นายโลมกับรักจนตรอก โดย TRomance[♥♡Fin♥♡]แจ้งข่าว กำลังแพ็คหนังสือแล้วจ้า^^P.173
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นายโลมกับรักจนตรอก โดย TRomance[♥♡Fin♥♡]แจ้งข่าว กำลังแพ็คหนังสือแล้วจ้า^^P.173  (อ่าน 1342331 ครั้ง)

ออฟไลน์ charapin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :-[ อิ๊อร๊างๆ น่ารักเกินไปละนายใหญ่

แต่...........ค้างอ่ะ  มันค้าง :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ aishiteru.

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อ่านทันถึงตอนล่าสุดแล้ววว เย้ ลุ้นเอาใจช่วยมาตลอดเลยยย
ได้เห็นความสัมพันธ์ของนายใหญ่กับนายน้อยแล้วปลื้มมจัง
นายใหญ่ก็ซื่อตรงกับใจดีเน๊อะ คิดไงก็แสดงอย่า่งนั้น ^^
นายน้อยก็เข้าใจความรู้สึกของนายใหญ่จริงๆแล้วใช่มะ
คงไม่คิดว่ายังเป็นนายโลมประจำตัวอยู่หรอกใช่มั้ย ฮ่าฮ่า
เรื่องราวค่อยๆหวานขึ้นๆหรือป่าวเนี่ย กำลังสนุกเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ
:กอด1:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เก่งมากๆ น้องโลม ความรัก ความอบอุ่น กรุ่นอยู่ในตอนนี้เต็ม

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ตกไปหน้า 3 แระส์

ดันๆ 

อิอิ

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
ตอนที่ 37 นายโลมกับรักจนตรอก

ความขัดแย้งที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนเริ่ม
นี่คือหนึ่งในเหตุผลหลายอย่างที่ระฟ้าไม่อยากจะรับมรดกสืบทอดตำแหน่งนายใหญ่จากปู่ ตำแหน่งที่เป็นมากกว่าเจ้าของธุรกิจอย่างเช่นคนอื่นๆ ตำแหน่งที่ไม่ได้มีแค่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกันอย่างบริษัททั่วๆไปที่ลูกน้องแค่ทำงานให้แล้วเราก็จ่ายเงินเดือน
ถ้าเลือกได้ ระฟ้าก็อยากจะสละมรดกชิ้นนี้ให้พี่น้องคนอื่นๆซะ
แต่ที่มันช่วยไม่ได้เพราะตัวเองคือทายาทเพียงคนเดียวที่เหลือของตระกูล แถมยังขึ้นเป็นนายใหญ่โดยลัดคิวพ่อตัวเองขึ้นมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวอีก
เกิดและโตขึ้นมาโดยไม่มีความทรงจำใดๆเกี่ยวกับแม่ ความอบอุ่นที่พอจะสัมผัสได้จากความรักมาจากคุณที่เลี้ยงดูมา ส่วนความรักที่ได้รับจากพ่อและปู่คือความรักในแบบฉบับของผู้ชาย กว่าจะรับรู้ถึงความรักที่ปู่และพ่อมีให้ตัวเองว่ามากแค่ไหนนั้นคงเปรียบได้กับผลเกาลัดที่ต้องกระเทาะเปลือกหนาๆนั่นออกเสียก่อนถึงจะสัมผัสได้กับเนื้อแท้ข้างในว่าหอมและหวานมันแค่ไหน เป็นความรักที่แสดงออกบนความแข็งกระด้าง ถ้าไม่มีคุณ ชีวิตนี้ยังไม่รู้เลยว่าความอ่อนโยนคืออะไร
อาณาจักรตามความหมายของปู่และคนในตระกูลคืออาชีพที่เจ้านายและลูกน้องอยู่ด้วยกันแบบต่างตอบแทนซึ่งกันและกันโดยมีความผูกพันเป็นสายใยเหนียวแน่นที่สร้างรากฐานให้มั่นคงมาได้จนถึงทุกวันนี้ และมันก็เป็นหน้าที่ของเขาอีกนั่นแหละที่จะต้องรักษามันไว้ให้สมกับที่บรรพบุรุษรักษากันมาจนตกถึงเขา
ส่องกระจกแล้วเหมือนจะแก่กว่าอายุจริงไปเยอะ หนวดเคราเขียวครึ้มเหมาะกับสภาพมาเฟียที่สังคมเต็มใจให้สมญานามขึ้นมาเลยทีเดียว เวลาสั้นๆของการเป็นนายใหญ่บ่มเพาะประสบการณ์หนักอึ้งยิ่งกว่าชั่วชีวิตที่เกิดมาซะอีก ทุกๆวันมีแต่เรื่องให้สะสาง ทุกๆเรื่องมีเงื่อนงำให้ต้องคิดและตรึกตรองมากกว่าจะใจร้อนทำตามอารมณ์ เวลาส่วนตัวที่เรียกว่าความสุขที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเขาถึงได้ตั้งใจซึมซับมันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
โลมว่านอนสอนง่ายกับทุกคนแต่มักจะพยศกับเขา
แต่ถึงอย่างนั้น หมอนี่ก็ยังเป็นคนเดียวที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ว้าเหว่จนเกินไป
“ขอบคุณครับคุณ”
“ทำไมถึงรู้ว่าเป็นคุณละคะ”
อย่างแรกเลยคือนายน้อยคนใหม่ไม่เคยเอาใจเขาด้วยการเข้ามาในห้องโดยไม่มีเสียงกระทืบเท้าเป็นสัญญาณให้รู้ก่อน ไม่เคยเดินอ้อมมาจากข้างหลังแล้วค่อยๆคลึงปลายนิ้วไปมาที่ขมับให้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้ และกลิ่นของโลมก็ไม่ใช่กลิ่นหอมแบบไทยๆอย่างกลิ่นดอกไม้ที่ขับออกมาจากตัวอย่างคุณ กลิ่นของหมอนั่นเป็นกลิ่นหอมละมุนของแป้งที่น่าจะใช้มาตั้งแต่ยังเป็นทารกและติดมาจนถึงตอนนี้
“ผมไม่ใช่คนที่ได้ใหม่แล้วลืมเก่านี่ครับ คุณพูดเหมือนน้อยใจ เป็นคนแก่ที่ขาดความอบอุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ตั้งแต่นายใหญ่ของบ้านนี้มีคนคู่กายแล้วมั้งคะ”
“คุณกำลังเป็นห่วงผมอยู่ต่างหาก ผมยังอ่านใจคุณออกเหมือนเดิมมั้ยครับ”
“คุณหนูเข้าใจคุณต่างหากละคะ ไม่ใช่เดาใจถูกอย่างที่ว่าสักหน่อย เรื่องมาดามเหอ คุณกลัวว่า”
“ใครๆก็มักจะคิดว่าเราเก่ง เราแน่ และเราจะต้องเหนือกว่าใครในทุกๆด้าน คนพวกนั้นถึงได้อยากกระตุกหนวดเสือและเอาชนะกันนัก แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าเราเองอยากอยู่กันแบบเงียบๆใจจะขาด ทุกความเก่งกาจที่พวกนั้นคาดหวัง มันคือความจำเป็นที่กดดันให้เราเรียนรู้ต่างหากละครับ ไม่ใช่เราเก่งเพราะอยากยิ่งใหญ่อะไรเลย”
“โถ คุณหนูของคุณ ไม่ว่ายังไงคุณหนูก็ยังอยากมีชีวิตอย่างแต่ก่อน ก่อนที่คุณปู่จะสิ้น ก่อนที่จะมาเป็นนายใหญ่อยู่วันยังค่ำใช่มั้ยคะ”
“มันก็ไม่เชิงหรอกครับคุณ ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากให้แม่ไม่ต้องตายหลังคลอดผมออกมา อยากเป็นลูกที่มีแม่ อยากดูแลพ่อในวันที่ท่านแก่ชราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว ไม่ใช่ต้องมาเห็นพ่อตัวเองหมดลมหายใจเพราะถูกลอบฆ่า ผมคิดว่ามันน่าจะจบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่มันก็ยังมาซ้ำรอยกับมาดามเหออีกจนได้”
สองแขนกระชับแล้วโอบรัดรอบเอวของหญิงชราไว้แน่น ซบใบหน้าคร้ามเพราะความเครียดไว้กับหน้าท้องอบอุ่นที่ใช้เป็นที่พักพิงยามเหนื่อยล้าตั้งแต่เด็กๆเอาไว้ อีกฝ่ายวาดฝ่ามือกร้านไปมาบนแผ่นหวังเป็นการปลอบใจที่กระตุ้นก้อนสะอื้นให้ขึ้นมาจุกที่ลำคอแล้วปล่อยโฮออกมาให้รู้แล้วรู้รอดแบบไม่อายใคร คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้เห็นน้ำตาของเขา
“วันนี้คุณหนูท้อ คุณหนูเหนื่อย คุณหนูพักและระบายมันออกมากับคุณได้นะคะ แต่คุณหนูอ่อนแอไม่ได้ เพราะคุณหนูเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวอยู่ตลอดเวลา พ่อหนุ่มเข้าถึงได้ฮึดสู้เข้มแข็งขึ้นมาด้วยเพราะเขาคงเอาคุณหนูเป็นแบบอย่าง และก็คงไม่อยากจะยอมแพ้ให้คุณหนูเห็นน่ะค่ะ”
“ถ้าผมไม่เห็นว่าในโลกนี้ก็มีคนที่น่าสงสารและมีชีวิตอยู่บนความหวังของใครๆเหมือนผม ผมอาจจะละทิ้งทุกอย่างแล้วเห็นแก่ตัวตามทุกๆคนไปก็ได้ ทิ้งความยิ่งใหญ่เอาไว้เบื้อหลังนี่แหละ ตายไปแล้วไม่มีใครเอาอำนาจและบารมีที่สั่งสมไว้ไปได้เลยสักคน”
“ถ้าคุณหนูทำแบบนั้นคุณจะอยู่กับใครละคะ คุณก็อยากแก่ตายโดยมีคนที่คุณเลี้ยงมาเหมือนลูกดูแลเหมือนกัน ตอนคุณปู่ไม่สบายถึงจะดูแลกันไปเถียงกันไปไม่เว้นแต่ละวัน แต่คุณหนูก็ดูแลท่านอย่างดีนี่คะ”
“ผมขอโทษนะครับที่พูดเห็นแก่ตัวออกไปอย่างนั้น ทั้งๆที่คุณเป็นเหมือนแม่ของผมแท้ๆที่เลี้ยงผมมา แต่.......”
“คุณเข้าใจค่ะ เข้าใจแม้กระทั่งว่าทำไมคุณหนูถึงได้เลือกพ่อโลมมาเป็นคู่แทนที่จะหานายหญิงมาให้”
“คุณเข้าใจว่ายังไงครับ”
“คุณหนูไม่อยากมีทายาทสืบทอดตระกูลอีกแล้ว เพราะต่อให้คุณหนูเก่งและเข้มแข็งสักแค่ไหน แต่คุณหนูก็กลัวการสูญเสียใช่มั้ยคะ คุณคงกลัวว่าจะเป็นเหมือนคุณพ่อที่ต้องเป็นหม้ายเมียตาย และกลัวว่าลูกจะกำพร้า กลัวแม้กระทั่งว่าลูกจะกดดันและฝืนใจสืบทอดอาณาจักรเหมือนอย่างที่ตัวเองเป็น ถ้าคุณหนูเลือกที่จะมีนายน้อย เราจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับเรื่องพวกนี้ แต่เราจะต้องยุติทุกสิ่งทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้”
“งานเลี้ยงทุกงานจะต้องมีวันเลิกลาครับคุณ อาณาจักรก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีใครมาบริหารต่อหรือไม่มีใครยอมรับนายใหญ่คนใหม่ก็ต้องหยุดมันไว้แค่ชั่วชีวิตผมแค่นี้ ที่ผ่านมาผมเพียงแค่ต้องการทำให้ปู่เห็นว่าจริงๆแล้วผมทำได้ ผมทำตามที่รับปากกับท่านไว้แล้ว หน้าที่ผมมันจบลงแค่หมดอายุขัยของผมเหมือนที่หมดอายุขัยของปู่ แล้วถ้าผมไม่ตั้งความหวังไว้ที่ใครให้เป็นภาระอีก มันก็จะไม่มีใครต้องมาลำบากใจเพราะผม แต่ผมก็จะเป็นทายาทที่ไม่เอาไหน เพราะผมไม่ตกทอดมรดกที่บรรพบุรุษสร้างมาให้”
“ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีจุดจบนี่คะ เหมือนงานเลี้ยงและเหมือนอายุขัยของคนนั่นแหละค่ะ”
“คุณเข้าใจผมใช่มั้ยครับ”
“ทุกคนเข้าใจคุณหนูค่ะ ทุกคนต้องรู้จักยืนให้ได้ด้วยขาของตัวเอง เราปูทางมาให้ไกลพอแล้วนะคะ เราจะเอาเรื่องที่ยังมาไม่ถึงมาพูดให้ใจเสียทำไมคะ ยังไงคุณต่างหากล่ะที่จะต้องตายก่อนคุณหนู”
“มันก็ไม่แน่หรอกนะครับคุณ”
“ทำไมพูดแบบนี้ละคะ”
“ผมแค่พูดเพื่อเตือนสติไม่ให้ตัวเองประมาทน่ะครับ ผู้ใหญ่หลายๆคนบอกว่ามาดามเหอไม่ได้ตายเพราะผม เรื่องนี้มีคนอาศัยสถานการณ์ที่แพะจะไปตกที่เสี่ยเจียงเท่านัั้น”
“คุณก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ เสี่ยเจียงกู้เงินจากมาดามเหอก็จริง และแม้เงินนั้นจะเป็นเงินของคุณหนูที่มาดามเหอออกไปรับหน้าแทน เสี่ยเจียงแค้นเคืองมาดามเหอก็จริงค่ะ แต่คนที่เสี่ยเจียงอยากจะเอาคืนน่าจะเป็นคุณหนูมากกว่านะคะ ส่วนที่ฆ่าคนใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องเพื่อข่มขู่นั้นเป็นวิธีการที่โง่มากค่ะ แต่มันก็เป็นวิธีการที่ฉลาดมากสำหรับคนที่หาช่องทางนี้ลอบกัดเราอยู่เหมือนกัน”

“ที่ผ่านมาๆเราก็พลาดนะครับไม่ใช่ไม่พลาด ผมเองยังเคยโง่ที่หลงเชื่อไปว่าโลมเข้ามาเพื่อเป็นหนอนบ่อนไส้ซะด้วยซ้ำ”
“ยังรู้สึกผิดที่ทำรุนแรงกับนายน้อยใช่มั้ยคะ แต่พ่อหนุ่มคนนั้นเขาไม่ได้เก็บเรื่องที่ผ่านไปแล้วเอามาคิดหรอกนะคะ คุณเห็นว่าเขามีแต่จะเดินไปข้างหน้า ไม่อย่างนั้นเขาอยู่ไม่ได้มาจนถึงป่านนี้หรอกค่ะ กี่ครั้งมาแล้วที่ชีวิตต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาก็ยังผ่านมาได้ คุณหนูก็เหมือนกันนะคะ ต้องเดินไปข้างหน้า จะได้เดินไปด้วยกันอย่างที่ตั้งใจรู้มั้ยคะ”
“วันนั้นคือวันไหนครับคุณ ทุกวันนี้เขายังต่อต้านผมอยู่เลย”
“ใหเวลาเขาบ้างค่ะ มันง่ายซะที่ไหนละคะที่จะยอมรับ เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกัน การที่เสือจะยอมรับให้อีกตัวเป็นจ่าฝูงทั้งๆที่เป็นเสือเหมือนกันคุณหนูคิดว่าง่ายเหมือนสั่งเอากับปากเหรอคะ แค่นี้นายน้อยก็ต้องเรียนรู้แต่หลักสูตรลัดทั้งนั้นเลยนะคะ คุณเองยังมองว่ามันหนักเกินไปสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลยด้วยซ้ำ”
“นั่นแหละครับที่ผมกลัวเขาจะระเบิดออกมาเสียก่อน และผมก็กลัวว่าตัวเองจะทำรุนแรงกับเขาอีกเหมือนอย่างครั้งที่ผ่านมา”
“แต่เขาก็ทำได้ดีไม่ใช่เหรอคะ มีคนพูดให้คุณฟังว่า ไม่น่าเชื่อว่านายใหญ่ระฟ้าจะชอบอะไรแบบนี้ เอ่อ หมายถึงชอบผู้ชายด้วยกันถึงขนาดยกให้เป็นนายอีกคนของบ้านและอาณาจักรน่ะค่ะ แต่พอเขาเห็นพ่อหนุ่มในงานศพมาดามเหอแล้วเขาก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายด้วยกันก็ไม่ได้ส่งผลให้คุณหนูดูตกต่ำอะไรเลย มิหนำซ้ำพ่อโลมเขาดูดีซะจนอยากเห็นตอนเดินคู่เคียงกันไปกับคุณหนูซะด้วยซ้ำค่ะ”
“ตอนที่อยู่กับผม โลมมักทำให้ผมเป็นกังวลในฐานะที่ผมมอบให้เขาเสมอ ดูเขาประหม่าและไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองได้รับ แต่พอเอาเข้าจริงๆเขาก็ทำได้ดีจนผมเองก็คาดไม่ถึงหรอกครับ”
“พ่อหนุ่มเขาวางตัวได้ดีค่ะ ไม่มีหวั่นไหวให้ลูกน้องจับติดเลยสักนิดเมื่อนายใหญ่ไปกับคุณจ๋า นี่ถ้าเป็นคนอื่น ลองคนรักตัวเองไปกับคนที่เคยมีสัมพันธ์กันมาก่อนสิคะ ไม่ทันจะข้ามคืนหรอก คุณว่าได้อาละวาดกันบ้านแตกไปจนถึงอาณาจักรนั่นแหละค่ะ คุณเองยังนึกไม่ออกว่าถ้าพ่อโลมเขาเป็นผู้หญิง คุณจะต้องแบกถังออกซิเจนติดตัวตลอดเวลามั้ย”
“ที่เขานิ่ง เพราะเขาอาจจะไม่ได้หึงผมจริงๆก็ได้นะครับคุณ”
“งั้นเหรอคะ แล้วทำไมคุณหนูถึงไม่หาทางให้พ่อหนุ่มเค้าเปิดเผยความในใจออกมาละคะ จะยอมแพ้ได้ยังไงกัน ให้เขาเค้นความรู้สึกเราออกมาได้ เราก็ลองทำบ้างจะเป็นไรไปคะ”
“จะดีเหรอครับคุณ”
“ถามใจตัวเองดูค่ะว่าอยากรู้ใจของนายน้อยมั้ย เรื่องมาดามเหอ คุณเห็นด้วยนะคะที่เราไม่ออกตัวมากไป พงบอกคุณว่ากำลังสืบลับๆกันอยู่ ช่วยๆกันหลายทีมอีกไม่นานก็คงจะรู้ตัวคนทำ บางทีศัตรูก็กระตุกหนวดเสือแรงๆเพราะเห็นว่าเสือยังหนุ่มและอารมณ์ร้อนจนพลาดท่าได้ง่ายๆก็ได้นะคะ คุณหนูจะต้องเป็นเสือที่พลาดแล้วจำ จะต้องไม่พลาดแล้วซ้ำซาก สักวันหนึ่งศัตรูก็ต้องแพ้ภัยตัวเองค่ะ ถ้าเรายังมุ่งมั่นที่จะตั้งรับไปเรื่อยๆแบบนี้ สักวันพวกนั้นก็ต้องเหนื่อยที่จะรุกเราไปเองเชื่อคุณนะคะ ที่มันไม่จบไม่สิ้น เพราะต่างฝ่ายต่างจ้องที่จะเอาชนะกันนั่นแหละค่ะ”
“ครับคุณ ผมก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไประรานใครก่อนแน่ๆครับ แค่นี้ก็เหนื่อยจนไม่มีเวลามาไร้สาระอะไรแล้ว อย่าให้ต้องหาทางไปหาเรื่องชาวบ้านเค้าอีกทางนึงเลยครับ”
“แต่ถ้าเก่งแต่หาเรื่องพ่อโลมเขาคนเดียวก็ระวังเขาจะมีภูมิต้านทานดีจนคุณหนูรับมือไม่ไหวนะคะ เขาเป็นเด็กที่ยืนหยัดด้วยตัวเองมาตลอด ไม่ใช่คนที่คอยเกาะเพื่อสูบผลประโยชน์จากคนอื่น เขาเลยไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆคุณหนูไม่ลองเอาใจพ่อหนุ่มเขาดูบ้างละคะ”
“นั่นน่ะยากกว่าให้ผมยิงเด็ดหัวศัตรูจากระยะไกลอีกนะครับคุณ”
“ลองหรือยังละคะถึงได้คิดว่าทำไม่ได้ ลองก่อนค่ะ ถ้าไม่สำเร็จตอนนั้นคุณจะมาปลอบใจและยอมเป็นที่พักให้คุณหนูโอดครวญจนสมใจเลยเชียวค่ะ”
.
.
.
“วันนี้ไปทำงานที่อาณาจักรด้วยกันหน่อยสิ”
ถ้าคนฟังไม่มัววุ่นวายอยู่กับลูกหมาตัวน้อยขนฟูฟ่องสีดำสนิทที่เต็มไปด้วยหมัดสีแดงกระโดดไปมาจนน่ากลัวว่ามันจะดีดขึ้นหัวผู้ใหญ่และเด็กเล็กที่นั่งสุมหัวกันโดยมีหมาตัวนี้เป็นจุดศูนย์กลางแล้วล่ะก็ โลมก็คงจะรู้ว่ากว่าเขาจะเค้นออกมาแต่ละคำได้มันกระดากแค่ไหน ถึงมันจะห้วน แต่มันก็ดูหวานแหววแล้วสำหรับคนที่จิตสำนึกบอกตัวเองว่าให้พูดจาดีๆกับโลมเพื่อให้หมอนี่มั่นใจในตัวเขาขึ้นมาบ้าง
“คุณว่าอะไรนะครับ”
มันร้องถามขึ้นมาทั้งๆที่ยังก้มหน้าก้มตาหาหมัดให้หมาตัวนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ ถ้าถ่ายภาพโลมตอนนี้ส่งไปให้พวกที่มาชมว่าโลมดูดีอย่างนั้นอย่างนี้ให้คุณฟังเขาจะเชื่อได้ไหมว่านี่คือคนเดียวกัน
“ฉันมาชวนไปอาณาจักรด้วยกัน”
อีกฝ่ายก็ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่เหมือนเดิม ถ้าไม่เพราะท่องคำสั่งสอนของคุณอยู่ ระฟ้าก็อยากจะกระชากมันขึ้นมาแล้วยัดใส่รถไปโผล่อีกทีที่อาณาจักรตามที่ถนัดเลยมากกว่า ได้แต่กำหมัดและกัดฟันข่มความอดทนเอาไว้
“ขออีกสักครึ่งชั่วโมงได้มั้ยครับ”
“อาบน้ำแต่งตัวใช่ไหม ได้สิ ฉันเองก็คงใช้เวลาระมาณนั้นเหมือนกัน”
“เปล่า ผมจะขอหาหมัดให้เจ้าหมาตัวนี้ก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำแต่งตัวน่ะครับ”
“เอามันไปหาหมอเถอะ หาเท่าไหร่ก็ไม่จบไม่สิ้นหรอก ไปเอามาจากไหนเนี่ยหมัดถึงได้ยั้วเยี้ยไปหมดอย่างนี้”
“ผมไปเก็บมาจากวัดครับนาย นายน้อยบอกว่าถ้าผมจะเลี้ยงก็ได้แต่ต้องทำให้มันไม่มีหมัดก่อนครับ”
เด็กวัยอนุบาลตัวเล็กที่รู้จักห่วงใยเจ้านายหรือเพื่อนใหม่ของตัวเองรีบรายงานขึ้นมาปากสั่นเพราะกลัวนายใหญ่จะดุคนตัวโข่งที่ยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวหาหมัดหมาอย่างตั้งอกตั้งใจต่อไป
“ถ้าจะเลี้ยงต้องดูแลมันนะแกละ มันมีชีวิตมีความรู้สึก ไม่ใช่หมดสนุกแล้วทิ้งขว้างมันล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นนายใหญ่จะสั่งให้คนลงโทษแน่ๆ”
“ไม่ทิ้งครับนาย เมื่อกี้นายน้อยก็บอกแล้วว่าต้องรักมันแล้วมันจะรักเราเหมือนกันครับ”
“นายน้อยบอกอย่างนั้นจริงๆเหรอ ถ้าเรารักมัน มันจะรักเราตอบใช่มั้ย แล้วนายน้อยบอกหรือเปล่าว่ามันใช้ได้กับคนด้วยน่ะ”
“ไม่ได้บอกครับ แต่เอ๊ะ นายน้อยๆ นายใหญ่ถามว่าถ้าเรารักคนแบบนี้ด้วย คนจะรักเราตอบหรือเปล่า”
“ไม่รู้สิ ไม่เคยลองกับคนน่ะ แต่มั่นใจว่าหมามันรักกลับแน่ๆ หาไปคนเดียวก่อนนะ วันนี้มีงานด่วนเข้ามาแบบไม่รู้ตัวอีกแล้วล่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาดูใหม่ว่ามันดีขึ้นหรือยัง”
ถึงเด็กจะไม่รู้เรื่องว่าผู้ใหญ่สองคนกำลังใช้ตัวเองเป็นทางเชื่อมอะไรบางอย่างกันอยู่ แต่เขามั่นใจว่าโลมรู้แน่ว่าหมายถึงอะไร ไอ้หมอนี่ถึงได้ตีรวนตอบออกมาแบบนั้น การที่อีกคนเหมือนจะงอนแต่แสร้งตีหน้าตาตายได้แนบเนียนนั่นทำให้เขารู้สึกดีเกินกว่าที่จะชวนให้มันเป็นเรื่องทะเลาะจริงจังได้
“พรุ่งนี้ก็ให้ใครพาไปคลีนิคสัตว์ในตัวเมืองซะ จะเลี้ยงก็ต้องทำวัคซีนด้วยจะได้ไม่เป็นอันตรายกับคนอื่นและตัวมันเองก็ปลอดโรค”
“ผมไม่มีเงินนี่ ไม่อย่างนั้นคงไม่นั่งหลังขดหลังแข็งหากันแบบนี้หรอก คุณลืมไปหรือเปล่าว่าผมไม่มีรายได้นะ”
“แล้วลืมไปหรือเปล่าว่านายมีอำนาจเท่านายใหญ่ นั่นก็หมายความว่านายเองก็มีเงินเท่ากับที่นายใหญ่มีนะโลม”
“งั้นผมเอามาโปรยเล่นได้มั้ยล่ะ”
“ถ้านายคิดว่ามันมีสาระกับชีวิตนายก็ทำได้ ทำปากขมุบขมิบอะไร กำลังด่าอะไรฉันอยู่เหรอ”
“เปล่าสักหน่อย ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมจะให้คนเอาหมาตัวนี้ไปหาหมอนะ แกละ กลับบ้านไปได้แล้ว แยกให้มันนอนนอกบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะจัดการให้”
“ครับนายน้อย”
“จะไปกันได้หรือยังขอรับนายใหญ่”
“ไปสิ แล้วตกลงเมื่อกี้ทำปากขมุบขมิบด่าอะไรฉัน”
“ผมไม่ได้ด่า”
ความจริงแล้วก็ไม่ได้ติดใจว่ามันจะด่าหรือไม่ด่าอะไรเขาหรอก เพียงแต่ไม่รู้จะหาบทสนทนาอะไรมาคุยกับมันดี ตอนที่โลมมีสติครบถ้วนแบบนี้ หากถูกเขาจีบด้วยคำพูดหรือการกกระทำอาจจะถูกนายน้อยแทงเข่าระบายความอายออกมาก็ได้ ไม่จำเป็นก็ไม่ควรเสี่ยง จริงๆแล้วคนเราก็ไม่ได้เก่งกาจไปซะทุกอย่างหรอก ความเก่งนั้นไม่ใช่เราเสียหน่อยที่เป็นคนตัดสิน คนภายนอกที่มองและการกระทำที่ปรากฎสู่สายตาพวกเขาต่างหากที่ตัดสิน หากจะถามตัวเองจริงๆแล้วอยากจะตะโกนบอกใครต่อใครเหลือเกินว่านายใหญ่ระฟ้าก็แค่คนธรรมดานี่แหละ ที่บางครั้งไม่รู้จะจัดการยังไงกับเรื่องความรักดี พื้นฐานความเอาแต่ใจของตัวเองอย่างลูกหลานคนเดียวบอกว่าถ้าอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้ รู้ว่าจุดอ่อนของตัวเองที่ปู่มักจะจับเอามาใช้เพื่อให้เดินมาถึงจุดนี้ได้คือการเอาชนะ เมื่อไม่รู้วิธีการก็ออกคำสั่งหรือบังคับนี่แหละถึงได้ฉุดรั้งให้โลมมาเดินเคียงข้างกันอย่างนี้ได้ ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่รู้เลยก็ตามว่าการเดินเคียงกันไปขึ้นบ้านแบบนี้ ทำให้นายใหญ่ลดความหมองเศร้าและความกังวลจากเรื่องของมาดามเหอไปได้มากแค่ไหน
โลมเองก็วางตัวได้ดี
หลายครั้งที่หมอนี่มีรอยกังขาในหน่วยตาและมองมายังเขาเหมือนตัดสินใจว่าควรจะถามเพื่อหาคำตอบดีไหม แต่มันก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา ทั้งๆที่ถ้าโลมกล้าถาม เขาเองก็อยากจะตอบอยากจะอธิบายให้อีกฝ่ายได้เรียนรู้และเข้าใจในหนึ่งของอีกหลายๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักร แต่พอโลมไม่ถาม เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นยังไง
“โลม ฉันยังไม่ได้ขอบใจนายเลยนะ ตอนที่ฉันไม่อยู่นายคอยดูแลที่นี่และที่อาณาจักรได้ดี”
อารมณ์ไหนของมันวะ?
ก่อนจะแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวห้องใครห้องมันอยู่ดีๆไอ้นายใหญ่ก็มาทำซึ้งขอบคุณผมซะงั้น ความจริงแล้วมันไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้ ก็มันบอกเองว่าเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว คำว่าหน้าที่มันเหมือนกรอบที่ล้อมและกั้นไม่ให้ปากโพล่งถามในสิ่งที่อยากรู้ ทั้งๆที่ในใจอึดอัด ผมยอมทนเฉยและนิ่งเงียบต่อหน้าลูกน้องทุกคน เพราะผมคิดว่ารู้จากปากใครก็ไม่ดีเท่ารู้จากปากของมันเอง แต่มันก็เงียบ
ผมรู้ดียิ่งกว่ารู้
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนน้ำนิ่งไหลลึก ภายนอกเหมือนทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่จริงๆแล้วมีการเคลื่อนไหวอะไรมากกว่านั้นที่ผมไม่รู้และบอกตรงๆเลยว่าอยากรู้มาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเป็นห่วงมันนี่แหละ ในภาวะที่นายใหญ่มีเรื่องให้ต้องสะสางและจัดการมากมายขนาดนี้ แต่จิตใจของมันคงไม่ดีเท่าไหร่นักหรอก ผมไม่รู้ว่ามันกับมาดามเหอมีความผูกพันกันทางใจมากแค่ไหน แต่ผมรู้ว่ามันต้องเสียใจกับการจากไปของผู้หญิงคนนี้มากแน่ๆ เพราะมันจัดการทุกอย่างเพื่อกลับมารับศพมาดามเหอไปสิงคโปร์ด้วยตัวเองจนได้ มันยอมทิ้งให้หมอจ๋าอยู่กับหมอที่รักษาตามลำพังแล้วดิ่งตรงมาเลยแสดงว่าเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างที่สถานการณ์พยายามสร้างให้เป็นอยู่แน่ๆ
“คุณ”
และแล้วความอดทนและการยับยั้งชั่งใจของผมก็ดิ่งลงมาที่ศูนย์ ผมทนความอึดอัดในอกตัวเองไม่ไหว
“หืม มีอะไร”
มันเองก็เหม่อและสติล่องลอยอยู่เหมือนกันนี่นะ เพราะมันเองก็ต้องกระชากสติให้กลับมาตอนที่ผมเรียกเอาไว้เหมือนกัน แต่ถ้าผมไม่ถามตอนนี้แล้วทิ้งช่วงไปมันคงจะแปลกๆถ้าอยู่ๆก็ถามขึ้นมาเหมือนตัวเองก็กลายเป็นคนเก็บกดเพราะความอยากรู้
“ผมมีเรื่องอย่างถาม ห้ามคุณดุผมนะ ถ้ามันเป็นคำถามที่ผมไม่ควรถามคุณก็แค่ตอบว่าไม่ต้องรู้หรอกน่ะ แต่ห้ามว่ามากกว่านี้ล่ะ”
“หึ หึ แสดงว่าชั่งใจอยู่นานเลยใช่มั้ย แล้วทำไมต้องกลัวฉันดุด้วยล่ะ”
ผมลืมตัวชักสีหน้าด้วยความเคยชิน ผมว่ามันรู้นะ แต่ทำไมถึงต้องย้อนถามเหมือนให้ผมต้องรับสารภาพนิสัยของตัวเองด้วยก็ไม่รู้ ถึงแม้ไอ้โลมจะมาจากครอบครัวที่เรียกได้ว่ายากจนและต่ำต้อย โตมาในวงไพ่และการพนันนับไม่ถ้วน แต่ก็ยังพอจะแยกแยะได้ว่าอะไรดีไม่ดีและอะไรควรหรือไม่ควร มันก็จริงอยู่ถ้าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผมแล้วผมจะรุกสู้ยิบตาและถามแบบไม่ไว้หน้าไม่ว่ามันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่เรื่องนี้จะว่าไปแล้วมันอาจจะไม่เกี่ยวกับผมเลย แต่ก็อดที่จะหวั่นใจอยากรู้อยู่ลึกๆไม่ได้ ยอมรับว่าเอามันมาผูกไว้กับความรู้สึกของตัวเอง
“ผม เอ่อ....เฮ้อ...แยกย้ายไปเตรียมตัวกันเถอะครับ วันนี้คุณจะให้ผมเข้าไปเอาเอกสารบัญชีมาเคลียร์ใช่มั้ย”
“เรื่องมาดามเหอ ฉันเดาเรื่องที่นายอยากรู้ถูกมั้ย”
ถูกหรือเปล่ามันก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ปลายเท้าของผมจึกพื้นซะจนหน้าแทบคะมำ แล้วก็แทบจะลืมหายใจเมื่อได้รับคำตอบต่อไปว่า
“นายเคยถูกชะตากับใครมากๆโดยไม่มีเหตุผลมั้ย ฉันกับมาดามเคยเจอกันตั้งแต่เขาติดต่อกับปู่ในฐานะลูกทัวร์และผู้จัดทัวร์เอาแขกมาลงที่อาณาจักร ตอนนั้นฉันไม่ชอบมาดามคนนี้เอาซะเลย รู้สึกไปเองว่าเขาเข้าหาปู่หรือพ่อมากเกินไป แต่พอได้รู้จักกันจริงๆจังๆถึงได้รู้ว่ามาดามถูกคอกับปู่และพ่อเฉยๆ เขามีสามีแล้ว และเขาไม่มีลูก ฉันก็ถูกชะตาตั้งแต่นั้นเรื่อยมา แอบคิดไปเองคนเดียวว่าถ้าแม่ฉันยังอยู่อาจจะมีบุคลิกและอุปนิสัยเหมือนมาดามก็ได้ เป็นจินตนาการของคนที่ไม่มีความทรงจำกับแม่อยู่เลยน่ะ มันเลยกลายเป็นความผูกพันมากกว่าคู่ค้าทางธุรกิจ แล้วอีกอย่าง ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ มาดามก็ยื่นมือเข้ามาเป็นตัวการประสานงานบางอย่างให้ฉัน”
“คุณเลยคิดว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายเหรอครับ”
“ใช่ ถึงฉันจะไม่เกี่ยวแต่การตายของมาดามมันก็สะเทือนใจฉันอยู่ดีนั่นแหละ นายล่ะ เคยจินตนาการไปถึงแม่ตัวเองบ้างมั้ย”
ผมนิ่งคิดไปนาน สมองที่เพิ่งว่างเปล่าค่อยๆประมวลความคิด สำหรับนายใหญ่คุณอาจจะพูดถึงแม่ของมันในทางที่ดี ทำให้จินตนาการของมันที่มีต่อแม่ดีมากขนาดนี้ แต่สำหรับผม แม่พี่เกียรติแทบจะไม่ปริปากพูดถึงแม่ของผมเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธแม่มากที่ทิ้งภาระไว้ให้ในขณะที่ตัวเองก็ไม่ได้สุขสบายมากพอที่จะเสี้ยงเด็กไปพร้อมๆกันทีเดียวถึงสองคน จินตนาการที่ผมมีต่อแม่ตัวเองแทบจะไม่มีเลย มันว่างเปล่า แม้กระทั่งตอนที่ผมถูกทำโทษจนรู้สึกได้ถึงความลำเอียงที่แม่กับพ่อมีให้พี่เกียรติมากกว่า ผมยังปลอบใจตัวเองว่าถ้าทำอย่างที่แม่ต้องการก็คงจะดีกว่านี้ ได้รับความรักมากกว่านี้ ไม่เคยคิดเลยสักทีว่าถ้าแม่แท้ๆของตัวเองอยู่เขาจะปกป้องผมบ้างหรือเปล่า ไม่เคยคิดเลยจนกระทั่งถูกมันถามนี่แหละ
“ผมเป็นคนประหลาดมั้ยที่ผมไม่เคยคิดถึงแม่จริงๆของตัวเองเลย ไม่เคยคิดถึงหรือนึกถึง คุณกับผมต่างก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่เหมือนกัน แต่ทำไมผมไม่คิดจะสร้างจินตนาการอย่างคุณล่ะ”
“เด็กโง่เอ๊ย คนเราจะเหมือนกันไปซะทุกเรื่องได้ล่ะ หืม นายไม่สร้างจินตนาการนายก็ไม่ต้องทรมานในสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นถูกมั้ย”
“คุณทรมานเหรอ”
“อืม ก็นิดหน่อย ฉันโชคดีที่มีคุณเลยไม่รู้สึกว่ามันว่างเปล่า แต่ก็รู้สึกโหวงๆที่ไม่มีโอกาสได้ทำอย่างที่จินตนาการไว้จริงๆ”
พอพยักหน้าเพราะอินไปกับเรื่องที่มันอธิบายก็ต้องหายใจติดขัดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพบว่าคางตัวเองชนกับแขนแกร่งที่รัดคอผมเอาไว้แล้วรั้งให้ตัวผมซ้อนอยู่กับตัวมันตอนที่ผมกำลังปล่อยคววามคิดให้เตลิดไปกับเรื่องที่มันยกขึ้นมา
“แค่ก แค่ก คุณจะปล่อยผมได้หรือยัง หายใจไม่ออก รัดคอผมทำไมเนี่ย”
“ฉันแค่จะปลอบใจทำไมถึงได้คิดว่าฉันจะทำร้ายล่ะ”
“ป่าเถื่อนแบบนี้เรียกปลอบใจเหรอ กระดูกคอจะป่นแหลกคาแขนอยู่แล้วเนี่ย”
“โทษทีนะ ต่อไปนี้จะอ่อนโยนมากขึ้นก็แล้วกัน ของแบบนี้มันยากสำหรับฉันนะ ต้องใช้เวลา”
“ไม่ต้องอ่อนโยนอะไรอย่างที่คุณว่าหรอก ผมไม่ชินเหมือนกัน คุณอ่อนโยนมากเท่าไหร่ มันกระตุ้นให้ผมอยากเสริมนมแล้วแต่งหญิงยังไงก็ไม่รู้”
“ห้ามทำตัวประหลาดแบบนั้นนะนายน้อย ประหลาดๆเป็นนายแบบนี้แหละดีแล้ว ฉันรับมือกับผู้หญิงไม่ค่อยได้หรอกนะ”
“แน่ใจเหรอ”
“หรี่ตาแบบนั้นหมายความว่าไง รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ คืนนี้ไม่ค้างที่อาณาจักรนะ เคลียร์งานเสร็จจะกลับมานอนที่นี่”
“งั้นเหรอ”
ผมสลดลงเหมือนผักเหี่ยวเพราะถูกน้ำร้อนลวกขึ้นมาทันที ที่ไม่อิดออดกับการไปอาณาจักรพร้อมมันก็เพราะคิดว่าถ้าได้ค้างที่นั่น ตอนกลางวันผมจะแวะกลับบ้าน ผมไม่รู้ว่าพี่เกียรติจะกลับเข้าบ้านบ้างหรือเปล่า แล้วตอนนี้ตัวผมเองเรียกได้ว่ากินอยู่สบายจนอดคิดไม่ได้ว่าพ่อกับแม่จะอยู่กันยังไง ยิ่งไอ้นายใหญ่ชวนคุยเรื่องนี้ยิ่งอยากกลับไปที่บ้าน
“ทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนั้นทำไมเหรอ”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
“เรื่องของทางบ้านนายที่เราคุยกันไว้ก่อนฉันจะไปเป็นเพื่อนคุณจ๋า ฉันยังจำได้นะ ยังไม่ลืม เพียงแต่มีปัญหาอื่นเข้ามาตอนนี้เลยยังไม่ได้ปรึกษากับนายในเรื่องนี้”
ผมค่อยๆแหงนหน้ามองมันด้วยความเต็มตื้น มันตามผมทันในทุกๆเรื่องไม่เว้นแม่กระทั่งความคิดและความรู้สึก เรื่องบางเรื่องผมพอจะรู้ว่าอำนาจที่มันมีทำให้ตามสืบตามค้นได้ไม่ยาก แต่ความรู้สึกของผมที่มันรู้นี่สิ เพราะสิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมยอมจมปลักอยู่ที่นี่จนแทบไม่อยากจะปีนหนีไปไหน เป็นปลักที่สะดวกสบายและมีเกียรติเกินกว่าจะคิดว่าตัวเองจะมีบุญวาสนาแบบนี้กับเขา ถึงมันจะเป็นเกียรติที่เต็มไปด้วยความลำบากและเรื่องที่เข้าใจยากก็เถอะ
“ขอบคุณครับ”
เสียงขอบคุณที่ผมไม่กล้าพูดตอนที่ยังสบตาอยู่กับมันถูกถ่ายทอดตอนที่ก้มลงมาซุกหน้าอยู่กับแผงอกหนา เสียงขอบคุณนั้นสะท้อนกลับเข้ามาให้ผมเก็บกลืนเข้าไปในอกตัวเองอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันจะได้ยินหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ




มีต่อค่ะ



ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
อาณาจักรกลายเป็นสถานที่ที่ผมคุ้นชินไปแล้วจริงๆสินะ ผมต้องยอมรับกับตัวเองแล้วล่ะว่าผูกพันกับสถานที่แห่งนี้เหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งไปแล้ว เพราะแค่ลงจากรถก็รู้ตัวเองโดยอัตโนมัติแล้วว่าจะต้องเดินต่อไปที่ไหนและทำอะไรบ้าง ไม่ต้องมีคนคอยบอกคอยแนะนำอีกแล้ว
ปกตินายใหญ่จะเข้าอาณาจักรในตอนกลางคืน สปาเป็นตึกที่เราเข้าไปเหยียบน้อยที่สุด เรามักจะเดินเข้าที่ไปเล้าจน์ก่อนเสมอ หลังจากนั้นถึงค่อยเดินไปที่ตึกที่เป็นออฟฟิศและห้องทำงานของผมกับนายใหญ่ ตึกทุกตึกมีทางเชื่อมต่อกัน แต่ลิฟท์ที่ใช้เฉพาะของนายใหญ่จะอยู่แค่ตึกของออฟฟิศเท่านั้น
ถึงแม้ในเล้าน์จะไม่ได้บังคับว่าหมอนวดจะต้องออกมาที่เล้าจน์เพื่อเรียกแขก แต่ก็เห็นว่ามีหลายๆคนออกมาใช้เล้าจน์เพื่อโชว์ตัวให้แขกเห็นอยู่เหมือนกัน หรือบางคนก็ออกมานั่งดื่มเพื่อบิ้วท์อารมณ์ตัวเอง มีหมอนวดหน้าใหม่หลายคนที่ผมไม่เคยเห็น ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นอาชีพที่มีคนตั้งใจจะมาทำจริงๆและเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
“วันนี้มาคู่เลยนะคะนาย”
เจ้เชอรี่คลี่ปากสีส้มสดทักทายนายใหญ่และล้อเลียนให้ผมอายไปในตัว เจ้เชอรี่น่าจะเป็นคนที่รู้จักตัวตนของผมดีที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ นอกจากนั้นก็รู้จักแค่ผิวเผิน พนักงานเก่าๆก็รู้ไปโดยปริยายว่าผมคือใคร แต่คงถูกสั่งให้วางตัวตามปกติไม่ต้องเกร็งเวลาอยู่ต่อหน้าผม แต่คนที่ไม่รู้มันก็ต้องมีบ้างเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน
“นายใหญ่คะ ขอพบที่ห้องลองหน่อยได้มั้ยคะ”
ผู้หญิงที่การแต่งกายบ่งบอกว่าเป็นพนักงานของที่นี่ แต่น่าจะเป็นหมอนวดใหม่ที่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และคงเรียนรู้เรื่องภายในของที่นี่มามากพอตัวเหมือนกัน เพราะเธอรู้จักการขอพบนายใหญ่ที่ห้องลอง
คำว่า ‘ห้องลอง’ ทำให้สมองของผมตื่นตัวกระทันหันไม่ต่างจากประทัดที่ต้องเปลวไปแล้วแตกออกมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผมเลือกที่จะกวาดตาไปทางนายใหญ่เพื่อจับอารมณ์ของมันก่อนว่าอยู่ในโหมดไหน แน่นอนว่ามันต้องวางตัวเป็นนายใหญ่ของลูกน้องอย่างที่ผมเคยเห็นตอนที่เข้ามาที่นี่แรกๆ เก๊กขรึมได้น่าเกรงขามและหวาดกลัวมากจนนึกหมั่นไส้ ในรถเมื่อกี้มันยังกวนโมโหผมมาตลอดทางอยู่เลย
ส่วนเจ้เชอรี่กำลังนิ่งค้างแต่ก็กลอกตาไปมาระหว่างผมกับนายใหญ่เหมือนคาดไม่ถึงว่าลูกน้องตัวเองจะทำอะไรอย่างนี้ ถึงได้อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนผมนึกสงสารทั้งๆที่เจ้ไม่เคยพลาดท่าให้ผมเห็นเลยด้วยซ้ำ
เด็กยืนรอคำตอบภายใต้รอยยิ้มและแววตาเชิญชวนอย่างมืออาชีพ เพราะแม้แต่ผมยังแปลความหมายในสายตานั้นได้ก็แสดงว่าความต้องการของผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน การแต่งตัวเซ็กซี่แต่ไม่มีรสนิยมที่คู่ควรกับที่นี่เลยสักนิด ผ้าซีทรูบางเบาที่เน้นให้เห็นบราที่หน้าอกอวบอิ่มที่ล้นออกมาจากข้างในและกางเกงขาสั้นเว้าสูงที่เห็นชัดไม่ต่างจากชั้นในนั้นทำเอาผมขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เหมือนผู้หญิงที่หากินแบบไร้สังกัดดูแลมาก และเจ้เชอรี่เองก็คงจะดูรู้ เพราะเจ้มองผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วขมวดคิ้วฉับ ยกมือขึ้นมากุมขมับเอาไว้เหมือนรู้ว่าตัวเองสมควรถูกตำหนิที่ปล่อยให้พนักงานทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองจนเกินไป ในเมื่อไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาเลย ก็ต้องเป็นผมอีกนั่นแหละที่อดรนทนไม่ได้อีกครั้ง
“เจ้ครับ เราไม่ได้บังคับให้พนักงานรับแขกโดยไม่เต็มใจใช่มั้ยครับ”
“เอ่อ ใช่ค่ะนายน้อย ไม่เคยบังคับค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นลูกค้าที่รับแขกแต่ต้องมาบิ้วท์อารมณ์ก่อนเข้าพบแขกนี่เรียกว่าเต็มใจตรงไหนเหรอ ผมมองว่าไม่เต็มใจแต่ขัดกับน้ำเงินไม่ได้หรือเปล่า เจ้คิดว่าไงครับ”
ผมโพล่งขึ้นมาต่อหน้าเธอคนนั้นและต่อหน้านายใหญ่ที่ยังยืนนิ่งเป็นรูปปั้นนั่นแหละ เจอผมโหมดนี้เข้าไปเป็นไบ้ไร้อำนาจขึ้นมาทันที
“จริงๆแล้วก็อย่างที่นายน้อยว่านั่นแหละค่ะ แต่ถ้าพนักงานไม่ได้ยกเลิกด้วยตัวเองเจ้ก็ต้องปล่อย”
“งั้นทีหลังถ้ามีใครอยู่ในกรณีนี้ให้เค้ากลับไปจนกว่าจะพร้อมทำงานนะครับ ส่วนถ้าใครเดือดร้อนเงิน เจ้คิดว่าเราตั้งกองทุนช่วยเหลือพนักงานขึ้นมาสักก้อนดีมั้ยครับ เขาจะได้ไม่ต้องฝืนใจแบบอ้อมๆอย่างนี้”
ผมก็รู้นะว่าตัวเองฝีปากจัดเกินชายแค่ไหน ผมเข้าใจถึงความขืนใจนั่นดี แต่วิธีการแบบนี้มันไม่ได้ต่างอะไรกับการที่พนักงานฝืนใจแล้วหลอกตัวเองว่าคนที่กำลังให้บริการนั้นคือนายใหญ่ ในเมื่อเราอยากให้พนักงานที่นี่เต็มใจจะทำงานนี้จริงๆแล้วก็ต้องตรงไปตรงมาอย่างนั้น
“เรื่องอนุมัติเงินนั้นคงต้องถามความเห็นนายใหญ่ค่ะนายน้อย”
“นายน้อยก็อนุมัติได้” ประโยคแรกที่รูปปั้นโพล่งขึ้นมา
นั่นไงความเห็นของนายใหญ่ที่ทำให้ผมรู้สึกสะใจภายใต้ท่าทางนิ่งเฉยเลียนแบบมัน นิสัยนี้เป็นนิสัยที่ผมค้นพบในตัวเองโดยไม่ได้เต็มใจหรือดีใจเลย แต่เหมือนบางอย่างจากจิตใต้สำนึกสั่งการให้แสดงออกมาแบบนี้อย่างควบคุมไม่ได้
ผมลอบมองสีหน้าของพนักงานคนนั้นซีดสลดไปจากนาทีแรกที่เห็นก็อดสงสารไม่ได้ แต่ผมไม่มีเวลาให้ยืนอยู่ตรงนั้นนานมากพอที่จะหลุดความเป็นตัวเองของตัวเองด้านสำนึกฝ่ายดีออกมาเพราะนายใหญ่ดึงมือผมให้เดินตามหลังมันไปซะก่อน
“เวลาหึง นายก็ร้ายใช่ย่อยเลยนะโลม”
เสียงหัวเราะที่กึกก้องสะท้อนไปทั้งห้องโดยสารนั้นทำให้ผมปั้นหน้าไม่ถูก ยังหาเหตุผลที่จะตอบโต้หรือเถียงให้ตัวเองหลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้ไม่ได้
“ผมทำตามหน้าที่”
น้ำโคตรจะขุ่นเลยเหตุผลครั้งนี้ แต่มันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ กำลังอยู่ในสภาวะจนตรอกของแท้
“หน้าที่นายน้อยหรือหน้าที่เมียล่ะ”
อยากเอาหัวโขกผนังลิฟท์แล้วตายไปเลยเมื่อถูกย้อนมาแบบนี้ บางทีคนจนตรอกมันก็ไม่เหมือนหมาที่สุดทางตันก็เลือกที่จะสู้จนยิบตา เพราะคนจนตรอกอย่างผมเลือกที่จะยอมแพ้แล้วยืนเงียบๆประคองตัวเองไปจนกว่าลิฟท์จะเปิดออกจากกัน






สวัสดีค่ะ หลังจากที่กลับมาจากทำภาระกิจที่บ้านนอกก็งานสุมหัวฟูจนตั้งใจว่า อีกสักสองวันค่อยอัพตอนต่อไปแล้วกันนะ พอโงหัวขึ้นมาอีกที เกือบอาทิตย์แล้ว เป็นไปได้ไงเนี่ย  :serius2: มันคือเหตุผลหรือข้ออ้างแบบแถๆของคนเขียนนะ  :monkeysad: แต่ก็ยังขอความเห็นใจอยู่นะ  :laugh: มันรวนไปหมดแล้วตารางงาน  :sad4:
เหมือนรายละเอียดของเรื่องจะคลี่คลายในแต่ละจุดมากขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าเยิ่นเย้อหรือเปล่า แต่ใกล้จบแล้วล่ะค่ะ เรื่องนี้เป็บแบบดราม่านิดๆ บู๊หน่อยๆ ก็งงกันไป  :laugh:
ยังไม่มีพล็อตเรื่องใหม่ต่อจากนายโลมเลยนะ อันนี้เอาความจริงมาตีแผ่กันเลย แล้วก็ตั้งใจว่าจะไม่ประมาทอัพสดแบบตอนต่อตอนอีกแล้ว ยิ่งเซกิไม่ค่อยอยู่จิกทวงแล้วเละเทะจริงๆ เป็นคนที่ไม่มีระเบียบวินัยเอาซะเลย เพราะฉะนั้นตั้งใจว่า ถ้ามีเรื่องต่อไปควรจะมีสต็อกไว้สักสิบตอน เพื่อจะได้ไม่ต่อแบบจำตอนที่แล้วไม่ได้เยี่ยงนี้  :z3:
สนใจเขียนเรื่องสั้นแนวแฟนตาซีแบบเอาฮาเหมือนกันนะ วันก่อนคุยเล่นกันในแฟนเพจแล้วนิมิตขึ้นมากะทันหันว่าถ้าแวมไพร์ได้เสียเป็นเมียผัวกับพญานาค จะดีมั้ย แล้วพญานาคเอามาแต่งแบบนี้ถือว่าเป็นการลบหลู่หรือเปล่า หรือพญานาคเป็นเพียงสัตว์ชนิดหนึ่งในตำนานเท่านั้น กลัวมีดราม่าแล้วไม่มีข้อมูลไปเถียงเค้าน่ะค่ะ อันนี้คิดแบบไม่รู้จริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่แสดงความห่วงใยนะคะในเรื่องของพ่อกับแม่ ทั้งสองคนสบายดีแล้วค่ะ
ขอบคุณคนอ่านทุกคนเช่นเคยค่ะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามสนับสนุนกันมาเสมอ  :pig4:
ทางเข้าแฟนเพจ คลิก
รายละเอียดการสั่งจองหนังสือ สิงหาธันวาฯ คลิก

คันจัง

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :กอด1:นานๆถึงจะหวานกันซะที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
แอ่ก! ตายด้วยหมัดขวา
นายน้อยน่ารักมว้าก
ไอ้คุณระฟ้าก็น่ารักรู้จักจะหวานๆบ้างแล้ว
แต่ยังไม่เท่านายน้อยนะ พยายามต่อไป 5555
เป็นกำลังใจให้พี่นักเขียนนะคะ สู้ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2012 21:40:08 โดย pp4 »

ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
อ่านจบเเล้วกรี๊ด.....ทำหน้าที่นายน้อยหรือหน้าที่เมีย  :z1:

ออฟไลน์ Papoonn

  • inspiration <3
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ทำไมโลมน่ารักขนาดนี้   -//////-
นายใหญ่ฮามากกกกกกกกกกกกกกก  ! 
ฮ่าๆๆๆๆ  ถ้ามีรวมเล่มจะไม่พลาดเลย  อิอิ  ♥

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อยากให้โลมแสดงออกมากกว่านี้จัง

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
“หน้าที่นายน้อยหรือหน้าที่เมียล่ะ”


เชดดดดดดดดดดดดดด เจอประโยคนี้ถึงกับหลุดหัวเราะ
กดไลค์ล้านที นายใหญ่ โดนจายยยยยยยยย~ 5555

khalwfarng

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วเขินที่สุด 
ยอมรับเลย โลมหึงเฉี่ยวมาก อุอุ
ตอนไปอาณาจักรไม่ทราบว่าโลมแต่งตัวยังไง
แต่เราจิ้นให้โลมแต่งสูทแบบไม่เป็นทางการมาก


 :impress2:  ดูดีที่สุด

ออฟไลน์ NASS.NET

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
แหมะ....ทำเป็นไม่ยอมรับความจริงนะโลมจ๋า
โดนรูปปั้นย้อนซะเขินเลยไง^^

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนนี้ยาวสะใจมากค่ะ  o13

ความคิดนายใหญ่ซับซ้อนมากเลย  ทั้งๆที่นายน้อยก็ไม่มีอะไรมาก

แค่รอความห่วงใยและเอาใจใส่ก็พร้อมจะตอบกลับคืนมาเหมือนกัน

โลมหึงได้ดูดีมากค่ะ  เฉียบที่สุด

บวกเป็ด

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
โลมหึงงง

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ปลื้มหล่ะสินายใหญ่  โลมเค้าก็รับทั้งสองหน้าที่แหละ หน้าที่นายน้อยควบหน้าที่เมีย 2in1 ดีจะตาย

หึงทีหลุดปากจัดซะเลยโลม :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Nai noi heung narak na kha,,hu hu hu... waan nid nid phor...

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
ยิ้มค่า ยิ้มมมมมมม ปากจะฉีกและ อ่านตอนนี้จบ ถึงกับยิ้มค้าง

ออฟไลน์ khunstar

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 487
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
น่าที่ไหนหรอโลม :laugh:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เสียทองเท่าหัวแต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใครจริงๆแฮะ :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
มายาวงี้ ไม่ใช่ว่าจะหายไปอีกนะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
รู้ฤทธิ์นายน้อยซะบ้าง แม้แต่นายใหญ่ยังต้องยอม

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
ถึงกับจนตรอกเลยหรอโลม :m12:

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
โอ้โห นายใหญ่ o22

ไปถึงไหนแล้ว พึ่งจะมาจีบเรอะ  :-[

ส่วนหนูโลม หึงได้มีสาระมาก o13

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
นายใหญ่นายน้อยน่ารักอ่ะ >//<
บวกบวกค่า

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
มายาวจุใจมากค่ะ

ถูกในประโยคสุดท้ายของนายใหญ่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด