[รวมเรื่องไม่ยาว] สมาคมขนสั้น เรื่องที่ 4 (ตอนจบ) 27 ต.ค. 54 หน้า 4
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [รวมเรื่องไม่ยาว] สมาคมขนสั้น เรื่องที่ 4 (ตอนจบ) 27 ต.ค. 54 หน้า 4  (อ่าน 69567 ครั้ง)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สามเรื่องรวดเลย น่ารักทุกเรื่องเลย ^^

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โอ๊ยยย....เขินนนนนนน ๕๕๕๕

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
 :o8:
เป็นคู่ที่น่ารักมาก

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านแล้วซาบซึ้งใจ
คุณหมอน่ารักเกินจะห้ามใจ

ส่วนหมอกรักหมดใจเลย

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
มีเขียนเพลงยาวให้กันด้วย น่ารักอ่ะ  :-[ :-[

รอตอนที่ 4 นะค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่องก็คิดๆ เอ..จะเป็นไงหว่า แต่พอเริ่มอ่านตั้งแต่เรื่องแรก....ยิ้มตลอด จนจบเรื่องที่ 3 อ่านจบก็ยังยิ้มอยู่ เฮ่อ...ชอบจัง ชอบการดำเนินเรื่องโดยผ่านการบอกเล่าของน้องเหมียว ชอบความละมุนละมัยของตัวละคร ชอบบรรยากาศอุ่นๆที่มันลอยอยู่ตลอดเวลาในขณะที่อ่าน และที่สำคัญ ชอบที่มันไม่มีดราม่า ชีวิตจริงเราเครียดมามากแล้วอย่าต้องให้มาเครียดกับการอ่านนิยายอีกเล้ย เขียนเรื่องต่อๆไปมาอีกนะคะจะรออ่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อยากได้หมดประจำตัวแบบนี้บ้างจังเลย

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ชอบทุกเรื่อง และชอบน้องเหมียวทุกตัวเลยค่ะ
อินเรื่องที่ 3 มากสุด อาจเป็นเพราะยาวกว่าทุกตอน
ทำให้มีรายละเอียดของเรื่อง และตัวละครมากกว่าตอนอื่น ๆ
ชอบมากค่ะ ซึ้ง ๆ ออกแนวอบอุ่นทุกเรื่องเลย
ขอให้มีตอนต่อ ๆ ไปออกมาอีกเรื่อย ๆ นะค๊ะ
 :L2:

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วนึกอยากเลี้ยงแมวบ้างแล้วสิคะ ทั้ง 3 ตัวน่ารักมาก แสนรู้จริง ๆ เรื่องเล่าในมุมมองของแมว เพิ่งเคยได้อ่านค่ะ เมื่อก่อนเคยอ่าน "นิกกับพิม" หนังสืออ่านนอกเวลา แล้วชอบมาก การดำเนินเรื่องโดยใช้สัตว์เลี้ยงเป็นตัวดำเนินเรื่อง ทำให้น่าสนใจและน่าติดตาม ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ จากมุมมองของ "แมว" ได้อยากดีเยี่ยม

แต่ทุกเรื่องที่อ่าน เราเกือบจะเสียน้ำตาให้กับคุณอานนท์มากที่สุด ดีแล้วล่ะค่ะที่คุณอานนท์คู่กับว่าที่คุณหมอ (ที่สีหมอกบรรยายว่านิสัยเหมือนน้องหมาในบางครั้ง)

จะติดตามอ่านเรื่องต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
 :mc4: จบแบบนี้ดีมากๆเลยอานนท์ก็มีคนมาดูแลแล้ว  หมอกคนกับหมอกแมวน่ารักสุดยอดเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
คุณ JkrR อุ๊ยโดนจิ้ม 555 คนเขียนก็สงสารอานนท์เหมือนกันเน้อ ยังจะตายตอนจบอีกไม่ไหวล่ะ ขอบคุณสำหรับเป็ดและบวกนะคะ ตอนนี้เค้าก็แทบมาต่อวันเว้นวันอยู่แล้วนะเนี่ย อิอิ

คุณ pattybluet ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า ดีใจที่ชอบ

คุณ Cherry Red หมอกต้องพยายามเยอะหน่อย อานนท์ชอบปิดตัวเอง เอิ๊ก

คุณ anajulia แมวหัวใจกวี จริงๆ ด้วย เพลงยาวย่อเคลือบกันน้ำ ใส่เป๋าตังค์ ส่วนตัวจริงขึ้นหิ้งบูชา 555

คุณ DasHimmel พยายามให้แต่ละเรื่องไม่เหมือนกันน่ะค่ะ พวกแมวๆ (นอกจากในเรื่องก็ได้) แต่ละตัวก็ไม่เหมือนกันด้วยอยู่แล้ว นิสัยพี่ป๊อบควรเคะมากกว่าใช่มั้ยสรุป แต่เกนเค้าแค่เคยลัลล้ามาก่อนเท่านั้นเอง 55

คุณ jeaby@_@ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ รักแมวเหมือนกันนน

คุณ berlyn ใช่แล้วค่า พยายามสื่ออย่างนั้นเหมือนกันนะ

คุณ seaz ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า

คุณ bulldog17 นิดนึง นิดนึง ><

คุณ golove2 ขอบคุณนะค้า

คุณ fuku เหมาสองหมอกเลยนะ 55

คุณ lidelia เพราะว่าก่อนหน้านี้อานนท์ไม่ได้เขียนพวกกลอนมานานเนื่องจากขายไม่ออก 55 เลยต้องอาศัยแรงบันดาลใจเยอะหน่อยค่า

คุณ Piaanie ขอบคุณนะคะ ดีใจที่อ่านแล้วยิ้ม ตัวละครในซีรีย์นี้แต่ละคนก็ไม่ค่อยชอบดราม่าเหมือนกัน 55

คุณ TONG เนอะๆ บ้านใกล้กันอีกต่างหาก

คุณ winndy ขอบคุณที่ชอบค่า เรื่องที่สามมีปมเลยต้องย้อนอดีตกันหน่อย ตั้งใจให้สองเรื่องแรกเบาๆ ไปก่อน อิอิ

คุณ dawnthesky ลองเลี้ยงดูค่ะ แมวแต่ละตัวนิสัยไม่เหมือนกันจริงๆ นะเออ คนเขียนชอบนิกกับพิมมากเหมือนกันค่ะ เขียนโดยใช้จดหมายเป็นสื่อด้วยน่ารักเนอะ

คุณ sukie_moo ขอบคุณค่า กลายเป็นครอบครัวสมบูรณ์ เอิ๊ก 

เรื่องสุดท้ายอ่านกันชิลๆ ส่งท้ายซีรีย์ชุดนี้ละกันนะจ๊ะ  :L2:



ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
เรื่องที่ 4

เวลาคุณอยากเรียกแมวให้มาหา คุณทำยังไงกันครับ

"เมี้ยวๆๆๆ... มานี่เร้วแมวเหมียว" หรืออะไรอย่างอื่น
 
แต่สำหรับผมน่ะ...

"อิเต็ง! กินข้าว!"
 
ผมเดินช้าๆ อยู่บนกำแพงรั้วหลังบ้านตรงมายังส่วนครัว คนที่เท้าเอวยืนเรียกปาวๆ มองอย่างหมั่นไส้

"นวยนาดอยู่นั่นแหละ ไม่ต้องกินซะเลยดีมั้ยฮึ!"

ผมทำหูทวนลม (ทวนลมจริงๆ หูลู่ไปข้างหลังเลย) เร่งได้เร่งไป ไม่ใช่หมานี่จะได้วิ่งพรวดพราดหางชี้เข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก เขาไม่กล้าให้ผมอดหรอกผมรู้ ไม่อย่างนั้นโดนแฟนบ่นแน่ๆ

"ชิวเกินนะเอ็ง" เขาว่า "กินซะให้เสร็จ คนอื่นเขามีงานมีการต้องทำ"

ผมโดดจากกำแพงลงกันสาดอย่างสวยงาม ก่อนจะต่อไปยังม้านั่งแถวหลังบ้านแล้วค่อยลงพื้น คนทำหน้าที่ให้ข้าวยังคงบ่นอยู่อย่างต่อเนื่อง แรงดีไม่มีตก

“ท่ามากจริงๆ ไม่ได้อยากจะดูยิมนาสติกลีลาตั้งแต่เช้านะ”

ผมมองค้อน ก่อนจะหันไปสนใจข้าวคลุกปลาทู

“เฮีย เฮีย!”

เริ่มวันใหม่แต่เช้า ก็เท่ากับว่า... ต้องมีเสียงหนวกหูแต่เช้าด้วย ผมกวัดไกวหางไปมา แมวน่ะไม่ค่อยชอบเสียงอึกทึกหรอก แต่เพราะเป็นเสียงของคนที่คุ้นกันแล้วก็เลยพอรับได้

แค่พอรับได้หรอกนะ

“อะไรวะเจ็ง!” ตาคนให้ข้าวนี่ก็แปดหลอดกลับไปพอกัน ได้ยินถึงท้ายซอยแล้วมั้ง “หนวกหูเว้ย! ตะโกนอยู่ได้”

ผมเหลือบมองเขาด้วยหางตา ได้ข่าวคนพูดน่ะตัวดีเลย

“พี่อิ๊กบอกให้เฮียเช็คอุปกรณ์แล้วไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้! ช่างกล้องวีดิโอเขาคิดรายชั่วโมง เดี๋ยวสายต้องจ่ายเพิ่ม”

“เว้ย! ก็ให้ข้าวอิเต็งอยู่เนี่ย ได้ข่าวคุณอิ๊กเป็นคนสั่งเอง” หางเสียงออกแนวประชดประชันหน่อยๆ “ออกไปทั้งวันแมวอด ว่าเราอีก”

“ถ้าไม่ตื่นสายแต่แรกตัวเต็งได้กินข้าวไปนานแล้ว และนูก็จะมีเวลาไปเช็คของด้วย”
 
อิ๊กมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พูดเสียงเย็นอยู่หลังตานู

“เมื่อคืนเค้าก็เตรียมงานถึงดึกเลยน่ะ” ผู้ชายตัวโตทำเสียงอ้อนนี่มัน... ไม่ค่อยเวิร์กนะผมว่า

อิ๊กไม่สนใจ เขายิ้มให้ผมแล้วบอก “ตัวเต็งอยู่บ้านคนเดียวนะ แต่เย็นๆ พวกเราก็กลับแล้ว”

“อิ๊กอะ ชอบพูดเหมือนแมวมันฟังรู้เรื่องงั้นแหละ”

“ก็ดีกว่าพูดกับคนแล้วไม่รู้เรื่อง”

“ไปแล้ว ไปแล้วจ้า” อีกฝ่ายก็แจ้นตามไปในทันที
 
 นี่... อย่างตานูน่ะมันต้องอิ๊กเท่านั้น!


ผมเจอทั้งสองคนครั้งแรกเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเบื่อๆ อยู่พอดี ไม่มีที่กินข้าวประจำ เคยคิดจะผูกปิ่นโตกับบ้านฝรั่งสุดซอย กำลังดูใจอยู่ยังไม่ตกลงคบกัน เอ้ย ตกลงว่าจะเป็นแมวบ้านนั้น ก็พอดีตาฝรั่งใจร้อนหาหมามาเลี้ยงเสียก่อน

เขาก็พยายามจะให้ผมญาติดีกับหมาเขาอยู่หรอกนะ แต่ผมไม่เห็นความจำเป็น

ผมเป็นแมวไม่เรื่องมาก มีกฎสามข้อเท่านั้นเองในการอยู่ประจำบ้าน

ข้อหนึ่ง ต้องไม่มีหมา ผมไม่ได้โตมากับหมา ดังนั้นจึงไม่มีความพยายามพอจะอยู่ร่วมกับเจ้าพวกนี้

ข้อสอง ต้องไม่มีเด็ก แมวตัวไหนเข้ากับเด็กได้ดีก็ขออนุโมทนาด้วย แต่บางทีพวกเด็กนี้ก็พลังเหลือเฟือเกิน รับมือไม่ถูก

ข้อสาม ยังนึกไม่ออก เผื่อไว้ก่อน

ผมกำลังนอนหมอบอยู่บนกำแพงอย่างสบายอารมณ์ตอนที่ผู้ชายสองคนช่วยกันหอบแผ่นป้ายอันเบ้อเร่อออกจากตรงลานบ้านมาติดที่รั้วข้างหน้า คนหนึ่งถอยหลังมาดูไม่ให้มันเบี้ยว ก่อนที่อีกคนจะตามมาสมทบ สองคนยืนมองป้ายด้วยสีหน้าภูมิใจ
 
“อิน โปรดัคชั่นเฮาส์” คนตัวสูงกว่าอ่าน

“บริษัทของเรา” คนยืนเคียงกันอยู่ยิ้ม “ขอให้เฮงๆ”

“จะไม่เฮงได้ยังไง คุณโปรดิวเซอร์เก็บทุกเม็ดไม่ให้กระเด็น ป้ายทำมือ บ้านก็ทาสีกันเอง”

“เอาน่ะ เพิ่งเริ่มต้นแถมเงินทุนไม่ค่อยหนา อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด” ‘คุณโปรดิวเซอร์’ ตอบ “พรุ่งนี้นูบอกเจ็งนิมนต์พระหน่อยนะ ฤกษ์สะดวกก็ได้สักวันอาทิตย์ที่จะถึงนี่แหละ นิมนต์ท่านมาสวดแล้วก็เจิมป้าย จะได้เปิดบริษัทด้วยความเป็นสิริมงคล”

“ได้คร้าบ” อีกฝ่ายลากเสียงยาว ยังยืนมองป้ายด้วยความภาคภูมิใจ พูดต่อโดยไม่รู้ว่าคู่สนทนาเห็นแมวหล่อเข้าเลยเดินมาชื่นชมที่ริมกำแพงบ้านแล้ว “ไม่น่าเชื่อนะ ว่าเราจะฝ่าฟันกันมาจนมีวันนี้ได้ ทั้งเรื่องบริษัท แล้วก็เรื่อง...”

เขาหันหาแต่ไม่พบ เลยเดินตามมาข้างกำแพง “โธ่อิ๊ก จะทำซึ้งด้วยซะหน่อยมาดูแมวเสียนี่”

"ขนดำแต่หน้าท้องขาว ใส่ถุงเท้าขาวด้วยครบสี่ข้างเลย น่ารัก" อิ๊กชม ก่อนจะหันไปหาคนข้างๆ "ว่ามั้ยนู"

"แมวดำเขาว่าโชคร้ายนะ" คนชื่อนูตอบกลับมา

พูดงี้ได้ไง! ใครเจอแมวหน้าตาดีอย่างผมก็ต้องถือว่าโชคดีถึงจะถูก พูดจาแมวไม่รับประทานจริงๆ!

"มองตาเขียวเลย" ฝ่ายที่ชมว่าน่ารักหัวเราะ

"ก็มันตาสีเขียวนี่ จะให้มันมองตาเหลือง ตาฟ้าเหรอ"

"คงเป็นแมวแถวนี้ เจ้าถิ่นละมัง" อิ๊กหันมาสนใจผมต่อ คงชินเสียแล้วกับมุขแป้กๆ ของคนยืนข้าง "มีเจ้าของรึเปล่า ไม่มีมากินข้าวบ้านนี้ได้นะ"

"อย่าไปชวนมันสุ่มสี่สุ่มห้า" นูดุ "เดี๋ยวพาพวกมาเป็นโขยง"

ใครช่วยตบปากอีตานูที แมวไม่ได้เห็นแก่กินตลอดนะ แต่ที่ทำให้ผมเจ็บใจคือประโยคถัดมา

"เออ! แต่พูดไปมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก"

ผมเชิดหน้าใส่แล้วโดดตุบลงจากกำแพงไปเขตบ้านข้างๆ

เชอะ อิ๊กกล้าชวนผมก็กล้ามาแหละ


วันรุ่งขึ้นผมเลียบกำแพงมาแต่เช้า บ้านนี้เขาตื่นเช้ากันจริงด้วย อิ๊กเห็นผมจากหน้าต่างก็ดีใจ รีบออกจากบ้านมาหาอะไรให้กิน
 
เขายืนมองผมกินข้าว ยังยิ้มอยู่ในหน้า ก็พอดีเสียงโหวกเหวกโวยวายในบ้านดังขึ้นจนต้องหันมองทั้งคนทั้งแมว
 
“ไอ้เจ็ง! เบลออีกแล้ว! เพิ่งบอกว่าตรงนาทีเนี้ยให้ตัด ให้ตัด! ปล่อยเลยไปหาพระแสงด้ามยาวอะไรวะ!”

อิ๊กรีบเข้าบ้าน ผมได้ยินเสียงเขาแว่วๆ “ใจเย็น ไม่ได้นอนกันมาทั้งคืน งีบหน่อยมั้ย หรือเจ็งจะเอากาแฟ เดี๋ยวชงให้”

ก่อนเสียงตานูจะลั่นออกมา “กาแฟใส่กระทิงแดงเลยเหอะ!”

แล้วผมก็นึกกฎข้อสามออก

... ต้องไม่เสียงดัง...

แต่ท่าทางจะสายไปแล้วมั้ง

เพราะวันต่อมาผมก็กลับมาอีก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน บางทีที่เห็นว่าตื่นกันเช้านั้นไม่ใช่ เป็นว่าไม่ได้นอนเลยต่างหาก แต่บางครั้งเขาก็เริ่มงานกันเช้าจริงๆ

อิ๊กตั้งชื่อให้ผมอย่างไพเราะเพราะพริ้งว่าตัวเต็ง แต่ไหงแฟนเขามาเรียกซะตัดสั้นแถมเพิ่มคำนำหน้าให้โดยพลการอย่างนี้ก็ไม่รู้
 
พอมาอยู่เข้าจริงบ้านอิ๊กกับนูก็ไม่ได้เสียงดังตลอดเวลาหรอก อย่างวันนี้พอเขาออกไปทำงานกันหมดบ้านก็เงียบ อิ๊กเรียกการออกไปทำงานนอกบ้านว่า “ออกกอง”

ระยะหลังทำไปทำมา คนที่เรียกผมกินข้าวทุกวันๆ กลับเป็นอีตานู มันเริ่มแบบนี้

“นูให้ข้าวตัวเต็งด้วย”

ผมก็อยู่แถวนั้นแหละ แถวๆ หลังคาบ้านเขาน่ะ ได้ยินเสียงคุยกัน แต่คนในบ้านไม่เห็นตัวผมหรอก

"แมวอิ๊กมั้ย" ตานูตอบอย่างทองไม่รู้ร้อน

"ตัวเต็งเป็นแมวบริษัท" อิ๊กยืนยัน "มาสคอตน่ะมาสคอต”

“ใครตั้ง”

“โปรดิวเซอร์ตั้ง มีปัญหาเหรอ” เสียงอีกฝ่ายชักมีน้ำโห “เร็วๆ จะออกจากบ้านแล้ว”

“ไปไหนเช้าขนาดนี้”

"ก็ไปรับสตอรี่บอร์ดที่ลูกค้าโอเคแล้วจากเอเจนซี่ให้คุณผู้กำกับมาทำงานต่อนี่ไงครับ" อิ๊กลงเสียงหนักท้ายประโยค “ยังต้องคุยเรื่องงบอีกหน่อยด้วย”

“อิ๊กอ่า ไปเลี้ยงมันทำไมก็ไม่รู้ ทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง เฝ้าบ้านยังไม่ได้เลย”

... ตานูนี่ พูดจาให้ ‘รมณ์เสียแต่เช้า
 
"เอาข้าวให้แมว" อิ๊กตัดบท "แล้วตัวเองก็ไปเช็คเทปเมื่อวานกับพวกเจ็ง ตัดต่อซะให้เสร็จ พรุ่งนี้อย่างช้าควรจะได้ใส่กราฟิคนะตามตารางน่ะ"

ลงโปรดิวเซอร์สั่งแบบนี้ตานูจะทำอะไรได้นอกจากงัวเงียลงมาทำตาม อิ๊กออกรถไปนานโขผมก็เพิ่งจะได้กินข้าว เพราะคนทำมัวแต่จะยืนหลับอยู่นั่นแหละ

“ไอ้เจ็ง! ทำงานต่อเว้ย!” แหกปากเรียกลูกน้องเสร็จตานูก็แกล้งเดินเฉียดผมที่กำลังเลียหน้าเลียตัวอยู่ “แต่งตัวไปไหนหือ”

หึหึ แมวต้องดูดีอยู่เสมอ ไม่รู้เหรอ

จากที่ผมดูๆ (เนื่องจากอิ๊กเรียกผมว่า 'แมวบริษัท' และ 'มาสคอต' ผมจึงควรรู้อะไรบ้าง) เจ็งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับที่พ่วงหน้าที่ตัดต่อเข้าไปด้วย บางทีถ้างานเยอะและเร่ง เจ็งก็เอาเพื่อนสมัยเรียนมาช่วยเป็นคราวๆ ไป ความที่ทั้งหมดเป็นรุ่นน้องคณะของตานูมาก่อน เลยเรียกง่ายใช้คล่อง

บริษัทนี้มีพนักงานคนสุดท้ายเป็นผู้หญิงชื่อแป้ง ทำหน้าที่ประสานงานทั่วไป ประสานทุกอย่าง ตั้งแต่กองถ่ายยันลูกค้า นอกนั้นอิ๊กก็หาฟรีแลนซ์เอาบ้าง เป็นบริษัทเล็กแต่ละคนเลยทำหลายอย่าง ได้ยินอิ๊กเปรยๆ อยู่หลายทีว่าถ้ามีโอกาสได้ขยายงานกว่านี้อาจจะต้องหาทีมประจำมาเพิ่มเสียที

ไม่ทันไรเจ็งก็โวยวาย "เฮียๆๆๆ ดูนี่ๆ"

พอดีแป้งวิ่งเข้าบ้านมา ร้องลั่น (จริงๆ นะ ทั้งบ้านนี้อิ๊กไม่ตะโกนอยู่คนเดียว)

"พี่นู! แป้งถูกหวย! ซื้อกับเจ็งเมื่อวาน ตัวเต็งมันให้โชคจริงๆ นะนี่ พี่นูรู้ไหม แมวพี่ใบ้หวยได้นะ"

ตานูหรี่ตามองผมอย่างไม่เชื่อ "ส่วนไหนของอิเต็งวะที่มีหวย เห็นวันๆ เอาแต่กิน เจ็งไปขูดตัวแมวมันเรอะ เจออิ๊กด่านี่ตัวใครตัวมันเลยนะ"

"พี่นูดูหลังตัวเต็งดิ ลายมันเหมือนเลขแปด" แป้งว่า "แต้มตรงกลางก็เหมือนเลขศูนย์เลย แป้งเลยแทงแปดศูนย์ แล้วเจ็งมันซื้อตาม ถูกเลขท้ายสองตัว โชคดีชะมัด"

"ไม่เห็นมันจะใบ้อะไร" ตานูก็อย่างนี้แหละ ขอให้ขวางโลกสักหน่อยเป็นดี "ตีความกันเอาเองทั้งนั้น"

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เฮีย" เจ็งว่าเสียงขึงขัง "ตั้งแต่พี่อิ๊กเลี้ยงตัวเต็ง งานเข้าบริษัทไม่ขาด ขนาดเฮียทะเลาะกับลูกค้ายังขายงานผ่านเลย"

"ไม่ได้ทะเลาะ เขาเรียกชี้แจง" ตานูว่า "แล้วที่มันผ่านก็เพราะงานดี ไม่ได้พึ่งบารมีอิมาสคอตนี่หรอกเว้ย”

เพราะตานูเลี้ยงหมาในปากนี่เองถึงได้ไม่ค่อยถูกชะตาแมวอย่างผม ชิ

ถึงเวลาอย่ามาขอพึ่ง ‘ตัวนำโชค’ นี่ก็ละกัน


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พบกับตอนต่อไปพรุ่งนี้นะคะ ขอบคุณทุกคนมากค่า  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2011 23:59:24 โดย เดหลี »

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ทำไมแมวที่บ้านเราไม่ให้โชคแบบตัวเต็งบ้าง


 :L2: :L2:


OTAKKIEZ

  • บุคคลทั่วไป
เราชอบแมวมากเลยนะ แต่ทั้งบ้านไม่มีใครชอบเลย

อ่านเรื่องชุดนี้ก็ทำให้ยิ้มได้เรื่อยๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ดีใจกับพี่อานนท์แล้วก็หมอกด้วย ดูแลพี่เขาดีๆๆ นะ

มาถึงตัวเต็งนี่สุดยอดอะ โดนใจจริงๆๆ อ่านไปขำไป ฮามากทั้งนูทั้งตัวเต็ง

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
"ตัวเต็ง" ชื่อน่ารักมาก ตอนเปิดเรื่องเรียก "อิเต็ง" แล้วฮามาก เพราะเราเรียนน้องชายเราอย่างเนี่ยเลย 55

อยากเลี้ยงแมวดำเท้าขาวแบบที่บรรยายมาก เสียแต่ว่าที่บ้านไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ก็เลยอดไป

เลี้่ยงไม่ได้ก็มาอ่านนิยายให้ชืนใจแทน ชอบมากจ๊ะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ตัวเต็ง (*___*)

ลายของตัวเต็งน่ารักจัง

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
เรื่องนี้ ตลกดีอะ  เรียกเค้าซะเสียเลย ชื่อเค้าออกจะน่ารักเรียกอีเต็ง หมดเลย  ห้าๆๆ  เเมวนำโชค

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
กำลังจะนอนพอดีเหลือบมาเห็น
เอาว่ะยังไม่เที่ยงคืน...อ่านซะหน่อย
ตัวเต็งน่ารัก หยิ่งได้ใจมากกก ๕๕๕๕๕
 :กอด1:กอดคนเขียนก่อนนอน(จะฝันร้ายมั้ยเนี่ย...ล้อเล่น!)

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
คุณ golove2 คนเขียนก็อยากจะให้แมวที่บ้านให้โชคบ้างเหมียนกัน

คุณ OTAKKIEZ ตอนแรกพ่อเราเฉยๆ กับแมวนะ รักหมามากกว่า แต่ตอนนี้รักแมวไปด้วยแล้ว 55 ของอย่างนี้อาจจะต้องได้คลุกคลีจริงๆ มังคะ แต่บางคนไม่ชอบก็คือไม่ชอบแหละนะ

คุณ dahlia ตัวเต็งเป็นแมวกวนสุดแล้วมั้ง เอิ๊ก เพราะไม่ได้ถูกเลี้ยงเป็นแมวบ้านมาตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวหรือเปล่าก็ไม่รู้ 55

คุณ TONG น้องชายชื่อเต็งเหรอคะเนี่ย ไม่ได้เลี้ยงไม่เป็นไรนะ มาอ่านนิยายต่อดีกว่า
 
คุณ fuku อิอิ ลายน่ารักตัวก็น่ารักด้วยนะ

คุณ konnarak เดี๋ยวคอยดูต่อไปว่าจะนำโชคจริงหรือเปล่า เหอๆ

คุณ bulldog17 ขอบคุณค่ะอุตส่าห์มาอ่านก่อนนอน ฝันดีมั้ยสรุป 55 ตัวเต็งหยิ่งจริง กร๊าก  :กอด1: ตอบ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องที่ 4 (ต่อ)

ผมเป็นแมวบ้านนี้มาได้ปีกว่าแล้ว เรียนรู้นิสัยของคนให้ข้าวได้สามอย่าง

ข้อหนึ่ง ตานูชอบเล่นมุขแป้ก (ถึงผมจะเป็นแมวแต่ผมก็รู้ว่าอะไรขำไม่ขำ) จริงๆ ผมก็รู้ข้อนี้ตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้วล่ะนะ แต่มันยังมีมากกว่านั้น

เช่น มีอยู่คราวหนึ่ง ตานูดูจะนึกครึ้มอะไรไม่ทราบ เที่ยวไล่ถามคนในออฟฟิศ (โอเค รวมตัวเองแล้วก็มีอยู่สี่คนถ้วน) ว่าความรักเหมือนอะไร

“ความรักเหมือน... ฝากเงินในธนาคาร ถ้าไม่ถอน ยิ่งนานก็ยิ่งได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
 
นี่จากแป้ง สาวน้อยหนึ่งเดียวในออฟฟิศ ไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นคนโรแมนติกนะเนี่ย

“รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ รักเหมือนโรคา... บันดาลตาให้มืดมน” จากเจ็ง ดูเพ้อๆ ก่อนจะกระตุกมาเป็นเจ็งคนเดิม “จริงๆ แล้วผมว่าความรักเหมือนแมวอะเฮีย ยิ่งเรียกหายิ่งไม่มา แต่บางทีพออยู่เฉยๆ ก็มาหาเราเองซะงั้น บังคับไม่ได้อีกต่างหาก”

กับอิ๊ก ตานูยังไม่ทันถามเขาก็ว่า
 
“ความรักเหมือนอะไรไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าความรักมีหน้าตาละก็... หน้าตามันคงเหมือนนูนี่แหละ”

โอ้โฮ อิ๊กหวานไม่แคร์สื่อ ผมเห็นแป้งกับเจ็งสบตากันแล้วอมยิ้ม

ตานูอึ้งไปพักถึงบอก “ขอบใจอิ๊ก ซึ้งมาก รักมากเหมือนกัน แต่เดี๋ยวมาซึ้งด้วยทีหลังนะ ตอนนี้ตาอิ๊กถามละว่าความรักเหมือนอะไร”

“ความรักเหมือนอะไร” เชื่ออิ๊กเลย ยอมเล่นไปกับแฟนด้วย

ตานูดูสนุกสนานมาก “ความรักก็เหมือนเก้าอี้”

อิ๊กที่ว่าอยู่กับความประหลาดของแฟนตัวเองจนชินยังถึงกับเหวอ “อะไรนะ”

“ก็ความรักคือการแบ่งปัน... เลิฟ อิส ทู แชร์ ไง”

พูดเสร็จก็เดินลอยชายเข้าครัวไป อิ๊กยังนั่งขำไม่หยุด อาจจะขำในความแป้กก็เป็นได้

“ไม่เก้าอี้สองตัวไปเลยล่ะ ทูแชร์”

เนี่ย ดูเอาเถอะ ความจริงเจ็งผู้ช่วยตานูก็เส้นตื้นแถมชอบเล่นมุขแป้กพอกัน ส่วนแป้งก็ดูเป็นผู้หญิงไฮเปอร์ ทั้งหมดบริษัทนี้ผมว่ามีอิ๊กที่ดูปกติสุด

... ยกเว้นการยอมขำไปกับมุขบ้าบอของแฟน


ข้อสอง ตานูเป็นคนขี้หึง... ประมาณหนึ่ง ซึ่งความจริงน่าจะไม่จำเป็น เพราะผมก็เห็นอิ๊กรักตานูออกจะตาย แต่ก็ขอให้ได้กะบึงกะบอนไว้สักหน่อยเป็นดี (ผมขอย้ำ ผู้ชายตัวโตทำท่าแสนงอน... ไม่เวิร์ก)

วันหนึ่งเขากลับกันมาจากไปทำงานข้างนอก เจ็งกับแป้งแยกไปแล้ว เหลือตานูเดินฟาดงวงฟาดงาเข้าบ้าน

“ทีหลังไม่แคสต์นักแสดงเองแล้วนะ”

“คราวนี้อะไรอีก”

“ก็ไอ้นายแบบคนนั้นมันมาอ่อยอิ๊กอะ” ตานูโวยวาย “มีไปยืนคุยกันอีก เห็นนะ ได้เบอร์กันรึยังล่ะ”

“เขาเข้ามาคุยดีๆ จะให้ทำไง เบอร์น่ะไม่ได้ให้ บอกว่าจะได้หรือไม่ได้งานก็อยู่ที่ผู้กำกับกับเทปที่ถ่ายไปให้ลูกค้าดูเป็นหลัก แล้วก็บอกว่ามีอะไรให้โทรเข้าบริษัท พอใจยัง”

“แล้วมันก็มีมาอีก” คนเป็นผู้กำกับกระฟัดกระเฟียด “กี่หนแล้ว หรือเอางี้ เวลาแคสต์คน อิ๊กไม่ต้องมา”

ข้อเสนอนี้ได้รับการสนองเป็นการตบกะโหลกจากอิ๊กหนึ่งที

“ประสาท ไม่มาคงถลุงเทปกันบานแน่ถ้าไม่มีคนคอยคุม สิ้นเปลืองสุดๆ อีกอย่างคนที่เห็นภาพรวมมีแค่โปรดิวเซอร์คนเดียว”

“จ้างคนมาแคสต์แทนก็ได้ นะนะ เราจะได้ไปทำอย่างอื่นกัน ไปดูโลเคชั่น ไปหาแรงบันดาลใจ ไป...”

“ไม่เอา ทำงานหลายรอบ ที่สำคัญ เปลือง ตังค์” อิ๊กตอบชัด “งานนี้สเกลมันยังไม่ใหญ่ถึงกับต้องจ้างแคสติ้งไดเร็คเตอร์กับเทคนิคมา นูกับเจ็งก็ทำกันได้ดีอยู่แล้วนี่”

“อิ๊ก ลองไม่คิดแบบโปรดิวเซอร์ แล้วคิดแบบเป็นแฟนผู้กำกับดูมั่งนะ ไม่รู้สึกไรเลยเหรอที่แฟนต้องเจอกับนายแบบหุ่นล่ำๆ หน้าตาดีๆ ทีหนึ่งเป็นสิบๆ คนเนี่ย”

“ก็มันเป็นงาน ถ้าผู้กำกับไม่คิดนอกเหนือจากงานแฟนผู้กำกับจะกลัวทำไมล่ะ”

แล้วมันก็จบลงด้วยการที่ตานูเถียงไม่ชนะอีกตามเคย แต่เรื่องของเรื่องก็คือตานูขี้หึงขี้หวงไปตามประสา กับผู้ชายก็หึง กับผู้หญิงก็หวง ถ้าเข้ามาใกล้อิ๊กสักหน่อยเป็นโดนส่งสายตาพิฆาต

ถ้าผู้กำกับเป็นคนแคสต์เอง ก็ควรจะตกเป็นเป้าการอ่อยมากกว่า แต่ที่ผ่านๆ มาดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะมีแต่อิ๊กที่โดน อันนี้ผมก็ไม่แปลกใจ เพราะตานูขยันทำหน้าโหดซะไม่มี


ข้อสาม ตานูเป็นคน... จะเรียกว่าอะไรล่ะ ปากร้ายใจดีละมัง   

เพราะฉะนั้นผมถึง (ทำใจให้) ไม่ถือเวลาตานูประพฤติตัวกวนโมโห

... ค่อยเอาคืนบ้าง... ทีหลัง

มีอยู่คราวที่เขางีบกลางวันเพราะโต้รุ่งกันมาสองคืนติด ผมอุตส่าห์ขึ้นไปนอนด้วย ตานูสะดุ้งตื่นมาโวยวายหาว่าถูกผีอำ มันน่า... ผมก็ไม่ได้ตัวหนักขนาดนั้นสักหน่อย

อีกคราว ผมนอนอยู่ดีๆ ตานูแกล้งเดินเฉียด (อีกแล้ว) ผมส่งเสียงไม่สบอารมณ์ ใครๆ ก็รู้ว่าการกวนแมวหลับถือเป็นบาปมาก ตานูดันบอกจะเช็คว่าผมตายไปแล้วหรือยัง เห็นนอนนิ่งไม่ไหวติง

หนอย ผมแค่หลับลึกหรอก

อย่าให้ถึงทีเราบ้างจะโดดทิ้งน้ำหนักลงบนพุงซะเลย โดนแมวอำของจริงเสียให้เข็ด

แต่ถึงจะก่นว่าผม พรรณนาถึงความไร้ประโยชน์และเอาแต่ใจที่สุดของแมวยังไง เขาก็ยังให้ข้าวผมทุกเช้าโดยไม่มีบกพร่อง แม้ว่าอิ๊กจะไม่ได้ออกจากบ้านเร็ว ตานูก็เป็นคนให้ข้าวผมอยู่ดี

“เขาจะได้นอนต่ออีกหน่อย” ตานูว่า

หลังๆ มานี่ถึงขั้นนั่งปรับทุกข์กับผมบ้าง ทั้งคุยทั้งถาม (ไหนใครเคยบอกแมวพูดอะไรก็ฟังไม่รู้เรื่องไงล่ะ)

วันนี้เรื่องเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ   

"อิเต็ง เป็นแมวนี่ดีมั้ย"

อยู่ๆ เขาก็ถามผมขึ้นมา ผมปรายตาค้อนไปทีหนึ่ง เรียกอิเต็ง อิเต็ง อยู่ได้ ผมเป็นผู้ชายนะเว้ยเฮ้ย อินู!

"ดีนะ" ถามเองตอบเองอีก "เป็นแมวน่ะไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน เป็นแมวไม่ต้องหาเงิน ไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องซื้ออะไร ดูสิ เสื้อผ้ายังไม่ต้องหาใส่เลย”

ตานูมาอารมณ์ไหนก็ไม่รู้ เขาถอนใจเฮือกๆ นั่งเท้าคางมองผมกินข้าวอยู่หลังบ้าน

“ถ้าเรารวยๆ มีเงินเป็นถุงเป็นถังก็คงดี บริษัทขาดทุนนิดหน่อยหรือหมุนเงินไม่ทัน เรื่องเล็ก แต่นี่...”

“นั่งบ่นอะไรกับแมว เหมือนตาแก่” อิ๊กเดินออกมาดูเราที่หลังบ้าน

“ถ้าแก่ก็แก่ด้วยกันทั้งคู่แหละ เป็นตาแก่สองคน” คนขี้บ่นเอื้อมดึงมืออีกฝ่ายให้ลงนั่งด้วยกัน กอดแขนเอาไว้แถมซบไหล่อีก

ผู้ชายตัวโตทำท่าอ้อน... ไม่เวิร์ก แต่มันคงเวิร์กสำหรับอิ๊กแหละมั้ง เพราะเขาใช้มือข้างที่ว่างจับแก้มคนเนียนซบไว้เบาๆ

“เป็นอะไร...”

“อิ๊กก็กลุ้มเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี งานไม่ค่อยเข้าบริษัทเลย” ตานูว่าเสียงอู้อี้ หันหน้าไปซุกไหล่อีกฝ่าย “พยายามแล้ว แต่... อยากทำให้ได้มากกว่านี้จัง”

“เอาน่ะ” อิ๊กว่า “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ตอนนี้ก็ไม่ถึงกับไม่มีงาน เงินเดือนก็ยังมีจ่ายเจ็งกับแป้ง อย่างอื่นอาจจะติดขัดไปหน่อย... หรือจะให้ไปยืมแม่ก่อน”

“แม่อุตส่าห์ยอมให้อิ๊กมาอยู่ด้วย ผ่านไปปีหนึ่งกลับไปขอเงินแม่เพราะทำบริษัทกันไม่รอด แม่อิ๊กคงคิด... ขอลูกเขามายังไงดูแลไม่ดี เสียเครดิตหมด”

อิ๊กหัวเราะแล้วเอื้อมมือไปขยี้ผมตานู “จะว่าไปด่านหินที่สุดก็ผ่านมาได้แล้วคือทำให้แม่ยอมรับในตัวนู จะมาถอดใจอะไรกันตอนนี้”

ผมกินข้าวไปแกว่งหางไป คิดถึงเรื่องที่เคยได้ยินเจ็งพูดกับแป้ง เจ็งคงเห็นว่าตานูไม่ได้ตั้งใจจะปิดเป็นความลับแต่ไหนแต่ไร พอแป้งถามเลยพรั่งพรูออกมาหมดเปลือก

“เฮียกับพี่อิ๊กเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน เรียนโรงเรียนเดียวกัน แล้วยังมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก เวลามีงานต้องส่ง แม้แต่ทำงานให้คณะหรือมหาวิทยาลัย เฮียก็ไปค้างบ้านพี่อิ๊ก ยังเคยพาเรากับรุ่นน้องที่สนิทๆ กันไปช่วยทำงานแล้วก็กินข้าว... เรียกว่าแม่พี่อิ๊กเห็นเฮียเป็นเหมือนลูกชายอีกคนหนึ่ง”

แป้งฟังตาไม่กระพริบ “แล้วเป็นไงมาไงเขาถึงลงเอยกันได้เนี่ย”

“เฮียมารู้ตอนรอรับปริญญาว่าพี่อิ๊กจะต้องแต่งงาน... ความที่แม่พี่อิ๊กเห็นเฮียเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของลูกชาย มีอะไรก็บอก คนนี้เป็นคู่ที่พ่อแม่ดูเอาไว้ให้ เฮียก็ดันเพิ่งรู้ใจตัวเอง... ตอนนั้นเฮียอยู่หอเดียวกับเรา พอดีเรากำลังจะกลับบ้านต่างจังหวัด ไปเคาะประตูถามว่าจะเอาอะไรมั้ย โทรไปไม่รับหลายวัน ปรากฎเจอเฮียเมาแประ ไม่ได้ล็อกห้องด้วยซ้ำ เราก็เค้นถามไปสุดท้ายก็เล่า...”

“โอ๊ย” แป้งร้อง “แล้ว... ตอนนั้นพี่อิ๊กไปอยู่ไหน”

“ในโทรศัพท์เฮียมีมิสคอลเป็นตับ มีจากพี่อิ๊กด้วยแต่เฮียไม่ได้รับสายใครเลย เฮียบอก... กลัวพี่อิ๊กเกลียดเฮีย รับไม่ได้ที่เป็นเพื่อนกันแต่มารู้สึกแบบนี้ เรายังว่า... แล้วเฮียจะยอมให้พี่อิ๊กแต่งงานไปจริงๆ เหรอ ถ้าเฮียปล่อยพี่อิ๊กไปโดยที่ไม่พยายามจะสู้เลย แสดงว่าบางทีเฮียอาจจะไม่ได้รักพี่อิ๊กมากสักเท่าไหร่... จริงๆ กลัวเฮียต่อยเอาเหมือนกัน แต่เฮียกลับขอบใจเราจะแล่นไปบ้านพี่อิ๊กเดี๋ยวนั้น เราบอกให้โทรไปก่อน เฮียอยู่ในสภาพนี้ใครเห็นเข้าก็ตกใจทั้งนั้นแหละ”


ผมจำได้ว่าตอนนั้นคิดว่าเจ็งสติดีแล้วก็รอบคอบไม่น้อย แม้ว่าปกติออกจะดูป่วงๆ ก็เหอะ

“เฮียโทรเข้ามือถือพี่อิ๊ก ไม่มีคนรับ... เลยโทรเข้าบ้าน แม่พี่อิ๊กบอกว่าไปบ้านคู่หมั้นที่ชลบุรี เฮียกำโทรศัพท์หน้าซีด แต่ยังอุตส่าห์ถามที่อยู่มาจนได้ บอกว่ามีธุระด่วน”

“กรี๊ด ชั้นลุ้น” แป้งว่า “เจ็งแกเล่าเร็วๆ”   

“เราอาสาขับรถไปให้เอง... กลัวเฮียขับแล้วจะรถคว่ำตายก่อนเห็นหน้าพี่อิ๊ก พอดีก่อนถึงตัวบ้านผ่านชายหาด เห็นรถพี่อิ๊กเข้า เฮียวิ่งลงจากรถทั้งที่ยังไม่ทันจอดสนิทดี ไอ้เราก็ใช้เวลากว่าจะหาที่จอดแถวนั้นได้ พอลงไปเห็นสองคนดูจะโอเคแล้ว เฮียก็สีหน้าดีขึ้นมาก”

“อ้าว” แป้งว่า ท่าทางคงคิดว่าตานูจะลงไปเจอคู่หมั้นของอิ๊กด้วยแล้วเกิดการชิงรักหักสวาทขึ้นเหมือนอย่างในละคร

“สรุปว่าพี่อิ๊กมาบ้านคู่หมั้นเพราะจะขอปฏิเสธการแต่งงานด้วยตัวเอง ระหว่างทางก่อนกลับกรุงเทพฯ จอดรถลงไปเดินคิดว่าจะพูดกับเฮียกับที่บ้านว่ายังไงดีนั่นแหละ ที่จริงความรู้สึกเขาสองคนมันคงตรงกันมาตั้งนานแล้ว แค่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดเพราะกลัวเสียเพื่อน แต่อุปสรรคต่อจากนี้มันคือที่บ้านพี่อิ๊กต่างหาก ตอนแรกแม่พี่อิ๊กเขารับไม่ได้ คิดดูคนที่ไว้ใจนึกว่าเป็นเพื่อนสนิทของลูก รักเหมือนลูกอีกคนหนึ่ง กลายเป็นว่าไม่ใช่ แล้วยังทำลายงานแต่งงานอีก”

“โอ๊ย... แล้วพี่นูทำไง”

“เฮียก็ใช้ความเสมอต้นเสมอปลายเข้าสู้ เคยไปมาหาสู่ เคารพนบไหว้ยังไงก็ยังทำอยู่อย่างนั้น ถูกไล่เปิดเปิงเฮียก็ทน แม่พี่อิ๊กถึงกับส่งลูกไปเรียนโทเมืองนอก ให้ห่างเฮีย พี่อิ๊กไม่ยอม เฮียเป็นคนบอกให้ไปเอง... พิสูจน์ให้แม่พี่อิ๊กเห็นว่าถึงจะจับแยกหรือทำยังไงก็เปลี่ยนแปลงความรู้สึกเฮียกับพี่อิ๊กไม่ได้ ตอนพี่อิ๊กไปเรียนเฮียทำงานเหมือนบ้า แต่ก็ยังหาเวลาไปเยี่ยมเยียนบ้านพี่อิ๊ก”

แป้งประสานมือเข้าด้วยกัน “ชั้นซึ้งอะแก แล้วแม่พี่อิ๊กยอมตอนไหน”

“ความรู้สึกดีๆ กับเฮียเหมือนลูกเหมือนหลานมาตั้งเกือบสิบปีมันก็คงยังมีอยู่นั่นแหละ เพียงแต่ตอนนั้นแม่พี่อิ๊กคงไม่แน่ใจว่าความรักแบบนี้จะยืนยาวไปสักเท่าไหร่ เฮียจะดูแลลูกเขาได้ตลอดรอดฝั่งไหม ก็พอดีว่า... เฮียแวะไปบ้านพี่อิ๊กเหมือนเคย ตอนนั้นพี่อิ๊กเรียนจบกลับบ้านแล้ว แม่พี่อิ๊กปกติไม่ค่อยยอมลงมาพบ แต่วันนั้นเดินลงบันไดมาแล้วก้าวพลาด เฮียเป็นคนไปรับไว้เอง พี่อิ๊กบอกตอนหลัง เอาตัวรับแทนจริงๆ แม่พี่อิ๊กไม่เป็นไร แต่เฮียหัวแตก กระดูกขาร้าว”

“โอ๊ยพี่นู” ไม่รู้แป้งร้องกี่หนแล้ว “สุดยอด”

“แม่พี่อิ๊กยอมไปเยี่ยมเฮียที่โรงพยาบาล ก็นับว่าเป็นสัญญาณดี ตอนนั้นเราก็ไปเยี่ยมเฮียด้วย... ได้ยินพี่อิ๊กบอกกับแม่ว่า กับแม่ของคนที่รัก เฮียยังยอมเจ็บตัวแทนได้ขนาดนี้เพื่อให้แม่ปลอดภัย แล้วกับคนที่เฮียรักอย่างลูกแม่ เฮียย่อมดูแลอย่างดีที่สุด พี่อิ๊กว่าแม่รู้จักเฮียมาสิบปี แม่จะไม่รู้เลยหรือว่าเฮียเป็นคนยังไง แล้ว... แม่จะไม่รู้เลยหรือ ถ้าลูกแม่รักใครเข้าจริงๆ”

“พี่อิ๊กก็สุดยอด” แป้งปลื้ม

“แม่พี่อิ๊กไม่ได้ยอมรับเฮียทันที แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นก็นับว่าดีขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งยอมให้พี่อิ๊กมาอยู่กับเฮีย แล้วก็เปิดบริษัทเนี่ยแหละ”   



ผมได้ยินตานูตอบอิ๊ก “จริง... กว่าแม่จะยอม เพราะฉะนั้น อยู่กับอิ๊ก ไม่มีทางถอดใจ แต่... บางทีคิดขึ้นมาแล้วก็เสียดายที่ไม่ได้มีเงินกองไว้ได้เยอะๆ อาจจะช่วยอิ๊ก ช่วยบริษัทได้มากกว่านี้”

เขาเลื่อนมือไปประสานมืออีกฝ่ายทั้งยังพิงไหล่อยู่ อิ๊กกระชับตอบกลับมาแน่น

“เงินไม่มากไม่เป็นไร ความสามารถสำคัญกว่า นูน่ะเก่งจะตาย ไม่ต้องห่วง ถ้าคิดว่าจะเจ๊งไม่มาเปิดบริษัทด้วยหรอก”   

“ตกลงว่าคบเค้าเพราะเหตุผลทางธุรกิจเหรอเนี่ย” ตานูเงยหน้าขึ้นกระเง้ากระงอด

ขอย้ำอีกครั้ง กิริยาแบบนี้สาวๆ ทำก็อาจจะพอดูดี แต่ผู้ชายตัวโตมาทำนี่มัน...

อิ๊กคงเห็นว่าน่ารักน่าเอ็นดู เขาถึงได้หัวเราะ

"เลือกแฟนก็เหมือนลงทุน ใครจะเลือกให้ตัวเองขาดทุน เพียงแต่ของอย่างนี้... วัดกันด้วยตัวเงินไม่ได้"

เขายิ้ม

“ก็ไม่ได้เลือกมาเป็นหุ้นส่วนบริษัทอย่างเดียว เลือกมาเป็นหุ้นส่วนชีวิตด้วยนี่นา กำไรที่ได้... ก็กำไรชีวิต”

ตานูยิ้มปลื้มเสียแก้มแทบปริ อิ๊กลุกขึ้นฉุดแขน ‘หุ้นส่วนชีวิต’ ไปด้วย

“ไป ทำงานต่อได้แล้ว ยังมีโปรดิวเซอร์คนนี้อยู่อีกทั้งคน ไม่ปล่อยให้บริษัทเป็นอะไรไปง่ายๆ หรอกน่า”


เพียงแต่อีกสองสามวันต่อมาตานูก็ยังถอนใจเฮือกๆ ตอนให้ข้าวผม ส่วนอิ๊กก็แทบไม่อยู่เลย จากที่เจ็งกระซิบกระซาบกับแป้ง อิ๊กออกไปคุยกับเอเจนซี่หลายที่แต่ยังตกลงกันไม่ได้ ถ้าถูกกดงบจนเกินไปก็จำเป็นต้องปฏิเสธเพราะไม่เช่นนั้นงานก็ออกมาไม่ดี

“เสียชื่อผู้กำกับมือรางวัล” เจ็งว่าอิ๊กพูดอย่างนั้น 

ส่วนแป้งจุดธูปปักโคนต้นไม้แล้วลงมือภาวนา “ของานใหญ่ๆ ของานใหญ่มาสักงาน เจ้าประคู้ณ...”

ตานูเดินผ่านผมที่เฉลียงหน้าบ้าน ถอนใจยาว

“ไหนว่าเลี้ยงเจ้าตัวนำโชคนี่แล้วงานเข้าไม่ขาดไง” เขาพูดเบาๆ “บันดาลให้เงินทองไหลมาเทมาหน่อยสิ ซื้อปลาทูให้วันหนึ่งสามมื้อเลย”

ผมก็เลยได้รู้ว่า อิน โปรดัคชั่นเฮาส์ ท่าจะมีปัญหาหนักเสียแล้ว ลองถึงขั้นตานูบนบานศาลกล่าวแมวละก็


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บ้านคนเขียนน้ำยังไม่มา แต่พ่อก็เตรียมการไว้ระดับหนึ่ง (ในขณะแม่ตั้งกองบอก มันไม่ท่วมหรอกๆ) ส่วนข้าพเจ้ากับพี่... เตรียมแผนอพยพหมาๆ แมวๆ เอิ๊ก ก็หวังว่าคงจะไม่ถึงขั้นนั้นนะ ขอให้คนอ่านทุกท่านปลอดภัยนะคะ

ตอนต่อไปตอนสุดท้ายแล้วล่ะ
  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2011 21:03:27 โดย เดหลี »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อย่ามัวแต่อัพนิยาย จนลืมน้ำท่วมนะจ๊ะ กันไว้ดีกว่าแก้ อะรยกสูงได้ก็กันไว้ก่อนเนอะ

บริษัทมีปัญหาอย่างนี้ อิเต็งจะแก้อย่างไรนะ รอลุ้นจ๊ะ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เขียนถึงนิสัยแมวได้สุดยอดเลยค่ะ อ่านแล้วคิดถึงตอนที่ตัวเอง
เลี้ยงแมวค่ะ แมวติดจะหยิ่งจริง ๆ ด้วย ตอนเรียกไม่ค่อยมาหรอก
แต่ถ้าอยากมาหา เค้าจะเข้ามาเอง แมวตัวโปรดของเราสีออกเทา ๆ ลายเสือ
ลายเหมือนโฆษณาอาหารเม็ดวิสกัส ตัวกลม ๆ เท้าใหญ่ พุงย้อย
ตอนนั้นเราติดมันมาก ๆ ต้องจับมาฟัดตลอดจนมันรำคาญ แต่ทำไงได้
มันน่ารักมาก ๆ อ่ะ แต่เป็นอดีตไปแล้วค่ะ แมวตัวผู้ชอบออกไปกัดกับตัวอื่น
อยู่ไม่ติดบ้าน และตายไปในที่สุด ตอนนี้บ้านเลยไม่มีแมวเลยค่ะ
แต่ยังยืนยันว่ารักแมวมาก  :L1:

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
แหม นู ตอนแรกบอกไม่เชื่อๆแมวนำโชค ไงล่ะสุดท้ายต้องขอร้องแมวเลยเหรอ

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
สู้ ๆ กับภัยน้ำท่วมนะคะ ปีนี้รู้สึกจะโดนกันทุกภาค สุพรรณบ้านเราน้ำก็ท่วม อยากกลับบ้านก็กลับไม่ได้ นราธิวาสน้ำไม่ท่วมแต่ฝนตกและสถานการณ์ไม่สู้ดี.........

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ตานูกับอิ๊กทำซึ้ง น่ารักกันมากๆ
สุดท้าย ชอบ... อิเต็ง!!! เริ่ดๆเชิดๆน่าหมั่นไส้ตลอด :laugh:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
มาอ่านอีกทีก็เรื่องที่4แล้ว 
บรรยายนิสัยแมวได้ดีมากๆค่ะ  และมุมมองความรักของอิ๊กกะนูก็สุดยอด
ติดตามตอนต่อไปนะคะ

ปล.+1และเป็ดให้ค่ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เพิ่งเข้ามาอ่าน
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ อ่านเพลิน
เป็นเรื่องสั้นที่แมวเล่าเรื่องได้สนุกจังค่ะ
 o13

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
วันนี้ขี้เกียจแปลงร่างอวตาร มาทั้งไอดีนักเขียนเลย อิอิ

 :กอด1: พี่เดหลีแรงๆ ถึงแรงที่สุดหนึ่งที เรื่องนี้ยังแอบน่ารัก ปนสะอื้น

ถึงจะรู้ว่าเรื่องพี่เดหลีไม่จบ sad ก็เถอะ แต่ตัวหนังสือไม่กี่บรรทัด ก็บีบหัวใจดวงน้อยๆของนักอ่านได้

อ่านเรื่องนี้ งงๆ กว่าสามเรื่องแรก อาจจะเพราะตัวละครเยอะ (หรือเปล่า?) แต่ก็เข้าใจและซึมซับอารมณ์ได้ดีอยู่

ลุ้นต่อไปครับ ว่าเรื่องนี้จะจบยังไง (น่าจะตอนหน้าเนาะ เพราะพี่บอกเรื่องเจ้าสีหมอกยาวที่สุดใช่ม้าาา)

เอาเป็ดไปเลี้ยงนะครับ ไอดีนี้บวกไม่ได้  :L2:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
จิ้มไปจิ้มมา....ที่กุพิมพ์ตะกี้หายไปไหนว่ะ o22

พิมพ์ใหม่ก็ได้ว่ะ บุ่ยยย ย :m17:

อิเต็งนี่ถ้าพูดได้คงจะโต้วาที?กะอินูสนุกเน๊อะ ๕๕๕

เดาว่าวิกฤตครั้งนี้จะมีเหมียวเต็งเป็นผู้กอบกู้ ชิมิ?

เรื่องของนูกะอิ๊กนี่ถ้าไม่เล่าสั้นๆนี่น่าจะแต่งได้ยาวเฟื้อย ดราม่า น้ำตาแตกแน่เลย

ไม่เอาๆเล่าผ่านมุมมองอย่างงี้แหละน่ารักดี :o8:

กอดคนแต่งสักหน่ยซิ :กอด1:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
อ่านแล้วอึ้ง  :a5: คล้ายชีวิตตัวเองชะมัด แต่ตอนนี้โอเคแล้วนะ
ชอบประโยคนี้อ่ะ "เลือกแฟนก็เหมือนลงทุน ใครจะเลือกให้ตัวเองขาดทุน เพียงแต่ของอย่างนี้... วัดกันด้วยตัวเงินไม่ได้" โอววว ถูกใจให้ 5 ดาวเลยเอ้า  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด