โหลเตรียมไว้เรียบร้อย!!
แต่งตัวเรียบร้อย!!
ข้อมูลเที่ยวเรียบร้อย!!
เหลือแต่รอให้หมอนั้นมาเท่านั้น!!
กลับมาจากมอผมก็มานั่งคุ้ยหาข้อมูลเตรียมตัวไปเที่ยว ถ้าฮอยฮักเอาช็อกโกแลตมาให้ ผมก็จะตอบแทนด้วยการพาไปเที่ยวแบบสองต่อสอง หือ? ได้ยินเสียงก็ค้านมาแว่วๆ เมื่อกี้ ผมกะจะตอบแทนจริงๆ นะเนี่ย หึๆ ไม่ได้คิดจะเอาอะไรเล๊ย พาไปเที่ยวด้วยความบริสุทธิ์ใจนะ(?)
ผมเคยบอกว่าจะรอจนกว่าฮอยฮักจะพร้อม ผมพูดจริงนะครับ!! แต่ระหว่างนั้นผมก็จะแหย่นิดแหย่หน่อยเผื่อมันจะฟลุ๊คสักครั้งล่ะนะ หึๆ ยังไงผมก็เป็นผู้ชายนะครับพี่น้อง มันก็ต้องมีกันบ้างแหละอะไรแบบนี้ ผมนั่งเก้าอี้อยู่หน้าคอมพ์ปิดเครื่องไว้เรียบร้อยแล้วหันไปมองนาฬิกา ใกล้จะหกโมงแล้วแฮะ ทำไมยังไม่มาอีกวะเนี่ย? หรือว่ามีงาน?
ผมลุกขึ้นมาใส่สูทที่เจ้าพวกนั้นทิ้งไว้ก่อนจะไปลั้ลลาพาเพลินของพวกมันนั้นแหละครับ มองไปที่มุมห้องแล้วถอนหายใจกล่องพวกนี้ปล่อยไว้ก็เน่ามดขึ้นเปล่าๆ ผมใช้ให้ไอ้รีเบคโก้กับไอ้อับดัลมันขนขึ้นมาที่ห้องครับ เอาไปทิ้งๆ ซะ ผมไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว ใครจะหาว่าใจร้ายก็เชิญครับ ผมไม่สนใจ
กริ๊ง กริ๊ง~เสียงกริ๊งหน้าห้องดังขึ้นผมที่กำลังจะใส่นาฬิกาก็หยุดชะงักแล้วมองไปที่ประตูห้อง เดี๋ยวๆ ถ้าผมพุ่งไปเปิดให้มันแบบทันทีทันใดเดี๋ยวจะหาว่าผมรอช็อกโกแลตจากมัน อาการแบบนั้นมันไม่ดี มันดูไม่เท่เลย ผมต้องเก๊กใจเย็นไว้ รอเวลาสักพักแล้วเดินไปเปิดประตู หวังว่าจะไม่ใช่พวกเพื่อนงี่เง่ามาหรอกนะ ถ้ามาจริงๆ ล่ะก็พ่อจะถีบเรียงตัวเลย คอยดู!
ผมเปิดประตูอย่างช้าๆ ก็เห็นฮอยฮักในมาดแว่นจืดทำหน้านิ่งยืนอยู่ อืม ดีแล้วที่ไม่ใช่ไอ้พวกเพื่อนเวรนั้น มองกลับมาที่ฮอยฮักอีกครั้ง หือ? อะไร มองแบบนั้นหมายความว่าไง? มองตาค้างเลย หึๆ อึ้งในความดูดีของกูล่ะสิ วันนี้ยิ่งพิเศษเพราะต้องไปงานเลี้ยง ผมเก๊กหน้าแล้วกระแอมเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงแสร้งรำคาญไป
“มึงจะยืนอยู่อีกนานไหม?”
ฮอยฮักเดินเข้ามาในห้องก็ไม่วายจะจ้องผมอยู่นั้นแหละ อย่ามองมากได้ไหม? เดี๋ยวปั๊ดจับกดซะให้เข็ด เฮ้อ! มองมากๆ มีเขินเหมือนกันนะโว้ย
“สายตามึงหื่นมาก”
พอประชดไปแบบนั้น ฮอยฮักก็ชักสีหน้าใส่ทันที ฮ่าๆๆๆ หื่นจริงๆ นะ แต่ไม่ใช่นาย เป็นฉันต่างหากที่หื่น หึๆ
“นายจะไปไหนเหรอ?”
“งานเลี้ยง”ผมตอบสั้นๆ แล้วหยิบนาฬิกามาใส่ต่อ มองไปที่ถุงอีกฝ่ายถือ อืมมมม มันต้องใช่ช็อกโกแลตแน่ๆ ล่ะครับ ผมก็ทำเป็นโง่ถามไป ทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“แล้วมึงมาทำไม?”
ฮอยฮักมองผมนิ่ง เหมือนกำลังด่าผมในใจเลยนะนั้น ผมจ้องอีกฝ่ายที่วางถุงนั้นไว้บนโต๊ะแล้วหยิบกล่องขนาดปานกลางมาให้กับผม โห ห่อมาอย่างดีเลยนะนั้น ซื้อมาหรือทำเองหว่า? แต่นั้นก็ช่างเถอะ เอามาให้ผมก็ดีใจแล้วล่ะ ผมรับมาแล้วยิ้มก่อนจะยักคิ้วให้อีกฝ่าย
ขอบคุณนะฮักเดี๋ยวจะตอบแทนให้ถึงใจเลยผมเลียริมฝีปากของตัวเองแล้วหันหลังเดินเข้าห้องมา เดินมานิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพอประตูปิดลงสนิท อ๊ากกกกกก!!!! ได้มาแล้วววว~ ได้ช็อกโกแลตจากฮักด้วย!! รีบแกะอย่างประณีตสุดฝีมือ เดี๋ยวกล่องเสียหายแล้วจับช็อกโกแลตใส่โหลไว้ แอบชิมสักชิ้นสองชิ้น ไม่รู้ว่าทำเองหรือซื้อมาแต่มันอร่อยมาก!! คนให้จะหอมหวานแบบช็อกโกแลตนี้ไหมหนอ เฮอะๆ อ่า!! น้ำลายพวกนี้ไหลมาทำไมฟ่ะ เสียภาพพจน์!!
ผมนั่งพับกระดาษไว้เหมือนเดิมแล้วโยนไปกองกับกล่องที่เหลือๆ เอาล่ะ ช็อกโกแลตนี้ก็ไม่ถูกมดขึ้นแล้ว ผมหาที่ไว้ขวดโหล อืม ถ้าไว้แถวนี้มีสิทธิ์จะละลายหรือเสียได้ ผมก็เลยเปลี่ยนใจเดินออกมาจากห้องแล้วเดินเข้าห้องครัวเอาขวดโหลแช่ไว้ในตู้เย็น เออ! ไม่เสียง่ายแถมยังแข็งเหมือนเดิม!!
ผมเดินออกมาจากห้องครัว มองฮอยฮักที่ยังยืนอยู่ที่เดิมซึ่งตอนนี้เขากำลังมองผม ไม่มีอะไรให้ตอนนี้นะ รอไปก่อน แล้วจะตอบแทนให้หลายๆ รอบ เอ๊ย เยอะๆ เลยนะฮัก เหอะๆ เฮ้ยๆๆ ทำสายตาหื่นหรือเปล่าเมื่อกี้นี้ ไม่ได้ๆ เดี๋ยวเหยื่อจะตื่นซะก่อน ผมเดินมาหยิบกุญแจรถแล้วบอกอีกฝ่ายเรื่องช็อกโกแลตในห้อง
“ฝากทิ้งช็อกโกแลตในห้องด้วยนะ มันรก”
มันเยอะมากเก็บไปทิ้งคนเดียวต้องใช้เวลานานแน่ๆ ผมคงจะกลับมาทันจากงานเลี้ยง กลับมาแล้วค่อยพูดเรื่องไปเที่ยว ไม่ไปก็บังคับให้ไป ครั้งนี้มีตัวเลือกให้อย่างเดียวคือต้องตอบตกลงมาเท่านั้น! ผมยิ้มให้กับฮักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาจากห้อง อืม...เมื่อกี้ยิ้มไม่หื่นใช่ไหมครับ? เฮ้อ~! ต้องระมัดระวังไม่ให้ธาตุแท้สันดานดิบออกลายมันลำบากนะครับ มากๆ ด้วย!!
ผมมาที่งานเลี้ยงเป็นตัวแทนของคุณปู่น่ะครับ เซ็งมาก! ต้องปั้นยิ้มแล้วรับฟังคำเยินยอปอปั้นจากเจ้าพวกไฮโซจอมแปลกพวกนี้ ถ้านี่รอบข้างมีผู้หญิงน่ารักๆ สวยๆ สักคนคงจะดีกว่านี้ เฮ้อ~! ยืนพูดคุยกับประธานบริษัทที่เป็นลูกค้าคนสำคัญของปู่แล้วเห็นไอ้โซโล่เดินเข้ามาทักทายลุงพุงย้วยคนนี้พร้อมกับแม่ของมันทำให้ผมแปลกใจหน่อยๆ วันนี้ไอ้คุณชายมันย่อมโผล่เข้าสังคมโว้ยเฮ้ย!
“อุ้ย! วินเซอร์นี่”
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไม่ได้เจอกันพักใหญ่เลยนะ หล่อขึ้นกว่าเดิมอีกแน่ะ”
“คุณแม่ก็ยังสาวยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“โฮะๆๆ ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะจ้ะ น้าฝากโซโล่แป๊บนะ เดี๋ยวไปคุยกับคุณหญิงดาวก่อน ขอตัวนะจ้ะ”คุณแม่ของไอ้โซโล่ก็ยิ้มแล้วเดินนวยนาดออกไป ผมก็หันมาหาไอ้โซโล่ที่ขยันทำหน้านิ่ง แบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะวิ่งเข้ามาหามึงไม่ทราบวะไอ้คุณเพื่อน นอกจากพวกชอบของแปลก!
“คิดไงถึงได้มาวะ?”
“ไอ้โมแมร่งหนีไปหาแฟนมัน กูเลยโดนลากมาแทนน่ะสิ”ไอ้โซโล่บ่นทันทีเมื่อเปิดปาก ผมพยักหน้าเข้าใจ พี่โมโนเป็นพี่ชายคนเดียวของไอ้โซโล่มันครับ ได้ข่าวว่าช่วงนี้กำลังติดผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เทียวเข้าเทียวออกค่ายทหารดันใจสาวในเครื่องแบบเข้าน่ะครับ
“แล้วมึงคิดไงถึงโผล่มางานนี้วะ?”
“กูก็ไม่ได้อยากมาหรอกวะ แต่แมร่งปู่บังคับให้มา เซ็ง”
“แล้วเรื่องที่มึงจะช่วยกูอ่ะ จริงป่ะวะ?”
“กูพูดจริง ตอนนี้มึงไม่ต้องไปใกล้คณะนั้นนะ ปล่อยให้มันเงียบๆ ไปก่อน ให้ไอ้เพ้นต์มันตายใจว่ามึงเลิกสนใจไปแล้วเปิดเทอมปีสามกูจะช่วยมึงลุยเข้าไปแบบไม่ให้มันตั้งตัวทันเลย โอเค้?”
“...มึงว่าไงก็ว่าตามนั้น”
ผมหัวเราะเบาๆ เหลือบไปมองไอ้โซโล่ที่ยังคงความนิ่งไว้อยู่ เอาน่ามึง หยุดไปให้ไอ้เพ้นต์มันตายใจก่อน อดทนไว้เพื่อนเอ๊ย พอเปิดเทอมปุ๊บเดี๋ยวกูจัดถวายให้ถึงที่เลย ไม่ต้องทำท่าหง่อยขนาดนั้น! ผมกับไอ้โซโล่ยืนคุยกันอยู่แล้วก็มีสาวๆ เข้ามาร่วมวงสนทนา ผมยิ้มรับส่วนไอ้โซโล่ปิดคลื่นการติดต่อไปแล้วครับ มันหันไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ
ผมมองนาฬิกาข้อมือ นี่มันก็นานแล้วผมกลับดีกว่า ผมเอ่ยขอตัวกับสาวๆ แล้วบอกลาไอ้โซโล่หนีกลับไปก่อนงานจะเลิก ใครจะอยู่จนงานเลิกวะ ไม่มีคนมาคุมแบบนี้ยิ่งชอบ!! ผมขับรถกลับมาที่คอนโดตัวเองอย่างสบายอุรา พอขับรถเข้ามาในคอนโดเท่านั้นแหละตาแทบเหลือกครับ!!
คนที่ยืนอยู่กับฮอยฮักนั่นมัน....เวร!!
คุณย่า!!!!ผมรีบขับรถมาจอดไว้แล้วลงมาจากรถ รีบวิ่งมามองคุณย่าที่ไม่รู้มาอยู่ที่นี้ได้ยังไงแล้วมองฮอยฮัก เอ๊ะ หลบตาทำไมวะ? ผมมองฮอยฮักที่หลบตาแวบหนึ่งแล้วหลบหน้าไปอย่างแปลกใจ ก่อนจะถามอะไรไปผมก็หันมาสนใจคุณย่าที่ยืนอยู่อีกข้าง มาได้ไงวะ ตอนผมกลับยังอยู่ที่อเมริกาอยู่เลย!!
“คุณย่ามาถึงตอนไหนครับ?”
“มาถึงตอนบ่ายๆ น่ะ”
“แล้วคุณพ่อรู้เรื่องหรือยังครับเนี่ย? คงไม่ได้หนีคุณปู่มาใช่ไหม?”
“เอาอะไรมาพูดย่ะ ฉันจะหนีปู่แกมาทำไมกัน แล้วพ่อแกน่ะรู้เรื่องแล้วก็เป็นคนไปรับฉันที่สนามบินนี่ มีแต่แกนั้นแหละไอ้หลานงี่เง่าที่ไม่รู้เรื่องอะไร”
“แน่ใจนะครับว่าคุณปู่รู้เรื่อง?”
“เอ๊ะ อะไรของแกเจ้าลิ้ง อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นเด็กๆ ไปหน่อยเลยน่า วอลเธอร์เขารู้เรื่องหรอก...มั้ง?”
“นั้นไงคิดแล้วไม่ได้บอกคุณปู่จริงๆ ด้วย อีกอย่างผมบอกแล้วไงให้เรียกผมว่าวินเซอร์”
“ทำไม เจ้าฮันก็ยังเรียกได้เลย”
“ก็นั้นเขาเป็นพ่อนี่ครับ”
“ฉันก็เป็นย่าย่ะ ถ้าไม่มีฉันอย่าหวังว่าแกจะเกิด!”
เออ ถูก
ผมถอนหายใจกับคุณย่า เดี๋ยวปู่บ้านั้นก็ตามมาลากคอกลับหรอก ไม่เคยเข็ดล่ะนะคุณย่าเนี่ย ชอบแบบโหดๆ สินะ ไม่เข้าใจคนแก่เลยครับ ผมหันมามองฮอยฮักที่ทำหน้านิ่งแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเจ้านี้มันกำลังสนุกกับการต่อล้อต่อเถียงของผมกับย่าวะเนี่ย
“มึงน่ะ ขึ้นไปห้องก่อน”ผมดันไหล่มันออกไป ฮอยฮักก่อนจะไปก็ลาคุณย่าแล้วเดินออกไปเงียบๆ ผมมองตามอีกฝ่ายไปจนลับตาถึงหันมามองคุณย่าที่จ้องเขม็งอยู่ หือ? อะไร? ทำไมต้องมองอย่างนั้นด้วยล่ะครับคุณย่า ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ?
“วินเซอร์ แกชอบหนูฮอยฮักเหรอ?”
“คะ...คุณย่าพูดอะไร ไร้สาระ!”
รีแอคชั่นตอบกลับไปแบบอัตโนมัติผมรีบเถียงไว้ก่อน คุณย่ามองผมด้วยสายตาที่บอกอย่างชัดเจนว่า ‘ตูไม่เชื่อ’ ผมก็เลยยิ้มรับกลบเกลื่อนไป ถ้ายอมรับไปซวยแหงๆ เลยครับ ผมรู้ว่าถ้าคุณย่ารู้คุณปู่ก็ต้องรู้ด้วยแน่ๆ และตอนนั้นแหละ คราวซวยของผมแน่ๆ!! ไอ้คุณปู่หัวแข็งนั้นต้องยกเรื่องนี้มาขู่ผมเรื่องสืบทอดตำแหน่งแหงแซะ ต่อให้เอาช้างมาฉุดผมก็ไม่ยอมรับเด็ดขาด!!
“งั้นเหรอ?”คุณย่ารับอย่างเนือยๆ จากนั้นก็โบกมือไปมา
“เอาเถอะ ฉันก็จะไม่เซ้าซี้แกเรื่องนี้หรอก อย่างไงมันก็เป็นเรื่องของแก แต่ฉันอยากจะเตือนอะไรหน่อย คนเรามีความอดทนจำกัดถึงจะเป็นคนที่มีความอดทนสูงขนาดไหนก็เถอะ แกล้งเขามากๆ เขาอาจจะตีปีกหนีไปจากแกหรอกเจ้าหลานโง่”
“หึ จะว่าผมหลงตัวเองก็ว่าไปเถอะ แต่เรื่องที่หมอนั้นจะไปจากผมเนี่ยบอกได้คำเดียวว่า...ยาก!”
“เชอะ หนีไปจริงๆ ทีเถอะ ฉันจะหัวเราะให้ฟันหัก”
“อย่างกับว่าผมจะยอมให้เขาหนีไปได้อย่างนั้นแหละ”
“แกยอมรับแล้วใช่ไหมว่าชอบฮอยฮักน่ะ?”
“...”
ช่างหลอกล่อได้ดีจริงๆ นะครับคุณย่า!!“คุณย่าจะกลับตอนไหนครับ?”
“ฉันเพิ่งมาแกก็จะให้ฉันกลับมางั้นเหรอ!?”
“เปล่าครับ ผมแค่ถามไปเฉยๆ”
ก็แค่เปลี่ยนเรื่องคุยเท่านั้นเอง เห็นไหมคุณย่าลืมไปแล้ว หึๆ! คุณย่าดูเหมือนจะรู้ทันแต่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรต่อครับ หวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่ไปเข้าหูของคุณปู่เข้าหรอกนะ ผมไม่อยากจะยุ่งยากเลย คุณย่าพูดกับผมอยู่สองสามประโยคเรื่องของคุณพ่อนั้นแหละครับ
“ว่าแต่แกคิดดีแล้วงั้นเหรอที่ชอบผู้ชายน่ะ”
“ไม่ได้คิดจะชอบหรอกครับคุณย่า”ผมถอนหายใจเล็กน้อย สุดท้ายคุณย่าก็วนมาเรื่องนี้อีกจนได้ คุณย่าเลิกคิ้วขึ้นสูงแถมยังกอดอกแบบไม่เชื่อถืออีก ผมมันคนกะล่อนปลิ้นป้อนไม่น่าถือขนาดนั้นเลยเหรอครับย่า เชื่อหน่อยเถอะว่าไม่ได้อยากจะคิดชอบผู้ชายเลย แถมไม่ได้คิดอยากจะชอบใครสักคนด้วยซ้ำ!
“ผมไม่ได้คิดจริงๆ แต่มันชอบของมันเอง ชอบแบบที่ผมเองก็ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ”
“ชอบเขาก็ทำดีกับเขาหน่อยสิย่ะ คนอื่นที่เป็นกิ๊กเป็นกั๊กแกยังทำดีกับเขาสารพัด กะอีแค่คนที่ตัวเองชอบทำไมจะทำไม่ได้”
“โถ คุณย่า! ตอนที่เขาโกรธหรือจะร้องไห้น่ะ มันน่ารักสุดๆ เลยนะ!!”
“ไอ้โรคจิต”“...”
ก็คงจะพอๆ กับคุณย่าที่ชอบรักรุนแรงนั้นแหละครับ
คุณย่าหันไปพยักหน้าให้กับบอดี้การ์ดที่ติดตามมาด้วย จากนั้นก็หันมากวักมือเรียกให้ผมไปใกล้ๆ ผมก็ต้องเดินเข้าไปแล้วก้มตัวลงต่ำ
“ฉันไม่ปฏิเสธหรอกว่าตอนที่เขาร้องไห้มันน่ารัก แต่ใช่ว่าจะมีแค่ทำให้โกรธแล้วเขาจะร้องไห้นี่น่า มันมีวิธีที่สนุกกว่า มันส์กว่า แถมยังเร้าใจกว่าอีกนะ ประมาณว่าหน้าแดงๆ ตาเหยิ้มๆ แล้วพูดขอร้องทั้งน้ำตานั้นน่ะ หึๆ”
“...”ผมเบิกตากว้างแล้วมองหน้าคุณย่าที่ทำเป็นกระแอมเบาๆ แล้วโบกมือลาผมเดินขึ้นรถไป
“ขอให้โชคดีนะหลานรัก”
“รักษาสุขภาพด้วยนะครับคุณย่า”
แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ ครับ!!!
หึๆ นั้นสินะ น้ำตาความเสียใจมันจะสู้น้ำตาของการทรมานใจได้ยังไงกัน!!!
ผมขึ้นมาที่ห้องของตัวเองเปิดประตูเข้าไปเห็นฮอยฮักเดินเข้าไปในห้องนอนผมก็เดินตามไป หมอนั้นก้มหน้าเก็บข้าวของใส่ถุงดำเงียบๆ แล้วเดินออกไป ผมถอดเสื้อผ้ามองตามฮักอย่างแปลกใจ มันเงียบๆ ไร้ปฏิกิริยายังไงไม่รู้สิครับถึงหมอนั้นจะเงียบแบบนี้เป็นนิสัยก็เถอะ แต่ผมว่ามันแปลกๆ นั้นไง มองแล้วก็หลบตาไปเป็นตั้งแต่อยู่ข้างล่างแล้วไอ้อาการแบบนี้น่ะ
หลังจากฮอยฮักเดินออกไปจากห้องผมก็ถอดชุดบนตัวออกไปให้หมดแล้วใส่เสื้อคลุมเดินออกมาจากห้องนอน เดินไปหยิบนั้นหยิบนี้เหมือนกำลังยุ่งทำธุระอยู่แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรหรอกครับแค่มาสังเกตอาการแปลกๆ ของฮักเท่านั้น ฮอยฮักเดินเข้ามาในห้องแล้วจับกระเป๋าสะพายขึ้นบ่าจะเดินออกไปโดยยังไม่ได้พูดอะไรกับผมสักคำ เฮ้ย นี่มันแปลกสุดๆ แล้วนะ!!
“เฮ้ย!”ผมรีบเรียกฮักไว้ อีกฝ่ายหันมามองนิ่งๆ ไม่บ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัว
“กลับแล้วเหรอ?”
ฮักพยักหน้าแล้วเดินต่อ
“เป็นอะไรวะ? คุณย่าพูดอะไรให้มึงเหรอ?”ผมรีบถามไปอย่างรวดเร็ว แมร่ง คุณย่าพูดอะไรหรือเปล่าวะ ทำไมฮอยฮักผู้แสนจะมั่นอกมั่นใจในตัวเองถึงกับมีอาการหงอยแดกแบบนั้น มันช่างเป็นภาพที่ขัดตาและขัดใจผมจริงๆ ยิ่งอีกฝ่ายหันมาส่ายหน้าเนือยๆ บอกเป็นนัยๆ ว่ากูเหนื่อย กูหมดแรง กูอยากพัก อะไรแบบนั้นทำเอาผมปรี๊ดแตก
“เดี๋ยว! กูหิว ทำอะไรให้กินหน่อย”คิดอะไรไม่ออกก็เอามุกนี้แหละวะ ตอนงานเลี้ยงนั้นก็ได้กินแต่ไวน์แก้วสองแก้วเอง ฮอยฮักถอนหายใจเฮือกจนผมคิ้วกระตุกจากนั้นก็เดินมาวางกระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องครัวไปอย่างไม่มีกะจิตกะใจจะทำ ยิ่งเห็นแบบนั้นผมยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมอีก
เป็นอะไรของมึงเนี่ย!!?ผมเดินเข้ามามองมันอย่างจับผิด ไอ้ฮอยฮักมันก็ทำเหมือนไร้ชีวิตจิตใจต่อไป อะไร? กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย? หรือว่าคุณย่าพูดอะไรวะ? มันทำไปถอนหายใจไปแล้วก็ยืนเหม่อเหมือนคิดอะไรสักอย่าง โอ๊ยยยยย!!! ขัดใจกูเป็นบ้า ทำอะไรก็ชักช้าอืดอาด!! ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ!!!
“มึงไม่ต้องแล้ว!!! ถอนหายใจออกเฮือกๆ อยู่นั้นแหละ!! มึงเป็นอะไร!? แบบนี้มันไม่ใช่มึงแล้ว กูไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้”
เห็นมันเป็นแบบนี้แล้วใจไม่ดี ปกติฮอยฮักผู้แสนจะมั่นใจในตัวเองไม่มีทางหรอกที่จะมานั่งถอนหายใจเฮือกๆ แล้วเหม่อลอยแบบนี้!! ฮอยฮักหันมามองผมแล้วถอนหายใจเฮือก นั่น!! อย่าถอนหายใจ รู้ไหมว่าถอนครั้งหนึ่งอายุสั้นลงไปหนึ่งปีนะ!!
“เปล่าไม่ได้เป็นอะไร จะให้หยุดทำเหรอ?”
“ไม่ได้เป็นอะไรของมึง! กูเห็นมึงแล้วอารมณ์กูก็ตกไปด้วยเลย เวร! ออกไป!! ไปนั่งดูทีวีไป่ กูทำเอง!!”
ไปๆ มาๆ ไหงผมมายืนทำอาหารแบบนี้วะ!!!?คิดได้ก็เมื่อสายไปแล้วครับ นั่งกินข้าวกับมันไปเรียบร้อยแล้วเนี่ย เออ ช่างเถอะ ดูเหมือนฮอยฮักก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วนะ ระหว่างกินข้าวผมก็ชวนฮอยฮักไปเที่ยว อุตส่าห์นั่งค้นหาในเน็ตตั้งนานว่าจะตัดสินใจไปที่ไหนน่ะนะ ผมก็ทำเป็นถามความคิดเห็นของฮักก่อน เดี๋ยวจะหาว่าผมเผด็จการ สุดท้ายก็เป็นอย่างที่คิดหมอนี้ก็ให้ผมเลือกเหมือนเดิม ผมหัวเราะหึๆ ในใจ กูวางแผนเป็นเสต็ปไว้แล้วล่ะ หึๆ
ไม่รอด 100 เปอร์เซ็นต์!!!“ไปกันกี่คน?”ฮอยฮักถามผมอย่างเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด หึๆ ไม่ต้องกังวลหรอก ป๋าจะไม่รุนแรงนะจ้ะ~
“หึ ถามได้ แค่เราสองคนน่ะสิ”
ใครจะพาก้างไปด้วยวะ!!
ต่อรีล่าง 