Coin 15“พี่หมอก”
“หืม”
เมื่อกี้มันไปเอาโจ๊กครับ เวร กูเกือบร้องไห้ นึกว่าโดนทิ้ง
“พี่”
มันไม่ตอบ แต่ลงมานั่งตรงขอบเตียง มือมันลูบหัวผมเบาๆ ผมรู้สึกเหมือนสบายตัวขึ้นเลยครับ
“ผมเจ็บคอ”
“กินน้ำนะ”
มันยกแก้วน้ำมาให้ ผมก็ดันตัวขึ้นมากิน
“ปวดหัวอะ”
“นอนสิ”
“ไม่อยากนอน”
“แล้วเมื่อไหร่จะหาย”
เสียงมันไม่ได้ดุครับ มันดูเหมือนจะแซวๆมากกว่า
“พี่อย่าไปไหนนะ”
“อืม”
“รับปากผมนะ”
“ไม่ไปไหน จะอยู่ตรงนี้”“.....พี่”
ควบคุมตัวเองไม่ได้เลยครับ
ตอนนี้เหมือนรู้สึกอยากจะพูดอะไร มันก็พรั่งพรูออกมาจากปากเสียหมด
ผมชอบสายตาของมันตอนนี้
มันเป็นสายตาที่บอกว่ามันเป็นห่วง
“พี่อย่าทิ้งผมอีกนะ”
“ผมไม่อยากรอพี่อีก”
“ผมไม่ชอบที่พี่ไปกับคนอื่นเหมือนลืมว่าผมมาด้วย”
เจ็บคอแต่อยากพูด
หัวใจผมอยากพูดพี่หมอกไม่ได้พูดตอบอะไรผมออกมา ผมว่ามันยังดูไม่เข้าใจกับสิ่งที่ผมพูด ผมไม่ได้อยากให้มันเข้าใจหรือพยายามเข้าใจ ผมแค่อยากให้มันรับฟังเท่านั้น
เวลาของผมกับมัน น้อยลงทุกที
ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกใจหาย ทำไมเวลามันเดินผ่านเร็วไปแบบนี้นะ
ผมอยากอยู่กับมัน
อยากให้เวลาแบบนี้ ยืดต่อออกไป แม้เพียงนิดเดียวก็ยังดี
เวลาที่มีแต่ผมกับมัน เวลาที่ผมรู้สึกว่ามันอบอุ่น และรู้สึกว่าแง่มุมที่ผมได้เห็นนี้ จะมีเพียงแค่ผมเท่านั้น ที่มันยอมให้เห็น
“ตอนนี้กูอยู่กับมึง”
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แค่เพียงพี่พูดคำนี้ออกมา…
......................................
..........................
ผมไข้ขึ้นหลายรอบ ไอ้พี่หมอกก็ให้แม่บ้านมาเช็ดตัวผม ก็ป้าคนที่ช่วยผมอาบน้ำให้ไอ้หนึ่งนั่นแหละครับ ป้าแกก็บ่นว่าสงสารผม ถ้าสงสารผมช่วยเช็ดตัวผมเบากว่านี้หน่อยนะครับ ตัวผมแดงหมดแล้ว
ไอ้พี่หมอก ไม่ได้ไปไหน มันอยู่ข้างๆผม
ผมเห็นมันนั่งเงียบๆกับหนังสือเล่มเล็กๆของมันได้เป็นชั่วโมง ผมหลับไป ตื่นมามันก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ที่เก้าอี้ข้างๆเตียง
มันเงยหน้ามามองผมเป็นระยะๆ บางทีผมก็เผลอหลับทั้งๆที่รู้ว่ามันยังมองผมอยู่ ผมอยากให้พี่หมอกนอนข้างๆ แต่ก็กลัวมันติดหวัด เลยไม่ได้พูดอะไร
นอนไปเต็มๆสิบชั่วโมง ตื่นมาก็เห็นมันหลับอยู่ข้างๆ วันนี้วันจันทร์ มีเรียนแต่ก็ยังอยากอยู่กับไอ้พี่หมอกต่ออีกสักนิด
ผมตื่นมา พร้อมกับคำตอบในใจของผม
“พี่หมอก”
มันหลับอยู่ มันไม่ได้ยินหรอก ผมนอนจ้องเพดาน บ่นมันไปครับ
“พี่แม่ง น่าเกลียดหว่ะ”
“น่าเกลียดกว่าจอมมารบูอีก แต่ผมเกลียดพี่ไม่ลงหว่ะ ทำไมวะ?”
“....ฮึ่ย”
เตะผ้าห่ม นี่แหน่ะๆ มึงมันเหมือนเจ้านายมึงเลย(ยังไงวะ?)
“แล้วมึงจะเกลียดกูทำไม?”
อ้าวเวร มันตื่นอยู่
“เกลียดพี่หมอกเป็นแฟชั่น ไม่เคยได้ยินหรอ ฮ่าๆๆ” หัวเราะกลบเกลื่อน ผมไม่ได้ขำอะไรเลย
“...ตี๋”
มันเรียกชื่อผมไม่บ่อย เวลาฟังทีไรไม่ชินทุกที
“พี่ ผมไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยวจะได้ไปเรียน”
ผมจะลุกครับ ไข้หายเป็นปลิดทิ้ง แต่มือมันก็คว้าข้อมือผมไว้ได้ทันซะก่อน แม่ง เร็วชะมัด
“มึงกำลังจะหนีกูไปไหน?”
“ไปอาบน้ำไง?”
“......”
“อะไรเนี่ยพี่ ไม่ได้หนีไปไหน ห้องน้ำอยู่นี่อะ”
“กูรู้สึกเหมือนมึงกำลังจะทิ้งกูไป”“เอ้า ให้ผมแบกพี่ไปอาบด้วยกันเลยไหมอะ?”
“อย่าให้กูเอาจริงนะ”
“ฮ่าๆๆ..ฮ....ฮะ” มันไม่ขำ บรรยากาศรอบๆดูอึดอัดขึ้นทันตา จนเสียงหัวเราะผมต้องแผ่วลง
“มึงบอกไม่ให้กูทิ้งมึงไป มึงก็อย่าทิ้งกูไปแล้วกัน”
“.....”
“ตอบมาสิ”
“พี่หมอก”
“มึงไม่ต้องมาเรียกชื่อกู กูต้องการคำตอบ แล้วมันก็มีแค่ตัวเลือกเดียวด้วย”
“ถ้าผมตอบว่าไม่หล่ะ”
“มึงคิดหรอว่ากูจะปล่อยให้มึงหนีกูไป”
มันแปลว่าอะไร
แปลว่าพี่ก็อยากอยู่กับผมหรอ?
“ผม....”
“มึงคิดจะทิ้งกูไปจริงๆหรอ?”น้ำเสียงมันไม่ได้วิงวอน ไม่ได้ขอให้สงสาร แต่ดูเหมือนมันกำลังสับสน มันไม่ได้จ้องตาผมอย่างที่มันทำ แต่กลับมองไปที่ข้อมือผมซึ่งมันจับไว้อยู่
ผมจะพูดยังไงดี ความจริงตอนนี้ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่กับมันอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อเงินที่ผมได้รับจากมันมา ก็มากพอที่จะทำให้เราจ่ายคืนหนี้ไปได้เกินครึ่งด้วยซ้ำ
ที่ผมเลือกที่จะอยู่กับมันในตอนนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ใดๆบีบบังคับ แต่เป็นผม ที่เลือกเอง
แล้วหลังจากนี้...ผมจะเลือกอยู่กับมันอีกได้ไหม?
ถ้าผมเลือกที่จะอยู่ข้างๆมันต่อไป ที่ตรงนั้นจะมีให้ผมอีกหรือเปล่า
“ตอนนี้ผมก็อยู่กับพี่แล้วไง” ไม่รู้ทำไม แต่ผมเดินเข้าไปกอดมันครับ เพราะความที่มันนั่งอยู่ทำให้หัวมันซุกเข้ากับอกผม มันกอดผมแน่น ไม่รู้เพราะอะไร ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังรัดผมไว้แน่น แต่ไม่ใช่แรงจากอ้อมแขนของมัน
คำตอบที่ผมเตรียมไว้..ไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป
“อย่าทิ้งกูไปนะ”
มือผมลูบอยู่บนหัวมันครับ ผมย้ายไปนั่งบนตักพี่หมอก ให้มันได้กอดถนัดๆ
“กูมันเห็นแก่ตัว ต่อให้มึงมีเหตุผล กูก็ไม่ฟัง”
“ผมว่าพี่เอาแต่ใจตัวเองด้วย แถมยังขี้อิจฉาอีกต่างหาก”
เสียงที่พี่หมอกพูด เบาเหมือนเสียงกระซิบ ผมที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ยังต้องเงี่ยหูฟัง
“แต่ว่า....ต่อให้พี่ไม่มีผม ก็ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมที่จะยอมให้พี่กอดแบบนี้ แถมยังเหมาะกว่าพี่มากกว่าผมอีก”
“....กูมันพวกใครมาอ่อนโยนด้วยไม่ได้ มึงเข้าใจใช่ไหม”
ไม่ ผมไม่เข้าใจแต่ผมก็พยักหน้าให้มันไป มือก็ลูบหัวมันไปเรื่อยๆ หัวใจผมที่เต้นแนบหูมันอยู่จะบอกอะไรมันไปหรือเปล่านะ
“เบลล์ ขวัญ จูน เฟริน์ หมวย แล้วก็อีกหลายคนที่ผมไม่รู้จัก พี่ไม่สงสารเขาหรอ พี่ปล่อยให้เขารอ”
“เต็มใจรอ”
“ยังไงมันก็ไม่ดี ผมทนเห็นไม่ได้หว่ะพี่ ผมว่าพวกเขาน่าสงสาร”
แต่ผมไม่ต้องการความสงสารจากใคร เพราะผมเข้มแข็งพอที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ผมเข้มแข็งพอที่จะอยู่ได้โดยไม่มีพี่
ผมกับพี่ มันก็แค่รุ่นพี่รุ่นน้อง ใช่ ตอนนี้ผมกับมันอยู่ในสถานะนั้น วันนึง ผมเรียนจบ ทำงาน ผมก็จะพยายามหาเงินมาคืนมันให้ได้มากที่สุด
“ถ้าพี่ต้องการแค่ความอ่อนโยน ผมว่าพี่แค่เดินออกไป คนพวกนั้นก็พร้อมจะมอบสิ่งที่ต้องการให้พี่แล้ว ผมไม่มีอะไรจะให้พี่เลยนะพี่หมอก”
มันไม่ตอบอะไร แต่มันก็ไม่ปล่อยมือจากผม
ผมอยู่กับมัน ทุกอย่างมีแต่ความไม่ชัดเจน มันดูคลุมเครือไปเสียหมด ผมบังคับใจตัวเองไม่ให้มันวิ่งออกไปตามทางที่ไม่แน่นอนเหล่านั้น แต่ผมไม่แน่ใจว่า ผมจะควบคุมมันได้ไปอีกนานสักแค่ไหน
“กูต้องการทุกอย่างจากมึง แต่มึงก็ไม่เคยให้กูสักอย่าง”
“ผมบอกแล้วว่าผมไม่มีอะไรจะให้พี่”
เพราะผมไม่รู้ว่าผมให้สิ่งนั้นไปกับพี่หรือยัง ผมเลยตอบพี่ไม่ได้“พี่ปล่อยเหอะ ผมจะอาบน้ำ”
ถ้าอีกหกวันต่อจากนี้ผมยังอยู่กับพี่แบบนี้
ผมคงไม่อาจจะไปไหน
ผมคงวิ่งหนีพี่ไปไม่ได้แล้วแน่ๆ
“.......”
ตัวมันอุ่น ในห้องเย็นๆแบบนี้ มันคือความอบอุ่นเดียวที่มี
แต่ผมกลัวว่าสักวัน ความอบอุ่นนี้ จะกลายเป็นไฟ ที่ร้อนเสียจนผมต้องหลอมละลาย
ผมไม่กล้าพอครับ ที่จะเอาตัวเองมาเสี่ยง เพราะไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาแบบไหน คนที่เจ็บที่สุด อาจจะเป็นตัวผมเอง
ผมไม่ใช่คนดีหรอก พูดตรงๆผมไม่ได้สงสารผู้หญิงของพี่อะไรมากขนาดนั้น แต่ผมแค่สงสารตัวเอง ก็เท่านั้น...
ผมรู้สึกว่าผมเจ็บ ตอนที่ผมเห็นพี่ไปกับคนอื่น รู้สึกทรมาน ที่พี่ทำเหมือนลืมไปว่ามีผมอยู่
“ปล่อยผมไปเถอะนะ...”
“นั่นคือคำตอบของมึงหรอ”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
กลิ่นของพี่หมอก ดูเหมือนตอนนี้ที่ผิวผมจะมีกลิ่นของมันติดมาแล้ว...
ผมหลับตาแน่น ก่อนจะเอ่ยปากพูดคำตอบ..คำตอบของผมออกไป
“........ครับ”
.........................................
..................................
บนรถเงียบจนอึดอัด ผมไม่ได้คุยกับมันอีกเลยสักคำแม้กระทั่งรถจอดที่หน้าคณะ ต่างคนต่างเดินลงจากรถ ผมก็รีบเดินไปที่คณะของผม ไม่คิดที่จะมองกลับไป
“พี่ตี๋”
“อ้าว ไอ้ปิ๊ก”
“เป็นอะไร หน้าหมองๆ”
“เมื่อวานไม่สบายอะ”
ไอ้ปิ๊กก็เดินเข้าตึกมาเป็นเพื่อน กว่าจะเรียนก็สายๆหน่อย แต่ที่รีบมาแต่เช้าคงเพราะไม่อยากอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อแม้แต่อีกสักวิ เพราะคำตอบของผมอาจจะเปลี่ยนไป
ทำไมผมต้องคิดถึงมันด้วยวะ“แล้วยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่ๆ หายดีแล้ว เตะมึงได้สบาย”
“.....” มาถึงโต๊ะประจำก็นั่งเลยครับ เดอะแก็งค์อยู่กันครบ แม้กระทั่งน้องฟ้า น้องรหัสไอ้โจ๋ก็อยู่
“เงียบใส่ทำไมวะ”
“ไอ้ตี๋ มึงเป็นไรวะ” อ้าว ไอ้โจ๋ก็ทักกูอีกคน ทำไม วันนี้หน้ากูมันดูดีแบบก้าวกระโดดหรือไง ทำไมมีแต่คนทัก
“ทำไม กูหล่อขึ้นหรอไง ทักกูจริง”
“...กูจริงจังนะเว้ย”
ไอ้กล้วยยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เหวอ
“ใครเสกหนังควายเข้าท้องเพื่อนกูเปล่าวะ ทำไมวันนี้รังสีมึงมันหม่นๆ”
“กูว่าเดี๋ยวจะมีคนเสกตีนกูเข้าท้องมึง ไอ้กล้วย”
“เออ หมาในปากมันยังไม่ตาย ไม่เป็นไรหรอก” ไอ้เคิ่ล นานๆมึงจะพูด แล้วพูดเรื่องนี้ก็หุบปากถาวรไปเลยเหอะวะ ไอ้น้องกึ่มด้วย มึงจะมาหัวเราะหึหึแบบนั้นทำไม แม่ง หัวเราะเยาะเย้ยเหมือนไอ้พี่หมอก-
อีกแล้ว มันมาอีกแล้ว ความคิดของผมมันยังบุกรุกขึ้นมาเลย
“ไอ้นี่นิ อะไรของมึง เดี๋ยวก็ทำหน้าหงอย เดี๋ยวก็ทำหน้ากวนตีน”
“อะไรของมึง” แม้แต่คำฮิตติดปากมันยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของพูดผมเลย
ไม่กี่วันคนเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรอวะ
“พี่ตี๋ กินไรป่ะ ผมเลี้ยง”
“มึงจะซื้อไรมาก็ซื้อมาเหอะ ของฟรีกินหมดอะ”
“ไปซื้อด้วยกันดิ”
“เออๆ”
ก็เดินตามมันไปครับ ทำไมวันนี้คนมันเยอะอย่างน่าหงุดหงิดเลยหว่ะ เอานั่น มึงจะหัวเราะทำไม บ้านมึงถูกหวยหรอไง เอ้า ไอ้นี่ซื้อไข่พะโล้แย่งอาหารกลางวันกูอีก เออ งั้นวันนี้ผมก็คงไม่ต้องไปกินกับมันแล้วเนอะ มองไปที่โต๊ะของไอ้กลุ่มเด็กวิศวะ แม่ง หน้าหมั่นไส้วะ เคยกินตีนยำไหมวะ อยู่ดีๆก็อยากกระทืบทุกคนที่มันห้อยเกียร์ไว้ที่เสื้ออย่างไร้เหตุผลเลยหว่ะ
“พี่ตี๋”
“ห..ห่ะ?”
“ทำหน้าเหมือนจะกัดคนอื่น ผมไม่กล้าเดินใกล้แล้ว”
“เออหว่ะ ยังไงกูก็ยังมีมึงกับพวกไอ้กล้วยอยู่เนอะ”
มันทำหน้านิ่งๆ เห็นแล้วก็อยากกระโดดถีบขาคู่หว่ะ เพราะมันทำให้ผมนึกถึงคนๆนึงขึ้นมา ไอ้คนที่พึ่งแยกกันมาไม่ถึงชั่วโมงนั่นแหละ
“โอ้ยย กูไม่คิดมากดีกว่า เครียดเดี๋ยวหัวล้าน หัวเราะดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆๆ” แหกปากหัวเราะให้บ้ากันไปเลยครับ เอาหล่ะ เสียใจมากไปทำไม บ้านผมก็ยังอยู่ ไม่ล้มละลาย มีความสุขสิ ผมสมควรจะมีความสุข
“พี่ เย็นนี้ไปเที่ยวกัน”
“พากูเที่ยวอีกแล้ว บ้านช่องกูไม่ได้กลับมากี่วันแล้วไม่รู้” ยืนต่อคิวซื้อหวานเย็นครับ ไอ้ปิ๊กไม่กินแต่ก็จะมาต่อแถวด้วย เพื่อไรวะ!
“พี่ไปค้างไหนมาหล่ะ”
“ก็ค้าง--- ป้าๆ ผมเอาน้ำแข็งใส” ทำไมกูเบี่ยงประเด็นได้กากเป็นขยะมูลฝอยแบบนี้ฟ่ะ นี่มันก็ร้านขายน้ำแข็งใส ไม่เอาน้ำแข็งใสแล้วกูจะสั่งไอติมเรอะ! ป้าแกก็คงจะงงครับ “น้ำแข็งใสใส่น้ำแดงขนมปัง ใส่นมเยอะๆ แต่ไม่ต้องส่ายนะครับป้า” ยิ้มหวาน จบคอร์ส ป้าแกก็ยิ้มกลับครับ นมเยิ้มเต็มถ้วยเลย
ทำไมยิ่งยิ้ม กูยิ่งเหมือนจะร้องไห้เลยวะ
อยากจะนั่งลงอยู่ซะตรงนั้นไม่ไปไหน แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้
“พี่..มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
“นิดหน่อยวะ”
“บอกผมได้ไหม?”
“เมื่อคืนกูหลับ กูลืมดูบอล”
“.....”
เฮ้ย มุขนี้ใช้ได้ผลหว่ะ ไอ้ปิ๊กเดินหนีไปเลย
“เออ ไอ้ปิ๊ก เย็นนี้ไปดูบอลกัน”
“....” อะไร มองหางตาดูถูกแบบนั้นหมายความว่าไงฟร่ะ ดูท่าไอ้น้องปิ๊กจะไม่รู้จักความน่ากลัวของพี่รหัสคนนี้ซะแล้ว
ผมกำลังเดินกลับไปที่โต๊ะ พอมองเลยไอ้ปิ๊กไปก็เห็นไอ้พี่หมอกมันเดินมากับกลุ่มมันครับ หน้ามันแสดงอารมณ์เหมือนระเบิดปรมาณูที่กำลังจะลงพื้น ขนาดเพื่อนๆมันยังยืนห่างๆมันเลย ผมเห็นมันหันมามอง แต่ผมไม่รู้ว่ามันมองผมหรือเปล่า เพราะตอนนี้ผมย้ายมาจ้องที่หน้าไอ้ปิ๊กแทบจะทันทีเลยครับ
“เห่ย ปิ๊ก กินไหมวะ”
“ไม่อะ พี่กินไปเหอะ”
“เออดี หมดไม่ต้องมาขอกูกินนะ”
“ผมไม่แย่งพี่หรอก ผอมจะแย่แล้ว”
ก็ไปนั่งกินที่โต๊ะจนหมดนั่นแหละครับ
“ปากแดง น่ารักหว่ะ”
“น่ารักพ่อมึงไอ้ปิ๊ก เดี๋ยวเจอนวดหน้าด้วยฝ่าเท้า ฮ่าๆ”
เออ อยู่กับมันก็สบายใจดีครับ กวนๆกันไป หัวเราะไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก
เลิกเรียนตอนเย็นผมก็นั่งซ้อนมอไซค์มันไปร้านเหล้าแถวนั้นครับ ก็กะจะอยู่ดูบอลด้วยแหละครับ แต่จุดประสงค์หลักคือ..
“เอ้าเมา!!”
“ไอ้ตี๋ มึงเป็นไรของมึงเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนกูมาแดกเหล้า”
“ก็กูอยากกิน ต้องรออากาศดี แดดร่มลมตกหรือไง”
“เออ วุ้ย ไม่ถามแล้ว”
ก็มากันครับแก็งครับ งานนี้กะเมาหัวทิ่ม ไอ้น้องอุกกี้ยังมาด้วยเลยครับ แม่ง มาทำไมไม่รู้ สาวๆจะเดินมาโต๊ะนี้ มึงก็แสดงออกซะเขาเผ่นไปหมด โต๊ะนี้ผัวมึงนั่งหัวโต๊ะ ไอ้กล้วยนู่น ไม่ต้องมาเกะกะกูจะได้ไหมวะ “พี่ตี๋ น้องอุกกี้อยากกินบ้าง”
“เออ มึงก็ตักเองสิวะ”
“อะไรกัน พี่ตี๋ก็ชงให้น้องหน่อยสิ”
“เออ กูว่าดวงมึงปีนี้ชง จะดวงตกเรื่องผู้ชาย ฮ่าๆๆ”
“พี่ตี๋!!” อย่ามาทำหน้าบูด เพราะมันดูสมจริงมาก “ไอ้กล้วย ลากน้องมึงไปเก็บหน่อย” เห็นไอ้กล้วยกำลังจะแอบเผ่นไปโต๊ะอื่น ไม่ต้องเลยมึง ลากมันมา เอามันไปด้วย
ผมไม่ชอบผับเลย
มันดูน่าปวดหัว เสียงเพลงก็ดังจนแสบหู แต่ตอนนี้ผมกลับถือขวดเหล้าเล็กๆติดมือออกไปยืนกลางฟอร์เลยครับ ก็เดินลุยออกไปเฉยๆนี่แหละ บอกแล้วครับว่าเต้นไม่เป็น อยากไปดูระยะใกล้เฉยๆ ว้าว อดตกใจไม่ได้ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงแต่งตัววับๆแวมๆขนาดนี้ เอิ้กๆ
“พี่ตี๋” ใครวะ ใครมาหา
ไอ้พี่-ไม่ใช่ครับ ไอ้ปิ๊ก
มันเดินตามผมมาค่อนข้างทุลักทุเล “อ้าว อะไรวะ มีอะไร”
“ผมกลัวพี่หลง”
“หลงได้ไง ที่มีอยู่แค่เนี่ย”
จริงครับ เดินยังลำบากเลย
“พี่ ผมว่าพี่ไม่ใช่แค่ไม่ได้ดูบอล...พี่เป็นอะไร”
แม่งตะโกนเสียงดังมาก คือเสียงรอบๆมันดังเลยต้องตะโกนแข่ง ผมเข้าใจ แต่นี่เหมือนคุยพร้อมกันสิบสองคนรอบรัศมี อายหว่ะ
“ไปคุยกันที่อื่นเหอะวะ ค..ค..คนมันเยอะ”
ผมผลักให้มันเดินนำแหวกทางไปครับ สุดท้ายก็ยืนแกร่วอยู่นอกผับ ผับกากๆแถวมอนี่แหละครับ ไม่ต้องห่วงว่าไอ้พวกไฮโซจะโผล่หัวมา
“พี่ตี๋ พี่เป็นอะไรกันแน่”
“หึหึ ไม่รู้หว่ะ กูเองยังไม่รู้เลย” อะไรกันวะ ทำไมผมยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นอะไร กระดกเหล้าไปอีกครึ่งขวดครับ
“พี่กินเยอะแล้ว”
“กูคอแข็ง”
“ผมไม่รับรองนะว่าถ้าพี่เมาแล้วผมจะอดใจไหว”ผมหันไปมองหน้ามัน หน้ามันก็บอกว่าไม่ได้พูดเล่นเลยครับ
“ไอ้ปิ๊ก”
“ครับ”
“.....ช่างมันเหอะวะ”
ผมอยากรู้ ว่าถ้ามันรักผมจริงๆมันจะมีผมคนเดียวไหม
สมมติว่าถ้ามันขาดความอบอุ่น โหยหาความรักมากๆ ผมคนเดียว จะพอสำหรับมันหรือเปล่า
แต่ถามไปก็ไร้ประโยชน์ แต่คนก็มีคำตอบของตัวเอง จะให้มาตอบแทนกันมันไม่ได้หรอก
“พี่ตี๋”
“.......”
มันโน้มหน้าเข้ามาครับ ผมพอจะรู้ว่ามันทำอะไร แต่ผมก็ไม่ได้หลบหน้าหนีอะไรมัน ไอ้ปิ๊กหยุด ทั้งๆที่ใกล้กันเพียงแค่ลมหายใจ
“พี่กำลังเมา ถ้าผมฉวยโอกาสพี่ พี่ต้องไม่ให้อภัยผมแน่ๆ”
“เออ รู้ก็ดี ขี้เกียจพูดเยอะ”
ปวดหัว
กินเหล้าแล้วปวดหัว พาลให้นึกถึงใครบางคน
นี่แค่วันแรกแท้ๆ
วันที่ผมทำเป็นพูดดีบอกว่าอยู่ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีมัน
แค่วันแรกมันยังทรมาน...ทรมานขนาดนี้เลย
ทำไมกันนะ...
.................................................
....................................
“ไอ้ตี๋”
“อะไร”
“มึงเป็นไรของมึง”
“อะไรของเฮีย ตี๋เป็นอะไร”
ครบกำหนดแล้วใช่ วันนี้วันอาทิตย์ วันอาทิตย์ที่เงียบเหงา ผมแทบไม่อยากขยับออกจากเตียง
กินเหล้ามาหลายคืนแล้ว ปวดหัวแบบนี้ทุกเช้า อย่างเมื่อคืนก็ต้องให้ไอ้เฮียไปรับถึงที่
ทุกคืนเจ้ามือก็หมุนเวียนกันไป เคิ่ลเลี้ยงติดกันมาสามคืนแล้ว สลับกับไอ้โจ๋ไอ้กล้วยที่ช่วยๆกันแชร์ ไอ้น้องปิ๊กก็ติดไปด้วยทุกวัน
“ไอ้ตี๋ มึงทำท่าเหมือนมึงจะตาย บอกเฮียมา มึงเป็นอะไร”
ผมปรายตามองหน้ามัน
กูไม่รู้เว้ย ขนาดกูเองกูยังให้คำตอบตัวกูไม่ได้เลย ไปไกลๆเลยได้ไหม หงุดหงิดหว่ะ
“ตี๋เป็นไรก็เรื่องของตี๋ เฮียเสือกไร”
“อ้าวไอ้เชี่ย กูถามเพราะเป็นห่วง เห็นมึงเมาแบบนี้ทุกวันกูว่ามึงเป็นเอามากนะไอ้ตี๋ มึงคิดถึงไอ้หมอกหรอไง”
“ใครคิดถึงมัน ผมจะไปคิดถึงมันทำไม”
ใช่ ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้วนิ เฮียจะพูดชื่อมันขึ้นมาทำไม เปิดทีวี ข่าวพยากรณ์อากาศยังไม่ดูเลย กลัวจะได้ยินชื่อมัน เดี๋ยวนี้ผมใกล้บ้าทุกที ไปไหนก็ได้ยินแต่ชื่อมัน เห็นอะไรก็นึกถึงมัน คณะวิศวะผมไม่ได้เฉียดเข้าไปหายังมีคนคาบข่าวเรื่องมันมาให้ได้ยินกันทุกวัน
“ไอ้ตี๋ มึงชอบไอ้หมอกใช่ไหม?”
“เฮีย!! เลิกยุ่งกับตี๋เหอะ ตี๋ขอร้อง...แม่ง ปวดหัวเว่ย!”
ทั้งห้องเงียบกริบ ผมได้ยินเสียงเฮียถอนหายใจตามมา
“มึงรู้ไหมมันโอนมึงมาให้เท่าไหร่”
“.....”
“ล้านกว่า เพื่อนเหี้ยอะไรเขาให้กันเยอะขนาดนี้ มันเยอะเสียจนกูตกใจเลย กูรู้มันรวย แต่มันมาทำแบบนี้กับมึง มึงเข้าใจไหมว่าหมายความอะไร”
“ทำไม ยังไงเฮียก็คิดว่าตี๋ขายตัวให้มันไม่ใช่หรอ งั้นตี๋ต้องเป็นอะไร อีตัวหรอ!” น้ำตาจะไหลแล้ว หยุดพูดเหอะ กูไม่ไหวแล้ว กูไม่อยากได้ยินชื่อมันอีกแล้ว
เจ็ดวันนี้ ทำไมผมรู้สึกเหมือนผมจะตายให้ได้เลยวะ
“เฮียไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” เสียงเฮียเบาลง ผมเลยปิดปากเงียบ
“เฮีย ตี๋ขอร้อง อย่าพูดชื่อมันอีกเลยนะ ถ้าเฮียยังคิดว่าตี๋เป็นน้องเฮียอยู่”
“เออ มีอะไรก็บอกกูแล้วกัน เห็นมึงไม่สบายใจกูก็ไม่สบายใจหว่ะไอ้ตี๋ เฮียขอโทษนะเว้ย มาให้กอดหน่อยดิ” กอดเฮียไม่เหมือนกอดของไอ้พี่หมอก ผมกอดเฮียยิ่งคิดถึงมัน เพราะตัวใหญ่แล้วก็ตัวอุ่นเหมือนกัน สุดท้ายผมก็ร้องไห้ต่อหน้าเฮีย
ขอร้องเหอะ ไอ้พี่หมอก
อย่าทำให้ผมเสียใจอีกเลย อย่าทำให้ผมต้องคิดว่าผมคิดผิดที่เดินหนีพี่มาแต่ทำไมวะพี่
ทำไมตอนนี้ผมคิดถึงพี่มากขนาดนี้.................................................
..............................
[Coin 15 : complete]
[18.11.54]
ชามเล็กๆ มาม่ากันทั้งในจอนอกจอ

ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคัฟ

ปล.ม.ม..ม..หมื่นกว่าวิว!!

ปล.2 คำผิดพยายามตามแก้ อย่างคำว่า"อ้ะ"(ผิด)"อะ"(ถูก)ก็ยังติดนิสัย เขียนผิดซ้ำๆ
ปล.3
ประมวลชื่อผิดในความเห็นบางคนพิมพ์ชื่อผิด มาดูกัน
พี่หมอก กลายเป็น พี่หมก พี่หมอง

ตี๋ กลายเป็น ตี่ (ตี๋โชคดี เพี้ยนอย่างมากก็ห้าวรรณยุกต์)
เจอกันตอนหน้าคัฟ
