~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339  (อ่าน 2015061 ครั้ง)

opordo

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากๆครับ รอๆ

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ยาวหน่อยนะจ๊ะบี้ คือเราอ่านแล้วเข้าใจ คือมองแค่แง่มุมเค้กก็เข้าใจแล้ว ด้วยนิสัยอย่างคิวนะ ถ้ารักแล้วรักหมดใจอ่ะ คิดอย่างที่บี้บอก ตอนบนสะพานลอยอ่ะ เราว่าจบแล้วคู่คิว+เค้ก อาจจะมีตอนหวานๆในแบบคิวมาให้อ่านบ้าง แต่ก็คงออกแนวแกล้งเค้กซะมากกว่า 
อ่านตอนแรกๆเลยราว10ตอนก็ยังงง ว่าจะมารักกันได้ยังไง ไม่เห็นมีกุ๊กกิ๊กหยอดกันมั่งเลย  แต่พอมาอ่านเจอที่บี้บอกว่า ทั้งเค้กและคิวเป็นชายแท้ ที่ตอนต่างๆที่บี้เขียนหน่ะแหละที่ทำให้เค้ารักกัน  เลยตั้งใจอ่านแล้วก็จริงนะ รักซึมลึก ซึมซับกันไปโดยไม่รู้ตัวอย่างที่เค้กบอก
การห่วงใย ใส่ใจเล็กๆน้อย นิสัย ความชอบต่างๆที่เหมือนกัน และหนูเค้กน่ารัก ความซื่อสัตย์ กตัญญู มองโลกบวกของเค้ก ทำให้คนมองโลกลบแบบคิวมองเห็นโลกอีกด้าน ชอบอ่่ะ ยิ่งตอนจบคู่นี้เราแบบ แค่พี่คิววิ่งตามเค้กมา เพื่อถามเรื่องนี้ ต่อหน้าประชาชีบนสะพานลอย เราก็ฟินอ่ะ อร๊ายยยยย นึกภาพพี่คิว วิ่งตามเค้กมา ผ่านหน้าพี่ฟ้า และคนอื่นๆในร้านที่มองตามแบบรู้นะว่าวิ่งตามใคร อิคนอย่างพี่คิวอ่ะ ถ้าไม่รัก มันไม่ตามหรอก  แต่จะรออ่านมุมคิวบ้างนะคะ ที่ยังคาใจพี่คิวมีเรื่องเดียวคือ ทำไมถึงจะตกลงแต่งงานกับฝัน หลังจากที่จูบเค้ก   
พอเข้าใจว่าพอจูบเค้กไป ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายเมิน คิวคงคิดว่าเค้กโกรธหรอ เกลียดไหม มันคงมีอารมณ์ไม่แน่หรือเปล่า ตามที่เราคิดนะ ว่าพี่คิวคงคิดว่า เอตรูว่าเค้าชอบตรูนะ แต่ทำไมจูบแล้วเมินอ่ะ โกรธหรอ เออ เมินได้ก็เมินมั่ง แล้วปากหนักไม่พูดอย่างพี่คิวด้วยนะ เลยพากันเมินยาววววว  แต่อีท่าไหนไปตกลงจะหมั้นกับฝันอ่ะจ๊ะ  นี่คือตามที่ตัวเองคิดนะ รออ่านพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ (หรือเปล่าหว่า?????)  :กอด1:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เวลาเบบี้มชี้แจงแต่ละที
ฉันจะวุ่นวายกับการกลับไปอ่านคอมเม้นท์ตัวเองมาก
ว่าอยู่ในข่ายรึปล่าว ,,
เฮ้อออ สบายใจ (หัวเราะ)

ถ้าพี่คิวพูดเยอะก็จะไม่เป็นตัวของตัวเองช่ะ
ฮ่าๆๆ แบบนี้ก็ดีนะ
เหมือนว่ายังสับสนนิดๆ แต่ก็ตัดสินใจแบบนี้
เอ๊ หรือไม่สับสนหว่า ...
ช่างพี่คิวเถอะ รักกัน อ่ะดีสุดแล้ว

^^
ลุ้นคู้ 3 กรี๊วววววววว

Dr.rain_mark

  • บุคคลทั่วไป
บ่อยครั้ง ที่ไปดูหนังในโรง หรือดูละครทีวีที่บ้าน เมื่อไฟโรงหนังเปิดหรือจอทีวีขึ้นคำว่า จบบริบูรณ์ ... ใครหลายๆคนหรือแม้แต่ตัวเราเองก็อาจจะเคยคิดในใจหรือพูดออกมาว่า.."อ้าวจบแล้วหรอ / ยังไม่เห็นรู้เรื่องเลย / ไม่น่าจบแบบนี้เลย / ทำไมถึงไม่เป็นแบบนั้น น่าจะเป็นแบบนี้นะ ฯลฯ...." ทั้งๆที่หนังหรือละคร ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวอักษร.. บทละครหรือบทหนังเหล่านั้น ถูกนักแสดงสวมบทบาท ถ่ายทอดออกมาให้เห็นกันชัดเจนซะด้วยซ้ำ นับอะไรกับนิยายที่ต้องใช้จินตนาการ เข้าใจถึงสิ่งที่ผู้เีขียนถ่ายทอด.. แต่นั่น มันคืออรรถรส...
ส่วนตัวแล้ว ตัวหลักคิว เค้ก ฉากบอกรักกลางสะพานลอยตอนจบ คนอย่างพี่คิวปากหนักขนาดนั้น สวมกอดเค้กแล้วพูดคำว่า.."ฉันก็รักนาย" มันพีคสุดๆแล้วล่ะ ร้องไห้ตามเค้กเลย ดีใจ ^^'
เบบี้ คือนักเขียนเบอร์หนึ่งของเค้าอยู่ละ ติดตามมาทุกๆเรื่องน๊า แต่ทีต้องกลายเป็นเป็ดน้อยเตาะแตะเพราะไอดีเก่าเข้าไม่ได้ T T'

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เราชอบจบแบบนี้นะ สำหรับพี่คิว แค่ไล่ตาลเค้กมา ก็นับว่าแสดงออกมากแล้ว ตอนบอกว่าติดใจตักเค้กนี่เขินสุดๆ ยิ่งบอกว่ารักนี่เหนือความคาดหมายไปเลย คิดว่าพี่คิวจะแกล้งกวนประสาทเค้กกว่านี้ด้วยซ้ำ สำหรับคู่นี้เข้าใจกันแค่นี้ก็พอแล้วแหละ

ขอบคุณนะคะเบบี้
สู้ๆนะคะ

ordinarykwon

  • บุคคลทั่วไป
บางคนเจตนาไม่ดี อย่าไปใส่ใจเลยจ้ะบี้

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
 o13 o13 o13สู้ๆคับ :L1: :L1: :L1:

bow55

  • บุคคลทั่วไป
เรารออ่านตอนพี่ฟ้าค่ะ
เคารพในการตัดสินใจของเบบี้
เป้นกำลังใจให้เบบี้

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
เคารพการตัดสินใจของเบบี้ค่ะ :L1:
มันสนุกจนอินไม่อยากให้จบแบบว่าใจหาย
รักน้องเค้ก จนต้องกลับไปตามอ่านบ่อยๆ
 :กอด1: :กอด1:รอคู่หน้าค่ะ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Lover..2

~1~



ณ  บ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..
“น้องน่ารักจังนะครับ” ผมมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของพี่สะใภ้ผม  เด็กทารกที่เพิ่งเกิดได้เดือนกว่า  พี่พิมพ์..เป็นพี่สะใภ้ที่แสนน่ารัก  อ่อนโยนและเข้าใจหัวอกผมเป็นอย่างดีคนหนึ่ง
“ตั้งชื่อให้ลูกพี่สิ” พี่พิมพ์ยิ้ม
“ช่วยพี่ตั้งหน่อยจะได้ไหม”
“ตั้ง..ตั้งชื่อ!” ผมตกใจตาโตมองหน้าพี่พิมพ์  ตั้งชื่องั้นเหรอ  คนอย่างผมน่ะนะ..ดีใจจัง  ความรู้สึกนี้มันดีจังเลยนะครับ
“ให้ฟ้าเป็นคนตั้งได้เหรอครับ” ผมย้ำถามอีกครั้งเพื่อขอความแน่ใจ  กระทั่งหัวใจของผมแทบพองโต
“ได้สิจ๊ะ ฟ้าก็เป็นน้องชายของพี่ตันนี่..ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ล่ะ อืม..ชื่ออะไรดีนะ พี่คิดมาหลายคืนแล้ว แต่ก็ยังนึกชื่อเล่นน่ารักๆไม่ออกสักที” พี่พิมพ์ก้มลงมองหน้าลูกของตัวเองด้วยความรักอีกครั้ง  เธอยิ้มและเขย่าตัวเด็กเบาๆ
“แล้ว แล้วพี่ตัน..จะไม่ว่าฟ้าเหรอ” ผมก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ไม่หรอกจ้ะ อย่าคิดมากสิ..พี่อนุญาตเองนะ” พี่พิมพ์เอื้อมมือมาลูบหัวผมอย่างเบามือ  ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มตอบให้เธอก่อนที่จะก้มลงมองหนังสือ Mythology ที่ถืออยู่ในมือและก็ต้องอมยิ้มออกมา
“งั้นชื่อคิวปิดเป็นไงครับ” ผมเสนอ
“คิวปิด” พี่พิมพ์ย้ำด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฮะ..คิวปิดได้ไหมฮะ” ผมยิ้มและชูหนังสือขึ้น
“คิวปิด..เทพเจ้าแห่งความรัก หลานของฟ้าน่ะน่ารักจะตาย..ชื่อคิวปิด ได้ไหมครับ” ผมถามอย่างมีความหวัง  ผมอยากให้ชื่อนี้จริงจริง  นั่นเพราะอะไรไม่รู้  แต่อยู่ๆมันก็ผุดขึ้นมาในหัวและตรงใจเข้าให้อย่างจัง
“ได้สิจ๊ะ งั้นชื่อคิวปิด..คิวปิดแล้วกันเนอะ” พี่พิมพ์พยักหน้าย้ำบอกผมก่อนที่จะก้มลงมองคิวปิดตัวน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมอก



= = = = = = = =


ก๊อก  ๆ  ๆ


“ครับ” ผมขานตอบ  พร้อมกับละสายตาจากตัวหนังสือและวางหนังสือวรรณกรรมลงบนเตียง 
“ขออนุญาตค่ะคุณหนู” ป้านิดเดินเข้ามา  เธออ่อนน้อมอย่างเช่นทุกที
“คุณท่านให้มาตามคุณหนูให้ไปพบที่ห้องทำงานค่ะ” ป้านิดพูด
“ครับ ขอบคุณ..จะไปเดี๋ยวนี้” ผมตอบเพียงเท่านั้น  ทราบโดยทันทีว่าพ่อคงจะมีเรื่องใหญ่ที่ต้องพูดกับผมอย่างแน่นอน  ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกให้คนมาตามแบบนี้  เพราะปกติเราไม่ค่อยมีบทสนทนาอย่างพ่อกับลูกเหมือนครอบครัวอื่นเสียเท่าไหร่นัก
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจเบาๆ  และกำลังเตรียมใจที่จะต้องพบกับอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้  ผมเดินตรงไปที่ห้องทำงานของพ่ออย่างไม่วอกแวก  ด้วยถ้าไปช้าผมอาจจะโดนดุเป็นแน่  ห้องทำงานของพ่อเป็นห้องเดียวในบ้านหลังนี้ที่พ่อใช้เวลาขลุกอยู่ในนั้นได้ทั้งวันทั้งคืน 
ผมยืนเคาะประตูห้อง  ยืนรอฟังคำอนุญาตจากพ่ออย่างกับคนใช้คนอื่นๆในบ้าน  ก่อนที่จะเปิดประตูห้องเข้าไป
“พ่อเรียกผมมีอะไรเหรอครับ” ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง  พ่อละสายตาจากแฟ้มงานเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมเพียงชั่วครู่  ก่อนที่จะก้มลงอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ
“นั่งสิ” พ่อบอก  ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของพ่อ  มันเป็นโต๊ะทำงานที่ตัวใหญ่เอามากๆ  แถมเก้าอี้ก็ยังใหญ่พอที่เด็กตัวขนาดผมนั้นนั่งได้ถึงสองคนภายในตัวเดียว  โต๊ะไม้สักที่สั่งทำขึ้นและถูกออกแบบมาอย่างดี  พร้อมเหมาะที่จะวางเอกสารมากมายได้ทั้งหมด  ผมนั่งเงียบโดยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามอีกครั้งว่าพ่อมีอะไรรึเปล่าเพราะกลัวว่าจะถูกดุเอาได้  ผมนั่งเงียบอย่างไม่มีปากไม่มีเสียงจนผมได้ยินเสียงพ่อถอนหายใจเบาๆและวางปากกาลง
“อีกไม่กี่ปีก็จะจบป.หกแล้วสินะ” พ่อตั้งข้อศอกขึ้นบนโต๊ะ  กุมมือทั้งสองมือของพ่อเข้าหากัน
“ฮะ” ผมรีบพยักหน้าและยิ้มตอบ  พ่อจำได้ด้วยล่ะ..ตอนนี้สมองผมคิดได้เพียงเท่านั้น
“จบประถมเมื่อไหร่ ฉันจะส่งแกไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย” พ่อพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเด็ดขาด  ผมรู้สึกหน้าชาขึ้นมาในทันทีทันใด  คล้ายกับอาการช็อกที่เกิดขึ้นชั่วขณะ
“ปีที่แล้วไปเที่ยวกับไอ้เจ้าตันมาแล้ว คงคุ้นเคยบ้างแล้วสินะ..นั่นแหละ ฉันจะให้แกไปเรียนต่อมัธยมที่นั่น” พ่อพูดพร่ำไม่หยุด  พูดอย่างกับว่าทุกอย่างเป็นการตัดสินใจจากผม  พ่อจะสังเกตสีหน้าของผมในตอนนี้บ้างหรือเปล่า  ว่าผมนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร  ผมอยากร้องไห้ไหม  หัวใจของผมนั้นเจ็บปวดหรือเปล่า
“ฟ้า..ฟ้าไม่อยากไปครับ” ผมพูดตะกุกตะกัก  น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่  ผมตัดสินใจพูดออกไปเพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้
“......................” พ่อชะงัก  เมื่อผมเห็นว่าตาของพ่อเบิกโพรง  ผมรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจจากสายตาคู่นั้น  พ่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเหลือบสายตาไปอีกทาง  ตัวของผมสั่นไปหมด  ผมกลัว..ผมกลัว
“ฉันให้มินตราจัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว ทั้งที่เรียน ที่พัก..เงิน ไม่ต้องห่วง..เพราะแกจะมีเงินพอใช้จ่ายได้อย่างคล่องมือ” พ่อพูดอย่างกับไม่สนใจว่าก่อนหน้าผมได้พูดบอกอะไรพ่อไป  ผมเข้าใจได้อย่างดีว่าผมจะต้องไปเรียนคนเดียว  พี่พราวพี่สาวที่ผมรักและอายุใกล้เคียงผมมากที่สุด  ตอนนี้เธอเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ  ส่วนพี่เป้ย..พี่สาวคนกลาง  พี่ตันและพี่ตี๋  พวกพี่เขาอายุห่างจากผมค่อนข้างมาก  เนื่องจากผมเป็นลูกคนสุดท้องที่อายุน้อยมาก  เหมือนกับเป็นลูกหลงที่พ่อแม่ไม่คาดคิดว่าผมจะเกิดมาอย่างนั้น  จึงทำให้พี่ๆไม่มีเวลาว่างมาเป็นเพื่อนเล่นด้วยหรือมาแนะนำให้คำปรึกษาได้
“ถ้าปีไหนแกอยากกลับไทย ถ้าทำคะแนนได้ดีเป็นที่พอใจฉัน..ฉันจะให้กลับมาเที่ยวได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแก..ถ้าแกอยากรีบกลับไทยให้เร็วกว่านั้น ก็สอบเลื่อนคลาสให้ได้ซะ อย่าให้เสียชื่อเสียงวงตระกูลล่ะ..เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” พ่อพูด  น้ำเสียงของพ่อไร้การคาดหวัง  แต่คล้ายกับเป็นคำสั่งเด็ดขาดต่อผม
“.....................” ผมไม่ตอบใดๆกลับไป  เพราะตอนนี้ตัวผมสั่นเทาเกินกว่าจะเอ่ยพูดอะไรได้  พ่อเงียบลง  เราต่างฝ่ายต่างเงียบ  จนพ่อเริ่มขยับตัวก่อน
“อึก..” ผมก้มหน้าลง  น้ำตาหยดลงที่มือที่กำแน่นอยู่บนตัก  เบื้องลึกคือความเสียใจแต่ในเวลาเดียวกันนี้ก็กลัวว่าจะถูกดุและต่อว่าด้วยเช่นกัน
“ถ้าเข้าใจก็ออกไปได้แล้ว” พ่อพูดเท่านั้น  ผมพยักหน้าตอบและลุกออกจากเก้าอี้มาอย่างเงียบๆ  ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหน้าของพ่ออีกครั้ง  ผมไม่กล้าสู้กับความเป็นจริง  พ่ออาจจะกำลังมองผมด้วยสายตาที่เป็นห่วงผมอยู่ก็ได้  หรือที่จริงแล้ว  พ่ออาจจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออย่างไม่ได้ใยดีเลยก็เป็นได้..
“ร้องไห้ทำไมน่ะ” ผมชะงัก  เงยหน้าขึ้นมองพี่ตัน  พี่ชายของผม  เขาเป็นสามีของพี่พิมพ์
“ฟ้า..ฟ้าไม่อยากไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียฮะ” ผมรีบบอกพี่อย่างมีความหวังว่าพี่ชายจะช่วยเหลือผมได้  พี่ตันจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย  แม้ผมจะต้องมองสายตาของพี่ตันผ่านแว่นที่พี่เขาสวมอยู่  แต่ผมก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเย็นชาที่สายตาคู่นี้มีให้
“คุณพ่อให้อะไร แสดงว่านั่นคือสิ่งที่ดีแล้ว..อย่าเที่ยวตัดสินใจเพราะความไม่อยากของตัวเอง” พี่ตันพูดก่อนที่จะเดินเข้าห้องทำงานของพ่อไป
“ฮึก..อื้อออ”
“ว๊าย ตายแล้วคุณหนูของป้า..ร้องไห้ทำไมคะ” เสียงป้านิดโวยวายไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมา  ตอนนี้ผมเพียงแค่รู้สึกว่า..ทำไมคนที่เป็นห่วงเรา  และตกใจกับสีหน้าและความเสียใจของเราในตอนนี้นั้น  ถึงเป็นเพียงแค่คนรับใช้กันล่ะ


= = = = = = = =


~ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแก~
~ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแก~
ประโยคบ้าๆนี่ผมจำได้ดีขึ้นใจตลอดการใช้ชีวิตที่ประเทศออสเตรเลีย  ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงจำมันได้ขึ้นใจขนาดนี้นัก  เคยมีคนบอกผมว่าควรมองและจำสิ่งที่ขาวมากกว่าสิ่งที่ดำ  แต่ผมไม่สามารถทำได้อย่างนั้น  น้ำเสียงของพ่อกับคำพูดนี้มักจะผุดขึ้นมาในความคิดของผมเสมอ  ไม่ว่าจะตอนที่ผมกำลังอาบน้ำ  กินข้าว  ทำกิจกรรม  หรือแม้แต่ตอนที่ผมกำลังมีความสุขอยู่กับเพื่อนๆ  ทุกครั้งที่ผมกำลังยิ้ม  เมื่อมีประโยคนี้ผุดขึ้นมามันกลับทำให้ผมนั้นหุบยิ้มแทบไม่ทัน..
ตอนนี้ผมอายุเพียงสิบสี่ปีและนี่เป็นการกลับมาประเทศไทยครั้งแรกของผม  ตลอดสองปีที่ผ่านมา  ผมเรียนและทำคะแนนได้ดีมากมาตลอด  รางวัลนักเรียนดีเด่นที่ผมได้รับกลับไร้ค่าลงในทันทีเมื่อพ่อไม่เคยที่จะยินดียินร้ายกับมัน  ผมไม่เคยที่จะเอ่ยปากขอพ่อกลับมาประเทศไทยเลยสักครั้ง  แน่นอน..พ่อไม่เคยพูดว่า “กลับมาพักผ่อนที่บ้านก่อนสิลูก”  คำว่าทรมานมากสำหรับผมในตอนนี้คงยังไม่เพียงพอ  ผมอยากเอาชนะพ่อ  และเอาชนะพี่ชายของผม  ผมอยากให้เขาหันมาสนใจความรู้สึกของผมบ้าง  แต่ป่วยการเปล่า  การที่ผมไม่เอ่ยขอกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย  ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเลยนอกจากแม่หรือพี่พิมพ์  และพี่สาวของผมอีกสองคน  แต่ทุกคนก็ไม่ได้เรียกร้องหรืออ้อนวอนอะไรมากนัก  เพราะทุกคนก็มีสิ่งสำคัญที่ตัวเองนั้นต้องจัดการ  ดังนั้น..ผมคงคิดผิดไปเอง  ครั้งนี้จึงเป็นการกลับมาไทยครั้งแรกในรอบสองปี  ผมอยากกลับมาดูหน้าหลานของผมว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง  ตอนที่ผมจากไปเขาเริ่มพูดได้บ้างแล้ว  ผมอยากรู้ว่าเขาเติบโตไปเพียงไร  คิวปิดตัวน้อยของผม..เท่านี้พอ
“ไหว้อาฟ้าสิลูก” พี่พิมพ์บอก  ผมก้มลงมองเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตรงหน้า  ก่อนที่จะยิ้มให้กับท่าไหว้น่ารักๆนั่น  ทั้งทั้งที่ผมเองยังเด็กแต่ผมกลับรู้สึกว่าเด็กตรงหน้าของผมนี้ตัวเล็กเอาเสียมากๆ  ผมนั่งยองลงให้เสมอกัน  สายตาบริสุทธิ์คู่นี้มองตามผมทุกการกระทำ
“อา...ฟ้า” เสียงเล็กๆลอดออกมาให้ได้ยิน
“ครับ” ผมยิ้มกว้าง  ไม่รู้ทำไม  ความรู้สึกว่าชีวิตยังมีความหวังนี้ถึงได้ผุดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนหัวใจของผมนั้นอิ่มเอิบไปหมด 
“อาฟ้าที่ตั้งชื่อให้หนูไงจ๊ะ” พี่พิมพ์ก้มลงกระซิบบอกลูกของตน  ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม  คิวปิดตัวน้อยเอียงคอมองหน้าผมอย่างสงสัย
“คิวปิด ทำไมล่ะ” อีกฝ่ายถามด้วยสีหน้าอยากรู้  น้ำเสียงเบาแต่กลับชัดเจนในคำถาม
“เพราะคิวปิดเป็นเทพเจ้าแห่งความรักไงครับ”
“เหรอ! ถ้าชื่อนี้..จะมีคนรักเยอะๆเหรอ” อีกฝ่ายเบิกตาโพรงด้วยความตื่นเต้นจนผมอดหัวเราะไม่ได้ 
“หึ..ครับ” ผมยิ้ม
“แล้ว..คิวอายุเท่าไหร่แล้วเอ่ย บอกอาสิ”
“ไม่บอก” อีกฝ่ายตอบหน้ากวนพร้อมกับทำปากจู๋ใส่
“อ่าว..” ผมอ้าปากค้าง  ในสมองผุดนึกขึ้นมาว่า “กวนตีนนิ” แต่ผมก็ต้องยับยั้งคำพูดนั้นเอาไว้เพียงในใจ  หลานตัวน้อยของผมควรที่จะได้ยินแต่คำพูดเพราะๆน่ารักๆเท่านั้นดีกว่านะครับ
“งั้น..น้องคิวอยากรู้รึเปล่าว่า กามเทพคิวปิดน่ะเป็นใคร” ผมหาเรื่องชวนคุยบ้าง
“อื้อ” อีกฝ่ายพยักหน้าตอบในทันที
“งั้น เรียกว่าอาฟ้าก่อน” ผมชี้หน้าตัวเอง
“เรียกแล้วจะ ชอบเหรอ” อีกฝ่ายถามอย่างสงสัยอีกครั้ง
“ครับ..ชอบมากเลย จะมีความสุขที่สุดเลย” ผมยิ้มพร้อมกับลูบแก้มอีกฝ่ายอย่างเบามือเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายนั้นจะเจ็บ
“.....................” อีกฝ่ายเงียบไปชั่วอึดใจ  ผมได้แต่เพียงนั่งลุ้น
“อาฟ้า” เสียงเรียกเล็กๆอันแสนบริสุทธิ์ที่ผมได้ยินแทบทำให้ผมน้ำตาไหลออกมา  ถ้าผมกำลังหวังความรักจากเด็กคนนี้ล่ะก็  ผมคงจะเป็นอาที่แย่เอาเสียมาก  ผมกำลังอยากวาดภาพของเขาจากตัวของผมเอง  หวังให้เขาเป็นอย่างที่ผมต้องการ  มันก็คงจะไม่ต่างอะไรจากที่พ่อและพี่ชายทำกับผมละมังครับ
“เป็นอะไรเหรอ ไม่ชอบเหรอ..”
“ป่ะ..เปล่าครับ ชอบสิ” ผมชะงักและยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย  เมื่อกี้ผมคงทำสีหน้าแย่ๆออกไปจนที่ขนาดเด็กตัวน้อยๆยังรับรู้ได้สินะครับ  ผมนี่มัน  แย่เสียจริง..
“เราไปอ่านหนังสือกันดีกว่านะ อาจะอ่านให้ฟัง..เรื่องในยุคกรีกน่ะ สนุกมากเลยล่ะ” ผมอุ้มคิวขึ้น  อีกฝ่ายโผเข้ามากอดคอผมในทันที  พร้อมกับพยักหน้าเหมือนเห็นด้วย
ในวันนั้นคงเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่เดียวล่ะ..



= = = = = = = =


หลังจากนั้นผมกลับไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลียอย่างเดิม  ไม่มีการอำลาที่แสนเศร้าอย่างครอบครัวอื่น  มีเพียงแม่และพี่สะใภ้ออกมายืนส่งที่หน้าบ้าน  คนขับรถกุลีกุจอจัดการทุกอย่างตามหน้าที่และเดินทางอย่างผู้โดดเดี่ยวและชำนาญโลกนี้เพียงอายุน้อยคนเดียวอีกครั้ง
ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนที่จะเรียกว่าเป็นอัจฉริยะได้หรือเปล่า  ในเวลาที่ผมเรียนหนังสือและได้คำชื่นชมมากมายจากคุณครู  ผมไม่เคยปลาบปลื้มกับมันเสียเท่าไหร่  เพราะก้นบึ้งของหัวใจนั้นผมรู้ว่าตัวผมกำลังทำอะไรอยู่  ผมรู้ว่าผมพยายามเรียนหนักอย่างมากเพื่ออะไรหรือเพื่อใคร  ผมไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะออกเสียงบอกพ่อด้วยว่าผมไม่อยากเรียนสายนี้นะ  ไม่มีทาง..ผมไม่มีสิทธิ์  สิทธิ์ของผมคือ..หน้าที่ในการเรียนอย่างตั้งใจก็เท่านั้น  ผมเรียนและอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง  อ่านครั้งแล้วครั้งเล่า..อ่าน  อ่าน  และอ่านมันอย่างกับมันเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในชีวิต
ผมทำกิจกรรมทุกอย่างทั้งด้านวิชาการและนันทนาการ  ผมรู้ดีว่าพ่อคงให้มินตราเลขาของพ่อนั้นจับตามองผมอยู่ทุกฝีก้าว  กีฬาที่โปรดปรานของผมนอกจากเทนนิสคือว่ายน้ำ  ผมชอบเวลาที่ต้องมุดลงไปในเบื้องลึกนั่น  มันโดดเดี่ยวเช่นเดียวกันกับผม  ผมไม่ได้รับการติดต่อจากพ่อเลย  นั่นแสดงว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่พ่อไม่เห็นดีเห็นงามด้วย  การที่ผมได้เป็นนักเทนนิสของโรงเรียนพ่อเองคงจะพอใจมาก  ผมเข้าร่วมชมรมดนตรีคลาสสิกและได้เป็นนักเปียโนประจำวงออร์เครตราของโรงเรียน  ภาพวาดจากฝีมือของผมสามสี่ภาพเคยขายได้ในงานเทศกาลของโรงเรียน  คณิต..ต้องผม  ฟิสิกส์..ต้องผม  ศิลปะ..ต้องผม  วรรณกรรม..ต้องมีรายชื่อของผมอยู่ในหนึ่งในสามของระดับชั้น  ไม่มีใครในโรงเรียนที่แทบไม่รู้จักผม  ชื่อของผมมักได้ขึ้นบอร์ดของโรงเรียนบ่อยครั้งว่าได้รับรางวัลนู่นนี่  เป็นที่น่าภูมิใจของโรงเรียน  ผมเองก็ภูมิใจเพราะนั่นเกิดจากความพยายามอย่างมากของผม  ส่วนพ่อก็คงภูมิใจเช่นเดียวกันเพราะทุกอย่างที่ผมทำและพ่อเห็นชอบ  นั่นหมายถึงชื่อเสียงที่ดีที่ได้ทำให้กับวงตระกูล
ตลอดเวลาที่ผมได้อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย  ผมมีความคิดชั่วร้ายที่รู้ตัวเองอยู่เสมอ  ผมใช้ชีวิตอย่างนักเรียนผู้ดีเด่นอย่างปกติแต่ในหัวผมกำลังคิดเรื่องที่ชั่วร้ายที่ลูกที่ดีไม่ควรคิด  ผมอยากหลุดพ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้  แต่นั่นไม่ใช่ทางออกสำหรับคนที่ชาญฉลาด  ผมเดินที่ละก้าวอย่างมั่นคง  เก็บกักความรู้ที่ได้เล่าเรียนให้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อส่งให้ผมในแต่ละเดือน  ถ้าเพื่อนๆในโรงเรียนรู้ล่ะก็คงจะต้องคลั่งตายแน่ๆ  แต่มันน่าขำเพราะผมแทบไม่ได้ใช้มันเลย  ผมใช้เพียงแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเงินที่พ่อผมส่งมาให้  ผมมีอาหารประจำที่โรงเรียนนั่นหมายความว่าอย่างไรผมก็ไม่มีวันอดตาย  ในแต่ละเดือนผมปล่อยให้เงินไหลเข้าบัญชีอยู่อย่างนั้นเป็นประจำ  ผมไม่เที่ยวและกินใช้อย่างประหยัด  ลงแข่งขันชิงรางวัลเกือบทุกสาขาวิชา  มันจะดีมากถ้ารางวัลไหนทำให้ผมได้เงินก้อนโต  ผมไม่คิดที่จะออกไปสมัครทำงานที่ร้านต่างๆอย่างเช่นกับเพื่อนของผม  ถ้าพ่อรู้เรื่องนั้นเข้าล่ะก็พ่อคงจะส่งคนมาคอยคุมความประพฤติผมอย่างแน่นอน  แม่เคยโทรศัพท์มาถามผมว่าทำไมผมถึงไม่ใช้เงิน  ที่แม่รู้อย่างนั้นเพราะชื่อบัญชีที่พ่อโอนเงินเข้ามานั้นเป็นชื่อของแม่  ผมตอบแม่เพียงแค่ว่า “ผมอยากจะเป็นผมสักวันหนึ่ง” แม่เงียบและไม่ต่อว่าต่อการใดๆอีก  หลังจากวันนั้นแม่ก็ไม่เคยถามเรื่องนี้อีกเลย..



= = = = = = = =


ในที่สุดเพียงไม่กี่ปีผมก็เรียนจบและได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง  ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง  ผมกลับรู้สึกไม่ได้อยากกลับมาที่นี่อีก  ผมรู้สึกว่า..ไม่อยู่ที่นี่แล้วก็ได้  ไม่เป็นไร
เมื่อกลับมา  ผมทราบในทันทีว่าพ่อต้องการอะไรต่อจากนี้  พ่อให้เลขาจัดการนำชื่อผมเข้าสมัครสอบมหาวิทยาลัยเอกชนMN  มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก  ผมไม่คัดค้านใดๆ  ผมรู้ว่าทำไมพ่อถึงให้ผมสอบเข้า  ทั้งทั้งที่เพียงแค่พ่อจ่ายเงินไปทุกอย่างจะจบลงอย่างง่ายดาย  ผมยินยอมเดินเกมตามที่พ่อวางไว้  ผมเข้าสอบและสุดท้ายผมสอบได้อันดับหนึ่ง  ของนักเรียนทุนคณะบริหารธุรกิจ  สาขาวิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ  เป็นวิชาที่ผมไม่ได้อยากเรียนมันสักเท่าไหร่  มันเป็นคณะที่ผมอยากเรียนรู้เฉยๆแต่ไม่ได้อยากเรียนอย่างจริงจัง  แน่นอนว่าผมสามารถทำให้ผมได้เกียรตินิยมได้อย่างง่ายดายแต่ก็ไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มกับมันหรอก  แต่นั่นแหละ..ตอนนี้  ผมยังไม่มีสิทธิ์  ผมได้แต่เฝ้านับวันรอเมื่อไหร่ที่ผมจะอายุยี่สิบปีเท่านั้นเอง..
ตอนที่ผมเรียนอยู่ปริญญาตรีในประเทศไทย  ผมใช้เงินประหยัดมากอย่างกับลูกคนจนก็ไม่ปาน  เงินทุกบาทที่พอโอนเข้าบัญชีแทบไม่หดหาย  เมื่อผมเห็นว่าเงินในบัญชีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆมันยิ่งทำให้ผมอมยิ้มอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง  จนบางครั้งคิวถึงกับหาว่า “เป็นบ้าเหรอ” คงจะเป็นอย่างที่หลานผมว่า  ผมอาจจะเป็นบ้าไปแล้วจริงๆก็ได้  ผมจะฝากท้องไว้กับอาหารที่บ้านทุกมื้อและนำขนมจากที่บ้านไปกินที่มหาวิทยาลัยด้วย  ถึงแม้จะถูกพี่ๆต่อว่าว่าผมไม่ควรทำตัวเหมือนคนอดยากแบบนี้เพราะมันจะส่งผลทางด้านลบแก่วงตระกูล..แต่ผมก็ยังทำ  เมื่อเรียนอยู่ที่ไทยผมยังคงเหมือนเดิม  ลงแข่งทุกการประกวด  ยิ่งได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น  ผมรักพ่อนะ..รักท่านมาก  แต่พ่อทำกับผมแบบนี้มันก็ไม่ถูก  บางครั้งผมกลับรู้สึกขอบคุณที่พ่อให้ผมตั้งใจเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง  แต่พ่อคงจะไม่ทันคิดว่าในกรณีของผมนั้นเรียนจนมีความรู้มากเกินไปนั้นคงไม่ดี
เมื่อผมอายุได้ยี่สิบปี  ผมเริ่มก้าวทีละก้าวไปตามสิ่งที่ผมวางแผนไว้  ผมเปิดบัญชีเป็นชื่อผมไว้สองบัญชีและทยอยนำเงินออกมาจากบัญชีที่เป็นชื่อของแม่นำไปใส่บัญชีของตนเอง  ผมถอนเงินออกมาที่ละก้อนอย่างช้าๆและสุขุมที่สุด  ผมคิดว่าแม่น่าจะรู้แต่แม่ปิดปากเงียบไว้และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ช่วงนั้นคงเป็นช่วงที่ตื่นเต้นเอามากๆ  ผมขำทุกครั้งที่ผมถอดเงินพวกนั้นออกมา  ผมคล้ายกับคนบ้าทุกครั้งเวลาที่อยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม
หลังจากที่ผมเรียนจบปริญญาตรี  พ่อให้ผมเข้าทำงานที่บริษัท King Jewel ของพ่อ  ตอนนั้นผมดีใจมากแต่ผมทำสีหน้าเหมือนไม่อยากทำเลยอย่างเช่นทุกครั้ง  ผมควรทำงานก่อนเพราะผมคิดว่าเงินที่ผมมีเก็บไว้อยู่นั้นยังไม่เพียงพอ  ผมแอบสมัครสอบชิงทุนด้านสาขาแฟชั่นดีไซน์และเรียนต่อปริญญาโททางด้านสาขานี้อย่างเงียบๆ  ผมไม่บอกใครเลยแม้แต่คนเดียว  แม้กระทั่งเพื่อนสนิทหรือแม่ของผมก็ตาม  ถ้าพ่อหรือพี่ชายผมสองคนรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็ผมจะต้องตายแน่ๆ  ผมควรก้าวเดินอย่างมีสติเพราะเหมือนผมกำลังใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวบนโลก  คอยพึ่งพาหัวใจของตัวเองอย่างเดียว  ตลอดหกปีที่ผมทำงานอยู่ในบริษัทของพ่อนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมาย  มากเสียจนบางครั้งผมที่พยายามแข็งแกร่งก็แทบรับไม่ไหว  ทั้งเรื่องเรียน  เรื่องการต่อสู้ในที่ทำงาน  เรื่องความรัก  เรื่องครอบครัว  มันถาโถมเข้ามาตลอดระยะเวลาหกปี  แต่ผมก็ไม่คิดที่จะหนีทั้งทั้งที่จริงผมสามารถหนีได้แล้ว  เงินเก็บของผมที่มีในตอนนั้นเกือบเจ็ดล้านบาท  ครึ่งหนึ่งเป็นเงินของพ่อแต่อีกครึ่งนั้นเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผม  ถ้าสำหรับคนอายุยี่สิบหกคนอื่นๆคงจะหาว่ามันมากโขอยู่  แต่สำหรับผมนั้นยังไม่เพียงพอ  เงินจำนวนเท่านี้ยังเป็นฐานไม่พอในเวลาที่ผมจะต้องเสียหลัก  ตอนนั้นผมเพียงแต่เฝ้านับวันรอที่จะจากไปจากที่ตรงนั้น  ความเจ็บปวดจากคนที่ผมรักทุกคนรอบตัวได้กระทำต่อผมตลอดหกปีมันมากพออยู่ที่จะผลักดันให้ผมหนีออกไป  แต่ผมยังไม่ไปไหน  เพราะผมได้รับปากคนๆหนึ่งไว้แล้วว่าผมจะรอเขา  จะรออยู่ที่บ้านนั้นอย่างไม่จากไปไหน  เมื่อเข้ากลับมา  เราจะเดินจากตรงนี้ไปพร้อมๆกัน..

“นี่คิว!” ผมตะคอกใส่หลานรัก  ที่ยังคงนั่งอ่านหนังสืออย่างสบายอกสบายใจอยู่ในห้องประจำของตนเอง
“อะไร” อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงไม่กระหยี่ว่าผมจะโมโห  เพียงแค่ตอบและไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำแต่งตัวอีก วันนี้เป็นวันเปิดพินัยกรรมนะ” ผมโวยวาย  เพราะคิวหนีการฟังพินัยกรรมอย่างนี้มาหลายครั้งหลายหนแล้วจนบ้านใหญ่โวยวายจนผมหูชาไปหมด  ปีที่แล้วเกิดเรื่องขึ้นมากมาย  บ้านของเราค่อนข้างวุ่นวาย  ทั้งเรื่องบริษัทเพชรของพ่อ  เรื่องการประกวดเพชร  เรื่องการบริหารงานในส่วนที่คิวต้องรับผิดชอบ  เรื่องที่ผมต้องเสียพ่อไปอย่างกะทันหัน  เรื่องถูกปองร้าย  เรื่องการแต่งงานและสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มันมากมายซะจนในแต่ละคืนพวกผมแทบไม่เป็นตาหลับตานอน
“คุณก็ไปฟังสิ” ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่  ที่หลานตัวดีของผมเริ่มหัดเรียกผมว่า “คุณ” “ผม” “อาบ้า” “อาประสาท” หรือบลา บลา บลา..
“คิว..อาจะพูดอีกครั้งเดียว ลุก ไป..อาบน้ำ เดี๋ยว นี้” ผมย้ำเสียง  ผมรู้ดีว่าคิวไม่อยากไปเพราะสาเหตุหลายหลายอย่าง  คิวเป็นเด็กที่สุขุมมากก่อนที่จะโผงผางเรื่องอะไรออกไป  กล้าได้กล้าเสีย  หยิ่งทะนงจนบางครั้งดูน่ากลัว  แต่เขากล้าที่จะเผชิญหน้าแม้จะรู้ว่าถ้าเขาล้มนั้นเขาอาจจะลำบากก็ได้  ซึ่งช่างเป็นนิสัยที่แตกต่างจากสมัยเมื่อผมเป็นวัยรุ่นเอาเสียเหลือเกิน
“ฮื้ม..” อีกฝ่ายนั่งเงียบ  ก่อนจะถอนหายใจอย่างรำคาญและวางหนังสือลงบนโต๊ะ
“น่าเบื่อจริง” คิวเงยหน้า  คิ้วขมวดมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ
“คิว..นั่นมันก็เป็นส่วนที่คิวต้องได้นะ ไปฟังให้มันจบๆไปซะ คุณปู่บอกว่าต้องการให้ทุกคนไปฟังพินัยกรรมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าคิวไม่ไป..พินัยกรรมก็เปิดอ่านไม่ได้”
“เปิดอ่านไม่ได้ แล้วผมแคร์เมื่อไหร่กัน” อีกฝ่ายยักคิ้วกวน  ที่คิวพูดอย่างนั้นได้เพราะคิวไม่ได้สนจำนวนเงินที่ตนจะได้รับทั้งทั้งที่รู้ว่าจำนวนนั้นมหาศาล  แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆในบ้านจะไม่ได้ไม่อยากได้นี่ครับ  นั่นแหละที่คิวรู้สึกสนุกที่ได้ปั่นหัวคนบ้านใหญ่เล่น
“ที่ตัวเองเล่นหักหน้าผู้ใหญ่บุ่มบ่ามแบบนั้นน่ะ ลืมไปแล้วรึไง” ผมเตือนถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่นาน  เรื่องที่ทำให้เป็นข่าวเสียหายในสายสัมพันธ์ทางธุรกิจ  ที่เจ้าตัวดันไปประกาศยกเลิกงานแต่งอย่างกะทันหัน  ถึงแม้ว่าคิวกับฝันจะตกลงยกเลิกกันเองอย่างไรนั้นผมไม่ทราบ  แต่การยกเลิกแบบนั้นทำให้หลายเส้นสายในวงการธุรกิจนั้นสั่นคลอนมากทีเดียว
“วันนี้ฟ้าครามก็กลับมาแล้วด้วย น้องกลับมาน้องจะได้ทำเรื่องให้มันจบๆไปสักที ให้น้องบินกลับไปกลับมาหลายครั้งน่ะ..น้องมีเรียนนะ อย่าขวางโลกสิคิว..อาขอได้ไหม” ผมเดินไปนั่งลงตรงหน้าอีกฝ่าย  คิวหันหน้าหนีไปอีกทาง
“นะคิว อาขอ..” ผมเอ่ย
“อาขอได้ไหม ขอได้ไหม..คุณพูดอยู่นั่นแหละ อัดเสียงไว้ เป็นหุ่นยนต์รึไง” มันบ่นเสียงดัง  คิ้วขมวดผูกกันเป็นโบ 
“ไอ้คิว!!” ผมขึ้นเสียงใส่  สำหรับผมแล้วคิวยังเป็นเด็กเสมอ  แต่เพียงแค่ตอนนี้เลี้ยงยากมากไปหน่อยเท่านั้น  ผมว่าหลานผมคนนี้คงลืมความรู้สึกว่ากลัวเสียงของผมเวลาที่โดนผมดุไปซะแล้วละครับ..หึ
“ชิ..รออยู่นี่แหละ น่ารำคาญชะมัด” คิวบ่นและลุกขึ้นก่อนจะเดินหนีออกไปอย่างหัวเสีย
“ใส่สูทนะคิว..คุณย่าอยู่ด้วย เดี๋ยวจะโดนดุ” ผมเตือนอีกฝ่ายที่เดินหนีไปไกลแล้ว
“หึ..ไอ้หลานบ้า” ผมอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ  เพราะนั่นแหละคือนิสัยที่แท้จริงของคิวล่ะนะ  ไม่ว่าคิวจะหงุดหงิดกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ผมไม่เคยจะโกรธเขาได้ลงเลย..






...................>>>><<<<....................

ถ้าคนอ่านท่านใดยังไม่กระจ่างในเรื่องใดก็ตาม  สามารถกลับไปอ่านได้ที่ "หมายเหตุ" ท้ายตอนจบของคิวและเค้ก  หรืออ่านได้ที่การชี้แจงหน้า 211 ค่ะ

เบบี้..^^




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6340 เมื่อ11-05-2012 00:42:42 »

สงสัยว่าฟ้ารอใครที่จะก้าวไปก้วยกัน ใช่คิวหรือเปล่าอะ

แต่ฟ้าสุดยอดเก่งทุกอย่าง คิวได้ความเก่งมาจากฟ้าแน่เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2012 01:18:55 โดย KaorPaor »

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6341 เมื่อ11-05-2012 00:47:25 »

จิ้มเบบี้ก่อน ไปอ่านก่อนเน้อ
====================
น่าลุ้นตรงที่ทำไมฟ้าถึงโกรธแฟน(รึเปล่า)นักหนา
โห อ่านแล้วเครียดแทนฟ้าอ่ะ โดนทั้งพ่อ พี่กดดัน น่าสงสารอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2012 00:55:29 โดย Pe๊aNu๊T »

ออฟไลน์ Pikky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6342 เมื่อ11-05-2012 00:47:57 »

 :L2:  อาฟ้ามาแว้ววววววววว

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6343 เมื่อ11-05-2012 00:48:45 »

เรื่องอาฟ้า จะออกมาแนวไหนนะ
น่าลุ้นจัง เพราะเปิดหัวออกแนวหม่นๆ
น่าลุ้นตอนต่อๆ ไป
แต่เหมือนสถาณการณ์มันต่อจากคู่หลักเลย
อย่างนี้ยิ่งสนุก เหมือนได้อ่านต่อ ไม่กลับไปกลับมา
 :L2: :L2:

 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2012 01:13:13 โดย ToffeE_PrincE »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6344 เมื่อ11-05-2012 00:50:16 »

อาฟ้าเครียดแต่เด็กเชียว
คิวก็ยังกวนเหมือนเดิม หึหึ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6345 เมื่อ11-05-2012 00:57:22 »

อาฟ้าเก่งอ่ะ
เป็นคนฉลาด ร้ายแบบมีสมอง ไอดอลเลยยยยย
อยากให้มีเค้กกะคิวหวานๆแซมๆบ้าง  อิอิ

Soyui

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6346 เมื่อ11-05-2012 00:59:43 »

อาฟ้าน่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าใครโดนกดดันแบบนี้จากคนในครอบครัว ก็คงมีความอึดอัดใจที่จะอยู่ด้วยกันแหละ
แต่สายใยของสายเลือดเดียวกันก็คงตัดกันไม่ขาดอยู่แล้ว

ปล. แอบลุ้นว่าทำไมอาฟ้าถึงได้ออกมาจากครอบครัวมา แล้วที่มีทะเลาะกันในตอนขอคิว-เค้ก ถึงจะเป็นเรื่องของพินัยกรรม แต่มันต้องมีไรมากกว่านี้แน่เลย


ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6347 เมื่อ11-05-2012 01:01:29 »

โย่ว อาฟ้า น้ำนิ่งไหลลึกจริงๆ
เหมาะกับครอบครัวนี้ซะนี่กระไร

รอวันที่อาฟ้าจะแยกบ้าน อิอิ

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ตามจริงเราก้อ่านทุกบรรทัดที่เบบี้โพสต์มาอ่ะนะ
เข้าใจและรับทราบหมายเหตุที่ชี้แจงทุกครั้ง
ตอนจบของลิมิเต็ด เลิฟเว่อ เราว่ามันโอเคแล้วกับนิสัยของคิว
มันชัดเจน บอกตรงตัวว่าพี่คิวรักและเลือกเค้ก
คิวไม่ใช่คนหวาน หรือแสดงออกขนาดเท่าปุถุชนทั่วไป
แต่คิวเป็นคิว และแบบนี้แหละถึงเป็นลิมิเต็ด

และแน่นอนว่าเพราะมันเป็นนิยายที่เบบี้เขียน
คนติดตามก้เยอะมากกกกกกกกกกกกกกก
จึงเลี่ยงไม่ได้ที่บางครั้งการสื่อสารผ่านตัวอักษรและอิโมชั่น
จะทำให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งได้ทุกคน

เราคิดว่าหลายๆคนรู้ว่าพาร์ทคิวเค้กน่ะจบแล้ว
และตอนต่อไปจะเป็นของพี่ฟ้า แต่แค่เพียงยังรู้สึกว่ามันไม่พอ อยากอ่านอีก
อยากรู้อีก ว่าหลังจากนี้คิวกับเค้กจะใช้ชีวิตที่มีกันและกันอย่างไร
และอย่างน้อยเราคนนึงก้แอบหวังตอนพิเศษอยู่ลึกๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก้เป็นสิทธิ์ของเบบี้ค่ะ เราเข้าใจ
เราแค่มีความโลภที่มันมักเกิดขึ้นเวลาเสพติดอะไรบางอย่างเท่านั้น
แต่ถึงจะโลภ แน่นอนว่าสักวันมันก้ต้องมีจุดที่อิ่มตัว
และความอิ่มตัวนั้นเบบี้ก้เป็นคนเดียวที่จะตัดสินได้

ในฐานะนักอ่านที่คอยติดตาผลงานของบี้มาโดยตลอด
เราเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเบบี้นะคะ
ยังไงก้เป็นกำลังใจให้ค่ะ


เห็นด้วยๆๆๆๆๆๆๆ  ตามอ่านพี่ฟ้าต่อ

Running

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6349 เมื่อ11-05-2012 01:13:48 »

อาฟ้ามาแล้ว
อยากอ่านตอนอาฟ้ามานานแล้ว
ดูมันกดดัน มากเลยสำหรับเด็กตัวเล็กๆ
แต่อาฟ้าก้อมีวิธีของอาฟ้า ฉลาดตั้งแต่เด็กเลยเเฮะ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รออ่านต่อ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
« ตอบ #6349 เมื่อ: 11-05-2012 01:13:48 »





faNg

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6350 เมื่อ11-05-2012 01:14:21 »

โหยยยยยยยยยยย อาฟ้าเก่งมากอะ ทึ่งมากก
ชอบๆๆ พี่คิวนี่สุดยอดเลยนะคะนะ ไม่เปลี่ยนแปลง แบบนี้แหละมันส์ดี
ขอบคุณเบบี้  o13

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6351 เมื่อ11-05-2012 01:18:36 »

ทำไมคิวตอนเด็กๆ มันดูน่ารักน่าหยิกปานนั้นฟระ  พอโตมากวนซะ

ออฟไลน์ YunNie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6352 เมื่อ11-05-2012 01:19:40 »

มาแล้ว มุมของอาฟ้า  :z2:  :z2:

เราเคารพการตัดสินใจของเบบี้นะฮับ
ถึงคนอ่านจะยังไม่เข้าใจไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะในส่วนของคิว
แต่นั่นก็คือวิธีในการดำเนินเรื่องของเบบี้ และเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของนิยายเรื่องนี้
เพราะฉะนั้นเรายินดีและตื่นเต้นที่จะได้ไล่ตามเรื่องราวของตัวละครทุกตัวไปทีละตอนๆ ฮับ
และเราชื่อว่า ถึงจากนี้ไปจะเน้นที่เรื่องของอาฟ้า
แต่เราก็คงจะได้รู้จักตัวละครอื่นๆ รอบตัวอาฟ้า (โดยเฉพาะท่านคิวผู้ลึกลับ) มากขึ้นเรื่อยๆ
และการมองจากมุมของบุคคลที่สาม มันก็ดูน่าสนใจดีนะ

จริงๆ ส่วนของอาฟ้าก็น่าสนใจ
เหมือนที่ทิ้งปมต่างๆ ให้อยากรู้ไว้ในตอนของคิว-เค้กนั่นแหละ
คราวนี้ เราจะได้รู้เรื่องราวของอาฟ้ากับพ่อเสือทิกเกอร์อย่างจริงๆจังๆเสียที (ไหม?)

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่และเรื่องราวที่กำลังจะเปิดเผยให้นักอ่านได้ติดตามฮับ  :กอด1:
เป็นกำลังใจให้เสมอ  o13

ป.ล. ถือโอกาสบอกความรู้สึกเกี่ยวนิยายเรื่องนี้สักนิด....
ส่วนตัวแล้วเราว่านิยายเรื่องนี้น่าสนใจมากนะ
แรกๆที่อ่านก็รู้สึกแปลกใจ เพราะเราว่ามันแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่เบบี้เคยเขียนมา
มันราบเรียบ สงบนิ่ง แต่สมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจต่อไป
แต่ละตอนต้องอ่านเกิน1รอบทุกทีเลย (เราคิดมากไปป่ะนะ ฮ่าาาาาา)
เราว่านอกจากเนื้อเรื่องที่น่าติดตามต่อไปแล้ว
พัฒนาการเขียน การเล่าเรื่องของเบบี้ในเรื่องนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะติดตามต่อไปด้วยล่ะ

ตั้งตาคอยทุกตอนๆ เลยฮับ สู้ๆ เด้อ   :a2:

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6353 เมื่อ11-05-2012 01:20:03 »

กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คิวตอนเด็กๆน่ารักมาก ทำไมโตมาเป็นงี้อ่ะ   :laugh:
ฟ้าเก่งมากเลย อัจฉริยะชัดๆ  o13
จะว่าไปพ่อคิวดูเย็นชาจังอ่ะ คิคิ อยากอ่านตอนต่อไปซะละ ไปหมุนนาฬิกาเดินเร็วๆก่อน  :impress2:

 :pig4:คุณเบบี้มากค่ะ ชอบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6354 เมื่อ11-05-2012 01:22:32 »

พาร์ทนี้จะเป็นเรื่องของ อาฟ้ากับทิกเกอร์หรือป่าวน๊าาาาาาาาาาาาาาา  หรือจะอาฟ้ากับคนอื่นเอ๋ย ลุ้นจัง

ออฟไลน์ mmilds

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6355 เมื่อ11-05-2012 01:26:27 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อ่านทีเดียวรวดสองตอน
ตอนจบกับตอนใหม่ 55555555555

พี่เบเบบบบบบบบบบบบบบบบบบ้ จะฆ่ากันรึไงนะ ><
พี่คิวโคตรน่ารักมากอ้าาาา 555555555
คือ ใครจะว่าคิวเค้ก เอื่อย น่าเบื่อยังไงไม่สนอะ เรื่องจริง
อ่านแล้วแบบ มันเป็นฟิคที่เรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่อ่านทีไร เขินทุกที
เขินทุกตอนเลยจริงๆนะคะ ><!!! (ยกเว้นตอนมาม่า)
แบบ มันเป็นอะไรที่แบบ หว่าววว มันดูชีวิตจริงนิดนึงนะ ไม่หวือหวามากเกินเป็นอะไรที่โอเค
มายชอบมากจริงๆ พี่คิวแม้จะจบก็ยังกวนทีน 5555555

ชอบที่เซนพยายามย้ำว่า คิวทำอะไร คิวตั้งใจเสมอ
และชอบที่แม้คิวกำลังจะบอกรักก็ยังจะลีลาาา "เหมือน.." "เหมือนฉันจะติดใจตักนายนะ"
หึหึ คนอะไรรรรรรร้ ขี้เก๊กซะไม่มี 555555555555

โมเม้นที่นึงที่อชบ (ที่จำได้ 555) ชอบสเมิฟฟฟฟฟฟฟฟ
สเมิฟสื่อรักได้รึป่าว? ฮ่าๆๆๆๆ ทั้งของขวัญวันเกิดเค้ก การให้ก็ไม่เหมือนคนอื่น
ของขวัญจับปีใหม่ พี่คิวก็ยังจะซื้อสเมิฟ ความจริงแล้ว เป็นแผนกับพี่ฟ้าใช่ป่ะล่าาาาา
อะไรเค้กจะฟลุ๊คจับได้ของคิวขนาดนั้น -..- 55555

ยังไงก็ตาม ชอบอะ ชอบจริงๆ นะคะ 555
แล้วก็ขอคิวเค้กโผล่ในตอนฟ้าเยอะ ๆน้าาาา คิดถึงคิวเค้กเสมอ ฮ่าๆๆๆๆๆ

-------------

มาอีกตอน สงสารพี่ฟ้ามากจริงอะคะ
คืออ่านแล้วแบบ หื้มมมม บางทีก็เหมือนชีวิตคนบางคนเลยนะ
โดนครอบครัวบังคับมาตลอดทาง :( *นึกถึงช่วงนี้กำลังจะเอนท์ปีหน้า* 5555

แต่พี่ฟ้าเก๊งงงเก่ง โคตรเมพมากมาย 5555555555
ชนะมันทุกอย่าง เก่งรอบด้าน แต่มากเกินมันก็...นะ

ชอบคิวตอนเด็กๆ จัง น่าร๊ากกก โตมาแบบ (- - )!!
ชอบตอนพินัยกรรมอะค่ะพี่เบบี้ 5555555
กวนตีนมากโคตรจริง ๆ อยากอ่านความสัมพันธ์อาหลานอีก ฮิฮิ
มันคงมีโผล่มาตลอดเรื่องใช่มั้ยคะ?
ว่าง ๆ ย้อนอีกน้าา อยากเห็นตอนเด็ก ๆ คิวติดอาฟ้าขนาดไหน 5555

ติดตามตอนต่อไปค่า :D ปล. อย่าให้รอนานน้าา 55555
ปล.2 หายปวดท้องไว ๆนะคะ ;3

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6356 เมื่อ11-05-2012 01:33:37 »

ชีวิตวัยเด็กพี่ฟ้าดูอึทครึมจัง :กอด1:

ออฟไลน์ NCJung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 988
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-5
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6357 เมื่อ11-05-2012 01:39:49 »

 :jul1:มาแบบสั้นๆ กระชับ ฉับไว แหะๆๆๆ
แต่ตอนนี้ก็ทำให้รู้เรื่องราวในอดีตของอาฟ้าส่วนหนึ่งละนะ
น่าสงสารอาอ่ะ แต่อาก็แอบ(เก็บกด)จนมามีทุกวันนี้ได้
แถมยังเป็นอีกคนที่มีอิทธิพลต่อพี่คิวมากๆอีกด้วย  :กอด1: รักอาฟ้า อิอิ

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6358 เมื่อ11-05-2012 01:49:23 »

มาติดตามเรื่่องอาฟ้าต่อค่ะ
ถึงจะใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความกดดัน แต่ก็ยังเลือกมุ่งไปในเส้นทางที่ดีนะ
ว่าแต่อาหลาน นิสัยต่างกันสุดขั้วชะมัด...ครอบครัวนี้มันยังไง  :z2:

ออฟไลน์ hikikomori

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-4
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่1 - Lover..2 [11/พ.ค/55 @ 00:40] P.212
«ตอบ #6359 เมื่อ11-05-2012 02:30:13 »

พอเป็นมุมของฟ้าแล้วคิวดูเป็นเด็กๆไปเลยจริงๆด้วย 55
รอตอนต่อไปจ้า^ ^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด