เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]  (อ่าน 3283468 ครั้ง)

HayaRyuKin

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพี่หมอกอ่ะ  :sad4: :sad4: :sad4:

รอตอนต่อไปอย่างแรง

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
ตอนนี้รักพี่หมอกจังครับ

ออฟไลน์ thepopper

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

ออฟไลน์ มือซ้าย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ทั้งอ่านทั้งร้องไห้ ไอ้คนนั่งดูทีวีอยู่ข้างๆมึงจะตลกอะไรนักหนา พวกไม่มีความรู้สึก ฮือๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Secrets

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หน่วงสุดๆไปเลย
สงสารพี่หมอกอ่ะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ้ยยยพี่หมอกกกกกกกกกกกกกก ฮืออออ สงสารทั้งคู่ไม่รู้ดิ
แต่เราสงสารพี่หมอกมากกว่า
ถ้าเทียบกันแล้วนะ พี่หมอกเจ็บกว่าเยอะที่ต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ ต้องไปอยู่ในที่ไกลๆ ไม่มีเพื่อนไม่มีคนรู้จัก

ooo_aer

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ สงสารหมอก  แต่ก็เข้าใจตี๋นะ ใครจะอยากไปอยู่นิ่งๆงอมืองอเท้ากันล่ะ เป็นเราเราก็ไม่เอา
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าหมอกจะไปไกลทำไม? งานหรอ? ทั้งเครียดทั้งเหงาโอ้โห สงสารอ่ะ :sad4:
เราก็คิดหาทางออกให้สองคนนี้ไม่ได้จริงๆอ่ะ :serius2:

รีบมาต่อนะคะรออยู่น้า :กอด1:


ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ทั้งๆที่สมควรดราม่าแต่ทำไมกูเขิน

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
บางทีก็คิดว่าพี่หมอกก็มีความเป็นเด็กอยู่เยอะเหมือนกันนั่นแหละ
ตี๋ก็ดื้อ แต่เข้าใจได้ ให้อยู่เฉยๆ มันคือการไร้ค่าเลยละ
เค้าบอกว่า คนที่ไม่ทำงานคือคนที่ไม่มีค่า ไม่รู้จะเคยได้ยินคำนี้รึเปล่า><


แต่พอพี่หมอกบอกว่า “มึงคงไม่รู้ ว่าโลกของกู..มีแต่มึงเท่านั้น”
บางทีก็อดใจอ่อนไม่ได้ งืดดด ...เรื่องนี้แล้วแต่ตี๋จัดการแล้วกันนะ

ออฟไลน์ Baruda

  • มีความสุข
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เกลียดตี๋ว่ะ แม่งโคตรปัญญาอ่อน

ทั้งๆที่ตัวเองก็บอกว่าโตแล้ว หึ แต่กลับไม่เคยฟังเหตุผล คิดแบบเด็กๆ อิตี๋ มึงมันอ่อนต่อโลก

ตี๋แม่ง ไม่สมควรได้ความรัก เพราะไม่เคยเข้าใจใครเลย แล้วใครมันจะเข้าใจแกวะ
โลกนี้ถึงไม่ได้มีแค่แก แต่ควรสำเนียกว่า ยังมีคนที่แกต้องแคร์กว่าใครๆ
สิ่งแวดล้อมมันคือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ทั้งชีวิตแกจะอยู่กะใคร ถ้าไม่ใช่ตัวเอง ก็จงไขว่คว้าเสพสุขให้เต็มอิ่มเถิด
คนทุกคนเกิดมาล้วนอยากมีความสุขกันทั้งนั้น แต่ความสุขจะมาในรูปแบบไหนก็ไม่มีใครรู้
เพราะโชคชะตาให้คนเรามาคนละชีวิต ให้มีความคิดต่างกัน  คนเราจึงต้องการความสุขหลายรูปแบบ ที่มันแตกต่างกัน
 คงจะเป็นผลกระทบจากคำว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคมสินะ
สปอยมานาน 
อย่าปล่อยให้เค้ารอ เพราะโลกของเค้า มันสุดแสนว่างเปล่า เวิ้งว้าง เหมือนสายหมอก ที่บดบัง เก็บซ่อน บางสิ่งให้รับรู้เพียงเลียนลาง

เฮ่ออ  อยากพูดกะไอ้ตี๋แบบนี้จัง :เฮ้อ:

รอตอนหน้าจ่ะ
 :L2: :L2: :L2:


แอบกระซิบ
(คนแต่ง.คนอ่านอยากบอกว่า โดนใจคำพูดของหมอกว่ะ ไม่อยากรอแล้ว  เพราะการรอคอยมันช่างยาวนาน)

 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

topperha

  • บุคคลทั่วไป
  ชอบประโยคสุดท้ายของหมอกที่ว่า
มึงคงไม่รู้ ว่าโลกของกู..มีแต่มึงเท่านั้น

อยากให้ทั้งหมอกและตี๋แก้ปัญหาโดย
         พบกันคนละครึ่งทางนะ
                  :n1:

ออฟไลน์ zeeds

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คนนึงที่มีผู้คนอยู่รอบกายตลอดเวลา
กับอีกคนที่ไม่มีใครอยู่ข้างกายเลย
จะเติมเต็มกันแต่ต่างคนก็ยังรู้สึกขาดอะไรไปบ้างรึเปล่านั้น
หมอกทำเพื่อตี๋ ในขณะที่ตี๋ทำเพื่อทุกคนโอ้วววว :n1:

ออฟไลน์ white choc~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
ก็เข้าใจว่าโลกของพี่หมอก..มีแต่ตี๋เท่านั้น
แต่มันจะดีถ้าพี่จะอธิบายสิ่งต่าง ๆ ที่พี่ทำอยู่ตอนนี้ให้ตี๋เข้าใจบ้าง
มันอาจจะยากที่จะพูด แต่ความเงียบมันก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร
พูดออกมาให้ตี๋ได้รับรู้ ปัญหาอาจจะแก้ไม่ได้ แต่ความเข้าใจมันจะเกิดขึ้น



ปล.ขอโทษนะที่ไม่ได้เข้ามาเม้นให้ซะนานเลย  :m5: ไม่รู้ว่ายังอยากจะอ่านเม้นของเค้าอยู่มั๋ย?? :m17:

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ตามอ่านทันแล้วในที่สุด
งืม  มันยังไม่จบจริงๆด้วย
ตอนนี้มึนแทนทั้งพี่หมอกและน้องตี๋  ชีวิตจะเป็นยังไงต่อไปหละคร๊านั้น
+1 ให้คนแต่งไปก่อนเลยคร๊า

ออฟไลน์ mikimj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตี๋!!!

ถ้าแกยังไม่ยอมอีก ชั้นจะไปแย่งพี่หมอกมาจากแกแล้วนะ  :m31:

13elive_in_U

  • บุคคลทั่วไป
มาเม้นก่อนอ่านจ้าาาาาาาา
ไม่ได้มาส่องนาน เพราะงานเยอะเว่อๆ
ช่วงนี้อากาศหนาวๆร้อนๆ คนเขียนดูแลสุขภาพด้วยนะฮ้าาาา :กอด1:

ออฟไลน์ tiktok

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตี๋เอ๊ยยอมๆพี่หมอกเขาเถอะ
พี่หมอกรักขนาดนี้ตี๋ยังต้องการอะไรอีก

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
B.N.22



“ปล่อย”

ได้ยินแค่เสียง ก่อนหน้านี้เป็นเสียงรองเท้าที่เดินไปมาหลายคู่ แสดงว่าคงจะเดินผ่านมุมที่คนเยอะ คิดว่าน่าจะเป็นล็อบบี้ของรีสอรท์ เสียงสายไฟดังคล้ายจักจั่น เสียงล่าสุดที่ได้ยินก่อนเสียงพี่หมอก เป็นเสียงเปิดประตูรถ

พี่หมอกย่อตัวลง ดันตัวเข้ามาในรถ ผมพิงเข้ากับเบาะ เบาะหลัง แต่เพราะยังไม่ปล่อยชายเสื้อสูทที่ใช้ปิดหน้าอยู่ ทำให้พี่หมอกปล่อยแขนออกจากผมไม่ได้

“หรือจะอยู่แบบนี้ทั้งคืน?”

ส่ายหน้า แต่มือก็ยังจับแน่น

บางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กลงเสียจนไม่มีค่าอะไร ถ้าปล่อยให้เสื้อสูทตัวนี้หลุดออกไป พี่หมอกก็คงจะเห็นใบหน้าผม ที่ซ่อนความรู้สึกมากมายเหล่านั้นไว้ไม่อยู่แน่

ผมไม่อยากให้เห็น ไม่อยากเพิ่มเรื่องลำบากใจให้มากกว่านี้ เท่านี้ ผมก็รับรู้ถึงความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยบนบ่านั่นแล้ว เราสองคนเหมือนนักวิ่ง ที่วิ่งออกมาไกลเสียจนจำจุดสตาร์ทไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ก็ยังมองไม่เห็นเส้นชัย

พี่หมอกถอดเสื้อออก ทิ้งเสื้อสูทที่กลับหัวไว้กับผม ถอยห่างออกไป ทั้งหมดผมเดาเอาจากเสียง ปิดประตู เดินอ้อมฝั่งมา ประตูรถเปิด และปิดอีกครั้ง

ไม่ได้สตาร์ทลดออกไป ทั้งหมดมีแต่เพียงความเงียบ

ผมเงี่ยหูฟัง

นานเกือบห้านาทีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่ตัวจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ดังพอที่จะกลบเสียงๆหนึ่งได้ ถ้าผมไม่ได้อยู่ใกล้เพียงเบาะคั่น


นึกถึงใบหน้าเย็นชาแบบนั้น ถอนหายใจ คล้ายคนหมดแรง แตกต่างจากตัวตนของพี่หมอก
ทำอะไรไม่ได้นอกจากหลับตาลง



………………………
………………..




เสียงโลหะกระทบกันไปมา ฟังคล้ายเสียงกุญแจ ดังสักพักก็เงียบลง

รู้สึกถึงลมเบาๆ

ความรู้สึกอึดอัดหายไป แปลกใจ จึงลืมตาขึ้น

พี่หมอกดึงเสื้อสูทนั่นออกไป

ไม่ได้แปลกใจที่เห็นผมตื่นขึ้นในตอนนี้ พี่หมอกไม่ได้พูดอะไรนอกจากทำสีหน้านิ่งเฉย ดูเหมือนหน้ากากที่สวมขึ้น ผมไม่รู้ว่าพี่หมอกจะถอดมันออกเมื่อไหร่

เดินลงจากรถ ผมขยับตัวเดินออกไปตาม

ท้องฟ้ายังมืด ไม่รู้เวลาผ่านไปแค่ไหน รู้เพียงว่าอีกนาน กว่าที่ฟ้าจะสว่าง

ได้กลิ่นเกลือของทะเลจางๆ เสียงคลื่นชัด

รถจอดอยู่หน้าสวน ต้นไม้เยอะเสียจนที่พื้นมืดสนิท ทางเดินที่เป็นอิฐปู มองดูก็รู้ว่าสวนนี้มีคนดูแลอย่างดี

บ้านไม้อยู่ที่ปลายสุดของสวน ต้องขึ้นบันไดไปสี่ห้าก้าว จึงถึงระเบียงบ้าน สวนโอบรอบตัวบ้าน ทะเลอยู่ห่างไปไม่ไกลอย่างที่คิดไว้ เป็นบ้าน ที่มีกลิ่นอายบางอย่างอยู่ ไม่รู้ทำไม นึกถึงม๊าขึ้นมา

เดินตามเงียบๆ พี่หมอกเดินนำอยู่แค่สี่ห้าก้าว บรรยากาศรอบตัวบอกว่าอย่าเข้าใกล้

เปิดกุญแจเข้าไป ห้องโถงกว้าง เพดานสูงขึ้นไป เป็นบริเวณเดียวที่กินเนื้อที่สองชั้น เหมือนไม่มีคนพักอยู่ที่นี่นานแล้ว มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ ไม่เห็นโทรทัศน์ พี่หมอกเดินขึ้นไปบนชั้นสอง พอเห็นผมไม่เดินตาม ก็หยุดยืนอยู่ตรงบันได

“….ที่นี่ที่ไหน?”

“….”

เห็นผมถามแบบนั้น ก็เดินต่อ จนมองไม่เห็น

ล้วงมือลงกระเป๋ากางเกง ไม่มีโทรศัพท์ กระเป๋าเงินก็ไม่อยู่ กระเป๋าอีกใบทิ้งไว้ที่รีสอร์ท สิ่งเดียวที่บอกตำแหน่งได้ตอนนี้คือทะเลเท่านั้น

ถ้าเป็นแบบนี้ ผมก็ไปไหนไม่ได้ พี่หมอกถึงไม่กลัวว่าผมจะหนีไปเมื่อพ้นสายตา

เดินตามขึ้นไป ชั้นสอง ตลอดทางเดินมีประตูอยู่หลายบาน มีเพียงบานเดียวที่แง้มเปิดอยู่ แสงจากพระจันทร์ คล้ายสปอร์ตไลท์ดวงโต ลอดผ่านประตูบานนั้นออกมา ไม่เห็นพี่หมอก

เดินเข้าไป เห็นเงาคนผ่านผ้าม่านที่พัดตามลมอยู่ด้านนอกระเบียง กลิ่นบุหรี่ พัดเข้ามา

เตียงคู่อยู่ตรงนั้น ผมนั่งลงกับเตียง ในมุมที่เห็นพี่หมอกยืนอยู่ สูบบุหรี่ มองออกไปที่ทะเล เป็นทะเลที่กว้างจนหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ ถ้าไปตรงสุดขอบเส้นตรง จุดบรรจบของท้องฟ้ากับผืนน้ำ ไม่รู้ว่าจะเจอสิ่งแปลกมหัศจรรย์ หรือทำให้สิ่งที่อธิษฐานอยู่เป็นจริงได้หรือเปล่า

เวลาที่เงียบ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกา อีกไม่นาน จะตีสอง แต่เราดูเหมือนยังไม่พร้อมที่จะข่มตาลงนอนได้

จมอยู่กับความคิดตัวเอง

เพราะได้นึก ถึงได้รู้สึกถึงความผิดพลาดอะไรหลายอย่าง และในขณะเดียวกัน ก็มีหลายเรื่องที่คิดว่าดีแล้ว ที่ทำมันลงไป สิ่งที่ผมทำไม่ใช่สิ่งที่พึ่งคิด แต่เป็นเรื่องที่คิดมาโดยตลอด ตั้งแต่พี่หมอกกลับมา หลายครั้งละเลยมันไป แต่เมื่อเวลาผ่าน สิ่งนั้น ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาที่พวกเราไม่ได้สนใจ กว่าจะรู้ตัว ก็ใหญ่เกินกว่าที่เราจะตั้งรับได้ทัน

พื้นที่ที่เคยเป็นของเรา ตอนนี้ มันต่างออกไป พื้นที่พี่หมอกยืนอยู่ สูงเสียจนผมแหงนคอมองไม่เห็นอีกแล้ว

“ตี๋”

ผมสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมอง พี่หมอกอยู่ตรงหน้า กลิ่นยังอยู่รอบตัว แม้จะไม่เห็นบุหรี่แล้วก็ตาม

เห็นหน้าพี่หมอกเพียงครึ่งเดียว แต่ก็มากพอที่จะรับรู้ความรู้สึกทั้งหมดของคนที่ปิดปากเงียบกริบมาโดยตลอด

 “มึงคิดอะไรอยู่กันแน่?”

“…..”

“ถ้ามึงไม่บอก กูก็ไม่มีวันรู้ กูไม่ใช่คนละเอียดอ่อนพอ ที่จะแค่มองก็รู้ว่ามึงคิดอะไร”

“ผมรู้ว่าพี่ไม่ใช่คนแบบนั้น…”

“แล้วจะเงียบไว้ทำไม?”

“ผมไม่รู้จะบอกออกมายังไง”

“…..”

“ปัญหาทั้งหมด..มันเกิดจากผม”

ผ้าม่านสีครีมปลิวเบาๆ ยื่นปลายผ้าเข้ามาสู่ความมืดของห้อง ดูคล้ายกับแมงกะพรุนในทะเลลึก

“ตอนที่เราเรียนอยู่ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ไม่สิ ผมคิด แต่ตอนนั้นเราเป็นนักศึกษา ต่อให้เรื่องจะเยอะขนาดไหน ก็ยังอยู่ในรั้วมหาลัย ยังมีคนปกป้องเรา ยังมีเพื่อนๆ ใช้ชีวิตให้สนุกที่สุดในแต่ละวัน ไม่ต้องกังวลอะไร”

“…..”

“แต่ตอนนี้มันต่างออกไป เราอยู่ในโลกของผู้ใหญ่ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลย ตัวผม ต่อให้จะอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ก็เป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีอะไรสะดุดตา คนภายนอกมอง แล้วก็ผ่านไป ต่อให้ผมทำอะไรพลาด เป็นตัวประหลาดแค่ไหน แค่ข้ามวันนั้น ทุกคนก็จะลืมมันไป ไม่มีใครคิดจะสนใจผม”

ได้ยินเสียงเพี้ยนแปร่งออกจากคอตัวเอง กลืนน้ำลาย กดเสียงลง ไม่ให้สั่น

“สุดท้าย เรื่องที่ผมกลัวยังไงก็เกิด พี่ต่างจากผม ไม่ว่าไปไหนก็ถูกสายตาจับจ้อง ฐานะพี่ บทบาทของพี่ทำให้ถูกคนรอบข้างตัดสินอยู่ตลอด ผมทำให้พี่ต้องลำบาก เป็นเรื่องนินทาในสังคม ผมไม่รู้หรอก ว่าคนรอบข้างพี่มองแบบไหน เพราะคนแบบนั้น เขาอยู่สูงกว่าผมมาก มากเสียจนพวกเขาไม่ชายตามองผมด้วยซ้ำ”

หนึ่งหยด ร่วงลงไปที่ฝ่ามือ

บ้าชะมัด

เสียงอย่าสั่นสิ

ทำไมต้องมาทำตัวแบบนี้ ให้พี่หมอกที่กำลังหนักใจอยู่เห็นด้วย

ผมไม่อยากทำให้พี่หมอกเห็นว่าผมอ่อนแอ

เรื่องที่ผมพูดอยู่ตอนนี้ เหมือนไหลออกมาจากหัวใจผม สมองคิดไม่ทัน ไม่รู้ว่าคำไหนจะบอกให้เห็นหรือเปล่าว่าผมกำลังอ่อนแอเสียขนาดนี้ แต่ร่างกายที่ผมยังบังคับได้ ก็อยากจะพยายามมากที่สุดที่จะแสดงออกว่าเข้มแข็งให้เห็น

 “…ซักวัน ต่อให้ตอนนี้มันยังไม่เกิด แต่อนาคต ไม่ว่ายังไงผมก็คงจะเป็นตัวปัญหาในงานของพี่มากขึ้น ต่อให้ผมจะพยายามแค่ไหน ผมก็รู้ดี ว่าผมไม่มีวันจะยกฐานะขึ้นไปเท่าพี่ได้ จะทำงานหนักแค่ไหน หรือว่าจะรอนานเท่าไหร่ สิบปี ยี่สิบปี หรือทั้งชีวิต ผมคงไม่มีปัญญาซื้อบ้านหลังใหญ่ แม้จะแค่ครึ่งเดียวของบ้านพี่ ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเดียวกัน หรืออยู่ในตำแหน่งที่คนภายนอกมองแล้ว ไม่คิดว่าผมไม่เป็นปลิง หรือจะเป็นคำอะไรที่แย่กว่านั่นที่เขาจะใช้เรียกผม เกาะติดพี่เพื่อเงิน เพื่อความสบายของผม”

“ผมคิด คิดอยู่ตลอด จนผมสลัดมันออกจากหัวไม่ได้ ว่าจะต้องทำยังไงให้คนพวกนั้น คนที่พี่จำเป็นต้องติดต่อ ทำงานด้วยในสังคม มองพี่ในแง่บวก มองว่าผมเป็นคนเลว หลอกใช้พี่ โทษสิ่งแย่ๆทั้งหมดที่เขาจะพูดกับพี่มาที่ผม  แต่เพราะว่าผมไม่ใช่คนดัง ไม่มีใครรู้จัก เขาเลยย้ายคำเหล่านั้นไปที่พี่แทน ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดพี่”

“แล้วผมก็คิดได้ว่า ผมทำผิดอะไรกัน?”

“เพราะผมรักพี่อย่างงั้นน่ะหรอ?”

“การที่ผู้ชายคนนึง จะรักผู้ชายอีกคน ต่อให้ฐานะต่างกันเสียจนเทียบไม่ติดแบบนี้ มันเป็นความผิด ถึงขั้นต้องรับโทษจากสังคมเลยหรือ?”

“คงเป็นเพราะผมไม่ได้เป็นผู้หญิง…นั่นสิ ทำไมผมไม่เกิดมาเป็นผู้หญิง? ไม่งั้นคงจะไม่มีปัญหาเกิด อย่างมากที่สุด เขาก็คงพูดกันว่าหนูตกถังข้าวสาร ถ้าเป็นแบบนั้น ผมอาจจะได้อยู่กับพี่ แต่งงาน มีลูกสักคน สร้างครอบครัวทดแทนสิ่งที่พี่ขาดไป เราอยู่ด้วยกันที่ไหน ก็จะไม่เป็นข่าว ไม่ถูกตามถ่ายรูปลงนิตยสารไร้สาระนั่น”

หนึ่งหยด

สองหยด

ก่อนจะทยอยทิ้งตัวกันออกจากต่อมน้ำตาเสียจนปาดยังไงแก้มก็ไม่แห้ง

ปากยังไม่ยอมหยุด ถ้อยคำในหัวใจพองตัวขยายออก แย่งกันออกมาเสียจนผมไม่แน่ใจว่าพี่หมอกจะฟังรู้เรื่อง

“ผม…ผมขอโทษที่เกิดมาเป็นผู้ชาย เกิดมาในฐานะที่แม้แต่ค่าเทอมยังต้องลำบาก”

มีอีกหลายเรื่องที่คนอย่างพี่หมอกไม่มีวันจินตนาการได้

คนที่เห็นบ้านผมครั้งแรก ไม่คิดว่าเป็นบ้านคนด้วยซ้ำ

จำได้ เด็กสองคนที่ได้แต่จ้องมองขนม อยากกิน อยากมีของเล่นอย่างที่เพื่อนมี ก็ต้องอดทน เดินไปกลับโรงเรียน ใช้เสื้อผ้าสลับกัน รองเท้าขาด ต้องเย็บ ลำบากแค่ไหน ก็ต้องคอยยิ้มอยู่เสมอ ไม่ให้ม๊าเสียใจ เรื่องที่ทำให้พวกเรามีอย่างที่เด็กคนอื่นมีไม่ได้ เพราะว่าม๊าไม่ได้ทำอะไรบกพร่องไป เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบและดีที่สุดเท่าที่ตัวผู้หญิงคนเดียวจะทำได้

พวกผมลำบาก ลำบากกันมามาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเด็กสองคนที่ลำบากที่สุดบนโลกใบนี้ เรื่องนอกเหนือจากนั้น พี่หมอกคงไม่สนใจ และไม่มีวันเข้าใจ

“ขอโทษที่ทำให้พี่ต้องมาเจอกับผม ขอโทษผู้หญิงดีๆที่รอพี่อยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอพี่สักที ขอโทษที่ผมอ่อนแอ ขอโทษที่ผมพูดทำร้ายจิตใจพี่ โลกของผม มีแค่พี่ไม่ได้ ผมขอโทษ เพราะผมยังต้องดูแลหม่าม๊าผม ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลก ผมขอโทษที่ผมยังอยากอยู่กับเฮีย ผมทิ้งครอบครัวผมไม่ได้ และไม่มีวันทำได้ ขอโทษที่ผมเสียสละทุกอย่างเพื่อพี่ไม่ได้ ไม่เหมือนกับที่พี่เสียสละเพื่อผม ผมรู้ ผมรู้ว่าพี่ต้องเจออะไร เหงาแค่ไหน ผมขอโทษที่ผมคิดแต่เรื่องของตัวเอง ผมขอโทษที่ผมคอยแต่ก่อเรื่องเดือดร้อนให้พี่ตลอด ไม่ว่าผมจะทำอะไร มันก็แย่ไปเสียหมด ต่อให้ผมจะพยายามเท่าไหร่ อดทนแค่ไหน ก็ดูเหมือนว่าผมจะทำอะไรไม่ได้เลย ผมคงเป็นแค่เด็กที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่สักที ….”

“…ผมขอโทษที่พี่ต้องมารักผม คนที่แม้แต่จะรักษาความรักของตัวเองก็ยังทำไม่ได้…ขอโทษครับ ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้ แต่ผมจะหยุดเดี๋ยวนี้ พี่จะได้ไม่ต้องลำบากใจกับผม”

แต่ยิ่งทำเท่าไหร่ ก็ยิ่งล้มเหลว

สิ่งที่รออยู่ต่อจากคำพูด คือน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด

พี่หมอกยื่นทิชชู่มาให้

บางทีก็รู้สึกเหมือนไม่ใช่ผมที่โง่เป็นอยู่แค่คนเดียว

“ผม…ไม่ได้อยากได้ทิชชู่”

พูดแค่นั้น ก็ดูเหมือนจะเข้าใจ

อ้อมแขนที่ห่างหายไปนาน อบอุ่นกว่าผ้าห่มผืนไหนบนโลก

“ผมอยากเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สนใจใคร หนีไปกับพี่แค่สองคน แต่ก็ทำไม่ได้ ผมเป็นคนขี้ขลาด ผมอยากจะเผชิญหน้ากับปัญหา แต่ผมกลับหาทางแก้ไม่ได้ …ผมควรทำยังไงดี?”

ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา

มีแค่แรงกอดแน่นเท่านั้น ที่ทำให้รู้ว่าพี่หมอกยังรับฟังอยู่

ไม่ใช่คนที่จะใช้มือลูบเพื่อให้ผ่อนคลาย หรือพูดคำปลอบใจอะไรเป็น

เพราะฉะนั้น อ้อมกอดนี่ถึงเป็นสิ่งมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด

ผมไม่อยากเสียมันไป

ถึงจะรู้ดีกว่าใคร ไม่ว่ากอดแน่นสักเท่าไหร่ แต่เมื่อถึงเวลา ก็ต้องคลายออกจากกัน

อยากซึบซับช่วงเวลานี้ให้ได้มากที่สุด จดจำทุกอย่าง ทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกัน มันไม่ได้ราบรื่น แต่ทั้งหมดนั้น ก็เป็นความทรงจำของเรา

“ตี๋”

ผมไม่ได้เงยหน้า

ประครองสติขึ้นจากความคิดที่พันกันจนยุ่งเหยิง ได้ยินเสียงพี่หมอกกระซิบติดหู ในคืนที่แสงจันทร์ยังดูห่อเหี่ยว เสียงทะเล คลื่นซัดให้เราออกจากปลายทางไกลขึ้นไปอีก

“…กูไม่อยากเลิกกับมึง”

ก้องไปทั้งหู

หลับตาลง ทวนคำนี้ซ้ำไปมาในหัว

“ผมก็ไม่..ไม่อยากเลิกกับพี่เหมือนกัน”

“อย่าแม้แต่จะคิด”

“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมแค่กำลังหาทาง…”

“แล้วถ้าหาไม่ได้ มึงจะทำยังไง?”

“…ผมไม่รู้”

ผมไม่รู้จริงๆ

ต่อให้ถามผมอีกกี่สิบรอบ ผมก็ตอบได้เพียงคำนี้เท่านั้น

ในอ้อมกอดนี่ ผมเป็นทั้งคนโลภ คนเห็นแก่ตัว คนขี้ขลาด คนอ่อนแอ

พี่หมอกเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง พูดแค่นี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เข้าใจเหตุผลของผม ตอนนี้พี่หมอกไม่ใช่ตัวคนเดียวเช่นกัน ยังมีบริษัทที่ต้องรับผิดชอบ เป็นตัวแทนองค์กรที่มีพนักงานให้ต้องดูแล ผมยังจำคำที่พี่หมอกพูดกับฝนได้ เป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นว่า พี่หมอกในตอนนั้น รู้ตัวอยู่แล้ว ว่าในอนาคตต้องเจอเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่รู้มาก่อนและได้รับการวางแผนไว้แล้ว

สิ่งเดียวที่ทำให้ทั้งหมดผิดพลาดคงเป็นผม


.......................................
…………………………



แสงสว่างแยงตา

ยื่นมือไปที่เหนือหัว คิดจะปิดม่าน แต่ไม่มีหน้าต่างอยู่ที่หัวเตียง ลืมตาขึ้นมอง

หัวเตียง มีเพียงกรอบรูปตั้งอยู่

มองไปรอบๆ ไม่ใช่ห้องผม ไม่ใช่ห้องที่รู้จัก

ผ้าม่านทิ้งตัวลงกับพื้น คงเป็นเพราะประตูถูกปิดลง จึงไม่มีลมพัดเข้ามา แสงแรงเกินกว่าผ้าม่านจะกันแดดอยู่ ผมหรี่ตา ก็ไม่เชิงว่าหรี่ตา ถ้าพูดว่าตาบวมคงเหมาะกว่า

ลุกขึ้นมา ยังอยู่ในชุดเมื่อวาน เดินเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ในห้องเดียวกัน ล้างหน้า ใช้มือที่เปียกลูบผม ที่ตอนนี้ชี้ไม่เป็นทรง ห่างไกลจากคำว่าดูได้อยู่มาก ตาแดง สูดน้ำมูกไม่หยุด

ออกจากห้องน้ำ กลับมาที่เตียง ติดใจกรอบรูปที่เห็น

หยิบขึ้นมาดู ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังเดียวกันนี้ ยิ้มให้กล้อง เป็นยิ้มที่ดูเขินอาย เธอใส่กระโปรงสีชมพู เสื้อสีขาว สีของภาพซีดลง แต่ยังเห็นเค้าลางอ่อนๆ ต้นไม้ในสวนยังมีไม่เยอะนัก อะไรบางอย่างในตัวเธอทำให้ผมนึกถึงพี่หมอก ผมคิดว่าเธอคงเป็นแม่ของพี่หมอก

สวัสดีครับ

เธอยิ้มตอบ คงเป็นแบบนั้น ถ้ารูปทำหน้าบึ้งใส่ คงจะเป็นผมที่ต้องตกใจ

เดินออกมาจากห้อง ไม่ได้เดินค้นห้องอื่น ไม่ใช่มารยาทที่ดี เดินลงบันได พื้นไม้เย็นจนเท้ารู้สึก ไม่ได้ยินเสียงรถสักคันขับผ่าน มีเพียงเสียงลมพัดต้นไม้ คลื่นที่กลายเป็นสิ่งโดดเด่นของที่นี่ เสียงนก เท่านั้นที่ได้ยิน

นาฬิกาที่แขวนอยู่ บอกให้รู้ว่านี่เลยเวลาข้าวเช้ามามาก ใกล้เคียงกับข้าวกลางวันเต็มที

พี่หมอกไม่อยู่ที่นี่

บนโต๊ะอาหาร มีกับข้าววางอยู่ ปิดฝาไว้ คิดว่าไม่น่าใช่พี่หมอกที่เตรียมกับข้าวนี้ไว้ให้ บนฝา กระดาษแผ่นเล็กเขียน ‘กินซะ’ แปะอยู่

ดึงกระดาษแผ่นนั้นออก กินข้าว ไม่รู้สึกถึงรสชาติใดๆในปาก เคี้ยวละเอียดพอ แต่ก็ไม่อยากกลืนลงไป ท้องหิว แต่ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น ตักข้าวเข้าปากไปครึ่งจาน มองไป เห็นกระดาษโพสอิตอีกแผ่นแปะอยู่โต๊ะ

‘เดี๋ยวกูกลับมา’

อาบน้ำ มีเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้ แปรงสีฟันใหม่ ยาสีฟันเต็มหลอด เป็นสิ่งที่พึ่งถูกเตรียมขึ้น

คิดจะเดินออกไปข้างนอก บิดลูกบิดประตู เปิดไม่ได้ ลองกับประตูชั้นล่างทุกบาน รวมถึงหน้าต่าง ถูกล็อคไว้หมด

ไม่มีอะไรให้ทำ ไม่มีวิทยุ หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้ติดต่อกับโลกภายนอกได้ มีโทรศัพท์บ้าน แต่เมื่อเสียบสายโทรศัพท์เข้าแล้ว กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรดังตอบกลับมา

กลับไปที่ห้องนอน แม้จะเสียมารยาท แต่ก็ค้นของในห้องนั้น ไม่เจอโทรศัพท์มือถือของผม เป็นห้องที่เดาไม่ถูกว่าก่อนหน้านี้ใครเคยอยู่ในห้องนี้

เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

ที่ผมภาวนา ขอให้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น

เสียงประตูปิดลง ทำให้ผมรีบวิ่งไปที่ชั้นล่าง พี่หมอกมองตามผมที่วิ่งลงไป

“พี่หมอก ผมขอมือถือคืนได้ไหม?”

“กูทิ้งไปแล้ว”

“ห้ะ?”

“กูบอกว่ากูทิ้งมือถือไปแล้ว”

“ทำไม?”

“มึงไม่จำเป็นต้องโทรหาใคร”

“ผมอยากโทรหาม๊า”

“จะคุยอะไร กูมีเบอร์”

“ผมอยากคุยเอง”

เงียบไปเหมือนลังเล แล้วตอบ “ไม่”

เดินตามพี่หมอก ที่ก้าวเดินออกจากหน้าประตู

“พี่กำลังทำอะไรอยู่?”

“แล้วมึงคิดว่ากูกำลังทำอะไรอยู่”

“ผมไม่อยากทะเลาะกับพี่ ตอบผมมาดีๆเถอะ”

เงียบกริบ ทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงผม

“พี่จะขังผมไว้ที่นี่?”

“แล้วแต่มึงจะเลือกคำ”

“ผมต้องอยู่แบบนี้ไปนานแค่ไหน?”

“กูตอบไม่ได้” พี่หมอกนั่งลงกับโซฟา หยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง “เหมือนที่มึงบอกกูไม่ได้ ว่ากูต้องรอไปนานแค่ไหน”

ผมขมวดคิ้ว พี่หมอกไม่สนใจ

แท็บเล็ตที่หยิบติดมือมา พี่หมอกอ่านอะไรสักอย่างที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอ ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องดีนัก บรรยากาศแย่ลง

เข้าไปพูดตอนนี้ คงไม่มีประโยชน์

นั่งขั้นที่บันได ห่างออกไป ผมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ พี่หมอกตอนนี้สูบมากที่จะทำให้ตัวมีกลิ่นนี้ติดอยู่ กลิ่นของพี่หมอกเปลี่ยนไปทีละนิด บางอย่างข้นขึ้น ในขณะที่กลิ่นบางอย่างที่ผมคิดถึง จางลง

พี่หมอกเดี๋ยวก็เลื่อนนิ้วไปตามหน้าจอ เดี๋ยวก็คุยโทรศัพท์ เดินไปรอบๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบ่อย ไม่เคยห่างเกินสิบนาที

หลายครั้งที่พี่หมอกคุยอยู่ เงยหน้ามา สบตากับผม จ้องอยู่นาน ก่อนจะหันไปมองทางอื่น

ไม่ได้อยู่ไกลจนไม่ได้ยิน แต่เรื่องที่พูดนั่นเป็นเรื่องงานของพี่หมอกเสียทั้งหมด ผมไม่เข้าใจ

จะมีใครกำลังหาผมอยู่หรือเปล่า?

อย่างน้อยก็ต้องไอ้โจ๋ ไอ้กล้วย ไอ้เคิ่ล ที่สังเกตว่าผมหายไปจากงาน แต่ถ้ารู้ว่าหายไปพร้อมพี่หมอก ก็อาจจะทำให้มันหยุดหาผม

มื้อเย็น

มีแม่บ้านเข้ามาตั้งแต่ช่วงสี่โมง ทำอาหารปริมาณที่พอสำหรับเราสองคน ก่อนที่จะกลับไป บนโต๊ะอาหารเงียบกริบ พี่หมอกนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ได้ยินแต่เสียงช้อนส้อมกระทบจาน

“ผมเบื่อ…”

“อยากทำอะไร”

“ออกไปข้างนอก”

ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ

“ผมอยากออกไปข้างนอกบ้าง วันนี้ผมอยู่แต่ในนี้ทั้งวัน”

“ทำตัวให้ชินซะ”

“ผมไม่เข้าใจ”

“ไม่เข้าใจอะไร?”

“ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้…”

พี่หมอกไม่ตอบ จนกระทั่งมื้อเย็นจบลง

ผมยืนรอคำตอบ แต่พี่หมอกก็เดินขึ้นไปชั้นบนก่อนผม

เดินตามไป พี่หมอกเข้าไปอีกห้องที่ไม่ใช่ห้องนอน เป็นห้องอ่านหนังสือ เอกสารคงถูกขนมาตอนที่ผมหลับอยู่ พี่หมอกย้ายห้องทำงานมาเป็นที่แห่งนี้

ในห้องเหม็นกลิ่นบุหรี่

มีแต่บุหรี่ทุกที่ บนโต๊ะ จานเขี่ยบุหรี่ ทำให้เห็นว่าพี่หมอกไม่ได้สูบน้อยๆเลย

เมื่อคืนหลังจากที่ผมหลับไป คงมาอยู่ที่นี่

“มึงถามว่าทำไมกูทำแบบนี้”

ผมไม่ได้ปิดประตู

ในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแค่หน้าต่างบานใหญ่หลังโต๊ะไม้เท่านั้น เป็นท้องฟ้าสีน้ำเงิน แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์หมดแรง

“กูไม่อยากรออะไรอีก ในเมื่อมึงไม่หากูเอง กูคงต้องทำแบบนี้”

พี่หมอกไม่ได้นั่งลงกับเก้าอี้ ยืนพิงอยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้มองมาที่ผม

“กูรักมึงก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่ากูจะให้โอกาสมึงบ่อย”

“….”

“ที่กูยอมให้มึง ไม่ได้หมายความว่ากูจะยอมทุกอย่าง”

ปลายนิ้วเคาะเบาๆ

เถ้าจากปลายบุหรี่ ร่วงลงจานแก้ว

ผมก้าวเท้าถอย เดินออกจากห้อง มือยังจับค้างที่ลูกบิด แสงยังส่องลอดผ่านช่องว่างนั้น แม้แต่กลิ่นบุหรี่ ยังตามติด ได้ยินอีกคำที่ถูกพูดออกมา



“เพราะถ้ากูปล่อยมึงไปอีกครั้ง มึงคงจะหนีกูไปจริงๆ”


ผมปิดประตูบานนั้นลง



………………………………….
………………………..



[B.N.22 : complete]
[17.11.55]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2012 21:08:41 โดย cn9095 »

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
แปะ  o13
______________________________
มาแรกๆเหมือนจะดีขึ้น คิดว่าตี๋พูดแล้วคงเข้าใจกันมากขึ้น
พออ่านจบ ... โอ้แม่เจ้าาาาาาา   :z3: :z3: :z3:
นี่มันจำเลยรักชัดๆ /ไม่ใช่!!!!
ส่วนตัวเข้าใจตี๋แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี .. ยังเหมือนเดิมเลย
 
“ผม…ผมขอโทษที่เกิดมาเป็นผู้ชาย เกิดมาในฐานะที่แม้แต่ค่าเทอมยังต้องลำบาก"

อ่านตรงนี้แล้วจะร้องไห้
รักกัน แต่คนนึงจะหนี อีกคนก็จับขังแม่งเลย ....
ขอให้หายอีมครึมไวๆ  :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2012 21:16:21 โดย RGB.__ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ thunchanok1

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านไปน้ำตาซึมไป สงสารทั้งตี๋ทั้งพี่หมอก TT TT
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2012 21:29:45 โดย thunchanok1 »

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
บรรยากาศมันช่างอึมครึม :z3:
แต่คนอ่านดีใจที่ได้อ่านต่อแล้ว คิดถึง :กอด1:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
หน่วงหัวใจ สุดๆ โอ้ย น้ำตาซึม ช่วยหาทางออกให้ทีเถอะมืดมนมองไม่เห็นทางแล้ว

ขอบคุณค่ะ  :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ะ
มีพามาขังด้วยแฮะ
พี่หมอกกกกกก แอร๊ยย

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านแล้วตะโกนเหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


ทึ้งหัวตัวเอง หมอกเอ๊ยยยย

ออฟไลน์ Grouy

  • “I Will Protect You”
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
  :m15:พี่หมอก  :monkeysad:ตี๋ ดราม่าง่ะ    :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ august_may

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ในเมื่อจับมาแล้วพี่หมอกอย่าปล่อยให้ตี๋หนีออกไปได้นะคะ หุหุหุ

ดูเหมือนปัญหาของทั้งคุ่มาถึงทางตันที่ตี๋ลังเล จนสุดท้ายพี่หมอกต้องจัดการขั้นเด็ดขาด

ชานมเย็น

  • บุคคลทั่วไป
หน่วง หน่วง หน่วง หน่วง หน่วง หน่วง หน่วง หน่วง :z10: :z10: :z10: :z10: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
อึดอัด อึดอัด อึดอัด อึดอัด อึดอัด อึดอัด อึดอัด อึดอัด

ทรมารอะ จะเป้นแบบนี้อีกนานไหม มองไม่เห็นทางออกเลย กินมาม่าจนท้องจะแตกอยู่แล้ว
เมื่อไหร่จะหายใจออกกันเสียที่ ทั้งคนเขียน คนอ่าน พี่หมอก น้องตี๋
อยากจะกรี๊ดดดดดระบายความอึดอัด

ได้โปรดคนเขียนช่วยหาทางออก ให้พี่หมอกกับตี๋ มีความสุขสักที่กับภาคนี้
มันหน่วงเกินไปแล้วจร้า
ปลดแอ๊กความรู้สึกนี้ ไปจาก คนอ่านหายใจไม่ออก

ปล.จากใจเบื่อตี๋มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไหนบอกว่ารักแล้วจะไม่ยอมให้พี่หมอกไปไหนอีกห่างกัน
สามปีมันก็เกินทนแล้ว ตี๋อย่าเป้นแบบนี้เลยเข้าใจพี่หมอกมากกกก อารมณ์นี้สงสารพี่หมอกมากกก รักของหมอกไม่มีค่าหรอตี๋
มันไม่มีค่าพอ กว่าตี๋รักตัวเองหรอ เบื่อตี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เป้นกำลังใจให้คนเขียนน้า ช่วยพี่หมอกน้องตี๋ที่เถอะคนอ่านกำลังจะตายแล้ว  :m15: :m15: :m15: :m15: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2012 21:40:18 โดย ชานมเย็น »

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
บอกตรงๆ มองไม่เห็นหนทางอันใดที่ ทั้งสองคนจะกลับมาอยู่ด้วยกัน


อ่านตอนนี้ เหมือนความรักของคนทั้งคู่ มันถูกกดลงไป  แล้วความเห็นแก่ตัวของทั้งสองคน กลับถูกดึงขึ้นมา


ไม่มีใครคนใดคนนึง ยอมเพื่ออีกคนแล้ว ความรักที่ยอมที่จะปรับตัวเข้าหากัน เข้าใจ อดทน ที่เคยมี ตอนนี้มันจางหายไป  ไม่ได้บอกว่าไม่รักกันนะ


แต่ ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ก็ไม่เห็นหนทางเดินต่อของทั้งคู่จริง


ภาวนา เลยจริงๆ สำหรับคู่นี้  :m15: :m15: :m15: รับไม่ได้แน่ๆ ถ้าทั้งสองคนจะไม่ได้ คู่กัน

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
รู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนเรื่อลำเล็กๆที่พร้อมจะอัปปางได้ทุกเมื่อ เมื่อถูกคลื่นซัดเข้าหา อีกไม่นานมันจะพังลงหรือเปล่า
รู้สึกเหมือนไร้หนทางเข้าไปทุกที เดินมาไกลจนไม่เห็นจุดเริ่มต้น แต่ถ้าจะให้ฝืนเดินต่อไปก็ยังคงมองไม่เห็นแม้แต่ปลายทาง
ข้างทางไม่มีแม้แต่แสงสว่าง

มันผิดมากนักหรอ มันก็เป็นเหมือนความรักของคนอื่นๆ แต่แค่พี่หมอกกับตี๋เป็นผู้ชาย มันผิดมากใช่ไหม  :z3:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด