Diaryบันทึกประจำวันวันที่ 14 เมษายน
แม่ครับ วันนี้ผมไม่อยากตื่นนอนเลย
กว่าจะนอนเมื่อคืน แม่ต้องไม่เชื่อผมแน่ๆ ตีสาม ใช่ ตีสามโดยที่งานยังไม่เสร็จ เป็นสงกรานต์ที่ผมรู้สึกว่าหนักที่สุดในชีวิต ยิ่งได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มจากข้างนอกแล้ว ก็ยิ่งอยากออกไปเต้นกับสาวๆที่ตัวเปียกน้ำอยู่ข้างล่างนั้น แต่ก็ทำไม่ได้ครับ
ไอ้แฟง ไอ้ต้น ไอ้โก้ ก็จะตายเหมือนกัน
ผมทิ้งมันไปไม่ได้ ในฐานะคนดีมากๆ
ไอ้พวกผมว่าเหนื่อยแล้ว แต่คนที่เหนื่อยสุด ผมว่าอาจจะเป็นไอ้หมอก
นอกจากพรูฟงานแล้ว มันยังต้องนั่งแปลจากสิ่งที่ไม่เป็นภาษาจากพวกผม เป็นภาษาอังกฤษ ผมเห็นมันทำงานไม่ขยับมาสักเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว กลัวมันจะฟุบตายไปเสียเฉยๆแบบไอ้แฟง แต่มันก็ไม่เป็น
มันดู…หงุดหงิดแปลกๆ
ตั้งแต่เช้าแล้ว ตื่นมาก็ไม่เห็นไอ้ตี๋ พวกผมมาตอนเมื่อวานบ่ายๆ หมอกบอกไอ้ตี๋กลับบ้าน ดึกๆก็กลับเข้ามา มันเห็นพวกผมนั่งทำงานอยู่ก็ไม่มากวน แต่วันนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ตื่นไม่ทันมื้อเช้า จึงยืดชีวิตควบเช้าเที่ยงไว้ด้วยพิซซ่าถาดใหญ่ กินไปทำงานไป เลอะก็ป้ายเสื้อไอ้ต้น แต่ไอ้โก้ที่นั่งอยู่ข้างหลังกลับกลายเป็นแพะแทน นั่งดูเงียบๆตามวิสัยคนดี
โทรศัพท์ เป็นสิ่งเดียวที่มันจับนอกจากโน้ตบุ๊ค
กดโทรกระหน่ำ โทรตั้งแต่เช้า เดาว่าตอนนี้ อาจจะเกินห้าสิบมิสคอลแล้ว
ไอ้หมอกลุกจากเก้าอี้เป็นครั้งแรก หายไปเข้าห้องน้ำ เป็นเวลาดีให้ได้จับกลุ่มนินทา
“เฮ้ย กูว่านะ ไอ้ตี๋กลับดึกวันนี้ กูคงได้เห็นหนังบู๊เลือดสาดว่ะ”
“เออ กูเห็นด้วย ต้องเตรียมอะไรเผื่อไว้หรือเปล่าวะ ยาธาตุน้ำขาว? ว่านชักมดลูก?”
“ไอ้แฟง กูว่ามึงทำงานหนักเกินไปแล้วว่ะ” ไอ้โก้รีบยื่นหน้าเข้ามาในวง “ไอ้ตี๋อาจจะโดนอ่วมเลยก็ได้ ทั้งเตะทั้งต่อย ไอ้หมอกแม่งโมโหร้ายจะตาย” ทำท่าประกอบกันซะสมจริง ไอ้สองคนที่เหลือพยักหน้าหงึกๆ
ไม่รู้อะไรซะแล้ว เด็กน้อยเอ๋ย
ขอบอลแถลงไข
“ไอ้หมอก แม่งก็ป๋าไอ้ตี๋ดีๆอีกคนต่างหาก”
“มึงพูดไรวะไอ้บอล กูนึกภาพไม่ออก”
“เดี๋ยวมึงคอยดูเองแล้วกัน ไอ้หมอกออกมาแล้ว สลายม็อบๆ เปลี่ยน”
เห็นสายตาหมอกแล้วถึงกลับขนลุกไปตามๆกัน กลัวมันได้ยิน เรื่องนี้แซวไม่ได้แตะไม่ได้ ไม่งั้นจะโดนเตะเป็นของกำนัล
นั่งหลังตรงแด่วตอนที่หมอกเดินผ่าน พวกผมมันสัตว์เลื้อยคลาน ไปนั่งตรงๆบนโต๊ะบนเก้าอี้อย่างคุณชายแบบนั้นไม่เป็น ต้องปล่อยให้กลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นห้อง อย่างดีก็แค่นั่งกับพื้นแล้วเอาแลปทอปวางบนโต๊ะเตี้ยๆนี่
“ไอ้บอล วันนี้หมอกลงจัดที่กรุงเทพและกูหนาวมาก”
“ไอ้แฟง นี่มึงกระซิบแล้วหรอวะ?”
“ไม่เบาหรอ?” “กูได้ยิน”
“โห…. กูกระซิบทีดังไปถึงไอ้หมอกเลยหรอวะ …….เฮ้ย!”
สะดุ้งกันเป็นแถบ
ไอ้หมอกเงยหน้ามามอง ขมวดคิ้วเหมือนจะถามว่าคุยอะไรกัน รีบส่ายหัวกันยิกๆ
ทำงานกันเงียบๆ มีแอบอู้ตอนช่วงบ่ายกันอีกหน่อย แต่พอหมอกทวงงาน ก็ต้องรีบมาเปิดโรงงานนรกกันต่อ
สองทุ่ม
ทุกคน ณ ที่แห่งนี้เป็นพยาน ร่างอวตารบังเกิดแล้ว
ไอ้หมอกปิดฝาแลปทอปลง เสียงดังจนต้องเขยิบไปติดกับไอ้แฟง ไอ้โก้ ไอ้ต้นหลับไปแล้ว แต่เพราะเมื่อคืนมันเป็นคนเดียวที่ไม่ได้นอน เลยไม่มีใครพูดอะไร
สองทุ่มครึ่ง
หมอกหยุดทำงาน ออกไปยืนกดโทรศัพท์ที่ริมประตู กดโทร แนบหู รอ กดวาง กดโทรใหม่ วนเป็นวัฎจักร
“ถ้ามีเรื่องจริงๆ มึงจะเข้าไปห้ามรึเปล่าวะ?”
“ไอ้ตี๋ก็น้องกูเหมือนกันนะเว้ย กูก็ต้องช่วยมันอยู่แล้ว แต่ต้องดูก่อนว่ะ ว่าไอ้หมอกมันระดับไหน”
“แล้วตกลงนี่แปลว่าช่วยหรือไม่ช่วยวะไอ้โก้ กูงง”
“เฮ้ยๆ ไอ้ตี๋กลับมาแล้ว”
ลูกบิดเขย่าไปมาหลายครั้ง ก่อนประตูจะถูกไอ้หมอกกระชากออก ไอ้ตี๋ที่มือยังจับลูกบิดอยู่เลยถูกกระชากเข้ามาด้วย เซตามแรง เกือบล้มลงกับพื้น แต่หมอกดึงคอเสื้อไว้อยู่
“ไปไหนมา?!”
“ห..หื้อ?”
“กูถามว่าไปไหนมา?”
เสียงเบาลงกว่ารอบแรก แต่ดุกว่า
ไอ้ตี๋เมา เมาแอ๋ เมาแบบยืนไม่ตรง ยืนไม่อยู่ ตาเยิ้ม ยังยิ้มได้เพราะคงไม่สังเกตเห็นออร่าดุๆนั่น
“ไปเล่นน้ำมา”
“ทำไมไม่บอกกู”
ตัวเปียกโชก น้ำหยดติ๋งๆ หน้าขาววอก เห็นรอยลิปสติกชัดที่แก้มหลายรอย เดาว่าตุ๊ด ตุ๊ดจูบมาชัวร์ เพราะสาวๆสมัยนี้ถึงใจกล้า แต่ก็ไม่ขนาดนี้ ไอ้ตี๋มันยิ่งน่าหยิกอยู่ คงจะโดยลวนลามมาเยอะ
“บอกแล้ว โพสอิทไง?”
“…”
“เอ๋? แปะไว้ หื้อ? ที่ไหน?”
มีลิ้นพันกัน พูดไปนึกไป
“ใครมาส่งมึง?”
“ไอ้…เอ่อ? ชื่ออะไร? ตี๋จำไม่ได้อ่ะ?”
อีกหนึ่งเรื่องที่พึ่งรู้ เวลามันเมา ไอ้ตี๋แทนตัวเองด้วยชื่อ
“เฮ้ย แม่ง น่ารักว่ะ เหมือนเด็กเลย”
“ไอ้หมอกยิ่งโมโหอยู่ เดี๋ยวนิวเคลียร์ก็ลงหรอกสัตว์ เบาๆหน่อย”แล้วก็ถูกดึงคอเสื้อไปทั้งแบบนั้น ไอ้ตี๋ยังอารมณ์ดี หันมาเห็นพวกผมก็โบกมือให้ เออ โชคดีเว้ยไอ้น้อง
โดนเหวี่ยงเข้าไปในห้องน้ำ แล้วปิดประตู
“เวรแล้ว ไอ้ตี๋โดนขังในห้องน้ำ ทำโทษแหง แบบนี้ไม่ปอดบวมตายหรอวะ”
“เดี๋ยวมึงคอยดูดิ” ไม่เห็นหรือไงว่าไอ้หมอกไม่ได้เดินมาทางนี้สักหน่อย
มันเดินไปที่ห้องนอน
หายไปสักพัก ก็ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ๆ ชุดนอนของไอ้ตี๋มัน ไอ้กางเกงบอลแบบนี้ หมอกมันไม่ใส่หรอก
มันเปิดประตูห้องน้ำ แล้วปิด เสียงดังตึง สะดุ้งกันใหญ่
“เอาไงวะ”
“ตามไปเสือกดิ มึงจะนั่งเฉยๆหรือไง”
“เบาๆแล้วกัน”ย่องกันไป ไอ้ต้นขอแอบนอน ไอ้โก้เลยเป็นคนเดินนำไป หูแนบห้องน้ำ แหม ขอโทษนะครับ บางทีผู้ชายก็ชอบเรื่องของชาวบ้านเหมือนกันนะครับ
ได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวดังอยู่ตลอด
“ไปเล่นกับใคร”
“ถามยังกับพ่อถามลูกสาว”
“ นี่แค่เริ่มเถอะ”
“เพื่อ--น”
เสียงไอ้ตี๋ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะพูดเบา แถมยังพูดแบบยานคางอีก
“กูบอกแล้ว ว่าอย่ากินเหล้า มึงเมาง่าย”
“เอ้า ก็ตี๋กินเหล้า ตี๋ก็เมาสิ ไม่ได้ดื่มนมสักหน่อย”
“หูยๆ ดูมันเถียง หลักวิชาการฉิบหาย ฮ่าๆๆ”
“ไอ้โก้ เบาๆ”
“เออๆ”“อย่ากวนกู”
“ตี๋ไม่ได้กวนนะ ตี๋พูดความจริง พี่หมอกกินนม พี่เมาหรอ ฮ่าๆๆ”
อันนี้ขำกันเกือบทุกคน ปิดปากแทบไม่ทัน ไม่เคยเจอคนสวนไอ้หมอกขนาดนี้ เลยขำกันใหญ่
“อย่าดิ้น กูเปียก”
“อื้อ”
“เฮ้ยๆ ทำอะไรวะ”
“Sexy time”
ทุกคนหันไปมองหน้าไอ้แฟง แต่ก็ได้ยินเสียงพูดต่อ เลยรีบเอาหูกลับไปแนบ
“ยกแขนขึ้นดิ”
“ไชโย---”
“นี่รอยอะไร?”
“หื้อ? อันนี้หรอ….พี่ๆเขาบอกตี๋ว่า จะแถมอีกขวด แต่ให้เอาแก้มไปแลก”
ฟ้าผ่าดังครืน
“โอ้ย!”
“นั่นไง กูบอกแล้ว ไอ้ตี๋อ่วมแน่ โดนต่อยแหง”
“กูทนไม่ได้แล้วว่ะ”
“เดี๋ยว ไอ้โก้ ใจเย็น”“พี่หมอกอย่าถูแรงสิ ตี๋เจ็บแก้ม”
แป่ว
“อย่าทำแบบนี้อีก”
“ทำ? ทำอะไรหรอ?”
“มึงไม่ได้สำนึกเลยหรือไง?”
“สำนักอะไรหว่า”
ก…ก…
กร๊ากกกกกกกกก
ไอ้ตี๋นี่ท่าจะรุ่งกับคาเฟ่ตลก
เล่นเอาทางนี้อยากตีฉาบตีกลองรับกับเศษหน้าไอ้หมอกซะทันที
“ล้างไม่ออก”
“ลิปสติกกันน้ำ ฮ่าๆๆ”
“กูไม่ขำ”
“แต่ตี๋ขำนิน่า”
“…..”
“พี่หมอกอย่าทำหน้าเครียดสิ”
“ดูมึงทำตัว”
“….”
“ตี๋ขอโทษ”
“แล้วไง? เดี๋ยวมึงก็ทำอีก”
“ตี๋ขอโทษนะ”
เสียงเงียบไปพักใหญ่
“ทำอะไรกันวะ?”
“กูก็ไม่เห็นเหมือนมึงนี่แหละ”
“หรือมันจะออกมาแล้ว?”
“แต่กูยังไม่ได้ยินเสียงไอ้ตี๋มันอาบน้ำเลย”เอาหูแนบประตูกันใหม่
“กูบอกแล้วว่าอย่าดิ้น”
“น้ำเย็น”
เงียบไปพักหนึ่ง คิดว่าไอ้หมอกคงปรับอุณหภูมิน้ำอยู่
“โอเคยัง”
“กูว่าไอ้หมอกมันพูดมากว่ะ”
“ทีกับพวกเรา แม่งยังกับมนุษย์หิน ง่อยการสื่อสาร”
“ถูตัวดิ”
“ตี๋ไม่อยากอาบน้ำอ่ะ”
“อะไรของมึงอีก”
“ตี๋ขี้เกียจอ่ะ โปะแป้งนอนเลยได้ไหม?”
“ซกมกได้ใจเลยวะ ไอ้ตี๋เนี่ย”
“ไอ้โก้ กูได้กลิ่นบ็อกเซอร์มึงเน่าว่ะ อาทิตย์ละครั้งใช่ไหม ของมึง”
“สาดด อย่าเปิดเผยความจริง ฮ่าๆๆ”
“เฮ้ยๆ เงียบๆ ช็อตเด็ดๆ”
“พี่หมอกถูเบาๆดิ ตี๋เจ็บ”
“ก็มึงเล่นเยอะเอง ล้างออกไม่ง่ายหรอกนะ”
เสียงน้ำดังซ่าๆ ปนไปกับจินตนาการ
พวกที่สอดรู้สอดเห็นอยู่ตรงนี้ ได้แต่เงียบ
สันดานผู้ชาย รู้ๆกันอยู่ แค่จะเดาเรื่องที่จะเกิดต่อจากนี้
มองหน้ากันเอง กำลังลังเลว่าจะเอาหูออกดีไหม
“ตู้มมม”
“ไอ้ตี๋!”
“สงกรานต์ก็ต้องเล่นน้ำดิพี่ ฮ่าๆๆ ตัวแห้งแบบนี้ได้ยังไง”
“กูยังต้องทำงานอีก”
เสียงมันเบาลง
บอกแล้ว คุณพ่อ คุณพ่อชัดๆ
เหมือนลูกชวนเล่น โดนจูงมือออกมาลานหน้าบานขนาดนี้ จะทำหน้าเศร้าบอก “เดี๋ยวพ่อต้องทำงาน” เด็กที่ไหนจะฟัง
“เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนเสื้อก็ได้นี่น่า ตู้ม วะฮ่าๆๆๆ”
“แม่ง หัวเราะน่าเกลียดจริงๆ ไอ้ตี๋เนี่ย”
“หัวเราะแบบมึงไง”
“ไอ้เวร”
“ปีหน้าพี่ก็ออกไปเล่นกับตี๋ดิ”
“คนเยอะ กูไม่ชอบ”
“สนุกดีออก”
เสียงหงุงหงิงเหมือนพูดในคอ จนต้องเถียงกับไอ้แฟงว่าตกลงตี๋มันพูดอะไร
“ไม่”
“ปีหน้าไปเล่นด้วยกันนะ”
“ฟังไม่รู้เรื่องหรอไง กูบอกว่าไม่”
“โอเค พี่สัญญานะ”
ไอ้ตี๋อยู่กับหมอกนาน เริ่มมีปัญหาในการสื่อสารพอๆกัน
โรคติดต่อ โรคติดต่อชัวร์ๆ
เงียบไปสักพักใหญ่ จนไอ้โก้หัวเราะออกมา
“กูไม่อยากเชื่อเลย ว่าไอ้หมอกจะมายอมเด็กเพี้ยนๆแบบไอ้ตี๋มัน”
“นี่มันแค่เสี้ยวหนึ่งเองที่มึงเห็น”
“มึงไปรู้มาจากไหนเยอะแยะวะไอ้บอล”
“กูมีตาก็มองสิวะ”“อูย”ได้ยินเสียงกระแอมในคอ ก่อนจะตามมาด้วย
“เออๆ”
คนที่ปากหนักที่สุดในโลก พูดออกมาเหมือนรำคาญ
ได้ยินเสียงผ้าเปียกๆกระทบลงกับพื้น กางเกงไอ้ตี๋หรือเสื้อไอ้หมอก? แนบหูติดประตูจนแทบจะหลอมเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ก็ยังได้ยินไม่ชัดพอ
เสียงน้ำค่อยๆเงียบลง แล้วหายไป
“พี่หมอก…”
“เอาแล้ว เรียกแบบนี้”
“เอาไงดีวะ ฟังต่อดีไหม?”
“เดี๋ยวๆ อีกนิด”
“แสบตา แชมพูเข้าตาอ่ะ”
“เชี่ย กูคิดไปถึงโลกนู้นแล้วเนี่ย”
“หัวไหนของมึงคิดวะเนี่ย?”
ไอ้โก้ไม่ตอบ ยักคิ้ว ยิ้มเจ้าเล่ห์ หยึย หยะแหยง
เอาจริงๆ ก็เผลอคิดไปเหมือนกัน แต่เรื่องนี้จะไม่บอกใครเด็ดขาด
สักพัก เสียงน้ำก็ดังขึ้น ไม่มีเสียงพูดอะไรดังตามออกมาอีก
“ฟังดีดิๆไอ้โก้ มึงอยู่หน้าสุด”
“กูได้ยินแต่เสียงน้ำ”เสียงน้ำเงียบลงอีกครั้ง
เหมือนมีคนนั่งลงกับอะไรสักอย่าง
“แปรงฟันดิ”
“อ้า”
ตี๋ทำอะไรวะ?
“….”
“อ้า”
มันพูดซ้ำ
พวกผมขมวดคิ้ว
“แม่งทำไรวะ?”
“อย่าบอกนะเว้ย ว่า…?”“อ้าปากกว้างๆดิ”
“พรืดดดดดดด”
“นี่มันเนิรส์เซอรรี่นิหว่า ฮ่าๆๆๆๆ”
“ดังเกินไปแล้วเว้ย!!”
“มึงดังสุดเลยไอ้โก้”
“อ้าว พูดงี้อยากมีเรื่องหรอวะ”
“ชู่ว เดี๋ยวก็ตายใต้ตีนไอ้หมอกเหมือนกันหมดหรอก”“บ้วนปาก”
“อือ”
เสียงน้ำตรงอ่างล้างหน้า
“ทาแป้งด้วย”
“ทาเอง”
“ไหนๆทำให้แล้ว ก็ทำให้ตี๋หมดเลยดิ”
ได้ยินเสียงเหมือนคนตบหน้ากันในห้องน้ำ เงียบกันไปหมด
“หมอกโมโหตบหน้าไอ้ตี๋หรอวะ?”
“มันจะโหดร้ายเกินไปแล้วนะเว้ย”
“ชู่ววว”อีกครั้ง
เสียง ”ฮัดชิ้----ว!” ดังคั่นไอ้โก้ที่ดึงแขนเสื้อขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
“เมื่อกี้เสียงโปะแป้งหรอวะ น่ากลัวศาสตร์”
“กูเคยสงสัยว่าหัวอย่างมันทำไมไม่เรียนหมอ ตอนนี้กูเข้าใจแล้ววะ แทนที่จะไปช่วย กลายเป็นตั๋วด่วนถึงนรก”
ฟังมาตั้งนานพึ่งถูกใจมึงพูดครั้งนี้แหละไอ้โก้
ได้ยินเสียงผ้า เลยรีบอพยพ กลับไปนั่งหน้าแลปทอป ทำหน้าเครียดใส่จออย่างไร้เหตุผล เงยขึ้นมาสบตากันเป็นระยะ จนประตูห้องน้ำเปิดออก
ไอ้หมอกพันผ้าขนหนูรอบเอวไว้ เปียกทั้งตัวอย่างที่คิดไว้เป๊ะ ไอ้ตี๋อยู่บนหลังไอ้หมอก ไม่ต้องให้ใช้มือดันตัวไว้ ไอ้ตี๋ก็เกาะแน่นยิ่งกว่าลูกลิงขี่หลังแม่ หลับตาพิงอยู่แถวคอหมอก
“อาบน้ำหรอวะ?”
“เออ”
มันตอบแค่นั้น แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ตี๋แก้มแดงจัด คงจะโดนถูแบบผสมความแค้นลึกๆ
ไม่ได้ก่อม็อบแม่บ้านหน้าประตูห้องนอนไอ้หมอกอีก ดูก็รู้ว่ามันได้ยินเสียงคุยหน้าประตูตลอด แต่แค่ไม่สนใจ เรื่องที่เสือกได้ก็เสือก แต่ถ้าส่วนตัวมากเกินไป ก็ปล่อยให้มันอยู่ของมันแบบนี้น่าจะดีที่สุด
“ถ้ากูมีลูก ฝากไอ้หมอกเลี้ยงได้ไหมวะ”
“มึงอยากให้ลูกมึงนิสัยแบบไอ้หมอกหรือไงวะ?”
“โอยยย ไม่เอาไม่เอาเด็ดๆ”
“แต่กูว่าบางที บ้าๆแบบมัน เจอเพี้ยนๆแบบไอ้ตี๋ ก็คงจะเป็นหยินหยางกันแบบแปลกๆล่ะวะ”
เงียบกันไปพักใหญ่
ก่อนจะหลุดพูด “อืม” พร้อมกันอย่างไม่ตั้งใจ
หัวเราะเสียงดัง ไม่สนสิ่งที่เกิดในห้องนอน
เพื่อน
เป็นคนที่จะมีความสุข เมื่อเพื่อนมีความสุข โดยไม่สนว่าความสุขนั้นจะมาในรูปแบบไหน
ยินดีด้วยวะ ที่หาความสุขของตัวเองเจอ
"หิวข้า----ว"
เห็นที วันนี้หน้าที่พี่เลี้ยงมึงไม่จบง่ายๆหรอกวะ ไอ้หมอก…………………………………………
……………………………….
[Diary : complete]
[13.4.55]
สุขสันต์วันสงกรานต์ ดั่งใจปรารถนาทุกประการนะคับ!!
สำหรับเพื่อนๆ เลือกคณะไหนก็ขอให้ได้คณะนั้นเถิดดด

เอามาส่งตาม Request !