^
^ Morning Puppy ^^
เนื่องจากทูเฟี๊ยตมาขอขึ้นค่าตัว ดังนั้นเราต้องใช้งานให้คุ้ม
พ่อยกแม่ยกทั้งหลาย เตรียมอุปกรณ์!!!
ตอนที่ 15ลืมตาตื่นปรากฎว่าไอ้คนที่นอนหันหลังให้เขาตอนแรกกลับกลายเป็นคนที่ไปนอนซุกอยู่ที่ไหล่กว้างของเขาในตอนเช้า
เออ ยอมรับตอนที่มันยังไม่ตื่นนี่แหละ ว่า..เก้อ ทำอะไรไม่ถูก
บอกตัวเองมาตลอดว่าเกย์คือผู้ชายที่ทำตัวไม่สมเป็นชาย พวกรักสนุกไม่ผูกพัน
บอกตัวเองว่าอ๋อมคือเพื่อนที่ไว้ใจได้ ทั้งที่มันเป็นคนเจ้าชู้ชนิดไม่เป็นรองใคร หว่านไปเรื่อยและไม่ผูกพันกับใครสักคน
บอกอย่างนั้น แต่ก็เจ็บพิกลทุกครั้งที่มีสาวมานั่งเบียดไหล่ไอ้อ๋อม
บอกอย่างนั้น แต่ยังหน้าชาตัวชา เมื่อรู้ว่าไอ้อ๋อมอกหักจากต้อนเด็กข้างบ้าน
แล้วอาการนั้นมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมีไอ้ตี๋โย่งคนนี้มาวิ่งตาม ส่งยิ้มทนถาวรไม่รู้ร้อนรู้หนาว
แล้วพอเจอกันบ่อยครั้งขึ้น และมาทำงานด้วยกัน ก็ทำให้ได้รู้ว่า รูปร่างหน้าตาที่เหมือนจิ๊กโก๋ปากซอยแบบนี้ ที่จริงมันเป็นคนที่ทำได้สารพัดเหมือนอ๋อมกับโอน่ะแหละ
ตั้งแต่งานซ่อมผนัง ปูหลังคา ทาสี ไปจนถึงเล่นบอลกับเด็กๆ ในตอนเย็น
คนนี้ซะอีกที่ได้แต่วิ่งไปวิ่งมา ส่งตะปู ส่งไม้ ส่งน้ำ
ดีที่ไม่ต้องทำกับข้าวเท่านั้นแหละ เพราะมีนักศึกษาผู้หญิงกับชาวบ้านช่วยกันทำให้
“น้ำพริกผัก กับปลาย่างจ้ะ” เมียของผู้ใหญ่บ้านยิ้มกว้าง “จะเผ็ดไปหรือเปล่าไม่รู้”
“เผ็ดก็ดีสิครับ กับข้าวไม่เปลือง” เบิ้มบอก
ไม่ต้องเรียกซ้ำวุ่นวาย แต่ละคนเข้ามารุมล้อม กินข้าวกันตอนเกือบทุ่ม
“เอาปลาอีกมั้ย” เฟี๊ยตหันมาเห็นทูที่เลือกกินแต่ปลาคลุกข้าว
“มึงกินเหอะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก มันกินได้” อ๋อมบอก หักผักจิ้มน้ำพริกวางใส่จานให้ทู
เฟี๊ยตมองยิ้มๆ เมื่อเห็นทูเหลือบตามองมาแล้วทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจ กินน้ำพริกผักที่อ๋อมวางไว้ในจาน
โอได้แต่กระซิบเตือนเพื่อน “มึงน่ะรอดอยู่แล้ว แต่ระวังไอ้เฟี๊ยตมันเช็คเมทไอ้ทูเหอะ”
อ๋อมหันไปยักคิ้วหลิ่วตาเป็นคำตอบ
รู้กันน่ะ รู้กันตลอด ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ไอ้ 2 คนที่ชอบซุปซิบรู้กันนี่แหละที่จะโดนสายตาพิฆาต แต่วันนี้ ที่มีไอ้ตี๋โย่งเข้ามาวุ่นวาย ทูมันก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตากินข้าว
กินอาหารเสร็จ อ๋อมเดินมาดูกระดานผุพัง มีโอเดินตามมาด้วย
“อันนี้ต้องสั่งไม้แผ่นใหญ่ว่ะ”
“เออ ร้านก่อสร้างแถวนี้มีมั้ยวะ” อ๋อมบอกขณะที่เคาะมือที่กระดานดำ
คำว่าแถวนี้น่ะ มันห่างออกไปอีกหลายกิโล ถึงในตัวเมืองโน่น แต่อ๋อมเรียกซะอย่างกับเซเว่นปากซอยงั้นแหละ
“เดี๋ยวไปบอกครูใหญ่ให้”
“ทำช่วงแดดร้อนหรือหลังกินข้าวก็ได้แป๊บเดียวก็เสร็จ”
คนรูปหล่อบอกแล้วเดินออกมาจากห้องเรียน โอเดินตามมาข้างๆ
“คิดถึงน้องหรือไง”
“อือ คิดถึงชิบหาย คิดถึงจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี”
“ถึงได้หาเรื่องทำโน่นนี่ไม่หยุด หาเรื่องแกล้งไอ้ทู”
“ก็มันน่าแกล้งนี่หว่า”
อ๋อมเดินๆมาแล้วหยุดยืนมอง
ทูที่นั่งอยู่ที่บันไดหน้าห้องเรียน มองดูเฟี๊ยตซ่อมเก้าอี้จากห้องสมุด ไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆว่าจะได้เห็นภาพนี้
“เห็นแบบนี้ยิ่งคิดถึงใช่มั้ยอ๋อมรูปหล่อ”
“มึงจะย้ำทำไมนักหนาวะเนี่ย สัด” อ๋อมโวยวายใส่เพื่อนแสนดี เสียงดังจนทุกคนหันมามอง
ทูลุกขึ้น เดินมาหา “ไอ้เบิ้มมาตามบอกว่ากินเหล้าอยู่บ้านพักครูแน่ะ”
“อ้าวแล้วมึง 2 คนไม่ไปล่ะ”
“รอมึงแหละ เห็นเดินสำรวจอยู่ เฟี๊ยตมันเลยซ่อมเก้าอี้รอ”
อ๋อมพยักหน้า “กูรอโทรหาน้องก่อน มึงจะไปกินก็ไปเหอะ”
ทูตอบทันที “งั้นกูรอด้วย”
“อ้าว” โอหันไปหาเฟี๊ยตที่ยิ้มกว้างแล้วหันไปซ่อมเก้าอี้ต่อ “งั้นกูล่วงหน้าไปก่อนแล้วมึงตามไปนะ”
แต่โอเดินไปได้ 2 ก้าวหันกลับมามอง
อ๋อมที่ยืนมองโทรศัพท์ในมือ
ทูที่กลับไปนั่งเล่นที่บันได้หน้าห้องเรียนเหมือนเดิม
กับเฟี๊ยตที่กำลังตอกตะปูเก้าอี้
มองคนนั้นทีคนนี้ทีก็เปลี่ยนใจ เดินกลับมานั่งข้างๆทู
“ไปกินเหล้าสิ” คนตาคมหันมาบอก
“เหล้ากินเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เพื่อนกูตรงนี้ น่าเป็นห่วงมากกว่า” โอพูดตรงๆ
ทูกอดคอเพื่อน โน้มมาหอมแก้มดื้อๆ
คนที่โวยวายคือไอ้โอ “เหี้ย ทู เล่นไรของมึงเนี่ย”
อีก 2 คนได้แต่หัวเราะ
“มึงเป็นคนดี”
“เหอะ มึงจะทำให้กูเปลี่ยนใจเป็นคนไม่ดีแล้วนะเนี่ย สัดทู”
“ก็บอกตั้งหลายทีแล้วว่า....” ทูหยุดพูดหันไปมองไอ้คนที่ไม่ยอมตอกตะปูต่อ ทั้งยังหันมามองรอฟังไปด้วย
คนตาคมเบ้หน้ายักไหล่ “ปะโอ กินเหล้ากัน”
บอกแล้วก็ดึงมือให้ลุกขึ้นตามมาด้วย
“โห มึงนี่ วัยทอง เลือดจะไปลมจะมา เดาทางยากชิบหาย”
โอทำบ่น จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าห้องพักครู ที่ตั้งวงเหล้า ทูถึงได้บอก “ย้ำครั้งสุดท้าย ไม่ต้องห่วงกู กูไม่ได้อะไรมากกับไอ้อ๋อมขนาดที่จะทำให้ฟูมฟายพิราบรำพัน กูคงแค่เพ้อไปกับความหล่อของมันจนข้ามเส้นคำว่าเพื่อน แต่ไม่ถึงกับอยากเป็นแฟนหรอกน่า”
“จริงนะ”
“เออ เพราะว่า....” ทูพูดแล้วกัดปาก เหลือบตามองไปที่ คนไหล่กว้างที่ยกเก้าอี้ตัวที่ซ่อมเสร็จแล้วเข้าไปเก็บ
“มึงรู้สึกดีกับมันใช่มั้ย” โอทาย
“เออ อย่าบอกมันนะ เดี๋ยวมันได้ใจ มันยิ่งบ้าๆอยู่ด้วย”
โอยิ้มกว้าง ปากแทบถึงหู
“เอ้า 2 คนนั้นจะแต่งกันเมื่อไหร่บอกมาเลย กูยังพอเหลือเงินช่วยงาน” เบิ้มแซวมาจากวงเหล้า เมื่อเห็นเพื่อนรักยืนคุยกันไม่เข้ามาร่วมวงสักที
โอดึงมือทูไว้ “คำถามสุดท้ายจริงๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“กูจะไปรู้เหรอ มันวิ่งตามแซวกูอยู่ทุกวัน กูจะรู้มั้ย แล้ว...เรื่องแบบนี้มันต้องดูกันยาวๆ อย่าเอาความเหงานำทาง”
คนตัวสูง 2 คนเก็บเก้าอี้ที่ซ่อมเสร็จแล้วเข้าไปเก็บในห้อง แมสเซจจากคนที่รออยู่ก็เข้ามา
อ๋อมพลิกโทรศัพท์แล้วยิ้มกว้าง
เฟี๊ยตแค่ยักคิ้ว แล้วชี้ว่าจะไปร่วมวงที่บ้านพักครู
คนรูปหล่อพยักหน้า กดโทรออก
“วันนี้เป็นไงบ้างนักเรียน”
“อ่านหนังสือ กินขนม เล่นเกม”
อ๋อมได้แต่หัวเราะ
“แต่อย่างที่พี่ว่าจริงๆ มันเป็นช่วงที่ติดเพื่อนสุดละ”
“เขาว่า เพื่อนที่คบกันตอนเรียนคือเพื่อนแท้ เพราะคบกันตั้งแต่ตอนที่ไม่มีอะไรเลย”
“เนอะ” ต้อนบอก แล้วถามต่อ “พี่เป็นไงมั่ง ร้อนอะดิ”
“ร้อนมาก หลังกินข้าวเที่ยงต้องหามุมร่มๆ ทำงาน พอเย็นหน่อยงานถึงได้เป็นเรื่องเป็นราว”
อ๋อมคุยไปเรื่อยๆ ดวงตาสีอ่อนมองดาวเต็มฟ้า
พราวระยับ เหมือนดวงตาของคนที่ชวนคุยไปเรื่อย จากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง
“กลางคืนน่ากลัวป่ะพี่”
“ไม่หรอก มันเงียบน่ะใช่ แต่ไม่ได้กลัวอย่างที่ต้อนกลัว”
“จริงนะ ไม่มีกุ๊ก กุ๊ก กู๋แน่นะ”
อ๋อมหัวเราะ “เมื่อคืนนอนในห้องเรียนหลับสบายดี”
“ดีเนอะ”
“อืม เสียดายที่พี่มาก็ตอนปี 4 แล้ว”
“งั้นผมเข้ามหาลัย ผมตรงไปชมรมอาสาเลยดีป่ะ
“ไม่ดี” เสียงห้วนมาทันที
“อ้าว”
“ตากแดด ตากลม กินนอนลำบาก อย่ามาเลย”
“อะไรของพี่เนี่ย คิดว่าจะสนับสนุนให้ทำความดีซะอีก”
“อันที่จริงมันมีงานอาสาสมัครที่ไม่ต้องตากแดดตากลมอีกหลายอย่างนะ”
ไปค่ายอีสานใช้เวลาไม่มากนัก แต่มันกลายเป็นว่า การอยู่ห่างทำให้ได้พูดคุยกันมากกว่าตอนที่อยู่บ้านเสียอีก
ยังไม่ห้าทุ่ม แต่ละคนก็กลับมาเข้านอนด้วยความเพลียจากอากาศที่ร้อนจัด
ทูดีดตัวไปนอนฝั่งขวาของอ๋อมที่เป็นตำแหน่งประจำของโอหน้าตาเฉย จากตำแหน่งนี้ทำให้ทูนอนกลางห้องติดกับรุ่นน้องอีกคน
“เฮ้ย นั่นมันที่กู๊” เจ้าของที่ทำเสียงสูงปรี๊ด เลยโดนทูผลักหน้าหงาย
“อย่ามาทำเสียงสูงใส่กูสัด”
เบิ้มนอนมองมาจากอีกมุม “พวกมึงนี่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆได้ทั้งวัน ตอนกูเห็นไอ้ทูแรกๆนะกูโคตรเกรงใจเลย แมร่งหน้านิ่งดุชิบหาย”
“กูเสียฟอร์มเพราะมันแหละ” ทูบอกอีกที พยายามผลักโอไปนอนอีกฝั่ง “ไปนอนทางโน้นกูจะนอนตรงนี้”
อ๋อมจับเพื่อนแยก “เฮ่ย ทั้งร้อนทั้งเพลีย พวกมึงยังมีพลังงานเหลืออีกหรือวะ ไอ้ทูมึงจะนอนไหน”
“กูนอนนี่” ทูบอกแล้วลงนอนกระชับผ้าห่มทันที
“งั้นโอมึงนอนอีกข้าง แมร่ง”
“ไรวะ มึงตามใจทูได้ไง กูไม่ยอมนะอ๋อม” โอทำสะดีดสะดิ้ง
“เดี๋ยวกูถีบติดฝา นอนได้แล้ว”
อ๋อมดุ ทำให้โอยอมนอนด้านในสุด ส่วนเฟี๊ยตขยับไปนอนติดฝาผนัง
ห้องนอนปิดไฟมืดได้ไม่ถึง 5 นาที โอก็สะกิดเฟี๊ยต เปลี่ยนที่นอน โอเลื่อนเข้าไปติดฝาผนัง ถัดมาอีก 1 นาที
เฟี๊ยตก็เปลี่ยนมานอนแทนที่อ๋อม
ตื่นเช้าทูชี้หน้าด่าเรียงตัว “สัด ยุกันนักนะ พอกันหมดแต่ละคน” หนุ่มตาคมไม่ทันได้ด่านาน ไม้แผ่นเรียบที่จะใช้ทำกระดานดำก็มาพร้อมกับสี
โอรีบมาตีไม้ให้ก่อนเพื่อให้ทูลงสี
คุณชายใส่ถุงมือพลาสติก ผ้าคาดปาก ไล่ทุกคนออกจากห้องแล้วทำงานอยู่คนเดียว เสร็จแล้วก็มาช่วยกลุ่มที่ซ่อมพวกตู้และชั้นวางหนังสือ
บ่ายจัดงานก็เหลือแต่งานสีกับจัดหนังสือเข้าชั้น พวกสาวๆ เจออากาศร้อนจัดก็ถามหาที่เที่ยว ครูใหญ่แนะนำน้ำตกเล็กๆ ไม่ห่างนัก
“ไปเหอะ ทางนี้เหลืออยู่ไม่มากนัก ไอ้ทูมันปัดๆ เขี่ยๆ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” โอบอก
กลุ่มนักศึกษาปี 2 กับพวกสาวๆเลยไปเที่ยวน้ำตกกัน ที่เหลือก็เก็บงานกันต่อ
เย็นลงแก๊งค์บอลโอวัลตินก็มาร้องท้า
“เพ่ มาเตะบอลกัน”
“เฮ้ย ไม่ให้กินข้าวกินน้ำเลยหรือไงวะเนี่ย” โอทำเป็นถกแขนเสื้อเข้าหา แต่อย่างกับว่าแก๊งค์โอวัลตินจะกลัว แต่ละคนกระโดดล็อคแขน ล็อคเอว
เบิ้มหันไปบอกปี 3 อีก 3 คนไปเตะบอลกับเด็กๆ ส่วนที่เหลือทำงานกันไป
“ทู เตะบอลมั้ย” เฟี๊ยตถาม
“อ๋อมเตะบอลมั้ย” ทูหันไปถามอ๋อมต่อ
“ไม่ล่ะ มึงไปก็ไปเหอะ”
“ไม่เหมือนกัน” ทูบอกเฟี๊ยต
เด็กน้อยชายแดนเดินเข้ามากอดอกมอง 3 คนคุยกันด้วยดวงตาที่มีแต่เครื่องหมายคำถาม
“อะไร” อ๋อมถาม
“คนกรุงเทพกลัวเตะบอลแพ้เด็กสุรินทร์เหรอ”
“ไม่ใช่คนกรุงเทพ คนระยองว่ะ” อ๋อมบอก
ทูหัวเราะหึหะ “ไม่ได้กลัวแพ้ แต่พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วอยากทำให้เสร็จน่ะ”
พอค่ำลงกลุ่มที่ไปเที่ยวถึงได้กลับมาพร้อมของฝาก ส่วนคนที่ทำงานอยู่ตอนนี้ เหลือแต่ทูที่กำลังวาดภาพต้นไม้ใบหญ้าที่ผนังห้องด้านหนึ่ง
ที่เหลือเล่นบอลกัน แล้วก็ไปอาบน้ำ
“ทูอาบน้ำกินข้าว เดี๋ยวมาทำต่อ กูมาช่วย”
แต่เพราะอากาศร้อนจัดตลอดวัน ทำให้ อ๋อม โอ กับเฟี๊ยตที่ทำงานตากแดดตลอดเวลาเพลียจัด ได้สักเที่ยงคืนโอ กับเฟี๊ยตก็กลับไปนอนที่ห้องพัก เหลือทูกับอ๋อมทำงานต่อไป ต่างคนต่างทำงานกันเงียบๆ สักพัก โอ กับเฟี๊ยตก็กลับมา
“มาทำไมบอกว่าให้ไปนอนไง” ทูดุ
แต่โอยักไหล่ “นอนไม่ได้ว่ะเพื่อนทำงานอยู่”
ขณะที่เฟี๊ยตยิ้มกว้างแล้วเข้ามาหยิบแปรงทาสี
สักพักทูก็ทุบไหล่ตัวเองเบาๆ เฟี๊ยตหันมามองแล้วเดินมานวดไหล่ให้
“ขอบใจ กูไปล้างหน้าล้างตาดีกว่า”
เดินออกมาคนเดียวไม่ได้ชวนใครสักคน แต่พอหันไปมองข้างหลังไอ้ตี๋โย่งคนนั้นก็เดินตามออกมาด้วย ทูเดินไปที่ก๊อกน้ำข้างบันไดห้องสมุดเปิดน้ำล้างหน้าเสร็จก็หันมาหา
“เอ่อ..กูจะไปฉี่”
“ไปสิ”
แต่ทูกลับยืนหันซ้ายหันขวา จนเฟี๊ยตยกยิ้มมุมปาก “เป็นอะไร”
“กูไม่ไว้ใจมึงน่ะแหละ”
“นี่มันโรงเรียนนะ”
“เออ แล้วหมาที่ไหนหอมกูในห้องเรียน คนเป็นแพขนาดนั้น”
“เมื่อคืนก็หอม ไม่เห็นรู้ตัว”
“สัด ไม่กลัวเจ้าที่เจ้าทางเลยนะมึง”
“แค่หอมแก้ม กูไม่ได้ทำอะไรที่ลบหลู่นี่หว่า” ไอ้ตี๋โย่งยักคิ้ว คว้าข้อมือดึงให้เดินไปที่ห้องน้ำ
พอมาถึงทูรีบชี้บอกให้รออยู่ด้านนอกแล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องน้ำเล็กๆ
ฉี่เสร็จอย่างรวดเร็วเดินออกมาล้างมือ พอจะหมุนตัวเดินออกมา กลับโดนเหนี่ยวเอวกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ
“สัด ไหนบอกว่านี่มัน..ระ...”
มือใหญ่คว้าคางคนตาคมให้เงยหน้าขึ้นมารับริมฝีปาก
2 มือของทูทั้งผลัก ทั้งทุบให้ปล่อย แต่กลับโดนเบียดจนติดฝาผนังห้อง ยกขาถีบก็เหมือนถีบอากาศไม่เห็นว่าจะโดนมันสักนิด
ริมฝีปากหนาบดจูบแล้วดูดเม้ม ขาแข็งแรงเบียดแทรกเจตนาเสียดสี จนทูต้องลืมตาโพลง
ทั้งที่ต่อต้านขัดขืน แต่ร่างกายกลับรุ่มร้อน
มือใหญ่เลื่อนจากคาง กดไล่จากคอ ลงสู่อกถึงหน้าท้อง และความตื่นตัว
“ยะ อย่า สัด อย่า...”
เสียงร้องห้ามถูกกลบปิดด้วยริมฝีปากหนา มือแข็งแรงรั้งขอบกางเกงลง แทรกมือจับแก่นกายรูดช้าๆ
เฟี๊ยตเลื่อนจูบไปทั่วใบหน้า กดสนิทที่ใต้ใบหู
เสียงหอบหายใจแรงขึ้น
เฟี๊ยตดึงมือทูที่จับข้อมือไว้แน่น ให้มาจับที่แก่นกายของตัวเอง
“ทำให้กู”
“ไม่ สัด”
“นะ” เฟี๊ยตบอกแล้วรูดเร็วให้ทู
คนตาคมหลับตาแน่น ขยับมือช้าๆ
เฟี๊ยตสูดปาก จูบแก้ม “อีกนิดนะ”
เฟี๊ยตขยับสะโพกรับมือของทู ขณะที่ตัวเองก็เร่งมือ เกร็งตัวน้ำสีขาวขุ่นฉีดรดผนังห้องน้ำแล้วหันมาช้อนปากจูบทูดูดแรง
ทูจิกนิ้วที่ข้อมือเฟี๊ยตแล้วสะบัดหน้าออก ฉีดน้ำสีขาวท่วมหลังมือเฟี๊ยต เหนื่อยจนต้องพิงคนตัวสูงโย่งไว้
“สัด เหนื่อยชิบหาย”
ทูบอกหอบๆ เฟี๊ยตก้มจูบขมับแล้วใส่กางเกงให้
“ไปนั่งรอข้างนอกก่อน กูล้างห้องน้ำแป๊บเดียว”
ทูหันไปมองฝาผนังห้องแล้วส่ายหน้า ไม่พูดอะไร
กลับมาทำงานต่อ ไอ้ 2 คนที่ทำงานอยู่ก็แค่ยิ้มๆไม่ได้พูดแซว มีแต่ไอ้ตี๋โย่งน่ะแหละที่หันมาส่งสายตาหวานให้เป็นพักๆ
แล้วไอ้คนนี้น่ะเป็นอะไร กล้าๆสบตาไอ้ตี๋โย่งสักนิดเหอะ
รู้ตัวอีกทีคือเช้ามืดพวกผู้หญิงที่ตื่นนอนก่อน เข้ามาช่วยกันจัดหนังสือและทำความสะอาด
“แมร่ง หันไปเห็นแดดแล้วอาการไม่ต่างจากเมาค้างสักนิด” อ๋อมบอก
“เกือบน็อค 24 ชั่วโมงแน่ะกู” ทูหยีตามองแดด
“ไปอาบน้ำ กินข้าวเตรียมตัวกลับบ้านกันเหอะ”
หลังการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กินข้าวอีกมื้อ ขึ้นรถกลับบ้านกันตอนเที่ยงกว่า ทั้ง 4 คนขึ้นรถได้ก็หลับยาวมาจนเที่ยงที่เบิ้มปลุกมากินข้าว ซื้อของฝาก แล้วก็หลับต่อมาจนถึงมหาวิทยาลัยเอาเกือบเช้า สมาชิกชมรมส่วนหนึ่งกลับเลย ส่วนคนที่เหลือทางนี้ช่วยกันเก็บของเข้าห้องชมรมที่มหาวิทยาลัยเสร็จ ตรวจนับของคืนอาจารย์เรียบร้อย กลับมาถึงบ้านก็เกือบเที่ยง
บ้านข้างๆปิดเงียบ ได้แต่ส่งข้อความไปบอกว่า พี่กลับมาแล้วและกำลังจะกลับบ้านที่ระยอง วางของฝากไว้ที่เก้าอี้หินอ่อนในโรงรถให้มาหยิบไปด้วย
ส่งข้อความไปไม่ถึงนาที น้องก็โทรกลับ
“จะไปแล้วเหรอ” เสียงถามมาทันทีที่พี่กดรับสาย
“อือ ก็จะเที่ยงแล้ว ต้อนเรียนเสร็จแล้วหรือ”
“เปล่า ขอลุกออกมาเข้าห้องน้ำน่ะ”
“มีอะไรหรือเปล่า”
...กำลังเรียนอยู่ ได้ข้อความพี่ก็รีบออกมาโทรหา มันต้องมีอะไรแน่ๆ
คือต้อนไม่เคยโทรหาพี่เลยไง ที่ผ่านมามีแต่พี่โทรหาเท่านั้น
“ก็..ไม่มีไร”
มีชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์
“งั้นต้อนเลิกเรียนกี่โมง”
“บ่ายสาม”
“งั้น พี่คอย”
“ไม่เป็นไร พี่ขับรถกลางคืนอันตราย”
“ก็ไปเรื่อยๆ บ้านเราเอง”
ต้อนเงียบไป จนพี่ต้องถามย้ำ “ต้อน เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าผมแค่....”
“แค่อะไร เกมมันทำอะไรหรือไง”
“ไม่เกี่ยวกับเกมหรอกน่า ผมก็แค่....”
“อะไร”
“คิดถึง” บอกปุ๊บกดตัดสายปั๊บ
คนทางนี้ก็วางกระเป๋าเดินทาง โยนกุญแจบ้านไว้ที่โต๊ะเล็ก
...รอ สิ ครับ ท่าน...
=========จบตอนที่ 15========
คิดถึงตัวหนังสือสีฟ้า รบกวนแวะมาเที่ยงๆบ่ายๆนะครับ ทีออนมือถือพิมพ์แล้วทำสีไม่ถนัด ป๋ายังไม่มีเงินซื้อแท็ปเล็ตให้ใช้ TT^TT ที่จริงป๋ากลัวผมทำพัง บอกให้รอใช้ของหลวงแจก แล้วถ้าผมทำพังป๋าก็ต้องเสียเงินซื้อให้ เพราะพอใช้จนเคยมือแล้วมันจะอยากได้ๆๆๆ
สรุปคือ ผมคิดว่าผมจะทำมันพัง 55555
ออกค่ายแบกเป้เดินขึ้นเขา ทำฝายทดน้ำเล็กๆ สนุกมาก ทรหดมาก กลับมาเท้าพอง มือพอง ได้ทากตัวเล็กๆมาเป็นที่ระลึก แผลอีกเล็กๆ น้อยๆ กับเรื่องเล่าไม่รู้จบ ที่ขัดใจก็คือ ทีห้ามไป
แต่ก็อย่างที่ผมบอกไว้ในเรื่องนี้ มีงานอาสามากมายที่คุณสามารถทำได้ แค่เดินออกไปปากซอยพบคนแก่จะข้ามถนน พาจูงข้ามไปด้วย ก็เป็นเรื่องดีๆที่เราทำได้โดยไม่ต้องเดินทางไกล ไม่ต้องเสีัยเงิน ช่าย..แล้วเมื่้อไหร่ผมจะได้กินไก่ตะไคร้เนี่ย 
ยินดีมากที่ได้อ่านรีแสดงความเห็นของคุณ ต่อให้มีอีโมทิคอนตัวเดียว ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ใช่ๆๆๆ ชอบมาก
พบกันวันอาทิตย์ครับ
ขอบคุณทุกความเห็น ทุกการติดตามครับ ที่บอกว่าคิดถึงเพราะอยากอ่านสปอยล์ใช่มั้ยล่ะ งั้นเรื่องอะไรดี ....ทูเฟี๊ยตยังไม่หมดแค่นี้ วันอาทิตย์นะ วันอาทิตย์
ไจฟ์ครับ ทีครับ