~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339  (อ่าน 2015047 ครั้ง)

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8910 เมื่อ31-08-2012 23:39:29 »

ไม่รุ้จะเชียร์ใครดี :really2:

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8911 เมื่อ01-09-2012 00:11:31 »

เอ๊ะ เซ็นนี่ยังไง
เอ๊ะ กัสนี่ก็ยังไง มีแอบหวงพี่หมี
แล้วหมีน่ะ ที่ไปทำอะไรต่ออะไรกะสาวต่อหน้ากัส
ก็เพราะว่ากัสเองไม่ตอบรับรักพี่หมี
ถ้าหมียังคงซื่อซึมอยู่ มันก็ดูอ่อนแอเกินไป
เป็นเราโดนปฎิเสธ ก็คงต้องดำเนินชีวิตต่อไป
บอกตรงๆ ไม่ค่อยปลื้มกัส ดูเลื่อนลอย เป็นไม้เลื้อย
เซ็น นี่ไม่ต้องพูดถึง เขาก็เพลยบอยไปเรื่อย นี่คงแอบหยอกกัส
ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เลี้ยงต้อยไว้ ยังไงเด็กมันก็รักเราอยู่แล้ว
หรือเซ็นจะจริงจัง แต่ไม่กล้าออกตัวแรง เพราะหมี

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8912 เมื่อ01-09-2012 00:14:40 »

ตกลงพี่เซ็นก็ชอบกัสใช่ปะ แต่พี่หมีล่ะ...พี่หมีก็น่าสงสารแย่ดิ
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี :z3:

ออฟไลน์ bon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8913 เมื่อ01-09-2012 00:38:08 »

ทำใจ พระเอกก็ยังงี้แหละหมีเอ้ย

ออฟไลน์ Azitten

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8914 เมื่อ01-09-2012 00:51:33 »

 :z3: :z3: เฮ้อออออออออออ พี่หมีก็ทำให้เเหนื่อยใจ
พี่เซ็นก็ทำให้หวั่นไหว

อยากเก็บเทอไว้ทั้ง 2 คน ช่ายยยยยไหมมมมมม กัสจัง
อึดอัดแทนนนนน

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8915 เมื่อ01-09-2012 05:05:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8916 เมื่อ01-09-2012 07:18:12 »

เอาเป็นว่าทั้งสองคน ยังสับสนกับชีวิต ทั้งกัสกับพี่หมี
พี่เซ็นนี่แอบร้ายนะ จะช่วยน้องทั้งสอง แต่กว่าจะลงเอย คงได้เห็นอะไรวุ่น ๆ พอสมควร  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับเบบี้  :กอด1:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8917 เมื่อ01-09-2012 08:30:22 »

เง้อออ พี่หมีอะ หลงหญิงหรือพี่หมีรู้ตัวอยู่แล้ว

เลยปล่อยให้กัสไปกับพี่เซ็น

เฮ้ออออ พี่หมีสู้ตาย 55

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8918 เมื่อ01-09-2012 09:40:53 »

พี่เซนแกคิดอะไรอยู่อยากรู้จริงๆ เพราะทางกัสก็สับสนไม่รู้ใจตัวเอง เฮ้อ!

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8919 เมื่อ01-09-2012 11:53:03 »

แอบเบื่อกัสอ่ะ เมื่อไหร่จะเลิกสับสนวะ

คิดไงก็บอกกะพี่หมีไปเหอะ ยื้อจนสงสารพี่เค้าและ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
« ตอบ #8919 เมื่อ: 01-09-2012 11:53:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8920 เมื่อ01-09-2012 12:27:58 »

กัสอย่าใจง่ายนักสิ


สงสารพี่หมีนะ


เผลอไปนิดเดียว พี่เซ็นทำคะแนนซะทิ้งห่างเลย

ออฟไลน์ pim_onelove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8921 เมื่อ01-09-2012 12:34:26 »

จากตอนนี้กัสรักพี่เซ็นแน่ๆ อ่ะ แต่ที่ยังไม่กล้าก็เพราะกลัวที่พี่เซ็นเจ้าชู้
ส่วนพี่หมีก็เพราะหวง ไม่งั้นก็ตกลงคบไปตั้งแต่ที่พี่หมีขอคบเป็นแฟนแล้ว

ฺ13eLIEve

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8922 เมื่อ01-09-2012 13:00:46 »

ทำไมเราคิดต่าง....เราแอบเชียร์พี่หมีอยู่ในใจอ่ะ
อยากให้พี่หมีสมหวัง :)

ออฟไลน์ thunchanok1

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8923 เมื่อ01-09-2012 14:58:18 »

หลังจากอ่านตอนนี้กัสน่าจะชอบพี่เซ็นแบบชอบจริงๆไม่ใช่แค่ปลื้มแล้วล่ะ
ส่วนเรื่องพี่หมี ก็นะ กัสเลิกหวงได้แล้ว ไม่คบกับเค้าก็ปล่อยๆเค้าไปเถอะ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8924 เมื่อ01-09-2012 16:14:17 »

ที่ผ่านมายอมรับว่าเราเอนเอียงไปทางพี่หมีมากกว่าพี่เซ็น
แต่ตอนนี้แอบบวกให้คะแนนพี่เซ็นตีเสมอพี่หมีในใจแล้วล่ะ
ไม่ใช่ว่าเคืองพี่หมีเรื่องผู้หญิง เข้าใจว่านั่นคือสังคมของเขา
แต่เหมือนพี่เซ็นเข้าใจกัสในอารมณ์นั้น เลยฉกตัวออกมา
เราคิดอย่างนั้นน่ะนะ ตอนนี้เลยปันใจให้พี่เซ็นหน่อยนึง
แต่ที่อ่านแล้วยิ้มก็อีตรงเอาขาเกี่ยวกันใต้โต๊ะนี่แหละ :-[
เป็นการหยอกล้อที่ทำเอาเราเขินไปเลย :o8:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8925 เมื่อ01-09-2012 16:26:49 »

....อาการหวง พี่หมี กับอาการมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่เซนต์
....คงต้องถามน้องกัสแล้วว่าความรู้สึกที่ต้องการจริงๆของน้องกัสคืออะไร
....ใครๆๆก็คง มิอาจคิดแทนน้องกัสได้ จริงไหมจ๊ะ
....อยากรู้ พี่เซนต์ กำลังคิดอะไรอยู่ ที่ทำแบบนั้นกับน้องกัส
:laugh:

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8926 เมื่อ01-09-2012 17:18:20 »

อะไรยังไงกัส เลิกสับสนได้แล้วลูกเอ้ย อ่านตอนนี้แอบคิดว่ากัสชอบพี่เซ็นอะ =[]= เวลากัสอยู่กับพี่เซ็นเหมือนลืมทุกสิ่งรอบข้างไปเลย แต่เวลากัสอยู่กับพี่หมีเรื่องของพี่เซ็นก็ยังตามมาทำให้คิดมาก กัสถ้าแค่หวงพี่หมีก็อย่าทำแบบนี้เลย ไม่สงสารพี่เค้ารึไง ส่วนพี่เซ็นจริงๆแล้วชอบกัสสินะ แต่ที่แสดงอะไรมากไม่ได้ส่วนนึงเพราะพี่หมีเปล่าหว่า ยังคงสงสัยกับปมของสองคนนี้ไม่หาย ความจริงถ้าพี่หมีชอบกัสจริงก็ไม่น่ลจะทำแบบนี้เลยนะ แต่จะว่าพี่หมีก็ไม่ได้ในเมื่อกัสเอาแต่สับสนเอง พี่หมีทำแบบนั่นต่อหน้ากัสคงต้่องมีเหตุผลแหละ ส่วนพี่เซ็นน่าจะแอบมองน้องอยู่แน่ๆ และที่พาหนีมาด้วยกันเพราะรู้ว่าน้องกำลังคิดมากเปล่า ชอบจังที่เกี่ยวขาใต้โต๊ะอ่ะ หยอกกันเหมือนแฟนเลย แต่ฮาพี่เซ็นพกเงินมาน้อยไปนะ แถมยังกล้าเอาบัตรเครดิตใส่ถุงแกงอีกอะ อย่าทำเป็นเล่นนะพี่เซ็นอุตส่าห์พี่นะ

torto

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8927 เมื่อ01-09-2012 18:42:33 »

กัสดูจะสนุกกับความตื่นเต้นนะ  แต่เด็กเกิ๊นแค่ใจตัวเองก็ไม่รู้  ความรักกับความหวือหวา ตื่นเต้นมันช่างแตกต่าง  เราจะรออ่านต่อไปว่าน้องกัสจะรู้สึกกับพี่หมี มากขี้น มากขึ้นอีกรึเปล่านะ

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8928 เมื่อ01-09-2012 19:27:49 »

ตั้งแต่อ่านมา เจ๊เห็นว่าหมีชัดเจนในตัวเองสุดละ  :เฮ้อ:
นู๋กัส ก็แสดงออกว่าชอบเซ็น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า รู้สึกดีกับหมี


ส่วนไอ้เซ็น เจ๊เดาว่ามันคงชอบ แต่แม่ง! ไม่รู้อ่ะ ยกป้ายไฟเชียร์เซ้นต่อไป  :laugh:
P.S. แอบมีความคิดอยู่ดีว่า 3P มะ กร๊ากกกกกกก

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8929 เมื่อ01-09-2012 19:35:24 »

ชอบพี่หมี แต่เชียร์พี่เซ็นมาตั้งแต่ต้น เพราะงั้นต่อให้พี่หมีดีและน่าสงสารแค่ไหนก็ขอเชียร์พี่เซ็นต่อไปจนจบ
ขอให้ที่ผ่านมาเป็นแค่แผนของพี่หมีเท่านั้น ไม่อยากให้พี่หมีผิดหวัง แต่ก็ไม่อยากให้พี่หมีคู่น้องกัสน่ะ
และที่สำคัญไม่อยาก3พี เหอๆ เพราะงั้นเบบี้จ๋า ขอจบแบบไม่เจ็บนะจ๊ะ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
« ตอบ #8929 เมื่อ: 01-09-2012 19:35:24 »





snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8930 เมื่อ01-09-2012 22:19:22 »

พี่หมีหาใหม่ดีกว่า กัสกั๊กป่ะเนี่ย ยังไงก็เชียร์กัส เซ็น อยู่ดี ฮ่าาาา แต่กัสก็เหมือนออกแนวสับสนอ่าไม่รู้จะเลือกใคร หรือยังไง หรือยังไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง พี่เซ็นนี่ยังไงเนี่ยแกล้งกัสจริง ไอ้ที่ชอบแกล้งเพราะชอบกัสใช่มั้ยล่ะ อิอิ

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8931 เมื่อ02-09-2012 02:40:55 »

+1 น้องกัส :impress2:เลือกให้ได้น่ะ อิอิ
แบบว่า พี่หมี คนดี พี่ชายที่แสนดี พอ ตอนนี้ เจ้าชู้ ๆ ขี้หลี ๆ รับมะค่อยได้ กว่าดี แตก อ่ะ
แต่ว่า แบบพี่เซ๊น เจ้าชู้ ขี้หลี ตั้งแต่แรก ถ้ารักแล้วคงจริง ๆ จัง ๆ หรือถ้าคบกัสแล้ว อิอิคงไมเสียใจมากกว่า ที่เป็นมั้ง
 :serius2: มึน ๆ เดาไม่ถูก

tamekung

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8932 เมื่อ02-09-2012 04:42:36 »

น้องกัสจะสับสนเกินไปแล้วนะคะลูก
ก็ประกาศจุดยืนนะว่าชอบพี่เซน อย่างนั้นก็อย่างมาหวงพี่หมีสิ
พี่เซนก็ไม่รู้ว่าเล่นๆหรือจะหึงจริงจัง
หรือน้องกัสอาจจะยังอยู่ในช่วงสับสนกับชีวิต  :เฮ้อ:

ปล.สงสารพี่หมี~~~~
รอตอนหน้าค้า ขอบคุณเบบี้ -3- :-[

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8933 เมื่อ02-09-2012 08:34:52 »

เรียกว่าทำคะแนนได้มั้ย??
อ่อยยย งงแทนกัสนะนิ่ เหอะๆ
กัสคงจะสับสนหน่อยล่ะ
ทำไงได้ ฮอตนี่นา !!

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8934 เมื่อ02-09-2012 08:52:33 »

ตอนนี้พี่หมีคงเป็นห่วงแย่แล้วล่ะนะ :เฮ้อ:

พี่เซ็นก็เอาแต่ใจตัวเองจังเลย :m16:

น้องกัลต้องเข้มแข็งนะ  อย่าใจอ่อนนะ

ต้องทำให้เขาเห็นความสำคัญของเราให้มากๆ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8935 เมื่อ02-09-2012 10:03:46 »

~6~



“จอดตรงนี้ครับ” พี่เซ็นบอกคนขับแท็กซี่
“จัดการด้วย” พี่เซ็นหันหน้ามาบอกผมเหมือนบอกให้ผมจัดการเรื่องเงินแล้วพี่เขาก็เดินลงจากรถไปเลย  ผมหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าในจำนวนหนึ่งพันห้าร้อยบาทอย่างนึกเสียดายแต่ก็ยื่นให้พี่คนขับไป  ผมลงมาจากรถ  พี่เซ็นยืนรออยู่  พอพี่เขาเห็นว่าผมเดินลงมาแล้วพี่เขาก็เดินนำไปทันที  ผมเงยหน้าขึ้นมองคอนโดหรูตรงหน้า  มีป้ายชื่อคอนโดเขียนไว้ด้านหน้า “VictoriaWater”  ผมชะงักยืนมองพี่เซ็นที่เอาแต่เดินตรงไปไม่หยุด
“อะไร” อีกฝ่ายหยุดเดินและหันกลับมามองผมคิ้วขมวด
“ไปไหนฮะ” ผมถาม
“อาบน้ำ” พี่เซ็นตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ผมเอียงคอหนี  พี่เซ็นเดินตรงกลับเข้ามาหา
“เดี๋ยวขับไปส่งบ้าน” อีกฝ่ายบอก
“แล้วทำไมไม่ไปส่งกัสที่บ้านเลย” ผมพูด
“ให้พี่ไปอาบน้ำบ้านกัสเหรอ ไม่เอาด้วยหรอกนะ” พี่เซ็นอมยิ้ม
“เดินมาเอง..ไม่อุ้มหรอกนะ อายคนอื่นเค้า” พี่เซ็นไม่พูดเปล่า  ดึงแขนผมไปอย่างแรงทำให้ผมต้องเดินตามไปด้วยรู้สึกเขินปนตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้  เมื่อเดินเข้ามาถึงในตัวคอนโด  ผมมองสำรวจไปทั่ว  พนักงานต้อนรับยกมือไหว้ทักทายพี่เซ็น  พี่เขายิ้มและยกมือรับไหว้อย่างปกตินิสัยของคนชอบบริหารเสน่ห์  ผมเดินตามพี่เซ็นไปขึ้นลิฟต์ 
“หนาว!” ผมกระแทกเสียงดังเพราะรู้สึกหนาวจนขนลุกไปหมด  ทางคอนโดเปิดแอร์แรงมากหรือเพราะเราสองคนตัวเปียกด้วยก็ไม่ทราบ
“คนไทยก็งี้ นิดหน่อยหนาว..นิดหน่อยร้อน” พี่เซ็นบ่นส่งๆ  ยืนล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางยโส
“โทษทีนะครับ ได้ข่าวว่าพี่ก็คนไทย” ผมพูดลอยหน้าลอยตาใส่  พี่เซ็นอมยิ้มเหลือบมองผมผ่านกระจกลิฟต์ 


ติง~


เมื่อเสียงลิฟต์บอกสัญญาณว่าถึงชั้นที่หมายแล้ว  ผมเหลือบดู  ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้น 18 พี่เซ็นเดินนำออกไปก่อน  ผมรีบจ้ำเท้าเดินตามไปเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลง  ผมไม่เคยมาคอนโดของพี่เซ็นมาก่อน  ที่จริงคอนโดของคนอื่นก็ไม่เคย  จะเคยก็มีแต่คอนโดของพี่หมีละครับที่ไปเป็นประจำ  พี่เซ็นนำคีการ์ดเสียบและเปิดประตูห้องเข้าไป 
“เข้ามาสิ” พี่เซ็นหันมาบอกเมื่อพี่เขาเห็นว่าผมไม่ยอมเดินเข้าไป  ผมกลัวว่าผมจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่เพราะทำตัวไม่ถูก  แต่อีกใจผมก็ตื่นเต้นและดีใจมากๆที่จะได้มาเห็นคอนโดของพี่เซ็น 
ผมพยักหน้าตอบให้ก่อนจะตัดสินใจก้าวขาเดินเข้าไปในห้อง  ผมมองหน้าของพี่เซ็นและค่อนข้างตกใจที่ห้องของพี่เซ็นเล็กกว่าที่คิดเอาไว้  ผมคิดว่าน่าจะเป็นคอนโดที่หรูกว่านี่และห้องใหญ่กว้างขวางกว่านี่เสียอีก  แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็พบโซฟาและโทรทัศน์ที่มีไว้นั่งเล่นหรือสำหรับรับแขก  เดินตรงไปเป็นโต๊ะอาหารที่มีที่นั่งสำหรับสี่ที่  มุมต่อไปเป็นโต๊ะทำงานหรือมุมสำหรับทำงานในพื้นที่กว้างพอสมควร  บนนั้นมีหนังสือและคอมพิวเตอร์วางระเกะระกะอีกตัวสองตัว  เดินตรงไปเป็นระเบียงห้องที่ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย  สีของโทนห้องมีสีหลักเป็นสีขาวและตัดด้วยเครื่องประดับสีดำ  แต่งเรียบง่ายและสบายๆ  ห้องไม่เล็กแต่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากทำให้เห็นสัดส่วนของห้องได้ทั่วทุกมุม
“ห้องเล็กจังนะครับ นึกว่าห้องจะใหญ่กว่านี่ซะอีก” ผมพูดไปตามที่ใจคิด
“ก็แค่เอาไว้ซุกหัวนอน จะเอาใหญ่ไปทำไม..วังเวง” อีกฝ่ายพูดแกมหัวเราะ  ผมได้แต่อมยิ้มเพราะไม่คิดว่าคำพูดอย่างนี้จะหลุดออกมาจากปากของคนอย่างที่เซ็น  หลายครั้งกับสิ่งที่พี่เซ็นแสดงออกมาทางคำพูดและการกระทำที่ทำให้ผมรู้ตัวเองว่า..ผมยังรู้จักพี่เขาไม่ดีพอ
“ก็..คิดว่า จะหิ้วใครมาไรงี้” ผมพูดลอยๆและไม่ได้หันไปมองว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าอย่างไร
“หึ..” พี่เซ็นไม่ได้ตอบอะไร  ผมได้ยินเพียงเสียงหัวเราะอย่างมีเล่ห์นัยเท่านั้น
“พื้นเปียกหมดแล้ว เข้าไปอาบน้ำสิ..เดี๋ยวเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้” พี่เซ็นบอก  ผมหันไปมองเห็นพี่เซ็นยืนอยู่ตรงประตูห้องหนึ่ง  ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นห้องนอนละมัง
“พี่มีเสื้อผ้าไซด์กัสด้วยเหรอ” ผมถามอย่างนึกเป็นห่วงสภาพตัวเอง
“ไม่มี” อีกฝ่ายยิ้มตอบ
“ไม่มี แล้วจะให้ใส่อะไรเล่า..บ้า!” ผมว่าอย่างนึกหงุดหงิดขึ้นมา
“นั่นสิ..ไม่ต้องใส่ก็ได้นะที่จริงอ่ะ” พี่เซ็นย้อนพร้อมกับยิ้มให้  ผมชะงักเล็กน้อยและก็ต้องหลบสายตาที่แสนเจ้าชู้ของพี่เขา 
“เชิญ” พี่เซ็นผายมือให้ผม  ผมเดินเข้าไปหาและเปิดประตูเข้าห้องไป  เมื่อเข้าไปถึงในห้องก็พบเตียงกับโทรทัศน์จอใหญ่  ผมมองสำรวจไปรอบห้องอย่างตื่นเต้น ด้านขวามือของห้องเป็นกระจกบานใหญ่ที่ด้านในน่าจะเป็นตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้า 
“ห้องน้ำอยู่ฝั่งนู้น” พี่เซ็นบอก  ผมหันไปพยักหน้ารับ  พี่เซ็นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเปิดออก  ผมยืนมอง  พี่เซ็นหันมายื่นผ้าเช็ดตัวให้ผมสองผืน
“นี่..” พี่เซ็นหันมามองหน้าผมเหมือนมีอะไรจะถามอย่างจริงจัง
“แล้วกางเกงในล่ะ” อีกฝ่ายพูดหน้าเครียด  มองหน้าผมเสร็จก็เหสายตาลงต่ำไปอย่างน่าเกลียด
“พี่เซ็นบ้า!” ผมรีบนำผ้าขนหนูมาปิดส่วนนั้นของตัวเองไว้  ทั้งเขินทั้งอายไปหมด
“จะไปรู้ไหมล่ะครับ” ผมกระแทกเสียงพร้อมกับหันหน้าหนี
“กัสกลับไปอาบน้ำที่บ้านดีกว่า..” ผมพูดแกมบ่นก่อนทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
“จิ ก็บอกว่าเดี๋ยวไปส่งไง” พี่เซ็นเดินเข้ามากระชากโทรศัพท์ออกจากมือผมไป 
“พี่จะมาแกล้งกัสทำไมเนี่ย” ผมขึ้นเสียงว่าใส่ทำท่าจะยื้อโทรศัพท์กลับมา  พี่เซ็นเบะปาก  ชูโทรศัพท์มือถือขึ้นสูงทำให้คนที่มีความสูงมาตรฐานชายไทยอย่างผมเอื้อมไม่ถึง
“ใส่นี่ไปก่อนแล้วกัน” พี่เซ็นยื่นชุดนอนสีน้ำเงินลายสต๊อกที่ยังดูใหม่เอี่ยมมาให้  ซึ่งมันไม่ใช่ไซด์ของผมเลยสักนิดเดียว
“หรือว่าจะใส่แต่เสื้อก็ได้นะ..ถ้าคิดว่าไม่สบายตัวน่ะ” อีกฝ่ายยิ้มเจ้าเล่ห์  ผมกระชากชุดนอนมากอดไว้อย่างช่วยไม่ได้เพราะยังไงก็ไม่มีทางเลือกแล้ว  พี่เซ็นเอนหน้าไปมาอย่างหลอกล้อผม  ผมสะบัดหน้าเดินหนีตรงไปที่ห้องน้ำทันที
“จะตากเสื้อผ้าก็เอาตากไว้นอกระเบียงแล้วกันนะ” พี่เซ็นตะโกนบอก  คงหมายถึงระเบียงตรงห้องนอนของพี่เขานั่นละ  ผมเข้ามาในห้องน้ำ  เป็นห้องน้ำผู้ชายปกติธรรมดา  ของใช้พื้นฐานทั่วไปแต่ทุกอย่างล้วนเป็นของแบรนด์เนมราคาแพงที่บางอย่างไม่มีขายในประเทศไทย 
ผมจัดการอาบน้ำขัดตัวเองอยู่นานมาก  ปกติผมเป็นคนอาบน้ำค่อนข้างช้าเพราะผมชอบขัดตัวกับบำรุงเกลือแร่  แต่พี่เซ็นไม่มีของอย่างนั้นให้ใช้  ผมจึงนอนแช่อ่างอาบน้ำทำอย่างกับเป็นห้องของตัวเองจนพี่เซ็นต้องมาเคาะห้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า  ผมเลยต้องตอบไปว่ากำลังแช่ตัวอยู่  หลังจากขึ้นจากอ่างอาบน้ำผมจัดการทำความสะอาดห้องน้ำให้พี่เซ็นเล็กน้อยเพราะผมทำอย่างนี้ตอนอยู่บ้านเป็นประจำจนชินซะแล้ว  เมื่ออาบน้ำเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อยก็แต่งตัวในห้องน้ำให้เสร็จก่อนจะรีบน้ำเสื้อผ้ากับกางเกงที่เปียกไปตากที่ระเบียงห้อง
“อาบนานเป็นชาติ นี่นึกว่าอยู่ห้องตัวเองรึไง” พี่เซ็นบ่นเสียงเข็ง
“มันก็ช่วยไม่ได้ พามาเองทำไม” ผมย้อน  รู้สึกเดินไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่เพราะตอนนี้ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน  ถ้าอยู่บ้านตัวเองคงไม่รู้สึกอะไรแต่นี่กำลังอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบมาก  ซึ่งตอนนี้พี่เซ็นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว  ผมจึงไม่กล้าที่จะหันไปสบตาเต็มๆ 
“จะให้แม่บ้านมาเอาไปซักแห้งไหม” พี่เซ็นถามถึงชุดของผมแถมยังเหลือบมองไปที่ระเบียงอีกด้วย
“ไม่เป็นไรฮะ” ผมตอบเขินๆก่อนจะเดินหนีออกมาจากห้องนอน  พี่เซ็นไม่ได้ตามออกมาคงเพราะอาบน้ำต่อ  ผมเดินไปเปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้และอดไม่ได้ที่จะเดินสำรวจรื้อห้องของพี่เขา  เวลาผ่านไปเพียงสิบถึงสิบห้านาทีพี่เซ็นก็ออกมาพร้อมกับเสื้อยืดสีดำกับกางเกงบ๊อกเซอร์สบายๆ  ผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่บนบ่าของพี่เขา  ผมของพี่เซ็นกระเซอะกระเซิงเพราะยังเช็ดไม่แห้งดี  พี่เซ็นนำผ้าขนหนูขยี้เข้าที่หัวก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เย็นและหยิบเบียร์ออกมาหนึ่งกระป๋อง
“อ่ะ” พี่เซ็นโยนขวดน้ำแอ๊บเปิ้ลมาให้  ผมกระโจนเข้าไปรับไว้ด้วยความตกใจกลัวว่ามันจะตกลงพื้น
“หึ..เหมือนลิง” พี่เซ็นหัวเราะชอบใจ  ผมหน้างอ  หนีกลับมานั่งลงที่โซฟาและเปิดขวดน้ำแอ๊บเปิ้ลขึ้นดื่ม 
“เมื่อกี้ไอ้หมีโทรมา โทรกลับซะ” พี่เซ็นเดินมายื่นโทรศัพท์มือถือของผมให้  ผมรับมาถือไว้  เห็นเป็นสายไม่ได้รับจากพี่หมี  ผมกำมือถือไว้ไม่กล้าโทรออกเพราะพี่เซ็นยืนจ้องผมอยู่  แต่อยู่ๆพี่เซ็นก็เดินไปที่โต๊ะทำงานของตน  ผมจึงกดโทรกลับไปหาพี่หมี  ผมรอสายอยู่เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นปลายสายก็กดรับในทันที
“ฮะพี่หมี” ผมพูดเสียงเบา
“อยู่ไหนครับ” พี่หมีถาม  น้ำเสียงเรียบปกติดีทำให้ผมรู้สึกโล่งอก
“อยู่ อยู่กับพี่เซ็นครับ” ผมตอบ  ไม่กล้าพูดบอกออกไปว่าอยู่ที่คอนโดของพี่เซ็น  ผมไม่รู้ว่าถ้าพูดแล้วจะเป็นผลอย่างไร  แต่ผมคิดว่าไม่พูดบอกคงจะดีเสียกว่า..ผมไม่อยากให้พี่หมีเป็นห่วง
“งั้นเหรอ แล้วทำไมเพิ่งรับ” พี่หมีถามอีก
“เอ่อ..พอดี มันวุ่นวายนะครับ กัสเลยไม่ได้ยินเสียง” ผมตอบ
“โอเค ให้พี่ไปรับไหม..จะกลับบ้านรึยังครับ”
“เอ่อคือ พี่เซ็นบอกว่าจะไปส่งกัสที่บ้านอ่ะฮะ” ผมตอบ  ในใจเต้นแรงด้วยรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก  ผมยังอยากอยู่กับพี่เซ็นและผมกลัวว่าพี่หมีจะพูดอะไรที่ทำให้ผมต้องกลับไป
“งั้นก็ตามใจ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว..งั้นแค่นี้นะครับ” พี่หมีพูด
“ครับ” ผมตอบเสียงเบา  พี่หมีตัดสายโทรศัพท์ไป  ผมนั่งนิ่งมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่สักพัก  ผมสงสารพี่หมีและผมกำลังสงสารตัวเองที่รู้สึกแย่ทุกครั้งที่จะต้องทำให้พี่หมีรับรู้อะไรที่ไม่ควรรู้  ผมเหลือบหันไปมองพี่เซ็นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน  พี่เซ็นกำลังนั่งทำอะไรอยู่สักอย่าง  คงทำงานละมัง  ผมไม่ได้ถามออกไป  ได้แต่นั่งเงียบๆอยู่ตรงโซฟา  มันรู้สึกเกร็งจนไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง  ผมนั่งดูโทรทัศน์อยู่นานมากจนรู้สึกง่วงขึ้นมา  เวลาผ่านไปเกือบสี่โมงเย็น  พี่เซ็นยังคงไม่ยอมลุกจากเก้าอี้โต๊ะทำงาน  ผมไม่กล้าซักถามอะไรจึงได้แต่เอนตัวลงนอนและทิ้งตัวเองให้หลับไปในที่สุด..



= = = = = = = =


“อ่ะ...” ผมสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกอึดอัดและเหมือนบนตัวมีอะไรคลุมอยู่  ผมพยายามเปิดตาขึ้นมองและก็พบว่าพี่เซ็นนอนกอดผมอยู่  ผมนอนนิ่งอึ้งตะลึงทำตัวไม่ถูก  พี่เซ็นหลับนิ่งอย่างกับเด็ก  ผมเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้อง  บอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว  นั่นยิ่งทำให้ผมตกใจที่ผมนอนหลับไปได้นานมากขนาดนี้
“..................” ผมนอนนิ่งพยายามเรียกสติตัวเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว  คำถามมีมากมายผุดขึ้นมาบนหัวแต่ก็ได้แต่นอนมองอีกฝ่ายและครุ่นคิดไปต่างๆนาๆอย่างไม่เข้าใจ  และที่น่าเจ็บใจที่สุดคงเพราะผมรู้สึกดีที่ถูกอีกฝ่ายกอดแบบนี้  ผมเอื้อมมือขึ้นและวางมือลงที่ใบหน้าของพี่เซ็นเบาๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น  ผมยังไม่อยากให้เวลานี้หมดลงเร็วนัก  เมื่อแตะมือลงที่แก้มผมกลับรู้สึกเจ็บเต็มอกจนน้ำตาคล้ายกับจะไหลออกมา  นานมากแล้วแต่ก็ยังไม่เลิกรักเสียที..ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  ไม่รู้เลย
“แตะอั๋งคนอื่นตอนหลับอย่างนี้ไม่ดีนะ” ผมสะดุ้งตาโต  พี่เซ็นยังคงนอนหลับตา  ผมรีบพลิกตัวหนีและมุดหน้าเข้าหาหมอนทันทีอย่างต้องการความช่วยเหลือจากมัน  เพราะกลัวว่าพี่เซ็นจะเห็นว่าเมื่อกี้ผมน้ำตาคลอ
“..................” ผมนำหน้าซุกหมอนไม่พูดไม่จาอยู่เกือบห้านาทีและรู้สึกได้ว่าพี่เซ็นซุกตัวเข้ามากอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม
“อะไร” อีกฝ่ายถามแทบกระซิบ  ผมส่ายหัวตอบลูกเดียว  พร้อมกับสะบัดแขนของพี่เซ็นออกเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนำมือลูบอยู่ที่เอวของผม
“ปล่อยนะครับ แล้วมากอดกัสทำไมเนี้ย” ผมหันไปว่าใส่เสียงดัง  พี่เซ็นเล่นหน้าเล่นตาตอบให้แถมยังกระชากเอวผมเข้าไปอย่างแรงทำให้ผมตัวเซจนแทบจะเข้าไปกอดพี่เขาอยู่แล้ว  ตอนนี้ผมอาจจะหน้าแดงหรือแดงมากเพราะผมอาย  รวมถึงผมตื่นเต้นมากด้วย
“กัสทำให้พี่ตื่นเองนะ” พี่เซ็นบอก
“กัสไม่ได้อยากมานอนตรงนี้สักหน่อย” ผมย้อนว่า
“กล้าพูดนะ..ตัวเองนอนหลับไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ” พี่เซ็นแสยะยิ้ม  ผมนิ่งเพราะไม่รู้จะย้อนตอบอย่างไร  พี่เซ็นหยุดนิ่งเช่นกัน  ผมเหลือบตาหนีเพราะพี่เซ็นนำมือมาลูบแก้มผมอย่างเบามือ  ผมคลายตัวนอนลงพร้อมกับนำผ้าห่มมาห่มปิดหน้าจนแทบจะกลายเป็นคลุมโปงอยู่แล้ว
“เขยิบออกไปเลยนะ” ผมบ่นเสียงเบาพร้อมกับนำมือที่อยู่ใต้ผ้าห่มดันตัวพี่เซ็นไว้เล็กน้อย  พี่เซ็นหัวเราะในลำคอ  ผมชะงัก  เหลือบตาหนีเมื่อพี่เซ็นจับมือของผมไปไว้กับอก  แล้วอยู่ๆพี่เซ็นก็ก้มลงจูบเข้าที่ฝ่ามือของผม  ผมรู้สึกดีใจอีกทั้งเสียใจที่ดันไปนึกว่าพี่เขาก็ทำอย่างนี้กับคู่นอนคนอื่นๆหรือเปล่า  ในห้องเงียบมาก  เงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน  พี่เซ็นเลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนผมไม่กล้าเดาว่าพี่เขาจะทำอะไรเพราะถ้าผมเดาผมก็จะลุกลี้ลุกลนทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมกำลังคิดบ้าบออะไรอยู่  ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้ผมไม่กล้าตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น  คนอื่นทั่วไปเขามีอาการแบบผมด้วยหรือเปล่านะ  เมื่อไหร่ที่เจอคนที่ชอบมาทำอะไรแบบนี้แล้วก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ลง  ถึงแม้ว่ามันจะผิด..แต่ก็ไม่สามารถทัดทานอารมณ์แปลกๆนี่ได้ 
“พี่..” ผมเงยหน้าขึ้นจะพูดห้าม  แต่ก็ช้าไปเมื่อปากของอีกฝ่ายจูบลงที่ต้นคอผมเบาๆจนผมสะดุ้ง
“ชู่~” พี่เซ็นกระซิบปรามเหมือนไม่ต้องการให้ผมพูดอะไรอีก  ผมหลับตาปี๋  เกิดมายังไม่เคยเจอใครมาทำอะไรแบบนี้นอกจากพี่หมี  แต่ถึงถูกพี่หมีหยอกล้อโดยการหอมแก้ม  จูบหรือทำให้เขินแต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกแปลกออกไปอย่างนี้  ที่จริงเป็นความรู้สึกที่แทบไม่เหมือนกันเลย  ผมนอนเงียบไม่กล้าแม้จะถามออกไปว่าพี่เซ็นจะทำอะไร  ที่จริงก็น่าจะรู้ว่าพี่เขาจะทำอะไร  คำถามในตอนนี้มีเพียง..พี่เขาจะทำถึงไหนและกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ที่ทำแบบนี้กับผม
ผมรับรู้ได้ถึงริมฝีปากของพี่เซ็นที่แตะเข้าที่ต้นคอ  ในร่างกายเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าวนเวียนอยู่  พี่เซ็นเลื่อนจูบมาที่แก้มและไล่ไปจนถึงใบหูของผมอย่างเบาๆ  มันเบามากคล้ายกับอีกฝ่ายต้องการหยอกล้อคลอเคลีย  แม้จะถูกอีกฝ่ายทำอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนอย่างนั้นแต่ผมกลับรู้สึกตื่นเต้น  ขนตั้งชันไปทั้งตัว  พี่เซ็นเริ่มขยับตัวเข้ามาประชิดผมมากกว่าเดิม  มืออีกข้างของพี่เซ็นลูบอยู่ที่สะโพกและเอวของผมอย่างเบามือ  ผมเกร็งหน้าท้องมากขึ้นเมื่อนิ้วมือของพี่เซ็นไปสะกิดเข้าที่ขอบกางเกงนอน  ผมจับต้นแขนของพี่เซ็นแน่น  คล้ายกับจะห้ามการกระทำแต่ผมก็ไม่ทำอย่างนั้น  ผมกำลังเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน  นิ้วมือของพี่เซ็นไล่ขึ้นมาจนเกือบถึงหน้าอกของผม  อีกฝ่ายคงจะรับรู้ได้ว่าผมตื่นเต้นแค่ไหน 
“อึ..” ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วมือของพี่เซ็นเขี่ยเข้าที่หน้าอกของผมเบาๆ  ผมหลบสายตาของพี่เขาในทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองผมอยู่ทุกการกระทำที่ตนได้ทำ  พี่เซ็นก้มหน้าลงมาใกล้  ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาอีกเพราะไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายจะก้มลงจูบผม  มือของพี่เซ็นแตะลงที่ปากของผมเบาๆทำให้ผมต้องหุบปากเข้าหากันอย่างเขินอาย
“อ้าปากสิ..” อีกฝ่ายพูดกระซิบเสียงแหบ  ผมเผยปากออกช้าๆตามที่สั่งอย่างกับคำสั่งนั้นเป็นคำสาปก็ไม่ปาน  ปากของผมสั่นจนผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถควบคุมมันได้อีก  พี่เซ็นก้มลงจูบผม  ลมหายใจของพี่เซ็นกระทบเข้าใกล้จมูก  ผมได้รับรู้ถึงลมหายใจและรสเบียร์จากปากของพี่เขา  พี่เซ็นเริ่มจูบเบาๆ  ผมไม่เคยจูบอย่างนี้มาก่อน  ได้แต่เคยจิตนาการในความฝันว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น  แน่นอนว่าเรื่องที่คิดกับความจริงมันแตกต่างกันแน่นอนอยู่แล้ว  สิ่งที่คิดว่าน่าจะควบคุมตัวเองได้แต่ความจริงแล้วกลับไม่ใช่เลย 
ผมจูบตามน้ำพี่เซ็นไป  แม้จะเก้ๆกังๆแต่พี่เซ็นก็ไม่ได้เอ่ยบ่นอะไร  ผมกลับต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ถึงลิ้นที่รุกล้ำเข้ามาในปากของผม  มันอุ่นและรวดเร็วจนผมแทบปรับให้หายใจไม่ทัน  เมื่อพี่เซ็นเผยปากออกให้ผมได้พักหายใจผมก็เหลือบขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย  สีหน้าและสายตาของอีกฝ่ายที่ผมโหยหามาตลอดกำลังทำให้ผมหลงหลุดเข้าไปในโลกที่ไม่เคยได้เจอ  พี่เขาจะรู้ไหมว่าผมไม่สามารถต้านทานอารมณ์หรือจะบอกปฏิเสธการกระทำนี้จากพี่เขาในตอนนี้ได้เลย  นี่คงเป็นหน้าตาที่คู่นอนอีกหลายคนที่นอนกับพี่เซ็นก็คงจะชอบและรู้สึกได้ว่าพี่เขาเซ็กซี่เอามากๆ  ผมกำลังเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ  กระทั่งรู้สึกเสียใจอยู่จุกอกแต่ความสุขที่กำลังได้รับกลับทำให้ผมยอมให้เขารุกล้ำร่างกายของผมเรื่อยๆ  มันดิ่งลึกลงไป..ในหัวผมได้แต่สงสัย  ว่าจุดสิ้นสุดของการมีเพศสัมพันธ์มันคืออะไรกัน



= = = = = = = =
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2012 10:10:22 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่5 - Lover..3 [31/08/55 @ 10:08] P.296
«ตอบ #8936 เมื่อ02-09-2012 10:08:47 »

14 เมษายน  ณ คอนโดเซ็น..
ผมสะดุ้งตื่นเมื่อรับรู้ถึงความเงียบที่มีมากเกินไปจนดูน่ากลัว  ไม่มีแม้แต่ความฝัน..มีเพียงความเงียบซึ่งเป็นการหลับลึกที่ค่อนข้างสบายมากคืนหนึ่ง 
เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบแสงสว่างลอดผ่านมาจากประตูกระจกตรงระเบียง  ผมยังคงนอนนิ่งปรับอารมณ์ของตนก่อนจะเหลือบมองร่างกายตัวเองที่เปลือยเปล่า  มีเพียงผ้าห่มคลุมอยู่เท่านั้นก็ทำให้ทราบทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมาแท้ที่จริงแล้วมันคือความจริง
เมื่อหัวค่ำวาน  สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่เซ็นเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นจริง  ถึงแม้ว่าผมจะฝันครั้งแล้วครั้งเล่าอยากให้เกิดขึ้นก็ตามแต่ก็อยากให้เกิดขึ้นจากความรักที่เราทั้งสองฝ่ายมีให้กันและกัน  แต่ก็ไม่แปลก..ไม่แปลกอะไรที่คนอย่างพี่เซ็นจะกระทำอย่างนี้ลงไป  ผมไม่ได้เสียใจหรอกครับ  ในเมื่อเมื่อวานผมยอมโอนอ่อนไปตามน้ำ  ผมก็รู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าผมไม่ขัดขืน..คนอย่างพี่เซ็นก็คงจะทำจนถึงที่สุด
ผมยังนอนนอนนิ่งอยู่ในท่าเดิมไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปที่ข้างๆว่ามีคนนอนอยู่ด้วยไหม  ผมเหลือบสายตามองนาฬิกาเพราะในใจนึกสงสัยปนกลัวว่าผมนอนหลับมานานหลายวันแล้วหรือเปล่า  เมื่อเห็นนาฬิกาบอกเวลาเพียงเจ็ดโมงเช้า  ทำให้ผมทราบทันทีว่าเมื่อวานนี้หลังจากที่เราทั้งสองคนเริ่มความสัมพันธ์ที่เกินกว่าพี่น้องในที่ทำงานและเมื่อมันจบลง  ผมทราบเพียงว่าผมเหนื่อยมากและไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าหลับสนิทไปตอนไหน  ผมทำใจอยู่เกือบสิบนาทีหรือสิบห้านาทีโดยประมาณที่จะพลิกตัวหันกลับไปอีกด้านหนึ่งของเตียง
“...................” ผมรู้สึกโล่งใจมากที่เห็นพี่เซ็นนั่งอยู่ข้างๆ  พี่เขาไม่ได้หนีหายไปเหมือนในละคร  พี่เซ็นนั่งโดยท่อนบนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า  ส่วนท่อนล่างมีเพียงผ้าห่มคลุมตัวไว้  ในมือถือแก้วกาแฟ  เมื่อพี่เขาเห็นว่าผมพลิกตัวไปพี่เขาก็เหสายตามามองผมเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์” อีกฝ่ายพูดเสียงเบา  เป็นน้ำเสียงทักทายที่ที่จริงผมควรจะดีใจแต่มันกลับฟังดูเรียบนิ่งจนน่ากลัวเกินไป  ที่จริงผมทำใจไว้แล้วว่ามันจะเป็นอย่างนี้แน่แต่เพียงแค่ยังรับความจริงไม่ค่อยได้เท่านั้น
“ครับ” ผมยิ้มตอบเสียงเบาเช่นกัน  เมื่อผมทราบแล้วว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่  ยังคงอยู่ในห้องด้วยกันไม่ได้หายไปไหน  ผมจึงพลิกตัวตะแคงกลับมานอนในท่าเดิม
“จะอาบน้ำก่อนรึเปล่า เสื้อผ้าแห้งแล้วนะ พี่ให้แม่บ้านเอาไปรีดให้แล้ว..อยู่ในห้องน้ำน่ะ” พี่เซ็นพูดบอก  หลังจากนั้นก็เงียบไปเกือบสิบนาที  ผมไม่กล้าลุกเพราะรู้สึกได้ว่าตัวเองโป๊ไม่ได้ใส่อะไรเลย  ซึ่งไม่กล้าลุกขึ้นทั้งอย่างนี้  เมื่อผมนอนตัวแข็งอยู่สักพักก็รู้ได้ว่าพี่เซ็นลุกจากเตียงไป 
“อ่ะ” ผมหันตัวกลับไป  พี่เซ็นยื่นผ้าขนหนูมาให้  ผมเอื้อมมือไปรับมาทั้งที่ไม่ได้สบตา  พี่เซ็นนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง  แต่พี่เขานั่งหันหลังให้ผม  ผมลุกขึ้นนั่งบ้าง  ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาหัวก็รู้สึกโล่งโปร่งสบายสุดๆ  น่าแปลก..ทั้งทั้งที่ตื่นเช้าและเมื่อวานก็เหนื่อยมากขนาดนั้น
“..................” ในห้องเงียบมากจนผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวอีก  พี่เซ็นนั่งนิ่งเงียบ  ผมนั่งมองแผ่นหลังของพี่เขา  พี่เซ็นไม่ได้ทำอะไรเอาแต่นั่งเฉยอยู่อย่างนั้น 
“ลืม..” อีกฝ่ายเอ่ยขึ้น  ผมรู้สึกตัวในทันทีที่ได้ยินคำแรก  รู้สึกตัวในทันทีว่าที่จริงแล้วความจริงก็ยังคงเดิม..คำพูดที่กำลังจะตอกย้ำกับสิ่งที่ผมคิดไว้เมื่อคืนนั่นก็คือ “ทำใจไว้อยู่แล้ว..ไม่เป็นไรหรอก” 
“ลืมมันไปซะจะได้ไหม” พี่เซ็นพูดเสียงเรียบ  ผมได้แต่อมยิ้มออกมา  คำพูดที่ออกมาจากปากของคนคนนี้ที่ผมคาดเดาไว้ไม่มีผิด  มันจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว  ถึงแม้อีกเศษเสี้ยวหนึ่งผมจะเพ้อฝันอะไรมากมายแต่คำพูดนี้นี่แหละคือความเป็นจริง  ถ้าผมจะไม่หลอกตัวเอง  สิ่งที่พี่เซ็นพูดนี่ละคือความจริงที่ผมควรจะทำใจยอมรับมันให้ได้..
“ฮะ” ผมตอบเสียงดังฟังชัดเพื่อให้พี่เขามั่นใจ  ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและนำผ้าขนหนูมาพันตัวเองไว้และรีบเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรักษาอาการให้เป็นปกติ



= = = = = = = =


หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ  พี่เซ็นอาบน้ำต่อจากผม  ผมนั่งรอพี่เขาอย่างเป็นปกติ  ผมแปลกใจตัวเองมากว่าผมทำตัวเป็นปกติมากขนาดนี้ได้อย่างไร  หลังจากที่พี่เซ็นอาบน้ำเสร็จ  พี่เขาพาผมมานั่งทานอาหารที่ร้านอาหารข้างล่างคอนโด  เราทานอาหารกันอย่างเงียบๆ  พี่เซ็นชวนผมคุยบ้างประปรายในเรื่องสับเพเหระทั่วไป  พอทานอาหารเสร็จพี่เซ็นก็ขับรถมาส่งผมที่บ้าน  เราแทบไม่ได้คุยกันเลยจนตลอดทาง
“ขอบคุณครับ” ผมบอกเมื่อรถจอดสนิทอยู่ที่หน้าบ้าน
“แล้วเจอกัน” พี่เซ็นพูด  ผมไม่ได้ตอบอะไรอีกและไม่ได้หันไปมองหน้าพี่เซ็นอีกด้วย  ผมลงจากรถก็เดินตรงขึ้นบ้านทันทีไม่ได้ยืนรอส่ง 
“อ่าว..เมื่อคืนไม่ได้นอนบ้านเหรอ” พี่เกตุที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองทัก
“อ่อ เปล่าครับ..ไปนอนบ้านปุยมาน่ะ” ผมตอบและพยายามสบตาพี่เกตุอย่างเต็มตาเพราะไม่อยากให้มีพิรุธ  ผมไม่สามารถโกหกออกไปได้ว่าไปไหน  รวมถึงจะเอาชื่อพี่หมีมาอ้างอย่างเช่นทุกครั้งก็ไม่ได้  เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พี่หมีห้ามรู้เด็ดขาด  ผมรีบเดินขึ้นบ้าน  กลั้นน้ำตาตัวเองไว้ไม่ให้ไหลออกมา  ใช่แล้วละครับ..ผมไม่สามารถร้องไห้ได้  ช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวของครอบครัว  ถ้าผมร้องไห้ตาบวมคงไม่ดีแน่  ทุกคนในบ้านคงเห็นและต้องซักไซ้ถามโดยเฉพาะพี่ก้องและพี่เกตุ  เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่นานมันก็ยากมากเลยที่จะกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา  ผมไม่อยากให้เรื่องใหญ่โตไปมากเกินกว่านี้เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากสิ่งที่ผมต้องการ
ผมนอนนิ่งอยู่บนเตียงซังกะตาย  ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นโทรออกหาปุย  ผมนัดแนะกับปุยว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้โกหกช่วยผมหน่อยว่าให้บอกว่าเมื่อคืนผมไปนอนค้างที่บ้านของปุยมา  ปุยซักถามผมยกใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น  ผมเล่าให้ปุยฟังทั้งหมด  เล่าเคล้าน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้  หลังจากที่ผมวางสายจากปุยไปผมก็รีบเช็ดน้ำตาและพยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก 
ผมไม่อยากร้องไห้เพื่อให้ใครมาเห็นใจเพราะสิ่งที่ผมทำลงไปอาจจะเป็นเรื่องที่น่าสมเพชในสายตาของคนอื่น  และผมก็ไม่คิดด้วยว่าการมีเพศสัมพันธ์กับพี่เซ็นไปนั้นก็เพื่อที่ผมจะครอบครองพี่เขาได้ง่ายมากขึ้น  ผมคิดว่าความคิดนั้นมันเป็นการหลงตัวเองและเป็นความคิดที่งี่เง่า  ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้มีค่ามากพอถึงขนาดที่มีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวพี่เขาก็จะหันกลับมามองผมอย่างจริงจังได้  ถ้าที่เป็นไปนั่นคือสิ่งที่พี่เซ็นต้องการ..ผมก็เต็มใจให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น  เพราะนั่นก็คือสิ่งที่ผมต้องการด้วยเช่นเดียวกัน  ผมนอนนิ่งคิดอย่างนั้น  ตัวมันชาไปทั้งร่ายกาย  ทั้งว่างเปล่าและล่องลอย 
เรื่องเมื่อคืนหวนวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในความทรงจำของผม  การกระทำที่อ่อนโยนจากพี่เซ็นทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม  แน่ล่ะว่านี่ไม่ใช่การขืนใจ  ผมยอมพี่เขาเอง  ยอมเขาไปอย่างน่าเจ็บใจที่ตัวเองไม่สามารถต้านทานแรงปรารถนาในก้นบึ้งของหัวใจได้  จูบครั้งแล้วครั้งเล่าที่ได้รับแทบทำให้ผมคลั่ง  มือที่ลูบไล้ร่างกายผมคล้ายกับได้พบสิ่งแปลกใหม่นั่นทำให้ผมรู้สึกดี  ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร  ตอนนี้เองก็ด้วย  นอกจากผมจะไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่ผิดที่ได้สมยอมไป  มันยิ่งทำให้ผมเจ็บใจว่าผมเป็นถึงขนาดนี้ได้อย่างไร  ในตอนนี้ผมมีสติดีครบทุกประการ  คำพูดของพี่เซ็นที่บอกว่าให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ถึงแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนแล้วยังไงล่ะ  คงไม่สำคัญอะไรเพราะถึงอย่างไรผมก็เจ็บปวดมาตลอดหลายปี  ตอนนี้อาจจะเจ็บปวดมากเสียหน่อยที่คนรักแทบไม่เห็นค่าในตัวของผม  แต่ไม่เป็นไร..เพราะถึงแม้ว่าผมจะยอมแต่ผมก็รู้ว่าตัวของผมมีค่ามากแค่ไหน  ผมยอมเพราะผมรัก..ผมรัก  และจะไม่เป็นไรเพราะมันจบไปแล้ว  ผมเองก็จะทำตามที่พี่เขาต้องการเหมือนกัน  ผมไม่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์  ที่จริงตลอดมาผมก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพี่เซ็นเลย  ถึงแม้จะเป็นแบบนี้  ถึงผมจะเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน..ผมก็จะไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น



= = = = = = = =


วันอังคาร  ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
ระหว่างช่วงสงกรานต์  ผมอยู่แต่บ้าน  ไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่วันที่พี่เซ็นมาส่งผมที่บ้าน  ผมโทรหาพี่หมีบ้างเพราะไม่อยากให้พี่หมีเป็นห่วงและจับได้ว่าผมเป็นอะไร  ผมไม่อยากให้พี่หมีเป็นห่วงผมมากเกินไป  อีกทั้งถ้าพี่หมีรู้เรื่องนี้พี่หมีจะต้องไม่พอใจพี่เซ็นและมีปากเสียงกันแน่  มันคงจะไม่ดีนักถ้าคนในร้านมาทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง  และมันไม่ดีอย่างแน่นอน  เพราะเหตุผลที่ทะเลาะเกิดขึ้นจากความหลงมัวเมาในความรักจากคนอย่างผม  มันจะดีที่สุดคือการได้เก็บเงียบไว้และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่พี่เซ็นว่า..
วันนี้ผมไม่มีเวรงานที่ร้าน  แต่ผมโทรไปลางานกับพี่ฟ้าว่าวันพรุ่งนี้ผมไปไม่ได้  ผมอ้างบอกพี่ฟ้าไปว่าเมื่อคืนผมท้องเสียหนักมากและแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน  พี่ฟ้าไม่ได้ซักถามอะไรมากความกว่านั้นเพราะผมคิดว่าผมคงโกหกเนียนมากเลยล่ะ  ตอนแรกพี่ฟ้าบอกให้ผมมาช่วยงานในวันพุธด้วยเพราะว่าพี่ซีอาจจะเข้าร้านช้า  ซึ่งผมทราบดีว่าเวรงานวันพุธเป็นเวรงานของพี่เซ็น  ผมจึงขอปฏิเสธไปและอ้างว่าไปไม่ไหวจริงๆ  พี่ฟ้าก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร  ที่จริงผมก็ควรจะพร้อมได้แล้วที่จะเดินต่อไปแต่ผมอยากขอเวลาทำใจอีกสักหน่อย  มันน่าตลกเพราะลึกลงไปแล้วผมก็ยังหวังลมๆแล้งๆ  แต่นั่นล่ะ..นั่นเป็นความหวังที่ถูกเก็บอยู่ลึกมากทีเดียว 
หลังจากที่พี่ฟ้าวางสายไป  พี่หมีก็โทรเข้ามาด้วยความเป็นห่วงในทันที  ผมบอกพี่หมีว่าไม่เป็นอะไรมาก  ได้ทานยาไปเรียบร้อยแล้วและพรุ่งนี้ก็คงจะไม่ไปทำงาน  พี่หมีเองก็ปกติ  ไม่ได้ถามอะไรอีก..



= = = = = = = =


วันพฤหัส  ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เอ..รุจ นี้ออร์เดอร์ของโต๊ะไหนน่ะ” ผมถาม  ยื่นกระดาษให้รุจดู
“โต๊ะเอฟนะ อ่าว..เมื่อกี้กัสไม่ได้เอาเข้าไปในครัวแล้วเหรอ” รุจขมวดคิ้ว  ผมส่ายหัวตอบ
“กัสลืมอ่ะ” ผมบ่นอย่างไม่ชอบใจที่ตัวเองทำงานพลาดแบบนี้ 
“เดี๋ยวเอาเข้าไปให้เชฟก่อนแล้วกัน รุจช่วยไปรับออร์เดอร์โต๊ะเอให้หน่อยนะ” ผมบอก  ที่จริงมันไม่ใช่หน้าที่ของรุจแต่รุจก็พยักหน้ารับ  ผมนำออร์เดอร์เข้ามาในห้องครัว  พี่เซ็นและพี่ไจ๋กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหารตามที่สั่ง
“พิซซ่านะครับ” ผมพูดบอกและนำกระดาษไปเสียบไว้ที่เสียบกระดาษสำหรับออร์เดอร์  วันนี้ผมมาทำงานที่ร้านตามปกติ  ผมมีเวรงานตั้งแต่ช่วงบ่าย จึงทำให้ผมได้เข้าครัวบ้างไม่ได้เข้าบ้าง  ทุกอย่างเป็นไปปกติดี  ถึงแม้ผมจะคิดระแวงและปรุงแต่งไปเองว่าถ้าคนในร้านรู้เรื่องระหว่างผมกับพี่เซ็นไปแล้วจะเป็นอย่างไร  แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น  เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นปกติดีและดีมากอย่างที่ผมต้องการ..
“ออร์เดอร์เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ขอโทษด้วยครับที่เอามาให้ช้า” ผมบอก  พี่เซ็นชะงักหันมามองหน้าผมหน้านิ่ง  ผมหลบสายตาด้วยเพราะกลัวว่าจะโดนดุ
“ไปบอกลูกค้าว่าให้รอประมาณครึ่งชั่วโมง เอาของว่างไปเสิร์ฟก่อนด้วย..แล้วมีออร์เดอร์อย่างอื่นอีกไหม” พี่เซ็นถาม
“อ่ะ มีฮะ..สปาเก็ตตี้” ผมรีบตอบ
“โอเค เข้าใจแล้ว..ไปทำตามที่บอกซะ” พี่เซ็นบอกก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ  ผมรีบเดินออกมาและนำอาหารว่างไปเสิร์ฟให้ลูกค้าก่อนและบอกลูกค้าด้วยว่าต้องรอประมาณกี่นาที  หนึ่งอย่างที่ร้านเราเป็นมาอย่างเสมอต้นเสมอปลายเลยคือ  พนักงานจะไม่มีการพูดไปเองสุ่มสี่สุ่มห้าว่า “รอสิบนาทีนะคะ” หรือ  “รอสิบห้านาทีนะครับ”  เพราะถ้าทำไม่ได้ตามนั้นจะทำให้เสียชื่อเสียงของร้านและแน่นอนว่าลูกค้าเองก็คงรู้สึกตะขิดตะขวงใจและไม่ชอบใจเป็นแน่  กฎของพนักงานอีกข้อหนึ่งคือ  ต้องรับคำสั่งจากเชฟคนเดียวเท่านั้น  เชฟจะเป็นคนตัดสินใจว่าลูกค้าจะต้องรอประมาณกี่นาที  เรารับคำพูดจากเชฟไปบอกลูกค้าอีกทอดหนึ่ง  และแน่นอนว่าร้านเราเป็นอย่างนี้มาตลอด  เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไรเชฟจะมีหน้าที่รับผิดชอบทุกคำพูดของตน  ทั้งพี่คิวและพี่เซ็นเองก็รักษาเวลา  ไม่เคยเลยที่จะใช้เวลาในการทำอาหารนานกว่าเวลาที่ได้บอกลูกค้าไป
“เฮ้อ ปวดหัวจัง” ผมบ่นหลังจากที่รับออร์เดอร์ลูกค้าโต๊ะใหม่เรียบร้อย  แต่เมื่อกี้ผมดันรับออร์เดอร์ผิดอีกครั้ง  ถ้าตอนทวนออร์เดอร์แล้วลูกค้าไม่ท้วงไว้ก่อน  ผมได้โดนพี่หมีสับเละแน่นอนเลยละครับ
“รับออร์เดอร์ผิดรึไง” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่หมี 
“เอ้ พี่หมี” ผมเข้าไปจะแย่งกระดาษที่วางไว้ตรงเคาร์เตอร์มา  เป็นการดาษจดออร์เดอร์และผมได้ขีดฆ่าออร์เดอร์ที่จดผิดไว้ด้วย  พี่หมีหยิบขึ้นดูแล้วยื่นมาให้ผม  ผมรับมาถือไว้อย่างรู้สึกผิด
“..................” อีกฝ่ายจ้องหน้าผมเขม็ง  ผมรู้ว่าพี่หมีคงไม่เอาเรื่องความผิดนี้ของผมไปบอกพี่ฟ้าหรือพี่คิว  แต่ผมก็อดกลัวไม่ได้อยู่ดี  เพราะพี่หมีเป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์ที่จะเขียนรายงานพฤติกรรมของคนในร้านได้  ซึ่งผมไม่ทราบหรอกครับว่าเอกสารนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร  ทราบเพียงว่าพี่หมีจะต้องส่งแบบรายงานนี้ให้พี่ฟ้าหรือพี่คิวทุกเดือนว่าพนักงานคนไหนมีพฤติกรรมอย่างไร  เข้าสาย  อู้งาน  รับออร์เดอร์ผิด  ไม่สุภาพกับลูกค้า  ไม่ยิ้มแย้มและอื่นๆ  ถึงแม้ว่าพี่หมีจะคอยตักเตือนก็ตามแต่ไม่ได้หมายความว่าพี่เขาจะไม่เขียนรายงานนี่นะครับ  ซึ่งตลอดมาถ้าต่อหนึ่งเดือนใครทำอะไรผิดพลาดบ่อยครั้ง  พี่ฟ้าก็จะเรียกเข้าไปคุยก่อน  ถ้าทำผิดซ้ำเรื่องเดิมๆถึงสามเดือนก็มีสิทธิ์ถูกไล่ออกในที่สุด  แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีใครโดนเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างนั้นหรอกนะครับ
“ขอโทษฮะ” ผมก้มหน้าบอก  พี่หมีเงียบไปสักพัก  ทั้งผมและรุจยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว
“ไม่สบายรึไง” พี่หมีถามขึ้น  ผมส่ายหัวตอบ  ทำสายตาอ้อนวิงวอนไปให้
“ถ้าวันนี้ทำพลาดอีกครั้ง พี่จะเขียนลงสมุดบันทึก..โอเคนะครับ” พี่หมีพูด
“ครับ” ผมยิ้มกว้างในทันที  บอกได้ว่าครั้งนี้พี่หมีจะไม่เขียนรายงานความผิดพลาดของผมนั่นเอง
“เฮ้อ..ดุชะมัด” ผมแกล้งว่า  พี่หมีอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ 
“กัสดูเหนื่อยๆนะ ท้องเสียไม่ค่อยได้นอนเหรอ” รุจถาม
“อื้อ ประมาณนั้นแหละ” ผมพยักหน้าตอบ  เอออออย่างขอไปที
“รุจเรียนมอM เป็นไงบ้างอ่ะ..เห็นเค้าบอกว่ามีแต่ลูกคนรวยเรียนนี่” ผมถามเปลี่ยนเรื่องอยากหาเรื่องคุยเรื่องอื่น  มหาวิทยาลัยที่รุจเรียนอยู่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังทางด้านธุรกิจและบัญชีซึ่งค่าเรียนแพงพอสมควร  ตอนนี้ลูกค้าทุกโต๊ะกำลังทานอาหารกันอยู่  เราจึงมีเวลาพักกันครู่หนึ่ง
“หึ ใครรวยไม่รวยไม่รู้..แต่รุจน่ะอยากรวย” รุจอมยิ้มตอบ
“หึหึ..เออ ตรงดี ชอบ” ผมพูด
“ไปตรวจแก้วน้ำลูกค้าสิกัส..ขี้เกียจตัวเป็นขนเลยนะเรา” พี่หมีบ่น  มือยังคงไม่หยุดเช็ดจาน  ผมลุกขึ้นหันไปเบะปากให้
“ชอบว่า” ผมว่าพี่หมีก่อนจะเดินไปหยิบเหยือกน้ำเพื่อนำไปรินน้ำให้ลูกค้าเพิ่ม  พอทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จก็กลับเข้ามาที่เคาร์เตอร์อีกครั้ง  ผมเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างใจสู้เพราะมีเสียงกริ๊งเรียกให้ไปรับอาหารออกไปเสิร์ฟ 
“โอ๊ะ..หวา พี่หมีครับ” ผมรีบร้องบอกเมื่อถาดทำท่าจะเซไปอีกทาง  พี่หมีรีบเข้ามาช่วยรับด้วยความตกใจ
“กัส” พี่หมีร้องคิ้วขมวดเป็นปม  บนถาดมีทั้งซุปและพิซซ่า  ทั้งร้อนและหนักพอสมควรด้วย
“ปล่อยๆ” พี่หมีพูด  ผมปล่อยออกช้าๆเมื่อพี่หมีรับไปถือไว้ได้เรียบร้อยแล้ว  ใจผมแทบตกลงไปที่ตาตุ่ม  กลัวว่าอาหารจะหกซะแล้วละครับ
“ใจลอยไปถึงไหนน่ะ” พี่หมีว่าคิ้วขมวดก่อนจะหันไปจัดอาหารบนถาดให้เข้าที่เข้าทาง
“ป..เปล่าฮะ กัสเจ็บข้อมือ” ผมแก้ตัวบอกเสียงเบา
“มือเป็นอะไรรึเปล่า” พี่หมีถามถึง  ผมรู้สึกร้อนที่มือนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ไม่ฮะ” ผมตอบอย่างรู้สึกผิด
“เดี๋ยวพี่เอาไปเสิร์ฟเองแล้วกัน โต๊ะเอฟใช่ไหม..แล้วก็ระหว่างนี้ นั่งเรียกสติตัวเองซะ” พี่หมีว่าก่อนจะยกถาดอาหารออกจากเคาร์เตอร์ไป  ผมยืนนิ่ง  รุจหันมามองหน้าผมพร้อมกับยิ้มแหยให้  ผมยิ้มตอบเล็กน้อยและก็ต้องขาอ่อนเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้อย่างนึกเซ็งตัวเอง..




................>>>><<<<.................

แต่งตอนนี้เสร็จ ทำให้รู้ว่าเดือนหน้าก็จะครบ 1 ปีของเรื่องนี้แล้ว
และ !!! นี่เป็น NC ฉากแรกที่ได้เขียนค่อนข้างยาว(เหรอ) ก๊าก
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด~ ฉันตายด้านไปแล้ว
  :z3: :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2012 10:53:00 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่6 - Lover..3 [02/09/55 @ 10:15] P.299
«ตอบ #8937 เมื่อ02-09-2012 10:20:47 »

 :z13: :z13: :z13:

หลังจากกลับไปอ่านก็ต้อง  o9 o9 o9ทำไมกัสทำแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเซ็นเป็นยังไง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2012 10:27:55 โดย eaey »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่6 - Lover..3 [02/09/55 @ 10:15] P.299
«ตอบ #8938 เมื่อ02-09-2012 10:28:50 »

ไม่น่าเลยกัส...รู้ทั้งรู้ว่าพี่เซ็นเป็นยังไง เห็นไหมว่ามันไม่เหมือนเดิม?
 :เฮ้อ:
พี่หมีก็แสนดีเนอะ เฮ้อออ...

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ~Limited Lovers~ ตอนที่6 - Lover..3 [02/09/55 @ 10:15] P.299
«ตอบ #8939 เมื่อ02-09-2012 11:01:26 »

 :z13:
=================
สงสารพี่หมี แล้วก็เพิ่มจะเกลียดพี่เซ็นอย่างจริงจัง
ถ้าทำแล้วบอกให้กัสลืมอย่างมที่บอกจริงๆ
..รู้ว่าเพื่อนชอบแล้วยังไปปาดหน้าแบบไม่จริงจังอีก(ถ้าเปงงั้นจริงอ่ะนะ)
ส่วนกัสไม่สงสารสักนิด เพราะทำตัวเอง  :เฮ้อ: นี่ละน๊าทำอะไรไม่รู้จักยั้งคิืด ไม่รู้จักการยับยั้งชั่งใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2012 11:39:46 โดย nolirin »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด