Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!  (อ่าน 196269 ครั้ง)

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-17-] ครึ่งแรก
«ตอบ #270 เมื่อ19-12-2011 17:24:21 »

Love Sick

- 17 -



วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกครับ เปิดเทอมวันแรกก็คือการได้เจอเพื่อนวันแรก เริ่มเรียนวันแรก ไอ้การเจอเพื่อนวันแรกนี่แหละที่ผมกังวล ผมไม่รู้ว่าตองจะเป็นยังไงบ้าง...
“นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดทำไมครับ?” จู่ๆสารถีของผมก็เอามือยักษ์มาขยี้หัวผม เต็มกำมือเลยนะครับนั่น T T
“เปล่าครับ.. ” ผมดึงมือพี่จินมางับตรงสันมือ มือหอมจัง -//-
“แล้วขมวดคิ้วทำไม เราน่ะชอบขมวดคิ้วเวลาคิดอะไรเครียดๆรู้มั้ย มีอะไรบอกพี่ไม่ได้เหรอ” ผมก้มมองมือพี่จินที่กำลังเข้าเกียร์รถ เพราะว่าอยากจะบอก แต่มันบอกไม่ได้น่ะสิถึงได้เครียด...
“เอมหิวจัง..”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” โอ๊ะ! พี่จินเคาะหัวผมดังป๊อกแน่ะ
“งือ เอมก็แค่ไม่อยากเจอคนๆนึงก็แค่นั้น...” ผมนิ่วหน้าเอามือกุมหัว
“อ้าว ทำไมถึงไม่อยากเจอละครับ?” อ๋าย จะถึงม.แล้วอะ พี่จินเลี้ยวรถเข้าหน้าม.แล้ว ยังไม่อยากให้มาถึงเลย ผมยังทำใจไม่ด้าย~~
“พี่จินเนี่ย ชอบถามซักไซ้จังเลย” ผมบ่น เซ็งอะ พี่จินชอบแบบนี้ตลอดเลย มีอะไรละต้องคาดคั้นตลอด ความลับน่ะรู้จักม้ายยย
“... งั้นพี่ไม่ถามแล้วก็ได้ครับ” พี่จินนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วก็พูดออกมา ผมรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงพี่จินแปลกๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร


สุดท้ายพี่จินก็ส่งผมลงตรงหน้าตึกศิลป์ แล้วก็บอกแค่ว่าเลิกเรียนให้โทรบอกก่อนจะขับรถออกไป ไม่มีการร่ำลา ไม่มีกอด ไม่มีหอมเหมือนปกติ นี่ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า?



“เอมๆๆๆ” เสียงตะโกนจากข้างหลังสั่งให้ผมต้องหยุดคิดแล้วหันไปยิ้มให้เพื่อนที่วิ่งมาหา
“มาซะเกือบสาย ว่าแต่นี่มายืนทำอะไรเนี่ย” กิถามไปหอบไป มันจะวิ่งมาเพื่อ?
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ไปเรียนกันเถอะ” ผมส่ายหัวแล้วยิ้มให้กิ ส่วนอั๋นยืนรออยู่ที่ตีนบันได ผมยังไม่เห็นตองจนกระทั่งเดินมาถึงห้องเรียน ตองจองที่นั่งไว้ให้พวกผมเรียบร้อยแล้ว


ผมยังไม่ได้คุยกับตองเลยสักคำเพราะว่าสมองเอาแต่คิดเรื่องท่าทางห่างเหินของพี่จิน ผมรู้สึกนะว่าพี่จินเคืองผม แต่เคืองเรื่องอะไรล่ะ เรื่องที่ผมหาว่าพี่จินซักไซ้งั้นเหรอ?...

เออว่ะ... ถ้าเป็นผมถูกพูดใส่แบบนั้นผมก็น้อยใจเหมือนกัน... รู้สึกผิดจัง..


และแล้ววันนี้ผมก็เรียนไม่รู้เรื่องเลย พอพักเที่ยงก็ลงไปกินข้าว ฝากไอ้กิกับอั๋นไปซื้อแล้ว ส่วนผมกับตองก็นั่งรอที่โต๊ะ ตองนั่งเฝ้าโต๊ะ ส่วนผมนอนฟุบกับโต๊ะ
“เอม ไม่สบายหรือเปล่า ดูเงียบๆไปนะ” คนที่ผมคิดตอนแรกว่าไม่อยากเจอกลับเป็นคนที่ดูใจดีที่สุดในเวลานี้ ซึ้งอ่ะ T T
“ป่าว...” ผมลากเสียงยาว รู้สึกว่ารอยยิ้มของตองอย่างกับโอเอซิส ความรู้สึกที่ไม่อยากเห็นหน้าเพื่อนหายวับไปทันตา ทำไมผมชอบคิดอะไรไปล่วงหน้านะ
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกเราได้นะ” ตองยื่นมือมาลูบหัวผม แปลกที่ผมไม่ยักกะรู้สึกไม่ชอบหรือรำคาญเลยแฮะ
“แหมๆ มึงมานั่งจู๋จี๋กับน้องตองของพี่ทำไมวะเอม” เชี่ยครับ... คนที่ไม่อยากเจอที่สุดมาทำไมวะเนี่ย ผมผงกหัวขึ้นมาทำหน้าเหม็นเบื่อให้พี่พีร์ที่เดินมานั่งข้างตอง เห็นตองขยับหนีแล้วทำท่าเหมือนรังเกียจก็รู้แล้วแหละว่าจีบยังไม่สำเร็จ ฮ่าๆ
“พักเที่ยงไม่ไปกินข้าวเหรอครับพี่พีร์ มัวแต่พาหมามาวิ่งเล่นอยู่ได้” ผมแขวะกลับ ตามสเต็ป โดนตบหัวป้าบ แต่พอพี่พีร์มันตบหัวผม ตองมันก็ตบหัวพี่พีร์กลับแรงกว่าอีก
“โอ๊ย! น้องตอง พี่เจ็บนะครับ”
“แล้วมึงตบหัวเพื่อนกูทำไมวะ” พอตองขึ้นเสียงใส่พี่พีร์ ผมก็เห็นพี่พีร์ทำหน้าจ๋อย สะใจว่ะ ฮ่าๆ
“อ้าวพี่พีร์ หวัดดีครับ มาเลี้ยงข้าวพวกผมเหรอ?” กิเดินถือจานข้าวมาสองใบแถมยังมีถุงก๊อบแก๊บคล้องแขนเดินกลับมาที่โต๊ะ จานข้าวใบหนึ่งวางตรงหน้าผม แล้วกิมันก็นั่งลงข้างๆ ส่วนอั๋นก็เดินไปนั่งข้างตอง ในถุงนั่นมันใส่ขนมมาอะครับ
“ตลกแระมึง กูมาหาน้องตองของกู” พอพี่พีร์พูดแบบนั้นกิก็หันไปมองตองตาโต
“มึงเป็นไรกะพี่พีร์เนี่ย”
“กูไม่ได้เป็นไรกับมันทั้งนั้นแหละ แดกข้าวไปเงียบๆเลย” ตองพูดเสียงอย่างโหดเลยครับ เล่นเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบกันไปเป็นแถบ อิพี่พีร์ก็เลิกกวนตีนเลยแหละครับ
“เอ่อ พี่ว่า...พี่ไปหาข้าวกินดีกว่านะครับ ไว้เจอกันนะครับตอง เอ่อ...พวกมึงด้วย ไว้เจอกัน...” ดูๆไปก็น่าสงสารพี่พีร์นะ แต่พี่พีร์ชอบทำตัวเองอะ เหอะๆ


“ไปกินเค้กมั้ยเอม” ตองหันมาชวนผมที่กำลังเก็บหนังสือเรียนเข้ากระเป๋า พอพูดถึงเค้กก็ดีเหมือนกันนะ คลายเครียดๆ ใครที่บอกว่าจะมารับก็ช่างเขาเถอะ ผมก็น้อยใจเหมือนกันวะ วันทั้งวันไม่โทรหาผมเลยสักครั้ง จะโกรธอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้... หึ
“ชวนแต่เอม แล้วพวกกูละ”
“ก็แล้วแต่มึงสิกิ จะมาก็มา”
“เอ๊อออออ คนเราแม่งลำเอียงเนอะอั๋น”
“ก็มาด้วยกันให้หมดนี่แหละ” ผมตัดบท ทำไมรอบตัวมีแต่คนอ้อนตีนนะ...


“แล้ววันนี้ไม่มีคนมารับเหรอเอม” ผมส่ายหัว กิทำผมหมดอร่อยเลยอะ ช็อกเค้กหน้านิ่มของผมเลี่ยนทันที
“แล้วจะกลับยังไง ให้เราไปส่งมั้ย?” ผมกำลังจะส่ายหัวบอกตองว่าไม่เป็นไร แต่กิก็สอดขึ้นมาซะก่อน
“แหม มึงนี่ยังกับมดแดงเลยเนอะ” ผมงง มดแดงอะไรของมันหว่า?
“เรื่องของกูแหละ ทำไมละ”
“เปล๊า ไม่ทำไมหร๊อก ระวังตัวจริงเขามาเอาเรื่องละกัน” กิมันพูดแล้วทำลอยหน้าลอยตา ดูท่าตองมันเดือดจนจะกินหัวกิได้แล้วอ่า...
“เรากลับเองได้แหละ ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” ผมสรุปให้ จะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก - -*

สุดท้ายผมก็แยกย้ายกับทุกคนที่ร้านเค้กแหละครับ มือหนึ่งหิ้วถุงเค้กมาฝากคนที่บ้าน (หิ้วมางั้นแหละ ไม่ได้อยากจะซื้อมาฝากหรอกนะ) ผมเดินดุ่มๆอยู่ตรงทางเท้าหน้าม.ก็มีรถคันหนึ่งขับมาทางด้านหลังแล้วก็เปิดไฟสูงใส่ผม พอหันไปมองก็ต้องหลับตาลงเพราะมันโคตรจะแสบตาเลยละครับ แล้วนอกจากนั้นมันยังบีบแตรใส่ผมอีกตะหาก แง่ง! ไม่มีมารยาทเล้ย

“!!” พอกำลังจะอ้าปากด่าตอนที่รถมันขับมาตีข้างก็ตกใจนิดหนึ่ง เหมือนเด็กถูกจับได้ว่าทำผิดอะครับ ก็นี่มันรถพี่จินนี่หว่า แถมพี่แกยังเปิดกระจกแล้วจ้องหน้าผมนิ่งเลยด้วย
“ขึ้นมา”
 อูย.... เสียงโคตรเหี้ยมเลยครับ...


ภาพสมัยก่อนที่พี่จินโหดๆผุดขึ้นมาเหมือนฉายวิดิโอ ผมนั่งเกร็งบนเบาะเหมือนว่ากำลังจะถูกพาไปขึ้นเขียง ทั้งที่แอร์รถมันก็เย็นฉ่ำ แต่มือของผมกลับมีเหงื่อซึมอยู่ตลอด นี่ผมไม่ได้ได้กลัวนะ!!
“ทำไมไม่โทรมาบอกว่าเลิกเรียนกี่โมง” อึก...ก็ไม่อยากโทรนี่... เพราะตอนนี้กำลังงอน... (เหตุผลผมดีมะ)
“...ก็กะว่าเดี๋ยวจะโทร” แต่คิดไปคิดมาไม่ตอบแบบนั้นดีกว่านะ
“แล้วเมื่อไรล่ะ”
“ก็กินขนมเสร็จแล้วจะโทร..”
“แต่ที่พี่เห็น คือออกมาจากร้านแล้วก็เดินเตล็ดเตร่ ไม่เห็นคิดจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรเลยนะ” เฮ้ย นี่ตามมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย
“ก็กำลังจะโทรอะ แล้วพี่ก็ขับรถมาพอดี..” ผมแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เมื่อไรจะถึงบ้านวะ อึดอัดเป็นบ้า พี่จินเริ่มจะเซ้าซี้อีกแล้วเนี่ย
“อย่ามาเถียงข้างๆคูๆเลยเอม โตแล้วก็คุยกันด้วยเหตุผลสิ” ปึ๊ดเลยอะ เออใช่สิ ผมมันเด็กสินะ  คนช่างซักไซ้แบบพี่มันมีเหตุผลมากเลยใช่มั้ย?? บอกว่าไม่มีอะไรก็ยังจะเค้นถามอยู่ได้เนี่ย
“ผมก็ว่างั้นแหละ คุยกันด้วยเหตุผลได้มั้ย ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็เอาแต่ซักไซ้ไม่เลิก มันก็มีเรื่องที่ไม่อยากจะบอกบ้างแหละ” ผมเปลี่ยนสรรพนามที่พูดกับพี่จิน เวลานี้ผมไม่อยากจะเรียกแทนตัวเองเวลาคุยกับเขาด้วยซ้ำ
“เธออย่ามาย้อนพี่นะ จะต้องเอาเรื่องเมื่อเช้ากับเรื่องเมื่อกี้มารวมกันทำไม พี่อุตส่าห์จะไม่คิดอะไรแล้ว แต่เธอก็ยังจะมาทำนิสัยเด็กๆใส่พี่อีกนะ!” รถหยุดตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ครับ ที่รู้คือเรากำลังเถียงกัน เถียงกันแบบเอาจริงเอาจัง
“พี่ก็ดีแต่ซักโน่นนี่ เมื่อเช้าก็แล้ว มาตอนนี้ยังจะมาซักไซ้กับผมอีก พี่จะต้องเค้นเรื่องจากผมให้ได้เลยใช่มั้ย เดี๋ยวนี้ผมไม่ต้องมีความเป็นส่วนตัวแล้ว? จะทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้แล้วใช่มั้ย?” ผมตะเบ็งเสียงคอแทบแตก เริ่มแสบคอแล้วอะ... ตาก็ร้อนๆ หยั่งกะจะร้องไห้เลยแฮะ
“อ๋อ พี่ผิดเองที่ซักไซ้จนเอมรำคาญ งั้นพี่ก็ขอโทษนะ พี่จะไม่ ’เซ้าซี้’ ถามอะไรจากเอมแล้วแหละ เอมอยากทำอะไรเอมก็ทำไปเลย คิดเสียว่าไม่เคยมีพี่มาแต่แรกแล้วกันนะ!” พี่จินทุบพวงมาลัยดังปั้กก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงใส่อารมณ์ ผมได้แต่กัดริมฝีปากแน่นเ มันรู้สึกคับใจบอกไม่ถูก อารมณ์ตอนนั้นก็มีแต่ความโมโหเท่านั้น บอกว่ารักผม แต่ตอนนี้ก็ตะคอกใส่ผมเหมือนกับที่ทำกับคนอื่น สรุปแล้วผมก็มีสถานะเท่ากับคนอื่นอย่างงั้นใช่มั้ย สุดท้ายแล้วพี่จินก็ทำให้ผมเสียใจ ผมเจ็บๆๆๆ เจ็บจนอยากจะหายไปให้พ้นจากตรงนี้ เดี๋ยวนี้!!


ปึก!


“เอม!!!! ทำอะไ-” ผมได้ยินเสียงพี่จินตะโกนไม่ทันจบประโยคดีก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาสุดๆ นั่นคงเป็นเพราะว่าพี่จินเพิ่งขับรถออกมานิดเดียวแล้วผมก็เปิดประตูลงไป รถกำลังวิ่งแบบนี้ก็ล้มแหละครับ ผมยันตัวลุกขึ้นยืนและหันไปปิดประตูรถ เสร็จแล้วก็ตั้งท่าจะวิ่งข้ามถนนอีกฝั่ง แต่ว่าแสงไฟจ้าที่ผมเห้นตอนนี้ทำให้ผมไม่กล้าขยับไปไหน

“เอมมมม!!!!!”


เสียงพี่จินตะโกนเรียกผมดังสุดชีวิต ก่อนที่แรงอัดตรงช่วงท้องจะทำให้สติของผมดับวูบไป...


ผมสาบาน ถ้าผมย้อนเวลากลับมาได้ ผมจะไม่ลงจากรถพี่จิน ผมจะขอโทษที่งี่เง่า และผมก็จะเล่าเรื่องทุกเรื่องให้พี่จินฟัง


เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องทนมองพี่จินร้องไห้แบบนี้โดยไม่สามารถที่จะโอบกอดปลอบใจได้...



***********************************************************


ครึ่งแรกค่ะ



ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :sad4: :sad4:
เอมอย่าเป็นอ่ะไรน่าาาา :z3:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :เฮ้อ:   เอมงี่เง่ามากๆจิงแหล่ะ  ไม่แคร์พี่จินเลย


 :fire:  ดราม่าอีกแล้ววววว

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เห็นด้วยกับคุณๆข้างบน งี่เง่า จริงๆ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
อย่าเป็นไรนะเอม   พี่จินไม่โกรธหรอก

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
-*- เห็นตามเสียงส่วนใหญ่อะ งี่เง่า บวก ปญอ. ด้วยอีกอย่างเลย 5555

pronpailin

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
สงสารพี่จิน.... ;___;

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:อ่านแล้ว ก็เห็นหลาย ๆ คนบอกว่าน้องเอมงี่เง่า พี่เห็นด้วยที่บอกว่าน้องงี่เง่า แต่ก็เข้าใจด้วยว่าน้องยังเด็ก ยังไร้เดียงสา ยังไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของการ "รัก" และการ "ถูกรัก" เท่าไรนัก เหมือนน้องจะซื่อ ๆ น่ะ เลยไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองและคนรอบข้างยังไง คิดว่าน้องบริสุทธิ์ใจกับทุกฝ่าย เป็นคนที่ทำอะไรตามความคิดของตัวเอง ก็ความคิดของเด็ก ๆ น่ะนะ คือคิดว่าที่ตัวเองทำน่ะถูกแล้ว

อีกอย่างหนึ่งจินเจอร์เป็นผู้ใหญ่กว่า น่าจะอธิบายเหตุผลกับน้องบ้าง ไม่ใช่ใช้อารมณ์ไปซะทุกเรื่อง (ถ้ามันเกี่ยวกับเอม)

ความรัก บางครั้งก็ต้องใช้เหตุผลควบคู่ไปกับหัวใจ นะคะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ  :L2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
น้องเอมมมมมมมมมมมมมมม

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-17-] ครึ่งหลัง
«ตอบ #282 เมื่อ20-12-2011 17:12:06 »

ครึ่งหลัง



“อ้ะ! วันนี้มีการบ้านภาษาอังกฤษด้วยนะ” ผมรับสมุดการบ้านจากกิมาวางไว้ที่โต๊ะ มีทุกวันเลยแฮะการบ้าน สงสัยคืนนี้ต้องเริ่มทำจริงจังสักที
“ขอบใจนะ” ผมไม่ได้ขอบใจแค่กิ ที่มานั่งทำหน้าแป้นแร้นอยู่ตรงนี้ แต่ผมขอบใจทั้งอั๋นและตองที่หมั่นมาเยี่ยมผมและสอนบทเรียนในช่วงที่ผมลา


หลังจากที่ผมทะเลาะกับพี่จินอย่างรุนแรงในวันนั้น ก็เป็นที่รู้กันว่าผมโดนรถชนแหละครับ มันไม่ได้ชนแรงจนตัวผมปลิวกระเด็นไปห้าเมตร แต่มันก็ชนแรงพอที่จะทำให้แขนขวาของผมหัก และต้องเข้าเฝือกกว่าหกเดือน ส่วนขาขวาก็ต้องเข้าเฝือกเหมือนกัน แต่ว่าไม่หนักหนาเท่าแขน หมอบอกว่าสาม-สี่เดือนก็หาย ท้องก็ไม่เป็นอะไร แค่ช้ำเป็นรอยม่วงๆเท่ากระดาษเอห้า หมอเอ็กซเรย์ดูแล้วก็ไม่ช้ำในครับ

หกเดือนนี่มันนานพอสมควรเลยนะครับ เมื่อนึกถึงว่าผมจะต้องเป็นภาระกับพี่จินไปนานขนาดไหน... และจะไม่ได้วาดรูปจนกว่าจะหาย...


“เอม ดื่มนมก่อนครับ” ผมใช้มือซ้ายรับแก้วนมจากพี่จิน คนที่ดูแลผมมาตั้งแต่วันแรกที่ประสบอุบัติเหตุ ผมยังรู้สึกผิดจนวันนี้ ถ้าหากตอนนั้นผมทำตัวดีกว่านี้ ถ้าผมมีเหตุผลสักหน่อย และงี่เง่าให้น้อยลง ผมคงไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องอดวาดรูป และไม่ต้องเป็นภาระพี่จิน... แต่อย่างว่าแหละ คนเราไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา...(อันนี้กิมันด่าผมครับ) T T
“เอ่อ พวกกูกลับดีกว่านะ ไม่อยากอยู่เป็น กขค ว่ะ” ครับ...เดี๋ยวนี้ผมกับกิใช้ กู มึง คุยกันแล้ว รู้สึกมันจะเริ่มลามปามจนจะเหยียบหัวผมเข้าไปทุกทีแล้วละ
“พี่จิน ฝากดูแลเพื่อนผมดีๆนะครับ ให้มันหายช้าๆ จะได้ไม่มีใครมาแย่งผมท๊อปวิชาร่างแบบ ฮ่าๆ” พี่จินยิ้มให้กิที่รีบคว้ากระเป๋าวิ่งออกไปก่อนจะโดนลูกแอปเปิ้ลในมือผมเขวี้ยงหัว มันมากวนตีนผมทุกวันเลยนะ
“พักผ่อนเยอะๆนะเอม” ตองพูดกับผม
“อื้อ ขอบใจมากนะตอง” ผมขอบคุณเพื่อนเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้วันนี้ เหอะๆ ตองเอามือมาลูบหัวผมอีกแล้วละ เออ...ให้บรรยากาศเหมือนพี่สาวเลยแหะ...
“เพื่อนคนอื่นออกไปแล้วก็ไปสักทีสิ มายืนอาลัยอาวรณ์อยู่ได้” อึ๊ก... ผมเหลือบไปมองพี่จินที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูอยู่ เห็นตองมันทำตาขวางใส่พี่จินแวบหนึ่งแล้วก็เดินปึงปังออกไป
“รู้สึกไอ้นี่มันชักจะเยอะนะเอม” พี่จินเดินมานั่งข้างผมแล้วก็เอามามาถูหัวผมตรงที่ตองจับ ถูๆเหมือนจะให้สัมผัสจากตองหายไปไวๆอะครับ ทำไมนิสัยเด็กแบบนี้นะ แต่เอ่อ...มาลองคิดดู ถ้าสถานะของผมกับพี่จินกลับกัน ผมคงหึงบ้ากว่านี้อีกครับ


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผมเรียนรู้ได้อย่างหนึ่ง คือการเอาใจพี่จินมาใส่ใจผม ให้ลองคิดดู ว่าถ้าเป็นผมเจอสถานการณ์แบบที่พี่จินได้เจอ ผมจะรู้สึกแย่แค่ไหนกับการที่ถูกคนรักหาว่าเราวุ่นวาย และใส่อารมณ์กับเรา รวมถึงมีความลับที่ไม่ยอมบอก ทั้งหมดทั้งมวลมันผิดที่ผมคนเดียวเลยครับ
T T


“ช่างเถอะครับ เห็นว่าตอนนี้พี่พีร์กำลังเร่งทำคะแนน หึหึ” ผมยิ้มขำเมื่อนึกถึงเมื่อวานที่พี่พีร์มาเยี่ยมแล้วก็บอกกับผมว่าจะรุกตองเต็มที่แล้ว เอานะ ขอให้สำเร็จแล้วกัน
“ก็ให้ไอ้พีร์มันจัดการให้เรียบร้อยสักที มันจะได้ไม่มาทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอีก” ผมบอกพี่จินไปหมดแล้วแหละครับ เรื่องของตองน่ะ แล้วผมก็สัญญากับพี่จินด้วย ว่ามีอะไรก็จะบอกพี่จินให้หมด รวมถึงพี่จินก็ห้ามมีความลับปิดบังผมเช่นกัน


พี่จินยังบอกอีกว่าตอนที่ผมออกจากโรงพยาบาลคืนแรกแล้วผมปวดแขนมาก ผมนอนละเมอร้องไห้แล้วบอกขอโทษพี่จินซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกลัวว่าพี่จินจะไม่ยกโทษให้ ทั้งที่จริงพี่จินหายโกรธตั้งแต่ตอนที่อุ้มผมไปรพ.แล้ว


“หายไวๆนะคนดีของพี่” พี่จินเอามือปัดปอยผมออกจากหน้าผากให้ผม น้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม พี่จินทำให้ผมรู้สึกผิดแบบสุดๆ และก็รู้สึกรักพี่จินขึ้นมาสุดๆในเวลาเดียวกัน ไอ้ความงี่เง่าที่ผมเคยมีมันหายวับไปกับตาเลยครับ...

‘เอมก็ตอบแทนพี่ ด้วยการอย่าทำให้พี่เสียใจอีก เอมไม่มีทางรู้หรอกว่าการนั่งเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดห้าชั่วโมงน่ะ มันทรมานใจแค่ไหน’


ผมก็สาบานกับตัวเองแบบนั้น นิสัยแย่ๆที่ผมเคยมีก็จะไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก เมื่อไรที่ผมเริ่มจะงี่เง่า หรือวีนขึ้นมา ผมก็จะมองหน้าพี่จินให้ชัดๆ แล้วบอกกับตัวเองว่าผมรักพี่จินแค่ไหน เราสองคนรอคอยมานานแค่ไหนกว่าจะได้มาเป็นอย่างตอนนี้ ผมจะไม่ยอมให้ทุกอย่างพังทลายลงเพราะความหุนหันของผมเด็ดขาด...


“เอมรักพี่จินจังครับ..” ผมยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มพี่จิน เคราเริ่มขึ้นบางๆพอให้จั๊กจี้ริมฝีปาก แต่ความจั๊กจี้ก็เปลี่ยนเป็นดูดดื่มและเร่าร้อนมากขึ้นเมื่อริมฝีปากของผมแนบสนิทกับพี่จิน รสชาติของขนมหวานจากปากพี่จินทำให้การจูบนี้ช่างนุ่มนวล ผมหลับตาและละเลียดความหอมหวานของมันอย่างเต็มที่
“...อืม พอเถอะ...เดี๋ยวจะไปกันใหญ่นะ...” พี่จินผละออกห่าง สองมือใหญ่ประคองแก้มผมไว้ ผมรู้ว่าลมหายใจของพี่จินขาดห้วง เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน อยากจะรู้สึกมากกว่านี้ อยากจะได้สัมผัสมากกว่านี้อีก...
“ไอ้จิ๋ว ไม่เจียมตัวเลย..” พี่จินกัดริมฝีปากผมแล้วกอดผมไว้แน่น นั่นสิ ผมไม่เจียมตัวเลยอะ คิดอะไรทะลึ่งทั้งที่ตัวเองยังไม่มีปัญญาจะทำ ก็ใส่เฝือกทั้งขาทั้งแขนมันจะทำอะไรได้เล่า!!!!!



“วานิลลา มานี่เร้ว” ผมส่งเสียงเรียกเจ้าเหมียวที่ตัวเริ่มยืดให้มาบนตัก วานิลลากระโดดแผล็วก็มานั่งหน้าเป็นอยู่บนเฝือกผม ตั้งแต่กิมา วานิลลาก็หายไปครึ่งวันเลยครับ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยชอบกิ เพราะว่ากิชอบแกล้งมัน ฟัดมันแรงๆบ้างละ เอาขนมมาล่อแล้วไม่ให้กินบ้างละ หึหึ ไอ้กิโรคจิต


“เมี้ยวววว” เจ้าเหมียวเอาหัวมาถูฝ่ามือผมเหมือนจะให้ลูบหัวให้ ผมเลยสมนาคุณพิเศษ ทั้งลูบหัว เกาหู และเกาคางเป็นการปลอบใจ เจ้าเหมียวเริ่มอ่อนระทวยเอนตัวลงนอนหลับตาพริ้ม น่าฟัดชะมัด เมี้ยวววว  :music:
“อ้าว วานิลลา มาอยู่นี่เอง มิน่าละ ทำข้าวให้กินก็ไม่ยอมมา มัวแต่มาอ้อนมะม้าอยู่ได้” ผมยิ้มขำเมื่อได้ยินที่พี่จินบอก พี่จินเดินมานั่งตรงปลายเท้าผมแล้วเอามือเขี่ยคางแมว
“มันติดเอมน่าดูเลยนะครับ เวลามันมาอ้อนเอมทีไร เรียกมากินข้าวยังไม่ยอมไปเลย ทั้งที่ตะกละจะตาย”
“ฮื้อ พี่จินอย่าว่าวานิลลานะ ไม่เห็นตะกละเลยเนอะ วานิลลาเป็นเด็กดีจะตาย เป็นแมวคุณหนูเนอะวานิลลา” ผมอุ้มวานิลลาขึ้นมาจ้องตาแล้วก็จุ๊บปาก เจ้าเหมียวตาสีฟ้าแลบลิ้นเลียก่อนที่ปากจะแตะกันแค่วิเดียว
“อึ๋ย วานิลลา ลิ้นสากๆอ้ะ” ผมเอาหลังมือเช็ดปากตัวเอง เจ้าเหมียวนัวเนียผมมากขึ้น เดินวนเวียนถูไถอยู่ไม่ห่าง
“หึหึ โดนแมวขโมยจูบซะแล้ว มา.. พี่ลบรอยให้”
“อือ...” จูบที่สองในรอบวัน รู้สึกเหมือนเดี๋ยวนี้เราจะได้จูบกันบ่อยขึ้นนะครับ.. ผมชอบจัง  :o8:


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงผมจะชอบจูบกับพี่จินแค่ไหน แต่ถ้าทำได้แค่จูบผมก็ไม่เอาด้วยหรอกนะ ขาดใจตายพอดี แล้วเหมือนช่วงนี้พี่จินจะรู้ว่าผมคิดอะไร เขาก็ยิ่งจูบผมแบบดูดดื่มบ่อยขึ้น แล้วพอจูบเสร็จก็ทำสายตาล้อเลียนผม มีครั้งนึงที่พี่จินหลุดหัวเราะออกมาแล้วก็บอกว่า ‘เอมก็คงถึงวัยที่จะคิดลามกแล้วสินะ หึหึ’


คุณเอ๊ยยย ผมเงี้ยหน้าแดงแจ๋เลย อายบอกไม่ถูกอะ ยิ่งอิตอนที่ผมต้องอาบน้ำโดยให้พี่จินคอยช่วยน่ะ ฮือ... เป็นช่วงเวลาแห่งความอัปยศสุดๆเลย

“เอมครับ ยกแขนหน่อยสิ พี่จะถอดเสื้อให้” พอถอดเสื้อเสร็จก็ถอดกางเกง พี่จินค่อยๆรูดกางเกงออกจากขาข้างที่เข้าเฝือกให้เหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว (พี่แกก็ซื้อมาแต่สีขาวเสียด้วยนะ ไอ้ลามก!) แล้วก็เอาถุงมาครอบขากับแขนให้มิดชิด และก็ไม่ใช่ว่าผมจะอาบฝักบัวได้ปกตินะครับ พี่จินต้องเอาผมไปนั่งอาบบนฝาปิดอ่างอาบน้ำ แล้วให้ผมหย่อนขาลงไปในอ่าง เสร็จแล้วก็ยกแขนพาดไว้บนชั้นก่อนจะเอาฝักบัวมาราด ถ้าจะสระผมก็ต้องนอนเอาหัวพาดขอบอ่างอาบน้ำ เป็นอะไรที่โคตรจะทุลักทุเลสุดๆครับ


“ทาแป้งมั้ยครับ?”  ผมพยักหน้า หลังจากอาบน้ำก็แต่งต้องตัว พี่จินจะทาแป้ง ทาครีม และใส่เสื้อผ้าให้ผม มันเป็นอย่างนี้ทุกวัน
จนนานขึ้นเป็นเดือน ผมเริ่มจะสงสัยว่าพี่จินเคยเบื่อมั่งมั้ย? ผมเป็นแบบนี้พี่จินก็ต้องดูแลใกล้ชิด จะออกไปธุระก็ไปได้แป๊บเดียว ยิ่งเห็นว่าช่วงนี้ต้องทำผลงานกลับไปส่งอาจารย์ที่ปารีสด้วย...


“ทำหน้างอทำไมครับน้องหนู หืม?” พี่จินถามขึ้นมาขณะที่กำลังตัดเล็บเท้าให้ผม
“พี่จินเบื่อหรือเปล่าครับ...”
“ถามแบบนี้อีกละ เมื่อไรจะเลิกคิดมากสักที”
“ไม่คิดไม่ได้หรอก เอมรู้ว่ามันน่าเบื่อที่ต้องมาคอยดูแลคนอื่นแบบนี้”
“...เอมไม่ใช่คนอื่นสำหรับพี่นะครับ” พี่จินขยับจากปลายเท้ามานั่งข้างๆแล้วโอบผมไว้
“เอมไม่อยากให้พี่จินเบื่อนี่ ไม่อยากเป็นภาระแบบนี้ พี่จินจะออกไปทำงานส่งอาจารย์ก็ไปไม่ได้”
“ชู่ว์” พี่จินจุ๊ปากแล้วก็เอานิ้วแตะปากผม
“พี่อยู่กับเอม ดูแลเอมแบบนี้ไม่ได้ไปไหน ก็ไม่ได้แปลว่าพี่จะไม่มีเวลาไปถ่ายรูปนะครับ”
“พี่จินจะบอกว่าพี่จินถ่ายรูปที่บ้านเหรอครับ?”
“ก็ประมาณนั้น” ผมทำหน้างงเข้าไปใหญ่ ที่บ้านนี่มีอะไรให้ถ่ายได้อ่า? ถึงบ้านมันจะสวย แต่ก็คงไม่ได้มีมุมมากมายที่จะเอาไปถ่ายส่งเป็นผลงานได้หรอกนะครับ พอพี่จินเห็นผมทำหน้าแมวงงแบบนั้นก็เลยลุกเดินเข้าไปในห้องทำงานพักใหญ่ ก่อนจะหอบกองอะไรบางอย่างออกมาด้วย


“อ้ะ นี่ไง” ผมมองกองรูปถ่ายที่ล้างแล้วตรงหน้า (ที่บ้านนี้มีห้องล้างรูปครับ พี่จินต่อเติมเองกับมือ) บางรูปที่เดาไม่ออกว่าอยู่ส่วนไหนของบ้านเพราะมันเป็นแค่จุดเล็กๆ แต่ดึงดูดสายตา บางรูปก็เป็นรูปคน เอ่อ...ผมเองแหละ กำลังทำอิริยาบถต่างๆ เช่น
รูปตอนที่พี่จินพาผมไปนั่งในสวนแล้วให้ผมรอพี่จินยกขนมมาให้ มันดูเป็นธรรมชาติมากเลยครับ แถมพี่จินยังถ่ายให้แสงและสีพอเหมาะ เห็นแล้วมันดูแบบว่า อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“หัวข้อผลงานเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ พี่ถ่ายแต่หน้าเอมแบบเนี้ย...” ผมพูดอุบอิบ ก็รูปมันมีผมเป็นองค์ประกอบทั้งนั้นเลยอะครับ เห็นแล้วเขิน แถมยังใส่เฝือกทุกรูปอีก
“...” พี่จินยิ้ม แล้วก็ยิ้มกว้าง ยิ้มแบบโลกสว่างทันตา อ๊า~ หล่อจัง  :m3:
“หัวข้อรูปคือ Best Place ครับ”...
“เอมเป็น Best Place ของพี่จินเหรอครับ” พี่จินพยักหน้า
“ต่อให้เอมเดี้ยงแบบนี้ เป็นภาระกับพี่จินน่ะนะ” พี่จินก็พยักหน้า
“เอมงี่เง่ามากๆเลยนะครับ”
“เรื่องนี้พี่ก็รู้ครับ หึหึ”
“แต่เอมก็รักพี่จินมากที่สุดเลย...” ผมกลั้นไม่ไหว บ่อน้ำตาพังครืน ผมอ้าแขนโผเข้าหาพี่จินที่พูดปลอบผมปนกับเสียงหัวเราะ สุดท้ายวันนั้นพี่จินก็ได้รูปตอนที่ผมร้องไห้เพิ่มเข้าไปอีก ทั้งที่บอกว่าห้ามถ่าย แต่ไอ้รูปหน้าขี้แยก็ยังถูกเอาไปแปะที่ผนังจนได้

เฮ่อ... ห้ามไม่ฟังกันบ้างเล้ย   :a6:


*** ไม่ดราม่าค่ะ ไม่เศร้าด้วย แต่ปัญหาหลักก็คือตอนนี้คิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี มึนตึบเลย  :really2:
*** ดีใจจัง มีคนชมว่าหนุเอมงี่เง่ากันหลายคนเลย ปลื้มค่ะ 555+

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2011 19:43:52 โดย บีบีจัง »

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
งี่เง่าสมวัยค่ะ
แต่พี่จินงี่เง่าเกินวัย(อีกนัยนึง)
คนมีความรักงี่เง่าทุกคนค่ะ


5555555555555 เวลามีความรักเหตุผลมันน้อยลงเป็นธรรมชาติเนอะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ชอบตรงที่พี่จินบอก "เอมก็ถึงวัยที่จะคิดลามกแล้วนะ"
รอตอนต่อไปค่า

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
ทำผิดแล้วรู้ตัวว่าผิดน่ายกย่องค่ะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :impress3:  ทำผิดแล้วรู้สึดผิด   น่ารักจ้าเอม


พี่จินน่ารักตลอด

ออฟไลน์ vascular

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
พึ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ รออ่านต่อนะครับ

...ปล. อยากเห็นดราม่าเปปเปอร์ อารมณ์เปปเปอร์เลิกกับโรส แล้วพึ่งมานึกเสียดายเอม แล้วก่อดราม่าพี่น้อง  555  ซาดิสม์

sakurazaka

  • บุคคลทั่วไป
อาจจะเป็นเพราะอ่านรวบสองตอน เลยรู้สึกว่าอย่างน้อยเอมที่งี่เง่า ก็ดูเข้าใจพี่จินมากขึ้น แต่ยังไงพี่จินก็หวานขนาดนี้ ก็ได้แต่หวังว่าหลังถอดเฝือกแล้วจะได้สวีทกันเต็มที่จริงๆ เสียที

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
รักน้องเอมจังเลยยย  ขนาดงี่เง่าก็ยังดูน่ารักอยู่เลยนะเนี่ย :man1:
พี่จินดูอบอุ่นจังเลยค่ะ นึกภาพ โหดเถื่อนไม่ออกเลยอ่ะ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อืม..ข้อดีของเอมคือ รู้ตัว-ยอมรับว่าตัวเองงี่เง่า
แต่เมื่อได้คิดและคิดได้ก็พยายามปรับตัวนะ
พีจินก็ต้องพยายามเข้าใจน้องแหละ

ป.ล. คนเขียนคะ พักบ้างอะไรบ้างก็ได้นะคะ  เป็นการไปชาร์ตไฟให้ตัวเองค่ะ
       เข้าใจนะว่า คนเราบางทีความคิดมันหยุดชะงัก เหมือนปิดswitchล่ะ
       แต่บางทีมันก็เหมือนน้องน้ำตอนคลั่งอ้ะ ไหลถะถั่งพรั่งพรูมาเชียว
        :กอด1:เรียกพลังให่ค่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เอมถึงงี่เง่าก็รักน๊า :กอด1:
1+ให้จ๊า

ออฟไลน์ yang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ รออ่านต่อนะครับ

...ปล. อยากเห็นดราม่าเปปเปอร์ อารมณ์เปปเปอร์เลิกกับโรส แล้วพึ่งมานึกเสียดายเอม แล้วก่อดราม่าพี่น้อง  555  ซาดิสม์

ความคิดดีอีกแล้วค่ะ
ตอนแรกกะลังคิด ว่าให้โรสตายเลยดีม่ะ(สะใจดี) แต่ก็กลัวว่ามันจะสะเทือนใจเกิ๊น
เอาเป็นเลิกกันก็พอเนาะ(?)
ที่แน่ๆคือไม่ตัดพี่เปปออกหรอกค่ะ อุตส่าห์โฉดมาตั้งกะต้นแล้ว 555+
ให้บทบาทแกต่ออีกหน่อยเนาะ
  o18

อืม..ข้อดีของเอมคือ รู้ตัว-ยอมรับว่าตัวเองงี่เง่า
แต่เมื่อได้คิดและคิดได้ก็พยายามปรับตัวนะ
พีจินก็ต้องพยายามเข้าใจน้องแหละ

ป.ล. คนเขียนคะ พักบ้างอะไรบ้างก็ได้นะคะ  เป็นการไปชาร์ตไฟให้ตัวเองค่ะ
       เข้าใจนะว่า คนเราบางทีความคิดมันหยุดชะงัก เหมือนปิดswitchล่ะ
       แต่บางทีมันก็เหมือนน้องน้ำตอนคลั่งอ้ะ ไหลถะถั่งพรั่งพรูมาเชียว
        :กอด1:เรียกพลังให่ค่ะ

ขอบคุณคุณ yayee2 มากค่ะ ไม่อยากจะบอกเลยว่าเดี๋ยวก็จะได้พักแล้ว
คงหายหลายวันเลย ช่วงนี้งานยุ่งโฮก
  :fire:

ชอบตรงที่พี่จินบอก "เอมก็ถึงวัยที่จะคิดลามกแล้วนะ"
รอตอนต่อไปค่า

อยากจัดตอนต่อไปให้ไวๆค่ะ แต่ขอตัวไปคิดอะไรโดนๆก่อนนะ
เพราะส่วนมากเวลาบีจะเขียนแต่ละตอนเนี่ย
มันจะต้องมีอารมณ์ประมาณว่า แว๊บพล็อตนี้เข้ามาในหัว
บางทีเจออะไรที่โดนใจในชีวิตจริงบีก็จะเอามาต่อยอดค่ะ
แต่อิเวลาคิดอะไรไม่ออกเนี่ย โคตรจะเครียดเลย
  :sad4:



สุดท้ายขอบคุณทุก คห.มากๆนะคะ และก็ขอให้ติดตามกันไปนานๆด้วย > <

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2011 19:50:26 โดย บีบีจัง »

ออฟไลน์ yang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สู้ๆนะคะ ยังจะรอต่อไปเสมออ  o13 o13

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คิดถึงจังเลยยยยยยยยยยย
หายเหนื่อยหรือยัง
มาส่งข่าวบอกกันบ้าง
ว่ายังสบายดีไม่ต้องอัพ
เรื่องก็ได้ :L2:
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าจ๊า
ขอให้มีความสุขในทุกวัน
สุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ :L1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ :L2:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-18-]
«ตอบ #297 เมื่อ12-01-2012 18:04:16 »

Love Sick

- 18 -



หลังจากที่ผมต้องทนทรมานกับไอ้เจ้าสองเฝือกมาหลายเดือน ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ที่ผมจะถอดเฝือกขาแล้วครับ! คงไม่ต้องบอกว่าผมจะดีใจแค่ไหน แต่ทว่าข่าวดีมักจะชอบมาคู่กับข่าวร้าย เพราะว่าพี่จินจะต้องบินไปปารีสหลังจากที่ผมถอดเฝือกได้สองวัน เห็นว่าต้องไปคุยกับอาจารย์เรื่องผลงานอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ


“คงไม่ได้คิดจะหนีเอมไปหากิ๊กที่โน่นใช่มั้ยครับ” ผมเอาคางเกยอกพี่จินแล้วถามเสียงแข็ง พี่จินเลิกคิ้วข้างหนึ่งแล้วตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มชวนโมโห
“คนไหนละครับ ซินดี้สาวผมแดงร้อนแรง หรือมารีสวยเอ็กซ์เซ็กสะบึม หรือว่าจะเป็นโทมัสหนุ่มน้อยหน้ามน โอ๊ย!” ผมกำหมัดทุบท้องพี่จินดังอั้ก เรื่องกวนประสาทเนี่ยไม่เคยแพ้ใคร
“ปากดีนัก! นี่แน่ะๆ”
“โอ๊ยๆ อย่าหยิกสิครับ มันเจ็บนะ”
“ใช่สิ พี่มันหล่อเลือกได้นี่” ผมผุดลุกจากตัวพี่จินแล้วมานั่งหน้างอที่โซฟาอีกด้าน พี่จินลุกตามมานั่งข้างผมแต่ก็ยังไม่วายยิ้มล้อผมอีก
“ก็เราน่ะ ถามอะไรก็ไม่รู้ ไม่ไว้ใจพี่หรือไง” ผมนิ่วหน้า ไม่ใช่ไม่ไว้ใจนะ แต่บางทีมันก็อดคิดไม่ได้ พี่จินต้องไปตั้งสองอาทิตย์เลยนะครับ...
“ความรักมันทำให้คนเราโง่ขึ้นนะครับ ยอมเชื่อทั้งที่ไม่มีหลักประกันอะไร...” รวมถึงยอมเลือกเส้นทางที่รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องทำให้เราเสียใจ ผมรู้เพราะว่าผมก็เคยเป็นมาก่อน
“แต่เอมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเสียใจที่เชื่อพี่นะครับ” ผมบีบมือพี่จินแน่น มองลึกเข้าไปข้างในดวงตาสีเข้มคู่นั้น ความรู้สึกของเจ้าของดวงตายังเหมือนเดิม พี่จินเคยมองผมด้วยความรู้สึกแบบไหน มันก็จะเป็นต่อไปอย่างนั้น...
“I love you” ผมร้อนวูบขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำนี้จากปากพี่จิน ผมก้มหน้างุด แต่ก็พยายามเค้นเสียงออกมา
“ผมก็รักคุณ...” เหมือนว่าน้ำเสียงตัวเองมันเบาหวิว แต่สำหรับพี่จินแล้วมันคงฟังชัดเจนดี เพราะรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้ผม มันดูอบอวลไปด้วยความสุข
“วันนี้น้องเอมแมนจังเลยนะครับ หึหึ”
“บ้า!” ผมงับเข้าที่บ่าของพี่จินเต็มรัก เสียงทุ้มร้องโอ๊ยนิดหนึ่งก่อนจะดึงเอาหัวผมออกจากบ่า มือใหญ่กำมะเหงกแล้วเขกที่หัวผมหนึ่งที
“ฮื้อ! พี่จินอะ หัวเอมโนแล้วมั้ง”
“หึหึ ไม่โนหรอก เขกเบาๆเอง” พี่จินเอามามาลูบๆตรงที่เขกหัวผม ผมซุกหน้ากับซอกคอของพี่จินอีก กลิ่นผิวกายผสมกับกลิ่นหอมของเสื้อผ้า แค่นี้ก็ทำผมเคลิ้มแล้วอะ
“พี่จินรู้มั้ยว่าพี่จินน่ะตัวห๊อมหอม” ผมเอานิ้วเขี่ยๆที่กระดุมเสื้อพี่จิน อยากรู้จังว่าข้างในจะหอมเหมือนข้างนอกมั้ย...
“หืม? ไม่รู้สิ ก็เพิ่งจะมีเอมเนี่ยแหละที่บอกแบบนี้” นั่นสิ ถ้ามีคนอื่นพูดแบบผมละเรื่องยาวแน่ หึ..
“เอมก็ตัวหอมรู้มั้ย ขนาดเหงื่อออกยังไม่มีกลิ่นเหม็นเลย ตัวก็นุ่มนิ่ม แก้มก็นุ่มนิ่ม” พี่จินหอมแก้มผมดังฟอดสลับไปมาทั้งสองข้าง ผมหลับตาปี๋ รู้สึกจั๊กจี้บอกไม่ถูกอ้ะ
“ฮิๆ พี่จิน อย่านะ เอมจั๊กจี้อ่ะ” ผมเอาสองมือดันหน้าพี่จินออก แต่ก็แพ้แรง ตัวก็ใหญ่ แรงก็เยอะ ขี้โกงชะมัด
“นี่ๆ พี่จินร้องเพลงให้เอมฟังหน่อยได้มั้ยครับ” ผมรู้สึกว่าพี่จินเริ่มจะสนุกกับการแหย่ผม เพราะงั้นผมก็เลยต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะดีกว่า พี่จินละจากแก้มผมแล้วทำสีหน้าคิด มือสองข้างก็ยังยึดเอวผมไว้แน่นเหมือนกลัวผมจะหนีงั้นแหละ
“แล้วเอมอยากฟังเพลงอะไรละครับ”
“เพลงอะไรก็ได้ พี่จินร้องเพราะทุกเพลงแหละครับ” ผมยิ้มหวาน
“งั้นเอาเพลงนี้แล้วกัน” พี่จินลูบหัวผมแล้วก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แค่คำแรกที่ร้องผมก็นึกออกทันทีเลยครับ


นี่แหละหัวใจหนึ่งที่มั่นคงเสมอ พร้อมจะให้เธอตลอดไป...
นี่แหละชีวิตหนึ่งที่ยังคงวางไว้ ให้เธอคนเดียว
เธออาจไม่รู้และยังสงสัย
ว่าทำไมฉันจึงทำเพื่อเธอทุกอย่าง
ต้องการสิ่งใด ทุกอย่างที่ทำไปนั้นเพื่ออะไร...
ฉันไม่มีเหตุผลใดให้เธอ
รักมันมีเหตุผลในตัวของมัน
ฉันแค่ทำสิ่งนี้ที่ใจฉันต้องการ เหลือแค่เธอจะยอมรับมันไป...


ให้ฉันได้มองเธออยู่ที่ตรงนี้ แค่เท่านี้ฉันก็สุขใจ
ที่ฉันได้ทำอยู่ อาจไม่มีความหมาย
แต่ทำเพื่อเธอ
เธออาจไม่รู้และยังสงสัย
ว่าทำไมฉันจึงทำเพื่อเธอทุกอย่าง
ต้องการสิ่งใด ทุกอย่างที่ทำไปนั้นเพื่ออะไร...
ฉันไม่มีเหตุผลใดให้เธอ
รักมันมีเหตุผลในตัวของมัน
ฉันแค่ทำสิ่งนี้ที่ใจฉันต้องการ เหลือแค่เธอจะยอมรับมันไป...



ผมมักจะชอบคิดเข้าข้างตัวเองเวลาที่ฟังพี่จินร้องเพลงรัก ผมไม่รู้ว่าสายตาที่พี่จินมองมาที่ผมนั้นส่อนัยอะไรหรือเปล่า ผมรู้แค่ว่าสายตาของพี่จินมีพลังเหลือเกิน สายตาของพี่จินทกให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รักมากเหลือเกิน


“พี่จินรู้มั้ยครับ ว่าเรื่องเดียวที่ทำให้ผมเสียใจตั้งแต่คบกับพี่จินคืออะไร” ผมหันหลังนั่งพิงกับอกพี่จิน แขนของพี่จินกระชับกอดผมแน่นขึ้น บางทีประโยคที่ผมพูดออกมาอาจทำให้พี่จินใจหาย
“เรื่องอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย?”
“...” ผมเขี่ยหลังมือพี่จิน อยากจะหอมมือพี่จินจังเลยแฮะ > <
“ผมเสียดาย... ที่เราไม่ได้เจอกันเร็วกว่านี้...” ผมหันไปสบตาพี่จิน
“ถ้าผมได้รักพี่จินไวกว่านี้ ผมคงจะได้สัมผัสความรู้สึกดีๆมากกว่านี้ เราคงจะได้มีความสุขกันมากขึ้นไปอีก...” บางอย่างมันรื้นขึ้นมาในดวงตา ผมกัดริมฝีปาก กลั้นใจไว้ต้องไม่ร้องไห้ ทำไมผมเป็นพวกอ่อนไหวแบบนี้นะ..
“ไม่เห็นต้องเสียดายเลยครับ ถึงเราจะพบกันช้าไป แต่เราก็สามารถที่จะทำดีให้กันและกันเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปได้นี่ครับ” นี่แหละ คนที่ผมรัก... พี่จินมักจะเปลี่ยนความรู้สึกแย่ๆให้เป็นเรื่องดีได้เสมอเลย
“ไหนขอพี่จุ๊บหน่อยสิ” ผมยื่นหน้าไปจุ๊บกับริมฝีปากนุ่มของพี่จิน รู้สึกถึงอุณหภูมิของลมหายใจพี่จินและกลิ่นมิ้นท์อ่อนๆ... จากจุ๊บเบาๆ ก็กลายเป็นจูบร้อนแรงไปเมื่อไรไม่รู้
“อะ...อื้อ... พี่จิน... เอมหายใจไม่ทันครับ...”  ผมประท้วง แต่พี่จินก็ยังไม่ผละออก
“ต้องหัดจูบบ่อยๆ จะได้คล่องไงครับ...”
“มะ.. ไม่ใช่แล้ว อื๊อ เจ็บ!” เหอะๆ ไม่รู้เลยครับว่าจะเจ็บตรงไหนก่อนดี ตรงที่พี่จินกัดริมฝีปากผม หรือที่พี่จินบีบก้นผมกันแน่ เอะ... ว่าแต่ก้น...
“อ๊า อย่าลวนลามเอมนะ!” ผมดึงมือพี่จินที่ล้วงเข้าไปบีบก้นผมในกางเกงครับ ทำไมเดี๋ยวนี้มือไวอย่างนี้นะ >//<


พูดถึงมือไว ตั้งแต่ตอนที่ผมใส่เฝือกก็ต้องให้พี่จินคอยช่วยเวลาทำโน่นนี่นั่น พี่จินก็มักจะฉวยโอกาสลวนลามผมประจำเลย บางทีเวลาอาบน้ำ เขาก็จะเอามือมาลูบๆตัวผมแล้วก็จูบ ลูบไปลูบมา จูบไปจูบมา สุดท้ายผมก็ต้องเสียเวอร์จิ้นให้มือพี่จินในห้องน้ำไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไหนจะตอนก่อนเข้านอนอีก ฮือ....


“เอมทำให้พี่จะคลั่งตายอยู่แล้วนะรู้มั้ย ทำไมถึงทำให้พี่ต้องการได้ขนาดนี้ หืม?” เสียงกระซิบข้างหูทำให้ผมนั่งตัวแข็งทื่อ นึกอะไรไม่ออก  ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดที่ใบหูและสัมผัสจากริมฝีปากที่ไล้เล็มซอกคอยิ่งชวนให้ใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“ขอพี่สัมผัสได้มั้ย... แค่สัมผัสนะครับ...” ในใจก็คิดว่าไม่เชื่อหรอก แต่ก็ดันพยักหน้ารับซะอย่างนั้น ...

พอรู้ตัวอีกที แผ่นหลังผมก็แนบกับโซฟาแล้ว กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวที่ใส่ก็ร่นลงไปกองที่ขา พร้อมกับศีรษะของร่างสูงที่ง่วนอยู่ตรงหว่างขาของผม สัมผัสอุ่นร้อนของพี่จินทำให้ผมเหมือนจะเป็นลม ไหนจะนิ้วเรียวยาวที่สอดเข้ามา...
“อือ... พี่จิน...”
“อย่าเกร็งนะ..” เสียงพี่จินปลอบประโลมพร้อมกับมือที่ยังคงทำหน้าที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง รู้สึกอีกทีผมก็ทำพี่จินเลอะคราบขาวๆจากตัวผมเต็มไปหมด...


“อะ...พี่จิน... เอมทำเองครับ...” ผมรั้งไว้ไม่ให้พี่จินทำความสะอาด ผมอายง่ะ มีความสุขอยู่คนเดียว แถมยังให้พี่จินทำความสะอาดให้อีก
“มีแรงรึไงเรา นอนเฉยๆเถอะ” พี่จินจับให้ผมนั่งจุ้มปุ๊กบนโซฟาแล้วเขาก็เดินเอาทิชชู่ไปทิ้ง สักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับจะพาผมไปอาบน้ำ

วันนี้ผมได้อาบน้ำอุ่นแหละ พี่จินรองน้ำจนเต็มอ่างแล้วเอาไม้มาพาดให้ผมวางขากับแขน ผมนั่งแช่น้ำพลางมองพี่จินเตรียมเครื่องอาบน้ำให้ผมแล้วก็คิดอะไรดีๆออก
“พี่จินไม่อาบด้วยกันเหรอครับ?” ผมถามพร้อมกับทำตาแป๋ว พี่จินทำหน้าเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง จนกระทั่งผมดึงข้อมมือพี่จินอีกครั้งนั่นแหละ
“อ่า... งั้นขอพี่ไปถอดเสื้อผ้าแป๊บครับ...” แล้วผมก็นั่งบีบน้องเป็ดเล่นระหว่างรอพี่จิน รู้สึกเขินไงไม่รู้ว่ะ แต่ทำไงได้ละ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเอาเปรียบพี่จินมากเกินไปแล้ว


เสียงประตูห้องน้ำเลื่อนเปิดทำให้ผมหันไปมอง ร่างสูงแกร่งปราศจากเสื้อผ้าปกปิด มีเพียงผ้าขนหนูผืนน้อยที่พี่จินเอามาปิดตรงกลางร่างกายไว้ ผมเผลอกลั้นหายใจไปเฮือกหนึ่ง รู้สึกอยากจะสัมผัสร่างกายของคนตรงหน้าเหลือเกิน


***********************************************************


ผมค่อยๆจุ่มตัวลงไปในอ่างน้ำ น้ำอุ่นกำลังพอเหมาะ แต่ไอ้บรรยากาศตอนนี้สิที่มันเริ่มจะร้อนฉ่าเกินไป แล้วน้องเอมจะหน้าแดงทำไมครับ แค่นี้ผมก็กลั้นจะตายห่_แล้ว ถ้าไม่ติดที่ผมกลัวว่าจะทำกระดูกน้องมันหักไปมากกว่านี้ละก็ ผมจับมันกดตั้งแต่ที่อาบน้ำให้วันแรกแล้ว

ภาพตรงหน้าผมก็โคตรจะอีโรติก อ่างอาบน้ำบ้านผมมันจะเป็นพื้นอ่างไล่ระดับ มีจุดตื้นและจุดลึก น้องเอมมันนั่งบนขั้นที่ตื้นๆแล้วเอาขาพาดให้พ้นน้ำ ไอ้ท่าฉีกขานั่นน่ะทำเอาผมจะบ้า ยังดีที่ในอ่างมีฟองฟ่อด เลยมองไม่ค่อยเห็น

“เดี๋ยวพี่ถูสบู่ให้ครับ” ผมบีบสบู่เหลวสีแดงออกมา ขวดนี้เอมชอบมากครับ กลิ่นพีช

ผมลูบมือไปตามผิวกายของน้อง ฟองสบู่นุ่มๆยิ่งทำให้เอมตัวลื่นเข้าไปใหญ่ ไอ้การที่ผมลงมาอาบน้ำพร้อมน้องนี่มันจะทำให้ผมทรมานใจทรมานกายมากขึ้นหรือเปล่านะ ข้อดีเพียงข้อเดียวของการอาบน้ำที่ผมคิดได้ตอนนี้คือผมไม่ต้องระวังตัวเปียกน่ะครับ = =

“เอมก็อยากถูสบู่ให้พี่จินบ้าง...”
“เอาไว้ให้หายก่อน แล้วพี่จินจะให้เอมอาบน้ำให้บ้างนะครับ แต่ตอนนี้เอมต้องให้พี่ดูแลไปก่อน”
“ครับ” น้องมันพยักหน้าว่าง่ายเชียวครับ น่ารักว่ะ...
“ถ้าถึงตาที่เอมต้องอาบน้ำให้พี่ จะไม่ใช่แค่อาบเฉยๆหรอกนะ...” ผมพูดลอยๆ แต่ก็ทำเอาเด็กบางคนแถวนี้สะดุ้งได้เหมือนกันครับ... หึหึ

***********************************************************



** หายไปนานมาก แบบว่าได้รับงานใหม่ฉลองปีใหม่ หัวหมุนเชียวค่ะ T T


ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
โหยยย อ่านแล้วยิ่งอยากอ่านตอนหน้ามากยิ่งขึ้น
ยินดีด้วยค่ะที่ได้งานใหม่ ^^

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
ถ้าถึงตาที่เอมต้องอาบน้ำให้พี่จิน สงสัยพี่จินต้องขอโปรโมชั่นพิเศษแน่ๆ

แบบว่าอาบน้ำแล้วแถมนาบให้ด้วย  หึหึ

คราวนี้แหล่ะนู๋เอมได้หมดเรี่ยวแรงแน่ๆ  หึหึ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด