Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Sick เมื่อร่างกายตกเป็นทาสของหัวใจ [-23-] จบแล้วค่ะ!!  (อ่าน 196249 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เอื้อกกกกกก
สงสารพี่จิน ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะ ทีนี้ฟันได้กระจุย :o8:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
พี่จินอดทนจริงๆ น่าชื่นชมมาก อิๆ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
น้องเอม -พี่จิน ยังหวานน่ารักเหมือนเดิม
ได้บุรุษพยาบาลชั้นยอดแบบนี้ ร่างกายน้องเอมต้องคืนสู่สภาพปกติไวแน่ๆ
ซึ่งเราขอให้เป็นเช่นนั้น เพราะเห็นใจพี่จินน่ะ ช่วงน้องเข้าเฝือกพี่เขาคงทรม้าน ทรมานแหละ

ป.ล. ดีใจด้วยนะคะกับงานใหม่ ขอให้มีความสุขกับการทำงานจ้ะ

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
มดขึ้นจอไปเลย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ถึงตอนนั้นเอมจะได้อะไรมากกว่าอาบน้ำน่ะสิ  พี่จินคงนับวันรอเลยล่ะ

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-19-]
«ตอบ #305 เมื่อ13-01-2012 17:13:37 »

Love Sick

- 19 -



วันนี้พี่จินพาผมมาถอดเฝือกขาโรงพยาบาลตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน โรงพยาบาลรัฐบาลเนี่ย ยิ่งสายคิวยิ่งเยอะว่ามั้ยครับ
“เอม ดื่มนมก่อนครับ เดี๋ยวท้องว่าง” พี่จินยื่นกล่องนมมาให้ตรงหน้าผม มืออีกข้างหิ้วถุงพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อ ผมรับกล่องนมที่เจาะหลอดดูดมาให้เรียบร้อยแล้วก็สัญญากับตัวเองไว้ในใจว่าถ้าหายดีจะขอเป็นฝ่ายดูแลพี่จินบ้าง T T

ผมแอบมองพี่จินที่ไม่น่าเชื่อว่าเอาเข้าจริงจะเป็นคนที่ดูใจดีมากกว่าท่าทางแข็งๆภายนอก นึกถึงเมื่อก่อนสิ แค่หน้าผมยังไม่อยากมองเลยอะ นับประสาอะไรกับการมานั่งใกล้กันแบบนี้...
“มองหน้าพี่ทำไมครับ?”
“มองก็ไม่ได้ ขี้งกจัง”
“ฮื้อ ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ละ” พี่จินยกแขนมาโอบไหล่ผมแบบไม่แคร์สายตาพี่ป้าน้าอาแล้วก็ยกกาแฟขึ้นมาดื่ม ว่าแต่กาแฟเนี่ยมันอร่อยนักเหรอ? ผมว่ามันขมออกจะตาย ผมไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไรหรอกนะ
 
นั่งเล่นกันสักพักคุณพยาบาลก็เรียกให้ผมเข้าไปในห้องตรวจ พี่จินปฏิเสธตอนที่พยาบาลจะเข้ามาเข็นรถเข็นของผม และจัดการเข็นเข้าไปเองเสร็จสรรพ พี่จินเทคแคร์ดีจนผมรู้สึกว่าได้รับรังสีอำมหิตจากพยาบาลแถวนี้มากเป็นพิเศษ

“อืม ถือว่าฟื้นตัวไวมากนะครับ แสดงว่าดูแลรักษาร่างกายได้ดี ถ้าขยันเดินบ่อยๆ ไม่นานก็จะกลับมาเดินคล่องเหมือนเดิมเองแหละ” คุณหมอพูดไว้อย่างนี้น่ะครับ เสร็จแล้วพี่แกก็จัดการเอาเลื่อยมาตัดเฝือก ความรู้สึกแรกหลังจากที่เฝือกหลุดออกไปจากขามันโล่งแบบบอกไม่ถูกเลยครับ เหมือนจะบินได้ประมาณนั้นเลย

“เดินไหวมั้ยเอม?” พี่จินยื่นมือมาให้ผมจับขณะที่ลองพยุงตัวเอง ผมรู้สึกแปลกๆเหมือนเด็กหัดเดินแหะ...
“ไหวครับ”
“ก็ค่อยๆเดินนะครับ อย่าเพิ่งหักโหม” ผมก็คงไม่คิดจะวิ่งตอนนี้หรอกครับคุณหมอ เหอะๆ หักอีกรอบละจะยุ่ง

พี่จินพาผมมานั่งรอระหว่างที่ตัวเองไปจัดการเรื่องเงินๆทองๆ พอขาหายแล้วผมก็เริ่มซ่า อยากจะไปเรียนสุดๆ แต่ถึงไปผมก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกครับ แขนเดี้ยงแบบนี้ T T

“ช่วงที่พี่ไม่อยู่น่ะ ก็ชวนพวกเพื่อนมาอยู่ด้วยนะ จะได้คอยช่วยเหลือกันได้” พี่จินพูดขึ้นมาผมก็นึกได้ วันมะรืนแล้วนี่นาที่พี่จินจะไปปารีส ฮือ...............
“อ้าว ทำหน้างอทำไมครับ”
“เปล่า”
“เปล่าอะไรละ พอพี่พูดเรื่องจะไปปารีสก็หน้าบูดเชียว”
“ก็เอมไม่อยากให้ไปเลยนี่ครับ” ผมจับแขนพี่จินไว้แน่น ทำไมที่จอดรถมันไกลแบบนี้นะ
“เดี๋ยวก็กลับมา พี่ไม่ได้ไปตายนะครับอย่าทำหน้าเศร้า” พี่จินพูดยิ้มๆ
“ก็รู้ครับ แต่เอมคิดถึงนี่...”
“ทำยังกับพี่ไม่คิดถึงแน่ะ” ตามนั้นแหละครับ พี่จินยืนยันหนักแน่นแบบนั้นผมก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรแล้วแหละครับ ทำใจยอมรับและเลิกงอแงดีกว่านะ..


ผ่านไปสองวันผมก็กลับมาเดินได้คล่องแคล่วเหมือนเดิมแล้วครับ วันนี้คือวันที่พี่จินจะเดินทาง ผมเองก็ตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าวง่ายๆให้พี่จินทาน แล้วก็มานั่งรอพี่จินอยู่หน้าบ้านเนี่ยแหละ

ผมลองนับวันดูเล่นๆว่าไม่ได้ไปเรียนมากี่วันแล้ว พวกอาจารย์แกก็ใจดีนะครับ อนุญาตให้ผมหยุดได้จนกว่าจะถอดเฝือกขา แต่จะต้องส่งงานให้ครับทุกชิ้น ถอดเฝือกขาเมื่อไรก็ค่อยไปเรียนครับ

ปิ๊งป่อง~

เสียงกดออดเรียกให้ผมเดินไปส่องดูว่าใครมาหา ผมเดินไปจนถึงประตูรั้วก็เห็นผู้ชายตัวสูงที่ยืนหันหลังให้ ผมเอียงคอด้วยความแปลกใจ ไม่มีเพื่อนผมคนไหนรูปร่างแบบนี้นา...

“!” เสียงเดินของผมทำให้ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามา พร้อมกับตัวผมที่แข้งขาอ่อนหมดเรี่ยวแรงเมื่อเห็นหน้าเขา คนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบแบบไม่คาดฝันกลับมายืนตรงหน้าผม...
“เอม...”  ผมยังคงยืนนิ่งเมื่อเขาเรียกชื่อผม ใจสับสนว่าจะทำยังไงดี..

A: เดินเข้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
B: เปิดประตูให้และถามไถ่ทุกข์สุขว่าสบายดีไหม
C: กลับเข้าบ้านไปบอกพี่จินให้มาเปิดประตู

ผมยังคิดบ้าบอไม่ทันจบพี่จินก็เดินออกมาพอดี พอเห็นหน้าคนๆนั้นพี่จินก็มายืนขวางหน้าผมและถามพี่ชายตัวเองเสียงแข็ง
“มึงมาทำอะไร?” คนที่ถูกถามยิ้มหน้าปุเลี่ยน เมื่อถูกพูดด้วยน้ำเสียงห่างเหินจากน้องชาย ผมที่ยืนอยู่หลังพี่จินเกาะเสื้อพี่จินไว้แน่น ทำไมเหมือนว่าอะไรก็ประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน....
“กูแค่จะมาพักผ่อน เห็นแม่บอกว่ามึงอยู่ที่บ้านคุณยาย กูก็เลยลองมาดู ไม่นึกว่าจะเจอ...”

ผมรู้ว่าพี่จินก็คงกระอักกระอ่วนเหมือนกัน กระเป๋าเดินทางของพี่เปปเปอร์บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงตั้งใจจะมาพักผ่อนที่นี่ แล้วไหนจะเป็นสายเลือดเดียวกันอีก จะไล่ก็ใช่ที่ แต่ก็ไม่ได้อยากให้อยู่ที่นี่
“พี่จิน... ให้เขาเข้ามาก่อนเถอะครับ” ผมกระซิบบอกพี่จินเบาๆ พี่จินเอื้อมมือมาบีบมือผมก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้พี่เปปเปอร์เข้ามา ส่วนผมก็เดินเลี่ยงเข้าไปในบ้านทันที

“มึงจะมาอยู่กี่วัน” พี่จินเดินมานั่งข้างผมแล้วโอบเอวผมไว้
“ก็คงสักครึ่งเดือน”
“แล้วไม่ไปเรียนหรือไง”
“ช่วงนี้ทำวิจัย ไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้”

ผมนั่งฟังพวกเขาคุยกันแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ผมไม่เคยจะสนใจอยู่แล้วว่าเขาจะเป็นยังไง เขาจะเรียนที่ไหน เรียนอะไรก็ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย แต่ไอ้เรื่องที่เขาบอกว่าจะมาอยู่เนี่ยสิ ทำเอาผมหงุดหงิดไม่ใช่น้อย

“จริงๆแล้ววันนี้กูจะต้องไปปารีส แล้วก็คงไม่อยู่อีกเกือบสองอาทิตย์ เพราะงั้นคงไม่สะดวกที่จะให้มึ-”
“อย่าใจดำสิวะ นี่กูอุตส่าห์ตั้งใจมาที่นี่โดยเฉพาะเลยนะ”
ผมนั่งฟังสองพี่น้องเถียงกัน คนหนึ่งตื๊อ อีกคนหนึ่งพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่รู้ว่าหลังจากที่มีเรื่องของผมไปแล้ว พี่น้องคู่นี้มีความสัมพันธ์เป็นยังไงกันบ้าง ที่แน่ๆผมว่าพี่จินคงไม่ค่อยแฮปปี้กับพี่ชายตัวเองเท่าไรนัก
“แล้วกูจะไปอยู่ไหนวะ กูไม่อยากไปอยู่โรงแรม แถมแม่ก็เอาบ้านพักที่หัวหินให้พวกอายืมใช้อยู่” พี่เปปเปอร์ตื๊อจนพี่จินเองก็ถอนใจเฮือกใหญ่ ผมเลยสะกิดที่แขนพี่จินเบาๆ
“ครับเอม?” พี่จินหันมาถามผมด้วยสีหน้าคนละแบบกับที่มองพี่เปปเปอร์เลยครับ ทำไมเปลี่ยนไวจัง =..=
“คือว่าพี่จินไม่ต้องห่วงเอมหรอกนะครับ เอมอยู่ได้...” พี่จินมองผมด้วยสายตาไม่มั่นใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงแขนผมไปด้านนอกให้ห่างมากพอที่พี่เปปเปอร์จะไม่ได้ยิน

“เอมไม่จำเป็นต้องฝืนหรอกนะครับ ไอ้เปปมันจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้อยู่แล้ว มันทำงี่เง่าไปเองแหละ” พี่จินพูดกับผมด้วยเสียงจริงจัง
“ไม่ฝืนหรอกครับ บ้านก็ตั้งกว้าง ยังไงก็ต่างคนต่างอยู่”
“แต่พี่ไม่อยากให้มันมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเอมตอนที่พี่ไม่อยู่”
“เอมก็รู้ครับพี่จิน แต่ว่าการที่เราจะไม่ให้เขาอยู่มันก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาก็มีสิทธิ์ในบ้านนี้เท่ากับที่พี่จินมี และถ้าเกิดว่าพี่จินเห็นแก่เอมจนไม่ยอมให้พี่ชายตัวเองมาพักก็น่าเกลียดเกินไปนะครับ” พี่จินทำสีหน้าครุ่นคิดเมื่อได้ฟังที่ผมพูด ผมเองก็ไม่ได้ทำใจได้อย่างที่พูดหรอกนะครับ แต่หากคิดถึงความเป็นเหตุเป็นผลแล้ว จะไล่ไม่ให้เขามาอยู่ก็คงไม่ได้ ผมเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรกับที่นี่ด้วย สิ่งเดียวที่จะทำให้ผมรู้สึกแย่ก็คือการที่ ‘ตัวตน’ ของคนๆนั้นจะเข้ามาแปดเปื้อนในสถานที่ของพี่จินกับผมต่างหาก...


สรุปแล้วพี่จินก็จัดให้พี่เปปเปอร์นอนในห้องชั้นล่างครับ เขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับผมที่ชั้นบน ตอนที่พี่จินจะขับรถไปสนามบินก็หันมาสั่งเสียผมไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จนผมคิดว่าถ้าทำได้พี่จินอยากจะเอาผมเข้ากระเป๋าไปด้วยซ้ำ

“พี่จะโทรหาทุกวันนะ” พี่จินเอามือลูบแก้มผมตอนที่ผมเกาะอยู่ที่ประตูรถ นึกแล้วก็ใจหาย จะไม่ได้สัมผัสกันแบบนี้อีกนาน ผมหลับตาแล้วจับมือพี่จินให้แนบแก้มผมมากขึ้น ฮือ.. คิดถึงอะ
“เอมคิดถึงพี่จินนะครับ รีบทำธุระให้เสร็จแล้วก็รีบกลับนะ” เหมือนน้ำตาจะคลอๆอะ งือ..
“อืม ถ้ามีอะไรต้องบอกพี่ทันทีเลยนะครับ โทรมาเมื่อไรก็ได้ พี่เปิดบริการโทรข้ามประเทศให้แล้วนะ”

ถ้าผมไม่ตัดใจออกปากไล่ให้พี่จินไปละก็คงตกเครื่องแน่ๆครับ คุณลองนึกภาพในหนังดูนะ ฉากที่นางเอกโบกมือลาให้พระเอกน่ะ อารมณ์นั้นเลยแหละ T^T

หลังจากพี่จินขับรถออกไปแล้วผมก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน มองไปรอบๆไม่เห็นพี่เปปเปอร์นะครับ สงสัยจะเข้าห้องไปแล้ว ผมก็เลยขึ้นไปบนห้องตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่อยากจะเผชิญหน้าน่ะครับ


..

........

.............

.......

....

..

.

..


.

.


เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก พี่เปปเปอร์มาอยู่ได้สาม-สี่วันแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เคยเจอหน้าเขาอีกเลยตั้งแต่วันแรก ดูเหมือนว่าผมจะตื่นเช้าไปเรียน ส่วนเขาตื่นสาย ผมกลับไว ส่วนเขากลับดึก หลังจากที่ผมเล่าสถานการณ์ที่บ้านให้ฟังแล้ว บางวันกิมันก็ตามมานอนกับผมด้วย


วันนี้เป็นวันหยุดซึ่งผมไม่มีเรียน  ผมอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาเพื่อวางแผนว่าจะทำอะไรดี ชิ่งหนีออกจากบ้านไปเลยดีมั้ย มืดๆค่อยกลับ หรือว่าจะเล่นเกมมาราธอนดี? คิดไปคิดมาไม่โอสักกะอย่าง วันนี้ผมอยากนั่งวาดรูปอยู่บ้านอะ


ผมจัดแจงขนของกินและเครื่องดื่มสำหรับดำรงชีวิตในวันนี้ไปที่ห้องวาดรูปข้างห้องนอน ด้วยแขนข้างเดียวนี่มันก็ลำบากเหมือนกันนะ แต่ไม่มีอะไรที่ชะเอททำไม่ได้หรอกคร้าบ~
ผมที่หอบข้างเต็มแขนใช้เท้าถีบประตูห้องปิดเบาๆ เฟรมวาดรุปยังคงตั้งอยู่ที่เดิม กลิ่นผ้าใบ กลิ่นสีช่างชวนให้คิดถึง คอยดูนะ ถ้าผมถอดเฝือกแขนเมื่อไรละจะวาดรูปมันทั้งวันทั้งคืนเลย

“ยังเก่งเหมือนเดิมเลยนะครับ” เสียงจากด้านหลังทำเอาผมที่กำลังเพลินหยุดมือทันที ขนบนร่างกายผมมันก็ลุกซู่ขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมาย นี่ผมจะรู้สึกขนลุกอะไรได้ขนาดนี้เนี่ย
“พี่มีธุระอะไรหรือเปล่า” ผมถามเสียงเย็น โอ๊ย ทำไมผมถึงรู้สึกเกลี๊ยดเกลียดคนๆนี้ขนาดนี้นะ!
“พี่ก็แค่อยากมาพูดคุยทักทายด้วยไม่ได้เหรอครับ”
“แล้วพี่ไม่คิดบ้างเหรอครับว่าผมจะอยากคุยกับพี่หรือเปล่า?”
“แหม ไม่เจอกันไม่กี่ปี วาจาเผ็ดร้อนขึ้นเยอะเลยนะ” ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าน้ำเสียงของผู้ชายคนนี้มันฟังดูก้อร่อก้อติกน่าขยะแขยงพิกล อันที่จริงมันไม่สมเหตุสมผลด้วยซ้ำที่ผมจะต้องรู้สึกรังเกียจอะไรเขาขนาดนี้ มันเพราะอะไรกันนะ?

“แถมยังน่ารักกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะ” อี๋ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ชัดเลย กลิ่นแบบนี้!! เมามาชัดๆ
“อย่ามายุ่งกับผม!” ผมปัดมือพี่เปปเปอร์ที่จับลงมาบนบ่าของผมอย่างถือวิสาสะ กลิ่นละมุดและกลิ่นอาเจียนโชยมาพอให้ผมคลื่นไส้ ความขยะแขยงมันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาจนหยุดไม่อยู่
“แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยเหรอ ทีเมื่อก่อนละ พี่เปปเปอร์อย่างนั้น พี่เปปเปอร์อย่างนี้” เขาบีบไหล่ผมแน่นมากเลยครับ แถมยังล็อกแขนข้างที่ดีของผมไว้ ส่วนอีกข้างที่ใส่เฝือกน่ะเหรอ? ช่วยอะไรไม่ได้เลยแม่ง - -*
“เมาแล้วก็ไปนอนซะ อย่ามาทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้!”
“กูไม่ได้เมาโว้ย! แล้วก็มึงนั่นแหละที่ปัญญาอ่อน ร่าน แรด ไม่ได้พี่ก็ไปเอาน้อง ทำไม!! เห็นว่าบ้านกูรวยก็เลยอยากจับพวกกูทำผัวจนตัวสั่นสินะ ที่ร่านมาอยู่กับไอ้จินนี่คงเสร็จน้องกูไปนานแล้วสิ เอากันไปกี่ท่าแล้วละ!!”


โครม!


พี่เปปเปอร์ล้มกระแทกลงกับกองถังสีด้านหลัง ผมลุกยืนหอบแฮ่กๆเพราะว่าออกแรงถีบไปที่ท้องของมันจนเต็มแรง ผมไม่เคยโมโหใครจนต้องลงไม้ลงมือแบบนี้มาก่อนเลย ในเมื่อผมชกมันไม่ได้ ผมก็ถีบแทน แต่ดูท่าว่าเขาคงจะยังเมาไม่พอ เพราะตอนนี้ไอ้พี่เปปเปอร์ลุกมาจ้องหน้าผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อได้แล้ว

“เก่งนักเหรอมึง!” ผมลืมไปครับว่าสมัยเรียนเขาเป็นนักกีฬา แถมร่างกายก็ใหญ่โตกว่าผม รู้ตัวอีกทีผมก็ถูกจับโยนไปกับผนัง เจ็บจนจุก แต่ยังดีที่เฝือกแขนไม่กระแทกซ้ำ เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วคร่อมผมเอาไว้ ก่อนจะเอามือบีบคางผมเต็มแรง
“เก่งนักก็ขัดขืนกูให้ได้ตลอดรอดฝั่งนะ!!”


***********************************************************



*** เอ่อ... ดูเหมือนจะเข้าใจผิดกันไปเยอะ... คำว่างานใหม่ของบีไม่ได้หมายถึงที่ทำงานใหม่นะคะ
บีหมายถึงได้รับมอบหมายงานชิ้นใหม่ต่างหาก
  :sad4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2012 17:16:44 โดย บีบีจัง »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
5555 นึกว่าได้งานใหม่ซะอีกค่ะ ทำไมไอพี่เปป มันชั่วงี้เนี่ยยย

andromeda

  • บุคคลทั่วไป

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว ! เปปเปอร์ มาคราวนี้ไหงมาลุคน่า :z6:แบบนี้ล่ะ
ความสุภาพอ่อนโยนหายไปกับกาลเวลาเหรอ
ไม่เหมือนคนเคยคบกันแบบคนรักที่เข้าใจกันกับเอมมาก่อนเลย
ทำไมกลายเป็นอันธพาลไป แถมดูหมิ่นน้ำใจเอมได้ซะขนาดนั้น
แล้วเอมจะรอดไหมเนี่ย ยิ่งกำลังเดี้ยงๆอยู่ด้วย เพี้ยง ! ปาฏิหาริย์จงบังเกิด

อ้าว ! (ที่2) เข้าใจผิดไปเหรอ  :o8: ไม่เป็นไรเนาะ ก็ ให้มีความสุขกับงานชิ้นใหม่นี่ละกัน

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ถ้าจะเศร้ายาว ใครจะมาช่วยได้ทัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :fire: :angry2: :m31: :m16:   ไอชั่ว

แก  :z6: :beat:  ไปตายซะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
โอ๊ยยยยยยยยย  ไม่น่ะ    :serius2:    :serius2:

นายเปปเปอร์มันเป็นอะไรนึกเสียดายนู๋ชะเอมหรือว่ามันคือนิสัยจริงๆของนายกันแน่

ใครก็ได้มาช่วยนู๋เอมที   ถ้าเป็นไปได้พี่จินรีบกลับมาช่วยนู๋เอมด้วยนะ   :z10:    :z10:


ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อ่านะ อีเปปจะได้เปนตัวร้ายเต็มขั้นแระ เหอะๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เอ่อ  อะไรเนี่ยะ  สันดานเดิมหรือว่านิสัยเปลี่ยน  ทำไมเปปเปอร์เป็นได้ขนาดนี้ล่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
แล้วใครจะมาช่วยเนี่ย
ทำมัยทิ้งระเบิดไว้แบบนี้
น้องบีบีจัง :z3:
+1จ๊า

santra

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตั้งแต่ตอนแรกมาจนถึงตอนนี้
ชอบมากเลยค่ะ ขอโทษนะคะะ
ที่ไม่ได้คอมเม้นให้ทุกตอน
ดำเนินเรื่องเ็ร็วดี ไม่ได้ปล่อยให้เรื้อรัง

ว่าแล้วว่าต้องคู่กะพี่จิน น้องเอมนี่เสน่ห์แรงจริงๆ เลย
ไปที่ไหนก็มีแต่คนชอบ คนเอ็นดู น่ารักจริงๆ

พี่เปปกลับมาทำไมเนี่ย นิสัยเปลี่ยนจกหน้ามือเป็นหลังเท้า
แอบสลับตัวกันป่ะเนี่ย แต่ชอบคาแรคเตอร์พี่จินอ่ะ
ดูขรึมๆ นิ่งๆ แต่อบอุ่น น่ารักกับน้องเอมคนเดียว
น่ารักอ่ะ ขอให้พี่พีร์จีบน้องตองติดสักทีนะคะ
เชียร์อยู่นะคะ สู้ๆ เนอะ

ออฟไลน์ yang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โว้วววววววววววววว

พี่จินกลับมาเหอะ ! :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ounnajak

  • บุคคลทั่วไป
บอกได้คำเดียว "ไอ้ชั่วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Love Sick [-20-]
«ตอบ #318 เมื่อ20-01-2012 17:15:50 »

Love Sick

- 20 -



ผมเป็นคนที่มีร่างกายอ่อนแอตั้งแต่สมัยเด็ก ร่างกายอ่อนแอนี่ไม่ได้หมายถึงอ่อนปวกเปียกแรงน้อยนะครับ ผมแค่เป็นคนที่เป็นไข้ง่าย อากาศเปลี่ยนนิดหนึ่งก็มีหวัดมาถามหาแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงที่ผมแข็งแรงดีไม่ได้เจ็บป่วยอะไรละก็ ผมจะรู้สึกฟิตปั๋งแข็งแรงดีเชียวแหละครับ


และการที่เราเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อหรือแม่คอยปกป้องดูแล ก็ยิ่งทำให้ผมต้องเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจมากขึ้นไปอีก ยิ่งหน้าตารูปร่างแบบผมแล้ว นับว่าเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเด็กเกเรอยากจะรังแกผมกันทั้งนั้น ผมจึงต้องรู้จักป้องกันตัวเองเอาไว้บ้าง ใครจะอยากใช้ชีวิตอมทุกข์ไปตลอดช่วงวัยรุ่นละครับ...


...


.....

..

.

..


.


.



พลั่ก!!!
ผมคว้ากระจาดใส่ขวดสีโปสเตอร์มาเหวี่ยงใส่คนตรงหน้า แรงกระแทกทำให้พี่เปปเปอร์เซหน้าหันไปไม่ใช่น้อย ผมรวบรวมแรงฮึดที่เหลืออยู่วิ่งออกมาจากห้องไปยังบันได จากบันไดวิ่งไปหน้าบ้าน ประจวบเหมาะกับเสียงรถยนต์ที่มาจอดหน้าบ้านพอดี


“ตอง!” มาพร้อมกับพี่พีร์ครับ จังหวะนี้ผมรู้สึกว่าพี่รหัสของผมเป็นเหมือนกับพระผู้มาโปรด
“เป็นอะไรเอม วิ่งหน้าตั้งมาเลย” อดีตรูมเมทผมเองครับ เดินมาเกาะที่รั้วระหว่างที่ผมกำลังเปิดประตูให้
“แย่แล้วอะตอง เรา... เรา...” ผมปากคอสั่น ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนดี
“ใจเย็นมึง มีอะไรค่อยๆพูดสิวะ” พี่พีร์เดินมาจับบ่าผม ผมสูดหายใจยาว และชี้ไปข้างในบ้าน
“ผมคิดว่าผมอาจจะเผลอฆ่าคน!”
“!!”



“ดีนะที่มันไม่เป็นอะไรมาก” พี่พีร์พูดเสียงโล่งอกหลังจากที่หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินแล้วบอกว่าพี่เปปเปอร์ไม่เป็นอะไร แค่หัวแตกเย็บห้าเข็ม แสกนสมองแล้วไม่มีจุดกระทบกระเทือน แต่ว่าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงมาก หมอให้แอดมิทดูอาการสักคืนนึงก็พอ
“นั่นสิ ถ้าผมต้องติดคุกไปละก็...” ผมเองก็นั่งถอนหายใจครับ โล่งอกจริงๆ อีตอนทำก็คิดแค่ว่าจะต้องเอาตัวรอดให้ได้ แต่พอทำไปแล้วก็ดันกลัวติดคุก อนาถแท้...
“...ทำไมไม่เป็นไอ้จินที่โดนวะ...” เสียงตองพึมพำแต่ผมฟังไม่ค่อยชัด อะไรจินๆหว่า?
“ตองว่าอะไรนะ”
“อ๋อ เปล่าๆ ไม่มีอะไร” ตองยิ้มแล้วก็ส่ายหัว
“แล้วว่าแต่มึงจะเอายังไงเนี่ยเอม ไปอยู่กับพี่ก่อนมั้ย?”
“ไม่ต้องเลย จะให้เอมไปอยู่กับมึงทำไม ให้เอมมาอยู่ที่ห้องกูดีกว่า”
“ได้ยังไงครับ ตอนนี้ตองก็อยู่กับพี่ไม่ใช่เหรอ ถ้าจะไปอยู่กับเอมสองคนพี่ไม่ยอมหรอกนะ”
“มึง! อย่าเอาเรื่องนี้มาพูดข้างนอกนะ” ผมนั่งมองตองกับพี่พีร์เถียงกันแล้วก็ยิ้ม สงสัยคงจะเรียบร้อยโรงเรียนพี่พีร์แล้วสินะ
“เรายังไม่รู้เลยว่าจะเอายังไงดี จะบอกพี่จินดีหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมถอนใจ ความจริงแล้วไม่อยากให้พี่จินรู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ
“ขอเราเข้าไปดูพี่เปปเปอร์หน่อยนะ ตองรออยู่นี่แหละ เราไปแป๊บเดียว” ผมยกมือห้ามเมื่อเห็นว่าตองจะตามผมมาด้วย ตอนนี้พี่เปปเปอร์มันคงหลับอยู่แหละครับ


ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย คนบนเตียงนอนหลับหายใจสม่ำเสมอ ผมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง พินิจพิจารณาใบหน้าของพี่เปปเปอร์แล้วก็รู้สึกเศร้าใจ บางทีมันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พี่เปปเปอร์เปลี่ยนไปหรืออาจจะมีเรื่องกังวลจนต้องใช้เหล้าช่วยหาทางออก...

ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย ก็เหลือบไปเห็นของที่ติดตัวพี่เปปเปอร์มาโรงพยาบาลกองอยู่บนโต๊ะ ทั้งโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน...

ผมหยิบโทรศัพท์ของพี่เปปเปอร์มาเปิดดู ตั้งใจจะโทรหาคนๆหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นคนที่มาดูแลพี่เปปเปอร์ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลได้

 ตรู๊ด.....  ตรู๊ด....

เสียงรอสายดังอยู่นานจนผมกำลังจะตัดใจวางสาย แต่แล้วเสียงหวานที่แม้แต่ฟังในโทรศัพท์ก็ยังฟังหวานซึ้งเหมือนฟังจากตัวเป็นๆก็ดังขึ้น
‘Hello...’
“เอ่อ... คุณโรสใช่มั้ยครับ?” ทางปลายสายนิ่งไปแป๊บหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ
‘ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ?’
“ผมเป็นคนรู้จักของพี่เปปเปอร์ครับ”
‘แล้วมีธุระอะไรกับชั้นหรือเปล่าคะ?’
“ผมตั้งใจจะโทรมาบอกว่าตอนนี้พี่เปปเปอร์อยู่โรงพยาบาล...”
‘เขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า?’ ผมรู้สึกว่าน้ำเสียงที่ราบเรียบมาตั้งแต่ต้นเริ่มมีกระแสเสียงเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว
“ไม่อันตรายหรอกครับ ที่ผมโทรหาคุณ เพราะได้ยินว่าคุณเป็นคนรักของพี่เปปเปอร์... มันควรที่จะมีใครสักคนรู้เรื่องและก็มาดูแลเขา ไม่ใช่เหรอครับ?”
‘...’
“ยังอยู่หรือเปล่าครับคุณโรส”
‘เข้าใจแล้วค่ะ... แต่ชั้นคิดว่าชั้นคงไม่อยู่ในสถานะที่จะดูแลเขาได้หรอกนะ เพราะชั้นกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว’

ช็อกครับ!!

“เอ่อ...หมายความว่าคุณเลิกกับเขาแล้วเหรอ”
‘หลายเดือนมาแล้วละค่ะ ชั้นคิดว่าทางที่ดี คุณควรโทรไปหาน้องชายหรือไม่ก็พ่อแม่ของเขาดีกว่า แค่นี้นะคะ ชั้นกำลังยุ่ง’

ตรู๊ด....

ปลายทางวางสายไปนานแล้ว แต่ผมก็ยังถือโทรศัพท์คาอยู่อย่างนั้น ต่อมอยากรู้ทำงานขึ้นมาทันที แสดงว่าที่พี่เปปเปอร์มีท่าทีแปลกไป ทั้งกินเหล้าเมา ทั้งที่ปุบปับคิดจะมาอยู่ที่นี่ ก็คงเพื่อรักษาแผลใจงั้นเหรอ? แล้วทำไมเขาถึงเลิกกันล่ะ?

“อืม...” พี่เปปเปอร์ขยับตัวเบา ๆ ทำเอาผมสะดุ้ง ผมรีบวางโทรศัพท์คืนที่แล้วก็ออกมาจากห้องพักก่อน เขาคงไม่อยากลืมตามาแล้วเห็นหน้าผมสักเท่าไรหรอก เหอะๆ


สุดท้ายคืนนั้นผมก็ตัดสินใจกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน และไปนอนที่ห้องเก่าในหอพัก โดยมีตองและพี่พีร์ตามมานอนอัดกันเป็นปลากระป๋อง อีกแค่อาทิตย์กว่าๆพี่จินก็คงกลับมา หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที...

นึกสภาพแล้วก็สมเพชนิดๆนะ หัวแตกนอนโรงพยาบาลแต่กลับไม่มีใครไปเฝ้าสักคน แต่ช่างมันเหอะ ก็เขาทำตัวเองนี่หว่า คิดจะมาเปิดซิงผมก็ต้องเจอแบบนี้แล...



***********************************************************



บางทีสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เกิดในความเป็นจริงก็ไม่ได้สอดคล้องกันเสมอไป ผมคิดว่าผมจะหลบหน้าพี่เปปเปอร์จนกว่าพี่จินจะ
กลับมา แต่แล้วพอวันที่ผมไปเรียนวันแรก พี่เปปแม่งก็มาดักรอผมที่หน้าคณะในตอนเย็นซะงั้น

“มึงจะเอาไง” กิถามผม นั่นสิ ผมจะเดินเข้าไปหาแล้วถอดรองเท้าฟาดซ้ำที่แผลมันอีกรอบเลยดีมั้ย?
“ไม่รู้ว่ะ”
“ให้เราไปกระทืบเลยมั้ย?” ผมส่ายหัวให้ตอง เพื่อนผมชักจะไปกันใหญ่แล้วอ่ะ -..-
“ต่อให้เอมไม่ไปคุยกับเขาวันนี้ เราว่าวันหน้าเขาก็ต้องมาอีก” ความคิดอั๋นฟังดูเข้าท่าที่สุด ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาโดยมีเพื่อนผมคอยเฝ้าระวังอยู่ใกล้ๆ

“พี่มาทำไม?” เขาหันมามองผม ผ้าก๊อซที่แปะอยู่ที่หัวทำให้ผมรู้สึกผิดนิดๆ
“มีเรื่องจะบอก” ตอนนั้นในใจผมคิดไปต่างๆนานๆ คิดว่าเขาจะมาเอาคืนที่ผมทำเขาหัวแตก หรือเขาจะมาขอโทษ หรืออะไรกันแน่... แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ผมคิดก็ผิดหมด...
“พี่จะไม่ขอโทษเรื่องที่พี่ใช้กำลังกับเอมหรอกนะ เพราะดูเหมือนว่าเอมก็เอาคืนพี่มาแล้วนี่” เขาชี้ไปที่แผล
“แต่พี่จะมาขอโทษเรื่องคำพูดเฮงซวยที่พี่พูดออกไป” พี่เปปเปอร์พูดแล้วเขาก็ก้มมองที่พื้น ท่าทางเหมือนคนที่กำลังละอายใจ...
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เพราะตัวของเอม เอมก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเอมเป็นยังไง เอมไม่ใส่ใจกับคำพูดของคนอื่นหรอก” พี่เปปเปอร์หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น

ความรู้สึกของผมตอนนี้มันหน่วงๆหนักๆอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก ผมอยู่ของผมดีๆเขาก็เข้ามาหา แล้วก็มาทำให้ผมรู้สึกแย่ๆ เจอสิ่งแย่ๆ พอมาตอนนี้ก็มาขอโทษ...

ผมควรจะยกโทษให้เขาหรือเปล่า? นี่คือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด การที่เราจะโกรธใครสักคน มันแปลว่าคนๆนั้นจะต้องมีอิทธิพลกับเรามากพอที่เราจะเก็บความไม่พอใจมาเป็นอารมณ์ได้ แต่กับพี่เปปเปอร์... นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้อยู่ในห้วงความคิดของผม นานเท่าไรแล้วที่ผมไม่เคยนึกถึงเขา

ผมจึงมั่นใจว่าผมไม่โกรธในเรื่องแย่ๆที่เขาทำกับผมหรอก เพราะเขาไม่ได้มีความสำคัญกับผมมากพอที่ผมจะต้องใส่ใจความรู้สึกพวกนั้น เขาไม่ใช่คนที่จะเดินไปกับผม ไม่ใช่คนที่จะจูงมือผม ไม่ใช่คนที่จะดูแลผม


และเขาก็ไม่ใช่คนที่จะซื่อสัตย์กับผมเช่นกัน...


“เอมรู้ว่า พี่ไม่ใช่คนสำคัญของเอมอีกต่อไปแล้ว และเอมก็รู้ว่า เอมไม่ใช่คนที่พี่จะเลือกให้เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ในเมื่อเราสองคนต่างไม่ได้ต้องการกันและกัน ต่างคนก็ต่างอยู่ดีมั้ยครับ สู้เราเอาเวลาไปให้คนที่เราเห็นความสำคัญของเขาจะดีกว่า” ถ้อยคำที่ฟังดูเจ็บปวด แต่ก็เป็นความจริงอย่างที่สุด บางทีการเผชิญหน้ากับความจริง ก็ทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง

ผมมั่นใจแล้ว ว่าคนที่ผมรักคือใคร...

“พี่มีคนที่พี่รู้ว่าเขาสำคัญแค่ไหน แต่พี่คงไม่มีโอกาสที่จะมอบความรักให้คนๆนั้นหรอกนะ เพราะพี่เป็นคนที่ทำให้เขาเดินออกไปจากชีวิตพี่เอง” พี่เปปเปอร์ทำหน้าเศร้า
“คนเราเริ่มต้นใหม่กันได้ครับ ทุกสิ่งจะดีหรือร้ายอยู่ที่มุมมองของเรา”

พี่เปปเปอร์ยิ้ม ยิ้มเหมือนที่เคยทำให้ผมตกหลุมรักเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันต่างกัน ผมมีความสุขที่เห็นเขายิ้ม แต่ไม่ได้รู้สึกอยากจะได้มาครอบครอง...

“ต่อจากนี้ไป ขอให้เรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนแต่แรกนะครับ” ผมพยักหน้า สิ่งเดียวที่ผมจะให้พี่เปปเปอร์ได้ต่อจากนี้ก็มีแค่ความบริสุทธิ์ใจฉันพี่น้องเท่านั้น...

คนบางคนเกิดมาเพื่อที่จะเป็นคู่รักกันไปจนวันตาย แต่ไม่ใช่สำหรับผมและพี่เปปเปอร์ ต่อให้อยากจะเลื่อนสถานะแค่ไหนก็ไม่มีทางเป็นไปได้ นี่แหละครับความมหัศจรรย์ของมนุษย์...


หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...

ผมติดรูปใหม่ที่ผมเพิ่งวาดเสร็จเข้ากับผนังสีขาวตรงทางเข้าบ้าน รูปแรกที่ผมใช้มือซ้ายวาดจนสำเร็จ ขณะที่ผมกำลังยืนชื่นชมผลงานของตัวเองอยู่นั้นก็มีเสียงแตรรถดังที่หน้าบ้านพอดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร แม้กระทั่งเสียงเครื่องยนต์ผมยังจำได้เลยนะ!

รถยนต์คันเดิมที่ผมคุ้นเคยจริงด้วย คนขับโผล่หน้าออกมาจากกระจกแล้วโบกมือให้ผม ใบหน้าคมนั้นยิ้มร่าดีใจจนผมต้องฉีกยิ้มตามไปด้วย ผมเปิดประตูรั้วให้รถเข้ามาจอด กลิ่นเครื่องยนต์ กลิ่นควันรถ ผสมกับกลิ่นอากาศยามเช้า ส่วนผสมของกลิ่นที่ไม่น่าจะลงตัวกลับทำให้ผมมีความสุขแบบบอกไม่ถูก...

“คิดถึงพี่มั้ยครับ” ร่างสูงก้าวลงมาจากรถแล้วอ้าแขนกว้าง ใบหน้าคมดูสดใส
“ยังจะถามอีก!” ไม่ต้องให้บอกหรอกนะครับว่าจากนั้นผมจะทำอะไร ขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้างดีกว่าเนอะ ^^



***********************************************************



ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
รอดไป  เฮ้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อั้ยยะ!!!

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
โล่งอกล่ะ วิตกอยู่ตั้งหลายวัน เกรงว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงเกินจะเยียวยา
ผลออกมาแบบนี้ก็ดีใจไปกับน้องเอมแหละ
อุ๊แหม ! น้องเอม แอบไปดีใจต้อนรับกลับบ้านกับพี่จินกันสองคน ไม่ให้ใครมีส่วนร่วมรับรู้ด้วยเลยเด้อ
บางอารมณ์ก็อยาก ส.น.น..เปปเปอร์บ้างเหมือนกันนะ แต่ไม่ดีกว่า เพราะตอนนี้เขาได้รับผลนั้นอยู่

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ในที่สุดก็รอดด ใจหายจะแย่

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
น้องเอม ใจดีจัง คิดบวกสมเป็นเอม o13 ยังไงเค้าก็เป็นพี่ชายคนรัก ตั้งแง่กันไป คนลำบากใจคงเป็นพี่จิน
อีตาเปปเปอร์น่าหมั่นใส้ที่สุด  กว่าจะคิดได้ว่าจะเลือกทางไหน ก็ผ่านไปหลายปี สมน้ำน่ามันไร้คู่ไปซ๊ะ :z6:
พี่จินกลับมาแล้ววว จัดหนักน้องเอมซ๊ะที  น้องเอมพกเวอร์จิ้นไว้กับตัวนานๆ มันอันตรายนะคะ  :z1:

ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 o13   เอมเยี่ยมยอดเลยจ้า

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :เฮ้อ: นึกว่าน้องเอมแย่แล้ว

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
หายใจคล่องขึ้นมากเลย
จินกลับมาซักที
แอบขำน้องตองไม่ได้ตอนที่ว่าทำไมไม่เป็นจินโดนเขวี้ยงแทน

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เอาตัวรอดเก่งมาก :กอด1:
+1จ๊า

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ไม่ได้อ่านซะนาน เลยอ่านไล่ยาวตั้งแต่น้องวานิลลา
จนพี่พริกไทยกลับมา แหม ว่าแล้วเชียวต้องไปกันไม่รอด
ก็นะโลเล้ซะขนาดนั้น ดีแล้วแหละที่เลือกผู้หญิงคนนั้นไม่เลือกเอม
พี่จินกับน้องเอมเลยกลายเป็นคู่กัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด