“ตกลงไปเสียตัวมาแล้วใช่ไหม?”
“พี่ครับ ผมไม่ได้ใจง่าย”
“เหรออออ”
ผมส่ายหน้าให้กับเสียงล้อเลียนแสนจะน่าหมั่นไส้ของพี่ลอนดอนแล้วนั่งนิ่งๆ เพื่อให้ช่างแต่งหน้าแปลงโฉมอยู่ครับ วันนี้ไม่ได้ทำงานเพราะเป็นช่วงใกล้สอบผมก็เลยได้หยุดพักงานเพื่อเอาเวลาไปอ่านหนังสือสอบไฟนอล แต่วันนี้มันพิเศษนิดหน่อย พี่ลอนดอนคอนเฟิร์มมาว่าคู่ซ้อมเดทของผมว่างแล้วครับ วันนี้ก็เลยเป็นวันแรกที่ผมจะได้ออกสนามจริง
ไม่เข้าใจว่าแค่การแสดงทำไมต้องไปเดทด้วยวะ แถมไอ้คู่เดทน่ะเป็นใครก็ไม่รู้ด้วยสิครับ ถามพี่ลอนดอนพี่แกก็หาเรื่องแถไปไม่ยอมตอบ แถมยังบอกอีกว่าให้ไปลุ้นเจอเอาเอง ผมก็เฉยๆ ออกจะเบื่อหน่ายเสียด้วยซ้ำครับ พี่ลอนดอนมานั่งเป็นเพื่อนชวนคุยไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ผมเบื่อไปมากกว่านี้
“ก็ว่าอยู่แหละ เห็นแกเดินคล่องปรื๋อเลยนี่ ถ้าโดนเนี่ยต้องนั่งไม่ได้เลยแหงวะ หึๆ”พี่ลอนดอนพูดออกมาแบบหน้าไม่อาย ผมก็นั่งนิ่งไม่สนใจเหมือนเดิม
“พี่ลอนดอน จะบอกได้หรือยังว่าเขาคนนั้นเป็นใคร?”
“ไม่บอกหรอกกกก!”พี่ลอนดอนส่ายหน้าไปมาเหมือนเดิม ผมเนี่ยถอดใจไม่ถามแล้วล่ะครับ เอ่อ ใครก็ช่างเถอะ เดทๆ ไปให้มันจบๆ ล่ะกัน ผมเหลือบมองหน้าพี่ลอนดอนที่ดูจะตื่นเต้นและมีความสุขแบบนั้นแล้วยิ่งรู้สึกขัดใจ แมร่งเอ๊ย นี่คงจะวางแผนแกล้งอะไรผมสักอย่างแน่ๆ ฮึ เอาเถอะ ผมจะระวังตัวและไม่มีทางตกเป็นของเล่นพี่ลอนดอนหรอก!
“เอ่อ คนๆ นั้นเขาไม่รู้ว่าแกเป็นผู้ชายเพราะฉะนั้นอย่าหลุดล่ะ”
ผมพยักหน้ารับ
“อ๊ะ จริงสิ วันนี้จะให้เล่นบทไหนดีน่า~”พี่ลอนดอนดีดนิ้วเหมือนคิดอะไรได้ จากนั้นพี่แกก็หันไปค้นกระเป๋าของตัวเองหยิบกระดาษออกมาแล้วยื่นมาให้ผม
“เลือกเอาสักแผ่น”
“...”ผมมองพี่ลอนดอนแล้วก้มมองกระดาษในมือของพี่แก ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไรเลยวะ! มีเตรียมมาจากบ้านเลยแฮะ แบบนี้มันวางแผนมาชัดๆ!
“พี่เตรียมบทไหนมาบ้างล่ะครับ?”
“ไม่บอก ให้เลือกเอา!”
“บอกมาเถอะครับ สี่แผ่นเนี่ยมีอะไรบ้าง?”
“ก็ได้ๆ มีสาวร่าเริง สาวหวาน สาวเซ็กซี่และสาวขาวีน”
“ผมเลือกสาวเซ็กซี่ล่ะกัน”
“เฮ้ย! ฉันบอกให้แกเลือกจับจากกระดาษพวกนี้ ไม่ได้ให้เลือกแบบนั้น!”
“ในกระดาษพวกนั้นพี่คงจะเขียนว่าสาวร่าเริงมันทั้งสี่แผ่นล่ะสิ! ผมรู้ทัน”
คงกะจะให้ผมปั้นหน้าฉีกยิ้มจนเหนื่อยล่ะสิ ฮึ!
“ชิ ตกลงแกเลือกสาวเซ็กซี่งั้นเหรอ?”พี่ลอนดอนเก็บไอ้กระดาษพวกนั้นลงไปถามผมแบบไม่พอใจ ผมพยักหน้ารับเล็กน้อย
“ครับ”
“หึๆ ดีมากเลยไอ้น้อง!! เซ็กซี่และยั่วยวนนะ ขอให้โชคดี!”พี่ลอนดอนหันมาหัวเราะหึๆ ในลำคอจากนั้นก็ยิ้มที่มุมปากนิดๆ
“...”ผมมองรอยยิ้มของพี่ลอนดอนแล้วท้องปั่นป่วน ผมเลือกผิดหรือไงวะเนี่ย!!? ผมหน้าซีดมากกว่าเดิมจากที่ซีดอยู่แล้วนั่งทำหน้าซังกะตายจนคนแต่งหน้าต้องหันมาถามพี่ลอนดอนอย่างหวั่นๆ
“คุณน้องคะ พ่อหนุ่มนี่เป็นอะไรคะเนี่ย?”
“ฮ่าๆๆๆ ปล่อยๆ มันไปเถอะพี่พอลล่า ตอนนี้มันกำลังต่อสู้กับจิตใจความเป็นชายอยู่!”
“แล้วมันจะรอดไหมล่ะคะเนี่ย?”
“รอดๆ! เห็นมันจะเป็นจะตายแบบนี้ทุกทีแหละ แต่พอแสดงจริง...คล่องปรื๋อ!!”
ถึงผมจะไม่อยากทำอะไรพวกนี้แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ผมไม่ได้มีอาชีพเป็นดาราแต่...
ผมเป็นดารามืออาชีพ!!หลังจากที่แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยแปลงโฉมเสร็จสรรรพ ผมก็มานั่งรอที่ม้านั่งตรงสวนสนุก สถานที่เดทในวันแรกคือสวนสนุกครับ ผมเคยมาสวนสนุกตอนถ่ายแบบแต่ไม่เคยเล่นของพวกนี้หรอกครับ ก็ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไรแต่ตอนนี้ผมก็โตเป็นผู้ใหญ่อายุตั้ง 20 ปีแล้วจะให้มาเล่นสวนสนุกแบบนี้มันก็แปลกๆ แล้วไอ้เดทบ้าบอนี้มันดันเลือกสวนสนุกเป็นสถานที่เดทอีก!? ปกติเขามาเดทกันที่นี้เหรอเนี่ย?
ผมนั่งมองผู้คนที่เดินผ่านมา รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่มีแต่สายตาเหลียวมองแล้วมองอีก ผมมันดูประหลาดงั้นเหรอครับ? เพิ่งจะแต่งเป็นผู้หญิงเต็มที่ก็ครั้งแรกเนี่ยแหละ วู้ว! ลำบากน่าดูล่ะครับ ก้มมองหน้าอกของตัวเองแล้วเม้มปากแน่น ก่อนมาก็ลองจิ้มดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น อุบ๊ะ! ยางพาราทำได้เนียนจริงๆ!! สาวๆ ที่อกแบนก็ตู้มได้!!!
ผมนั่งๆ อยู่ก็มีพวกผู้ชายเข้ามาพูดแทะโลมทางสายตาและวาจา แมร่งเอ๊ย! ไอ้พวกตัวผู้ถอยไป!! กูอยากจะอ้วกวะ!! ไปไกลๆ ตีนกูเดี๋ยวนี้นะ!! ผมจ้องเขม็งเจ้าพวกนั้นไปด้วยสายตาเย็นยะเยือก พวกนั้นถึงถอยทัพกลับไปแบบไม่คิดชีวิต ไอ้คู่เดทบ้าบอนั้นมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนวะ สัด!! ปล่อยให้กูรออยู่ได้!! ผมไม่รู้ว่าคู่เดทที่พี่ลอนดอนหามานั้นเป็นใครก็เลยได้แต่นั่งรอตามที่พี่ลอนดอนบอกนั้นแหละครับ พี่เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาก็มาทักเองครับ นั่งรอจนรากจะงอกอยู่แล้วก็ไม่มีใครโผล่ออกมา! แมร่ง อารมณ์เสียวะ!!
“สวัสดีครับคุณฮอลลี่ ผม วินเซอร์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
!!!!!!? 
ผมหันไปตามต้นเสียงที่เข้ามาทักด้วยความเร็วที่ไวกว่าเสียง มะ...แมร่ง! แมร่ง! ผมมองร่างสูงที่อยู่ในชุดสบายๆ มือถือช่อกุหลาบขนาดใหญ่ที่ยื่นมาให้กับผม พร้อมกับส่งยิ้มมีเสน่ห์อยู่ตรงหน้าแล้วอยากจะตะโกนออกมาดังๆ
พี่ลอนดอนนนนนนนนนนนนน!!!แมร่ง!!!!ทำเส้นกูอีกจนได้!!!!“คุณฮอลลี่?”ไอ้วินเซอร์เลิกคิ้วอย่างไม่แน่ใจมองผมอย่างงุนงง ผมก็พยายามคว้าจิตที่เกือบจะหลุดออกจากร่างกลับเข้ามาใหม่ ไอ้วินเซอร์มันไม่รู้ว่าผมเป็นใคร? มันรู้แค่ว่าผมเป็นน้องสาวของพี่ลอนดอนที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา! ผมกัดฟันกรอดพยายามจะสวมบทบาทของตัวเอง
อ๊ากกกกก!!!! บ้าที่สุด!!!!!“ขอบคุณสำหรับดอกไม้สวยๆ แบบนี้ค่ะ”ผมตั้งสติได้ก็ยื่นมือไปรับดอกไม้ช่อนั้นแล้วก้มมองดอกกุหลาบขนาดใหญ่สีแดงสดแตะนิ้วบนกลีบของมันเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามาแย้มยิ้มให้กับอีกฝ่ายบางๆ ผมปรับคีย์เสียงอย่างที่ได้ฝึกซ้อมมากลายเป็นเสียงผู้หญิงที่เป็นธรรมชาติที่สุด ไอ้วินเซอร์มันนิ่งไปเล็กน้อยแล้วก็ขยับตัวหัวเราะเสียงทุ่มในลำคอ
“ไม่เป็นไรครับ คนสวยๆ ก็ต้องคู่กับดอกไม้”มันเอ่ยพร้อมกับยิ้มตาเป็นประกายวิบวับมาให้ พร้อมกับชำเหลืองสายตามองขาของผม ห่านี่!! มองอะไรของมึงวะ!!? ไอ้วินเซอร์แมร่งชำเหลืองมองขาของผมสลับมองหน้าอยู่นั้นแหละ ผมใส่กางเกงขาสั้นซะด้วย ไอ้หื่นนี้มันก็มองอยู่นั้นแหละ!! ผมมองภาพนั้นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า เออ!
“คุณฮอลลี่อยากจะเริ่มต้นเดทนี้ของเรายังไงดีครับ?”ไอ้วินเซอร์ยื่นมือมาให้กับผม ผมก็จับมือมันแล้วลุกขึ้นมายืนข้างๆ พอเจอสาวสวยมันกลายเป็นคนละคน จากไอ้ยักษ์ใจร้ายกลายเป็นพ่อเทพบุตรแสนดีไปเลย!! ผมมองไอ้วินเซอร์ แมร่ง ผมว่าผมสูงอยู่แล้วนะแต่พอมาเจอไอ้หมอนี้กลายเป็นว่าผมเตี้ยไปซะงั้น ผมหันไปยิ้มที่มุมปาก
“ก็แล้วแต่คุณเถอะค่ะ”
“น่าเสียดายนะครับ”
“...”
“เดทครั้งนี้เป็นแค่การซ้อม จริงๆ แล้วผมอยากจะเดทกับคุณแบบจริงๆ มากกว่า”ไอ้วินเซอร์ค่อยๆ ปล่อยมือจากผมแล้วเอ่ยเสียงเบาเหลือบมามองผมด้วยสายตาที่แปลความหมายได้ยาก แล้วทำไมผมต้องใจเต้นแรงแล้วฟ่ะ ไอ้บ้านี้มันพูดกับฮอลลี่ต่างหาก!!
“คุณก็คิดซะว่านี้เป็นการเดทจริงๆ ก็แล้วกัน”
“ถ้าอย่างนั้น วันนี้คิดซะว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ ล่ะกันนะครับคุณฮอลลี่”
“...”ผมหันไปมองไอ้วินเซอร์ แมร่ง นี่ว่าใส่ส้นสูงแล้วนะแต่ผมก็ยังต้องเงยหน้ามองมันอยู่ อากาศข้างบนคงจะเยอะน่าดู ก็ไม่มีใครแย่งมันสูดนี่หว่า ไอ้วินเซอร์ก็หันมามองผมแล้วเลิกขึ้นสูง
“ว่าไงครับ?”
หือ? เมื่อกี้มันพูดอะไรนะ ผมไม่ได้ฟังวะ!!
“วันนี้เราเป็นแฟนกันนะครับฮอลลี่”
“...”
แมร่ง เปลี่ยนเป็นฮอยฮักได้เปล่าวะ?“ฮอลลี่?”
“อย่างไงก็ได้”ผมยักไหล่แล้วยิ้มที่มุมปาก ไอ้วินเซอร์ก็ยิ้มรับแล้วจับมือของผมแล้วเดินออกไปด้วยกัน ผมมองมือของตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายจับแล้วรู้สึกตื่นเต้น เหงื่อเริ่มไหล ให้ตายสิ! ผมควรจะชินที่จะอยู่ใกล้หมอนี้ได้แล้วนะแต่ทำไมผมถึงยังมีอาการแบบนี้อยู่อีก!
“ฮอลลี่ครับ เราไปเล่นเจ้านั้นกันไหม?”ไอ้วินเซอร์ชี้นิ้วไปที่ไอ้เรือยักษ์ตรงหน้า ผมมองตามตาปริบๆ เล่นก็เล่น ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ผมพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วไอ้วินเซอร์มันก็บอกให้ผมรออยู่ตรงนี้แล้วมันก็เดินไปซื้อตั๋วแล้วเดินกลับมาหาผมอย่างรวดเร็ว โคตรเด่นอ่ะครับ!!! มีแต่คนมองตามจนเหลียวหลังแน่ะ
“ต่อจากรอบนี้เลยนะฮอลลี่”
“อืม”ผมพยักหน้ารับเล็กน้อย เรายืนรออยู่ไม่นานไอ้บ้าวินเซอร์ก็เริ่มเนียนตามสเต็ปมันยกแขนโอบไหล่แล้วหันมายิ้มให้กับผม ผมก็ต้องยิ้มรับไป เออ คนเป็นแฟนกันต้องโอบไหล่กันล่ะมั้ง? ผมไม่ได้พูดอะไรหันเหสายตาไปมองเรือโจรสลัดที่แกว่งขึ้นลงไปมาสูงขึ้นเรื่อยๆ คนบนเรือก็กรี๊ดกร๊าดกันหวาดเสียว มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอไงวะ?
แล้วก็ถึงรอบต่อไปซึ่งไอ้วินเซอร์ก็จูงมือผมขึ้นมานั่งบนเรือ ไอ้วินเซอร์ให้ผมนั่งก่อนก็เลยติดริมๆ ของเรือครับ รอบนี้คนขึ้นมาเยอะเลย ไม่นานเรือมันก็เริ่มแกว่งไปเบาๆ แล้วเริ่มแกว่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมจับเหล็กตรงหน้าเพื่อไม่ให้ตัวเองหล่นเก้าอี้ลงไป ยิ่งระดับสูงขึ้นเท่าไรเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นตามลำดับ ผมว่ามันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด...
“คิกๆๆๆ”
แต่มันจั๊กจี้ท้องมากกว่า!!!ผมหัวเราะออกมาเบาๆ พยายามกลั้นไว้แล้วแต่มันก็คันยิกๆ ก็เลยหัวเราะออกมา มองไปข้างๆ ไอ้วินเซอร์มันหันมามองผมแล้วเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ อะไรหว่า? ผมต้องแกล้งกรี๊ดให้สมบทบาทหรือเปล่าวะ? ไอ้บ้านี่มันจ้องอยู่ได้โว้ย ไม่เคยเห็นคนขึ้นเรือเหาะแล้วหัวเราะหรือไง!!!?
และแล้วเรือเหาะมันก็หยุดลงผมเนี่ยหัวเราะจนน้ำตาไหลหมดแรงไปเลยครับ นี่มันยิ่งกว่าการหัวเราะทั้งปีที่ผ่านมาของผมเลยน่ะเนี่ย!!? ไอ้วินเซอร์มันลุกขึ้นยื่นมือมาให้ผมดึงผมลุกขึ้นเดินลงไป หว่า เหมือนมันจะไม่มีแรงเดินเลยอ่ะ พื้นมันเอียงๆ ไปด้วย ผมลงมาจากเรือแล้วเดินเซเล็กน้อยไอ้วินเซอร์มันก็คว้าตัวผมไว้อย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรนะครับ?”
“เอ่อ...คิดว่าไม่น่าจะเป็น”ผมตอบออกไปแล้วพยุงตัวเองจากตัวของไอ้วินเซอร์อย่างรวดเร็ว ไอ้บ้านี่มันเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้เลยเหรอวะ!? เจอแบบนี้แล้วผมรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนไม่ใช่ไอ้วินเซอร์เลยอ่ะครับ มันเป็นการเสแสร้งสิ้นดีอ่ะ
“ต่อไปเป็นตัวนั้นไหมครับ?”ไอ้วินเซอร์มองไปรอบๆ แล้วชี้ไปที่ตึกสูงชะลูด อะไรอ่ะ!! สูงโคตรๆ ดูๆ ไปแล้วน่าจะสูงพอๆ กับชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดของสวนสนุกด้วยสิครับ ผมมองคนที่เล่นเดินออกมาจากทาวเวอร์นั้นทุกคนดูจะตื่นเต้นคุยกันเสียงดังเชียว น่าจะสนุกผมก็เลยพยักหน้ารับไป ไอ้วินเซอร์มันมองผมเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปซื้อตั๋ว เมื่อกี้ผมทำอะไรแปลกๆ ไปหรือเปล่า? มันถึงมองผมแปลกๆ?
ไอ้วินเซอร์ซื้อบัตรมาก็กลับมายืนอยู่ข้างๆ ผม ทำไมคนถึงชอบมองมาที่ผมกับไอ้วินเซอร์จังวะ มีอะไรแปลกหรืออย่างไง? ผมพยายามจะไม่ใส่ใจสายตาของพวกนั้นที่มองมา ไอ้วินเซอร์มันก็ไม่ได้สนใจหันมาคุยกับผม
“ต้องขอโทษจริงๆ นะครับที่ผมไม่ว่างมาหลายอาทิตย์ทำให้คุณฮอลลี่เสียเวลา แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคนสวยๆ แบบคุณจะไม่มีประสบการณ์เรื่องพวกนี้”
“มันแปลกหรือคะที่ฉันหาคนที่ถูกใจยาก?”ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วเอียงหน้ามองอีกฝ่ายเอ่ยตอบ ไอ้วินเซอร์ก็พยักหน้ามองผมอย่างข้องใจ
“มันไม่แปลกหรอกครับ แต่ผมแปลกใจที่พี่ลอนดอนบอกว่าคุณไม่เคยเดทกับใครมาก่อน อย่างคุณน่าจะมีคนเข้ามาจีบกันเยอะแน่ๆ น่าจะมีประสบการณ์บ้างล่ะน่า”มันถามผมแล้วมองไปรอบๆ ตัวที่มีคนจ้องมองมา
พี่ลอนดอนแมร่งขายกูอีกแล้ว!!“ฉันไม่สนใจพวกนั้นจะให้ไปเดทด้วยได้อย่างไงล่ะ”
“แล้วคุณชอบแบบไหนล่ะครับ?”ไอ้วินเซอร์มันถามผมด้วยรอยยิ้มนิดๆ ผมมองมันนิ่ง แบบไหนน่ะเหรอ? กูไม่รู้ว่าชอบแบบไหนเหมือนกัน รู้แต่ว่ากูชอบมึง! ชอบแบบมึงนั้นแหละ!! ผมเสสายตาไปมองทางอื่นเล็กน้อยแล้วมองไปที่หอคอยสูงชะลูดนั้น
“ถึงคิวเราแล้วล่ะ”
“นั้นสินะครับ”
ผมกับไอ้วินเซอร์ก็เดินเข้ามาในรั้วแล้วนั่งประจำที่ปิดที่กั้นป้องกันไม่ให้หล่นลงมาเมื่อคนนั่งกันครบแล้ว ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวมันก็ถูกดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว พอมาถึงกลางทางก็ค่อยๆ ขึ้น ผมมองลงไปข้างล่าง ตอนนี้ผมอยู่สูงจากพื้นมากเลยครับ เงยหน้าขึ้นมามองไปรอบๆ ตัว มันมองเห็นทั่วสวนสนุก สุดยอดอ่ะ!!!
ผมกำลังดูวิวอย่างเพลินๆ ก็โดนดึงลงมาอย่างรวดเร็วแล้วก็ขึ้นไปที่เดิมจนตัวของผมลอยจากเก้าอี้แน่ะ สุดยอด!! เวลามาถึงสุดสูงสุดแล้วมันรู้สึกดีโคตรๆ แล้วจู่ๆ ก็ถูกดึงลงมาอีกครั้งซ้ำไปซ้ำมาจนที่นั่งค่อยๆ เลื่อนลงมาจอดแบบพื้น ผมยกที่กั้นแล้วลุกขึ้นมายืน สุดยอดวะ!!! ยิ่งตอนขึ้นไปสูงสุดน่ะนะ วิวสวยมาก!!!
“ฮอลลี่ เล่นตัวนั้นต่อเลยไหมครับ?”ไอ้วินเซอร์ชี้ไปที่รถไฟเหาะ ผมมองรางรถที่สูงก็คดเคี้ยวไปมาอย่างตื่นเต้นหันมาพยักหน้าให้กับมันพร้อมกับยิ้มสนุก อ่ะ เมื่อกี้ลืมตัวไปแฮะ เมื่อกี้ผมทำท่าอยากกับเด็กมาเจอของเล่นใหม่ๆ งั้นแหละ เหลือบไปมองไอ้วินเซอร์ที่เดินจูงมือไปไม่ได้สังเกตเห็นหรือว่าสงสัยอะไรค่อบเบาใจหน่อย
ขึ้นรถไฟเหาะสายนรกเสียงกรี๊ดของพวกผู้หญิงเนี่ยดังอย่าบอกใครเลยครับ ส่วนผมน่ะเหรอ? หัวเราะตลอดทางอ่ะ สุดยอด สนุกสุดๆ!! ไอ้วินเซอร์ก็มองผมอย่างแปลกๆ ไอ้บ้าวินเซอร์มันแหกปากร้องสุดเสียงเชียวล่ะครับ หึๆ กากวะมึงอ่ะ!!
“ฮอลลี่ไม่กลัวเลยน่ะครับ”
“...ไม่นี่ กลัวเหมือนกันแหละคะ”ผมเงียบแล้วตอบกลับไป พวกผู้หญิงจะต้องกลัวสินะ อื้ม! มันน่ากลัวตรงไหนวะ ออกจะสนุก! ไอ้วินเซอร์เลิกคิ้ว
“ผมเห็นฮอลลี่หัวเราะตลอดทางก็เลยนึกว่าไม่กลัวซะอีก”
“เอ่อ...ฉันอยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ค่ะ”เมื่อตอบไม่ได้คิดไม่ออกผมก็ชี้นิ้วไปที่เจ้าชิงช้าขนาดใหญ่ ไอ้วินเซอร์มันมองไปแล้วก็พาผมมาขึ้นชิงช้าที่ต่อแถวยาวมาก ยืนตากแดดรอเพื่อขึ้นชิงช้ามันร้อนทำให้ผมเริ่มขมวดคิ้ว ผมไม่ค่อยชอบอากาศร้อนเท่าไรครับ ไอ้วินเซอร์มันก็เดินมาบังแดดให้กับผมจนผมเองยังต้องแปลกใจ ไอ้วินเซอร์มันสุภาพบุรุษขนาดนี้เลยเหรอวะ!!? ผมไม่เคยรู้มาก่อนเล๊ย!!
“ผมไปซื้อน้ำมาให้นะ”ไอ้วินเซอร์หันมาพูดกับผมแล้วเดินออกไปจากแถวเพื่อไปซื้อน้ำ ผมยืนรออยู่คนเดียวก็มีคนเข้ามาคุยด้วยเป็นผู้หญิงครับ มองไปที่ไอ้วินเซอร์มันก็คุยอยู่กับกลุ่มผู้หญิงที่เดินเข้ามาทักมัน
“เป็นนางแบบหรือคะ สูงจัง”
“เปล่า”ผมตอบสั้นๆ แล้วเหลือบไปมองไอ้วินเซอร์อีกครั้ง มันก็ยังคุยกับกลุ่มเดิมแล้วชี้นิ้วมาที่ผมก่อนจะเดินมาพร้อมกับกลุ่มนั้น อะไร? ไอ้วินเซอร์มันส่งยิ้มให้กับผมแล้วยื่นแก้วน้ำมาให้ก่อนที่มันก็หันไปบอกกลุ่มผู้หญิงที่เดินตามมันมา
“นี่แหละครับแฟนผม”
“...”ผมยืนนิ่งไม่พูดอะไร ไอ้วินเซอร์ก็หันมามอง ผมก็เลยคิดได้ว่าตอนนี้กำลังสวมบทบาทเป็นผู้หญิงอยู่จะทำหน้าแบบปกติไม่ได้ ผมก็ฉีกยิ้มส่งให้กับพวกสาวๆ แล้วพยักหน้ารับน้อยๆ สาวๆ พวกนั้นก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ อะไรวะ? เกิดอะไรขึ้น?
“ขอถ่ายรูปพวกพี่ได้ไหมคะ?”
“ฉันถ่ายด้วย!”
แล้วผมกับไอ้วินเซอร์ก็ต้องเก๊กท่านั้นท่านี้จนอีกฝ่ายถ่ายรูปไปจนพอใจนั้นแหละครับ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกใกล้ถึงคิวขึ้นชิงช้าสักที ก่อนที่ผมและไอ้วินเซอร์จะขึ้นชิงช้าไป กลุ่มสาวๆ เหล่านั้นก็พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือยิ้มร่า
“เหมาะสมกันดีนะค่ะ!”
“ขอบคุณครับ”ไอ้วินเซอร์มันก็เอ่ยขอบคุณยิ้มรับหน้าบาน ผมมองไอ้วินเซอร์อย่างแปลกใจ มึงจะมาดีใจอะไรวะ? ทำอย่างกับว่ากูเป็นแฟนมึงจริงๆ นั้นแหละ ก็แค่แฟนกำมะลอวันเดียวเท่านั้นแหละ แน่จริงขอกูเป็นแฟนจริงๆ สิวะ! ผมไม่ได้หวังอะไรนะครับ แต่เผื่อฟลุค!
“ฮอลลี่ คุณดูฝืนๆ อย่างไงไม่รู้นะ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”พอถึงมานั่งบนชิงช้าไอ้วินเซอร์มันก็ถามขึ้น ผมส่ายหน้า
“คุณไม่ต้องฝืนก็ได้นะฮอลลี่ แค่เป็นตัวของคุณเอง ผมจะดีใจมากที่ได้มาเดทกับตัวคุณจริงๆ”
“...”
ผมไม่ได้ตอบอะไรไปแค่หันหน้ามองออกไปนอกชิงช้า
กูก็จะดีใจมาก ถ้าได้มาเดทในชื่อฮอยฮัก!ผมกับไอ้วินเซอร์เดินตระเวนเล่นไปทั่วสวนสนุก มันสนุกจริงๆ นั้นแหละครับ มิน่าพวกเด็กๆ กับวัยรุ่นถึงชอบมาสวนสนุกกัน ผมแบกปืนขึ้นไหล่แล้วยิงเอาตุ๊กตาของรางวัล ข้างๆ ก็เป็นไอ้วินเซอร์ ผมกับมันแข่งกันว่าใครจะยิงได้เยอะกว่า แล้วผมก็ชนะมันได้รางวัลเป็นเจ้าตุ๊กตากระต่ายสีชมพูตัวใหญ่ มันนุ่มมากเลยนะครับ แล้วเราก็แวะซื้อไอติมกันครับ ไอ้วินเซอร์มันซื้อรสช็อกโกแลต ส่วนผมสตอเบอรี่
“ขอชิมหน่อย”ไอ้วินเซอร์มันกินไอติมของตัวเองหมดก็หันมามองผม
“ก็กินของตัวเองไปดิ”
“ผมอยากลองรสสตอเบอรี่บ้าง”
“เอ้า”ผมยื่นไอติมในมือให้ไอ้วินเซอร์ไป มันก็จับมือผมแล้วงับไอติมผมไปมากกว่าครึ่ง ไอ้บ้าวินเซอร์!!! ชิมบ้านแกดิกินไปซะครึ่งแบบนั้นน่ะ ผมจะดึงมือกลับแต่ไอ้วินเซอร์มันไม่ยอมปล่อยแถมยังตามกินไอติมสตอเบอรี่ของผมจนเหลือแต่โคน อ๊ากกกกก ไอ้บ้าวินเซอร์!!
“รสสตอเบอรี่ก็อร่อยดีนะ”มันยังมีหน้ามาพูดอีก! ผมเนี่ยมองวิญญาณไอติมในมืออย่างหดหู่ ไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้วินเซอร์มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินไปซื้อให้ผมอีกอัน แถมยังเพิ่มมาเป็นสองเท่า ผมยิ้มนิดๆ แล้วรับไอติมนั้นเดินตามไอ้วินเซอร์ที่จูงมือพาเดินตะลอนอีกรอบ
“สนุกไหมฮอลลี่?”
“สนุก! แล้วมาด้วยกันอีกนะ”ไอ้วินเซอร์มันมองผมนิ่งเหมือนไม่เคยเห็น โอ๊ะ เมื่อกี้เหมือนผมจะตอบมันด้วยยิ้มแบบเต็มที่เลยนี่หว่า ไอ้วินเซอร์มันก็หันหน้าไปกระแอมเล็กน้อยก่อนจะหันมาตอบรับ
“...นั้นก็แล้วแต่คุณครับ”
“...วินเซอร์”
“ครับๆ”ไอ้วินเซอร์มันยิ้มอย่างอ่อนใจแล้วพยักหน้ารับ เมื่อผมพยักหน้าผมก็ยิ้มที่มุมปากแวบหนึ่ง ตลอดช่วงเวลาที่เดินอยู่ในสวนสนุกผมก็รู้ว่าแค่จ้องหน้ามันแล้วพูดเสียงเบาๆ อ้อนมันนิดหนึ่งไอ้วินเซอร์มันก็จะตามใจทันที ถึงตอนแรกมันจะดูแปลกใจอยู่บ้างก็เถอะ ผมกับไอ้วินเซอร์ก็เดินออกมาจากสวนสนุกหมดเวลาของการเดทในวันนี้แล้วครับ แต่พอเดินไปไม่กี่ก้าวผมก็ขมวดคิ้วปวดเท้าเป็นบ้า สงสัยผมยังไม่ชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานๆ แบบนี้ล่ะมั้ง?
“ปวดเท้าเหรอครับ?”
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้น”ผมหยุดเดินก้มมองเท้าของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบไอ้วินเซอร์ ไอ้วินเซอร์ก็ก้มมองเท้าของผมก่อนจะดึงผมมานั่งที่ม้านั่งใกล้ๆ มันดันให้ผมนั่งลงแล้วย่องตัวถอดรองเท้าให้ผมอย่างนุ่มนวล อุบ๊ะ!!! โหมดพระเอกแบบนี้ผมไม่ชินเลยแฮะ ไอ้วินเซอร์จับเท้าของผมแล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม
“ปวดมากไหม?”
“มาก”
“งั้นขึ้นมา”
“ห๊ะ?”
ไอ้วินเซอร์หันหลังมาให้ผม มันก็พูดเร่งให้ผมรีบๆ ขึ้นมา เอ่อ...ให้ขี่หลังมึงเนี่ยนะ ไม่เอาวะ กูยังเดินไหวอยู่ ขี่หลังมึงมันน่าอายไปไหมฟ่ะ ผู้ชายตัวไม่เล็กขี่หลังผู้ชายด้วยกันแล้วมันจั๊กจี้วะ ผมส่ายหน้าปฏิเสธมัน ไอ้วินเซอร์ก็หันมามองผมด้วยสายตาน่ากลัว
“หรือจะให้อุ้มแบบเจ้าหญิง?”
“ไม่ๆ ไม่ต้อง”
“งั้นรีบๆ ขึ้นมา”
“...”ผมหันซ้ายหันขวาแล้วจับไหล่ของมันพยุงตัวเองขึ้นขี่หลังมันจนได้ ไอ้วินเซอร์แมร่งก็ถึกลุกขึ้นเดินได้หน้าตาเฉย กูว่ากูหนักอยู่นะ! สภาพตอนนี้ผมโคตรอายเลยอ่ะ มีแต่คนมองมาเต็มเลย ไอ้วินเซอร์แบกผมขึ้นหลังแถมยังหิ้วรองเท้าส้นสูงกับตุ๊กตาตัวใหญ่ด้วย ผมอยากจะรัดคอมันตายไปจริงๆ เลยวะ โคตรน่าอายเลยโว้ย!!!
“อ๊ะ ถ้าแฟนกูเป็นแบบนั้น กูรักตายเลยวะ!”สาวๆ มองมาก็กรี๊ดกร๊าดมันใหญ่ เชอะ! ก็แค่แบกสร้างภาพนั้นแหละวะ ตัวจริงๆ ของมันน่ะไม่ใช่แบบนี้หรอกมั้ง สงสัยถ้านี่เป็นฮอยฮักแว่นจืดไอ้วินเซอร์คงจะจับลากกลับนั้นแหละไม่ให้ขี่หลังแบบนี้หรอก!!
แต่ยกเว้นวันนี้ให้ล่ะกัน
ยกให้เป็นเทพบุตรก็ได้!
“...”ไอ้วินเซอร์มันบ่นอะไรพึมพำกับตัวเอง ผมต้องเงี่ยหูฟังที่มันพูด
“...แมร่ง ขาสวยๆ กำลังโอบเอวกู ผิวก็อย่างเนียนเลยวะ กูคิดผิดหรือถูกวะที่แบกเนี่ย สร้างความลำบากให้ตัวกูแท้ๆ อ่า อดทนไว้วินเซอร์...”
“...”
ไอ้หื่นก็คือไอ้หื่นอยู่วันยันค่ำ!!!!TBC.โอแฮะ ในที่สุดก็อัพจนได้ ฮิๆ! ขอบคุณกำลังใจของทุกๆ ท่าน
อัพนี้สุดท้ายที่จะหายตัวไปนานเลยล่ะ สองเดือนสุดท้ายนี้มัน
โหดจริงๆ นะ ไม่มีอาทิตย์ไหนว่างเลยอ่ะ นี้ก็เพิ่งผ่านสองงานใหญ่ๆ ไป!
ที่เพิ่งผ่านไปก็คืองานของสาขาและงานรับขวัญน้องปีหนึ่ง
อาทิตย์หน้าต้องศึกษานอกสถานที่สามวัน ยิ่งเป็นชั้นปีที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
อาทิตย์ถัดไปก็ทำเตรียมตัวไปทำค่ายสิ่งแวดล้อม
อาทิตย์ต้นเดือนกุมภาก็ต้องไปงานข้าวจี้ของวิชาสุนทรียฯ
อาทิตย์ต่อมาก็ต้องไปสำรวจพื้นที่ตามแผนที่ของวิชาแผนที่
แล้ววันที่ 13 ก็เริ่มสอบไฟนอล เป็นไงล่ะ ตารางงานของปอยแน่นเอี๊ยดแบบสุดๆ!!
สงสัยจะไม่ได้โผล่มาเดือนครึ่งเลยล่ะมั้งเนี่ย
แต่ปอยจะพยายามแบ่งเวลา(อันน้อยนิด)มาแต่งนิยายให้นะ
อาจจะช้า(มาก)ก็คงจะไม่ว่ากัน เพราะช่วงนี้มันงานเยอะจริงๆ จ้ะ!!
ปล.รับทราบน่าทุกท่าน~