[Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END  (อ่าน 132478 ครั้ง)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
«ตอบ #60 เมื่อ04-12-2007 09:57:26 »

ร้ายได้อีก แรงได้อีก เรื่องนี้สุดๆเลย ถูกใจ อิอิ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
«ตอบ #61 เมื่อ04-12-2007 17:16:17 »

  พี่แอมๆ ลงตอนที่ 4 ไม่ครบอ่ะ   :m26:


จะรอตอนที่หกนะคะ  มาต่อเร็วๆ น้า

 :impress: :impress: :impress:


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
«ตอบ #62 เมื่อ04-12-2007 23:26:49 »

เข้ามาอีดิทตอน4ที่ขาดหายไปให้แล้วนะ

ลงในคอมเม้นต์ของตอนที่4

สามารถย้อนกลับไปอ่านใหม่ได้นะ

ขออภัยสำรับความผิดพลาด

ไม่ได้สังเกตุให้ดีๆอ่า ขอโทษจริงๆ

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
«ตอบ #63 เมื่อ05-12-2007 14:06:32 »

กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซวววว


อ่านกันอย่างมึนเมาและเมามันกันเลยครับแอม

กลับมาแล้วนะครับ นั่งอ่านเรื่องงนี้ก่อนเลย


ไอ้เอ็มชอบศิระล่ะฮะ 5555+



สเป๊คเลย  555

สุดยอดทั้งคนโพสและคนแต่งครับ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่านกันนะครับ(นานแล้วนะที่ไม่ค่อยได้ติดอะไรแบบนี้ ครึๆๆ)



ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
«ตอบ #64 เมื่อ07-12-2007 00:21:50 »

“เฮ้ย มึงเอาจริงเหรอศิระ เงินนี่มันหลายหมื่นนะโว้ย”โก๋ แย้งศิระขึ้นมาอย่างนึกเสียดายเมื่อศิระออกปากชวนเขาให้ไปเป็นเพื่อนเพื่อเอาเงินทั้งหมดที่เขาค้างคาพฤษ์ไว้ไปคืนให้เจ้าตัว
“จะหลายหมื่นหรือหลายแสน กูก็จะเอาไปคืนมันให้หมด มึงจะมาเสียดายทำไม กูไม่อยากเก็บไว้ให้มันดูถูกเล่นอีก”  ศิระพูดด้วยความโกรธนึกอยากที่จะเอาเงินก้อนนี้ไปคืนพฤกษ์โดยเร็วที่สุด มันเป็นสิ่งแรกที่เขานึกทำทันทีที่ได้รับเงินเดือนซึ่งจริงๆมันไม่พอเสียด้วยซ้ำสำหรับเงินที่เขาค้างไว้ทั้งหมด เด็กหนุ่มยอมที่จะควักเงินเก็บตัวเองเพิ่มเติมเข้าไปในส่วนที่ขาดเพื่อที่จะกู้ศักดิ์ศรีที่พฤกษ์เคยดูแคลนเอาไว้และครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะแบกหน้าไปหาคนที่เขาสาบานกับตัวเองไว้ว่าชาตินี้ไม่มีทางที่เขาจะญาติดีด้วยเด็ดขาด
“มึงนี่นะศิระ ถ้าอย่างเราๆ มีเงินเหลือกินเหลือใช้ กูจะไม่ว่ามึงซักคำเลย แต่นี่อะไร ภาระมากมายก็สุมหัวรออยู่ ศักดิ์ศรีน่ะ มันกินเข้าไปได้มั๊ยวะ”โก๋แย้งขึ้นอีก เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนเอาจริง
“มึงไม่ต้องพูดมากไอ้โก๋ ตกลงมึงจะไปหรือไม่ไป”คนเอาจริงยื่นคำขาด ทำเอาคนแย้ง ถึงกับพูดไม่ออก และยอมไปเป็นเพื่อนในที่สุด


 “สวัสดีครับ ผมพฤกษ์พูดครับ” เสียงสุภาพปลายสายที่ตอบกลับมา ศิระแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินคำพูดในลักษณะนี้จากคนที่ดูถูกเขาไว้ เด็กหนุ่มได้แต่ยืนอึ้งไปซักพัก เมื่อไม่รู้จะเอ่ยเริ่มต้นยังไงถึงจุดประสงค์ตัวเอง
   “สวัสดีครับ ผมพฤกษ์ครับ” พฤกษ์กรอกเสียงไปรอบที่สองเมื่อไม่มีเสียงตอบกลับเขาเมื่อทักทายไปแล้ว โรคจิตที่ไหนโทรมาหรือเปล่า บอกขอสายเขาแล้วไม่ยอมพูด นี่มันก็จะสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว หรือว่าเป็นเมษา ก็ไม่น่าใช่เพราะเขาซื้อมือถือเครื่องใหม่ไปแล้วนี่ เมษาน่าจะโทรเข้าเครื่องเขามากกว่าที่จะโทรมาที่บ้าน
“ไม่พูดผมวางสายนะครับ” เด็กหนุ่มบอกอย่างหงุดหงิด เบอร์บ้านเขาไปตกหล่นไว้ที่ไหนอีกแล้วสิเนี่ย
“เดี๋ยว” ศิระ ตัดสินใจพูดเสียงห้วนสั้นออกไปทันที ไม่สิเขาต้องไม่กลัวนายนี่ จะสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ยังไงซะวันนี้เขาต้องคืนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้นายนี่ให้หมด จะได้สาปส่งมันให้ออกไปจากจิตใจซะที
“ใครน่ะ” คนคิดวางสายถามเสียงนิ่ง ไอ้บ้าที่ไหนมาพูดจาห้วนไร้มารยาทแบบนี้กับเขาตอนดึก มันน่านัก
“ลูกหนี้นายไง” ศิระตอบคำถาม ถ้าเขาเห็นฝ่ายตรงข้ามได้เขาคงเห็นพฤกษ์หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตอนนี้
“ถ้าโทรผิดผมก็ไม่ถือสานะครับ ผมคงไม่ว่างที่จะคุยด้วย สวัสดีครับ”พฤกษ์จะวางสายเพราะนึกไม่ออกว่าไปมีลูกหนี้ไว้ที่ไหน ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะปล่อยเงินกู้ไอ้บ้าที่ไหนมันมาอำเปลืองเวลาที่จะคุยด้วย
“ถ้านายวางสาย สาบานได้ว่านายไม่ได้เงินคืนซักบาทแน่ นายพฤกษ์”คนคิดวางสายชะงักมืออีกรอบ เมื่อได้ยินประโยคยาวๆจากคนที่เขาคิดว่าโทรเข้ามากวนประสาท
“โธ่เอ้ย นึกว่าใคร”เด็กหนุ่มพูดออกไปลอยๆ ศิระนึกน้อยใจกับน้ำเสียงที่ได้ยิน พฤกษ์คงรู้ว่าเป็นเขาแล้วน้ำเสียงถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่เขาจะสนใจทำไมล่ะในเมื่อเขาโทรมาเพื่อเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากันอยู่ก็น่าจะเข้าเรื่องให้เร็วที่สุด
“หวังว่านายคงยังไม่นอนหรอกนะ”
“ถ้านอนจะมารับโทรศัพท์นายได้ยังไง โทรมาทำไม”
“ฉันจะเอาเงินไปคืนนาย”
“เงินอะไร”
“ที่ฉันค้างนายเอาไว้ทั้งหมด”
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วคุณ ดูเวลาซะบ้าง อยากแสดงตัวว่าตัวเองเป็นคนซื่อสัตว์นักหรือไง” ศิระสะอึกในสิ่งที่ได้ยิน เอาเถอะต่อไปนายนี่จะไม่มีทางที่จะได้รำคาญเขาอีกแน่ คำพูดแค่นี้จะนึกน้อยใจไปทำไม
“ฉันไม่ได้อยากอวดตนว่าเป็นคนซื่อสัตว์อะไรกับใคร แต่ฉันไม่อยากเก็บเงินนายเอาไว้ให้มันหนักตัวก็เท่านั้น ชีวิตฉันไม่ได้ว่างยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนอย่างนายถ้าคิดว่ามันเสียเวลามากนักบอกเบอร์บัญชีมา ฉันจะโอนให้ทุกบาททุกสตางค์”

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
«ตอบ #65 เมื่อ07-12-2007 00:26:37 »

“ เลิกเพ้อเจ้อ แล้วจะไปไหนก็ไป เงินแค่นี้ฉันไม่คิดติดใจเอาคืนจากนายหรอก บอกแล้วไงว่าถือซะว่าฉันทำบุญ อย่าโทรมาดึกๆแบบนี้อีกถ้าคิดจะมาพูดจาไร้สาระแบบนี้ ทางที่ดีลืมเบอร์บ้านฉันไปซะจะขอบใจมาก” เสียงโทรศัพท์วางโครมพร้อมเสียงสัญญาณขาดหายไป ศิระ ใจสั่นเป็นห้วงๆ นึกโกรธตัวเองที่โทรไปให้พฤกษ์ด่าอย่างไม่ไว้หน้า นายนั่นไม่เคยเอาเรื่องเขาไปคิดให้หนักสมอง มีแต่เขาเองหรอกเหรอที่คิดว่าตัวเองมีภาระติดอยู่กับคนแบบนั้น มันน่าอายสิ้นดีที่หลงคิดไปคนเดียว คำพูดที่พฤกษ์ตอกกลับเมื่อครู่ช่วยย้ำให้เด็กหนุ่มสำนึกได้ดีว่าเขาหลุดไปจากวงจรชีวิตของพฤกษ์ตั้งแต่วันนั้นที่ลานจอดรถแล้ว
“เป็นไรวะ หน้าซีดๆ” โก๋ทักเมื่อศิระเอาโทรศัพท์ที่ยืมไปโทรเมื่อครู่มาคืน แต่ก็มาแบบสภาพเลื่อนลอยแถมหน้าตายังซีดยังกะโดนผีหลอกมา
“เปล่า”ศิระตอบสั้นๆ คอเขาแห้งผากไปหมด น้ำลายที่จะกลืนลงไปยังไม่มี เพราะฝืนให้ก้อนสะอื้นลงไปจุกที่อกเอาไว้
“เขาว่าไงบ้าง” โก๋ถามต่อ
“ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างมันจบแล้ว กูบ้าไปเองคนเดียวแหละ คนระดับนั้น เขาไม่มาสนใจเงินแค่นี้ให้เสียเวลาหรอก”
“แสดงว่าเขาไม่เอาคืนเหรอ”
“จริงๆเขาไม่เอาตั้งนานแล้ว แต่กูบ้าเอง ขอบใจนะที่มึงมาเป็นเพื่อน มึงกลับเหอะมันดึกแล้ว”
“แล้วมึงล่ะ”
“เออ ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่นอนข้างถนนหรอกน่า เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน” ศิระฝืนยิ้มให้เพื่อน แต่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มของตัวเองมันดูเศร้าจนเกินที่โก๋จะปล่อยให้เขากลับคนเดียว
“ศิระ ท่าทางมึงไม่ค่อยดีเลยว่ะ มีอะไรหรือเปล่าวะ”
“ไม่มีอะไรจริงๆ คนอย่างกูเนี่ยนะจะมีอะไรให้แย่กว่าที่เป็นอยู่”
“ทำไมมึงชอบประชดตัวเองนักวะ เอาเถอะ มึงคงอยากอยู่คนเดียว กูไม่กวนก็ได้ แต่อย่าคิดอะไรมากนะโว้ย ยังไงมึงก็มีกู มีอะไรก็โทรหากูแล้วกัน” คนบอกตบไหล่เพื่อนแล้วเดินแยกจากไป ลับหลังเพื่อนที่แสนดี ศิระยืนหลับตานิ่งเพื่อไล่ความรู้สึกสมเพชตัวเองให้หายไป อะไรที่แย่กว่านี้ยังเคยผ่านมันไปได้นับประสาอะไรกับเรื่องของคนๆหนึ่งที่เหมือนเป็นเส้นขนานของชีวิตเขาจะลืมมันไปไม่ได้


“เป็นไรวะพฤกษ์ เหม่อๆชอบกล” ปอนด์ทักเพื่อนขณะนั่งรอเมษาอยู่ วันว่างแบบนี้ พวกเขาก็มักจะชวนพฤกษ์มาเที่ยวนอกบ้านเสมอ เมื่อก่อนอาจจะใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานซักหน่อยกว่าที่พฤกษ์จะยอมออกมาด้วย แต่วันนี้พวกเขาแทบจะไม่ต้องออกแรงพูดให้เปลืองแรงพฤกษ์ก็ยอมออกมาหาด้วยดี แต่มาแล้วมาเหม่อแบบนี้มันก็ไม่ค่อยที่จะดีนัก
“มีอะไรบอกกูได้นะโว้ย” เด็กหนุ่มพูดต่อเมื่อพฤกษ์ยังไม่ยอมเปิดปากถึงสาเหตุที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
“อย่ามายุ่งกะกู มึงนั่งรอเพื่อนมึงเงียบๆไปเถอะ” พฤกษ์พูดออกมาในที่สุด เขากลายเป็นคนหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนแรกคิดว่าอยู่คนเดียวจะยิ่งหงุดหงิดเลยยอมมออกมาหาเพื่อนคุย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องหงุดหงิดเพิ่มเมื่อได้ยินโปรแกรมเที่ยวที่ปอนด์วางเอาไว้ให้
“ทำไมพูดงี้วะ เพื่อนกูก็แฟนมึงนะโว้ย” ปอนด์แย้ง แต่มันเป็นคำแย้งที่คนได้ยินฉุนขาดทันที
“ใครแฟนกู มึงอย่ามั่วไอ้ปอนด์ กูยังไม่ได้ตกลงจะคบใครนะมึง”
“อ้าว มึงจะรอคบไอ้กุ๊ยนั่นเหรอ ถึงไม่ยอมตกลงลองเปิดใจคบกับเมษาดู”
“มึงหมายถึงใคร”
“ไอ้ศิระ”
“กูบอกมึงแล้วไงว่าอย่าเอ่ยถึงไอ้นั่นให้กูได้ยินอีก”
“เออๆ กูแค่เผลอ ขอโทษที ว่าแต่มึงจะเกลียดอะไรมันขนาดนั้นวะ”
“มึงไม่ดีใจเหรอที่กูเกลียดมัน มึงอยากให้กูเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ”




รอติดตามอีกนะ

ฝากนิสนึง

ตอนนี้มหกรรมกีฬาแห่งอาเซี่ยนเริ่มแล้ว

อย่าลืมมาเป็นกำลังใจให้ทัพกีฬาไทยกันนะคับ

ซีเกมส์ครั้งที่ 24 จัดที่นครราชสีมานะคับ


ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
«ตอบ #66 เมื่อ07-12-2007 00:31:12 »

พี่แอมน่ารักมากเลย   :m13:

เดี๋ยวน้องจะหาของไปเซ่นนะคะ

 :m18: :m18: :m18:


มาต่อไวๆ น้า


Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
«ตอบ #67 เมื่อ08-12-2007 22:31:09 »

ง่า...เมื่อไหร่จะมาต่อล่ะครับแอม


อารมณ์กำลังได้เลยอะครับ


ไอ้เอ็มรออยู่นะแอมน้า อยากอ่านอะ


ปล. หุ หุๆๆๆ คิดถึงเน้อ ไสหัวตัวเองมาถึงกทม.แล้วนะแอม กลับมาแล้วก็เหมือนเดิมอะ มีแต่ทรุดกับทรุด แฮ่ๆๆ ที่คุยๆกันไว้เรื่องไอ้พี่นั้นอะ  กร๊าซซซซซซซซซซสงสัยจะเป็นหมันว่ะแอม

โฮกกกกกกก  คราวนี้ทำใจลำบากกกกกก  :a6:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
«ตอบ #68 เมื่อ08-12-2007 22:48:03 »

ว้า.......................รอ ร้อ รอ ร้อ รอ  :a12:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
«ตอบ #69 เมื่อ10-12-2007 02:32:21 »

“มันก็จริง แต่ดูเหมือนมึงจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เอ่ยถึงมัน กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นไปขนาดนี้”
“เอ อ เรื่องของกู โน่น เพื่อนมึงมาแล้ว” พฤกษ์ตัดบทเสร็จก็หันไปมองเมษาที่เดินยิ้มร่ามาแต่ไกล แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อด้านหลังเมษา เขาเห็นศิระ เดินมากับเด็กหนุ่มคนนั้น คนที่เขาเคยเจอในร้านอาหารวันที่มีเรื่องกัน
“เฮ้ยพฤกษ์ มึงมองอะไรเมษาขนาดนั้นวะ  หรือมึงเริ่มจะเปลี่ยนใจแล้ว”
ปอนด์ทักพฤกษ์ทำตาเจ้าเล่ห์เพราะคิดว่าพฤกษ์มองเพื่อนตัวเองจริงๆ แต่สิ่งที่พฤกษ์พูดออกมาทำเอาเขาหน้าจ่อย
“กูป่าวมองเพื่อนมึง”
“แล้วมึงมองใครวะ”
“เปล่า” ปากบอกเปล่า แต่สายตากลับไม่ไปที่คนถาม ปอนด์เลยหันตามสายตาที่คนบอกเปล่ามองไป….นั่นไง กูว่าแล้ว ….. คนมองตามคิดในใจเมื่อมองเห็นศิระเดินอยู่กับเป้ เขารู้จักเป้บ้างคร่าวๆจากสถานที่เที่ยว ไม่คิดเลยว่าเป้จะไปคบกับศิระ
“หึงมันเหรอมึง” เด็กหนุ่มแขวะ  พฤกษ์ได้สติ เด็กหนุ่มรีบเบือนสายตาหนีจากภาพตรงหน้า และเพื่อตบตาเพื่อนเขารีบยิ้มทักทายเมษาที่เดินมาถึงพอดี
“รถติดหรือเปล่าครับเมษา”
“ไม่เท่าไหร่ครับ แล้วนี้มากันนานหรือยังครับ” เมษาตอบกลับยิ้มๆรู้สึกเป็นสุขเมื่อได้รอยยิ้มจากคนที่รัก แต่ปอนด์นี่สิ รู้สึกได้ถึงกลิ่นการหลอกตาของเพื่อนตัวเอง
“ทำอะไรจริงใจหน่อยนะมึงพฤกษ์ เมื่อกี้มึงไม่ได้เป็นแบบนี้”  เด็กหนุ่มรีบแย้ง ดูออกหรอกน่าว่าเพื่อนกำลังรู้สึกกับภาพที่เห็นนายศิระนั่นเดินคู่กับนายเป้
“อะไรของมึงไอ้ปอนด์ มึงจะมาจ้องจับผิดอะไรกูนักหนา เมษาเขาก็มาแล้วจะไปไหนก็พากูไป วันนี้กูให้เวลาพวกมึงเต็มที่” พฤกษ์แย้ง แต่ปอนด์ก็ยังแขวะจนได้
“ประชดใครหรือเปล่าวะ”
“ไอ้ห่านี่ กูจะไปประชดใครวะ รำคาญว่ะ งั้นก็ไปกันเองละกันสองคน”พฤกษ์เดินหนีอย่างนึกรำคาญคนจับผิดจนลืมไปว่าตัวเองกำลังเดินไปทางที่ศิระเดินดูของอยู่กับเป้
“เป็นอะไรของเขาน่ะ ปอนด์”    เมษาพูดอย่างหงุดหงิด ก็เมื่อกี้ยังดีๆอยู่
“สงสัยว่าเราต้องทำอะไรเด็ดขาดซะแล้วว่ะเมษา” ปอนด์บอกอย่างนึกเคืองในท่าทีเพื่อนตัวเอง ที่เขาเริ่มสงสัยว่าไปติดบ่วงไอ้กุ๊ยอย่างศิระแน่ๆ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
« ตอบ #69 เมื่อ: 10-12-2007 02:32:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
«ตอบ #70 เมื่อ10-12-2007 02:36:53 »

“เฮ้ย ศิระที่รักมึงนี่หว่า” เป้สะกิดแขนคนที่กำลังก้มๆเงยๆดูโทรศัพท์มือถือที่เรียงรายกันอยู่ในตู้ ศิระทนให้คนรอบกายรบเร้าไม่ไหวเรื่องโทรศัพท์ เพราะใครๆก็บ่นว่าติดต่อเขายากจนน่าเบื่อ เจ้าตัวเลยยอมกัดฟันมาเลือกซื้อติดตัวไว้ซักเครื่อง
“ใครอีกล่ะที่รักกู มึงไปโดนใจใครเข้าล่ะ โยนมาให้กูแก้เขินอีกแล้วนะ”คนโดนสะกิดพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองคนที่คนสะกิดกำลังพูดถึง เป้กำลังจะสะกิดคนไม่สนใจเขาเป็นรอบที่สองแต่ต้องชะงักเอาไว้เมื่อคนที่เขาเอ่ยถึงเมื่อครู่เดินมาถึงตัวแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงทักทาย และด้วยความที่ไม่รู้อะไร นึกว่าคนๆนี้จะมาหาเพื่อนตัวเองเลยจำเป็นต้องหลบฉากออกไปเงียบๆ ปล่อยให้คนมาใหม่เข้ามายืนแทนที่ตน
   “เฮ้ย เป้ มึงว่ารุ่นนี้เป็นไงบ้างวะ” ศิระเอื้อมมือกลับมาฉุดแขนคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนตัวเองโดยไม่หันกลับมามองให้เข้าไปดูโทรศัพท์ตัวที่ตัวเองสนใจใกล้ๆ ฝ่ายโดนฉุดแขนก็เงียบปล่อยให้คนฉุดจับมือเขาไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดไม่จา แต่สายตาเหลือบไปเห็นแล้วล่ะว่าเจ้าตัวกำลังสนใจโทรศัพท์รุ่นไหนอยู่ ราคาสูงเหมือนกันแฮะ ไหนบอกไม่มีตังค์ โธ่เอ้ยฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ เด็กหนุ่มนึกคิดเหยียดๆในใจ แต่แล้วก็ใจกระตุกรู้สึกผิดเมื่อได้ยินสิ่งที่คนที่เขานึกเหยียดระบายออกมาใหม่
   “แต่อย่างกูคงไม่มีปัญญาซื้อหรอกว่ะ เอาแค่โทรเข้าออกได้ก็บุญโขแล้ว แม่งแพงชิบ เสียดายเงิน” คนใจกระตุกผ่อนลมหายใจเบาๆก่อนจะโน้มตัวลงก้มลงไปตามแรงฉุดของคนตัดพ้อตัวเอง กลิ่นหอมจางๆที่ไม่คุ้นเคยของคนข้างตัวทำให้ศิระหันมามองแทบจะทันทีที่เจ้าของกลิ่นโน้มใบหน้าเนียนใสลงข้างๆ
“เฮ้ย” เด็กหนุ่มอุทาน หัวใจหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้าเมื่อมองสบตากับคนที่เขากุมมือเอาไว้อยู่ ไม่ใช่เป้เพื่อนแต่เป็นคนที่ชีวิตนี้เขาไม่ขอยุ่งเกี่ยวให้อับอายอีก ปากจึงเผลอครางชื่อนั้นเบาๆ
“นายพฤกษ์”
   “อยากได้มันเหรอ” พฤกษ์ไม่สนใจเสียงครางชื่อเขาจึงเอ่ยขึ้น แม้สีหน้าเด็กหนุ่มจะดูเรียบเฉย แต่แววตาและน้ำเสียงมันไม่ได้หยาบกระด้างอย่างที่เคยได้ยิน
ศิระ ไม่สนใจคำถามนั่น เด็กหนุ่มรีบสลัดมือให้หลุดออกจากคนที่เขาเห็นแน่ชัดแล้วว่าเป็นใคร พอมือเป็นอิสระ ก็คิดที่จะเดินหนี แต่ต้องชะงักเมื่อโดนคนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนรีบดักทางเอาไว้ พฤกษ์แปลกใจในความเฉยชาที่ได้รับจากคนตรงหน้าที่เขารีบดักทางเอาไว้ ก่อนเจ้าตัวจะเดินหนี  ตอนแรกเขาคิดว่าศิระจะโวยวายลั่นร้านอย่างที่เขาเคยโดน เปล่าเลย ศิระไม่มีท่าทีแยแสเขาแม้แต่น้อย ตอนที่ปล่อยมือออกจากเขา 
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ” เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเอ่ยทัก คนตรงหน้าที่คิดจะเดินหนีเขาอีกรอบ และฝ่ายนั้นก็หยุดตามเสียงทักเขาจนได้
“ทำไมไม่ซื้อล่ะ” คนเอ่ยทัก ถามขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่เขาเรียกไว้อีกรอบ เงียบไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากคนตรงหน้า นอกจากแววตาเฉยชาเท่านั้น
“เฮ้ย พูดอะไรมั่งดิวะ” พฤกษ์ รู้สึกแปลกๆจึงพยายามที่จะให้ศิระพูดกับเขาให้ได้  ซักคำก็ยังดี แต่ยังไงก็ไม่เป็นผล ศิระนิ่งเสียจนเขาไม่เชื่อว่านี่คือคนที่เคยทำให้เขาเคยหมดความอดทนจนต้องพูดจาอะไรแรงๆออกไป
“อ้าวเฮ้ย จะไปไหนอีกวะ” เด็กหนุ่มรีบร้องเรียกตามคนที่หันหลังจะเดินหนีเขาอีก ศิระ ไม่ใช่คนแบบนี้นี่นา
ผั๊วะ!!!!! พฤกษ์หน้าหน้าหันตัวเซนิดหน่อยเมื่อโดนแรงเหวี่ยงจากหมัดคนที่เขาวิ่งตามที่หันมาซัดเข้าใบหน้าเขาเต็มๆตอนที่เขาตามไปถึงร่าง
“ขืนยังตามกูอีก มึงโดนหนักกว่านี้แน่” คนชกชี้หน้าเหยื่อกำปั้นอย่างไม่เกรงสายตาคนที่หยุดมองดูเหตุการณ์ ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้คนโดนชกยืนลูบมุมปากตัวเองมองตามด้วยรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เจอ




ติดตามตอนต่อไปนะครับ

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
«ตอบ #71 เมื่อ10-12-2007 09:55:09 »

งงชกทำไม o12
แล้วเมื่อไหร่จะรักกันซักทีล่ะ....หรือว่ารักแต่ยังไม่แสดงออก o7

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
«ตอบ #72 เมื่อ10-12-2007 10:31:02 »

ชกกันแบบนี้เลยเหรอ  :o

นี้เป็นวิธีแก้เขิน หรือ หนีหัวใจตัวเองกันแน่เนี่ย

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #73 เมื่อ10-12-2007 12:47:13 »

ครั้งนี้จะลงรวดเดียวทั้งตอนเลยละกันนะ

ตามลุ้นความรักระหว่างพฤกษ์กับศิระกันต่อไป

++++++++++++

#7

ศิระกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติอย่างที่เคยเป็นหลังจากที่พฤกษ์หายไปจากชีวิตเขาตั้งแต่วันนั้น วันที่โดนเขาต่อยหน้ากลางสายตาฝูงชน จากเหตุการณ์นั้นใช่ว่าจะไม่มีผลต่อจิตใจเด็กหนุ่ม ศิระใช้เวลาทบทวนหลายวันว่าที่เขาทำมันน่าจะรุนแรงเกินไป เพราะในทางกลับกันหากเขาเป็นพฤกษ์ เขาจะยอมให้คนที่พูดจาหยาบคาย ทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอกันมาก่อความวุ่นวายให้ชีวิตขนาดนี้ได้หรือเปล่า เขายังตอบตัวเองไม่ได้ พฤกษ์มีสิทธิ์เต็มที่  ที่จะเอาเรื่องเขาในเรื่องการบริการครั้งนั้น ไม่มีคู่มืองานบริการเล่มไหนสอนให้พนักงานยื่นของให้ลูกค้าโดยหันหลังให้  เขาผิดเต็มประตูที่แยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันไม่ได้ ถ้าเป็นลูกค้าคนอื่นเขาอาจจะโดนมากกว่าที่พฤกษ์ทำ จากคำพูดของผู้จัดการร้านที่เขาเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุที่พฤกษ์ไม่เอาเรื่องเขาสิ่งที่เขาได้ยินจากปากผู้บังคับบัญชาคือ พฤกษ์แค่อยากที่จะให้เขารู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ตั้งท่าที่จะเถียงท่าเดียว นายนั่นแค่อยากที่จะได้ยินคำขอโทษและก็การพูดจาให้เหมือนคนให้บริการพึงกระทำที่มาจากใจเขาจริงๆไม่ใช่โดนบังคับ

   “อะแน่ เพื่อนกู แอบเหงากะเขาเป็นด้วย” โก๋เดินเข้ามาแซวคนนั่งซึมภายในร้านที่นัดเขามา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ แต่ดูอบอุ่นในสายตาของคนที่แอบมาสำรวจทุกๆเย็น จนรู้จักกับเจ้าของร้าน
“ใครบอกกูซึม กูรอมึงจนเบื่อต่างหากล่ะ” ศิระแกล้งว่ากลบเกลื่อนอาการตัวเอง จริงๆเขาเองก็เป็นอย่างที่โก๋ทัก
“อะไร กูว่ากูมาเร็วแล้วนะ แล้วนี่มึงคึกอะไรของมึงเนี่ยถึงนัดกูมาร้านแบบนี้” โก๋เถียงแล้วมองรอบห้องสี่เหลี่ยมที่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนระหว่างโต๊ะนั่งกับมุมเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม มันไม่ต่างจากร้านที่เขากับศิระทำอยู่เท่าไหร่ แต่โทนสีเย็นตาของวอลเปเปอร์ เมนูบอร์ด และ เฟอร์นิเจอร์ที่มองเห็น  มันทำให้ร้านดูมีระดับกว่าที่นั่น แต่ดูยังไงๆที่นี่มันก็ไม่เหมาะกับคนอย่างเขาให้ตายสิ
“ทำไมที่นี่ทำไมเหรอดูดีออก กูยังคิดเลยว่ากูอาจจะมาทำงานที่นี่แทนที่เดิม”ศิระแย้งกลับ ทำเอาคนฟังส่ายหน้า
“ก็เพราะมันดูดีอ่ะดิกูเลยไม่อยากเข้ามา แล้วที่แบบนี้เนี่ยนะจะรับคนอย่างเรา เรียนก็ยังเรียนไม่จบ เพ้อเกินไปหรือเปล่ามึง”
“อ้าวกูก็ไม่ได้บอกว่ากูจะมาตอนนี้ซะหน่อย”
“แล้วมึงเบื่อที่ร้านแล้วเหรอ”
“กูไม่ได้เบื่อหรอกแต่จะให้กูเป็นขี้ข้าเขาไปจนตายกูก็ไม่เอาว่ะ”
“แล้วมึงมาอยู่นี่มึงคิดว่าเขาจะเอามึงนั่งหิ้งบูชาหรือไง”
“ก็ถ้ามาแล้วกูยังให้คนอื่นโขกสับแล้วกูจะมาทำไม”
“มึงหมายความว่าไง”
“เออ มึงคอยดูกูต่อไปละกัน คนอย่างกูไม่ให้คนอื่นดูถูกไปจนตายหรอก”
“ยังไม่เลิกแค้นเจ้าหนี้อีกเหรอวะเงินซักบาทมึงก็ไม่ต้องใช้เขาแล้วนี่หว่า”
“กูไม่ได้แค้นใคร เรื่องกูกับนายนั่นจบไปตั้งนานแล้ว”
“จบจริงเหรอ”
“ไมถามงี้วะ”
“อ้าวกูจะไปรู้เหรอ ก็กูเห็นมึงดูแปลกๆตั้งแต่มึงโทรหาเขาวันนั้นแล้ว พักหลังนี่ยิ่งเอาใหญ่ กูไม่เคยเห็นมึงนั่งเหงา กูก็เห็น กูไม่เคยเห็นมึงชวนกูออกมาเที่ยวมึงก็ชวน อาการแบบนี้มันเหมือนคนที่อยากที่จะลืมอะไรซักอย่างแต่ลืมไม่ได้ชัดๆ”
“พูดมากไอ้โก๋ ทำเป็นเก่งปรัชญา เดี๋ยวเถอะมึง”
“นั่นไงพูดแค่นี้ทำโมโห โดนใจล่ะซี้ ไอ้ศิระ”
“ไอ้นี่วอนนะมึง” ศิระทำขึงขังใส่โก๋เพื่อให้เจ้าตัวเลิกแซว และเมื่อฝ่ายนั้นเลิกพูด เขาเองก็กลับไปคิดเรื่องพฤกษ์ นั่นสินะ ทำไมเขาลืมพฤกษ์ไม่ได้ซักที ทั้งๆชีวิตก็มีเรื่องให้คิดมากมาย
“บางทีคนเราถ้าไม่ตั้งป้อมกันท่าอะไรๆที่เข้ามาในชีวิตเอาไว้ก่อน ชีวิตก็อาจจะเจออะไรดีๆก็ได้นะศิระ” โก๋พูดออกมาเหมือนย้ำให้ศิระคิด ชีวิตมันก็มีอยู่แค่นี้ จะเครียดกับมันไปทำไมนักหนาก็ไม่รู้
“สอน ๆๆ กูไม่ได้ตั้งป้อมกันท่าอะไรทั้งนั้น มึงเลิกพูดอะไรที่มันฟังแล้วเลี่ยนหน่อยเลยไอ้โก๋ กูขี้เกียจฟัง”
“มึงก็งี้แหละศิระ ใครพูดอะไรแม่งก็ไม่ฟัง กูเลิกพูดก็ได้วะ แต่มึงอย่ามาทำเป็นซึมแบบนี้ให้กูเห็นเลยว่ะ มันไม่คุ้นตากู”

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #74 เมื่อ10-12-2007 12:53:50 »

สงสารพฤกษ์เจงๆ

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #75 เมื่อ10-12-2007 13:03:46 »

“เออๆๆ กูขอเวลาหน่อยแล้วกัน ช่วงนี้กูเครียดหลายเรื่อง”
“รวมทั้งเรื่อง…..”
   “หุบปากไปเลยมึงไหนบอกจะเลิกพูดแล้วไง” โก๋อ้าปากค้างอยู่แค่กลางประโยคที่กำลังจะเอ่ยต่อจนจบเมื่อศิระชี้หน้าปรามเอาไว้ด้วยเสียงดุๆ

ศิระยืนมองคนร่างสูงที่กำลังยืนเลือกหนังสืออยู่ในมุมหนึ่งของร้านที่ข้างกายมีพนักงานคอยให้คำแนะนำ ท่าทางพฤกษ์ไม่ได้หยิ่งและดูแคลนพนักงานบริการอย่างที่เขาตั้งแง่เลยซักนิด รอยยิ้มของเด็กหนุ่มดูจริงใจและเป็นมิตรเสียด้วยซ้ำกับคนที่คอยให้บริการ คนเฝ้ามองอดคิดไม่ได้ว่าทำไมพฤกษ์ไม่มีท่าทีเป็นมิตรกับเขาเหมือนอย่างที่กำลังทำตอนนี้บ้าง คำพูดเสียดแทงของพฤกษ์ยังคงก้องอยู่ในหูตลอดเวลา แล้วนี่เขาเป็นบ้าไปหรือเปล่าที่แอบตามนายนี่มาเกือบทั้งวัน ทั้งๆที่เคยบอกกับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก ไม่นะศิระ แกอย่าอ่อนแอและบ้าไปกับคำพูดของไอ้โก๋แค่ไม่กี่ประโยคสิวะ อยู่ดีไม่ว่าดีจะโดดเข้ากองไฟอีกหรือยังไง
“มาซื้อหนังสือเหรอ” คนที่เผลอคิดสับสนกับจิตใจตัวเองถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักที่ลอยมาเข้าหูเต็มๆ และคนพูดก็ยืนอยู่ห่างตัวไม่ถึงคืบ
“ปะเปล่า เอ้ย ใช่” ศิระกระอึกกระอักตอบจากการที่ตั้งตัวไม่ติดเมื่อโดนประชิดกะทันหัน ก็ถ้ามันบังเอิญเจอกันจริงๆเขาคงไม่ประหม่าเท่าไหร่ แต่นี่หัวใจรู้อยู่เต็มอกว่าแอบตามคนๆนี้มาตั้งแต่ตอนเจอเมื่อเช้า ตอนที่เขากลับจากการลงทะเบียนเรียนเทอมสุดท้ายและเป็นการลงขอจบในภาคการศึกษานี้
“ท่าทางนายคงไม่อยากที่จะคุยกับฉัน ไม่กวนล่ะนะ” พฤกษ์บอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย แต่คนฟังกลับร้อนรน
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ศิระรีบทัก ตายล่ะ หลุดปากไปได้ยังไงวะ
“หมายความว่าไง นายอยากคุยกับฉันเหรอ” พฤกษ์หันมาถาม
“ก็ไม่เชิง” ศิระพูดไม่เต็มปากนักเมื่อเขาเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่า หัวใจเขาคิดยังไงกับคนตรงหน้า อคติที่เขาเคยมีกับพฤกษ์นั่นแหละคือป้อมกันท่าที่โก๋พูดถึง  คำพูดของเพื่อนซี้วันนั้น เด็กหนุ่มเอากลับมาคิดทบทวนจนแน่ใจแล้วว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขาก็มีส่วนผิดไปไม่น้อยมากกว่าพฤกษ์ เป้ บอกกับเขาอีกคนในวันที่เขาโทรไปขอคำปรึกษาเรื่องนี้เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายร้อนรนเองที่พฤกษ์หายไปจริงๆ ว่าคำพูดและการกระทำของเขา บางทีกลุ่มเพื่อนด้วยกันเองยังเคยสะอึกมาแล้ว นับประสาอะไรกับคนอื่นที่เพิ่งจะเจอกันไม่นานจะไม่รู้สึกหรือมีอารมณ์โมโห เป้ให้ความเห็นว่าพฤกษ์น่าที่จะคิดอะไรกับเขาบ้างล่ะถึงยอมอะไรที่ไม่น่ายอมขนาดนี้ แม้จะเคยมีคำพูดเสียดแทง แต่ก็ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาจะไม่สวนกลับแรงๆไปซะหน่อย
“ไม่เชิงก็แปลว่าคุยก็ได้ไม่คุยก็ได้ใช่หรือเปล่า” พฤกษ์ถามต่อ ศิระมองสบสายตาที่เด็กหนุ่มส่งให้ ยอมรับจริงๆว่าเขาอ่านอะไรไม่ออกในแววตานั่น แต่เพื่อนบอกให้กล้าเขาก็ต้องกล้าสิ เป้ยืนยันว่า พฤกษ์ไม่ได้เป็นอะไรกับเมษา นายคนนี้เป็นแค่คนที่โดนตามตื้อเท่านั้น
“ฉันอยากจะขอโทษนาย” ศิระบอกในที่สุด ภายนอกอาจดูปกติ แต่ในใจเด็กหนุ่มรอคำตอบที่จะโดนสวนกลับ เขามาดีขนาดนี้ ถ้านายนี่ยังไม่ยอมญาติดีอีก มันก็คงชัดเจนว่าสิ่งที่เขาคิดจากเหตุผลคนรอบตัวมันผิดไปทั้งหมด เขาจะได้ทำใจและเลิกคิดอะไรที่มันลมๆแล้งๆไปคนเดียวซะที
“เรื่องอะไร” พฤกษ์ถามเสียงเย็น หัวใจคนรอลุ้นถึงคลายจากแรงกดดันออกมาได้
“ก็เรื่องที่ฉันต่อยนาย” พฤกษ์ยิ้มที่มุมปาก วันเวลาที่ไม่เจอกันมันทำให้นายศิระเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ ก็ดี ทุกอย่างจะได้เข้าทาง
“ฉันลืมมันไปตั้งนานแล้วล่ะ อันที่จริงฉันก็มีส่วนผิด ดีใจนะที่นายยอมมาญาติดีกับฉัน ถือว่าที่ผ่านมาเราหายกันละกัน ที่จริงเราเองก็วัยเดียวกัน ก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้นะ ถ้านายไม่รังเกียจ” ศิระ ยืนงง ทำไมทุกอย่างมันดูง่ายดายขนาดนี้ สิ่งที่เขาหวาดกลัวมันไม่เกิดขึ้น พฤกษ์กำลังขอคบกับเขาชัดๆ
“นายคิดอย่างนั้นเหรอ” เด็กหนุ่มถาม
“อ้าว ทำไมล่ะ หรือนายไม่อยากที่จะคบกับฉัน ฉันยังยืนยันคำพูดเดิมวันนั้นนะว่าฉันสนใจนายจริงๆ ถ้านายลดความอวดดีลงมาอีกนิด”
“ฉันไม่ได้อวดดี”
“แต่อารมณ์ร้าย”
“ก็ไม่อีกนั่นแหละ”
“ที่ผ่านมาหมายความว่าไงล่ะ   คนที่มีอารมณ์ปกติ เขาทำกันอย่างนี้เหรอ”
“ยังไงล่ะ”
“ก็อย่างเงี้ย ตกลงนี่นายจะขอโทษฉันแล้วหาเรื่องทะเลาะต่อใช่มั๊ย ฉันจะได้ไม่เสียเวลารบกับนาย”
“มาขอโทษก็คือมาขอโทษ”
“มาขอโทษ อืม งั้นก็แสดงว่านายตั้งใจมาหาฉันอย่างงั้นเหรอ แล้วรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“เปล่า ฉันแค่ผ่านมา เห็นนายก็เลยแวะเข้ามาก็แค่นั้น”
“แน่ใจ”
“ยิ่งกว่าแน่”
“โธ่เอ้ย ไอ้เราก็หลงดีใจ นึกว่าจะตั้งใจมา เสียอารมณ์ว่ะ”
“เฮ้ย นายฟังฉันก่อนสิ” ศิระดึงเสื้อคนที่หันหลังจะเดินหนีเอาไว้ คนโดนฉุดใช้หางตาชำเลืองมอง ศิระไม่มีโอกาสเห็นหรอกว่า รอยยิ้มที่มุมปากของพฤกษ์มันแฝงไว้ด้วยอะไร นอกจากเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ดี กลับมาให้ฉันเอาคืนจนได้นะศิระ ท่าทีอวดดีและจองหองของนายนึกเหรอว่าฉันจะลืมมันไปง่ายๆ เจ็บตัวไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจนี่สินายต้องรับผิดชอบ………


รอติดตามลุ้นกันต่อไปในตอน8นะครับ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #76 เมื่อ10-12-2007 18:45:27 »


...........จาโดนเอาคืนแบบไหนดี.......... :m4: :m4:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #77 เมื่อ10-12-2007 19:34:54 »

เอาคืนแบบเบาๆ ก็พอน้า

เค้ายังไม่อยากเศร้าอ่ะ

 :m23: :m23:

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #78 เมื่อ10-12-2007 21:25:08 »

เอา....เอา...แบบ เลือดสาดดดดด...อ่ะ...ได้ป่ะ....  :m26:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #79 เมื่อ10-12-2007 23:37:21 »

สรุปแล้วจะเอาคืนศิระอีกใช่มั้ยเนี่ย เดี่ยวได้สนุกกันอีกแน่ๆ.............เหอะๆ  o21

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
« ตอบ #79 เมื่อ: 10-12-2007 23:37:21 »





fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
«ตอบ #80 เมื่อ13-12-2007 23:34:04 »

แง้งงงงงงง หายไปไหนอ่ะคร้าบบบบ  :o11:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
«ตอบ #81 เมื่อ14-12-2007 00:44:40 »

ตามลุ้นกันว่าพฤกษ์จะใช้วิธีไหนจัดการกับศิระ


+++++++++++++++++++

#8

“ไม่หิวเหรอ” พฤกษ์ถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นอาหารที่เขาสั่งมาให้ยังอยู่ในสภาพเดิม ศิระไม่แตะมันซักนิด กลัวว่าเขาจะวางยาพิษไว้หรือยังไงก็ไม่รู้
“ยัง” ศิระตอบสั้นๆได้แค่นั้น เขากลายเป็นคนประหม่าและพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยอมมานั่งอยู่ในร้านอาหารที่ไม่เหมาะกับฐานะตัวเองได้ พฤกษ์ชวนเขามาตอนที่เดินออกจากร้านหนังสือพร้อมกัน เขามีข้ออ้างร้อยแปดที่จะปฏิเสธแต่ทำไมเขาไม่ทำนะ หรือหัวใจมันยอมอ่อนข้อให้คนๆนี้ไปแล้ว ไม่สิ เขาต้องไม่อ่อนไหวขนาดนี้
“ฉันกลับก่อนนะ” เมื่อในใจคิดทบทวนว่าไม่ควรที่จะนั่งอยู่กับคนที่เป็นเหมือนเส้นขนานได้ ศิระจึงบอกออกไปแบบนั้น แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขยับตัว คนที่เขาประหม่าก็ดักคอขึ้นซะก่อน
“นายยังไม่ไว้ใจฉันเหรอ”
“เรื่องอะไร” ศิระถามกลับ
“เรื่องที่จะคบกับฉัน”
“เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า”
“ทำไม”
“นายก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“ขอเหตุผล”
“เรามันต่างกัน”
“ตรงไหนล่ะ”
“ทุกอย่าง ฐานะ ความเป็นอยู่ และก็สังคม”
“ถ้าคิดว่าแค่นี้เป็นอุปสรรคที่เราจะคบกันนายมันขี้ขลาดมาก”
“จะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ ยอมรับก็ได้ว่าฉันกลัวกับการที่จะคบกับนาย”
“แล้วทำไมถึงตามฉันมาง่ายๆ ทั้งๆไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่นายจะตามฉันมาแบบนี้ ถ้านายไม่ได้คิดอะไรกับฉัน”
“แล้วแต่นายจะคิด ฉันตามนายมาได้ ฉันก็ถอยกลับได้”
“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ”
“หมายความว่าไง”
“บอกแล้วไงว่าฉันสนใจนาย ลองคบกันหน่อยมันจะเสียหายตรงไหน หรือนายมีใครอยู่ตอนนี้”
“ฉันไม่มีใคร และก็ไม่อยากที่จะมี”
“ใครๆก็อยากมีคนรู้ใจทั้งนั้น นายนี่มันแปลกคนแฮะ”
“แล้วที่นายทำอยู่มันไม่แปลกหรือไง คนที่สนใจนายมีไม่น้อย แต่นายบอกนายสนใจฉัน”
“แล้วนายเสียหายตรงไหน”
“ไม่อายเหรอที่จะเดินคู่กับฉัน”
“อายแล้วจะมานั่งอยู่ด้วยแบบนี้ทำไม”
“ฉันไม่รู้”
“นั่นไง นายไม่มีเหตุผลนี่”
“ฉันมีเหตุผลของฉัน”
“เลิกพูดเถอะ นายตามฉันมาขนาดนี้ แล้วจะมาปฏิเสธอีกทำไม ว่าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน จากวันนี้ไปมาพิสูจน์กันว่าสิ่งที่ฉันพูดมันจริงหรือแค่หลอก กินซะ ถือซะว่ามื้อนี้เป็นการเริ่มต้นสำหรับเรา” พฤกษ์ตักอาหารใส่จานให้ศิระ เมื่อฝ่ายนั้นเอาแต่อึ้งพูดอะไรไม่ออก โธ่เอ้ย แค่นี้ก็เรียบร้อย จะให้ฉันเกี่ยวก้อยคืนดีกับนายง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ ฝันไปเถอะศิระ เวลาของนายมันหมดไปตั้งนานแล้ว คนอย่างฉันไม่เคยโดนไล่ให้ออกจากชีวิตใคร นายเป็นคนแรกที่กล้า โทษฉันไม่ได้หรอกนะถ้าหลังจากนี้ไปนายจะเจออะไรที่ไม่ได้หอมหวานอย่างที่นายอาจจะคิดไว้ ช่วยไม่ได้นี่ นายกลับมาหาฉันเอง มันต้องสนองกันหน่อยล่ะ ….
   “อิ่มแล้วเหรอ” เป็นคำถามแรกที่พฤกษ์เอ่ยเมื่อเห็นศิระยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม หลังจากจัดการอาหารที่เขาตักให้
“อืม” ศิระตอบสั้นๆ อาการประหม่าหายไปหมดสิ้น เมื่อคนถามทำบรรยากาศให้ดูเป็นกันเองมากขึ้น พฤกษ์เอาใจใส่ถามไถ่เขาในหลายๆเรื่องจนเขาเริ่มไว้ใจในคำพูดก่อนหน้า พฤกษ์สนใจเขาและขอคบกับเขา ท่าทางมันจะจริงแฮะ
“กลับกันหรือยัง หรือไปไหนต่อ เดี๋ยวพาไป” พฤกษ์ถามออกมาอีก จะล่อเหยื่อทั้งทีต้องเอาให้ติดเบ็ดจนดิ้นไม่หลุด ถึงเวลาเชือดจะได้เจ็บแสบจนพูดไม่ออก
“แล้วแต่นายสิ” ศิระตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เขาชักอยากยืดเวลาให้ยาวนานกว่านี้ซะแล้วสิ จะขอบใจใครดีนะ เป้ หรือว่าโก๋ ที่ทำให้เขากล้าที่จะเปิดใจ ผลที่ได้มันไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิด
“ดูหนังมั๊ย” พฤกษ์ชวน เป็นครั้งแรกที่เขาชวนคนอื่นไปในสถานที่จำกัดแบบนี้ นี่เขาลงทุนเกินไปหรือเปล่า
“บอกแล้วไงว่าตามใจนาย” ศิระตอบ พฤกษ์จึงเดินนำออกไป อะไรมันจะง่ายปานนั้น ไม่ยักรู้แฮะว่านายนี่หลอกง่ายกว่าเด็กอมมือซะอีก เห็นท่าทางเอาเรื่องนึกว่าจะแน่ ง่ายๆแบบนี้ให้คบเป็นแฟนจริงๆคงไม่เอาหรอก ไม่ไหวว่ะ ไอ้พวกไม่มีความคิดอะไรก็แล้วแต่แล้วแต่


   ภายในโรงหนังเครื่องปรับอากาศนั้นเย็นเฉียบ แต่คนที่โดนกุมมืออยู่รู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาด ศิระปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีจนอยากที่จะยืดเวลาให้หนังฉายยาวนานออกไปกว่าเดิมพฤกษ์กุมมือเขาไว้ทันทีที่โรงทั้งโรงปิดไฟมืดมันมีความสุขอย่างประหลาด ไม่เคยมีใครที่ทำกับเขาแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่ส่วนลึกของหัวใจเรียกร้องมานานแสนนาน ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริง แล้วยิ่งคนที่นั่งข้างๆตอนนี้ ยิ่งเขาลอบมองใบหน้าคมได้รูปภายใต้แสงสลัว เขาก็อดไม่ได้ว่านี่มันคือความฝันไม่ใช่เรื่องจริง
“หนาวมั๊ย” พฤกษ์หันมาถามคนข้างตัว จริงๆเขาไม่น่าทำขนาดนี้ก็ได้ให้ตายสิ แค่นี้ก็แสดงได้ชัดเจนแล้วว่านายนี่ตกหลุมพรางเขาจนลุกขึ้นไม่ได้ง่ายๆ
“นิดหน่อยแล้วนายล่ะ” ศิระตอบแล้วถามกลับ
“แค่ได้จับมือนายไว้ก็อุ่นแล้ว” หนังเล่าเหตุการณ์ไปถึงไหนแล้วศิระไม่อาจรู้ เขาเฝ้าแต่คิดว่านี่มันความฝันหรือเรื่องจริง พฤกษ์ดูอบอุ่นอ่อนโยนจนหัวใจเขาถลำลึกจนได้การมีคนรักมันดีแบบนี่นี่เอง
   “นายทำแบบนี้กับใครบ่อยหรือเปล่า” ศิระถามคนที่เดินคู่กันออกมาจากโรงหนัง เขาต้องรู้ก่อนสิว่าพฤกษ์ทำแบบนี้เป็นประจำหรือกับเขาเป็นคนแรก
“ทำอะไรเหรอ”พฤกษ์ถาม
“ก็ชวนใครไปดูหนังแล้วกุมมือเขาไว้แบบนี้จนหนังจบ”
“จะให้ไปทำกับใครล่ะ นายนี่แหละเป็นคนแรก”
“กับเมษา นายก็ไม่เคยทำเหรอ”
“ฉันกับเมษาไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ”
“กับฉันเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ขนาดนี้เนี่ยนะ ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน นายยังระแวงฉันอยู่หรือไง”
“ปะ เปล่า ก็ ไม่รู้สิ ฉันไม่เคย รู้สึกแบบนี้ฉันก็พูดไปเรื่อยเปื่อย”
“รู้สึกอะไรเหรอ”
“ก็…. เอาน่า นายอย่าเพิ่งรู้เลย รู้แต่ว่าวันนี้ฉันขอบใจนายก็แล้วกันที่ทำให้ฉันรู้สึกดีๆกับชีวิตแบบนี้ได้” พฤกษ์หลบตาต่ำ ท่าทางนายนี่จะปักใจเชื่อจริงซะแล้วสิว่าสิ่งที่เขาทำวันนี้มันมาจากใจเขาจริงๆ อย่างนี้ต้องรีบรุกก่อนที่มันจะรู้ตัวหน่อยล่ะ
“มืดแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งบ้านนะ”
“นายไม่ลำบากแน่นะ”
“ไม่หรอก คนจะเป็นแฟนกันอยู่แล้ว แค่นี้จิ๊บจ้อย ป่ะ” อีกครั้งที่ศิระโดนฉุดมือจากคนที่เขาตกหลุมรัก เฮ้อ ถึงฟ้าจะมืดแต่ทำไมหัวใจมันสว่างจนอยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้นะ

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
«ตอบ #82 เมื่อ14-12-2007 00:57:41 »

“ไม่เคยเหรอ” พฤกษ์ถามเมื่อเห็นคนที่นั่งเบาะข้างตัวมือไม้สั่นไปหมดหลังจากที่เขาก้มลงจะประกบปาก จะสั่นไปทำไมให้จูบจริงๆก็ไม่เอาหรอก มั่วใครมามั่งก็ไม่รู้ ทำเป็นคนไม่เคย เดินเข้าออกผับบ่อยขนาดนั้น เด็กหนุ่มนึกแขวะในใจ ก็เห็นอยู่ว่านายนี่เจอตัวทีไรก็อยู่แต่ที่เที่ยว ดูดีตายล่ะ ทำเป็นเด็กดีไปได้
“แล้วนายเคยเหรอ” ศิระถามกลับ เกิดมาเขาไม่เคยเข้าใกล้ใครในลักษณะแบบนี้ คนที่เริ่มจะคบกันจะเป็นกันอย่างนี้ทุกคู่หรือเปล่านะ
“ไม่เคย แต่ก็ไม่ได้โง่จนทำไม่เป็น” พฤกษ์ถอยตัวออกมาพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนไม่พอใจ ทั้งๆที่โล่งใจ ที่นายนี่ไม่บ้าจี้ไปกับเขา นี่ถ้าเกิดศิระตอบสนองเขาขึ้นมาจริงๆ เขาไม่ต้องเปลืองตัวจริงๆหรอกเหรอ แค่คิดก็ลำบากใจน่าดู ไม่ได้มีอารมณ์ใคร่กับนายนี่เลยให้ตายเถอะเอา
“นายโกรธเหรอ” ศิระถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่คนฟังจับได้ว่าแคร์เขา
“เปล่า นายคงยังระแวงฉันอยู่ เอาเถอะ ถ้านายไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร”ศิระหน้าชา นี่พฤกษ์โกรธเขาจริงๆหรือเปล่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉันแค่ไม่เคย”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ไม่เคยไม่เคยสิ ไม่เห็นต้องร้อนตัว”
“แต่นายเหมือนโกรธฉันนะ”
“บอกไม่โกรธก็ไม่โกรธสิ เดี๋ยวก็โกรธจริงๆซะหรอก”
“นายไม่โกรธฉันแน่นะ”
“โกรธไม่โกรธแล้วไง นายแคร์ฉันเหรอ”
“ก็บ้าง นายทำให้ฉันแคร์แล้วนี่”
“แคร์ฉันมากมั๊ย”
“ถามทำไม”
“เปล่า แค่อยากรู้ว่านายเลิกระแวงฉันหรือยัง”
“เลิกไปตั้งแต่อยู่ในโรงหนังแล้ว”
“นายนี่มันใจง่ายดีเนอะ”
“เฮ้ย ทำไมพูดงี้”
“ล้อเล่น ไปเถอะ เข้าบ้านเถอะ ดึกแล้ว”
“นายก็กลับบ้านดีๆล่ะ”
“ครับ” ศิระยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อได้ยินคำพูดเชิงหยอกล้อจากปากของพฤกษ์เหมือนเดิม โดยไม่รู้ซักนิดว่าใจคนพูดกำลังกระหยิ่มที่ทำให้เขาหลงรักได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง

 “รับโทรศัพท์ได้แล้วเหรอครับพฤกษ์” เมษาประชดทันทีที่ได้ยินเสียงพฤกษ์ตอบกลับมาหลังจากที่เขาพยายามกดโทรศัพท์หาหลายรอบ
“ผมดูหนังอยู่ ปิดเครื่องไว้” พฤกษ์บอกสาเหตุ เขาล่ะเชื่อเลย เมษาโทรหาเขาทุกๆนาทีหรือไง เปิดเครื่องได้ไม่เท่าไหร่    สายแรกที่โทรเข้าก็เป็นนายนี่ซะแล้ว
“ดูหนัง หนังอะไรครับ แล้วดูกะใคร” เมษาจี้ทันที ไม่อยากจะเชื่อว่าพฤกษ์ไปดูหนังโดยไม่ชวนเขา      เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าคนที่เขากำลังไล่จี้กำลังนึกเซ็ง
“กับเพื่อนครับ” พฤกษ์ตอบหวังเพียงจะตัดทุกคำถามให้มันหมดๆไป แต่เขาคิดผิดเมื่อเมษาไม่ยอมเลิกรา    การสนทนาจึงยาวออกไปอีกด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน
“เพื่อน เพื่อนกลุ่มไหนครับ ปอนด์เองก็อยู่กับผม”
“เพื่อนผมไม่ได้มีแค่ไอ้ปอนด์นี่ครับเมษา”
“ก็นั่นสิครับ ผมถึงได้ถามว่าเพื่อนกลุ่มไหน ไปกันกี่คน”
“เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมไม่ขอตอบนะครับ ผมว่ามันเกินไป”
“เกินไปยังไงครับ ไม่เห็นต้องปิดบังอะไรนี่ถ้าคุณไปกับเพื่อนจริงๆ”
“ถึงผมจะไปกับใครเป็นคนพิเศษขนาดไหน ผมว่าผมก็มีสิทธิที่จะไปนะ”
“พฤกษ์คุณไม่แคร์ไม่ไว้หน้าผมเลยเหรอ”
“แล้วคุณจะตีโพยตีพายโวยวายไปทำไมล่ะเมษา ผมกับคุณมันก็เหมือนเดิม ใช่ว่าผมจะไปดูหนังแล้วผมจะเลิกคุยกับคุณ เลิกเจอหน้าคุณ เรายังคบกันได้เหมือนเดิมนี่ครับ”
“เหมือนตรงไหน ใครๆก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณ แล้วถ้าเกิดมีใครที่รู้จักผม ไปเห็นคุณเดินกับคนอื่น สองต่อสอง คุณไม่กลัวว่าผมจะโดนล้อเหรอ”
“สรุปผมผิด”
“คุณไม่ได้ผิดหรอก ผมอาจจะหวงคุณมากไปหน่อย ผมขอโทษละกันถ้าผมทำคุณลำบากใจ” ตึ๊ดๆๆๆ…… เป็นครั้งแรกที่พฤกษ์โดนเมษาวางสายไปโดยไม่ร่ำราด้วยคำพูดหวานเลี่ยน ตรงกันข้ามน้ำเสียงสุดท้ายเมื่อครู่ของเจ้าตัวมันบ่งบอกถึงอาการตัดพ้อด้วยความน้อยใจชัดๆ ใช่สินะ เขาพูดจาอะไรรุนแรงเกินไปหรือเปล่ากับคนที่หวังดีกับเขามาตลอด
   พฤกษ์จอดรถริมถนนเมื่อรู้สึกสับสนขึ้นมา ภายในใจเด็กหนุ่มคิดทบทวน เมษาเฝ้ารอคำตอบจากเขามานานว่าเมื่อไหร่เขาจะใจอ่อนยอมให้เจ้าตัวเข้ามาเป็นคนพิเศษได้เต็มตัวอย่างที่หวังซะที รูปร่าง หน้าตา ฐานะ การศึกษา เมษาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่ เด็กหนุ่มนึกย้อนกลับไปคำพูดของเมษาเมื่อครู่ หากมีใครเห็นเขาเดินเคียงคู่อยู่กับนายศิระ เมษาคงโดนล้ออย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเขาจะมีใครหรือคบใครซักคน เขาก็น่าที่จะให้เกียรติคนที่เฝ้ารอเขามานานวัน ศิระไม่มีอะไรเทียบเท่าเมษา ข้อนี้เขาลืมไปได้ยังไง ในเมื่อเขาคิดจะแกล้งคนอวดดีอย่างนายศิระนั่นเล่นๆ เขาก็น่าที่จะถือโอกาสนี้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปแล้วไม่คิดกับเมษาได้นี่

   “หา มึงว่าไงนะ พฤกษ์นี่นะ ชวนมึงไปเที่ยวสองต่อสอง”ปอนด์ เงยหน้าถามเพื่อนซี้อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง อาหารที่วางในจานไม่สงไม่สนมันล่ะ เรื่องที่เมษาบอกเมื่อกี้ แค่ได้ยินก็อิ่มไปได้สามมื้อ
“ทำไมคนอย่างกูมันเสียหายตรงไหน จริงๆพฤกษ์น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วเสียด้วยซ้ำ” เมษาพูดอย่างเป็นต่อ คนเป็นหูเป็นตาให้เขามีมากมายยังกะไร่สับปะรด พฤกษ์ไปไหนกับใคร ทำไมเขาจะไม่รู้ ถ้าสถานที่ ที่ไปอยู่ในแหล่งหรูหรา นายศิระนั่นได้เดินควงคนของเขาหน่อยเดียวเพื่อนปากไวที่ไหนจะไม่โทรฟ้องเขา
“ทำเป็นคุย โธ่ที่ผ่านมาแค่ชวนไอ้ตัวดีนั่นไปกินข้าวก็ทำเอาหืดขึ้นคอ ขนาดกูไปด้วยมันยังไม่ยอมง่ายๆเลย แล้วนี่อะไร มันบอกจะไปกะมึงสองต่อสอง กูไม่อยากเชื่อว่ะ มึงไปทำยังไงให้มันยอมได้วะ” ปอนด์ยังคงข้องใจไม่หายเลยถาม เขาเห็นเมษายิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะเล่าหมัดเด็ดที่ล่อพฤกษ์ยอมสิ้นลายให้ฟัง
“กูก็แค่ ทำเป็นพ้อนิดๆหน่อยๆ”
“มึงทำไงวะ ปกติไอ้พฤกษ์ก็ไม่ชอบง้อใครนี่นา”
“แต่คราวนี้ไม่ใช่ เพราะกูรู้ว่าเขาไปทำอะไรกะใคร กูก็เลยกำจัดจุดอ่อน”
“ยังไง”
“พฤกษ์แอบไปเที่ยวกับนายศิระ กูก็เลยแกล้งพูดในทำนองที่ว่าถ้าคิดจะทำอะไรให้เกรงใจกูบ้าง สงสัยคิดได้มั้งว่า ไอ้กุ๊ยนั่น กะกู มันกระดูกคนละเบอร์ คงละอายใจที่จะทิ้งกูแล้วหันไปคบกับไอ้นั่น เป็นมึงมึงจะเลือกใคร คนที่มีพร้อมทุกอย่างกับคนที่หาเช้ากินค่ำ”
“กูเข้าใจละ ร้ายนะมึง แม่งสุดยอด หลอกไอ้พฤกษ์ได้”
“นี่มันแค่เริ่มต้นโว้ย กูจะไม่ยอมเฉยอีกต่อไปแล้ว เล่นตัวดีนัก คราวนี้ถ้าดิ้นหลุดได้ก็ให้มันรู้ไป” ปอนด์มองแววตาคนพูดที่ออกอาการมาดร้าย ใจหนึ่งนึกเป็นห่วงเพื่อนตัวเอง นี่เขาคิดถูกหรือคิดผิดที่เชียร์คนข้างหน้าให้ได้สมหวังกับเพื่อนตั้งแต่เด็กๆอย่างพฤกษ์ ..................




ต่อไปจะเป็นยังไงก็ตามลุ้นกันต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
«ตอบ #83 เมื่อ14-12-2007 03:39:52 »

ร้ายพอกันทั้งพฤกษ์ ทั้งเมษา สงสารก็แต่ศิระ

ขอให้สองตัวนั้นตกหลุมพรางของตัวเอง ให้กรรมสนองไวๆเหอะ ล้อเล่นกับหัวใจคนแบบนี้เลววววววววว

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
«ตอบ #84 เมื่อ14-12-2007 11:00:25 »

ฮ่าฮ่า สนุกกกกกกก


เอาอีกกกก  o14

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
«ตอบ #85 เมื่อ14-12-2007 11:14:29 »

พฤกษ์ใจร้ายอ่ะ

 :m15: :m15:


พี่แอม ต่อด่วนๆเลยค่ะ

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
«ตอบ #86 เมื่อ14-12-2007 11:30:42 »

เล่นสนุกกับหัวใจคนนะ นายเป็นคนอยู่หรือเปล่าเนี้ย :a6:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
«ตอบ #87 เมื่อ16-12-2007 15:41:09 »

#9

ศิระ เก้ๆกังๆ อยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น คนตรงหน้าไม่ได้ช่วยให้เขาหายจากอาการเขินอายได้เลย เกิดมาไม่เคยเข้ามาทานอาหารในร้านแบบนี้ ชีวิตทั้งชีวิตก็ฝากท้องไว้กับพวกอาหารกันตายที่กินกันง่ายๆสั่งกันง่ายๆ แล้วนี่อะไร เมนูที่ไล่ยาวเป็นหางว่าว สาบานได้ว่าไม่รู้จักซักชนิด แล้วจะสั่งอะไรมากินล่ะเนี่ย
“ไม่สั่งอ่ะ” พฤกษ์ถามขึ้นห้วนๆ ศิระถึงกับแปลกใจ คราวที่แล้วนายนี่ไม่ได้มีอาการแบบนี้นี่นา
“สั่งไม่เป็น นายกินอะไรฉันก็กินไอ้นั่นแหละ” คนแปลกใจบอกออกไปตรงๆตามประสาซื่อ เพียงหวังว่าจะได้รับคำแนะนำอย่างที่เคยได้รับจากคนตรงหน้า แต่เด็กหนุ่มถึงกับหน้าชาเมื่อเขาคิดผิด
“กินไม่เป็นก็ไม่บอก แล้วตามมาทำไมล่ะเนี่ย”
“อ้าวก็นายชวนฉันมานี่” ศิระเถียง อาการน้อยใจแล่นมาทักทายเอาดื้อๆ
“ก็บอกแล้วไงว่าจะพามาร้านแบบนี้ ถ้ากินไม่เป็นก็ปฏิเสธก็ได้ ไม่ใช่ใครชวนไปไหนก็ไป”
“ที่พูดนี่หมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ”
“นายกำลังหาว่าฉันใจง่าย ไม่มีความคิดใช่ป่ะ”
“ก็แล้วมันจริงมั๊ยล่ะครับ คุณศิระ”
“นายเป็นอะไร ท่าทางเหมือนนายหาเรื่องฉันนะ”
“โอ้ย ใครเขาอยากมีเรื่องกะนาย อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย”
“ท่าทางเราคงคุยกันไม่รู้เรื่องฉันว่าฉันกลับดีกว่า”
“จะรีบไปไหน อยู่ด้วยกันก่อนดิ” คนจะลุกใจชื้นขึ้นมานิดเมื่อได้ยินคำทักท้วงจากคนที่ตัวเองกำลังนึกน้อยใจอยู่ พฤกษ์อาจจะกำลังอารมณ์ไม่ดีก็ได้ มองโลกในแง่ดีไว้สิ ศิระ
“ฉันขอโทษ” ศิระเอ่ย เมื่อคิดว่าการกระทำของตัวเองไม่มีเหตุผล โกรธ น้อยใจ ลุกหนี เอานิสัยแย่ๆมาใช้ได้ไงวะ
“ขอโทษทำไม” พฤกษ์เอ่ยขำๆ ร้อนถึงศิระที่ต้องอธิบาย
“ฉันก็แบบนี้แหละ อารมณ์ร้อน นายก็รู้อยู่”
“แล้วไง”
“ฉันกลัวนายโกรธที่ฉันลุกหนีแบบไม่มีเหตุผล”
“อย่าเว่อร์ไปหน่อยเลยนะ เรื่องแค่นี้ เอามาคิดทำไมให้ปวดหัว ที่ให้นั่งอยู่เนี่ยก็แค่ให้นั่งอยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันนัดเพื่อนไว้อีกคน ถ้าเขามา นายจะไปกินก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ผัดไท ที่ไหนก็เรื่องของนาย เพราะที่นี่คงไม่มีขายหรอก” ศิระอึ้ง จุกแน่นตัวชาขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มมองสบตาคนพูดอย่างไม่เข้าใจ คำพูดเมื่อครู่มันเชิงดูถูกกันชัดๆ พฤกษ์ต้องการอะไร
“ล้อกันเล่นแบบนี้มันไม่สนุกนะพฤกษ์” น้ำเสียงคนพูดที่เอ่ยสั่นเครือเพราะข่มความโกรธเอาไว้จนจับได้ แต่คนฟังกลับไม่สนใจ
“ถ้าคิดว่าล้อเล่น ก็อย่าใส่ใจ เพื่อนฉันมาแล้ว” สายตาพฤกษ์มองข้ามศิระไปเมื่อพูดจบ ศิระเอี้ยวตัวมองตาม หัวใจเด็กหนุ่มหล่นไปกองที่พื้นเมื่อมองเห็นว่า เมษา กำลังเดินมาในบุคลิกที่เหมาะกับสถานที่แบบนี้มากกว่าเขา
“นึกว่ามีแต่เราสองคนซะอีกนะพฤกษ์” คนมาใหม่ทักคนที่ยิ้มทักทายเขา ก่อนจะปรายตาชำเลืองมองคนที่นั่งหน้าซีด
“นั่งสิ เมษา ข้างผมก็ได้”พฤกษ์ขยับที่ว่างให้คนที่เขาตั้งใจนัดมาชนกันกับคนตรงหน้า ถึงเวลาที่เขาจะทำให้ศิระตาสว่างก็คราวนี้ล่ะ ว่าอย่าลองดีต่อคารมและอวดดีกับเขาอย่างที่ผ่านๆมาอีก
“หิวป่าว ผมว่าจะสั่งอาหารไว้รอ แต่กลัวคุณไม่ทานก็เลยรอก่อนดีกว่า”
ศิระก้มมองพื้นทันทีที่เห็นพฤกษ์ยิ้มแย้มเอาใจเมษาที่นั่งลงคู่กัน เด็กหนุ่มรู้สึกตัวเองตัวลีบเล็กลงไปอย่างนึกละอาย เขาจะหาทางออกให้ตัวเองพ้นจากสถานการณ์ที่กดดันนี่ยังไง
“อ้าวแล้วไม่หิวกันเหรอ รอผมทำไมครับ สั่งอะไรมาผมทานได้หมดแหละ แต่ว่าเพื่อนใหม่พฤกษ์ ชอบทานอาหารพวกนี้ด้วยเหรอ” เมษาเอ่ยอย่างรู้เกม ตอนแรกก็นึกเคืองพฤกษ์ว่าทำแบบนี้ทำไม เขาอุตส่าห์คิดว่าอาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อพิเศษระหว่างเขากับคนที่หมายปอง แต่เมื่อเห็นอาการคนชวนก็พอจะจับได้ว่า พฤกษ์คงกำลังเล่นงานศิระ จะเพราะอะไรก็ช่างเขาไม่สนใจทั้งนั้น แต่โอกาสที่จะแกล้งให้ศิระอับอายขายขี้หน้าต่อที่สาธารณะแบบนี้มันหาไม่ได้ง่ายๆ ซัดมันซักทีก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร
“ศิระเขาก็คงชอบทานอาหารแบบนี้อยู่มั้ง เห็นขอตามผมมานี่พอรู้ว่าผมจะมาที่นี่” ศิระ เงยหน้าขึ้นมองพฤกษ์ทันควัน เด็กหนุ่มแอบกำมือแน่น อยากจะถามนักว่าทำไมพฤกษ์ถึงพูดแบบนี้ เขาทำงานของเขาอยู่ดีๆ ก็ต้องยอมออกก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัวมาที่นี่ ถ้านายนี่ไม่ชวนเขามา อย่างเขาเหรอจะกล้าขอมา
“ล้อเล่นแค่นี้ มองตาเขียวเลยนะศิระ” พฤกษ์เอ่ย ศิระจึงอ่อนลงบ้าง จริงๆเขาไม่มีเรี่ยวแรงตอบโต้ต่างหากล่ะ รู้สึกใจมันหวิวจนหายใจได้ไม่เต็มปอด
“เอาเมนูมาเดี๋ยวสั่งอาหารให้” พฤกษ์เอ่ยขึ้นอีก ยังดีนะที่มีน้ำใจ ศิระค่อยๆใจชื้น มือที่ยังสั่นเทาอยู่ค่อยๆหยิบเมนูยื่นส่งให้คนพูด
“อะไร ฉันบอกเมษา ไม่ได้บอกนาย ยื่นมาทำไมเมนูไหนบอกจะกลับไง”
เมนูที่ถือยื่นอยู่แทบร่วงลงบนโต๊ะ ศิระหน้าซีดตัวสั่นด้วยความละอาย เขาทำอะไรผิด ทำไมพฤกษ์ต้องฉีกหน้าเขาด้วยคำพูดแบบนี้ ยิ่งเขามองหน้าเมษาที่แอบยิ้มอยู่เขาก็แทบอยากจะแทรกหายไปในอากาศ....พฤกษ์…นายทำแบบนี้ทำไม?
   “คุณนี่ก็ชอบแกล้งคนอื่นเหมือนกันนะพฤกษ์” เมษาละสายตาจากการมองศิระอย่างสมเพชมาพูดกับคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจว่าจิตคนที่นั่งตรงข้ามอยู่จะเป็นยังไง
“ศิระเขาไม่ถือสาเรื่องพวกนี้หรอกเมษา โดนผมล้อเล่นแค่นี้เขาไม่สะเทือนหรอก” พฤกษ์เอ่ยตอบคนข้างตัวเสร็จก็ดึงเอาเมนูในมือศิระมาเปิดดู ก่อนจะลอบถอนหายใจ ศิระหน้าซีดจนจะเป็นกระดาษอยู่แล้ว ใจอ่อนจนได้สิกู เมษานึกขัดใจเมื่อพฤกษ์สั่งอาหารชุดเดียวกับของตัวเองให้กับศิระ แต่กลับปล่อยให้เขาสั่งเอาเอง ด้วยเหตุผลที่บอกว่าไม่รู้ว่าเขาชอบทานอะไร
“ที่จริงนายไม่ต้องสั่งเผื่อฉันก็ได้นะ ฉันคงต้องรีบกลับคงนั่งอยู่ด้วยไม่ได้”ศิระเอ่ยขึ้น เมื่อปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ แม้มันจะไม่เต็มร้อย แต่ก็มีแรงพอที่จะข่มอารมณ์อารมณ์น้อยใจไม่ให้แสดงออกมาได้ แต่ถ้าให้นั่งอยู่นานไป ก็ไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทนมองคนสองคนที่อยู่ตรงหน้าได้ซักกี่น้ำ
“เมื่อกี้ที่ฉันล้อเล่น นายคิดเป็นจริงเป็นจังเหรอ” พฤกษ์ถามหยั่งเชิง ถ้าเขาปล่อยให้ศิระลุกไปจากตรงนี้ได้ โอกาสที่เขาจะปั่นหัวเจ้าตัวต่อไปคงหมดลงแน่ๆ ศิระกำลังคิดอะไรอยู่ทำไมเขาจะไม่รู้ คนแบบนี้แค่มองตาก็ทะลุไปถึงไหนต่อไหน คิดจะปลีกตัวออกจากเขางั้นเหรอ หลงกลเข้ามาแล้วมันไม่ง่ายนักหรอก ที่จะถอยหลังกลับ
“เปล่า” ศิระตอบสั้นๆ
“เปล่าแล้วทำไมรีบกลับ”
“นัดเพื่อนไว้”
“ใคร”
“ทำไมนายต้องรู้ด้วยล่ะ”
“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ แต่แค่อยากรู้”
“รู้ไปทำไม”
“นายมานี่ไม่ถึงชั่วโมง แล้วบอกมีนัดที่อื่น จัดเวลายังไง สับรางเก่งนี่”
“ในเมื่อฉันขอตามนายมา ฉันก็จะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ใช่เหรอ นายไม่ได้นัดฉันมานี่ ลืมแล้วหรือไง” พฤกษ์เงียบ เมื่อโดนศิระย้อนกลับ เมษาเห็นท่าทีเป็นต่อของคนย้อนเลยเอ่ยขึ้น
“พฤกษ์ไม่ได้สนใจหรือห้ามอะไรนายหรอกนะ ถ้านายจะกลับ แต่นายควรมีมารยาทบ้างคนเขาอุตส่าห์สั่งอาหารมาให้ถ้าจะปฏิเสธ ทำไมไม่เอ่ยตั้งแต่ต้น”
“ช่างเถอะ เมษา พูดไปก็เท่านั้น คนมันไม่มีมารยาท มันคงพูดยาก” ศิระรู้สึกเหมือนตัวเองโดนบีบขึ้นมาอีกครั้งหลังได้ฟังคำพูดพฤกษ์ที่เอ่ยเข้าข้างเมษาจบ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจลุกหนีเดินออกจากร้าน
“ขอตัวเดี๋ยวนะเมษา” พฤกษ์เอ่ยบอกคนข้างๆก่อนจะลุกเดินตามศิระที่ก้าวฉับๆออกนอกร้าน กว่าจะตามทันก็เล่นเอาเขาหอบเอาการอยู่เหมือนกัน
“เดินหนีไฟไหม้หรือไงวะ คุยกันก่อนดิ” เด็กหนุ่มกระชากเสื้อคนที่เอาแต่เดินโดยไม่สนใจใคร
“กูไม่มีอะไรจะคุย” ศิระบอกเสียงหนักแน่น พอกันที 
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ” พฤกษ์บอกดุๆ ท่าทางนายนี่คงโกรธเขามาก ยอมง้อมันซักวันเพื่อความสะใจในอนาคตก็น่าจะคุ้มวะ
“ต้องการอะไร ทำแบบนี้หมายความว่าไง ตลกเหรอที่ได้ดูถูกคนอื่น”
“คิดมากทำไมวะก็แค่ล้อเล่น ท่าทางนายไม่ใช่คนขี้แยนี่หว่า”
“ไม่ได้โวยวาย แค่ไม่เข้าใจ มีอะไรพูดกันตรงๆเลยดีกว่า”
“จะให้พูดอะไร ก็บอกว่าแค่ล้อเล่น ไม่คิดว่านายจะโกรธขนาดนี้”
“ไม่ชอบคนล้อเล่น”
“เออๆๆ ต่อไปไม่ทำก็ได้ พอใจหรือยัง” ศิระเงียบเริ่มลังเลว่าจะเชื่อในคำพูดของพฤกษ์หรือเลือกที่จะเดินหนี ต่างกับพฤกษ์ เมื่อเห็นศิระเงียบ เด็กหนุ่มจึงรุกต่อ เพื่อดึงอารมณ์แปรปรวนของเจ้าตัวกลับมาให้ได้
“นี่ถ้านายโกรธฉันเพราะเรื่องแค่นี้ ฉันจะรู้สึกผิดไปจนตายเลยนะ คนเราเพิ่งเริ่มคบกัน มันก็ต้องมีลองใจกันหน่อย ฉันนัดเมษามาก็แค่ลองใจนายเท่านั้น แต่นายเป็นแบบนี้ก็ดีนะ ฉันจะได้รู้ไงว่านายแคร์ฉันจริง ฉันเองก็กลัวนายหลอกเหมือนกันนี่”
“ฉันไม่เคยหลอกใคร”
“แค่ลมปากใครจะเชื่อ”
“งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อนายอ่ะดิ”
“ไปกันใหญ่ เฮ้อ พูดไปก็เหมือนจะทะเลาะกันเปล่าๆ เอาเป็นว่าถ้านายไม่อยากนั่งอยู่ในร้านเพราะอึดอัด ก็รอฉันแถวนี้ก็ได้ ฉันนัดเมษามาแล้ว นายคงไม่อยากเห็นแฟนนายเป็นคนนิสัยแย่ๆหรอกนะ ที่หลอกใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือทดสอบจิตใจแฟนตัวเอง ฉันกับเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ เชื่อฉันเถอะว่านายเป็นคนแรกที่ฉันคิดอะไรด้วย” ศิระถอนหายใจ พยักหน้ารับช้าๆ ไม่มีเหตุผลที่พฤกษ์จะตามมาง้อเขานี่ ถ้าพฤกษ์ไม่ได้คิดอะไรกับเขา คนอย่างพฤกษ์คงไม่มาเสียเวลาให้กับอะไรที่เจ้าตัวไม่ใส่ใจหรอก
“รอผมนะ สัญญาจะรีบมาหาให้เร็วที่สุด เอาโทรศัพท์นี้ไปจะได้ตามตัวเจอ” พฤกษ์แกล้งพูดเอาใจแถมยังลงทุนควักมือถือตัวเองยื่นให้เพื่อล่อเหยื่อไม่ให้หลุดจากบ่วง ได้ผล ศิระยอมยิ้มบางๆให้เขารับของที่เขายื่นให้อย่างว่าง่าย ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมา คนแรกที่ฉันคิดอะไรด้วย ศิระนายฟังไม่ผิดหรอก ฉันคิดอะไรกะนายจริงๆคิดจะสั่งสอนไงไก่อ่อนชะมัดให้ตายสิ
   พฤกษ์กลับมาหาเมษา ขอโทษขอโพยเสร็จ ก็ชวนทานอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ โดยเลี่ยงที่จะพูดถึงศิระ เส้นทางแห่งรักจอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นครั้งนี้ เขาคิดว่าเขามีสิทธิคนเดียวที่จะปั่นหัวศิระเล่นมันเป็นเส้นทางรักของเขาสองคนเท่านั้น
“ไปดูหนังต่อกันมั๊ยพฤกษ์”เมษาเอ่ยชวนคนที่เดินคู่กันออกมาจากร้านอาหาร โอกาสแบบนี้หายาก ต้องเอาให้คุ้มหน่อยล่ะ
“ช่วงนี้ไม่มีหนังน่าดูเท่าไหร่นะเมษา” พฤกษ์บอกปัด เมษาชวนเขานั่งแช่อยู่ในร้านร่วมสามชั่วโมง แล้วนี่ยังจะชวนเขาไปดูหนังอีก อย่างน้อยๆเวลาที่เขาต้องอยู่กับคนๆนี้ก็ต้องต่อยอดไปไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงอีกแน่ๆ
“ไม่น่าดูหรือดูมาหมดแล้วครับ” เมษาดักทางทีไปกับไอ้กับนั่นไปได้ ทีกับเขามาปฏิเสธ มันต้องคุยกันหน่อยล่ะ
“ไม่หรอกครับ วันนี้เราอยู่ด้วยกันนานแล้ว เอาไว้วันหลังดีกว่านะครับ”
“เพิ่งรู้นะครับ ว่าคุณจับเวลาตอนที่อยู่กับคนอื่นด้วย” พฤกษ์นิ่งคิดเมื่อโดนเบรกอีกรอบ นั่นสินะ ไม่ว่าจะกับใครที่เขาได้อยู่ได้พูดคุยด้วยเขาก็มักที่จะอึดอัดมองนาฬิกาแทบจะทุกครั้งถ้ามันนานเกินกว่าชั่วโมง แต่กับคนๆหนึ่งเขาแทบจะไม่มองเข็มนาฬิกาเลยซักนาทีที่ได้อยู่ด้วย ป่านนี้จะรอเขาอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้
“นะครับพฤกษ์ ดูหนังกับผมซักเรื่อง ไหนๆก็มีโอกาสแบบนี้แล้ว ไม่สงสารผมเหรอ” เมษา ใช้วาจาเข้าอ้อนถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไปสิ
“มันมีรอบที่เร็วที่สุดหรือเปล่าล่ะครับ ผมไม่อยากกลับบ้านดึก” พฤกษ์ เออออตามในที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงว่าตัวเองกำลังนึกถึงคนที่รออยู่ ในเมื่อเขาจะแกล้งนายนั่น เขาก็ต้องแกล้งให้จนถึงที่สุดสิ คนแบบนั้นง้อง่ายจะตาย ขนาดเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่นึกว่าจะกู่ไม่กลับเขาก็ยังเอาอยู่ขอปั่นหัวอีกซักทีเถอะน่า





อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ  ติดตามตอนต่อไปกันนะ

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
«ตอบ #88 เมื่อ17-12-2007 12:54:02 »

โอ้ววว บีบหัวววจายยยย เจงเจง  :o


เกลียดพฤกษ์อ่ะ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
«ตอบ #89 เมื่อ17-12-2007 13:02:06 »

ไม่มีคำบรรยาย   :m8: :m8: :m8:

ศิระอย่ายอมโดนแกล้งฝ่ายเดียวนะ

ถ้าถึงเวลาต้องเอาคืนให้หนักๆเลย



มันจะเศร้าอีกนานมั้ยอ่าพี่แอม



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด