เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]  (อ่าน 3467015 ครั้ง)

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
 :กอด1: น่ารักกกกกกกกกกทั้งคู่เลย

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักตอนตลอดเลย

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
สุขสันต์วันตรุษจีนนะตี๋+ม๊า+เฮีย :yeb:

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
ตี๋น่ารักน่าเอ็นดูจัง
รักเฮีย&ตี๋ นะ

Inuy888

  • บุคคลทั่วไป
มายังน๊า พี่หมอกฮับ

filmybutter

  • บุคคลทั่วไป
ความรักของพี่น้อง

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
อ๊ากกกกก น้องตี๋น่ารักมากมาย
เฮียชอบแกล้งตี๋อ่ะ แต่ถ้าเรามีน้องแบบตี๋ก็คงแกล้งเหมือนกัน ฮ่าๆ
เด็กไรไม่รู้น่ารักอ่ะ มีแอบกินขี้มูกด้วยฮาอ่ะ
ตี๋น่าร๊ากกกกกกก เฮียก็น่ารัก

ปล.รอพี่หมอกเหมือนกันนะ อยากให้มาต่อทุกวันเลย รอตลอดดดด อิอิ

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :mc4:
พี่น้องคู่นี้น่ารักมากนะจ๊ะ

ออฟไลน์ ever-never

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ในที่สุดก็ตามอ่านจนทันล่ะคับ
ชอบมาก สนุกดี
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคับ สู้ต่อไป,,,ทั้งแต่งนิยาย แล้วก็เรื่องเรียน สู้ๆ ^^"

ออฟไลน์ dear77

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักจังตี๋น้อยยยย พออ่านแบบนี้แล้วอยากอ่านตอนหมอกเด็กบ้างจัง

แต่จะให้ดีที่สุด รอตอนที่ 7 อยู่ค่ะ น้องคนเขียนสู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
เฮียฮ้ง น่ารัก และรักตี๋มากเสมอ รักสองพี่น้องนี้ จัง


-------------------------------------------------------

ขอให้คนแต่ง  เฮง เฮง เฮง นะจ๊ะ

ออฟไลน์ karenoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เฮียฮ้งน่ารักมากๆๆๆๆ เป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ
ตี๋น้อยก็น่ารัก :impress2: ตาโตแก้มยุ้ย ตอนเด็กๆ คงเหมือนตุ๊กตา :impress2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
พี่น้องคู่นี้ทั้งน่าัรักและน่าฟัด ฮ่าๆๆ

คนแต่งสู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ LEksUp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0

ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
ง่า เข้ามาแอบ ๆ ส่องตอนที่จบภาคหนึ่ง แล้วเห็นว่ามาม่าก็เลยเอิ่ม ขอรอก่อนนะให้สถานการณ์ปกติก่อน ไม่งั้นอึดอัดใจตาย แต่จากที่ได้ลองอ่านแว้บ ๆ แล้วสัญญาเลยค่ะว่าหมดการแจกมาม่าเมื่อไหร่จะมาตามอ่านแน่นอน

ขอบคุณสำหรับนิยายน่าอ่านมาก ๆ ค่ะ ^^

ออฟไลน์ white choc~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
อ๊า~อยากหอมน้องตี๋จัง ยิ่งมาเจอไอ้"ความรักเต็มซอง"นั่นอีก ม๊วฟฟฟฟ ถึงแม้แก้มน้องตี๋จะเลอะน้ำมูกก็เหอะ เจ๊จะฟัดให้แก้มช้ำตายกันไปข้างเร้ยยยยย ^ ^

เฮียฮ้งรักน้องแต่ไม่แสดงออกหว่ะ!! มีกันแค่สองคนพี่น้อง ไม่รักตี๋แล้วจะไปรักหมาที่ไหนว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (ตี๋:อิเจ๊!มัยเอาตี๋ไปเปรียบกับหมาอ่ะ เดี๋ยวปั๊ดให้พี่หมอกตื๊บสั่งสอนซะเรยนิ่ -*-)


" ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" นะฮับ (อวยพรคำอื่นไม่ถูกอ่ะ รู้จักแต่คำเนี๊ยะ ^ ^)

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
5555 ความรักเต็มซอง  >.< น่ารัก

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
เข้ากับเทศกาล รักนายจังสองึพี่น้อง

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
น่ารักจังอ่ะ o13

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
 :-[ :-[ :-[

ตี๋น่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oomossoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แอบยิ้มเบาเบา
ตอน... ความรักเต็มซอง

คึคึคึ

น่ารักแต่เด็ก

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แง่มม พิเศษสองตอนรวดดแว๊วตอนหลักหง่ะ T^T

(แอบทวง)  อิอิติดตามอยู่นะครับ(*-*)

ออฟไลน์ MonkeYMauS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
รักคนเขียนฮะ แม้โครงเรื่องจะดูคล้ายกับที่เคยอ่านมา แต่ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครได้ดีมาก

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
น้องตี๋น่ารักกกกก

ออฟไลน์ yang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
คู่พี่น้องที่น่ารัก
มาตามเทศกาล
มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือนะจ๊คนเขียน :mc4:

Inuy888

  • บุคคลทั่วไป
ตอนเด็กๆพี่หมอกจะกินขี้มูกมั้ยนะ 55555

ออฟไลน์ WinterRose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านตอนพิเศษของครอบครัวตี๋ทีไร น้ำตามันร่ำๆจะไหลไปเสียทุกที
เกิดมาในครอบครัวที่ขาดปะป๊า ฐานะด้อยกว่าเขา
แต่ที่ไม่ด้อยกว่าใครเลยคือความรักของคนในครอบครัว
และความดีที่ม้าปลูกฝังสองพี่น้องมาตั้งแต่เด็ก
ครอบครัวแบบนี้สิถึงจะเรียกว่าครอบครัว

เรารักนิยายเรื่องนี้ก็ตรงนี้นี่แหละ!

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [ B.N.7 / P.172 / 24.1.55]
«ตอบ #5158 เมื่อ24-01-2012 16:42:07 »

B.N.7



ผมได้รับโทรศัพท์จากฟ้าตอนบ่ายๆวันเสาร์

ก็ตามเดิม ประสาขาเม้าท์ ขาจร โทรมาเล่าโปรเจคต์ใหญ่ที่บอกฟังแล้วต้องหูผึ่ง แล้วมันก็เป็นดังที่พูดเป๊ะ มันคืองานเปิดตัวของบริษัทติวากุล งานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ ฟ้าทำงานอยู่ที่บริษัทจัดอีเวนท์ที่มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะประธานบริษัทก็นามสกุลเดียวกับฟ้าเป๊ะ

แล้วก็นึกต่อถึงฟ้าน้องรหัสโจ๋ ได้ข่าวว่าตอนนี้คบกับไอ้ปิ๊กอยู่ แต่ข่าวที่ได้ยินมานี่ก็จะสี่ห้าเดือนแล้ว ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนไปถึงไหน ไม่ได้กลับไปเยี่ยมที่มหาลัย แม้จะใกล้บ้านมากแค่ไหนก็ตาม ถ้ามีความสุข ก็ยินดีด้วย อยากให้ปิ๊กมันมีความสุข โดยที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความสุขแบบนั้นจากผม

“ไม่ใช่ว่าเปิดตัวเดือนหน้าหรือไง?”

“ตอนแรกก็เป็นแบบนั้น ตี๋ มึงนี่ตกข่าวสุดๆ” ยังใช้พูดจาหยาบคายไม่เปลี่ยน ตอนนี้เป็นสาวยสวยวิ้ง แต่ก็พูดจาเหมือนผู้ชายเข้าไปมากทุกที “มือดีปล่อยคลิปไอ้แทบเล็ทตัวนี่ลงเน็ทยั้วเยี้ยไปหมด ปัญหาโลกแตกหล่ะที่นี้ ขนาดตัวบริษัทเองยังไม่เคยปล่อยโฆษณาออกมาเลย งานเปิดตัวถึงต้องร่นขึ้นมาให้เร็วขึ้น ได้ยินมาว่าพวกช็อปเสร็จหมดแล้ว ก็โชคดีไป”

“เออ..แล้วมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

“จะไปรู้ได้ยังไง กูก็ทำงานส่วนของกูเท่านั้นแหละ ตอนนี้ยังปวดหัวอยู่เลย ไอ้นักแสดงที่จองไว้ตอนแรกดันติดคิวถ่ายละคร ยังหาคนใหม่มาแทนไม่ได้สักที โทรไปหาใครก็มีแต่บอกว่างานเต็มแล้ว ไม่รู้โดนใครแกล้งหรือเปล่าเนี่ย”

“….”

“ฮัลโหล?”

“ฮะ?”

“เออ จะโทรมาโม้แค่นี้แหละ ว่าได้ทำงานกับพี่หมอกสุดหล่อด้วย  แค่นี้น– “

“อย่าเพิ่งวางสายดิ..”

เพราะพูดรั้งไว้ สักพักจึงได้ยินเสียงตอบกลับ คงกำลังจะวางสายแล้ว

“..ทำไมอีก อย่าบอกนะว่าคิดถึง”

“เปล่าหรอก…แค่-”

อยากไป…




…………………………………..
………………………



ฟ้าบ่นตั้งแต่ขับออกจากหน้าบ้านไปจนถึงโรงแรม ดูเหมือนจะวกรถไปที่โรงแรมมาแล้วรอบนึงแต่กลับมาเพื่อรับผม อยากจะขอบคุณ แต่ยังไม่มีโอกาส เพราะนอกจากหันมาบ่นผมแล้ว ยังคุยโทรศัพท์ไม่หยุด

“บ้าเอ้ย เฮงซวย ไอ้พวกกร๊วก นึกว่าเป็นดารานักร้องนักแสดงแล้วเป็นเทพเจ้าได้หรอวะ! หาแม่งมาสักคนดิ เกาหลงเกาหลีเอามาให้หมด ใส่จำนวนเงินไปเยอะๆเดี๋ยวก็มาเองแหละ”

ผมไม่กล้าแม้แต่จะเปิดวิทยุ เบาะหลังยิ่งกว่าวินาศกรรม เอกสาร รองเท้า กระเป๋า ปนกันเป็นกอง รถเบรกที่ ของก็จะไหลจากเบาะลงไปที่พื้น

“ฮึ่ย น่าโมโหที่สุดเลยว่ะ ไอ้คนพวกนี้”

“หาพรีเซนเตอร์ไม่ได้หรอ”

“ก็เออสิ”

ยิ่งขยี้หัวแบบนั้น ยิ่งดูเหมือนยักษ์อวตารเข้าไปใหญ่ รถเลี้ยวกระชากตัวไปมาจนกระทั่งมาถึงโรงแรม ยกมือไหว้พระไปหลายที ลงมาจากรถ คิดแทบจะทันทีว่าสิ้นปีนี้ยังไงก็ต้องมีรถเป็นของตัวเองให้ได้ แต่ดูเหมือนจะสิ้นเปลืองไปเสียหน่อย

ผมเดินแยกทางกับฟ้าที่ต้องหิ้วแฟ้มไปทำงานต่อ เห็นสตาฟหลายคนวิ่งกันวุ่น โรงแรมใหญ่ อยู่กลางเมือง ได้รับบัตรสตาฟมาใบหนึ่ง ไว้ใช้เวลาเข้าไปในงาน เห็นสื่อมวลชนจากหลายสำนักข่าวเริ่มเดินทางมา ไม่เคยมาโรงแรมนี้มาก่อน ลองเดินไปดูที่ร้านเค้กดู ก็ต้องเบ้หน้า ชิ้นแค่นี้ไหงคิดตั้งร้อยกว่าบาท ไม่แพงไปหน่อยหรือไง

“อ้าวเฮ้ย ไอ้ตี๋ มาทำอะไรวะ”

“พี่บอล?”

“เออ ไม่น่าถามว่ามาทำอะไร มานี่ๆ”

พี่บอล ไม่ได้เจอหน้ากันสักพัก ดูจะผิวคล้ำลงหน่อย กรอบแว่นใหญ่เหมือนจานรองแก้ว เข้าใจว่าเป็นเทรนด์สมัยใหม่ แต่เพราะหน้าโบราณอยู่แล้ว ยิ่งใส่เลยยิ่งดูน่าอนุรักษ์มากขึ้นไปอีก กะจะทัก แต่กลัวเสียความมั่นใจ จะทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกัน

“แล้วพี่อ่ะ มาทำอะไรแล้วนี้?”

“ก็เป็นวิศวะอยู่บริษัทไอ้หมอกมันน่ะสิ เรียนมาด้วยกัน สุดท้ายก็กลายเป็นลูกน้องมันไม่รู้ตัว”

“เหมาะดีออก”

“กวนตีนๆ ฮ่ะฮ่ะ แต่ก็นะ จริงๆไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก ก็ช่วยมันนี่แหละ มาเพื่อโปรดสัตว์แท้ๆ”

“ผมว่าพี่ทำงานหนักไปหว่ะ เออ แล้วตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ว่ะพี่ ทำไมต้องเลื่อนวันเปิดงานซะขนาดนี้”

“ก็อย่างที่ได้ยินมานั่นแหละ โดนคนในชิงเปิดตัวไปก่อน แล้วถ้าเปิดตัวช้ากว่านี้ ความสนใจของลูกค้าก็อาจจะลดลง เลยต้องใช้ช่วงที่ยังเป็นกระแสอยู่ ปล่อยสินค้าออกมา เล่นเอาวุ่นกันไปทั่ว ตอนนี้ก็ยังจับตัวไม่ได้สักทีว่าใครทำ”

พี่บอลสั่งเค้กชิ้นหนึ่งมาให้ผม พอถามว่าเลี้ยงใหม่ก็ทำหน้าเบื่อๆ “งกเหมือนเดิมเลยนะ ไอ้ตี๋”

“ไม่ได้งกซักหน่อย เขาเรียกว่าใช้เงินอย่างประหยัดต่างหาก”

“เออๆ ครับ ไอ้คนประหยัด คนขยัน รวยแล้วหล่ะสิตอนนี้”

“ก็กลางๆอ่ะพี่ ไม่มีหนี้ให้ต้องจ่าย ตอนนี้ ผมกับเฮียก็ทำงาน แล้วให้ม๊าพักผ่อน ต่อจากนี้ก็อาจจะเก็บเงินเพิ่ม ซ่อมแซมบ้านหน่อย ซื้อของใช้ใหม่ๆบ้าง แทนอันเก่าที่เสียไป”

พี่บอลไม่ได้ตอบอะไร มองไปยังทางที่หลายๆคนกำลังเดินไป คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ป้ายต่างๆถูกตั้งขึ้น ทำงานใต้เวลาที่เร่งรีบ และความกดดันมหาศาล

กำลังห่วง

ห่วงคนๆเดียวกัน

“กูคงอยู่ช่วยทางนี้ได้อีกไม่นาน ยังไงก็ฝากมึงดูไอ้หมอกด้วยแล้วกัน”

“พี่บอลจะไปไหนอ่ะ ไหนบอกจะช่วยพี่หมอกทำงาน”

“ก็นะ คนมันเก่ง โดนดึงตัวไปอยู่สิงค์โปร์หว่ะ ซวยเลยซะงั้น”

“ไปหาประสบการณ์ ได้ใช้ความรู้ของพี่เต็มที่ ซวยตรงไหนวะ? ผมว่าดีจะตายไป ผมยังอยากไปต่างประเทศบ้างเลย แต่ภาษาอังกฤษทำท่าจะไม่รอดแหะ”

“เออ แล้วนี้จะต่อโทไหม”

“คิดอยู่ ผมอยากทำงานอีกสักพัก เอาให้มีเงินมากกว่านี้หน่อย”

พี่บอลพยักหน้า คนรอบๆเริ่มซาลง มองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงกว่า ยังชวนคุยได้อีกแยะ “พี่ต้องไปทำงานต่อหรือเปล่า?”

“ไม่มีแล้ว งานตรงนี้ก็ฝ่ายออกาไนเซอร์ กูแค่มาดูเฉยๆ”

“กะโดดงานอ่ะดิ มาซะเร็ว”

“เกลียดคนรู้ทันจัง ฮ่ะฮ่ะ”

เงียบกันไปซักพัก ผมเห็นโอกาสเหมาะเลยเลียบเคียงถามขึ้นมา

“แล้ว ช่วงนี้งานที่บริษัทเยอะหรือเปล่า?”

“จะถามถึงไอ้หมอกก็พูดมาเหอะ”

“….เออ เกลียดคนรู้ทันว่ะ ฮ่าฮ่า”

“งานเยอะ แล้วก็หนัก เพราะยังเป็นงานที่ใหม่สำหรับมัน ถึงจะเรียนมาก็เถอะ”

“เรียน? พี่หมอกไปต่อวิศวะไม่ใช่หรอ”

“ก็ใช่ แต่ก็ไปเรียนบริหารเพิ่มด้วย ไม่งั้นไม่นานตั้งสามปีหรอก ให้อาจารย์พี่เมฆสอน ไม่ได้เข้าเรียนมหาลัย แต่ไอ้สาขาวิศคอม ไอ้หมอกจัดหนัก เล่นซะเอาเกรียตินิยมเหรียญทองเชียว”

“….คงจะเหนื่อยน่าดูเลยเนอะ”

“แม้แต่หน้ามันยังไม่เคยเห็นโผล่มาเลย สามปี โทรหากันแค่ครั้งเดียว”

เคยคิดว่าหนัก แต่ฟังดูแล้ว น่าจะหนักกว่าที่เคยคิดเสียอีก

“ตอนนี้มันแทบจะนอนที่บริษัทอยู่แล้ว ทำแต่งาน ถ้าไม่ออกไปคุยธุระ ก็อยู่ในห้อง ลงมาคุมงานบ้าง ถึงจะอยากทำเองทุกอย่างก็เป็นไปไม่ได้หรอก องค์กรใหญ่ขนาดนี้”

ถ้าเป็นผม ม๊าคงจะห้าม หาของกินมาบำรุงไม่หยุด เฮียคงจะบ่นจนกว่าผมจะยอมเข้านอน

แต่พี่หมอกไม่มีใคร

อยู่ตัวคนเดียว กับกองงานมหาศาล ที่หนักหนาเกินไป สำหรับคนที่ยังอ่อนประสบการณ์

เราคุยกันจนใกล้ถึงเวลาเริ่มงาน เห็นผู้คนจากหลากหลายวงการ “ตรงนั้นประธานบริษัทตี๋ไม่ใช่หรอ?” ผมพยักหน้า เป็นบอร์ดบริหารที่เคยเห็นลงมาคุยกับพี่โต้ง เห็นไฮโซหลายคน รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง ตามประสาคนไม่สนใจโลกปัจจุบันเท่าไหร่

เดินเข้าไป เป็นห้องโถงใหญ่ กว้างเสียจนมองจากตรงนี้เห็นแต่คนยุ่บยั่บไปหมด สื่อมวลชนตั้งกล้องจนเหมือนรั้วกั้นระหว่างเวทีกับที่นั่งแถวหน้า

ผมหิว แต่พี่บอลบอกว่าอย่าพึ่งไปไหน นี่เป็นรอบเปิดตัวสื่อมวลชน พรุ่งนี้ถึงจะเปิดตัวให้ผู้สั่งจองรับสินค้า

“ไม่เห็นจะคิดเลยว่าใหญ่ขนาดนี้”

“ก็นะ ระดับติวากุล เล็กๆทำเป็นที่ไหน”

“เพื่อนผมบอกว่าคนที่เป็นพรีเซนเตอร์ไม่ว่าง พี่จะทำยังไง?”

“ก็คงให้ประชาสัมพันธ์ของบริษัททำหน้าที่นั่นไปก่อน ไม่ต้องหวังให้ไอ้หมอกมันพูดหรอก เจ๊งพอดี”

นึกภาพแล้วก็ขำตาม ถ้าพูดเหมือนตอนทำงาน มีหวัง คนคงเดินหนีกันหมด

“…นั่นไง”

มองไปตามนิ้วของพี่บอล

ที่ปลายนิ้ว พี่หมอกอยู่ตรงนั้น เดินด้วยความเร็วที่ทำให้เลขาต้องเร่งสับเท้าให้เร็วขึ้น มองตรงไปข้างหน้า ไม่ได้สนใจคนรอบข้าง น่าแปลก คนรอบๆทางนั้นพากันหลีกให้ เดินไปทางข้างหลังเวที จึงเห็นแค่เพียงชั่วเวลาสั้นๆ

“ไม่ได้นอนมาสักสามคืนแล้วมั้ง”

“ทำไมถึงทำงานหนักขนาดนั้น ไม่มีใครห้ามเลยหรือไง”

“ไอ้ตี๋ ใจเย็น อย่าลืม นั่นประธาน ใครจะเหนือกว่า”

“ก..ก็คนอื่น ใครก็ได้ เลขาหรืออะไรก็ได้ แล้วพี่หล่ะ พี่ไม่ได้บอกเลยหรอ?”

“คิดว่ามันฟังหรือไง”

“…..”

ผม…

จะเห็นแก่ตัวเกินไปไหม ที่ผมจะพูดว่า ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ทั้งเงินหรือความสะดวกสบาย

ผมอยากได้พี่หมอก ที่เป็นพี่หมอกคืนมา

ไม่ใช่คุณอัษฏา ที่ทำงานหนัก ไม่สนใจใคร อยู่บนโลกธุรกิจที่หมุนไปข้างหน้าอย่างไร้ความรู้สึกแบบนี้

ผมไม่ต้องการ…

ไฟในห้องโถงมืดลง เสียงผู้คนในนี้เลยเบาลงตามด้วย ไฟสปอร์ตไลท์ฉายไปที่เวที หน้าจอใหญ่ตรงนั้นเปิด CF ตัวล่าสุดของสินค้าออกมา ดูทันสมัย ฟังก์ชั่นที่ประยุกต์ใช้ได้มาก ดูใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน รูปลักษณ์ ที่ผมคิดว่าโดดเด่นและบ่งบอกความเป็นตัวตนออกมา

จบตัวโฆษณา ไฟมืดลง จนกระทั่งพิธีกรก้าวขึ้นมาบนเวที คงจะเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างที่พูดจริงๆ แต่ก็ดูดีทั้งคู่ ผู้หญิงนี้เสียงหวานมากครับ แต่พี่บอลกับกระซิบบอกว่าอย่าตัดสินจากสายตามอง คงหนีไม่พ้นแบบฟ้าแหงๆ

“ขอเสียงปรบมือให้กับนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยียุคใหม่ คุณอัษฏา ติวากุลด้วยค่ะ! “

พี่หมอก..ไม่สิ คุณอัษฏาเดินก้าวขึ้นมาบนเวที เห็นรอยยิ้มที่มุมปากนิดๆ แต่ก็รู้ว่าพยายามยกมุมปากขึ้น เพราะตาบอกชัดว่าเหนื่อย แม้แต่เสียงยังติดแหบนิดๆ

ไม่รู้ ว่าจะเห็นผมหรือเปล่า

ผมที่ยืนอยู่ในความมืด ..พี่หมอก ที่อยู่ใต้แสงสปอร์ตไลท์นั่น

เห็นมองกวาดสายตาไปทั่วระหว่างที่พูดไปด้วย คงเป็นสคริปต์ที่ถูกเขียนไว้ แต่ก็พูดได้ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ข้อดีของการเป็นผู้ใหญ่ หน้ากากที่พี่หมอกเคยบอกว่าเกลียด วันนี้ พี่หมอกใส่มัน และก็ทำให้พี่หมอกดูโดดเด่นเหนือคนอื่น

เหงื่อออกเยอะ เห็นมือที่ยื่นออกไปรับทิชชู่จากสตาฟสั่น ตื่นเต้น? ผมไม่รู้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

คงจะไม่เห็น คนเกือบห้าร้อยคนอยู่ในห้องนี้ ผมยืนอยู่เกือบหลังสุดกับพี่บอล ที่จับจ้องภาพบนเวที ไม่รู้คิดอะไร ต่างคนต่างจมไปกับความคิดของตัวเอง

“..กูขอออกไปข้างนอกก่อนนะ”

“พี่จะไปไหน? ห้องน้ำหรอ?”

“ทนดูไม่ไหวว่ะ…”

ผมดึงแขนเสื้อพี่บอลไว้ ขมวดคิ้ว พี่บอลหลบสายตาผม

“มันทรมานตัวเอง กูไม่อยากเห็นแบบนี้”

ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวของตัวเอง

พี่หมอกเป็นคนตรงไปตรงมา คิดอย่างไหนก็ทำแบบนั้น ไม่ค่อยชอบพูด เกลียดการเสแสร้ง สังคมที่จอมปลอม

ตอนนี้ พี่เป็นหนึ่งในนั้นอย่างกลมกลืน ผมได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวเราะ ผมไม่ได้หันไปมองบนเวทีอีก เช่นเดียวกับพี่บอล ที่หลุบมองลงพื้น เห็นรองเท้าของเราแค่ลางๆ

“ผมก็ไม่อยากดู แต่นี่คือความสำเร็จของทั้งพี่ทั้งพี่หมอก พี่สมควรจะจำเวลานี้ไว้”

“ส่งกูไปสิงค์โปร์เถอะ เดี๋ยวนี้เลย กูไม่อยากเห็นเพื่อนกูทรมานตัวเองแล้ว”

“พี่ไปแล้วได้อะไร…”

เสียงพี่หมอก ดังผ่านลำโพง

ได้ยินชัดไปทุกทาง รู้สึกเหมือนเสียงนั่นเข้ามาผ่านหู และวิ่งลึกลงไปอีก

เสียงที่ผมคิดถึง

แต่ผมไม่ได้ต้องการมันในรูปแบบนี้

“กูเป็นเพื่อนไอ้หมอก ไม่ใช่คุณอัษฏาอะไรนั่น”

“ผมคิดว่าพี่เข้าใจ..เพราะพี่ก็โตพอแล้ว”

เห็นพี่บอลถอนหายใจ ยิ้มอ่อนๆ เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

“ต้องให้มึงมาสอนกูนี่ไม่ค่อยเหมาะเลยนะ ตี๋”

ผมยิ้มตอบ คิดว่าคงจะไม่ต่างกัน

เวลา ผ่านไป หลายอย่างเปลี่ยนไป

บางอย่างพัฒนาไปทางที่ดีขึ้น แต่ลึกๆ ภายใต้ความสำเร็จนั่น ผมเห็นแผลบางอย่าง ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น

ผมกับพี่บอลยืนอยู่ที่ตรงนั้น มองภาพบนเวที เหมือนกับเป็นละครฉากหนึ่ง จุดที่คิดว่าพรีเซนเตอร์ต้องจัดการ ก็เป็นพี่หมอกสลับกับพิธีกรคู่นั้น ดูเหมือนจะได้ผล พี่หมอกเดิมทีก็ดูไม่ต่างจากพวกดาราเท่าไหร่

ผมมองภาพนั้น ขมวดคิ้ว

ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกเจ็บปวด

เหมือนผม เป็นคนผลักพี่ไปยืนที่จุดนั้นด้วยตัวเอง

“…เพราะผมหรือเปล่าพี่บอล พี่หมอกถึงต้องไปยืนที่จุดนั้น”

“ทุกคน ไม่ว่ายังไงก็ต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะอยากหรือไม่ก็ตาม คิดว่ายังไงซักวัน เรื่องแบบนี้ก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว…”

ต้องโตขึ้น ทั้งๆที่บางทีก็ยังอยากจะเป็นเด็ก อยากจะเล่น วิ่งไปรอบๆ ไม่ต้องมีภาระ ความรับผิดชอบบนบ่า

แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่ว่ายังไง ก็ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดเวลาได้ ถึงเราจะหยุดเข็มนาฬิกาได้ก็จริง แต่นั่นก็เป็นการหลอกตัวเองได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว

งานจบลง สินค้าถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คิดว่าวันนี้คงได้เห็นโฆษณาตัวที่ได้ดูไปทุกช่องของโทรทัศน์ ป้ายประกาศ หรืออินเตอร์เนท

เรื่องที่ถูกเปิดตัวก่อนเป็นข้อผิดพลาดใหญ่ที่ทำให้พี่หมอกถูกเพ่งเล่งจากคณะกรรมการ พี่บอลบอกว่า ทางที่ดี ไม่ควรจะมีข้อบกพร่องใดๆอีก หนอนบ่อนไส้ก็ควรจะรีบจับออกมา ก่อนที่สินค้าตัวถัดไปจะเปิดตัว

“ตอนแรก พวกนั่นบอกให้หยุดเปิดตัวสินค้าตัวนี้ แล้วหันไปพัฒนารุ่นอื่นแทน แต่หมอกมันไม่ยอม บอกให้มาเลื่อนงานเปิดตัวแทน เลยวุ่นกันไปหมด ถึงสินค้า ช็อป จะพร้อมแล้วก็เถอะ”

วันนี้อาจจะเป็นตัวอย่างความวุ่นวายได้ นึกดู เห็นความวุ่นวายที่มากกว่านี้สองสามเท่าในตัวบริษัทติวากุล

ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอีกครั้ง หลายๆคนเดินออกไปตามทางนั่น พี่บอลกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุด เมื่อได้รับโทรศัพท์

“เออ..อยู่ในงาน มีไร…ห้ะ? ตรงไหน? เดี๋ยวไปๆ แค่นี้นะ”

พี่บอลรีบยัดมือถือลงกางเกง ดึงมือผมให้วิ่งสวนไปกับคนอื่นๆ “อะไรพี่? มีอะไร?”

ตะโกนถาม แต่ดูเหมือนเสียงจะไปไม่ถึง หลายๆคนโวยวายที่ผมกับพี่บอลวิ่งสวนไป ทำไมต้องรีบแย่งกันออกแบบนี้นะ

คนเริ่มซา พี่บอลดึงผมมาที่หลังเวที ตรงนั่น ผมเห็นคนกำลังมุงกันอยู่ ได้ยินเสียงตะโกน “อย่ามุงครับ อย่ามุง” แต่ไม่ได้ผล

เราพยายามแทรกตัวเข้าไป ซักพักจึงถึงในวงนั่น

ผมเห็นคนในชุดสูทคุ้นตา นอนอยู่ที่พื้น เลขา เคยเห็นหน้า แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน พยายามสั่นไหล่ของผู้ชายตรงนั้น ดึงตัวขึ้นมา พยายามจะดันตัวขึ้น แต่ก็มีแรงมากไม่พอ จึงทำได้แค่ให้ยืมตักเท่านั้น

พี่บอลรีบคุกเข่าลงกับพื้น ช่วยเขย่าร่างผู้ชายคนนั้น ตะโกนกับคนที่อยู่รอบๆ “โทรเรียกรถพยาบาลที! อย่ามุงได้ไหม พวกบ้าเอ๊ย!”

คนรอบข้างถอยออกไป ได้ยินเสียงคนวิ่ง

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”

“ผมไม่ทราบครับ เห็นก็แต่ตอนล้มลงไปแล้ว”

พี่หมอก…

ที่อยู่ตรงนั้น ..พี่หมอก

เหงื่อออกท่วมไปหมด ขี้ร้อน เพราะขี้ร้อนนิ แสงเมื่อกี้คงจะแรงไป

“พี่…พี่หมอก”

เรียกแล้ว เขย่าตัวก็แล้ว ไม่เห็นจะขยับตัว

ปลดกระดุมสองเม็ดบนออกด้วยมือที่สั่น ใช้เวลานาน นานกว่าที่ควรจะเป็น เลขาใช้เอกสารที่อยู่ในมือพัด จนผมสั้นๆของพี่หมอกพัดไปมา

เรียกชื่อนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นิ่งเงียบ

รอบตัวเงียบลง จนผมอดที่จะหนาวไม่ได้

มือพี่หมอก ชื้นเหงื่อ เย็น ไม่อบอุ่นเหมือนที่ผมเคยกุมมือนี้ไว้

เหมือนหลับไป

เพราะฉะนั้น ต้องตื่น ตื่นขึ้นมา

“รถพยาบาลมาแล้วครับ!”

ผู้ชายหลายคนเข้ามาช่วยพยุงตัวพี่หมอก ผมรีบลุกตามไป

เหมือนเคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน

“ตี๋ ไม่เป็นไรแล้ว…ทุกอย่างจะเรียบร้อย”

พี่บอลพูด คำเดียวกันกับที่พี่หมอกเคยพูด

เหมือนกับครั้งที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับม๊าผม

พี่หมอกถูกวางตัวลงกับเตียง บุรุษพยาบาลลองเรียกดู เหมือนจะวัดระดับการรู้สึกตัว ก่อนจะเรียกให้พยาบาลใส่หน้ากากออกซิเจนให้ เตียงถูกยกขึ้นไปบนตัวรถพยาบาลอีกที ประตูปิด ก่อนจะขับออกไป

เสียงหวอดัง เรียกให้สื่อมวลชนที่เหลืออยู่เดินเข้ามา ไฟสีแดงน้ำเงินหมุนวนไปรอบๆ ค่ำคืนที่มืดสนิท สวนอินโดที่จัดอยู่หน้าโรงแรม เปลี่ยนสีจากสีเขียวกลายเป็นสองสีนี้

พนักงานหลายคนถูกดักขอสัมภาษณ์ แต่ถูกกำชับไว้แล้ว ว่าห้ามพูดอะไรทั้งสิ้น

ผมไม่ได้ขึ้นตามรถพยาบาลไป แต่นั่งไปกับคันพี่บอล ทั้งรถไม่มีใครพูดอะไร

มือผมกุมเข้าหากัน ชื้นเหงื่อ สั่น สั่นด้วยซ้ำ

แต่พี่หมอกไม่เป็นไร ต้องไม่เป็นอะไร…

ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงที่เบาะหลังพึมพำอะไรบางอย่างไม่หยุด ดูเหมือนเธอจะกลัว ความกลัวที่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร เป็นผู้หญิงที่ผมไม่คุ้นตา ดูเหมือนไม่ใช่พนักงานบริษัทนี้ และเป็นคนรู้จักของพี่หมอก

เธอเริ่มร้องไห้

ใบหน้าสวยๆนั่นบิดเบี้ยว ในรถที่เงียบสนิท ได้ยินเสียงร้องไห้คลอไปตลอดทาง

เสียงร้องไห้ที่ทำให้แม้แต่พี่บอลก็ยังคิดหาคำปลอบใจดีๆไม่เจอ…



…………………………………….
……………………………




“คนไข้มีอาการความดันโลหิตสูง ที่หมดสติแบบนี้คงพักผ่อนไม่พอ คืนนี้ ก็ปล่อยให้คนไข้พักสักคืน คิดว่าพรุ่งนี้คงจะหายดีปกติ ต่อจากนี้ก็อย่าปล่อยให้ทำงานหนักขนาดนี้อีก ความดันโลหิตสูง อาจทำให้เป็นโรคที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ ยังหนุ่มอยู่แท้ๆ ต้องบอกให้เขาดูแลตัวเองมากๆนะครับ”

“ขอบคุณมากครับ”

หัวใจกลับมาเต้นปกติ เมื่อกี้ เหมือนถูกบางอย่างบีบไว้ จนผมหายใจไม่คล่อง

คุณหมอเดินออกไปแล้ว พวกผมถอนหายใจกันเฮือกใหญ่ ที่อยู่ตรงนี้มีกันไม่กี่คน เลขาที่ดูวุ่น ตอนนี้ดูวุ่นเข้าไปใหญ่ โทรศัพท์ดังไม่หยุด จนพวกผมถูกนางพยาบาลไล่ออกจากบริเวณนั้น

“…บอกไปเลยว่าไม่ให้สัมภาษณ์ ไม่ต้องโทรมาอีกนะ ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องให้ทั้งนั้น”

พอกดวางสายไปทีนึง ก็มีสายเข้ามาใหม่

“ครับ ครับ ท่านเห็นข่าวแล้วหรอครับ? ถ้าเป็นแบบนั้น อีกไม่นานคงมีนักข่าวมาที่นี่ ครับ คงต้องปิดข่าวไว้ก่อน ไม่ต้องลำบากท่านหรอกครับ ครับ ขอบคุณครับ”

พูดครับติดกันหลายๆครั้ง ผมกุมมือเข้าหากัน นั่งลงกับเก้าอี้แถวที่จ่ายยา โรงพยาบาลที่ดูเหมือนโรงแรม แม้แต่พื้นยังเป็นพื้นไม้สีอ่อนขัดเงา

เห็นเลขาคนนั้นเหลือบมองพี่บอล แล้วมองมาที่ผม พี่บอลยักไหล่ตอบ เลยยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน

ฟ้าโทรมา โวยวายใหญ่ เพราะตอนแรกที่คุยกัน ผมจะไปกับพร้อมเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าผมปล่อยเธอรออยู่นาน ลืมติดต่อกลับไป ได้แต่ขอโทษ และบอกให้กลับไปก่อน คงต้องหาซื้อของไปเซ่นหลังจากนี้

ผู้หญิงคนนั้น ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เธอยังไม่ยอมเดินมานั่งตรงนี้ ยืนอยู่แถวหน้าลิฟต์ ผมมอง คิดว่าถ้าพวกเราเผลอ เธอคงจะกดลิฟต์ขึ้นไปหาพี่หมอก แต่ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา หมดเวลาเยี่ยม แถมหมอยังฉีดยานอนหลับเพิ่ม ให้หลับสบายๆ

“จะกลับหรือยัง เดี๋ยวไปส่ง”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้”

“ลุกตามมาเหอะน่า”

เดินผ่านหน้าลิฟต์ตรงนั้น ผมมองเธอจนสุดสายตา รู้ว่าอาจจะเสียมารยาทสักหน่อย แต่เธอก็ดูไม่สนใจผมเช่นเดียวกัน

“พี่..คนนั้นใคร?”

“มิ้นท์? พูดถึงมิ้นท์หรือเปล่า?”

“คนที่อยู่หน้าลิฟต์ตรงนั้น”

พี่บอลหันกลับไปมอง “เออ คนนั้นหล่ะ มิ้นท์ ไปเรียนพร้อมกับหมอกนี่แหละ”

“…แค่นี้?”

“ก็รู้มาแค่นี้ ไม่รู้จะตอบอะไรเพิ่มอีก”

“….”

ทั้งผมทั้งพี่บอลนั่งเงียบตลอดทาง จนกระทั่งรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน

“หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะตี๋”

“คิดถึงผมก็มาหาผมที่บ้านก็ได้”

“คงไม่ว่างขนาดนั้น ยังต้องเตรียมเรื่องไปสิงค์โปร์อีก”

“ไม่ว่ายังไง พี่บอลก็ต้องไปใช่ไหม?”

พี่เขาพยักหน้า ไม่ใช่เรื่องที่ลังเล แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำ

“ฝากมันด้วยนะ”

“ไม่รู้ผมจะได้สิทธินั้นหรือเปล่า”

“ได้สิ…ไม่ดิ มันเป็นของตี๋มานานแล้ว และก็ไม่เคยเปลี่ยนไปให้ใคร”

พอผมยิ้มออกมา พี่บอลก็ยิ้มตาม ยื่นมือมาขยี้หัวผมจนยุ่งไปหมด “ผมไปล่ะนะ”

“เออ ดูแลตัวเองดีๆหล่ะ”

“ผมไม่บ้างานหรอก ขี้เกียจด้วยซ้ำ”

รถขับออกไป

พอเงียบลงแบบนี้เลยนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินข้าว ท้องร้องออกมาจนได้ยินเสียงชัด หัวเราะขื่นๆกับตัวเอง

ไม่ชอบเวลามองหลังของใครสักคน หรือรถที่ขับออกไป

…ไม่อยากรออีก

มันนาน นานเกินไปแล้ว นานเกินกว่าที่ใจผมจะรับไว้ แต่ก็ต้องทน บางสิ่ง ถ้าไม่อดทน ก็ไม่มีวันได้มา

ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องต่อสู้กับใคร แต่ใจตัวเองต่างหาก ศัตรูตัวฉกาจ

ดูท่า การรอของผม คงจะยังไม่สิ้นสุดลง

หายเร็วๆ แล้วมาไล่ตามความฝันที่พี่ต้องละทิ้งความเป็นตัวเอง

ผมไม่รู้ว่าที่ปลายทางของฝันนั้น จะมีแค่พี่หมอกคนเดียวหรือมีผมอยู่ด้วย แต่ผมก็อยากให้ทางๆนั้นเป็นทางที่พี่หมอกมีความสุขมากที่สุด



ไม่ใช่แบบนี้…




…………………………….
…………………



[B.N.7 : complete]
[24.01.55]








ตอนนี้อาจให้คนอ่านรอนานหน่อย คนเขียนรู้สึกผิดจากใจจริง  :monkeysad:
อยู่ในช่วงอารมณ์ปั่นป่วน รอผลสอบ บ้าคลั่ง นู่นนี่นั่น ทำให้อารมณ์ไม่นิ่ง เดี๋ยวเขียน เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวเบื่อ แถมยังนอนไม่พอ กว่าจะได้ตอนนี้ นานมาก จนเกิดอาการคอเคล็ดหน้าคอม 55+
ดังนั้น ถ้ามีจุดบกพร่องใดๆในตอนนี้ ขอให้แจ้งมา ยินดีรับฟังทุกๆคน
สำหรับคำผิดที่ยังผิดซ้ำๆ ไม่ใช่ว่าไม่รับฟัง แต่ฟังแล้ว ก็ยังลืมตัว ผิดอยู่เสมอๆ ค่อยๆแก้แบบเต่าคลานไป 55


และสำหรับใครก็ตาม ที่อยากจะเอานิยายเรื่องนี้ หรือเรื่องอะไรก็ตาม
การขออณุญาต เป็นมารยาทที่พึงกระทำ

กล้าขอ กล้าให้  :z1:

เจอกันตอนหน้านะคัฟ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:





ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [ B.N.7 / P.172 / 24.1.55]
«ตอบ #5159 เมื่อ24-01-2012 16:48:52 »

 :z13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด