คุณ Nineน้อย เห็นตอนจบแล้วสิเนอะ พยายามให้จบลงด้วยดีค่ะ 55
คุณ golove2 บางทีคนเขียนคิดอะไรไม่ออกก็มีแอบหันไปมองเจ้าแมวเหมือนกัน
คุณ fuku ขอบคุณมากค่ะอุตส่าห์ไปค้นข้อมูลให้ด้วย ได้ความรู้มากเลย
คุณ POPEA ขอบคุณค่ะ ตอนเขียนแทบนึกว่าตัวเองเป็นแมวกันเลยทีเดียว
คุณ roseen ขอบคุณค่ะ เจ้าส้มใช่มั้ยคะที่น่ารัก 55
คุณ dahlia ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า แมวเพื่อนของคนเขียนก็ชื่อเจ้าจ่อยล่ะ (ใกล้เคียง)
คุณ bulldog17 ถ้าคิดว่าส้มมันกวนติงแล้ว ยังมีตัวอื่นที่เป็นขั้นกว่าของเจ้าส้มนะ 55 เราชอบคิดว่าแมวทุกตัวมีความร้ายกาจอยู่นิดๆ (ถึงร้ายก็รัก เหอๆ)
คุณ sang som ขอบคุณที่เห็นถึงความน่ารักของเจ้าส้มค่ะ
อ่านเรื่องที่ 2 ต่อกันเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องที่ 2ตั้งแต่จำความได้ผมก็เห็นลานจอดรถนี้แล้ว มันไม่ใช่ที่จอดรถในอาคาร แต่เป็นลานกว้างเทคอนกรีตหน้าตึกหมู่หนึ่งที่ผมมารู้ภายหลังว่าเป็นสถานทูต มีป้อมยาม แล้วก็สวนหย่อม
นี่คือโลกของผมก่อนจะรู้จักเขา
พี่น้องร่วมครอกแยกย้ายกันไปนานแล้ว เหลือแต่ผมวนเวียนอยู่แถวนั้น มีแมวจากที่อื่นหลงมาบ้าง อยู่ได้ไม่นานก็ไม่เห็นหน้าค่าตากันอีก
ผมรอเขาทุกเช้า... และทุกเย็น
ผมเรียกเขาว่าคุณเกนเพราะได้ยินคนแถวนั้นเรียกอย่างนี้ คุณเกนทำงานข้างในตึก เขาเอาอาหารมาเลี้ยงแมวข้างหน้าบ่อยๆ แต่ผมอยากจะเข้าข้างตัวเองว่าเขาจำผมได้ตัวเดียว เพราะเขาเรียกผมว่าเสือ ในขณะที่เรียกตัวอื่นๆ ว่าเจ้าเหมียวโดยไม่เฉพาะเจาะจง
นอกจากแมวจรและแมวค่อนข้างประจำอย่างผมที่อยู่แถวนั้นแล้ว กับคนคุณเกนก็ไม่ได้ละเว้น เขาชอบซื้อกาแฟให้ยาม บางทีก็ซื้อขนมให้แม่บ้าน เอาเสื้อมาฝากลูกยามบ้างก็มี คุณเกนเป็นคนอย่างนี้แหละ
เอาข้าวมาเลี้ยงผมอยู่พักใหญ่ๆ ผมก็สังเกตว่าเขามักจะมองผมเหมือนคิดๆ อะไรอยู่สักอย่าง ผมก็มองเขากลับ คุณเกนยิ้ม
เขาแวะมาอีกทีตอนเย็น มองไปมองมาแล้วก็ถามลุงยาม
"ลุงครับ สรุปว่าเจ้าเสือนี่ของลุงเหรอ"
"ไม่ใช่หรอกคุณ" ลุงแกโบกไม้โบกมือ "เจ้านี่มันอยู่นานกว่าตัวอื่น คงติดใจว่าคุณเอาข้าวมาให้กินบ่อยๆ นั่นแหละ ผมไม่ได้เลี้ยงเป็นกิจจะลักษณะหรอก"
"ผมชอบแมวตัวนี้ครับ" คุณเกนประกาศ "ถ้าลุงไม่ได้เลี้ยงอยู่แล้วละก็ ผมขอเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านนะ"
เขาเดินเข้ามาใกล้ ก้มลงบอกกับผมว่า "ไปอยู่ด้วยกันนะเสือ ไปด้วยกัน"
ผมเงยหน้ามองเขา รับรู้ว่าผมเชื่อใจเขาได้ ก็เลยร้องเมี้ยวตอบกลับไปเบาๆ และไม่ขืนตัวสักนิดเมื่อเขาก้มลงอุ้ม
คุณเกนคุ้ยๆ กระเป๋าตัวเองได้ผ้าขนหนูผืนย่อมมาปูที่นั่งข้างคนขับ
“ผืนนี้เคยใช้ตอนไปยิม แต่ไม่เป็นไรยกให้”
เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บอกให้ผมอย่าเดินซนมากเดี๋ยวจะกลับไม่ถึงบ้านทั้งคนทั้งแมว พอถอยรถพ้นสถานทูตได้ก็ต่อโทรศัพท์
ผมได้ยินเสียงจากปลายสายสะท้อนออกมาด้วย อาจจะเป็นคนที่บ้านคุณเกนก็ได้
“ครับ”
“พี่ป๊อบ!” เขาเรียกอย่างตื่นเต้น “เกนมีอะไรจะเซอร์ไพรส์ พี่ป๊อบถึงบ้านยัง”
“พี่เปิดประตูปุ๊บเกนก็โทรมาเลย”
“ดี อย่าออกไปไหนนะ”
“พี่จะไปไหนล่ะ ปกติมีแต่เกนแหละที่ติดเลี้ยงโน่นนี่” หางเสียงเขาระแวงชอบกล “นี่เกนคิดจะทำอะไรแปลกๆ หรือเปล่า”
“ไม่มี้” คุณเกนก็เสียงสูง เขาเหลือบมองผมที่โดดจากเบาะลงไปสำรวจผ้ายางข้างล่าง “จุ๊ๆ เสือ!”
“เสือ?” คราวนี้ผมว่าเสียงพี่ป๊อบเริ่มตระหนก “ทำไมมีเสืออยู่ในรถเกน”
“เอาน่า ถึงบ้านก็รู้เอง” คุณเกนตัดบทฉับ “เดี๋ยวเจอกันนะพี่ป๊อบ”
ไม่นานเขาก็จอดรถที่หน้าบ้านสองชั้นขนาดไม่ใหญ่นัก ผู้ชายคนหนึ่งยืนชะเง้อชะแง้คอยอยู่ก่อนแล้ว ท่าทางเป็นห่วงไม่เบา คงเป็นคนที่คุณเกนเรียกว่าพี่ป๊อบนั่นแหละ
คุณเกนลงจากรถไปก่อน ตรงเข้าลากแขนพี่ป๊อบไปอีกฝั่งหนึ่งของรถ
“แต่น แตน แต๊น!”
เขาเปิดประตูรถแล้วอุ้มผมออกมา พี่ป๊อบชะงักนิดหนึ่งก่อนจะส่ายหัว
“นี่ไงเสือ ตกใจเปล่า”
“ถ้าเทียบกับที่เกนเคยทำๆ มาละก็ แค่นี้เรื่องเล็ก” พี่ป๊อบบอก ก่อนจะสงสัยว่าอยู่ๆ เอาแมวกลับบ้านแบบนี้ไม่รู้ได้ฉีดวัคซีนอะไรบ้างหรือยัง
“พี่ป๊อบก็พาไปหาหมอหน่อยสิพรุ่งนี้ วันเสาร์แล้วนี่นา”
ผมเริ่มดิ้น ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าวัคซีนคืออะไร แต่สังหรณ์ว่ามันคงจะไม่ค่อยดี
“เกนปล่อยก่อนเดี๋ยวข่วน เข้าบ้านไปล้างไม้ล้างมือซะทางนี้พี่จัดการให้”
ถึงจะแปลกใจที่อยู่ๆ คุณเกนก็มีแมวกลับบ้านมาด้วยจากที่ทำงาน แต่พี่ป๊อบก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับเช็ดเนื้อเช็ดตัวเอาข้าวให้กิน
และเพราะพี่ป๊อบคงรักคุณเกนมาก อะไรที่คุณเกนรักเขาก็รักด้วย ผมเลยได้เป็นแมวมีบ้าน และมีคนสองคนที่รักผม
ชีวิตดูจะดีไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะ
ทั้งบ้านเขาก็อยู่กันสองคนเท่านี้ ไม่มีคนมาช่วยงานอย่างอื่น ผมได้รู้ในเวลาต่อมาว่า จริงๆ แล้วมีพี่ป๊อบก็เหมือนมีพ่อบ้าน ช่างสารพัด และคนสวนพร้อมเสร็จสรรพ คุณเกนแทบไม่ต้องกระดิกนิ้วทำอะไรเลย พี่ป๊อบช่างบริการที่สุด
วันหนึ่งคุณเกนมีเพื่อนมากินข้าว ได้ยินว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียน ทุกครั้งที่มีเพื่อนมาบ้านพี่ป๊อบก็เป็นคนทำกับข้าว คุณเกนดูออกจะภูมิใจที่แฟนมีเสน่ห์ปลายจวัก พี่ป๊อบไม่ค่อยอยู่กินด้วย ชอบทำไว้ให้แล้วออกไป ปล่อยคุณเกนคุยกับเพื่อนเต็มที่
เขานั่งกินกันที่นอกชาน ผมก็หมอบอยู่แถวนั้นเงียบๆ แต่พูดก็พูดเถอะ ผมอยากให้พี่ป๊อบอยู่ด้วยเสียจริง จะรู้ไหมเนี่ยว่าออกจากบ้านทีไรวงสนทนาชอบวกมาเรื่องตัวเอง มันเริ่มอย่างนี้
“ฉันไปฟิตเนสมานะแก ฮู้ย เจอคนหนึ่งหล่อมาก...” คนพูดเป็นผู้หญิง จีบปากจีบคอซะ “อยากให้แกไปดูด้วยจริงๆ นะเกน ถ้ากลุ่มเป้าหมายเขาไม่ใช่อย่างฉัน จะได้ยกให้แกไป”
“เราออกจากวงการแล้ว” คุณเกนบอกพลางหัวเราะ
“จะว่าไป คนที่ทำให้เกนเลิกกับกิ๊กทั้งหลายได้แล้วมาคบคนเดียวนี่ มันต้องมีอะไรดีน่ะ”
“ก็ดีสิ ดีมาก” คุณเกนตอบสั้นๆ เหมือนเคย
"แต่เราว่าพี่ป๊อบจืดออก" เพื่อนคนหนึ่งวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจ
คุณเกนก็ไม่แก้เสียด้วย ได้แต่นั่งยิ้มๆ จนเพื่อนคนนั้นต้องพูดเสริมเสียเอง
"เราไม่ได้ตั้งใจว่าพี่ป๊อบนะ แค่รู้สึกว่าคนอย่างเกน... ไม่น่าจะอยู่กับคนอย่างพี่ป๊อบเท่านั้นเอง"
นี่มันดีขึ้นตรงไหนเนี่ย ผมนั่งหูลู่อย่างไม่สบอารมณ์
"แล้วเราควรจะอยู่กับคนอย่างไหนล่ะ" คุณเกนว่า "เผ็ดเปรี้ยว หวานหรือเค็มดี"
คนอื่นๆ หัวเราะกัน อีกคนบอกว่า "ก็ปกติเห็นชอบให้ชีวิตมีสีสัน มีรสชาติ"
"เผ็ดเปรี้ยวกินตอนแรกอาจจะอร่อย แต่เดี๋ยวก็แสบท้อง... หวานเกินก็เลี่ยน เค็มเกินก็ไม่ดีอีก" คุณเกนพูดเสียงจริงจัง "รสไม่จัดมากน่ะดีแล้ว กินได้เรื่อยๆ นานๆ"
ชีวิตของคุณเกนข้างนอก หน้าที่การงานของเขาคงหนักแล้วก็เครียดพออยู่แล้ว กลับบ้านเขาคงอยากได้ความสงบ... ซึ่งก็มีอยู่ในตัวพี่ป๊อบ (กับแมวอย่างผม)
เพราะฉะนั้น ถึงคุณเกนกับพี่ป๊อบจะดูแตกต่างกัน แต่ก็อยู่ด้วยกันได้อย่างราบรื่นดี พี่ป๊อบใจเย็นเป็นน้ำ ส่วนคุณเกนก็ไม่ขยันหาเรื่อง จริงอยู่เขาเพื่อนเยอะ สังคมจัด แต่ก็ไม่เคยให้มันมากระทบกระเทือนกล้ำกรายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ป๊อบ
จนกระทั่ง...
เย็นวันจันทร์คุณเกนกลับบ้านมาหน้าตายิ้มย่องผ่องใสจนพี่ป๊อบต้องถาม
“วันนี้มีเรื่องอะไรดีหรือเกน”
“นักการทูตเพิ่งมาประจำใหม่ พี่ป๊อบก็รู้ปกติเกนต้องทำงานแต่กับคนแก่ๆ แล้วก็เรื่องมากเป็นที่สุด แต่คนนี้ยังหนุ่มอยู่แถมน่ารัก นิสัยดี” คุณเกนเล่าจ้อ “เป็นลูกครึ่งไทยด้วย พูดไทยได้นิดหน่อย ให้เกนสอนให้อีก”
“เหรอ ชื่ออะไรล่ะ” พี่ป๊อบก็ถามเรื่อยๆ ผมว่าเขาคงชินเพราะคุณเกนทำงานที่ต้องเจอคนมาก กลับมาก็มักจะเล่าโน่นเล่านี่ให้ฟังบ่อยๆ ไม่เหมือนพี่ป๊อบที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ วันๆ อยู่แต่ในแล็บ (นี่ผมก็ฟังจากเพื่อนคุณเกนพูดนั่นแหละ)
“แอรอน เกนตั้งให้ใหม่ว่าอรุณ เขาชอบใหญ่ ฮ่าๆ”
“แจนเจอรึยัง”
ในจำนวนเพื่อนของคุณเกน ผมชอบแจนที่สุด แจนทำงานที่เดียวกับคุณเกน ท่าทางใจดี ถ้าพูดถึงพี่ป๊อบก็มีแต่ในทางชื่นชมทั้งนั้น แล้วแจนก็ชอบลูบหัวเกาคางผมด้วย
“วันที่เขามาวันแรกแจนลากิจซะนี่ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เจอ”
หลังจากวันนั้นคุณเกนก็มีเรื่องของนายแอรอนกลับมาเล่าให้พี่ป๊อบฟังทุกวัน ผมก็เลยได้รู้ว่าเขาจบมหาวิทยาลัยดังจากอเมริกา บ้านรวย แต่ไม่ได้ติดหรู พาไปกินอะไรแถวข้างถนนก็นั่งได้ ทำงานเก่ง เก่งมากด้วย...
“วันนี้เลย เจ้าหน้าที่ทูตฝ่ายการเมืองคนหนึ่ง ที่เกนเคยเล่าให้พี่ป๊อบฟังว่าเป็นฝรั่งยะโสมาก จะเอาข่าวย้อนหลังไปตั้งปี วันที่อะไรก็ไม่รู้ทั้งสิ้น ให้เกนสรุปมาให้ได้เอาเดี๋ยวนั้น พอดีแอรอนได้ยิน ฮีจำได้หมดว่าเดือนไหน สื่ออะไร ทุ่นเวลาไปได้เยอะ เกนเลยทำทัน” คุณเกนว่า “แถมยังช่วยแนะนำตรงวิเคราะห์ข่าวให้ด้วย”
พี่ป๊อบยิ้ม บอกว่าดีแล้ว ก่อนจะบอกว่าวันนี้ทำของโปรดไว้ให้ทาน
ผมเดินตามเขาสองคนเข้าครัว ดูคุณเกนออกจะชื่นชมแอรอนอยู่ไม่น้อย คุณเกนก็เป็นคนทำงานเก่ง ไม่แปลกที่จะชอบคนเก่งเหมือนๆ กัน
เพียงแต่แอรอนเป็นคนแรกที่ผมเห็นคุณเกนชื่นชมออกนอกหน้าขนาดนี้เท่านั้นเอง++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ต่อตอนต่อไปพรุ่งนี้นะคะ 