ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one  (อ่าน 334202 ครั้ง)

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
« เมื่อ14-11-2007 12:02:28 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ










ขออนุญาติลงนิยายของเพื่อนนะจ๊ะ   ติชมกันเยอะๆก็ดีนะ  คนแต่งจะได้มีกำลังใจ

เรื่องของผมก็ไม่มีอะไรมาก ชอบไม่ชอบยังไงบอกมาได้นะครับ

ตอนที่1

ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมชื่อ โอม  เรียนจบบัญชี จากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง
    ตอนที่ผมเลือกเรียนวิชาบัญชีก็ไม่มีอะไรมากคือมีบัญชามาจากที่บ้าน   ซึ่งมีธุรกิจค้าขายอยู่ต่างจังหวัดในอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง ในจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน      
ที่จริงที่บ้านผมก็มีพี่น้องหลายคน แต่ส่วนใหญ่พี่ๆผมจะเรียนวิศวะกัน ผมก็อยากเรียนนะ แต่สมองอาจจะด้อยกว่าพวกพี่ๆหน่อยเลยขอมักน้อยเอาแค่บัญชีละกัน  อย่างน้อยก็คงจะมีประโยชน์กับที่บ้านมั่งล่ะ

พี่น้องทุกคนที่บ้านผมถูกส่งมาเรียนในกรุงเทพฯตั้งแต่เด็กๆ   เพราะพ่อแม่อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  พวกเราพี่น้องตั้งแต่ตอนที่เรียนหนังสือชั้นมัธยมก็อยู่กันเองครับ พวกผมมีบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ ทุกคนดูแลตัวเอง ถึงเวลาแม่ก็เอาเงินมาให้  เป็นชีวิตที่อิสระดี แต่ก็ทำให้ความใกล้ชิดกับพ่อแม่น้อยลงไป  แต่ไม่มีใครออกนอกลู่นอกทางเลยครับ  เป็นความภูมิใจของที่บ้านมาก

เล่าไปซะเพลินกลับมาเรื่องของผมกับการทำงานดีกว่า ตอนที่จบใหม่ๆที่บ้านก็ไม่ได้บอกว่าจะให้กลับมาช่วย ผมก็เลยตามเพื่อนๆไปสมัครงานหลายแห่ง เนื่องจากผลการเรียนที่ค่อนข้างดีก็เลยได้หลายที่ แต่ผมก็เลือกที่ๆเพื่อนในกลุ่มผมเข้าได้เยอะที่สุด จำได้ว่าตอนนั้นสิบกว่าคน

ที่ทำงานของผม เป็นสำนักงานตรวจบัญชีครับ   เป็นที่รวมนักบัญชีจำนวนมากส่วนใหญ่ก็มาจากสถาบันดังๆทั้งนั้น แต่ละคนก็มีแต่เก่งๆกันทั้งนั้น   ในการทำงานจะแบ่งเป็นสายตามหัวหน้า     ก็แล้วแต่ดวงใครดวงมันหัวหน้าบางคนก็ใจดีบางคนก็เขี้ยวจริงๆ      ในแต่ละสาย ก็จะมีรุ่นพี่หลายๆรุ่นจบก่อนเราปีนึงหรือสอง สามปีก็ว่าไป พี่ๆก็คุมงานน้องๆเด็กใหม่อีกที  งานของเราก็คือการเข้าไปตรวจบัญชีของแต่ละบริษัทว่าทำบัญชีได้ถูกต้องตามควรหรือเปล่า สถานที่ทำงานของผมก็เลยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ

ผมได้อยู่สายพี่เพ็ญเป็นรุ่นพี่คณะประมาณ 5ปี พี่เพ็ญเป็นคนโผงผางออกทอมๆหน่อยพูดเสียงดัง แต่ใจไม่มีอะไร  พี่ที่รองลงมาก็มีพี่ส้ม พี่ก้อง พี่ต่าย เวลาออกไปทำงานน้องๆก็ตามพี่แต่ละคนไป บางที่ก็ไป2 คนบ้าง 3 คนบ้าง  แล้วแต่ว่างานเร่งไม๊ ในสายยังมีเพื่อนคณะที่จบมาก่อนด้วยชื่อ เนย  จะว่าไปเนยก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่ในการทำงานเพราะทำมาก่อนครึ่งปี  
แต่วันที่ผมเข้าไปไม่มีพี่ๆอยู่เลยเพราะออกไปทำงานข้างนอกหมด ผมก็เลยเจอแต่พี่เพ็ญ  เพื่อนรุ่นเดียวกันที่เข้ามาพร้อมกันมีอีก 2 คน หญิง 1 ชื่ออ้อม  ชาย 1 ชื่อหมี  

หลังจากเราผ่านการอบรบพนักงานใหม่ประมาณ 1 เดือน   เด็กใหม่ทุกคนก็ถูกส่งเข้าสาย แต่ตอนแรกๆเนื่องจากยังว่างอยู่ พี่เพ็ญก็ให้ไปเอาแฟ้มงานของปีก่อนๆมาศึกษาเพื่อเตรียมตัวเข้างานของปีนี้ อ่านไปอ่านมาก็นั่งคุยบ้าง หลับๆตื่นๆกันบ้าง ตามประสาเด็กที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไร

“โอม เธอรู้จักเนยไม๊ ที่อยู่สายเราน่ะอยู่มหาลัยเดียวกะเธอนี่  ”อยู่ดีๆอ้อมก็ชวนคุยขึ้นมาขณะที่ผมกำลังเคลิ้ม ใกล้จะหลับล่ะ “ไม่รู้จักหรอก แต่ไม่แน่ใจนะเห็นหน้าอาจจะอ๋อ เพราะว่าคงเคยเห็นที่คณะ แต่ไม่เคยคุยด้วยหรอก ผมไม่มีเพื่อนชื่อนี้” คนในมหาลัยเยอะมาก แล้วก็แบ่งเป็นกลุ่มๆ ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ป๊อปอะไรมากนัก  นับว่ารู้จักเพื่อนต่างกลุ่มน้อยมาก
“เห็นเค้าว่าเก่งนะ จบ 3 ปีครึ่ง นี่เห็นพี่เพ็ญบอกว่าออกไปกะพี่ส้ม” อ้อมยังสงสัยไม่เลิก
“ก็คงงั้น แต่ผมก็เก่งนะ แต่ไม่รู้จะรีบจบไปทำไม เรียนสบายๆดีกว่า หุหุ แอบยอตัวเอง”
“หูย คนอะไรขี้โม้ ยังไม่ทันไรเลย กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าตัวเองเก่ง”
แล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงใครไม่รู้ลอยมา
“เก่งไม่เก่งมันต้องออกไปทำงานก่อน  คนเราจะคุยยังไงก็คุยได้” เสียงแบบเย็นชาสุดๆใครว่ะเริ่มกวนกันแล้ว  ไอ้พูดอย่างนี้ต้องเจอมิใช่น้อย

พอผมหันไปดู นักกีฬาว่ายน้ำที่ไหนว่ะ หุ่นสุดยอด สูงประมาณ 180 กว่าๆ ไหล่กว้าง  ขาว ตี๋  ใส่แว่นแต่หน้าแบบว่าไม่ยิ้มเลย หน้าตาไม่แสดงอารมณ์เฉยสุดๆ   จะว่าหล่อก็ไม่ใช่ จะว่าไม่หล่อก็ไม่เชิง รวมๆกันแล้วน่ามอง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใคร แต่ว่าถ้าหน้าแบบนี้เอาวะ ยกให้ทีนึง แต่ตอนที่หันไปนะซิ ผมก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าเค้าคงเห็น เลยส่งมาให้อีกดอกนึง

   “เห็นมาเยอะล่ะ พวกที่ว่าเก่งๆ เกียรตินิยม พอทำงานจริงๆ ไม่ได้เรื่อง”
อ้าวพูดอย่างนี้ที่ยกให้ผมขอคืนแล้วกัน    ไรกันฟะหาเรื่องกันอยู่ได้
“แหมพี่ต่ายก็ ก็แค่คุยกันเล่นๆ เป็นจริงเป็นจังไปได้” หมีเพื่อนผมก็เลยแทรกขึ้นมาบ้าง  เออหมีมึงเพื่อนกรู   แต่ไอ้พี่กระต่ายน่ะกรูไม่นับเว้ย  คนไม่รู้จักกัน ทำไมต้องมาว่ากรูด้วย
แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้คุยกะพี่ แล้วพี่มาเคียดอะไรกะผม(ว่ะ)

ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนนี้เลยเงียบไว้ก่อนดีกว่า  พูดไปเดี๋ยวจะมีเรื่องไปกันใหญ่เปล่าๆ
หมีเห็นบรรยากาศชักไม่ดีเลยรีบแนะนำ เพราะคงเห็นผมกับอ้อมทำหน้าเหรอหรา “เฮ้ยโอม อ้อม นี่พี่สายเราพี่ต่าย พอดีเป็นรุ่นพี่มหาลัยน่ะ ผมเลยรู้จักก่อน”

“สวัสดีครับ/ค่ะ พี่”เราประสานเสียงพร้อมประสานมือกันไหว้ไอ้คุณพี่กระต่าย
“อือ” พี่กระต่ายพูดแค่เนี้ย แล้วเดินไปเลยเข้าไปหาพี่เพ็ญในคอก  เออพี่เป็นคนมารยาทดีจังพี่ อบอุ่นกับน้องใหม่มากเลยพี่ ผมไม่ทันดูด้วยซ้ำว่าพี่เค้าได้ทัน มองหน้าผมกับอ้อมหรือเปล่า แล้วพี่เค้ายกมือรับไหว้หรือเปล่า ไอ้หมีเองก็ทำหน้างง งง
แต่ผมเริ่มรู้ละว่าการทำงานมันคงไม่สนุกอย่างที่ผมคิดไว้ ถ้าผู้ร่วมงานเราแสดงความมีมิตรจิตมิตรใจขนาดนี้ เฮ้อชีวิตผมจะเป็นยังไงต่อไปนะ
****************************************************************************

จะพยายามมาลงให้ต่อเนื่องทุกวันครับผม   รักทู๊กกกกกโคนนนนนน


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 20:47:37 โดย THIP »

niph

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #1 เมื่อ14-11-2007 12:09:50 »

มาเจิม

โพสทุกวันก็ดีนะ จะได้ไม่ขาดตอน
แล้วจะมาติดตามดู แต่อาจจะไม่ได้เม้นบ่อยนะ
 :m7: :m7: :m7:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #2 เมื่อ14-11-2007 13:12:22 »


พอผมหันไปดู นักกีฬาว่ายน้ำที่ไหนว่ะ หุ่นสุดยอด สูงประมาณ 180 กว่าๆ ไหล่กว้าง  ขาว ตี๋  ใส่แว่นแต่หน้าแบบว่าไม่ยิ้มเลย หน้าตาไม่แสดงอารมณ์เฉยสุดๆ   จะว่าหล่อก็ไม่ใช่ จะว่าไม่หล่อก็ไม่เชิง รวมๆกันแล้วน่ามอง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใคร แต่ว่าถ้าหน้าแบบนี้เอาวะ ยกให้ทีนึง แต่ตอนที่หันไปนะซิ ผมก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าเค้าคงเห็น เลยส่งมาให้อีกดอกนึง

บรรยายซะขนาดนี้ ตกลงว่าอีพี่ต่ายนี่ เป็นพระเอกใช่มะ  :m21:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #3 เมื่อ14-11-2007 15:13:42 »

ขอเจาะไข่แดงหน่อยนะ   :give2:

แล้วมาต่อเร็วๆนะจ๊ะ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #4 เมื่อ14-11-2007 21:34:37 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ yoki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • บ้านนิยายมือสอง
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #5 เมื่อ14-11-2007 21:52:13 »

เป็นกำลังใจให้น่ะ :m1: :m1: :m1:

มาอัพไวๆๆล่ะ :m11: :m11:

ติดตามอยู่จ้า :m18: :m18:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #6 เมื่อ14-11-2007 22:02:48 »

เรื่องนี้ท่าทางน่ารัก น่าหยิก  :m1:  :m1:  :m1:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #7 เมื่อ14-11-2007 22:33:10 »

หุหุ มาร้ายและไม่สมชื่อต่าย
หรือจะเป็นกระต่ายยักษ์อ่ะ ดุโคตรๆ
 o21

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #8 เมื่อ15-11-2007 10:53:37 »

ตอนที่ 2 แบ่งทีม

 
วันนั้นจนเลิกงาน ผมก็ไม่เห็นพี่เค้าออกมาจากคอกพี่เพ็ญเลย แต่เห็นเอางานให้พี่เพ็ญดู แล้วก็ปรึกษากัน จนห้าโมง พวกผมยิ่งว่างๆก็กลับบ้านซิ พวกเราเด็กใหม่(ผมชอบคำว่าเด็กจัง ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งจบ อะไรๆมันดูดีไปหมด) 3 คนเลยเข้าไปบอกพี่เพ็ญ

“พี่เพ็ญครับพวกผมกลับก่อนนะ” ผมเป็นตัวแทนพูดขึ้นมา   

“เออ พวกเอ็งกลับไปเลย พี่ต้องอยู่ต่อคุยกะต่ายก่อน ไปเลย ไปเลย”

แล้วไอ้พี่ต่ายก็เงยหน้าขึ้นมานิดเดียวครับ ตามองผมซัก 2 วินาทีได้ แล้วย่นคิ้ว(เข้มๆ)เล็กน้อย ทำหน้าแบบว่า

“เด็กพวกนี้เป็นใครกัน?????” แล้วก็ก้มหน้าดูงานต่อครับ ไม่สนใจพวกเราเลย
เออพวกผมมันสูญญากาศมั๊ง ไม่เป็นไรไม่รู้จักก็ได้  ทำงานกันตั้งหลายคนคงไม่ซวยสุดๆต้องไปทำกะไอ้พี่บ้านี่หรอก

“พี่เค้าดูดุๆไงไม่รู้เนอะหมี โอม น่ากลัวจัง ดีที่หล่อนะเนี่ย ไม่งั้นหน้าพี่เค้าเรายังไม่อยากมองเลย” อ้อมเดินไปบ่นไป ระหว่างเราเดินไปที่ป้ายรถเมล์กัน

“พี่เค้าใจดีมากนะ ตอนที่อยู่มหาลัยแล้วแบบว่าเก่งมากๆ ขนาดแกไม่ค่อยเข้าเรียนเกรดยังกระฉูดตลอด แต่ไม่ค่อยพูดนะ”(แต่เรื่องนี้เด็กๆไม่สมควรเอาอย่างเพราะเป็นความสามารถส่วนบุคคล) หมีพูดขึ้นมาบ้างฐานที่รู้จักกันมาก่อน

ผมเลยอดแสดงความเห็นไม่ได้“หน้าเงี้ยนะหล่อ อ้อม งั้นๆแหล่ะขาวซีดจะตาย  แล้วที่หมีว่าใจดี ขนาดไม่รู้จักกันยังกัดผมซะเลือดสาด นี่ว่าขากลับจะแวะหาหมอ”

“อ้าวเป็นไร”อ้อมถาม

“ไปฉีดยากันหมาบ้า ไม่รู้จะโดนกัดอีกเมื่อไหร่” ผมก็สู้คนนะ มาแขวะกันงี้อดโกรธไม่ได้ :m16:

“เอ้ย โอมพี่เค้าคงพูดเล่นน่าอย่าคิดมาก เดี๋ยวคบๆไปก็เข้าใจเอง” หมียังอดโปรโมทพี่คณะตัวเองไม่ได้

“อ้อมขอบอกนะ อ้อมไม่ไปกะพี่ต่ายเด็ดๆเลย กลัว แล้วยิ่งหมีว่าพี่เค้าเก่งกลัวทำงานตามไม่ทัน เรามิกลายเป็นพวกโง่ไปเลยเหรอ”

“อือ ช่าย เราก็ไม่ไป ใจดีนักหมี คุณก็ไปกะเค้าละกัน”ผมอดเสริมอ้อมไม่ได้

“เราเลือกได้ด้วยเหรอว่าจะไปกะใคร ผมไม่แน่ใจ ฮึอ้อม”

“ไม่รู้ แต่เราจะคุยกะพี่เพ็ญ ยังไงผู้หญิงก็น่าจะไปกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ” อ้อมคงกะเอาความเป็นหญิงมาหลีกเลี่ยงพี่ต่าย แล้วผมจะเอาอะไรดีล่ะ จะเอาความเป็นชายก็ดูแปลกๆ อือคืนนี้ต้องกลับไปคิดวิธีการ ว่าจะเอาไงดี

“เออน่า ยังไงช่วงนี้เราก็คงอยู่ออฟฟิซอีกนาน พวกคุณอย่าเพิ่งกังวลไปเลย” หมีนี่ดีนะปลอบใจตลอด เสียอย่างเดียวไม่หล่อ ไม่งั้นสาวๆน่าจะชอบ ดูเป็นคนใจเย็นดี ดีที่อยู่สายเดียวกัน คงพอพึ่งพากันได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------
วันรุ่งขึ้นผมไปถึงที่ทำงาน 7.30น.  แต่เนื่องจากเข้างาน 8โมง ผมเลยเอาหนังสือพิมพ์มานั่งอ่านไปพลางๆ ก็เวลาปกติก็อ่านแฟ้มงานอยู่แล้ว กำลังอ่านเพลินๆก็สะดุ้งเพราะมีคนเอาแฟ้มงานมาวางโครมที่โต๊ะ พอเงยหน้าขึ้นไปมอง เอาอีกละจะมายุ่งอะไรกับผมนักหนา ก็ไอ้พี่กระต่ายนะซิ  โต๊ะว่างเต็มไปหมดเพราะยังเช้าคนยังมากันไม่เยอะ ทำไม๊จะต้องมานั่งตรงนี้ด้วย

ผมเลยเลื่อนเก้าอี้ออกมานิดนึง แล้วไม่สนใจอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ก็เมื่อวานคุณยังเห็นผมเป็นสุญญากาศอยู่เลย วันนี้ผมก็ไม่อยากเห็นคุณเหมือนกัน อีกอย่างนึงดูนาฬิกา เพิ่ง7.45 ยังมีเวลากำลังอ่านข่าวบันเทิงมันๆอยู่ อยากจะรู้ไอ้เรื่องตบตีเนี่ยใครผิดกันแน่
เงียบไปพักใหญ่ๆ ก็มีเสียงเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณอยู่สายไหน”

เอาเข้าไป อายุดูๆไม่น่าเกิน 27 ทำไมความจำสั้นว่ะ ตกลงพี่จะไม่รับรู้ตัวผมจริงๆใช่ไม๊เนี่ย
ก็เมื่อวานหมีก็แนะนำแล้วนี่ แล้วตอนไปลาพี่เพ็ญ พี่ก็เห็น
โอเค  ได้......แนะนำตัวใหม่ก็ได้ “ผมชื่อ โอมครับอยู่สายพี่เพ็ญ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ อยู่สายไหน”

พี่จำผมไม่ได้ ผมก็ลืมพี่ไปแล้วเหมือนกัน กัดผมขนาดนั้นยังมีลืมอีกไม่เข้าใจ
มีอึ้งครับ พี่ต่ายเงียบไปพักใหญ่แล้วก็ตอบว่า “อือ”
 แล้วไม่สนใจผมอีกละ กลับมานั่งดูงานตัวเองต่อ  แล้วจะมาถามกันทำไมเนี่ย ไม่ตอบผมด้วยว่าชื่ออะไร สายไหน
หงุดหงิดเว้ย คนอะไรแบบนี้  ผมหมดอารมณ์อ่านหนังสือพิมพ์ กวนกันแบบนี้ไปเข้าส้วมดีกว่า สบายกว่านั่งกะพวกอัลไซเมอร์ เดี๋ยวเกิดอีก 5 นาทีพี่แกหันมาถามผมอีกทีผมคงคลั่ง

   พอ 8โมงนิดๆ ผมเลยออกมาจากห้องน้ำ  เตรียมตัวไปเบิกแฟ้มงานที่อ่านค้างเอามาอ่านต่อ  แต่ไปเหล่ที่โต๊ะหน่อยดีกว่าว่าหมี กับอ้อมมารึยังจะได้ไปชั้น3 ด้วยกัน
   ไปชะโงกดูครึ่งตัว ยังไม่มีใครมาเลยมีแต่คุณพี่ต่าย นั่งอยู่คนเดียว กำลังจะหันหลังไปละ ก็ได้ยินเสียงปิยะวาจาของพี่ว่า
 “คุณนั่นน่ะ”  คนเค้ามีชื่อนะเว้ย พึ่งบอกพี่ไปยังไม่ถึง15 นาทีเลยลืมอีกล่ะ หรือไม่สนใจกรูเลยเนี่ย “มานี่หน่อย ไปเบิกแฟ้มบริษัทfff ปี254x กะ254Yกะพี่แห้ว ชั้น3  ให้หน่อยขอด่วนนะ บอกพี่แห้วว่าพี่ต่ายขอ”

“ครับ” ผมจะทำไงได้ พี่เค้าสั่งก็ต้องทำอ่ะดิ แล้วยังไงผมก็ต้องไปชั้น3 ไปเบิกงานอยู่แล้วด้วย

“พี่แห้วครับ ผมขอแฟ้มบริษัทfff ปี254x กะ254Yแล้วก็บริษัทYYY ปี254Yด้วยครับ”ผมบอกพี่แห้วไปด้วยเสียงอันเคารพ พร้อมกับจดรายการให้พี่เค้าไป
คือเป็นอันรู้กันว่าพี่แห้วเนี่ยเป็นมาเฟียที่รัก เอ๊ยไม่ใช่ มาเฟียดูแลแฟ้มงาน แล้วก็ถ่ายเอกสารด้วยใครไปเร่งพี่แกไม่ได้อาจเจอ สายตาอำมหิตส่งมาให้ รอไป 5นาที 10นาที 15นาที 20 นาที จะครึ่งชั่วโมงแล้วนะเฟ้ย

    เอ่อพี่ครับมันนานแล้วพี่ผมเริ่มเมื่อยแล้ว เมื่อไหร่จะได้ละพี่ ไปหาถึงไหนกัน เนี่ยใช้งานวันนี้นะพี่ ไม่ใช่ชาติหน้า ถ้าพี่ช้าขนาดนี้ ผมเข้าไปช่วยไม๊
ปล่าวครับผมแค่คิดในใจ ใครจะกล้าไปเร่งแก ไม่ใช่ผมคนเดียวที่มาเบิกไฟล์เช้าๆเนี่ยมีคนมาเบิกกันเต็มไปหมด แล้วหน้าพี่แกก็...อาจเป็นได้ว่าเมื่อเช้าไม่ทันได้ถ่าย หรือโดนนักเลงที่ไหนเหยียบเท้ามา ใครจะไปกล้าตาม

ผมดูนาฬิกา เอาไงดีล่ะจะ8.30น.ล่ะ ขณะที่กำลังลังเล หน้าตามู่ทู่ ก็มีเสียงห้าวๆ มาข้างหลังว่า “กะแล้วว่าไม่ได้เรื่อง กะแค่งานเบิกแฟ้มยังไม่รู้จักทำ สงสัยจะไม่เก่งจริงอย่างที่โม้ไว้แล้ว”
จี๊ดขึ้นสมองเลยครับ แต่ก็อดทนข่มใจนับ1 2 3 4.....10 ก็จำกันได้นี่แล้วมากวนอะไรกัน ไม่เห็นเหรอว่าก็ยืนขาแข็งรออยู่เนี่ย “ผมให้รายการพี่แห้วไปแล้วครับพี่เค้าหาอยู่”

“พี่แห้วครับแฟ้มที่ผมให้น้องมาเอาของ บริษัทfff ปี254x กะ254Y ได้รึยังครับพี่” พูดเพราะเชียวนะมรึงทีเงี้ย

“อ้าวของต่ายเหรอ น้องไม่เห็นบอก เห็นมายื่นให้ แล้วก็ไปยืนคุยกะเพื่อนพี่เลยนึกว่าไม่รีบไม่เห็นบอกนี่ว่าของต่าย ถ้าพี่รู้ พี่ก็รีบเอาให้แล้ว รู้ว่าต่ายน่ะใจร้อน”

อ้าวพี่เอาความซวยมาให้ผมอีกล่ะพี่แห้ว กะแค่คุยกะเพื่อนรุ่นเดียวกันนิดเดียวเอง แค่ทักกันว่าเอาบริษัทอะไรไปดู  เหมาเป็นว่าคุยซะงั้น
หน้าผมคงตลกน่าดู แต่เป็นตลกหน้าเสีย(แค่เสียยังไม่ทันเน่า)  ก็พี่แห้วทำหน้ากวนซะขนาดนั้น แล้วพี่ต่ายก็รับแฟ้มจากพี่แห้ว(ซึ่งหยิบมาให้เร็วมากหลังจากที่ผมยืนรอไปเกือบครึ่งชั่วโมง ) แล้วเดินไปเลย ไม่พูดกะผมซักคำ
เฮ้อ ไม่อยากกลับไปชั้น 5 เลย ไม่อยากเจอพี่ต่ายเลยทำไงดีล่ะตรู ไม่รู้จะพูดอะไร จะทำยังไง

ครับผมยังไม่ขึ้นไปเพราะแฟ้มผมยังไม่ได้ ก็ไอ้ที่เบิกไปพร้อมกันแหล่ะ ผมก็เลยซื่อบื้อรอต่อไป(แอบอู้เล็กน้อย) ซักพัก อ้อมลงมาตามผมบอกว่าพี่เพ็ญเรียกประชุมสาย จะแบ่งทีมออกไปทำงาน
แต่ดูอ้อม ยิ้มๆ แปลกๆ ผมก็ยังไม่คิดอะไร  ผมเลยบอกพี่แห้วว่าเดี๋ยวผมลงมาเอาอีกทีแล้วกัน แต่ดูพี่แห้วแกก็ยังไม่สนใจผมเหมือนเดิม เฮ้อ ทำไมกันเนี่ยผมมันดูไม่น่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ เซ็งเป็นบ้า

แต่ผมต้องเซ็งกว่าเดิมครับ เพราะผมขึ้นไปช้าเค้าแบ่งทีมกันแล้ว ใช่ครับอย่างที่คุณคิดกันแหล่ะ ผมต้องไปกะพี่ต่าย  แล้วไหนใครบอกต้องอยู่ออฟฟิซอีกนาน หลอกให้ตายใจนี่หว่า
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครก็ด้ายช่วยผมที  ผมจะลาออกดีไม๊เนี่ย  หนีมาน.......
***************************************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2007 17:25:29 โดย kongkilmania »

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #9 เมื่อ15-11-2007 11:25:27 »

^
^
^
 :m8:  ขอโต๊ดคร๊าบ  กะจะเข้ามาแก้ข้อความที่มันสลับบรรทัดกันเลยกลายเป็นโพสต์ซ้ำซะนี่  เปลืองหน้าจริงๆเลย   :m17:

 :m23:  แก้ตัวไม่ถูกเลยเรา  บื้อเจงๆ

ว่าแต่ ถ้าเราอยากจะเข้าไปแก้ไขข้อความที่โพสต์ไปแล้วนี่ สามารถทำได้ไม๊  กูรูท่านใดเข้ามาอ่าน ช่วยแนะนำด้วยเน้อ  ขอบคุณคร๊าบบบบ   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-11-2007 11:25:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #10 เมื่อ15-11-2007 11:29:21 »

 :laugh: :laugh:
เข้ามาขำเด็กใหม่

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #11 เมื่อ15-11-2007 11:33:37 »

ซวยแล้วมั๊ยอ่ะ

ได้งานสายเดียวกันอีก

อย่างนี้น่าลุ้นๆๆ อิอิ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #12 เมื่อ15-11-2007 11:44:47 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #13 เมื่อ15-11-2007 12:06:52 »



เจอแบบนี้เราก็ไม่ไหวหน้าเหมือนกัน
มันจะแค่ไหนกันเชียว
 :m16:





ปล.
กด modify หรือ แก้ไข ตรงบนขวา ของ รีพลายที่เราจะแก้นะครับ
ผมลบออกไปให้แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2007 14:12:08 โดย b|ueBoYhUb »

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #14 เมื่อ15-11-2007 13:48:14 »

บรรยายหุ่นพี่ต่ายซะ หึหึ  :m1:

แต่ดูนิสัยไม่น่าเป็นมิตรเล้ยยยย ...

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #15 เมื่อ15-11-2007 14:01:33 »

อย่างนี้ต้องรอติดตามตอนต่อไป  อิอิ

 :m9:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #16 เมื่อ15-11-2007 17:43:35 »

 o1  ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่าน & เม้นท์ให้กำลังใจคนแต่งคร๊าบ

ขอบคุณคุณเรย์ด้วย เราเข้าไปแก้ไขสำเร็จแล้ว   :m1:  สอนง่ายแถมหัวไวจริงๆเลยนะเรา
ว่าแล้วก็โพสต์ต่ออีกตอน

ตอนที่ 3

พอแบ่งสายเสร์จพี่เพ็ญก็เริ่มเอางานมาแบ่งให้พี่ทีมแต่ละคน ตกลงอ้อมไปกะพี่ส้ม  หมีไปกะพี่ก้อง ส่วนผมไปกับเนยแล้วก็พี่ต่ายเป็นหัวหน้าทีม ผมก็ยังไม่อยากไปกับพี่แกอยู่ดีแหล่ะถึงแม้จะมีเนยไปด้วยก็ตาม

พูดถึงเนยก่อนครับ พอผมเห็นผมก็จำได้แล้วครับก็เธอเป็นคนหน้าตาน่ารัก ขาว หมวยๆหน่อยรูปร่างกำลังดี นับว่าค่อนข้างสูง ที่ผมจำได้ก็เพราะว่ามีเพื่อนในกลุ่มผมคนนึงแอบชอบเค้าอยู่ แต่โดยส่วนตัวผมก็ไม่เคยคุยด้วย แต่อยู่มหาลัยเดียวกัน ปีเดียวกันก็คงจูนกันไม่ยากหรอก

ผมคงทำหน้ากังวลมากที่จะต้องออกไปกับพี่ต่ายจนพี่เพ็ญสังเกตเห็น พี่เค้าเลยถามผมขึ้นมาว่า “โอม เป็นไรไม๊ ไปกับเนยกับต่าย เมื่อกี้โอมไม่อยู่พี่เลยไม่ทันได้ถาม  แต่เพราะเห็นว่า
จ๊อบที่จะไปอยู่แถวบ้านโอมน่ะ เวลาไปทำงานเอ็งจะได้สะดวกไง  แล้วจ๊อบนี้ก็เร่งจัง เลยต้องลงสามคน”

“ผมไปได้พี่ พี่ให้ไปไหนผมก็ไป(ถึงแม้ผมจะไม่อยากไปอย่างมากกก ก็เหอะ)” :m17:

“เออดีแล้ว จะได้เริ่มทำงานกันซะที เห็นพวกเอ็งสามคนมานั่งคุยกันในออฟฟิซแล้วกลัวพี่ฑูรย์แกว่าเอานะซิ” พี่ฑูรย์ที่ว่านี่เป็นหุ้นส่วนที่ดูแลชั้น5 นี้อีกทีนะครับ  ห้องแกก็อยู่แถวโต๊ะพวกผมแหล่ะ แต่พวกผมมันหมูไม่กลัวน้ำร้อน เวลาคุยนี่ไม่เคยมองหน้ามองหลังหรอก  พี่เพ็ญแกก็บ่นจนเลิกบ่นไปแล้ว

พี่เพ็ญกลับเข้าคอกแกแล้วหันมาสั่งต่อว่า “พวกหัวหน้าทีม(incharge)ก็จัดการเตรียมตัวได้แล้วนะ ส้ม ก้อง ต่าย โทรนัดลูกค้าเองว่าเค้าสะดวกให้เราเข้าวันไหน ให้เค้าเตรียมให้พร้อมล่ะ ไม่ใช่เข้าไปทำอะไรไม่ได้ อย่าลืมล่ะว่าเดดไลน์วันไหน แล้วไอ้สามคนนี้ไปสอนกันให้ดีๆละกัน จะได้ช่วยได้ เผื่อคล่องละก็ พี่ว่าปล่อยเดี่ยวไปเลย เพราะเรา3คนน่ะ(พี่ส้ม พี่ก้อง กี่ต่าย)ยังต้องไปอีกหลายจ๊อบ”

พี่เพ็ญ พวกผมยังไม่ได้เริ่มแตะงานเลย พี่กะลอยแพแล้วเหรอ แล้วจะไปกันรอดไม๊เนี่ย

ผมไม่มีเวลาคิดนานหรอกครับ พี่ต่ายแกเริ่มก่อนใครเลย “เนยสอนเพื่อนเราด้วยนะเรื่อง
จ๊อบเนี้ย เนยไปมาหนนึงแล้วนี่  ถ้าพรุ่งนี้ไปลงจ๊อบแล้วไม่รู้เรื่อง พี่ไม่มีเวลามาคอยหรอก ถ้าช้าพี่คงต้องขอเปลี่ยนคน ต้องส่งให้ทันปลายวีคหน้า”

“ค่ะพี่ต่าย แต่เนยก็เคยทำไปไม่กี่ตัวเอง ไม่รู้จะสอนโอมได้ไม๊”เนยคงกลัวซวยไปอีกคนหากว่าผมโง่เกินเยียวยา

“พี่ไม่ห่วงเนยคนสอนหรอก ห่วงคนรับมากกว่า ไม่เอาล่ะพี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันที่นี่7.30น.นะ วันนี้พี่นัดลูกค้าไว้ แล้วเนยเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยล่ะที่พี่สั่งไว้น่ะ”
แล้วพี่เค้าก็หอบข้าวของออกไปเลย  เออจะไปแล้วยังไม่วายแขวะ นี่ละมังเค้าเรียกคนไม่ถูกชะตา พี่เค้าคงไม่ชอบผม สงสัยผมคงหล่อเกินไปน่ะ เค้าเลยกลัวผมเด่นกว่า หึหึหึ     ไม่หรอกครับผมไม่ได้หน้าตาดีอะไรก็คนหน้าตาบ้านๆธรรมดานี่แหล่ะ  ผมก็หาข้อแก้ตัวไปเรื่อยปลอบใจตัวเองว่าเค้าไม่ชอบผมเพราะอะไร แต่ก็ช่างเหอะอย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องเจอพี่เค้าแล้วทั้งวัน คงสบายหูหน่อย

“เนย ฝากตัวด้วยนะ รุ่นพี่ โปรดชี้แนะข้าน้อยด้วย” :m5:     ผมต้องอ้อนหน่อยจะได้มีพวกไว้ต่อกรกับพี่ต่าย ผมว่าผมยังดีมีรุ่นเดียวกันไปด้วยสงสัยอะไรก็ปรึกษากันได้
   วันนั้นเนยก็เลยให้ผมเอาแฟ้มเก่ามาอ่าน แล้วก็แนะนำผมบ้างเกี่ยวกับข้อมูลบริษัทลูกค้านิดหน่อย เนยน่ารักมากครับมิน่าเพื่อนผมถึงได้ชอบ นิสัยดี ร่าเริง น่ารักด้วย เฮ้อถ้าผมชอบเธออีกคนนี่เพื่อนผมจะด่าไม๊เนี่ย

   ตอนนี้ผมเลยกังวลน้อยลงแล้วครับเรื่องจะไปทำงาน อย่างน้อยก็มีเพื่อน แต่เรื่องงานนะซิ มันยากนะครับตอนเรียนก็อย่างนึงตอนทำงานก็อีกอย่างนึง แล้วผมก็เคยแต่อบรมในบริษัทยังไม่เคยออกไปหาลูกค้าซักที ทำให้อดตื่นเต้นไม่ได้
   พอใกล้เที่ยงพวกผมกับเพื่อนที่อยู่คนละชั้นก็ไปกินข้าวกลางวันกัน  ต่างคนก็ต่างคุยกันเรื่องหัวหน้าทีม เรื่องบริษัทที่จะออกไปทำงานแล้วเพื่อนผมคนนึงที่อยู่ต่างสายก็มาถามผม “โอม คุณอยู่สายพี่เพ็ญใช่ไม๊ พี่สายคุณเท่ห์จังว่ะ คนที่สูงๆขาวๆน่ะ  รู้สึกชื่อพี่ต่ายป่าวว่ะ”     :m30:

   ผมไม่รู้หรอกครับว่าผู้หญิงเค้าชมเพศเดียวกันไม๊ แต่ผมว่าผู้ชายมันแปลกๆอยู่นา เลยงงงงกับไอ้เพื่อนคนนี้ว่ายังไงกันแน่ ชักกลิ่นไม่ค่อยดี  แต่คงมีคนสงสัยกว่าผม ก็อ้อมเพื่อนผมเอง
“ว๊ายๆๆๆ อะไรกันเนี่ย ธูปมาปิ๊งพี่เราเหรอ อย่าบอกนะว่าเป็น...” มันหน้าแดงเลยครับไอ้ธูปแล้วอ้อมๆแอ้มๆบอกว่า “อ้อมก็คิดไปเรื่อย เราแค่เห็นว่าพี่เค้าหุ่นนักกีฬาดี ผมชอบเล่นกีฬาไง เลยอยากรู้ว่าพี่เค้าทำไง หุ่นดีแบบนี้ พูดแบบนี้เป็นผู้ชายผมชกแล้วนะ” แล้วก็หัวเราะหึหึหึ
อ้อมเลยรีบขอโทษกลัวไอ้ธูปมันโกรธ “ โทษนะเราพูดเล่นเหมือนกัน ก็แหม พี่เราคนนี้ยกให้โอมไปแล้ว เค้าถูกคอกันดี ใช่ไม๊โอม เดี๋ยวก็ต้องไปจ๊อบด้วยกันอีก แล้วพี่ต่ายนะ คุยกะโอม คนเดียวเลย กะเรานะยังไม่เคยคุยด้วยเลย”

อ้อม แกพูดกวนใจมากเลย พูดแบบนี้อารมณ์ดีๆที่ได้กินข้าวกะเพื่อน ได้คุยกะเนย หมดกัน อุตส่าห์ลืมๆไปแล้วผมเลยอดประชดไม่ได้  “เออพี่ต่ายน่ะของผม ธูปคุณจะนิยมชมได้ แต่ถ้าชอบล่ะก็ไม่ได้ผมหวง 555555” ยังครับ  ผมยังบ้าไม่เลิกขนาดนั่งกันอยู่เต็มเลยนะครับโต๊ะผมก็รุ่นเดียวกัน โต๊ะข้างๆก็รุ่นพี่แต่คงอยู่สายอื่นผมไม่รู้จัก  แต่ผมพูดเล่นไงเลยมั่วต่อ “เนี่ย เมื่อเช้าผมเจอแป๊ปเดียวพี่แกก็ออกไปล่ะ โคดคิดถึงเลยว่ะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวออกจ๊อบเจอกันทุกวันให้หายคิดถึงเลย 555”

    อ้อมรับมุกครับมีเสริม “ช่ายทีแรกนะอ้อมขอไปกับพี่ต่าย พี่เค้ายังไม่เอาเราเลย บอกไม่ได้ต้องโอมเท่านั้นที่พี่ต้องการ เรานะเสียเซลฟ์เลย ใครๆก็ไม่รัก” ยังครับสายผมเนี่ยสงสัยแหล่งรวมของพวกบ้า หมีครับ กลัวคนไม่รู้ว่ามาด้วย “ผมอยากไปจ๊อบนี้เหมือนกันเพราะขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ ขอพี่ต่ายไป ขนาดรุ่นน้องมหาลัยนะ พี่เค้ายัง Just say no เลย ผมละเซ็ง ต้องไปกะพี่ก้องจ๊อบไกลมาก”

ผมเห็นว่าจะไปกันใหญ่เลยรีบห้ามพวกนั้น “พอๆเลย ไม่ช่วยแล้วยังมาทำพูดดี” ผมหมายถึงสองคนนี้รู้อยู่แล้วว่าผมไม่อยากไปยังปล่อยให้ผมต้องไปกะพี่ต่าย สองคนน่ะเข้าใจแต่คนอื่นนะซิไม่เข้าใจ ธูปเลยถามผมว่า “ช่วยอะไรเหรออ้อม”

อ้อมหัวไวมากครับผมยังคิดไม่ทันเลย “อ๋อ โอมเค้าอยากไปกะพี่ต่ายตั้งแต่วันนี้ มาบอกให้เราไปบอกพี่ต่ายขอไปด้วยแต่เราลืม พี่ต่ายเลยไปเลยคนเดียว ปล่อยให้โอมว้าเหว่อยู่ที่ออฟฟิซคนเดียว” จบกัน ไปกันเรื่อยเปื่อยผมเลยขี้เกียจแก้ตัวละ  เลยได้แต่ส่ายหัวอย่างเดียว
อ้อมกับหมี เลยหัวเราะกันใหญ่ คนอื่นก็คงงง แต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ เป็นอันว่าวันนั้นผมไม่รู้หรอกว่าคนอื่นคิดยังไง ผมแค่รู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่เค้า แล้วคนในสายผมก็รู้แค่นั้นเอง แต่เนยนี่ผมไม่แน่ใจนะครับเพราะเธอsave อย่างเดียว คือฟังไม่มีแสดงความเห็น อีกอย่างผมก็เพิ่งเจอเนยวันนี้ เพราะก่อนๆเธอออกจ๊อบไปกับพี่ส้มตลอด  แต่เดาว่าเนยน่าจะรู้เพราะก็ได้ยินพี่ต่ายแขวะผม

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #17 เมื่อ16-11-2007 00:36:33 »

กัดกันไป กัดกันมา
จะต้องพูดกันอีกนานเลยนะนี่
จะไปรอดหรือ
 :a4:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #18 เมื่อ16-11-2007 13:11:08 »

แล้วอย่างนี้จาไปกันต่อท่าไหนดีเนี่ย

เริ่มมาก็ตั้งแง่กันซะละ

เฮ้อออออ  :try2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #19 เมื่อ16-11-2007 13:52:19 »

ตอนที่ 4

วันนี้ผมต้องออกจ๊อบวันแรกครับเลยนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นนิดหน่อย  ตื่นแต่เช้าไปที่ทำงานไปถึงเพิ่ง 7 โมง ผมเลยออกไปหาอะไรกินแถวที่ทำงาน ก็เป็นพวกข้าวแกงธรรมดาแหล่ะครับ กำลังนั่งรอข้าวที่สั่งไปอยู่ก็มี คนมานั่งตรงข้ามครับ ........

ไม่ใช่พี่ต่ายหรอกครับ อย่าเดากันซิ แหมอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น  แต่เป็นใครก็ไม่รู้ ผมไม่รู้จัก  แต่เคยเห็นแว๊ปๆที่ทำงาน  อายุ30กว่าแล้วครับท้วมๆ หน้าตาใจดี แล้วเค้าก็ชวนผมคุยครับ

“คุณอยู่สายเพ็ญใช่ไม๊ ผมว่าใช่นะ คนที่นั่งคุยหน้าห้องเพ็ญน่ะ ขึ้นไปคุยกะพี่ฑูรย์ทีไรก็เห็นนั่งคุยอยู่หน้าห้องน่ะ”
 อ้าวซวยละซิ ภาพพจน์ผมไปหมดล่ะกลายเป็นไอ้คนคุยเก่งไปแล้วซิ ผมเลยได้แต่แฮะๆตอบพี่เค้ากลับไปว่า
 “ครับอยู่สายพี่เพ็ญ พี่อยู่ชั้น 3 เหรอครับ”
“ใช่ผมชื่อมีน สายผมอยู่ชั้น 3 แต่เด็กใหม่ปีนี้สายผมมีแต่ผู้หญิงนะซิ กำลังว่าจะไปคุยกะเพ็ญขอแลกตัวซะหน่อย เพราะบางจ๊อบต้องการผู้ชายไปลุย คุณมาอยู่กับผมไม๊ล่ะ"       :m18:
5555555 ทางสว่างแล้วครับ  อย่าว่าผมใจง่ายเลยครับ แต่ผมหาทางออกได้แล้วที่จะไม่ต้องไปกับพี่ต่าย ตอนนั้นผมลืมหมดเลยครับ เนย อ้อม หมี พี่เพ็ญที่แสนห้าวของผม ตอนนี้ขอพ้นหน้าไอ้พี่ต่ายก่อน

“ครับพี่ ถ้าพี่อยากให้ผมไปผมไปได้ แต่พี่ต้องคุยกับพี่เพ็ญเอง เดี๋ยวพี่เค้าจะเข้าใจผมผิด” ผมกลัวพี่เค้าเปลี่ยนใจครับเลยต้องรีบตอบรับ
ตอนนั้นเราคุยกันไปกินกันไป พี่มีนใจดีมากครับ เป็นกันเองมากๆขนาดเป็นระดับหัวหน้าสายแล้ว พี่มีนเป็นรุ่นพี่พี่เพ็ญอีกที เค้าซี้กันมากปกติกลางวันก็ไปทานข้าวด้วยกันตลอด อย่างที่ผมบอกแหล่ะครับพี่เพ็ญแกห้าวก็เลยคุยกันกับผู้ชายได้สนิทสนมดี  อันนี้พี่มีนเป็นคนบอกผมเอง พี่มีนบอกว่าได้ยินว่าพี่เพ็ญได้เด็กใหม่เป็นชาย 2 เลยอยากขอแบ่งมาคนนึง เค้าก็ยังไม่เจอหมีหรอกครับ แต่แกคงคิดว่าใครก็ได้ขอเป็นผู้ชายแล้วกัน

 คุยกันไปจนผมมาดูนาฬิกา ตายห่า7.30น.แล้ว ผมเลยขอตัวพี่มีนรีบกลับออฟฟิซเพราะพี่ต่ายนัดเจอตอน7.30น. ผมเลยได้แต่หวังว่าพี่มีนจะไปสู่ขอผมเอง กะพี่เพ็ญ  แต่ยังไงวันนี้ก็คงต้องทนไปก่อน กว่าจะเดินไปถึงที่ทำงาน7.45 ครับ กูจะซวยไม๊ว้า
ปรากฎว่าพี่ต่ายยังมาไม่ถึง  โชคดีไปมีแต่เนยนั่งอยู่ผมยิ้มเลยครับ รอดตายไปอีกหนกรู เนยบอกว่า

“โอมพี่ต่ายโทรเข้ามาบอกว่านัดลูกค้าไว้ที่นู่นจะไปคุยรายละเอียดก่อน ให้เราสองคนไปกันเอง ไปเจอกันที่นู่นเลย ไม่ต้องรอพี่เค้าแล้ว”

“แล้วพี่เค้าถามไม๊ว่าเรามายัง” ผมยังกลัวอยู่ครับเลยอดถามไม่ได้

“ไม่เห็นถามอะไรนี่ บอกว่าพร้อมแล้วก็ออกไปเลยเพราะตอนนี้พี่เค้าอยู่ที่ลูกค้าแล้ว”
เออรอดของจริงครับ ผมเลยชวนเนยออกไปเลยครับ คนกำลังไฟแรงกลัวไปช้าด้วยเพราะเช้าๆแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่ารถติดขนาดไหน

เราไปถึงกันหลังจากนั้นซักชั่วโมงครึ่งครับเก้าโมงกว่า เข้าไปที่บริษัทลูกค้าเค้าก็พาไปที่ห้องที่จัดไว้ให้พวกเรา ยังไม่มีใครนั่งเลยครับเป็นห้องประชุมเล็ก แต่มีกองเอกสารวางอยู่เต็มเลยครับ นั่นละครับงานของเรา  นั่งกันไปแป๊ปนึงพี่ต่ายก็เข้ามาครับ........
กับหญิงสาวสวยคนนึงเลยล่ะชื่อพี่ แต้ว เป็นสมุหบัญชีของที่นี่  จะว่าสวยมากก็ไม่เชิงแต่ดูคล่อง เท่ห์ เก๋บอกไม่ถูก เป็นหญิงทำงานยุคใหม่ อายุน่าจะแก่กว่าพี่ต่ายนิดหน่อย
พี่ต่ายแนะนำผมกับเนย ให้พี่แต้วรู้จัก พี่แต้วก็น่ารักมาก

 “สวัสดีค่ะน้องๆ มีอะไรไปคุยกับพี่ได้โดยตรงเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ แต่ต่ายมาคุมนี่เราเบาใจไปเยอะเลยนะ งานคงเสร็จทันแน่”
ฟังดูก็รู้ซิครับว่าสนิทกันแค่ไหน

“คุณแต้วก็เชื่อใจผมจริงเหรอ ตอนก้องมาก็บอกว่าเชื่อก้อง  เฮ้อคนเราเค้าถึงว่า 1 ปีจาก นารีเป็นอื่น 55555” ครับพี่ต่ายคนเดียวกันนี่แหล่ะ แต่แกเปลี่ยนโหมดมาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปแล้ว  ผมละรับไม่ทัน

“บ้าต่ายเนี่ย เค้ามีแต่ 3 วันจากนารีเป็นอื่น ไปเอามาจากไหน 1 ปี” พี่แต้วแกไม่ว่าเฉยๆครับมีตีที่แขนเบาๆด้วย  เอ๊ะนี่ตกลงเค้ามาทำงานหรือมาทำไรเนี่ย ผมละแปลกใจ มิน่าพี่แกรีบมาคนเดียวแต่เช้าเลย สงสัยกลัวพวกผมมาขัดคอแกมั๊ง
แล้วเค้าลืมไปไม๊ว่ามีอีก 2 หัวโด่อยู่ในห้องด้วยหรือว่าโลกนี้มีเพียง 2เรา  พี่ต่ายแกตอบครับ 
“ก็แหมกว่าจะมาเจอกันอีกทีก็ปิดงบปีหน้า ก็ต้อง 1 ปีซิครับ คุณแต้ว”

“ไม่คุยด้วยแล้ว ต่ายจะชักใบให้เรือเสีย พวกน้องๆจะได้ทำงานกัน ยังไงก็ช่วยพี่หน่อยแล้วกันนะ ขอไวนิดนึง นะเนยกับน้องอะไรนะคะ” พี่แต้วหันมาถามผม
ผมกำลังอ้าปากจะตอบแต่มีคนตอบแทนครับ

 “ชื่อน้องโอมครับ อยู่มหาลัยเดียวกับคุณแต้วนี่แต่ไม่รู้ว่ากลุ่มเดียวกันด้วยหรือเปล่า”

“อ้าวรุ่นน้องคณะเหรอ ดีๆเลยได้คุยกันง่ายหน่อย แต่พี่ไม่ถามรุ่นดีกว่ากลัวแก่ เอาเป็นว่าสงสัยอะไรเข้าหาพี่ได้เลยนะ เข้าหาพี่นะง่ายใช่ไม๊ต่าย ขึ้นอยู่กับว่าอยากเข้าหารึเปล่า หึหึหึ” พร้อมส่งสายตาวิบวับให้พี่ต่ายด้วย      :m13:
พี่แต้วเนี่ยเปรี้ยวจังเลยนะครับ ผมละอึ้งกะคำพูดแกเลย พี่ต่ายก็คงอึ้งเหมือนกันเห็นหน้าแดงไปเลย แล้วพี่แต้วก็จากไปครับ ทิ้งไว้เพียงประโยคเด็ดของแก กับชายหนุ่ม 2 คนที่ยืนงง กับสาวสวยอีกคนที่ยังไม่ได้พูดซักคำ

“เอ่อ คือเนยว่า พี่ต่ายแบ่งงานเลยไม๊ค่ะ จะ10 โมง แล้ว” ในที่สุดก็มีคนทำลายความเงียบครับ เนยขอบใจเธอมากเลย เธอทำให้เรายังรู้สึกว่าผู้หญิงมีมุมที่อ่อนหวานอยู่
ถ้าเจอแบบพี่แต้วบ่อยๆเราคงหัวใจวาย

พี่ต่ายแกคงรู้สึกตัวแล้วครับ “โอเค เนย”
แล้วแกก็เปลี่ยนมาโหมดเดิมครับ 
“เนยทำ.....นะพี่ขอพรุ่งนี้บ่ายโอเคไม๊ ส่วนเราน่ะทำ........ขอวันนี้เย็นหรืออย่างช้าเช้าวันพรุ่งนี้” ครับใช่ทีเนยเรียกชื่อสนิทสนม ทีผมชื่อก็มีไม่เรียกเรียกเรา แล้วเมื่อกี้ใครใช้ให้คุณไปแนะนำชื่อแทนผม เซ็งว่ะคนอะไรแบบนี้
แต่พอนึกถึงที่พี่แกสั่ง “ขอวันนี้” พี่บ้าป่าว ผมมาทำงานวันแรกนะพี่ แล้วผมยังไม่รู้อะไรเลย ทำไมมันโหดนักว่ะ  ใครจะไปทำทัน 

“พี่ผมทำไม่ทัน”ปากไปก่อนครับ แล้วก็ตกใจอ้าวดันพูดที่ใจคิดไปล่ะ เวรละซิ เอ๊ะเมื่อกี้ว่าคิดในใจนี่หว่า ไหงมีเสียงออกมาแล้ว
ครับหน้าแบบเดิมๆกลับมาอีกแล้ว เคยดูละครไทยไม๊ครับ ที่เวลาตัวร้ายทำหน้าให้รู้ว่าโกรธ หรือเยาะเย้ย ดูแล้วแบบไม่ต้องคิดมากนะครับ มาแบบนั้นเลย

“ไม่ได้ถามเลยว่าทำทันไม๊ บอกว่าพรุ่งนี้ต้องเสร็จ”
เบื่อครับ เคยไม๊ที่เซ็งเพราะคำพูดคนจนไม่อยากทำอะไรเลย ประชดนะครับ แต่อย่างที่เคยบอกผมน่ะสู้คน 

 “โอเค พี่ พรุ่งนี้เสร็จ” ปากก็บอกไป แต่คิด เอาอีกแล้วกูหาเรื่องใส่ตัวอีกล่ะ รู้ก็รู้ว่าทำไม่ทันดันไปอยากเอาชนะ เนยก็งงครับ พี่ต่ายก็งง

“เออก็ดี” ครับพี่เค้าพูดแค่นี้แล้วเค้าก็ไปนั่งทำงานเค้าครับ แล้วเราก็แยกย้ายกันทำงานครับ เงียบมากครับได้ยินแต่เสียงลมหายใจ เสียงพลิกกระดาษ  ไม่มีใครคุยกันเลย โคตรอึดอัดเลย พอดีผมมีส่วนที่ต้องไปคุยกับลูกค้าเพื่อขออะไรเพิ่มผมเลยลุกออกไปข้างนอกครับ ซัก 15 นาทีได้กลับเข้ามาหายกันไปหมดล่ะ มาดูนาฬิกา อ้าวเที่ยงกว่าแล้วนี่มิน่าเมื่อกี้ลูกค้าดูลุกลี้ลุกลน แล้วทำไมไปกินข้าวไม่รอกรูเลย เนยนะเนยทิ้งกันได้ลงคอ ไอ้พี่ต่ายน่ะไม่หวังหรอกคนอย่างนั้น ผมนะเซ็งสุดๆ เดินไปกดลิฟท์รอให้ลิฟท์มา พอผมก้าวเข้าไปลิฟท์กำลังจะปิด
เคยดูหนังเกาหลีไม๊ครับลิฟท์จะปิดแล้วมีมือโผล่มากันแล้วลิฟท์เปิดออก ครับพี่กระต่ายแสนซนของผมเอง หอบมาเลยครับ แถมด้วยโวยอีกทีนึง

 “ทำไมไม่รอ”  อ้าวพี่ตกลงพี่ทิ้งพ้มหรือพ้มทิ้งพี่ หรือใครทิ้งใคร งง 

“อ้าวผมไปที่ห้องไม่เจอใครเลยนึกว่าไปกันหมดแล้ว” พูดไปก็ยังงงกรูผิดหรือใครผิด

“น้องเนยไปแล้วเค้านัดแฟน  ผมเห็นคุณยังไม่มาเลยไปเข้าห้องน้ำกลับมาก็ไม่เห็นล่ะ คนอะไร อุตส่าห์รอ ยังไม่ขอบคุณอีก” เออกรูผิดก็ได้ อะไรๆก็ผิดหมดแหล่ะ ไม่รู้จะไปแก้ตัวทำไม ผมเลยเงียบ พี่ก็เงียบ ลิฟท์ก็เงียบ เงียบมากขนาดที่ว่าเหมือนเราสองคนกลั้นลมหายใจเพราะกลัวเสียงดังรบกวนอีกฝ่าย
แล้วก็มีเสียงดังทำลายความเงียบขึ้นมา

 “ป๊าดๆๆๆๆ.....ฟิ้ว..” พร้อมกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ครับขึ้นลิฟท์กัน 2 คน ต่างคนก็ต่างรู้ว่าใครเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติขึ้นมา แต่เป็นก๊าซที่เอามาเป็นพลังงานทดแทนไม่ได้ แถมเอาไปช่วยชาติก็ไม่ได้  เราสองคนหันมามองหน้ากันครับ 
แล้วก็ “เอ่อ...”พร้อมกัน        :m29:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
« ตอบ #19 เมื่อ: 16-11-2007 13:52:19 »





nattabadin

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #20 เมื่อ16-11-2007 13:59:14 »

เดี๊ยวจะมาอ่านคับ ขอติดไว้ก่อนนะ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #21 เมื่อ16-11-2007 14:21:20 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #22 เมื่อ16-11-2007 16:05:56 »

555555555
อุบาทว์ที่ซู๊ดดดดดดดดด
กำลังเครียดๆ เป็นตรูฮาแตกตายคาลิฟท์
 :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #23 เมื่อ16-11-2007 21:28:55 »

ครายทำ...........บอกมานะ :angry2:

ทั้งคู่เลยยอมรับมาดีๆ :m12:

nattabadin

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #24 เมื่อ16-11-2007 23:07:28 »

สงสัยพี่กระต่ายแน่เลย
มนรักต์ ผายลม

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #25 เมื่อ17-11-2007 09:51:26 »

หลังจากสูดลมรักเข้าไป :m26:
ทั้งสองอาจเปลี๊ยนไป o17

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #26 เมื่อ17-11-2007 10:32:26 »

5555 จะมีใครยอมรับมั๊ยล่ะเนี่ย  :m20:  :m20:  :m20:

nattabadin

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #27 เมื่อ17-11-2007 11:46:15 »

อยากรู้ๆๆ มาต่อตอนใหม่เถอะคับ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #28 เมื่อ17-11-2007 17:02:59 »

มาลงต่อแล้วน้า 
เด๋วลงไว้2ตอนเรย  เผื่อพรุ่งนี้ไม่ได้เล่นเน็ท

ตอนที่  5

เหม็นมากเลยครับ ผมว่าศพหมา หรือหนูตาย ยังเหม็นน้อยกว่าอีก ตอนนี้เรากลั้นหายใจกันจริงๆ ภาวนาอย่างเดียวเมื่อไหร่จะถึงชั้นล่าง แล้วก็อย่าให้ใครเข้ามาเพิ่มด้วย เพราะถ้ามีคนเข้ามาเราก็ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เหม็นซะขนาดนั้น ใจจะขาดครับกลั้นหายใจแทบแย่  ลิฟท์บ้านี่ก็ช้าจัง พวกผมอยู่ชั้น12 ครับ

 พอลงมาถึงชั้นหนึ่ง  เราสองคนรีบวิ่งออกมาจากลิฟท์ แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วรีบเดินออกมาเลยครับเพราะมีคนรอขึ้นแล้วเนื่องจากพนักงานบางคนคงออกมากินก่อนเที่ยงและกำลังจะกลับไปทำงาน ขนาดว่าเราเดินไปไกลแล้วนะครับยังได้ทั้งกลิ่นทั้งเสียงลอยมาว่า

 “อี๋.. อึ๊ย อ๊วก.......ใครว่ะตดออกมาได้กลิ่นนรกมากๆ อุบาทว์ว่ะ  ไม่รู้ไส้เน่าหรือเปล่า บลาาาาาบลาาาา” เสียงหลายคนครับแต่นาทีนั้นไม่กล้าหันไปมองกลัวเค้าจับได้   รีบจ้ำกันใหญ่เลย 2 คน  แต่พยายามไม่ให้ดูมีพิรุธ พอเลยออกมาซักระยะนึงแล้ว หันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะก๊ากเลยครับ    :laugh:

เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่เค้าหัวเราะแล้วก็ยิ้ม คนไรว่ะฟันสวยมากๆ ขาวจั๊วะเรียงเป็นระเบียบ หน้าดูเด็กไปอีกเป็นกองเลย ผมมัวแต่มองหน้าพี่เค้าครับ 

 “โอมแกตดเหม็นมากเลยว่ะ พี่จะอ๊วก เกือบตาย”

อายครับ อายสุดๆ   :o8:      ไม่เคยอายอะไรเท่านี้มาก่อน ผมก็เคยนะครับนั่งเรียน หรือคุยกับเพื่อนแล้วตดออกมา เพื่อนจับได้ แต่หน้ามึนยอมรับแล้วบางที ยังกำเอาตดไปให้เพื่อนดมด้วย  สนุกเฮฮาไปซะอีก แต่นั่นมันเพื่อนน่ะ สนิทกัน ส่วนพี่ต่ายเนี่ยจะว่าไปก็เหมือนคู่อริกลายๆ แล้วก็เพิ่งมาเจอกันไม่นานด้วย ก็เลยโคตรอายเลย หน้าผมคงแดงมาก

 ผมเลยอ้อมแอ้มตอบไปว่า “ขอโทษพี่ ผมไม่รู้ตัว เอ่อ....” 

พี่เค้าตบมาที่บ่าผมแล้วพูดยิ้มๆว่า “เฮ้ยมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องขอโทษหรอก แต่อย่าบ่อยแล้วกัน พี่กลั้นหายใจได้ไม่นาน 5555” ครับแล้วพี่เค้าก็เดินนำหน้าผมไป ผมยังอึ้งๆอยู่ทำไมใจดีงี้ล่ะ ไม่ด่ากรูด้วย       :m23:

“อ้าวไม่ไปกินข้าวเหรอ แล้วจะทำเสร็จไม๊เนี่ย มัวแต่อู้อยู่ได้ เร็ว หิวจะตายห่า.. บลาาาาา บลาาา” พี่เค้าหันมาบอกให้ผมรีบตามไป เออ เอาอะไรแน่ไม่ได้เลย พี่กระต่ายของผม บ้าป่าวว่ะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เฮ้อ..ผมได้แต่วิ่งตามไปครับ มัวแต่คิดเรื่องตดลืมไปเลยครับที่พี่บอกว่าเนยนัดกับแฟน.......... 

ระหว่างทานข้าวพี่เค้าไม่พูดอะไรเลย สงสัยแกคงหิวจัด  ต่างคนต่างหิวด้วย แล้วก็ไม่มีใครอยากพูดเรื่องตดอีก เพราะผมน่ะอาย แล้วพี่เค้าคงกลัวกินข้าวไม่ลง  กินไปคนละ 2 จานอย่างว่าครับวัยทำงาน ใช้สมองเยอะก็ต้องเติมพลังกันให้มากหน่อย

  พอทานอิ่มคิดเงิน พี่เค้าจ่ายไปก่อนครับผมก็กะว่าเออเดี๋ยวผมไปให้พี่ทีหลังคงได้มาควักเงินกันตอนนี้ 40-50 ดูตลกๆ   ผมก็เลยเฉยๆแต่ในใจคำนวณแล้วครับว่าของผมเท่าไหร่ตามประสานักบัญชี 
พอทานเสร็จเราก็กลับเข้าไปทำงานเลยครับ พอเข้าไปเนยก็นั่งอยู่แล้วผมเลยบ่นเนยนิดหน่อยที่ไม่รอ 

“เนยอ่ะไม่รอผมเลย ทิ้งกันหน้าตาเฉย เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน”

“อ้าวก็เนยบอกพี่ต่ายแล้ว พี่ต่ายจะรอเอง เนยขอโทษแล้วกันนะโอม”เนยก็ยังคงน่ารักอยู่ดี ถึงแม้จะมีแฟนแล้ว   

 “ผมล้อเล่นน่า..555 อย่าคิดมากไม่โกรธหรอก” เราคงจะคุยกันต่อไปถ้าไม่มีเสียงแทรกมาว่า 

 “คุยกันแล้วงานจะเสร็จไม๊ ถ้าเสร็จก็คุยต่อแต่ค่อยๆหน่อย พี่ไม่มีสมาธิ”
แป่ว องค์ลงอีกละพี่กรู เอองานไม่เสร็จจริงๆด้วยผมก็กลัวเหมือนกัน เนยก็คงกลัวไม่เสร็จเหมือนกัน เลยต่างคนต่างทำงานกันต่อ ทำไปเรื่อยๆจน 6 โมงครึ่ง พี่แต้วเข้ามาหาที่ห้อง
 
“แต้วกลับก่อนนะ ต่าย พรุ่งนี้เจอกัน แต่ อยู่กันได้ตามสบายเลย แต้วบอก ยามให้ล่ะ ว่าคงอยู่ดึกเหมือนเคย  วันนี้ขอตัวจริงๆ ต้องไปมหาลัย บายน้องๆ บายต่าย”คือพี่แต้วแกคงเรียนโทน่ะครับผมเดาๆเอา

 “ครับ พรุ่งนี้เจอกัน คุณแต้ว” มารยาทดี๊ดีพี่กรู(โดยเฉพาะกะสาวๆ)
  เราทำงานกันต่อจนเกือบ ทุ่มครึ่ง เนยเริ่มดูนาฬิกาแล้วบอกพี่ต่ายว่า

 “พี่ต่ายเนย ขอกลับก่อนได้ไม๊ เพราะวันนี้แฟนเนยมารับ แต่เนยรับรองว่าพรุ่งนี้งานเสร็จแน่ เนยเอากลับบ้านด้วย” เป็นผมๆก็ให้ก็เนยออกจะน่ารัก เสียงอ้อนๆด้วย 

 “ไปเหอะเนยพี่ไว้ใจเรา พี่ก็ลืมไปเลยกะให้กลับไปตั้งแต่คุณแต้วมาบอกล่ะ มัวแต่คิดเพลินไปหน่อย เลยลืมบอก” ผมบอกแล้วกะหญิงละใจดีนักเชียว
ครับเลยเหลือกัน 2 คน เงียบมากๆ เริ่มร้อนด้วย เดาว่าเค้าคงปิดแอร์ เลยต้องเปิดประตูห้องไว้ ผมเริ่มเอาเน็คไทออก มันอึดอัดนะครับ

   พี่เค้าคงอึดอัดเหมือนกันก็เลยเอาออกด้วย แต่มีแถมกระดุมอีก 3 เม็ด แกคงขี้ร้อนน่ะ  พี่ต่ายขาวจริงๆครับผมอดเห็นไม่ได้ ก็มันนั่งตรงข้ามกัน เวลาเงยหน้ามาพี่เค้าก็อยู่ตรงหน้า อกพี่เค้าก็ตรงกะตาผมพอดี ไม่ได้แอบมองยังเห็นเลย  แต่ไม่ได้คิดอะไรเลย แค่เปรียบเทียบกะตัวเองว่าเอ๊ใครจะขาวกว่าใครถ้าเทียบกัน

“ทำไปถึงไหนล่ะ มัวแต่ใจลอย”อยู่ดีๆพี่ก็พูดขึ้นมา ผมตกใจสะดุ้งนิดหน่อย ก็คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ดีๆไม่ไห้สุ้มให้เสียง

 “เกือบแล้วพี่เดี๋ยวผมเอากลับไปสรุปที่บ้านพรุ่งนี้เช้าให้พี่ดูได้เลย” ผมก็ทำไปไม่รู้หรอกครับใช้ได้ไม๊ รู้แต่เอาของเก่ามาดูแล้วก็ทำตามๆเค้าไป บอกแล้วว่ายังไม่ค่อยรู้อะไร 

“งั้นไปกินข้าวกัน หิวแล้ว” ราวกับเสียงสวรรค์ครับก็มันเกือบ 3 ทุ่มแล้วอ่ะ ทำงานวันแรกยังขนาดนี้ เหนื่อยน่าดู ผมก็หิวด้วยอยากกลับด้วย 

“ดีพี่ หิวเหมือนกัน” ผมเลยเก็บของเผื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็กลับเลย แต่พี่เค้าแค่รวมๆงานวางไว้ที่โต๊ะแล้วก็เดินออกมา  เห็นพี่เค้าคุยกับยามอะไรไม่รู้พอผมเดินมาพี่เค้าก็พยักหน้าให้ผมเดินตามไป เราลงลิฟท์กันสองคนอีกแล้วครับ ผมตัวลีบเลย

“อย่าตดอีกนะ พี่ขอร้อง วันนี้เหนื่อยล่ะ ไม่อยากลั้นหายใจอีก หึ หึหึ ”
พี่ผมน่ะลืมไปแล้ว พี่จะมาขุดคุ้ยทำไม อายน่ะอาย รู้บ้างไม๊ ผมคงหน้าแดงมากครับ พี่เค้ามองหน้าผมแล้วก็แอบยิ้ม แบบกลั้นยิ้มน่ะ แต่กลั้นไม่ค่อยอยู่ มีเสียง “หึหึ หึ”ออกมาจนได้
อายจนหายหิวเลย  พอลงมาถึงข้างล่าง ผมเลยบอกพี่เค้าไปว่า

 “พี่ผมกลับเลยดีกว่า ไปกินที่บ้าน แยกกันตรงนี้แล้วกัน  สวัสดีครับ” อารมณ์ อายบวกงอน ด้วย ล้อกันอยู่ได้ ตดครั้งเดียวจะล้อไป 3 ชั่วคนเลยไม๊

“ถ้าคุณไม่กิน ก็ตามใจ”พี่เค้าหันหลังกลับขึ้นลิฟท์ไปเลยครับ แต่รอลิฟท์อยู่
ผมก็เลยตะโกนไปว่า “พี่ขึ้นไปทำไมล่ะ” แล้ววิ่งไปหน้าลิฟท์

“ทำงานต่อ” แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปเลย เหมือนหนังน่ะครับลิฟท์ค่อยๆปิด แล้วก็มีหน้าพระเอก ใส่เสื้อแบะอกกระดุม 3 เม็ด ยืนหน้าเฉยๆเหนื่อยนิดๆ แววตาอิดโรยเล็กน้อย จนลิฟท์ปิด
นี่กรูผิดอีกแล้วใช่ไม๊เนี่ย อะไรกันหนักหนาว่ะ เฮ้อ    :เฮ้อ:
----------------------------------------------------------------


kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
«ตอบ #29 เมื่อ17-11-2007 17:18:40 »

เอ! ดูเหมือนตอนนี้มานจาสั้นๆอยู่นะเนี่ย     :m23:

ตอนที่ 6

บางทีผมก็งง งงนะครับ งงบ่อยไปไม๊ไม่รู้  พี่ต่ายน่ะผู้ชาย ทำไมทำตัวหยุมๆหยิมๆ มีกัดมีประชด มีแปลกๆ อะไรก็ไม่รู้ แถมเป็นกะผมคนเดียว
แล้วผมล่ะ ก็ผู้ชายจะมาสนใจอะไรกับอารมณ์ผู้ชายที่เมนส์คงมาไม่ปกติ น่าจะไม่สนใจทำงานของตัวเองไป เค้าไม่ชอบเราก็คุยกะเค้าน้อยหน่อย

“เอ้าพี่ ข้าวมันไก่ ทานซะเดี๋ยวจะหิว” ครับผมกลับขึ้นไปเอาข้าวไปให้พี่เค้า แถมด้วยกาแฟเย็นแล้วมีบะหมี่แห้งอีกอย่าง   
 “ผมกลับล่ะ ไปนะพี่”

“อ้าวไม่ทานด้วยกันล่ะ ทานแล้วเหรอ” หน้าตาแกดูดีขึ้นแฮะ สงสัยดีใจมีคนเอาข้าวมาเลี้ยง เหมือนตอนหมากระดิกหางตอนเราให้ข้าวมัน แฮะๆ เปรียบมากไปปะ กำลังหมั่นไส้คนน่ะ   

“ผมจะกลับไปทานที่บ้านอ่ะพี่ ไปละ”แล้วผมก็กลับครับ ยังได้ยินเสียงแว่วๆว่า 

“ขอบใจนะ โอม”ลอยมา เป็นอันว่าผมซื้อคืนพี่เค้าไปแล้วนะ แทนค่าข้าวเมื่อกลางวัน  หักกลบลบกันยังกำไรนิดหน่อยด้วย แถมยังได้หน้าอีก หุหุ  แผนสูงไม๊ล่ะผม บอกแล้วนักบัญชีไม่มีหรอกเสียเปรียบ เจอกับยามตอนจะออก

 “กลับแล้วเหรอครับ อ้าวนึกว่าซัก 5 ทุ่ม เห็นคุณคนนั้นบอก”

หูยพี่ต่ายแกทำงานหนักงั้นเลยเหรอ ผมละทึ่งจริงๆทำไมต้องทุ่มเทขนาดนี้ด้วย มิน่าพี่แต้วถึงบอกเชื่อใจ แล้วถ้าผมไม่เอาข้าวมาให้พี่เค้ากิน เค้ามิหิวตายไปเลยเหรอ สำนึกดีบอกว่ากลับไปช่วยแกดีกว่า น่าสงสารต้องอยู่คนเดียวร้อนก็ร้อน  แต่สำนึกร้ายบอกว่าไม่ใช่เรื่อง ตัวเองงานก็ยังไม่เสร็จ หิวด้วย


ในที่สุดครับผมกลับบ้าน หิวจะตาย ตัวใครตัวมันล่ะครับ ก็สำนึกร้ายน่ะมันเป็นตัวผมมากกว่านี่ สำนึกดีน่ะมีเอาไว้เป็นทางเลือกเท่านั้นเอง ให้ดูชีวิตมีสีสันหน่อย เพราะผมชอบเลือกครับไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม........ปล่อยแกไปองค์ขยันกำลังลง เดี๋ยวเกิดองค์บ้าเข้ามาตอนผมนั่งอยู่ ไม่อยากต้องไปหาหมอฉีดยากันหมาบ้าอีกเข็ม 5555

คืนนั้นผมต้องเอางานมาทำ ดูว่ามีตรงไหนที่มีปัญหาที่ต้องถามลูกค้า   ก็จดออกมาแต่อันไหนที่สรุปได้ผมก็พิมพ์เป็นรายงานออกมาเลย กะว่าพรุ่งนี้ไปแต่เช้าแล้วคงเรียบร้อยก่อนพี่ต่ายมาดูงาน   

“โอม ดึกแล้วนะ ยังไม่นอนอีกเหรอ” พี่ชายผมครับพี่อั้มชะโงกหน้ามาถาม

“วันนี้ก็กลับมาซะค่ำแล้วไม่รู้จักหาอะไรกินมาก่อน  เห็นกินแต่มาม่าแล้วอิ่มเหรอ”แหะๆผมชอบกินมาม่าครับ บางทีนั่งดูโฆษณาไป ก็นั่งคิดว่าเอออยากกินบ้างจริงๆ     ที่บ้านเลยติดมาม่าสารพัดชนิดเก็บไว้เป็นเสบียง  คืนนี้ก็มัวแต่เซ็งเรื่องไปตดต่อหน้าชาวบ้าน  ไม่มีอารมณ์จะไปรอซื้อข้าวมากิน   เลยกินมาม่านี่แหล่ะสะดวกดี อร่อยด้วย
 
“เออน่าเค้าอิ่มก็แล้วกัน อย่ามายุ่งเค้ากำลังทำงาน  ตัวเองทำไมยังไม่นอน เล่นเน็ตละซิ” พวกเราพี่น้องสนิทกันครับไม่ค่อยเรียกพี่หรอก แม่บ่นประจำ พี่ผมก็ไม่ถือสาหรอกคงชินมากกว่า อีกอย่างคงเกินเยียวยาแล้วผมน่ะ   

“เออ ไม่รู้ใครเป็นพี่เป็นน้อง โอมแกนี่ ไอ้เราเป็นห่วงงานเค้าหรอก ไม่รู้จะเสียหายเท่าไหร่  คิดยังไงนะรับแกไปทำงาน 5555 น่าเป็นห่วง”
ครับมาแซวหน่อยแล้วพี่ผมก็ไป ผมทำงานต่อหน่อยนึงแล้วเลยนอน กะว่าพรุ่งนี้ไปซัก 7โมงเลยดีกว่า รับรองว่าพี่ต่ายเห็นงานผมแล้วต้องอึ้ง.......ผมมั่นใจ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด