟี๊ยตคว้าข้อมือทูไว้
“กูไปส่ง”
“อย่าเจ๋อ ขามามึงมากับโอเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ขากลับก็กลับไปด้วยกัน กูจะกลับเอง” ทูด่าแล้วจ้ำเดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าทันที
โอได้แต่หันมาพยักหน้ากับเฟี๊ยต “ไงล่ะเพื่อนกู”
เฟี๊ยตแค่ยิ้ม “เออ มึงขึ้นมาเหอะกลับบ้าน เดี๋ยวต้องไปเรียนอีก”
พอเพื่อนกลับออกไป อ๋อมก็เดินเข้าบ้าน แต่ไม่วายหันไปมองบ้านข้างๆถอนหายใจส่งท้ายอีกที แล้วขึ้นไปเก็บห้องนอนทั้ง 2 ห้อง
กิจวัตรประจำวันผ่านไปเรื่อยๆ เรียน เล่น กิน เที่ยว ที่ต้องยอมรับก็คือ หัวใจของเราไม่ได้อยู่ในอกข้างซ้ายเหมือนเดิมแล้ว อาการเจ็บ สลับกับอาการโหวงเหวงอกกลวง มันจะกำเริบขึ้นมาเป็นพักๆ ให้เกิดอาการคล้ายไม่มีเรี่ยวแรง คิดอะไรไม่ออก ความสามารถในการมองหญิงหายสาบสูญ จนทุกคนรอบตัวแปลกใจ
ก็ช่างมันเหอะเค้าแปลกใจ แต่หัวใจกูหายไปอยู่ที่คนข้างบ้าน
“คุณข้างบ้านคร๊าบบบบ หลับหรือเปล่า” เสียงร้องเรียกจากข้างบ้านยังคงเรียกรอยยิ้มกว้าง อารมณ์ดีได้เหมือนเคย
“อยู่ครับ มีอะไรให้รับใช้” เดินออกมาตามเสียงหนุ่มน้อยหน้าใสผมเกรียนยืนอยู่ข้างรั้ว
“กินกุ๋ยช่ายมั้ย”
ต้อนยื่นจานกุ๋ยช่ายข้ามรั้วมาให้
“ซื้อมาเหรอ”
ต้อนทำหน้างงๆ “ก็ที่ผมกับพ่อแม่ไปนครสวรรค์มาเมื่อวานไง ที่บอกว่าแม่พาไปบนสอบเข้ามหาลัยไงจำไม่ได้เหรอ”
“อ่า...จำได้” อ๋อมทำหน้าตางงๆ
“พี่ไม่สบายหรือเปล่า กำลังจะสอบไล่แล้วก็ไปค่ายไม่ใช่หรือฮะ”
“เออ” อ๋อมเดินเข้ามาจะรับจานขนม แต่กลับเปลี่ยนใจ “เข้ามาบ้านก่อนมั้ย”
“อย่าเลยฮะ เดี๋ยวเกมมา”
ชื่อนี้มันแสลงใจจริงๆ
“ต้อน...มีความสุขดีหรือเปล่า”
ขอเตือนอย่างจริงใจและจริงจัง ว่าไม่ควรไปถามใครแบบนี้ เพราะมันมีเจตนาร้ายแฝงอยู่มากกว่าเจตนาดี
“ผมไม่รู้” ต้อนมองจานขนม ที่จับวางอยู่บนรั้ว
“ทำไมล่ะ เมื่อเดือนก่อนต้อนก็บอกพี่แบบนี้”
“ก็ผมไม่รู้จริงๆว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคือความสุขหรือเปล่า ผมควรทำยังไง”
มอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาจอดหน้าบ้าน หนุ่มนักเรียนผมเกรียนก้าวลงมาจากรถ อ๋อมหันไปส่งยิ้มทักทาย
“แฟนมาแล้ว ฝากขอบคุณแม่ด้วยนะต้อน” อ๋อมพูดเสียงดังให้เกมได้ยิน ขณะที่รับจานขนมมา ทำเนียนถามเกมต่อไป “เกมไปบนที่ไหนหรือเปล่า”
เกมพยักหน้า แต่ไม่ได้บอกว่าบนที่ไหน ไม่แม้แต่ยิ้ม
พอเข้ามาในบ้านต้อนก็หันมาถาม “ทำไมวันนี้มึงไม่ไปกวดวิชา”
“กูไปเอาชีทมาแล้วนี่ไง จะได้ทำด้วยกัน” เกมบอกขณะที่วางกระเป๋าแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำดื่ม ส่วนต้อนคีบขนมจากหม้อนึ่งใส่จานมาวางไว้บนโต๊ะ
เกมหันมามองขนมแล้วยิ้มกว้าง
“กินซะแล้วจะได้ทำแบบฝึกหัด แล้วก็กลับบ้านแต่วัน”
“ต้อน”
“หือ”
“มึง...อึดอัดที่คบกับกูใช่มั้ย”
“กูไม่รู้ อันที่จริงกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอึดอัดมั้ย กูรู้แต่ว่ามันไม่เหมือนเดิม”
เกมกำมือแน่น แล้วค่อยคลายออก
“เวลาที่อยู่ที่โรงเรียนไม่เห็นมึงจะนิ่งเงียบแบบนี้ คุยเล่นกันได้เหมือนที่เคยเป็นมา แต่พอกูตามมาบ้านทีไร มึงจะดูเกร็งๆ ทำท่าเหมือนไม่อยากให้กูมา เพราะพี่อ๋อมหรือเปล่า”
“คงเพราะเวลาอยู่กับไอ้ 3 คนหรือกับเพื่อนคนอื่นต่างคนต่างคุยต่างเล่น กูก็มั่วไป แต่เวลาอยู่กันแบบนี้ กู... หรือมึงไม่กลัวคนรู้ว่า...ชอบผู้ชายด้วยกัน”
เกมเสียงห้วนขึ้นโดยไม่รู้ตัว “แต่เขาก็รู้แล้ว เมื่อกี้มึงไม่ได้ยินที่เขาทักหรือไง”
“งั้นกูก็คงกลัวพ่อแม่จะรู้มากกว่ามั๊ง”
“ต้อน ทำไมมึงทำเหมือนไม่ใส่ใจกูขนาดนี้ ทุกคำพูดของมึงมีแต่ความไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง”
“ก็กูไม่รู้ กูไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องการคำตอบจากกูนัก กูไม่มีคำตอบให้ใครทั้งนั้นแหละ”
...ได้โปรด เลิกถามกูสักทีเถอะ กูไม่ตอบเพราะกูรู้ตัวว่ากูไม่พร้อม และที่สำคัญคือกูไม่อยากโกหกมึง...
“ต้อน”
“ฟังนะเกม กูใส่ใจมึง เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน”
เพราะใส่ใจ เพราะรู้ว่าเพื่อนคนนี้เครียดกับเรื่องการเรียนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยขนาดไหน ครอบครัวของเกมเป็นยังไง ถึงได้ไม่กล้าที่จะพูดอะไรที่มันเด็ดขาดลงไป
แล้วเมื่อดูผลการเรียนที่เกมเป็นเด็กเก่งของห้อง แต่ต้อนอยู่ในระดับกลางๆด้วยแล้ว ยังไงก็ต้องแยกกันเรียนในช่วงมหาวิทยาลัย
สภาพแบบนี้ ก็แค่รอไปอีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
“เกม มึงก็รู้ว่ากูไม่ใด้สนใจเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร กูรู้แต่ว่าพ่อแม่กูไม่มีปัญญาส่งกูเรียนเอกชน ยิ่งไปต่างจังหวัดเขายิ่งเป็นห่วง กูบอกมึงว่าคบก็คบ แต่ถ้าถามว่าใจกูคิดอะไร คำตอบของกูก็คือกูไม่รู้”
เกมเท้าศอกลงกับโต๊ะ ยกมือปิดหน้า น้ำตาไหลล้นอาบแก้ม
“ห่าต้อน มึงเป็นเพื่อนที่ดีชิบหายมึงรู้ตัวมั้ย มึงเป็นน้องชายที่น่ารัก แต่มึงเป็นคนรักที่ไร้หัวใจ”
ต้อนมองเพื่อนขอบตาร้อนผ่าว
.....เพราะกูไม่เคยรักมึง กูแค่ไม่กล้าขัดใจมึงเท่านั้นเอง...
เกมปาดน้ำตา สูดจมูกแล้วลุกขึ้นไปล้างหน้า หันกลับมาหาต้อนอีกครั้ง
“มึงรัก...ใคร....อยู่หรือเปล่า”
“เปล่า”
คำตอบเพียงคำเดียว แต่ในใจพาลนึกไปถึงคนที่อยู่ข้างบ้าน คนที่ควงหญิงสาวไม่ซ้ำหน้า เพื่อนเยอะ รักสนุก กิจกรรมมาก
คนแบบนั้น...รักไปก็มีแต่คำว่าเสียใจ
จูบนั่น ไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับคนเจ้าชู้อยู่แล้ว
ขนาดนอนด้วยกันเขายังบอกว่าไม่รัก แล้วนี่แค่จูบ ไม่มีความหมายอะไรเลย...
“ต้อน”
เสียงของเกมเรียกต้อนกลับมาสู่ความจริง
“อะไร”
“พรุ่งนี้ให้กูมารอรับมึงอีกได้มั้ย”
“อือ” ต้อนตอบรับไป เพราะไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
คิดถึงพี่อ๋อมไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงจะคิดกับเกมแค่เพื่อนสนิท แต่เพื่อนสนิทกับแฟนมันก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่นี่นา
ใช่มั้ย เพื่อนสนิทกับแฟน มันก็เหมือนกันน่ะแหละ
เหมือน
ไม่เหมือน
ไม่รู้
ไม่รู้อะไรเลย
ไม่เคยรู้อะไรสักอย่าง...
ส่วนคนข้างบ้าน ยิ่งห้ามตัวเอง กลับยิ่งบังคับตัวเองไม่ได้ พอได้ยินเสียงเปิดประตูด้านโรงรถก็ทำเป็นฟอร์มเปิดประตูออกมารดน้ำต้นไม้ ส่งยิ้มทักทาย ถามไปเรื่อยแบบเพื่อนบ้านแสนดี...ประสงค์ร้าย...
“ใกล้สอบไล่แล้วสินะ”
“ครับพี่ ช่วงนี้หาเรื่องหยุดอ่านหนังสือกันแล้ว” เกมเดินมาหา
บางอย่างในแววตาของเกมบอกกับพี่อ๋อมว่ารู้ทัน
“ผมสอบ พี่ก็ใกล้สอบเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ”
“ใช่ ช่วงนี้เร่งเคลียร์งานกันน่ะ” อ๋อมหันไปมองต้อน ...เอาวะ กูเป็นคน...ดี...ต้องดีให้ได้สิน่า
“สอบเสร็จพี่ไปค่าย พอดีกับช่วงที่เกมกับต้อนสอบเข้ามหาลัยน่ะแหละ กลับมาถึงมาขึ้นทะเบียนซ้อมรับปริญญา แล้วก็พักรอเรียนโท”
เห็นมั้ยบอกหมดจริงใจสุดละกูน่ะ
“แล้วพี่จะฝากต้อนดูบ้านอีกหรือครับ”
คำว่าอีกหรือครับของเกมเนี่ยสะดุดหูจนต้อนต้องรีบออกตัว
“ไม่เป็นไร ก็แค่รดน้ำต้นไม้เอง”
บอกกันตามตรง บทพระเอกมันจะไปไม่รอดเพราะโดนรู้ทันนี่แหละ
“ฝากดูๆก็พอ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก แล้วมันก็ยังอีกตั้งหลายวัน”
ต้อนมองพี่อ๋อมกับเกม ท่าทางแปลกๆ ดูหยั่งเชิง รู้ทัน รอให้อีกคนพูดก่อน อาการคล้าย 2 สาวที่หน้าบ้านพี่เมื่อช่วงก่อนหน้านั้น แต่ก็แค่คล้าย มันมีอะไรไม่รู้ที่ไม่เหมือนกัน
“เกมกลับบ้านเหอะ เดี่ยวม๊าเป็นห่วง” คนตัวเล็กดึงข้อมือเพื่อนให้ห่างออกมาจากรั้ว
เกมหันมาหาพี่อ๋อม “พี่รู้ใช่มั้ยครับว่าต้อนน่ะ....” เจตนาเว้นช่วงให้ทายคำในช่องว่าง แล้วพูดต่อ “เป็นของผม”
“เหรอ” เอาวะเป็นไงเป็นกัน “พี่รู้แต่ว่า ต้อนไม่ใช่สิ่งของ”
เกมกำหมัดตาขวางทันทีจนต้อนเข้ามาผลักไหล่
“เฮ่ย ไม่เอาน่าเกม กลับบ้านเหอะ พรุ่งนี้เช้าเจอกัน”
ต้อนออกมายืนมองเกมจนกระทั่งขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างตรงหัวมุมออกไปแล้ว ถึงได้ถอนหายใจหนักๆ ก้มหน้าเดินกลับไปบ้านตัวเอง แต่ตอนนี้อ๋อมเปิดประตูรั้ว ก้าวออกมาเรียกไว้
“ต้อน ไม่ได้คุยกับเกมหรือ ว่าไม่พร้อมน่ะ”
“คุยแล้ว แล้วมันก็..ร้องไห้ทุกที”
...นั่นสินะ มีเรื่องมากมายที่มือที่ 3 ไม่รู้และจะต้องเก็บข้อมูลเพิ่ม...
“ต้อนก็เลยต้องตามเลยไปเรื่อยๆแบบนี้น่ะหรือ”
“แล้วผมควรทำไงล่ะ พี่รู้มั้ย ว่ามันน่ะเป็นคนจริงจังขนาดไหน แค่สอบได้ที่ 2 ของห้องมันยังขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำที่โรงเรียนเป็นชั่วโมง”
พี่อ๋อมถึงกับอ้าปากค้าง เข้าใจได้ว่าทำไมต้อนถึงไม่กล้าความเด็ดขาดกับเกม นอกจากจะเป็นเพื่อนกันมานาน นิสัยเรื่อยๆของต้อน ยังมาเจอประเด็นเกมเป็นพวกแพ้ไม่เป็นซะอีก
“ผมก็แค่รอให้เราสอบได้กันคนละที่ หรือไม่มันเรียนมหาลัยรัฐ แต่ผมเรียนราม แล้วมันเจอสาวสวย ผมยาว เจอเพื่อนใหม่แล้วก็เบื่อผมค่อยๆห่างไปเอง”
ต้อนก้มหน้า มองไปทางอื่น มองซ้ายมองขวา แล้วก็ก้มหน้า อาการลังเล ไม่สบายใจ อึดอัดฉายชัด
ทั้งที่รู้ว่าต้อนกำลังรับปัญหาของเกมเพียงลำพัง
เด็กดีคนข้างหน้านี้ เลือกที่จะอุ้มเพื่อนไว้ทั้งที่ตัวเองก็มีขีดจำกัด
แต่คนเลวคนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเอง
...ใช่มั้ย หัวใจต้อนน่ะอยู่กับเพื่อนบ้านเลวคนนี้ แต่ไม่กล้าขัดใจเพื่อนผู้จริงจัง
มือที่ 3 ไม่ได้กำลังคิดไปเองใช่มั้ย
เลวได้อีกว่ะกู...
=======จบตอนที่ 10=======
1 อู๊ดดี้ใจเย็น อย่าเพิ่งรำคาญเมื่อเห็นชื่อเกม อีกสัก....10 ตอนชื่อนี้ก็จะหายไป 555
2 จิครับ ขออภัยไม่มีซีนอย่างที่จิต้องการ พี่มายด์แอบดีใจละสิ
3 เดินเรื่องช้าไปหรือครับ เอาน่า ตอนนี้ก็เริ่มวาร์ปแล้วหล่ะ
4 ทูเฟี๊ยต มาขอขึ้นค่าตัว ทำไงดี
พบกันวัน พฤหัสบดี นะครับ
ขอบคุณทุกความเห็น และคำแนะนำครับ
ไจฟ์กับที