~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339  (อ่าน 2014992 ครั้ง)

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8280 เมื่อ28-07-2012 22:19:54 »

เชียร์เบบี้ดีกว่า ให้งาบอาฟ้าไปเลย

ออฟไลน์ bon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8281 เมื่อ28-07-2012 23:01:57 »

หึหึ 3p ดีปะ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8282 เมื่อ28-07-2012 23:17:15 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

tamekung

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8283 เมื่อ28-07-2012 23:44:09 »

อาฟ้าถ้าไม่รียตัดสินใจก็ยังจะค้างคาอยู่อย่างนี้นะ
พี่คิวดูเหมือนเป็นผู้ปกครองอาฟ้าจริงๆ
555555 แล้วน้องเค้กก็น่ารักตลอดๆ  :-[



ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8284 เมื่อ29-07-2012 00:24:58 »

เหมือนงานจะเข้ากันทุกคน
+1

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8285 เมื่อ29-07-2012 00:35:22 »

เลือกทิกเกอร์เถอะนะคะ
จักรไม่ใช่สำหรับพี่ฟ้าหรอก (จริงจังไปไหน 555)

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8286 เมื่อ29-07-2012 01:03:41 »

อ่านตอนนี้แล้วดีใจที่ทิกเกอร์ไปได้ซักที
ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะ ปล่อยให้ผีเน่าอยู่กับโลงผุแบบเนี้ยแหละ

Running

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8287 เมื่อ29-07-2012 01:21:35 »

จักร ทำคะแนนแล้วว
อาฟ้าจะเลือกใครล๊ะ ทีนี้
อยากให้ทิกเกอร์กลับไทยไวๆ รีบๆมาทำคะแนน เชียร์ทิกเกอร์น๊าาา
คิดถึงคิวกะเค้ก มานิดๆแล้วทำให้คิดถึงงง  :กอด1:
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8288 เมื่อ29-07-2012 10:30:14 »

บี้ ฝากเรื่องคำผิดเนอะ " หายเป็นปลิดทิ้ง " นะ ไม่ใช่ " ปริทิ้ง "

มันเหมือนปริจนจะแตกน่ะตัวเอง :กอด1:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8289 เมื่อ29-07-2012 10:39:41 »

แต่ที่จริงจักรนี่ก็พูดตรงดีนะ เค้าพูดความเป็นตัวตนของเค้า

ถ้าเอาเข้าจริงๆรู้สึกว่าจักรมันดูน่าสนใจกว่าทิกเกอร์อะ 555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
« ตอบ #8289 เมื่อ: 29-07-2012 10:39:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






bowstory2

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8290 เมื่อ29-07-2012 12:00:03 »

ทิกเกอร์ของเค้าล่ะะะะ T^T
อาฟ้าตัดสินใจดีดีน้า ^^

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8291 เมื่อ29-07-2012 12:10:51 »

จริงๆ ทั้งจักรกับไทเกอร์ก็ดีทั้งคู่และก็มีข้อเสียทั้งคู่ อยู่ที่ใจฟ้าแล้วว่าจะเลือกใคร แต่เป็นเราก็เลือกไม่ถูกแฮะ 555

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8292 เมื่อ29-07-2012 13:14:38 »

ทิกเกอร์อย่าพึ่งท้อกลับมาสู้ต่อเร็วว

THE MIN

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8293 เมื่อ29-07-2012 21:10:56 »

ทิกเกอร์ ถ้าอาฟ้าไมเอา เราพร้อมเสมอ

จักร กุเบื่อมึง

รักพี่คิวเสมอ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8294 เมื่อ30-07-2012 15:31:27 »

อ่านตอนนี้แล้วเราว่าความพิเศษที่จักรอยากได้ อาจจะได้ไปแล้วก็ได้นะ
อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้อาฟ้ารู้สึกยังไงกับใคร อยู่กับใครแล้วมีความสุข
แต่ก็เพราะว่าอะไรมันก็ยังไม่ชัดเจน ทั้งตัวอาฟ้าเองและคู่กรณีทั้งสอง
และเหมือนว่าจะเป็นจังหวะให้จักรได้ทำคะแนน เพราะทิกเกอร์ไม่อยู่ซะนี่
แต่ไม่ว่าอาฟ้าจะเลือกใครหรือจะทำอย่างไรต่อไปก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ขอแค่สิ่งที่เราเลือกคือความสุขและคือคนที่เรารักก็พอแล้วเนอะอาฟ้า
ขอบคุณคนเขียนมากคะ :L2:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8295 เมื่อ30-07-2012 17:31:32 »

3P เลยไหมถ้ามันจะยากขนาดนั้น :laugh:

 :pig4: คะ

ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8296 เมื่อ30-07-2012 20:02:26 »

ตอนนี้หนักไปทางจักร ฟ้ามีแอบหวั่นไหวอ่ะ
ใจแข็งไว้นะฟ้าเราโดนกระทำไว้เยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ   

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8297 เมื่อ31-07-2012 07:38:39 »

ตกลงก็ยังไม่รู้ว่าอาฟ้าจะคบกับใครเนอะ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8298 เมื่อ31-07-2012 07:47:11 »

รีบเก็บคะแนน ตอนที่อีกคนไม่อยู่ แต่จะเก็บได้มากเท่าไหร่คงต้องใช้เวลาอีกโขทีเดียว
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้  :กอด1:

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8299 เมื่อ31-07-2012 11:12:32 »

อาฟ้าถ้าเลือกใครไม่ได้ ก็หาเอาใหม่เหอะ

คนเจ้าชู้ตัดทิ้ง นอกจากปัญหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์แล้ว

ยังเรื่องของปัญหาครอบครัว ไหนจะเรื่องความสะอาดด้วย เดี๋ยวนี้มีสารพัดโรค

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
« ตอบ #8299 เมื่อ: 31-07-2012 11:12:32 »





ออฟไลน์ white choc~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8300 เมื่อ01-08-2012 12:19:20 »

อ๊ากกกกก คิดถึงเชี่ยเมตรรรรรรรรรร

เบบี้:เมิงมาผิดเรื่องล่ะ  :z6:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8301 เมื่อ01-08-2012 13:17:12 »

อาฟ้าให้โอกาสจักรแล้วทิกเกอร์หล่ะ  ม่ายยยยยยยยยยยยยยยน้า  :z3:

ออฟไลน์ ladyzakura

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8302 เมื่อ01-08-2012 16:34:16 »


เซ็งฟ้ามากกกกก กลับมาก็เหมือนเดิม หนีไปไม่ช่วยไรเลย

ทิกเกอร์ยอมแพ้ไปเหอะ ช้าตลอด ตลอดดดดด

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8303 เมื่อ01-08-2012 18:17:00 »

อาฟ้า ยังไงค่ะ ยังไง นี้ลุ้นจนจะเลิกลุ้นแล้วค่ะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8304 เมื่อ01-08-2012 22:15:22 »

จะคบจักร ก็ต้องคอยระแวงว่าจะเจ้าชู้เมื่อไหร่
หรือถ้าจะคบทิกเกอร์ รายนั้นก็มี "ลูก" ที่จะเป็นเงาคอยตรอกย้ำอดีตเจ็บๆของฟ้า

โสดโลดเลยฟ้า   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8305 เมื่อ02-08-2012 09:03:40 »

~18~



ณ  บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“พรุ่งนี้เช้าผมต้องไปอังกฤษนะ สักสี่ห้าวัน” คิวพูดขึ้นบนโต๊ะระหว่างอาหารเช้า  ผมชะงัก  เค้กเองก็ด้วย  เค้กมาที่บ้านผมตั้งแต่เช้าแล้ว  มาทานอาหารเช้าด้วยกัน  เห็นว่าวันนี้คิวและเค้กจะออกไปซื้อของด้วยกันนะครับ
“..ไปกับพ่อน่ะ” คิวพูดขยายความอีกเพียงสั้นๆ
“...................” เค้กเงียบและยิ้มน้อยๆอย่างไม่มีปากเสียงอะไรเช่นทุกครั้ง  การที่เค้กชะงักเมื่อกี้ด้วยทำให้ผมทราบได้ทันทีว่าคิวเองก็คงไม่ได้บอกเค้กเรื่องนี้มาก่อน  คิวเป็นคนอย่างนี้เสมอ  นึกจะไปก็ไป  นึกจะมาก็มา  ทุกคนที่สนิทก็ชินซะแล้วล่ะครับ  ที่ผมห่วงก็คือเค้กเท่านั้นล่ะ
“จะเอาอะไรรึเปล่า” คิวพูดไปแต่กลับไม่มองหน้าผม  มันเอาแต่ก้มหน้าก้มตาปรุงส่วนผสมให้กับอาหารจานของตัวเอง
“เอา..เอาหลานคนใหม่มาให้หน่อยนะ เบื่อแล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“หึ แย่หน่อยนะที่คงหาให้ไม่ได้..มีใครสมบูรณ์แบบได้เท่าผมอีกงั้นเหรอ” อีกฝ่ายย้อนตอบหน้าตายด้วยน้ำเสียงคล้ายประชดประชันผม  ผมทำหน้าเอือมใส่อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคิวจะพูดหลงตัวเองได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนี้  เค้กหัวเราะเสียงเบาก่อนจะก้มหน้ากินอาหารตรงหน้าต่อ
“เค้กไปกับคิวไหม เดี๋ยวพี่สั่งให้คนทำวีซ่าให้..ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ด้วย อืม..มีพ็อกเก็ตมันนี่ด้วยนะ เดี๋ยวพี่เปิดบัตรเครดิตให้ใบนึง ช็อปได้ตามสบายเลย..ดีไหมครับ” ผมชวนเค้กเพราะต้องการให้เค้กสบายใจ  ที่จริงถ้าเค้กอยากจะไปจริงๆ  ผมเองก็พร้อมที่จะจัดการให้ทุกอย่าง  แต่ผมรู้อยู่แล้วแหละครับว่าคนอย่างเค้กไม่มีทางรับของพวกนี้จากผมอย่างแน่นอน
“ไม่หรอกฮะ ขอบคุณครับพี่ฟ้า” เค้กยิ้มแหยพร้อมกับส่ายหัวท่าเดียว
“หรือว่าเค้กอยากนั่งห้องเดียวกับกัปตัน หืม..อันนั้นมันก็ยากไปนะ พี่ให้ไม่ได้หรอก” ผมพูดติดตลก
“หึหึ” เค้กหัวเราะร่า
“อยากไปเรอะ” คิวพูดเสียงสูงพร้อมกับมองหน้าเค้กเขม็ง  คิ้วของคิวเริ่มขมวดเข้าหากัน  เค้กหน้าเหวอ  ผมเองก็ด้วยเพราะไม่เข้าใจว่าคิวจะพูดเสียงสูงอย่างนั้นทำไม
“ไปกับพ่อฉันน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะ..ขอให้เชื่อ” คิวส่ายหัวอย่างขอไปที  ผมและเค้กหัวเราะออกมาอย่างเข้าใจในความหมาย
“อืม จริงสิ..ไม่ต้องไปหรอกเค้ก ปล่อยให้พ่อลูกเค้าไปสวีทกันสองต่อสองดีกว่า” ผมได้ทีจึงแซวและทำหน้าชวนเพ้อฝัน  เค้กยิ้มกว้าง  แต่คิวกลับหน้างอลงเรื่อยๆ
“พ่อลูกกับทริปแสนรัก ว้าว..น่าร๊ากอ่ะ!” ผมเล่นเสียง
“หึหึ” เค้กหัวเราะชอบใจ
“หุบปาก ทั้งคู่เลย” คิวปรามเสียงเข้ม
“ขออนุญาตค่ะคุณฟ้า” เขียวเดินเข้ามา  ผมหันไปเลิกคิ้วมองหน้าเธอ
“คุณจักรมารอพบที่หน้าบ้านแล้วนะคะ” เธอพูด  ผมพยักหน้าตอบให้เขียว  ก่อนจะเหล่สายตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ  คิวไม่พูดอะไร
“พี่อิ่มแล้วเหรอครับ” เค้กถามคิวที่เพิ่งวางช้อนส้อมลงบนจาน  คิวพยักหน้าตอบส่งๆ
“อยู่ๆก็รู้สึกกระเดือกไม่ค่อยลงน่ะ” คิวพูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นวางบนโต๊ะก่อนจะลุกเดินออกจากห้องอาหารไป  เค้กมองผมหน้าแหยเหมือนกับเข้าใจว่าคิวเป็นอะไร  ผมยิ้มตอบให้เค้กเพียงนิดเดียวก็ต้องกุมขมับตัวเอง  สี่ห้าวันมานี่ผมไปไหนมาไหนกับจักรตลอด  เราเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ  นั่นคงเพราะเราต่างฝ่ายต่างรู้และจำได้อยู่แล้วว่าใครคิดอะไรยังไง  ชอบหรือไม่ชอบอะไร  จึงไม่ต้องใช้เวลาจูนให้เสียเวลา..



= = = = = = = =


1 อาทิตย์ต่อมา..
“ตกลง พี่ฟ้าคบกับคุณจักรคนนั้นแล้วเหรอฮะ” กัสถามขึ้น  วันนี้ผมมาเช็คบัญชีที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์  ซึ่งจักรมานั่งทานกาแฟที่ร้านเพื่อรอรับผมไปทานอาหารกลางวันด้วยกันได้เกือบชั่วโมงแล้ว
“เรื่องของเด็กรึเปล่าเนี้ย หื้ม” ผมขยี้หัวกัสอย่างเบามือ  กัสทำปากจู๋หน้างอ
“ไม่รู้สิ..กัสก็ว่าสองคนมองกับพี่ฟ้าทั้งคู่เลยนะครับ แต่ตกลง พี่ฟ้าคบกับคนนี้แล้วเหรอ กัสเห็นเค้ามาอย่างบ่อยเลย แล้วคุณทิกเกอร์หายไปไหนล่ะฮะ” กัสพูดถามไม่หยุด
“ไม่รู้” ผมเลิกคิ้วและเบะปากตอบ
“ง่ะ..อยากรู้อ่ะ”
“เค้กก็อยากรู้ฮะ” เค้กโผล่หน้ามาแจมด้วยอีกคน
“แล้วเค้กแบบ..อะไรๆกับไอ้คิวไปรึยังล่ะ เรื่องบนเตียงน่ะ ถ้าเค้กบอกพี่ พี่ก็จะบอกเหมือนกันว่าพี่คบกับไอ้หมอนั่นรึเปล่า” ผมเลิกคิ้วกวน 
“ใช่ เค้ก..บอกเลย!” กัสสมทบทันที  เค้กหน้าเหวอและแก้มเริ่มแดง
“เรื่องแบบนั้น เค้กกับพี่คิวไม่ได้..คือ มัน จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ” เค้กพูดเสียงเบาลงเรื่อยๆพร้อมกับก้มหน้าลง  ผมเพียงแต่หัวเราะและลูบหัวเค้กอย่างเอ็นดู  ถ้ามองเผินๆเค้กก็เป็นเพียงเด็กผู้ชายหน้าตาดีที่เป็นวัยรุ่นชายปกติคนหนึ่งเท่านั้น  แต่ที่แตกต่างคือเวลาที่เค้กอายมากๆทีไรเค้กมักจะทำตัวเองให้หดลงเหลือสองนิ้วทุกครั้งไป
“พี่ต้องไปแล้ว ฝากดูแลร้านเยี่ยงเจ้าของร้านด้วยนะครับ” ผมฝากฝัง
“ได้เลยครับ!” เค้กและกัสรับปากในทันที  ผมพยักหน้าก่อนจะเดินออกมาจากเคาร์เตอร์และเดินตรงไปที่โต๊ะที่จักรนั่งอยู่ 
“เสร็จแล้วเหรอครับ” เมื่อจักรเห็นว่าผมเดินมา  เขาปิดนิตยสารธุรกิจที่อยู่ในมือลง  ผมพยักหน้าตอบ  จักรยิ้มกว้างจ้องหน้าผมตาเยิ้มจนทำให้ผมต้องกลอกสายตาหนีไปอีกทาง
“อมยิ้มทำไมน่ะ” จักรถาม
“เปล้า” ผมยักไหล่ตอบ
“หึ..จักรสั่งเค้กไปให้ลูกน้องน่ะ รอแป๊บนึงแล้วกัน เห็นว่าเด็กกำลังจัดใส่กล่องให้อยู่” จักรเปลี่ยนเรื่อง
“วันนี้เดี๋ยวจักรพาไปกินอาหารจีนนะครับ จักรโทรไปจองโต๊ะไว้แล้ว” ผมพยักหน้าตอบ
“เค้กที่สั่งกลับบ้านห้าชิ้นได้แล้วครับ” หมีเดินนำเอากล่องเค้กมาให้พร้อมกับวางบิลลงบนโต๊ะก่อนที่จะเดินถอยห่างออกไปยืนรอสองสามเก้า  จักรวางเงินลงประมาณสองพันบาทพร้อมกับลุกขึ้นยืน  ก่อนจะปิดสมุดรับบิลลงเป็นการบอกเป็นนัยว่า..ไม่ต้องทอน
“ฝากร้านด้วยนะ” ผมบอกหมี  หมีเพียงพยักหน้าตอบ  ผมกับจักรเดินออกมาทางด้านหลังร้านด้วยกันเพราะรถยนต์ของจักรจอดอยู่ที่หลังร้าน 
“อาราย” ผมท้วงแต่ไม่ได้หันกลับไปมองหน้าจักรเพราะรู้สึกเขินที่อยู่ๆจักรก็เข้ามาจับมือผมไปกุมไว้
“เดินจับมือ คนเป็นแฟนกัน..แปลกตรงไหน” จักรพูดด้วยน้ำเสียงสบายใจเหลือเกิน  ผมหันกลับไปเบะปากให้แต่ก็ต้องขำกับหน้าตาท่าทางของเขา


จุ๊บ~


อยู่ๆจักรก็จับมือผมขึ้นไปจูบก่อนจะยิ้มกว้างด้วยหน้าทะเล้น  ผมหัวเราะให้และไม่ได้ต่อว่าอะไร
“ฟ้า..” ผมและจักรชะงักหันหน้ามองไปตามเสียงเรียก  ผมยืนอึ้งมองคนตรงหน้า  ทิกเกอร์ยืนมองหน้าผมอย่างตกใจเช่นเดียวกัน  ทุกคนเงียบลง  ผมไม่ได้เอ่ยพูดอะไรเพราะมันเหมือนมีบางอย่างมาค้ำอยู่ในคอ  เมื่อผมจะนำมือออก  จักรกลับกำมือผมไว้แน่นกว่าเดิม
“.....................” ทิกเกอร์ยืนเงียบ  สายตาที่เขามองผมนั้นเหมือนกับผมกำลังทำให้เขาเจ็บปวดอย่างนั้น  สีหน้าของเขาดูผิดหวังอย่างรุนแรง 
“ไปเถอะครับ” จักรพูดเสียงเรียบ
“ปล่อยมือฟ้า!” ทิกเกอร์ตรงปรี่เข้ามาหาจักรพร้อมกับผลักจักรอย่างแรง  จักรผลักตัวทิกเกอร์กลับอย่างแรงเช่นเดียวกัน  สีหน้าของจักรเปลี่ยนไปจากทุกครั้งที่เคยมีเรื่องกัน  ครั้งนี้ไม่มีสีหน้ากับท่าทีที่ต้องการกวนอารมณ์หรือหยอกล้ออีกฝ่ายอีก  หน้าจักรดุดันมากจนผมรู้สึกกลัว
“ฟ้า..นี่มันอะไรครับ” ทิกเกอร์ถาม  หน้าของเขาเริ่มแดงด้วยความร้อนรน
“แค่นี้ มองไม่ออกรึไง” จักรกัดฟันพูด  ทิกเกอร์หน้าเสียกว่าเดิม
“ท..ทำไมคุณ คุณคบกับเค้าแล้วเหรอ” ทิกเกอร์ถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก  ผมไม่ได้ตอบเพราะรู้สึกเจ็บที่มือที่จักรเริ่มบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ  หัวใจเริ่มอยู่ไม่สุข  ปากของผมเริ่มสั่นจนพูดไม่ออก  ผมกำลังรับรู้อารมณ์ของพวกเราทั้งสามคน  รวมไปถึงความสับสนในหัวใจผม  มันยิ่งทำให้ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้  ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาหลายอาทิตย์ระหว่างที่ทิกเกอร์ไม่อยู่นั้น  จักรกับผมเข้ากันได้ดีมาก  ถ้าจะบอกว่าผมเอาจักรมาช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้นได้..มันก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้น  ผมกำลังใช้เขาเป็นเครื่องมือทำให้ผมมีความสุข
“เราไปกันได้ดี” จักรพูดน้ำเสียงเรียบ  ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าจักร  เขาไม่ยืดออกพูดออกไปว่า “เราคบกัน” อย่างเห็นแก่ได้  นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่  ทิกเกอร์หันกลับมาจ้องหน้าผม  ตาของเขาเหม่อลอยและแดง  ผมเองก็คงจะเช่นเดียวกันละมัง
“คุณรักเค้าเหรอ” ทิกเกอร์ถาม  เสียงเขามากแต่ผมก็ยังได้ยิน
“....................” ผมไม่ตอบอะไร  ตาของผมพร่าเบลอ  ไม่ว่าใครหน้าไหน  ก็มักแต่ได้ทั้งนั้น..ผมเองก็ด้วยเหมือนกัน  อยากได้ความสุข..ผมอยากได้
“ทำไมคุณ..” ทิกเกอร์ทิ้งเสียงลง  ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร  อยู่ๆผมรู้สึกเหมือนกับว่า  ตกลงมีใครไหมที่จะเห็นใจผมอย่างแท้จริง  สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาเพราะต้องการตอบสนองความต้องการของตัวเองทั้งนั้น  ทำไม..
ที่ตรงนี้เงียบลงอย่างกับถูกสาป  ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างยืนจ้องกันอยู่นานเท่าไหร่  ได้สติอีกทีตรงนี้ก็ไม่มีทิกเกอร์อยู่แล้ว  รถของเขาก็จากไปด้วย  จักรยังคงกำมือผมแน่น  ผมก้มลงมองพื้น  ขณะเดียวกันก็เห็นน้ำตาของตัวเองที่หยดลงที่พื้น  จักรไม่พูดอะไร  เขาจูงมือเดินพาผมไปที่รถของเขาก่อนจะขับรถออกมาจากร้าน..



= = = = = = = = =


ณ  คอนโดจักร..
“มาทานข้าวได้แล้วครับฟ้า ข้าวแกงกะหรี่น่องไก่เผ็ดๆที่ฟ้าชอบไง” จักรเดินมาตาม
“อื้ม” ผมพยักหน้ายิ้มตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินตามจักรไปที่โต๊ะอาหาร  หลังจากที่ออกมาจากร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ตั้งแต่เมื่อตอนสาย  ผมกับจักรไปทานอาหารกลางวันก่อนจะพากันเดินช๊อปปิ้งและมาจบที่คอนโดของจักรนี่ละครับ  เราตกลงกันไว้ว่าผมจะอยู่ทานอาหารค่ำที่คอนโดของจักร  ด้วยจักรได้ลงมือทำข้าวแกงกะหรี่น่องไก่รสที่ผมชอบ  ส่วนผมเอาแต่นั่งๆนอนๆ  ดูโทรทัศน์ไปพลางอย่างกับเป็นเจ้าของห้องก็ไม่ปาน
“อร่อยไหม” จักรถามหลังจากที่ผมได้กินคำแรกนำไปก่อน
“อร่อย” ผมยิ้มตอบ  จักรยิ้ม  ที่จริงบรรยากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตั้งแต่เมื่อตอนสายแล้ว  แต่ผมพยายามแล้วที่จะโฟกัสอยู่เพียงแค่จักรและผมเท่านั้น  ผมไม่อยากให้เสียบรรยากาศ  ผมพยายามคอนโทรมันไม่ให้ไขว้เขวอยู่ตลอดเวลาจนผมเองก็รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
“ดีแล้วครับ” จักรยิ้มน้อยๆ  เรานั่งทานอาหารต่ออย่างเงียบๆ  ส่วนมากจักรจะเป็นคนชวนผมคุย  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำงาน  หรือแม้กระทั่งเรื่องข้าวซุบซิบในวงการไฮโซก็ตาม  หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ  ผมถือวิสาสะเปิดไวน์ของจักรอย่างไม่ได้ขอ  จักรเพียงแต่หัวเราะและไม่ได้ต่อว่าอะไร  เขาจัดการเก็บโต๊ะอาหารและเข้าไปล้างจานในครัว  ส่วนผมก็ออกมานั่งจิบไวน์อยู่ที่ระเบียงห้องคนเดียว..
“สบายจังเลยนะครับคุณเจ้าของห้อง” จักรเดินมายิ้มแซว  ผมหันกลับไปยิ้มให้  จักรนั่งลงข้างๆผม  เก้าอี้ตัวยาวสามารถรองรับได้สองคนพอดี
“จุ๊บ~” อยู่ๆจักรก็เข้ามาหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว
“ชอบทีเผลอตลอด โรคจิตรึไงน่ะ” ผมว่าแกมหัวเราะ  จักรหัวเราะตอบก่อนจะเอาหน้ามาซบไหล่ผมอย่างออดอ้อน
“ฟ้า” จักรเรียกเสียงยาน  ยังคงเอาหน้าซบที่ไหล่ผมอย่างเดิม
“อะไร” ผมขานตอบ
“คิดอะไรอยู่ครับ”
“....................” ผมเงียบ  รู้สึกชะงักจนไม่สามารถตอบจักรไปได้  เราสองเงียบลงทั้งคู่  จักรไม่พูดอะไรอยู่นานมาก  ผมเองก็เช่นเดียวกัน
“ฟ้ารู้ไหม เหมือนใจฟ้าไม่ได้อยู่ตรงนี้”
“..เหมือนจักรอยู่คนละโลกกับฟ้าเลยนะครับ” จักรพูดพึมพำเสียงเบา  ผมเหลือบมองหน้าจักรก่อนที่จักรจะกลับไปนั่งตัวตรงอย่างเดิม  แต่เขาก็ไม่ได้หันหน้ากลับมามองหน้าผม  เราเงียบลงอีกครั้ง  ผมได้ยินเสียงจักรถอนหายใจแรง
“กับจักร ไม่ได้จริงๆสินะ” จักรหันมามองหน้าผม  สายตาของเขาผิดหวังจนผมต้องหันหน้าหนีทันที
“เปล่า” ผมตอบเสียงเบา
“หึ..” จักรหัวเราะ
“..จักรขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา แต่เป็นจักรไม่ได้เหรอครับ” อยู่ๆจักรก็สอดแขนเข้ามากอดเอวผมไว้  ผมไม่ได้ดิ้นหนีแต่นั่งนิ่งให้จักรกอดไปทั้งตัว  ผมได้แต่เงียบ  กลับรู้สึกจุกอยู่เต็มอกจนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้  จักรซบหน้าลงบนไหล่ของผมอีกครั้ง  คราวนี้เราต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นาน  จักรกอดผมแน่นไม่ยอมคลายอ้อมแขนลงเลย
“ฟ้ารักมันใช่ไหม” จักรถามขึ้น  แต่ผมไม่ตอบอะไร
“หึ..จักรอกหักเหรอเนี้ย” จักรพูดอีก  น้ำเสียงพูดปนหัวเราะแต่กลับรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายหายใจแรงมาก
“จักร” ผมย้ำเสียงเป็นการปรามการตัดสินใจของตัวเอง
“ฟ้ารู้ไหมครับว่าฟ้าฝืนยิ้มมาตั้งแต่เจอไอ้ฝรั่งนั่น ฟ้ารู้ไหมว่าที่จริงจักรรู้สึกหงุดหงิดมากแค่ไหน..จักรน่ะ อยากทำให้ฟ้าลืมมันซะเดี๋ยวนี้จริงๆ” จักรพูดเสียงเรียบ 
“หึ แย่จังนะ..นึกว่าจะสำเร็จอยู่แล้วเชียว” จักรพูดสลับอารมณ์ไปมาด้วยเสียงอ้อนอย่างกับเด็ก  ผมเพียงหัวเราะในลำคอ
“ฟ้าเหนื่อยน่ะจักร” ผมพูดขึ้น  และยิ้มให้เขาเพียงนิดเดียว
“จักรก็เหนื่อยครับ” จักรพูดบ้าง
“แต่เหนื่อยของเราสองคน คงคนละความหมายกัน” จักรถอนหายใจ
“ฟ้ารักจักรไม่ได้แล้ว..จริงๆเหรอครับ” จักรถาม  ผมหันกลับไปมองหน้าจักรก่อนจะเอื้อมมือลูบหน้าจักรอย่างเบามือ
“ไม่รู้” ผมตอบน้ำตาคลอ
“หึ..ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ก็ได้..ไม่เป็นไร” จักรยิ้มตอบน้อยๆพร้อมกับนำมือของตัวเองมากุมมือผมที่จับแก้มจักรไว้  จักรก้มหน้าลงเน้นจูบมือของผมอยู่นาน
“จักรผิดเอง ขอโทษครับ..ขอโทษจริงๆ” จักรพูดทั้งทั้งที่หลับตาอยู่  น้ำตาของผมหยดลงอาบแก้มอย่างไร้สาเหตุ  ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไรต่อคำพูดของจักร  จักรตาแดงไม่ต่างจากผม  เรายิ้มให้กันและกันก่อนที่จักรจะกอดผมเข้าไปทั้งตัว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2012 09:17:14 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8306 เมื่อ02-08-2012 09:06:04 »

“ฟ้ากลับไปเถอะครับ” จักรตัดบท
“กลับไปถามหัวใจของตัวเองให้ดี..”
“ว่าจะไม่กลับไปหาเค้าจริงๆรึเปล่า ทำตามหัวใจของตัวเอง..ช่วยทำตัวให้มีความสุขมากกว่านี้ เพื่อจักรหน่อย..จะได้ไหมครับ”
“ถ้าเลือกที่จะอยู่ตรงนี้กับจักร ก็ช่วยอย่าทำเหมือนจักรไม่มีตัวตนแบบนี้” ผมน้ำตาไหลลงมากกว่าเดิม  จักรยังคงกอดผมอยู่อย่างนั้นอยู่นาน  ผมไม่พูดตอบอะไรจักรเลย  น้ำตามันไหลลงมาอย่างกับไม่เคยได้ร้องไห้มาก่อนอย่างนั้น  จักรกอดและลูบหัวปลอบผมอยู่เกือบชั่วโมง  จนเราต่างฝ่ายต่างรู้สึกเมื่อยละมัง  จักรถึงปล่อยผมออกก่อนที่จะหากระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้ผม
“เดี๋ยวจักรขับรถไปส่งที่บ้านนะ” จักรยิ้ม  ผมยิ้มและพยักหน้าตอบ  จักรจัดการเก็บแก้วและขวดไวน์ก่อนจะพาผมมาส่งที่บ้าน  ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรต่อกันเลยจนมาถึงบ้านของผม
“ขอโทษนะ” ผมพูดขึ้น  จักรไม่ได้หันกลับมามองแต่ใบหน้าเขากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกันครับ” จักรฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมและพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะนิดๆ  ผมยิ้มตอบให้
“ขอบคุณนะ” ผมบอก  จักรนั่งเงียบ  เขาหุบยิ้มลง
“จุ๊บ~” ผมเอื้อมตัวเข้าไปหอมแก้มจักรเบาๆ
“ฝันดีครับ” ผมพูดแทบกระซิบ
“ครับ..ฝันดี” จักรไม่ได้หันหน้ามามองผมอีก  เขาเพียงพูดตอบและยิ้มให้แค่นั้น  ผมลงมาจากรถและเดินตรงเข้าบ้านทันที  ผมเดินเข้ามาในบ้าน  ดึกป่านนี้แล้วคิวคงทานอาหารค่ำแล้วเรียบร้อยหรืออาจจะขึ้นห้องไปแล้วก็ได้  บ้านเงียบมากเกินไปจนผมรู้สึกเหงาขึ้นมาจุกอก  ผมต้องเดินผ่านห้องหนังสือถึงจะเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองของบ้านได้  แต่ผมหวังอยู่ลึกๆว่าหลานชายสุดที่รักอาจจะยังอยู่ในห้องนั้น  ผมหวังให้คิวอยู่..ขอให้เขาอยู่ในนั้นเถอะ
ผมหยุดเดินอยู่ที่หน้าห้องหนังสือ  คิวที่กำลังจะเดินออกมาจากห้องชะงักเมื่อหันมาเห็นว่าผมเดินมาพอดี  คิวเดินตรงเข้ามาใกล้ผมด้วยสีหน้าถมึงทึง  คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างบอกอารมณ์
“เป่าปี่ทำไมน่ะ” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ
“อึก..” ผมโผเข้ากอดคิวไว้ทันที  คิวเพียงแต่ยืนนิ่ง  ผมกอดคิวแน่นกว่าเดิมและซุกหน้าเข้าที่หน้าอกของหลานของตัวเองอย่างต้องการรับไออุ่นจากอีกฝ่าย
“ฟู่..” อีกฝ่ายถอนหายใจแรงก่อนจะวางมือลงบนหลังของผมอย่างเบามือ  ผมยืนกอดคิวอยู่อย่างนี้อยู่นานมาก  คิวเองก็ไม่ได้เอ่ยปากบ่นอะไรจนเวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง  จนผมรู้สึกว่าน้ำตาไม่สามารถออกมาได้อีกนั่นละผมถึงปล่อยคิวออก
“กินอะไรมารึยัง” อีกฝ่ายถาม  ผมพยักหน้าตอบก่อนจะปาดแก้มเช็ดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆ
“ขึ้นไปอาบน้ำซะ..ถ้ากอดนานกว่านี่ คิวก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมตัวเองไม่ให้ด่าได้ไหม” มันว่า
“หึ” ผมหัวเราะ
“เดี๋ยวคิวจะทำอะไรร้อนๆไปให้”
“อื้อ” ผมยิ้มให้หลานตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากห้องหนังสือและเดินตรงขึ้นห้องนอนเพื่อที่จะอาบน้ำให้สบายตัวขึ้น  หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  ก็พบว่าคิวนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ถึงห้องแล้ว
“โห นมสด..อยากกินชาอ่ะ” ผมบ่นทันทีเมื่อเห็นแก้วนมสดร้อนวางอยู่บนโต๊ะ
“อย่าเรื่องมาก” อีกฝ่ายว่าก่อนจะยกนมสดแก้วของตนเองขึ้นดื่ม
“ถ้าปวดหัวก็กินยาด้วย” คิวพูดส่งๆ  ผมเหลือบมองยาที่วางอยู่บนใกล้ๆกับแก้วนม
“แหม..เป็นห่วงเค้าอ่ะดิ้” ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆคิวก่อนจะเอาหัวไปซุกไหล่มัน  คิวนั่งนิ่ง  อยู่ๆในห้องก็เงียบไร้เสียงใดๆ
“ที่จริง ถ้าคุณจะเลือกไอ้ เอ่อ..อาจักร ผมก็คงจะไปฝืนอะไรไม่ได้ล่ะนะ” คิวเปลี่ยนน้ำเสียงลง
“แต่ถ้าคุณยังรักเค้าอยู่ ก็รีบไปหาเค้าเถอะ..ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป” คิวพูดเสียงเรียบ  ผมเงียบ  และรับรู้ได้ว่า “เขา” ในที่นี้ที่คิวหมายถึงนั้นไม่ใช่ “จักร” อย่างแน่นอน
“ก่อนที่ทิกเกอร์จะเลือกมาหาคุณ ไม่ใช่เค้าไม่ทดสอบตัวเองก่อนแล้วหรอกนะว่าที่จริงแล้ว เค้ารักหรือเค้าแค่หลงคุณกันแน่..เพราะเค้าแน่ใจแล้ว เค้าถึงมา” คิวพูด  ผมไม่ตอบเพราะกำลังคิดตามที่คิวพูด  ผมรู้สึกว่าคำพูดนี้มันมีความหมายนัยๆอย่างไรพิลึก
“คิวก็ต้องเข้าข้างทิกเกอร์สิ” ผมบ่นอย่างน้อยใจ 
“แน่ล่ะ..จากัวร์คันนั้นสิบสี่ล้านเลยนะ ไหนจะ Patek Philippe อีก..หึ” มันแสยะยิ้ม  ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความชอบอกชอบใจในสิ่งของอย่างเต็มพิกัด
“แต่ก็นะ ของมันก็แค่ผลพลอยได้ละนะ” อีกฝ่ายแก้ตัว  ผมรู้ดีว่านี่คือคำแก้ตัวอันแสนฉลาดของหลานผมก็เท่านั้น
“ก่อนที่ผมจะช่วยเค้า..ผมเองก็ต้องแน่ใจก่อนด้วยเหมือนกัน” คิวพูด  ผมหุบปากเงียบ  กะว่าจะเถียงแต่ก็ยังนึกคำพูดไม่ออก
“ตกลงจะคบกับไอ้อาจักรนั่นใช่ไหม” คิวถามอีกครั้ง  จาก “อาจักร” รวม “ไอ้”  จึงกลายเป็น “ไอ้อาจักร” อย่างน่าขำเพราะคิวกำลังพยายามลดทิฐิของตัวเองลงแต่ก็เหมือนทำไม่ได้
“เปล่า” ผมตอบเสียงเอื่อย
“เหรอ..เห็นทิกเกอร์บอกว่า คบกันแล้วนี่” คิวว่า
“ก็..ตอนแรกว่าจะอย่างนั้น ก็ไอ้หมอนั่นดันโผล่มาตอนนั้นทำไมล่ะ” ผมพูดแก้ตัว
“หึ..ช่างมันเถอะ เฮิร์ทซะขนาดนั้น..อีกไม่กี่วันคงทำเรื่องขอกลับไปอยู่ประจำที่อังกฤษแหละ” คิวพูด  ผมผละตัวออกจากไหล่ของคิวพร้อมกับจ้องหน้าคิวเขม็ง  คิวเลิกคิ้วเบะปากตอบให้ผม
“กินสักทีสิ จะได้เข้านอน..ผมก็จะไปนอนแล้ว” คิวบอกก่อนจะหันกลับไปหยิบกระดาษโน้ตใกล้มือมา  ผมนั่งมองว่าคิวกำลังเขียนอะไรอยู่  พอคิวเขียนเสร็จก็เลื่อนกระดาษบนโต๊ะมาตรงหน้าผม  ผมเพียงเหล่สายตามองแต่ก็ยังทำหยิ่งที่จะหยิบขึ้นมาดู
“หยิ่งได้ใครน่ะ” มันแสยะยิ้ม  มองผมอย่างกับผมเด็กกว่ามันอย่างนั้น
“เจ็บปวดอยู่ไม่ใช่รึไง” คิวพูดแกมประชดก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแก้วนมของตัวเอง  ผมนั่งเงียบแต่ลมหายใจกลับแรงขึ้นเรื่อยๆ  ผมหยิบกระดาษขึ้นมาดู  เป็นชื่อบริษัทและที่อยู่ของบริษัท  รวมไปถึงตำแหน่งงานของทิกเกอร์ด้วย..
“หึ..” ผมน้ำตาคลอ
~ แพ้แล้วสินะ..แพ้หัวใจตัวเองอีกแล้ว ~



= = = = = = = =


08:00 น. ณ  บ้านเมธิชัย  สิทธิบดีทรัพย์..
“วันนี้จะออกไปไหนกันน่ะ ถึงเสนอหน้ามากินข้าวด้วยกันได้” ผมทักหลานตัวดีสองคน  เซ็นและคิวมานั่งรอที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้าแล้ว
“จะไปส่งเชอร์เบ็ตไปเรียนบัลเล่ต์น่ะ แล้วก็พาบัตเตอร์ไปเรียนขี่ม้าต่อ..” คิวตอบพร้อมกับคลี่ผ้ากันเปื้อนเตรียมพร้อมทาน 
“เราก็เลยจะขี่ด้วยน่ะอา ขาดหายมานาน..เดี๋ยวจะลืมรสชาติซะหมด” เซ็นยิ้ม
“ขี่กันเองหรือขี่ม้า” ผมว่าแซวไปอย่างนั้น
“หึ ถามไอ้คิวดีกว่านะ..ว่ามันจะยอมให้เซ็นเป็นเมียมันเปล่า เซ็นน่ะยอมให้มันขี่ได้อยู่แล้ว สบาย..หึหึ” เซ็นเล่นหูเล่นตา  คิวส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายต่อคำพูดของผมทั้งสองคน
“แล้วจะกลับกี่โมง” ผมถามเพราะรู้สึกอยากไปด้วยขึ้นมา
“สนเหรอ” คิวอมยิ้ม  มันมองเหล่มาที่ผมตั้งแต่หัวจรดเสื้อผ้าที่ผมสวมใส่
“หึ..”
“นี่!” ผมปรามเสียงหัวเราะจากเซ็นเหมือนทั้งสองกำลังอ่านผมออกอย่างนั้นแหละครับ
“วันนี้คุณอาจะไปไหนเหรอครับ” เซ็นยิ้มถามอย่างหยอกล้อ 
“มันเรื่องของฉัน” ผมตอบก่อนจะรีบตักอาหารกินด้วยรู้สึกเขินขึ้นมา
“มึงต้องเรียกค่าสินสอดเยอะๆนะไอ้คิว..โอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะเว้ย” เซ็นยักคิวให้เพื่อนตน  คิวยิ้มยักคิ้วตอบด้วย
“อาไม่ได้จะไปหาทิกเกอร์สักหน่อย!” ผมว่า
“พูดอะไรรึยังล่ะ” มันสองคนประสานเสียงกัน  ผมหุบปากเข้าหากันทันที
“พอดีเลย กูกำลังอยากต่อเติมโรงจอดรถพอดี” คิวเห็นดีเห็นงามไม่เลิกอีก
“เน่..หุบปากกันได้ไหมเนี่ย” ผมว่า  ทั้งรู้สึกเขินรวมถึงหงุดหงิด  สงสัยผมคงจะมีพิรุธมากไปเสียหน่อย  ผมก็ว่าผมไม่ได้แต่งตัวให้ดูเกินหน้าเกินตาไปนะครับ  ก็ใส่เสื้อเชิ้ตกับแจ็คเก็ตปกติ  เมื่อคืนผมนอนคิดอยู่หลายตลบว่าผมควรทำตามหัวใจของผมอย่างที่จักรขอร้องดีรึเปล่า  ก้นบึ้งของหัวใจกลับเห็นดีเห็นชอบต่อคำพูดของคิวและจักรไปซะหมด  แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหาบทสรุปได้จนคล้อยหลับไป  ตื่นมาอีกที  เมื่ออาบน้ำแต่งตัว  ระหว่างที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่นั้น  เหมือนมันมีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเตือนสติของผม  จิตใต้สำนึกที่ผมกำลังต้องการเสื้อผ้าที่ดูดี  บอกได้ว่าผมเลือกเพื่อที่จะไปที่ไหน  ผมเลือกหาชุดที่ดูดีเหมาะสมกับวันนี้มากที่สุดเพื่อใคร..นั่นเหมือนกับเตือนสติผมไปเป็นนัยอย่างนั้น
เมื่อแต่งตัวเสร็จ  ความรู้สึกก็ไม่วายจะขัดแย้งกันอีก  ผมหยิบกระดาษที่คิวจดที่อยู่ของบริษัททิกเกอร์มานั่งจดๆจ้องๆอยู่นานเกือบชั่วโมง  เมื่อผมพลิกกระดาษมาอีกด้านหนึ่งเพื่อจะตัดใจไม่จ้องมองที่อยู่นั่น  ก็ต้องพบกับข้อความข้อความหนึ่งเข้า  เป็นข้อความที่ทำให้ผมชะงัก  เป็นข้อความและลายมือที่ทำให้ผมถึงกับต้องยิ้มทั้งน้ำตา  ที่จริงก็บอกไม่ได้ว่าข้อความนี้จะตรงตอกย้ำถึงความรู้สึกของผมไปมากกว่าที่จักรและคิวได้พูดมาก่อนหน้า  แต่มันเหมือนกับย้ำเตือนว่า “นี่คือเวลาสุดท้ายแล้ว” แค่นั้น  ข้อความจากเธอคนนี้ละมัง..ที่ไม่ทำให้ผมต้องนั่งมองชื่อบริษัทและคิดหนักอีกต่อไปว่าจะไปดี...หรือไม่ไปดี
“อย่างว่าแหละเนอะ คนเรา..ไม่ได้เจอคนที่ใช่บ่อยๆซะเมื่อไหร่” เซ็นพูดขึ้นพร้อมกับโยกหัวไปมาไม่หยุด
“ถ้าเจอใครก็ได้ แล้วบอกว่าใช่ทุกคนอย่างมึง..กูว่าพบจิตแพทย์เหอะ” คิวสวนว่าเซ็นพ่วงไปด้วยอีกคน
“อ่าว..แล้วไหงมึงมาว่ากูด้วยล่ะ” เซ็นว่า
“ก็จริง” คิวตอบ
“ก็กูยังไมเจอนี่หว่า คนที่ใช่อ่ะ..ใช่แบบคบด้วย กับใช่แบบคู่นอน มันไม่เหมือนกันเนอะอาเนอะ” เซ็นหันมาพยักพเยิดหน้าใส่ผมอย่างขอความคิดเห็นร่วม
“ไม่รู้” ผมเบะปากตอบอย่างไม่สนใจมันบ้าง
“หึหึ” ทั้งสองคนหัวเราะร่วน  เรานั่งทานอาหารเช้าร่วมกัน  เป็นนานๆทีที่จะได้มานั่งทานร่วมกับเซ็นอย่างนี้  กว่าจะทานหมด  ผมก็โดนเผาจนเกรียมไปหมดเลยล่ะครับ..เฮ้อ  “เด็กเปรต”



= = = = = = = =


บริษัท Empire สาขาใหญ่ประจำประเทศไทย..
“ไม่ทราบว่ามาพบใครคะ” พนักงานต้อนรับยิ้มถาม 
“ทิกเกอร์” ผมตอบไม่เต็มเสียง  เธอชะงักด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย
“ผู้จัดการใหญ่..ทิกเกอร์ โจนาธาน แคทเทอร์ครับ” ผมตอบแต่ไม่ได้มองหน้าเธอ  ผมกวาดตามองไปรอบๆตัวแทนเพราะรู้สึกไม่คุ้นสถานที่
“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้รึเปล่าคะ” เธอถามอีกครั้ง
“เปล่าครับ” ผมตอบ
“เดี๋ยวดิฉันจะติดต่อให้นะคะ ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ” เธอพูด
“เมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ครับ” ผมตอบ
“..อ๊ะ ค่ะ” ผมพยักหน้าพูดอย่างตะกุกตะกักก่อนจะก้มหน้าต่อสายโทรศัพท์ให้ผม  ผมยืนหันหลังให้กับเธออยู่ครู่หนึ่ง 
“คุณเมธิชัยคะ คือว่า..วันนี้ผู้จัดการมีประชุมทั้งวันเลยน่ะค่ะ” เธอยิ้มแหยบอก
“คุณต่อสายตรงถึงเขาเหรอ” ผมถามเสียงแข็ง  ด้วยรู้สึกเสียหน้าขึ้นมา
“ป..เปล่าค่ะ” เธอตอบ  พนักงานคนอื่นที่อยู่แถวนั้นอีกสองสามคนเดินมาใกล้เธอคนนี้เหมือนต้องการช่วยเหลือ  พวกเธอต่างสอบถามพนักงานคนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“งั้นช่วยต่อสายตรงถึงผู้จัดการของคุณด้วย” ผมสั่ง
“แต่..แต่ว่า ตอนนี้ผู้จัดการกำลังพบลูกค้าคนสำคัญอยู่น่ะค่ะ” เธอยิ้มตอบ
“....................” ผมเงียบ  มองหน้าเธอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก  ผมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา  จดๆจ้องๆอยู่ที่เบอร์โทรของทิกเกอร์ก่อนที่ผมจะตัดสินใจโทรออก  ผมยืนรอสายอยู่นานมากจนตัวเองรู้สึกตื่นเต้น  หัวใจเริ่มเต้นอย่างผิดปกติ
“ฮัลโหล” ปลายสายรับ  เป็นน้ำเสียงที่ปราศจากความดีใจอย่างสิ้นเชิง  เสียงรอบตัวจากปลายสายเหมือนมีคนอยู่ด้วยสองถึงสามคน
“คุณประชุมเหรอ” ผมถาม  พนักงานต้อนรับสามสี่คนเอาแต่จ้องหน้าผมเขม็ง
“ครับ ผมพบลูกค้าอยู่” อีกฝ่ายตอบ
“ลูกน้องคุณสามคน กำลังยืนจ้องหน้าผม..เค้าไม่ยอมให้ผมพบคุณ” ผมพูดเสียงแข็งอย่างชัดถ้อยชัดคำ  จนพนักงานที่ยืนจ้องหน้าผมอยู่หน้าเสียและต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง
“....................” ทิกเกอร์เงียบไป 
“ผมมีลูกค้าคนสำคัญต้องคุยงานน่ะ คุณมีอะไรรึเปล่า” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงห่างเหิน
“มีสิ..ไม่มีผมจะโผล่มาทำไมถึงที่นี่ล่ะ!” ผมว่ากลับอย่างหงุดหงิด
“ผม..ผมมีประชุมต่อด้วย แค่นี้นะ” อีกฝ่ายพูดตะกุกตะกักก่อนจะตัดสายทันที
“ไอ้ทิกเกอร์!” ผมตะคอกทั้งทั้งที่ปลายสายวางสายไปเรียบร้อยแล้ว
“ไอ้..ไอ้ ฮื้ม ไอ้ฝรั่งเลว!”
“ห้องผู้จัดการอยู่ชั้นไหน” ผมถอนหายใจก่อนจะกัดฟันถามออกไปอย่างโมโห  ผมพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้มันครุไปมากกว่านี้
“แต่..” เธอคนเดิมตะกุกตะกัก
“อย่าให้ผมต้องถามซ้ำ ไม่งั้นผมจะโทรไปสำนักงานใหญ่ที่อังกฤษ แล้วบอกว่าบริษัทคุณสาขานี้มันไร้ประสิทธิภาพ” ผมขู่ไปอย่างนั้นเอง  เธอหน้าเหรอหราในทันที
“แต่ดิฉันบอกไม่ได้จริงๆค่ะถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้จัดการใหญ่ก่อน” เธอตอบ
“ได้!” ผมกระแทกเสียง  ตอนนี้รู้สึกโมโหไปหมด  ยิ่งทิกเกอร์ทำตัวอย่างนี้ใส่ผม  ผมยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นไปใหญ่  ผมกดโทรศัพท์ต่อสายหาปูนเดี๋ยวนั้น  และต้องรอสายอยู่นานมากกว่าคนปลายสายจากอีกฝั่งทวีปจะกดรับ
“ปูน! พนักงานบริษัทแกมันไม่ให้ฉันขึ้นไปพบไอ้ทิกเกอร์!” ผมพูดโวยวายเสียงดัง
“เอ๊ะ ไอ้ฟ้า..” ปูนอุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น” ปูนถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“อย่าเพิ่งถามตอนนี้ได้ไหม ฉันโมโหไปหมดแล้วเนี้ย..จัดการพนักงานบริษัทแกให้ฉันเดี๋ยวนี้” ผมสั่งก่อนจะยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้กับพนักงานต้อนรับ  เธอรับไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ค่ะ..ค ค่ะ..ใช่ค่ะ ค่ะ..เลขาบอกว่าผู้จัดการมีประชุมทั้งวันค่ะ ท่านสั่งไม่ให้ใครนัดวันนี้”
“ค่ะ ค่ะ..ค่ะ ขอโทษค่ะ” เธอพูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์มือถือกลับมาให้ผมอย่างนอบน้อม  ผมเห็นว่าปูนยังไม่ได้กดตัดสายจึงนำมาคุยต่อ
“โอเคแล้ว..แล้วจะโวยวายอะไรก็ช่วยนึกถึงหน้าพี่สาวฉัน ฉันกับทิกเกอร์มันหน่อยได้ไหม อีบ้า!” ปูนด่าทันทีเหมือนรู้ว่าผมกำลังฟังอยู่
“ก็มัน..” ผมกำลังจะเอ่ยแก้ตัว
“แล้วก็สำนึกบ้างนะ ว่าเวลาประเทศแกกับประเทศที่ฉันอยู่นี่มันไม่ตรงกัน” ปูนกัดฟันว่าอีก
“อ๋อ ลืมน่ะ..โทษที แค่นี้นะ ขอบคุณ” ผมบอกก่อนจะตัดสายทันที

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2012 09:18:41 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่17 - Lover..2 [28/07/55 @ 09:29] P.275
«ตอบ #8307 เมื่อ02-08-2012 09:08:17 »

“ตกลงชั้นไหนครับ” ผมปรับอารมณ์ก่อนจะถามเธอออกไป
“ชั้นที่สามสิบค่ะ ออกจาลิฟต์แล้วเลี้ยวขวาเลยนะคะ” เธอยิ้มบอก
“ขอบคุณครับ” ผมบอกก่อนที่จะเดินตรงดิ่งไปขึ้นลิฟต์ในทันที  เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่ว่า  ผมเดินตรงไปตามทางที่พนักงานต้อนรับได้บอกไว้  เมื่อเดินไปก็ไม่พบใครนอกจากพนักงานที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่ในห้องส่วนตัวของใครของมัน
“เอ่อ ขอโทษนะครับ” ผมทักผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเดินมา
“ครับ” เขาหยุดชะงักตรงหน้าผม
“ไม่ทราบว่า ห้องของผู้จัดการใหญ่อยู่ไหนครับ” ผมถาม
“อ่อ ตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายเลยครับ จะอยู่ทางด้านซ้ายมือนะครับ” เขายิ้มและผายมือเป็นการบอกทางด้วย 
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มและผงกหัวให้เขาเล็กน้อย  ก่อนจะรีบก้าวเท้ายาวเดินไปตามทางในทันที  ผมไม่รู้ว่าผมใจร้อนหรือเพราะทางมันไกลมากกันแน่  ตอนนี้รู้สึกเหมือนอะไรๆก็ไม่ได้ดั่งใจไปซะหมด
“ขอโทษนะครับ” ผมรีบวิ่งเข้าไปทักเลขาของทิกเกอร์  ผมจำเธอได้ดีเพราะเธอมีลักษณะหน้าตาที่โดดเด่นและจำได้ง่าย
“อ่าว..คุณ” เธอชะงักด้วยท่าทางงงๆ
“ทิกเกอร์อยู่ไหนครับ” ผมถามตรงประเด็น
“บอสเข้าพบลูกค้าน่ะค่ะ คุณนัดบอสไว้เหรอคะ..เอ๊ะ หรือว่าคุณคือคนที่โทรติดต่อมาเมื่อกี้” เธอถาม
“ใช่ครับ” ผมตอบ  รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของตัวเองเริ่มไม่ปกติ
“อ่อ คือ..ไม่ได้นัดไว้ใช่ไหมคะ ตอนนี้บอสเข้าพบกับลูกค้าอยู่น่ะค่ะ..พบลูกค้าเสร็จก็มีประชุมต่อด้วยค่ะ”
“แล้วจะประชุมเสร็จเมื่อไหร่” ผมถามอีก
“น่าอีกสักประมาณสองชั่วโมงนะคะ อาจจะเสร็จก่อนพักเที่ยง” เธอยิ้มตอบ
“...................” ผมเงียบ  หันหน้าหนีเธอ  ผมรู้สึกว่าผมอยากคุยตอนนี้  ผมไม่อยากรอ  มันเหมือนกับว่าผมกำลังจะสูญเสียเขาไปอย่างนั้น  อย่างที่เขาว่ากันไว้..ของที่ได้อย่างเคยชินมักจะสำคัญเมื่อจากไป  คงเป็นอย่างนั้นจริงๆละมั้ง..หึ  น่าสมเพช
“เอ่อ ยังไง..ถ้าคุณจะรอ เข้าไปรอในห้องรับรองแขกก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะบอกบอสให้ค่ะ” เธอยิ้มบอกพร้อมกับผายมือให้
“ดิฉันต้องเข้าร่วมประชุมด้วย” เธอพูด
“ได้ครับ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะเดินตรงไปอีกทางหนึ่ง  ผมเดินเข้าไปนั่งในห้องสำหรับรับรองแขกที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก  ในห้องไม่มีใครนอกจากผม  มีโทรทัศน์ให้ดู  มีหนังสือพิมพ์  มีกาแฟและอาหารรองท้องเล็กๆน้อยๆ  แต่นั่นไม่ใช่ส่วนสำคัญหรอกครับ  ส่วนสำคัญในตอนนี้คือผมต้องควบคุมสติอารมณ์ที่มันตีวนกันไปหมดของผมในตอนนี้ให้อยู่หมัดนี่ล่ะ
ผมนั่งรออยู่สองชั่วโมง  เป็นสองชั่วโมงที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนใจ  เมื่อเกือบจะเที่ยงครึ่ง  ผมเห็นว่ามีคนเริ่มทยอยเดินออกมาจากห้องประชุม  ทำให้ผมพอจะเดาได้ว่าการประชุมน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว  บางคนเดินตรงไปทางฝั่งที่ต้องไปขึ้นลิฟต์  ผมออกมายืนรอตรงหน้าห้องที่ผมเจอเลขาในตอนแรก  ไม่นานทิกเกอร์ก็เดินออกมาพร้อมกับเลขาของเขาและใครก็ไม่รู้อีกสองสามคน  เมื่อทิกเกอร์หันมาเห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้  เขาถึงกับชะงักเบิกตาโต  ผมทำหน้างอใส่เพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าผมกำลังโกรธเต็มขั้น
“ทิกเกอร์!” ผมเรียกแทบจะตะโกน  เมื่อเห็นว่าทิกเกอร์ทำท่าจะเดินหนีผมไปโดยเขาทำเป็นพูดคุยกับคนอื่นอย่างไม่สนใจผม  ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างชะงักด้วยความตกใจ  เลขาของทิกเกอร์หน้าเสีย
“ผมมีประชุมนะครับ มีประชุม..ทั้งวัน” ทิกเกอร์เดินตรงเข้ามาหาผมก่อนจะพูดบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย  สายตาของเขาเย็นชาจนผมรู้สึกกลัว
“ผมไม่สน” ผมรีบตอกกลับ
“งั้นก็ตามใจคุณ” ทิกเกอร์สวนกลับทันควัน  มากกว่าที่ผมจะรู้สึกน้อยใจคือผมรู้สึกโมโหมากกว่า  พอทิกเกอร์เดินไป  ผมมองซ้ายมองขวาคิดอะไรไม่ออก  เหมือนสมองไม่ทันได้มีสติยับยั้ง  ผมหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานที่อยู่ใกล้มือมา  ก่อนจะสาดน้ำเข้าไปที่ทิกเกอร์เต็มๆ
“ว้าย! บอส” ทุกคนต่างร้องกันเสียงหลง 
“ฟ้า!” ทิกเกอร์หันมาว่า  น้ำเสียงคล้ายเหลืออดต่อผม
“คุณมาทำอย่างนี้ได้ยังไงคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา  เธอมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดุดัน
“คุณยุ่งอะไร” ผมว่าเธอ  พร้อมกับส่งสายตาเช่นเดียวกับที่เธอทำให้ผมกลับไปด้วย
“เอ๊ะ..งั้นแคลเรียกรปภ.นะคะ” เธอพูดด้วยสีหน้าเหรอหรา
“รปภ.ๆ..นี่เธอ เรียกรปภ.มาสิ” เธอหันไปพูดเสียงดัง  พนักงานเริ่มวุ่นวายและตื่นตระหนก
“ม..ไม่ต้องครับ” ทิกเกอร์ห้าม  แต่เพียงไม่กี่อึดใจพนักงานรักษาความปลอดภัยก็วิ่งมาถึง
“ให้เงินเดือนเท่าไหร่น่ะ มาเร็วจริงๆนะ” ผมแสยะยิ้ม
“กล้าจับก็ลองดู” ผมพูดเสียงแข็ง  ตาขวางมองพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งสองคน  ทำให้ทั้งสองไม่กล้าเข้ามาจับตัวผมอย่างที่ตั้งใจ
“ฟ้า..คุณเข้าไปคุยกับผมในห้องก่อน” ทิกเกอร์เดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น  เขาพูดแทบกระซิบ
“ไม่! ผมจะคุยตรงนี้” ผมว่ากลับเสียงดังเพราะรู้สึกหงุดหงิดที่ทิกเกอร์ทำเหมือนแคร์คนอื่นมากกว่าที่จะแคร์ผม  ที่จริงเข้าไปคุยกันในห้องคงจะดีกว่า  แน่ล่ะว่าดีกว่าแน่ๆ..แต่ผมแค่รู้สึกไม่ชอบใจทิกเกอร์ขึ้นมาก็เท่านั้น
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์ย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“เลือกเอา..ว่าจะคุยตรงนี้” ผมย้ำเสียงบ้าง  พร้อมกับจ้องตาทิกเกอร์เขม็ง
“หรือว่าถ้าคุณจะยอมยกเลิกการประชุม ผมก็จะยอมเข้าไปคุยกับคุณในห้อง” ผมพูดพร้อมหันไปแสยะยิ้มให้ผู้หญิงที่ชื่อแคลที่ผมไม่รู้จัก  เธอหน้าเสีย
“ต..แต่” ทิกเกอร์อ้ำอึ้ง
“ถ้าไม่เลือก ผมก็จะไป..ไปจากชีวิตคุณ เดี๋ยวนี้” ผมพูด  อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา  ด้วยก้นบึ้งของหัวใจแล้วผมกลัว..ผมกลัวว่าทิกเกอร์จะเลือกอย่างแรกมากกว่า  ความรู้สึกที่ไม่มั่นใจในตัวเองนี้ทำให้ผมรู้ว่าที่จริงแล้ว  ผมมันก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังจะเป็นบ้าเพราะคนที่ตัวเองรัก
“...................” ทิกเกอร์เงียบไปครู่หนึ่งเหมือนใช้ความคิด  เขาถอนหายใจก่อนจะหลบสายตาของผม
“ไลลา..ประกาศให้ยกเลิกการประชุมบ่ายนี้ด้วยครับ” ทิกเกอร์หันหลังกลับไปพูดบอกเลขาของเขา
“แล้วก็ โทรไปยกเลิกกับสาขาที่อเมริกาด้วยว่าผมเดินทางไปเข้าร่วมประชุมกับทางนั้นไม่ได้แล้ว..ยกเลิกไฟลท์ให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะบอส” เลขาทิกเกอร์ตอบเสียงเบา  ผมหันไปมองหน้าผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาว่าผมคนเดิม  เธอยืนจ้องมองผมไม่วางตา  สายตาเหมือนสงสัยเต็มประดาว่าผมเป็นใครมาจากไหน  ผมเองก็มองหน้าเธอไม่วางตาเช่นกัน  ดูเหมือนผมจะได้เปรียบกว่าเธอหน่อย  เพราะยิ่งผมมองเธอหัวจรดเท้ามากเท่าไหร่  ก็ยิ่งทำให้เธอชักสีหน้ามากขึ้นเท่านั้น
“ขอโทษด้วยนะครับ” ทิกเกอร์ผงกหัวให้ทุกคน
“ไม่มีอะไรแล้ว รบกวนช่วยไปทำงานต่อเถอะครับ” ทิกเกอร์พูดบอก  พนักงานที่ยืนอยู่ถึงแม้จะมีสีหน้าสงสัยแต่สุดท้ายพวกเขาก็แยกย้ายกันไปคนละทาง
“ทิกเกอร์คะ” เธอคนเดิมยิ้มทำท่าจะเข้ามากอดแขนทิกเกอร์  ผมมอง  ทิกเกอร์หน้าเหวอเล็กน้อย
“ผมมีธุระน่ะครับ คงไปทานอาหารกลางวันกับคุณไม่ได้แล้ว” ทิกเกอร์บอก  เธอหน้างอในทันที
“หึ หรืออาจจะตลอดไปเลยก็ได้” ผมพูดขึ้นลอยๆ
“คุณเป็นใครน่ะ” เธอถามเสียงห้วน
“ผมเป็นใครแล้วมันหนักศีรษะคุณรึไง” ผมย้อนกลับพร้อมกับยิ้มให้
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงห้ามปราม
“ขอโทษด้วยนะครับแคล ยังไงคุณไปทานกับลูกน้องคุณเถอะนะครับ..ผมต้องคุยธุระก่อน” ทิกเกอร์บอกพร้อมกับจับแขนของเธอออกช้าๆอย่างมีมารยาท
“แต่..”
“ขอโทษครับ” ทิกเกอร์ย้ำอีกครั้ง  เธอชักสีหน้านิดหน่อยและเดินสะบัดสะบิ้งไป  ทิกเกอร์หันมาจ้องหน้าผมเขม็งก่อนจะจับแขนผมและดึงไปอย่างแรง  ผมรีบก้าวเดินไปตามแรงดึงของทิกเกอร์  ทิกเกอร์พาเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง  คงจะเป็นห้องทำงานของเขา  เมื่อเข้ามาในห้องทิกเกอร์ก็กดล็อกประตูห้องอย่างรู้งานในทันที


เพี้ย !!


“ฟ..ฟ้า” ทิกเกอร์ร้องเสียงหลง  จับแก้มตัวเองที่โดนผมตบเข้าอย่างจังด้วยความสงสัยปนชักสีหน้าเหมือนไม่พอใจกับการกระทำของผม  ครั้งนี้คงเป็นการตบจากการหึงหวงครั้งแรก  แม้แต่ตอนที่เราคบกันผมก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาเลยไม่ว่าจะหึงมากแค่ไหนก็ตาม
“ก็ผมเจ็บข้อมือ..ทำไม มีปัญหาอะไรไม่ทราบ” ผมว่ากลับอย่างลองดี
“อะไรของคุณอีก” ทิกเกอร์ตอกด้วยน้ำเสียงคล้ายกับต่อว่ากลับ
“นี่คุณว่าผมเหรอ” ผมว่า  ทิกเกอร์ถอนหายใจเบาๆ  คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างบอกอารมณ์
“คุณว่าผมเหรอทิกเกอร์!” ผมเดินตรงเข้าไปผลักทิกเกอร์อย่างแรง  แต่กลับกลายเป็นตัวผมมากกว่าที่เซออกมา
“ฟ้าครับ..ฟ้า” ทิกเกอร์จับไหล่ผมทั้งสองข้าง  เขาพยายามเรียกสติของผมให้กลับมา  แต่ผมรู้สึกน้อยใจไปแล้วครึ่งนึงละนะ
“ใจเย็นหน่อยได้ไหมครับ” 
“แล้วผู้หญิงหน้าตาบ้านๆเมื่อกี้มันเป็นใคร” ผมถามเสียงดัง
“ลูกน้องครับ” ทิกเกอร์ตอบ
“ลูกน้อง! หึ..ลูกน้องเหรอ” ผมถลนตาใส่  ทิกเกอร์หลับตาพร้อมกับหันหน้าหนี
“ทีคุณยังมีคนนั้นได้เลย” ทิกเกอร์พูดพลางถอนหายใจ  ผมชะงัก  เราต่างชะงักไปครู่หนึ่ง  ทิกเกอร์หน้าเสียเหมือนกับรู้ตัวว่าไม่ควรพูดมันออกมา
“ใช่สิ ผมยังทำได้เลย” ผมปัดมือของทิกเกอร์ออก
“ฟ้า ไม่..” ทิกเกอร์รีบเข้ามาดักผมและกอดไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าผมจะเดินหนีออกมา
“ขอโทษครับ” ทิกเกอร์กดน้ำเสียงพูดอยู่ใกล้ตรงแก้มของผม  ตัวของผมลีบเล็กอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ขอโทษทำไม คุณก็พูดถูก” ผมพูดเสียงเบา  ทิกเกอร์ไม่ตอบอะไรอีก 
“คุณเองก็อยากเป็นฝ่ายเลือกบ้างสินะ ก็เลือกสิ..แต่ผมคงจะไม่เป็นหนึ่งในตัวเลือกให้คุณหรอกนะ ผมมันคนเห็นแก่ตัวน่ะ” ผมพูดปนหัวเราะ
“ผมเปล่าจะเลือก” ทิกเกอร์พูดขึ้น  ผมรับรู้ได้ว่าเขากอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม  ผมเพียงแต่ยืนนิ่ง  ทิกเกอร์พรมจูบอยู่ที่ใบหู  คอและผมของผมไปมา
“ผมขอบอกไว้ก่อน ถ้าตอนนี้ผมจะเข้าข้างตัวเอง..” ทิกเกอร์พูด  ตัวของเขาสั่นจนผมรู้สึกได้
“ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอีกแล้วนะครับฟ้า..ถ้าคุณจะไป ช่วยเดินไปซะเดี๋ยวนี้” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ก็ปล่อยสิ” ผมพูดเสียงแข็ง  อดที่จะอยากแกล้งไม่ได้  ทิกเกอร์เงียบชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะปล่อยแขนของเขาลงอย่างช้าๆ  ผมไม่ได้หันกลับไปมองหน้าทิกเกอร์อีกจนเขาปล่อยตัวผมออก  ผมแกล้งทำเป็นเดินออกมาอย่างช้าๆ  ไร้เสียงทักท้วงจากทิกเกอร์  ผมเหลือบหันกลับไปมองเขา  เห็นอีกฝ่ายยืนก้มหน้าตัวแข็งทื่อ  ภาพของเขาในตอนนี้สะท้อนเหมือนเมื่อห้าปีก่อนจนทำให้น้ำตาของผมเกือบจะไหลออกมา
“คุณน่ะ..มักจะปล่อยผมไปง่ายๆแบบนี้เสมอ” ผมพูดขึ้นทั้งน้ำตา  ทิกเกอร์เงยหน้าขึ้นมองหน้าผมทันที  น้ำตาของทิกเกอร์ไหลลงอาบแก้มเช่นกัน
“ครั้งนี้ก็ด้วย” ผมพูดทั้งทั้งที่ปากของผมสั่นไม่เป็นท่า
“ผม..ผมแค่อยากให้ฟ้าได้สิ่งที่ดีที่สุด ถ้ามันเป็นสิ่งที่ฟ้าเลือก..ผม ผมจะยอมรับ” ทิกเกอร์รีบพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“จุดหมายของคุณคืออะไรเหรอกี้” ผมถามทั้งน้ำตา  ทิกเกอร์ก้มหน้าลง  ตาผมพร่ามัวจนผมแทบมองไม่เห็นว่าผมหรือเขากันแน่ที่น้ำตาไหลออกมามากกว่ากัน  ทิกเกอร์ปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ
“แต่ก่อน จุดหมายของผมคือใครสักคนที่ทำให้ผมตกหลุมรัก และเขาก็ต้องทำให้ผมมีความสุขด้วย เมื่อผมได้เจอ ผมได้ให้โอกาสเค้า..แต่ตั้งแต่ที่ผมได้รู้สึกเจ็บปวดเพราะเค้าคนนั้น ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่จุดหมายอีกแล้วกี้” ผมอมยิ้มทั้งน้ำตา
“เวลาที่ผมเจ็บปวด ผมควรจะมีคนที่ผมรักอยู่ข้างๆไม่ใช่เหรอ ทำไมผมต้องมาเจ็บปวดจากคนที่ผมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วย..พวกคุณทำเหมือนผมไม่มีค่า พวกคุณเหยียบย่ำความรักของผม..คุณกล้าดียังไงถึงทำแบบนั้น อึก..ทำไม ทำ..ฮึก” ผมเงียบก่อนจะหายใจเข้าออกอย่างแรงเพื่อเรียกสติของตัวเองให้คงที่มากกว่านี้  ทิกเกอร์จ้องหน้าผมด้วยท่าทางเศร้าไม่ต่างกัน
“มันอาจจะไม่ใช่เพราะรักแล้วก็ได้ เพราะตอนนี้ผมกำลังเจ็บปวด..หรือจุดหมายของผมอาจจะเป็นคุณ ผมไม่รู้ ผมชักไม่แน่ใจ..ผมกลัว” ผมพูดปนหัวเราะ
“ถ้า..ถ้าผมจะบอกว่าจุดหมายของผมคือฟ้าล่ะ ฟ้า..คุณ คุณจะให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ  สีหน้าของเขาเหรอหราและดูกังวล
“งั้นก็อย่าปล่อยผมไปง่ายๆอย่างนี้สิ คุณเป็นควายรึไง!” ผมกระแทกเสียงว่าให้  ทิกเกอร์สะดุ้งพร้อมกับมีสีหน้างงเล็กน้อย  คงสงสัยว่า “ควาย” ที่ว่านั่นผมจะสื่อด่าเขาว่าอะไร  ผมยืนนิ่งจ้องหน้าทิกเกอร์  เขายิ้มออกมาทีละน้อย  เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก  ผมก็คงกำลังยิ้มในลักษณะเดียวกับเขาเช่นเดียวกัน
“อึก..” ผมเดินโผเข้าไปกอดทิกเกอร์  แขนทั้งสองข้างของเขาโอบกอดผมแน่นไปทั้งตัว  ผมรู้ตัวดีว่าผมกำลังตัวสั่น  แต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็ตัวสั่นเช่นเดียวกันกับผม  ผมเงยหน้าขึ้นไม่ทันได้พูดอะไร  ทิกเกอร์ก็กดปากลงจูบผมอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว  ผมรับรู้ได้ถึงน้ำตาของทิกเกอร์ที่ไหลลงเปื้อนปากของเขาเล็กน้อย  ทิกเกอร์จูบผมอย่างร้อนแรง  ผมเองก็จูบตอบอย่างนั้นด้วยเหมือนกัน  เหมือนต่างฝ่ายต่างโหยหารสจูบนี้มานานแสนนาน  ทิกเกอร์กดจูบอยู่นานจนผมแทบหายใจปรับเข้ากับอารมณ์ของเขาไม่ทัน  เราหายใจหอบทั้งคู่ก่อนจะหยุดจูบชั่วขณะ  หน้าผากของทิกเกอร์ชนอยู่กับหน้าผากของผม  ผมลืมตาขึ้นนิดเดียวก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังหลับตาพริ้มอยู่ทำให้ผมถึงกับยิ้มออกมาว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่ผมรักและต้องการแน่..ไม่ใช่คนอื่นอีกต่อไป  ผมนำแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดคล้องคอทิกเกอร์ไว้  เขายิ้มออกมาน้อยๆและก้มหน้าลงหอมแก้มผม  หอมหน้าผากผมไม่หยุด  ผมจูบตอบและคลอเคลียแก้มทิกเกอร์ไปจนถึงใบหูของเขา
“โอ๊ย!!” ทิกเกอร์ร้องเสียงหลงเมื่อโดนผมกัดเข้าที่หูเต็มแรง  เขาพยายามจะดันตัวผมออก  แต่ผมกอดทิกเกอร์ไว้แน่นทำให้ทิกเกอร์ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยหูของเขาเองก็ยังคงถูกผมกัดอย่างแรง
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์ร้อง
“หึ..เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกเยอะเลย อย่านึกเชียวว่าหลังจากนี้จะสวยหรูน่ะ” ผมกระซิบบอกเสียงเย็น
“ผมน่ะ เกลียดที่คุณเป็นแบบนี้ รู้ไว้ซะ” ผมว่า
“อะ..อะไรครับ” ทิกเกอร์ถามด้วยน้ำเสียงระแวง  ผมปล่อยปากออกและยิ้มให้อีกฝ่าย  หูของทิกเกอร์แดงมาก  คงเพราะผมกัดไปเต็มแรงละมังครับ
“เดี๋ยวก็รู้” ผมย้อนและไม่ยิ้มอีก
“อ..คะ คือ มัน ไม่ร้ายแรงใช่ไหม” ทิกเกอร์พูดตะกุกตะกักเหมือนกลัวขึ้นมา  ผมไม่ยิ้มและเลิกคิ้วกวนตอบ  แน่นอนว่าผมจะคุยกับทิกเกอร์หลายเรื่อง ผมไม่มีทางบอกทิกเกอร์ในตอนนี้หรอกว่าเขาจะพูดอะไร  ผมจะโทรไปสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดจากเพื่อนรักที่อยู่ที่ประเทศอิตาลีก่อน  แล้วผมจะได้รู้ว่าใครโกหกกันแน่  คิวรวมหัวกับปูนโกหกผม  หรืออาจจะไม่ได้โกหก  หรือทิกเกอร์อาจจะโกหกผมก็ได้  ตอนนี้ผมไม่ควรไว้ใจใครเลยแม้กระทั่งหลานรักของตัวเอง  ผมจะถามเขาทั้งหมด  เรื่องลูกและภรรยาของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง  หลังจากที่ผ่านมาหลายปีนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง  และถ้าเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม  ผมเคยทำตัวอย่างไรมาบ้างแล้ว  ผมก็จะไม่โกหกด้วยเช่นเดียวกัน  ผมจะรับฟังเขาในฐานะ..คนรักของผมอีกครั้ง
“หึ..คิดว่าไงล่ะ” ผมย้อนอย่างเจ้าเล่ห์
“ผม ผมยอมทุกอย่าง..แต่ฟ้าอย่าหนีไปอีกนะครับ” ทิกเกอร์รีบพูดเหมือนต้องการแก้ตัวไว้ล่วงหน้า  สีหน้าของเขาอ้อนวอนจนผมรู้สึกหมันไส้  เพราะเมื่อไหร่ที่เขาทำหน้าตาแบบนี้ทีไร  ผมมักจะใจอ่อนทุกที  บางทีผมก็รู้สึกเหมือนกับว่า  ทิกเกอร์อาจจะรู้ก็ได้ว่าผมแพ้เวลาที่เขาทำน้ำเสียงและหน้าตาแบบนี้แต่แค่แกล้งทำเป็นหน้าซื่อไปอย่างนั้นเอง
“ไม่รู้” ผมเบนหน้าหนีอย่างต้องการกวนไม่เลิก
“ฟ้าค้าบ” ทิกเกอร์กอดผมเข้าไปอย่างแรงอีกครั้ง  เขากอดผมแน่นและซบหน้าลงบนไหล่ของผม  ผมยืนนิ่งกอดเขาตอบ  เรายืนกอดกันอยู่อย่างนั้น  เรียกได้ว่ากอดกันอยู่นานมากอย่างกับต้องการรับรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น  ผมไม่ค้านใดๆจนทิกเกอร์ปล่อยผมก่อน  ผมยิ้มให้เขาอีกครั้ง  ยิ้มแบบที่ไม่เคยได้ยิ้มมาเสียนาน..
ครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นรักอีกครั้งของผมหลังจากที่เวลาผ่านล่วงเลยมานาน  ระหว่างทางที่ขับรถมาที่บริษัททิกเกอร์  ผมบอกกับตัวเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้โอกาสตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก   การมีความรักเป็นเรื่องที่ดีแต่คงไม่ดีสำหรับผมเสียเท่าไหร่นัก  อายุผมก็มากขึ้นทุกวัน  คงไม่มีเวลามาคิดหรือขวนขวายเรื่องนี้อีกมากมาย  การที่จะต้องให้โอกาสความรักอีกครั้งและอีกครั้งมันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับผม  ถ้าครั้งนี้จะจบไม่สวยอีกครั้ง  ผมจะหยุดทุกอย่างอย่างแท้จริง  เป็นการ..“ปิดตาย”  แบบไม่ต้องมาพบเจอความรักอีก  ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนทั้งนั้น  ไม่ว่าใครจะพูดพร่ำว่าความรักสวยงามแค่ไหน  ไม่ว่าใครจะมารักผมอย่างแท้จริงอีกกี่ครั้ง  หลังจากนี้ผมจะไม่ขอพบเจอกับเรื่องราวพวกนี้อีก  ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้โอกาสทั้งความรัก  ให้โอกาสตัวผมเอง  รวมถึงให้โอกาสทิกเกอร์ด้วยเช่นเดียวกัน  อาจจะเป็นอย่างที่คิวบอก  ครั้งที่แล้วผมเป็นฝ่ายกอดทิกเกอร์ก่อน  ครั้งนี้ก็คงจะคล้ายอย่างนั้น  แต่เปล่าหรอก..ผมเพียงมาให้เขาเลือกที่จะกอดผมหรือไม่กอดก็เท่านั้น  นี่เป็นการบอกเป็นนัยว่า..ผมจะไม่มีทางเป็นฝ่ายปล่อยเขาก่อนเด็ดขาด  นอกจากเขาจะเป็นฝ่ายเดินจากผมไปเอง
ณ  วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายสำหรับโอกาสให้ผมได้ตัดสินใจตัวผมเอง  ก็อย่างว่าละครับ  ใครจะมารอเพื่อให้ผมเป็นฝ่ายเลือกได้ตลอดชีวิต  คงจะมีเฉพาะในละครละมัง   ผมรู้สึกได้ตามสัญชาตญาณเหมือนกับมันบอกผมว่า  ถ้าผ่านพ้นวันนี้ไป  มันจะไม่ใช่วันของผมอีก  ผมจะไม่มีโอกาสอีกแล้วไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม  ผมรู้สึกกลัวและกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งระหว่างทางที่ขับรถมาหาทิกเกอร์ที่ทำงานนี่  ความกลัวที่ทำให้จิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมันมีมากกว่าความกลัวถึงเรื่องในอนาคตที่ผมเคยกลัวมาก่อนหน้า  บางทีผมก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าคนรอบตัวผมกระตุ้นผมหรือเปล่าไม่ทราบ  มันก็อดขำตัวเองไม่ได้น่ะนะ..

“อย่าปล่อยให้วันวานที่ผ่านพ้น ทำให้เราทุกข์ทนจนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิดอาจทำผิดซ้ำลงไป ก็เพิ่มวันเสียใจไปอีกวัน
..พลอยฟ้า..”

ผมไม่รู้ว่ากลอนบทนี้มาอยู่บนกระดาษโน้ตที่คิวจดที่อยู่บริษัทของทิกเกอร์ไว้ตอนไหน  ตอนที่คิวยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ผม  มันยังไม่มีบทกลอนนี้อยู่  ที่จริงผมแทบยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อได้เห็น  เหมือนกับเธอต้องการบอกผมว่าตลอดมาผมอาจจะคิดผิดมาตลอด  หรืออาจจะใช้เวลามากเกินไปในการพิสูจน์อะไรบางอย่าง  บทกลอนที่แสนตรงต่อสถานการณ์เหมือนคัดสรรมาสำหรับผมโดยเฉพาะ  นี่เป็นลายมือที่ผมจำได้ดีว่าเป็นของใคร  ลายมือของผู้หญิงที่สอนผมเขียนหนังสือมาตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็กไม่รู้ประสีประสา  ถึงแม้บนกระดาษจะไม่มีข้อความใดๆบอกเลยว่าบทกลอนนี้ใครเป็นคนเขียนให้ผม  ถึงแม้ว่าจะเขียนแค่เครดิตว่ากลอนนี้ใครเป็นผู้แต่งขึ้นมา  นั่นเหมือนกับไม่ต้องการให้ผมได้รู้ว่าใครเป็นผู้หวังดีคนนั้น  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกตื้นตันเต็มอกนี้ผมไม่รู้จะพูดขอบคุณเธอได้อย่างไรดี  การที่ผมเลือกคว้าจุดหมายตามที่หัวใจเรียกร้องคงแทนคำขอบคุณให้เธอได้ หึ..หรือผมควรขอบคุณทั้ง “พลอยฟ้า” สำหรับกลอนที่อาจจะโดนใจใครอีกหลายคนเป็นแสนล้าน  แต่คนที่ผมควรจะขอบคุณและพูดขอโทษคงจะไม่พ้นเธอ..“ป้านิด” แม่บ้านที่แสนน่ารักของผม  ตลอดมาผมไม่รู้เลยว่าการกระทำของผมทำให้เธอเป็นห่วงมากขนาดนี้  ผมคงหลงลืมไปชั่วขณะอย่างที่หลานของผมว่า  ผม..ขอโทษ




................End of Lover 2..................


Ps...
ตอนต่อไปเป็น Lover..3
สวัสดีวันอาสาฬหบูชา ขอให้อิ่มบุญกันทั่วหน้า ^^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2012 09:23:33 โดย เบบี้ »

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่18 - End of Lover..2 [02/08/55 @ 09:25] P.278
«ตอบ #8308 เมื่อ02-08-2012 09:28:26 »



 :-[ :-[. ในที่สุดทิกเกอร์กับฟ้าก็จะได้มีความสุขแล้วเย้ๆๆ   จักรนายทำดีมากเป็นลูกผู้ชายสุดๆ o13


ขอบคุณพี่บี้ค่าาาา. รอคู่ต่อไปจะเป็นใครกัน.   :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2012 09:45:45 โดย Tiamo_jamsai »

ออฟไลน์ Zarunghaja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่18 - End of Lover..2 [02/08/55 @ 09:25] P.278
«ตอบ #8309 เมื่อ02-08-2012 09:37:48 »

 :z13: :z13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด