49
เอามีดมาแทงกูเลย
................................................................
ผมนั่งนิ่งในห้องตัวเอง ผมกำลังเครียด เครียดจริงๆไม่ใช่เรื่องเล่น ไม่ใช่เรื่องที่พี่แป้งเอามาบอกในวันก่อน แต่ผมเครียดตรงที่ว่าสิ่งที่ผมพยายามลืมว่าบางทีสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหาความจริงคือปัญหาใหญ่หลวง ญาติผม อาม่าผม ทุกคนจะว่ายังไง ผมจะปิดบังเรื่องนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ ผมไม่สนใจใจหรอกเรื่องปัญหาครอบครัวพี่กันต์กับรสนิยมทางเพศ พี่กันต์ไม่ได้คบผมเป็นผู้ชายคนแรกและผมไม่สนใจด้วยว่าคนก่อนหน้าจะเป็นใครอะไรยังไง ผมเป็นคนไม่ค่อยแคร์เรื่องพวกนี้ ผมให้พี่กันต์รับมือมายังไงก็ให้จัดการไป แต่ผมนี่ซิ ฝั่งของผมที่พี่กันต์จัดการไม่ได้...
ว่าไปปัญหามันยังไม่มีเอาไว้ให้มันมีค่อยหาทางแก้แล้วกัน ผมเอาเวลาหาที่ฉลองต่อสำหรับงานที่จะถึงในวันพรุ่งนี้ดีกว่า รวมรุ่นทั้งที เมาอ้วกทุกปี ปีนี้ก็ไม่เว้น ถึงเพื่อนจะแต่งงานไปคนนึงแล้วก็ไม่ของด ผมโทรหาเสี่ยปาล์ม ไม่ได้คุยกับมันมาพักใหญ่ๆเหมือนกัน ทั้งผมทั้งมันต่างยุ่ง แล้วพอว่างเมื่อไหร่พี่กันต์ก็โผล่มาให้ไม่ว่างตลอด
“กุนึกว่ามึงตายไปแล้ว” คำทักทายแรกของไอ้ปาล์ม ถ้ากุตายนะ กุจะไปบอกหวยผิดๆให้มึงโดนแดกหมดตัว
“กุยังไม่ตาย เสียใจด้วยนะมึง” ผมหัวเราะฮึๆ
“เอาไงมึง จะไปเจอกันที่งานหรือว่าจะแยกกันไปดี” เรื่องพรุ่งนี้ งานเลี้ยงรุ่นปกคิที่ผมจะไม่เอารถไปปีนี้ก็เช่นเคยต้องตกลงกัน
“กุไม่แน่ใจว่ะ” ที่ผมยังไม่แน่ใจก็เพราะไม่ได้ตกลงกับพี่กันต์พี่หมิงเลยว่าจะเอายังไง ปีอื่นไปกับไอ้ปาล์มแบไม่ต้องคิด แต่ปีนี้เปลี่ยนไป เลยต้องคิดนิดนึง ไอ้ปาล์มกระแอมเสียงเบาเหมือนรู้ทัน
“ต้องรอตกลงกับรุ่นพี่คนไหนก่อนหรือเปล่าครับเพื่อนธาม แต่ก่อนนี่ไม่มีหยุดคิดเลยนะ” แซวได้แซวไป ผมไม่อาย ผมหน้าด้าน พูดไปเถอะถ้าไม่เห็นหน้าแต่ขอร้องว่าอย่าพูดแบบนี้ต่อหน้าแล้วกัน ผมคงคุมสีหน้าไม่ถูก
“ไอ้เหี้ย” คำตอบยืนยันว่าสิ่งที่ไอ้ปาล์มคิดถูกต้อง ปล่อยให้มันหัวเราะก๊ากไป ผมเลยพูดต่อซะเลย “เดี๋ยวกุบอกมึงทีหลังนะเสี่ย ไม่ต้องน้อยใจหรอกนะจ้ะ” แล้วผมก็วางสายมัน โทรหาพี่กันต์ต่อซะเลย รอสายนาน แล้วพอรับสาย เสียงคนรับกลับไม่ใช่เสียงพี่กันต์นี่ดิน่าแปลก เวลาแบบนี้พี่กันต์น่าจะอยู่บ้าน หรือออกไปเที่ยว แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะมันเงียบมาก
“ขอสายพี่กันต์ครับ” ผมจำเสียงได้หรอกน่า อย่ามาแอ๊บเนียนเป็นเจ้าของเครื่อง เสียงคนรับเป็นผู้ชาย อาจจะเป็นเพื่อนสักคนของพี่กันต์
“กันต์เข้าห้องน้ำอยู่ ว่างไหม คุยกับพี่ก่อนได้ป่ะ” ผมพอจะเดาออกแล้วว่าใครรับสาย พี่กฤษณ์ล่ะนะถ้าไม่ผิด แต่น้ำเสียงแม่งกวนส้นตีนเหมือนรู้ทันอะไรบางอย่าง ผมรู้ว่าพี่กันต์ไม่ได้เมมชื่อผมแบบชวนอ้วกเหมือนบางคนทำ ชื่อที่บันทึกเอาไว้ก็คือชื่อเล่นผมปกตินี่ล่ะ แล้วพี่กฤษณ์ทำไมทำเสียงเหมือนรู้ว่ามีอะไรเบื้องหลัง
“ได้พี่” ขอมาผมก็จัดให้
“ชื่อธามเหรอ” ชื่อก็บอกอยู่
“ครับพี่ นั่นพี่กฤษณ์รึเปล่า” เออ เจอสักหน่อยไหมล่ะ กูก็รู้นะเว้ยอย่าคิดว่ารู้คนเดียว
“รู้ได้ไง รู้จักพี่เหรอ” แม่งอยากจะหัวเราะ
ไม่อยากจะเล่าแต่ต้องขอเล่า ผมว่าใครอยู่ทันรุ่นพี่กฤษณ์ก็คงรู้จักกันทุกคน ตอนนั้นผมอยู่สักม.1 ม.2 พี่กฤษณ์ ม.5ไม่ก็ม.6 ล่ะมั้ง ที่ผมบอกกับเจ๊แป้งว่าแอบโฉด เพราะแอบจริง ต่อหน้าอาจารย์เด็กเรียน นักกีฬา แข่งวิชาการความภาคภูมิใจของโรงเรียน แต่ลับหลังแม่งโคตรนักเลง ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเรื่องถึงไม่เคยถึงหูอาจารย์ในเมื่อเขาก็รู้กันทั้งโรงเรียน สูบบุหรี่ กินเหล้า หลอกแกล้งคนนั้นคนนี้ กลุ่มใหญ่มีโต๊ะประจำ แต่ละคนในกลุ่มก็พอๆกัน เรื่องผู้หญิงมีไม่ซ้ำหน้าเคยมีข่าวลือด้วยซ้ำว่าทำนักเรียนคอนแวนท้องไม่รู้ว่าแค่ลือหรือเรื่องจริงแต่ผมว่าไม่น่าจะใช่เพราะฉลาดเป็นกรดแบบพี่กฤษณ์ไม่น่าจะพลาดง่ายแต่ฟันแล้วทิ้งนี่ผมเชื่อไปเลยสามร้อยเปอร์เซ็น ไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ชาย ผมค่อนข้างมั่นใจนะว่าพี่กฤษณ์ไม่ใช่เกย์ เรียกว่าโคตรมั่นใจเลยมากกว่า โหดแค่ไหนก็คิดเอาแล้วกันว่ากระเทยที่ว่าแรงๆในโรงเรียนสมัยนั้นไม่กล้าเข้าไปอ่อยกลัวโดนต่อยกลับมา ปกติพวกหล่อนเห็นใครถูกใจมักจะเข้าไปคุย ไปจีบเต็มที่ ตอนนั้นคนเกลียดเยอะ คนชอบก็เยอะ ผมตอนนั้นไม่จัดอยู่ในชอบหรือเกลียด รู้แค่ว่าพี่คนนี้คือใคร อย่าไปเดินเหยียบตีนแค่นั้นพอ
…ดูพี่กันต์ดิ โคตรใจเย็น คนพี่นี่คนละเรื่อง
“ผมจบโรงเรียนเดียวกับพี่ เลยรู้จัก”
“อ้อๆ พี่ดังขนาดนั้นเลยเหรอ” คงจะรู้ตัวดีกว่าตัวเองดังในแง่ไหน
“เพื่อนพี่เคยต่อยเพื่อนในห้องผม” บอกแล้วว่ากลุ่มพี่กฤษณ์เขาของจริง ต่อยจริงรุ่นน้องไม่เว้น ใครกล้าแหย่มีโดน ไอ้คนนั้นตอม.ปลายก็ผันตัวเป็นนักเลงไถตังค์ไปเรื่อย
“เอ้าจริงดิ ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยแล้วกัน” สายไป13ปีครับพี่
“อ้อ ไม่ต้องแล้วมั้งพี่” ผมพูดทีเล่นทีจริง
“โทรหากันต์มีธุระพิเศษอะไรรึเปล่า” แม่งกวนตีน แค่ฟังเสียงก็กวนตีนแล้ว ลักษณะคำพูดที่ใช้เหมือนพี่กันต์แต่น้ำเสียงมันช่าง...
“อ้าว กันต์กำลังเดินมาแล้ว พี่ไม่กวนละ” ขอบคุณที่พี่กันต์มาแล้ว ได้ยินเสียงพี่กันต์ด่าพี่ชายตัวเองด้วย ...เสือกอะไรเนี่ยกฤษณ์... ใช่พี่ เสือกอะไรเนี่ย
“ฮัลโหลธาม โทษที ไม่โดนพี่ชายพี่กวนตีนใช่ป่ะ”
“นิดหน่อย ธามจะถามว่างานพรุ่งนี้เอาไง จะไปพร้อมธามไหมไม่งั้นธามจะได้ไปกับไอ้ปาล์ม” ผมเข้าเรื่องเลย อย่พร้อมพี่น้องแบบนี้อย่าเสียเวลา
“ธามไม่ขับรถไปเองเหรอ” พี่กันต์ถาม ก็ไม่เคยเอาไปสักปี นอนบ้านไอ้ปาล์มตลอด เมาแล้วหลับ กลับไม่ได้จริงๆ
“ธามไปต่ออ่ะพี่กันต์ เอาไงๆ”
“อะไรวะ จะไปกับเพื่อนต่องั้นขาไปไปกับพี่แล้วกันพี่ต้องพาไอ้หมิงไปอยู่แล้ว รถใหม่มันยังไม่ได้ ขอเวลาให้พี่นิดนึงนะ” เดี๋ยวนะพี่กันต์ พี่กฤษณ์อยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไรพี่ หยอดแบบนี้ เคยไว้หน้าผมไหม
“โอเคๆ ตามสบาย ธามวางละ” ก่อนที่พี่กันต์จะปล่อยอะไรเด็ดๆมามากกว่านี้
“ฝันดี”
“เหมือนกัน” ผมพูด แล้ววางสาย ยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว อายอ่ะ อย่าให้ใครรู้นะมึงว่ายิ้มเพราะมีผู้ชายมาบอกฝันดี โคตรอายเลย ผมเลือกพิมพ์ข้อความบอกไอ้เสี่ยปาล์มแทนว่าผมไปเอง ขี้เกียจโทรไปบอก เดี๋ยวมันสาวไส้อีกว่าทำไมไปเอง ไปยังไง ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำแปรงฟัน ปิดไฟห่มผ้าห่มกอดหมอนข้าง นาฬิกาตัวเลขเรืองแสงบนหัวเตียงบอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง แต่ผมปิดไฟนอนไปแล้ว นอนแต่วันเลยผมวันนี้...
เมื่อคืนฝันเหี้ยมากไหนพี่กันต์บอกฝันดีวะ ฝันว่าพี่กันต์เกิดเมาแล้วหื่นจับผมขึงกับเตียงพยายามจะกระทำอะไรบางอย่างที่ผมว่ามันเลือนรางมากในความฝัน กลัวชิบหาย เปียกเลยผมตื่นมา ไม่ใช่ฝันเปียกนะ เปียกเหงื่อ เหงื่อแตก ท่าทางจะกลัวจริงอะไรจริง นี่ฝันดีพี่กันต์เหรอ เหี้ยแล้ว ไม่ดีแล้วผมว่า หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะคุยกับพี่กฤษณ์เลยทำให้สติแตกได้
ถอนหายใจแล้วกระพริบตาปริบๆมองเพดานห้องตัวเอง ผมว่าพี่กันต์คงไม่บ้าแบบนั้นเหรอ ขนาดนอนกอดแบบไม่ทำอะไรมาแล้วยังทำได้เลย สุดยอดคนใจเย็น ผมพยายามบอกตัวเอง ยกมือขึ้นลูบหน้าก็ยังเจอเหงื่อ อย่างกับไปวิ่งมา ยังไม่ทันลุกจากเตียง เสียงมือถือก็ดังสนั่น
...พี่กันต์ เล่นกุแต่เช้าเลย
“ฮัลโหลพี่กันต์”
“ไม่ใช่พี่กันต์ นี่น้องกันต์ชื่อก้อง” เหี้ย....
“ห๊ะ...” ผมยังคงเบลออยู่ ยังตื่นไม่เต็มที่ แล้วน้องพี่กันต๋ คนนี้ผมไม่รู้จัก แต่รู้ว่ามีแล้วทำไมถึงโทรมาได้ เอาเบอร์พี่กันต์โทรมาทำไมวะเห้ย ป่วนอะไรกุเนี่ย
“เป็นแฟนกันต์เหรอ” ผมว่าบางทีครอบครัวพี่กันต์ก็รับมือได้ดีกับรสนิยมพี่กันต์ ดีเกินไป ดีจนน่ากลัว
“ไม่ใช่ มีอะไรรึเปล่าเนี่ย” ก็ไม่ใช่จริงๆ
“ผมอยากรู้จักเฉยๆ กันต์ยังไม่ตื่นผมแอบขโมยมือถือมา” เวรเอ้ย แล้วบอกกุทำไม โชคดีนะผมไม่เคยส่งข้อความอะไรประเภทเลี่ยนๆหากัน ไม่งั้นก็มีร้อนๆหนาวๆบ้างแหละเนี่ย น้องพี่กันต์คนนี้ผมไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลย มาจากไหนเป็นใคร ทำอะไร เป็นคนยังไง
“จะรู้จักไปทำไม” ผมพูดแบบรักษาระดับอารมณ์
“ก็เย็นนี้จะได้เจอกันไง อยากรู้ว่าเป็นคนยังไง พี่กันต์แอบถ่ายรูปพี่ตอนหลับด้วยนะ ขนาดตอนหลับพี่ยังหล่ออ่ะ” เหี้ย เหี้ย เหี้ย ไม่มีคำไหนจะเหมาะไปกว่านี้แล้ว พี่กันต์ร้ายมาก แม่ง ตอนไหนหวะ! รอบหน้าผมเอาคืนแน่ ว่าแต่มันชมผมหรือเปล่าเมื่อกี้ ขอบใจนะ
“จริงดิ มีได้ไง”
“ไม่จริงพี่ ฮ่าๆ ไม่มีรูปตอนหลับหรอก มีรูปตอนเผลอ ผมเดาเอาว่าคงเป็นรูปพี่เพราะมีหลายรูป พี่เป็นหมอหมาเหรอ” แม่งกวนตีนทั้งบ้าน โลกนี้ไม่มีอะเพอร์เฟ็คหรอกครับ พี่กฤษณ์ก็เหี้ย พี่กันต์ก็เป็นชายเหนือชายแถมจังไรพ่วงมาอีก นี่อีกคน น้องพี่กันต์ ชื่อก้อง ชอบเสือกเรื่องชาวบ้านและกวนตีน มันต้องมีบกพร่องอะไรสักอย่างล่ะคนเรา เชื่อผมเหอะ ขนาดผม อยู่แบบหล่อ รวย โสด ใส ยังต้องมีเหตุมาความเป็นชายสั่นคลอนเลย... ผมชมตัวเองบ้างอย่าถือสาเลย ยังไม่จบประเด็นนะ เมื่อกี้เรียกหมอหมา งานหลักกูไม่ได้รักษาหมาเว้ย กุรักษาสัตว์เลื้อยคลาน แล้วเรียกหมอหมาเหมือนโดนด่าด้วยนะ
“อือ แต่ไม่ค่อยได้รักษาหมา”
“เอ้า แล้วพี่รักษาอะไร” มึงโตแล้วนะ ถามกูเหมือนอายุห้าขวบ
“พวกงู จระเข้ เต่า กิ้งก่า หนู กระต่าย นก เหี้ย” คำสุดท้ายรักษาจริงนะไม่ได้ด่า
“พี่ด่าผมป่ะเนี่ย” คิดเองแล้ววววว
“คิดไปเอง” ผมหัวเราะในลำคอ แต่จะเหมาว่าด่าก็ได้นะ โทรมาแต่เช้า ถามกุซะเยอะเชียว
“ผมก็เป็นหมอ อินเทิร์นอยู่” เออมีคุณสมบัติที่หมอควรมี คือซักประวัติอย่างละเอียด ละเอียดมาก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆพี่น้องพี่กันต์ถึงได้กระหน่ำเข้ามาหาผมแบบนี้ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นพี่กันต์แทบจะไม่เอ่ยถึงด้วยซ้ำ
“อ้อ” ถามคำตอบคำพอ จะได้ไม่สาวยืดต่อเรื่องราว
“เมื่อคืนผมมานอนอยู่บ้านกันต์ หมามันจำผมได้ทุกตัวเลยพี่ยกเว้นชายกลาง ไม่รู้เป็นอะไร เมื่อคืนนี้เกือบกัดกัน” ใช้คำว่ากัดกัน ...หมาความว่าเอ็งจะกัดกับหมา
“บางแก้วมันขี้ระแวง”
“ฮ่าๆ นั่นไงว่าแล้วว่าต้องเคยมาบ้านพี่กันต์แล้ว ฮ่าๆ ไม่ได้เป็นอะไรกันนะเนี่ย” ไอ้สัส ล้วงความลับกู เกลียดแม่ง! นี่ไงที่เหมือนพี่กันต์ ชอบหลอกถามแล้วผมก็โง่ตอบทุกรอบ ไอ้ควายธาม... มึงมันโง่ ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจเร็วๆ สงบสติอารมณ์
“มากินเหล้า” นั่นไงเจอคำตอบผมไป กริบเลยดี...ดีใจที่พ้นข้อกล่าวหาไปได้ และตลอดเวลาพระเอกมักจะมาช้าเสมอ ได้ยินเสียงพี่กันต์จากปลายสายฝั่งโน้นว่า... ไอ้เหี้ยก้อง มึงเอามือถือกุมา
พี่กันต์ ช้าไปแล้วพี่ น้องพี่มันซักประวัติผมจนเอาไปทำทะเบียนคนป่วยได้แล้ว เหลืออีกหน่อยมันจะจ่ายยาถูกโรคแล้วเนี่ย
“ซวย แค่นี้ก่อนนะ” แล้วน้องก้องมันก็ตัดสายหนีความผิดไป คอยดูนะมึง เจอพี่กันต์กุจะเล่าหมดเปลือกเลยแม่ง ใส่สีตีไข่เอาให้แตกพี่แตกน้อง ผมหวังแต่ว่าเย็นนี้ไม่กันต์จะไม่หอบหิ้วกันมาทั้งครัวเรือนมาเยือนผมถึงคอนโด ไม่งั้นผมสติแตกแน่ๆ รับมือไม่อยู่ พ่อแม่พี่กันต์เลี้ยงลูกยังไงวะ ให้ออกมาแม่งบกพร่องทางบุคลิกแบบนี้ กวนตีนทุกคน สิ่งที่ทุกคนไม่เห็น แต่ผมเห็น ชัดเจนมากเลยด้วย
...
ผมกับพี่กันต์นัดเวลากันเอาไว้แล้ว ผมแต่งตัวแบบไม่รีบร้อน งานเลี้ยงรุ่นโรงเรียนผมไม่ค่อยจัดเต็มอะไรกันหรอกครับสำหรับพวกผม เอาให้พอดูไม่น่าเกลียดก็พอ ที่สวยงามเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็นศิษย์เก่าบางคนที่ทำผมงงในช่วงแรกๆว่าทำไมใครๆก็พาแฟนมางาน แต่ไม่ใช่ ผมคิดผิด ผู้หญิงตัวจริงที่เป็นแฟนของศิษย์เก่ามีไม่มากที่มางาน ถ้ามีก็จะนั่งสงบๆ แต่ผู้หญิงที่ผมเห็นเด่นๆนั่นไม่ใช่ของแท้ แต่เป็นศิษย์เก่าที่ผ่านการเอเวอลูชั่นตัวเองเรียบร้อยแล้ว สวยจนแทบห้ามตัวเองไม่ให้เดินไปขอเบอร์ไม่ได้ ต้องท่องเอาไว้ว่านั่นรุ่นพี่เรา ไม่ใช่ของจริง
กำลังติดกระดุมเสื้อ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องมาขัดจังหวะ... ใคร พี่หมิงรึเปล่า เพราะมันยังไม่ใช่เวลาที่พี่กันต์บอกจะมา ผมส่องช่องตาแมวที่ประตูแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ พี่กันต์ รีบมาไปไหมพี่
“ยังแต่งตัวไม่เสร็จเลย” ผมเปิดประตูให้พี่กันต์เข้ามา เห็นพี่กันต์แล้วเหนื่อยกับสภาพตัวเอง ผู้ชายหน้าตาดี ดับผู้ชายหน้าตาดีและดูดีมาก มันรัศมีต่างกัน
“หล่อไปป่ะพี่กันต์”
“ขอบคุณนะที่ชม” พี่กันต์ยิ้มหวาน เอื้อมมือมาช่วยติดกระดุมเม็ดที่เหลือของผม อย่าได้ไหม... มันหวิว พอเห็นหน้าพี่กันต์แล้วก็นึกถึงไอ้ฝันเมื่อคืน ยังช็อคอยู่
“ไม่ต้องก็ได้มั้ง”
“หาเรื่องแตะไปงั้นแหละ” ไม่ต้องพูดตรงขนาดนั้นก็ได้พี่กันต์ รู้อยู่ว่าหาโอกาส
“เมื่อเช้าไอ้ก้องมันกวนตีนอะไร” พี่กันต์ถามพร้อมยิ้มอีกแล้ว ผมว่าพี่กันต์รู้ดีนะว่าน้องชายตัวเองเป็นยังไง เพราะดูท่าทางพี่น้องสนิทกันดี ผมกระตุกยิ้มมุมปาก
“พี่กันต์แอบถ่ายรูปธามเหรอ” มีชะงัก โดนจับได้เข้าแล้วไง จะว่าน่ารักก็น่ารักนะ แต่ว่าแอบถ่ายน่ะหน้าเป็นแบบไหนวะ หน้าผมไม่ได้เป๊ะทุกมุมแบบพี่กันต์นะครับ จะได้ดูดีทุกองศา ถามว่าทำไมรู้ว่าพี่กันต์ดูดีทุกองศา ...ไม่น่าถามผมมองแล้วทุกองศา ไอ้ที่บอกว่าชอบผมคิดดีนะมองนานแล้ว ...รักก็คิดดีแล้วเหมือนกัน
“ไอ้ก้องมันค้นมือถือพี่เหรอ” ช้าไปไหมพี่กันต์ เวลาจะซื่อก็โคตรซื่อเลยเหอะ
“ฮึๆ ถ่ายจริงอ่ะดิ จะถ่ายทำไม เอารูปไปทำอะไร ดูก่อนนอนเหรอ หรือเอาไว้ทำอย่าอื่น” ผมถามแล้วยักคิ้ว พี่กันต์ยิ้มกวนๆแล้วส่ายหน้า
“เอาไว้ดูตอนเข้าห้องน้ำแล้วท้องผูก ฮ่าๆ” ขอกลับคำถอนคำพูดที่ว่าพี่กันต์ดูดีทุกองศา
“จะกวนตีนใช่ไหมพี่กันต์ มีหลายเรื่องต้องเคลียร์นะ” ผมต้องถามแน่ก็ไอ้เรื่องบรรดาวงศาคณาญาติของพี่กันต์นี่แหละ
“เรื่องใคร เรื่องกฤษณ์ หรือเรื่องก้อง แต่พี่ไม่คบใครเผื่อเลือกนะ พี่มีธามคนเดียว” พี่กันต์พูดแล้วขยิบตาให้...
ผมหยุดกึก หน้าร้อนวูบ พูดแค่นี้แต่ผมไม่เข้าใจตัวเองว่าจะเขินทำไม แล้วมันไม่ได้เกี่ยวกันเลยด้วยซ้ำไอ้เรื่องคบใครไม่เผื่อเลือก ชักจะคุมสีหน้าไม่ค่อยอยู่ ผมถอนหายใจเฮือก มองพี่กันต์ที่เดินหนีข้อคดีไปเปิดหาน้ำกินในตู้เย็น บางครั้งก็ใจดี บางครั้งก็ใจร้อน บางครั้งก็โคตรแสนดี บางทีก็เจ้าเล่ห์ ...ธาม มึงไม่ทันหรอก ไปไหนไม่ได้แล้ว ผมก็ได้แต่บอกตัวเองแบบนี้ทั้งปีทั้งชาติล่ะมั้งต่อจากนี้
“หน้าแดงแล้ว” พี่กันต์ไม่ต้องทักก็ได้ รู้ตัว
“......” ผมเงียบ ตอบอะไรไปเดี๋ยวก็เจอสวนกลับอยู่ดี ไม่เว้ย รักษาสิ่งที่เหลืออยู่
“ฮึๆ ไม่ต้องไปสนใจไอ้สองคนนั้นหรอก มันบ้า” พี่กันต์พูดแล้วก็หัวเราะ แล้วทำไมผมต้องเป็นคนรองรับอารมณ์บ้าของพี่น้องพี่กันต์ด้วยเนี่ย มันไม่ใช่หน้าที่ผมนะพี่กันต์ ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรต่อ พี่กันต์ก็ใส่หมัดเด็ด “พยายามทำตัวให้ชินนะ เดี๋ยวก็ครอบครัวเดียวกันแล้ว”
“ตลก” แค่คิดก็มึนแล้ว
“ไม่รักพี่เหรอ...” พี่กันต์ถามหน้าหงอย แต่ผมว่าไม่หงอยจริงหรอก มันเป็นละครตบตาเรียกร้องความสนใจที่ผมได้แต่กัดฟันอดทนไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ตัดปัญหาด้วยการเดินไปเก็บข้าวของหนีคำถาม แต่พี่กันต์ยังเดินมาประชิด ไม่ประชิดเปล่า เอาคางมาเกยไหล่ผมอีก ขอร้อง อย่าทำแบบนี้ มันอายเว้ย...
“ไม่รักพี่เหรอ”
“กวนตีนละพี่กันต์” ไม่พูด ไม่! ไม่ใช่ตอนนี้
“พี่รักธามนะ” ครั้งที่สองแล้ว เลือดสูบขึ้นหน้า เส้นเลือดผมแตกหรือยังไม่รู้ ระหว่างที่กำลังจะเข้าได้เข้าเข็ม เอ้ยไม่ใช่ เขินถึงขีดสุดนั่นเอง ประตูห้องผมมันเปิดออกมาได้ยังไงวะ!
โอ๊ะ... เป็นเสียงของคนคุ้นเคยกันดี... เชฟต่างด้าวผู้ซึ่งตอนนี้ไปไหนมาไหนเองไม่ได้เพราะเสือกโง่รีบขายรถ
อู้ยย… เสียงอุทานด้วยอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกจากผู้ชายใส่แว่นหน้าทะเล้น ท่าทางสะอาดสะอ้านไม่คุ้นหน้าแต่พอเดาได้ว่าเป็นใคร
ว้าว… เสียงสุดกวนส้นตีนมีเจ้าของเดียวกับสายที่กวนตีนไม่แพ้กันเมื่อคืนนี้ เวลาผ่านไป แต่หน้าพี่กฤษณ์เปลี่ยนไปไม่มาก มองแล้วแทบจะมีคำว่า โฉด แปะไว้ที่หน้าผาก
พี่กันต์ขยับตัวห่างจากผมแล้วหันไปมองผู้มาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว ผมเองก็เหมือนกัน ไอ้ท่าเมื่อกี้ที่พี่กันต์เอาคางเกยไหล่ผม คงเห็นกันหมดแล้วใช่ไหม ครบองค์ประชุม ลูกบิดประตูยังเป็นหลักฐานว่าพี่หมิงเป็นคนเปิดมันออกมาโดยไม่เคาะ แล้วอีกสองคนที่หน้าบล็อกใกล้เคียงกันกับพี่กันต์คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าใครเชิญมา แล้วมาจากไหน เป็นแฝดสยามหรือไงวะ ต้องตัวติดกันสามคน แต่ก่อนไม่เห็นเคยโผล่หัวมา แล้วมาทีมากันครบ ที่สำคัญกว่านั้นช่วยมาตอนกุพร้อมรับมือได้ไหม!
“ไหนว่าไม่ได้เป็นอะไรกันเนี่ย” คงไม่ต้องอธิบายอีกนะว่าใครเป็นคนพูด โอเควันนี้อาจจะไม่ใช่วันของกุ
เหี้ยเอ้ย! ทำแบบนี้เอามีดมาแทงกุเลยดีกว่า!
...6-5-2012
ที่ว่าจัดหนักธามอ่ะแบบนี้ต่างหาก 555555555555555 โอ๋ๆ ไม่ดราม่าๆ ยังไม่มีแพลนดราม่าชามโตตอนนี้ ไว้คิดออกแล้วเค้าจะบอกตัวล่วงหน้านะ

กว่าจะพิมพ์เสร็จก็ใกล้เช้าไม่รู้คิดอะไรนานนักหนา คงไม่มีใครมาจิ้มท้ายไวๆนี้เป็นแน่แท้
บทนี้สงสารธามเนอะ บทหน้าเจอเสี่ยปาล์ม เจอคุณหนึ่งเกย์รักเด็ก(ยังจำกันได้ไหม) เจอคุณพีทวิศวกรตัวดำกลางกลางทะเล(น้องรหัสพี่นาย) แล้วก็คุณตั้มผู้แสนดีไม่มีเรื่องเสื่อมเสีย พร้อมทั้งตัวละครของบทนี้... ตายอ่ะ บอกไว้ก่อนว่าตายยยยย งานเลี้ยงรุ่น มันคืองานเลี้ยงรุ่น! คนต้องเยอะนิดนึง มีสมุดปากกาก็เตรียมจดเลยนะ 5555
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะ ขอบคุณทุกคน รักนะชุบุ ชุบุ
-----พื้นที่โฆษณา---
เค้าแอบไปแต่งเรื่องสั้นตามใจฉันมา ว่างๆไปอ่านกันนะ 555
[เรื่องสั้น] ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ?
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32973.0