[คุ ณ ช า ย ๒] : บทที่ 46 หนีตาย ! 3/4/14 - 18.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [คุ ณ ช า ย ๒] : บทที่ 46 หนีตาย ! 3/4/14 - 18.50  (อ่าน 46272 ครั้ง)

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
เก็บกระทู้ไว้  -------โมดุฯ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
*************************************************************************************

ชี้แจ้งแถลงไข
   นิยายเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด ทั้งเนื้อเรื่อง ตัวละคร ชื่อ และราชสกุล รวมถึง สถานที่ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนสร้างสรรค์ขึ้นจากจินตนาการเท่านั้น หากมีชื่อของตัวละคร หรือบุคลิกของตัวละครบางตัวซ้ำกับคนที่คุณรู้จักที่มีอยู่จริงในสังคม ขอให้รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น
   คุณชายเป็นนิยายในแนวสมจริง หรือแนวชีวิตที่ผู้เขียน เขียนขึ้นเป็นเรื่องแรกทั้งๆที่ปกติจะถนัดเขียนในแนวลึกลับ สืบสวน หรือแม้แต่แฟนตาซีมาตลอด ด้วยความตั้งใจที่จะสื่อสารแนวความคิดเรื่อง “การตัดสินใจ ระหว่างสิ่งที่เป็นหน้าที่ กับสิ่งที่ตนเองพอใจ” ในความคิดของผู้เขียนเพื่อให้ผู้อ่านได้ย้อนถามตัวเองในชีวิตประจำวันว่า เรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือเปล่า และสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องนั้นมันถูกจริงๆ หรือสังคมเป็นคนบอกว่าถูกกันแน่ รวมถึงสร้างความสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างผู้อ่านและตัวละครในเรื่อง ให้เติบโตไปพร้อมๆกัน และแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน จึงไม่แปลกเลยถ้าหากผู้อ่านบางกลุ่มจะรู้สึกว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับตัวเอง ในชีวิตประจำวันเช่นเดียวกับที่มันเกิดขึ้นกับตัวละครในเรื่องนี้
   หากนิยายเรื่องนี้จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจ และสะท้อนภาพของสังคมให้ผู้อ่านได้รับรู้ และซาบซึ้งไปกับมันได้ ผู้เขียนจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่หากมีใครเกิดไม่พอใจ หรือไม่ถูกใจในการตัดสินใจของตัวละคร และเหตุการณ์บางอย่างในเรื่อง ผู้เขียนต้องขอน้อมรับความผิดไว้ด้วยแต่เพียงผู้เดียว
ฟ้าม่วง

ปล. นิยายเรื่องนี้มีบางจุดที่ต้องใช้คำราชาศัพท์ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่ถนัด จึงพยายามหลีกเลี่ยง และหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็จะพยายามค้นคว้ามาใช้ให้ถูก แต่หากมีข้อผิดพลาดไปบ้างก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ

*************************************************************************************

ผลงานเก่าๆครับ

คุณชายภาค 1: http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21986.0
ปางบรรพ์: http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=15938.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2019 19:49:59 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
Re: [คุ ณ ช า ย ๒] : บทที่ 39
«ตอบ #1 เมื่อ24-10-2011 23:13:02 »

39
     
ชีวิตของภาสกรและนทีหลังจากนั้น ช่างไม่ต่างอะไรจากคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันเลยแม้แต่น้อย
    ทั้งคู่ตัดสินใจ อยู่ภูเก็ตต่อเพียงไม่กี่วัน หนึ่งเพราะเกรงใจดาริกามาอยู่บ้านเขาฟรีๆแล้วค่าน้ำค่าไฟก็ไม่เสียไม่ควรจะอยู่นานนัก สองคือนทีก็ไม่ได้ป่วยมาก หัวที่แตกก็ไปเย็บแล้วไม่ได้เจ็บมากนักไม่นานก็คงหาย ส่วนความเจ็บปวดตามกายที่ถูกซ้อมก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เพราะมีคุณชายคอยช่วยประคบประหงม เพียงสองวันก็รู้สึกสบายขึ้นมากแล้ว
    คุณชายก็เลยโทรศัพท์จองตั๋วเครื่องบินพานที และปุยฝ้ายกลับกรุงเทพออกจากภูเก็ตแต่เช้าถึงกรุงเทพก็สายๆ นั่งรถไปจนถึงพัทยาก็เกือบเที่ยงทานข้าวกลางวันแล้วก็ไปส่งปุยฝ้ายที่แฟลต ส่วนนทีก็นั่งเถียงกับคุณชายอยู่ไม่นานสุดท้ายด้วยความใจอ่อนจึงย้ายมาอยู่ด้วยกันเสียที่วังพัทยา
    เวลานับจากวันที่เดินแฟชั่นมาจนถึงตอนนี้ก็เกือบอาทิตย์แล้ว แต่หม่อมวิไลวรรณก็ไม่ได้ติดต่อมาหาภาสกรเลยแม้สักครั้งเดียว พอๆกับทิฆัมพรก็หายเข้ากลีบเมฆไปพร้อมกัน ภาสกรมารู้เหตุผลก็ตอนที่กลับมาถึงวังพัทยาแล้วนั่นเอง จึงพบว่าแม่ของเขาโทรศัพท์เข้ามาฝากข้อความไว้ที่วังว่า
    “แม่ไปเที่ยวยุโรปกับหนูฟ้า อีกสองอาทิตย์กลับ ชายไปเยี่ยมท่านพ่อบ้างนะลูก แม่ให้นมอุ่นดูแลแล้วแต่ท่านพ่อคงจะบ่นถึงชายบ้าง พระชนม์มากแล้วคงจะทรงคิดถึงตามประสา ไปเฝ้าท่านบ้างเดี๋ยวจะน้อยหทัย”
    ภาสกรก็เลยคิดว่าจะต้องไปเยี่ยมท่านพ่อเร็วๆนี้ แต่ตอนนี้ขออยู่อย่างมีความสุขกับนทีไปก่อนสักระยะหนึ่งแล้วกัน
    
    หม่อมราชวงศ์หนุ่มยังจำได้ว่าวันแรกที่นทีมาอยู่กับเขาที่วังนั้น หนุ่มน้อยจะนอนห้องคนใช้ที่ชั้นล่างให้ได้ พอภาสกรบอกให้ขึ้นไปนอนห้องเดียวกับเขา อีกฝ่ายก็ทำท่าตกใจราวกับไปทำผิดกฏหมายมา
    “บ้าหรอคุณชาย จะให้ผมนอนห้องเดียวกับคุณชาย บนเตียงเดียวกันได้อย่างไรไม่เอาหรอกนะ”
    แต่พอภาสกรตอบกลับเท่านั้นนทีก็อายหน้าแดงเถียงไม่ออกอีก ยอมนอนร่วมเตียงกับคุณชายคนรัก ไม่บ่นอีกสักคำ
    “ไม่บ้าหรอก คุณไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผมงั้นซี คุณเป็นคนรักของผมนะครับ เป็นของผมแล้วคุณก็ต้องนอนกับผมสิ จะให้ผมไปนอนกับคนอื่นหรือไง”

    ความสุขของคนมีความรักมันมีอยู่เท่านี้ แต่ก็เป็นความสุขที่มากล้นจนเปรียบกับอะไรไม่ได้ สำหรับนทีที่ไม่เคยสมหวังในความรักเลยสักครั้งพอมาได้มีคุณชายหนุ่มรูปหล่อเพอร์เฟ็คไม่มีใครเกินอย่างนี้ก็ยิ่งกว่าได้พรอันแสนประเสริฐเอาอะไรมาเปรียบไม่ได้เลย
    จะไม่มีความสุขเลยหรือเมื่อเวลาเข้านอน ได้มีใครอีกคนมากอดอยู่ข้างหลัง ต่อให้อากาศยามค่ำคืนจะหนาวแค่ไหน แต่เมื่อมีไออุ่นจากใครอีกคนอยู่ใกล้ๆกันนั้นก็เป็นยิ่งกว่าความสุขเสียอีก หลายครั้งที่นทีฝันร้ายถึงแม่หรืออดิสรณ์แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาทีไร ภาสกรก็จะหยีตามองเขาในความมืด แม้จะง่วงงุนเพียงใดก็จะกระซิบถามอย่างเอาใจใส่ว่า
    “คุณฝันร้ายหรือ”
    พอนทีตอบเบาๆ ว่า“ครับ” ภาสกรก็จะดึงเขาเข้าไปกอดเอาไว้แนบอก ประคองใบหน้าของเขาให้แนบไปเหนือหัวใจที่เต้นเป็นจังหวช้าๆ ราวกับจะบอกว่า
    “ผมอยู่ตรงนี้แล้วคุณไม่ต้องกลัว”
    
    พอตื่นเช้ามาหากภาสกรตื่นก่อน คุณชายหนุ่มก็จะเตรียมอาหารเช้าไว้ให้นทีทุกครั้ง บางครั้งเป็นอาหารฝรั่ง บางครั้งก็เป็นข้าวต้มร้อนๆ อาจจะเป็นอาหารง่ายๆ แต่เมื่อมันมาจากฝีมือของคนที่เรารัก จะกินอย่างไรก็อร่อย นทีชินกับการที่ตื่นมาแล้วก็มีภาระทุกอย่างกองอยู่ตรงหน้าต้องให้มาครุ่นคิดวิตกจนต้องแก้ไปทีละเปลาะ แต่ตั้งแต่มีคุณชาย หนุ่มน้อยก็ไม่ต้องมาคอยกังวลอีกว่า วันนี้จะกินอะไร จะต้องหนีอดิสรณ์ไปไหน ต้องถูกใครตามล่าอีก มันมีแต่ความอุ่นใจ สบายใจ ตั้งแต่ตื่นมาแต่เช้าเลย
    หากวันไหนนทีตื่นก่อน หนุ่มน้อยที่ไม่ค่อยถนัดทำอาหารกินเอง ก็จะไปเดินเล่นใกล้ๆ กันนั้นที่มีตลาดอยู่ ซื้ออาหารเช้าแบบพิเศษที่ทำกินกันเองไม่ได้ทุกวันอย่างกระเพาะปลา ข้าวมันไก่ หรือกวยจั๊บน้ำข้นร้อนๆมาเตรียมไว้ให้ภาสกร พออีกฝ่ายอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทื่เขาเตรียมไว้ให้แล้วก็จะลงมานั่งกินข้าวด้วยกันกับเขาทุกเช้า
    ภาสกรให้นทีออกจากงานกะหนึ่ง แล้วให้ทำแค่กะเดียวคือทำที่ร้าน chez moi ตอนเย็นที่เดียวกับปุยฝ้ายเท่านั้น หนุ่มน้อยจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอีก ดังนั้นพอ กินข้าวกันเสร็จแล้วภาสกรก็จะออกไปทำงานที่ร้านรชตานันต์อัญมณี มีนทีตามไปด้วย ตอนแรกภาสกรไม่รู้ว่าจะให้หนุ่มน้อยอยู่ที่ไหน แต่ก็หาทางออกได้ว่าให้เขาอยู่กับดลนภาคอยช่วยทำงานอยู่หน้าร้าน
    เลขานุการสาวหน้าเก๋ ไม่คิดถามว่านทีเป็นใครมาจากไหน แรกๆหล่อนไม่ค่อยถูกชะตากับนทีนัก แต่เมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยขยันขันแข็ง มีสัมมาคารวะ ก็กลายเป็นรักเขาไปเอง พนักงานคนอื่นๆในร้านก็เช่นกัน
    ถึงจะสนิทกับภาสกร แต่นทีก็วางตัวอย่างลูกจ้าง เวลาพักกลางวัน เขาก็จะอาสาไปซื้อข้าวกล่องมาให้พวกพี่ๆพนักงานกินกันไม่ยอมออกไปกินอาหารแพงๆกับภาสกร ดังนั้นภาพที่ติดตาทุกคนก็คือ หนุ่มน้อยเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับข้าวกล่องเรียงซ้อนกันเป็นชั้น
    “สวัสดีคร้าบ ข้าวกลางวันมาเสิร์ฟแล้วฮะ วันนี้มีกะเพราไก่ไข่ดาวของที่ดล ข้าวผัดแหนมของพี่นิด คะน้าหมูกรอบของ...”
    หน้าที่ของนทีมีเพียง ยืนรับลูกค้าเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ปล่อยปละละเลยช่วงทำงานหลายๆอย่างในร้านอย่างบางครั้งที่ดลนภาหอบกองเอกสารปึกใหญ่มานทีก็จะต้องรีบวิ่งไปช่วยถือทุกครั้ง
    “พี่ดลครับให้ผมช่วย”
    “เอ่อ ขยะตรงนี้มันเต็มแล้วป้าแม่บ้านหายไปไหน เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งให้นะครับ” หลายครั้งที่หลายๆคนจะมองนทีอย่างเอ็นดูแล้วก็เอาไปพูดกับภาสกรว่า
    “คุณชายคะ น้องน้ำนี่เป็นใครมาจากไหนคะ น่ารักเหลือเกินทำไมคุณชายไม่ให้ทำงานประจำอยู่ที่นี่เลยล่ะคะ พวกเราทุกคนเอ็นดู๊เอ็นดู เด็กอะไรนิสัยดีหาที่ติไม่ได้”
    พอได้ยินอย่างนี้ ภาสกรก็จะหน้าบานแล้วก็พูดเบาๆว่า
    “เพื่อนรุ่นน้องผมเอง” แต่ในใจหรือก็แสนจะภูมิใจว่า คนรักเข้าหน้าใคร ใครก็ติดรักใคร่กันเสียทุกคน

    หลังอาหารกลางวัน ภาสกรก็จะไม่ได้พบกับนทีอีกเลยไปจนถึงเย็น เพราะฝ่ายหนุ่มน้อยต้องออกงานไปเข้ากะเย็นที่ร้าน Chez moi ที่นั่นจะเป็นที่ที่เขาได้เจอกับเพื่อนเก่าอย่างปุยฝ้ายทุกวันจึงไม่ได้รู้สึกว่าห่างเหินอย่างไร
    “ไงยะ มาจากร้านเพชร เข้าร้านอาหารรู้สึกแตกต่างกันบ้างไหม” ปุยฝ้ายจะทักเพื่อนหนุ่มคล้ายๆอย่างนี้เสมอ พอลับหลังคนก็จะแอบถามอย่างหมั่นไส้แกมหยอกว่า “แปรพระราชฐานจากวังมาทำงานต๊อกๆอย่างนี้ ระวังคุณชายน้อยจะปรนนิบัติรับใช้คุณชายใหญ่ได้ไม่เต็มที่นะเพคะ”
    บ่อยครั้ง นทีจะไม่ทำอะไรนอกจากส่งสายตาขุ่นเคืองแกมตำหนิมาให้เท่านั้น บางครั้งถ้าทนไม่ไหวหนุ่มน้อยก็จะโวยวายออกมาว่า
    “แกจะล้ออะไรฉันนักหนา ถ้าไม่เลิกล้อฉันจะลาออก!”
    “ย่ะก็มีงานนับเพชร นับพลอยอยู่แล้วนี่”

    ประมาณสามครั้งต่อสัปดาห์ นทีจะกลับเข้าวังก่อนคุณชาย จะได้มีเวลาเตรียมอาหารเย็นเอาไว้ให้ พอคุณชายมาถึงบ้านเขาก็จะรินน้ำเย็นลอยมะลิหอมกรุ่นใส่แก้วเอามาให้คุณชายถึงห้องรับแขก
    “วันนี้คุณชาย เหนื่อยไหมครับ”
    “ไม่เหนื่อยเท่าไหร่” อีกฝ่ายส่งสายตาหวานซึ่งให้แล้วก็ดื่มน้ำหอมเย็นชื่นใจก่อนจะบอกว่า “กลับมารู้ว่ามีนทีรออยู่ก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ”
    วันไหนที่นทีเลิกงานกะดึก ภาสกรก็จะเข้าไปหาหนุ่มน้อยที่ร้านอาหารที่นทีทำอยู่ สั่งเค้กมานั่งกิน มองหนุ่มน้อยทำงานอยู่ใกล้ๆ หลายๆครั้งปุยฝ้ายจะเปิดโอกาสให้นทีเข้ามารับรายการจากภาสกรด้วยตัวเอง
    “คุณชายจะรับอะไรดีครับ”
    “ขอเค้กแครอทที่หนึ่งแล้วกันครับ แล้วก็...”คุณชายจะลดเสียงลงเล็กน้อย “นทีจะรับอะไรก็สั่งกลับไปกินที่บ้านพร้อมผมหลังอาหารเย็นนะ คิดเงินที่ผม”
    นทียิ้มกว้างให้ภาสกรอย่างเต็มใจทุกครั้งไม่เกี่ยงกันเรื่องเงินอีก เพราะนทีเงินเดือนเยอะพอจะเลี้ยงภาสกรเป็นครั้งคราว จึงทำให้เจ้าตัวไม่รู้สึกว่าเอาเปรียบชายหนุ่มแต่อย่างใด

    ทั้งคู่รักษาระยะห่างระหว่างกันไว้ได้ดีจนใครต่อใครต่างก็เชื่อว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งจริงๆ ไม่มีใครระแคะระคายว่าเป็นคู่รักกันเลย เพราะต่อให้อยู่ที่บ้านภาสกรจะทำตัวหวานเยิ้มกับนทีขนาดไหน พอก้าวออกจากบ้านก็จะวางตัวเป็นปกติ คือไม่ได้ทำปั้นปึ่งใส่ราวกับคนไม่รู้จักกัน หรือว่าแกล้งทำมึงมาพาโวยเหมือนเป็นเพื่อนกันเฉยๆอย่างนั้น
    เขาก็ปฏิบัติกับนทีอย่างสุภาพ พอๆกับที่นทีก็พูดคุยปฏิบัติต่อคุณชายด้วยความเคารพเหมือนก่อนจะได้รู้ใจกัน แม้หลายๆครั้งภาสกรจะแอบมองหนุ่มน้อยด้วยความรักเวลาอยู่ที่ทำงานก็ตามแต่ก็ไม่ประเจิดประเจ้อจนใครรู้
    นับว่าวางตัวได้ดีพอกัน จะมีใครรู้บ้างก็คงเป็นดลนภาที่หัวไวเรื่องอย่างนี้ และพอจะเดาอะไรได้เองบ้าง หลายๆครั้งเมื่อมีโอกาสเลขานุการสาวก็จะพูดกับคุณชายทำนองว่า “วันนี้น้องนทีไม่มาหรือคะ”
    “ไม่มาหรอกพี่ดล เขาต้องไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยน่ะ แหมแค่เขาไม่มาวันเดียวพนักงานในบริษัทก็บ่นถึงเขาสองสามครั้งแล้วนะ”
    “พวกเราคิดถึงไปก็เท่านั้นแหละค่ะ แต่คุณชายน่ะสิไม่คิดถึงแย่หรือคะ” จบประโยคก็จะส่งแววตารู้ทันมาพอภาสกรทำเฉไฉไม่รู้เรื่องหล่อนก็จะพูดลอยๆว่า “สมัยนี้เขารับกันได้แล้วค่ะคุณชาย ถ้าวางตัวดีอย่างคุณชาย แถมน่ารักอย่างน้องนที พี่ไม่ว่าอะไรหรอก แต่หม่อมวิไลวรรณ กับท่านชายเรืองเดชรู้หรือยังคะ”
    “ยังหรอกพี่” พูดถึงหม่อมแม่ขึ้นมาทีไร ภาสกรจะนิ่วหน้าแล้วก็ใจลอยไปทุกครั้ง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หม่อมแม่จะกลับจากยุโรป แล้วเมื่อไหร่ที่เรื่องของเขากับนทีจะแดงออกมา ... เมื่อถึงตอนนั้นจะวุ่นวายเพียงใด หม่อมแม่จะไม่อาละวาดแย่หรือ
    ภาสกรได้แต่กังวลไปอย่างนั้น เพียงไม่นานก็พยายามปัดความคิดทิ้งไป
    
    คุณหญิงดาริกา รวมถึงพี่ชายทั้งสองคนมาหาภาสกรเมื่อเย็นวันศุกร์ วันนั้นนทีอยู่บ้านจึงรับหน้าที่ชงกาแฟรวมทั้งเรียงคุกกี้และเค้กใส่จานให้หม่อมราชวงศ์ทั้งสี่คน ตัวเองนั่งข้างๆภาสกร ตอนแรกว่าจะไม่อยู่ร่วมวงแต่พอคุณชายใหญ่ของสุวรรณฉายบอกว่าเรื่องที่มาพูดนี้เกี่ยวข้องกับนทีหนุ่มน้อยก็เลยนั่งอยู่อย่างช่วยไม่ได้ โชคดีที่ดาริกา และนรัตพล ชวนคุยเรื่องสารทุกข์สุขดิบทั่วไปก่อนก็เลยไม่เครียดกันมาก
    “น้องกลับมาพัทยาสบายดีนะคะ”
    “ครับสบายดี”
    “ไม่ได้เจ็บตรงไหนแล้วใช่ไหมคะ”
    “ครับผม เป็นปกติดีครับไปทำงานได้เหมือนเดิมแล้ว ไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนอะไรครับ” หนุ่มน้อยตอบ พลางก้มลงจิบกาแฟ
    “ดีแล้วล่ะค่ะ คุณชายก็คงดูน้องอย่างดีกระมังคะ” ดาริกายิ้มกว้าง ทำเอาสองหนุ่มตรงหัวโต๊ะเขินอายจนหน้าแดงมองเลยไปหนุ่มพี่ชายกลางของหล่อนก็ยิ้มอย่างรู้ทัน
    “โชคดีนะครับ ที่น้องนทีเป็นคนดีน่ารัก ไม่อย่างนั้นผมก็คงจะค้านหัวชนฝาเลยที่ให้น้องนทีมาอยู่ที่วังนี้” เขาเอ่ยเบาๆ “กลัวว่าหม่อมวิไลวรรณมาเจอเข้าเมื่อไหร่จะเป็นเรื่อง”
    จบประโยคทั้งภาสกรและนทีต่างก็หน้าเสีย หันมองกันเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกจนดาริกาต้องตีแขนพี่ชายแล้วเรียกชื่อเขาเบาๆเป็นเชียงตำหนิ
    “พี่ไม่ได้จะว่าอะไรนะ” นรัตถพลว่า “แต่ชายภาสก็ควรเตรียมทางหนีทีไล่ไว้อธิบายหม่อมด้วย”
    “ท่านชายเรืองเดชก็ประชวรหนัก น่าจะไปเยี่ยมบ้าง” คุณชายใหญ่ของสุวรรณฉายเอ่ย “ผมเคารพชายภาสที่กล้าหาญ รักจริงถึงขั้นไปช่วยเขามาจากนายอดิสรณ์ทั้งที่รู้ว่าฝ่ายนั้นอันตรายแค่ไหน แต่ก็ต้องเตือนสติอย่างนที่อาวุโสกว่าว่าอย่างหลงคนรักเสียลืมท่านพ่อ และหม่อมแม่ รวมทั้งอย่างลืมว่าเราเป็นเจ้า เป็นนายทำอะไรอย่าให้ใครมาว่าเอาไว้”
    “ครับ ขอบคุณพี่ชายเต้มากที่กรุณาเตือน” ภาสกรรับหน้าตาขึงขังจริงจัง “ผมจะทำให้ใครก็ว่าผมไม่ได้ ผมจะพิสูจน์ว่าผมกับนทีไม่ได้ทำอะไรผิด อีกอย่างนทีก็เป็นคนดี น่ารัก ผมเชื่อว่าถ้าอาศัยโอกาสดีๆ สถานการณ์เหมาะๆ บอกคุณแม่แล้วก็ ทูลท่านพ่อดีๆละก็ ท่านต้องรับนทีได้แน่ครับ”
    “ดีแล้วล่ะค่ะคุณชาย” ดาริกาว่า “ให้น้องน้ำอยู่ที่นี่ หญิงเห็นด้วย ดีกว่าปล่อยออกไปผจญภัยอยู่คนเดียว น้องน้ำก็นับได้ว่าไม่มีใครคอยปกป้องดูแลนอกจากคุณชาย”
    ภาสกรแอบจับมือหนุ่มน้อยใต้โต๊ะ กระชับแน่นให้มั่นใจว่าเขาจะปกป้องดูแลคนรักของเขาได้จริงๆ
    “ที่พวกพี่ๆมาวันนี้ก็อยากจะมาเตือนเท่านี้แหละ” คุณชายรัตว่า “แต่เห็นว่าชายภาสเองก็โตแล้วมีเหตุมีผล แล้วก็รู้ตัวทำอะไรดีอยู่แล้วก็เลยไม่อยากพูดมาก เวลานี้ก็ไม่มีข่าวซุบซิบอะไรจากภายนอกเลย นับว่าวางตัวดีทีเดียว”
    ภาสกรยิ้มรับ
    “ส่วนข่าวเรื่องนายอดิสรนั่นณ์ ผมช่วยปิดไว้ได้ก็เลยไม่มีข่าวอะไรทางหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ญาติพี่น้อง คนสนิทของนายอดิสรณ์ก็ต้องรู้กันบ้างจะมีคนแค้นน้องนที แค้นคุณชายเท่าไหนผมก็ไม่รู้ แต่ก็อยากให้ระวังตัวกันดีๆ”
    “นายอดิสรณ์จะไม่มีวันหลุดคดีได้ใช่ไหมครับ” ภาสกรถามเพื่อย้ำความมั่นใจ “หลักฐานแน่นหนาขนาดนั้น คงไม่มีใครประกันตัวเขาได้หรอกใช่ไหมครับ”
    “ยังไงเสียนายอดิสรณ์ก็ต้องติดคุกหัวโตตามกฏหมายบ้านเมืองแน่ๆ” เขาว่า “แต่ก็ยังมีอยู่อีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องระวังกัน เพราะว่าถึงเราจะจับตัวลูกน้องของอดิสรณ์ได้หมดแล้ว แต่ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่รู้จักนายอดิสรณ์กลับซัดทอดว่าได้รับคำสั่งต่างๆจากคนที่ชื่อไพศาล ทางเราพยายามก็สืบอยู่ว่านายไพศาลเป็นใครมาจากไหนจะได้ช่วยป้องกัน ว่าแต่คุณนทีรู้หรือเปล่าครับว่าไพศาลคนนี้เป็นใคร”
    “ไพศาลเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณอดิสรณ์... เป็นมือขวามั้งครับ” หนุ่มน้อยขมวดคิ้วตอบอย่างไม่แน่ใจ จำได้รางๆเท่านั้นว่าชื่อนี้คุ้นหูอย่างน่าประหลาด

     ตรงข้ามร้าน Chez Moi ชายคนหนึ่งมองเข้าไปในร้าน ไม่เห็นเป้าหมายที่เขามาเฝ้า จึงโยนบุหรี่ทิ้งขยี้ด้วยปลายเท้าอย่างหงุดหงิดใจ

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
ตามคุณชายมาจ๊ะ
นทีน่ารัก ไม่รักไม่หลงได้ไงจริงไหมคุณชาย...
ขอบใจจ้า...+1 + เป็ดด้วยจ้า

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
มาบวกๆ ค่า ภาคนี้จะดราม่ากว่าเดิมมั้ยเอ่ย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หง่า....ไม่อยากดราม่าแล้วอะ เมื่อไหร่จะรักกันแบบไม่มีอุปสรรคซักทีน้อ...

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เอาแล้วไง  ไอไพศาล
ตัวร้ายจะเปิดตัวแล้ว  สงสารนทีอ่ะ

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
จะมีมาตามแก้แค้นด้วยเหรอ น้องน้ำ ต้องรับมือ ทั้งศึกนอก ศึกในเลยซิ  :เฮ้อ: เพลียแทน

fffx

  • บุคคลทั่วไป
อั่กอดิสรณ์ไปได้ไม่เท่าไรมีไพศาลมาอีกแล้ว โฮกก
น้องน้ำจะโดนอะไรอีกเนี่ย ไหนจะหม่อมวิไลอีก เฮ่ออ
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ MoPPeT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
น้ำมีความสุขได้ไม่นาน เรื่องวุ่นๆตามมาอีกล่ะ ไหนจะหม่อมแม่อีก เฮ้อ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
เค้าบอกว่าถ้าเจออุปสรรคหรือความลำบากแบบสุดสุดมากมาก จะได้รับผลตอบแทนที่มีค่าและยิ่งใหญ่

เป็นกำลังใจให้คุณชายกะน้องน้ำ

ออฟไลน์ boworange

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
 :mc4: :mc4:  สนุกมากๆคะ.....รออยู่นะคะ... o13 o13

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ฟ้าม่วงอัพไม่ครบแน่เลย  ตอนท้ายมันขาด ๆ ไปนะ
ภาคนี้ต้องมาม่าชามโตแน่นอน  ไหนก็พรรคพวกอดิสรณ์
ไหนจะพวกหม่อมแม่อีก  ยิ่งกว่าช่องหลายสีแน่คราวนี้

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ที่ร้านทำไม
ค้างคาค่าา

ตอนแรกๆแอบหวาน อามร์แต่งงานใหม่
แต่พอท้ายตอนชักจะกรุ่นกลิ่นมาม่า
><

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
โอ๊ย ได้กลิ่นมาม่าลอยมาตามน้ำ
ติดตามต่อ  เอาใจช่วยนทีและคุณชายต่อครับ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
ใครมาทำอะไรที่ร้านอ่าาาา อยากรู้ๆๆๆ

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ MM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
 :man1: น้องน้ำจะน่ารักอะไรปานนี้

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เค้าไม่อยาก่านมาม่านะคุฌชาย

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
ค้างงงงงงงงงงงง
บอกตามตรงนะคะ ไม่เคยอ่านเรื่องนี้ได้เต็มสุขซักที
ตอนหวานๆแต่มันเหมือนยังเต็มพอคิดไปถึงอุปสรรคที่รออยู่ เฮ้ออออออออ
รอวันฟ้าสดใสนะ สู้ๆคุณชายกับนที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
เค้าไม่เอามาม่า คุณหญิงเเม่นะ สงสารน้ำ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
40

    หม่อมราชวงศ์หนุ่มตัดสินใจไปเข้าเฝ้าท่านพ่อในเช้าวันหนึ่งของวันอาทิตย์ นทีกับเขาเลือกผลไม้สดใส่ตะกร้าไปเยี่ยมท่านชายเรืองเดชอย่างเต็มความสามารถ แน่ใจว่าผลไม้สด สวยและสะอาดมากๆแล้วภาสกรก็มุ่งหน้าไปที่วังผกากรองโดยที่มีนทีนั่งเคียงกันไปที่เบาะหน้า
    เห็นนทีนั่งตัวเกร็งก็ทักว่า
    “นที กลัวหรือ”
    “ครับคุณชาย” เขาว่าเบาๆ “กลัวจะทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ท่านชายเรืองเดชจะรับผมได้หรือเปล่า”
    ภาสกรยิ้มกว้างให้นทีแล้วบอกว่า
    “ผมไม่ได้พาคุณไปเปิดตัวในฐานะสะใภ้เสียหน่อย คราวนี้ไปในฐานะเพื่อนก่อนคราวหน้าค่อยบอกว่าเนี่ยแหละคนรักของผม” หนุ่มน้อยส่งค้อนวงใหญ่ให้ภาสกรแล้วก็มองออกนอกหน้าต่าง อีกฝ่ายไม่ต้องเห็นก็เดาได้ว่า นทีกำลังยิ้มอย่างอบอุ่นใจอยู่

    ท่านชายเรืองเดชประทับอยู่ที่ศาลาไม้ที่ตั้งอยู่ในสวนดอกไม้ของวังผกากรอง ความชราภาพและโรคหทัยทำให้ดูว่าพักตร์สูบซีดมากกว่าครั้งที่ภาสกรเห็นครั้งก่อน เกศาขาวโพลนไปทั้งเศียรเมื่อทอดเนตรทรงเห็นโอรสเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ทรงเลิกขนงด้วยความสงสัยพอโอรสนั่งลงฝั่งตรงข้ามพร้อมๆกับเด็กหนุ่มหน้าขาวสะอาด ผมสั้นดูดีเหมือนเด็กน้อยยกมือขึ้นประนมไหว้ทั้งคู่แล้ว ก็รับสั่งถามว่า
    “เป็นอย่างไรมาอย่างไรลูก ชายภาส ถึงมาเยี่ยมพ่อได้วันนี้”
    “ลูกหยุดงานกระหม่อม เห็นว่าไมได้มาเฝ้าท่านพ่อนานแล้ว เห็นสมควรว่าจะต้องมาเยี่ยมเยียนบ้างลูกกับเพื่อนจึงเอาผลไม้มาถวายกระหม่อม”
    ท่านชายเรืองเดชแย้มโอษฐ์น้อยๆ ก่อนจะเอ่ยว่า
    “ขอบใจ พ่อแก่แล้วกินอะไรไม่สะดวกนัก เห็นผลไม้ก็เปรี้ยวปากเหลือเกิน พ่อไม่เห็นมะม่วงสุกสวยขนาดนี้มานานแล้วเข้าใจเลือกนะ”
    “นทีเพื่อนของลูกเป็นคนเลือกเองกระหม่อม”
    หนุ่มน้อยได้ยินเสียงอีกครั้งก็ยกมือขึ้นประนมไหว้เป็นครั้งที่สอง
    “ชื่อนทีหรือพ่อหนุ่ม หน้าตาดูสะอาดสดใสดี ชื่อก็เพราะนะ”
    “กระหม่อม”
    “รู้จักชายภาสที่ไหน”
    นทีเงียบไป กลืนน้ำลายให้คล่องคอก่อนจะพูดสิ่งที่เตรียมมากับภาสกรว่า
    “กระหม่อมมาช่วยคุณชายภาสกรเรื่องงานแฟชั่นที่พัทยากระหม่อม จากนั้นมาเราก็ติดต่อกันมาตลอดกระหม่อม”
    “นทีเป็นคนเรียบร้อย ฉลาดแล้วก็มีสัมมาคารวะมากกระหม่อม ลูกติดใจว่าคุยสนุกถูกอัธยาศัยก็เลยคบกันไว้เห็นว่าไม่เสียหายอะไร”
    “เอาเถิด” ท่านชายแย้มโอษฐ์อย่างใจดีอีกครั้ง “พ่อเองก็ไม่เห็นด้วยแต่แรกว่าเราควรคบแต่ราชสกุลด้วยกัน หรือแม้แต่พวกเศรษฐี พวกนั้นคบเราก็หวังแต่ผมประโยชน์ ถ้าจะคบเป็นเพื่อนก็เลือกเอาคนที่ถูกใจ ไม่พาเราไปในทางที่เสื่อมเสียก็ดีแล้ว”
    ภาสกรยิ้มกว้างอย่างดีใจที่ท่านพ่อของตนไม่ได้รังเกียจคนรัก ทีนี้เรื่องอะไรต่างๆจะได้ค่อยๆง่ายขึ้น ถ้าผ่านทางพ่อก็เหลือทางแม่ที่แม้จะยากกว่าสักหน่อยแต่ก็คงจะง่ายขึ้นหากมีแรงสนับสนุนจากพ่อ
    “นที คุณไปปอกมะม่วงมาถวายท่านพ่อแทนผมหน่อยเถอะ”
    “ใช้พวกบ่าวไปซีลูก ไปเดือดร้อนพ่อนทีทำไม”
    “ไม่เดือดร้อนเลยกระหม่อม กระหม่อมเต็มใจ”
    “จริงกระหม่อม นทีเป็นเด็กกำพร้าก็เลยชอบดูแลผู้หลักผู้ใหญ่อย่างนี้แหละกระหม่อม” ภาสกรออกรับแทน ท่านชายจึงพยักพักตร์อย่างยอมรับ นทีก็เลยเดินไปกับนมอุ่นทีดูจะเอ็นดูเด็กน้อยไม่ต่างจากคนอื่นที่รู้จักเขา ปล่อยภาสกรอยู่กับท่านพ่อของเขาเพียงสองคน
    พอเหลือกันสองคน ท่านชายเรืองเดชก็รับสั่งถามว่า
    “ชายภาส เมื่อไหร่ลูกจะแต่งงาน”

     ภาสกรตกใจไปบ้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ทำนายไว้แล้วว่าอย่างไรก็ตามท่านพ่อก็ต้องรับสั่งถามเรื่องนี้ เพราะเขาเองก็จะอายุครบสามสิบในไม่กี่วันนี้ ท่านพ่อก็พระชนม์มากแล้วคงอยากทรงอุ้มนัดดา เร็วๆกระมัง แต่ในเมื่อคิดมาแล้วภาสกรก็เลยมีคำตอบมาตอบอย่างสมเหตุสมผล
   “ลูกเห็นว่าท่านพ่อประชวรมากอยู่ จึงคิดจะมาอยู่ดูแลท่านพ่อก่อนไม่อยากคิดเอาความสุขเข้าตัวด้วยการแต่งงานตอนนี้กระหม่อม”
    ท่านชายแย้มโอษฐ์รับอย่างเข้าใจแล้วก็รับสั่งเสียงเบาว่า
    “พ่อไม่ได้เร่งอะไรเจ้านะ ชายภาส แต่เจ้าก็จะสามสิบอยู่ไม่กี่วันนี้แล้ว พ่อเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปได้นานแค่ไหน อยากจะเห็นหลานเร็วๆ”
    “กระหม่อม”
    “แม่หนูทิฆัมพรนั่น ไม่ถูกใจบ้างหรืออย่างไร แม่เจ้าดูจะเอ็นดูรายนั้นเป็นพิเศษ” ท่านชายรับสั่ง
    “ลูกเห็นว่าเรายังไม่รู้จักนิสัยใจคอกันดีพอกระหม่อม ขอเวลาศึกษาไปอีกสักพักเถิดกระหม่อม” ภาสกรตอบเสียงเบาลงเรื่อยๆ
    กระทั่งนทีมาพอดีนั่นแหละ ทั้งสองจึงหยุดพูดกันเรื่องเคร่งเครียดนี้ มะม่วงน้ำดอกไม้สุกใส่จานแก้วตั้งไว้ต่อพักตร์ท่านชายที่มองดูฝีมือปอกเสียเรียบร้อยของนที พอหนุ่มน้อยนั่งลงท่านชายก็แย้มโอษฐ์รับสั่งว่า
    “พ่อนทีปอกเสียสวยงามเรียบร้อยดี” จากนั้นก็เสวยมะม่วงเข้าไปได้หลายคำ นมอุ่นที่นั่งดูอยู่ห่างๆก็ยิ้มแย้มดีใจที่ท่านชายเสวยได้มากนักในวันนี้ ต่างจากทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาที่มักจะเสวยอะไรไม่ลงเลย ไม่นานนักท่านชายก็เสด็จกลับตำหนักบ่นว่าเสวยเสร็จก็โปรดบรรทมตามประสาคนแก่ ภาสกรก็เลยปล่อยตามเลย
    ก่อนกลับจากวังผกากรอง ภาสกรก็สวมกอดนมอุ่นอย่างรักใคร่ และคิดถึง ยิ้มให้แม่นมของตนก่อนจะบอกกับนทีว่า “นี่คือแม่นมของผม ผมรักมากเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง คุณคงผมกับเธอแล้ว”
    “ครับ คุณอุ่นน่ารักแล้วก็ใจดีมาก กรุณาบอกผมทุกอย่างว่าในครัวนั้นข้าวของเครื่องใช้อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง” หนุ่มน้อยยิ้มให้นมอุ่นอย่างน่าเอ็นดู “ผมไปรอคุณชายที่รถดีกว่าเผื่อมีอะไรอยากคุยกับแม่นม”
    แล้วนทีก็เดินจากไป ภาสกรมองตามหลังบางๆในชุดสุภาพสะอาดตาเดินห่างออกไปแล้วก็หันกลับมาหาแม่นมของตน เห็นอีกฝ่ายส่งสายตาแบบรู้ทันมาให้ก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆ กลัวว่านมอุ่นจะจับได้ว่าตนคิดอะไรกับหนุ่มน้อยอยู่ในใจ
    “คุณชายของนม ดูมีความสุขเหลือเกินค่ะ” หล่อนว่า พลางออกเดินคู่กันไปกับภาสกรเพื่อไปส่งเขาถึงรถ “ตั้งแต่ไหนก็ว่าดูไม่ค่อยทุกข์อยู่แล้ว แต่คราวนี้ดูสดชื่น แล้วก็มีความสุขมากไม่ค่อยเศร้าหมองอมทุกข์เหมือนเวลามียัยหนูทิฆัมพรมาเที่ยวป้วนเปี้ยนนะคะ”
    ภาสกรหัวเราะ
    “นมนี่เห็นจะเป็นคนเดียวที่มองทิฆัมพรออก”
    “ปรุโปร่งเลยล่ะค่ะ เวลาหม่อมไม่เห็นยายนั่นก็แผลงฤทธิ์เอากับนมนี่แหละค่ะ” หล่อนว่าอย่างออกรส “สู้เพื่อนคุณชายคนนี้ไม่ได้นะคะ นมยังไม่เคยเห็นเพื่อนคนไหนของคุณชายจะน่ารัก เรียบร้อนเท่าคนนี้เลย ท่าทางพ่อแม่เขาจะสอนมาดีนะคะ มีสัมมาคารวะ เป็นลูกผู้ดีตะกูลไหนหรือคุณชาย”
    “ไม่ใช่คนใหญ่คนโต มีสกุลอะไรหรอกนม เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ”
    “เอ๊ะ แล้วรู้จักกันได้ไงล่ะคะ” นมอุ่นถามอย่างสงสัย
    “เรื่องมันยาวน่านม วันหลังผมมีเวลาผมจะเล่าให้นมฟังก็แล้วกันนะ”
    “ได้ค่ะ แต่วันไหนมา พาเพื่อนคนนี้มานะคะ สบายอกสบายใจคุยด้วยแล้วสนุก ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ถ้าเป็นผู้ชายก็ข่มเราเสียอกสั่นขวัญแขวน ถ้าเป็นผู้หญิงก็เดี๋ยววี้ด เดี๋ยววี้ดนมปวดหัวนัก” ภาสกรหัวเราะถูกใจ “คุณนทีมีสัมมาคารวะเหมือนลูกผู้ดีสมัยก่อน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วค่ะเด็กแบบนี้ จะสูญพันธุ์ตามไดโนเสาร์ไปเสียแล้ว”
    ภาสกรยิ้มให้นมอุ่นก่อนจะบอกลาหล่อนอีกครั้ง แม่นมของภาสกรมองคุณชายของหล่อนเดินออกห่างไปเรื่อยๆ ก็ยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุข เห็นเขายิ้มแย้ม สดใสอย่างนี้คนเป็นแม่นมเลี้ยงมาแต่เด็กทำไมจะไม่เข้าใจ ทำไมจะรู้ไม่ทันว่าภาสกรคิดอะไรกับ “เพื่อน” คนนี้ ถึงหล่อนจะเป็นคนหัวโบราณในบางเรื่อง แต่เมื่อเป็นเรื่องความรัก อีกอย่างนทีก็เป็นคนดี น่ารักเหมาะกับคุณชาย หล่อนก็ไม่เห็นว่าจะขวางหูขวางตาแต่อย่างใด
    น่าเอาใจช่วยเสียด้วยซ้ำ
    แต่อุปสรรคก็ใช่ว่าจะน้อยเสียเมื่อไหร่ หล่อนรำพึงในใจอย่างคร่ำครวญ
    “โถ คุณชายของนม รักใครก็ไม่รัก มารักพ่อหนุ่มคนนี้ ถึงจะเหมาะกัน รักกันแค่ไหนแต่ท่านชายกับหม่อมก็คงจะยอมไม่ได้แน่ๆ คุณชายเอ๋ย นมเอาใจช่วยให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนี้ไปได้นะคะ”

     ภาสกรเดินมาถึงตัวรถ ก็พบว่านทียืนพิงประตูรถอยู่อย่างสบายใจ มองบรรยากาศรอบๆ อย่างสงบเห็นต้นผกากรองริมรั้วก็เข้าใจว่าทำไมวังนี้ถึงชื่อว่าวังผกากรอง พอได้ยินเสียงภาสกรเดินเข้ามาก็หันมามองยิ้มให้เขาแม้จะมีประกายโศกอยู่ในแววตาก็ตาม
    “นทีเป็นอะไร ยังไม่หายเกร็งจากท่านพ่อหรือทำหน้าเศร้าเชียว”
    หนุ่มน้อยเจ้าของชื่อส่ายหน้าตอบว่า “ตอนอยู่เฉพาะพักตร์ก็ยอมรับครับว่าเกร็ง กลัวพูดผิดพูดถูก แต่มาตอนนี้ไม่กลัวแล้ว” พยายามยิ้ม แต่เสียงก็ฟังดูเศร้าจึงตัดสินใจบอกเรื่องที่อยู่ในใจ “ผมเห็นคุณชายกอดกับนมแล้วก็อดคิดถึงแม่ไม่ได้”
    “โถ่” ภาสกรยิ้มให้กำลังหนุ่มน้อย ส่ายหน้าเบาๆแล้วก็รวบอีกฝ่ายเข้ามากอด “ไม่ต้องคิดมาก ผมกับนมสนิทกันอย่างนี้ แต่ก็สนิทกันแค่กับนมคนเดียว หม่อมแม่ และท่านพ่อต่างก็ดุและเข้มงวดกันทั้งคู่ ผมไม่เคยได้กอดพ่อแม่อย่างนี้เลย คุณกับผมไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกคุณ”
    โชคดีที่ตรงนั้นไม่มีใครผ่านไปผ่านมา อีกทั้งรั้วไม้ก็สูงพอจะกีดกันสายตาคนที่มองมาตรงนั้นได้ดีพอควร สองหนุ่มจึงกอดกันได้นานหน่อยจนนทีพูดว่า
    “คุณชายเดี๋ยวใครมาเห็น”
    ภาสกรยิ้มให้นทีก่อนจะถอนตัวออกจากหนุ่มคนรัก
    “คุณก็รู้ใช่ไหม ว่าถ้าคุณอยากกอดใครคุณก็มีผมให้กอดอยู่ทั้งคน จะคิดถึงพ่อแม่ก็ได้ผมไม่ว่าหรอก แต่อย่าทำหน้าเศร้านะครับ... คนดี”
    ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ แม้ทั้งคู่จะจูบกอดพลอดรักกันในที่สาธารณะไม่ได้ ทั้งคู่ก็ไม่เก็บมาเป็นปมด้อย เพราะทั้งภาสกรและนทีต่างก็เห็นตรงกันว่า ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เขารักกันคนอื่นไม่จำเป็นต้องมารับรู้ จะกอด จะจูบกันก็ทำในที่ลับตาคนได้ไม่จำเป็นต้องทำอวดสายตาภายนอก
    ไม่ใช่เพราะทั้งคู่เป็นชายรักชายหรอก แต่เพราะทั้งคู่เป็นคนไทยสังคมไทยไม่เห็นด้วยกับการพลอดรักกันในที่สาธารณะอยู่แล้ว จะเป็นคู่ชายหญิงสังคมก็มองว่าไม่ดีเช่นกันถ้าจะแสดงออกมากอย่างนั้น ภาสกรและนทีเข้าใจสังคม  เขาจึงมั่นใจว่าสังคมก็จะเข้าใจพวกเขาด้วยเช่นกัน... ถ้าทำตัวเหมาะสมอย่างดีละก็
    
 หม่อมวิไลวรรณ และทิฆัมพรกลับถึงกรุงเทพก่อนวันเกิดของภาสกรหนึ่งวันพอดี เพราะทิฆัมพรมีคิวถ่ายละครที่พัทยาในวันนั้นด้วยถ่ายเสร็จก็มาเจอกับหม่อมที่วัง หม่อมโทรมาบอกลูกว่าจะมาเยี่ยมถึงที่วังพัทยาในเช้าวันถัดมาพร้อมท่านชายเรืองเดช และนมอุ่น ถือว่ามาพักตากอากาศ และในคืนนั้นซึ่งเป็นคืนวันเกิดของภาสกร ทั้งหมดก็วางแผนกันว่าจะทำอาหารเลี้ยงกันง่ายๆที่วังนี้ เชิญหมอมิ่งเมือง และ บ้านสุวรรณฉายมาด้วย ซึ่งข้อหลังทิฆัมพรไม่ค่อยเห็นด้วยนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเออออตามหม่อมวิไลวรรณ
    โชคดีของภาสกรที่วันนั้นนทีไปทำงานที่ร้าน chez moi กะเช้าวัน เพื่อแลกกะให้ได้หยุดในเย็นนั้น มางานวันเกิดคุณชายได้ หม่อมวิไลวรรณก็เลยไม่ได้เจอกับหนุ่มน้อยนอนเอกเขนกอยู่ในบ้านราวกับเป็นบ้านของตัวเอง
    “ชายภาส” หม่อมแม่ กางแขนโอบเขาเข้าไปกอดทันทีที่เห็นลูกชาย “ท่านพ่อรับสั่งว่าอ้วนขึ้นดูมีน้ำมีนวลเห็นจะจริงตามที่ว่าดูสดชื่นมีความสุขมากทีเดียวจ้ะ งานไม่หนักนักใช่ไหมลูก ดีจริง สมกับที่เป็นเจ้าของวันเกิดดูมีความสุขดีจังเลยแม่เห็นก็ชื่นใจหรือเพราะรู้ว่าหนูฟ้ามากับแม่ด้วยจ๊ะ ถึงได้หน้าตาอิ่มเอมอย่างนี้”
    หล่อนว่าแล้วก็จูงทิฆัมพรเข้ามาในบ้านด้วย
    ภาสกรหน้าเจื่อนทันทีที่เห็นทิฆัมพรเดินเข้ามา หล่อนใส่เสื้อยืดสีขาวบางจนเห็นชุดชั้นในสีสดที่อยู่ข้างใน กางเกงยีนส์ขายาวฟิตเปรี๊ยะราวกับเอาสีมาทา เขาไม่เข้าใจว่าแต่งตัวอย่างนี้แล้วทำไมหม่อมแม่ของเขาถึงยังไม่ว่าอะไร ทั้งๆที่ฝ่ายนั้นเกลียดผู้หญิงแต่งตัวโป๊เสียยิ่งกว่าอะไร
    “สวัสดีค่ะพี่ชาย”
    “สวัสดีทิฆัมพร สบายดีหรือ” เขาถามไปอย่างนั้นเอง แต่ก็ไม่ได้รอคำตอบพอถามเสร็จก็หันไปหาแม่ แล้วบอกว่า   “คุณแม่ พรุ่งนี้เพื่อนผมจะมาทำกับข้าวเลี้ยงทุกคน ผมนัดเขาว่าจะออกไปซื้อของสดกันที่ตลาด ขออนุญาตคุณแม่ออกไปนะครับ คุณแม่กับทิฆัมพรพักผ่อนตามสบายเถอะครับ ผมไปละ”
    “อ้าว ได้ยังไงล่ะจ๊ะทำไมไม่ให้แม่กับหนูฟ้าไปด้วยเล่า จะได้ช่วยเลือก เพื่อนของชายคนนี้ชื่ออะไรล่ะจ๊ะ แม่รู้จักหรือเปล่า ใช่ตาปีเตอร์ที่อยู่ดอร์มเดียวกับชายตอนเรียนอยู่ลอนดอนหรือดปล่า”
     ภาสกรงงไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน ก็เลยตอบเรียงทีละคำถามจากหลังสุดไปแรกสุดจะได้ไม่สับสน “ไม่ใช่เจ้าเตอร์หรอกครับ คุณแม่ไม่รู้จักหรอก เขาชื่อนทีเป็นคนพัทยาผมรู้จักเขาเพราะมาช่วยงานผมตอนจัดงานแฟชั่น เขาเป็นคนทำกับข้าวเก่งคงเลือกอาหารได้ดี แต่ถ้าคุณแม่กับทิฆัมพรอยากไปด้วยก็ไปซีครับ”
    “อ้อ พ่อที่ไปเยี่ยมพ่อวันนั้นหรือ” ท่านชายตรัสขึ้นหลังจากยังไม่ได้รับสั่งอะไร เพราะพูดไม่ทันหม่อมของท่าน ภาสกรรับคำหม่อมแม่ของเขาก็ชิงถามขึ้น
    “คนไหน เยี่ยมอะไรกันคะท่านพี่ หม่อมฉันไม่รู้เรื่อง”
    “เพื่อนตาชายคนนี้อุตส่าห์หามะม่วงน้ำดอกไม้สุก หวานหอมถูกใจฉันไปเยี่ยมถึงวังผกากรอง เป็นเด็กดีมีสัมมาคารวะ พ่อชอบใจเชิญเขามางานด้วยนะชายภาส เอาเพื่อนคนอื่นมาเมาเละเทะเสียงดังโฉงเฉงพ่อไม่ชอบ”
    “กระหม่อม”
    “เออ เพื่อนคนนี้เป็นคนสกุลไหนล่ะชาย” หม่อมวิไลวรรณถามเป็นคำถามแรกเสมอที่ลูกชายแนะนำใครให้หล่อนรู้จัก
    “เขาไม่ใช่คนใหญ่คนโต มียศมีศักดิ์หรอกครับคนธรรมดาเท่านั้น” วิไลวรรณคงลืมไปแล้วว่าหล่อนเคยพบนทีมาก่อนที่โรงพยาบาลจึงไม่ได้ว่าอะไร เพียงชักสีหน้าเหมือนดูแคลนว่าคนที่หล่อนกำลังจะไปพบที่ตลาดเพื่อช่วยเลือกของให้ลูกชายนี้ เป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาเท่านั้น หล่อนจำชื่อนทีไม่ได้เลยถ้าเป็นคนไม่มีสกุลใหญ่โตละก็หล่อนก็ไม่คิดจะจำชื่อให้เปลืองเนื้อที่สมองของหล่อนหรอก
    ภาสกรจึงยอมให้วิไลวรรณและทิฆัมพรตามไปด้วย โดยไม่รู้เลยว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองได้พบนที ทำให้เขาและคนรักแทบเอาชีวิตไม่รอดทีเดียว!

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
ยินดีที่ได้อ่านเรื่องนี้อีก
เอาใจช่วยคุณชายและนที
แน่นอนว่าต้องรวมถึงคุณฟ้าม่วงด้วย หวังว่าที่บ้านปลอดภัยจากวิกฤติน้ำท่วมนะคะ
:กอด1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ทิ้งท้ายไว้ให้ค้าง

ออฟไลน์ MM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จะมีดราม่ามาเร็วๆนี้ไหม๊หนอ ... คงต้องรอดุกันต่อไป

Chiren

  • บุคคลทั่วไป
ตอนหน้า ดราม่าชัวร์

ชายภาส จะเอาตัวรอดได้ไหม อ่ะ

มาต่อไวๆนะค่ะ อยากอ่านอีก

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ถึงขนาดแทบเอาชีวิตไม่รอดเลยเหรอ คุณฟ้าม่วง อะไร จะโหดจะใจร้ายกับคุณชายและน้องน้ำ ขนาดนั้น

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
ตอนหน้านี่ เราจะได้ชิมน้ำมาม่ากันแล้วใช่มั้ย

ออฟไลน์ MoPPeT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด