
แม่ยกทูเฟียตเตรียมอุปกรณ์ ใครบอกว่าจะช่วยลงขันค่าตัวเตรียมกระเป๋าตังค์ไว้เลย 
ตอนที่ 16เฟียตเลี้ยวรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในซอยลึก จากปกติที่มาได้อย่างมากก็คือหน้าปากซอย แต่เพราะกระเป๋าเป้หลังใบใหญ่ ที่ทำให้ได้รับอนุญาตให้เข้ามาถึง ห้องแถวความสูง 4 ชั้น ผ่านออฟฟิศ และโรงพิมพ์ กับห้องแถวที่ปิดประตูสนิทลักษณะเหมือนโกดังเก็บของ คนซ้อนท้ายชี้บอกให้เข้าไปตรอกเล็กๆ ที่มีความยาวเท่ากับความลึกของตึกแถว ประตูไม้บานใหญ่ใต้ร่มไม้ครึ้ม มองเห็นบ้านหลังใหญ่อยู่ด้านใน
บ่งบอกว่า เจ้าของบ้านหลังใหญ่ด้านในคือเจ้าของตึกแถวเรียงรายด้านหน้า
“จอดนี่แหละ” คนที่ซ้อนท้ายบอกแล้วเหวี่ยงขาลงจากรถ
รถบรรทุก 6 ล้อเล็กเข้ามาจอดต่อท้าย คนงานหลายคนเข้ามาช่วยกันยกของลงจากรถ หันมาอีกทีหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูก้าวออกมาจากบ้าน
“อ้าวทูกลับมาแล้วเหรอ”
“มาแล้ว” ทูบอกแล้วหันมาหาเฟียต “ส่งแล้วก็กลับไปได้”
“อ้าวทู เพื่อนมาส่งยังไม่ให้กินน้ำ ไม่ไปไหว้พ่อแม่จะไล่ซะแล้ว แกนี่สอนไม่จำนะ พี่ชื่อวรรณพี่สาวไอ้ดุ”
“ผมเฟียตครับ” เฟียตแนะนำตัวแล้วยกมือไหว้
“มาเฟียตเข้าบ้านมากินข้าวกินน้ำกันก่อน”
“เฮ่ย” ทูทำเสียงคัดค้านเต็มที่ แต่พี่วรรณ หันมาขึงตาใส่น้องชาย
...เออใช่ บ้านนี้เขาดุกันด้วยสายตา...
“บอกเพื่อนเข้าบ้านสิ” พี่วรรณบอกย้ำ น้ำเสียงเนี่ยย้ำยิ่งกว่าย้ำ
“ไม่ต้องก็ได้ มันก็ต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่มันเหมือนกันแหละ”
“ไอ้ทู แกนี่มันเหลือเกิน ไปค่ายอาสามาหรือไปไหนมากันแน่ มารยาทมันถึงได้หนีหายไปขนาดนี้”
“เออ ก็เหนื่อยแล้วอยากนอน”
“แกก็นอนสิ ใช้เพื่อนมาส่ง แต่ไม่เลี้ยงน้ำเขาสักแก้ว แกนี่มันเหลือเกิน”
“ด่าตลอด”
ทำบ่นแล้วจะหันมาหาเฟียต แต่มันกลับลงจากรถมอเตอร์ไซค์ ไปช่วยคนงานยกของลงจากรถบรรทุก
“เพื่อนแกยังมีน้ำใจ ไม่เห็นต้องเรียกใช้”
ทูทำปากยื่น “เฟียตงั้นมึงทำงานเสร็จก็กลับไปเลยนะ กูเข้าบ้านละ”
“ไอ้ปลาทูเน่า ไอ้ปลาทูเค็ม! เข็นรถเพื่อนเข้าบ้านเลย ไม่งั้นชั้นจะฟ้องแม่ ไอ้เค็ม!”
แวบหนึ่งที่หันไปมองคนที่ยังช่วยคนงานยกของเหมือนเห็นไอ้ตี๋โย่งคนนั้นส่งยิ้ม พร้อมยักคิ้วมาให้
...มือวางอันดับ 1 เรื่องความหน้าด้านจริงๆ
ทูเข็นรถเข้ามาทางประตูเล็กอย่างไม่ค่อยเต็มใจ จอดทิ้งไว้ที่โรงรถแล้วเดินไปที่บ้านหลังใหญ่ เปิดประตูเข้าไปแล้วมองหาคน
“แม่ ผมมาแล้ว อยู่มั้ยเนี่ย”
“อยู่”
“งั้นผมไปนอนละ”
“อ้าว ไอ้นี่ เหลือเกินจริงๆ”
“อะไรกัน วันนี้โดนประโยคนี้ 2 คนแล้วนะเนี่ย”
แม่เดินออกมาจากทางครัวหลังบ้าน บุ้ยปากขึ้นไปที่ห้องชั้นบน
“ไปสวัสดีคุณย่าก่อน”
“ล้างมือล้างหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”
“เออ รีบมาละกัน คุณย่าถามหาตั้งแต่เช้า แม่ยังคิดว่าจะมาเช้าเสียอีก”
“ก็เช้าแหละ แต่ต้องช่วยกันเก็บของก่อนไง นี่ก็ไวแล้ว มารถเครื่องของเพื่อน”
“หนูเห็นคุณทูเข็นรถมอไซค์เข้ามา” เด็กสาวผมหางม้าอีกคนโผล่เข้ามายืนข้างหลังทู
“รถเพื่อนน่ะ พี่วรรณให้เรียกมันเข้ามากินน้ำก่อน แต่มันเสือกไปช่วยคนงานอยู่ ถ้ามันตามเข้ามาแกบอกให้เขาตามชั้นไปที่บ้านเล็กละกัน”
“หนูต้องไปดูแลย่านะ”
“อย่ามาเยอะ ไอ้นุช ย่าอยู่บนห้องแล้วแกมาทำอะไรตรงนี้ รู้ทุกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่ควรรู้ตลอด ฝากบอกด้วยละกัน”
ทูบ่นยืดยาว เดินออกมาจากบ้านใหญ่ ไปที่บ้านขนาดชั้นเดียวซ่อนอยู่ใต้ร่มไม้ทางฝั่งซ้ายของตัวบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเดินกลับออกมา ถึงได้เห็นว่าเฟียตเพิ่งเดินเข้ามาทางประตูใหญ่ มีเด็กนุชทำหน้าตาระรื่นชี้บอกทางให้มาทางนี้
ทูเดินเรื่อยๆ เข้าไปหา “ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยนะมึง” หันไปหาเด็กนุชต่อ “พ่อล่ะ”
“ยังอยู่ที่ออฟฟิศ หนูพาคุณเฟี๊ยตไปสวัสดีแล้ว” นุชทำหน้าตามีความสุขมากมาย
“ขอมันแต่งงานซะเลยสิ”
“ได้มั้ยล่ะ คุณเฟียตสนใจเด็กบ้านนอกจบมอ 3 มั้ยคะ”
“กวนตรีนว่ะนุช” ทูเขกหัวเด็กรับใช้ไปทีด้วยความหมั่นไส้
ขณะที่เฟียตได้แต่ยิ้มเหมือนเคย
เดินกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ เจอแต่แม่สวัสดีพูดคุย 2 -3 คำแม่ก็บอกให้ขึ้นไปหาย่าที่มีอายุเกือบ 80 ปี ก็ซักถามพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย
“ไว้เอาพวกอุปกรณ์กีฬาหรือหนังสือเรียนไปให้เขาอีกสิ เราเอาไปให้เองได้ใช่มั้ย”
“ได้ครับแต่ น่าจะโทรไปถามเขาก่อนว่าขาดเหลืออะไร ไปคราวนี้ไอ้อ๋อมกับผมลงขันกันซื้อไม้กระดานมาตีกระดานดำเพิ่ม”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“อ๋อมมันว่าผุแล้ว แต่ครูเขาว่ายังพอใช้ได้อยู่ก็เลยไม่ได้บอกเราตอนที่ถามว่าอยากให้ทำอะไรบ้างน่ะครับ ก็คุยไปคุยมาบอกว่า ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ โอตีตะปู ผมลงสี” ทูเล่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนุชเตือนว่าคุณย่าต้องนอนพักตอนบ่าย
ทั้ง 2 คนก็เลยขอกลับลงมากินอาหารมื้อบ่ายที่แม่เตรียมไว้
“แล้วขี่รถกลับบ้านจะหลับในมั้ยเนี่ย” แม่ถามเฟียตด้วยความเป็นห่วง
“รถเครื่องแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว” ทูบอก
“ทูนี่มันประหลาดคนจริง” แม่ดุลูกชายแล้วหันไปบอกเฟียต “อาบน้ำล้างหน้าแล้วค่อยไปจะดีกว่านะ”
“แม่ บ้านมันไม่ได้อยู่สุพรรณฯ หรือรังสิตสักหน่อย”
“ก็เออรู้แล้ว ไม่ต้องให้ไปอาบน้ำล้างหน้าที่บ้านแกก็ได้ อาบบ้านแม่ก็ได้เฟียต”
“เหอะ มาแป๊บเดียวกลายเป็นลูกรักไปซะและ”
“เออ ไอ้ขี้หวง”
“ก็ได้ๆ กระเป๋ายังอยู่ที่รถมึงน่ะ กูไม่ได้ยกมา”
เฟี๊ยตได้แต่ใช้ท่าไม้ตายยิ้มทน เดินตามออกมา แต่ปรากฏว่าเจอกับพี่วรรณที่กลับเข้ามาหา “เฟี๊ยต พอจะดูเครื่องจักรให้พี่ได้มั้ย ตามศูนย์แล้วเขามาพรุ่งนี้เช้าแน่ะ พี่จะพิมพ์หนังสือไม่ทัน”
“อ้าว..” ทูอ้าปากค้าง “ใช้สุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวก็เสียยาวหรอก”
“ไม่หรอก ช่างเขาจะสั่งงานมาทางโทรศัพท์น่ะ ให้เราทำตามไปก่อน พอให้ใช้งานได้ พรุ่งนี้เช้าช่างจะมาดูอีกที”
เฟียตเลยหันมามองคนตาคม ที่ท่าทางเหนื่อยๆ อยากพักเต็มที “เดี๋ยวกูมา”
“เออ ตามใจมึงเหอะ มาแล้วก็ตามไปบ้านเล็กละกัน กูเอากระเป๋าไปให้”
+-+-+
ส่วนคนรูปหล่อที่มีเด็กบอกว่าคิดถึงผ่านมาทางคลื่นความถี่ก็นอนดูโทรทัศน์ไปเรื่อย พอได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็เดินตามเสียงไปหน้าบ้าน อธิษฐานในใจให้มีมอเตอร์ไซค์เข้ามาแค่คันเดียว
แล้วคำอธิษฐานก็เป็นจริง
ต้อนลงจากรถหันมาส่งยิ้มจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง
ไม่ต้องมีคำพูด ไม่ต้องกวักมือ พยักหน้า คนที่กำลังเก๊กมาดหล่อก็หยิบถุงของฝากเดินออกจากบ้านตัวเอง เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปไม่ถึง 10 ก้าว แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีเปิดประตูก้าวเข้าบ้านไปง่ายๆ เหลือบตามองนาฬิกาที่ผนังเช็คเวลาสักนิด
มีเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงแม่ถึงจะกลับมาบ้าน
....กำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่า...
.....จงคิดต่อไป...
เพราะพี่อ๋อมคนรูปหล่อ เดินเข้าไปในบ้านและถามว่า.....
“กินแหนมเนืองมั้ย”
ต้อนหันมามองถึงของฝากในมือพี่ ดวงตาพราวระยับ ...ดวงตาคู่นี้ยิ้มได้....
“กิน”
ต้อนวิ่งนำเข้าไปในครัว หยิบถ้วยหยิบจานมาวางรอ แล้วยืนมองคนล้างผัก หั่นแตงกวา มะเฟือง กระเทียม เรียงใส่จาน อุ่นลูกชิ้น กดน้ำร้อนใส่แผ่นแป้ง เทน้ำจิ้ม กับถั่วลิสงใส่ถ้วยใบเล็ก
....ก็บอกแล้วว่าต้อนแค่หยิบจานกับยืนมอง ไม่ได้เล่าอะไรตกหล่นไปหรอกน่า
พี่อ๋อมเด็ดผักกาดหอม วางแผ่นแป้ง ต้อนมองแล้วเด็ดผักมาคลี่วางบนมือ ทำตามพี่
“อ้าว ไม่เคยกินเหรอ”
“ไม่เคย”
ต้อนบอกแต่ตายังมองมือพี่อ๋อมที่หยิบนั่นนี่ พอดีคำแล้วยื่นถึงปาก
“อึ๋ย” ต้อนผงะนิดหนึ่ง
“พี่ป้อน”
หน้าแดงเรื่อได้เองเหมือนกัน ต้อนจับข้อมือพี่ไว้ก่อน
“ทำไมต้องจับด้วยเนี่ย”
“เดี๋ยวพี่แกล้งให้ไล่งับ”
“เออ ไว้จะลองทำดู”
“จะงับให้ถึงข้อมือเลย ลองดูดิ”
เถียงแล้วก็รีบงับของในมือพี่ ทำหน้าตาแบบ...อร่อยมากกกกกก แถมด้วยการยกนิ้วหัวแม่มือ
“มันขนาดนั้นเลยหรือต้อน”
ต้อนรีบเคี้ยวรีบกลืนลงท้อง
“ก็รายการทำอาหารในทีวีไง ของเพิ่งแตะลิ้นเขาก็ทำหน้าตาอร่อยเว่อร์ละ”
พี่มองแหมเนืองในจานแล้วมองนักชิม “มันไม่อร่อยเหรอ”
“อร่อยสิ อร่อยมากกก” ทางนี้ก็ยิ่งยืนยันความอร่อย ..แต่ว่าสีหน้าออกไปทางเหรอหราเสียมาก เพราะทำคนซื้อดันทำหน้าตาลังเลซะก่อน
แล้วพอน้องทำหน้าตาพิกล พี่ก็หัวเราะคึคึแล้วหลุดขำก๊าก
ปฏิกริยาของน้องเปลียนไปเป็นอยากคลั่ง “ไรของพี่วะแมร่ง ทำจิตตกได้เหมือนนะเนี่ย กวนตรีนว่ะ” บ่นๆแล้วก็ลงท้าย “ทำมาอีกเลยหิวๆ อันหมูก้อนๆนั่นกินเปล่าๆเลยละกัน”
“ลูกชิ้น”
“ไม่เห็นเป็นลูกเลย มันเป็นก้อนเหอะ”
ป้อนอีกหลายคำพี่ถึงเข้าเรื่อง
“พี่กลับบ้านไปไม่กี่วัน แล้วจะมาซ้อมรับปริญญา แต่วันรับจริง พ่อกับแม่พี่จะมาที่นี่ด้วย”
ต้อนพยักหน้ารับทราบ ก็เคยเจอพ่อแม่ แล้วก็พี่ชายของพี่อ๋อมมาแล้วหล่ะ ในฐานะเพื่อนบ้านกัน
“ต้อนให้พี่แนะนำต้อนว่าอะไรดี”
ต้อนถึงกับหลุดสำลักจนจมูกแดงหน้าแดง ไอค็อกแค็กลุกไปคายทิ้ง แล้วหันมาชกไหล่กว้างไปที
“ไอ้พี่บ้า โรคจิต จะแนะนำทำไม”
“อ้าว ก็พี่ไม่อยากทึกทักไปเอง อย่างเกมนี่”
“แล้วพี่จะแนะนำอะไร พ่อแม่พี่รู้จักผมอยู่แล้ว อยากให้แม่หัวใจวายตายหรือไง”
“งั้นขออะไรอย่าง”
“หลายอย่างแล้วเหอะ”
พี่เล่นขอทีละอย่างสองอย่าง จนจะจำไม่ได้แล้วว่าขออะไรบ้าง
“ไม่เรียกพ่อกับแม่พี่ว่าลุงกับป้าได้มั้ย เรียกพ่อกับแม่”
ต้อนก้มหน้าแดงเรื่อ “พ่อแม่พี่เรียกตัวเองว่าไง ผมก็เรียกตามนั้นแหละ”
กินเสร็จไปบ้วนปากล้างหน้า กลับออกมาคุยกันอีกแป๊บเดียวน้องก็ไล่ให้กลับบ้าน
“อะไรกันได้เห็นหน้าแป๊บเดียวเอง”
“ขับรถทางไกลมันอันตราย คุณนายเรียบกริบบอก” ต้อนยิ้มจนตาหยี
พี่ประคองใบหน้าสดใสไว้ในมือ เลื่อนช้อนท้ายทอยดันให้เงยหน้า รับริมฝีปาก ดูดย้ำ
“อื้อ...” เสียงท้วงเบาๆให้พี่ผละออก “หายใจไม่ออก”
“ก็ผ่อนลมหายใจสิ แบบนี้”
จูบอีกครั้งเนิบช้า มือเล็กๆคว้าต้นแขนพี่ไว้แน่น พอพี่ผละออกก็ทิ้งตัวลงพิงอกกว้าง
“ก็ยังเหนื่อยอยู่ดีแหละ”
“ไม่ได้การละ ต้องฝึกบ่อยๆ”
คนฝึกตั้งใจมาก จูบย้ำที่ริมฝีปากเลยไปถึงแก้ม ถึงคอ จนนักเรียนทุบหลังเบาๆ
“พอเหอะ เดี๋ยวไม่กี่วันก็กลับมาละ”
+-+-+
ทางนั้นเขาหวานชื่นสุดๆ ใช่มั้ย แต่ที่บ้านเล็กหลังโรงพิมพ์กำลังมีคนอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะกว่าที่เฟียตจะกลับมา ก็เกือบ 3 ทุ่มเข้าไปแล้ว
“กินอะไรหรือยัง แม่ให้เด็กจัดข้าวไว้ให้มึงแน่ะ”
“ยัง” เฟียตบอกแล้วมองไปที่โต๊ะกินข้าว ถ้วยใบเล็กมีฝาปิดเรียบร้อย “มึงกินหรือยัง”
“เรียบร้อย” ทูบอกแล้วยักคิ้ว “มึงไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวเหอะ แมร่งเหม็นชิบหาย”
เฟียตเดินไปหยิบเสื้อนอนยับย่นจากกระเป๋า แล้วหันมาหาทู
แค่มองเท่านั้นแหละ ทูมันก็เสียงห้วนทันที
“เออ กูรู้แล้ว ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูเอาเสื้อกูให้ สัดเอ๊ย นี่กูต้องเอาเสื้อผ้ามึงไปให้เขาซักให้ด้วยมั้ยเนี่ย”
แต่ก็นั่นแหละ กินข้าวเสร็จไอ้คนที่ใส่เสื้อยืดคนอื่น กางเกงขาสั้นแค่เข่าของคนอื่นก็ยังไม่ยอมไปไหน มันเดินไปแปรงฟันแล้วทำท่าจะมานั่งดูบอลที่เป็นเทปการแข่งขันอยู่ด้วยกันซะอีก
“กลับบ้านสิ กูเดินไปส่ง”
เฟียตยิ้มกว้าง ขายาวๆก้าวเข้ามาหา
ทูหน้าตาเลิกลั่ก “เฮ่ยไม่ได้ บ้านกูคนเยอะ”
มือแข็งแรงคว้าต้นแขนของทู ดึงให้ลุกขึ้นตามแล้วพากลับเข้าไปในห้องนอน
เพียงปิดประตูลง ไม่ต้องเปิดไฟ ริมฝีปากหนาก็กดจูบ มือใหญ่บีบกระชับที่สะโพก แขนแข็งแรงรัดตัวไว้แน่น
ทูลืมตาโพลง เบี่ยงหน้าหนีจูบ 2 มือทั้งผลักทั้งดัน
“เหี้ยแล้วไง ไม่ทำนะโว้ย กูไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง”
“แต่กูมี”
“ห๊ะ มึงพกติดตัวเลยเหรอ”
“เปล่าเพิ่งซื้อเมื่อตอนหัวค่ำนี่ไง เซเว่นปากซอยก็มีขาย”
“สัดๆๆๆๆ กูนึกแล้วเชียว มึงนี่มันไว้ใจไม่ได้” ด่าไปทุบไป ขัดขืนสุดๆ คนเต็มบ้านขนาดนี้ แต่ลืมไปหรือไง ขนาดโรงเรียนชายแดนไอ้ตี๋โย่งมันยังกล้า ประสาอะไรกับห้องนอนในบ้านเล็กแบบนี้
เฟียตจับคนโวยวายกดลงนอนบนเตียง รั้งเสื้อนอนขึ้นสูงเพียงอก ก้มลงขบที่ยอดอดบาง
“อึก เหี้ย สัด แมร่ง”
เฟียตเลื่อนตัวขึ้นมาจูบปากปิดเสียงด่า
“ไหนบอกบ้านคนเยอะ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก” เฟียตบอกติดอยู่ที่แก้ม ขณะที่มือไม้กดบีบไปทั่ว
“เหี้ย”
เฟียตยกตัวถอดเสื้อของทูออก ระดมจูบทั่วใบหน้า ลำคอ ฟัดเต็มแรงจนต้องท้วง
“ไม่เอา อย่าดูดคอ”
“กลัวคนเห็นเหรอ”
“เออสิ แมร่งพวกขี้หวง ชอบทิ้งรอย”
“รู้ด้วยเหรอว่ากูขี้หวง”
แต่ทูไม่ตอบคำถามนี้ เฟียตแค่ยิ้มมุมปาก
“งั้นกูจูบที่อื่นก็ได้” บอกแล้วขยับตัวรั้งกางเกงของทูออก ก้มลงขบแล้วดูดที่หน้าท้องจนทิ้งรอย
“อะ....”
ทั้งริมฝีปากทั้งมือที่สำรวจไปทั่วตัว เฟียตลากลิ้นลงมาหาแก่นกายแล้วครอบริมฝีปากดูด เกลี่ยปลายนิ้วที่ปากช่องทางด้านหลัง ทูได้แต่ส่งเสียงคราง ความร้อนรุ่นทะยานถึงขีดสุดแล้วทะลักล้นให้เฟียตดูดกลืนไว้ทั้งหมด หอบหายใจมองคนที่กำลังเช็ดมุมปาก
“มึงนี่มันบ้าเกินคน”
ดวงตาเรียวมองไปทั่วร่างกายแข็งแรง เลื่อนมือไล้เรียวขา บีบนวดเบาๆ
ทูกัดริมฝีปากจ้องมองแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น เฟียตลุกไปหยิบของจากกระเป๋ากางเกง วางลงบนเตียง บีบเจลที่ช่องทาง สอดเข้าเพียงแค่ปลายนิ้วทูก็ผวาเฮือก จิกนิ้วที่ข้อมือหนา
“เชื่อใจกูนะ”
“เหอะ มึงน่าเชื่ออยู่หรอก” ทูเถียง เฟียตก็สอดนิ้วเข้าลึกจนสะดุ้ง “เหี้ย”
ตี๋โย่งก้มลงจูบปากจูบแก้มพร้อมไปกับการขยับนิ้วมือสำรวจ
จนกระทั่งได้ยินเสียงสูดปาก เฟี๊ยตถึงได้ใส่ถุงยาง บีบเจลซ้ำ
“มึงจะนั่งเทียนกูมั้ย”
“สัด”
“ก็ครั้งแรกของมึง ถ้ามึงนั่งเทียนกู มึงจะคุมได้ง่ายกว่าไง” ปากชวนคุย แต่เฟียตกลับยกขาเรียวขึ้น จรดจ่อที่ช่องทาง
ทูอยากด่า แต่นาทีนี้กลับทำอะไรไม่ถูก ความมั่นใจหายวับทั้งกลับเหมือนมือจะสั่นแรง
“เฟียต กู”
เฟียตก้มจูบปากซ้ำอีกครั้งบดลิ้น ดูดปาก “จูบไม่เป็นหรือไง”
“สัดเหอะ”
เฟียตทำหน้าตากวนโมโห จนทูยกหน้าขึ้นจูบ บดลิ้นสู้ ขบริมฝีปากแล้วดูด
“จูบเก่งเหมือนกันนี่หว่า”
“มึงนี่ชอบทำให้กูอารมณ์ไม่ดี”
“กูว่าตอนนี้มึงออกจะอารมณ์ดี” เฟียตเพิ่มน้ำหนักที่นิ้วมือกดบี้ยอดอกสีอ่อน
“อะ..”
“อยากให้กูทำอะไร”
“มึงจะทำจริงเหรอ”
เฟียตยักคิ้ว
“งั้นก็ออกไปจากตัวกูเลยสัด”
“อีก 5 นาทีแล้วกัน”
เฟียตขยับสะโพกกดเข้าหาช้าๆ ที่ชวนคุย กวนโมโหจนอาการเกร็งหายไป สามารถกลับมาได้ทันที
“อะ อะ จะ เจ็บ”
น้ำตาไหลซึม เกร็งไปทั้งตัว เฟี๊ยตขยับฝืนกดต่อพร้อมไปกับรูดแก่นกายของทู
“อย่าเกร็งนะ”
“มึงลองมาเป็นกูมั้ยล่ะสัดเอ๊ย”
เฟียตก้มลงจูบแรง บี้ยอดอกแล้วผละให้ทูได้หายใจเข้าลึกๆ
“แมร่ง เหมือนหายใจไม่ออก” ทูกัดฟันบ่น เหงื่อซึมจากไรผม ผละมือจากการจิกข้อมือเฟียตเป็นทึ้งหมอน
“อะ เจ็บเหี้ยๆ”
เฟียตขยับช้าๆกดจนสุด ดวงตาที่มองมาหวานเชื่อมจนทูไม่กล้าสบตา
กดสะโพกย้ำพร้อมกับมือที่รูดไปเรื่อยๆ
ดวงตาของไอ้ตี๋โย่งยังคงจับจ้อง ขณะที่แก่นกายของคนบ่นในมือ ยิ่งนานยิ่งอุ่นร้อน
ทูต้องจับมือไว้ “เดี๋ยวกูก็เสร็จก่อนมึงอีก”
“ก็เสร็จสิ”
“เดี๋ยวกูหลับ”
เฟียตยิ้มพราว เร่งสะโพกเร็วขึ้น
“อะ อะ อะ...”
“นะทู อีกครั้งนะ กูอยากได้ยินเสียงครางของมึงอีก”
“เอาเสียงด่าไปก่อนมั้ยสัด” ทูกัดฟันพูด แล้วกลายเป็นเกร็งถึงปลายเท้า “อ๊า....”
เฟียตเร่งมือที่ชักให้ทูเต็มที่ จนทูกระตุกตัวคายน้ำอีกครั้ง เฟียตถึงได้เร่งตามแล้วกดแน่น ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ
มือแข็งแรงเกลี่ยแก้มหนุ่มตาคม “จับตัวได้แล้ว ไม่มีวันปล่อยมึงให้ใครเด็ดขาด”
“เหอะ จำคำมึงไว้ให้ดีละกัน”
หยุดสักพักก็พูดอีก “กูว่ามันฉีก”
เฟียตก้มลงมอง ทั้งที่มีแต่แสงไฟจากนอกห้อง แต่ก็ยังเหมือนเห็นหยาดเลือดที่ต้นขา
“กูทำความสะอาดให้ แล้วกินยานะ”
ทูค่อยลุกขึ้นนั่ง กดมือที่ก้นกบ “เจ็บว่ะ เหี้ยเอ๊ย ทำเป็นจริงๆหรือเปล่าวะเนี่ย” บ่นไปเรื่อยๆ จนไอ้ตี๋โย่งดันคางหันมารับจูบ ดวงตาหวานเชื่อมเต็มตา
ทูได้แต่หันไปมองทางอื่น เมื่อคนๆนั้น พาไปทำความสะอาดแล้วเอายามาให้กิน
ล้มตัวลงนอนข้างๆ แต่กลับเปลี่ยนใจสอดแขนให้หนุนแทนหมอน อีกแขนโอบกอดไว้จนหลับไป
==========จบตอนที่ 16==========
คุณครับ นายเอกคนหนึ่งชื่อต้อน อีกคนชื่อทู ไม่มีชื่อทีนะครับ 5555
ขอบคุณที่ชอบเรื่องที่เราเขียน ในเล้าเป็ดมีนิยายและเรื่องสั้นสนุกๆ มากมายให้เลือกอ่าน และคุยกับคนเขียน หรือแวะอ่านเรื่องราวดีๆ ในทู้พูดคุยร่วมแสดงความเห็นกัน
พบกันวันอังคารครับ
ขอบคุณมากครับที่ติดตามกันมาตลอด ขอบคุณทุกความเห็นและคำแนะนำครับ
ไจฟ์ครับ
ป๋าเขียนมา 5 เรื่องแล้วครับมี cookie for 2[3p]
Don't leave me alone.
Just a kiss a day,then, Take my heart away.
Never let you go.
I will make you smile.
แล้วก็เรื่องนี้
แต่ละเรื่องคุณผู้อ่านมักคิดว่านายเอกได้ต้นแบบมาจากผม ส่วนพระเอกคือพี่ไจฟ์ ซึ่งที่จริงแล้ว ตรงข้ามกัน เพราะผมนี่แหละพระเอก
หล่้อเพอเฟ็คแบบนี้มีที่ไหน ส่วนป๋าน่ะตัวโกง เขาคือ เจ๊หงส์ โทระ และเกม
โหดและดุต้องเป็นตัวโกงอยู่แล้ว
tea ครับ