เปิดเทอมมาได้หนึ่งเดือนกว่าๆ แล้วล่ะครับ ทุกอย่างก็เหมือนเดิมนั้นแหละมาเรียนเลิกเรียนก็ไปทำงานบางครั้งก็ไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ บ้าง ชีวิตซ้ำซากเสียจนน่าเบื่อยังดีหน่อยที่พวกเพื่อนๆ มันเป็นพวกเฮฮาไม่น่าเบื่อเหมือนที่โรงเรียนเก่า ผมนั่งมองพวกมันเล่นกันที่ม้าหินอ่อนระหว่างคณะถาปัตย์กับวิศวะตอนบ่ายเราไม่มีเรียนครับ กินข้าวเสร็จก็มานั่งเล่นต่อแต่สำหรับผมคงจะต้องขอตัวก่อนเพราะมีงานตอนบ่ายสาม
“อะไรวะ จะกลับแล้วเหรอไอ้ฮอย?”
“เออว่ะ พวกกูว่าจะชวนไปร่อนยานสักหน่อย”
“เพลาๆ หน่อยเถอะพวกมึง”ผมส่ายหน้ากับเจ้าพวกคาสโนว่าทั้งหลาย เห็นพวกมันบ้าๆ บอๆ แบบนี้ก็เถอะแต่เจ้ามันนี่เนี่ยแหละครับที่อกหักสาวๆ เป็นว่าเล่น หม้าม่อหาใครเกินเจ้าพ่อกันทั้งนั้น!
ไอ้โจ้หนุ่มทรงเสน่ห์ปากเป็นเอก ไอ้แซมหน้าตาคมคายถึงไม่หล่อแต่ก็ดูมาดเท่ ไอ้บู๊ลิ้มไม่ต้องพูดถึงดีกรีเดือนคณะปีที่แล้ว ไอ้สตางค์...อกหักผู้ชายเป็นว่าเล่น(?) สุดท้าย...ไอ้พรีสต์เจ้าพ่อประมงไม่ได้จับปลาสองมือแต่มันใช้อวนลาก! ก็คงจะมีแต่ผมนี่แหละครับเป็นคนดีมีศีลธรรมไม่ทำร้ายจิตใจใคร(?) ไม่เคยไม่จริงใจหรือกะล่อนตลบตะแลงใส่ผู้หญิงแบบเจ้าพวกนี้
“เป็นผู้ชายก็ต้องบริหารเสน่ห์กันหน่อยซีฟะ”ไอ้พรีสต์ยักไหล่แบบไม่วอรี่มาก ผมมองมันเหยียดๆ โห~ เหรอวะ? บริหารเสน่ห์? เหอะ หื่นตัณหากลับล่ะไม่ว่า! พวกชอบหลอกลวงฟันแล้วทิ้งเชื่อไม่ได้หรอก!!
“พวกมึงไปเถอะไว้คราวหน้าล่ะกัน ตอนนี้กูต้องรีบกลับแล้วว่ะมีธุระ”
“ธุระมึงเนี่ยเยอะจริง ธุระอะไรวะ?”
“งานพิเศษน่ะ”
“เออๆ คราวหน้านะโว้ย”
“กูไปล่ะ”ผมบอกลาพวกมันเผื่อพวกมันจะปล่อยตัวผมมาโคตรจะนาน โธ่เอ๊ย จะเอาอะไรกับกูนักเนี่ย ผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันทีต้องนั่งรถเมล์กลับไปบ้านก่อนแล้วค่อยไปบริษัท ผมเดินผ่านกลุ่มพวกใส่เสื้อช็อปสีดำเข้มหันกลับไปมองเมื่อเห็นไอ้วินเซอร์อยู่ในกลุ่มนั้น ไม่ได้เจอกันนานเป็นเดือนแน่ะดูท่าทางจะไม่ได้เศร้าอะไรแล้วล่ะมั้งแล้วนั่นก็คงจะเป็นเพื่อนของมัน
มันดูสบายดีผมก็วางใจ...แล้วทำไมกูต้องสนใจมันด้วยเนี่ย เฮ้อ! ผมเดินออกไปด้วยอาการงุนงงในตัวเองบางทีเพราะอาจจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้าก็เลยทำให้ติดใจเล็กน้อยล่ะมั้ง มันหัวเราะและยิ้มกับเพื่อนได้ก็คงจะลืมเรื่องไม่ดีพวกนั้นไปแล้วล่ะคงจะไม่ร้องไห้แล้วล่ะมั้ง เฮ้อ~ แล้วทำไมผมเอาแต่คิดถึงหมอนั้นอยู่ล่ะเนี่ย!
ช่วงนี้ผมเห็นไอ้วินเซอร์มันว่อนไปทั่วเปลี่ยนคู่ควงก็บ่อย อะไรของมันวะ? ทั้งนางแบบ นักแสดงหน้าใหม่ ใสเอ๊าะโดยมันสอยไปหมด ประธานยังบ่นให้ผมฟังเลยว่าโดนไอ้บ้านี้ทำให้ดาราหน้าใหม่วุ่นไปหมด ผมก็เห็นบ้างล่ะนะก็ตอนที่มันมานั่งให้กำลังใจคู่ควงคนล่าสุดที่เป็นนายแบบวัยเอ๊าะๆ หน้าใสๆ ตามสเปกมันนั้นแหละ พอถามพี่บอสพี่แกก็บอกว่าปกติไอ้บ้าวินเซอร์มันก็เปลี่ยนคู่ควงบ่อยแบบนี้อยู่แล้ว เหรอวะ? แล้วไอ้อาการอกหักตอนนั้นมันเกิดขึ้นได้ยังไงล่ะ? กูงงนะเนี่ย!
“เลิฟ นายไม่ชอบอะไรน้องเรดเขาเหรอ? มองตาขวางเชียว”
“หะ? ก็ไม่นี่ครับ”
“เหรอ เมื่อกี้น้องเขามาทักนายก็น่าจะตอบกลับบ้างนะน้องเขากลัวนายแล้วแน่ะ”พี่บอสบุ้ยปากไปทางนายแบบที่วันนี้ต้องถ่ายคู่กับผม ผมเหลือบสายตาไปมองเล็กน้อย
“ก็ทำตามอิมเมจไงล่ะครับ หยิ่ง!”
“แต่มันแปลกไปกว่าทุกทีนี่น่าปกตินายแค่มองแล้วพยักหน้ารับเฉยๆ แต่เนี่ยนายเล่นมองน้องเขาซะน่ากลัวเชียว”พี่บอสหัวเราะเล็กน้อยแล้วเดินออกไปปล่อยให้ผมนั่งจมกับคำพูดประโยคเมื่อสักครู่นี้ อะไรนะ? ผมมองเขาแบบนั้นจริงเหรอ? ไม่รู้สึกตัวสักนิดเลยแล้วทำไมผมต้องไม่พอใจน้องเขาด้วยล่ะ? พี่บอสก็พูดแปลกว่ะผมเหลือบไปมองนายแบบน้องใหม่ที่ดูน่ารักน่าชังคนนั้น
“...”
ไอ้วินเซอร์ยืนคุยกับน้องคนนั้นไม่รู้คุยอะไรกันแต่ท่าทางจะสนุกน่าดูเพราะทั้งสองยิ้มแล้วหัวเราะกันอยู่ในโลกของทั้งสองคน ไอ้วินเซอร์ยกมือลูบหัวอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนแล้วทอดสายตามองอย่างเอ็นดู มุมปากของผมชักกระตุกหยิกๆ ผมว่าผมไม่ได้ไม่พอใจน้องเขาหรอก บางทีผมอาจจะไม่ชอบขี้หน้าแฟนน้องเขามากกว่า!
“เฮ้ย ถึงคิวนายแล้วเลิฟ”พี่บอสเดินเข้ามาบอกผมที่นั่งอ่านนิตยสารเงียบๆ ผมวางนิตยสารนั้นแล้วเดินเข้าฉากเพื่อถ่ายแบบ วันนี้เป็นคอนเซ็บต์แบบสดใสๆ ปกติหน้าของผมก็สดใสอยู่แล้วนะ(?) สดใสในแบบของผมเหอะไม่ต้องมาสงสัยกันหรอกว่าผมหน้าสดใสตอนไหน!?
“เลิฟ ยิ้มหน่อยได้ไหม?”พี่ตากล้องชี้นิ้วบอกผม ผมนิ่งไปเล็กน้อยนั่นไม่ใช่อิมเมจกูนี่หว่าจะมายิ้มทำท่าคิขุอาโนเนะปัญญาอ่อนแบบน้องเรดอะไรเนี่ยได้ยังไงล่ะวะ น้องเรดนั้นก็เข้ามาใกล้ผมแล้วยิ้มน่ารักให้
“ยิ้มแบบนี้ไงครับพี่เลิฟ อ๊างงง~ ทำท่านี้ก็น่ารักดีน่า”เรดพยายามเต็มที่ให้ผมทำตาม แต่ขอโทษเถอะแบบนั้นมันน่ารักตรงไหนวะ!? ผมมองอีกฝ่ายที่ทำท่าคิขุโนเนะแอ๊บแบ๊วกระจายแล้วส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด
“ผมขอพัก”ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินหนีออกมาทันที จะให้กูมายิ้มหัวเราะบ้าบอยังพอจะทำได้นะแต่นี่จะให้ผมมาทำท่าคิขุแอ๊บแบ๊วแบบนั้นแล้วอยากจะทึ้งหัวตายๆ ไปซะ! มันไม่ใช่แนวกูเลยนะโว้ย คราวหน้าจะบอกพี่บอสให้เลือกงานสักหน่อยดีกว่า!
“เลิฟโว้ย เป็นไรไหม?”
“แอ๊บแบ๊วอะไรบ้าบอนั้น ผมทำไม่ได้”พอพี่บอสเข้ามาถามอย่างเป็นห่วงผมก็บ่นพึมพำออกไปทันที
“อ่า พี่รู้ๆ ก็ไม่ต้องแอ๊บสิ ยิ้มแบบของตัวเองไงได้เท่าไรก็เอาเท่านั้นยิ้มเป็นธรรมชาติของนายนั้นแหละ จะไปแอ๊บตามเด็กมันทำไม?”
“...” ผมมองหน้าพี่บอสแล้วคิดได้ เออว่ะ กูจะไปพยายามทำท่าแอ๊บแบ๊วตามเด็กนั้นทำไมวะ? ผมถอนหายใจแล้วพยักหน้า พี่บอสยิ้มแล้วตบไหล่ผมเบาๆ ให้กำลังใจแล้วผมก็กลับมาถ่ายอีกครั้ง คราวนี้มีลูกหมาตัวน้อยเข้าฉากด้วย ผมถือเจ้าหมานั้นไว้ในมือแล้วเหลือบมองคนอื่นๆ อย่างระมัดระวัง
“...”
.....................
.............
......
...
.
อ๊าาา~ น่าร้ากกก!!!ผมหันหลังให้กับทุกๆ คนแล้วแอบซุกไซร้เจ้าหมาน้อย แหะๆ ผมชอบอะไรตัวเล็กๆ น่ารักๆ แบบนี้เหมือนกันนั้นแหละน่าใครจะห้ามใจไว้กันล่ะก็มันน่ารักซะขนาดนี้ น่าร้ากกก!!! ผมยิ้มแล้วเล่นกับเจ้าหมานั้นเงียบๆ คนเดียว แหะๆ หมาน้อยน่ารักอ่า อยากได้บ้าง!
“...”
“...”
ผมชะงักตัวเมื่อรู้สึกเหมือนมีใครจ้องอยู่พอหันไปมองตามความรู้สึกของตัวเองแล้วหน้าแดงระเรื่อทันที คนทั้งสตูดิโอมองผมเป็นตาเดียวกันบางคนเนี่ยอ้าปากค้างเชียวผมเห็นไอ้วินเซอร์มันแอบหัวเราะขำด้วย ให้ตายสิ! ผมแทบอยากจะโยนเจ้าหมาตัวต้นเหตุทิ้งแล้ววิ่งไปซุกมุมหนีอาย! แต่ผมก็ต้องทำเป็นกระแอมแล้วทำมาดนิ่งขรึมเหมือนเดิม ผมเดินเข้าฉากที่เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
“เอายิ้มแบบเมื่อกี้ก็โอเคนะเลิฟ”
“...”
จะมาย้ำให้ผมอายทำไมครับพี่ตากล้องงง!!?เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วผับที่มีแสงสลัวผมนั่งอยู่มองเจ้าเพื่อนตัวดีมันเข้าไปเต้นกับสาวๆ อย่างเมามัน วันนี้ไอ้พรีสต์มันชวนมาเที่ยวผับครับผมก็แค่ตามมันมาแต่ไม่อยากจะดื่มหรอกครับ ผมต้องคอยเฝ้าไอ้เพื่อนตัวดีเนี่ยแหละรับฝากพี่เขาไว้แล้วเนอะว่าจะดูแลมันดีๆ
ผมนั่งมองไปรอบๆ ผับแล้วกลับมามองแก้วน้ำใสบนโต๊ะ มันสนุกตรงไหนวะ? มาฟังเพลงเสียงดังหนวกหู ฟังไปใจสั่นไปมีแต่ผู้คนเบียดเสียดกันวุ่นวายเต้นกันอุตลุด เฮ้อ! ช่วงนี้ก็ใกล้จะสอบแล้วแต่ไอ้บ้าพรีสต์ก็ยังมาเที่ยวคั่วสาวเหมือนเดิม ผมไม่รู้จะบอกจะเตือนมันยังไงดีก็สันดานมันเป็นอย่างนี้นี่น่า ไว้ให้แฟนมันมาดัดล่ะกัน
ส่วนผมน่ะเหรอ? ก็ยุ่งๆ อยู่เหมือนกันที่มาเนี่ยก็เพราะว่าเซ็งๆ หงุดหงิดไม่รู้ทำไมเหมือนกัน! เจ้าบ้านั้นทำให้ผมเซ็ง หงุดหงิด ไม่พอใจ! ผมชักจะเป็นเอามาก อะไรน่ะเหรอ? ก็เห็นเหี้ยวินเซอร์ควงใครต่อใครแล้วมันจี๊ดในใจ!! สงสัยผมจะต้องเป็นโรคประสาทหลอน อืม...แล้วทำไมผมต้องมานั่งเศร้าเพราะไอ้บ้านั้นด้วย! ผมนั่งฟังเพลงไปเรื่อยไม่นานก็มีคนเข้ามาทักผม
“เลิฟมีหรือเปล่าคะ?”
“ครับ”ผมพยักหน้ารับเล็กน้อย สาวเจ้าแต่งตัวได้สุดเหวี่ยงจริงๆ ว่ะ จะโชว์ไปไหน แบบนี้ไม่ใส่เลยจะดีกว่าไหม? แก้มาเลยเถอะแม่คุณแต่แบบนี้ล่ะมั้งที่ไอ้พรีสต์ชอบเธอนั่งเก้าอี้ข้างๆ ผมแล้วเริ่มชวนคุย
“มาคนเดียวเหรอคะ?”
ได้ข่าวว่าผมยังไม่อนุญาตให้เธอนั่งเลยนะ... ผมมองหน้าเธอที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูสวยงามจับตาแต่ก็นั้นแหละ ผมไม่เคยคิดจะพิศวาสคนประเภทแบบนี้อยู่แล้ว ผมไม่ใช่ไอ้พรีสต์ที่จะยุแล้วติดง่ายยังไงผมก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดสำหรับผมเท่านั้น
“มากับเพื่อนครับ”
“งั้นเหรอคะ? จูนเห็นคุณนั่งอยู่คนเดียวก็เลยมาทักเผื่อคุณจะเหงา...”มือของเธอลูบไล้มือของผมที่วางไว้บนโต๊ะแผ่วเบา ยั่วกูอีกแหละแต่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์ยั่วใครกลับหรอก ผมทอดสายตามองอีกฝ่ายแล้วดึงมือตัวเองมาวางไว้บนตัก เธอชะงักตัวเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ฉีกยิ้มขยับมาแตะไหล่ของผมแล้วโน้มหน้ามาใกล้
“จูนเหงามากเลยล่ะคะ ถ้าได้นั่งคุยกับเลิฟก็คงจะคลายเหงาบ้าง”พูดเสียงเบากระซิบเสียงเซ็กซี่ยั่วยวนแต่เสียใจด้วยล่ะกันไอ้คนที่นั่งตรงนี้น่ะมันคือฮอยฮักผู้ไม่หวั่นไหวอะไรง่ายๆ ต่อให้มากกว่านี้สวยกว่านี้ก็ไม่รู้สึกหรอกนะ! ผมค่อยๆ ดันเธอออกไปอย่างสุภาพแล้วลุกขึ้นยืน
“ขอโทษนะครับ เพื่อนของผมกำลังเรียก”พูดเสร็จผมก็รีบชิ่งหนีทันที พอผมเดินมาถึงไอ้พรีสต์ที่กำลังนัวเนียกับสาวทรงโตมันเงยหน้ามามองผมแล้วหัวเราะขบขัน
“แหม กูก็ลุ้นอยู่ตั้งนานว่ามึงจะทำยังไง นั้นสวยจะตายห่าปฏิเสธทำไมวะ?”
“ไม่ใช่เทสต์กู”
“โอ๊ยยย ไอ้เรื่องมาก สวยขนาดนั้นยังไม่ใช่อีก มึงก็ต้องรอนางฟ้านางสวรรค์ตกลงมานู้นแหละว่ะ!! เออ กูจะกลับล่ะมึงจะกลับเลยไหม?”ไอ้พรีสต์มันลุกขึ้นยืนแล้วถามผม ผมเหลือบตามองมันเล็กน้อย เหอะๆ ไม่วายไอ้บ้านี่จะสอยผู้หญิงกลับห้องด้วย! ผมถอนหายใจแล้วพยักหน้า
“งั้นแยกกันตรงนี้ล่ะกัน”ไอ้พรีสต์โบกมือแล้วเดินออกไปกับสาวสวยไซส์บิ๊กบึ้มแบบที่มันชอบ ไม่เหลียวกลับมามองเพื่อนอย่างกูเล๊ย ไอ้หื่นเอ๊ย ไอ้ตัณหากลับ! เหอะ! ผมทำอะไรไม่ได้หรอกก็ได้แต่ด่ามันในใจเนี่ยแหละ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับไอ้เวรพรีสต์ถึงมันจะหน้าตาแบ๊วแค่ไหนแต่ประสบการณ์มันโชกโชนเลยล่ะ หน้าแบบไร้เดียงสาไม่รู้น่ารู้เรื่องกามอะไรกับเขาแต่จริงๆ แล้วมันเชี่ยวมากน่ะสิ ตรงข้ามกับผมเล๊ย เหอะ!
จูบใครผมยังไม่เคย! อย่าไปบอกเรื่องนี้กับไอ้พรีสต์มันนะครับ เหยียบไว้เลย! ห้ามบอกใครเด็ดขาด!! ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพี่ยิ้มบอกว่าเก็บสิ่งสำคัญเอาไว้ให้คนที่เรารักจริงๆ นี่น่า จูบเนี่ยมันสำคัญมากเลยนะก็ต้องเก็บไว้ให้กับคนที่เรารักสิ ผมเดินมาที่รถของตัวเอง เอ่อ...ผมก็พอมีเงินบ้างแล้วน่า ซื้อรถให้ตัวเองสักคันมันแปลกตรงไหนครับ? ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เฮ้อ~ กลับไปโดนพี่ยิ้มด่าเละอีกแน่ๆ ริมาเที่ยวกลางคืนแบบนี้!
“อ้วกกก...แหวะ!!”
“...”
พอเดินมาถึงรถตัวเองผมก็เห็นใครบางคนยืนอ้วกโอ้กอ้ากอยู่ใกล้รถผม เอ่อ...กูจะถอยรถกรุณาไซ้ตูดออกไปครับคุณพี่! ผมกำลังเดินมาบอกคุณพี่ที่ดูท่าทางจะเมาสุดๆ เสื้อผ้าน่ะหลุดลุ่ยไม่เป็นทรงแต่พออีกฝ่ายหันหน้ามาเท่านั้นแหละ ผมถึงชะงักแล้วขมวดคิ้วทันที
เวร ไอ้วินเซอร์!!!ทำไมกูจะต้องมาเจอแต่มึงด้วยเนี่ย มันเหลือบมองผมนิ่ง เอ่อ...กูควรจะทำยังไงดีวะ? เฮ้อ! ผมเดินเข้าไปตบหลังมันเบาๆ แล้วทำไมกูต้องมาดูแลมันด้วยวะเนี่ย แม่มันก็ไม่ใช่! ไอ้บ้านั้นหันมามองผมอย่างงงๆ แล้วมันก็หันไปอ้วก สักพักมันก็ถอนหายใจโล่ง
“กลับไหวไหมวะ?”
“...”มันไม่ตอบครับ ผมถอนหายใจอีกครั้งกูถอนหายใจหลายครั้งแล้วนะโว้ย ทำไมแต่ละคนทำให้กูต้องเดือดร้อนตลอด ไอ้พรีสต์ก็คนแล้วยังมีมึงอีกเหรอวะ!? ผมพยุงมันเดินมาที่รถของตัวเองแล้วพยายามถามที่อยู่ของมัน ไอ้บ้านี่ก็พูดอะไรไม่รู้เรื่องเล๊ย กูจะบ้าตาย
“ห้องอะไรนะ?”
“....”
“โว้ยยย!!! แล้วทำไมกูต้องมาลำบากกับมึงด้วยเนี่ย!?”ไม่พูดอย่างเดียวหรอกครับ จัดการโบกหัวมันไปทีหนึ่ง โชคดีที่มันเมาไม่รู้เรื่องผมถึงได้โบกมันอย่างสบายใจ พอถามมันรู้เรื่องแล้วก็ขับรถออกไปส่งมันทันที เฮ้อ! กูกลายเป็นหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินของมึงหรือไงวะไอ้เวรวินเซอร์!
ผมพยุงมันขึ้นห้องค้นคีย์การ์ดอยู่นานสองนานถามมันก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ เมาเละขนาดนี้! ทำไมถึงเมาขนาดนี้ด้วยวะ กูไม่เข้าใจเลย ผมโยนมันลงบนเตียงเสร็จก็เดินออกมาทันที เสร็จธุระกูล่ะ! ผมเดินออกมาจากห้องนอนมันแล้วเลี้ยวเข้าห้องครัวไป
เวร!!ไหนบอกว่าเสร็จธุระแล้วไง ทำไมกูต้องมาหาผ้าเช็ดตัวแล้วรองน้ำใส่กะละมังด้วยเนี่ย? ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันแหละน่า! แต่มันรู้สึกว่าปล่อยมันไว้แบบนั้นไม่ได้ ผมถือกะละมังเล็กๆ เข้ามาในห้องแล้วมาพลิกตัวไอ้หมีควายนี้หงายขึ้นเพื่อจะได้ถอดเสื้อง่ายๆ ผมทำให้พี่ยิ้มบ่อยครับ รายนั้นกลับมาจากงานเลี้ยงที่บริษัททีไรเมาเละทุกที
ผมแกะกระดุมเสื้อแล้วถอดให้มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ หุ่นไอ้เหี้ยเนี่ยเฟิร์มมากเหอะสงสัยจะออกกำลังกายบ่อยล่ะมั้ง ผมจับผ้าเช็ดตัวชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดๆ ก่อนจะเช็ดตัวให้กับมัน ผิวสะอาดสะอ้านดีเนอะ ผมเช็ดหน้าแล้วเช็ดลำคอให้กับมันแต่ปัญหาก็คือกูควรจะเช็ดท่อนล่างให้มันดีไหม? เอ่อ...ไม่ต้องหรอกมั้ง? เกรงใจว่ะ! พอเช็ดท่อนบนเสร็จผมก็เก็บข้าวของจะลุกเดินออกไปแต่โดนดึงเอาไว้ก่อนครับ
“เฮ้ย! อะไรของมึงวะ? กูไม่เช็ดท่อนล่างให้หรอก มึงเช็ดเองเซ่!!”
“...”ไอ้บ้าวินเซอร์มันบ่นพึมพำอะไรบางอย่างในลำคอผมฟังไม่รู้เรื่องหรอกแต่มือของมันเนี่ยสิ! เฮ่ย! จะทำอะไรวะ!? กะละมังในมือหล่นตกพื้นเสียงดังเพราะไอ้วินเซอร์มันเหวี่ยงผมไปนอนแผ่กลางเตียง! เดี๋ยวๆ!!! เกิดบ้าอะไรขึ้นมาฟะ!!? ผมกำลังจะลุกขึ้นแต่ไอ้บ้านั้นก็พุ่งตัวเข้ามาจับผมกดลงกับเตียง
ใจเย็นนน!!!“เฮ้ยยย!!! ตั้งสติหน่อยสิว่ะ!!!”ผมพยายามดิ้นขัดขืน ไอ้เวรนี่มันเอาแรงมาจากไหน!? แรงควายบวกช้างยังน้อยกว่ามันเลย! ริมฝีปากร้อนผ่าวซุกไซ้ซอกคอของผมเปะปะไปทั่ว มันปล่อยมือจากแขนของผมแล้วไปจับเสื้อของผมกระชากเสียงดังแควก! ผมเบิกตากว้างมองไอ้หื่นนี่อย่างตกตื่นใจ
“ไอ้เหี้ยวินเซอร์!!!”
กูโมโหแล้วนะโว้ยยย! ผมกัดฟันแล้วใช้แขนของตัวเองรัดคอมันแน่น มึงคิดจะปล้ำกูงั้นเหรอ แสรดดด!!! อย่าคิดว่าจะทำได้นะโว้ย! ไอ้วินเซอร์แกะแขนออกจากคอของมัน หน้ามันเขียวเลยแน่ะ สมน้ำหน้า!!! กูไม่ยอมปล่อยหรอก จะรัดคอไอ้หื่นกามนี่ตายให้ดู!!
มือของไอ้วินเซอร์พยายามแกะแขนของผมค่อยๆ ปล่อยออกจากแขนของผมแล้วนิ่งไป เฮ้ย! อย่าบอกนะว่ามันตายแล้วน่ะ? ผมคลายแขนของตัวเองออกจากคอมันแล้วจู่ๆ มันก็เข้ามาจับหน้าผมไว้แล้วประกบปากมันลงมาแตะริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว ผมเบิกตากว้าง สมองเกิดอาการค้างชั่วขณะ
“...”
จนลิ้นร้อนๆ แตะเข้าในปากของผมนั้นแหละ ง่ะ!! จูบเขาต้องใช้ลิ้นด้วยเหรอ? ไอ้บ้าวินเซอร์ หยุดก่อนเฟ้ย กูหายใจไม่ออก!! ผมอ้าปากยิ่งทำให้อีกฝ่ายรุกเข้าไปยิ่งขึ้น อะ...ไม่ไหว! ผมกำลังเคลิ้มไปกับรสจูบของอีกฝ่ายใช่ไหมเนี่ย? มือของไอ้บ้านี่ก็ค่อยๆ ถอดเสื้อของผมออกแล้วลูบไล้ลงไป...กูเกือบจะเคลิ้มล่ะถ้ามึงไม่มาบีบก้นกู เวรรร!!! ผมได้สติแล้วถีบมันออกจากตัวเองสุดแรงเกิด ผมลุกขึ้นนั่งหายใจหอบแล้วกัดฟันของตัวเองแน่น ไอ้เวรวินเซอร์!!!
ผัวะ!!!ผมชกหน้ามันเต็มแรงไปดอกหนึ่งแล้ววิ่งออกไปจากห้องทันที โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆ!!! อุตส่าห์กูช่วยมึงขนาดนี้แล้วยัง...ยังมาขโมยจูบแรกกูไปอีก ไอ้บ้า!!! ผมยืนเช็ดปากของตัวเอง รู้สึกถึงจังหวะเต้นของหัวใจที่มันแทบจะหลุดออกมาจากอก อ๊ากกก!!! แล้วดูเสื้อผ้าของผมสิมันจะกระชากทำเหี้ยอะไรวะ? มึงคิดจะแอ้มกูงั้นเหรอ แสรดดด!!! กูไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกโว้ย!!!
เหอะ ไอ้เด็กนิสัยเสีย! กูจะไม่ยุ่งกับมึงแล้ว!!!TBC.เกือบไปแล้วเน้อฮอยฮัก...
แล้วอย่าไปใจดีกับไอ้วินเซอร์อีกนะฮอย ไอ้นี่เมาแล้วหื่น