รวมเรื่องสั้นคั่นเวลา: เรื่องสุดท้าย: บนเส้นทางสายนิรันดร ตอนจบ P.4 (20/6/55)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รวมเรื่องสั้นคั่นเวลา: เรื่องสุดท้าย: บนเส้นทางสายนิรันดร ตอนจบ P.4 (20/6/55)  (อ่าน 30721 ครั้ง)

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

_______________________________________________

เหตุเนื่องมาจาก เขียนนิยายเรื่องล่าสุด เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ทำให้เริ่มเอียนกับตัวละครเดิมๆของตัวเอง

อย่าติสท์ให้มากนักถ้าพี่รักแล้วน้องจะหนาว

ดังนั้น หึหึ กระผมขอมีพื้นที่ระบายอารมณ์ เขียนพลอตที่พรั่งพรูอยู่ในหัว ออกมาบ้าง
รวมถึงเอาไว้คั่นอารมณ์ ตามหัวข้อกระทู้เลย เวลาเอียนๆนิยายเรื่องหลัก เรื่องสั้นในกระทู้นี้จะโผล่ขึ้นมา แหะๆ
แต่ไม่ทิ้งทั้งสองเรื่อง ทั้งเรื่องสั้นและนิยายแน่นอนครับ
สำหรับเรื่องนี้ อยากจะเขียนเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองบุคคลที่สามดูบ้าง
อาจจะไม่สละสลวยเหมือนมืออาชีพ
และขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านครับ  :L2:

_____________________
สารบัญนิยาย by Glorious
1. หรือจะเก็บรักไว้ในสายลม

2. อย่าติสท์ให้มากนัก ถ้าพี่รักแล้วน้องจะหนาว

3. กรุ่นกลิ่นรวงข้าว

รวมเรื่องสั้นคั่นเวลา by Glorious
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2012 22:56:35 โดย ลำนำบุหลันครวญ »

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ความสุขบนเส้นขนาน ตอนที่๑

“เก่ง ...กินอะไรมั้ย เดี๋ยวกูซื้อมาฝาก”
“ไม่ล่ะ ... ไม่รู้จะเอาอะไร ไปเที่ยวให้สนุกเถอะไนซ์” เก่งตอบชายหนุ่มผมตั้ง ในชุดหล่อเฟี้ยวด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
“ตามใจ งั้นกูไปแล้วนะ”

รูมเมทร่างผอมโปร่งเดินออกจากห้องไปพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี ทิ้งชายหนุ่มผิวสองสีอีกคนไว้เบื้องหลังหน้ากองหนังสือ
เก่งขยับแว่นให้กระชับกับดั้งจมูก ก่อนจะยิ้มให้กับบานประตูที่ปิดลง ... นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และคนแรกที่ไนซ์ไปออกเดทหรอก แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่เก่งก็เลิกนับไปแล้ว ที่มันรักๆเลิกๆกับแฟนทางเน็ตของมัน  ในความรู้สึกของเด็กหนุ่มแว่นผิวสองสี ... การหาแฟนทางนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ... ถ้าเราจริงใจให้กับคนๆนั้น และมันก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเปิดเผยตัวตน ให้คนที่เป็นเหมือนกันได้รับรู้ ... เพียงแต่ดูเหมือนว่า สมัยนี้ ... ไอ้เว็บไซด์หาคู่ทางอินเตอร์เน็ตเนี่ย ... มันกลายเป็นช่องทางในการขายตัว รวมถึงหาคู่ข้ามคืนไปซะมากกว่า

เด็กหนุ่มที่ดูสุขุมกว่าเคยถามเพื่อนที่ดูกร้านโลกตรงๆเหมือนกัน ว่ามันจริงจังแค่ไหน กับการหาคู่ในเน็ตของมัน และคำตอบที่ได้ทำให้เก่งใจชื้นขึ้นมาบ้าง ... ว่าลึกๆแล้วมันก็หวังว่ามันจะเจอคนดีๆเหมือนกัน ... แต่มันมันคงยังไม่เจอ เพราะอย่างที่บอกนั่นแหละ ว่าคนๆนี้เป็นคนที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เด็กหนุ่มผู้รักแฟชั่นอย่างไนซ์

“เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนกางเกงใน” เป็นคำพูดที่เก่งบอกไนซ์เสมอ เมื่อไนซ์โชว์รูปคนที่ไนซ์กำลังสนใจคนใหม่ให้ดู และเพื่อนรักสุดเชยก็ทำได้แค่ยิ้มแหยๆ ไม่ตอบโต้อะไร และเด็กหนุ่มอีกคนก็จะตอบด้วยประโยคเดิมๆของมัน
“ของแบบนี้มันก็ต้องลองคบ ลองตามหาดู ... ไม่ไปหามันจะเจอหรอวะ ความรักน่ะ”
“แล้วทำไมไม่ลองหยุดพัก ให้ความรักตามหาเราดูมั่งล่ะ”เก่งย้ำด้วยประโยคเดิมๆ
“เก่ง ถ้ามึงจะพูดทฤษฎีผีเสื้อบินมาเกาะไหล่เองเหมือนที่มึงบอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่าน่ะนะ ... มึงเลิกพูดเถอะ กูว่ามันเป็นอะไรที่มันแบบ...ทฤษฎีเกินไปว่ะ เพราะถ้ามึงจะเอาทฤษฎีมาอ้าง กูก็จะใช้ทฤษฎีของกูมาอ้างมึงเหมือนกัน ว่าไม่มีความสำเร็จใด ที่ไม่เกิดจากความพยายามหรอก”

แล้วเก่งก็ต้องหุบปากลง ถึงไนซ์จะเป็นเพลย์บอย เปลี่ยนแฟนไม่เลือก แต่ถ้าเถียงกับมันเรื่องปรัชญา ชายหนุ่มแว่นหนาก็ไม่เคยเถียงชนะ แต่ก็ไม่เคยแพ้หรอก ... อาจจะเรียกได้ว่า เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่เก่งกับไนซ์อาจจะมีจุดยืนที่ต่างกันเท่านั้นเอง

ทั้งสองคนรู้จักกันตอนเข้ามหาลัย และได้เป็นรูมเมทหอในของมหาลัย ... เหมือนอะไรก็ดูเป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อได้คุยกันก็ได้รู้ว่า ทั้งคู่ยังเป็นเด็กปีหนึ่งวิศวะคอมเหมือนกันเสียอีก ... ทำให้ต่างคนต่างก็สนิทกันในเวลาอันสั้น

แต่ถึงจะสนิทกันยังไง ทั้งเก่งทั้งไนซ์ก็คงเป็นเหมือนแสงกับเงา

ไนซ์เป็นคนช่างเจรจา ในขณะที่เก่งมักเลือกที่จะเจรจาเมื่อจำเป็น  ...

ไนซ์ชอบปล่อยมุกฮาๆ ทำตัวเด่น เป็นจุดสนใจ แต่เก่งชอบที่จะอยู่เงียบๆในมุมที่ตัวเองรู้สึกว่าปลอดภัย

ไนซ์ชอบอ่านหนังสือตอนใกล้ๆวันสอบ ในขณะที่เก่งชอบที่จะทบทวนทุกวัน และอยู่หน้าจอได้นานสองนานกับภาษาคอมพิวเตอร์ที่คนทั่วไปบ่นว่าชวนอ้วก

อาจจะมีที่เหมือนกันเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ ... ทั้งสองคน ... ชอบเพศเดียวกัน

ความจริงนี้ถูกเปิดเผยจากวันหนึ่งที่ไนซ์ถามขึ้น ... สำหรับไนซ์นั้นดูไม่ยากเลย ... เพราะบุคลิกสำอางของมัน รวมถึงความไม่เคอะเขิน ที่จะเดินเข้าไปทำความรู้จักผู้ชายหน้าตาน่ารักๆ ทุกคนที่ผ่านสายตา
แต่สำหรับเก่ง ... มักเลือกสงวนท่าที รวมถึงแต่งตัวเรียบๆตามแบบของตัวเอง ...
ทั้งคู่ดำเนินชีวิตต่างกันสุดขั้วจนจบปีหนึ่ง ...

เค้าว่ากันว่า ผีเห็นผีด้วยกัน น่าจะจริง
ในวันกินเลี้ยงสอบเสร็จที่บางแสน เป็นวันที่ทั้งคู่ต่างรู้ถึงเพศสภาพของเพื่อนสนิท
คืนนั้นเก่งปลีกตัวออกมาเดินรับลมที่ชายหาด พร้อมกับแก้วเป๊ปซี่ ในขณะที่อีกคนที่เดินตามมาเงียบๆ ถือแก้วบรรจุน้ำอำสีพันมา

“มาเดินถ่ายเอ็มวีอะไรเงียบๆคนเดียววะ อกหักหรือไง”
“มึงเคยเห็นกูเคยจีบใครรึไงวะไนซ์ กูจะไปอกหักได้ยังไง”
“นั่นน่ะสิ ... มึงไม่เคยมองสาวๆในมอเราเลย ...แม้แต้หมาตัวเมียกูก็ไม่เคยสนใจ”
“ใครจะเหมือนมึงล่ะ มองหาแต่ตัวผู้”
“แล้วมึงล่ะเก่ง ... มองตัวผู้แบบกูหรือเปล่า” เพื่อนรักถามขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“ทำไมมึงถามแบบนั้นวะไนซ์”
“ก็ ... ปีหน้าเราก็ขึ้นปีสองแล้วไง กูอยากย้ายไปอยู่หอนอก ... แต่กูเป็นแบบนี้ มึงว่าใครจะอยากมาเป็นเมทกูวะเก่ง”
“เพื่อนกันจริงๆ เค้าไม่คิดเรื่องหยุมหยิมแบบนี้หรอกน่า”

“กูรู้ ... แต่ยังไงซะ มันก็ต้องคิดกันมั่งแหละ ผู้ชายแท้ๆน่ะ ต่อให้บอกว่ารักกันไม่แคร์หรอกว่ามึงเป็นเกย์ แต่ถ้าให้มากินอยู่หลับนอนด้วยกันเป็นปีๆ เชื่อเถอะร้อยทั้งร้อยไม่มีใครกล้าหรอก” ไนซ์ทอดมองไปยังเกลียวคลื่น ก่อนจะพูดต่อ “กูถึงถามมึงไง ... แต่ถ้ากูมองอะไรผิดไป กูขอโทษนะ”

เด็กหนุ่มอีกคนยิ้มให้กับคิ้วย่นๆจากความกังวลใจของเพื่อนสนิท “เค้าว่าผีมันเห็นผีด้วยกันจริงๆ”
“เอ๋ ...”
“กูเป็นผู้ชาย ...ที่ชอบผู้ชายเหมือนมึงนั่นแหละว่ะ”เก่งตอบด้วยรอยยิ้มที่พยายามประดิษฐ์ให้อีกคนยิ้มตาม
“ฮ่าๆๆ กูว่าแล้ว ... แสดงว่าเซนส์กูใช้ได้”
“มึงเคยมีแฟนมายังวะเก่ง”
“ก็ ...เคยมี สมัยเรียนมอปลาย แต่เลิกกันแล้วล่ะ”
“อ้าวทำไมวะ ทะเลาะกันหรอ”
“เปล่าหรอก ... น้องเค้ายังไม่อยากมีแฟน”
“ถุย ... ไม่อยากมีแฟน แล้วตอนแรกมาตกลงคบกับมึงทำกล้วยไรวะ”

“ก็ ...กูชอบน้องเค้า ลองคุยกันปีนึง แล้วก็ขอเป็นแฟน ส่วนน้องเค้าก็บอกว่ากูเป็นคนดี ก็เลยตกลงคบกัน ... แต่พอคบๆกันไป มันเหมือนกับน้องเค้ายังรักอิสระ ยังชอบอยู่กับเพื่อน แล้วเค้าก็รู้สึกว่า เค้ายังไม่พร้อมจะมีแฟนน่ะ เลยเลิกกัน”

“อ้อ แล้วไง ...สุดท้ายมันก็ไปควงคนใหม่”
“เปล่าหรอก ... น้องมันยังไม่อยากมีแฟนจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกัน เป็นพี่เป็นน้องกันอยู่”
“โถ มึงนี่พระเอกจริงๆ ว่าแต่มึงเป็นพระเอกหรือนายเอกวะเนี่ย” ไอ้ไนซ์ถามด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“อะไรของมึงวะ พระเอกนายเอกเนี่ย”
“โธ่ ...มึงนี่ไม่เคยอ่านนิยายเกย์หรือไงวะ เอาเป็นว่า มึงเป็นรุกหรือรับวะ”
“กูไม่รู้หรอกว่ะ ตอนคบกับน้องเค้ากูก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนั้น”
“โถ .... พ่อพระของกู ... นี่มึงจบแล้วมึงจะไปทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์หรือมึงจะไปเป็นเจ้าคณะจังหวัดวะเนี่ย”
“เออน่า ... กูมันไม่ได้เชี่ยวเหมือนมึงหรอก ว่าแต่มึงล่ะ มึงเป็นแบบไหน”

“กูหรอ ... ไม่รู้ดิว่ะ กูคงเป็นโบทมั้ง แต่กูก็ยังไม่เคยหรอกนะ แล้วก็คิดว่าถ้ารับแม่งคงเจ็บชิบหาย แต่ถ้าแฟนกูเค้าเป็นรุก แล้วถ้ากูรักเค้ามากๆ กูก็คงยอมมั้ง....เอ๊ย ทำไมคุยไปคุยมามันวกมาเรื่องใต้เข็มขัดได้วะเนี่ย เอาเป็นว่า ... มึงจะย้ายมาอยู่หอนอกกับกูมั้ยเก่ง”

“ก็ได้ ไม่มีปัญหา”
“ขอบใจว่ะ กูโคตรดีใจเลยมึงรู้มั้ยเก่ง ... อย่างน้อยคนอย่างเราอยู่ด้วยกัน มันก็สบายใจกว่าการอยู่กับผู้ชายแท้ๆ ถ้าเผื่อกูหน้ามืดไปทำอะไรเข้า เสียเพื่อนแย่”
“แล้วมึงไม่กลัวมึงหน้ามืดมาทำอะไรกูมั่งหรอวะ”

“กับมึงน่ะหรอ ฮ่าๆๆ ไม่หรอกว่ะ .... กูสนิทกับมึงจนหมดอารมณ์ทางเพศกับมึงแล้วมั้ง ...แถมมึงยัง ไร้อารมณ์ขันขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกัน ... ต่อมขำกูคงตายด้าน”
“ก็ดี ... เพราะถ้าได้มึงมาเป็นแฟน กูก็คงจะปวดหัว ... เจ้าชู้ชิบหาย จีบไปทั่ว”
“เฮ้ยถึงกูจะจีบไปทั่ว แต่ถ้าใครที่กูคิดว่ากูรักเค้าจริงๆ กูก็พร้อมจะหยุดนะเว้ย”
“เออ กูหวังว่ากูจะได้เห็นก่อนเรียนจบนะเว้ย”

 

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
 :mc4:ตามมาเชียร์เรื่องใหม่
จะเป็นแนวไหนหนอเรื่องนี้

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
:z13: จิ้มเรื่องใหม่
ติดตามน๊า~

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
อืม... น่าคิดนะ ระหว่างออกไปไขว่คว้าหารักด้วยตัวเอง กับ รอให้ผีเสื้อบินมาเกาะไหล่ แบบไหนดี ?
น่าสนใจยิ่งกว่า คือ เรื่องนี้จะเป็นแนวไหน ? จะได้เตรียมตัว เตรียมอารมณ์ถูก  :m13:

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ความสุขบนเส้นขนาน (ต่อ)

ชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆถูกวางลงบนโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้อง พร้อมกับที่ชายหนุ่มผิวสองสีเรียกคนที่นอนซมอยู่บนเตียง
“อ่ะมาม่า กินซะหน่อย”
“ขอบใจเว้ยเก่ง ... ต้องลำบากมึงทุกที” ไนซ์ลุกขึ้นมาอย่างอ่อนเพลีย พลางนั่งลงบนพื้นเพื่อจัดการกับบ่ะหมี่ตรงหน้า
“ไม่เบื่อรึไงวะ เลิกกับแฟนคนที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แล้วก็เมามาแบบนี้ทุกที”
“มึงจะให้กูทำยังไง ก็กูเสียใจ พอกูจะจริงจังกับใคร แล้วกูก็โดนหลอกทุกที”
“ก็บอกให้ลองอยู่นิ่งๆ ให้ความรักมาหาเราบ้างไง”
“กูก็ตอบมึงแบบเดิมๆนั่นแหละ ...เรื่องของเรื่องก็แค่ไอ้พวกที่ผ่านๆมามันยังไม่ใช่” ชายหนุ่มในสภาพอิดโรยพูดพลางคับเส้นบะหมี่หงิกงอในชาม

“เก่ง ... มึงเคยชอบใครบ้างมั้ย กูเห็นวันๆมึงก็ขลุ่กอยู่กับคอมกับโปรเจคของมึงเนี่ย”
“ของเราเว้ย ไม่ใช่ของกู”
“เออ กูรู้ แต่มึงจะรีบไปไหนวะ โปรเจคจบส่งตั้งเทอมหน้า มึงรีบทำซะกูเกรงใจเลยเนี่ย”
“มึงจะมาช่วยกูเลยก็ได้ หรือมึงจะยังไม่ทำกูก็ไม่ว่าหรอก เพราะสุดท้าย คนที่ทำคนนั้นก็จะได้ประสบการณ์ไปใช้จริงในการทำงาน ส่วนเรื่องคะแนนน่ะกูไม่หวงหรอก”
“อ้อ นี่แสดงว่ามึงกำลังจะบอกว่า มึงแค่เอาชื่อกูใส่คู่กับมึงสินะ”
“เปล่า ... กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ก็อยากให้มึงคิดเอง”
“เออๆ ขอกูทำใจอีกหน่อย เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง”
.
.
.
หลังจากที่ลากเพื่อนรักให้ออกจากโลกอินเตอร์เน็ตได้สำเร็จ ทั้งสองคนก็ช่วยกันทำโปรเจคกันจนเสร็จก่อนเวลาส่งจริงหลายเดือน ทำให้เวลาว่างในปีสุดท้ายของทั้งคู่มีมากขึ้น

เก่งเลือกที่จะอุทิศตัวให้กับเพื่อนในคณะคนอื่นๆ ที่ยังทำงานไม่เสร็จ ส่วนไนซ์เองก็เช่นกัน
ช่วงเวลาแห่งการเป็นนักศึกษากำลังจะผ่านพ้นทั้งสองคนไป ... เหมือนสายลม

สายลมของแต่ละคนนั้น แตกต่างกันออกไป ถ้าใช้หัวใจฟังให้ดีๆ
สายลมกำลังบอกบางสิ่งกับเรา และก็อยู่ที่ตัวเรา ว่าเราตั้งใจฟังเสียงกระซิบที่สายลมพยายามจะบอกเราหรือไม่

“เก่ง กูถามมึงจริงๆ มึงไม่เคยมองใครบ้างเลยหรอวะ สี่ปีของการเป็นนักศึกษาเนี่ย” ไนซ์ถามขึ้น พลางยกกระป๋องเบียร์กระดกลงคอที่ริมระเบียง
“อยากให้กูตอบจริงๆมั้ยล่ะ” เก่งพูดลอยๆ พลางทอดมองไปยังคลองเล็กๆหลังหอพัก
“เอ้า ไอ้ห่านี่ กูคงอยากฟังคำตอบตอแหลๆของมึงหรอกมั้ง”
“หึหึ” ชายหนุ่มผิวสองสียิ้มเรียบๆ ก่อนจะพูดต่อ “ก็มีเหมือนกันแหละ”
“จริงดิวะ ... แล้วมึงทำไง จีบเค้าหรือยัง กูเห็นวันๆมึงขลุ่กอยู่กับตำรากับคอม”

“ก็ ... ไม่ได้ทำไงหรอก จะว่าไงดี จะว่ากลัวความรักก็ไม่ใช่ ไม่อยากมีก็ไม่เชิง กูก็แค่มีความสุขในจุดที่กูยืนก็เท่านั้น”
“การแอบรักเนี่ยนะ มีความสุข”
“เปล่า ... กูไม่ได้แอบเลยไนซ์ กูคิดว่ากูออกจะเปิดเผยซะด้วยซ้ำ สิ่งที่กูทำให้คนๆนั้น ถ้าเค้าใช้หัวใจมอง ... เค้าต้องรู้ว่ากูคิดยังไงกับเค้า ... ซึ่งเค้าก็คงไม่คิดอะไรกับกูหรอกมั้ง เค้าถึงไม่เคยรู้สึกอะไรเลย แต่มึงรู้มั้ย กูกลับมีความสุข”
“โห ... พระเอกอีกแล้วมึง รักเค้าโดยไม่หวังให้เค้ารักตอบสินะ”

“ทำนองนั้นมั้ง ... เพราะกูกับคนๆนั้นคงเป็นเหมือนเส้นขนาน กูกับเค้าไม่มีอะไรเหมือนกันเลย แต่กูก็ไม่เข้าใจนักหรอก ว่ากูไปรักคนๆนั้นได้ไง ทั้งที่ต่างกันขนาดนี้ แต่กูก็ดีใจ ที่ได้เห็นคนๆนั้นยิ้ม ได้ดูแลเวลาเค้าอ่อนแอ ถ้าถามว่ากูมีความสุขยังไง มันก็คงเป็นความสุขที่อยู่บนเส้นขนาน ที่ได้เห็นการเดินทางของคนๆนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มและสิ่งดีๆ แม้ว่าจะไม่มีเราอยู่บนทางเส้นนั้นก็ตาม “

“โหย ... ไอ้เก่ง มึงทำกูเกือบอ้วก ปรัชญาของมึงครั้งนี้ล้ำลึก ครั้งนี้กูคงต้องยอมแล้วล่ะ ... แต่ปรัชญามึงแต่ละอย่างเนี่ย แม่งขัดกับจุดยืนกับกูทุกทีสิ”
“ทำไมล่ะ เห็นขัดกับกูอีกสิ”

“ขึ้นชื่อว่าความรัก กูคิดว่ายังไงซะมันก็สวยงาม ต่อให้กูต้องเจ็บเจียนตายกับความรักอีกสักกี่หน แต่กูก็จะไม่เข็ด ไม่กลัวที่จะลองเริ่มต้นและค้นหาอีกครั้ง และถ้ากูมีคนที่กูรักแบบมึง กูจะบอกเค้าด้วยคำพูด ไม่ใช่การกระทำ”
“มึงไม่เคยได้ยินหรอไนซ์ การกระทำดังกว่าคำพูด”
“แล้วถ้ามึงจะทำให้เค้ารู้ว่ารัก แต่มึงไม่บอกเค้า เค้าจะรู้ได้ไง การกระทำคำว่ารักของมึงมีเสียงยังไง กูเคยได้ยินแต่เสียงป้าบๆ กับตับๆ”
“ฮ่าๆ งั้นมึงไปแสดงการกระทำรักกับคนอื่นเถอะ คงไม่ใช่แนวของกูแล้วล่ะ”
.
.
.
เวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับกระพริบตา เก่งและไนซ์มองหน้ากันพร้อมด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆห้องที่เคยใช้ชีวิตนักศึกษาร่วมกันเป็นเวลาสามปี ความทรงจำดีๆหลายอย่างฝังแน่นไปทั่ว ไม่ว่าจะโต๊ะญี่ปุ่นที่เคยวางกลางห้องสำหรับนั่งทำการบ้านและกินข้าว เตียงนอนที่เคยนอนด้วยกัน ประตูห้องน้ำที่ชายหนุ่มร่างโปร่งเคาะเรียกอีกคนที่กำลังอาบน้ำเพราะท้องเสียอย่างหนัก

เรื่องราวทั้งหมด กำลังจะกลายเป็นแค่ความทรงจำ ที่ทิ้งพยานวัตถุไว้เบื้องหลัง หากแต่บันทึกไว้ในสมองของคนทั้งคู่
“ขนของหมดแล้วนะ เช็คดูหรือยังลืมเอาอะไรไปอีกหรือเปล่า”
“เก็บซะเหี้ยนขนาดนี้ ไม่มีอะไรรอดตาอีกแล้วล่ะไอ้เก่ง”
“อืม ... งั้นมึงลงไปก่อนเลยไนซ์ เดี๋ยวกูขอเช็คอีกรอบ แล้วจะตามลงไป”
อดีตรูมเมทยิ้มรับ ก่อนจะทำตามเพื่อนสนิทอย่างว่าง่าย
ประตูถูกปิดลง พร้อมด้วยรอยยิ้มของอีกคน ที่ชอบยิ้ม ... ให้กับบานประตูที่ปิดลงเมื่อเพื่อนรักเดินจากไป และทิ้งเค้าให้อยู่ในความเงียบ
เก่งเดินไปที่ลิ้นชักข้างเตียงฝั่งที่ตัวเองเคยนอน ก่อนจะดึงลิ้นชักนั้นออกมาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ชายหนุ่มหยิบสมุดบันทึกเล่มสีเลือดหมู ที่เป็นสมุดบันทึกตอนที่มหาวิทยาลัยแจกให้ในวันปฐมนิเทศ พลางเปิดดูทีละหน้าช้าๆ
แม้ใบหน้าหลังกรอบแว่นจะมีรอยยิ้มเจืออยู่บางๆ แต่เมื่อเขาปิดสมุดเล่มนั้นลง เสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นจากคนที่กำลังถือสมุดอยู่
กระดาษโฟโต้ขนาดโปสท์การ์ดที่ถูกใช้แทนที่คั่นหนังสือได้ถูกดึงออกด้วยมือหนาๆ ชายหนุ่มมองรูปถ่ายใบนั้นด้วยรอยยิ้มที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
รูปถ่าย ที่มีหน้าของตัวเองกับหน้าของอดีตรูมเมท กำลังกอดคอและยิ้มให้กล้อง ในเสื้อยืดเพรชชี่
“จนวันสุดท้ายที่... กูก็ทำได้แค่ยิ้มให้มึง ...อยู่บนเส้นขนานแบบนี้ใช้มั้ยวะไนซ์”


ขอบคุณพี่ POPEA , Malula , Cherry Red นะครับ ที่ตามมาอ่านเรื่องสั้นไร้รสชาติแบบนี้ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้เขียนสนอง need ล้วนๆ  :กอด1: ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
บอกว่า"รัก"ด้วยการกระทำ

เจ็บแทนจัง

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ง่ะ ถ้าอยู่บนเส้นขนาน ยังไงมันก็คงไม่มีวันมาบรรจบกันอะนะ
เห้อ........

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เก่งกับไนท์เค้าจบกันแบบนี้เหรอคะ

อืมไม่ถึงกับเศร้าแต่อึนๆอ่ะ 555

ปล.+1ให้ค่ะ  และรอเรื่องต่อไปหรือตอนต่อไปน้า

ช่วยเปลี่ยนหัวข้อด้วยจ้าจะได้รู้ว่าอัพใหม่

 :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มีความสุขบนเส้นขนานแล้ว ต่อไปก็มีความสุขให้มากขึ้นกับการยืนอยู่บนเส้นเดียวกัน
ได้ไหมค๊ะ เขียนต่ออีกนะค๊ะ  :pig4:

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
สองคนนี้สมกับเป็นตัวแทนในทฤษฏีที่ตัวเองเชื่อจริง ๆ สิน่า
ต่างแนวคิด ต่างวิถี ต่างการกระทำ แต่ในความต่าง ก็มีความลงตัว ( ไม่งั้นไม่อยู่เป็นรูมเมทกันยืดแบบนี้หรอก )
ไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร? แต่บางที อาจจะมีสักวันที่.....เส้นขนานจะมาบรรจบกันก็ได้นะ  :m1:

ไม่เห็นจะเป็นเรื่องสั้นที่ไร้รสชาติตรงไหนเลย ถ้าจะให้เปรียบคงเหมือน ขนมปังกับเนยที่จัดมาวางให้ทานพลาง ๆ
ก่อนที่จานหลักจะเสิร์ฟกระมั้ง ? ประมาณว่า ใช้เวลาทานไม่นาน พออิ่มท้อง และรสชาติละมุนละไม
ว่าแล้วก็โฉบไปหาจานหลักอย่าง พี่เต้-น้องเจ๋ง ต่อ :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2011 18:43:45 โดย Cherry Red »

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
ตอนแรกยังคิด... สองคนนี้เป็นรูมเมตกันได้ไงเนี่ย จริงๆ ชอบมุมมองแบบเก่งนะ แต่วิธีแสดงออกคงต้องดูคนรับด้วยล่ะ
เพราะว่าบางคนไม่บอกก็ไม่รู้จริงๆ นะเออ ไนซ์อาจจะกลัวเข้าข้างตัวเองไม่ก็อยากเก็บคนดีๆ ไว้เป็นเพื่อนมากกว่าจะได้รู้กันไป

ถึงจะเป็นความสุขบนเส้นขนานแต่ยังไงความเป็นเพื่อนก็ยืนยาวกว่าความเป็นแฟน เก่งคงอยากเก็บความทรงจำดีๆ เอาไว้เนอะ
แต่ว่า มันยังไม่จบนิเรื่องนี้? (เค้ายังไม่เห็นคำว่าจบอะ 555)

เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :3123:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
จุก อึ้ง เก่งทำได้ไง ทนอยู่ได้ไงตั้งสี่ปี
มันไม่ใช่เรื่องรักที่ไร้รสชาตินะ มันทั้งหวาน ทั้งขมเลยล่ะ

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1

ความสุขบนเส้นขนาน ต่อ๒

“เอ้า ยิ้ม ... หนึ่ง สอง สาม” เก่งฉีกยิ้มให้กับกล้องในวันงานรับปริญญาของเขา กับไนซ์ วันรับจริงมีคนมากันคับคั่งตามที่ชายหนุ่มคาด
 
เปลวแดดที่แผ่รังสีร้อนแรงรวมถึงผู้คนที่คลาคล่ำทำให้เก่งและไนซ์พลัดหลงกัน ยังดีที่เก่งไม่หลงกับญาติๆ แต่ถึงอย่างไร ใบหน้าของเพื่อนรักที่หายไปก็ทำให้ชายหนุ่มยิ้มหม่นๆ และถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ
 
ลานบัวเหล็กกลางสนามโดดเด่นเป็นสง่า ... มีความเชื่อที่รุ่นพี่ที่จบไปก่อนหน้านี้เล่าสืบต่อกันมาว่า ถ้านักศึกษาคนใดไปถ่ายรูปกับบัวเหล็กนี้ก่อนเรียนจบ จะเป็นเหตุให้ไม่สามารถเรียนจบที่สถาบันแห่งนี้ ... แม้ความเชื่อนี้จะดูเป็นแค่ความเชื่อ แต่เก่งก็ไม่เคยเห็นนักศึกษาคนใดเข้ามาลองดี .... กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีไว้สำหรับบัณฑิต .... เช่นเขาในวันนี้

“เอ้า ....เก่ง คิดว่าจะไม่ได้เจอมึงซะแล้ว” ใบหน้าขาวๆของชายหนุ่มร่างโปร่ง โบกมือทักทาย หลังจากโพสท์ท่าให้ช่างกล้องชักภาพเสร็จ
“อยู่นี่นี่เองมึง” เก่งยิ้มรับ พลางเดินเข้าไปหาเพื่อนรัก
“ใครๆก็อยากมาถ่ายหน้าบัวเหล็กทั้งนั้นแหละ กว่าจะได้มาถ่าย ต้องอดทนกันตั้งสี่ปีนี่นา”
“งั้น... ถ่ายกับกูสักรูปสิ”
“ได้สิวะ ...ไอ้เก่ง”
.
.
.
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รูปภาพวันรับปริญญาของเก่งก็ถึงมือเจ้าของ ญาติๆรวมถึงตัวเก่งเองนั่งพลิกดูทีละอัลบั้มช้าๆ ก่อนจะถึงรูปคู่ ที่เก่งถ่ายคู่กับเพื่อนรักหน้าบัวเหล็กของมหาวิทยาลัย ก่อนที่รูปนี้ จะถูกแยกออกมา และถูกแปะไว้ ... ในสมุดบันทึกสีเลือดหมู
.
.
“เป็นไงมั่งมึง โบนัสปีนี้” ไนซ์ถามขึ้นจากด้านหลังของเก่ง ที่กำลังนั่งรอเจ้าของเสียงด้านล่างของอาคารสำนักงานแบ่งเช่าที่อยู่ข้างๆกัน
“ก็...ดีกว่าไม่ได้ ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก มึงล่ะไนซ์”
“เศรษฐกิจแบบนี้ บริษัทไหนๆก็เหมือนกันแหละว่ะ แต่ก็พอจะมีสะตุ้งสะตังค์พาเมฆมันไปเคาท์ดาวน์ที่เชียงใหม่สักสองคืนอยู่”
“แล้วเป็นไงบ้างคนนี้ ... ดูมึงคบนานสุดแล้วนะเนี่ย ถึงปียังวะ”
“เกือบละ วาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ก็ครบปีพอดี”
“แสดงว่าคนนี้เป็นคนดีสินะ ถึงเอามึงอยู่ด้วยได้นานขนาดนี้”
“-วยเหอะ กูเป็นคนดีต่างหาก เค้าถึงเลือกกูเป็นแฟนน่ะ”
“เออๆ ดีก็ดี เอาเป็นว่า ขอให้มึงเที่ยวให้สนุกกับน้องเค้าแล้วกัน”
“แล้วมึงไม่ไปเคาท์ดาวน์ที่ไหนหรอวะเก่ง”
“คงไม่หรอกว่ะ คนไม่มีแฟนอย่างกูเหมาะกับการนอนอยู่บ้านมากกว่า”
“ก็หาสิวะ หรือมึงยังรอไอ้ผีเสื้อเวรนั่นมาเกาะไหล่มึงอยู่”
“ไม่หรอก ไม่ได้รอแล้วล่ะ ผีเสื้อตัวนั้นมันคงชอบที่จะอยู่บนไหล่คนอื่นมากกว่า กูว่างั้นนะ”

ไนซ์ตบไหล่เพื่อนสนิทเบาๆ ก่อนจะพูดให้กำลังใจ “มึงก็ต้องลองหาดูสิวะ ผีเสื้อไม่ได้มีตัวเดียวในโลกหรอกน่า”
“ขอบใจนะ แต่กูอย่างนี้ก็มีความสุขดีแล้วล่ะ ความสุขจากการมองข้ามไปยังเส้นขนานอีกเส้นไง”
“เฮ้อ .... มึงนี่มันเกินเยียวยาจริงๆ กูล่ะอยากเห็นคนๆนั้นของมึงจังว่ะ”
.
.
.
“เมาแต่หัววันเลยนะมึง” ชายหนุ่มผิวสองสีที่เริ่มมีผมสองสีแล้วเช่นกันตบบ่าอดีตรูมเมท ที่กำลังเมาตาเชื่อมอยู่บนโต๊ะ ภายในงานเลี้ยงรุ่น ที่จัดขึ้นทุกปีในร้านอาหารริมคลองแห่งหนึ่ง

หลายคนในรุ่นเปลี่ยนไปเยอะ ... หลายคนดูภูมิฐาน หลายคนก็ดูลงพุง หรือโทรมลงไปตามกาลเวลา
สำหรับไนซ์ ... อาจจะดูผอมแห้งลงไปพอสมควรจากการกรำงานหนัก แต่ในสายตาของเพื่อนรักอย่างเก่ง ไนซ์ก็ยังเป็นไนซ์ ที่เคยกอดคอกันในชุดเฟรชชี่

“ก็ .... นิดหน่อยว่ะ มีเรื่องต้องคิดเยอะเหมือนกัน นึกแล้วกูก็อยากกลับไปอยู่สมัยเรียนกับมึงนะ ไม่มีเรื่องให้ต้องคิดมากมายขนาดนี้”
“เรื่องอะไรวะ เรื่องเงิน เรื่องงาน หรือเรื่องแฟนล่ะมึง”
“ไปคุยกันข้างนอกเถอะว่ะ ... ไม่ได้เจอมึงนาน ได้ระบายกับมึงสักหน่อยก็ดี”
เก่งขมวดคิ้วกับความทุกข์ใจของอดีตรูมเมท แต่ก็เดินตามไปเงียบๆ จนคนตรงหน้ามาหยุดที่ชานระเบียงภายในร้าน พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด
“กูจำได้ว่า ... มึงไม่เคยดูดบุหรี่นะไนซ์”
“ก็...เครียดๆ เลยลองดูดดู ช่วยได้นิดหน่อย”
“ออกแนวน่าสมเพชนะ ติดบุหรี่ตอนแก่เนี่ย”

“สมเพชกูเถอะ เพราะกูคิดว่าชีวิตกูตอนนี้แม่งน่าสมเพชอย่างที่มึงคิดนั่นแหละ” มือแห้งๆคีบบุหรี่ไว้ก่อนจะพ่นควันพิษออกมาช้าๆ
“มึงมีเรื่องเครียดอะไรขนาดนั้นวะ ... มึงดูเปลี่ยนไปจากไอ้ไนซ์ที่กูรู้จักเยอะเลยนะ”

“อืม ... กูเบื่อกับหลายๆอย่างว่ะ เบื่อความรัก ...ของคนอย่างพวกเรา ... กูพยายามลบคำสบประมาทนะ ที่ว่ารักแท้ไม่มีในหมู่เกย์ แต่พอกูลองคบใคร แล้วอยู่กันไปสักพัก ด้วยความที่ว่าเราไม่สามารถมีลูกได้ ความรักที่มันเริ่ม มันถึงค่อยๆนับถอยหลังลง แล้วก็จบลงทุกที กูเบื่อแล้วว่ะ แต่กูก็ไม่ได้อยากอยู่คนเดียวเท่าไหร่หรอกนะ”

“ตรรกะมึงดูขัดแย้งนะ อยากมีความรักแต่ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“กูรู้ ... แต่กูจะพูดยังไงดี บางทีกูก็คิดว่ารักแท้มันจะมีจริงๆมั้ย กับชีวิตคนอย่างพวกเราน่ะ”
“มีสิ... ทำไมจะไม่มี มึงเชื่อกูเถอะ”
“คงงั้นแหละมั้ง ... แต่กูชักจะเบื่อที่จะต้องตามหามันแล้ว และกูก็เหนื่อยกับการฝืนธรรมชาติด้วย ไม่ว่ายังไงผู้หญิงก็ต้องคู่กับผู้ชายนี่นา”

“เฮ้ย ...ไนซ์” เก่งอุทานกับคำพูดของเพื่อนรัก ในขณะที่อีกคนมีสีหน้าที่เรียบเฉยจนน่ากลัว
“มีผู้หญิงคนนึงเค้ามาชอบกูว่ะ ... และเค้าก็ฐานะดีด้วยนะ กูกำลังตัดสินใจ ว่าจะลองคบเค้าดูดีมั้ย ถ้ากูพอจะรักเค้าหรือมีอะไรกับเค้าได้ กูก็อาจจะตัดสินใจแต่งงานกับเค้า เพราะอย่างน้อย กูคิดว่า เค้าจะทำให้กูมีอนาคตที่ดีก็ได้”

ชายหนุ่มผิวสองสีบดกรามแน่น ก่อนจะกระชากคอเสื้อของอดีตเพื่อนรัก “กูว่าความคิดนี้ของมึงแม่งชั่วมาก และกูคิดว่า มึงควรจะล้มเลิกความคิดบ้าๆนี้ซะ ต่อให้มึงต้องเจอเรื่องจัญไรบัดซบแค่ไหน แต่กู...ก็ไม่อยากให้มึงต้องลากผู้หญิงที่เค้าไม่รู้เรื่องด้วยมาลงนรกกับมึงหรอก”

“ไอ้เก่ง มึงฟังกูดีๆสิวะ กูยังไม่ได้ตัดสินใจ กูก็แค่จะลองคบกับเค้าดู ถ้ากูทำใจได้ กูถึงจะแต่งงานกับเค้า”
“ไอ้เหี้ยไนซ์ มึงเป็นเกย์นะเว้ย ไม่ได้เป็นหวัด จะได้กินยาแล้วนอนก็หาย มึงเลิกความคิดบ้าๆอย่างนี้เลย ... กูไม่อยาก...”
“ไม่อยากอะไรไอ้เก่ง”
“กูไม่อยากเกลียดมึง ...ไนซ์ กูไม่อยากเกลียดมึง”มือที่ขยุ้มคอเสื้อของไนซ์อยู่คลายออกช้าๆ ก่อนที่เก่งจะหันหลังและเดินจากไป


วันนี้ต้องไปช่วยพี่สาวขนของหนีน้ำครับ เลยมาลงได้แค่เรื่องสั้น

ขอบคุณที่เข้ามาอึนมึนโฮกับอีตาสองคนนี้นะครับ

ตอนหน้าก็จะจบแล้วครับ ดังนั้นกลั้นใจอีกเฮือกนะครับ

theduchess : ต้องลองลุ้นครับ :laugh:

fuku : พี่ฟูกุก็ตามเรื่องดราม่าทุกทีสิน้า อิอิ  :กอด1:

hoomalone : อย่าร้องไห้นะครับ มันไม่เศร้าขนาดนั้นหรอกน่า

Nus@nT@R@ : เส้นขนาน ไม่มีวันบรรจบกันครับ แต่ว่าทั้งคู่จะอยู่บนทฤษฎีที่ว่าจริงๆหรือเปล่านี่สิ

 MiSS-U : ขอบคุณที่ติดตามเรื่องสั้นสัพเพเหระของผมครับพี่ แล้วก็ยังไม่จบนะครับ อ้อ วันนั้นรีบๆไปธุระ เลยลืมอัพเดทว่าจบหรือยัง แหะๆ โทษนะครับ

winndy : มาต่อแล้วนะครับ ส่วนสุขมั้ยก็ลองอ่านดู เหลือตอนหน้าอีกตอนจะจบเรื่องนี้แล้ว

พี่ Cherry Red  : มีทั้งจานหลัก ทั้งของกินเล่น อิ่มมั้ยล่ะครับ  :laugh:

พี่ เดหลี  : อ๊ากกกก พี่เดหลีมาอ่านด้วยอะ อายๆ เขียนไม่ดีเท่าแมวสี่ตัวของพี่เดหลี อ้อ คนที่พี่เดหลีว่า หนึ่งในนั้นคือผมครับ ถ้าไม่บอกว่ารักก็ไม่รู้ร้อกกกก (ที่ยังโสดก็เพราะทึ่มแบบนี้แหละ ฮาๆ)

yeyong : รอถอนหายใจอีกเฮือกพอครับ  :laugh:

malula  : ขอบคุณที่รู้สึกรสชาติของมันนะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2011 11:07:29 โดย Glorious »

- คราส -

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่าจบตั้งแต่ตอนที่สอง
สองคนมองความรักต่างกันจริงๆ
เชียร์ให้เป็นเส้นขนานต่อไป  o18

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนนี้ให้อารมณ์เกย์เฒ่าแสวงหารักซะจริง   :laugh:

เอาน่ะอายุก็ขนาดนี้แล้ว เก่งน่าจะสารภาพให้ไนท์รู้นะ

ถึงไงเพื่อนก็คงเป็นเพื่อนแม้ไม่ได้เป็นแฟน(มั้ง)

ปล.+1และเป็ดให้เหมือนเดิม ฮุๆๆ

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
ยังมีต่ออีกเหรอเนี่ย? นึกว่าตัดจบแบบให้คิดต่อเอาเอง ( เค้ากำลังจะจิ้นแบบเป็นสุข ๆ แล้วเชียว :o8:)
เนื้อหาตอนนี้น่าหนักใจนะค่ะ ทั้งที่สองคนนี้วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ กัน ไม่ได้ไปไหนไกลแท้ ๆ (ก็เค้าอยู่บนเส้นขนานนี่เนอะ)
คนที่ตามหารัก ก็หามาครั้งแล้ว ครั้งเล่า หามาทั้งชีวิต วนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่อย่างงั้น
คนที่รอผีเสื้อบินมาเกาะไหล่ ก็รออยู่เฉย  ๆ รออยู่นิ่ง ๆ อย่างงั้น มาทั้งชีวิตเช่นกัน
เฮ้อ...ความสุขบนเส้นขนาน คงจะหมายถึง เก่ง คนเดียวล่ะมั้ง ?

@คุณหนิง ตอบตามมารยาทว่า "อิ่ม" เพราะ ถ้าให้ตอบตามใจคิด เดี๋ยวจะหาว่า "กินจุ"  :m23:

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
เขียนดีออกนะเรื่องนี้ จริงๆ
ยังคงชอบเก่งอยู่  :o8: แต่คนเราน้าชอบไม่พูดกันตรงๆ
ตอนกระโดดช่วงวัยแอบตกใจนิดๆ กรี๊ด แป๊บเดียวหัวจะหงอกกันซะละ
รู้สึกว่า "กูไม่อยากเกลียดมึง" ของเก่ง คือ "กูไม่อยากเลิกรักมึง" อะจ้ะ เก่งน้าเก่ง  :really2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
อ่านไปก็ลุ้นไป จบเรื่องตอนหน้าคุณเก่งปากหนักจะสารภาพความในใจออกไปไหม :เฮ้อ:

คุณเก่งมีความสุขที่ได้อยู่บนเส้นขนาน แต่คนอ่านลุ้นมากว่าจะมีปาฏิหาริย์สร้างbypassเชื่อมระหว่างสองเส้นขนานนี้ไหม

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เก่งพอใจที่จะแอบรักไปเรื่อย ๆ ส่วนไนซ์ก็พยายามหารักแท้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เจอ
มันก็คงเป็นเส้นขนานไปจนสุดทาง แต่เก่งจะไปโกรธไนซ์ทำไมล่ะ

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ความสุขบนเส้นขนาน (ตอนจบ)

กระป๋องเบียร์ถูกยกขึ้นด้วยมือของเก่ง ... ความจริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่ดื่มเก่งเท่าไหร่ แม้แต่ตอนเรียนมหาลัยเขาก็แทบจะไม่แตะของมึนเมาเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่หน้าที่การงานต้องมีการเข้าสังคมบ้าง ก็ทำให้ชายหนุ่มค่อยๆเรียนรู้กับของมึนเมาเหล่านี้ได้

เก่งนั่งละเลียดเบียร์อยู่บนระเบียงชั้นสองของบ้าน ซึ่งเป็นบ้านที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เกือบสิบปีที่เขามานะพยายามในการทำงาน จากการเป็นโปรแกรมเมอร์เล็กๆในบริษัทหลายปี ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าในวัยสามสิบสอง
เขาใช้ปลายเท้าของเจ้าตัวแกว่งไปมาเตะกระป๋องเบียร์ที่กินหมดแล้วที่วางอยู่อย่างระเนระนาดอย่างไม่ใส่ใจ พลางครุ่นคิดถึงความสุขเล็กๆ ที่เก็บเอาไว้ลึกสุดใจตลอดระยะเวลาสิบปี ตั้งแต่สมัยเรียน ... ความสุข ที่เจ้าตัวเรียกมันว่า “ความสุขบนเส้นขนาน”

ชายหนุ่มรู้ดี ตัวเขาเองไม่มีอะไรที่เหมือนกับผู้ชายคนนั้นเลย เขาแทบจะไม่มีสิ่งที่ไนซ์ต้องการอยู่ในตัว ไนซ์ชอบคนที่ไปไหนไปกันกับเขา มีความคิดในแนวเดียวกัน หรืออย่างน้อยที่สุด เขาก็รู้ว่า คนธรรมดาอย่างเขาคงไม่มีอะไรให้คนอย่างอดีตรูมเมทสนใจ

ตลอดสิบกว่าปี ที่เก่งทำได้แค่เฝ้ามองคนที่รักมีความสุข และเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป รอยยิ้มของไนซ์เหมือนตราประทับที่คัดลอกลงมายังใบหน้าของเก่ง ทุกครั้งที่ได้มอง

เก่งยินดีจะยิ้ม ในวันที่ไนซ์ยิ้ม
เก่งมีความสุขมากมาย ในวันที่ไนซ์มีความสุขแม้เพียงน้อยนิด
เก่งอยากให้ไนซ์สบายใจ แม้ในวันที่ไนซ์ไม่สบายใจเพียงเล็กน้อย
แค่นี้แหละความสุขของเก่ง

แต่วันนี้ .... คนๆนั้น กำลังมีความทุกข์ ... กับการตามหา กับการดำรงชีวิต และทางออกที่ไนซ์เลือก มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง หรืออย่างน้อยที่สุด เขาคงไม่อยากให้คนที่เขารัก ต้องทำร้ายใคร ด้วยความรัก ...
สำหรับเก่ง ความรักนั้นสวยงาม และต้องไม่ทำร้ายใคร
.
.
.
“ไนซ์ เป็นไงมั่งวะ” โทรศัพท์ของเก่งถูกต่อสายไปหาคนที่คิดถึงอยู่ทุกห้วงความคิดในตอนนี้
“ก็เรื่อยๆ สบายดีตามอัตภาพ”
“แล้วตอนนี้ มึงอยู่ไหนวะไนซ์”
“กู ...อยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ....กับเก๋น่ะ”
“เก๋ ....เก๋ไหนวะ”
“เอ่อ ... คนที่กู ...กำลังลองคบๆกับเขาน่ะ”
“งั้นหรอกหรอ ... ถ้างั้น ... กูไม่กวนมึงแล้ว” เก่งวางสายลงพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางครุ่นคิดถึงเรื่องที่ยังปลงไม่ตก
ที่ผ่านมา เก่งยิ้มได้เสมอ เมื่อรู้ข่าวแฟนใหม่ของไนซ์คนแล้วคนเล่า และเฝ้าภาวนาให้ไนซ์กับคนที่ไนซ์เลือกรักกันนานๆ
....แต่ในวันนี้ มันแค่คล้ายๆ แต่ไม่ใช่
เขาจะมีความสุขถ้าคนที่เขารัก อยู่กับคนที่มันรักจริง
แต่คนที่มันกำลังจะตัดสินใจคบคนนี้ ... มันบอกว่าจะเป็นคนสุดท้าย
แล้วความรู้สึกที่ไนซ์มันมีให้ผู้หญิงคนนี้ มันจะมีความรักเจืออยู่บ้างมั้ย ?
คนที่เป็นรักร่วมเพศมาตลอดชีวิต ... จะสามารถเริ่มต้นชีวิตแบบผู้ชายปกติ ได้จริงๆหรอ?
“...กูคิดว่าไม่นะไนซ์”
.
.
.
เก่งขับรถไปที่เซนทรัลเวิลด์ด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างกับสิ่งที่เขาตัดสินใจ แต่อย่างน้อยที่สุด ชายหนุ่มก็คิดว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องทำอะไรบางอย่าง
“ฮัลโหล ไนซ์ มึงยังอยู่เซนทรัลเวิลด์มั้ยวะ”
“เออ ... อยู่ เก๋เพิ่งกลับไปเนี่ย”
“ดีเลย มากินเบียร์เพื่อนกูหน่อยสิ”
“ฮะ? มึงเนี่ยนะ ชวนกูกินเบียร์”
“เออน่า .... คิดซะว่ามาเจอเพื่อนเก่าไม่ได้รึไง”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร กูก็แค่แปลกใจเท่านั้นเอง”
.
.
.
ลานเบียร์เซ็นทรัลเวิลด์ช่วงหัวค่ำคนยังไม่พลุกพล่านนัก แต่เก่งกับไนซ์ก็ตัดสินใจมาหย่อนก้นละเลียดเบียร์กันเป็นโต๊ะแรกๆ
“เป็นไงมั่งล่ะมึง ว่าที่เจ้าสาวขบวนสุดท้าย โอเคมั้ย” ชายหนุ่มผิวสองสีถามขึ้นเป็นการหยั่งเชิงเกี่ยวกับสิ่งที่เขายังกังขา
“ก็ ...ก็ดี”
“งั้นหรอวะ สมัยเรียน เวลามึงพูดว่าก็ดีเนี่ย หมายความว่าคนนั้นไม่ผ่านนะเว้ย”
“งั้นหรอวะ ... กูคงลืมไปแล้วมั้ง แต่นั่นมันก็ตั้งหลายปีแล้ว กูบอกว่าดีมันก็ดีแหละ”
ชายหนุ่มหน้าถอดสีเมื่อได้ยินคำพูดของคนที่นั่งตรงข้าม พลางกระดกเบียร์จนหมดแก้ว “แล้วมึงยังจะ ...ตัดสินใจแบบนั้นอยู่มั้ย”
“อะไรของมึงวะเก่ง”
“มึงจะแต่งงาน....จริงๆหรอ”
“ก็ ... คงอย่างนั้น ถ้าคนนี้ไม่ใช่ก็คงดูคนอื่น” ชายหนุ่มอีกคนตอบง่ายๆ ก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่มบ้าง
“แล้วมึงจะรักผู้หญิงคนนั้นได้จริงๆหรอ ... ทั้งที่มึงก็เป็นแบบนี้”
“กูก็หวังว่ากูคงจะรักเค้าได้มั้ง ถ้ากูลองพยายามดู”
“นี่มันความรักนะเว้ยไนซ์ มึงมีสิทธิ์ที่จะพยายามทำให้ใครสักคนรักได้ด้วยการจีบ แต่มึงไม่สามารถที่จะพยายามรักคนที่มึงไม่ได้รักได้หรอก”
“...ไม่รู้สิ แต่กูยังไม่ได้ลองพยายามจริงๆจังเลยนะเก่ง”
“กูคิดว่าไม่มีทาง ที่คนอย่างพวกเราจะทำแบบนั้นได้”
“....อาจจะ เก่ง แต่ที่กูรู้แน่ๆ และกูใช้เวลาพิสูจน์มาหลายปี คือรักแท้ไม่มีในหมู่เกย์”

คำพูดของไนซ์ทำให้ต่างคนต่างเงียบ และจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
“ไนซ์ ... มึงรู้ตัวหรือเปล่า ว่ามึงน่ะมันพวกความอดทนต่ำ สมัยเรียน เวลาใครพูดผิดหูมึงหน่อย มึงก็ไม่พอใจเค้าแล้ว”
“จำได้สิ ... ไม่งั้นมึงจะอยู่กับกูได้หรอ เพราะมึงมันไม่เคยจะมีปากมีเสียงอะไรเลยนี่ ถึงอยู่กับกูได้ยันเรียนจบ”
“แล้ววันที่ความอดทนมึงหมดลง มึงจะยังมีความสุขอยู่หรอ แล้วมึงคิดว่ามึงจะทำผู้หญิงคนนั้นตกนรกทั้งเป็นหรือเปล่า

ชายหนุ่มผิวขาวเบือนหน้าหนี พลางถอนหายใจช้าๆ “อย่างน้อยที่สุด บั้นปลายกูก็คงไม่ต้องโดดเดี่ยว กูอาจจะมีลูกสักคนไว้ดูแลกูตอนแก่ก็ได้นะ”

เก่งหลับตาลงพร้อมกับกลืนน้ำสีอำพันจนหมดแก้ว .... บางทีอแลกอฮอล์บางๆที่เจออยู่ในเบียร์อาจจะทำให้ชายหนุ่มกล้าตัดสินใจเสียที
“ไนซ์ ... ถ้ามึงไม่อยากโดดเดี่ยว มึงลืมกูไปแล้วหรอ “
“กูไม่ลืมมึงหรอกเก่ง ... แต่มึงต้องเข้าใจนะ ว่าเพื่อนกับแฟนมันแทนกันไม่ได้”
“กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ไนซ์... กูก็แค่อยากให้มึงลองกลับไปคิดแบบก่อนหน้านี้ ที่มึงมองหาแฟนสักคน ...ที่เป็นผู้ชาย”
สายตาของคนผิวเข้มแน่วแน่และจับจ้องไปที่ตาของอีกคนที่เบิกโพลงด้วยความตกใจ สติเพียงเล็กน้อยที่พอจะมีอยู่สั่งการให้ไนซ์ถามซ้ำอย่างสับสน
“มึงหมายความว่าไงวะเก่ง”
“ถ้ามึงไม่รังเกียจ คนที่เฝ้ามองมึงเงียบๆมาตลอดเวลาสิบปี คนที่เค้ามีความสุขเวลาเห็นมึงยิ้ม และคน...ที่ไม่อยากเห็นมึงต้องทำร้ายคนอื่นด้วยความรัก....” มือหนาของเก่งเอื้อมไปจับมือของเพื่อนรัก ก่อนจะพูดต่อ “กูอยากให้มึงมองคนๆนั้นสักหน่อย”
“นี่ ....มึง” ไนซ์พูดด้วยเสียงอึกอัก แต่เก่งก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้คนที่เขารักได้ตั้งตัวมากนัก
“เมื่อก่อนนี้ กูคิดว่า กูมีความสุขแล้วที่ได้เห็นมึงมีความสุข กับคนที่มึงรัก ได้ทำอะไรต่อมิอะไรดีๆให้มึงมีความสุข กูพอใจในจุดนั้นแล้ว ... เพราะกูคิดว่านั่นแหละเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่กูจะมอบให้กับคนที่กูรักได้” ชายหนุ่มยิ้มด้วยดวงตาที่พยายามสื่อความหมาย อย่างน้อยที่สุด เขาก็ยังพยายามยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ว่าการกระทำดังกว่าคำพูด

“แต่ในวันนี้ ....ไนซ์ กูทำใจไม่ได้จริงๆ ที่มึงคิดจะทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งด้วยคำว่ารัก กูคิดว่า ถ้าวันหนึ่งเค้ารู้ขึ้นมา เค้าคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น รวมถึงเรื่องลูกของมึงก็ด้วยที่มึงหวังจะให้เด็กคนนั้นจะเป็นคนที่มึงจะฝากผีฝากไข้ได้ ... ลูกน่ะเป็นของขวัญจากพระเจ้านะไนซ์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มึงจะเลี้ยงไว้หวังใช้งาน .... ถ้าเด็กคนนั้นเกิดจากความรัก กูเชื่อว่านั่นจะเป็นโซ่ทองคล้องใจระหว่างคนสองคน แต่ถ้าไม่ใช่ แล้วมึงปล่อยให้เด็กคนนั้นเกิดมา มันจะกลายเป็นโซ่ตีตรวนที่ล่ามมึงไว้ให้ไปไหนไม่ได้ในวันที่รสหวานของสิ่งที่มึงคิดว่าเป็นความรักหมดรสชาติลง ... และในวันนั้น ทุกคนที่มึงลากเข้ามาเอี่ยวก็จะต้องเจ็บปวดกันทุกคน ....กูถึงไม่ยอม ที่จะทำให้คนที่กูรัก ต้องทำเลวๆแบบนั้น”

ไนซ์ยังคงตะลึงงันกับคำพูดที่พรั่งพรูออกจากปากเพื่อนรัก แววตาของคนที่นั่งตรงข้ามยังคงจ้องเขม็งแต่เป็นประกายเชื่อมราวกับชื้นแฉะน้ำตาบางๆ ก่อนที่เก่งจะพูดต่อ

“ถ้ามึงยังมองหาความรัก ในแบบที่มึงเคยยิ้ม เคยมีความสุขกับมันอยู่ ... มึงลองมองกูด้วยหัวใจสักหน่อย ... ได้มั้ยวะ ...หรือถ้ามึงอยากให้กูชัดเจนมากกว่านี้ ถ้าการกระทำของกูมันไม่ดังพอ กูก็จะบอกมึงวันนี้แหละไนซ์ ว่ากู ...รักมึงนะไนซ์”

มือของเก่งยังคงกุมมือของเพื่อนรักเอาไว้ พร้อมกับสายตาที่จ้องมองลึกลงไปยังดวงตาของอีกฝ่าย เพื่อค้นหาคำตอบ ... ก่อนที่ดวงตาของคนๆนั้นจะหรี่ลงพร้อมด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะเบาๆ

“กูเข้าใจแล้วเก่ง ... เอาเป็นว่ากูคงจะไปแต่งงานไม่ได้แล้วล่ะ ... ก็มึงขอร้องซะขนาดนี้นี่นา ... ส่วนเรื่องอื่น ....”ไนซ์ค่อยๆดึงมือของตัวเองออก จนอีกฝ่ายหน้าถอดสี แต่ก็ยังฝืนยิ้มไว้
“เราคงต้องลองนับหนึ่งกันใหม่ ... เพราะกูไม่เคยคิดแบบนั้นกับมึงเลย แต่ถ้าเราจะเริ่มนับกันตอนนี้ ก็ยังไม่สายหรอกเนาะ มึงว่ามั้ยเก่ง”

คนตัวดำค่อยๆฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวให้กับคำตอบของคนที่เขาเฝ้ารักเฝ้ามองมาตลอดสิบปีอย่างมีความสุข
..... ในวันนี้ และพรุ่งนี้ เก่งและไนซ์ต่างเริ่มนับหนึ่งเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกครั้ง และหาคำตอบให้กับตัวเอง ว่าคนๆนี้เป็นที่ใช่หรือยัง

.
.
.
ไม่มีทฤษฎีข้อไหน ที่จะตอบคำถามในจักรวาลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่ามนุษย์เป็นคนนิยามทฤษฎี และมนุษย์ก็เป็นเพียงเสี้ยวอณูของผงฝุ่นในจักรวาลเท่านั้น เหมือนกับเก่งที่เลือกที่จะให้รักตามหา แต่ความรักก็เล่นตลกให้เขาต้องออกแรงบ้าง ก่อนที่ความรักจะหลุดลอยไป หรือไนซ์ที่วิ่งหาความรักอยู่ร่ำไป โดยที่ไม่เคยรู้เลย ว่าความรักอยู่ใกล้ตัวขนาดไหน ราวกับขนคิ้วเหนือดวงตา





.... แด่ทุกดวงใจที่ยังใฝ่ในรัก ขอให้รักจงบังเกิด....





จบเรื่องที่ ๑

 

แหะๆ ได้ฤกษ์มาจบเรื่องนี้ซะที หลังจากที่ไปขลุ่กอยู่กับลุงเต้กับน้องเจ๋งพักใหญ่
วันนี้ของดลงน้องเจ๋งหนึ่งวัน และมาจบเรื่องนี้แทน
ตอนจบของเรื่องลุงเต้กับน้องเจ๋งเป็นวันพรุ่งนี้นะครับ เห็นบอกไม่อยากให้จบ  :laugh:
(คนเขียนโดนเหยียบ :z6:)

หวังว่าเรื่องแรกจะชอบกัน อย่างที่บอก กระทู้นี้เป็นกระทู้รวมเรื่องสั้นสนองตัณหา
ที่เอาไว้คั่นเวลาและอารมณ์คนเขียนเอง เวลาเอียนนิยายเรื่องหลัก
และปกติ เวลาผมนึกอะไรออก ผมจะบันทึกเอาไว้เป็นพลอต ซึ่งตอนนี้
อยากบอกว่า พลอตนิยายมีอยู่สองสามเรื่อง แต่พลอตเรื่องสั้น ยาวเป็นหางว่าวเลย ฮาๆๆ  :laugh:

แอบสปอย สำหรับเรื่องสั้นที่จะเขียนในนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ
ที่บังเอิญไปอ่านเจอ ฟังเพลง หรือผีสิงแล้วคิดออก  :laugh:
ดังนั้น บางเรื่องอาจจะไม่หวานหยด หรือฮาก๊าก แต่จุดประสงค์คืออยากนำเสนอแนวคิดมากกว่า

ขอบคุณที่เข้ามาเสพเรื่องสั้นคั่นเวลาของผมนะครับ

Glorious
นายหนิงหน่อง

 :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2011 05:52:49 โดย Glorious »

- คราส -

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ไนซ์นี่โชคดีนะ ที่เก่งรักแบบไม่มีเงื่อนไขมาตั้งเป็นสิบปี

ออฟไลน์ nco1236

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่า ในที่สุด เส้นขนานก็ขยับมาชิดกันจนได้
ดีใจกะเก่งด้วยที่พูดออกมาได้ซักที และไนซ์ก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับฟัง

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เค้าชอบนิยามตอนจบ
ไม่ได้ชอบนิยายเศร้านะแต่ชอบนิยายของ Glorious เท่านั้นแหละ
ปกติอ่านแต่นิยายเฮฮา เพราะชีวิตจริงเครียดพอแล้ว T__T

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
อืม...อ่านแล้วนึกถึงคำว่า "จังหวะชีวิต" ขึ้นมาเลยล่ะ
การบอกความรู้สึกของเก่งคงต้องเป็นช่วงเวลานี้ คือ ก่อนหน้านี้ อาจจะเสี่ยงไม่สมหวัง รอนานกว่านี้ก็สายไป หรือหมดโอกาส
โชคดีที่เอื้อมมือไปรับผีเสื้อที่กำลังจะหมดแรงไว้ได้ทัน ( ลุ้นแทบแย่  o7 )
ดีใจที่เส้นขนานได้มาบรรจบ(สักที) จากนี้ทั้งสองคนจะเริ่มนับ 1 ใหม่และก้าวไปพร้อมกันบนเส้นเดียวกัน (เส้นรอบวง? )


ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด