เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]  (อ่าน 3275878 ครั้ง)

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

สารบัญBy. RoseBullet ขอบคุณมากๆเลยนะค้าฟ  :pig4:


[Coin01][Coin02]
[Coin03]
[Coin04]
[Coin05]
[Coin06]
[Coin07]
[Coin08]
[Coin09.1]
[Coin09.2]
[แฉแต่เช้า]
[แฉช่วงบ่าย]
[Coin10]
[แฉช่วงดึก]
[Coin11]
[Coin12]
[Coin13]
[Coin14]
[Coin15]
[Coin15.1]
[Coin16]
[Coin16.1]
[Coin16.2]
[Coin17]
[Coin18]
[Coin19]
[Coin20.1]
[Coin20]
[Extra]
[Coin21]
[Coin22]
[Coin23]
[Coin24]
[Sleepless Nights]
[เรื่องกล้วยๆ]
[Smile]
[Extra1]
[Extra2]
[Coin25]
[Coin26]
[Coin27]
[Coin28]
[Coin28.1]
[Coin29]
[Coin30]
[Coin31]
[Coin32]
[My Life Before I Met You 1]
[My Life Before I Met You 2]
[Pillow Talk]
[Coin33]
[Coin34]
[Gift]
[Precious]
[Made For You]
[Coin35]
[Coin36]
[No More Hesitate]
[Coin37]
[Coin37.5]
[Coin38]
[Coin39]
[Last Coin]
[Special Coin]

[B.N.1]
[B.N.2]
[B.N.3]
[B.N.4]

Credit.Majishan Nazo


Coin 1


โครมม!!!!
เคร้งๆๆๆ ปัง ตูมมมม!!


“ไอ้ผัวเฮงซวย มึงไปมีเมียน้อยมาใช่ไหม? ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะไอ้เวร แม่ง กูนี่ซวยจริงๆได้ผัวอย่างมึง ไอ้เชี่ย ไปไกลๆเลย เอาเงินกูคืนมานะ เงินที่มึงใช้เสวยสุขกับอีนั่งนั้นน่ะ!”

อา..ได้เวลาตื่นนอน

ทุกท่านไม่ต้องตกใจไปครับ นั้นเป็นเสียงนาฬิกาปลุกสามมิติผมเอง มีทั้งเสียงและสัมผัส รู้สึกเหมือนคุณสามีบ้านข้างๆจะยังแพ้ลูกเตะคุณภรรเมียเหมือนเคย กระเด็นมาติดฝาบ้านซึ่งกระเทือนมาถึงห้องของผม เป็นนัยว่าถึงเวลาตื่นของผมแล้ว
ทะเลาะกันมาแบบนี้ประจำหล่ะครับ ตีกันบ้านแตกตอนตีห้าครึ่งเป๊ะ แล้วก็ไปนั่งจู๋จี๋คืนดีกันตอนสิบโมง หลังจากที่เยินกันทั้งสองฝ่ายหล่ะครับ

ผมลุกจากที่นอนแล้วเดินไปปิดพัดลมที่ปลายเตียง ก่อนจะออกไปอาบน้ำที่ชั้นล่างครับ ออกมาก็ยังเห็นซากสิ่งมีชีวิตนอนนิ่งเป็นฟอสซิลไม่ต่างจากตอนผมตื่น

“เฮ้ย ไอ้เฮีย ตื่นได้แล้วเว้ย”

ใช้ตีนเขี่ยครับ สำหรับเฮียที่รัก ไอ้เฮียฮ้งของผมเองครับ

ไอ้เฮียที่ผมว่าเรียนนิติศาสตร์ปีสี่อยู่มหาลัยชื่อดังที่ขึ้นชื่อด้านนี้โดยเฉพาะครับ แต่ดูหน้ามันตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ผมก็ยังนึกภาพมันใส่สูทว่าความในศาลไม่ออกซะที หน้าโหดแบบนี้คุมคุกน่าจะเหมาะกว่าครับ คุณลองนึกภาพคนสูง 187 เซนติเมตร ผิวสีขาวเหลือง ไม่ครับๆ นั่นมันอดีต ตอนนี้กำลังแทนๆ มีตอหนวดให้เห็น ตาตี่หน่อยๆ กล้ามโตๆดูนะครับ ผมว่ายังไงก็ไม่เหมาะครับ

“สัด วันนี้วันอาทิตย์”

“วันอาทิตย์มันเมื่อวานโว้ย ตื่นได้แล้ว ไปเรียนได้แล้วมึง”

“เดี๋ยวนี้พูดมึงกูหรอวะ ไอ้ตี๋”

“เออสิวะ คุณมึงรีบๆย้ายตูดออกจากพิ้นแล้วไปอาบน้ำได้แล้วเว้ย เร็วๆ ม้าเสร็จแล้วนะเว้ย”

“เออๆ เดี๋ยวกูไป”

ท่าจะอีกนานครับ เมื่อคืนเฮียแกไปเมาค้างมาที่ไหนไม่รู้ กลับบ้านมาก็เที่ยงคืนกว่า เหม็นหึ่งจนผมต้องไล่มันไปนอนพื้นครับ เดี๋ยวมันอ้วกใส่ที่นอนแล้วผมจะแย่
พวกผมยังนอนห้องเดียวกันครับ บ้านเรามีสองห้องนอน ห้องหนึ่งของม้ามาผม อีกห้องก็ผมกับเฮีย ผู้ชายตัวโตๆเบียดกันบนเตียงคู่ที่ไซส์ไม่เปลี่ยนตั้งแต่ประถมนั่นแหละครับ โคตรอนาถ

“แล้วเมื่อวานเฮียใช้เงินไปเท่าไหร่”

“32บาทหว่ะ ค่ารถ”

“เออ ประหยัดๆหน่อยนะโว้ย”

แอบเปิดกระเป๋าตังมันดู โอเคครับ ใบสีเขียวกับสีแดงยังอยู่ ส่วนใบม่วงๆอย่าฝันเลยครับว่าจะมีในกระเป๋าพวกเรา ผมกับพี่เรียนทุนครับ เงินจะกินแต่ละเดือนยังลำบาก อย่าไปพูดถึงการซื้อเหล้ามายาใจเลย ฝันชัดๆ

ผมรีบลงไปชั้นล่างครับ ช่วยมาม้ายกหม้อโจ้กที่เคี่ยวไว้แล้วไปเทใส่หม้อใหญ่ที่วางอยู่บนกระบะหลังของไอ้แก่ รถกระบะแก่ๆของบ้านผมครับ บ้านผมขายโจ้กครับ เช่าชั้นล่างของตึกแถวหน้าปากซอยขาย ก็ขายดีครับ มาม้าผมทำอร่อย ตอนเช้าๆชาวบ้านขับรถขับมอไซค์ผ่านไปผ่านมาเขาก็แวะกินกันครับ หน้าเดิมๆก็มีให้พรึ่บ หรือจะหน้าใหม่ๆหลงมากินก็มีครับ อ่อ โชคดีครับ ซอยบ้านผมไม่ไกลจากมหาลัยนัก บางทีก็มีนักศึกษาที่หออยู่แถวนี้มากินกันครับ เหมือนโรงน้ำชาครับ ข่าวลือข่าวซุบซิบ อยากรู้มาลองนั่งกินโจ๊กร้านม้าผมสิครับ

ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่าง พอเทเต็มครบสองหม้อใหญ่ก็ปิดฝาครับ ไปเรียกไอ้เฮียที่เกาพุงเดินลงมาครับ โคตรน่าเกลียด หัวเยินๆครับ หน้าตาบอกว่า”กุแฮงค์” ใส่แต่บ็อกเซอร์ มันมีหน้าที่ขับรถครับ พวกผมจะช่วยม้าขนของจัดร้านตอนเช้า ก่อนจะไปเรียน จะมีพี่สาลูกจ้างพม่าที่อี้ฮวงแนะนำมาช่วยม้าขายโจ๊กครับ

บ้านผมเป็นตึกแถวครับ หน้าบ้านก็ปลูกต้นไม้เท่าที่พื้นที่จะอำนวย ชอบต้นไม้กันทั้งบ้านก็งี้ครับ

“เฮียไปก่อนเลย เดี๋ยวผมขับมอไซค์ตามไป”

“เอ้า? ไม่ไปด้วยกันละวะ”

“ผมจะไปเอางานปริ้นท์กับเจ๊ฉายก่อนอ้ะ วันนี้ส่งโปรเจคต์”

“เออๆ” มันรับด้วยการเกาพุงครับ ม้าเห็นแล้วส่ายหน้าเลย ผมได้ยินเสียงม้าบนดังเข้ามาถึงในบ้านเลยครับเรื่องที่เฮียดอดไปกินเหล้าเนี่ย

ม้าปีนี้ก็จะหกสิบแล้วครับ ยังต้องทำงานเลี้ยงพวกผมอีก ผมอยากจบเร็วๆจะได้ออกมาช่วยม้าหาเงิน แต่พึ่งปีสอง เรียนสถาปัตย์กว่าจะจบก็อีกสามปี รอกันไปอีกนานอ้ะ

“เฮ้ย ไอ้โจ๋ มึงฝากไว้กับเจ๊เขาแล้วหรอวะ”

“เออ..” แม่งพึ่งตื่น ไอ้โจ๋ ไอ้เพื่อนเลว “กู...น่าจะ...ฝากแล้วมั้ง”

“สาด เก็บคำว่าน่าจะมึงยัดก้นมึงไปเลยนะโว้ย ไอ้เหี้ย ส่งวันนี้ ไฟล์อยู่ที่ใครวะ”

“กูฝากทัมบ์ไดรฟ์ไว้กับเจ๊ ไม่มีหรอวะ”

“ถ้ามีกูจะโทรมาหามึงทำพระแสงไรวะ” แม่ง มือถือไม่มีสัญญาณ เดินหาสักพักครับ มือถือผมหน้าจอไว้อาลัยครับ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสี ตอนนี้แม้แต่ปุ่มกดยังต้องเดาเลยครับว่าปุ่มนี้ปุ่มไร หน้าจอก็เยินครับ ตกพื้นท้าแรงโน้มถ่วงโลกบ่อยๆ

เจ๊ฉายทำหน้าสุดเซ็งเป็นแบคกราวด์ ร้านปริ้นท์งานนี้อยู่ใต้หอแถวมอครับ คิวทองสุดๆแต่ก็ถูกกับงานดี คนเลยติดตรึมครับ สักพักเจ๊แกก็เลิกสนใจคนหน้าตาดีแบบผมแล้วทำงานต่อแล้วครับ

ตอนนี้แม่งก็หกโมงครึ่งแล้ว ส่งงานเก้าโมง เห็นเงายมทูตลิบๆแล้วครับ

“ล้างหน้าล้างตามึงแล้วลงมาเลย กูจะเอาตีนลูบหน้ามึง!”

หอนี้หอที่มันอยู่ครับ ไม่ต้องสงสัย ไอ้โจ๋ควายเผือกใช้เวลาห้านาทีก็ลงมาแล้วครับ แม่ง ลงมาสภาพเดียวกับเฮียกูเลย ยังดีมีเสื้อกล้ามย้วยๆใส่บังพุงมัน

“ไอ้สัด มึงไปคุยกับเจ้แกเลย” ผมสั่งครับ ไม่ปล่อยให้มันได้ทักทาย มันก็เดินเกาพุงไปครับ คุยกับเจ้แกสักพักก็ทำหน้าตาตื่นกลับมา

“เวร กุไม่ได้ฝากกับเจ้แกจริงๆวะ แม่งไว้ไหนวะ”

“เมื่อคืนมึงไปไหนมา?”

“ไปก๊งมาหว่ะ ก็ไปกับพวกพี่เพรชนี่หล่ะ กลับมาก็ดึกๆหน่อย”

“แล้วหลังจากนั้น...?”

“กุจำไม่ได้”

เวร
แม่ง น่าเลิกคบจริงๆ

“แล้วมีเก็บงานไว้ที่อื่นเปล่า เดี๋ยวกูเอาไปพิมพ์ให้ รอเจ้แกคงไม่ไหวหว่ะ”

“อยู่ในเมลล์มั้ง เดี๋ยวกูฟอร์เวิรด์ไปให้”

ผมพยักหน้าให้มันก่อนจะรีบกระโดดขึ้นคร่อมมอไซค์ พอถึงม.ก็โทรบอกเฮียว่าคงจะไม่แวะเข้าไปแล้ว เจ็ดโมงกว่าแล้วครับ รายงานหนาเป็นร้อยหนาแถมยังต้องเย็บเล่มอีก ถ้าไปรอร้านคงไม่ทัน แต่เผอิญผมรู้จักแหล่งเยี่ยมๆครับ ตอนเป็นเฟรชชี่ถูกรุ่นพี่ใช้งานบ่อย แล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พี่เขาเลยยอมเผยความลับให้รู้ความ

บนตึกวิศวะคอม ที่ห้องปฏิบัติการณ์จะมีเครื่องปริ้นท์ยักษ์อยู่ครับ ปริ้นท์งานเร็วนรกตามไม่ทันครับ แต่ก็รู้ครับ สถาปัตย์ วิศวะ รักกันปานจะกลืนกิน แถมผมยังแต่งตัวมาเซอร์จนมองก็น่าจะรู้ว่ากูเนี่ยคณะข้างๆมึงวะ

ทำเนียนเดินเข้าไปครับ จะมีบ้างทีหันมามองผม แต่ส่วนมากก็จะโหวกเหวกโวยวายตามภาษาคณะเถื่อนครับ(กูจะโดนยำตีนไหมเนี่ย?) แม่ง จะอยู่ทำไมตั้งชั้นหกหว่ะ ขอขึ้นลิฟท์แล้วกัน

บรรยากาศในลิฟท์แม่งวังเวงมากครับ มีผมอยู่คนเดียว พอถึงชั้นสองก็มีไอ้กลุ่มช่างทโมนเข้ามาครับ ล่อมาซักห้าหกคน ส่งเสียงเหมือนยืนคุยกันริมสนามฟอร์มูลล่าวันครับ

“ไอ้กากเอ้ย มึงจะมาวินนิ่งกับกูรออีกสิบชาติเหอะวะ”

“เหี้ย เก่งนักอ้ะมึง อู้ย ไอ้เมสซี่ ไอ้กาก้า ถุยยย”

มือไม้แม่งปัดป่ายประกอบท่าทางมากอ้ะครับ ผมต้องคอยหลบครับ เชี้ยนี่แม่งชั้นไหนแล้วเนี่ย ไอ้พวกเวรนี้ยืนขวางกูอยู่ได้
อ้าว นี่ชั้นหกแล้วนี้หว่า ไอ้ควายนิ หลบทางให้กูหน่อยสิวะ เมียมึงชื่อเจอร์ราดหรือไง โฟ่อยู่ได้สาด
เอ้าหลบให้กูหน่อย อีกนิดนึงกูก็ถึงประตูแล้ว เอ้า พ่อมึงชื่อจ่าเฉยหรอ ยืนนิ่งขวางกูอยู่ได้

ผมพยายามจะผลักไอ้หนุ่มวิศวะที่ขวางทางออกไปครับ แต่แม่งสุดซวยจริงๆ  ตอนนี้มีกลุ่มเพื่อนหน้าตามึนๆไม่ต่างกับไอ้กลุ่มที่ขวางผมอยู่ทะลักเข้ามาในลิฟท์ครับ จนตอนนี้ผมต้องกลืนร่างเข้าไปกับมุมลิฟท์อย่างไร้ทางเลือก

กว่าจะมายืนอยู่ชั้นหก กินเวลาไปเกือบสิบนาที...

เวลาอันมีค่าของกูมึงจะรับผิดชอบยังไงวะ! แถมรองเท้านี้กูพึ่งซักนะโว้ย แม่งเอ้ย
ถ้ากูไม่เดือดร้อนจะไม่กลับมายืนตรงนี้หรอก หิวอีก ไม่ โมโหเว้ย

ผมรีบเดินเข้าไปในห้องปฏิบัติการณ์ครับ ส่องจากกระจกข้างนอกมันดูไม่ออกครับ เพราะห้องเขาติดสติ๊กเกอร์ทึบแสงไว้ครับ เห็นเฉพาะเวลามองออกมาจากข้างในเท่านั้นครับ ผมรีบเดินไปที่ประตูครับ

“อ้าว ล็อกหรอวะ?”

พยายามผลักครับ เวร ไม่ขยับเลย
อะไรวะ กูอุตส่าห์รีบมา

ขยี้หัวตัวเอง เครียดเลยครับ กุอุตส่าห์นึกว่าแม่งจะรอดแล้ว แล้วนี่กูจะทำไงดีวะ

นั่งยองๆหน้าประตูมันนี่หล่ะครับ คว้าโทรศัพท์แล้วรีบยิงหาไอ้โจ๋ ไม่มีการโทรครับ ผมมันไอ้เสือปืนไว ยิงทะลุทุกรายครับ

“เชี่ยโจ๋ แม่ง กูเข้าไปปริ้นท์ในห้องคอมไม่ได้วะ แม่งล็อก”

“อ้าว แล้วงี้จะทำไงวะ”

“นั่นดิ แม่ง รอคนมาแล้วเขาจะให้กุปริ้นท์ไหมเนี่ย ไปผลาญทรัพยากรคณะมันเนี่ย”

“เดี๋ยวกูจะรีบไปหา”

“เออ ซื้อข้าวมาให้กูด้วย กูไม่จ่ายนะมึง”

“หลอกแดกฟรีตลอด โทรก็ให้กูโทรกลับ ไอ้เพื่อนเลว”

“เดี๊ยะๆ เดี๋ยวกูปั๊ดส่งตีนตามสัญญาณโทรศัพท์ไปหรอกสาด”

“ฮะฮะ เออๆ แค่เนี่ย”

คอตกหน้าห้องครับ แม่งเอาไงดีว้า

อยู่ๆประตูก็เปิดออกครับ เห้ย! แม่งเปิดออกมาทางกู ที่สำคัญแม่งเร็วด้วย!!

ผลั่กกกก!!!

เต็มๆหัวกูเลยครับ หงายหลังตึงเห็นดาวเห็นเดือนกันเลยครับ

“อู้ยยยยย ไอ้เชี่ยยยยยย”
แม่ง ใครวะ อย่าให้รู้นะลูกเต้าเหล่าใคร กูจับฟาดก้นแม่งลายเลยนิ!

ผมมองไล่มันขึ้นมาจากรองเท้าหนังดำมันแปล็บไล่ขึ้นมาเลยครับ โหย นี่แม่งคุณชายหลุดมาจากละครเรื่องไหนวะเนี่ย เนี้ยบดูดีมีชาติตระกูลหัวจรดเท้า เอาซะกูหงิด ผมมันโคตรเท่เลยครับ แบบ มันเป็นทรงที่ผมอยากตัดแต่ไม่มีเงินตัดอ้ะ แหะๆ ทุกอย่างแม่งดูดีแม่เจ้าโว้ยสุดๆ ยกเว้น..

หน้าตาครับ

มันไม่ได้หน้าตาเฮงซวย หรือเหมือนกล้วยกวนที่ไหนนะครับ

มันหล่อ หล่อซะจนน่ากลัวเลยครับว่าแม่งมนุษย์หรือเปล่า แต่สายตาแม่งเหยียดมากครับ กดมองต่ำลงมาที่ผม สายตามันบอกชัดเลยครับว่า ผมไม่มีวันได้คำขอโทษจากมัน

“ไอ้สัด มึงเปิดประตูภาษาไรวะ กูนั่งอยู่ไม่เห็นหรอไง”

“.....”

มึงสื่อสารกับกูอยู่ป่าววะ

คือมันเงียบครับ มีแต่เสียงผมออกไปดังก้องทางเดิน ผมแอบขนลุกครับ เพราะคาดจากสายตา แม่งสูง! ผม178กว่าคงไปสู้มันไม่ไหวครับ

มันตวัดสายตากลับแล้วเดินไปเลยครับ ผมแม่งโมโหมากแต่ไม่อยากทำร้ายร่างกายคนครับ เดี๋ยวต้องจ่ายค่าทำแผล เปลืองตังกูอีก ยิ่งไม่ค่อยจะมี

“แม่ง มารยาทมึงมีไหมวะสาด!”
แล้วแม่งก็เดินจากไปครับ แม่งอยากกระโดดถีบขาคู่จริงๆ

ไอ้เชี่ย แม่ง ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ประตูมันต้องดึงครับไม่ใช่ผลัก! ประจักษ์ทันทีเลยครับ

ผมรีบ”ดึง”ประตูเข้าไป แล้วเข้าชารจ์คอมที่อยู่กับเครื่องปริ้นท์ทันทีครับ การปริ้นท์งานแม่งเร็วทันใจมากครับ ไม่ถึงสิบนาทีผมก็ได้รายงานของผม หันไปมองข้างๆระหว่างรอก็เห็นสันรายงานให้รึ่มเลยครับ แม่ง กูขอสักอันนะ ถือว่าทำบุญ

“เห้ย ไอ้ตี๋”

“สาดดด โผล่มาไม่บอกกล่าว กูหัวใจวายมึงจะทำยังไงวะ”

“กูก็จะทำใจหว่ะ เพราะกูไม่ใช่หมอ”

“เหี้ย” รับคำสรรเสริญกันไปแล้วก็ช่วยกันทำงานครับ

“แล้วไอ้เคิ่ลจะมาเมื่อไหร่”

“แม่ง รถติดอยู่ คงอีกชั่วโมง”

“เพราะมันตื่นสายเหอะ เมื่อคืนแม่งพี้ยามาหรือไง เมาตลอด”

“ติสต์เว้ยติสต์” ไอ้เคิ่ลแม่งลูกครึ่งแคนาดาครับ หน้าตาดีแต่ดีกรีซกมกชนะเลิศครับ สาวๆเผ่นหมด พ่อแม่มันก็ดูสะอาดดีแล้วไอ้นิสัยนี้มาจากไหนผมก็ยังไม่เข้าใจครับ

“แล้วไอ้กล้วย?”

“หึหึ หม้อสาวอยู่หน้าคณะมนุษย์”

“เออๆ ไม่เป็นไร ให้มันพรีเซนต์แล้วกัน” ไอ้กล้วยแม่งพูดเก่งมากครับ คารมสุดยอด หน้าตาพอไปวัดไปวาแต่วาจาต่อให้ดาวคณะแม่งก็สอยเรียบ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ารูปหล่อเป็นรองคารมจริงๆครับ

ความจริงมันไม่ได้ชื่อกล้วยครับ มันชื่อไอ้เก่ง แต่เห็นมันชอบแดกกล้วยมากๆเลยตั้งให้เป็นชื่อเล่นซะเลย เห็นมันชอบก็เลยเรียกกันมาตั้งแต่เทอมแรกของปีหนึ่งครับ

ไม่นานงานก็เสร็จ ผมไม่เล่าให้มันฟังเรื่องน่าอับอายเมื่อเช้าครับ แค้นก็แค้นน่ะ แต่ถ้าพูดไปแม่งกลายเป็นรายการตลกแฉตัวเองทันที เลยปิดปากเงียบดีกว่าครับ

“มึงแดกข้าวไปก่อนไป เดี๋ยวกูทำงานให้”

“เออ แต็งโว้ยไอ้โจ๋”


......................
...........






(ต่อความเห็นล่างนะคัฟ สารบัญยาว แปะไม่พอ)  o13

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2016 17:52:23 โดย cn9095 »

plaraya

  • บุคคลทั่วไป
ชอบชื่อเรื่องเลยเข้ามาอ่าน ...ฮิๆ  เงินนะมีไหม :laugh:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
นายเอกของเราสู้ชีวิตเหลือเกิน

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
ชื่อเรื่อง, อ่านดูนัีกเลงมากเลย!  :laugh:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :เฮ้อ:ชีวิตคนจน ปากกัดตีนถีบเกือบจะถึงหน้าตัวเอง

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
27 วันอันตราย รีบจับผู้ชายโดยด่วน :laugh:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
พระเอกท่าจะกวนตีนอ่ะ เอร้ยย  ไม่ชอบเลย ฮ่าๆ  แต่ตี๋นี่เป็นลูกกตัญญูจริงๆ

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5

“มึงว่าจะได้เกรดไรวะ” โจ๋เปิดประเด็น

“ไม่ c กูก็ประทับใจ” ไอ้เคิ่ล มึงมีสิทธิมาพูดไร งานมึงทำไหม?!

“ควาย พวกกูอดหลับอดนอนเลยนะเว้ย”

“นั่นมันเป็นเพราะบ้านมึงไม่มีคอมแล้วมึงต้องนั่งเขียนต่างหากสาด ทำจริงๆสองสามชั่วโมงก็เสร็จ”

แค้นแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยมันไป 555

บ้านจะไปมีคอมได้ไง ทีวียังมีเครื่องเดียวเลย แถมแม่งยังติดๆดับๆอีก ดูบอลไม่เคยสะใจอ้ะครับ

“แล้วนี่จะกลับหรือก๊ง” โจ๋แม่งชวน หอมันนี่เป็นร้านเหล้าย่อมๆของพวกผมอ้ะ

“ชวนกูเสียตลอดอ้ะ” ไอ้กล้วยแม่งบ่น แต่หางแม่งกระดิกยิกๆแล้วครับ

“มึงพูดเหมือนมึงจะไม่ไป”

“ไรๆ เพื่อนกันก็ต้องไปสิวะ”

“งั้นกูกลับก่อนนะ เมื่อเช้ากูไม่ได้เข้าไปช่วยเฮียอ้ะ กูเลยกะจะเข้าไปช่วยเก็บของ”

“เออๆ...งั้นกลับดีๆอ้ะมึง”

เสียดายครับ แต่หน้าที่ที่ผมรับผิดชอบก็ยังมีอยู่ ผมจะทิ้งมันไม่ได้หรอกครับ

............................................

“ม้า หวัดดีค้าบ”

“เออ โซ่ยตี้ไปเก็บชามขึ้นหลังรถเลยนะ เดี๋ยวม้าเก็บตรงนี้เอง” ผมพยักหน้าเมื่อเห็นแล้วว่างานที่ม้าจะทำมันไม่หนักมาก ผมเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นรถแล้วขนของครับ

ขนของเก็บเก้าอี้เรียบร้อยก็ขับรถกลับบ้านครับ

“ม้า เป็นไงบ้าง”

“หืม?”

“วันนี้ขายดีไหม?”

“ดีสิ ขายดีเหมือนทุกวันนี้แหละ”

ม้าเป็นคนไทยครับ พูดไทยชัดเจนแต่อากงอาม่าผมก็คนจีนแท้ครับ เลยยังมีพูดภาษาจีนกันบ้าง แต่ตอนนี้ทั้งกงและม่าก็เสียหมดแล้วครับ

“อีกไม่นานหนี้ก็จะหมดแล้ว โซ่ยตี้ไม่ต้องกังวลหรอก เรียนไปเถอะลูก”

“ครับ”

แม่จะคุยเรื่องเงินๆทองๆกับเฮียฮ้งคนเดียวครับ ผมเคยถามเฮียก็ไม่ตอบบอกผมเด็กไปครับ เซ็ง

ความจริงผมก็อยากรู้เรื่องในบ้านบ้าง ผมจะได้เข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น แล้วจะได้รู้ว่าผมควรจะทำตัวยังไงเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ผมรักที่สุด
น้อยใจครับ แต่รู้ว่ามันเป็นความหวังดีจากพวกเขา

“เอ้า? ใครอยู่หน้าบ้านหน่ะ?”

ม้าถามขึ้นก่อนผมครับ กำลังจะหันไปถามพอดีเลย

“หวัดดีครับลุง มาทำไรครับ?” ผมจะเอารถไปจอดในบ้านก็ทำไม่ได้ครับ พวกลุงๆแกประมาณหกเจ็ดคนยืนขวางหน้าบ้านหมดเลย หน้าตาไม่ค่อยเป็นมิตรเลยครับ ผมรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก

“นี้บ้านพิชญพาณิชย์ใช่ไหม?”

“ครับ”

“กำหนดชำระหนี้เลยมาสองเดือนแล้วนะ”

ม้าลงมาจากรถเลยครับเมื่อได้ยินแบบนั้น ผมหันไปมองหน้าม้าสลับกับพวกคุณลุง ไหนบอกว่าจ่ายจะหมดแล้วไง

“โซ่ยตี้เข้าบ้านไปก่อนนะ เดี๋ยวม้าตามเข้าไป”

ผมส่ายหน้าครับ ไม่กล้าปล่อยแม่ผมอยู่กับพวกคุณลุงที่ไม่น่าไว้ใจหรอกครับ

“เข้าไปเถอะ ฟังม้าหน่อย”

สุดท้ายก็ต้องยอมครับ พวกเขาก็หลบทางให้ผมเอารถเข้าไปจอดครับ ผมเดินออกจากรถเข้าบ้านไปให้ช้าที่สุดทั้งๆที่ระยะห่างไม่ถึงสามเมตรด้วยซ้ำ

“ถ้าสิ้นเดือนนี้ไม่จ่าย ผมคงจะต้องยึดบ้านแล้วหล่ะครับ”

ขาผมก้าวต่อไม่ออก มือสั่น และคิดว่าม้าก็คงจะเป็นแบบเดียวกับผม...


วันนี้วันที่ 3 ตุลาคม


เหลือเวลาอีก 27 วัน



............................
.......................


[ Coin 1 : complete ]
[12.11.54]
[/font]








Coin 2






ผมนอนไม่หลับครับ

เฮียพึ่งกลับมา ม้าก็เรียกเข้าไปคุยที่ห้อง ผมได้แต่นอนกลิ้งบนเตียงครับ

27วัน จะทำอะไรได้วะ?

เงินที่บ้านผมเป็นหนี้อยู่มันเท่าไหร่ แล้วผมจะทำยังไงถึงจะหาเงินตรงนี้มาได้

ผมคิดว่าหนี้มันน่าจะมาจากสองส่วนครับ

ก่อนป๊าจะเสีย ป๊าไปเป็นคนค้ำประกันให้เพื่อนครับ ผมว่านั่นก็น่าจะเยอะอยู่ เพราะหลังจากนั้นบ้านเราก็เข้าสู่วังวนของหนี้มาโดยตลอดครับ จนป๊าเส้นเลือดในสมองแตก เป็นเจ้าชายนิทรา ตอนนั้นผมยังเด็ก จำไม่ได้ด้วยซ้ำครับ เฮียบอกว่าม้าต้องอุ้มผมไปโรงพยาบาลด้วยทุกวัน ส่วนเฮียก็ไปเรียน ค่ารักษาของป๊านั้น สำหรับบ้านที่เรียกได้ว่าพึ่งล้มละลายมาหมาดๆ เป็นไปไม่ได้ครับที่จะเสกเงินมา ผมคิดว่าม้าน่าจะกู้เงินนอกระบบมาหมุนเยอะพอสมควรเลยครับ

ป๊าอยู่ห้องไอซียูที่โรงพยาบาลเกือบเดือน ก่อนจะเสียชีวิตไปโดยที่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ม้าบอกดีแล้วครับ ป๊าจะได้ไม่ทรมาน

ผมเด็กจนจำได้เพียงลางๆครับ ว่าตลอดงานนั้นม้ากอดผมไว้แน่น ไม่มีน้ำตาสักหยดครับ ม้าเข้มแข็งต่อหน้าพวกเรา แต่ผมได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมาจากห้องม้าบ่อยๆครับ

ตอนเด็กๆม้าจะออกไปทำงาน แล้วให้เฮียดูแลผม เฮียเลยเหมือนป๊าคนที่สองครับ มันดูแลผมทั้งๆที่มันก็ยังเด็กมาก เป็นเรื่องที่ผมยังไม่เคยบอกมันครับว่าผมชื่นชมมันขนาดไหน

“อ้าว ยังไม่นอนอีกเรอะ”

เหลือบมองนาฬิกา อีกไม่กี่นาทีจะเที่ยงคืน ผมคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่ไปมหาลัยครับ จะลองไปหางานดู

“เฮีย ม้าว่าไงบ้างอ้ะ?”

“อย่ารู้เลย”

“บอกหน่อยดิ “

“ไม่ใช่เรื่องของเด็กเว้ย”

“ตี๋ห่างจากเฮียแค่สองปีเอง!”

“เออน่า”

“เฮ้ย! บอกมาดิ ตี๋ก็อยากรู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้นอ้ะ!”

“......”

“เออดี ใบ้แดกเลยนะ”

“มึงอยากฟังจริงๆหรอวะ”

อยาก อยากรู้มาตลอด “เออ”

“บ้านเราติดหนี้อยู่ล้านกว่าบาท”

มันหนักกว่าที่ผมคาดไว้เยอะเลยครับ

“ทำงานหนักมาสิบหกปี ยังเหลือเยอะขนาดนี้เลยหรอ”

“ดอกเบี้ยมันแพง”

“แล้ว..แล้วเราจะทำยังไงอ้ะ”

“เฮียกะจะดร็อปเรียนหว่ะ”

ผมเงียบครับ ไม่รู้จะพูดอะไร

“ออกไปทำงานก่อน ถ้าพอจะมีจ่ายคงอาจจะต่อรองกันได้บ้าง”

“แล้วโทรไปหาเขา ขอยืดเวลาได้หรือเปล่า”

“ไม่รู้หว่ะ ไม่กล้าถามม้าเหมือนกัน”

“งั้นเดี๋ยวตี๋ดร็อปด้วย”

“มึงอ้ะเรียนไปเหอะ”

“ความจริงตี๋ต้องพูดคำนั้นต่างหาก เฮียจะจบแล้ว ทำงานทนายมันได้เงินเยอะกว่ารายวันนะเฮีย ตี๋มันอีกนาน แต่เฮียจะจบอยู่แล้วอ้ะ”

มันเงียบครับ ตอนนี้ห้องเรามันเลยเงียบแบบสุดๆ ทั้งผมและมันอับจนซึ่งคำพูดครับ เทพธิดาแห่งความจนตรอกจะถูกใจอะไรกูหนักหนาวะ ชีวิตถึงได้บัดซบขนาดนี้

“โว้ย!! ช่างมันเว้ย คืนนี้นอนเอาแรงก่อนแล้วกัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยคิดกันต่อ”

เฮียพูดแบบตัดจบครับ ผมเลยถามไรต่อไม่ได้ ทิ้งตัวลงนอนกับเตียง พยายามข่มตาให้หลับครับ ปัญหาทุกปัญหามีไว้แก้ แต่แม่งจะแก้ไงวะ!!

..................................................
........................................

นอนไม่หลับกันทั้งคืน ทั้งผมทั้งเฮียพลิกตัวไปมาจนผ้าปูที่นอนเยิน ผ้าห่มเฮียถีบทิ้งตั้งแต่ตีสองแล้วครับ ผมแม่งนอนสั่นเลย เพราะถึงจะเปิดพัดลมเปิดหน้าต่าง แต่แถวบ้านผมตอนกลางคืนก็เย็นระดับนึงเลยครับ

พอได้ยินเสียงข้างบ้านทะเลาะกันปุ๊ป เราก็เริ่มต้นกิจวัตรเดิมๆอีกครั้ง แต่บ้านเราเงียบลงจนสังเกตได้เลยครับ พอมาถึงร้านก็ช่วยกันจัดร้านปกติ ผมยังไม่ได้บอกม้าครับว่าวันนี้ผมจะหยุดเรียน เลยใส่ชุดนักศึกษาออกมาก่อน

“ม๊า ผมไปแล้วนะ”

ม้าหน้าซีดมากเลยครับ ผมรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างมันกดไหล่ผมมากกว่าเดิมเสียอีก

ผมกับเฮียแยกกันไปคนละทางครับ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เฮียก็ขับกระบะไปผมก็ขับมอไซค์เหมือนเดิม

ไปตั้งหลักที่มอก่อนน่าจะดี

“เฮ้ย เป็นไงบ้างวะ!”

ไอ้โจ๋มันรู้เรื่องแล้วครับ ผมโทรคุยกับมันเมื่อเช้า ก็คุยทั้งๆที่มันยังง่วงนี้แหละครับ อย่างน้อยมีคนให้พูดด้วยก็ยังดีหน่อย

“ก็ไม่ไงวะ”

“แล้วนี่มึงจะทำไง” ไอ้กล้วยถามหน้าเครียดครับ ดีใจหว่ะ เพื่อนๆห่วงใย แม้แต่ไอ้เคิ่ลวันนี้ยังหน้าตาดูเป็นผู้เป็นคนทำหน้าตาจริงจังเลยครับ

“กูกะหางานพิเศษทำวะ งานที่แม่งได้เงินเยอะๆเร็ว”

“ขายตัว”

“สาด!!!!!” ประสานเสียงเลยครับ แม่ง ความคิดไอ้เคิ่ล กูว่าแล้ววางใจมึงไม่ได้จริงๆ เอาตีนยันหลังมันด้วยครับ แถม
“แม่ง ถ้าสองสามหมื่นยังพอช่วยไหว แต่เป็นล้านกูหมดปัญญาหว่ะ บ้านกูแม่งขายวัสดุก่อสร้าง ไม่ได้ขายอสังหาริมทรัพย์” ไอ้กล้วยแม่งเริ่มพล่ามแล้วครับ

“เชี่ยกล้วย เจ้มึงเปิดร้านอาหารไม่ใช่หรอ”

“อาหารอิตาลีมึงทำเป็นป่ะหล่ะ กูเห็นมึงแดกแต่โจ๊กกับมาม่า”

ความจริงทิ่มแทงครับ

“สถาปัตย์แม่งก็ยังเรียนไม่จบ ไม่งั้นกูจะรับจ็อบ สาด”

“ไปทำพวกแม็คมึงได้ชั่วโมงละ 30 เท่าๆ แบกหาม? แต่หุ่นอย่างมึงไปแบกของคงหลังหักหว่ะ ผอมซะ” ทำร้ายเพื่อนแม่งบาปเปล่าครับ ปมด้อยกู

 “แล้ววันนี้มึงจะเข้าเรียนไหม?”

“คงไม่หว่ะ กะจะไปหางานดูอ้ะ”

“เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนเอง” ไอ้โจ๋เสนอตัว ผมรีบส่ายหัวแต่มันก็ยังรั้น

“งั้นกูช่วยหาในเน็ตแล้วกัน” ไอ้เคิ่ลเสนอ ดูถ้าจะไม่อยากขยับตัวเท่าไหร่ ไอ้กล้วยก็บอกว่าจะช่วยเล็คเชอร์ให้ สุดท้ายเลยออกมากันแค่สองคนครับ

ผมกับมันบึ่งไปห้างใกล้ๆมอครับ คิดไรไม่ออก คิดว่าในห้างแม่งก็น่าจะมีบ้างหล่ะ แต่ปรากฏค่าจ้างมันน้อยมากเลยครับ ผมอยากทำนะครับ แต่เวลาผมมีจำกัดหน่ะครับ

“ไปเป็นเด็กขายน้ำไปมึง หน้าตายังมึงตลาดชอบ”

“ตลาดมืดขายอวัยวะหน่ะสิไอ้ควาย! แม่ง ถ้าไตกูหายไปสักข้างจะเป็นไรป่าววะ”

“......”

ไอ้โจ๋มันหน้าซีดเลยครับ ทำให้ผมตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะไม่ออก

ผมกะจะแซวมันเล่นๆครับ แต่กลายเป็นว่ามันคิดว่าผมจะเอาจริง

พวกเราพึ่งจะรู้จักกันมาสองปีก็จริงแต่ก็ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะครับ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะแคร์ผมขนาดนี้ครับ

“เฮ่ย กูล้อเล่น”

“สัด กูใจหายเลย”

“กูไม่ทำหรอก กูพูดเล่นจริงๆ”

“สัญญากับกูสิ..ว่ามึงจะไม่ทำ”

คว้ามือผมไปจับเลยครับ มือมันสั่นงึกๆๆ ทำให้ผมเสียใจที่ล้อมันเล่นครับ

“เออ กูสัญญา”




..............................................
.....................................

ตอนเย็นกลับถึงหอพักไอ้โจ๋ ยุคนี้คำที่ว่างานหายากยิ่งกว่าทองแม่งคงจริงอ้ะครับ เดินจนขาแข็งยังหางานไม่ได้อ้ะ

เฮียโทรมาบอกว่าช่วยม้าเก็บของแล้วเรียบร้อย ผมเลยมานอนกับไอ้โจ๋ครับ แล้วตอนเช้าๆค่อยกลับไป มอไซค์ก็อยู่กับตัวครับ ไม่กลัว

“ความสามารถพิเศษมึงมีไรบ้างวะ”

“ทำหน้าตาดีไปวันๆ นอกนั้นไม่มีอะไรเลยวะ”

“แม่ง ขอถีบทีเหอะ ฮะฮะ”

หัวเราะกันไปครับ

สุดท้ายก็นอนกลิ้งดูบอลกับไอ้โจ๋ หัวว่างคิดไรไม่ออกเลยครับ

“ถามจริงๆเหอะ ที่มึงบอกงานดีเงินเร็วเนี่ย นอกจากไอ้พวกกามๆมันจะมีอะไรบ้างวะ”

“....”

“เล่นพนันพระเจ้าเข้าข้างก็โชคดีไป ซวยก็หมดตัว”

“แค่นี้กูก็หมดตัวจนไม่รู้จะพูดไงแล้ว 55”

พยายามหัวเราะเยอะครับๆ มันจะได้มีกำลังใจ

“ความจริงกูมีงานนะ แต่ไม่อยากให้มึงทำเลยหว่ะ”

“งานไรวะ”

“พวกตามผับอ้ะ เด็กเสริฟงี้ บาร์เทนเดอร์งี้ เงินแม่งก็ดีนะ แต่กูว่ามันอันตรายหว่ะ”

“กูผู้ชายนะเว้ย กลัวไร?”

“แม่ง มึงนะรู้ตัวเองไหมวะ ขาว ตี๋ แต่เสือกตาโตแบบมึงหน่ะ เสร็จชัวร์”

“เชี่ย ขนลุก”

ผมนั่งนึกๆดูแล้ว มันดูไม่มีอะไรเสียนี่ครับ ผมผู้ชาย มันไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้วนิ
...แล้วถ้าผมขายตัวจริงๆ มันจะเป็นยังไง
ผมรู้ว่างานนี้มันได้เงินเยอะ แต่มันก็บั่นทอนตัวผมลงไปเองด้วย

กับทั้งชีวิตที่ม๊าสอนให้รักตัวเอง รักศักดิ์ศรีของตัวเอง ในเวลานี้ผมควรจะเลือกอะไรกันแน่
ความอยู่รอด หรือศักดิ์ศรีที่มันกินไม่ได้

ผมได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงซื้อบริการเยอะ แถมให้เงินดี ผมเคยฟังผ่านหู แต่ไม่คิดว่าวันนี้มันจะมากลายเป็นตัวเลือกของผมอีกตัวเลือกหนึ่ง

ซึ่งผมคิดว่าเก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายน่าจะดีที่สุด....

.........................................
...........................


ผมโทรบอกเฮียแล้วว่าคืนนี้ผมก็จะไม่กลับบ้าน เฮียก็ไม่ได้ว่าอะไร

วันนี้ผมไปเรียนปกติ แต่บอกตรงๆเลยครับว่าผมเรียนอะไรไม่เข้าหัวเลย ผมลองถามไอ้กล้วยดูแล้วว่างานที่ผับเป็นยังไง มันก็บอกว่าน่าจะให้เสิรฟ์น้ำปกติหน่ะครับ แต่ดีตรงที่จะได้ทิปหนักหน่อย ถ้าทำดีๆคืนนึงก็อาจได้สองสามพัน

มันอาจจะไม่มาก แต่ก็เป็นทางทีตอนนี้ผมเห็นว่ามันดีที่สุด ในสภาพจนตรอกมีอะไรมาให้เลือกไม่มากนักหรอกครับ

สารภาพครับว่าผมอ่านชื่อผับไม่ออก มันเป็นภาษาฝรั่งเศสที่เขียนแล้วอ่านยากมากๆครับ ผมเดินเข้าไปในร้านที่ตอนนี้ยังเงียบอยู่ คงเพราะมาในเวลาที่ไม่ใช่เวลาเปิดร้านครับ ผมมาถึงประมาณห้าโมง เป็นเวลาของพนักงานที่จะมาเตรียมร้านให้พร้อมครับ

ในร้านทั้งร้านเป็นสีดำครับ แต่พอเปิดไฟสีนวลๆพื้นจะสะท้อนแสงทำให้ดูสบายตา ร้านมองจากข้างนอกไม่ใหญ่นะครับ แต่พอบวกกับการตบแต่งมันเลยดูกว้างขึ้น

“หวัดดีครับพี่เอก ผมพาเพื่อนมาทำงานอ้ะ”

หน่ะ มีรู้จักกันด้วย

บอกตรงๆไอ้โจ๋มันคอทองแดงก็จริงแต่ผมไม่คิดว่ามันจะรู้จักผับไหนดีขนาดนี้ครับ นึกว่าเป็นนักเที่ยวไปเรื่อยๆ แต่ปรากฏว่าทั้งร้านรู้จักมันกันหมดเลยครับ ผมมีหน้าที่ยกมือไหว้ มันมีหน้าที่พูดครับ

“หน้าตาแบบนี้น่าจะเอาไปเสริฟดีกว่าเป็นผู้ช่วยกุ๊กนะ”

“ไม่อ้ะพี่ ไอ้นี่มันซุ่มซ่าม เอาไปซ่อนให้ลึกที่สุดของร้านเลยก็ดี”

“เฮ้ย! กูจะเสริฟนี่แหละ ไม่เป็นไร กูโตแล้วนะมึง” กูอยากได้ทิปโว้ย

“มึงหน่ะ ระวังตัวเองหน่อย...”

ทำไมวะ หน้ากูดูโง่ขนาดนั้นเลยหรอวะ

มันทำตาละห้อยมองมาทางผม เอาซี่ ถ้ามึงจะจ่ายค่าทิปให้กูกูจะยอมทำงานในครัวเลย ผมไม่พูดหรอกครับเดียวมันเอาจริง ความจริงไอ้โจ๋มันรวยระดับหนึ่งเลยครับ พ่อแม่มันทำบริษัททัวร์ค่อนข้างใหญ่ แต่บ้านอยู่ไกลเลยต้องมาอยู่หอ มันก็เลือกอยู่หอง่ายๆ ทำตัวติดดินดีครับ ที่สำคัญ โคตรเนียน นึกว่าจนเท่ากูเลยทีเดียว

มันก็หน้าตาดีแต่ไม่เห็นจะไปหลีหญิงทีไหนเลย แม่งเกย์ป่าววะ กูเสียว

“มึงกลับไปเหอะ กูจะได้ทำงาน”

“งั้นกูไปซื้อข้าวมาให้ เดี๋ยวกลับมาหา”

พยักหน้าส่งๆไปครับ พี่เอกเขาก็สอนงานผมครับว่าให้ทำตัวแบบไหนกับลูกค้ายังไง พี่แกบอกว่าถ้าเห็นท่าไม่ดีให้เรียกพี่เอกทันทีเลยครับ

ท่าไม่ดีนี่หน้าตาเป็นไงวะ? สงสัยแต่ไม่ถาม กลัวพี่หาว่ากวนตีน

“พี่เป็นเจ้าของที่นี่หรอฮะ?”

“เปล่าหรอก ผับนี่เป็นของพี่ชายโจ๋น่ะ พี่จัมพ์”

กูก็ว่าแล้วว่าแม่งจะไปรู้จักทุกคนอย่างนี้ได้ไง ของพี่มึงเรอะ!

ผมเคยเห็นหน้าพี่จัมพ์ครั้งหนึ่งครับ แม่ง โคตรกวนตีน อย่างกระโดดเอาตีนลูบหน้าสุดๆ พี่จัมพ์จมวิศวะจากมอผมนี่แหละครับ ทำงานในบริษัทเอกชน หน้าตาดีครับ แต่ผิวแทนๆไม่เหมือนไอ้โจ๋ ผิวไอ้โจ๋ขาวครับ คงขอทุนพ่อแม่เพิ่มแล้วเปิดผับนี่หล่ะมั้ง

“มีเรื่องลำบากหรอถึงต้องมาทำงานหน่ะ?”

“ครับ ก็ลำบากครับ”

“ทำตัวดีๆอยู่ที่นี่ น่าจะช่วยได้บ้างนะ” พี่เขายิ้ม เหมือนยิ้มปลอบใจผมครับ

“ฮะ”

ชุดเด็กเสริฟ์ไม่ได้ดูแย่เหมือนที่ผมคิดครับ เป็นเหมือนเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวแล้วก็ติดกระดุมทุกเม็ด โคตรคุณชาย! กางเกงพี่เขาให้ใส่กางเกงนักศึกษาได้ครับ รองเท้าผมยืมของไอ้โจ๋มาใส่ครับ เพราะรองเท้าผมเป็นรองเท้าพละม.ปลายครับ(แหะๆ) เยินจนถ้าไม่ใส่รองเท้าจะเห็นนิ้วโป้งออกมาทักทายครับ

ผมนั่งกินข้าวกล่องที่โจ๋ซื้อมาให้อยู่หลังเคาน์เตอร์ ผมชอบที่นี่ครับ บรรยากาศระหว่างพนักงานดูเป็นกันเอง หลายคนก็เรียนมหาลัยอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างมีเรื่องจำเป็นที่ทำให้ต้องมาทำงานในที่แห่งนี้

รอไม่นานครับ สักสองสามทุ่มคนก็เริ่มมาแล้วครับ

เท่าที่สังเกต ผับแห่งนี้หรูมากครับ คือ ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมพนักงานใหม่อย่างผมถึงได้ไปเสริฟ์เลยเพราะดูลูกค้าแต่ละคนแล้ว เงินหนาครับ ถ้าผมไปทำอะไรมึนๆใส่คงจะมีปัญหาแน่นอนครับ

เสียงเพลงดังขี้หูแตกจริงๆ เกิดมานี้ก็เป็นครั้งที่สองที่ผมมาในผับ บรรยากาศก็ยังเหมือนกล่องดักแมลงสาปไม่เปลี่ยนเลยครับ คนเยอะๆดิ้นทุรนทุราย ฮ่าๆๆ

โอ้ย คนนั้นก็สวย คนนี้ก็โดนใจ

แต่ผมโดนงานรุมเร้าครับ เสริฟ์กันหัวหมุน หาโต๊ะก็ปวดตาแล้วครับเพราะไฟมันเป็นไฟแฟลช หาเลขยังไม่เจอไฟก็หายไปแล้วครับ ต้องอาศัยถามพนักงานรุ่นพี่เอาครับ

“นี้ เอาไปโต๊ะสามนะ”

“โต๊ะสามอยู่ไหนอ้ะพี่ ผมเห็นแต่โต๊ะเลขสองหลักอ้ะ”

“โต๊ะสามอยู่ชั้นสองหน่ะ”

ชั้นสอง ชั้นโคตรไฮโซ คนที่จองไว้ถึงได้นั่งครับ แถมคิวยังยาวอีก

ผมได้ขึ้นไปเห็นตอนยังไม่มีคนครับ เบาะนี้นั่งสบาย แถมยังเห็นวิวทั้งผับ แต่เสียงดนตรีจะเบากว่าเพราะลำโพงจะเน้นที่ชั้นล่าง แถมยังมีไฟอ่อนๆบนเพดาน ไม่ต้องจ้องตาแหกเหมือนชั้นล่างครับ

ถือถาดขึ้นไปมือสั่นเลยครับ กลัวทำหก เพราะคนเต้นบนบันไดวนเยอะอยู่ครับ เฮ้ย! ใครจับตูดกูวะ! หันไปเห็นแต่สาวๆครับ เลยยิ้มให้ โห ถ้าหันไปเจอผู้ชายคงเผลอถีบตกบันไดแน่ครับ

ผู้ชายบางคนเรียกไปหาแล้วสอดเงินให้ที่กระเป๋าเสื้อครับ ผมยิ้มรับเงินอย่างเดียวครับ ไม่ยิ้มรับมือที่มาจับนมผมหรอกครับ คือ ผมเป็นผู้ชายนะครับ มันมีความสุขตรงไหนหรอครับที่ได้จับนมแบนๆเนี่ยพี่?

โต๊ะสาม....?

ไม่ต้องหาครับ เสียงดังมาก่อนจะเห็นซะอีก ผู้ชายกลุ่มใหญ่มากครับ สมกับที่ผมถือขึ้นมาหลายแก้ว ใส่เสื้อนักศึกษามอเดียวกันเลยครับ ผมกวาดสายตาดูไม่รู้จักใครเลยมองผ่านๆไปครับ

เดินแทรกเข้าไปแล้ววางแก้วลงกับโต๊ะ บางคนมือไว้ก็คว้าแก้วออกไปจากถาดเอง หน้าแต่ละคนเริ่มกึ่มๆได้ที่ ผมกำลังจะวางอีกแก้วนึงบนโต๊ะก็ถูกฟาดก้นดังเพียะเลยครับ

เพล้งงงงง!

 “เฮ้ย ทำไรวะ!” เกือบชกแล้วถ้ามือไม่กำถาดไว้แน่น

“ไอ้เชี่ย มึงทำน้องเขาตกใจหมด”

ตกใจมากครับ เผลอทำแก้วหล่นแตกเลย ผมเห็นเริ่มมีพี่พนักงานเสริฟ์บางคนมองมาทางผมแล้วครับ

“เกิดอะไรขึ้นหน่ะ?”

พี่...เอ่อ ชื่ออะไรสักอย่างผมจำไม่ได้ ผู้หญิงครับ เธอเดินมาถามผม ผมบอกว่าผมเผลอทำแก้วแตก เธอก็รีบขอโทษลูกค้าใหญ่ แล้วบอกให้ผมไปเอาผ้ามาเช็ด ส่วนเธอจะไปเอาแก้วใหม่มาเสริฟครับ

“ไม่ต้องหรอก พวกผมผิดเองครับ” ไอ้แว่นคนนึงพูดขึ้นครับ หน้าตาดูจากแสงสลัวๆนี่ต้องบอกว่าหล่อ แต่จะวัดจริงๆต้องขอเห็นหน้าชัดๆในไฟสว่างครับ “เพื่อนผมมันเมาไปตบก้นน้องเขา เขาเลยตกใจเผลอทำแก้วหล่นนะครับ”

“เอ่อ...ค่ะ? แล้วจะรับแก้วใหม่ไหมคะ?”

“ใครยังไม่ได้บ้างวะ...อ้าว ไอ้หมอก มีปากไม่พูดนะมึง”

“ว่าไง จะเอาแก้วใหม่ไหม”

ผมมองไปตามสายตาทุกคนครับ ไอ้คนที่ชื่อหมอกนี่หน้าตาคุ้นๆจังครับ เหมือนเคยเห็นเลยหว่ะ หน้ามันดูหยิ่งๆ เย็นๆ ชื่อหมอกโคตรเหมาะเลยครับ ผมว่าหน้าอย่างมันเป็นยามคงจะดีครับ โจรคงเผ่นป่าราบ ต่อให้มันนั่งนิ่งเป็นเจ้าที่ก็เหอะ แต่มันหล่อครับ ยิ่งมองแม่งยิ่งคุ้น แต่นึกไม่ออกแหะ

“ไม่”

พูดคำเดียว ทั้งโต๊ะก็ไม่เซ้าซี้ครับ

“เออ งั้นก็ไม่ต้องครับ”

“อ่า งั้นผมขอตัวนะ” ก่อนที่กูจะชกมึงตาย ไอ้เชี่ย หันไปมองไอ้คนที่ตบก้นผม แม่งยังทำหน้าตาไม่รุ้ร้อนรู้หนาว เอาหน้ามึนเข้าสู้ว่างันเหอะ

“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งไปดิ พี่ว่าน้องหน้าตาคุ้นๆนะ”

ไอ้นี่นิ เมื่อกี้ฟาดก้นกู ตอนนี้มึงมานัวเนียแถวแขนกูอีกหล่ะ คราวนี้เอาถาดฟาดเลยได้ไหม?

“น้องนั่งก่อนดิ”

“ผมต้องทำงานต่อครับ”

“เดี๋ยวพี่ทิปให้”

เงินช่วยคุณได้ทุกอย่างครับ

พอผมนั่งพี่เขาก็ยื่นแบงค์ม่วงๆให้ใบนึง ผมรีบคว้าไว้เลยครับ ในใจก็นั่งนับว่าวันนี้ได้เท่าไหร่ เผลอยิ้มเลยครับ

“น้องเรียนอยู่หรือเปล่า”

“เรียนครับ” ถามมาตอบไปครับ เงินง้างปากได้ครับ

“เรียนที่ไหนหล่ะ” คนอื่นๆในวงเหล้าเริ่มสนใจ ผมสังเกตดูแล้ว กลุ่มนี้เขาดูรวยจริงๆครับ เป็นเหมือนกองทัพพระเอกหลังข่าว แต่ก็ได้กลิ่นอันตรายออกมาจากตัวพวกเขาเหมือนกันครับ ถึงแม้จะอยู่ในชุดศึกษา แต่ก็ม่อจนได้สาวสวยๆแต่งเสื้อผ้าน้อยชิ้นมานั่งข้างกายได้ไม่ยากเลยครับ

“เอ่อ..” บอกดีไหมวะ?

“เห่ย กูว่ากูรู้จักวะ”

เสียงไอ้แว่นคนที่บอกรับผิดนั่นพูดครับ ทั้งวงเหล้าเลยหันไปมอง (น่าจะเรียกว่าวงค็อกเทลมากกว่า แต่มันไม่ถนัดปากครับ)

“น้องรหัสไอ้ฟินไม่ใช่หรอ?”

“เอ้า รู้จักพี่ฟินด้วยเรอะ”

พี่รหัสตัวแสบผมครับ แม่ง เกรียนแตกที่สุดในสามโลก

มาเรียนตามอารมณ์และอุณหภูมิครับ ดูมัน ผมไม่ได้เจอพี่แกจะอาทิตย์แล้ว ตายคากองการ์ตูนแล้วมั้ง ผมไม่เคยซื้อการ์ตูนเองเลยครับ ยืมชาวบ้านอ่าน พี่ฟินนี้ก็เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเลยครับ

“แสดงว่าใช่จริงๆด้วย”
ชิบหาย กูกระโดดลงกับดัก
อย่าบอกนะว่ามึงมั่วขึ้นมา อย่าทำให้กูเสียใจมากกว่านี้

“แล้วทำไงมาทำงานที่นี้หล่ะ?”

“ผมไม่ค่อยมีเงินอ้ะพี่”

“มาเป็นเด็กเสี่ยมา เดี๋ยวเสี่ยเลี้ยง”
เออ เลี้ยงเยอะแล้วนิ หมาในปากหน่ะ ใครพูดหว่ะ
ผมพยายามมองหา แต่ไม่เห็นหรอกครับ

ผมนั่งระหว่างไอ้ปลาหมึกเงินหนา ข้างๆมันเป็นไอ้คนที่ชื่อหมอกครับ เยื้องๆไปหน่อยก็ไอ้พี่แว่นนี่หล่ะ

“พี่ชื่อพี่บอล เป็นเพื่อนกับไอ้ฟินมัน นี่เพื่อนพี่ๆ เรียนวิศวะด้วยกันหมดอ้ะ”

“แล้วน้องเขาเป็นใครวะ”

“เอ่อ น้องตี๋หรือเปล่า” เป็นแฟนพันธุ์แท้พี่รหัสกูเรอะ “เรียนสถาปัตย์”

หลังจากจบรายการแฉแต่เช้า ผมก็มีหน้าที่เติมเหล้าครับ ทิปไหลมาไม่ขาดสาย ยิ้มหน้าบานเลยครับ หัวใจมันพองโต รู้สึกคิดถูกที่มาทำงานที่นี่ครับ...

ถึงแม้หลังจากคืนนี้ไปผมจะเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ก็เถอะ ว่าถ้าเลือกได้ กูไม่มาเหยียบที่นี่คงดีที่สุด ฮืออออ...


 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:


..............................................
.................................



[ Coin 2 : complete ]
[12.11.54]








น้องใหม่ขอฝากตัวด้วยนะคะ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเขียนยังไงก็ฝากด้วยคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2012 18:18:13 โดย cn9095 »

ออฟไลน์ praseat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
 :impress3: :impress3:โถ....น่าสงสารอาโซ๊ยตี๋อ่า....มาม่ะเดี๋ยวป๋าจะปลอบเอง...อิอิ :sad4:  :o12:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
พระเอกของเราชื่อหมอกนี่เอง
พี่หมอกอย่ารุนแรงกับน้องนะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
จะไม่มาเหยียบที่นี่อีก? แสดงว่าคืนนี้ก็ต้อง... :z1: //รึป่าวครับ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่หมอกคะ จะเงียบไปไหน

ออฟไลน์ Papoonn

  • inspiration <3
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ลงอีกกกกก. !
แสดงว่าตอนต่อไปก็ -////-
สนุกจ้าาาาา ><. อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Coin 3


“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

เสียงฮาแตกของใครไม่รู้ครับ ผมฟังผมยังขำเลย

โอ้ย มุขไรของพวกมึงวะ ปวดท้องวะ ขำท้องจะระเบิดแล้ว

ห้ะ? พูดไรนะ กูเมาแล้วหรอ ใครชื่อกูวะ แล้วกูเป็นใคร กูรู้จักไอ้คุณกูไหม? เดี๋ยวจะบอกให้ว่ามันเมาแล้ว

อ้าว แล้วนี่จะลุกไปไหนวะ ขอกูพิงหน่อย ไอ้ปลาหมึก รอก่อน

พอมันลุกไปแล้ว ผมก็เลยเลื้อยไปพิงคนที่นั่งอยู่ข้างๆทันที เงยหน้าเห็นมันทำหน้าเข้มก้มลงมามอง อะไรของมึง ท้องผูกเรอะดูทำหน้าเข้า นิสัยไม่ดีเลยน้า หน้าบึ้งใส่คนอื่นเนี่ย

“ออกไป”

ไปไหนวะ ให้กูไปไหนวะ โอ้ย ขำหว่ะ ขำอย่างไร้สาเหตุ ยิ่งขำไอ้หมอนั่นยิ่งทำหน้าโหดใส่

กูไม่กลัวมึงหรอก

แล้วกูกลัวไรวะ

นั่นสิ กลัวม๊าไง กลัวม๊าเสียใจ กลัวม๊าผิดหวัง

ใครลูบหัวกูวะ สบายจังเลย กูชอบนอนตักม๊า ม๊าชอบลูบหัวกูแล้วก็ฮัมเพลงเบาๆ

เวร กูคิดไปเอง มันกำลังพยายามผลักกูอยู่ ตัวมึงใหญ่ทำไมใจแคบงี้วะ ขอกูพิงหน่อยก็ไม่ได้ ไอ้เชี่ย ไอ้ใจแคบ

แม่งมองหน้า กวนตีนหว่ะ

มันมองหน้าผมสักพักเหมือนคิดอะไรอยู่แล้วก็ล้วงกระเป๋าครับ นั่น! ผมเห็นสีเทาๆแว้บๆ กระดาษสีเทาครับ ผมรักมากๆ ขอผมหน่อยๆ

ผมพยายามตะครุบครับ มันก็ยืดแขนมันออกไปให้ไกลขึ้นอีก ผมกระโดดทับตักมันเลยครับ พยายามดึงมือมันเข้ามา ขอกูๆๆ มึงรวยแล้ว แบ่งกูหน่อย

“อยากได้มากกว่านี้หรือเปล่า?”

เสียงมันทุ้มติดหูผมเลยครับ ผมตัวแข็งทื่อ ทั้งตกใจกับการกระทำของมัน และมึนงงกับคำพูดนั้น

“อยาก อยากได้”

ดวงตามัน ผมเผลอจ้องมองไปแค่เพียงชั่วครู่ แต่เหมือนโดดดูดลงไปในสีดำนั้น เหมือนที่ๆลึกสุดในมหาสมุทร ผมไม่อาจจะต้านทานได้

หมอก
เหมือนตกอยู่ในหมอก หาทางออกไม่เจอ

“อยากได้เงินเยอะๆ”

ผมพูดออกมา มันก็เอียงคอมองผม มือมันไล้ขึ้นมาตามเอวผม ผมก็เกร็งตัวไปตามทางที่มันจับเลยครับ ได้ยินเสียงเพื่อนๆมันพูดคุยตามปกติ แต่ก็เหมือนผมกับมันหลุดมาอีกโลก

มือมันประครองแก้มผม นัยน์ตามันยังนิ่งแต่ผมรู้สึกว่ามันกำลังสนุก  ผมเอียงแก้มเข้าหามือมัน เหมือนปกติครับ คนเรามักชอบการสัมผัสอยู่แล้ว มันอบอุ่น

“เคยนอนกับผู้ชายไหม?”

ผมอึ้งครับ

เหมือนฟองสบู่ที่แตกออก ผมรีบลุกออกจากตัวมันทันที ตกใจครับ เหมือนตกจากที่สูงไม่มีผิด

แล้วมึงล่ะ เคยกินตีนคนอื่นไหม?

ผมสร่างเมาเลยครับ ผลักมันออกจากตัวด้วย มันยกยิ้มมุมปากครับ ไอ้เชี่ย แม่ง ผมโมโหมาก รีบลุกขึ้นเลยครับ

“อยากได้เงินก็เดินมาหาแล้วกัน”

“ฝันไปเหอะมึง!”

มึงนอนนับวันรอไปซะเหอะ!!


...............................................
..................................


ตื่นเช้าตีห้าขึ้นมาช่วยม้าจัดร้าน กลางวันเรียน กลางคืนทำงานกลับบ้านตีหนึ่ง

เป็นแบบนี้มาจะอาทิตย์แล้ว เงินเฉพาะอาทิตย์นี้ที่ผมหาได้ก็จะเกือบหมื่นแล้วครับ งานมันดีแต่ก็น่ากลัวแบบที่ไอ้โจ๋เคยเตือนผมไว้จริงๆครับ ต้องคอยระวังตัวเองตลอด เหล้าที่ลูกค้ายื่นให้บางแก้วมียาใส่มาด้วยครับ ผมเคยเจอมาแก้วนึง พอรู้สึกตัวว่าหมดแรง คุมตัวเองไม่อยู่ ก็รีบลุกออกจากโต๊ะเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วบอกกับพี่เอก มองกลับไปยังเห็นไอ้คนที่วางยาผมเดินตามมาเลยครับ สงสัยจะตามมาเก็บเหยื่อ

เสียใจ มึงนะเหยื่อกู!

ตราบใดที่ได้เงินและหลบเลี่ยงเก่ง ก็รอดครับ

“เฮียคิดไว้แล้ว เฮียจะไม่ให้แกไปทำงานที่ผับนั้นแล้ว”

“ทำไมอ้ะเฮีย!”

“ไม่เห็นหรอว่าทุกวันนี้แกเป็นยังไง”

ผมอ้วกทุกเช้าครับ ปวดหัวทั้งวัน ไมเกรนขึ้น ปวดมากๆก็น้ำตาไหลเลยครับ

“ตี๋สบายดี”

“ไม่ต้องมาปากแข็ง กูไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอมึงนอนเป็นศพนะ ขืนมึงทำอย่างนี้นานๆเขา มึงจะตายก่อนใช้หนี้หมด”

“เฮีย ตี๋รู้ตัวเองหน่า”

“ถ้ามึงรู้ตัวเอง มึงก็น่าจะรู้ตัวว่ามึงต้องหยุดได้แล้ว”

“......”

“สภาพมึงวันนั้นที่โดนยาหน่ะ มึงไม่รู้หรือไงว่ากูเสียใจแค่ไหน ที่น้องกูต้องไปเจอเรื่องแบบนี้โดยที่กูทำอะไรไม่ได้หน่ะ!”

รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ครับ เจ็บตา แต่ไม่มีน้ำตาแล้ว เพราะเมื่อคืนผมปวดหัวร้องไห้ทั้งคืนเลยครับ ไอ้เฮียก็คอยลูบหัวปลอบใจ หายามาให้กินตามระเบียบ

เช้านี้ผมลุกไม่ไหวแล้วครับ พอยันตัวขึ้นนั่งได้ยินเสียงวิ้งๆในหู นั่งสักพักก็จะอ้วก เฮียก็รีบไปหาถุงมาให้ วิ่งถือแก้วน้ำมาให้ แล้วนั่งลูบหลังผมจนผมอ้วกหมด

สักพักม้าก็เข้ามาในห้องนอนครับ ม้าก็ดูเหนื่อยครับ

“โซ่ยตี้ ปวดหัวมากไหม?”

“ไม่อ้ะม้า ปวดนิ้ดดดดดดดดดดดเดียว”

ไอ้เฮียทำหน้า”นิ้ดดดดดดดดดดดเดียว”ล้อเลียนอยู่ข้างหลัง แม่ง อยากเอาตีนถีบจริงๆ

“ไปโรงบาลไหม หืม?” ม้าลูบหัวผมครับ ชอบสุดๆ หลับตายื่นหัวให้เลยครับ ถ้ามีหางคงกระดิกไม่หยุด

“ไม่เอาอ้ะ ตี๋อยู่บ้านได้”

“แล้วใครจะมาดูแลโซ่ยตี้หล่ะ ม้าก็ต้องทำงาน ให้ตั๊วะตี้หยุดมาดูดีไหม” ไอ้เฮียรีบพยักหน้าเลยครับ

“ตี๋ดูแลตัวเองได้ ให้ไอ้เฮียฮ้งมาอยู่ด้วย ตี๋คงป่วยอีกนาน”

“เฮ้ย! หมายความว่าไงวะ เดี๋ยวได้ซี่โครงหักแทนปวดหัวหรอกเว้ย”

“โอ้ย ตีนเฮียเบาเหมือนไรฝุ่นเกาะ กลัวตายอ้— แค่ก แค่ก”

“ดูสิ ไปเถียงเฮียเขา”

“ม๊า แบบนี้เขาเรียกบ่อตั๊วบ่อโซ่ย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง นรกแดกหัวเลยไง ฮะๆๆ”

ดูมันมีความสุขกับอาการป่วยของผมครับ

เอาเถอะ ยกประโยชน์ให้จำเลย ผมคงต้องเลิกทำงานจริงๆครับ ไม่ไหวจริงๆ

ผมให้เฮียเอาซองที่ผมเก็บเงินให้ม้า ดูม้าจะตกใจเหมือนกันที่ผมหาเงินได้เยอะขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ

“โซ่ยตี้ ไปทำอะไรมา? ทำไมหาเงินได้เยอะขนาดนี้”

“ตี๋ไปทำงานเด็กเสริฟมาอ้ะ เขาทิปหนัก”

ตาม้าดูเศร้ามากเลยครับ “ม้า มันไม่มีอะไรจริงๆ”

“รักในศักดิ์ศรีตัวเองนะ อาตี๋ อย่าขายตัวเอง ไม่ว่ายังไงเราก็ผ่านมันไปได้อยู่แล้ว อย่าลดค่าตัวเองแบบนั้นนะ”

“....”

“ตอบม้าสิ ม้าไม่สบายใจเลย”

“ฮะ”

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ปวดหัวหนักขึ้นอย่างไร้สาเหตุเลยครับ ม้าลูบหัวผมอีกซักพักก็ผละมือออกไป

“ม้าไปทำงานก่อนนะ ไป อาฮ้ง”

“ฮะม้า ไอ้ตี๋ ดูแลตัวเองด้วย มีไรโทรมานะเว้ย”

“โทรแล้วทำไม เฮียจะกลับมาเรอะ”

“ปล่าว กูจะสมน้ำหน้ามึง”

“ไอ้เฮียยยยยย”

“เออ ไม่ต้องลากเสียงยาว เหมือนหลอกด่ากู ไปหล่ะๆ”

ไอ้เฮียมันเดินเข้ามาลูบหัวครับ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงประตู

ผมหลับตาลงแล้วหลับไปง่ายๆเลยครับ เพราะว่าเผลียมาหลายวัน


...................................
..........................

ผมฝัน

ฝันว่าม้ายืนหัวเราะอยู่หน้าบ้าน ข้างๆกันมีป๊ายืนอยู่ แต่ผมไม่เห็นหน้าครับ เฮียกำลังวิ่งนำผมอยู่ข้างหน้า ผมวิ่งไล่ตามเฮียเท่าไหร่ก็ไม่ทันซักที

พอผมหันไปมองม้าแป๊ปเดียว หันกลับมาเฮียก็หายไปแล้ว มองไปรอบๆกลับกลายเป็นว่ามีแต่ผู้ชายที่ผมไม่รู้จักเต็มไปหมด ในมือพวกเขาถือใบกระดาษสีน้ำตาลเต็มสองมือ

กระดาษแผ่นหนึ่งหลุดจากมือเขา ร่วงหล่นกับพื้น ผมเก็บขึ้นมาดู
ใบแจ้งหนี้...

“ออกจากบ้านได้แล้วนะ ถึงเวลาแล้ว”

ไม่นะ

บ้านนี้เป็นบ้านของผม

บ้านของเฮีย

บ้านของม๊า

บ้านของพวกเรา บ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำ บ้านที่ผมรัก

ทุกอย่างของผมอยู่ที่นี่...

................................
................................................

ผมต้องหาเงินอีกเท่าไหร่ เหมือนผมกำลังหยอดเหรียญลงในกระปุกที่ไร้ก้น

ถ้าผมไม่ไปทำงานที่ผับนั้น แล้วอะไรที่จะทำให้ผมได้เงินเยอะแบบนั้นกันหล่ะ..

“อยากได้เงินก็เดินมาหาแล้วกัน”

คำพูดของใครสักคนรอยแว่บเข้ามาในหัว

มันเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ผมก็รู้สึกไม่ดี เหมือนว่าม้าจะรู้ทันความคิดของผมถึงได้พูดเตือนไว้ มันเป็นงานง่าย เป็นการตอบสนองความต้องการที่เป็นเรื่องธรรมชาติ และมันก็ได้เงินเร็ว

แต่มันจะดีแล้วหรอ

ผมจะถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กขายตัวหรือเปล่า..

เพราะถ้าสักวันหนึ่ง เมื่อมันผ่านวันแย่ๆแบบนี้ไป แล้วความลับนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมาหล่ะ ผมจะทำยังไงกับมัน?

...แต่ว่า...

ตอนนี้ในหัวมีแต่คำว่าแต่ว่าไปหมดครับ สุดท้ายก็รีบวิ่งไปห้องน้ำชั้นล่าง อาเจียนไม่หยุดเลยครับ แถมยังปวดไมเกรนหนักอีก

ตอนนี้เหลือไม่ถึง 16 วัน

...ผมจะทำยังไงดี....


................................................
.......................................

เอาวะ!!

เอาวะๆๆๆๆ

“เห่ย กูมาหาอ้ะ”

“....”

“กูจะมาบอกว่า..เอ่อ...เอ่อ ...จะพูดไงดีวะ”

“......”

“โอ้ย กูนึกไม่ออกเว้ย ให้กูเดินเข้าไปแล้วบอกมันวะ เออ กูจะนอนกะมึง ขอเงินหน่อยหรอไงวะ!!!!”

“......”

กระเป๋าเงียบ กระเป๋าไม่ตอบ มันกวนตีนมากๆครับ

ผมซ้อมพูดอยู่กับกระเป๋าสะพายครับ ตอนนี้ยังนั่งอยู่ในบ้านอยู่ เฮียกับม้าออกไปแล้วครับ วันนี้ผมตื่นสายหน่อยเลยไม่ได้ไปพร้อมกัน อานิสงค์จากอาการป่วยเมื่อวานเลยได้นอนเพลินเลยครับ

พอไปถึงมหาลัยก็บรรลัยเลยครับ งานรับน้อง! ผับพ่า กูลืมไปได้ไงวะ!

ก็สมควรจะลืมอยู่หรอก เจอแต่เรื่องใหญ่ๆจนลืมมหาลัยไปหมด

“กูบอกมึงนานแล้วเหอะ” ไอ้กล้วยทำหน้าเย้ยหยัน “เมื่อวานมึงก็หยุด ไอ้เคิ่ลเลยจับฉลากน้องรหัสให้”

“เออ แล้วได้ใครวะ”

“น้องปิ๊กวะ ปิ๊กกะจูป่าววะ 555”

“เดี๋ยวมึงเจอไฟฟ้าแสนโวลต์ แซวน้องรหัสกู”

ตอนกลางวันผมก็แอบแว่บๆผ่านคณะวิศวะครับ ไม่หวังว่าจะได้เห็นมันหรอก เพราะผมก็ยังลังเลอยู่ครับ ไม่รู้จะทำยังไงดี ถ้าไม่กล้าก็คงจะไปสมัครงานเป็นพนักงานเซเว่นครับ

“เห้ย นั่นไง น้องปิ๊ก”

อื้อหือ นั่นมันคนหรือเสาไฟฟ้าวะ!

สูงโคตร สูงกว่าเฮีย สูงสุดๆ

แต่สิ่งที่ตามมาคือความแห้งครับ ตัวมันเหมือนต้นไม้แห้งๆครับ ฮ่าฮ่า หัวนี่หาทรงไม่เจอ ใส่แว่นกรอบหนาๆ ติสต์แตกสุดๆ

“กูว่าน้องเขาผิดคณะวะ แบบนี้ต้องสินกำ”

ฮาแตกกันอีกรอบ

“สายมึงนี่ติสต์แตกจริงๆวะ”

เอ่อ กูติสต์ตรงไหนวะครับ

รำคาญผมก็เอาดินสอม้วนๆแล้วปักไว้ครับ ขี้เกียจไปตัด เจ๊หน้าปากซอยคิดผมยี่สิบแต่เจ๊ตัดให้เหมือนผมยื่นแบงค์ห้าร้อยให้ ก็ดีครับ แต่มันเสียเวลาครับ

“แล้วมึงจะประชุมรับน้องวันนี้เปล่าวะ?”

“กู..ไม่แน่ใจวะ”

มองไปลิบๆเห็นไอ้คนตัวสูงๆเดินออกมาจากตึกวิศวะครับ ไอ้หมอก..แม่งมากับเพื่อนอีกฝูงนึง กูจะไปหามึงยังไงดีวะเนี่ย

“มองไรวะ”

“มองให้ควายถามหว่ะ”

“สาดดดดดดดดดดดดดดดดด”

แต่พอมองมันแล้วก็ทำให้ผมคิดได้ ผมไม่มีเวลามาลังเลแล้วครับ

ผมจะเดินเข้าไปหามัน อย่างที่มันเคยพูดไว้....

.............................
..................


[ Coin 3 : complete ]
[13.11.54]







เดี๋ยวรีบมาต่อให้ค่ะ

ออฟไลน์ Papoonn

  • inspiration <3
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม  !
คิดดีแน่แล้วใช่ไหมอาโซ๊ยตี๋  T^T
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ     มาต่ออีกสักตอนน้ะค้า  >< 

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อด่วนค่ะ กำลังลุ้น สนุกมากๆ :fire:

kslave

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากกกค่ะ เข้ามาเพราะชื่อเรื่องเลย
รอติดตามอ่านนะค่ะ

ออฟไลน์ kingkakingka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

สนุกดีค่ะ  มาต่อไวๆนะค่ะ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
อาตี๋อ่า ลื้อก็ยอมขายตัวไปเถอะ  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หง่า,,,,มาต่อไวๆเน้อ

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Coin 4






“เห้ย...คือ พี่ฟิน พี่รู้จักพี่วิศวะที่ใส่แว่นปีสามป่ะ”

“เออรู้จัก มีประมาณสามล้านคน”

แม่ง กูมาถามผิดคนจริงๆ

พี่แกยังคงมึนและเมาอย่างต่อเนื่อง มึนกับรูปภาพที่วาดอยู่ และเมาจากขวดเหล้าที่กอดอยู่ กลิ่นโชยมาเชียว นี่ขนาดอยู่ในรั้วมหาลัยนะครับ ใต้ตึกถาปัตย์มันนี่แหละ แต่เพราะว่าเริ่มจะดึกแล้วเลยกล้าล่ะมั้ง

“ไม่ๆ เอามอเราดิ แว่นกรอบสีแดงๆ หัวตั้งๆแบบนี้อ้ะ”

“ถามไหมวะ?”

“เออน่า คือ เพื่อนมันยืมตังผมไว้ ผมจะทวงแต่ไม่รู้จักหว่ะ”

ไอ้พี่ฟินแม่งเหลือบหางตามองผมครับ “หน้าอย่างมึงให้คนอื่นยืมตัง ถุ้ยย มึงไปกลิ้งให้กูดูก่อนไปกูถึงจะเชื่อ”

“เห้ย ไอ้พี่ฟิน เอาดีๆดิวะ”

“มึงลากกูไปเจอเลยดีกว่า กูฟังแล้วก็ชักอยากรู้วะว่าแม่งใคร”

“ก็เพื่อนพี่อ้ะ ที่มันดูไฮโซ รวยๆหน่อยอ้ะ”

คือ ผมคุ้นๆว่ามันเคยบอกชื่อผมแล้วครับ แล้วผมก็ลืมมันไปเรียบร้อยแล้ว บ๋อย? บ๋วย บูด อะไรทำนองเนี้ย

ผมอยากจะหาเพื่อนมันมากกว่า

ไอ้หมอก

แต่ใครจะกล้าบุกไปตรงๆหล่ะ หาทางเพื่อนก็ดีกว่า ถามเบอร์มันแล้วค่อยแอบไปหาทีหลัง ให้เดินเข้าไปจะๆ พบไม่กล้าหว่ะ

“มาๆ เดี๋ยวพี่พาไปเอง”

แม่ง จะรอดไม่หวะ เชื่อพี่กูเนี่ย จะเดินมันยังเดินเซแถ่ดเลยครับ รองเท้าก็ใส่กลับด้านกันอีก อยากจะรู้จริงๆว่าใครจะมาหลงรักพี่แกวะ  หน้าตาดีนะครับ ผิวขาวๆ ผมว่าหน้าพี่แกค่อนไปทางหวานๆอ้ะ แต่พอมีบุคลิกแบบนี้เขากลบ สาวๆเลยส่ายหน้าครับ

เดินตามพี่แกไปตึกวิศวะ กะลากกลับหลายทีแล้วครับ แม่งโคตรอาย ไปถึงก็โวยวายตะโกนเรียกเลย “ไอ้แว่นแดงเพื่อนกูมันใครวะ คนไหนรู้ตัวว่าเป็นเพื่อนกูมานี่หน่อยโว้ย”

“เห้ย พี่ พอเหอะ ผมอายหว่ะ”

“เอ้าก็มึงอยากหาไม่ใช่หรอ แบบนี้หล่ะดีสุดแล้ว”

ม่ายยยย ไม่ใช่แบบนี้โว้ยยย
คนทั้งคณะแม่งพร้อมใจกันหันมามองพี่ฟินเลยครับ ผู้ชายบางคนก็ผิวปากแซว พี่ฟินเลยแจกนิ้วกลางกลับให้ กี่ตีนวะนั่น! พี่หยุดคิดดูก่อนดิ หารสองแม่งก็คนละหลายร้อยตีนนะพี่!

“ไอ้ฟิน! มาทำไรวะเนี่ย”

เห้ย!
ปาฏิหาริย์มีจริง ไอ้พี่บอย(นามสมมติ)มันโผล่มาแล้วครับ

“คนนี้อ้ะพี่”

“ไอ้บอลอ่ะนะ?”

ชื่อบอล เออหว่ะ ลืม

“อ้าว? น้องตี๋”

“เออ น้องกู เห็นบอกว่ากำลังตามหามึงอยู่ จะสนทนาอะไรกันวะ”

ไม่ต้องสนทนากับมันแล้วหล่ะครับ หลังไอ้พี่บอล ไอ้หมอกยืนอยู่ครับ
แม่ง เก็กได้เก็กดี หน้ามึงมีรูปเดียวเรอะ

มันเห็นหน้าผมแล้วก็กระตุกยิ้มครับ มันเดินเข้ามาหาผม ก่อนจะยื่น Text ทั้งหมดที่มันถืออยู่มาให้ผม

“ห๊ะ?”

“ถือสิ”

ผมยังงงครับ มันเลยเลิกคิ้วขึ้น ผมก็เลยยื่นมือไปรับหนังสือมาครับ อย่างหนัก

“เดินตามมา”

มันพูดแล้วออกเดินเลยครับ ผมยังงงๆอยู่ กูยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยนะ แบบ คือ กูต้องพูดก่อนไม่ใช่หรอ อย่างน้อยก็แนะนำตัว บอกจุดประสงค์ที่กูมาวันนี้

“ไอ้ตี๋ไปไหน?”

พี่ฟินตะโกนถามมาครับ

“ไม่รู้หว่ะพี่ เดี๋ยวเจอกัน”

“เออ มีไรโทรจิตมาแล้วกัน โทรศัพท์กูพัง”

“.....” พี่รหัสกู...

ผมก็เดินตามหลังไอ้หมอกมาครับ แม่ง ตัวสูงวะ มันสูงพอๆกับเฮียผมเลยมั้ง คือ เหมือนผมจะคุ้นๆหน้ามันหว่ะ มันน่าจะเคยเป็นเดือนมาก่อนอ้ะ ผมว่าหน้าตาอย่างมันคงไม่หลุดตำแหน่งนี้หรอกครับ

“ขึ้นรถสิ”

bmw series 5 e60 ... รถในฝันครับ

ผมวางหนังสือมันไว้ที่เบาะหลัง ก่อนจะหย่อนตัวเข้าไปนั่ง

“มานั่งข้างหน้า”

“เออ...”

“ฟังไม่รู้เรื่องหรอไง?”

หน้ามันโคตรนิ่งเลยหว่ะ ผมแอบกลัวๆ

“ครับ..”

ในรถเสียงเงียบกริบเลยครับ มันก็ไม่เปิดเพลงหรือจะพูดอะไรเลย ผมก็ได้แต่นั่งตัวเกร็งครับ กลัวมันด้วย กลัวรถพังด้วย หรูเกิน

“มึงชื่ออะไร”

“ตี๋ อธิษฐาน พิชญพาณิชย์ ปีสอง คณะสถาปัตย์ครับ”

แม่ง กูพูดอะไรออกไปวะ....

ผมไม่รู้ว่ามันจะขับไปไหนครับ ผมได้แต่นั่งเฉยๆ ไม่กล้าถามอ้ะ กลัวมัน

“...คิดดีแล้วหรอ”

“ห้ะ?”

“เรื่องที่จะขายหน่ะ”

“อ่อ...อืม”

“เคยทำมาก่อนหรือเปล่า”

“ไม่เคย”

“แล้วคิดไงถึงจะทำ”

ความจริงแม่งก็พูดมากนะเนี่ย(ผมคิดไปเองครับ เทียบกับผมแล้วมันพูดน้อยมากๆครับ) แต่แค่หน้าตามันนิ่งไปหน่อยครับ

“อยากได้เงิน”

“เอาไปทำอะไร?”

“ใช้หนี้ ที่บ้านติดหนี้อยู่”

ผมจะหายใจไม่ออกแล้วครับ บรรยากาศโคตรกดดัน

“ข...ขอเปิดเพลงได้ไหม”

มันไม่ตอบ ผมเลยจะกดเปิดครับ ชะเหวย แม่งปุ่มไหนเป็นปุ่มไหนวะเนี่ย คือรถกระบะบ้านผมยังเปิดเทปอยู่เลยครับ แม่ฟังแต่เพลงจีน ไม่มีแผงหน้าตาไฮโซแบบนี้หรอกครับ

มันเห็นว่าผมมองอยู่นานไม่กดอะไรสักที สุดท้ายเลยกดเปิดเอง

อื้อหือ เพลงฝรั่ง ไม่เคยฟังครับ ฟังแต่เพลงจีนกับเพลงลูกทุ่ง ขวัญใจคนจนตัวจริงเลย

“ติดหนี้อยู่เท่าไหร”

รู้แล้วมึงจะช่วยกูจ่ายเรอะ

ผมไม่อยากตอบเลยเงียบๆไว้ครับ มันหันหน้ามามองผม ผมก็รีบหันหน้าหนีมองหน้าต่างเลยครับ คือ ผมกับมันก็เหมือนคนแปลกหน้า นอกจากชื่อมัน คณะที่มันเรียน กับที่รู้ว่ามันรวย ผมไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวมันเลย

มันวกจอดรถข้างทางครับ ท..ทะ..ทำไมซอยนี้มันดูเงียบๆหว่ะ ข้างถนนมีคนขายของนะครับ แต่ไม่มีใครสนใจรถที่เพิ่งเข้ามาจอดเลย ม..มะ..มึงจะทำอะไรกูวะ

“กูขอพูดอะไรหน่อย”

เออ เชิญมึงพูดเลยครับ

“ถ้ามึงจะขายกับกู กูมีเงื่อนไข”

เงื่อนไขอะไรหว่ะ อย่าพูดซับซ้อน กูใจไม่ดี

“ตอบ เมื่อกูถาม”

“....”

“ติดหนี้อยู่เท่าไหร่”

“ล้านกว่า”

“เออ! ก็แค่นี้”

“.....”

“กูพูดอะไร มึงก็ต้องฟังกู”

ตกลงกูจะมาเป็นทาสมึงหรอ ไอ้คุณชาย

“แล้วที่สำคัญ กูไม่ชอบใช้ของร่วมกับขาย ถ้ามึงขายกับกูแล้ว ห้ามมึงไปขายให้คนอื่น ไม่ว่ากูจะสนใจมึงหรือไม่แล้วก็ตาม”

“....”

เผด็จการตัวพ่อ

ผมว่าความจริงแม่งดูเก็กไปงั้นๆ ผมว่ามันก็คนปกติครับ แค่จิตไม่ปกติเท่านั้นเอง

“อย่าให้กูโมโหถ้าไม่จำเป็น ไม่งั้นจะเป็นมึงเองที่เจ็บตัว”

โอ้ย กูกลัวจนหัวหดตัวสั่นแล้ว ไม่ต้องขู่ขนาดนั้นก็ได้

“.....” มันมองหน้าครับ อ่อ ถามแล้วต้องตอบสินะ แต่มึงยังไม่ได้ถามอะไรกูเลยนะ

“ครับ..”

ดูเหมือนมันจะพอใจกับคำสั้นๆของผม มันก็เริ่มขับรถต่อครับ

“แล้วนี่จะไปไหนอ้ะ...”

ถามเสียงเบาเลยครับ แม่ง กลัวมันชก

“เรื่องของกู”

เออ กูเสือกเองอ้ะ

เห้ย! นั่นใช่ประเด็นเรอะ

ทำไมแม่งน่ากลัวงี้อ้ะ ผมคิดผิดใช่ไหมครับ มาม้า อยากกลับบ้าน!!!


..........................................................
......................................

พารากอน

มึงพากูมาทำอะไรที่นี่วะ

ตอนนี้เริ่มดึกแล้วครับ ตรงพาร์คพารากอนเปิดไฟสีส้มๆไว้ สวยมาก ผมเคยมากับเฮียครั้งนึงครับ เฮียมาหาเพื่อนครับ จำไม่ได้ว่าตอนไหน แต่นานมากครับ นานจนพอผมมาถึงก็ได้แต่มองรอบๆให้ควั่ก บ้านนอกโคตรเลยกู

(ผมสงสัยครับ ทำไมลานจอดรถพาร์คพารากอนพื้นมันเนียนงี้อ้ะ ขับทีได้ยินเสียงล้อรถดังเอี๊ยดๆเลย)

มันเดินไปเรื่อยๆผมก็เดินตามมันไปครับ ผมแบกกระเป๋ามาด้วย ก็แหม เวลานี้อย่างน้อยก็มีกระเป๋าไว้ดีกว่านะครับ เพื่อมีเรื่องไรผมจะได้วิ่งหนีเลย

มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาใครสักคนครับ ผมก็ยืนอยู่ห่างในระยะที่มันเอื้อมมือมาหาผมไม่ถึงครับ คือ ผมไม่รู้ครับว่าปกติแล้วอาชีพนี้เขาทำกันยังไง แต่ไม่ใช่ว่าแค่เสร็จกิจก็ได้เงินแล้วหรอครับ ผมไม่รู้ว่ามันต้องมาเดินห้างอะไรกันก่อนด้วยอ้ะ

ไม่ได้คิดไปเองนะครับ แต่ผมว่ามีคนมองมันเยอะมากๆเลยครับ

กูก็หล่อ ไม่เห็นมีใครมองกูบ้างเลย เสียใจหว่ะ

มันยืนคุยนานมากครับ ผมก็มองไปเรื่อยๆ ไม่เคยออกมาเดินห้างตอนกลางคืน พูดกันตรงๆแทบไม่เคยเดินห้างเลยครับ มาต่อเมื่อมีธุระ นอกนั้นก็ทำงานอย่างเดียวครับ เสื้อผ้าก็ยี่ห้อตลาดนัด อิมพอร์ทจากจีนแดงลูกเดียวครับ

รู้สึกเหมือนใครมองก็หันกลับไป มันก็มองผมอยู่แล้วพยักหน้าให้เดินเข้าไปหา

“มึงตามกูมา เงียบๆไม่ต้องพูดอะไร”

“...มาที่นี่ทำไม”

“อยากได้เงินไม่ใช่หรอไง? ทำตามที่กูบอกแค่นั้นพอ”

คำพูดมันฟังแล้วดูเหมือนผมเป็นคนหิวเงินเลยครับ

คือ ผมไม่ได้อยากมีอยากได้ แต่ผมแค่อยากให้ม้าสบายเท่านั้นเองครับ ผมทำ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวผม แต่เพื่อครอบครัวผม คนรวยเขาไม่เคยรู้ถึงความลำบากใช่ไหมถึงไม่รู้ว่าที่ผมทำ เพราะไร้ทางเลือก ไม่ใช่เพราะผมชอบ

“....”

“กูพูดอะไรผิดหรอไง?”

ผมส่ายหัวครับ ก้มมองรองเท้า ขนาดรองเท้ายังบ่งบอกฐานะที่ต่างกันเลย

มันเดินนำผมไปที่ร้านอาหารครับ ร้านนี้ห่างจากทางเข้ามามากเลยค่อนข้างเงียบ ผมเดินผ่านเปียโนที่มันเล่นเองด้วยครับ มองแล้วอย่างตื่นเต้น ไม่เคยเห็นครับ ตัวคีย์มันกดลงไปเองเลยอ้ะ! แต่ผมไม่ได้หยุดดูครับเพราะคนที่เดินนำผมมันก็ยังเดินไม่หยุด

ผมเห็นมันเลี้ยวเข้าร้านอาหารไปแล้วครับ ร้านอาหารอิตาลีหล่ะครับ พนักงานต้อนรับผู้หญิงก็เข้าไปถามไอ้หมอกว่าได้จองไว้ไหม มันก็ส่ายหน้า ผมกำลังจะเดินตามเข้าไปแต่เชือกรองเท้าหลุดเลยหยุดผูกก่อนครับ แม่ง น่าเศร้า ไอ้โบ๋ลูกพ่อ ท่าทางมันจะไม่ไหวแล้วครับ พื้นเปิดเลยครับ กลับไปวันนี้คงต้องหาทางซ่อมแล้ว

“จะไปไหนคะ?”

ห้ะ พี่พูดกับผมหรอครับ?

พี่พนักงานต้อนรับคนเมื่อกี้เดินเข้ามาขวางผมไว้ครับ ผมเห็นไอ้หมอกมันนั่งอยู่ที่โต๊ะก้มมองเมนูอาหารไป สั่งไป พี่พนักงานก็จดรายการกันไป ไม่ได้มองมาทางผมครับ ผมก็งงๆ พี่จะมาขวางผมทำไม?

“ก็ เข้าไปในร้านไงครับ?”

“ร้านนี้อาหารอิตาลีนะน้อง? น้องเห็นราคาข้างหน้านั้นหรือยัง?”

“....”

อ่อ เพราะผมดูจนมากเลยสินะ พี่ถึงไม่ให้ผมเขา

คิดว่าผมจะมาปล้นร้านพี่หรอครับ

มันแย่มากเลยครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเสียใจพอๆกับที่โกรธเลยครับ

“คือผมมาก็เพื่อนคนนั้นครับพี่ แต่ถ้าพี่ไม่พอใจผมจะไปก็ได้”

พี่เขายังมองหน้าผมเหมือนไม่เชื่อครับ จนไอ้หมอกมันลุกมาเอง

“มีอะไร?”

“......”

“กูถาม...”

“เอ่อ พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่รู้ว่ามาด้วยกัน”

ขนาดใส่เสื้อนักศึกษาสถาบันเดียวกัน พี่เขายังไม่คิดเลยครับว่าผมกับมันมาด้วยกัน เงินแม่งพระเจ้าจริงๆ บันดาลให้เกิดชนชั้นในสังคมขึ้นมา ทั้งๆที่หน้าผมก็ไม่ได้เขียนไว้ว่ากูจน ถึงกูจะจนจริงๆก็เถอะ แต่มันสมควรแล้วหรอครับที่ทำแบบนี้หน่ะ

“เอ่อ มึงจะกินก็กินไปเหอะ กูไปกินฟู้ดคอรท์ตรงนู้นดีกว่า”

“ไม่ต้องเรื่องมาก เดินเข้ามา”

แม่ง ผมรู้สึกเหมือนจะร้องไห้เลยครับ เดินตามเข้าไปในร้าน มองกลับไปก็เห็นพี่พนักงานคนเมื่อกี้เดินไปจับกลุ่มซุบซิบกับเพื่อนอยู่ที่มุม มองผมตาไม่กระพริบเลยครับ

“กูไม่มีเงินนะ”

“กูบอกหรอว่าจะให้มึงสั่งหน่ะ”

เออ มึงก็ไม่ต่างจากพี่คนเมื่อกี้เลย

หน้าตาแม่งกวนตีนก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่ามึงจะเป็นคนแบบนี้ด้วยเหมือนกัน

“ขออนุญาตเสริฟ์อาหารนะค่ะ”

ผมอึดอัด ร้านนี้ออกซิเจนหมดหรอไงวะ

พูดกับตรงๆวันนี้ในกระเป๋าเหลือสี่สิบบาทครับ ค่ารถล้วนๆ

มันดันสปาเกตตี้จานนึงมาตรงหน้าครับ

“ของมึง”

“ห้ะ”

“กูบอกว่าของมึง”

กลิ่นหอมมากครับ แต่ว่าผมยังงงอยู่

“กูเห็นมึงจ้องร้านที่เดินผ่านน้ำลายหก กูสงสาร”

เออ ถึงมันจะเป็นความสงสารก็เหอะ แต่กูก็ดีใจหว่ะ

ผมไม่เคยกินสปาเกตตี้แบบนี้มาก่อนครับ ปกติกินแต่ผัดขี้เมาแถวบ้าน อันนี้มันเป็นซอสขาวๆครับ หอมกลิ่นชีสแล้วก็อร่อยมากๆ มันทำให้ผมลืมเรื่องที่โมโหไว้ทั้งหมดเลย

เหอะๆ เอาอาหารมาล่อกูก็ไปหมดจริงๆนะเนี่ย

...............................
..........................

กินอิ่มพุงกางก็ยิ้มหน้าบานออกมาจากร้านหล่ะครับ มันก็ออกให้ผมหมดนั่นแหละ ก่อนมันจะพาผมไปร้านไอติมสีแดงๆขาวๆครับ อ่านชื่อร้านไม่ออกอีกแล้ว คุ้นๆแบรนด์มันอย่างเดียวนะครับ ภาษาอะไรของมึงวะเนี่ย

“อืม ถึงแล้วครับ”

“......”

โทรศัพท์อีกแล้ว ผมจ้องไอโฟนมันตาวาวเลยครับ ชอบเล่นเกมในไอโฟนครับ สนุกมาก เคยเล่นของไอ้โจ๋ เล่นจนแบตหมดไปข้างครับ ตอนนี้มันเลยต้องพกสายชารจ์มามหาลัย หมดก็แอบเสียบนั่งเล่นหลังห้องครับ

“ร้านฮาเกน-ดาซส์ อืม อืม ครับ เดี๋ยวเจอกัน”

เสียงมันเรียบมากเลยครับ ไอ้นี่พูดเสียงมันจะไม่ค่อยขึ้นๆลงๆครับ ยกเว้นบางเวลา อย่างตอนที่มันพูดบนรถบางจังหวะมันก็กระแทกเสียง เอาแน่เอานอนไม่ได้ครับ

ติสต์ตัวพ่อแบบพี่กูเลยนิหว่า

เออ จะว่าไปพึ่งรู้ว่าอ่านว่าฮาเกน-ดาซส์ เผลออ่านฮาเก้นดากมาตั้งนาน ฮ่าฮ่า

มันก็สั่งไอติมไปครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามีรสอะไรบ้าง กินแต่รสกะทิอ้ะ มีหรือเปล่า? มันเห็นผมอ้ำอึ้งๆก็สั่งไปให้ตามระเบียบ(เหมือนร้านเมื่อกี้)ครับ

สักพัก ก็มีผู้หญิงคนนึงมานั่งร่วมโต๊ะครับ

บอกได้คำเดียว ว่าผมใจเต้นตึกๆเลย สวยมากครับ ผมยาวถึงกลางหลัง ตาโต แบบ ทุกอย่างเพอร์เฟค ใส่ชุดนักศึกษาแถวนี้มาครับ แต่กระโปรงสั้นจังเลยครับ ผมไม่กล้ามองเลย กลัวเสียมารยาท

แต่ผมเห็นไอ้หมอกแม่งจ้องแบบเล็งเลยครับ เฮ้ย!

“จูนมานานยัง”

“พึ่งมาถึงแหละค่ะ แล้วพี่หล่ะ”

“ก็สักพัก”

“นี่ใครคะ”

เธอมองมาทางผมครับ ผมรู้สึกหน้าตัวเองร้อนเลยครับ ไม่กล้าสบตา ใช้ช้อนเขี่ยไอติมเล่นเลยครับ

“รุ่นน้อง”

“...หรอคะ”

เธอไม่พูดอะไรต่อเกี่ยวกับผมครับ ผมก็ไม่กล้าชวนเธอคุย เลยมีแค่ไอ้หมอกกับจูนที่คุยกันครับ ส่วนมากเธอจะพูดมากกว่าครับ ไอ้หมอกก็กลัวดอกพิกุลร่วงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยเงียบซะได้โล่ เธอเรียนบัญชี ความจริงแล้วเธอเป็นรุ่นพี่ผมครับ แต่ไม่อยากเรียกพี่เดียวห่างเหิน ฮะฮะ

พอเธอกินไอติมเสร็จ ไอ้หมอกก็พาน้องจูนเดินเที่ยวเลยครับ เลือกซื้อเสื้อผ้าอะไรเสร็จสรรพ ถุงมันยื้อมาถือเอง สุภาพบุรุษครับ ก่อนจะส่งต่อให้ผมถืออีกทอดนึง เวรกรรม

“เฮ้ย เฮีย ตี๋อาจจะกลับดึกหน่อยนะ”

“กี่โมงวะ เดี๋ยวนี้น้องกูแม่งใจแตก กลับดึกบ้าง ไม่กลับดึกบ้าง เฮียแม่งกลุ้มหว่ะ”

“โอ้ย ไอ้เฮีย คิดมาได้ เฮียเที่ยวตี๋ยังไม่บ่นเลย”

“เออๆ แค่นี่หล่ะ กูกลับไปทำงานต่อแล้ว”

“เออ เฮียทำไรวะ ตี๋อยากรู้หว่ะ”

“กูรับจ็อบเพื่อนในมหาลัยทำรายงานหว่ะ เงินดีสุดๆ เออ... อย่าบอกม๊านะ กูเป็นเจ้ามือแทงบอลหว่ะ”

“เฮ้ย!! จริง?”

“เปล่า กูล้อเล่น” ไอ้ฟาย ผมด่ามาแหลกเลยครับ แม่งหัวใจกูเกือบวาย ไม่ใช่อะไรครับ กลัวมันหมดตัวแล้วก็กลัวโดนจับด้วยครับ ถ้าโดนจับก็ให้มันไปเข้าค่ายในคุกให้อิ่มเลยครับ ไม่ไปประกันตัวหรอก ทุกบาทมีค่า เอาไอ้เฮียไปดัดสันดานซะบ้าง “แค่นี้นะ เปลือง”

“บ่นไรวะ เงินกู มึงยิง”

“เงินเฮียเงินตี๋ต่างกันตรงไหนวะ”

ด่ากันอีกยกก็วางสายครับ แม่ง ไอ้คุณหญิงคุณชายตรงหน้ากูมึงจะเดินกันอีกนานไหม คือ ผมเมื่อยครับ มันก็ส่วนหนึ่ง แต่รองเท้ากูจะไปแล้วไง

ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วครับ แม่ง อยากกลับบ้าน

งานก็ยังไม่ได้ทำ ที่มานี่ก็มีแต่แดกฟรี

“คืนนี้...”

“พี่ไม่ว่างครับ ทำรายงาน”

“อ่อ หรอคะ” จูนมองมาทางผมครับ ตอนนี้ไอ้หมอกเดินมาส่งจูนถึงรถเลยครับ รถแม่งก็บอกยี่ห้อรวยอีกแล้ว Lexus ถ้าน้องไม่อยู่ผมจะขอสัมผัส หยิกแก้มน้อง Lexus ซักทีเลยครับ

“น้องเขามาช่วยผมทำรายงาน”

“คณะเดียวกันหรอคะ? ดูไม่เหมือนเด็กวิศวะเลย”

“มันเด็กสถาปัตย์ มีมือมีเท้าทำงานได้เหมือนกัน”

แรงหว่ะ มันพูดกับแฟนมันอย่างนี้เลยหรอ เอ่อ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าแฟนกันหรือเปล่า แต่ผมว่าน่าจะใช่หล่ะ

“งั้นจูนกลับก่อนนะคะ ว่างก็โทรมา”

มันอืมเบาๆในคอ แต่ช่วงที่จูนกำลังจะเข้าไปในรถ เธอก็คว้าคอไอ้หมอกเข้ามาจูบครับ ไอ้หมอกแม่งไม่มีการยั้งเลย เหมือนจะกัดปากน้องเขาติดมาด้วย ผมรีบเดินไปรอที่รถเลยครับ ไม่กล้ามอง มึงไม่อายกูอายแทนหว่ะ

ต...แต่เดี๋ยวก่อนนะ

คืนนี้กูจะไปช่วยมันทำรายงานตอนไหนวะ...

ล..แล้ว..หร..หรือว่า

ง..ง..งานงอกหล่ะครับ....

รายงานกายภาพ(ในร่มผ้า)ผมทำไม่เป็นครับบบบ!!!!!!!

.........................................
...................................



[Coin 4 : complete]
[13.11.12]








ขอบคุณทุกคนที่อ่านและมาเม้นท์ให้นะคะ จะรีบๆเข็นตอนต่อไปมาให้อ่านนะค่ะ
ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ
 :bye2:



The Smild

  • บุคคลทั่วไป
จะขายจิงเหรอ ไม่เชื่อม้าอ่ะ

kslave

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปบางช่วงก็รู้สึกสงสารตี๋น้อยจริงๆ แต่บางช่วงก็แบบว่าฮาไปมั๊ยตี๋ ฮ่าๆๆ
ตี๋น้อยเหนื่อยแย่เลยต้องไปช่วยหมอกทำรายงาน  :z1:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ฮ่าๆๆๆ งานเข้าแล้วอาตี๋  พระเอกเกรียนอ่ะ จูนนั่นเป็นเด็กอีกคนของพ่อคุณเข้ารึเปล่า

lptk

  • บุคคลทั่วไป
 สู้ตาย น้องตี๋  :m15:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ชอบมากครับแนวนี้

ออฟไลน์ ไอ้ดื้อ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากกรี๊ดให้ดังๆกับตอนนี้ :impress2:

ตี๋เอ้ยยย ทำรายงานกับหมอกไปเถอะนะลูกนะ
 :oo1: รออ่านค่าาาาา ค้างมากมาย

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
ถึง...หมอกที่รัก

อย่าหลอกฟันน้องตี๋ของเค้านะเว่ย ไม่งั้นโดน :z6:แน่นอน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หุหุ กลัวต้องทำรายงานหามรุ่งหามค่ำอะดิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด